ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ  (อ่าน 406644 ครั้ง)

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ลุ้นๆ ตื่นเต้นมากค่า :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
เหยื่อรักอสูรกาย  ชื่อเดิม  ขออนุญาตเปลี่ยนเป็น   "ลิขิตรักอสุรกาย"  แทนนะคะ เพื่อให้ชื่อเรื่องสอดคล้องกับเนื้อเรื่องมากกว่าเดิมค่ะ 

ป.ล. สะกดคำว่า อสุรกาย ผิดมาตลอด เป็นอสูรกาย  ความจริงต้องใช้คำว่า อสุรกาย (สระอุ) รากศัพท์ มาจาก อ+สุระ เมื่อยืมมาใช้ในภาษาไทย จะใช้ว่า อสูร หรือ อสุรกาย ไม่ใช่ อสูรกาย    (ความรู้นี้ต้องขอบคุณพี่น้ำตาลมากเลยค่ะ ที่ช่วยแย้งมา)


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++





/ 19



    วิรัลเดินตามคนรับใช้ของท่านย่าของเขาไปยังเรือนเล็กที่ตั้งแยกห่างออกไป ทว่าพอหญิงสาวพาเขาไปหยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง วิรัลก็ชะงัก หน้าซีดเผือด เนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมาทันที

   “คนที่ท่านต้องการจะพบ อยู่ข้างในนี้ค่ะ  ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”

   หญิงสาวยอบตัวลงทำความเคารพ แล้วเดินจากไป เหลือเพียงแต่วิรัลที่ยืนทำใจอยู่ชั่วครู่ แล้วตัดสินใจเปิดประตูห้องนั้นเข้าไป

   กลิ่นเลือดเจือจางที่ได้กลิ่นหน้าประตู ยิ่งได้กลิ่นชัดเจนขึ้นกว่าเดิม ร่างที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงขยับกายเล็กน้อย แล้วจึงนึกแปลกใจเมื่อได้เห็นผู้มาเยือน

   “ท่านวิรัล...มาได้ยังไงครับเนี่ย”

   “ชาคร ...คุณธามเป็นอะไรไป...เกิดอะไรขึ้น ...คุณก็ด้วย ...บาดเจ็บหนักอยู่นี่”

   วิรัลถามเสียงสั่น ชาครนึกแปลกใจเมื่อไม่เห็นว่ามีใครตามวิรัลมาอีก แต่ด้วยเพราะสีหน้าหวาดหวั่นระคนกังวลของเด็กหนุ่ม จึงทำให้เขาเลือกที่จะตอบคำถามของวิรัลก่อน

   “ท่านธามบาดเจ็บครับ  แพทย์ของที่นี่หลังทำแผลให้แล้วจึงฉีดยาให้หลับ เพื่อที่จะได้พักผ่อนให้เต็มที่  ส่วนผมก็แค่รอยขีดข่วนไปทั่วตัวก็แค่นั้นล่ะครับ พักฟื้นสักวันสองวันก็หายดีเหมือนเดิม”

   ชาครบอกยิ้ม ๆ วิรัลมองผ้าพันแผลสีขาวทั่วร่างท่อนบนของอีกฝ่าย ที่สวมเพียงกางเกงขายาวอย่างเป็นห่วง แล้วจึงถามต่อด้วยความสงสัย

   “ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ...แผลพวกนี้เกิดจากฝีมือของท่านย่าใช่ไหม”

   ชาครยิ้มน้อย ๆ เขาเชื้อเชิญให้วิรัลนั่งลงบนเตียงข้างธาม แล้วจึงเริ่มต้นเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

   “ท่านธามต้องการเจรจากับท่านย่าของท่าน เพื่อให้ทางนี้ยอมรับความรักที่ท่านธามมีต่อท่าน ท่านย่าของท่านจึงจัดให้มีบททดสอบเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยการให้มโคซึ่งมีฝีมือแข็งแกร่งเกือบสิบตนรุมพวกเราทั้งคู่ โดยห้ามพวกเราโต้ตอบทำร้ายให้พวกนั้นบาดเจ็บ ถ้าพวกเราทนได้เกินชั่วโมง ท่านย่าของท่านจึงจะยอมรับเรื่องของท่านธามกับท่านวิรัลน่ะครับ”

   วิรัลเบิกตากว้าง พลางอุทานอย่างตกใจ เขาเหลือบมองคนที่นอนหลับไปแล้วอย่างนึกสงสารและรู้สึกผิด

   “ทำไมไม่บอกกันล่วงหน้าสักคำ ...ไม่อย่างนั้นผมก็จะมาอยู่เคียงข้าง เผชิญหน้ากับการทดสอบพร้อมพวกคุณแท้ ๆ”

   ชาครมองคนที่พึมพำอย่างนึกซาบซึ้งในน้ำใจของอีกฝ่าย จากนั้นเขาจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อ

   “แรก ๆ ท่านธามก็ยังเป็นต่อดี เพราะท่านธามนั้นค่อนข้างว่องไว ท่านวางแผนกับผม ล่อให้มโคกลุ่มนั้นโจมตีพลาดพลั้งโดนกันเองเพื่อตัดกำลังไปได้สักพักใหญ่  ทว่าท่านธามก็เริ่มอ่อนแรง เพราะอาการบาดเจ็บจากการต่อสู้ครั้งก่อนยังไม่ทันหายดี ก็ต้องมาสู้ใหม่แบบนี้ พวกเราเริ่มโดนโจมตี ผมเองก็ป้องกันเขาแหลมคมนับสิบนั้นอยู่ได้ไม่นานนัก ก็เลยได้แผลมาเยอะแบบนี้ ตัวท่านธามเองก็เกือบจะหวุดหวิดแย่หลายครั้ง ...ทว่ามีอยู่ครั้งที่มโคตนหนึ่งพุ่งโจมตีเข้ามา พร้อมกับเพื่อนของเขาอีกตนที่บังเอิญขยับตัวมาขวางทางเอาไว้ โดยไม่ทันได้มองกันเอง ซึ่งถ้าปล่อยเอาไว้ มโคตนที่ขยับมาขวางนั้นจะต้องได้รับบาดเจ็บหนักเจียนตายแน่ เพราะตำแหน่งเขาที่พุ่งโจมตีมา มันใกล้กับตำแหน่งหัวใจของอีกฝ่ายยิ่งนัก...”

   ชาครเล่าต่อเรื่อย ๆ ซึ่งวิรัลก็รับฟังอย่างตื่นเต้นและหวาดหวั่น และเมื่อมาถึงช่วงเหตุการณ์พลิกผันของบททดสอบ ชาครก็พักเล่าชั่วครู่ เขามองเจ้านายของตนซึ่งหลับใหลไปเพราะฤทธิ์ยา ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาค่อย ๆ

   “ท่านธามเห็นเข้าพอดี โดยที่ไม่มีใครได้ทันคิด หรือทันทำอะไร ท่านธามก็เข้าไปขวางมโคตนนั้นไว้ ส่งผลให้ท่านธามถูกเขาของอีกฝ่ายทำร้ายเข้าให้แทน และได้รับบาดเจ็บหนัก ...ผมเองก็เตรียมจะให้ยกเลิกการทดสอบ เพราะอาการบาดเจ็บของท่านธามนั้นหนักหนาเกินไปที่จะรับมือต่อให้ครบหนึ่งชั่วโมง ทว่าท่านธามก็ยังยืนกรานที่จะสู้ต่อ  ภาพร่างของท่านที่ชุ่มโชกด้วยเลือด  ทำให้มโคทุกตนในที่นั้นตกใจจนไม่กล้าขยับ และในที่สุด ท่านย่าของท่านก็สั่งให้เลิกทดสอบ และยอมรับในตัวของท่านธามในที่สุด และได้จัดหาแพทย์มาช่วยรักษาพวกเราด้วยน่ะครับ”

   วิรัลรับฟังอย่างตื่นตกใจ เขาไม่คิดว่าธามจะยอมเสี่ยงตายเพื่อเขาถึงขนาดนี้ และไม่คิดว่าท่านย่าของเขาจะยอมรับเรื่องของพวกเขาแล้ว

   “ฉันไม่อยากเชื่อเลย...ทั้งคุณธาม...ทั้งท่านย่า...”

   วิรัลพึมพำกับตัวเองด้วยอารมณ์อันหลากหลาย ชาครเห็นดังนั้นจึงยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดู

   “เพราะท่านเป็นคนสำคัญสำหรับพวกเขาทั้งสองคนน่ะสิครับ”

   วิรัลมองชาคร แล้วจึงยิ้มตอบ จากนั้นเด็กหนุ่มจึงขออาสาเป็นคนเฝ้าธามเอง และให้ชาครไปพักผ่อนแทน

   “ถ้าอย่างนั้นผมอยู่ห้องข้าง ๆ นี่นะครับ...ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลย”

   “อือ ขอบคุณมากเลยนะชาคร”

   วิรัลบอกกับคนสนิทของคนรักพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งชาครก็โค้งศีรษะให้อีกฝ่าย แล้วขอตัวออกไป ในห้องจึงเหลือแต่ธามกับวิรัลเท่านั้น เด็กหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ที่ชาครนั่งเมื่อครู่มาไว้ใกล้เตียง เขานั่งลงบนเก้าอี้ แล้วจับมือของธามขึ้นมาเกาะกุมอย่างรักใคร่

   “นับจากนี้ต่อไป ผมจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ และตอบแทนความรักของคุณอย่างเต็มที่เลยครับ คุณธาม”

   วิรัลเอ่ยขึ้นพร้อมกับชะโงกร่างไปจูบที่หน้าผากของคนที่นอนหลับแผ่วเบา จากนั้นจึงนั่งกุมมือของธามไปเช่นนั้นตลอดคืน



   อีกด้านหนึ่งเมื่อชาครออกมาจากห้อง และเตรียมจะตรงไปพักผ่อนยังห้องที่ตระเตรียมให้เขาบ้าง ชายหนุ่มก็ต้องชะงักฝีเท้า แล้วหันไปมองเมื่อได้กลิ่นอันคุ้นเคยลอยตามลมที่พัดผ่านมา

   “ไง...ท่านวิรัลอาสานั่งเฝ้าอาการท่านธามอยู่น่ะ ฉันว่านายอย่าไปขัดจังหวะสวีทของพวกเขาเลยนะ”

   พิชญ์นิ่วหน้า เขามองร่างที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล ที่บางส่วนยังคงมีเลือดไหลซึมออกมา

   “เจ็บหนักกันเลยสินะ...นี่ล่ะโทษฐานของการทำอะไร ไม่รู้จักปรึกษากันก่อน”

   พิชญ์บ่นอุบ แล้วจึงเหลือบมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เป็นห่วง ชาครเห็นดังนั้นจึงแย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยชวนอีกฝ่าย

   “ฉันยังไม่ง่วงเท่าไหร่ นายจะเข้าไปคุยกันในห้องแทนไหมล่ะ”

   พิชญ์ชะงัก แต่พอเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่าย เขาจึงพยักหน้ารับ แล้วเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในห้องนั้น

   

   “ฉันแปลกใจที่เพิ่งเห็นนายนะ  ปกติออกจะตัวติดกันกับท่านวิรัลตลอดนี่”

   คำถามแรกของชาครเริ่มขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่เลือกมานั่งที่มุมรับแขกของห้องนอน

   “นายหญิง ...ท่านย่าของท่านวิรัลเรียกฉันเอาไว้น่ะก็เลยต้องอยู่สนทนากับท่าน ...จึงทำให้รู้ว่าทั้งนายและเจ้านายของนายนั่น บ้าระห่ำกันขนาดไหน”

   พิชญ์ตอบกึ่งตำหนิด้วยความหงุดหงิดที่ยังคงไม่จางหาย เพราะชาครกับธามแอบตัดสินใจกันสองคน จนต้องมาบาดเจ็บแบบนี้ โชคดีที่ปาลินียอมรับในความใจเด็ดของธามจนได้

   “แต่ก็ได้ผลคุ้มค่าไม่ใช่หรือ ...ต่อแต่นี้ไปความรักของท่านวิรัลกับท่านธามก็ไร้อุปสรรคสักที ...อ้อ ลืมถามไป ทางนั้นล่ะเจรจาสำเร็จไหม”

   พิชญ์ยักไหล่นิด ๆ แล้วจึงเปรยตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งเซ็ง

   “ก็เพราะสำเร็จนี่ล่ะสิ ฉันถึงได้โดยนายหญิงตำหนิเอา เรื่องที่ด่วนได้ ตัดสินใจถอนหมั้นกันเอง โดยไม่ยอมเรียนให้นายหญิงรับรู้ก่อน เพราะนายหญิงเป็นฝ่ายไปทาบทามท่านม่านฟ้าแต่แรก”

   ชาครรับฟังอย่างสนใจ และหลังจากพิชญ์บ่นเสร็จ ชายหนุ่มก็ถอนหายใจยาวต่อ

   “ฉันต้องยืนยัน และให้คำมั่นกับท่านว่า  แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางขั้วการปกครองระหว่างตระกูลขึ้นก็ตาม แต่ฉันจะทำให้ตระกูลวงศ์หริโณของเรามั่นคงเป็นปึกแผ่น และเติบโตก้าวหน้ากว่าที่เป็นอยู่เดิมนี้อีกหลายเท่า ...นายหญิงจึงให้เวลาฉันห้าปี ให้ทำให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นจะหาเจ้าสาวมาให้ท่านวิรัลใหม่”

   ชาครเลิกคิ้วแล้วอมยิ้มนิด ๆ กับคำขู่ของปาลินี เขาคิดว่าหญิงชราคงไม่ทำจริงอย่างที่พูด เพราะไม่เช่นนั้นก็คงไม่ให้เวลาพิชญ์ขนาดนั้น แต่ที่ขู่เอาไว้ คงเพราะต้องการแก้เผ็ดเรื่องที่พิชญ์กับวิรัลทำอะไรลงไปโดยไม่ปรึกษาเธอมากกว่า

   “ไม่ต้องมายิ้มเลย นายก็ต้องช่วยฉันด้วย! คอยดูเหอะ จะใช้งานให้เหนื่อยกันตายไปข้างเลยล่ะ!”

   พิชญ์บอกคนที่ยิ้มล้อเขา ซึ่งชาครก็หัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างลืมตัว ก่อนจะนิ่วหน้าน้อย ๆ กับความเจ็บของบาดแผลที่เย็บรวมทั่วร่างก็เกือบยี่สิบเข็มเลยทีเดียว

   “สมน้ำหน้า ทำเป็นเก่งไม่เจียมตัวก็งี้ล่ะ”

   พิชญ์ประชดคนที่ฝืนทำเป็นปกติพูดคุยกับเขา จากนั้นชายหนุ่มจึงบังคับให้ชาครพักผ่อน โดยให้เหตุผลว่า พรุ่งนี้จะได้เดินทางกลับบ้านพักที่กรุงเทพฯ กันได้สักที

   “งั้นเฝ้าฉันด้วยสิ ...เผื่อกลางคืนฉันหิวน้ำ หรือลุกไม่ไหว จะได้ให้นายช่วยยังไงล่ะ”

   คนที่เตรียมจะเข้านอนแกล้งอ้อน ทำให้คนฟังแค่นยิ้มแล้วยกกำปั้นให้แทนคำตอบ ส่งผลให้ชาครหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วเอนกายนอนลงหลับพักผ่อน ส่วนพิชญ์มองอย่างลังเล แล้วจึงตัดสินใจนั่งเฝ้าอยู่แถวโซฟารับแขกมุมห้องแทน

    ไม่นานนักคนที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ และไม่ได้พักผ่อนเท่าที่ควร ก็หลับลงอย่างอ่อนเพลีย จนทำให้คนที่แกล้งหลับบนเตียงนึกขำ ชาครตรงเข้าไปอุ้มร่างโปร่งนั้นมาอย่างง่ายดาย และดูเหมือนพิชญ์จะเพลียจริง ๆ จึงหลับลึกไม่รู้สึกตัว ชาครเห็นดังนั้นจึงดึงผ้าห่มมาห่มเผื่อให้คนข้างกาย ส่วนตัวเขาก็กอดร่างนั้นหลวม ๆ พร้อมกับหลับไปด้วยกันในที่สุด

   

   รุ่งเช้า พิชญ์ปรือตาขึ้นอย่างงัวเงีย ไออุ่นจากคนข้างกายทำให้เขาหลับสบายตลอดคืน และมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงนกร้องและเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ในตอนเช้าดังขึ้น

   “เช้าแล้วหรือ...หือ...”

   คนกำลังงัวเงียชะงักกึก เมื่อพลิกกายไปแล้วเจอกับแผ่นอกที่มีผ้าพันแผลเต็มไปหมด พิชญ์นิ่งตั้งสติอยู่สักครู่ เสียงพึมพำของเจ้าของร่างอีกคนก็ดังขึ้นบ้าง

   “เช้าแล้วหรือ...อืม หลับสบายเลยแฮะ”

   ชาครพึมพำ ก่อนจะชะงักเมื่อลืมตามาเห็นสีหน้าของพิชญ์ยามนี้ วกะหนุ่มยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเอ่ยทักทายอีกฝ่าย

   “ไง ...หลับหนุนแขนซบอกฉันทั้งคืนเลยนะ สบายดีใช่ไหมล่ะ”

   พิชญ์สะดุ้ง ได้สติ ก่อนจะหน้าแดงวาบตามมาด้วยความโมโหปนอาย เขาทุบแผ่นอกนั้นไปค่อนข้างแรง แล้วโวยวายลั่น

   “ทำไมฉันกับนายมานอนเตียงเดียวกันได้! อธิบายมาดี ๆ นะ! ไม่งั้นฉันฆ่านายแน่!”

   “อุ๊บ...ทุบมาได้ แผลยังไม่หายดีด้วยซ้ำ ...อา เลือดไหลอีกแล้ว สงสัยแผลเปิดแน่”

   ชาครแสร้งพึมพำ ทำเอาพิชญ์ชะงัก แล้วรีบสำรวจดูแผลอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง

   “ไหน…แผลเปิดจริง ๆ หรือ ...ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ...”

   ชาครอมยิ้ม ทำเป็นพลิกหันกายไปอีกทาง แล้วพึมพำบอก

   “ไม่ต้องใส่ใจหรอก ...อีกอย่าง เมื่อคืนฉันเห็นนายนอนหลับบนโซฟา เลยพามานอนบนเตียง ส่วนฉันก็รู้สึกเพลีย ๆ ก็เลยขอแบ่งนอนด้วยคนละครึ่ง ...ไม่ได้มีอะไรเกินเลยอย่างที่นายกังวลหรอกนะ”

   น้ำเสียงขรึม ๆ ของชาคร ทำเอาพิชญ์รู้สึกผิด มโคหนุ่มยันกายลุกขึ้นนั่ง แล้วพยายามจับร่างนั้นพลิกมาดูแผล แต่ชาครก็ขืนตัวเอาไว้ จนพิชญ์เริ่มหงุดหงิด แล้วการบังคับกันอย่างเอาจริงเอาจัง จึงได้เริ่มต้นขึ้น

   “ไหนดูซิ! เล่นตัวอยู่ได้!”

   คนที่พลิกร่างหนาบนเตียงกลับมานอนหงาย เพื่อต้องการดูแผลโพล่งขึ้น อันเป็นจังหวะเดียวกับที่วิรัลนั้นเปิดประตูห้องเข้ามาเพื่อจะบอกกับชาครว่าธามนั้นฟื้นแล้ว ภาพที่เห็นทำให้เด็กหนุ่มชะงัก หน้าแดงวาบ เพราะพิชญ์กับชาครกำลังอยู่ในสภาพที่หมิ่นเหม่ และมองผ่าน ๆ ก็เหมือนพี่เลี้ยงของเขากำลังปลุกปล้ำวกะหนุ่มอยู่ด้วยซ้ำ

   “ง่า...ฉันขอโทษนะที่ขัดจังหวะของทั้งคู่...เอ่อ ชาคร คุณธามฟื้นแล้วนะ ...เขาให้มาบอกคุณว่า เขาอยากจะรีบกลับไปพักฟื้นต่อที่โน่นน่ะ ...แต่เดี๋ยวฉันจะบอกให้เขารออยู่อีกสักพักให้พวกคุณ เอ่อ ...เรียบร้อยกันก่อนก็แล้วกัน”

   วิรัลบอกตะกุกตะกักในท้ายประโยค แถมยังหน้าแดงก่ำ แล้วรีบปิดประตูทันที ทำเอาพิชญ์นิ่งอึ้ง ส่วนชาครหลังจากตั้งสติได้ ก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน

   “ฮ่า ๆ ให้ตายเถอะ...แล้วทีนี้ทำไง นายทำฉันเสียหายถูกเข้าใจผิดนะ รับผิดชอบมาด้วยล่ะ”

   พิชญ์หน้าแดงระเรื่อ ทั้งฉุนทั้งอาย แถมพอมองดูแผ่นอกของอีกฝ่าย ก็ไม่ได้มีเลือดไหลซึมแต่อย่างใด ก็ทำให้เขารู้ว่าตัวเองนั้นถูกชาครปั่นหัวเข้าให้แล้ว

   “นายมัน!”

   พิชญ์ง้างมือหมายจะทุบลงมาแรง ๆ ด้วยความโมโหและอับอาย ทำเอาชาครต้องคว้าข้อมือนั้นไว้ แล้วรีบบอกตามมา

   “ไม่เอาน่า...ขืนโดนอีกที ได้ช้ำในตายจริง ๆ แน่  แผลที่นายทุบมาก่อนหน้านั้นมันไม่ลึกนัก เลยไม่มีเลือดออก แต่ก็ยังเจ็บอยู่ดีนะ”

   พิชญ์กัดฟันกรอด แต่ก็ยอมผ่อนแรงลง เห็นดังนั้นชาครจึงปล่อยมืออีกฝ่าย พอเป็นอิสระมโคหนุ่ม ก็ลุกลงจากร่างของคนบนเตียง แล้วหนีมายืนห่าง ๆ ด้วยความหงุดหงิด

   “หึ ๆ ขอบคุณที่ยั้งมือนะ...ว่าแต่เราจะเข้าไปหาพวกท่านธามตอนนี้เลยดีไหม หรือจะรออีกสักพักค่อยเข้าไป ท่านวิรัลจะได้ไม่แปลกใจไงล่ะ”

   พิชญ์ชะงักกึกก่อนจะหันมาสบถใส่อีกฝ่าย แล้วเดินกระแทกเท้าไปที่ห้องของธามซึ่งมีวิรัลอยู่ด้วย

   “อ้าว...ทำไมมาไวนักล่ะ เห็นวิรัลบอกว่าพวกนายกำลังจู๋จี๋กันอยู่ไม่ใช่หรือ”

   พิชญ์หน้าแดงวาบ ส่วนชาครที่เดินมายิ้มน้อย ๆ แล้วยักไหล่นิด ๆ

   “ผมจะมาบอกว่าท่านวิรัลเข้าใจผิด ...เมื่อครู่นี้ พวกเราแค่ เอ่อ ...ต่อสู้กันนิดหน่อยเท่านั้น”

   พิชญ์รีบแก้ตัวกับวิรัล ใบหน้ายังคงแดงระเรื่อ ส่วนวิรัลนั้นพยักหน้ารับคำหงึกหงัก แม้จะไม่มั่นใจในสิ่งที่ตนเห็นนักก็ตาม

   “...แล้วเห็นท่านวิรัลบอกว่าคุณจะกลับไปพักฟื้นที่กรุงเทพฯ  หายดีแล้วหรือ ไม่ใช่นั่งรถเดินทางสะเทือน แล้วเป็นหนักอีกรอบนะ”

   พิชญ์หันมาเปลี่ยนเรื่อง แล้วสอบถามธามแทน ทำให้วิรัลชะงัก และให้ความสนใจกับคนรักอีกครั้ง

   “จริงด้วยสินะ...นั่งรถไกล ๆ แผลก็สะเทือนได้ ...เอาไงดีล่ะพิชญ์ แต่ก็ไม่อยากพักฟื้นที่นี่ต่อเลย ...กลัวท่านย่าจะเปลี่ยนใจเอาเข้า”

   วิรัลบอกเสียงอ่อย ทำให้คนอื่นต้องอมยิ้มมองเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู

   “นายหญิงไม่เปลี่ยนใจง่ายขนาดนั้นหรอกครับ ...เอาเถอะครับ เดี๋ยวผมให้คนหารถตู้นอนดี ๆ สักคันขนย้ายคนเจ็บดีกว่า จะได้ไม่สะเทือนแผลมากนัก ระหว่างนี้ ท่านวิรัลไปลานายหญิงเสียก่อนสิครับ”

   พิชญ์บอกกับนายน้อยของเขา ทว่าวิรัลนั้นรู้สึกหวาดหวั่นและไม่กล้าเผชิญหน้ากับผู้เป็นย่าตามลำพังอยู่ดี  เนื่องจากเมื่อคืน เขาได้พูดจาตัดรอนกับปาลินีไปมาก และเกรงว่าหญิงชราจะยังโกรธอยู่

   “ไม่เป็นไรหรอกวิรัล  ฉันจะไปเป็นเพื่อน”

   ธามที่ฟังอยู่เสนอตัวพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ทว่าวิรัลก็ต้องรีบแย้งกลับ

   “แต่คุณธามบาดเจ็บอยู่นะครับ!”

   คนฟังอมยิ้ม แล้วจึงยันกายลุกขึ้นยืน แม้จะเซนิด ๆ แต่สักพักก็ปรับมั่นคงในไม่ช้า

   “ความสามารถพิเศษน่ะ...เห็นอย่างนี้ฉันฟื้นตัวได้เร็วกว่าพวกพันธุ์แท้อีกนะ”

   วิรัลนิ่วหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ ทว่าพอเหลือบมองไปที่ชาครก็เห็นอีกฝ่ายพยักหน้ายืนยัน ทำให้วิรัลเริ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก

   “งั้นก็ได้ครับ...”

   วิรัลบอกแล้วก็เดินประกบหมายจะช่วยประคองคนรัก ซึ่งจริง ๆ แล้วแม้จะเดินไหว แต่พอเห็นวิรัลเอาใจใส่แบบนี้ ธามจึงแกล้งทำเป็นอ้อนแล้วให้อีกฝ่ายดูแล จนพิชญ์ที่มองอยู่และรู้ทันเริ่มนึกหมั่นไส้

   “...เปลี่ยนจากรถนอน เป็นรถกะบะเก่า ๆ แล้วให้นอนไปหลังรถก็น่าจะดีล่ะนะ”

   พิชญ์พึมพำกับตัวเอง ทว่าชาครที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ และได้ยิน ถึงกับชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ตามมา

   “เกรงใจจัง ถ้าอย่างนั้นพวกฉันขับรถกลับกรุงเทพฯเอง ท่าทางจะสบายกว่า”

   พิชญ์สะบัดหน้าค้อนให้อย่างหงุดหงิดปนหมั่นไส้ แล้วเดินจากไป ชาครมองตามและหันมาอีกทาง ทว่าเมื่อธามส่งสัญญาณกับเขาว่าไม่ต้องตามมา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจตามพิชญ์ไปหารถเดินทางกลับบ้านพักแทน

   


... TBC …



หลังจากนี้ความหวานจะเริ่มมาเยือนคู่หลักแล้วค่ะ  ส่วนคู่รอง ...ไม่รู้จะหวานรอดไหม หุ ๆ

ขอบคุณผู้อ่านที่ติดตามกันมาถึงตอนนี้ค่ะ

 :pig4:

Narcissus

  • บุคคลทั่วไป
ชาครกับพิชญ์ก็หวานนะคะ
ตอนนี้น่ารักเชียว อ่านไปยิ้มไปเลยค่ะ

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
จะเริ่มหวานกันสักทัเเล้ว เย้ๆๆๆ

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
เย้ :mc4: ในที่สุดคุณย่าก๊ยอมรับซักที ลุ้นเเทบเเย่ ดีใจด้วยน๊า ธาม วิรัล :o8: :o8:
ต่อไปก๊รอดู กวางเเซนซึน กับหมาป่าฮาร์ดคอร์ ???  :z2: :z2:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
แต่รู้สึกจะหลงรักคู่รองซะแล้ว มันดูอบอุ่นดี ถึงจะไม่หวานมากเท่าคู่หลักแต่ก็หวานในแบบของเขาละนะ

gngane

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

น่ารักกกก

คู่พิชญ์น่ารักมากเลย

ไม่ได้เข้าใจผิดเลย เพราะอีกไม่นานมันก็จะเป็นเรื่องจริงคะท่านวิลัล

ฮ่าฮ่าฮ่า

มาต่อไวๆนะ

ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
น่ารักเหมือนเดิม

ทั้งสองคู่หวานกันคนละแบบ อิอิ

ชาครรู้สึกว่าจะขี้เล่นขึ้นนะ พิชญ์น่าแกล้งนี่นา :p

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :-[ :-[ :-[

เย้ๆ อยากให้อีกคู่หวานเร็วๆจัง สงสารชาคร กลัวช้ำใจตายไปก่อน  :laugh:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ชาครพิชญ์นี่ยังไง ๆ นะเนี่ย ย่าวิรัลร้ายเหมือนกันนะนั่น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
สบายใจกันทุกฝ่ายแล้วสินะ
จะว่าไปก็แอบเห็นใจท่านย่าอยู่บ้างนะ อดอุ้มหลานจากวิรัลเลย><
คู่รองเขาก็คงหวานๆแบบแสบๆนิดหน่อย

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ชาครเจ้าเล่ห์อ่ะ พิชญ์ระวังไว้นะจะโดนปล้ำ 555+

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
o18 อยาอ่านตอนต่อไปแล้ววๆๆ :z3:
คู่ของชาครกับพิญกำลังสนุกเลย :-[  :-[

janeyuya

  • บุคคลทั่วไป
ชาครสู้ๆ ╰( ̄▽ ̄)╭♥
ถ้าพิชญ์ดื้อนักจับปล้ำเป็นเมียไปเลยพ่อ *ถือป้ายไฟชาพิชญ์*

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

/ 20



    วิรัลประคองธามไปพบท่านย่าของเขา ทว่าหญิงชรานั้นไม่อนุญาตให้เข้าพบ และฝากคนรับใช้คนสนิทมาบอกว่าต้องการจะพักผ่อน ทำให้วิรัลหน้าเสียจนธามต้องเอ่ยปลอบ

   “ไม่เป็นไรหรอกน่า ...เดี๋ยวพอทำใจได้ ท่านก็อนุญาตให้เราเยี่ยมเองนั่นล่ะ”

   “แต่ว่า...ถ้าท่านย่าเกิดตัดขาดกับผมจริง ๆ ล่ะครับ...ถึงจะเข้มงวดยังไง ผมก็ยังรักและเคารพท่านย่าเหมือนเดิมเสมอ...ถ้าจะต้องถูกตัดขาดและพบหน้ากันไม่ได้จริง ๆ ผมคง...”

   วิรัลเงียบไป นัยน์ตาคลอไปด้วยน้ำใสวิบวับจนธามสงสาร ทว่าคนรับใช้ชราของปาลินีนั้น กลับยื่นซองจดหมายซองหนึ่งส่งมาให้กับวิรัล

   “อะไรหรือครับ...ป้านวล”

   วิรัลถามอีกฝ่ายที่แม้จะเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของปาลินี แต่ก็ดูแลและใจดีกับเขามาตลอดเช่นกัน อีกทั้งศรีนวลเองก็ยังเป็นคนสนิทรู้ใจของปาลินีอีกด้วย และวิรัลก็นับถืออีกฝ่ายเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง

   “นายหญิงท่านฝากมาให้ท่านค่ะ”

   วิรัลรับมาเปิดอ่านดู แล้วก็เบิกตากว้าง ก่อนจะยื่นส่งให้ธามอ่านบ้าง

   ‘ลองแสดงวิถีทางที่หลานเลือกให้ย่าได้เห็นสิ... ถ้าประสบความสำเร็จ จนสามารถเชิดหน้าชูตาไม่อับอายใครในเผ่าได้เมื่อไหร่ ค่อยกลับมาพบย่าอีกครั้งแล้วกัน’

   “พวกเราคงต้องพยายามหนักกันแล้วนะวิรัล”

   ธามบอกกับคนรักพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งวิรัลก็ยิ้มตอบ พลางเช็ดน้ำตาแห่งความตื้นตันของตน เพราะแม้จะไม่ยอมรับออกนอกหน้า แต่ท่านย่าของเขาก็ยังคงให้โอกาสกับเขาและไม่คิดจะตัดญาติกับเขาอย่างที่เคยคิดกลัวเอาไว้

   “ผมไปล่ะครับป้านวล ฝากดูแลท่านย่าด้วยนะครับ...แล้วผมจะกลับมาใหม่ และจะทำให้ท่านย่าภาคภูมิใจในตัวผมให้สำเร็จให้ได้”

   ศรีนวลยิ้มรับและกอดร่างนั้นอย่างรักใคร่ และเมื่อวิรัลกับธามกลับไปแล้ว เธอจึงกลับเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของปาลินี แล้วเอ่ยกับคนที่นั่งเงียบ ๆ อ่านหนังสืออยู่

   “ท่านนี่ก็นะ หลานชายมาลาแท้ ๆ จะให้พบสักหน่อยก็ไม่ได้ ...แถมยื่นเงื่อนไขออกไปแบบนั้น แล้วอีกกี่ปีกัน จึงจะได้พบหน้ากันอีกคะ”

   หญิงชราเอ่ยตำหนินายหญิงของเธออย่างไม่เกรงกลัวดังเช่นข้ารับใช้คนอื่น เพราะความที่เติบโตมาด้วยกันแต่เล็กแถมยังเป็นญาติสนิทเหมือนพี่น้องแท้ ๆ กันอีกด้วย ทั้งสองสนิทกันมาก แม้แต่จดหมายฉบับที่นำไปให้วิรัล ปาลินียังอนุญาตให้ศรีนวลอ่านก่อนเลยด้วยซ้ำ

   “ถ้ามัวแต่ดูแลประคบประหงมกัน แล้วเมื่อไหร่วิรัลจะเติบโตได้ล่ะ ...รู้ไหมนวล ว่าเมื่อคืนนี้ เด็กคนนั้นน่ะโต้ตอบกับฉันตรง ๆ อย่างไม่เกรงกลัวเลยนะ ...   ซึ่งฉันก็พอคาดเดาได้ว่า เพราะใครถึงทำให้วิรัลเปลี่ยนไป”

   ปาลินีพึมพำ แล้วหวนถึงความใจเด็ดของธามเมื่อคืน ถ้าตอนนั้นธามจะฉวยโอกาสหลบแล้วปล่อยให้ลูกน้องของเธอทำร้ายกันเอง เธอเองก็คงเอาผิดเขาไม่ได้ แต่การที่ธามเอาตัวไปขวางเพื่อช่วยชีวิตมโคตนนั้นไว้ เท่ากับธามนั้นได้ซื้อใจของเธอและมโคตนอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณนั้นทั้งหมด

    และนั่นก็ทำให้เธอเริ่มได้คิดว่า หากฝากฝังวิรัลไว้กับชายผู้นั้นแล้ว เธอก็คงหมดห่วงในความปลอดภัยของหลานชายได้ไปเปลาะหนึ่ง เพราะเธอมั่นใจว่า ธามจะยินดีปกป้องและพร้อมสละชีวิตให้กับหลานชายของเธอในทุกเมื่ออย่างแน่นอน

   “เรื่องเมื่อคืนดิฉันเองก็เพิ่งจะได้รับรู้จากบ่าวคนอื่น  ถ้าอยู่ด้วยก็คงจะช่วยหาวิธีที่ดีกว่านี้ แทนวิธีที่ต้องเสี่ยงชีวิตกันทุกฝ่ายแบบนั้น”

   ศรีนวลเริ่มบ่น ทำให้คนฟังแย้มยิ้มน้อย ๆ เธอวางหนังสือลงข้าง ๆ แล้วจึงเปรยตอบ

   “เธอมันใจดีเกินไป ...แต่ก็ดีแล้ว เพราะวิรัลก็ได้ส่วนนี้จากเธอไปมาก ขืนปล่อยให้ฉันเลี้ยงเขาคนเดียว  เขาคงกลายเป็นคนกร้านโลก เย็นชาไปแทนแน่”

   คนรับใช้เก่าแก่ถอนหายใจ แล้วจึงขยับไปกุมมือของผู้เป็นนายเบา ๆ พร้อมกับยิ้มอ่อนโยนส่งให้

   “ท่านเองก็เป็นคนใจดี เพียงแต่ไม่แสดงออกมาเท่านั้น ...และดิฉันเชื่อว่า ท่านวิรัลเองก็ต้องรับรู้ความใจดีจากท่านย่าของท่านได้แน่ เพราะแม้แต่ตอนที่คิดว่าจะถูกตัดขาดจริง ท่านวิรัลก็ยังแสดงถึงความรักเคารพต่อตัวท่านอยู่เลยนะคะ”

   ปาลินีมองศรีนวลที่พูดปลอบโยน ในสิ่งที่เธอนึกกังวลแต่ไม่ได้แสดงออกไป  หญิงชราแย้มยิ้มตอบ พร้อมกับพึมพำขอบคุณเบา ๆ จากนั้นจึงเดินไปที่ระเบียงเรือนด้านนอกพร้อมกับคนรับใช้เก่าแก่ มองลิบ ๆ ไปยังถนนด้านหน้าเรือน ที่ตอนนี้มีรถตู้คันใหญ่มาจอดรออยู่

   “ดูพวกนั้นกระตือรือร้นกันดี ...สงสัยฉันคงจะได้เจอหน้าหลานอีกครั้ง ในเวลาเร็วกว่าที่คิดก็ได้นะนวล”

   ศรีนวลหัวเราะเบา ๆ แล้วตอบรับกลับไป

   “นั่นสิคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันคงต้องคอยดูแลสุขภาพของท่านให้แข็งแรงกว่านี้เสียแล้ว จะได้อยู่คอยรอพบท่านวิรัลด้วยกันได้อีกนาน”

   ปาลินีเลิกคิ้วนิด ๆ ก่อนจะยิ้มอ่อนโยนตามมา

   “นั่นสินะ...ถึงจะไม่มีโอกาสได้อุ้มเหลน แต่ก็ยังสามารถอยู่ดูความเติบใหญ่ของหลานชายได้ ก็ถือว่าคุ้มค่าที่เกิดมาแล้วล่ะนะ”

   จากนั้นหญิงชราทั้งสองจึงกลับเข้าไปในห้องพัก โดยไม่ได้อยู่เฝ้าดูว่าคนบนรถตู้จะกลับเมื่อไหร่ตอนไหน เพราะพวกเธอแน่ใจว่า ถึงอย่างไร ทั้งหมดก็ต้องกลับบ้านกันไปอย่างปลอดภัย และพวกเขาจะต้องกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง ไม่ว่าจะใช้เวลาผ่านไปกี่ปีก็ตาม

   

   ภายในรถตู้ พิชญ์รับผิดชอบเป็นคนขับ มีชาครนั่งหน้าไปด้วย ส่วนธามนั้นนั่งกึ่งนอนบนเบาะยาวที่ปรับเอนลง โดยมีวิรัลนั่งข้าง ๆ เป็นเพื่อน

   “เดี๋ยวก็จะได้กลับถึงบ้านแล้วนะครับ...ถ้ากลับไป คุณธามย้ายมานอนห้องเดียวกับผมนะ”

   วิรัลบอกกับอีกฝ่าย ทำเอาคนที่ขับรถอยู่สะดุ้งนิด ๆ แต่ก็แกล้งทำเป็นหูทวนลมไม่ใส่ใจ ทำให้ชาครที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นึกขำ

   “อืม...ถ้าอย่างนั้นอาจจะต้องเปลี่ยนเตียงใหม่นะ เพราะเตียงเธอมันค่อนข้างแคบไปหน่อย เวลาเราทำท่าธรรมดาก็พอไหว แต่ถ้าต่อเนื่องท่าอื่นด้วยมันค่อนข้างลำบากไปนิด...เอาสักคิงไซส์น่าจะกำลังดีว่าไหม”

   ธามบอกพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จนคงฟังหน้าแดงวาบ แต่ทั้งคู่ก็ต้องอุทานเบา ๆ อย่างตกใจ เมื่อรถยนต์ที่ขับนิ่ง ๆ อยู่เกิดกระตุกชั่วครู่ โดยที่คนขับนั้นกำลังตีหน้าบึ้งหนักอย่างไม่สบอารมณ์นัก

   “หึ ๆ สงสัยคงต้องไว้คุยกันหลังลงจากรถ ไม่งั้นอาจจะได้ไปไม่ถึงบ้านแน่”

   ธามเอ่ยแซวพิชญ์ ส่วนวิรัลยิ้มเจื่อน ๆ แต่ก็เห็นด้วยกับที่ธามบอก เพราะดูว่าพี่เลี้ยงของเขาจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใดนัก เด็กหนุ่มจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที

   “...อ๊ะ จริงสิพิชญ์ เรื่องบริษัทน่ะ จำเป็นไหมว่าฉันต้องออกไปทำงานที่บริษัทด้วย เราจะช่วยกันบริหารที่หมู่บ้านนั่นเลยได้ไหม”

   พิชญ์เหลือบมองเจ้านายของเขาผ่านกระจกหลังรถ เขาครุ่นคิดสักครู่ แล้วจึงตอบกลับไป

   “ผมก็คิดว่าจะใช้ที่คฤหาสน์ทำเป็นสำนักงานใหญ่เหมือนกันครับ ส่วนการติดต่อกับบริษัทลูก ก็จะทำการติดต่อระหว่างเครือข่ายของบริษัท เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของท่านวิรัล และทางคุณธามที่ผมจะแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยประธานบริษัทนับจากนี้ไปน่ะครับ”

   ธามชะงักเล็กน้อย เช่นเดียวกับชาคร เพราะไม่คิดว่าพิชญ์จะไว้ใจ ยกอำนาจบริหารมาให้พวกเขาซึ่งเป็นคนต่างเผ่าแบบนี้

   “ลำพังผมคนเดียวคงลำบากที่จะทำให้บริษัทก้าวหน้า ...ถ้าได้นักธุรกิจไฟแรงอย่างคุณมาช่วย ผมคิดว่าคงพอจะไหว  เพราะจากที่ตรวจสอบ ธุรกิจคลับที่คุณทำมันก็เจริญรุ่งเรืองโอเคอยู่ ...อ้อ ถ้าไม่จำเป็นอย่าเล่นตุกติกในการบริหารให้มันมากนัก ผมไม่อยากหาศัตรูมาเพิ่มให้บริษัทของเราเท่าไหร่ แค่นี้ก็ยุ่งยากพออยู่แล้ว”

   พิชญ์บอกตรง ๆ แต่นั่นกลับไม่ได้ทำให้ธามนึกโกรธ แต่กลับพึงพอใจที่อีกฝ่ายสามารถสืบรู้ข้อมูลของเขามาได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถที่พิชญ์มีอยู่

   “หึ ๆ ก็ได้ ...ฉันยินดีรับตำแหน่ง แต่ขอตำแหน่งเลขาส่วนตัวให้ชาครด้วยนะ ฉันไม่ถนัดทำงานกับคนอื่นเท่าเขานักหรอก”

   พิชญ์เหลือบมองคนพูดผ่านกระจกหลังรถ แล้วจึงถอนหายใจเบา ๆ

   “...ผมก็คิดว่าเขาน่ะเหมาะที่จะเป็นเลขาของคุณที่สุดแล้วล่ะ”

   “แล้วตัวนายล่ะพิชญ์ ไม่คิดเปลี่ยนตำแหน่งกันบ้างหรือ ตำแหน่งประธานบริษัทน่ะ นายเป็นแทนฉันไปเลยไม่ได้หรือไง”

   วิรัลแทรกขัดขึ้น ทำเอาอีกสามคนเงียบกริบ โดยเฉพาะพิชญ์ เขาตกใจจนเกือบจะเหยียบเบรก แต่สักพักก็ตั้งสติและชะลอความเร็วลงกว่าเดิม ระหว่างที่ถามกลับไป

   “ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับ ...ธุรกิจนี้เป็นของตระกูลเรา  ท่านวิรัลซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูล ก็สมควรจะเป็นประธานบริษัทก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ”

   วิรัลฟังแล้วก็ถอนหายใจ แล้วจึงบอกอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม

   “แต่หลังจากพ่อหายสาบสูญไป บริษัทของเราก็ได้นายคอยดูแลมาตลอด ถ้าไม่มีนาย มันคงเจ๊งไปแล้วก็ได้ เพราะฉันกับท่านย่าก็คงไปช่วยบริหารไม่ไหว ...ไม่ใช่แค่ตำแหน่งประธาน บริษัทนี้มันสมควรจะตกเป็นของนายด้วยซ้ำ”

   พิชญ์เงียบกริบ เขายิ้มน้อย ๆ อย่างตื้นตันใจที่วิรัลคิดกับเขาแบบนี้ ชายหนุ่มจึงเอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

   “ขอบคุณครับ... แต่การได้เห็นท่านประสบความสำเร็จมั่นคงในฐานะผู้นำของตระกูล  นั่นคือเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ของผมครับ”

   วิรัลฟังคำตอบแล้วก็ถึงกับนิ่งอึ้ง แล้วจึงน้ำตาซึมตามมาน้อย ๆ พร้อมกับเอ่ยพึมพำขอบคุณอีกฝ่าย  ด้านธามนั้นลูบศีรษะคนรัก แล้วจึงหันมายิ้มให้พิชญ์ผ่านทางกระจกมองหลังรถ พิชญ์ยิ้มตอบ  แล้วจึงขับรถไปเงียบ ๆ  ชาครเห็นดังนั้นจึงฮัมเพลงไปเบา ๆ ซึ่งก็สร้างความเพลิดเพลินให้ผู้ฟังที่เหลือ แม้แต่พิชญ์ยังไม่คิดจะให้อีกฝ่ายหยุด แต่กลับเลือกเงียบรับฟังไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเข้าเขตหมู่บ้านมโคที่พวกเขาอาศัยอยู่

 

   “ถึงสักที...บ้านของพวกเรา”

   วิรัลที่ลงจากรถ ยืนมองคฤหาสน์มฤคมาศของเขาด้วยแววตาเปี่ยมสุข เขาจำได้ดีว่า ตอนแรกที่มาถึงที่นี่ เขายังนึกเบื่อหน่ายที่จะต้องมารับผิดชอบตำแหน่งประมุขของเผ่าอยู่เลย ทว่าหากเขาไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านนี้ เขาก็คงไม่มีโอกาสจะได้พบกับธาม และผูกสัมพันธ์ต่อกันแน่นแฟ้น อย่างที่เป็นอยู่นี้แน่

   “พิชญ์ เดี๋ยวให้คนขนของของคุณธามมาไว้ห้องฉันเลยนะ  ฉันจะได้คอยดูแลอาการบาดเจ็บของเขาได้สะดวกหน่อย”

   วิรัลหันไปบอกพี่เลี้ยงคนสนิท พิชญ์ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกระแอมเบา ๆ แล้วค่อยตอบ

   “ก็ได้อยู่หรอกครับ แต่ไอ้เตียงคิงไซส์นั่น คงปุบปับเอามาเลยไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องรอสองสามวันนะครับ”

   วิรัลพยักหน้า แต่ชาครกับธามมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ

   “แค่เตียงคิงไซส์ หาซื้อจริง ๆ ก็ไม่ยากนักไม่ใช่หรือ”

   พิชญ์มองชาครที่เป็นฝ่ายถามเขา แล้วจึงตอบกลับไปอย่างนึกหมั่นไส้นิด ๆ

   “ถ้ากับแค่เตียงทั่วไป ก็คงยังไงก็ได้ แต่เตียงสำหรับท่านวิรัล จะสั่งทำจากร้านเจ้าประจำเท่านั้น  เพราะต้องเลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุด รวมไปถึงฝีมืองานไม้ที่ประณีต ไม่เหมือนกับพวกที่ขายตามร้านทั่วไปนั่นหรอก”

     ธามผิวปากหวืออย่างนึกทึ่ง แม้กระทั่งชาครเองยังถึงกับต้องยอมรับในความละเอียดพิถีพิถันของพี่เลี้ยงหนุ่มผู้นี้ทีเดียว

   “มิน่า…วิรัลถึงโตมาแบบคุณชายแบบนี้ ก็เล่นเลี้ยงกันมาเสียแบบนี้ไงล่ะ ...อืม แต่ก็ยอมรับล่ะนะ ว่าเตียงของวิรัลนี่ยืดหยุ่นใช้ได้ ไม่ว่าจะอยู่บนอยู่ล่าง ก็ไม่ทำให้เมื่อยเท่าไหร่ จริงไหม”

   ธามหันไปถามคนรัก ซึ่งตอนนี้หน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสู้หน้า ส่วนพิชญ์ก็ยิ่งทวีความหมั่นไส้มากขึ้น แล้วจึงบอกกระแทกเสียงเบา ๆ

   “เชิญคุณไปพักผ่อนได้แล้ว ...ท่านวิรัล ถ้าหิวอีกเดี๋ยวผมจะให้คนนำอาหารเช้าไปให้นะครับ”

   พิชญ์บอกกับเจ้านายของเขา เพราะระหว่างทางก็แวะปั๊มซื้ออาหารกินง่าย ๆ รองท้องกันเพียงแค่นั้น

   “ฉันอิ่มแล้วล่ะ ...แต่คุณชาครกับคุณธามอาจจะหิว”

   “ผมซัดขนมปังมาเต็มที่แล้วครับ เช้านี้สบายมาก ขอบคุณที่เป็นห่วง”

   ชาครเอ่ยขัดพร้อมกล่าวขอบคุณ  ส่วนธามนั้นตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

   “ส่วนฉันหิวเธอมากกว่า แต่ร่างกายแบบนี้คงกินลำบากหน่อยล่ะนะ”

   “สรุปไม่มีใครรับอาหารเช้านะครับ! ถ้าอย่างนั้นเชิญขึ้นด้านบนเถอะครับ ก่อนที่ใครบางคนจะพูดอะไรไม่รู้จักคิด ให้บ่าวไพร่ได้ยินไปนินทากันเสียเปล่า ๆ”

   พิชญ์ตัดบทอย่างหมั่นไส้กึ่งรำคาญ ด้านธามนั้นหัวเราะเบา ๆ ส่วนวิรัลหน้าแดงหนักยิ่งขึ้น จากนั้นพวกเขาก็กลับขึ้นไปที่ห้องของวิรัล ใช้เวลาไม่นานนัก ของจากห้องของธามก็ย้ายมาอยู่ที่ห้องวิรัลจนหมด  เนื่องจากเสื้อผ้าต่าง ๆ ก็เพิ่งซื้อมาใหม่ไม่กี่ชุด ส่วนเสื้อผ้าเก่าและของใช้ติดกายมาจากครั้งเมื่อพักรีสอร์ทของม่านฟ้าก็มีเพียงแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น 

   “ต่อแต่นี้ไป พวกเราก็จะได้อยู่ด้วยกันจริง ๆ แล้วนะครับ...”

   วิรัลที่บังคับธามให้นอนพักบอกกับอีกฝ่าย ตอนแรกเขาลากเก้าอี้นวมแถวนั้นมานั่งข้าง ๆ แต่ธามบอกว่าอยากให้มาอยู่ข้าง ๆ กัน วิรัลจึงขึ้นมาบนเตียงแล้วนอนอิงแอบข้างกายของชายหนุ่มแทน

   “นั่นสิ....ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะเป็นแบบนี้ได้  เพราะตั้งแต่รู้ว่าเธอเป็นมฤคมาศ ฉันก็หมดหวังไปกว่าครึ่งแล้ว ยิ่งรู้ว่าเธอมีคู่หมั้นคู่หมาย แถมพ่อของเธอยังเคยถูกพวกเราโจมตี ฉันก็ยิ่งหมดหวังไปทุกที ...”

   ธามเปรยกับอีกฝ่าย แล้วพลิกกายมาสบตากับเด็กหนุ่ม พร้อมกับเอ่ยต่อมา

   “แต่เพราะรักเหลือเกิน ...รักจนไม่สามารถตัดใจได้  ดังนั้นต่อให้หมดหวัง หรือจะอยู่เคียงข้างกันไม่ได้ก็ช่าง ...แต่ฉันก็ตั้งใจว่าจะขอรักเธอไปคนเดียวตลอดชีวิตของฉัน”

   วิรัลรับฟังคำบอกรักของอีกฝ่ายอย่างปลาบปลื้มใจ เด็กหนุ่มซุกซบใบหน้าพิงอกกว้างของอีกฝ่ายเบา ๆ และพึมพำตอบคนรักเสียงแผ่ว

   “ผมเองก็เหมือนกันครับ...ต่อให้สถานการณ์พลิกผันเปลี่ยนไป ... ผมอาจจะต้องแต่งงาน มีลูก และไม่อาจจะพบคุณได้อีก ...แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็จะมีคุณเพียงคนเดียวในหัวใจตลอดไปเช่นกัน”

   ธามยิ้มรับอย่างเป็นสุข ทั้งคู่ประคองกอดกันไปแบบนั้น จนกระทั่งเผลอหลับไปด้วยกันในที่สุด



   อีกด้านหนึ่งชาครที่กำลังนอนพักอยู่ในห้อง ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู พอเปิดประตูออกมาก็พบพิชญ์ยืนหน้าบึ้ง มืออีกข้างถือกล่องยาขนาดย่อมใบหนึ่ง

   “จะมาทำแผลให้”

   ชาครเลิกคิ้วน้อย ๆ อย่างประหลาดใจ แล้วย้อนถาม

   “ใจดีแบบนี้แปลกแฮะ มีอะไรเคลือบแฝงหรือเปล่า”

   พิชญ์ชะงักเล็กน้อย แล้วจึงขมวดคิ้วยุ่งอย่างหงุดหงิดตามมา

   “ถ้าไม่อยากให้ช่วย ก็ทำเอง!”

   ชายหนุ่มยื่นกล่องยาให้อีกฝ่าย ทำเอาชาครต้องอมยิ้มแล้วยกมือขอโทษขอโพยตามมายกใหญ่

   “ขอโทษ ๆ  ช่วยทำให้หน่อยแล้วกัน ฉันทำคนเดียวไม่สะดวกหรอก”

   พิชญ์ค้อนนิด ๆ อย่างหมั่นไส้ แต่ก็เดินนำอีกฝ่ายไปที่เตียง แล้วให้ชาครนั่งลง ส่วนเขาก็ค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลเดิมออก และเมื่อได้เห็นแผล เขาก็นิ่วหน้าอย่างไม่สบอารมณ์นัก

   “นี่นะ ขีดข่วนนิด ๆ หน่อย ๆ  บ้าจริง...เย็บไปกี่เข็มน่ะ”

   “เกือบยี่สิบเข็มได้มั้ง”

   ชาครตอบตามตรง ทำเอามือของคนที่แกะผ้าพันแผลที่เหลือชะงักนิด ๆ

   “บ้าระห่ำไม่เข้าเรื่อง...เนื้อหนังพวกวกะก็ใช่ว่าจะเหนียวอะไรมากมาย  อีกอย่างนักรบมโคที่นายหญิงมี ก็ล้วนแต่พวกมีฝีมือทั้งนั้น”

   ชาครอมยิ้ม แม้จะบ่นไม่หยุด แต่อีกฝ่ายก็ยังคงทำแผลต่อให้เขาอย่างเบามือและระมัดระวังไม่ให้แผลนั้นกระทบกระเทือน จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อย

   “ขอบคุณนะ”

   “ฮึ! ก็แค่กลัวหายช้า จนฉันไม่มีคนช่วยทำงานก็แค่นั้นเอง!”

   พิชญ์ตอบกลับไปเสียงห้วน แล้วจึงเก็บผ้าพันแพลเก่าไปทิ้งถังขยะในห้อง ก่อนจะกลับมายกกล่องยาเตรียมจากไป ทว่าคนบนเตียงก็ทักขึ้นเสียก่อน

   “แล้วอย่าลืมกินยาก่อนอาหารกลางวันนี้ด้วยล่ะ”

   พิชญ์ชะงัก แล้วตอบกลับเสียงห้วน

   “รู้แล้วน่า! ฉันไม่ใช่เด็กนะ ถึงต้องย้ำบ่อย ๆ”

   “ครับ ๆ  ...จริง ๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่เด็ก แต่ที่ย้ำก็แค่เป็นห่วง กลัวนายจะหายช้าก็แค่นั้นล่ะ”

   พิชญ์ชะงัก ก่อนจะหน้าแดงนิด ๆ แล้วรีบโพล่งใส่ออกไปเสียงดังเพื่อแก้เขิน

   “ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอกน่า! ห่วงตัวเองดีกว่า แผลขนาดนี้ ก็ต้องกินยาเหมือนกันนั่นล่ะ เดี๋ยวฉันจะให้แพทย์ประจำหมู่บ้านจัดยามาให้ แล้วนายก็ต้องกินด้วยนะ!”

   จากนั้นอีกฝ่ายก็รีบจ้ำฝีเท้าออกจากห้องไป ทิ้งให้ชาครมองตามด้วยความเอ็นดู และเริ่มรู้สึกว่า ตนเองคงจะสนใจพิชญ์เข้าให้แล้วจริง ๆ ก็เป็นได้


… TBC …


ช่วงนี้เรื่องก็จะหวาน ๆ ปกติสุขดี ก็คงจะตัดพักไปสักช่วงหนึ่งนะคะ  เดี๋ยวจะวกกลับมาดราม่า พร้อมกับเปิดเข้าสู่บทการต่อสู้ครั้งสุดท้ายอีกครั้งค่ะ  แต่ก็คงอีกนาน แล้วแต่ความขยันค่ะ  ช่วงนี้ขอพักไปเขียนงานแฟนตาซีสักระยะ แต่ไม่ทิ้งนานหรอกค่ะ เดี๋ยวจะต่อไม่ติด คงสักอาทิตย์สองอาทิตย์ราว ๆ นั้นค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ  :L2:



ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
หวานมากๆอ่ะ :o8:
ปอลิง รอดูคู่พิญกับชาคร อิอิ
ปอลิง2 ยังมีดราม่าอีกเหรอ o22 o22
   

เค้ารออ่านต่ออยู่น๊า :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
เขารออ่านต่ออยู๋น้า

เข้ามาอ่านรอบเดียวยาวเลย 5555

อย่าเพิ่งดราม่าเลยนะ

วิรัลสู้ๆๆ ธามสู้ๆๆ

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
พ่อมโคปากหนัก เป็นห่วงเขาก็บอกว่าเป็นห่วงสิจ๊ะ
(แต่ถ้าไม่ปากหนักก็คงจะไม่หลงขนาดนี้ >////<)
คุณเลขาเขามาแบบนิดหน่อยแต่ปิดตอนแบบแย่งซีนมากเลยค่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
หุหุ พิชญ์เขินน่ารักอ่ะ เขินแบบโหดๆ ฮ่าๆๆๆ
โล่งอก สุดท้ายคุณย่าก็ยอมจนได้ ดีใจแทนวิรัลกะธามจริงๆ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ลุ้นคู่พิชญ์สาคร ดูน่ารัก อบอุ่นดี ส่วนคู่หลักก็ซึ้งกันตลอด ดราม่าครั้งใหญ่รู้สึกหวั่นใจแปลกๆ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อั่นแน่ ชาคร!!! ฮิ้วว  :-[

ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
 o13 o13   อิอิ

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ได้รับการยอมรับจากท่านย่าวิรัลก็สบายใจไปหน่อยละนะ แต่ว่าชาครกับพิชญ์ละเมื่อไหร่จะลงเอยกันนะ

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
พิชญ์น่ารัก :laugh:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ระหว่างยังเขียนแฟนตาซีอีกเรื่องไม่คืบหน้า จึงนำบทสั้นคั่นเวลาก่อนจะเริ่มสู้การต่อสู้ครั้งใหม่ จะมาถึง

อาจจะสั้นไปนิด แต่ก็คิดว่ามันคงพอจะแสดงให้เห็นถึงอะไรหลาย ๆ อย่างที่ตามมาในตอนต่อ ๆ ไป  ...ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ยังคงติดตามอ่านกันตลอดมาจนถึงตอนนี้นะคะ  :L2:

-----------------------------------------------



/21





    ธามและชาครมาอยู่ที่บ้านของวิรัลได้สองอาทิตย์แล้ว พวกเขาพักฟื้นจนหายสนิทและช่วยเหลืองานในบริษัทของวิรัล ที่ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานให้เอื้อต่อความปลอดภัยของผู้บริหาร   ด้วยความอัจฉริยภาพของพิชญ์ และกำลังทรัพย์ของตระกูล พวกเขาก็จัดการเรื่องทั้งหมดได้อย่างเรียบร้อย โดยไม่มีสิ่งใดติดขัด

      ช่วงบ่าย ๆ ของวันอาทิตย์ ขณะที่วิรัลกับธามกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในห้องนอน  พวกเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อพิชญ์รายงานว่า มีแขกพิเศษมาขอพบพวกเขา และพอได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร วิรัลก็รีบชวนธามลงไปยังห้องรับแขกทันที

   “คุณม่านฟ้า! คุณอำมฤต! สวัสดีครับ”

   วิรัลทักทายอดีตคู่หมั้นของเขา ม่านฟ้ายิ้มแย้ม แล้วจึงโค้งให้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อม จนวิรัลต้องรีบห้าม

   “ดิฉันอยากขอบคุณท่านจริง ๆ ค่ะ ที่ช่วยพูดเรื่องของดิฉันให้ท่านพ่อทราบ ...แต่ดิฉันก็ลำบากพอดูเหมือนกัน กว่าจะทำให้ใครบางคนยอมรับดิฉัน ...พูดก็พูดเถอะค่ะ ดิฉันออกจะมั่นใจว่าตัวเองเพียบพร้อมในทุกสิ่ง แต่กับคนที่ตัวเองรัก เขากลับไม่แลเลยค่ะ รู้สึกลำบากใจจริง ๆ”

   ม่านฟ้าแสร้งเปรยดัง ๆ ทำเอาอำมฤตหน้าแดงก่ำ แล้วรีบกระแอมเบา ๆ เป็นการเตือนให้เด็กสาวหยุดพูดถึงเขาแบบนั้นสักที

   “ง่า...แล้วเรื่องของพวกคุณล่ะครับ”

   วิรัลถามอย่างลังเล แล้วเหลือบมองอำมฤตที่หลบสายตาของเขาด้วยความเขิน

   “ท่านพ่อรับรู้และยอมรับเรียบร้อยแล้วค่ะ ...แต่คนที่ดิฉันอยากจะให้ยอมรับจริง ๆ กลับเล่นตัวบ่ายเบี่ยงเสียจนดิฉันแทบหมดหวัง  พอหวนคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้หญิงที่โดนคู่หมั้นถอนหมั้น  แถมคนที่ชอบก็ยังมาปฏิเสธตัวเองอีก แล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องจังเลยค่ะ”

   “ไม่ใช่นะครับ!”

      คนโดนกล่าวหารีบตะโกนขึ้นมาทันที ทำเอาทุกคนนิ่งอึ้ง อำมฤตชะงัก แล้วจึงพึมพำตอบเบา ๆ ทั้งที่ใบหน้ายังคงแดงระเรื่อ

      “ผมยังไม่ได้ปฏิเสธท่านเลยนะครับ....เพียงแต่...เกรงว่า คนอื่นจะมองท่านไม่ดี ที่มาเลือกคนรับใช้อย่างผมเป็นคู่รัก...”

   “แต่ดิฉันไม่แคร์นี่คะ! คุณอำมฤต...ไม่สิ พี่น้ำของดิฉันออกจะหนุ่มแน่น ไฟแรง เก่งบริหาร แต่ไม่ชอบแสดงความสามารถ คนไม่รู้อยากจะพูดอะไรก็ให้เขาพูดไป  ...ที่สำคัญนะคะ ตอนนี้ตระกูลของท่านวิรัล กำลังเร่งปฏิรูประบบบริษัททั้งหมดใหม่  แล้วตระกูลพงศ์พิสุทธิ์ ที่อาจจะได้เปลี่ยนขั้วอำนาจมาเป็นประมุขในอนาคต ถ้าสู้เรื่องธุรกิจเขาไม่ได้ เราก็เสียเปรียบแย่สิคะ... เพราะฉะนั้นพี่น้ำก็อย่ามัวแต่คิดน้อยเนื้อต่ำใจเลยค่ะ รีบรับรักดิฉัน แล้วมาช่วยกันบริหารธุรกิจของตระกูลเราดีกว่านะคะ!”

      พอฟังม่านฟ้าพูดจบ อำมฤตก็หน้าแดงก่ำ แล้วอุบอิบกระซิบเบา ๆ แต่ม่านฟ้าที่อ่านริมฝีปากของอีกฝ่ายออก ก็ต้องแย้มยิ้มอย่างยินดี  ทว่าทางด้านวิรัลนั้นถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ แม้แต่ธามยังแอบคิดว่า เด็กสาวคนนี้ถ้าเป็นศัตรูทางธุรกิจก็ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวคนหนึ่ง เพราะเรื่องปฏิรูปบริษัท พวกเขาไม่ได้ทำกันอย่างเปิดเผยแต่อย่างใด ทว่าเจ้าหล่อนก็สามารถสืบรู้เรื่องราวได้ แสดงว่าคอยติดตามธุรกิจตระกูลของวิรัลมาโดยตลอด

   “ถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นพันธมิตรกันมากกว่านะครับ ท่านม่านฟ้า”

   พิชญ์เอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ แม้ในใจจะคิดไม่แตกต่างจากธามนักก็ตาม ส่วนชาครหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ และคิดว่าหากสองตระกูลนี้เป็นพันธมิตรกัน คงไม่มีตระกูลไหนในหมู่มโค มานำหน้าไปได้แน่

   ทางด้านม่านฟ้าพอได้ฟังพิชญ์พูดแบบนั้น เธอก็ชะงัก ก่อนจะหัวเราะเสียงใส แล้วจึงตอบกลับออกไป

   “...ดิฉันก็คิดแบบนั้นล่ะค่ะ  วันนี้ก็เลยมาเสนอโครงการใหม่ของบริษัทดิฉัน กับทางท่านวิรัล เป็นการลงทุนร่วมกันระยะยาวค่ะ  ดิฉันอยากมาพูดคุยกันล่วงหน้า และตั้งใจจะมาขอบคุณเรื่องที่ท่านเคยช่วยเหลือมาด้วย  และหากท่านตกลง การเจรจาแบบจริงจังจึงจะตามมาในภายหลังค่ะ”

   ทั้งหมดพยักหน้ารับรู้ และพูดคุยปรึกษากันถึงโครงการใหม่ของม่านฟ้า ที่พวกวิรัลฟังแล้ว ก็นึกสนใจร่วมลงทุนด้วย เพราะมันไม่เพียงเอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองตระกูล แต่จะยิ่งทำให้เผ่ามโคขึ้นไปอยู่ด้านแนวหน้าของแวดวงธุรกิจในไทยได้อย่างไม่ยากนัก และหากเป็นผู้ปกครองระบบเศรษฐกิจ เผ่าอื่นที่คิดร้ายต่อผู้นำเผ่าของพวกเขาก็จะยิ่งลดลง... เพราะทุกวันนี้ กลุ่มอมนุษย์ทั้งหลาย ต่างก็อยู่อาศัยปะปนกับมนุษย์ทั่วไป และเริ่มพึ่งพากลไกความเป็นอยู่ในแบบมนุษย์มากขึ้น  สิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขาก็คือ เงินตรา และอำนาจ ในหมู่มนุษย์นั่นเอง

   แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอยู่เพียงไม่กี่เผ่า ที่ไม่สนในกลไกที่ว่ามา และคิดจะโค่นล้มอำนาจพวกอมนุษย์เผ่าต่าง ๆ ให้เหลือเพียงเผ่าของตนเพียงเผ่าเดียวเท่านั้นอยู่ดี!



   ภายในห้องนอนหรูชั้นบนสุดของคอนโดสูงกลางเมือง ร่างสูงใหญ่ กำยำ เปลือยเปล่าของชายหนุ่มวัยกลางคนผู้หนึ่ง กำลังนั่งกึ่งนอนเอนจิบไวน์ที่ชายหนุ่มอีกคนรินมาให้ และหลังจากยื่นไวน์ให้แล้ว เจ้าตัวก็เริ่มถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่ออก จนเหลือแต่เพียงร่างกำยำแข็งแรงได้สัดส่วนชวนมอง ร่างนั้นขยับขึ้นไปบนเตียงช้า ๆ อย่างเย้ายวน ชวนให้คนที่นอนถือแก้วไวน์กลืนน้ำลายลงคออย่างหื่นกระหายที่จะได้ลิ้มชิมรสคนตรงหน้า

   “...เดี๋ยวสิครับ เวลายังเหลืออีกตั้งมากมาย จะรีบร้อนไปไหน”

   น้ำเสียงทุ้มชวนฟังเอ่ยปราม เมื่อมือใหญ่หนาของอีกฝ่ายเอื้อมมาลูบไล้ร่างเปลือยเปล่าของตน

   “เวลามากมายที่ไหน ...เวลาแทบจะไม่มีต่างหาก พักนี้เธอไม่ค่อยว่างมาหาฉันเลยนะ ...กำลังยุ่งกับการขึ้นรับตำแหน่งประมุขคนใหม่อยู่ล่ะสิท่า”

   คนฟังหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงแสร้งทำเป็นลูบไล้แผ่นอกกว้างเปลือยเปล่านั่นแผ่วเบาอย่างประจบ

   “นั่นก็เรื่องหนึ่งครับ...ส่วนอีกเรื่อง ก็คือกำลังยุ่งกับการวางแผนต้อนรับวันเปิดตัวของคุณ ในวันที่ผมจะรับตำแหน่งประมุขต่างหาก เรื่องหลังนี่คงต้องเตรียมการให้รอบคอบ ไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้แม้แต่นิดเดียว”

   ท้ายประโยคเจ้าตัวเอ่ยเสียงแผ่วลง ทว่านัยน์ตาคมกริบฉายประกายเย็นชาและโหดเหี้ยม อย่างที่ทำให้คนมองอยู่รู้สึกชื่นชมและพึงพอใจ

   “เธอนี่มันน่ารักจริง ๆ นะ ‘พิภพ’ น่าเสียดาย ถ้าเธอเป็นคนของเผ่าครุโฬโดยกำเนิดก็คงดี  ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันจะสนับสนุนเธออย่างออกหน้าออกตาได้เต็มที่กว่านี้ทีเดียว”

   พิภพแย้มยิ้มน้อย ๆ มองชายวัยกลางคนเบื้องหน้าเขา ที่แม้จะอายุจากใบหน้าจะคล้ายดังมนุษย์อายุราว 45 – 50 ปี ทว่ามีแต่คนที่รู้จักอีกฝ่ายดีเท่านั้น จึงจะทราบว่าเจ้าตัวแข็งแกร่งปานใด

   “แค่ได้เป็นที่ถูกใจของคุณ ผมก็พอใจแล้วล่ะครับ...คุณภูธิป”

   “หึ ๆ เด็กดี...”

   ภูธิปวางแก้วไวน์ลงบนหัวเตียง ใบหน้าคมเข้มโน้มเข้าใกล้ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของอีกฝ่ายแล้วค่อย ๆ บรรจงจุมพิตริมฝีปากได้รูปนั้นอย่างช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ กระชับเข้าหากัน จากนั้นจึงเริ่มต้นจุมพิตเร่าร้อนและดูดดื่มอยู่เนิ่นนาน จนกระทั่งทั้งคู่ผละออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง

   “ไม่ต้องห่วงนะพิภพ...ถ้าตราบใดที่เธอยังจงรักภักดีกับฉัน  ฉันจะมอบทุกสิ่งที่เธอต้องการให้เอง...อืม”

   น้ำเสียงทุ้มหลุดครางแผ่วเบา เมื่อถูกอีกฝ่ายเล้าโลมแก่นกายของเขาอย่างเชี่ยวชาญชำนาญ ความต้องการผงาดขึ้นโดยง่าย และนั่นก็ทำให้พิภพที่ถอนริมฝีปากออกมาจากเจ้าสิ่งนั้นแย้มยิ้ม พร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตนช้า ๆ

   “ผมขอนะครับ...คุณภูธิป”

   พิภพบอกเสียงกระเส่า เขาค่อย ๆ ใช้นิ้วเรียวยาวของตน เบิกปากทางเข้าของตนเองช้า ๆ แล้วจึงขยับขึ้นนั่งคร่อมร่างนั้น พลางนำบั้นท้ายไปจดจ่อขยับไปมาที่แก่นกายตั้งตระหง่านของอีกฝ่าย

   “ได้ตามที่เธอต้องการเลย... เด็กดีของฉัน”

    ภูธิปบอกพลางกระเด้งสะโพกสวนกลับไปเต็มแรง จนร่างที่นั่งคร่อมอยู่ด้านบนกระตุกเกร็งนิ่ง ทว่าเพียงแค่ชั่วครู่ร่างนั้นก็เริ่มต้นขยับขึ้นลง และเป็นฝ่ายคุมเกม จนร่างที่นอนบนเตียงถึงกับกลั้นเสียงครางอย่างเป็นสุขเอาไว้ไม่ไหว เจ้าตัวปล่อยให้ชายหนุ่มต่างวัย เป็นฝ่ายปรนเปรอความสุขให้อย่างเต็มที่ จวบจนกระทั่งพิภพพอใจ เขาจึงหยุดพัก แล้วขยับกายมานอนข้างเคียงร่างสูงใหญ่อย่างอ่อนเพลียเล็กน้อย

   “เธอนี่มันร้อนแรงเสมอเลยนะพิภพ... ทำกับใครก็ไม่เต็มอิ่ม เท่าได้ทำกับเธอเลยรู้ไหม”

   ร่างสูงกำยำพลิกกายตะแคงข้างกลับมา ใบหน้านั้นโน้มมาจุมพิตหน้าผากชื้นเหงื่อของอีกฝ่ายอย่างรักใคร่ พิภพแย้มยิ้มหวาน แล้วจูบปลายคางหนุ่มใหญ่อย่างประจบ

   “กลัวแต่ว่าเจอคนใหม่ร้อนแรงกว่า ก็จะไปพูดคำพูดเดิม ๆ กับคนอื่นแทนน่ะสิครับ”

   ภูธิปแย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วรวบร่างคนข้างกายมากอดหลวม ๆ

   “หึงด้วยหรือ...”

   “ก็หึงสิครับ...ก็หลงรักคุณไปแล้วนี่นะ”

   พิภพตอบยิ้ม ๆ ทำให้คนฟังยิ้มตอบอย่างพึงพอใจ จากนั้นพวกเขาก็พูดจาหยอกล้อกันต่ออีกเล็กน้อย เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น

   “ขออภัยครับท่านพิภพ  แต่ทางผู้คุ้มกฎอาวุโสแจ้งมาว่า วันนี้ตอนห้าโมงเช้า  ท่านต้องเข้าร่วมประชุม กับท่านประมุขและผู้คุ้มกฎคนอื่น ๆ น่ะครับ”

   เสียงเลขาคนสนิทของพิภพรายงานจากด้านนอก พิภพถอนหายใจออกมาแผ่วเบา ส่วนภูธิปมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก

   “อย่าโกรธสิครับ...คุณก็รู้ว่าช่วงนี้ผมต้องเคลียร์เรื่องเผ่าให้เรียบร้อย...ไว้ถึงวันนัดของเราเมื่อไหร่...ตอนนั้นผมก็มีเวลาให้คุณเสมอแล้วล่ะครับ”

   พิภพบอกกับคนข้างกายพร้อมจูบริมฝีปากอีกฝ่ายอย่างประจบ ทำให้หนุ่มใหญ่เริ่มอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม

   “ขอบคุณที่บอกนะกฤต  เดี๋ยวสักอีกชั่วโมงฉันถึงจะลงไป”

   พิภพบอกกับคนนอกประตู เสียงตอบรับด้านนอกดังขึ้นแผ่วเบา จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเดินห่างจากไป พิภพหันมายิ้มกับภูธิป แล้วจึงชักชวนอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเย้ายวน

   “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปอาบน้ำกันก่อนดีไหมครับ ผมจะได้ช่วยนวดผ่อนคลาย ให้คุณด้วยยังไงล่ะ”

   ภูธิปยกยิ้มน้อย ๆ อย่างพึงพอใจ เขาประคองร่างเปลือยข้างกายไปด้วยกัน จากนั้นจึงปล่อยให้พิภพคอยเอาใจนวดเฟ้นให้เขาผ่อนคลาย และภูธิปจึงตอบแทนชายหนุ่มโดยการมอบความสุขให้อีกฝ่ายจนปลดปล่อยไปด้วยกันอีกรอบ จนกระทั่งถึงเวลาหนึ่งชั่วโมงที่พิภพบอกคนสนิทเอาไว้ พวกเขาจึงใช้เวลาอาบน้ำกันจนเสร็จ  พิภพจึงแยกย้ายไปทำธุระสำคัญของเขาต่อ และให้สัญญาว่าจะกลับมาพบภูธิปในเร็ววันนี้ อีกครั้งแน่นอน

   

   
... TBC ...

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
แง่วววววว พี่พิภพ เธอแรงดีจริงๆนะ

อ่าาางานนี้ธามก็งานหนักสินะ เฮ้อออ

ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
 o22  พิภพเป็นแบบนี้เองหรอ

เอาใช่ช่วยธามกะวิรัล ขอให้อย่ามีอุปสรรคร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นอีกเลย

กว่าจะได้รักกัน กว่าจะผ่านด่านท่านย่ามาได้

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
หวังว่าพิภพคนนนี้จะไม่นำเรื่อง
เดือดร้อนมาให้ธามกับวิรัลนะ
น่าเป้นห่วงจังเลย งือออออ :z3:  :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด