ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ  (อ่าน 406698 ครั้ง)

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
 :o8: :-[ รักเรื่องนี้มาก

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
มันอ่ะ ไปๆมาๆ ชอบคู่พิภพ ภูธิปอ่ะ ซาดิสม์ดี
แต่คนเขียนเคยบอกว่าภูธิปแก่กว่ามาก
แล้วพ่อวิรัล กับ อุรค เป็นอะไรกันอ่ะ งง อยากรู้

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
เขียนฉากต่อสู้ได้เร้าอารมณ์มากค่ะ
พิภพพพ ไม่เป็นไรนะ คราวหน้าก็จะปิดศึกแล้วสิ
ไม่อยากให้จบจริงจัง 
เวทิตคงไม่ได้กลับเผ่าแล้วล่ะ โดนป๋านากากักตัว หุหุ
สู้ๆค่า

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
กรี้ดดดดดดดด สงสารธามกับพิภพ อ่ะ เเง้ :sad4: :sad4:
กรี้ดดดดดดดด(รอบ 2 ) จบไวไปมั้ยอ้ะ โฮฮฮฮฮ :sad4: :sad4:
จบไวอย่างนี้ต้องมีตอนพิเศษเยอะๆนะนักเขียน ไม่งั้นเค้าไม่ยอมนะ ไม่ยอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o9 o9 o9 o9

tegomon

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านเรื่องของคุณพ่อกับงูเผือกยักษ์อ่ะค่ะ
ของพิชญ์กับชาครก็น่าสนุก
แล้วระหว่างพิภพกับภูธิปมันจะมีต่ออีกไหมคะเนี่ย
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกจนไม่อยากจะหยุดอ่านเลย
รอตอนต่อไปนะคะ

Syntyche

  • บุคคลทั่วไป
คุณพ่อเวทิตคงไม่ได้้กลับเผ่าแล้ว เพราะโดนป๋าอุรคกักขังตัวและหัวใจเอาไว้(หรือเปล่า?) อิอิ
เกือบสายไปแล้วมั้ยล่ะ วิรัลกับธามเกือบแย่แล้วเชียว เราอ่านแล้วลุ้นจนตัวโก่ง โชคดีที่พิชญ์พาเผ่านากามาทันเวลาพอดี
แถมพิภพโดนภูธิปหักแขนหักขาซะ อื้อหือ เราก็แอบสงสารนิดนึง รักได้ซาดิสม์มากค่ะคุณภูธิป
ไปแล้วค่ะ เราขอกลับไปจิ้นคุณพ่อกับงูเผือกยักษ์ต่อ~ >//<

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อุ๊บบบ เวทิต พ่อของวิรัล กับ อุรค เป็นกิ๊กกันหรือนี่
หุหุ  อยากอ่านคู่นี้บ้างจัง
ส่วนแก อธิป ตายยยยยยไปซ้าาาา

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
ทุกคนสู้ๆๆๆๆน้าา

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
มีลับลมคมในกันด้วย
หัวเราะทีหลังดังกว่า

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
สงสารพิภพ ภูธิปต้องการทรมานพิภพมากกว่าหรือเปล่า เพราะการที่พิภพต้องเห็นพ่อตัวเองและคนในเผ่าตัวเองถูกทำร้ายพิภพคงจะเจ็บปวดมาก เพราะพิภพยอมให้ภูธิปทำแบบนั้นจนถูกคนในเผ่ามองว่าร้ายเพื่อช่วยเผ่านี่นา แล้วอุรคเวทิตนี่ยังไงกันนะ เวลทิตยอมอยู่กับอุรคแต่โดยดีแล้วใชไ่หมนะนั่น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ถ้ามีตอนพิเศษ ขอเรื่องราวเกี่ยวกับคุณพ่อและคุณลุงเผ่านากานั่นด้วยนะคะ :o8:

ออฟไลน์ nayne

  • miKapleXD
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • Super Сasual Dating - Actual Women
มีตอนของอุรคกับเวทิดไหมค่ะเนี่ย
ยิ่งอ่านตอนนี้ยิ่งอยากรู้เรื่องของทั้งคู่มากๆ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ในที่สุดก็มาถึงตอนสุดท้ายแล้วค่ะ  พรุ่งนี้จะโพสบทสรุปปิดท้ายนะคะ

ส่วนตอนพิเศษ ยังไม่ได้เริ่มปั่นเลยค่ะ แต่ตั้งใจว่า จะเริ่มปั่นตอนพิเศษสักตอนสองตอน แล้วจะเปิดจองนิยายเรื่องนี้ตามมาค่ะ 

กำลังลังเลเหมือนกัน เพราะตอนนี้ใกล้ 300 หน้า(เอห้า) / เล่มแล้ว แต่ปัดอยากเขียนตอนพิเศษ ยาว ๆ  เหมือนกัน อาจจะเป็นคู่คุณพ่อเวทิต  หรือคู่ ของพิชญ์ ชาคร     อะไรแบบนี้เป็นต้น  เพราะตอนพิเศษหลังสงบสุขแล้ว มันมีเรื่องอะไรให้เขียนสบาย ๆ ได้อีกเยอะทีเดียว (แน่นอนเน้นหวานกระจาย)

แต่ถ้าไม่เน้นตอนพิเศษมากมายนัก ก็อาจจะได้แค่เล่มเดียวจบหนา ๆ 400 กว่าหน้า ก็ได้  -- อันนี้ก็ต้องลองปั่นดูกันก่อนล่ะนะคะ ว่ามันน่าจะงอกมาได้สักกี่หน้า

อ้อ! สำหรับคนที่อ่านได้เฉพาะในบอร์ด หรือไม่ต้องการซื้อทำมือ ปัดก็ไม่ได้ทิ้งนะคะ เดี๋ยวจะเอาตอนพิเศษ มาให้อ่านอยู่ดีค่ะ  อยากอ่านคู่ไหนเป็นพิเศษก็แจ้งมานะคะ จะได้คัดเลือกมาลงบอร์ดให้อ่านจ้ะ  ยังไงทุกเรื่องที่ปัดแต่ง ปัดก็ลงตอนพิเศษให้นักอ่านอ่านเสมออยู่แล้วล่ะค่ะ ไม่ต้องห่วงจ้ะ


----------------------------------------


/27



   การสู้รบระหว่างอมนุษย์ด้วยกันในครั้งนี้ หากมีแต่เผ่าครุโฬและเผ่านากาเพียงสองเผ่า ก็คงสูสีน่าดูชม  ถึงแม้จะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่าง ทว่ากลับไม่ได้ทำให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบสักเท่าใดนัก แม้พวกนากาจะใช้การรัดอันทรงพลังเป็นการโจมตี ทว่าพวกครุโฬก็อาศัยความว่องไว และปีกที่สามารถบินได้ หลบหนี รวมไปถึงร่อนโฉบเฉี่ยวกรงเล็บตวัดใส่นักรบนากาได้แผลไปหลายราย เฉกเช่นเดียวกับที่พวกนากาเมื่อรัดศัตรูได้เมื่อใด ก็ยากที่จะมีใครรอดชีวิตไปได้เช่นกัน 

    ทว่าด้วยจำนวนที่เสียเปรียบ และความแข็งแกร่งของเผ่าวกะรวมไปถึงบรรดาเหล่ามโคที่มาช่วยเสริม ทำให้เผ่าครุโฬในที่สุดก็ต้องยอมจำนนแก่เผ่าพันธมิตรทั้งหลาย  โดยภูธิปที่พ่ายแพ้ต่ออุรคอีกครั้ง  นั่งชันเข่านิ่งอย่างหมดกำลัง ทว่านัยน์ตานั้นยังลุกโชนไปด้วยศักดิ์ศรีที่ไม่มีวันจางหาย

   “สังหารข้าเสียสิ! เจ้าชนะแล้วนี่!”

   อุรคมองคนตรงหน้านิ่ง แล้วนึกชื่นชมต่อฝีมือที่พัฒนาขึ้นของภูธิปจนตัวเขาเองแทบจะต้านทานการโจมตีอันรุนแรงนั่นไม่ไหว  อาศัยประสบการณ์ชีวิตที่อยู่มานานมากกว่า จึงทำให้เขาสามารถสยบอีกฝ่ายลงได้ รวมไปถึงเรื่องขวัญกำลังใจที่ถูกบั่นทอน ยามลูกน้องของตนต้องพ่ายแพ้กับเผ่าอื่น ๆ ก็ทำให้ภูธิปมีสมาธิไม่มั่นคงในช่วงท้ายของการต่อสู้นัก

   “ไม่ดีกว่า ...ขืนฆ่าเจ้าเสีย ในอนาคตก็คงไร้เรื่องสนุกเป็นแน่”

   อุรคเปรยขึ้น ทำให้คนในเผ่าอื่นพากันชะงักและตื่นตระหนกต่อการตัดสินใจของอีกฝ่าย ยกเว้นพวกนากาที่คุ้นชินต่อนิสัยเช่นนี้ของผู้เป็นประมุขเสียแล้ว

   “ถ้าไม่ฆ่าข้า หากข้าฟื้นตัวเมื่อใด ข้าจะกลับมาโจมตีเจ้าอีกแน่!”

   ภูธิปกระชากเสียงตอบ แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ

   “ถ้าถึงตอนนั้นเจ้ายังมีชีวิตยืนยาวอยู่ ก็จงมาได้ทุกเมื่อ ข้าจะรอเป็นคู่มือให้เจ้าเอง ...ไม่ต้องกังวลนะ อายุขัยของข้า มีมากกว่าพวกเจ้าหลายเท่านัก”

   ภูธิปกัดฟันกรอด เขามองไปยังลูกน้องที่บาดเจ็บซึ่งเหลือแทบไม่ถึงครึ่งที่ยกมา แล้วจึงตวัดสายตาไปมองอุรคอีกครั้ง

   “...เจ้าจะปล่อยพวกข้าไปจริงเช่นนั้นหรือ”

   “ข้าพูดคำไหนคำนั้น...อ้อ ไม่ต้องกลัวพวกนั้นจะตลบหลังเล่นงานล้างเผ่าพวกเจ้า ...ถ้าข้าไม่อนุญาต พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ หรือถ้าใครมีปัญหา ก็ก้าวออกมา ข้าเองก็ยังไม่หมดแรงนักหรอกนะ”

   ทัพพันธมิตรต่างพากันกลืนน้ำลายลงคอเมื่อได้ยินคำพูดของอุรค  ทางด้านพิชญ์เองก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะนิสัยของเผ่านากา โดยเฉพาะตัวประมุขนั้น แทบไม่ผิดแผกจากที่เขาเคยได้ยินคำล่ำลือมา ในเรื่องที่ว่ามีนิสัยประหลาดและยากจะอ่านใจได้ โชคดีที่ตอนนี้อีกฝ่ายเลือกอยู่ข้างพวกเขา ถ้าเป็นศัตรูกัน ก็คงเป็นศัตรูที่น่ากลัวเป็นแน่

   “ก็ได้...แล้วถ้าข้าฟื้นตัวเมื่อไหร่ ข้าจะไปจัดการกับเจ้าอีกแน่นอน!”

   ภูธิปรับคำ เพราะหากเขายังคงดื้อดึง ไม่เพียงแค่เขา แต่ลูกน้องของเขาที่รอดตาย ก็อาจจะถูกรุมสังหารหมดสิ้น และพวกที่เหลืออยู่ในเผ่าก็จะได้รับอันตรายตามมาภายหลัง

   อุรคหัวเราะตอบรับ แล้วสั่งให้ลูกน้องของตนแหวกทางให้พวกครุโฬออกไป แม้จะมีบางคนในทัพพันธมิตรไม่พอใจ และโกรธแค้นอยากไล่ล่าสังหารเผ่าครุโฬให้สิ้นซากสักเพียงใด ทว่าก็ทำได้เพียงแค่เก็บความแค้นนั้นไว้ เพราะว่ากันตามจริงหากไม่ได้เผ่านากามาช่วย มีหวังพวกเขาก็คงกลายเป็นซากศพ นอนถมทับพื้นดินกันไปนานแล้ว

   

   “พาคนเจ็บไปรักษา ส่วนใครที่ยังแข็งแรงอยู่ เดี๋ยวช่วยขุดหลุมฝังคนตายด้วย ...ไม่ต้องแยกมิตรหรือศัตรู  แต่ฝังให้หมดทุกคน เข้าใจนะ!”

   พิชญ์ออกคำสั่งกับพวกมโค  ส่วนวกะที่เหลือก็มีท่าทางลังเล เพราะยังไงก็เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ทว่าพวกเขาก็ต้องชะงัก เมื่อปุริมตะโกนสั่งการขึ้นบ้าง

   “ช่วยพวกมโคขุดหลุมฝังศพ แล้วไปเรียกพวกผู้หญิงมาช่วยดูแลคนเจ็บของทั้งทางฝั่งเราและพวกมโคด้วย .... ส่วนพวกคุณถ้าไม่รังเกียจก็ขอเชิญไปยังสถานที่ของพวกเราเถอะ ที่นั่นอยู่ใกล้แค่นี้ แถมด้านเครื่องมือแพทย์ในนั้นก็มีพร้อม  ส่วนแพทย์ที่รักษา คนของเราก็มีทักษะแพทย์อยู่หลายราย”

   ปุริมหันมาสนทนากับพิชญ์และปาลินี ส่วนวิรัลนั้นมองธามที่บาดเจ็บ แล้วเอ่ยถามปุริมด้วยความเป็นห่วงในตัวคนรัก

   “มีใครกรุ๊ปเลือดเดียวกับคุณธามหรือเปล่าครับ เขาเสียเลือดไปมาก ต้องได้รับการถ่ายเลือดนะครับ”

   ปุริมยิ้มน้อย ๆ ให้กับกวางทองตรงหน้า พร้อมกับเอ่ยตอบ

   “เขาเป็นลูกชายฉัน เพราะฉะนั้นเลือดของฉันก็พร้อมมอบให้เขาอยู่แล้วล่ะ  เธอไม่ต้องกังวลหรอก”

   วิรัลถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นทั้งวกะและมโคก็ร่วมมือกันช่วยเหลือเรื่องคนเจ็บและคนตาย  ส่วนพวกนากานั้นขอตัวกลับเลย โดยไม่คิดอยู่พักผ่อน เพราะประมุขเผ่านากาอ้างว่ามีธุระสำคัญในเผ่ารอคอยอยู่ แต่ก็บอกว่ายินดีเป็นพันธมิตรให้เสมอ ถ้าวกะและมโคยังคงร่วมมือกันเช่นนี้ต่อไป



   “เขาบังคับพวกเราทางอ้อมสินะ เจ้าประมุขเผ่านากานั่นน่ะ”

   ปาลินีเปรยขึ้นหลังจากที่พวกอุรคจากไปแล้ว ทางด้านพิชญ์นั้นพยักหน้านิด ๆ แต่หันไปลอบยิ้ม เพราะคนที่เสนอความเห็นเช่นนั้น ก็คือเขานั่นเอง เพราะเขาอยากเห็นธามกับวิรัลมีความสุขอย่างแท้จริง เนื่องจากเขานั้นรู้ดีว่า ถึงปากจะบอกตัดขาด แต่สำหรับธามกับชาครก็ยังคงเห็นเผ่าวกะสำคัญเสมอ แต่ถ้ายังเป็นศัตรูกันอยู่ ทั้งคู่ก็จะมองหน้าทั้งสองฝ่ายไม่ติดนัก เพื่อเป็นการตัดปัญหา ก็สู้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกันเสียเลยน่าจะดีกว่า

   “แต่ผมว่าก็ดีนะครับ และคิดว่าจะเจรจาจริงจัง ทำเป็นลายลักษณ์อักษร ต่อจากนี้ ...ถ้าทางคุณจะไม่ถือสาต่อความผิดเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา”

   ปุริมเอ่ยขึ้นบ้าง ซึ่งปาลินีก็เหลือบมอง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

   “ฉันมันก็แค่สมาชิกในเผ่า  เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของประมุขคนปัจจุบันจะตัดสินใจ ....แต่ฉันคิดว่า พอจะรู้คำตอบล่วงหน้าอยู่แล้วล่ะนะ”

   ปาลินีมองหลานชายที่เดินตามชาครที่อุ้มธามไปต้อย ๆ แล้วยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก และเมื่อถึงสถานที่มั่นของเผ่า แต่ละฝ่ายก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนรักษาตัว โดยพวกมโคเองก็ได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างดีจากเผ่าวกะ จนต่างฝ่ายต่างเริ่มรู้สึกดี ๆ ต่อกันขึ้นมาบ้าง

    และเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก  วิรัลก็ติดต่อไปทางตรัณว่า สถานการณ์ทางนี้คลี่คลายเรียบร้อย ส่วนม่านฟ้าที่รู้เรื่องก็บ่นใส่วิรัลจนเด็กหนุ่มหูชา และถูกบังคับให้สัญญาว่า จะไม่ทำอะไรพลการโดยไม่บอกกล่าวกันแบบนี้อีก

   จากนั้นพออาการของธามพ้นขีดอันตราย วิรัลก็ขอตัวรับธามกลับไปดูแลที่เผ่าต่อ ซึ่งปุริมเองก็อนุญาต และบอกกับลูกชายว่า จากนี้ไปธามกับชาครพ้นโทษกบฏแล้ว และสามารถกลับมาเผ่าได้ทุกเมื่อ หากทั้งคู่ต้องการ



   ภาพพื้นเพดานสีขาว ในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ  และมีเวรยามวกะเฝ้าอยู่ด้านนอกอย่างหนาแน่น ทำให้คนที่นอนรักษาตัวอยู่บนเตียงและลืมตาตื่นขึ้นขมวดคิ้วอย่างนึกประหลาดใจ  ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคุ้นเคยเข้ามาใกล้ พร้อมกับประตูที่ถูกเปิด

   “พิภพ ฟื้นแล้วหรือลูก!”

   ปุริมอุทานอย่างยินดี แล้วตรงเข้ามาดูแลอาการของลูกชายใกล้ ๆ

   “พ่อ....”

   พิภพพึมพำเบา ๆ เขานิ่งเงียบไปสักพัก จนปุริมเป็นห่วง

   “เป็นอะไรไปพิภพ เจ็บตรงไหนหรือลูก”

   พิภพไม่ตอบ แต่กลับจ้องหน้าอีกฝ่าย แล้วเอ่ยถามกลับไป

   “พ่อช่วยผมไว้ทำไม...ผมทรยศต่อเผ่านะ...ทำไมไม่จับไปขัง หรือฆ่าทิ้งเสียล่ะ”

   ปุริมชะงัก ก่อนจะลูบเส้นผมของบุตรชายคนโตอย่างอ่อนโยน

   “พิภพ...พ่อไม่ใช่ประมุขของเผ่าแล้วนะ ...จำได้ไหม พ่อหมดวาระการเป็นประมุขของเผ่าไปตั้งแต่วันนั้น ...เพราะฉะนั้น ในฐานะพ่อ พ่อจะไม่มีวันยอมให้ใครพรากลูกไปจากพ่อเด็ดขาด  ต่อให้ต้องถูกลงโทษ หรือต้องรับโทษแทนก็ตาม”

   พิภพเงียบกริบ เขาเมินหน้าหนีไปอีกทาง ไม่ยอมสบตากับปุริม ทว่าปุริมเองก็เข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มตอนนี้ เขาลูบศีรษะอีกฝ่ายแผ่วเบา แล้วจึงเอ่ยกับลูกชายของตน 

   “ต่อแต่นี้ไป พ่อจะขอแก้ตัวกับลูก จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทั้งชีวิต เป็นพ่อที่ดีของลูก...ลูกจะให้โอกาสกับพ่ออีกครั้งได้ไหม พิภพ”

   พิภพไม่ตอบ หากแต่ร่างของเขาสั่นเทิ้ม และมีเสียงสะอื้นออกมานิด ๆ ปุริมมองบุตรชายคนโตนิ่ง เขาไม่พูดอะไร เพียงแต่ลูบศีรษะอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งกฤตเข้ามา

   “ท่านประมุข...ง่า ผมหมายถึงท่านรักษาการประมุขน่ะครับ”

   กฤตรีบแก้คำพูดใหม่ เพราะปุริมจ้องเขามาด้วยแววตาดุ ๆ ด้วยเกรงว่าพิภพจะเข้าใจเขาผิดอีก

   “ท่านผู้คุ้มกฎแต่ละท่าน บอกว่าอยากปรึกษาเรื่องตำแหน่งประมุขของเผ่า กับท่านรักษาการ เพราะจะให้ปล่อยว่างแบบนี้ ก็คงไม่ดีนัก”

   ร่างของพิภพชะงักเล็กน้อย แล้วจึงนิ่งเฉยตามมา ทำให้ปุริมถอนหายใจยาว ก่อนจะเอ่ยกับกฤตเรียบ ๆ

   “ไปเรียกพวกนั้นมาคุยในห้องนี้ เพราะฉันกำลังดูแลลูกชายของฉันอยู่ ...ถ้าไม่ยอมมา ก็บอกให้หาคนรักษาการประมุขคนใหม่แทนแล้วกัน”

   กฤตยิ้มกว้างอย่างดีใจแทนผู้เป็นนาย เขารีบรับคำ พร้อมกับวิ่งไปบอกตามที่ปุริมสั่ง ส่วนพิภพนั้นนิ่งอึ้งกับการตัดสินใจของบิดา และเงียบไปสักพักใหญ่ ใบหน้าคมเข้มเคร่งขรึมลงคล้ายดังจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะพึมพำออกมาติดขัดเล็กน้อย

   “...พ่อ...เรื่องการตายของน้ามธุรา...กับแม่ของธาม...ผม...”

   ปุริมชะงักกึก พลางมองบุตรชายที่หันมาสบตากับเขาด้วยแววตาหวาดหวั่น แล้วจึงถอนหายใจยาว ราวดังจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร เขาเลื่อนมือวางที่ไหล่ของบุตรชาย รับรู้ถึงอาการสะดุ้งนิด ๆ ของร่างนั้น ก่อนที่มือใหญ่จะบีบบ่าของร่างบนเตียงเบา ๆ อย่างอ่อนโยน

   “ทุกคนต้องเคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้นล่ะพิภพ...แต่ถ้าทำผิดลงไปแล้ว จะเลือกแก้ไข หรือจะเลือกโทษตัวเอง โดยไม่คิดทำอะไร มันก็แล้วแต่คนผู้นั้นจะเลือก... แต่พ่อเชื่อนะพิภพ ว่าคนฉลาดอย่างลูก จะต้องรู้แน่ ว่าควรเลือกทางไหน”

   พิภพนิ่งอึ้งสักพัก ก่อนจะโต้แย้งกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

   “แต่โทษของผม...มันไม่สมควรที่จะได้รับการอภัยง่าย ๆ”

   ปุริมถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงลูบศีรษะของอีกฝ่ายค่อย ๆ

   “... การตายหนีปัญหามันเป็นเรื่องง่ายก็จริง ...แต่ลูกไม่คิดหรือว่า นั่นมันเท่ากับลูกได้ทำร้ายคนที่เขาเห็นลูกเป็นสิ่งสำคัญ อย่างเช่นพ่อนี่ไงล่ะ...”

   พิภพนิ่งอึ้ง แล้วเม้มปากน้อย ๆ กลั้นสะอื้นเอาไว้ ทว่าสิ่งที่บิดาพูดต่อมา ก็ทำให้เขาถึงกับเบิกตาด้วยความตกตะลึง

     “พิภพ... ธามน้องชายของลูกฝากอโหสิกรรมมาให้แล้ว... ถ้าลูกสำนึกผิดจริง ลูกก็ควรทำในสิ่งที่ถูกที่ควรหลังจากนี้ เพื่อชดใช้ในสิ่งที่ลูกได้ทำลงไป ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของลูก...”

   พิภพน้ำตาไหลซึมแล้วพยักหน้ารับรู้  จากนั้นสักพักพวกผู้คุ้มกฎอาวุโสก็เข้ามาในห้อง และปรึกษาถกเถียงกัน ถึงความเหมาะสมของสมาชิกแต่ละรายที่เสนอชื่อมาเป็นประมุขคนใหม่ เพราะพิภพเองแม้จะได้รับการอภัยโทษ แต่ก็มีความผิดติดตัว ทำให้ไม่สามารถรับตำแหน่งประมุขได้อีก แถมยังถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ภายในหุบเขาของเผ่าแห่งนี้ตลอดชีวิตอีกด้วย

    ส่วนลูกน้องของพิภพแต่ละคน ล้วนต่างได้รับการอภัยโทษเช่นกัน เพราะถือว่ากระทำตามคำสั่งผู้เป็นนายเท่านั้น แถมยังมีความดีที่ช่วยเหลือเรื่องปล่อยตัวประกันอีก จึงทำให้ทุกคนสามารถกลับมาทำงานในเผ่าได้ตามเดิม

    การประชุมทำท่าจะยืดเยื้อออกไปอย่างหาข้อสรุปไม่ได้  ทว่าพิภพก็ได้ขออนุญาตบิดาและผู้คุ้มกฎอาวุโสทั้งหลาย เสนอความเห็นของเขาบ้าง  ชายหนุ่มได้แจกแจงรายละเอียดและคุณสมบัติ รวมไปถึงความสามารถต่าง ๆ ของว่าที่ประมุขแต่ละคนแบบเจาะลึก เนื่องจากเขาสามารถจดจำข้อมูลของวกะคนสำคัญในเผ่าได้แทบทั้งหมด  ข้อมูลของพิภพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาในครั้งนี้มาก  และนั่น จึงทำให้พวกเขาสามารถคัดเลือกคนที่จะมาดำรงตำแหน่งประมุขได้สำเร็จในที่สุด เหลือก็เพียงเรียกเจ้าตัวมาทดสอบสัมภาษณ์ปฏิภาณ ไหวพริบ และทัศนคติที่มีต่อเผ่าเท่านั้น

 

   ในขณะที่เผ่าวกะกำลังประชุมคัดเลือกผู้นำคนใหม่ของเผ่า อีกด้านหนึ่งพวกมโคที่ไปออกรบ ต่างก็กลับมาทำงานขยันขันแข็งกันยิ่งกว่าปกติ เพื่ออุดรอยโหว่ของเพื่อนพ้องในตระกูลที่เสียชีวิตไป  ส่วนพวกที่ยังบาดเจ็บอยู่ ก็ถูกคำสั่งเด็ดขาดให้พักฟื้น ห้ามแอบมาทำงานกันเด็ดขาด โดยผู้ออกคำสั่งก็คือประมุขของเผ่านั่นเอง

   “คุณธาม! อีกแล้วนะครับ! ถ้าคุณยังแอบทำงานแบบนี้ ต่อไปผมจะให้พิชญ์มาเป็นเลขาคุณแทนชาครนะ!”

   ธามถอนหายใจเฮือกใหญ่กับบทลงโทษที่ได้ฟัง ส่วนชาครลอบยิ้ม เพราะรู้ว่าเจ้านายของเขา ก็แพ้ทางพิชญ์อยู่ใช่น้อย

   “ก็ได้ ๆ ไม่ทำแล้ว จะไปพักเดี๋ยวนี้ล่ะ... แต่นอนคนเดียวก็เหงานี่ อยากหาคนนอนเป็นเพื่อนด้วยน่ะ”

   วิรัลสั่นศีรษะอย่างระอา เพราะว่าเขานั้นยังคงแข็งแรงดี จึงต้องขยันทำงานแทนพรรคพวกที่บาดเจ็บ แต่คนรักแสนอ้อนของเขา ก็พยายามจะให้เขาอู้งานอยู่เรื่อย แถมถ้าเขาไม่ยอม เผลอ ๆ เจ้าตัวก็จะแวบเข้ามาช่วยงานเขาเป็นระยะแทน

   “ผมนอนเป็นเพื่อนแทนท่านวิรัลดีไหม เผื่อคุณอาจจะนอนหลับพักผ่อนได้เต็มที่กว่าเดิมก็ได้”

   พิชญ์แกล้งแหย่ แต่ทำให้ธามนั้นสะดุ้ง แล้ววิรัลหัวเราะเบา ๆ ส่วนชาครนั้นอมยิ้ม ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อธามเอ่ยตอบกลับมา

   “ไม่ล่ะ ฉันกลัวชาครจะโกรธเอา ที่นอนใกล้ชิดหวานใจของเขาเข้า”

   พิชญ์ชะงัก หน้าแดงระเรื่อ ส่วนชาครทำเป็นไม่รู้ไม่สน และวิรัลเบิกตาอย่างตื่นเต้น

   “ตกลงพวกนายคบกันจริง ๆ หรือพิชญ์  ว้าว! วิเศษไปเลย ทั้งสองคนเหมาะสมกับมากเลยล่ะ!”

   วิรัลบอกแล้วยิ้มกว้าง ทำให้พิชญ์กระแอมถี่ ๆ แล้วรีบปฏิเสธยกใหญ่

   “เข้าใจผิดแล้วครับ! คุณธามก็เหมือนกัน เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ คนอื่นมาได้ยินเข้า แล้วเอาไปพูดผิด ๆ ผมเสียหายนะ! นายก็เหมือนกัน แก้ตัวแทนกันบ้างสิ!”

   พิชญ์พาลไปทั่ว ทำให้แต่ละคนอมยิ้ม สำหรับวิรัลเริ่มมั่นใจแล้วว่าพิชญ์นั้นคงมีใจให้กับชาครจริง ๆ เพราะความห่วงใย อ่อนโยน ที่มักจะมีให้กับเขา เดี๋ยวนี้ชายหนุ่มก็เริ่มปฏิบัติกับชาครบ่อยครั้ง โดยที่พิชญ์เองก็ไม่ทันรู้ตัวนัก

   “เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว! มาพูดเรื่องเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับเผ่าวกะแทนดีกว่า อาทิตย์หน้าเราต้องคัดเลือกส่งตัวแทนฝ่ายตระกูลของเราไป  ทางตระกูลพงศ์พิสุทธิ์ ท่านตรัณเสนอตัวเองไป  ส่วนตระกูลอื่น ก็เห็นว่าจะส่งผู้นำบ้าง ทายาทบ้างไปร่วมในการเซ็นสัญญาด้วย  ส่วนทางตระกูลของเรา ท่านวิรัลและคุณก็ต้องไปในฐานะตัวแทน ส่วนฉันกับนายก็เป็นผู้ติดตาม ตกลงตามนี้นะ”

   พิชญ์เปลี่ยนเรื่องสนทนาแล้วบังคับธามกับชาคร ที่ยังคงมีท่าทางลังเล

   “แต่พวกเราไม่ใช่คนของเผ่ามโคนะ จะให้ร่วมเป็นตัวแทนของฝั่งนี้จะดีหรือ”

   ชาครเอ่ยแทนผู้เป็นนาย ทำให้พิชญ์ขมวดคิ้วยุ่ง แล้วโพล่งใส่

   “บ้ารึ! ป่านนี้ยังจะมาพูดแบบนี้อีก ถ้ายังไม่ถอนคำพูด ฉันจะโกรธจริง ๆ นะ!”

   วิรัลอมยิ้มน้อย ๆ แล้วสวมกอดคนรักที่ทำหน้าลังเล ก่อนจะเอ่ยขึ้นบ้าง

   “คุณเคยพูดไม่ใช่หรือครับว่า เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็อย่าคิดเล็กคิดน้อยเลยครับ ลองพิชญ์บอกว่าได้ ก็ไม่มีใครในเผ่ามโคกล้าค้านหรอกครับ”

   พิชญ์ชะงักก่อนจะกระแอมเบา ๆ เพราะไม่อยากยอมรับว่าเขามีอำนาจขนาดนั้นเหมือนอย่างที่วิรัลพูดไว้

   “โอเค ๆ ขอถอนคำพูด ...ขอโทษนะ”

   ชาครบอกแล้วยิ้มน้อย ๆ ทำให้คนฟังชะงักหน้าแดงระเรื่อ แล้วทำเป็นค้อนให้อย่างหมั่นไส้ จนคนอื่นต้องอมยิ้ม

   “ว่าแต่ทางฝั่งนั้น คงต้องหาประมุขใหม่แทนพี่ชายคุณสินะ ...อ๊ะ”

   วิรัลเอ่ยขึ้นก่อนจะชะงัก แล้วพึมพำขอโทษเบา ๆ เพราะเกรงว่าธามจะรู้สึกไม่พอใจ ที่ปุริมไม่ได้ลงโทษพิภพในเรื่องแม่ของธาม อย่างที่ควรจะเป็น

   “หึ ๆ ไม่เป็นไรหรอกวิรัล ฉันไม่คิดอะไรเรื่องนั้นแล้วล่ะ อีกอย่างฉันก็ฝากพ่ออโหสิกรรมเรื่องแม่ ให้เขาไปแล้ว”

   พิชญ์กับวิรัลมองธามอย่างแปลกใจ เพราะก่อนหน้านั้นธามยังแค้นเคืองเรื่องของมาลุตอยู่เลยด้วยซ้ำ

   “ถ้าฉันฆ่าเขา หรือบังคับให้พ่อลงโทษเขาให้ตายตกตามกับแม่ของฉันไป ...มันก็รังแต่จะทำให้พ่อเสียใจเปล่า ๆ เพราะถึงยังไงแม่ก็คงไม่มีวันฟื้นขึ้นมาอยู่ดี ...สู้อโหสิให้แก่กันเสียดีกว่า  คนสำคัญของเขาก็จะได้ไม่เสียใจ แล้วเกิดเจ็บแค้น เป็นเวรเป็นกรรมสืบเนื่องกันไปอีกไม่เลิกรา...คนที่ฉันรักและสำคัญกับฉัน ก็จะได้ไม่ต้องมาพลอยโดนลูกหลงจากความแค้นเคืองพวกนี้ไปด้วย” 

   วิรัลมองคนรักของเขาอย่างซาบซึ้ง ทางด้านธามนั้นมองเด็กหนุ่มแล้วแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน

    “ที่ฉันคิดได้แบบนี้ เพราะฉันมีเธออยู่เคียงข้างรู้ไหม...เธอทำให้ฉันรู้จักคำว่ารัก เสียสละ และอภัย ...ได้อยู่กับเธอฉันมีความสุข และฉันก็ไม่อยากจะกลับไปเป็นคนที่จมทุกข์อยู่กับความแค้นเหมือนเดิมอีกแล้ว”

   วิรัลยิ้มหวานตอบรับอีกฝ่าย ส่วนพิชญ์พอเห็นเจ้านายของตนกับคนรักของเจ้านาย เริ่มที่จะมีบรรยากาศดี ๆ ต่อกัน  เขาจึงปลีกตัวออกมาเช่นเดียวกับชาคร แล้วปล่อยให้ทั้งคู่อยู่กันตามลำพัง

 

   หลังออกมาจากห้องแล้ว พิชญ์จึงลงไปเดินเล่นที่สวนหย่อมของคฤหาสน์ ซึ่งชาครก็เดินตามไปด้วย เพราะสังเกตเห็นว่าพิชญ์มีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก

   “เป็นอะไรไป คิดอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ”

   พิชญ์ชะงักแล้วจึงหันไปมองชาคร เขาก้มหน้าอยู่สักครู่ แล้วจึงเอ่ยขึ้นเบา ๆ

   “ฉันเคยฆ่าพี่ชายเขา ...ทั้งที่ตอนนั้น ฉันก็พอมองออก ว่าเขาให้อภัยหมอนั่นแล้ว ...แต่ด้วยสัญชาตญาณของฉันมันเตือนว่า พี่ชายของเขาเป็นอันตราย และหากปล่อยไว้ ไม่เขาก็ท่านวิรัล ต้องเดือดร้อนอีกแน่... ฉันจึงตัดสินใจสังหารหมอนั่นเสีย ...มาจนถึงตอนนี้ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าเจ้านายของนายน่ะ จะโกรธเกลียดฉันบ้างไหม”

   ชาครแย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงดึงร่างโปร่งมากอดหลวม ๆ ทีแรกพิชญ์นั้นแข็งขึงและตกใจ ทว่าพอได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย รวมไปถึงรอยยิ้มและมือใหญ่ที่ลูบหลังเขาอย่างอ่อนโยน ก็ทำให้ชายหนุ่มเริ่มโอนอ่อนแล้วซบลงกับอกกว้างของชาครอย่างง่ายดาย

   “ท่านธามไม่เคยโกรธนายหรอก เขามีแต่จะขอบคุณนายด้วยซ้ำ...เพราะด้วยสายเลือด แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายอันตรายเพียงใด แต่เขาก็สังหารท่านมาลุตไม่ลง ...ถึงจะชอบวางตัวปั้นปึ่งเย็นชา แต่ท่านธามอ่อนโยนมากนะ เพราะฉะนั้นฉันถึงตัดสินใจจะติดตามรับใช้เขาตลอดชีวิตล่ะนะ”

   “อืม...เพราะฉันรู้ว่าเขาก็มีด้านที่ดีอยู่มาก ถึงยอมฝากฝังท่านวิรัลให้เขาดูแลยังไงล่ะ...”

   พิชญ์รับคำ แล้วจึงอยู่นิ่งแบบนั้น  สักพักเขาจึงเริ่มรู้สึกตัวว่าตนอยู่ในสภาพใด ใบหน้าหล่อเหลาร้อนวูบวาบ ก่อนจะดันกายห่างออกมา โดยคนกอดก็ยอมปล่อยมือออก แม้จะเสียดายอยู่บ้างก็ตาม

   “แล้วเรื่องนั้น...เรื่องที่นายเขียนไว้ในจดหมายล่ะ...เรื่องจริงใช่ไหม...หรือว่าเขียนไปแบบนั้นเอง”

   ชาครหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นสีหน้าเขินอายของคนตรงหน้า เขามั่นใจไปแล้วเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าพิชญ์มีใจตอบ เพียงแต่คนที่เขารักนั้นค่อนข้างปากแข็งไปสักนิด จึงทำให้เขาต้องเหนื่อยบอกรักไปสักหน่อย

   “แน่นอน เวลาเป็นตายแบบนั้นใครจะล้อเล่นกันได้ลงล่ะ ...ถ้าไม่เชื่อจะพูดให้ฟังแทนก็ได้ ...ฉันรัก...”

   “เดี๋ยว! อย่าพูดนะ!”

   พิชญ์รีบห้าม เมื่อเห็นลูกน้องของเขาสองสามคนเดินผ่านมา และกำลังมองมาทางพวกเขาอย่างสนอกสนใจ

   “เจ้าบ้า! ไม่มีความละเอียดอ่อนเลย พวกวกะหยาบคายแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าเนี่ย!”

   พิชญ์บอกด้วยความอายเต็มที่ ทำให้ชาครถอนหายใจ แล้วจึงจูงมืออีกฝ่ายเดินไปด้วยกัน

   “เดี๋ยว! นี่นายจะพาฉันไปไหนน่ะ!”

   ชาครหันมายิ้มติดเจ้าเล่ห์ ทำเอาคนถามชะงัก แล้วจึงหน้าแดงตามมาเมื่อได้รับคำตอบ

   “ก็พาไปสารภาพรักแบบโรแมนติก ในที่ที่ไม่มีคนแอบดูน่ะสิ”

   จากนั้นพิชญ์ก็เดินหน้าแดงตามอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ ด้วยความเต็มใจ โดยไม่คิดขัดขืน เพราะเขาเพิ่งเริ่มรู้ใจตัวเองว่ารักอีกฝ่ายเช่นกัน ก็ตั้งแต่ตอนที่ได้อ่านจดหมายฉบับนั้นของชาครนั่นเอง

   

... TBC ...




ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จะจบแล้ววววอ่ะ
ยังอยากอ่านต่อเรื่อยๆ
จริงอยากอ่านหลายคู่มาก ทั้ง พิชญ์ กับ ชาคร
หรือ พิภพ กับ ภูธิป? ชอบซาดิสม์ๆ

ออฟไลน์ nayne

  • miKapleXD
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • Super Сasual Dating - Actual Women
โอ้วววว หวานๆๆๆๆ
ตอนนี้หวานน้ำตาลหยดจริงๆ
ใครจะได้เป็นประมุขคนใหม่ของเผ่าวกะเนี่ย

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ชักชอบคู่พิชญ์แล้วชิ อยากอ่านคู่คุณพ่อแล้วชิคุณอุรคท่าทางกะล่อนดีขนาดอายุเยอะแล้วยังทำตัวเป็นหนุ่มน้อยอยู่เลย

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
จบหวานมากกก :-[ :-[ :-[
ใครได้เป็นประมุขของวกะหว่านี่?  กฤตรึป่าว  เพราะก็ไม่รู้จะมีใครอีกแว้วอ่า  :m28:

ส่วนพิภพ  อยากรู้ว่าจะได้เจอกับภูธิปอีกรึป่าว  อิอิ    :laugh:
คิดว่าคู่นี้เหมาะกันพอควรเลยนะ  แต่ถ้าได้เจอกันอีก สงสัยจะเป็นแนวตบจูบแล้วล่ะนั่น   :m20:

Syntyche

  • บุคคลทั่วไป
ดีจัง สถานการณ์คลี่คลาย คุณพ่อปลดระวางจากตำแหน่งประมุขแล้ว
ทีนี้มีเวลาเต็มที่คอยให้ความรักกับพิภพแล้วนะ ไม่ต้องน้อยใจแล้วล่ะ
พิภพก็ใช้เวลานี้อยู่กับคุณพ่อ ดูแลท่านให้เต็มที่เลย

ขอรีเควสคู่คุณพ่อเวทิตกับป๋าอุรคค่ะ สักสองตอนดีมั้ยน้า ฮ่าๆ อยากอ่านมากๆ  :-[

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
คุณนักเขียนปัดดดดดดดด. เห็นใจคนอ่านตาดำๆด้วยเถอะ :monkeysad: :monkeysad:
ลงตอนพิเศษซัก5-6ตอนเถอะ เค้ายังทำใจไม่ด้ายยยยยย อ่า :sad4: :sad4:



ถึงเวลาจะเปลี่ยนไป...แต่หัวใจฉันยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง[/color][/size]

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
พิภพคงจะไม่น้อยใจพ่อแล้วสินะ แล้วภูธิปพิภพนี่ยังไงกันแน่ ภูธิปรู้สึกยังไงกับพิภพกันนะ แล้วใครจะได้เป็นหัวหน้าของเผ่ากันนะเนี่ย วิรัลธามหวานน่าดู พิชญ์ขี้อายนะนั่น ชาครดูแลพิชญ์ดี ๆ นะ แล้วอุรคเวทิตนี่ยังไงกันนะเนี่ย อุรครีบกลับไปหาเวทิตสินะเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Syntyche

  • บุคคลทั่วไป
ดันๆๆ รออ่านค่ะ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

ลิขิตรักอสุรกาย
บทสรุปส่งท้าย


   การเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรระหว่างสองเผ่าพันธุ์ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี  ประมุขเผ่าวกะคนใหม่นั้น อายุยังน้อยเพียงแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น ทว่าเจ้าตัวมีคุณสมบัติบางอย่างที่ผิดแผกจากคนอื่น ๆ ที่มีสิทธิ์เข้าเลือกตำแหน่งประมุข  นั่นก็คือ นอกจากจะมีหัวทางด้านการบริหาร และเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีแล้ว ชายหนุ่มยังมีความอ่อนน้อมถ่อมตน และยอมรับฟังความเห็นที่มีประโยชน์จากคนรอบข้าง อย่างที่ยากจะหาได้ในหมู่พวกวกะระดับผู้นำตระกูลส่วนใหญ่ ที่มักมีแต่ความเย่อหยิ่งยโสในตัวเพียงเท่านั้น

   “จนถึงทุกวันนี้ ผมเองยังไม่อยากเชื่อ ว่าจะได้รับตำแหน่งประมุขของเผ่าเลยล่ะครับ... ผมไม่มั่นใจว่าตัวผมจะพาเผ่าให้เจริญก้าวหน้า เหมือนอย่างท่านปุริมทำไว้ได้ไหม”

   อภิคม ประมุขคนใหม่ของเผ่าวกะ เอ่ยกับธามและวิรัล ในช่วงพักกินเลี้ยงหลังการเซ็นสัญญาจบลง

   “คุณทำได้อยู่แล้วน่า ลองพ่อและผู้คุ้มกฎทุกคนเลือกคุณมาแล้ว แสดงว่าพวกเขาก็ต้องคัดสรรกันมาเป็นอย่างดีแน่นอน”

   ธามให้กำลังใจประมุขคนใหม่ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม เขาขอบคุณธามเบา ๆ แล้วจึงขอตัวไปอีกทาง เมื่อมีคนมาแจ้งว่า มีเรื่องจะปรึกษาประมุขคนใหม่สักหน่อย

   “ทีนี้เผ่าของผมกับเผ่าของคุณก็เป็นพันธมิตรกันอย่างถูกต้องสมบูรณ์สักทีนะครับ คุณธาม”

   ธามยิ้มให้กับคนรักพร้อมกับเอ่ยตอบ

   “ใช่ ...ขอบคุณนะวิรัล ถ้าไม่ได้ความกล้าหาญของเธอ และทุกคนในเผ่ามโคเมื่อวันนั้น  บางทีพวกเราอาจจะไม่ได้มายืนคุยกันอย่างสงบสุขแบบนี้ก็ได้”

   วิรัลยิ้มรับ แล้วจึงแย้งกลับไป

   “ไม่ใช่แค่ผมและคนของผมหรอกครับ แต่เป็นเพราะทุกคนในเผ่าวกะร่วมมือร่วมใจกันด้วยต่างหาก”

   ธามโอบร่างคนรักมาใกล้โดยไม่สนใจสายตาของคนอื่น ทว่าก็ไม่มีใครมองทั้งคู่อย่างดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างใด ตรงกันข้าม ล้วนแต่มีความชื่นชมให้เห็นกันถ้วนหน้าด้วยซ้ำ


   และเมื่องานฉลองเสร็จสิ้นลง ตัวแทนฝั่งมโคก็ต่างขอตัวเดินทางกลับเผ่า โดยมีประมุขรวมไปถึงผู้นำระดับสูงคนอื่น ๆ ของเผ่าวกะ ตามมาส่งถึงที่รถยนต์ของแต่ละฝ่าย

   “ธาม... วันนี้พี่เขายังไม่พร้อมจะมาพบลูก ...แต่ถ้าวันใดที่เขาพร้อมจะให้อภัยตนเองแล้ว  พ่อหวังว่าลูกคงจะยอมมาพบหน้าเขาบ้างนะ”

   ปุริมบอกกับลูกชายคนเล็ก ธามชะงักเล็กน้อย ก่อนจะสบสายตาผู้เป็นบิดาที่ยังคงมีความกังวลแฝงอยู่ ชายหนุ่มยกยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก แล้วจึงตอนกลับไปสั้น ๆ

   “ครับ...”

   “ขอบใจนะลูก...ที่อภัยให้พี่เขา”

   ปุริมบอกตอบด้วยความตื้นตัน ซึ่งธามก็มองบิดาของเขา พลางกำมือน้อย ๆ ก่อนจะคลายออก และตัดสินใจทำในสิ่งที่ต้องการมานาน โดยการโผกอดคนตรงหน้าเขา

   “ผมอภัยให้เขา เพราะไม่อยากให้พ่อต้องเสียใจ... และผมหวังว่าเขาจะคิดถึงความรู้สึกพ่อ ยอมอภัยให้ตัวเองสักทีเหมือนกัน”

   ปุริมที่นิ่งอึ้งตอนแรก ค่อย ๆ กระชับอ้อมกอดตอบบุตรชายคนเล็กด้วยความซาบซึ้ง ทั้งคู่กอดกันอยู่พักใหญ่ ธามจึงดันกายออกมาช้า ๆ

   “รักษาตัวด้วยนะครับพ่อ แล้วผมจะแวะมาเยี่ยมพ่อกับพี่บ่อย ๆ”

   ธามเอ่ยอำลา ซึ่งปุริมก็พยักหน้ารับ

   “แล้วพ่อจะรอนะลูก ...ลูกกับวิรัลเองก็เหมือนกัน รักษาตัวด้วยล่ะ”

   ธามกับวิรัลยิ้มรับ ทั้งคู่ยกมือไหว้อำลาปุริม จากนั้นพวกเขาจึงแยกจากพวกวกะ ตรงกลับหมู่บ้านมโคของพวกตนด้วยอารมณ์อันปลอดโปร่ง ที่เรื่องราวทั้งหลายล้วนแต่คลี่คลายลงไปในทางที่ดีแทบทั้งสิ้น

   
   เมื่อมาถึงหมู่บ้านมโค วิรัลก็บอกให้พิชญ์จอดรถ และชวนธามลงมาเดินเล่นที่สวนหย่อมหน้าหมู่บ้านของพวกเขา

   “จำได้ไหมครับ ผมเห็นคุณวันแรกที่นี่ ...คุณนั่งอยู่ในรถ ผ่านมา แล้วเราก็สบตากัน”

   วิรัลบอกกับคนรักพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งธามก็ยิ้มตอบ พลางโอบบ่าของอีกฝ่ายมาแนบใกล้ร่างเขา

   “จำได้สิ ...ฉันจำได้ดีทีเดียว ...เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ได้สบตาเธอ  ฉันก็ถูกขโมยหัวใจไปจนหมด และมีแต่ภาพของเธอในสมองของฉันเท่านั้น”

   วิรัลหน้าแดงวาบ ที่อีกฝ่ายเองก็เป็นเหมือนเขา เด็กหนุ่มพลิกกายซบหน้ากับอกกว้างของธาม แล้วพึมพำบอก

   “ถ้าหากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นเพียงแค่ความฝัน และพอตื่นขึ้น ก็ไม่มีคุณอยู่ข้างกายเหมือนอย่างทุกวันนี้ ... ผมคงแทบจะทนไม่ได้ทีเดียว”

   ธามประคองกอดคนรักของเขาอย่างอ่อนโยน  แล้วจึงกระซิบบอกเสียงแผ่ว

   “เธอไม่ได้ฝันหรอกวิรัล ...และถึงจะเป็นฝัน หากเมื่อใดเธอตื่นขึ้นมา ตัวฉันในโลกแห่งความเป็นจริง ก็จะยังคงได้ตามมาพบกับเธอ...ได้รัก และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ครองคู่กันอยู่ดี... พวกเราเป็นคู่แท้ของกันและกันไม่ใช่หรือวิรัล”

   วิรัลเงยหน้ามองคนที่เขารักด้วยดวงตาเอ่อน้ำใส  พร้อมกับกระซิบตอบอย่างมีความสุข

   “ครับ...ไม่ว่าจะเกิดสักกี่ชาติ ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร ...ผมก็จะตามหาคุณให้พบ และได้รักกันแบบนี้ในทุกชาติไปอย่างแน่นอน”

   ธามมองคนตรงหน้าอย่างรักใคร่และตื้นตัน จากนั้นจึงโน้มใบหน้าลงจุมพิตที่เปลือกตาของอีกฝ่ายแผ่วเบา

   “มันต้องเป็นแบบนั้นแน่... ฉันเองก็เชื่อแบบนั้น”

   วิรัลยิ้มหวานตอบรับ จากนั้นทั้งคู่ก็เดินชมนกชมไม้บริเวณนั้นกันอีกพักใหญ่ พิชญ์ที่ยืนดูห่าง ๆ กับชาคร จึงเชิญทั้งคู่กลับไปพักผ่อนที่บ้าน เพราะวันนี้ทั้งคู่ตื่นกันแต่เช้าเพื่อเดินทาง และยามนี้ก็ควรกลับไปพักผ่อนได้แล้ว

   “ช่วยไม่ได้ ...ดีเหมือนกัน ขืนอยู่ที่นี่นานต่ออีกนิด เกิดมีใครผ่านไปผ่านมาแล้วปิ๊งวิรัลของฉันเข้าบ้าง ก็คงไม่ดีนัก”

   ธามเปรยตัดบท เมื่อเห็นคนรักทำหน้าเบ้และบ่นอยากจะขออยู่เดินเล่นต่ออีกสักพัก 

    ส่วนวิรัลนั้น เมื่อได้ยินคำพูดของธาม เขาก็หน้าแดงแล้วพึมพำบ่นใส่คนรักอย่างเขินอาย และนั่นจึงทำให้วิรัลยอมกลับไปพักผ่อนจนได้


    แต่เอาเข้าจริง ๆ พอถึงที่พัก แทนที่ทั้งคู่จะเข้านอนหลับพักผ่อนอย่างที่พิชญ์อยากให้เป็น  พี่เลี้ยงหนุ่มก็ต้องเกิดความเอือมระอา เมื่อธามนั้นพอมาถึงคฤหาสน์มฤคมาศ  ก็เริ่มอ้อนและลงมือลวนลามเจ้านายของเขาชนิดที่ว่าคงไม่มีทางยอมปล่อยให้วิรัลได้พักผ่อนตามที่เขาเคยคิดไว้แน่ 

    ส่วนตัวเขาพอเห็นดังนั้นจึงคิดจะเข้าไปห้ามปราม แต่ก็ดันถูกลูกน้องตัวแสบของอีกฝ่ายลากไปให้ห่างห้องนอนของผู้เป็นนาย แถมยังพาเขาไปรังแกหากำไรในห้องเจ้าตัวอีกต่างหาก

   รู้แบบนี้เขาน่าจะยอมฟังวิรัล แล้วปล่อยให้ทั้งคู่เดินเล่นจนเพลียไปเองเลยก็คงดี!


..
...
....
 


   ลึกเข้าไปในป่าใหญ่ ร่างโปร่งบางงดงามของชายหนุ่มผู้หนึ่ง กำลังร้องครวญครางอยู่ภายใต้ร่างแกร่งหนาของบุรุษผู้มีเส้นผมสีขาวโพลนทั้งศีรษะ  ทว่าใบหน้านั้นยังคงดูหล่อเหลาและยังอยู่ในวัยฉกรรจ์ผิดจากอายุจริงที่เป็นหลายเท่า

   “เวทิต ...เด็กน้อยที่น่ารักของข้า...จงจำไว้ว่าเจ้าเป็นของข้า และอย่าได้คิดผิดสัญญาระหว่างเราที่เคยมีให้กันอีก...รู้ไหม”

   อุรคกระซิบย้ำบอกร่างโปร่งในขณะที่เล้าโลมให้ร่างนั้นมีความสุข บนที่นอนผ้านุ่มผืนใหญ่ เวทิตพยายามกัดริมฝีปากข่มเสียงครางของตน แต่ก็หลุดหลงลืมตัวทุกครั้ง ยิ่งโดยเฉพาะยามที่ ร่างใหญ่นั้นสอดใส่ประสานแนบสนิทกับตนและเคลื่อนไหวนำพาเขาไปสู่ปลายทางแห่งความสุขซ้ำแล้วซ้ำเล่า

   “คุณอุรค...ผมทนไม่ไหวแล้ว...ผมจะ...ฮึก...”

   “หึ ๆ ทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทน...ปลดปล่อยออกมา พร้อมเสียงครางที่น่าฟังของเจ้าเสียสิ กวางทองที่น่ารักของข้า”

   อุรคกระซิบเสียงแหบพร่า พร้อมกับเคลื่อนไหวกระแทกกระทั้นรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จวบจนร่างโปร่งต้องหวีดร้อง พร้อมปลดปล่อยหยาดอารมณ์ขุ่นข้นออกมาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าท้องของทั้งคู่เต็มไปหมด

   “เด็กน้อย...เจ้าเป็นของข้า และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป  อย่าหวังแม้แต่จะคิดหลบหนีไปจากข้าอีก ...หากเจ้าคิดหนีกลับเผ่าเมื่อใด  ข้านี่ล่ะจะทำลายเผ่าของเจ้า เพื่อให้เจ้าไร้ที่กลับ...”

   อุรคกระซิบขู่เสียงเยียบเย็นจนเวทิตสะดุ้งเฮือก เขามั่นใจว่านั่นไม่ใช่เพียงคำขู่ หากแต่ประมุขเผ่านากาผู้นี้ สามารถทำอย่างที่พูดได้จริง และนั่นเป็นสิ่งที่เขาจะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้

   “ผมจะไม่คิดหนีไปจากคุณอีกแล้ว...ผมสัญญา”
   
  อุรคแย้มยิ้มที่มุมปาก แล้วจึงกระแทกสะโพกสวนกลับเข้าไปใหม่ ทำให้คนเพิ่งปลดปล่อยไปสะท้านเฮือกทั้งร่าง ก่อนจะโอนอ่อนผ่อนตามร่างหนาที่ยังคงไปไม่ถึงฝั่งฝัน พร้อมกับร้องครางสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่ออุรคกระแทกสุดแรง และนิ่งแช่กายเอาไว้ เพื่อปลดปล่อยหยาดอารมณ์มากมายของเจ้าตัว เข้าสู่ร่างกายของชายหนุ่มผู้อ่อนเยาว์กว่า  จนมันนองล้นออกมายามที่อีกฝ่ายขยับถอนกายออกมานอนข้าง ๆ ร่างโปร่ง ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปก่อนอย่างพึงพอใจ  ทิ้งให้เวทิตชำเลืองมองร่างของอีกฝ่ายอยู่เพียงลำพัง

   อุรค...ประมุขเผ่านากา ผู้ที่ช่วยชีวิตเขาจากสงครามกับเผ่าวกะเมื่อสามปีก่อน ทว่าพอเขาหายดี ก็กลับถูกอีกฝ่ายกักขังเอาไว้และขืนใจเขา  เมื่อเขาตัดสินใจหนี ก็มักถูกติดตามกลับมาอย่างง่ายดาย และหลังจากนั้นเขาก็จะถูกอีกฝ่ายทรมานจนแทบขาดใจบนเตียงของเจ้าตัวติดกันหลายวันหลายคืน และยิ่งเขาหนีบ่อยขึ้น บทลงโทษนั้นก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกครั้ง จนเขาคิดหมดอาลัยตายอยากอยู่บ่อย ๆ

    ทว่าพอคิดจะฆ่าตัวตาย อุรคก็จะหยิบเผ่าของเขาขึ้นมาขู่ ทำให้เขาจำต้องทนอยู่กับพญางูใหญ่เช่นนี้ไปเรื่อย ๆ  โดยหวังว่าสักวัน หากอีกฝ่ายเบื่อ เขาก็คงจะได้เป็นอิสระบ้าง จนกระทั่งได้เจอกับพิชญ์ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือถึงเผ่านากาในวันหนึ่ง

    และพอได้รับรู้ถึงเรื่องราวของวิรัล ก็ทำให้เวทิตเริ่มปลงตก ว่าต่อให้ไม่มีเขา บุตรชายของเขาก็ยังคงสามารถอยู่รอดเติบใหญ่ได้ และถ้าการเสียสละของเขาจะช่วยทั้งลูกชายและเผ่ามโคได้ เขาก็ยินดี

    “ผมเกลียดคุณ... ได้ยินไหม... ผมเกลียดคุณที่สุด”

   เวทิต กระซิบพึมพำ แล้วจึงเอนกายลงนอนซบกับอกกว้างของอีกฝ่าย ยิ่งได้รับไออุ่นและอ้อมกอดที่ประคองกระชับร่างเขาเข้าหา มฤคมาศหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกถึงความอบอุ่นอ่อนโยน จนกระทั่งเผลอหลับสนิทไปในอ้อมกอดของคนข้างกายอีกครั้งจนได้

   “ต่อให้เจ้าเกลียดข้าสักเพียงใด ....แต่ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าห่างกายข้าเด็ดขาด ...จำไว้นะเวทิต”

   คนที่ดูเหมือนหลับไปแล้ว ลืมตาขึ้นมาพึมพำพร้อมกับจ้องคนในอ้อมกอดของตนนิ่งสักพัก ก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม และหลับตาลงไปด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
   
 
The End


จบแล้วค่ะ ...ตอนแรกปัดตั้งใจว่าจะให้จบแค่ตอนที่ชาครพาพิชญ์เข้าห้อง ... แต่ไหน ๆ เห็นหลายคนทวงถามถึงคู่คุณพ่อว่ามันมาไงไปไง จึงมาเฉลยทิ้งท้ายให้นิดหน่อย ในบทสรุป พอเป็นน้ำจิ้ม อิ ๆ ส่วนตอนพิเศษ ก็ตั้งใจจะเขียนรวบตั้งแต่ตอนทั้งคู่เจอกัน แล้วหลังจากที่เวทิตตัดสินใจอยู่ด้วยกันกับตาเฒ่าหัวงู (ผลั่วะ! โดนอุรคฟาดหางใส่)  เอิ่ม อยู่ด้วยกัน กับท่านอุรค  ซึ่งก็คงจะมีความหวานตามลำดับ สไตล์จำเลยรักนั่นเอง หุ ๆ

เอ....แต่เรื่องของพิชญ์กับชาครก็อยากแต่งต่อนะ   เรื่องของน้องม่านฟ้า กับพี่น้ำอำมฤต ก็เตรียมจะเขียนเหมือนกัน  คู่ SM ของพิภพกับภูธิป ก็คิด ๆ ไว้อยู่  แต่คงไม่ให้สมหวังหรอก เพราะตัวโกงนี่ ฮ่า ๆ (โดนภูธิปไล่จิกหัว)

อา.....โปรเจ็กต์เยอะแยะไปหมด แต่จะเขียนออกมาลงบอร์ดได้สักตอนไหมน้า (ส่วนใหญ่โพสคิดโน่นนี่ล่วงหน้ามักล้มเหลว) 

แต่! ....ถ้ามีคนสนใจอยากอ่านต่ออีกเยอะ ก็อาจจะเป็นแรงผลักดัน ให้สามารถปั่นมาลงได้อีกเรื่อย ๆ ก็ได้นะคะ ^^ อยากลองเขียนตอนพิเศษยาว ๆ ทยอยลงสักรอบเหมือนกัน

เอ้า! นักอ่านเงาและไม่เงาทั้งหลาย อยากอ่านคู่ใครเป็นพิเศษ จงปรากฎกายขึ้นมาเชียร์คู่ที่ท่านเป็นแฟนคลับ หลังจากนี้ไปได้เลยจ้ะ  ราว ๆ  3 - 4 วัน ถัดจากนี้ ปัดจะแวะมาเก็บข้อมูล เพื่อเอามาปั่นตอนพิเศษยาว ๆ หวาน ๆ จุใจ ให้คู่ที่ได้รับเลือกและลงให้อ่านในบอร์ดนี้ค่ะ


สุดท้ายตามธรรมเนียมเมื่อนิยายจบ ปัดก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านทั้งที่เป็นนักอ่านเงาและไม่เงา ที่ตามกันอ่านมาจนถึงตอนสุดท้ายนี้  ถ้ามีข้อบกพร่องในงานเขียนยังไง ปัดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ และจะพยายามนำไปแก้ไขในรวมเล่มให้สมบูรณ์ที่สุดค่ะ

แล้วเจอกันใหม่ เรื่องใหม่นะคะ (ยังไม่ได้คิด แต่คราวนี้คงไม่เขียนดราม่าแล้ว เค้าจะเขียนแนวหวานน้ำตาลกระจายยยยยยยยย)
 :pig4:
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อยากอ่านหมดเลย
แต่แอบชอบ คู่อุรคกับเวทิต  ดูจำเลยรักดี อิอิ ตาลุงหัวงู 555+   ชาครกับพิชญ์ ก็น่าสน
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆนะคับ

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
 :z13: :z13: :z13:

อ่านเพลินตลอดดดดด ขอตอนพิเศษเยอะ พิชญ์ชาคร ลุงหัวงูกับพ่อกวางทอง อิอิ :z2: :z2:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
หวานหยดกันมากค่ะ  :o8: ชอบนิยายที่จบไม่เศร้า แต่ระหว่างทางมีดราม่าได้บ้างเป็นสีสัน

ขอบคุณนักเขียนที่มาลงสม่ำเสมอนะคะ ฉากต่อสู้นับว่ายิ่งใหญ่อลังการราวกับนั่งดูภาพยนตร์ เลยค่ะ

ขอคู่พิชญ และก็คู่ ภูธิปค่ะ ใครก่อนก็ได้  :-[

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
คู่น้องวิรัล  ขอหวานๆอีกตอนก็ดีนะคะ  อิอิ  :-[
แล้วก็คู่คุณพ่อกับเฒ่าหัวงู นี่ขอหลายๆตอนเลยจะดีมากค่ะ  อยากอ่านอ่ะ  น่าสนใจมากกกกกกคู่นี้  :laugh:

sarama

  • บุคคลทั่วไป
ขอคู่คุณงูค่ะ อยากรู้ว่าคนแก่คนเฒ่าเขาหวานกันขนาดไหน :laugh:

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จบแล้วอ่ะ
เชียร์คู่พิชญ์ ชาคร และก็ พิภพ กับ ภูธิป
จริงๆถ้าคนเขียน เขียนเรื่องไหนก็อ่านหมด
เพราะชอบแนวเขียนของคนแต่ง ไม่น่าเบื่อดี
ยิ่งฉากรบนี่แบบลุ้นสุดๆ

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3


อยากอ่านคู่อุรคกับเวทิตที่สุดเลยค้าาาา
กรี๊ด คู่ SM (จิ้นไปไกลเลย 555+)
 
 

ออฟไลน์ yaoigirl

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอตอนพิเศษคู่พ่ออ  อีกได้ไหมมม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด