ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ  (อ่าน 406674 ครั้ง)

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ภูธิปเป็นตัวละครที่เพิ่งออกมาใหม่ตอนนี้จ้ะ  เป็นหัวหน้าเผ่าครุโฬ ค่ะ  ถ้าใครยังจำได้ ปัดเขียนถึงเผ่าครุโฬอยู่ 2 - 3 ครั้ง เป็นเผ่าอมนุษย์ที่แข็งแกร่ง ที่มีอุดมการณ์ทำลายเผ่าอื่นให้หมด ยกเว้นเผ่าตัวเองค่ะ

edit:  ครุโฬ  อ่านว่า    คะ-รุ-โร   แปลว่า   สัตว์ผู้จับงู,  ครุฑ 

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
พิภพเป็นคนรักของภูธิป งั้นก็แสดงว่าพิภพยอมจะทำลานเผ่าตนเองเพื่อที่รักหรอ

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 เฮื่อกกก!!!  เเย่เเว้ววววววววววว                                               ปอลิง  พิภพ จะร้อนแรงไปไหนค๊าาา ทำเค้ากำเดาไหลเลยอ่ะ :m25: :m25:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
พิภพร้ายมากเลย ดันไปเป็นอีหนูของเขาซะได้
แต่ยังมีผลประโยชน์ร่วมกันแบบนี้ท่าทางจะได้อยู่กันยาวหน่อย(มั้ยเนี่ย)
เฮ้อออ กลัวว่าจะถูกภูธิปหักหลังจัง เพาะคงจะไม่ยอมให้ใครเหนือกว่าเผ่าตัวเองแน่
มาคั่นเวาแบบนี้ก็ดีนะคะ จะได้หายคิดถึงคุณพิชญ์>////<

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เป็นอย่างที่คิด เฮ้อเศร้าใจจัง

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เอิ่ม ถ้าอีกฝ่ายซัก 30-35 ก็ยังพอจิ้นไหว
แต่นี่แบบ ห้าสิบอ่ะ พิภพรู้สึกจะเด็กกว่าเยอะหนิ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
แบบนี้นี่เอง ถ้าสองฝ่ายจับมือกัน
ฝั่งวิรัล กะ ธาม คงแย่เอาการเหมือนกันนะ
ขอให้ผ่านไปด้วยดีเถอะ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
พอดีคิดว่าบทที่แล้วมันสั้นไป ตอนเมื่อวานยังคิดอะไรไม่ออก พอมาอีกวันสมองโล่งก็เลยมาต่อเรื่องราวอีกนิดหน่อยของพิภพค่ะ แต่ในต้นฉบับ ตอนนี้จะไปต่อท้ายบทที่ 21 รวมกันเป็นบทเดียวนะคะ แต่ที่บอร์ดแยกแปะ เพราะปัดกลัวคนที่อ่านแล้วตกหล่นค่ะ

----------------
21.5


   พอพิภพขึ้นรถยนต์ส่วนตัว  ชายหนุ่มก็ให้คนสนิทขับรถตรงไปที่คอนโดของเขาที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ประชุมเผ่า  กฤตเหลือบมองผู้เป็นนายจากกระจกมองหลัง แล้วจึงรับคำค่อย ๆ ก่อนจะปฏิบัติตามอย่างไม่โต้แย้ง ส่วนพิภพก็หลับตานิ่งมาตลอดจนกระทั่งถึงที่พักของเขา

   “ฉันจะอาบน้ำสักครู่ แล้วเดี๋ยวขอกาแฟดำสักแก้วก็พอ”

   “ครับ...ท่านพิภพ”

   กฤตรับคำแล้วจึงเดินไปต้มน้ำชงกาแฟให้ผู้เป็นนายตามคำสั่ง ส่วนพิภพนั้นก็ถอดชุดเดิมออก แล้วตรงเข้าไปอาบน้ำ เขาเปิดน้ำฝักบัวรินรดร่างกายของตน พร้อมกับใช้มือขัดตามผิวกายไปทั่วค่อนข้างแรง ใบหน้าแสดงถึงความรังเกียจออกมาให้เห็นชั่วครู่ ก่อนจะกลับกลายเป็นเย็นชาตามเดิม และเมื่อเขาออกมาจากห้อง สูทชุดใหม่ก็ถูกจัดเตรียมไว้ พร้อมกับกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น จากบนโต๊ะอาหารในครัว

   “จะให้ผมยกกาแฟมาเสิร์ฟที่ห้องนอนเลยไหมครับ”

   กฤตเอ่ยถามผู้เป็นนาย ซึ่งอีกฝ่ายก็โบกมือค่อย ๆ

   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปดื่มที่ครัวเอง”

   ชายหนุ่มโค้งรับคำแล้วถอยออกไปจากห้องนอน ไปรออยู่ด้านนอก ทุกครั้งที่เจ้านายของเขาไปแอบนัดพบกับภูธิปเผ่าครุโฬ พิภพก็มักจะมีอารมณ์ขุ่นมัวกลับมาเสมอ และบางครั้งก็เงียบขรึมจนยากจะเดาใจได้

   และเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้ว พิภพก็ตามมาดื่มกาแฟที่ห้องครัว ทางด้านกฤตนั้นจ้องมองเจ้านายของเขาเงียบ ๆ ทว่าก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายรู้สึกตัวแล้วหันกลับมามอง

   “มีอะไรหรือกฤต”

   “เอ่อ...คือผม...”

   คนสนิทหนุ่มอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจ เพราะเกรงว่าผู้เป็นนายจะไม่พอใจเข้า ทางด้านพิภพยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้นเบา ๆ แทนอย่างรู้ทัน

   “นายกังวลเรื่องของพวกครุโฬอย่างนั้นสินะ”

   กฤตสะดุ้งเฮือกที่ถูกอีกฝ่ายพูดแทงใจดำ เขาก้มหน้าน้อย ๆ แล้วจึงตัดสินใจเอ่ยถามออกไป

   “ท่านจะมั่นใจได้หรือครับ ว่าพวกนั้นจะรักษาคำสัตย์ ให้เผ่าเราเป็นเผ่าในอาณานิคมของพวกมัน และไม่ทำลายเข่นฆ่าพี่น้องร่วมเผ่าของเราจริง ๆ”

   พิภพมองคนสนิทของเขา แล้วจึงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ทว่านัยน์ตาคมกริบนั้นไม่ได้ขบขันด้วยเลยแม้แต่น้อย มันเย็นชาจนน่าขนลุกทีเดียว

   “เรื่องพวกนั้นช่างหัวมันสิ...มันอยากจะเกิดอะไรก็ให้มันเกิดไป ...ฉันก็แค่ต้องการเห็นคนคนนั้นเจ็บปวดก็แค่นั้นเอง...สิ่งที่ฉันต้องการก็มีแค่นั้น ไม่ว่าเรื่องเผ่า หรือเรื่องตำแหน่งประมุขอะไรนั่น ...ฉันก็ไม่เคยสนใจมันเลยสักนิด”

   กฤตกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เพราะความแค้นในอดีตที่ครอบงำ มันค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงพิภพที่เคยอ่อนโยนในสมัยเด็ก ให้กลับกลายเป็นคนละคนในทุกวันนี้

   “ถ้านายกังวลนัก ก็บอกญาติพี่น้องของนายให้อพยพจากเผ่าไปเสียก่อน แต่อย่าให้เอิกเกริกนักล่ะ ...ส่วนตัวนายไว้ค่อยออกเดินทางในวันใกล้ ๆ แล้วกัน จะได้ไม่เป็นที่ผิดสังเกตนัก”

   พิภพเปรยขึ้นเรียบ ๆ ทว่าทำให้กฤตสะดุ้ง แล้วรีบโต้กลับทันที

   “ไม่ครับ! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะอยู่เคียงข้างท่านเสมอครับ!”

   กฤตบอกอย่างหนักแน่น ทำให้ใบหน้าเย็นชาของอีกคนแย้มยิ้มขึ้นน้อย ๆ อย่างยากที่จะให้ใครได้เห็น เพราะมันไม่ใช่ยิ้มแย้มเสแสร้งตามแบบที่เจ้าตัวมักสวมหน้ากากใส่คนอื่น แม้แต่กับภูธิปก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่พิภพทำลงไป ก็เพื่อจุดประสงค์เดียว คือการได้แก้แค้นคนที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิต ซึ่งคนผู้นั้นก็คือ บิดาแท้ ๆ ของเขาเอง


... TBC ...
จบบทที่ 21

รออ่านบทที่ 22 ต่อเร็ว ๆ นี้ค่ะ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
สรุปแล้วคือพิ๓พโกรธเกลียดพ่อของตัวเองที่ทำให้แม่ของตนตรอมใจตายเลยอยากแก้แค้น โดยเริ่มจากแม่ของธามก่อนซินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
แม่ที่ตรอมใจตาย คือแม่ของมาลุตค่ะ  เมียรอง น้าของพิภพ แม่พิภพเป็นเมียคนแรก ตายก่อน แล้วพ่อจึงแต่งกับน้าตัวเอง มีลูกเป็นมาลุต .... เงื่อนงำความแค้นมันเป็นปมโยงไปโยงมาเล็กน้อย หุ ๆ  รอติดตามได้ค่ะ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เฮ้อสุดท้ายก็ยอมเป็นเมียเก็บเขาจริงๆซินะ แล้วทำไมทำท่ารังเกลียดเขาสะงั้นละพิภพ

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
สงครามใกล้จะเริ่มแล้ว......และจะเป็นสงครามใหญ่สุดถึง 3 เผ่า...ตายแล้วกวางน้อยเราจะสู้ไหวไหมเนี้ย.... รอติดตาม..
พิภพเริ่มที่จะกำจัดพ่อของตัวเอง....ต่อไปคงเป็นคิวทามแน่เลย

......พูดถึงกวางก็เลยจิ๊น  คู่คริสลู่.. EXO - M    ซะเลย อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2013 20:11:19 โดย anuruk97 »

AnimajuS

  • บุคคลทั่วไป
จะมีเผ่าไหนมาช่วย มโค ไหนนิ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
พิภพคิดอะไรอยู่ ทำแบบนั้นพิภพพอใจจริง ๆ หรือ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

หลังจากนี้จะกลับมาลงต่อเนื่องจนกระทั่งจบเรื่องเลยนะคะ  (ปัจจุบัน แต่งตอนใกล้จบอยู่ค่ะ )  ขออภัยที่หายไปนาน แต่เมื่อเป็นฉากต่อเนื่องกัน จึงจำต้องซุ่มเขียนเพื่ออารมณ์ที่ต่อเนื่อง แต่ถึงกระนั้น วางกรอบไว้อย่างดิบดี ก็ยังหลุดกรอบจนได้ ตัวละครเรานี่บังคับยากจังเนาะ  ยังดีที่ตบ ๆ กลับมาเข้ากรอบได้ในตอนจบเหมือนเดิมล่ะนะคะ   :o8:

หวังว่าเนื้อเรื่องต่อไปนี้คงจะถูกใจผู้อ่านไม่มากก็น้อย และเมื่อเรื่องนี้จบลง ปัดจะเข็นตอนพิเศษ ของคู่รอง ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ตัวเอก มาลงให้อ่านกันในเล้านี่ล่ะค่ะ   และแน่นอน ตามธรรมเนียม เมื่อนิยายจบลงก็จะมีรวมเล่มทำมือตามมา ซึ่งไว้ตอนจบจะลงรายละเอียดอีกทีค่ะ งวดนี้ ตอนพิเศษเพียบติดตามได้ในเล่มจ้ะ  (คู่รองเรื่องนี้รู้สึกจะงอกมาหลายคู่แล้วล่ะนะ --)

สุดท้ายขอบคุณผู้อ่านที่ยังคงติดตามกันอยู่ค่ะ  ขออภัยในความล่าช้า และไม่สม่ำเสมอในการลงงานให้อ่านนะคะ

รักคนอ่านทุกคนเลยค่า ^^  :L1:
---------------------------------------------------




/22



   วิรัลลืมตาตื่นมามองคนที่นั่งตั้งใจทำงานแม้ยามดึกดื่นอย่างตื้นตันยิ่งนัก หลังจากวันที่เขารับตำแหน่งประมุข และประกาศถึงเรื่องถอนหมั้น รวมถึงการโอนสิทธิ์ในการเป็นประมุขของเผ่า หากม่านฟ้านั้นมีทายาทเป็นมฤคมาศได้สำเร็จ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเผ่ามโค และได้รับการต่อต้านเป็นอย่างมาก

    โดยเฉพาะเรื่องที่วิรัลรับธามซึ่งเป็นพวกวกะมาเป็นคนรักนั้น ได้ถูกล่วงรู้ไปสู่มโคตระกูลอื่น ๆ เข้าจนได้  ทว่าด้วยฐานอันเข้มแข็ง ของตระกูลวงศ์หริโณ รวมถึงการยอมรับในตัวของธามและชาคร จากปาลินีซึ่งเป็นนายหญิงของตระกูล รวมไปถึงการรับรองว่าวกะทั้งสองเป็นมิตร จากตรัณหัวหน้าของตระกูลพงศ์พิสุทธิ์  โดยที่แม้จะมีคนไม่พอใจ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรบุคคลทั้งสองที่ได้รับการยอมรับจากตระกูลหลักของเผ่าทั้งสองตระกูลได้

   และหลังจากวันนั้น ธามกับชาครก็ทุ่มเท ใช้สมองและความสามารถทำงานเพื่อให้ตระกูลของคนรักเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงให้มากยิ่งขึ้น จนวิรัลนั้นนึกขอบคุณและเป็นห่วงอีกฝ่ายในเวลาเดียวกัน

   “คุณธาม...ทำงานจนดึกอีกแล้วนะครับ”

   “หือ...ขอโทษ ฉันทำให้เธอตื่นหรือวิรัล  ถ้าอย่างนั้นฉันยกงานไปทำห้องข้าง ๆ ดีกว่าไหม”

   ธามหันมาบอกอีกฝ่าย ซึ่งวิรัลก็แย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วตรงมากอดคออีกฝ่ายอย่างรักใคร่

   “ผมตื่นเพราะรู้สึกคอแห้ง หิวน้ำน่ะครับ ... แต่คุณนี่สิ ไหนสัญญากันแล้วยังไงล่ะครับ ว่าจะเลิกงานก่อนเที่ยงคืน  นี่มันจะตีหนึ่งแล้วนะครับ”

   ธามยิ้มตอบ แล้วรั้งร่างโปร่งมากอดพลางหอมแก้มของอีกฝ่ายเบา ๆ

   “ก็ทำแล้วมันเพลินนี่ ...อืม เอาเป็นว่าเดี๋ยวสักพักฉันจะตามไปกอดเธอนะ  เคลียร์ตรงนี้อีกนิดก็จะเสร็จแล้ว”

   วิรัลสั่นศีรษะไปมา ที่คนรักของเขาขยันจนเกินไป เด็กหนุ่มจึงสวมกอดเบา ๆ จากด้านหลัง แล้วลูบไล้แผ่นอกกว้างนั้นแผ่วเบาอย่างยั่วเย้า

   “ถ้าอย่างนั้นก็รีบ ๆ เลิกนะครับ ...ผมรออยู่”

   วิรัลกระซิบเสียงกระเส่า พร้อมกับกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายด้วยฝ่ามือของเขา จากนั้นก็ผละออก มานอนยิ้มบนเตียง ทำให้คนที่กำลังทำงานเริ่มไม่มีสมาธิเสียแล้ว

   “เธอนี่ร้ายกาจจริง ๆ เลยนะวิรัล ...ที่ทำงานอยู่เนี่ยก็เพื่อบริษัทของเธอแท้ ๆ นะ”

   ธามบอกอย่างไม่จริงจังมากนัก แถมตอนนี้ภาพยั่วยวนของเด็กหนุ่มที่แสร้งปลดกระดุมเสื้อนอนบนเตียงรอคอยเขา ก็ยิ่งทำเอาสมาธิที่จดจ่อกับงานก่อนหน้านั้นเตลิดไปหมด

   “ผมเข้าใจนะครับ...แต่จะบ้างานก็ควรมีลิมิตบ้าง เดี๋ยวสุขภาพจะแย่เอา ...ถ้าคุณป่วย จนกอดผมไม่ได้  ระวังนะ หากผมเหงามาก ๆ ผมจะไปหาคนอื่นให้กอดแทน”

   เท่านั้นเองธามก็หมดความอดทน เขาจัดแจงเซฟงานและปิดเครื่อง ก่อนจะตรงมาหาร่างที่นอนเปลือยอกรอคอยเขาอยู่

   “ไม่มีวันที่ฉันจะยอมให้เป็นแบบนั้นแน่....เธอเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น เข้าใจไหม”

   วิรัลหัวเราะเบา ๆ แล้วสะดุ้งนิด ๆ เมื่อธามกัดที่ซอกคอของเขาแรง ๆ เพื่อประทับร่องรอยแห่งความเป็นเจ้าของเอาไว้

   “อ๊ะ...คุณธาม ...ผมล้อเล่น...อื้อ  เจ็บนะครับ...เลิกกัดได้แล้ว”

   คนถูกกัดตรงโน้นที ตรงนี้ที ร้องครางประท้วง ธามซ่อนยิ้มในสีหน้า แต่ก็ยังแกล้งคนรักไม่เลิก จนวิรัลทั้งเจ็บทั้งเสียวจนเริ่มทนไม่ไหว

   “ไม่เอาแล้ว...คุณธาม...มาเถอะครับ...ผมต้องการคุณแล้ว”

   ธามแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วจึงตอบสนองคนรักของเขาตามที่อีกฝ่ายต้องการ จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ทั้งคู่ก็นอนกอดก่ายกันด้วยร่างเปลือยเปล่า ธามมองวิรัลที่หลับไปก่อนพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นจึงชะโงกหน้าจูบที่หน้าผากของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

   “ฉันรักเธอนะวิรัล... และจะขออยู่เคียงข้างปกป้องดูแลเธอแบบนี้ตลอดไป”

   ธามพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลง และหลับสนิทตามมาหลังจากนั้น หากแต่ชายหนุ่มไม่มีโอกาสได้ล่วงรู้สักนิดว่า  การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเผ่าของวกะ กำลังจะมาถึง และนั่นก็เป็นสาเหตุ ที่ทำให้เขาต้องกลับไปยุ่งเกี่ยวกับเผ่ากำเนิดที่ตนจากมาแล้ว อีกครั้งหนึ่ง

   

   พิธีมอบตำแหน่งประมุขเผ่าวกะคนใหม่ ถูกจัดในห้องประชุมใหญ่ประจำเผ่า ซึ่งเป็นสถานที่ลับและก่อสร้างอยู่ในต่างจังหวัด ภายในหุบเขาอันเป็นถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของพวกวกะ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ตามเมืองใหญ่  ในงานพิธีครั้งนี้ มีผู้นำในแต่ละตระกูลและคนสำคัญในเผ่า มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง พิธีดำเนินเรื่อย ๆ ไปอย่างราบรื่น  ทว่าพอถึงช่วงให้ประมุขคนใหม่กล่าวทักทายกับสมาชิกในเผ่า  พิภพกลับเงียบลง จนทุกคนแปลกใจ แต่ยังไม่ทันมีใครเอ่ยอะไรขึ้น เสียงโครมครามจากด้านนอกก็ดังขึ้นเสียก่อน

   “แย่แล้วครับ! ศัตรูบุกครับ!”

   หนึ่งในการ์ดคนหนึ่งเปิดประตูห้องประชุมพรวดเข้ามา ทว่าเจ้าตัวก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกมือใหญ่ที่มีอุ้งเล็บแหลมคมตะปบศีรษะ และจับเหวี่ยงอัดกระเด็นกระแทกกำแพงอีกฝั่งของห้องประชุมด้วยพลังมหาศาล

   “หึ ๆ ฉันมาร่วมพิธีช้าเกินไปหรือเปล่าเนี่ย...หวังว่างานคงยังไม่จบหรอกนะ”

   สมาชิกเผ่าวกะคนอื่นในห้องประชุมต่างพากันเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง เพราะร่างที่เห็นก็คือร่างของอมนุษย์ผู้ทรงพลังและแข็งแกร่ง ผู้มีร่างกึ่งนกกึ่งมนุษย์ ชนเผ่าครุโฬนั่นเอง

   “พวกเจ้าเข้ามาที่นี่ได้ยังไง คิดจะก่อสงครามกับวกะเช่นนั้นรึ!”

   ปุริมตวาดลั่น และวกะตนอื่น ๆ ก็พร้อมจะสู้รบ ทว่าก็มีสมาชิกบางส่วนนั่งนิ่ง และมีสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งสมาชิกกลุ่มนั้นคือพวกพ้องที่ขึ้นตรงกับพิภพนั่นเอง

   “คุณมาช้านะครับ... ผมคิดว่าคุณจะไม่มาแล้วเสียอีก”

   พิภพเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ ทว่าคำพูดของชายหนุ่มนั้นทำให้ปุริมตกตะลึง เบิกตากว้าง ด้วยความคาดไม่ถึง เช่นเดียวกับผู้คุ้มกฎคนอื่น ๆ ของเผ่า

   และยิ่งเมื่อได้เห็นพิภพเดินเข้าไปใกล้กับภูธิปหัวหน้าเผ่าของครุโฬ และอีกฝ่ายโอบร่างของชายหนุ่มมาแนบใกล้ ก็ยิ่งทำให้ปุริมรู้สึกเจ็บปวดราวกับว่าใจของเขาจะถูกฉีกขาดเป็นสองซีกเลยทีเดียว

   “นับจากนี้ไป ในนามของประมุขคนใหม่ของเผ่าวกะ ฉันขอประกาศให้ทุกคนในที่นี้ทราบโดยถ้วนหน้ากันว่า พวกเราเผ่าวกะ จะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในอาณานิคมของเผ่าครุโฬ และหากมันผู้ใดขัดขืน ฉันก็จะถือว่ามันผู้นั้นเป็นกบฏของเผ่า และจะถูกจับกุมกักขัง ไว้รอการลงโทษทัณฑ์ต่อไป!”

   พิภพประกาศกร้าวเสียงดัง มีวกะบางตนสบถออกมาอย่างโกรธแค้นและพุ่งเข้าหาหมายจะทำร้ายพิภพ ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ขยับตัวถอยหนีแต่ประการใด ตรงกันข้ามกับยกยิ้มน้อย ๆ เมื่อนักรบเผ่าครุโฬคนหนึ่งพุ่งมาจากด้านหลังของภูธิปที่ยืนอยู่แถวหน้าประตู และอัดร่างของวกะหนุ่มตนนั้นกระเด็นสลบไปในหมัดเดียว

   “จะย้ำอีกครั้ง...พวกครุโฬมาอย่างเป็นมิตร ถ้าไม่อยากให้เกิดการนองเลือดขึ้นในเผ่าก็อย่าขัดขืน ...อย่าลืมสิว่าพวกเด็กและผู้หญิงของแต่ละตระกูลอยู่กันลำพังด้านนอก ...หรือพวกคุณต้องการจะเห็นศพพวกนั้นเสียก่อน แล้วถึงจะยอมจำนนได้ล่ะ...หือ”

   คำพูดของพิภพทำให้แต่ละคนกัดฟันกรอด แม้สถานที่อยู่ของวกะจะเป็นความลับกับคนนอกเผ่า แต่สำหรับพิภพซึ่งเป็นลูกชายอดีตประมุขและเป็นประมุขคนปัจจุบัน ย่อมไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด ดังนั้นญาติพี่น้องของแต่ละคนก็กำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างที่อีกฝ่ายบอกจริง ๆ

   “ทำไมทำอย่างนี้พิภพ...ทำไมลูกต้องทรยศเผ่าด้วย ...บอกพ่อสิว่าทำไม!”

   ปุริมตะโกนถามบุตรชายด้วยความคับแค้นใจ พิภพแค่นยิ้มน้อย ๆ กับตัวเอง แล้วจึงบอกกับอีกฝ่าย

   “เพราะผมรู้ดีว่า สำหรับพ่อ เผ่าวกะคือสิ่งสำคัญที่สุด สำคัญเสียยิ่งกว่าทุกอย่าง แม้กระทั่งแม่ หรือว่าตัวผมเองน่ะสิ”

   ปุริมชะงัก จากนั้นพิภพจึงสั่งให้ลูกน้องไปยึดโทรศัพท์มือถือจากแต่ละคน เพื่อกันการโทรติดต่อและบอกกับคนอื่นด้านนอก ส่วนเผ่าครุโฬกว่าห้าสิบชีวิต ก็กระจายกำลังล้อมทั่วห้องประชุมใหญ่ ซึ่งสำหรับพวกวกะแล้ว แค่นับรบครุโฬเพียงหนึ่ง ก็สามารถรับมือกับวกะโตเต็มวัยได้สองหรือสามตนอย่างสูสีด้วยซ้ำ

   “แล้วเธอจะทำยังไงกับพวกนี้ต่อไป ดูเหมือนพวกมันจะไม่ค่อยยอมรับเรื่องข้อตกลงของเราสักเท่าไหร่เลยนะ”   

   ภูธิปเชยคางของอีกฝ่ายแล้วเอ่ยถาม ซึ่งพิภพก็ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะตอบ

   “ถ้าเช่นนั้นก็จับคุมขังเอาไว้ก่อนสิครับ ...ไม่ต้องห่วงนะครับ คุกของวกะ ทำจากวัสดุอย่างดี พังออกมาไม่ง่ายนักหรอกครับ”

   “หึ ๆ ก็ได้ แล้วแต่เธอแล้วกัน ...พอจัดการเรื่องนี้เรียบร้อย ฉันจะเริ่มประกาศสงครามกับเผ่าอื่น ๆ …และสุดท้าย ไอ้พวกนากานั่น ฉันจะจัดการพวกมันให้สิ้นซาก!”

   ภูธิปเอ่ยถึงเผ่าศัตรูคู่แค้นที่มีพลังพอฟัดพอเหวี่ยงกับพวกตน ทว่าเผ่านากาที่อายุยืน มักจะเก็บตัวเงียบไม่ออกมาสู้รบกับเผ่าอื่นนัก แต่พวกเขาก็เคยฝากความเจ็บแค้นให้กับภูธิป ที่เคยไปรุกรานเผ่านากามาก่อน จนหัวหน้าเผ่าครุโฬในวัยเยาว์เลือดร้อนยามนั้น ต้องพ่ายแพ้ หนีหัวซุกหัวซุนกลับเผ่าของตัวเองอย่างน่าอับอายเป็นที่สุด

   “กฤต! นำทางคนของเผ่าครุโฬให้คุมวกะพวกนี้ไปขังไว้ในคุกใต้ดินของเผ่า ถ้าคนไหนขัดขืนต่อสู้ ก็ให้จัดการได้เลย!”

   น้ำเสียงเยียบเย็นเด็ดขาดสั่งการ ทำให้วกะตนอื่นพากันตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าพิภพจะสามารถออกคำสั่งให้เข่นฆ่าพวกเดียวกันเองได้ลงเช่นนี้

   “ครับท่าน!”

   กฤตรับคำสั่งแต่โดยดี แม้จะรู้สึกว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้มันยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิดเอาไว้ แต่เขาก็เลือกแล้วที่จะอยู่เคียงข้างผู้เป็นนาย ไม่ว่านายของเขาจะเลือกกระทำในสิ่งที่ผิดหรือถูกต้องก็ตาม

   “แก! แกมันไอ้คนทรยศ!”

   หนึ่งในผู้คุ้มกฎ เริ่มที่จะทนไม่ไหวที่ถูกพวกต่างเผ่าและคนที่พวกตนเลือกมาเป็นประมุขลอบกัดเอาแบบนี้ เขากลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า แล้วพุ่งตรงไปยังที่พิภพยืนอยู่ โดยที่ปุริมห้ามเอาไว้ไม่ทัน

   “กรอบ!”

   เสียงกระดูกคอหักจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว ด้วยฝีมือของภูธิปที่ยืนรออยู่แล้ว เขาเหวี่ยงร่างไร้ลมหายใจของวกะเฒ่าโยนไปตรงหน้าพวกปุริม แม้วกะสูงวัยที่ตายไปจะชราภาพมากแล้ว  แต่ก็ยังคงมีฝีมือและพลังไม่ยิ่งหย่อนกว่าวกะหนุ่ม ๆ บางราย การที่ภูธิปสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ง่ายดาย แสดงถึงพลังที่เจ้าตัวมี และยิ่งทำให้วกะตนอื่นหวาดหวั่นยิ่งขึ้นไปอีก

   “แก...”

   ผู้คุ้มกฎคนอื่นที่เห็นเพื่อนถูกสังหารต่างพากันโกรธแค้น ทว่าปุริมนั้นเอ่ยเตือนสติเอาไว้เสียก่อน

   “ใจเย็นทุกคน...สู้ไปตอนนี้พวกเราก็รังแต่จะเสียเปรียบ สู้หาหนทางส่งข่าว เพื่อช่วยเหลือวกะคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านนอก ให้หนีไปอย่างปลอดภัยจะดีกว่า”

   คำพูดของอดีตประมุข ทำให้ทุกคนชะงัก และต่างพากันหยุดนิ่งตามคำสั่ง ทว่าก็ยังคงมีสายตาเคียดแค้นชิงชัง ตรงไปยังที่พิภพและภูธิปอยู่ดี

   “เป็นพ่อที่ใช้ได้ดีนี่... เธอไม่น่าเกลียดเขาเลยนะพิภพ”

   ภูธิปในร่างอมนุษย์เชยคางของชายหนุ่มขึ้นมาแล้วใช้ลิ้นไล้เลียใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยท่าทางหื่นกระหาย  พิภพนั้นนิ่งเฉย ปล่อยให้ภูธิปทำกับตนตามความพอใจ และเมื่อเหลือบเห็นสีหน้าตกตะลึงระคนผิดหวังของปุริม เขาก็มีรอยยิ้มน้อย ๆ ประดับบนใบหน้าอย่างสะใจ

   “ไม่หรอกครับ ...เขาเป็นประมุขได้ดีกว่าเป็นพ่อต่างหาก เพราะอย่างนั้นผมถึงเกลียดเขามากยังไงล่ะ”

   พิภพเปรยตอบ ซึ่งนั่นก็ทำให้ดวงใจของคนเป็นพ่อกระตุกวูบหนึ่ง และพอจะหวนนึกถึงสาเหตุของการที่บุตรชายคนโตทำเช่นนี้ขึ้นมาได้

   “ขออภัยครับท่าน”

   กฤตบอกกับปุริมในขณะที่จับกุมตัวและให้อีกฝ่ายเดินตามกันไปเพื่อนำไปกักขัง โดยระหว่างทางนั้นมีทหารของพวกครุโฬคุมไปโดยตลอด

   “กฤต...พิภพจะทำยังไงต่อไปอย่างนั้นหรือ”

   หลังจากออกมาจากห้องประชุมแล้ว ปุริมก็ถามคนสนิทของลูกชาย ซึ่งกฤตก็ชะงัก แล้วจึงหลบตาอีกฝ่าย พร้อมกับตอบเสียงแผ่ว

   “ผมเองก็ไม่ทราบครับ... ท่านพิภพต้องการเห็น....เอ่อ เห็นท่านประมุขเจ็บปวด เหมือนกับตัวท่านพิภพในตอนเด็ก ๆ ...ส่วนเรื่องหลังจากนั้นผมก็ไม่ทราบว่าท่านจะตัดสินใจทำเช่นใดอีก”

   ปุริมนิ่งรับฟัง พลางถอนหายใจยาวตามมา เรื่องที่กฤตบอกตรงกับสิ่งที่เขานึกถึง ...นับตั้งแต่วันตายของภรรยาคนแรกของเขา พิภพก็เริ่มเหินห่างจากเขาไป  สาเหตุหลักก็คือ เขาไปไม่ทันดูใจภรรยาก่อนเสียชีวิต ทั้งที่ลูกชายของเขาโทรมาขอร้องด้วยตนเอง และสาเหตุที่ทำให้เขาไปไม่ทัน นั่นก็คือเขาต้องจัดการความเรียบร้อยของเผ่าในฐานะประมุขให้เสร็จสิ้นเสียก่อน 

    เนื่องจากเกิดการขัดแย้งของหัวหน้าตระกูลใหญ่ในเผ่าสองตระกูล เป็นเรื่องบาดหมางที่อาจจะทำให้เผ่าถึงขั้นแตกแยก เขาจึงเชิญทั้งคู่มาสนทนาร่วมกัน และไกล่เกลี่ยจนเรื่องราวลุล่วงไปได้ด้วยดี ทว่าพอเขาตามไปจนถึงโรงพยาบาล เขาก็พบกับพิภพที่ยืนจ้องศพภรรยาของเขา ที่เสียชีวิตด้วยทนพิษบาดแผลจากอุบัติเหตุไม่ไหวและเสียเลือดไปมาก  และเมื่อเห็นเขา เจ้าตัวก็หันมาตวาดใส่เขาทั้งน้ำตาที่เขามาช้า คำพูดต่อว่าต่อขานจากบุตรชายคนโตตอนนั้น เขายังจำได้อย่างชัดเจน

   ‘สำหรับพ่อ เผ่าสำคัญที่สุดใช่ไหม! ผมเกลียดพ่อ! ผมเกลียดเผ่าวกะ! ผมเกลียด! เกลียดที่สุด!’

    และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ปุริมได้เห็นน้ำตาจากพิภพ และเมื่อเขาแต่งงานใหม่กับน้าของเด็กหนุ่ม และมีมาลุตอีกคน เขาก็เริ่มเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายและคิดว่าพิภพคงจะมีความสุข เพราะภรรยาคนที่สองนั้นก็รักพิภพเหมือนกับลูกแท้ ๆ ของเธอ แต่แล้วเขาก็ทำพลาดอีกครั้ง 

    เขารับภรรยามนุษย์คนที่สามเข้ามาในเผ่า จนทำให้แม้แต่มาลุตเองก็เจ็บแค้นชิงชังที่ถูกแย่งความรักไปจากตนและมารดาของตน  ส่วนพิภพ เขาเห็นเพียงแต่ความเฉยชาของอีกฝ่าย  เจ้าตัวในตอนนั้นไม่ได้เป็นเดือดเป็นแค้นออกนอกหน้าเหมือนดังมาลุตแม้แต่น้อย  แต่กลับเงียบเฉย เสียจนเขาเป็นฝ่ายหวั่นใจเสียเอง 

    และจากนั้นไม่นานหลังจากภรรยาคนที่สองของเขาเสียชีวิตลง ภรรยาคนที่สามของเขาก็ถูกสังหารโดยใครคนใดคนหนึ่งในเผ่า ซึ่งเขามั่นใจว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับบุตรชายทั้งสองของเขา จึงทำให้เขาเลิกคิดที่จะสืบหาตัวคนร้าย เพราะไม่ต้องการจะสั่งลงโทษลูกในไส้ของตนนั่นเอง ยังผลให้เขาต้องถูกบุตรชายคนเล็กโกรธเกลียดเคียดแค้น จนนำมาสู่โศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าอีกครั้ง



   “ขออภัยนะครับท่าน...”

   กฤตบอกอย่างสุภาพขณะที่เป็นฝ่ายนำปุริมเข้าไปขังในคุก ซึ่งอดีตประมุขเผ่าวกะก็ถูกจับขังเดี่ยวตามคำสั่งของพิภพที่มอบให้ก่อนหน้านั้น

   “กฤต...ฉันขอร้องอะไรสักหน่อยได้ไหม”

   ปุริมเอ่ยกับอีกฝ่ายทำเอาชายหนุ่มชะงัก แล้วจึงรอฟังว่าปุริมจะพูดอะไร

   “ถ้าพวกครุโฬนั่นคิดทรยศและหักหลังพิภพ...เธอช่วยปกป้องและพาเขาหนีไปให้ปลอดภัยด้วย จะได้ไหม”

   กฤตนิ่งเงียบด้วยความสำนึกผิด และรับรู้ถึงความรักที่ปุริมมีให้ต่อเจ้านายของเขา ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ และพึมพำเสียงแผ่ว

   “ครับ...ผมจะปกป้องคุ้มครองท่านพิภพ ด้วยชีวิตของตน”

   “ขอบใจ...ฝากบอกพิภพด้วย ว่าฉันขอโทษในทุก ๆ สิ่ง ที่เคยทำให้เขาเสียใจ และฉันเฝ้าภาวนาว่านับจากนี้ไป ขอให้เขามีแต่ความสุข อย่าได้ถูกใครทรยศหักหลังต่อความไว้ใจของเขา อย่างที่ฉันเคยทำกับเขามาก่อนอีก”

   กฤตชะงัก เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้ารับคำตามมา จากนั้นจึงจัดแจงปิดกรงขังลง  ชายหนุ่มมอบหน้าที่ให้พวกครุโฬบางตนคุมอยู่บริเวณทางเข้าออกคุกใต้ดิน โดยจะส่งพวกวกะกลุ่มของเขามาคอยเปลี่ยนสลับเวร เป็นระยะ

   

   พิภพรับรู้ข้อความจากปุริมที่ผ่านกฤตมา เขาพยักหน้านิด ๆ แล้วจึงกลับเข้าห้องส่วนตัวของตน ส่วนภูธิปตอนนี้นั้นกำลังสั่งการให้ลูกน้องไปกวาดต้อนวกะกลุ่มอื่น ๆ ที่กระจายอยู่จับมาขังรวมในส่วนกลางให้หมด พิภพจึงอยู่ในห้องส่วนตัวเพียงลำพัง

   “...ขอให้มีความสุขอย่างนั้นหรือ...ความสุขของผมมันหมดไปตั้งแต่วันที่ถูกคนสำคัญหักหลังซ้ำแล้วซ้ำอีกนั่นไปแล้ว...และถ้าจะถูกหักหลังอีกครั้ง ผมก็คงไม่มีอะไรจะเสียใจอีกแล้วล่ะ...”

   พิภพพึมพำกับตัวเองเมื่อมองรูปถ่ายสามคนพ่อแม่รูปในกรอบสมัยที่เขายังเป็นเด็ก เขาเก็บภาพนั้นไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ไม่ได้ทิ้ง เพราะในภาพมีแม่ที่เขารักมากที่สุดอยู่ด้วย

   “พ่อจะรู้ไหมนะ ...ว่าทำไมน้ามธุราถึงได้ตรอมใจตาย ...แล้วใครกันที่เป็นคนสั่งลงมือฆ่าพรรณรายแม่ของธาม ....ถ้าพ่อรู้ พ่อจะเห็นด้วยกับการกระทำของผมไหม และจะยกโทษให้ผมอีกครั้งได้ไหมนะ”

   พิภพพึมพำกับตัวเอง เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีต ที่เขาถูกคนสำคัญของเขาหักหลังความไว้ใจของเขาอีกเป็นครั้งที่สอง

 

   ...มธุรา น้าสาวของเขา แม่ของมาลุต คนที่เขารักเหมือนแม่แท้ ๆ ของตัวเองและเชื่อมั่นมาตลอดว่าอีกฝ่ายก็รักเขาเหมือนลูกเช่นเดียวกัน  แต่ความจริงแล้ว มธุรานั้นเกลียดชังเขาที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่สาวของหล่อนมาโดยตลอด ยิ่งเขาโตขึ้นหน้าเหมือนแม่ ก็ทำให้หล่อนยิ่งเกลียดชังเขามากขึ้น  ต่อหน้าคนอื่นและเขา เธอจะวางตัวเป็นแม่ที่ดี  แต่ลับหลังเธอมักจะระบายความโกรธแค้นกับคนสนิทของเธอ และเขาที่บังเอิญได้ยินเข้า ก็ต้องได้รับรู้ว่า แท้จริงแล้วความรักที่เขาเคยได้รับจากอีกฝ่าย มันเป็นเพียงการหลอกลวงเสแสร้งเพียงเท่านั้น 

    และหลังจากนั้น เมื่อปุริมรับพรรณรายมาเป็นภรรยาใหม่  เขาจึงเริ่มวางแผนแก้แค้นน้าของตน  โดยใส่ร้ายและคอยพูดกรอกหูว่า ปุริมนั้นรักหลงพรรณรายอย่างไม่ลืมหูลืมตา ให้กับมธุราฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จนในที่สุดหล่อนก็ทนไม่ไหว ด้วยความเครียดประกอบกับร่างกายที่อ่อนแอ จึงทำให้มธุราจากโลกนี้ไป จากนั้นเขาจึงใช้วกะตนหนึ่งไปลอบฆ่าพรรณราย และวางแผนให้มาลุตกับเขาไปพบเหตุการณ์นั่น ก่อนจะจัดการฆ่าวกะตนนั้นปิดปากอีกทอด...  และนับจากวันนั้น  ธามและมาลุตที่เคยรักและเคารพในตัวปุริม ต่างก็หมางเมินใส่บิดาของตน  และต้องจมอยู่กับความแค้นดังเช่นที่เขาประสบพบมา

    ทว่าแค่นี้ยังไม่สาแก่ใจของพิภพ สำหรับเขาแล้ว เชื่อมั่นมาตลอดว่า สิ่งที่สำคัญสำหรับปุริมจริง ๆ ก็คือเผ่าวกะ ดังนั้นเขาจึงวางแผนการที่จะทำให้เผ่าตกอยู่ในกำมือของเผ่าอื่น เพื่อทำให้ปุริมต้องเจ็บปวดที่สุด...



   เสียงฝีเท้าหนัก ๆ คุ้นเคยที่เดินเข้ามาใกล้ ทำให้พิภพตื่นจากภวังค์ เขาเก็บรูปถ่ายนั้นกลับคืนสู่ลิ้นชัก ปิดมันลง พลางหลับตานิ่งอยู่สักครู่ ก่อนจะลืมตาขึ้น หันกลับมาปั้นยิ้มให้กับผู้มาเยือนที่ก้าวเข้ามาในห้อง

   “จัดการธุระเสร็จแล้วหรือครับ”

   “อืม...พวกผู้หญิงกับเด็ก จัดการได้ไม่ยากเท่าไหร่ ยิ่งมีตัวประกันก็ยิ่งง่ายขึ้น”

   ภูธิปตอบอีกฝ่าย แล้วจึงเดินมานั่งที่เตียง ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ส่งให้

   “ที่พวกเราจัดการเรื่องทุกอย่างได้ง่ายดายแบบนี้ ก็เป็นเพราะเธอที่ให้รายละเอียดต่าง ๆ และวางแผนในครั้งนี้เป็นอย่างดีนั่นล่ะ”

   พิภพยิ้มตอบ แล้วจึงเดินมานั่งข้าง ๆ อีกฝ่าย ซึ่งภูธิปก็ใช้มือใหญ่ของเขาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างนั้นอย่างหลงใหล

   “อย่างนี้ฉันคงต้องตอบแทนเธอหนัก ๆ เสียแล้วล่ะนะ”

   คนฟังแสร้งยิ้มหวาน แล้วจึงลูบไล้แผ่นอกกว้างของอีกฝ่ายบ้าง

   “แล้วแต่คุณสิครับ ...ผมตามใจคุณทุกเรื่องอยู่แล้วล่ะ”

   ภูธิปหัวเราะอย่างถูกใจ ก่อนจะลงมือเล้าโลมร่างงดงามได้สัดส่วนสมบุรุษเพศตรงหน้าอย่างเร่าร้อน พิภพครางเสียงแผ่ว และตอบสนองอีกฝ่ายเป็นอย่างดี แม้ในใจจะไม่ได้รักใคร่คนผู้นี้แม้แต่น้อยเลยก็ตาม



   บทรักอันร้อนแรงผ่านพ้นไปพร้อมกับการหลับใหลอย่างอ่อนเพลียของประมุขคนใหม่ของเผ่าวกะ  ภูธิปมองร่างอ่อนเยาว์กว่าตนพร้อมกับแย้มยิ้มน้อย ๆ ...ทำไมคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาโชกโชนอย่างเขา จะมองไม่ออกว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่ได้หลงใหลหรือรักใคร่ในตัวเขาอย่างที่ปากเจ้าตัวบอก เพียงแต่เพราะผลประโยชน์ที่ร่วมกัน หนุ่มใหญ่จึงแสร้งทำเป็นยอมหลงกลอีกฝ่าย นอกจากนี้ภูธิปยังไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่า พิภพนั้นร้อนแรงเสียยิ่งกว่าใคร ๆ ที่เขาเคยกอดมา และช่วยเติมเต็มอารมณ์ใคร่ของเขาได้อยู่เสมอ

   “ตราบใดที่เธอยังซื่อสัตย์ต่อฉัน ...ฉันก็จะดูแลเธอเป็นอย่างดี ...เด็กน้อยที่น่ารักของฉัน”

   ภูธิปบอกพร้อมกับชะโงกหน้าไปจูบที่หน้าผากของอีกฝ่ายแผ่วเบา ก่อนจะเอนตัวลงนอนพักผ่อนไปข้าง ๆ ร่างนั้น จนกระทั่งหลับใหลไปด้วยกันในที่สุด



… TBC …






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2013 23:57:44 โดย Xenon »

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
วิรัสกับทามจะต้านไหวไหมเนี้ย...สองเผ่าที่แข็งแกร่งกำลังจะรวมกันแล้ว.จะเติมใจหรือไม่เติมใจก็เถอะแต่ก็มีพละกำลังที่จะพิชิดเผ่าอื่นได้...สงใสต้องให้นาคาช่วยเสริมทัพให้เผ่ามโคถึงจะชนะอีกฝ่ายได้....แล้วก็ใกลเวลาที่จะเปิดสงครามใหญ่แล้วสินะ
เราเป็นกำลังใจให้วิรัสและทามสู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
 :z13: :z13:

จิ้มๆๆ มาต่อไวๆระค่ะ รักเรื่องนี้

ติดตามาตั้งแต่เรื่องก่อนๆ :impress2: :man1:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ถึงสงครามใหญ่เมื่อไหร่  ขอให้ฝ่ายวิรัลกับธามเป็นฝ่ายชนะ
คู่ปรับน่ากลัวมาก ตั้งสองเผ่า

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ภิภพดราม่าสุด เลวเพราะความแค้นในใจที่มีต่อพ่อ สงสารพิภพ ไม่อยากให้จบเศร้า แลดูภูธิปก็รักพิภพอยู่นะ

พ่อก็นะ เกิดมาอยู่ในตำแหน่งที่ต้องดูแลประชาชนก่อน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่พ่อขี้เหงาจัง มีเมียหลายคนแท้

เผ่านากาต้องอยู่ข้างพระเอกแน่เลย จะได้สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จริงๆพิภพก็น่าสงสารนะ
แต่ทำเกินไปรึเปล่า :serius2:

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
แย่เเล้วววววววววว o22 o22 o22
วิรัลกับธามจะรับมือไหวป่ะเนี่ยยย

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
ก็ให้เผ่ามโคร่วมมือกับเผ่านากาเส่ :z10:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
พิภพคิดดูดี ๆ อีกทีน่าจะดีกว่านะ ทำแบบนี้พิภพมีความสุขจริง ๆ หรือ ที่จริงพิภพก็คงรู้ดีแก่ใจนั่นแหละว่าปุริมรักพิภพมาก แ่ต่เพราะไม่พอใจเรื่องแม่ก็เลยทำแบบนี้ กฤตดูแลพิภพให้ดีนะ ภูธิปคงไม่ทำร้ายพิภพหรอกนะ แล้วธามจะทำยังไงกันนะนั่น ถ้ารู้ว่าเผ่าเป็นแบบนี้

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
สงสารพิภพก็สงสารนะ   ถึงจะมีปม มีอดีตเศร้าระทมทุกข์ขนาดไหน   แต่เรื่องที่พิภพทำยังไงมันก็ยังผิดอยู่ดีแหละนะ
แก้แค้นพ่อเข้าใจ  แต่คนในเผ่าคนอื่นๆต้องมาพลอยรับเคราะห์ไปด้วยนี่ มันไม่น่าต้องเป็นแบบนี้เลยเนอะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ตอนที่ 23 มาต่อแล้วจ้า  ตอนอื่น ๆ ก็จะทยอยมาลงทุกวันจนจบนะคะ  ถึงจะแต่งเสร็จแล้ว แต่พอดีปัดทวนคำผิดไป แล้วแก้ไปด้วยค่ะ นี่ก็ว่าจะไปใส่ฉากต่อสู้ในบทท้าย ๆ เพิ่ม เพื่อจะได้สมกับเป็นแนวกลายร่างสักหน่อย ^^ 



/23

   

   เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นระหว่างวันและเบอร์โชว์ที่คุ้นเคย ทำให้ชาครซึ่งกำลังนั่งทบทวนเอกสารอยู่ในห้องทำงานชั้นล่างนึกประหลาดใจ แต่ก็ยังกดรับตามปกติ

   “สวัสดี ชาครพูด”

   “คุณชาคร! ผมไชยานะครับ!”

   ชาครขมวดคิ้วกับน้ำเสียงร้อนรนนั้น แล้วจึงย้อนถามกลับไป

   “นายมีอะไรหรือไชยา ถึงได้โทรมา มีใครในเผ่ามาหาเรื่องพวกนายหรือไง”

   เสียงถอนหายใจหนัก ๆ ดังขึ้น จากนั้นปลายสายจึงเอ่ยตอบ

   “ถ้าเป็นเรื่องแค่นั้นพวกผมจัดการกันเองได้ครับ ...จริง ๆ หลังจากการพิจารณาคดีของท่านธามกับท่านมาลุตสิ้นสุดลงแล้ว  ท่านปุริมก็เสนอให้พวกผมหาที่อยู่ใหม่ เพื่อป้องกันการแก้แค้นภายในเผ่า  พวกผมจึงปฏิบัติตามนั้น ส่วนคลับก็อาศัยบริหารทางไกลเอา โดยจ้างมนุษย์ที่ไว้วางใจได้ทำงานแทน  เพราะอย่างนั้นพวกผมเลยรอดการไล่ล่านั่นได้อย่างปาฏิหาริย์ยังไงล่ะครับ!”

   ชาครชะงักในท้ายประโยค แล้วรีบซักกลับไป

   “ไล่ล่า! ใครเป็นคนลงมือ!”

   เสียงปลายสายเงียบไป แล้วจึงเอ่ยตามมาแผ่วเบา ราวกับเกรงว่าจะมีใครแอบฟังอยู่

   “พวกครุโฬครับ...คุณชาคร คุณรู้ไหมว่า เมื่อวันก่อนที่มีการแต่งตั้งประมุขคนใหม่  ท่านพิภพได้ร่วมมือกับหัวหน้าเผ่าครุโฬ แล้วบังคับให้พวกเราเผ่าวกะ เป็นอาณานิคมของพวกนั้น  พวกผู้นำระดับสูงของตระกูล ผู้คุ้มกฎ รวมถึงท่านปุริม ถูกจับไปขังรวมกันที่ส่วนกลางของเผ่าในหุบเขา และพวกมันยังออกไปกวาดต้อนพวกเด็กและผู้หญิง รวมไปถึงคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านนอก มาขังรวมกันไว้ที่เดียวกันอีก .... ผมได้คนข้างในนั้นลอบส่งข่าวมา เพราะเขาซ่อนมือถือเอาไว้ ...พอผมรู้เรื่องจึงตัดสินใจโทรหาคุณ เพราะผมไม่รู้จะทำยังไงดี คนของเราส่วนใหญ่ก็ซ่อนตัวอยู่ด้านนอก ... พวกผมเองจริง ๆ ก็อยากหนีไปให้ไกล ๆ แต่ก็ห่วงญาติพี่น้องร่วมเผ่าของเราข้างในนั่น แถมท่านปุริมยังถูกขังอยู่อีกด้วย...ผมเลยคิดว่า ท่านธามอาจจะ...”

   ไชยาค้างเอาไว้ ไม่กล้าพูดต่อ ความจริงเขาเองก็คิดหนักเรื่องที่จะโทรศัพท์มาแจ้งชาครกับธาม เพราะทั้งคู่นั้นถูกขับออกนอกเผ่าไปแล้ว และเท่าที่เขารู้ ทั้งสองคนก็มีความสุขดี จนเขาไม่อยากจะดึงเข้ามารับรู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น

    แต่ถ้าเขาเลือกตัดสินใจไม่บอก และปล่อยให้ธามรับรู้ภายหลัง มันก็คงไม่ดีนัก แม้เขาพอจะรู้มาว่า ธามนั้นไม่ค่อยญาติดีกับปุริมเท่าใดก็ตาม  แต่ถึงยังไงปุริมก็ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแท้ ๆ ของชายหนุ่มอยู่ดี และเขาเชื่อมั่นว่า จริง ๆ แล้ว ธามก็น่าจะมีเยื่อใยกับปุริมอยู่ไม่มากก็น้อย

   “ขอบคุณนายที่แจ้งฉันมา...เดี๋ยวฉันจะไปปรึกษาหารือท่านธามทีหลังเอง นายรวบรวมพรรคพวกของเราที่เหลือ ไปซ่อนตัวในที่ปลอดภัย แล้วอย่าติดต่อเข้าไปข้างในก่อนให้พวกนั้นจับพิรุธได้ รอให้ข้างในติดต่อกลับมาแทน แล้วนัดแนะกันให้ดี เผื่อเราจะได้คนในคอยช่วยด้วยอีกแรง ตอนบุกเข้าไป”

   ชาครตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง ทำให้คนฟังมีน้ำเสียงยินดียิ่งนัก

   “คุณชาครกับท่านธามจะมาช่วยพวกเราจริง ๆ สินะครับ!”

   “แน่นอนสิ...ถึงจะถูกขับออกจากเผ่า แต่สายเลือดและจิตวิญญาณของฉันก็ยังคงเป็นวกะอยู่ดี  ถ้าเกิดปัญหาภายในกันเอง ฉันอาจจะไม่สนใจ แต่ถ้ามีเผ่าอื่นมารุกรานพวกเราแบบนี้ ฉันคงอยู่เฉยไม่ได้หรอก”

   ชาครรับคำ ก่อนจะคุยนัดแนะกับไชยาอีกสักพัก แล้วจึงวางสายลง จากนั้นเขาจึงตัดสินใจไปปรึกษาธาม ซึ่งทำงานอยู่ในห้องนอนบนชั้นสองของคฤหาสน์ โดยไม่ได้ทันสังเกตว่า มีใครบางคนแอบฟังเขาสนทนาอยู่ห่างออกไป



   ธามรับฟังสิ่งที่ชาครรายงานด้วยท่าทางนิ่งเฉยผิดเคย โชคดีที่วันนี้วิรัลนั้นไปเรียนคอร์สแม่บ้านหัดทำกับข้าวและขนมกับม่านฟ้า ที่บ้านพักของเด็กสาว จึงทำให้ชาครสามารถรายงานเรื่องนี้ให้กับผู้เป็นนาย ได้โดยไม่ต้องหาเรื่องกลบเกลื่อนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้วิรัลได้รับรู้

   “อย่างนั้นหรือ ...แล้วนายคิดว่าฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ ชาคร”

   ธามถามเสียงเรียบ ทว่าชาครก็ยังคงสังเกตเห็นมือของอีกฝ่ายกำแน่นและสั่นเทิ้มนิด ๆ

   “ผมพร้อมติดตามท่านไปทุกเมื่อครับท่านธาม ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม”

   ธามถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเหลือบมองเตียงนอนกว้างในห้อง แล้วหวนคิดถึงร่างโปร่งบางของคนรักที่ยิ้มแย้มหยอกล้อกับเขาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ก่อนจะหันมาสบตากับคนสนิทอีกครั้ง

   “เราคงต้องวางแผนออกไปอย่างไม่ให้ใครผิดสังเกต ...ฉันไม่อยากให้วิรัลรู้ว่าเรื่องนี้พาดพิงเกี่ยวกับเผ่าวกะ ...เผื่อยามที่ฉันไม่สามารถกลับมาได้อีก เขาจะได้ไม่ต้องตามหาฉันที่นั่น”

   ชาครนิ่งคิด แล้วจึงเสนอบางเรื่องขึ้น

   “ถ้าเป็นเรื่องออกไปเช็คที่ดินที่จะทำธุรกิจเสริมของตัวท่านล่ะครับ ท่านก็เคยเปรย ๆ กับท่านวิรัลอยู่ไม่ใช่หรือครับ ว่าอยากจะเปิดบ้านพักต่างอากาศที่ต่างจังหวัดสักแห่ง”

   ธามรับฟังแล้วจึงพยักหน้าเห็นด้วยตามมา

   “อืม...เข้าท่าดี งั้นว่าตามนี้ เดี๋ยวฉันจะเขียนจดหมายทิ้งไว้ ส่วนนายก็บอกคนทางนี้ด้วยแล้วกัน ...ฉันไม่อยากโทรคุยกับเขา เดี๋ยวนี้วิรัลยิ่งจับผิดสังเกตฉันได้ไวกว่าเดิมเสียด้วย”

   ธามพึมพำ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นคนเคาะก็เปิดเข้ามาเอง โดยไม่คิดรอคนข้างในอนุญาต

   “สวัสดีครับ ซุบซิบปรึกษาอะไรกันอยู่หรือครับ ทำหน้าซีเรียสเชียว”

   พิชญ์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่านัยน์ตาดุคมกริบที่จับจ้องมองมา ก็ทำให้ทั้งคู่มั่นใจว่า อีกฝ่ายคงจะรู้เรื่องที่พวกตนสนทนาอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

   “นายมาอยู่นี่ได้ยังไง ไม่ได้เฝ้าวิรัลอยู่ที่นั่นหรือไง”

   ธามถามอย่างประหลาดใจ ซึ่งชาครเองก็จ้องมองอีกฝ่ายอย่างตกใจเช่นกัน

   “พอดีผมลืมเอกสารที่จะเอาให้ทางคุณอำมฤตเซ็นไว้ที่นี่ เลยขับรถกลับมาเอา ส่วนทางนั้นก็ให้พิชานกับพรรคพวกอีกสามสี่คนเฝ้าอยู่ อีกอย่างอยู่กับพวกท่านม่านฟ้า ก็ไม่น่ากังวลอะไร”

   พิชญ์ตอบเรียบ ๆ จากนั้นก็เงียบไปสักพัก แล้วเอ่ยถามต่อ

   “ตกลงพวกคุณจะไปไหน ...อย่าบอกนะว่าจะไปหาซื้อที่ดินต่างจังหวัดอะไรนั่นน่ะ”

   คนฟังทั้งคู่เงียบกริบ พิชญ์จึงสบถเบา ๆ ตามมา แล้วโพล่งใส่

   “พวกคุณคิดจะทำอะไรกัน! ลำพังจำนวนแค่นี้ จะไปสู้กับพวกครุโฬ คิดจะไปตายหรือไง!  ทำอะไรทำไมไม่ปรึกษากันบ้าง บอกแล้วไม่ใช่หรือว่า พวกเรานับพวกคุณเป็นสมาชิกในเผ่ามโค และตระกูลวงศ์หริโณแล้ว  ถ้าคนในเผ่าในตระกูลเรามีปัญหา พวกเราก็พร้อมจะช่วยเสมอ!”

   คำพูดจริงใจของพิชญ์ทำให้ธามและชาครพูดอะไรไม่ออก ด้วยความซาบซึ้งตื้นตันใจ แต่ทั้งคู่ก็คิดตรงกันว่า ปัญหาของเผ่าพวกเขา จะลากพวกพิชญ์กับวิรัลมาเป็นอันตรายด้วยไม่ได้เด็ดขาด

   “จริงสิ...นายพูดถูก  พวกเราควรจะรอบคอบให้มากกว่านี้”

   ชาครเอ่ยขึ้นพร้อมกับขยับมายืนอยู่ข้างหน้าพิชญ์ ซึ่งพอชายหนุ่มเงยหน้าสบตา เจ้าตัวก็ต้องสะดุ้งเฮือก เพราะชาครนั้นชกเขาที่ท้องค่อนข้างแรง โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว

   “นาย...”

   พิชญ์มองอีกฝ่ายอย่างตกใจ ภาพสุดท้ายก่อนเขาจะหมดสติ คือสีหน้าและแววตาเศร้า ๆ ของชาคร พร้อมกับริมฝีปากที่พึมพำว่าขอโทษแผ่วเบานั่น และแล้วภาพเบื้องหน้าของเขาก็มืดสนิทลง

   “ชาคร...เราคงต้องเปลี่ยนแผนแล้วล่ะ”

   “นั่นสิครับ เอ่อ…ท่านธามครับ ขอเวลาผมสักครู่นะครับ”

   ธามหันมามองคนสนิทของเขา แล้วก็พยักหน้ารับรู้

   “งั้นฉันไปรอข้างนอกห้องนะ เสร็จธุระแล้วก็ตามไปล่ะ”

   ชาครพยักหน้าพร้อมพึมพำขอบคุณ เขามองร่างอ่อนเปลี้ยในอ้อมแขน แล้วจึงอุ้มร่างนั้นอย่างทะนุถนอมตรงไปวางบนเตียง ก่อนจะโน้มใบหน้าลงจูบหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน

   “ขอโทษนะ ที่ต้องทำรุนแรงกับนายแบบนี้ ...แต่ฉันไม่ต้องการให้นายมาเสี่ยงด้วย”

   จากนั้นชาครจึงหยิบกระดาษมาเขียนสถานการณ์คร่าว ๆ ของเผ่าวกะแล้วใช้สมุดวางทับไว้ใกล้ร่างพิชญ์  เขามั่นใจว่าคนฉลาดอย่างอีกฝ่าย หากฟื้นขึ้นมาจะต้องไม่หุนหันพันแล่นเป็นแน่  แต่ต้องคำนวณสถานการณ์ที่เป็นอยู่อย่างดี และค่อยลงมือจู่โจมทีหลัง  เพราะคนอย่างพิชญ์และวิรัล ถ้ารู้ว่าพวกเขาจะไปช่วยคนในเผ่าวกะ  จะห้ามยังไงก็คงไม่มีทางฟัง แต่ถ้าอธิบายทุกอย่างให้รับรู้ก็ยังช่วยถ่วงเวลาการจู่โจมออกไป และจะทำให้ลดอันตรายที่อาจจะเกิดให้น้อยลงกว่าเดิมได้เป็นแน่

   “ไปล่ะ...ไม่รู้ว่าพอได้อ่านข้อความสุดท้าย นายจะโกรธฉันไหมนะ ...แต่ถ้าโกรธกันจนไม่ยอมมาช่วย ก็คงจะดีเนอะ...นายจะได้ไม่ต้องเสี่ยงโดยใช่เหตุไงล่ะ”

   ชาครบอกกับร่างที่สลบไปยิ้ม ๆ แล้วจึงเดินออกไปนอกห้อง เขาเหลือบมองแผ่นกระดาษบนเตียงที่อยู่ใต้หนังสืออีกครั้ง หวนคิดถึงข้อความสุดท้ายที่เขาเพิ่มลงไปถึงเจ้าตัว

   ‘…บางทีฉันคงไม่มีโอกาสกลับมาพูดอีก จึงอยากจะบอกเอาไว้เสียเลย ...  ฉันรักนายนะพิชญ์...รักตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่เท่าที่รู้ ฉันปรารถนาให้นายมีความสุขต่อไป นับจากนี้เรื่อย ๆ แม้วันนั้นจะไม่มีฉันอยู่ให้นายรำคาญหน้าอีกแล้วก็ตาม / จาก...ชาคร’

   เสียงประตูปิดลง พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ค่อย ๆ เดินห่างออกไป นานเท่าไรไม่อาจทราบได้ พิชญ์มารู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่ชาครและธามออกไปจากหมู่บ้านมโคแล้ว ยิ่งชายหนุ่มได้อ่านจดหมายจากชาคร เจ้าตัวก็ยิ่งทั้งหงุดหงิด ทั้งเป็นห่วง จนแทบจะทนไม่ไหว  เขารีบโทรให้พิชานพาวิรัลกลับมาที่บ้านพักอย่างรวดเร็ว ขณะที่ยังคงกำจดหมายฉบับนั้นไว้แน่นไม่ยอมให้ห่างจากกาย

   

   วิรัลกลับมาถึงบ้านพักของตนอย่างเป็นกังวล เพราะพิชญ์ไม่ได้บอกเนื้อหา บอกแค่ให้รีบกลับด่วนเท่านั้น และเพราะอยู่ด้วยกันมานาน ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญ พิชญ์คงไม่มีทางกระทำเสียมารยาทขัดจังหวะเขากับม่านฟ้าเช่นนี้แน่

   “พิชญ์! เกิดอะไรขึ้น!”

   วิรัลรีบมาหาพี่เลี้ยงคนสนิทของตน และก็ต้องยิ่งหวั่นวิตกหนักเมื่อไม่เห็นธามและชาครอยู่ในห้องนั้นด้วย

   “คุณธามไปไหน...”

   พิชญ์มองเจ้านายของเขาอย่างนึกสงสาร แล้วจึงบอกให้วิรัลสงบสติอารมณ์ลงก่อน จากนั้นจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เด็กหนุ่มฟัง

   “...ไม่จริง ...คุณธาม....ทำไมถึงไม่รอปรึกษากันก่อน  ทำไมถึงด่วนตัดสินใจแบบนั้น ...บ้าที่สุด!”

   วิรัลพึมพำทั้งเป็นห่วงทั้งโมโหคนรัก ส่วนพิชญ์นั้นก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของผู้เป็นนาย

   “ใช่ครับ ทั้งบ้า ทั้งงี่เง่า ... แต่ก็ยังดี ที่ยังบอกเล่าสถานการณ์ให้ได้รู้กันบ้าง ...ถ้าไปโดยไม่บอกเลยล่ะก็ ผมนี่ล่ะ จะตามไปอัดหมอนั่นให้ลงไปกองกับพื้น ก่อนที่จะถูกพวกครุโฬจัดการให้ได้”

   พิชญ์บอกด้วยความหงุดหงิดโมโหและเป็นห่วง ก่อนจะพยายามสงบสติอารมณ์ของเขา แล้วบอกกับวิรัล

   “พวกครุโฬได้เผ่าวกะมาในครอบครอง เผ่าต่อไปที่มันจะบุก ผมคาดว่าคงไม่แคล้วเป็นพวกเราที่ฐานที่มั่นอยู่ใกล้กัน ...อาจจะเป็นตระกูลของเรา หรือทางพวกท่านม่านฟ้า ...ถ้ายังไงเตือนทางนั้นให้รับมือไว้ก่อนก็น่าจะเป็นการดี”

   วิรัลพยักหน้ารับรู้ แล้วจึงบอกว่าเขาจะเป็นคนคุยกับตรัณเอง ซึ่งพิชญ์ก็เห็นดีด้วย

   “ส่วนเรื่องบุกเผ่าวกะ ผมคิดว่าทางนั้นคงไม่บุ่มบ่ามเข้าไปกันสองคนแน่ คงต้องไปเตรียมพร้อมรวบรวมพล ทั้งจากข้างนอกและข้างในที่พอจะติดต่อกันได้ แล้วลงมือช่วยเหลือตัวประกัน  ซึ่งก็ค่อนข้างทำได้ยากพอสมควร เพราะถูกจับนำมาขังรวมทั้งหมด  ทางเลือกที่น่าจะดีที่สุดก็คือ ให้พวกเรามโค บุกเผ่าวกะล่อให้พวกครุโฬออกมาต่อสู้ด้วย แล้วให้ทางคุณธามนำตัวประกันออกมา”

   พิชญ์บอกแล้วมีสีหน้ากังวลจนวิรัลประหลาดใจ

   “ทำไมล่ะพิชญ์ ฟังแล้วก็เป็นแผนที่ค่อนข้างใช้ได้นี่ มีอะไรที่ลำบากใจหรือ”

   พิชญ์มองวิรัลแล้วถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นจึงเอ่ยในสิ่งที่เขากังวลให้อีกฝ่ายฟัง

   “ผมเกรงว่าพวกครุโฬจะไม่ทิ้งถิ่นที่มั่นง่าย ๆ ถ้ามันมีพี่ชายของคุณธามเป็นพวก  มันก็ต้องรู้ตื้นลึกหนาบาง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเราและคุณธามอยู่แล้ว บางทีมันอาจจะรู้ว่านี่เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำ เพื่อชิงตัวประกันก็ได้”

   วิรัลนิ่งเงียบรับฟัง เขาครุ่นคิดบางอย่าง แล้วจึงตบมือเบา ๆ พร้อมกับบอกอีกฝ่าย

   “แล้วถ้าให้ฉันเป็นเหยื่อล่อด้วยล่ะ ใคร ๆ ก็อยากกินหัวใจมฤคมาศไม่ใช่หรือ  ถ้าฉันออกไปด้วยตัวเอง  พวกนั้นต่อให้รู้ว่าถูกหลอก แต่ในสายตาของพวกกระหายเลือดนั่น  หัวใจของฉันก็น่าสนใจกว่าพวกตัวประกันวกะไม่ใช่หรือ”

   พิชญ์ตาเบิกกว้างแล้วรีบแย้งกลับไปทันที

   “ไม่ได้! ผมไม่ยอมให้ท่านเสี่ยงอย่างนั้นเด็ดขาด!”

   วิรัลชะงัก เขานิ่งเงียบรอจนพิชญ์ใจเย็นลง แล้วจึงเอ่ยขึ้นแผ่วเบา

   “แต่ถึงยังไง ถ้าไม่มีคุณธามอยู่ ฉันก็จะไม่ขออยู่ในโลกนี้อยู่ดี....เพราะงั้นถ้านายปล่อยให้คุณธามตาย ต่อให้ไม่มีใครฆ่าฉันเพื่อกินหัวใจ ฉันนี่ล่ะจะเป็นคนลงมือสังหารตัวเอง ต่อหน้าต่อตานายเลยล่ะ”

   พิชญ์อ้าปากค้าง เขาทำท่าจะโต้เถียงอะไรบางอย่าง แต่ก็ต้องกัดฟัน แล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างปวดร้าว

   “ขอโทษนะพิชญ์ ที่ทำร้ายจิตใจนายซ้ำแล้วซ้ำเล่า... แต่นายรู้ใช่ไหม ว่าฉันรักเขามาก ...รักมากจน ไม่อาจจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ ถ้าขาดเขา”

   “แล้วทำไมท่านไม่คิดถึงคนอื่นที่รักท่านบ้าง... ถ้าไม่มีท่าน ผมก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เหมือนกัน”

   พิชญ์ตอบเสียงแผ่วโดยไม่ยอมสบตาอีกฝ่าย ทำให้วิรัลชะงัก น้ำตาไหลอาบแก้ม แล้วโผเข้ากอดพี่เลี้ยงหนุ่มแน่น

   “พิชญ์...ขอโทษ...แต่ฉันปล่อยให้เขาไปเสี่ยงคนเดียวไม่ได้จริง ๆ”

   พิชญ์หันขวับมามองนายน้อยของเขา แล้วบีบไหล่อีกฝ่ายแน่น

   “แต่ผมก็ยอมให้ท่านเสี่ยงไม่ได้เหมือนกัน ...ท่านย่าของท่านอีกล่ะ พวกเราไม่มีความหมายสำหรับท่านเลยหรือครับ ท่านวิรัล ...มีแค่เขาคนเดียวใช่ไหม ที่สำคัญสำหรับท่าน”

   วิรัลนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ร้องไห้แล้วพึมพำขอโทษ เพราะเอาจริง ๆ ทุกคนก็สำคัญสำหรับเขาไม่แตกต่างกัน แต่ยามนี้ เขาห่วงธามเป็นที่สุด ห่วงจนเผลอทำร้ายจิตใจคนสำคัญต่อเขา ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้

   “ถ้าท่านยังยืนกรานเช่นนั้น ผมจะไปเรียนนายหญิง เพื่อขอกำลังทั้งหมดที่นั่น ไว้ปกป้องท่าน ...สงครามใหญ่เหมือนเมื่อสามปีก่อนนั้น จะกลับมาอีกครั้ง!”

   วิรัลเงียบกริบ แต่แรกเขาคิดว่าแค่เขาบุกไปพร้อมกับบรรดามโคในหมู่บ้านที่ขึ้นตรงกับพิชญ์ โดยมีตัวเขาเป็นเหยื่อล่อ ก็น่าจะสามารถต้านทานกำลังพวกครุโฬได้สักชั่วระยะ รอจนให้ธามไปช่วยตัวประกันให้สำเร็จ ก็คงไม่มีปัญหา และเขาก็คงถอยฉากหนีกันเองได้  ....แต่เมื่อเห็นความจริงจังของพิชญ์ในยามนี้ ก็ทำให้เขาเริ่มตระหนักว่า  เรื่องจริงมันคงไม่ง่ายดายอย่างที่เขาคิด ขนาดตอนนั้นแค่มาลุตยกพวกวกะมาแค่ไม่ถึงร้อย แม้จะสังหารพวกวกะ จนพวกนั้นพ่ายแพ้กลับไป  ทว่าพรรคพวกของเขาที่หมู่บ้าน ต่างก็ล้มตายกันไปมากมาย แถมบิดาของเขายังหายสาบสูญไปอีกเช่นกัน

   “พิชญ์...ฉันจะทำยังไง ...ฉันจะเลี่ยงสงครามแล้วช่วยให้ทุกคนปลอดภัยไม่ได้เลยหรือ...ฉันไม่อยากสูญเสียคุณธามก็จริง แต่ฉันก็ไม่อยากสูญเสียนายกับทุกคนไปเลยนะ”

   วิรัลที่เริ่มใจเย็นและตั้งสติได้ เอ่ยบอกกับพี่เลี้ยงของเขา พิชญ์รวบร่างนั้นมากอดปลอบโยน แล้วจึงบอกกับอีกฝ่าย

    “ขอเวลาผมคิดแผนการอีกสักวันเถอะครับ ผมเชื่อว่าระหว่างนี้ ทางนั้นคงยังไม่รีบร้อนบุกไปแน่ ...”

   วิรัลพยักหน้ารับรู้ แล้วพึมพำตอบ

   “อืม...ฉันจะอดทนรอนะพิชญ์...ขอโทษจริง ๆ ที่วู่วามคิดถึงแต่เรื่องตัวเองแบบนี้”

   พิชญ์ยิ้มน้อย ๆ แล้วลูบศีรษะลูบหลังอีกฝ่ายปลอบโยน อย่างรักใคร่เอ็นดู

   “ผมเข้าใจครับ.... ผมเองก็เป็นห่วงพวกเขาไม่แพ้ท่าน และจะไม่ยอมให้พวกเขาต้องได้พบอันตรายจากพวกครุโฬเป็นแน่ ...เพียงแต่พวกเราต้องใช้เวลาและสติวางแผนการให้รอบคอบกว่านี้ เพื่อที่จะไม่เป็นอันตรายต่อทุกฝ่ายไม่ว่าทางเขาหรือท่าน”

   วิรัลพยักหน้าตอบรับ จากนั้นเด็กหนุ่มจึงขอตัวโทรศัพท์ไปแจ้งตรัณ ซึ่งตรัณเองก็อาสาแจ้งข่าวไปยังผู้นำตระกูลต่าง ๆ และยังบอกกับวิรัลอีกว่า หากต้องการกำลังเสริม ก็ให้สั่งมาได้ทุกเมื่อ

   “คุณธามครับ...ขอให้คุณปลอดภัยนะครับ”

   วิรัลบอกกับโทรศัพท์มือถือที่ธามทิ้งไว้ ไม่ยอมนำติดตัวไปด้วย ในนั้นมีคลิปภาพที่เจ้าตัวอัดไว้  ธามบอกรักเขา พร้อมให้สัญญาว่า จะระวังตัวและปลอดภัยกลับมาหาเขาให้จงได้ ซึ่งวิรัลก็อาศัยคำพูดนั้นหล่อเลี้ยงหัวใจให้มีความหวังอยู่ในยามนี้



   ปาลินีนั่งเงียบขรึมจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หลังจากได้รับข้อความฝากจากพิชญ์ เรื่องที่ธามกับชาครเตรียมบุกไปช่วยตัวประกันเผ่าวกะกันลำพัง และวิรัลเองก็ต้องการช่วยคนรักของตน โดยพิชญ์ก็รายงานตามตรงว่า เบื้องต้นนั้นวิรัลเสนอตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ทว่าพิชญ์ได้แย้งปรามไว้ จนกระทั่งอีกฝ่ายยอมรับฟัง แต่พี่เลี้ยงหนุ่มก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าเขายังไม่มีแผนสำรองที่ดีกว่านี้ แผนที่น่าจะเข้าท่าที่สุดก็คือแผนการที่มีวิรัลร่วมรบเป็นตัวล่อด้วยอยู่ดี  ซึ่งถ้าถึงตอนนั้น เขาก็คงต้องขอความร่วมมือหยิบยืมกำลังรบจากทางปาลินีด้วยอีกแรง เพื่อความปลอดภัยของวิรัลนั่นเอง

   “...ได้เจอเด็กพวกนั้นเร็วกว่าที่คิดไว้อีกนะ...แต่เจอแบบนี้ ฉันชักไม่อยากเจอเสียแล้ว ...เฮ้อ”

   หญิงชราพึมพำกับข้ารับใช้คนสนิท พลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินออกมาด้านนอกเรือน และเรียกรวมพลมโคหนุ่มในหมู่บ้านแห่งนี้ให้มารวมตัวกันต่อหน้าหล่อน

   “สมาชิกของตระกูลเรากำลังเดือดร้อน ...และท่านผู้นำตระกูลต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราเหล่านักรบมโคทั้งหลาย  คู่ต่อสู้ของพวกเราครั้งนี้ คือเผ่ากระหายเลือดและโหดเหี้ยมยิ่ง นั่นก็คือพวกครุโฬ  ถ้าใครรักตัวกลัวตาย ก็จงก้าวออกมาและขอถอนตัว.... ฉันจะไม่ลงโทษคนผู้นั้น  เพราะสงครามครั้งนี้มันเป็นสงครามที่ไม่ใช่การปกป้องตัวเองจากการถูกรุกราน  แต่เป็นการไปช่วยผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพรรคพวกของเราเท่านั้น!”

   สิ้นคำของปาลินี นักรบมโคแต่ละรายก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่ไหวติง และไม่มีทีท่าขลาดกลัวให้เห็นแต่อย่างใด

   “ดีมาก...ฉันขอขอบใจในความจงรักภักดีและรักเพื่อนพ้องร่วมเผ่าของทุกคน  สำหรับฉันแล้ว ถึงยังไงพวกครุโฬมันก็ต้องหาทางเล่นงานเราวันยังค่ำ ดังนั้นเราจงไปแสดงศักยภาพให้มันได้เห็นว่า พวกมโคไม่ใช่แค่เผ่าพันธุ์รักสงบที่มันจะรังแกฝ่ายเดียวได้! และการรบครั้งนี้ ฉันจะขอร่วมไปในศึกนี้กับทุกคนด้วยเช่นกัน  ถ้ารอดเราจะรอดด้วยกัน  ถ้าตาย พวกเราก็จะตายเคียงข้างกัน!”

   เสียงโห่ร้องจากบรรดานักรบมโคดังขึ้น แม้จะชราภาพ แต่ด้วยการตัดสินใจเด็ดเดี่ยวและมันสมองเฉียบแหลมของปาลินี ก็ทำให้พวกเขามั่นใจว่า การสู้รบครั้งนี้ พวกเขาจะไม่มีวันเสียเปรียบโดยสิ้นเชิงเด็ดขาด




... TBC ....

Syntyche

  • บุคคลทั่วไป
เข้าสู่ช่วงเคร่งเครียด ไคลแม๊กซ์อีกครั้ง
จากตอนที่22 พิภพเหมือนเด็กไม่รู้จักโตเลย เ็ห็นแก่ตัวมากอ่ะ จะไม่ยอมให้ตัวเองเจ็บคนเดียว ต้องลากคนอื่นให้เจ็บไปด้วยเหมือนกัน
เป็นลูกชายคนโตน่าจะเข้าใจสิ ว่าพ่อเค้าเป็นประมุข คนที่อยู่จุดสูงสุดเป็นผู้ปกครองคนหมู่มาก หน้าที่ความรับผิดชอบต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัวเสมอ
แล้วแม่ของมาลุตถึงความจริงจะเกลียดพิภพแต่ก็ไม่เคยด่าทอ ตบตีพิภพเลย แต่ไปลงกับคนสนิทแทน
การที่พิภพบังเอิญมาได้ยินความจริง เจ็บปวดมากและแค้นมากถึงขั้นเป่าหูแม่ของมาลุต ทำร้ายจิตใจและร่างกาย จนแม่ของมาลุตตรอมใจตายนี่โหดร้ายมากนะ
น่าจะสงสารมาลุตที่เป็นน้องบ้างสิ แม่ตัวเองตาย ก็ทำให้แม่ของมาลุตตายไปด้วย นี่ยังสั่งฆ่าแม่ของธามอีก โหดร้ายมากอ่ะ
แม่ตัวเองตายเพราะอุบัติเหตุ พิภพเสียใจมาก ต้องการให้คนอื่นเสียใจเหมือนกับที่ตนได้รับ ก็เลยฆ่าแม่ของน้องๆไปด้วย
ทำให้น้องๆชิงชังผิดหวังในตัวพ่อเหมือนกับตัวเอง เราว่าพิภพน่าจะได้บทเรียน ได้รับกรรมบ้างนะ คนแบบนี้มันไม่น่าให้อภัยเลย
ไม่รู้นักเขียนจะให้พิภพคู่กับภูธิปหรือเปล่า เราว่าก็ศีลเสมอกันดีนะ เลวร้ายพอกัน อย่าให้ได้รับการให้อภัยเลย
เพราะสิ่งที่ทำมันโหดร้ายเกินให้อภัยได้ ใครก่อกรรมอะไรไว้ก็ให้ได้รับตามนั้นเถอะ
เม้นต์ยาวมาก 55555+ อัดอั้นและอินเรื่องของพิภพอ่ะ เอาใจช่วยธามกับชาครให้ปลอดภัยกลับมา
จะรออ่านต่อนะคะ  :L1: :L2: :3123:

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
ธามกับวิรัล สุ้ๆๆ
 เกลียดพิภพที่สุดๆๆ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ดราม่าจัดหนักมาก

น่าสงสารพิชญ์ ที่วิรัลทุ่มให้ความรักกับธามมากจนแคร์ครอบครัวที่อยู่กับตัวเองมาตั้งแต่ต้นน้อยไป

เกิดแก่เจ็บตาย ต้องมีทุกคน ไม่ต้องรีบตาายตามไปหรอกหนู แต่ก็เข้าใจนะ วิรัลเป็นหนุ่มน้อย รักที่มีมันเลยร้อนแรงมุ่งมั่นอย่างหนัก

จะมีดราม่าทำร้ายใจคนอ่านมั้ยนะ


ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
นับถือท่าย่ามากๆๆ  พวกเผ่าชั่วๆ ต้องกำจัดซะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด