ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ  (อ่าน 406707 ครั้ง)

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
เอิ้กกกๆๆ เฮียภูธิปนี่กลับตัวกลับใจ :กอด1:

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
โอเค ฉันยอมให้เเกคู่กับพิภพก็ได้ ที่ยอมเพราะเห็นว่าดูแลพิภพดีหรอกนะ :m16: :m16: ตัวเอง>>คนแต่ง เค้ารออ่านคู่ต่อไปอยู่นะ มาลงให้เค้าเรวๆนะตัว :-[ :-[

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
เฮ้อออออออออ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

รู้สึกอึดอัดแทนพิภพจังเลย รักแต่ต้องหลบซ่อน

มันเป็นอะไรที่ทรมานที่ทรมานมาก

เศร้าอ่ะ  อ่านแล้วเพลงหน่วงขึ้นมาในสมองเลย

แต่ก็...สู้ต่อไปนะ บางทีอนาคตมันอาจจะดีกว่าที่คิดไว้ก็ได้

มาเปลี่ยนอารมณ์กันดีกว่า

 :z1: :z1: :z1:  :impress2: :impress2: :impress2:  กรี๊ดอ่ะ ในที่สุดพ่อก็มีคู่ซะที

ถึงแม้ว่าตำแหน่งมันจะเปลี่ยนไปบ้างก็ไม่เป็นไร ><

แต่ถ้าพ่อรับรักแล้วเนี่ยสงสัยคงต้องเหนื่อยทุกวันแน่เลย หุหุหุ  :z1: :z1: :z1:

อยากอ่านงูน้อย กะ น้องกวางงงงง

แบบยาวๆเนี่ย ขอให้ความยาวเท่ากับอุรคตอนร่างนากาเลยน้าค่าาาาาาาาาาา 5555

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
อภิคมปุริมงั้นหรือ แล้วปุริมจะใจอ่อนให้อภิคมเมื่อไรนะ พิภพเป็นคนคิดมากนะเนี่ย ภูธิปก็ดูแลพิภพให้ดีนะ อย่าทำร้ายพิภพแบบนั้นอีกนะ พิภพน่าจะลองคุยกับปุริมดูนะ แต่ภูธิปเองก็ต้องทำตัวให้คนอื่น ๆ มั่นใจเหมือนกันว่าภูธิปจะไม่ทำเรื่องร้าย ๆ แบบนั้นอีก

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อ้าาาา  :-[
ดีใจที่ได้อ่านคู่นี้อ่ะ แอบสงสารทั้ง ภูธิป กับ พิภพ
หวังว่าสุดท้ายแล้วคงจบได้ด้วยดี
ปล. เรื่องนี้นี่รักต่างวัยเยอะมากกก  :m20:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ร้ายก็รักนะเกเรอย่างไรก็รักนะ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
แอบตกใจคู่ปุริมกับอภิคมอ่ะ 555+  ข้ามรุ่นมากมาย  :laugh:

ส่วนคู่นี้ จบแบบนี้ก็โอเคแล้วค่ะ  เพราะเริ่มกันไม่ค่อยสวย  จบแบบไม่แฮปปี้ก็ไม่แปลกอะไรเนอะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ทยอยลงให้อ่าน กลัวมีคนลงแดง ฮ่าๆ   ....จะว่าไป พอเขียนคู่คุณพ่อ แล้วรู้สึกคู่นี้ เข้ากับชื่อเรื่อง "เหยื่อรักอสุรกาย" แทนซะงั้น  ยืมมาตั้งชื่อตอนแทนดีไหม รู้สึกเหมือนยิ่งเขียนยิ่งยาว

------------------------------------------------------------



ตอนพิเศษ
‘อุรค – เวทิต’



   กลิ่นคาวเลือดที่ลอยมาตามลม ทำให้บุรุษผู้มีเส้นผมยาวสลวยถึงกลางหลัง ทว่ากลับเป็นสีขาวทั้งศีรษะ หยุดชะงักฝีเท้า ใบหน้าหล่อเหลาดุจหนุ่มวัยฉกรรจ์ มีวี่แววสงสัยถึงที่มาของกลิ่นอันชวนให้ไม่น่าพิสมัยเช่นนี้   

   “...แถวนี้ เท่าที่รู้ก็มีพวกมโคตั้งถิ่นฐานอยู่สินะ”

   อุรค ประมุขแห่งเผ่านากาเอ่ยพึมพำกับตัวเอง แล้วจึงตัดสินใจเดินไปตามกลิ่นเลือดนั้น จนกระทั่งได้เห็นภาพการสู้รบอันน่าดูชมของกวางทองตนหนึ่ง ซึ่งกำลังถูกพวกวกะสองสามตนต้อนให้หลุดฝูงออกมา ทว่าแม้จะอยู่ในสภาวะเสียเปรียบ ร่างโชกเลือดนั้นก็ยังคงยืนต้านทานต่อสู้อย่างไม่มีความเกรงกลัวให้เห็น

    และนั่นจึงสะกดให้สายตาของอุรคจับจ้องนิ่งที่ร่างนั้นอย่างลืมตัว จนกระทั่งการต่อสู้ได้จบสิ้นลง กวางทองแสนสวยก็สามารถสังหารเหล่าวกะที่มารุมทำร้ายตนจนหมดสิ้น ทว่าด้วยบาดแผลที่มีจึงทำให้ร่างนั้นเซไปมาและล้มลงไปกองกับพื้นในที่สุด

   “กวางทอง... มฤคมาศแห่งเผ่ามโคอย่างนั้นหรือ”

   อุรคพึมพำแล้วจึงตัดสินใจเดินตรงไปที่ร่างของกวางทองตนนั้น  ที่ยามนี้สลบไปแล้วและค่อย ๆ กลับกลายจากร่างกวางคืนสู่ร่างมนุษย์ดังเดิม พญางูเผือกพอได้เห็น ก็ถึงกับยืนตกตะลึงในรูปลักษณ์มนุษย์ของมโคหนุ่มอยู่ชั่วครู่ แล้วพอตั้งสติได้ เขาจึงค่อย ๆ ก้มลงช้อนร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายขึ้นอุ้มแนบอก ก่อนจะเดินย้อนหายกลับเข้าไปในป่าลึก คืนสู่ถิ่นฐานพำนักของตน

   

   ภาพแรกที่เข้าสู่จักษุนั้น เป็นเพดานมืดทึบคล้ายดินหรือหินไม่แน่ชัด แต่พอเริ่มตั้งสติได้ และมองไปรอบ ๆ เวทิตก็พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่ในห้องกว้าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายอุโมงค์ในถ้ำ เพียงแต่เป็นอุโมงค์ที่ราวกับจะถูกขุดและตกแต่งด้วยน้ำมือมนุษย์ ให้กลายสภาพเป็นเสมือนห้องพักขนาดใหญ่ ประดับประดาด้วยคบไฟสว่าง มีเครื่องเรือนตกแต่งเพียบพร้อม 

    และถึงแม้จะอยู่ในถ้ำ แต่อากาศที่ถ่ายเทเข้าออกจนทำให้รู้สึกหายใจได้สะดวกสบาย ก็ทำให้เวทิตรู้สึกแปลกใจต่อสถาปัตยกรรม ที่ไม่น่าจะใช่สิ่งซึ่งธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นแห่งนี้

   “ฟื้นแล้วหรือ...เจ้าหลับไปวันกับคืนเต็ม ๆ เลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าฟื้นตัวได้ไว ถ้าเทียบกับบาดแผลที่ได้รับล่ะนะ”

   น้ำเสียงทุ้มนุ่มของใครบางคนที่ดังขึ้น ทำให้เวทิตชะงักแล้วหันไปมองตามเสียงนั้น

   “คุณช่วยผมไว้อย่างนั้นหรือ...”

   เวทิตถามพร้อมกับจ้องคนที่เดินเข้ามาหาเขา อีกฝ่ายมีผมสีขาวยาวสลวยถึงกลางหลัง  ทว่าใบหน้านั้นกับคมเข้มหล่อเหลาราวดังมีอายุไม่มากสักเพียงใดนัก เจ้าตัวแต่งกายด้วยผ้าไหมโจงสีขาว มีผ้าพันเอวสีทองผูกคาดเอาไว้ เปลือยอกไม่ได้สวมเสื้อ อวดกล้ามเนื้ออันสมบูรณ์งดงามของบุรุษเพศ มีเครื่องประดับมีค่าตกแต่งทั่วร่าง  อีกฝ่ายเดินเข้ามานั่งบนฟูกนอนผืนใหญ่ ที่เวทิตนอนอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นจึงยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับตอบคำถามของชายหนุ่ม

   “ใช่แล้ว...ข้าช่วยเจ้าไว้เอง มฤคมาศหนุ่มเอ๋ย”

   เวทิตสะดุ้งเฮือกที่ถูกล่วงรู้ตัวจริง เขาขยับกายคล้ายจะหนี ทว่าก็ต้องชะงัก เมื่อด้านหลังและอีกข้างก็เป็นผนังถ้ำ ไม่มีทางอื่นที่จะหนีได้นอกจากจะลุยฝ่าคนตรงหน้าไปแทน

   “ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้ ...ข้าไม่คิดกินหัวใจของเจ้าหรอก ในเมื่อเรือนร่างของเจ้า มันน่าสนใจเสียยิ่งกว่าหัวใจของเจ้าถึงเพียงนี้ล่ะนะ”

   อุรคเอ่ยขึ้นพร้อมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ในแบบที่เวทิตมองแล้วรู้สึกไม่สบายใจนัก รวมไปถึงคำพูดที่ฟังดูแล้วน่าหวั่นวิตกเสียยิ่งกว่าเดิมด้วยนั่นอีก

   “พักผ่อนเสียให้หายดีเถอะ แล้วถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติม ก็เรียกคนแถวนี้ก็ได้ ...ถึงจะดูบ้านป่าเมืองเถื่อน แต่ก็มีความสะดวกสบายไม่แตกต่างจากโลกภายนอกนักหรอก ...เพียงแค่ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปาให้ใช้ เพราะข้าคิดว่ามันไม่จำเป็นกับชีวิตมากนัก”

   เวทิตมองคนพูดอย่างสงสัย เพราะดูการพูดจาและการแต่งกาย แม้จะดูเหมือนย้อนยุคไปบ้าง แต่ก็ใช่ว่าอีกฝ่ายจะตัดขาดจากโลกภายนอกเสียทั้งหมด ... เอาจริง ๆ แล้วพอได้สังเกตการตกแต่งภายในห้องนี้ เครื่องเรือนบางชิ้นก็เป็นรูปทรงสมัยใหม่ผสานกันไปอย่างลงตัวด้วยซ้ำ

   “เดี๋ยวก่อน...”

   เวทิตเรียกคนที่กำลังลุกเพื่อเตรียมออกจากห้องไป ทำให้คนถูกเรียกหันมามองอย่างแปลกใจ

   “เอ่อ...คือ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมไว้...ผมชื่อเวทิต แล้วคุณล่ะ...”

   ชายหนุ่มผมขาวแย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มอ่อนโยน

   “ข้าชื่อ อุรค ...เป็นประมุขของเผ่านากาแห่งนี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะ เวทิต”

   ถ้อยคำแนะนำตัวของอีกฝ่ายทำให้เวทิตถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ซึ่งอุรคก็ยิ้มนิด ๆ ให้กับสีหน้าเช่นนั้น แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้กวางทองหนุ่มกึ่งนั่งกึ่งนอนนิ่งอึ้งอยู่เพียงลำพัง เพราะเขาเองก็เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับพวกนากามาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว ว่าเป็นเผ่าอมนุษย์ที่แข็งแกร่ง แม้แต่พวกครุโฬที่ล้วนเป็นที่หวาดหวั่นต่ออมนุษย์เผ่าอื่น ยังไม่อาจต่อกรได้   

    

   เวทิตนอนพักผ่อนอยู่ที่เผ่านากาต่ออีกสามวัน ก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาฟื้นคืนสภาพเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งระหว่างพักฟื้น อุรคก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนอยู่บ่อย แม้จะรู้สึกไม่ค่อยชอบใจต่อสายตาที่มองมายังเขาในบางครั้ง แต่เวทิตก็ต้องยอมรับว่า ประมุขแห่งเผ่านากานั้นมีไมตรีจิตและให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดีทีเดียว

   “พรุ่งนี้ผมคงจะออกเดินทางกลับเผ่าได้ ...และถ้ายังไงผมจะแวะมาเยี่ยมเยียนขอบคุณ คุณอีกครั้งนะครับ”

   เวทิตบอกกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพ เพราะนอกจากอุรคจะเป็นถึงประมุขของเผ่านากาแล้ว พญางูเผือกก็ยังมีอายุมากกว่าเขา จนตอนแรกที่เขารับรู้เรื่องนี้  เขายังแทบไม่อยากจะเชื่อเลยทีเดียว แม้อุรคจะบอกว่าช่วงอายุ 300 กว่าปีของตนนั้น จัดว่ากำลังอยู่ในช่วงวัยฉกรรจ์ของคนในเผ่านากาทั่วไปก็ตาม

   “จะกลับอย่างนั้นหรือ...อืม...มันก็เป็นเรื่องธรรมดานี่นะ”

   อุรคพึมพำ น้ำเสียงนั้นฟังดูไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนจะแปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นแย้มยิ้ม แล้วเอ่ยกับอีกฝ่าย

   “ถ้าเช่นนั้นค่ำนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงส่งให้เจ้าแล้วกัน ...หวังว่าเจ้าคงจะไม่ปฏิเสธน้ำใจที่ข้ามีให้หรอกนะ”

   อุรครีบเอ่ยดักทาง ทำให้เวทิตที่เตรียมปฏิเสธต้องชะงัก แล้วจึงจำต้องยอมรับอย่างช่วยไม่ได้ แม้จะรู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายมากก็ตาม

   “ดี! คืนนี้ไม่เมา ไม่เลิก ...หึ ๆ รับรองว่าข้าไม่ให้เจ้าได้นอนง่าย ๆ แน่”

   อุรคเปรยขึ้นพร้อมแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ ทางด้านเวทิตไม่ทันได้เห็นสีหน้านั้น จึงไม่ได้คิดอะไรมากมาย  เขาสนทนาแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่าง ๆ กับอุรคไปเรื่อย ๆ จวบจนกระทั่งถึงเวลาเย็น ประมุขแห่งเผ่านากา จึงชวนเวทิตไปยังห้องโถงจัดเลี้ยงซึ่งอยู่ตรงส่วนกลางของอุโมงค์ในหุบเขาแห่งนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วคือรัง หรือถิ่นอาศัยที่ชาวเผ่านากาได้สร้างขึ้นนั่นเอง

   

   งานเลี้ยงในตอนค่ำ ถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ มีนางงามในเผ่านากา มาระบำโยกย้ายส่ายสะโพกยั่วยวนชวนมอง อาหารมากมาย และสุราเลิศรสซึ่งมีกลิ่นหอมประหลาด ถูกเติมมาเรื่อยชนิดแทบไม่มีพร่อง ทว่าคนคออ่อนอย่างเวทิต เพียงแค่ดื่มสุราไปสองสามจอกเขาก็มึนงงจนแทบนั่งต่อไม่ไหว แถมยังรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่างอีกด้วย

   “คุณอุรคครับ...ผมคงไม่ไหวแล้วล่ะครับ...ถ้ายังไงผมขออนุญาตไปนอนพักก่อนนะครับ”

   อุรคมองร่างโปร่งที่แดงก่ำไปด้วยฤทธิ์สุราชนิดพิเศษของเขา แล้วจึงเย้ยยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะฉุดแขนรั้งร่างของอีกฝ่ายให้เซมาใกล้เขา

   “จะรีบไปไหนกันเวทิต...ความสนุกของงานฉลอง กำลังจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้ต่างหาก”

   เวทิตมองคนที่ฉุดแขนเขาอย่างสงสัยแกมไม่พอใจ 

   “แต่ผมรู้สึกไม่ดี อยากพักผ่อน...คงต้องขอตัว อ๊ะ!”

   เวทิตอุทานอย่างตกใจ เมื่ออุรค รั้งร่างเขาไปแนบอก พร้อมกับจับพลิกร่างเขานั่งตักของอีกฝ่ายและลูบไล้เรือนร่างของเขาไปทั่ว

   “ปะ...ปล่อยนะ! ...อ๊ะ...อา...”

   เวทิตที่ตวาดต้องหลุดร้องครางออกมาอย่างลืมตัว ชายหนุ่มหน้าแดงก่ำด้วยความตกใจ ที่ตัวเองเผลอมีอารมณ์ร่วมได้ง่ายดายเช่นนี้

   “หึ ๆ ออกฤทธิ์แล้วสินะ...เจ้ารู้ไหมว่าสุราของเผ่าเราชนิดนี้ นอกจากจะรสเลิศ มีกลิ่นหอมหวาน แล้วมันยังช่วยในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศอีกด้วยนะ ...รู้สึกไหมล่ะ ว่าร่างกายของเจ้ามันกำลังอยากให้ข้าสัมผัสมากขึ้นกว่านี้น่ะ”

   คำตอบของอุรค ทำให้เวทิตเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก แล้วจึงพยายามสุดกำลังจะต่อต้านอีกฝ่าย แต่ก็ไม่สำเร็จ นอกจากเรื่องสรีระ รวมไปถึงพละกำลังที่แตกต่าง  อีกทั้งด้วยฤทธิ์ของสุราที่กระตุ้นอารมณ์ ก็ทำให้เวทิตอ่อนระทวยในอ้อมกอดของประมุขเผ่านากา ปล่อยให้อีกฝ่ายล่วงเกินเขาไปเช่นนั้น สติที่เริ่มลางเลือนมองภาพเบื้องหน้า  และได้เห็นว่า บัดนี้ผู้ที่อยู่ในงานเลี้ยงต่างเริ่มจับคู่คลอเคลียและร่วมรักกันบ้างแล้ว

   “หึ ๆ เป็นยังไงบ้างเวทิต ...งานเลี้ยงของเผ่านากาเรา วิเศษดีใช่ไหมล่ะ ...เจ้าอยากให้ข้าทำกับเจ้าในงานเลี้ยงนี่ หรือจะไปหาความสุขกันตามลำพังในห้องของข้าดีล่ะ”

   อุรคกระซิบถาม ขณะที่ลูบไล้แผ่นอกเปลือยเปล่าของมโคหนุ่มอย่างหลงใหล เวทิตกัดฟัน พยายามต้านทาน ทว่าร่างกายกลับตอบรับต่อสัมผัสของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

   “...อ๊ะ...อา...หยุดเถอะ...ได้โปรด...ผมขอร้อง”

   เสียงครวญครางห้ามเบาหวิว แต่ก็ไพเราะสมกับใบหน้าและเรือนร่างเจ้าของเสียง อุรคยกยิ้มนิด ๆ อย่างพึงพอใจ ก่อนจะเล้าโลมจนสติของอีกฝ่ายเริ่มเตลิดไปอีกครั้ง  ทว่าประมุขแห่งเผ่านากาก็ต้องชะงัก เมื่อคนที่เขากำลังค่อย ๆ บดเบียดจุมพิต เพื่อแสวงหาความหวานชุ่มชื้นภายในปากของอีกฝ่าย ได้พยายามใช้แรงและสติที่เหลือเพื่อกัดปากของเขาจนเลือดไหลซึมออกมา

   “...หือ ชอบรุนแรงมากกว่านุ่มนวลหรอกหรือ ...ก็ได้ ถ้าต้องการข้าก็จะสนองเจ้าเอง”

   อุรคใช้นิ้วเช็ดเลือดที่ริมฝีปาก ก่อนจะเหยียดยิ้มเย็นชา พร้อมกับตรึงร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายลงบนผ้าขนสัตว์ผืนหนาที่ปูนั่ง แล้วเวียนจูบเพื่อแสดงเครื่องหมายความเป็นเจ้าของไปทั่วร่างให้เวทิตครวญครางแทบขาดใจ

     เสียงร้องของกวางทองหนุ่ม ทำให้ผู้ร่วมงานเลี้ยงหลายคนพากันกลืนน้ำลาย และมีบางคนที่เฝ้าดูการร่วมรักของประมุขเผ่าตนอย่างสนอกสนใจ จนเวทิตที่หันไปเห็นสายตาเหล่านั้น รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที

   “ไม่เอา...ได้โปรด...หยุดเถอะ...ไม่ใช่ที่นี่...ผมขอร้องล่ะ”

   อุรคเห็นสีหน้าและแววตาของอีกฝ่าย ก็พอจะรู้ว่าเวทิตรู้สึกเช่นไร เขายิ้มน้อย ๆ อย่างพึงพอใจ พลางย้อนถามกลับไป

   “งั้นถ้าเป็นห้องนอนของข้าล่ะ ...เจ้าจะยินดีเป็นของข้าไหม”

   เวทิตชะงัก แต่ในวินาทีนี้ เขาอยากไปพ้นงานเลี้ยงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงได้แต่เม้มปากแล้วพยักหน้าตอบรับไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

   “หึ ๆ  ดีมากเด็กน้อย...  อ้อ! สำหรับพวกเจ้าทั้งหลาย ขอให้สนุกกับงานเลี้ยงกันต่อไปแล้วกัน!”

   อุรครับคำกับมโคหนุ่ม แล้วหันไปบอกกับคนในเผ่าของเขา ซึ่งบ้างก็เฮรับ บ้างก็ยิ้มรับ มีบางคนรู้สึกเสียดาย ที่จะไม่ได้เห็นสีหน้าและน้ำเสียงของเวทิตยามถูกร่วมรักอีก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่กล้าคำขัดสั่งหรือโต้แย้งอะไรออกไป

   

   ณ ห้องนอนของประมุขเผ่านากา ซึ่งกว้างใหญ่และหรูหราเสียยิ่งกว่าห้องที่เวทิตเคยไปพัก ทว่ายามนี้เวทิตไม่ได้มีเวลารับรู้และสังเกตการณ์อะไรมากนัก เขาถูกอุ้มนำไปวางกลางฟูกนอนขนาดใหญ่กลางห้องซึ่งปูด้วยผ้าไหมทอสีทองผืนกว้าง และถูกเจ้าของห้องขึ้นคร่อมทับตามมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเล้าโลมร่างข้างใต้ตนอีกครั้งอย่างคิดกลั่นแกล้ง เพื่อให้เวทิตรู้สึกต้องการเขามากขึ้นยิ่งกว่านี้ 

   ด้วยฤทธิ์สุราชนิดพิเศษ และฝีมือการปรนเปรอที่เชี่ยวชาญ ทำให้กวางหนุ่มถึงกับบิดกายไปมาอย่างเสียวซ่าน ต้องการได้รับการตอบสนองที่มากกว่านี้ แต่ก็ยังมีสติพอจะหลงเหลือให้สะกดกลั้นคำพูดอันน่าอายเหล่านั้นได้อยู่

   “...ช่างเป็นเด็กที่ปากแข็งจริง ๆ  ...แต่ก็ดี ถ้าง่ายไป มันก็ไม่สนุกสินะ”

   อุรคพึมพำอย่างถูกใจ และจัดแจงดึงผ้านุ่งที่สวมติดตัวเขาอยู่ผืนเดียวออก เผยให้เวทิตได้เห็นความแข็งแกร่งใหญ่โต ที่ชวนให้ตกตะลึง และยิ่งเมื่อคิดได้ว่าเขาจะต้องรับสิ่งนั้นเข้ามาในร่างกายของตน ก็ทำให้กวางหนุ่มตัวสั่นด้วยความหวาดหวั่นอย่างลืมตัว

   “อยากได้มันไหมล่ะ ...ร่างกายเจ้ายามนี้ก็น่าจะพร้อมแล้วไม่ใช่หรือ”

   อุรคเอ่ยยิ้มเยาะ ซึ่งเวทิตก็พยายามดิ้นรนหนีอีกครั้งด้วยความกลัว ทว่าพอเขาพลิกกายคว่ำ คนที่รอคอยอยู่แล้วก็ต้องลอบยิ้ม และนำความเป็นชายใหญ่โต จดจ่อที่ทางเข้าเบื้องหลังของอีกฝ่ายทันที

   “ไม่!! อ๊า!!”

   เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจากการถูกรุกราน ดังขึ้นทันทีที่แก่นกายขึงขังของประมุขเผ่านากาล่วงล้ำเข้าไปด้านใน แม้จะเพียงไม่มาก แต่ก็ทำให้เวทิตเจ็บเจียนขาดใจ  ความหรรษาก่อนหน้าจากที่เคยถูกเล้าโลม เริ่มจางหาย หรือแต่เพียงความเจ็บปวดเท่านั้นที่มีอยู่

   “หึ ๆ เจ้าช่างตอดรัดข้าแน่นนัก กวางน้อย... ดีจริง ๆ ที่ข้าได้เป็นชายคนแรกของเจ้าอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด... แต่ถึงจะไม่ใช่ นับจากนี้ไป เจ้าก็ต้องเป็นของข้าคนเดียวอยู่ดี”

   อุรคเอ่ยกับอีกฝ่ายที่พยายามดิ้นรนหนีจากเขาเต็มที่ เขารอจนแรงบีบรัดเริ่มคลายลง ก่อนจะกระแทกร่างเข้าไปใหม่จนสุดแรง ส่งผลให้ร่างโปร่งข้างใต้สะดุ้งเฮือก เจ็บจุกจนไม่อาจจะร้องออกมาเป็นเสียงได้ 

   พญางูเผือกมีรอยยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ แม้สีหน้าหล่อเหลาจะบิดเบี้ยวจากแรงตอดรัดของอีกฝ่ายไปบ้างเล็กน้อยก็ตาม ทว่าพอเวลาผ่านได้สักระยะ อุรคก็เริ่มขยับกายเข้าออกจากช้า ๆ ไปถึงรวดเร็ว ตามความต้องการของตัวเอง

   “ไม่เอาแล้ว…ได้โปรด...พอสักที...ผมเจ็บ”

   เวทิตครางเจือสะอื้นแทบตลอดเวลา ไม่ได้มีความสุขสมปนมาอยู่ในการร่วมรักครั้งนี้แม้แต่น้อย เและอุรคเองก็ไม่คิดใส่ใจจะอ่อนโยนกับเขากว่านี้ด้วย  พญางูใหญ่กอบโกยความสุขของตนจนพึงพอใจ  แล้วจึงเอนกายนอนหลับไปข้าง ๆ ร่างโปร่ง ที่กัดริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้น ด้วยความเจ็บปวดและอับอายที่ถูกล่วงเกินและหยามศักดิ์ศรีกันได้ถึงเพียงนี้

   
... TBC ....



ใครว่าภูธิปร้าย  เจอตาแก่งูนี่ ยังชิดซ้ายไปเลยนะจ๊ะ  ฮ่า ๆ

คู่คุณพ่ออาจจะดราม่ากันเล็กน้อย แต่รับรองว่าจะมีความหวาน แทรกไปเป็นระยะนะจ๊ะ  (ถ้าคนแต่งไม่แกล้งตัวละครซะเพลิน อิๆ)


ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ทำไมร้ายกาจเยี่ยงนี้ :m31:  :fire:
น่าสงสารเวทิตงะ เด่วเจอฤทธิ์เวทิตมั้งเหอะ ชิส์  :z6:  :z6:

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
อิลุงเผือกใจร้ายกับกวางน้อยได้ลงคอ :m16:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
กำลังสงสารเวทิต หมั่นไส้อุรค



แต่เจอทอร์ก งูแก่ >>>> กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เออเนอะ เป็นตาแก่(หัว)งู

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:m16: :m16: :m16: :m16:ตางูเฒ่าโคตรหื่นเลยอะ :impress3: :impress3:สงสารเวทิตจัง :impress3:


รอออออออออออออออออออออออจ้า

ออฟไลน์ chiji

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :angry2:ใจร้ายที่สุดเลยตาเฒ่างูเผือก
 
สงสารเวทิตค่ะ :o12: ถ้ามีโอกาสเอาคืนให้หนักเลยนะ  :z6:

gngane

  • บุคคลทั่วไป
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ได้ใจไปเลย

เเอร๊ยยยยยยยยยยยย :-[ :-[ :-[


ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ทั้งโดนข่มขืน ทั้งบังคับทุกอย่าง หาข้อดีมาให้อ่านหน่อยนะ นึกไม่ออกจะรักกันยังไง  :a5:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ตาลุงหื่นมากกก

Carmelian7

  • บุคคลทั่วไป
อัยยะชอบแนวแฟนตาซีแบบนี้จัง
มีมนุษย์หมาป่าด้วย ยิ่งหาคนแต่งแบบนี้ยากๆอยู่

Syntyche

  • บุคคลทั่วไป
คุณพ่อเวทิตเป็น 'เหยื่อรักอสุรกาย' จริงๆด้วย O_O!
ตาลุงหัวงู ครั้งแรกเบาๆหน่อยสิ กวางทองตัวน้อยเค้าช้ำหมดแล้วเนี่ย
(คนเขียนอย่าแกล้งพ่อกวางทองเลย สงสารอ่ะ T^T )
เขียนตอนยาวๆเลยก็ไ้ด้ค่ะ ตั้งชื่อเรื่อง"เหยื่อรักอสุรกายเลย"

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
แหงะ o22 o22
ชักจะชอบภูธิปขึ้นมาละ ภูธิปอ่อนโยนโคตร. มาเจออุรค ซาดิสม์ไปป่ะไอ้งูเเก่ตัณหากลับ
ว้ากกกก มาทำงี้กะเวทิตได้ยังงายห๊ะ อยากฆ่าไอ้งูซาดิสม์จิงโว้ย :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
งูแก่ ใจร้ายยยย

เชอะๆๆๆๆๆ นิสัยไม่ดีเลยอ่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3

งูเผือกร้ายอ่า
อยากให้พ่อกวางทองหาทางเอาคืนบ้าง
ให้งูแก่ได้เจ็บปวด (ชักซาดิสแล้วเรา 555+)
 

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
เหอ เหอ เหอ  :try2: :try2: o6 o6

งูน้อยยยยยยยยยยยยยยยยยย//โดนหางอุรคตบ

อ่อนโยนบ้างอะไรบ้างลูก เดี๋ยวนู๋กวางช้ำตายกันพอดี

ปล.พี่ปัดค่าาาาาาาาาา อย่าแกล้งตัวละครนานเลยน้าาาาาาาาาาาาาาา  :m13: :m13:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
สงสารเวทิต อุรคใจร้ายมาก ๆ เลยและก็ท่าทางจะเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ด้วย

dolphins

  • บุคคลทั่วไป
เป็นดราม่าที่น่าติดตาม 55... อยากรู้ว่าทั้งคู่จะรักกันได้ยังไง (เพราะเริ่มต้นมาหนทางก็เลือนลาง)
 :pig4:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
มาต่อแล้วจ้า บอกแล้วว่าแนวจำเลยรัก เพราะฉะนั้น พระเอกอาจจะน่าหมั่นไส้ไปนิด (ไม่นิดละ)  นายเอกก็อาจจะน่าสงสารไปสักหน่อย แต่เอาเถอะ...เดี๋ยวมันก็รักกันเองล่ะ!  :o8:

.....................................................
ตอนพิเศษ 2 
#2



    เวทิตปรือตาขึ้นมองเพดานห้องอย่างอ่อนแรง เขารู้สึกถึงความแห้งผากในลำคอ และปวดรุมไปทั่วกาย

   “ไง...เด็กน้อย ตื่นแล้วหรือ....เจ้าเป็นไข้นะ สงสัยเมื่อคืนข้าคงรุนแรงต่อเจ้าไปสักหน่อยล่ะมั้ง”

   อุรคที่นอนอยู่ใกล้ ๆ เปรยพร้อมยื่นมือมาเขี่ยเส้นผมที่ตกลงมาปิดหน้าของอีกฝ่ายอย่างนึกเอ็นดู ทว่าเวทิตกลับเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจที่ฉายออกมาให้เห็นผ่านสีหน้าและแววตา ทำให้คนที่กำลังยิ้มแย้มชะงัก แล้วจึงแค่นยิ้มขึ้นมาอย่างหงุดหงิด

   “เหอะ! รังเกียจกันเข้าไปเถอะ ...ถึงยังไงเจ้าก็ไม่มีวันหนีข้าพ้นอยู่ดี!”

   คนฟังชะงัก แล้วตวัดสายตากลับมามองอีกฝ่ายอย่างแข็งกร้าวไม่ยอมแพ้

   “ผมจะกลับเผ่า!”

   “ข้าไม่ให้กลับ!”

   อุรคแย้งกลับเสียงห้วน นัยน์ตาสีดำยามนี้คล้ายจะกลายเป็นสีแดงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

   “คุณไม่มีสิทธิ์มากักขังผมแบบนี้!”

   เวทิตเถียงกลับ แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นอยู่มากก็ตาม

   “หึ! สิทธิ์อย่างนั้นหรือ... สิทธิ์ที่เจ้าเป็นของข้าแล้วยังไงล่ะ! ถึงยังไงข้าก็ไม่มีวันปล่อยเจ้าไปจากข้าเด็ดขาด!”

   อุรคตวาดลั่นด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ นัยน์ตาที่กลายเป็นสีแดงก่ำ นั่นสะกดให้มโคหนุ่มตกตะลึงด้วยความหวาดหวั่น แต่แม้ร่างทั้งร่างจะสั่นเทิ้ม ทว่าเขาก็ยังคงจ้องตาอีกฝ่ายตอบอย่างไม่คิดจะหลบ นั่นจึงทำให้อุรคเริ่มรู้สึกตัวและลดโทสะลง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแย้มยิ้มอย่างพึงพอใจที่อีกฝ่ายกล้าต่อต้านเขาเช่นนี้

   “เด็กน้อย ...เจ้ากล้าหาญสมกับที่เป็นผู้นำของเผ่า ...สมแล้วที่ทำให้ข้ารู้สึกสนใจตั้งแต่แรกพบเช่นนั้น”

   อุรคเอ่ยชม พร้อมกับยื่นมือมาลูบใบหน้าของอีกฝ่าย เวทิตสะดุ้งรีบเบือนหน้าหลบ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะร่างสูงใหญ่ของพญางูเผือกขยับกายมาคร่อมทับกักร่างของเขาไว้ใต้ร่างนั้น ก่อนจะลงมือจูบซุกไซ้ปลุกอารมณ์ของมโคหนุ่ม ไอกายร้อน ๆ ของอีกฝ่าย กลับยิ่งชวนกระตุ้นให้ไฟราคะของอุรคโหมแรงขึ้น  เวทิตเนื้อตัวสั่นเทาเมื่อหวนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อคืน กำลังจะย้อนมาอีกครั้ง ร่างกายที่อ่อนแอและยังคงจับไข้อยู่ จึงมีปฏิกิริยาต่อต้านสุดโต่ง พลางร้องขอความเห็นใจปนสะอื้นอย่างลืมตัวลืมอาย

   “ไม่นะ...อย่า....ได้โปรด....อย่าทำร้ายผมอีกเลย...ฮึก”

   อุรคชะงักการกระทำของตน เขามองร่างที่นอนสะอื้นคู้ตัวใต้ร่างของเขา ก่อนจะสบถเบา ๆ ด้วยความหงุดหงิด แล้วจึงขยับร่างมานั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างอีกฝ่ายแทน  พลางดีดนิ้วเบา ๆ คนรับใช้ที่รออยู่ด้านนอกก็รีบเข้ามาทันที 

   “ไปตามหมอมาให้ที!”

   “ขอรับท่านประมุข”

   อีกฝ่ายรีบรับคำแล้วเร่งเดินออกจากห้องไป เพราะลองเจ้านายของตนมีน้ำเสียงเช่นนี้ แสดงว่าไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าใดนัก

   

   เสียงสะอื้นที่ยังคงดังอยู่ แม้ว่าเขาจะเลิกราการกระทำลงไปแล้ว ทำให้อุรคขมวดคิ้วยุ่ง ทว่าพอเห็นสีหน้ากึ่งเจ็บปวดปนทรมานของเวทิต เขาจึงเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของอีกฝ่ายแล้วก็เม้มปากน้อย ๆ ที่ไข้ของมโคหนุ่มมันขึ้นสูงมาอีกเสียจนน่ากังวล

   “หมอยังไม่มาอีกหรือไง! ไปตามถึงไหนกัน หา!”

   เสียงโวยวายอย่างหงุดหงิดกึ่งโมโห ทำให้ข้ารับใช้ข้างนอกที่เหลือพากันกลืนน้ำลายลงคอ และเมื่อหันไปเห็นเพื่อนของตนพาหมอชราเดินตรงมาเรื่อย ๆ เจ้าตัวจึงทำสัญญาณมือเร่งให้อีกฝ่ายมาให้เร็วกว่านี้ 

   “หมอยังไม่มาอีกหรือไง! ใครไปตามมาอีกรอบซิ! ชักช้าเสียจริง!”

   “มะ...มาแล้วขอรับท่านประมุข ข้ามาแล้ว”

   หมอประจำเผ่ารีบเร่งฝีเท้าแซงหน้าคนรับใช้ของพญางูเผือกเข้ามาอย่างหวาดหวั่น อุรคตีสีหน้าบึ้งตึง แต่ก็ยังคงขยับหลบให้หมอชราเข้ามาตรวจอาการของคนที่กำลังเพ้อเพราะพิษไข้อยู่ยามนี้

   “ไข้ขึ้นสูง คงเพราะ ...เอ่อ...เกิดจากความระบมอักเสบของร่างกายน่ะขอรับท่านประมุข”

   หมอชราพยายามหลีกเลี่ยงคำพูดที่เขาคิดว่าไม่สมควรไปเสีย ทางด้านอุรคมองเวทิตแล้วจึงหันมาถามผู้เป็นหมอข้างกายเขา

   “แล้วจะเป็นอันตรายต่อชีวิตไหม”

   “ไม่หรอกขอรับ ...ถ้าเป็นมนุษย์ก็คงไม่แน่ แต่อมนุษย์อย่างพวกเรา เรื่องแค่นี้ไม่เป็นปัญหาอันใดนัก เดี๋ยวข้าจะจัดยาต้ม ให้เขาดื่มทุกมื้อหลังอาหาร แค่วันสองวันไข้ก็น่าจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว ...ส่วนเรื่องร่างกาย เอ่อ...ข้าคิดว่า ควรจะให้เวลาเขาพักฟื้นสักอีกวันสองวันหลังจากไข้หาย ก็น่าจะดีกว่า”

   ผู้เป็นหมอตอบ แถมยังเอ่ยเตือนอีกฝ่ายทางอ้อม ซึ่งอุรคก็ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจในประโยคท้าย ๆ นั้นนัก

   “ถ้าไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตก็ดีแล้ว ... งั้นข้าฝากเจ้าดูแลเขาหน่อยแล้วกัน ระหว่างนี้ข้าจะไปพักผ่อนที่อื่นก่อน”

   อุรคเอ่ยห้วน ๆ แล้วจึงเดินออกไปจากห้องนั้น แต่ก็ยังไม่วายเหลือบมามองร่างบนเตียงชั่วครู่ แล้วจึงตวัดสายตากลับ พลางเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หมอชราประจำเผ่ามองไล่หลังไป ก่อนจะถอนหายใจยาวตามมา พร้อมกับเหลือบมามองคนไข้ของเขาที่นอนอยู่

   “โถ...พ่อหนุ่มมโคเอ๋ย ...ช่างโชคร้ายจริง ๆ ที่ดันมาเป็นที่ต้องตาต้องใจท่านประมุขแบบนี้ ...เอาเถอะ ถ้าเจ้ารู้จักประจบประแจงและมอบความสุขให้ท่านอย่างเต็มใจสักหน่อย ไม่นานท่านก็เบื่อและปล่อยเจ้าไปเองนั่นล่ะ”

   หมอชราพึมพำกับร่างที่ไร้สติและนอนเพ้อเพราะพิษไข้อย่างนึกสงสาร ก่อนจะกลับไปจัดยาเพื่อมารักษาคนไข้ของตนต่อ

   

   อุรคตรงไปพักผ่อนในห้องสำรองของเขา  ซึ่งอยู่ห่างจากห้องใหญ่ที่เป็นห้องพักอย่างเป็นทางการของประมุขเผ่า  ซึ่งจริง ๆ แล้วห้องนี้นั้นเป็นห้องที่เขามักใช้หาความสุขกับบรรดาหนุ่มสาวชาวเผ่านากา ที่ล้วนเต็มใจพลีเรือนร่างให้เขาอยู่เสมอ  ทว่ากับเวทิต ผู้ชายที่เขาเป็นฝ่ายสนใจก่อน  กลับแสดงออกถึงความรังเกียจตัวตนของเขาจนน่าหงุดหงิด

   เซ็กส์ที่ปราศจากความรักดังเช่นเคย ไม่อาจช่วยให้อุรครู้สึกเติมเต็มขึ้นมาได้สักนิด สมองของเขามีแต่ใบหน้าหวานนองน้ำตาของเวทิต คอยรบกวนอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายเขาก็ไล่บรรดาชายหนุ่มและหญิงสาวที่เขาเรียกเข้ามาปรนนิบัติเขาในห้องออกไปให้หมด  และตัดสินใจกลับไปยังห้องพักซึ่งมีเวทิตนอนอยู่

   “เด็กน้อย... ทำไมข้าจึงปรารถนาเจ้าได้ถึงเพียงนี้กันนะ”

   ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยร่วมรักกับอมนุษย์ชนเผ่าอื่นมาก่อน ทว่าแม้อีกฝ่ายจะเต็มใจหรือขัดขืนดังเช่นเวทิตเป็น แต่พอได้ชื่นชมเรือนร่างเสร็จสมอารมณ์หมาย ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาเฝ้าพะวงคิดถึงแต่เจ้าตัวเช่นนี้เลยสักครั้ง

   “กวางทองที่แสนน่ารักของข้า....คราวหน้าข้าจะอ่อนโยนกับเจ้ายิ่งกว่านี้นะ”

   อุรคกระซิบบอกร่างโปร่งที่หลับไปแล้วด้วยพิษไข้และฤทธิ์ยา พลางชะโงกหน้าจุมพิตหน้าผากอุ่นของอีกฝ่ายแผ่วเบา ก่อนจะปล่อยให้เวทิตพักผ่อนตามลำพัง ด้วยเกรงว่าหากชายหนุ่มฟื้นขึ้นมาแล้วเห็นเขา จะทำให้เกิดอาการหวาดกลัว จนพิษไข้กำเริบขึ้นอีกได้

   

   ตกดึกของคืนนั้น ด้วยฤทธิ์ยาสมุนไพรของหมอชราเผ่านากา ก็ทำให้เวทิตฟื้นจากพิษไข้  อุณหภูมิร่างกายเริ่มลดลง เนื้อตัวบรรเทาปวดเมื่อยลงมาก แต่ก็ยังขยับไม่คล่องเท่าใดนัก

   ‘ต้องหนี! ต้องหนีเท่านั้น! อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว!’

   มโคหนุ่มตัดสินใจทันทีที่ไม่เห็นว่าอุรคอยู่ในห้องด้วย เขาลุกขึ้นเดินเลียบ ๆ เคียง ๆ มองไปข้างนอก ก็เห็นว่ามีคนคอยยืนยาม และคนรับใช้เฝ้าอยู่ เวทิตเม้มปากน้อย ๆ ก่อนจะตัดสินใจกลับคืนสู่ร่างกวางทอง และใช้ความสามารถพิเศษของตน ส่งกลิ่นสะกดให้ชนเผ่านากาที่ไม่ทันได้ระแวดระวัง หลับใหลกันไปจนหมด

   เวทิตในร่างกวางทองรีบเร่งฝีเท้าไปสู่ทางออกที่เขาพอจำได้ เนื่องจากตอนที่เขาหายบาดเจ็บใหม่ ๆ อุรคเคยพาเขาเดินชมห้องต่าง ๆ ภายในอุโมงค์แห่งนี้ทั้งหมด หนทางค่อนข้างวกวนชนิดที่ว่า ถ้าไม่เคยผ่านมาก่อน ก็อาจจะทำให้หลงทางได้ทีเดียว

   “ในที่สุดก็ออกมาได้แล้ว!”

   เวทิตอุทานอย่างยินดี เขาใช้ความสามารถของเขาสะกดคนเฝ้ายามในทางที่เขาต้องผ่าน จนกระทั่งออกมานอกถ้ำได้สำเร็จ แล้วจึงรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปในป่าทึบ แม้จะรู้สึกปวดระบมร่างกายอยู่มากก็ตาม

   

   อีกด้านหนึ่งภายในถ้ำ อุรครู้สึกประหลาดใจ ที่คืนนี้มันเงียบผิดปกติ  แถมยังมีกลิ่นหอมประหลาดที่ชวนให้รู้สึกง่วงลอยมาจากทิศทางที่อยู่เดิมของเขา ประมุขเผ่านากาชะงัก เมื่อเดินย้อนไปตามกลิ่นแล้วรู้สึกตาพร่า เขากัดริมฝีปากตนเองค่อนข้างแรงจนเลือดออก แล้วจึงคำรามในลำคอด้วยความร้อนรน  เมื่อเดินไปถึงที่ห้องพักเดิมแล้ว พบคนของเขาต่างนอนหลับใหลไม่ได้สติ ส่วนในห้องก็ไม่มีร่างของเวทิตให้เห็น

   “เด็กน้อย! เจ้าช่างบังอาจนัก! กล้าลองดีกับคนอย่างข้าเชียวรึ!”

   อุรคคำรามลั่นอย่างเดือดดาล เสียงคำรามและรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านจากร่าง ทำให้ข้ารับใช้ที่หลับใหลไปแล้ว ถึงกับสะดุ้งเฮือก และตื่นมามองรอบด้านกันอย่างตื่นตระหนก

   “ไปปลุกพวกที่หลับอยู่ให้หมด แล้วออกไปตามจับตัวมฤคมาศกลับมาให้ได้!”

   สั่งเสร็จ อุรคก็ผลีผลามออกจากถ้ำไปก่อน ชายหนุ่มกลับคืนสู่ร่างงูยักษ์ แล้วเลื้อยเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว 

    

   เสียงโห่ร้องดังแว่ว ๆ จากด้านหลังไกลออกไป ทำให้เวทิตสะดุ้งเฮือก เขารีบเร่งฝีเท้ากระโจนให้หนีห่าง ทว่าด้วยความไม่ชำนาญป่าพื้นที่แถบนี้ ก็ทำให้เจ้าตัวเสียหลักเหยียบพลาดลื่นไถลลงไปตามไหล่ทางชัน จนขาหลังพลิก ทำให้ต้องกัดฟันวิ่งกะเผลก ๆ หนี  ก่อนจะสะดุ้งเฮือกสุดตัว เมื่อมีงูเผือกยักษ์โผล่มาดักหน้าเขาเอาไว้

   “มฤคมาศ! เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก!”

   เสียงทุ้มห้าวและนัยน์ตาสีแดงเลือด ทำให้เวทิตรับรู้ได้ทันทีว่า นี่คือร่างอมนุษย์ของอุรคนั่นเอง กวางทองหนุ่มตั้งท่าเตรียมกระโจนสู้ตาย หากแต่ก็ไม่ทันความรวดเร็วของอีกฝ่าย ที่แม้จะมีลำตัวยาวใหญ่โต แต่ก็เคลื่อนไหวว่องไวผิดรูปร่างนั้นมากนัก

   “อึก! ปล่อยนะ!”

   กวางทองที่ถูกงูเผือกเลื้อยรัดแน่นพยายามดิ้นรนหนีอย่างสุดชีวิต แต่ยิ่งดิ้น อุรคก็ยิ่งเพิ่มแรงรัดจนอีกฝ่ายทนไม่ไหว เวทิตกัดฟันกรอดพลางรีบคืนสู่ร่างมนุษย์ ทำให้อุรคที่ไม่ทันตั้งตัวเปิดช่องว่างให้มโคหนุ่มดันกายหนีออกมาจากการถูกรัดได้ ทว่าด้วยความอ่อนแรงและบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา วิ่งไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เขาก็ต้องล้มลงไปทรุดกองกับพื้นอย่างหมดสภาพหนีต่อ

   “หึ ๆ หนีไม่รอดแล้วสินะ กวางน้อย”

   อุรคเลื้อยเข้ามาใกล้เตรียมจะรัดร่างของเวทิตอีกครั้ง มโคหนุ่มกัดฟันกรอดพลางเหลือบไปเห็นเศษกิ่งไม้แหลมบนพื้น เขารีบคว้ามาแล้วหันกลับไปจ้วงแทงลำตัวของอุรค ซึ่งก็สะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บ และด้วยความโมโหจนลืมตัว งูเผือกยักษ์จึงคำรามลั่นพร้อมกับสะบัดหางกระแทกใส่ร่างของเวทิตจนกระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้ สลบไปในทันที

   “โธ่โว้ย!”

   อุรคสบถอย่างหัวเสีย เขารีบคืนสู่ร่างของมนุษย์ แล้วตรงไปสำรวจอาการของเวทิต เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเพียงแค่สลบไป ไม่ได้อาการหนักอย่างที่คาดคิดไว้ เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วจึงอุ้มร่างเปลือยของมโคหนุ่ม เดินกลับถิ่นพำนัก ผ่านพวกข้ารับใช้ที่กำลังค้นหาเวทิต  ประมุขแห่งเผ่านากาบอกให้ทุกคนแยกย้ายกันไปได้ ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าย้อนถาม หรือขัดคำสั่งนั้น เพราะสีหน้าของอุรคยามนี้ ดูน่ากลัวเสียจนแม้แต่พวกเขาที่คุ้นเคยกันดี ยังแทบไม่มีใครกล้าสู้หน้า

   

   เวทิตรู้สึกเหมือนมีอะไรหนัก ๆ มาทับร่างให้เขารู้สึกหายใจไม่ค่อยออก เสียงหอบหายใจ เสียงคล้ายบางอย่างกำลังเสียดสี รวมไปถึงความจุกแน่นและความเจ็บแปลบอันคุ้นเคย ทำให้เขาต้องปรือตาขึ้นมอง ก่อนจะเบิกตากว้าง เมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่ามีผ้าพันแผลตรงท้องของอุรค กำลังยกสะโพกของเขาลอยขึ้นพร้อมกระแทกร่างกายเข้าออกเรื่อย ๆ

   “อ๊ะ...คุณอุรค...ยะ...อย่า...อ๊า!”

   เวทิตครางด้วยความเจ็บปวด ยิ่งเขาฟื้นคืนสติขึ้นมา อุรคก็ยิ่งลงมือรุนแรงขึ้น จนร่างเขาสั่นสะเทือนไปด้วยแรงกระแทกทั้งร่าง

   “นี่เป็นการลงโทษ...ที่เจ้าคิดหนีจากข้า...จำไว้นะ เวทิต ...เจ้าเป็นของข้า ...หากข้าไม่อนุญาตให้ไป ...เจ้าก็ไปไหนไม่ได้!”

   อุรคตวาดใส่กึ่งหอบ พร้อมกับเร่งขยับสะโพกด้วยความโมโห เขากระแทกรัวเร็วแทบไม่ยั้งจนกระทั่งเสียงหวีดร้องของร่างโปร่งดังขึ้น เมื่อการกระแทกกระทั้นรุนแรงยุติลง อุรคจึงปลดปล่อยหยดหยาดแห่งความปรารถนาเข้าไปในร่างของอีกฝ่าย แล้วจึงถอนกายออก จ้องมองดูร่างโปร่งที่บัดนี้สลบไปแล้วด้วยความเจ็บปวดและอ่อนล้า หยาดน้ำขุ่นข้นที่ไหลออกมาให้เห็นมีสีแดงของเลือดปะปนมาด้วย

    อุรคมองร่างนั้นด้วยแววตาเย็นชา แล้วจึงให้คนไปเรียกหมอประจำเผ่ามาดูเรื่องขาขวาที่บาดเจ็บของเวทิต รวมถึงเรื่องบาดแผลฉีกขาดจากการร่วมรักอันรุนแรงที่ผ่านมา

   

   “เอ่อ...ข้าได้จัดยาบำรุงร่างกาย รวมถึงเรื่องช่วยลดอาการอักเสบให้แล้ว...เพียงแต่ถ้าจะให้หายขาดในเร็ววันก็คงต้องงด....”

   หมอชราเมื่อมาถึงและตรวจร่างกายของเวทิตเรียบร้อย จึงรายงานตะกุกตะกักต่อผู้เป็นประมุขด้วยความหวาดหวั่น เมื่อเห็นแววตาเย็นชาคู่นั้นจับจ้องมองเขานิ่ง ทว่ายังไม่ทันเอ่ยจบ อุรคก็สวนขึ้นมาเสียก่อน

   “ท่านมีหน้าที่รักษาเขาให้ทุเลาก็พอ! ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องสนนักหรอก!”

   หมอประจำเผ่ากลืนน้ำลายลงคอ แล้วพยักหน้ารับรู้ ทว่าก่อนจะขอตัวจากไป เขาก็ต้องชะงัก เมื่ออุรคเอ่ยขึ้นเสียก่อน

   “บางทีดึก ๆ นี้อาจจะต้องรบกวนท่านหมออีก ...จนกว่าเด็กคนนี้จะปรับสภาพให้รับตัวตนของข้าได้ในที่สุดล่ะนะ”

   คำพูดของพญางูเผือก ทำให้หมอชราพูดอะไรไม่ออก นึกสงสารเวทิตขึ้นมาจับใจ เพราะฟังจากน้ำเสียงและการตัดสินใจ แสดงให้เห็นแน่ชัดว่า อุรคตั้งใจจะทรมานเวทิตที่เคยแอบหนีไป ต่อในอีกหลายคืนหลังจากนี้เป็นแน่




... TBC ...


คุณพ่อเวทิตแม้จะน่าสงสารก็จริง  แต่คนแต่งชอบ อิ ๆ  เอาน่า ก็คุณพ่อดื้อนี่นา ก็เลยต้องโดนทำโทษเป็นธรรมดา ....

กวางน้อยหนีตอนหน้า รับรองโดนจัดหนักกว่านี้อีกค่ะ! คู่ที่แล้วไม่มี S&M เพราะตั้งใจจะเอามาลงคู่นี้แทนล่ะนะ  :-[

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
สงสารก็สงสาร
แต่ชอบอ๊า

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
สงสารเวทิตง่ะ ฮื่ออออ :o12: :o12: :o12:

gngane

  • บุคคลทั่วไป
ก็คิดว่าจะสงสารคุณพ่อเวทิตดีไหม

เเต่ทำไมเค้าถึงยิ่งอยากให้คุณพ่อหนีบ่อยๆ 555555

มาต่อไวๆนะค่ะ

ชอบเเบบนี้มากเลยยย

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
เง้อออออ คู่คุณพ่อนิรุนแรงจัง

ป๊าก็อย่าดื้ออีกเลยน้าาาา

เอิ๊กกก เดี๋ยวเลือดคนอ่านจะหมดตัว พร้อมกับอาการตาบวมจะตามมาด้วย

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
 :o12: อ่อนโยนบ้างสิพี่งู

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด