Brothers {ตอนพิเศษ} : วันนี้เป็นวันสงกรานต์ [15.04.2557]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Brothers {ตอนพิเศษ} : วันนี้เป็นวันสงกรานต์ [15.04.2557]  (อ่าน 405924 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2014 15:33:17 โดย Ellette »

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
Re: Brothers: Prologue - The Family [16/11/2555]
«ตอบ #1 เมื่อ16-11-2012 20:55:08 »

Brothers

Prologue – The Family


 

                วันหนึ่งในฤดูร้อน เมษานั่งเล่นอยู่สวนสาธารณะในหมู่บ้าน ลมเย็นๆพัดตีใบหน้าช่วยดับความร้อนจากพระอาทิตย์ได้บ้าง ในช่วงปิดเทอมเขาไม่ค่อยได้ออกจากบ้านเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นเด็กติดบ้านเลยก็ได้

                เมษาพาเจ้าตูบตัวเล็กที่ซื้อจากจตุจักรมาเดินเล่นบ่อยๆ กว่าจะขอได้ก็นานโข เพราะแม่แพ้ขนสุนัขเลยได้พันธุ์ที่ขนสั้นๆไม่ค่อยร่วง ‘ปุ้มปุ้ย’ เป็นลูกสุนัขอยู่ในวัยกำลังซน พาเดินตามทางเดินไม่ค่อยทำ ชอบออกนอกทางอยู่เสมอ

                แม่ของเขาแต่งงานใหม่กับคนที่คบหาดูใจกันมาปีกว่า อีกฝ่ายมีลูกติดชื่อ ‘เสือ’ มันอาจจะเป็นปัญหาทั่วไปของครอบครัวใหม่ ต้องมีลูกคนใดคนหนึ่งไม่พอใจ ตอนแรกเขาไม่ชอบเหมือนกันแต่เวลาเห็นแม่ทำงานคนเดียวก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ยิ่งเขาใกล้เข้ามหาวิทยาลัยยิ่งต้องใช้เงินเยอะเป็นเท่าตัว

                “ปุ้มปุ้ยกลับบ้านดีกว่า”

                เจ้าตูบแสนซนเดินหายใจฟุดฟัดตามพื้นหญ้า ไม่ยอมตามกลับโดยดี เดือดร้อนหนุ่มตัวเล็กทั้งลาก ทั้งดึง สุดท้ายก็ต้องอุ้มเจ้าหมาตัวน้อยนี่กลับบ้านตามเคย

                นับตั้งแต่ย้ายมาบ้านใหม่..อะไรๆก็ดูสมบูรณ์แบบขึ้น ในครอบครัวมีพ่อ แม่ พี่ชาย และเขา..แต่ความจริงแล้วมันยังมีช่องว่างมากมายที่สัมผัสได้ โดยเฉพาะกับพี่เสือ เมษาพยายามเข้าใกล้ ชวนคุย ทว่าโลกของอีกฝ่ายกลับดูห่างไกลเหลือเกิน

                พี่เสือ..เป็นสถาปนิก ชอบทำงานออกแบบ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เมษาแอบลอบเข้าไปในห้องเจ้าตัว ภายในห้องเป็นโทนสีขาวสลับดำ ดูหรูหราไม่เหมือนห้องน้องชายสักนิด ข้าวของว่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่สะดุดเห็นจะเป็นแบบแปลนบ้าน มีสนามหญ้า มีสระว่ายน้ำแบบที่เมษาชอบ

                เมษานึกย้อนไปเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนนั้นพี่เสือเข้ามาเห็น แต่เจ้าตัวไม่ว่าอะไร นอกจากส่งสายไม่พอใจเป็นการเตือน คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะอยู่ให้เสืองาบ ได้แต่ยิ้มแหยๆแล้ววิ่งจู๋ออกไปช่วยแม่ทำอาหารเย็น

                เขากลับมาถึงบ้านตอนหกโมงเย็น เห็นแม่กำลังเข้าครัว โชว์ฝีมือการทำอาหารที่ทุกคนบอกว่าอร่อยยกเว้นพี่เสือ อีกฝ่ายชอบนั่งทานเงียบๆ ไม่ค่อยคุย หรือบางทีจะตอบคำถามแม่เป็นบางครั้ง ข้อนี้เมษาไม่ชอบใจนักที่พี่เสือเสียมารยาทกับแม่ หากคิดดีๆก็คงเพราะพี่เสือไม่ชอบ..

                “แม่ฮะ วันนี้มีอะไรกินบ้าง”

                แม่หันมองลูกชายตัวเล็กแล้วยิ้มบางๆ “แกงจืด ผัดผัก น้ำพริกหนุ่ม มีห่อหมกด้วยนะ แม่ลองทำสูตรคุณยายดู ไม่รู้จะถูกปากลูกชายหรือเปล่า”

                “ฝีมือแม่อร่อยทุกอย่าง เมษชอบ” เมษากอดเอวแม่ แม่ยังเหมือนเดิม ชอบทำอาหาร ชอบบอกว่าฝีมือตัวเองไม่ดีเท่าที่ควร แต่คนในบ้านก็กินเกลี้ยงทุกคน ยกเว้นพี่เสือ..พอทานเสร็จก็ลุกไปทำงานต่อ ราวกับไม่มีใครอยู่ในบ้าน

                แต่เมษาก็ชินแล้ว..

                พ่อกลับบ้านประมาณหนึ่งทุ่มตรง แต่พี่เสือกลับบ้านเกือบห้าทุ่ม ทุกวันนี้เมษาเลยได้แต่อยู่กับพ่อ แม่เท่านั้น นานๆทีจะเห็นพี่เสือตอนแอบแม่ดูหนังดึกๆ แต่คำทักทายก็มีเพียงสายตาเท่านั้น..

                “เมษวันนี้จัดจานสี่ที่นะ”

                เมษาตาวาว อย่าบอกว่าที่แม่อารมณ์ดีสุดๆแบบนี้เพราะพี่เสือจะกลับมาทานอาหารที่บ้านนะ “สำหรับใครครับ” เขาถามอย่างมีความหวัง เมษารู้ว่าแม่พยายามเอาใจพี่เสือ พยายามทำให้ทุกอย่างเหมือนครอบครัว แต่ถ้าไม่เปิดใจ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน

                “พี่ตุลย์จะมาทานข้าวที่บ้านด้วยน่ะ”

                พี่ตุลย์เป็นพี่ชายของเมษา เกิดเดือนตุลา เป็นคนใจเย็นที่สุดในบ้าน แต่น่าเสียดายที่พี่ตุลย์เลือกอยู่กับพ่อมากกว่าแม่ คงเพราะกลัวพ่อแท้ๆของเขาเหงาหากลูกชายมาอยู่กับแม่ทั้งสองคน

                “น่าเสียดาย..พี่เสือน่าจะมาด้วย”

                แม่ยิ้มกับลูกชายตัวเล็ก เมษา..คนที่เธอเลี้ยงมากับมือมองโลกในแง่ดีเสมอ เสือไม่ชอบเธอ..เธอสัมผัสเส้นบางๆนั้นได้ เสือไม่ยอมรับ..และเสือไม่คิดจะเปิดใจทั้งพ่อและแม่

                “พี่เสือทำงานหนัก เขาคงไม่ได้กลับบ้านเร็วหรอกเมษ”

                เมษาถอนหายใจก่อนเดินหงอยๆไปจัดจานอาหาร

                วันนี้พ่อกลับบ้านเร็วเกือบครึ่งชั่วโมง ส่วนพี่ตุลย์มาเลทไปเกือบครึ่งชั่วโมง แต่เมษาก็รอได้ ส่วนพ่อไม่ได้ว่าอะไร เพราะเข้าใจว่าพี่ตุลย์ไม่เคยมาบ้านหลังใหม่สักครั้ง

                เขาได้ยินเสียงรถยนต์จอดหน้าบ้าง ก่อนคนหล่อสุดจะเดินออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ไงไอ้เมษ ออกมารับเหมือนหมาเลยนะ”

                ร่างเล็กวิ่งไปเปิดประตูพร้อมเสียงเห่าของเจ้าตูบตัวเล็ก เตี้ยแล้วยังซ่าอีกนะ “พี่ตุลย์มาช้า”

                “พี่ก็มาแล้วนี่ไง”

                ตุลาสวมกอดน้องชายที่ไม่ได้เจอกันเกือบสิบปี พ่อกับแม่แยกทางตอนตุลย์อายุได้สิบห้าปี ส่วนตอนนั้นเมษาเพิ่งเจ็ดขวบเอง เรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นมันก็แค่ความไม่เข้าใจของคนทั้งสอง อีกทั้งพ่อกับแม่ยังถูกบังคับแต่งงานกันอีก ใครว่าแต่งๆไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ตุลาล่ะขอยกมือคัดค้าน

                เมษากระตือรือร้นเป็นพิเศษ ทั้งพาไปห้องอาหาร จัดจาน จัดที่ให้อำนวยความสะดวก ถ้าเป็นพี่เสือเมษก็ยินดีทำให้ แต่อีกฝ่ายไม่รู้ว่ายอมรับหรือเปล่า

                พ่อกับแม่นั่งรอที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แถมพ่อยังให้พี่ตุลย์ไปนั่งข้างๆอีก

                ตุลายกมือไว้พ่อกับแม่ก่อนนั่งลง เขาไม่อึดอัดใจเท่าไหร่ ออกจะอิจฉาเมษาด้วยซ้ำที่มีทั้งพ่อและแม่ ส่วนพ่อเขาน่ะหรือเอาแต่ทำงานไม่ยอมหาคนรู้ใจมาดูแลสักที

                “เจ้าตุลย์ไปเรียนต่อเมืองนอกมาเป็นยังไงบ้าง” แม่ภูมิใจมากตอนที่พี่ตุลย์ได้ทุนไปเรียนต่อที่อังกฤษสองปีเลยอดตื่นเต้นไม่ได้

                “ท้าท้ายดีครับแม่ ไว้คุยกันทีหลังนะครับ..ผมอยากกินอาหารฝีมือแม่จะแย่แล้ว”

                อาหารมื้อนี้เต็มไปด้วยเสียงพูดคุย จากพ่อบ้าง แม่บ้าง เยอะที่สุดเห็นจะเป็นเมษา เพราะเจ้าตัวอยากเดินตามรอยพี่ชายคนนี้เหลือเกิน หากได้ไปต่อที่เมืองนอก อย่างน้อยก็พออวดได้บ้าง ถึงการเรียนของเมษไม่ค่อยดีเท่าไหร่

                “อยู่กันสามคนเองหรือครับ”

                “เปล่าหรอก อยู่กันสี่คน แต่อีกคนยังไม่กลับบ้านน่ะ” พ่อเป็นคำตอบ ปกติแทบไม่ได้ยินเสียงพ่อระหว่างมื้ออาหารเลย แต่ด้วยพี่ตุลย์คุยสนุก ชอบเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้จนบางทีลืมตักข้าวเข้าปากก็มี

                “เมษอยากไปเป็นแบบพี่ตุลย์จัง”

                “ตั้งใจเรียนสิไอ้น้องชาย”

                พวกเขานั่งคุยกันต่อที่ห้องรับแขก พี่ตุลย์คุยเก่ง แถมยังมีของฝากในรถเยอะแยะจนไม่รู้ว่าจะกินหรือใช้หมดภายในปีนี้หรือเปล่า

                “ไว้ก่อนกลับ ผมค่อยขนของมาให้นะครับ”

                “ค้างที่นี่ไหมตุลย์” แม่ถามด้วยความเป็นห่วง นี่ก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว ใกล้เวลาที่เสือจะกลับบ้านแล้วด้วย

                “ไม่ครับแม่ ผมกลับไปดูแลพ่อต่อ ช่วงนี้พ่อนอนดึกบ่อยๆ”

                “ก็ดีจ้ะ”

                 เวลาแห่งความสุขใกล้หมดลง พร้อมเสียงรถยนต์ที่เคลื่อนเข้ามาจอดในตัวบ้าน จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่เสือ เมษาติดนิสัยชอบออกไปรับ ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยทักทายหรืออย่างมากก็แค่มองอย่างนึกรำคาญเท่านั้น

                เมษาชินแล้ว..ไม่เจ็บหรอก

                “เดี๋ยวเมษไปรับพี่เสือก่อนนะ”

                เจ้าตัวเล็กวิ่งตื๋อออกไป เห็นพี่ชายต่างสายเลือดหอบแฟ้มเอกสารมากมายมาด้วย “พี่เสือ เมษช่วยไหม”

                “ไม่ต้อง”

                เมษายู่หน้าลง วันนี้พี่เสือดูอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ สงสัยเครียดจากงานอีกแล้ว “ให้เมษช่วยนะ”

                เสือถอนหายใจ เจ้าเด็กช่างตื๊อ ขนาดเขาปฏิเสธซึ่งๆหน้าแล้วไม่ยักกะถอยห่าง “ไม่ต้องมายุ่ง ฉันรำคาญ!”

                เจ้าชายตัวน้อยของบ้านสะดุ้งเฮือกก่อนเดินคอตกไปหาพ่อกับแม่ อาการแบบนี้เป็นบ่อยเมื่อโดนพี่เสือปฏิเสธ ซึ่งแม่ก็เห็นจนชิน ถึงพยายามห้ามลูกชายตัวดีเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่เคยฟังกันเลย แบบนี้เรียกความพยายามสูญเปล่าไหมนะ

                “หงอยเชียวไอ้เมษ”

                “พี่ตุลย์ก็..พี่เสือเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่”

                ตุลาพยักหน้าเออออ เสือ..สงสัยจะดุเหมือนชื่อ ทำเอาคนอารมณ์อย่างเมษาคอตกเลย ไม่ธรรมดาแล้วคนนี้         

                “คุณลุง แม่ ผมกลับก่อนนะ ไว้ว่างๆมาใหม่ อ้อ..ไอ้เมษเดี๋ยวพี่มาเยี่ยมใหม่นะ เลิกทำตัวเป็นหมาหงอยได้แล้ว”

                พ่อ แม่ และเมษาเดินไปส่งพี่ตุลย์หน้าบ้าน โดยเดินสวนกับคนโลกส่วนตัวสูง เหมือนเดิม..ไม่มอง ไร้คำทักทาย เหมือนทุกอย่างบนโลกเป็นสีเทาไปหมด กระทั่งพ่อพี่เสือก็ไม่ค่อยคุย ส่วนแม่อย่าว่าแต่มองเลย..ไม่เคยทำด้วยซ้ำ

                เรื่องแบบนี้มันน่าเจ็บปวดชะมัด

                ตุลาเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยปากบอกลา เบี่ยงเบนความสนใจทุกอย่างที่ท้ายรถ “ไอ้เมษมาหอบของฝากไปได้แล้ว จากอังกฤษเลยนะ”

                เมษาเบิกตากว้างทันที่ได้ยินของฝาก ความฝันเมื่อตอนเด็กของเมษคือได้ไปต่างประเทศ แต่สอบชิงทุนทีไรไม่เคยได้ไปทุกที ต่างจากพี่ตุลย์ รายนี้สอบที่ไหนก็ติด แถมเคยติดโรงเรียนนายร้อยสามพรานอีกต่างหาก

                แบบนี้ไม่ให้อิจฉาได้ยังไงเล่า

                “หมดนี่เลยเหรอ”

                “ก็ใช่น่ะสิ ฝากไปให้พี่ชายนายด้วยล่ะ”

                เมษาเลิกคิ้วมองหน้าพี่ชาย “ไม่รู้ว่าเขาจะรับหรือเปล่า”

                “ไม่ลองไม่รู้ รีบๆหยิบออกไปได้แล้ว” เด็กหนุ่มหอบทั้งขนมทั้งเสื้อผ้า ของประดับเล็กๆน้อยใส่อ้อมแขนจนพ่อกับแม่ต้องมาช่วยถือ

                “ตุลย์ขับรถกลับดีๆนะ ถึงบ้านแล้วโทรบอกแม่ด้วย”

                “ครับๆ..ผมกลับก่อนนะครับ” ตุลายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง โดยไม่ลืมยีหัวน้องชายสุดที่รัก

                เสือ..คนอะไรเย็นชาชะมัด..




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2012 23:50:50 โดย Ellette »

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
Re: Brothers: Prologue - The Family [16/11/2555]
«ตอบ #2 เมื่อ16-11-2012 22:47:27 »

เป็นกำลังใจให้จ้า

roitra

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brothers: Prologue - The Family [16/11/2555]
«ตอบ #3 เมื่อ16-11-2012 22:55:08 »

มาต่อน้าๆ คอยอยู่จ้า ><!!

jiw

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brothers: Prologue - The Family [16/11/2555]
«ตอบ #4 เมื่อ16-11-2012 23:15:29 »

อยากอ่านต่อจัง

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
Re: Brothers: Prologue - The Family [16/11/2555]
«ตอบ #5 เมื่อ16-11-2012 23:21:10 »

ชอบบุคลิคเมษาอ่ะ รอตอนต่อไปครับ  :really2:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: Brothers: Prologue - The Family [16/11/2555]
«ตอบ #6 เมื่อ16-11-2012 23:36:16 »

พี่เสือนิ่งไปนะ

ออฟไลน์ Windyne

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
    • Windyne Page on Facebook
Re: Brothers: Prologue - The Family [16/11/2555]
«ตอบ #7 เมื่อ17-11-2012 02:21:11 »

รอติดตามเรื่องใหม่ค่ะ ^^ มาต่อไว ๆ นะคะ :)

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #8 เมื่อ18-11-2012 12:13:57 »

Brothers

Chapter1 – The Mistake



 

                ‘เสือ’ คนที่เกิดจากพ่อกับแม่ที่เป็นผู้หญิงขายบริการ วันหนึ่งในฤดูฝน พ่อเล่าว่า..กลับจากงานไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วพบแม่ แม่..เป็นผู้หญิงสวย สวยมาก..ครั้งหนึ่งที่พ่อเผลอทำ ‘พลาด’ จนแม่ท้อง พอคลอดเขาได้ไม่นานแม่ก็ทิ้งเขาไว้กับพ่อ

                นั่นเป็นจุดเริ่มต้น..

                เวลาไปโรงเรียนเสือมักโดนล้อ แต่เขาก็ทำเฉยกับทุกสิ่ง ทั้งคุณครู พ่อ หรือญาติๆ หากไม่จำเป็นเสือก็ไม่อยากพูดด้วยสักประโยค ทำไมน่ะหรือ..เพราะความแตกต่างน่ะสิ ถึงพ่อจะยอมรับเขาในทุกเรื่อง แต่เสือรู้ดีมันก็แค่หน้าที่

                เสือคิดว่าพ่อไม่เคยรักเสือ..แต่มันคือความจำเป็น

                พ่อแต่งงานใหม่กับผู้หญิงอีกคน..เขาไม่รู้สึกรู้สาอะไร หากเทียบกับแม่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ดีกว่าเป็นไหนๆ ทั้งการงาน ฐานะทางบ้าน ไม่ได้ยากจนอะไรเท่าไหร่ ออกจะมีกินด้วยซ้ำ

                พ่วงมาหนึ่งคนคือลูกชายวันสิบเจ็ด เสือไม่เคยพูดด้วย ได้แต่สังเกตอยู่ห่างๆเท่านั้น เจ้านั่นเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ของบ้าน เจิดจรัส ทำให้ใครหลายคนนึกเอ็นดู หากเทียบกันแล้ว เสือเหมือนดวงจันทร์ วันไหนฟ้าปิดก็ไม่โผล่ ไม่เห็นแสง ไม่เหมือนดวงอาทิตย์ดวงนั้น..

                เสือไม่ค่อยอยู่บ้าน ชอบออกไปนอนหอเพื่อนมากกว่า แม้จะโดนบ่นโดนแซะแต่เขารู้ดีว่ามันจะไม่ทิ้งกันไปไหน หากได้กลับบ้านก็กลับดึกในตอนที่ทุกคนนอนแล้ว

                มีอยู่ครั้งหนึ่ง เสือกลับมาห้าทุ่ม เวลาที่ใครหลายๆคนนอนหลับบนเตียงอุ่น แต่มีเจ้าเด็กช่างตื๊อคนหนึ่งนอนดูหนัง แถมด้วยเสียงหัวเราะดังสนั่นหวั่นไหว นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาพลาด..

                เขาเป็นสถาปนิกให้บริษัทแห่งหนึ่ง ทำงานมาหลายปี เรียกได้ว่าเรียนจบก็เข้าทำงานเลย ไม่รีรอเวลา ไม่เรียนต่อ เพราะคงพอแค่นี้..อาจารย์หลายคนเคยขอให้เขาเรียนต่อเพื่อมาสอนนิสิตนักศึกษา แต่เสือปฏิเสธตลอด

                ไม่ใช่เพราะไม่ชอบ..แค่ไม่อยากทนทำเฉยๆ

                ฤดูร้อน ร้อนอบอ้าวจนหลายครั้งเสือหงุดหงิด แอร์ในห้องไม่ได้ช่วยบรรเทาได้เลย

                วันนี้วันเสาร์ เขาไม่มีนัดกับใครเพราะเสือไม่ค่อยมีเพื่อน ถึงมีก็น้อย..แต่คบกันได้นานเลยทีเดียว มันควรเป็นวันพักผ่อน..แต่เสือไม่ชอบอยู่เฉยๆ ต่างจากเจ้าเด็กเมษา ที่ดูไฮเปอร์จนน่ากลัว

                เสียงเคาะประตูห้องทำเอาเสือสะดุ้ง ก่อนขมวดคิ้วมุ่น พ่อกับแม่ใหม่แทบไม่เคยทำแบบนี้ แล้วจะมีใครอีกนอกจากเมษา

                “พี่เสือ เปิดประตูให้เมษหน่อย”

                เขาก้มหน้าทำงานต่อ ไม่สนใจเสียงร้องแง๊วๆหน้าประตู แต่แล้วความอดทนก็สิ้นสุดลงเมื่อเสียงเคาะประตูดังติดกันมาเรื่อยๆ

                รำคาญใจ..

                สุดท้ายแล้ว เจ้าชายน้ำแข็งของบ้านก็เดินมาเปิดประตูให้ตัวปัญหาจนได้

                “พี่เสือ!!”

                “มีอะไร”

                เมษายิ้มก่อนยื่นกล่องช็อคโกแล็ต ของฝากจากพี่ตุลย์ให้ เมษาเคยได้ยินว่ามันทำให้อารมณ์ดี ถ้าพี่เสือได้กินต้องหยุดทำหน้าบึ้งแน่ๆ “ช็อคโกแล็ต”

                “เอามาให้ฉันทำไม”

                “พี่ชายเมษฝากมาให้”

                พี่ชายเมษา..คนที่มาเมื่อคืนหรือ ชื่ออะไรเขาก็ยังไม่รู้จัก ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าแล้วกัน “ฉันไม่รับของคนแปลกน้า” เสือทำท่าจะปิดประตู หากเจ้าเด็กแสบกลับแทรกตัวเข้ามาดื้อๆ

                “ไม่แปลกหรอก ถ้านับแล้วพี่ตุลย์เป็นลูกแม่เหมือนกัน ก็ต้องเป็นพี่พี่เสือด้วย” ร่างเล็กยิ้มหน้าบานก่อนวางกล่องช็อคโกแล็ตไว้บนโต๊ะ

                “ออกไปได้แล้ว”

                “ครับๆ พี่เสืออย่าทิ้งนะ ต้องลองชิม”

                เมษาวิ่งตื๋อออกจากห้องนอนพี่เสือ ด้วยใบหน้าสดใส..ทั้งที่โดนปฏิเสธอยู่

                เสือมองกล่องช็อคโกแล็ตบนโต๊ะก่อนถอนหายใจเฮือกๆ มันคงอร่อยถูกปากหรอกถ้าเจ้าเด็กนั่นเอามาให้ ไหนๆก็ลองชิมสักหน่อยจะเป็นไรไป

                ‘Anthon’s Berg’

                ช็อคโกแล็ตรูปขวดเหล้าสี่แบบวางเรียงรายในถาดขนม ดูละลานตาไปหมด เขาหยิบขวดสีเขียว แกะเปลือก บิใส่มันออกแล้วเห็นน้ำเยิ้มๆไหลออกมา กลิ่นคล้ายผลไม้เจือกลิ่นแอลกอฮอล์นิดหน่อย มันเป็นเหล้ารัมที่สมัยเด็กๆเคยแอบกินของพ่อ น่าหลงใหลแต่อันตรายไม่น้อย

                นับว่าโชคดีที่มันไม่ทำให้เขาเมาเท่าไหร่

                แก้มเสือเริ่มมีเลือดฝาด เขาส่ายหัวไปมา..ท่าทางจะกินเยอะไปหน่อย พอมองอีกทีบนโต๊ะก็เต็มไปด้วยกระดาษฟอยล์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มไปหมด นี่เขาเผลอขนาดนี้เลยหรือ..

                “งี่เง่าชะมัด ไปทำงานได้แล้ว” เขาเตือนตัวเอง ขณะหยิบช็อคโกแล็ตหลายก้อนติดมือไปด้วย

                เมื่อตอนยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย อาจารย์เคยเสนอว่าหากเรียนจบสถาปัตย์แล้วขอให้เสือเรียนต่อวิศวกรรมโยธาได้ด้วยหรือเปล่า คำตอบเดิมคือ ‘ไม่’ เสือไม่เคยฝืนตัวเอง แม้เป็นสิ่งที่ใครๆมองว่าดีเลิศ หากเขาไม่ชอบก็ไม่ทำ

                แต่ใช่ว่าไม่เรียนแล้วเสือไม่มีพื้นฐานอะไรเลย ตรงกันข้ามเขามักศึกษาด้วยตัวเองบ่อยๆ..มันทำให้เขาได้เปรียบกว่าใครหลายคน

                วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ใครๆต่างก็พักผ่อนหย่อนใจ แต่ไม่ใช่เจ้าชายน้ำแข็งของบ้าน เขาเก็บตัวแค่ในห้อง หากหิวก็แค่ลงมาดื่มน้ำเท่านั้น หน้าที่การกรอกน้ำเป็นของเมษา เสือเคยได้ยินเจ้าตัวบ่นว่าน้ำหมดเร็ว..ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาก็ได้

                ความคิดหยุดลง เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขานั่นเอง “ฮะโหล”

                ‘วันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอ’ นิคกี้หรือนิค เพื่อนสาวผู้แอ๊บแมนมาตลอดสี่ปี ได้ฉายาหลายชื่อเพราะดูเหมือนเป็นคนหลายบุคลิก แม้จะชอบไว้หนวดไว้เคราจนดูหล่อ ทว่าบางทีก็สาวแตกไม่สนใจใคร ทำเอาผู้หญิงทั้งหลายอกหักไปตามกัน

                “ไม่ไป ยังทำงานไม่เสร็จ”

                ‘ทำแต่งาน ไม่คิดจะไปเที่ยวไหนหรือไง’

                เสือวางดินสอแล้วหยิบช็อคโกแล็ตขึ้นมา บิไส้จนเยิ้มก่อนเอาเข้าปาก “แล้วจะให้ทำอะไรล่ะ”

                ‘ไปเที่ยวไง’

                “ไม่ว่างขนาดนั้น นี่เป็นงานด่วน ไว้ทำเสร็จจะโทรกลับ” ไม่ทันที่ปลายสายจะพูดเขาก็กดปิดเครื่อง ทุกครั้งที่นิคโทรมาแก้เหงา เขามักเป็นแบบนี้ ไม่ต้องการให้ใครมาสงสารหรือก้าวก่ายเส้นที่ขีดไว้ และเมื่อเสร็จแล้วเสือจะเป็นคนโทรหาเองเสมอ

                วันนี้วันเสาร์ พ่อ แม่ และเมษามักออกไปทานข้าวข้างนอก พ่อไม่เคยเอ่ยปากชวน แม่เป็นคนชวนเสมอ ส่วนเมษาเพราะรู้ว่าโดนปฏิเสธเลยไม่ค่อยกล้าชวน เขาก็ขี้เกียจออกจากห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เพราะมันเป็นเหมือนที่ของเขาจริงๆ

                เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งตอนสี่โมงครึ่ง ก่อนใครบางคนจะถือวิสาสะเข้ามาแบบไร้มารยาท “พี่เสือ..”

                เขาขมวดคิ้วมุ่นพลางทิ้งดินสอลง “มีอะไรอีก”

                “วันนี้ไปทานข้าวข้างนอกนะ”

                เสือมองเมษาราวกับประหลาดก่อนหันหลังกลับ หยิบดินสอมาทำงานต่อ ก็แค่เรื่องไร้สาระเท่านั้นแหละ

                “เมษอยากชวนพี่เสือ อยู่แต่ในห้องอึดอัดจะตาย”

                เสือกำดินสอแน่น อึดอัดใจเหรอ..ไม่เลยสักนิด “คิดว่าฉันออกไปกินกับพวกนายแล้วจะไม่อึดอัดหรือไง”

                เมษาเม้มปาก พี่เสือพูดเหมือนเขาก่อความรำคาญเต็มทน “ก็แค่ไปกับครอบครัว ไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย” คนอย่างเจ้าชายตัวน้อยไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาคะยั้นคะยอพี่เสือ ทั้งก่อกวน ทั้งชวนคุย แม้อีกฝ่ายจะตอบบ้างไม่ตอบบ้าง หรือไม่ตอบเลย

                “พี่เสือ..”

                “น่ารำคาญ!”

                “พี่เสือก็ออกไปกินข้าวด้วยกันสิ เมษสัญญาจะไม่ทำตัววุ่นวายเลย”

                เสือกัดฟัดกรอด..เขาใกล้หมดความอดทนแล้ว “บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปสิ เซ้าซี้อยู่ได้!”

                เจ้าชายตัวน้อยของบ้านสะดุ้งเฮือก ก่อนเดินคอตกออกจากห้องไป พี่เสือ..ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าไปในโลกของพี่เสือได้สักที

                เขาคงทำให้พี่เสือโกรธอีกแล้ว..

                เมษาเดินคอตกไปหาพ่อกับแม่ที่รออยู่ แม่ดึงเขาเข้าไปก่อน พลางปลอบไปด้วย “พี่เสือเครียดจากงานเลยหงุดหงิด อย่าคิดมากนะเมษ”

                “พี่เสือเครียดก็น่าจะหยุดทำงานนี่ครับ”

                พ่อกับแม่พาเขาออกไปทานข้าวเหมือนเดิม ขาดก็แต่พี่เสือคนเดียว..

                เสือลงมาหาน้ำกิน ก่อนลงมือทำอาหารง่ายๆ เขาเป็นพวกกินเร็ว พอทำเสร็จก็ทานหมดภายในสิบนาที จัดการทำความสะอาดทุกอย่างให้เป็นเหมือนเดิม

                ไม่รู้สิ..เหมือนทุกอย่างในบ้านไม่ใช่ของเขา

                เขาตั้งเป้าหมายไว้ว่าหากมีเงินมากพอ จะออกไปอยู่คนเดียว เสือเลยตั้งอกตั้งใจทำงานทุกอย่างที่เข้ามาโดยไม่เกี่ยงแม้แต่น้อย

                พอจัดการทุกอย่างเสร็จเขาก็กลับขึ้นไปทำงานต่อเหมือนเดิม โลกของเสือมีแต่งาน..งานและงาน เขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรหากมีเวลาว่าง

                สักสามทุ่มเสียงรถยนต์ยนต์ก็เข้ามาจอดดับสนิทในบ้าน ครอบครัวแสนสุขคงกลับมาแล้ว เสือก้มหน้าทำงานต่อ ไม่อยากสนใจ ไม่อยากคิดฟุ้งซ่านเหมือนคนขาดความอบอุ่น ที่จริง..เขาน่าจะชินได้แล้วที่เป็นอย่างนี้

                เมษาวิ่งดุกดิ้กเข้ามาในบ้าน

                “พ่อครับ พี่เสือชอบดื่มนมหรือเปล่า”

                “ไม่รู้สิ ลองเอาไปให้พี่เขาดู เผื่อเขาชอบ”

                เขาชอบ..ดังกังวานในหูของเมษาไม่หยุด บางทีพี่เสืออาจจะชอบและยอมเปิดใจให้เขาสักนิดก็ยังดี

                “เอาเค้กไปให้พี่เขาด้วยสิ ไม่รู้ว่าทานข้าวบ้างหรือเปล่า” แม่เสนอ เมษาเลยเอาเค้กที่ซื้อมาใส่จานให้ด้วย มันอาจจะดูแปลกไปสักหน่อยที่กินเค้กตอนดึกๆ แต่พี่เสือไม่ได้กินอะไรเลยนี่..

                เจ้าชายตัวน้อยสดใสร่าเริงแม้จะโดนพี่เสือตวาดใส่บ่อยๆ

                เมษาขึ้นไปบนชั้นสอง ห้องของเจ้าชายน้ำแข็งอยู่ข้างๆกัน แต่ทำไมเขารู้สึกว่าเราอยู่คนละโลก เด็กหนุ่มยกมือเคาะห้อง เพราะเกรงว่าจะโดนพี่เสือว่าเอา “พี่เสือ เมษเอง”

                เงียบ..

                “พี่เสือ..อยู่หรือเปล่าครับ”

                เงียบ..ไร้เสียงตอบรับ เมษาบอกกับตัวเองว่าไม่ผิด ในเมื่อเจ้าของห้องไม่อยู่..แน่นอนว่าเขาไม่มีเจตนาร้าย เมษาค่อยๆย่างกรายเข้ามาในห้องอีกครั้ง เขาวางแก้วนมกับเค้กไว้บนโต๊ะทำงานพี่เสือ

                ดวงตากลมโตมองรอบกระดาษอย่างสนอกสนใจ เพิ่งเคยพี่เสือวาดรูปก็คราวนี้ ลายเส้นของพี่เสือไม่หนักแต่แข็งแรงจนรู้สึกได้ ทำไมนะ..พี่ชายของเขาทั้งสองคนถึงได้เก่งแบบนี้ ก็เห็นมีแต่เมษาเองที่ไม่ได้เรื่อง

                “ทำอะไร!”

                เมษาสะดุ้งเฮือก แล้วหันหลังกับอย่างรวดเร็ว แต่จังหวะนั้น..มือของเขาก็ปัดไปโดนแก้วนมล้มลง น้ำสีขาวกระจายไปทั่วแผ่นกระดาษ

                “พี่..พี่เสือ”

                ร่างเล็กเหมือนจะกลายเป็นเศษฝุ่นเมื่อสบตากับดวงตาเอาเรื่องนั่น เมษามองผลงานของตัวเอง แทนที่จะดีแต่กลับกลายเป็นแย่ไปหมดทุกอย่าง “เมษของโทษ”

                พี่เสือยืนนิ่ง ไม่ตอบ ไม่ทำอะไร ก่อนเดินไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาสำรวจ “เปื้อนหมดเลย”

                “เมษไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวเมษทำให้ใหม่”

                “อย่างนายมันดีแต่ก่อเรื่อง จะมีปัญญาทำให้คืนหรือไง!”

                เจ้าชายตัวเล็กก้มหน้าลง เสียงคงดังไปถึงด้านล่าง แม่เลยรีบวิ่งเข้ามาดู “เมษา!”

                “ฉันขอสั่ง อย่าเข้ามาในห้องนี่อีก!”

                “พี่เสือ”

                “ออกไป!!” เสือเหมือนใกล้บ้า ประสาทตึงเครียดไปหมด อยากจับร่างเล็กตรงหน้ามาฉีกให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย มันน่าเจ็บใจ..ไม่กี่นาทีที่เจ้าเด็กนี่เข้ามา งานที่ทำมาทั้งอาทิตย์ก็เละไม่เป็นท่า

                “เสือ น้องคงไม่ได้ตั้งใจ”

                “ไม่ต้องมายุ่ง คุณก็ดีแต่เข้าข้างลูกตัวเอง มันไม่ใช่งานของเจ้านี่ไง!”

                เมษาอยากร้องไห้ แต่พี่เสือคงไม่สงสาร ในเมื่อเขาเป็นคนก่อเรื่องเองทั้งหมด “เดี๋ยวเมษทำให้ใหม่”

 

                ในคือวันเงียบสงบ ไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ เสียงทีวีดังบ้างเบาบ้าง มีเจ้าตูบตัวเล็กนั่งอยู่ข้างๆราวกับทำหน้าที่เฝ้าเจ้านายของมัน

                เมษาขมวดคิ้วมุ่น มองภาพที่ตัวเองวาดแล้วส่ายหน้า มันไม่เหมือนใช้มือวาดเลยสักนิด “ปุ้มปุ้ย พี่เสือต้องเกลียดฉันแน่ๆ”

                ปุ้มปุ้ยร้องหงิงๆก่อนฟุบหน้าลงกับพื้น

                เขาแก้งานแล้วแก้งานอีก แต่ทำอย่างไรก็ไม่เหมือนต้นฉบับ และยิ่งทำก็ยิ่งเละเทะจนบางทีก็อดท้อใจไม่ได้.. พี่เสือทำได้ขนาดนั้นก็ต้องโกรธเป็นธรรมดา ลองมาลำบากแบบนี้บ้างเมษาถึงได้เข้าใจ

                ยิ่งดึกก็ยิ่งง่วง เมษาอยากลงไปฟุบกับโต๊ะเหลือเกิน ไหนๆก็ลองงีบสักสิบนาทีดูแล้วกัน

                ใครว่าจากสิบนาทีจะเป็นชั่วโมงไม่ได้ เมษาทำไปแล้ว..

                เสือชอบลงมาดื่มน้ำตอนกลางคืน เมื่อตอนสามทุ่มจนเกือบเที่ยงคืน เขาต้องเริ่มทำงานใหม่หมดทุกอย่าง เพราะคนๆเดียวแท้ๆ เสือพยายามมองเฉย ไร้ความรู้สึก แต่วันนี้เขาเกรี้ยวกราดไปแล้วกี่ครั้ง และต้นเหตุก็มาจากน้องชายต่างสายเลือด

                คนแปลกหน้า..

                เขาเดินไปดื่มน้ำ หากมองเข้าไปในห้องนั่งเล่นก็เห็นหมากับคนนอนใกล้กัน ในสภาพเหมือนกัน เสียงโทรทัศน์เปิดอยู่ มีกระดาษวางไว้บนโต๊ะ เศษดินสอ ขี้ยางลบ สารพัดของความสกปรก

                ชายหนุ่มไปดูใกล้ๆ เห็นความพยายามวาดรูปของเมษา ไม่ว่ามองอย่างไรก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ทำอย่างนี้นึกหรือว่าเขาจะหายโกรธ ไม่เลยสักนิด..

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2012 15:07:08 โดย Ellette »

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #9 เมื่อ18-11-2012 13:04:10 »

รอติดตามตอนต่อไปคร๊าฟ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
« ตอบ #9 เมื่อ: 18-11-2012 13:04:10 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #10 เมื่อ18-11-2012 13:42:02 »

โธ่ ก็พี่เสือเย็นชากับน้องตั้งแต่แรกนี่นา

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #11 เมื่อ18-11-2012 14:30:12 »

พี่เสือดุสมชื่อ ฮือๆ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #12 เมื่อ18-11-2012 14:40:03 »

เมษาสู้ๆๆ ทะลายน้ำแข็ง ในใจเสือให้ได้นะ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #13 เมื่อ18-11-2012 15:28:21 »

อ๊ากกก พี่เสือน่ากลัวววววว :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ GUNPLAPLASTIC

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #14 เมื่อ18-11-2012 16:35:37 »

พี่เสือใจร้าย ยยยยยยย :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ actionmarks

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-44
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #15 เมื่อ18-11-2012 18:20:16 »

ติดตามพี่เสือตอนต่อไป

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #16 เมื่อ18-11-2012 18:29:03 »

น่าอ่านมากๆ

จะติดตามนะคะ

ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #17 เมื่อ18-11-2012 18:31:09 »

 :เฮ้อ: พี่เสืออ่ะใจร้าย... คิดเองเออเองว่าพ่อไม่รัก

ไม่รักก็ทำให้รักซะสิ ส่วนน้องชายน่ะ มีไว้เรียกร้อยยิ้มก็ได้ไม่ใช่เหรอ

 :z3: ต่อไปจะอยู่ร่วมกันได้ยังไงล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #18 เมื่อ18-11-2012 20:53:57 »

พี่เสืออย่างดุเลยอ่ะ

ออฟไลน์ ฤดูใบไม้หลากสี

  • ผู้เป็นอิสระเหนือทุกสิ่ง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • อิสระ ไม่อาจพรากไปจากเรา, จินตนาการก็อยู่คู่เราจนสิ้นลมหายใจ
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #19 เมื่อ18-11-2012 20:57:58 »

แหมดิบอย่างนี้ คงเป็นพระเอกสินะ แล้วถ้าตอนลงเอยกันจะเป็นยังไงน้า เดาไม่ออกเลยทีเดียว  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
« ตอบ #19 เมื่อ: 18-11-2012 20:57:58 »





ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #20 เมื่อ18-11-2012 22:21:32 »

เสือใจร้ายจังสงสารน้อง


พยายามเข้าหายังมาตะคอกใส่อีก


รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบ

Narcissus

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brothers: Chapter 1 - The Mistake [18/11/2555]
«ตอบ #21 เมื่อ18-11-2012 22:34:21 »

เสือก็มืดมนเกินไปหน่อย
พ่อเลี้ยงมา20กว่าปีนี่ ยังไงมันก็มีความผูกพันธ์กัน รักและห่วงใยกันบ้างแหละ
น้อยใจรุนแรงแบบนี้มันก็เกินไปนะ

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
Re: Brothers: Chapter 2 - The Turbidity [20/11/2555]
«ตอบ #22 เมื่อ20-11-2012 12:21:57 »

Brothers

Chapter 2 – The Turbidity


 

                เสือหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก ความรับผิดชอบของเจ้าเด็กนั่นไม่ทำให้เขาซาบซึ้งใจเลย ตรงกันข้าม..ยิ่งอยากอยู่ห่างๆด้วยซ้ำ เขาทำงานใหม่หมดทุกอย่างเพราะรู้ดีว่าเมษาคงทำไม่สำเร็จแน่นอน

                เจ้าชายน้ำแข็งเดินลงมาอย่างอิดโรย ใต้ตาช้ำ ดวงตาแดง เขาโทรไปบอกนิคกี้เมื่อเช้า ขอให้มารับที่บ้านหน่อย ขืนไปทั้งแบบนี้คงเกิดอุบัติเหตุกลางทาง

                ครอบครัวสุขสันนั่งทานอาหารพร้อมตา เหลือเพียงเสือแค่คนเดียว เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งหรือเปล่า หรือแค่เป็นลูกติดของพ่อเท่านั้น

                “พี่เสือ!” เมษาลุกขึ้นโดยพลันทันทีที่เห็นพี่ชายเดินลงมาข้างล่าง “เมษทำงานยังไม่เสร็จ”

                ยิ่งเห็นหน้ายิ่งหงุดหงิด เสือเม้มปาก ทอดมองเด็กหนุ่มจากบันได “เหรอ”

                เมษาเห็นท่าไม่ดีเลยเดินขึ้นไป อยากขอโทษที่พี่เป็นต้นเหตุทั้งหมด และทำให้พี่เสือไม่ได้นอนทั้งคืน เขาตื่นมาอีกทีตอนตีสี่ยังเห็นแสงไฟลอดออกจากห้องพี่เสืออยู่เลย “ขอเวลาเมษอีกนิด”

                เสือรู้สึกเส้นเลือดในสมองใกล้แตก เวลา..ขอเวลา ของอย่างนั้นมันขอกันได้ที่นี่ อย่างเจ้าเด็กที่เที่ยวเล่นไปวันๆแบบนี้จะเห็นค่าของเวลาหรือ ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ทันทีที่น้องชายต่างสายเลือดยื่นมือมาจับเขาไว้

                “นะครับ”

                เขาหลุบตามองอย่างเย็นชา ใบหน้าที่ใครเห็นต้องเอ็นดูแต่ไม่ใช่เสือ ความรู้สึกนั้นมันหมดไปตั้งนานแล้ว เขาสะบัดมือออกจากความอบอุ่นอย่างแรง ภาพที่เมษาถอยหลังแล้วตกบันได..มันเชื่องช้า แม้ว่ามือคู่นั้นจะยื่นมือไขว่คว้าความช่วยเหลือ แต่เสือก็เลือกปฏิเสธ

                “เมษา!” แม่เรียกลูกชายคนเล็ก แต่เมษาก็ฝืนตาลืมไม่ขึ้น เขารู้สึกปวดหัว..แล้วหลับตาลงอีกครั้ง

                พ่อไม่น้อยหน้า ความเกรี้ยวกราดฉายชัดในแววตาคู่นั้น เสือเคยเห็นและจำได้ดีในวันที่พ่อจับได้ว่าเขาสูบกัญชา “เสือ!” หัวหน้าครอบครัวเดินตึงๆเข้ามาใกล้ ฝ่ามือนั้นกระทบใบหน้าลูกชายตัวเองอย่างแรงดังใจ

                เสือไม่ปวด ไม่เจ็บ..หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ความชามันก็หดหายเหลือเพียงความบอบช้ำที่ร่างกายและจิตใจ ถูกล่ะไม่ใช่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ถูกตบ แต่เขาเคยโดนมาก่อนหน้านี้แล้ว “ขอตัว”

                ในวันอันแสนวุ่นวาย เมษาถูกหามส่งโรงพยาบาล เขาหัวแตก เย็บหลายเข็ม แถมลำตัวยังมีรอยฟกช้ำเขียวไปหมด ความจริงแล้ว..เขาไม่ควรไปยุ่งวุ่นวายกับพี่เสือเลยสักนิด หากเขานั่งทานข้าวเฉยๆแล้วมองเจ้าชายน้ำแข็งออกไปทำงานตามปกติ ทุกอย่างคงราบรื่น

                “แม่”

                “เจ็บตรงไหนไหมลูก” แม่ลูบหัวเขา ดวงตายังฉายแววอ่อนโยนทว่ามีหยาดน้ำคลออยู่

                “พี่เสือเป็นยังไงบ้าง”

                แม่ลูบหัวลูกชายอีกครั้งด้วยความเอ็นดู เธอภูมิใจไม่น้อยที่เมษายังมีจิตใจห่วงใยคนอื่นอยู่ แม้ว่าเสือจะทำให้เมษาตกบันไดก็ตาม “ไปทำงานแล้ว”

                “เพราะเมษแท้ๆเลย”

                “ไม่ใช่หรอก มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจทำหรอก”

                เมษาอยากร้องไห้ดังๆ ปวดหัวก็ปวดแต่เจ็บใจมากกว่า ทุกครั้งพี่เสือต้องเดือดร้อนเพราะเขาเป็นต้นเหตุ เวลาพยายามช่วยก็ยิ่งทำให้มันแย่ลง บางที..พี่เสืออาจจะไม่ชอบเมษาเพราะแบบนี้ก็ได้ ทว่าหากให้เมษาตัดใจไม่วิ่งเข้าหา เขาก็ทำไม่ลง

                เขามองพี่เสือเหมือนพี่ตุลย์..คนในครอบครัวคนหนึ่งก็เท่านั้น

                “เดี๋ยวพี่ตุลย์มาเยี่ยมนะเมษ เลิกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้แล้ว”

                ร่างเล็กลืมตาโพลง แค่ได้ยินว่าพี่ตุลย์มา เมษาก็มีกำลังใจเพิ่มขึ้นแล้ว ถึงไม่ค่อยเจอกันแต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันล้ำหน้า ติดต่อกันได้หลายทาง แน่นอนว่าคนทันสมัยอย่างเมษาไม่เคยพลาด “จริงเหรอครับ!”

                “จริงสิ”

                แม่พูดไม่ทันจบ หนุ่มร่างสูงก็ถือผลไม้และอาหารก็เข้ามาพอดี “เฮ้อ..นึกว่าจะมาไม่ทันตอนเที่ยงซะแล้ว”

                “แม่กำลังพูดถึงพอดีเจ้าตุลย์”

                ตุลาวางของก่อนเดินไปกอดแม่ ไม่ได้เจอกันไม่กี่วันดูเหมือนเมษาจะก่อเรื่องไว้เป็นร้อย แถมจะกับใครนอกเสียจากพี่ชายต่างสายเลือดคนนั้น

                “เมษไปทำอะไรใครมาอีกล่ะ” ตุลย์ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ส่วนแม่ก็จัดของใส่ตู้เย็น

                “เมษแค่คุยกับพี่เสือเท่านั้นเอง”

                คุยกันจนได้เลือดแถมยังนอนโรงพยาบาลอีก มันคงเป็นการคุยแบบใช้ค้อน ใช้ตะปูสินะ ตุลาได้แต่หัวเราะเบาๆ “แล้วไปทำท่าไหนล่ะถึงได้เจ็บตัว ให้แม่เสียค่าห้องค่ารักษาแบบนี้”

                เมษายู่หน้าลงอย่างขัดอกขัดใจ มีที่ไหนมาซ้ำเติมกันถึงที่ “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ความจริงเมษเป็นคนหาเรื่องก่อน พี่เสืออยู่เฉยๆด้วยซ้ำ”

                ตุลาพยักหน้า แล้วฟังเรื่องของน้องต่อย่างตั้งใจ

                “เมื่อวันก่อนเมษทำนมหกใส่กระดาษงานของพี่เสือ แล้วอยากช่วยก็เท่านั้น”

                “แต่ก็ทำไม่สำเร็จใช่หรือเปล่า”

                พี่ตุลย์ถามจี้จุด เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว “ก็แน่ล่ะ ยากจะตาย แต่เมษก็พยายามทำให้เสร็จนะ แต่ยิ่งวาดก็ยิ่งเละ แล้วตอนเช้าก็แค่อยากขอเวลาพี่เสือ..แต่ก็เป็นอย่างที่เห็น”

                “เจ้าตัวยุ่ง ชอบหาเรื่องใส่ตัว”

                “พี่ตุลย์ก็..พี่เสือเขาไม่ค่อยออกจากห้อง แถมวันๆไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย เมษเป็นห่วงพี่เสือนี่”

                “อาจจะเป็นความสุขของเขาก็ได้” ตุลาว่า เขามีเพื่อนคล้ายๆเสือแต่ไม่อาการหนักเท่านี้ อย่างน้อยวันปีใหม่มันก็ออกมาฉลองกับพวกเขาได้ล่ะ

                “พี่ตุลย์ไม่ไปทำงานเหรอ”

                “มีนัดตอนบ่ายสอง”

                “ไม่รีบไปเหรอ เดี๋ยวไม่ทันนัด” เด็กหนุ่มบอกพี่ชายด้วยความเป็นห่วง

                “อยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง แปปเดียวก็ถึง”

                เมษานึกดีใจ พี่ตุลย์มีนัดใกล้ๆแถวนี้ แสดงว่ามันคงไม่ลำบากอะไรมากมากหากมาเยี่ยมเขาอีกสักหน “ตอนเย็นมาหาเมษอีกทีนะ”

                “ตอนนี้ก็มาแล้วไง”

                “ก็มาอีกตอนเย็นไง”

                ตุลาถอนหายใจแล้วอดรับปากไม่ได้ เขาไม่ชอบทำลายความหวังของน้องเหมือนใครบางคนด้วยสิ

 

                ตุลาทำงานเป็นวิศวกรโยธา งานของเขามักจะมีสถาปนิกมาร่วมงานด้วย ในหลายต้องนัดเจอกันนอกสถานที่ อย่างเช่นวันนี้..ที่ร้านกาแฟ

                “ไอ้ตุลย์ มาเกือบไม่ทันนะมึง”

                “ทำไมไม่เข้าไปก่อนไอ้เปรม” ตุลาหอบแฟ้มมาด้วย เห็นเพื่อนตัวแสบยืนรอไม่ยอมเข้าไปในห้างสักที

                “แหมไอ้นี่ มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว กูเคยทำงานกับคนนี้”

                “แล้วเป็นไง เขาไม่ดีเหรอ” ชายหนุ่มถามติดตลก เขาเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ประสบการณ์อาจไม่แน่นพอเท่าไอ้เปรมที่ทำมาก่อนปีกว่า เจ้านายเลยบอกให้มันมากับเขาด้วย..เจ้านายน่ะก็รุ่นพี่มหาวิทยาลัยเดียวกันนั่นแหละ

                “ก็ดี แต่ดุไปหน่อย”

                “ไปทำอะไรให้เขาดุได้ล่ะ อย่าบอกนะว่าไปจีบลูกสาวเขา” ในความคิดของตุลา..คนที่ว่านี่ก็น่าจะรุ่นพ่อ มีลูกสาว ขี้หวงหน่อยล่ะมั้ง

                “ไอ้นี่เดาสุ่มสี่สุ่มหน้า เขายังไม่สามสิบด้วยซ้ำ” เปรมว่า วีรกรรมครั้งแรกที่เจอกัน เขาสะดุดพื้นพรมจนทำเค้กร่วงไปใส่คนร่วมงาน อีกทั้งยังมาสายจนเรียกได้ว่าโดนเกลียดไปหลายครั้ง เปรมเคยคิดว่าเป็นครั้งเดียวที่เขาจะได้ทำงานนี้ ทว่าเขากลับคิดผิดที่ยอมมากับตุลา

                “เฮ้อ..งั้นก็ไม่มีอะไรน่ากลัว”

                “กลัวสิเว่ย กูกลัว”

                ตุลาหันมาหาเพื่อน เห็นอาการแบบนี้แล้วอดส่ายหน้าไม่ได้ แค่คนๆเดียวจะมีอะไรไปมากกว่าพูดคุยกันเรื่องงาน

                น่าแปลกใจที่อีกฝ่ายเลือกร้านธรรมดามากกว่าร้านกาแฟที่นิยมเข้าไปนั่งแช่นานๆสมัยนี้ ตุลากวาดตามอง ส่วนใหญ่แล้วคนที่มานั่งจิบเป็นวัยทำงานถึงสูงอายุมากกว่า ก็ดีแล้ว..ถือว่าผู้ร่วมงานของเขารู้จักเลือกสถานที่

                “โต๊ะไหน”

                เปรมชะแง้คอมอง ก่อนชีมือไปยังโต๊ะติดหน้าต่าง “โต๊ะนั้นไง”

                “มึงเดินเข้าไปสิ”

                “ทำไมต้องกูล่ะไอ้ตุลย์”

                ชายหนุ่มหน่ายนิดหน่อยกับอาการกลัวเกิดเหตุของเพื่อนสนิท “มึงเคยทำงานร่วมกับเขานี่ มึงก็ต้องรู้จักเขา เข้าไปแล้วค่อยแนะนำให้กูรู้จักก็ได้นี่”

                ท้ายสุดแล้วเปรมก็ทำตามคำสั่งของตุลาจนได้

                “สวัสดีครับคุณเสือ”

                ดวงตาคมเหลือบมองก่อนมุ่นคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “คุณมาช้าห้านาที”

                เปรมหันไปมองตุลาแล้วบุ้ยปากไปหาคู่อริ “นี่ไงมึง”

                “ผมไปรอรับเพื่อนครับ เพิ่งทำงานด้วยกันครั้งแรก”

                เสือยืนแล้วหันไปสบตาผู้มาใหม่ เขาจำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหนแต่คุ้นหน้าเหลือเกิน “ผมชื่อเสือ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เป็นการพูดตามมารยาทเท่านั้น เสือทำบ่อย ไม่ว่าใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ เขาไม่เคยคิดจะสานต่อเกินคำว่าเพื่อนร่วมงาน

                “ตุลา เรียกตุลย์ก็ได้ครับ”

                เสือ..เสือ คนๆนั้นแน่นอน

                เสือสั่งกาแฟเป็นแก้วที่สองแล้ว ร่างกายเขาเริ่มประท้วงเพราะการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทั้งเวียนหน้าเวียนหัว ใจสั่นจนจะหลุดออกมา ฟังอะไรก็ไม่รู้เรื่อง เขาชักไม่ไหวแล้ว

                “คุณเสือเป็นอะไรไหมครับ” ปกติเขาเห็นอีกฝ่ายกระชับกระเฉงแบบเสือนั่นแหละ แต่วันนี้เจ้าตัวดูซึมๆไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ ราวกับพยายามประคองตัวเองให้มีสติตลอดเวลา

                “ผมขอคุยต่อวันหลังนะครับ”

                “ได้ครับ..” วันหลังสิได้ เปรมต่อในใจ เขาจะได้หาวิธีรับมือใหม่ๆด้วย

                พวกเขาเดินออกจากร้านกาแฟ เพียงแค่สามสิบนาทีเท่านั้นที่ได้คุยกัน เปรมกับตุลาเดินข้างหน้า ส่วนเสืออยู่ข้างหลัง เขากดโทรศัพท์ด้วยนิ้วสั่นรัว

                ‘เสร็จแล้วเหรอ’

                “นิคมารับหน่อย เร็วๆนะที่..” เพียงประโยคเดียว เสียงโทรศัพท์กระแทกพื้นก็ดังขึ้นพร้อมร่างชายหนุ่มที่ล้มตัวลงบนพื้น

                ตุลาหันหลังกลับพร้อมกับเปรม เห็นเจ้าของเสือหมดสติกับพื้น “เฮ่ย!” หนุ่มนักเรียนนอกถลาเข้าไปประคองร่างเล็กกว่า พลางตบใบหน้าซีดขาวเบาๆ

                “คุณ!”

                “เขาเป็นอะไรวะ”

                “กูไม่ใช่หมอ ถือของพวกนี้ไป”

                เปรมรีบโกยเอกสารที่กระจัดกระจาย พอรวมๆกันแล้วมันหนักไม่น้อยเลยทีเดียว

                ตุลายกคนไร้สติพาดบ่าก่อนหันหลังมาบอกเพื่อน “กูไปก่อนนะ มึงค่อยตามกูไปทีหลัง”

                “อ้าว เฮ่ย!”

                หนุ่มนักเรียนนอกขับรถมายังโรงพยาบาลของเมษาอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะมาเยี่ยมแต่เป็นเพราะมาส่งคนไข้อีกคนต่างหาก ตลอดระยะทางจากห้างถึงโรงพยาบาลอีกฝ่ายไม่รู้ตัวสักนิด เขาเลยถือวิสาสะแอบหยิบโทรศัพท์มาดู น่าแปลกใจ..ถึงเสือเป็นคนดูเงียบๆ แต่ในโทรศัพท์กลับมีเบอร์โทรใครต่อใครมากมาย

                คนป่วยถูกแอดมิทเข้าโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เขาเลยถือโอกาสโทรหาคนที่เจ้าตัวเมมว่าพ่อเสียเลย

                ‘สวัสดีครับ’

                “ครับคุณลง..ผมตุลาเอง” กว่าจะโทรติดเล่นเอาตุลาเหงื่อตก

                ‘มีอะไร ทำไมเป็นเบอร์เสือ’

                “คุณเสือเข้าโรงพยาบาล..ที่เดียวกันกับเมษา” เท่านั้นแหละปลายสายก็ตัดดื้อๆ ไม่แปลกใจเท่าไหร่ในเมื่ออีกฝ่ายคือพ่อ แต่ไม่รู้ว่าเสือจะคิดแบบเดียวกันกับเขาหรือเปล่า

                เพียงยี่สิบนาทีคุณลุงก็มาถึงโรงพยาบาล ท่าทางคงทิ้งงานมาแบบไม่สนใจอะไรเลย

                “ตุลย์ เสือเป็นอะไร”

                “คุณหมอบอกว่าพักผ่อนน้อย ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แล้วก็ขาดสารอาหารด้วยครับ” ตุลาพาคุณลงไปห้องพิเศษ ครั้งแรกที่สบตากันอย่างชัดเจนตุลาคิดว่าอีกฝ่ายก็เหมือนผู้ชายทั่วไป อาจจะหน้าเด็กไปหน่อย แต่ความจริงแล้ว..เสือผอมมาก เหมือนคนไม่ค่อยได้ทานข้าวอย่างนั้นแหละ

                ไม่เห็นอ้วนขึ้นเหมือนไอ้เมษสักนิด

                คุณลุงเดินเข้าไปหาลูกชายที่ยังไม่รู้สึกตัว “เสือ..พ่อขอโทษ” ปลายนิ้วสางผมนุ่มของลูกชายอย่างอ่อนโยน พลางสำรวจรอยฝ่ามือบนใบหน้า ฝีมือเขาเองทั้งนั้น..ลูกชายคนเดียวเกิดจากผู้หญิงโสเภณีรักสนุก แต่เขาไม่เคยทำหน้าที่ขาดตกบกพร่องสักนิด แต่เพราะอะไรเสือถึงกลายเป็นแบบนี้

                ใครๆก็บอกว่าเสือเหมือนแม่ เขาไม่เคยชอบเลยสักนิด อยากให้ลูกชายเหมือนเขา..ไร้รูปลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้นอย่างสิ้นเชิง แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่หวัง

                แก้มขาวบวมนิดๆ คาดว่าไม่นานคงปวดน่าดู

                ศักดิ์สิทธิ์ปาดน้ำตาออก ก่อนหันไปฝากลูกชายกับตุลา “ลุงฝากเสือหน่อย เดี๋ยวไปซื้ออะไรมาเก็บไว้ เผื่อเสือตื่นมาแล้วหิว”

               

                เมษารู้ข่าวว่าเจ้าชายน้ำแข็งเป็นลมก็แทบวิ่งออกจากห้องแบบไม่สนอะไรเหมือนกัน “แม่ เมษไปเยี่ยมพี่เสือได้หรือยัง”

                แม่หันมายิ้มแล้วลูบหัวลูกชายตัวน้อยเบาๆ “ยังจ่ะ ไว้พ่อมาก่อนนะ”

                “ทำไมต้องรอพ่อด้วยล่ะ เมษอยากไปหาพี่เสือเดี๋ยวนี้” เมษาเริ่มเอาแต่ใจ เมื่อเช้าพี่เสือไม่ได้ทานข้าวไปด้วย ยิ่งทำให้เมษาเป็นห่วงเข้าไปใหญ่

                “ตอนนี้พ่อออกไปซื้อของให้พี่เสือ เดี๋ยวกลับมาค่อยไปพร้อมกัน”

                เหตุผลหนึ่งที่แม่ไม่อยากให้เมษาไปหาเสือตอนนี้เพราะคิดว่าบางที..พ่อกับลูกควรมีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2012 13:29:11 โดย Ellette »

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
Re: Brothers: Chapter 2 - The Turbidity [20/11/2555]
«ตอบ #23 เมื่อ20-11-2012 13:05:42 »

อ้าววว ชักยังไง


รู้สึกว่าเสือจะไม่ได้คู่กับเมษแล้วมั้ง


แต่ขอบอกว่าถ้าคู่กับตุลย์ เราจะกรี๊ดดด มากกว่า ดูเหมาะสมกันมากกว่า


ส่วนคุณพ่อกับพี่เสือ คุณพ่อคะบางทีลูกก็ไม่ได้อยากได้แค่นั้น หรอกค่ะ บางทีการพูดจา การสัมผัส ความเป็นห่วง อะไรเหล่านี้มันควรจะแสดงออกมามากกว่านี้

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: Brothers: Chapter 2 - The Turbidity [20/11/2555]
«ตอบ #24 เมื่อ20-11-2012 13:10:50 »

บางทีอยากให้เมษอยู่นิ่ง ๆ บ้างเหมือนกัน เข้าหาพี่เสือแบบนี้มันยิ่งสร้างความรำคาญใจให้พี่เค้านะ

ออฟไลน์ NannY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +125/-1
Re: Brothers: Chapter 2 - The Turbidity [20/11/2555]
«ตอบ #25 เมื่อ20-11-2012 14:09:48 »

โห ตุลย์ -เสือจะแซ่บกว่าล้ะมั้งเนี่ย หึหึ

ออฟไลน์ special

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-3
Re: Brothers: Chapter 2 - The Turbidity [20/11/2555]
«ตอบ #26 เมื่อ20-11-2012 15:19:07 »

รออ่านต่อนะคะ เนื้อเรื่องดูน่าสนใจดี
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นเสือเมษซะอีก
มาอ่านอันนี้ สงสัยว่าจะเป็นตุลย์เสือซะแล้ว

ออฟไลน์ Ellette

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +194/-4
Re: Brothers: Chapter 2 - The Turbidity [20/11/2555]
«ตอบ #27 เมื่อ20-11-2012 15:25:20 »

เป็นกำลังใจให้จ้า

ขอบคุณค่า

มาต่อน้าๆ คอยอยู่จ้า ><!!

มาต่อแล้ววว  :-[

อยากอ่านต่อจัง

มาต่อสองตอนแล้วค่ะ  :laugh:

ชอบบุคลิคเมษาอ่ะ รอตอนต่อไปครับ  :really2:

เมษาน่ารักเช้ากลางวันเย็นเลยค่ะ คิคิ

พี่เสือนิ่งไปนะ

เดี๋ยวพี่เสือก็ไม่นิ่งแล้วววว

รอติดตามเรื่องใหม่ค่ะ ^^ มาต่อไว ๆ นะคะ :)

ขอบคุณค่ะ :o8:

รอติดตามตอนต่อไปคร๊าฟ

คิคิ มาลงแล้ววว

โธ่ ก็พี่เสือเย็นชากับน้องตั้งแต่แรกนี่นา

พี่เสือของน้องเมษาจะเย็นชาต่อไปปป

พี่เสือดุสมชื่อ ฮือๆ

เป็นแค่ลูกเสือ ฤทธิ์ยังไม่เยอะ

เมษาสู้ๆๆ ทะลายน้ำแข็ง ในใจเสือให้ได้นะ

เมษาจะเพิ่มน้ำแข็งในพี่เสือหรือเปล่าหนออ  :laugh:

อ๊ากกก พี่เสือน่ากลัวววววว :monkeysad: :monkeysad:

พี่เสือไม่น่ากลัวอย่างที่คิดน้าาา

พี่เสือใจร้าย ยยยยยยย :o12: :o12: :o12:

เดี๋ยวพี่เสือจะเชื่องเองนะ  :z1:

ติดตามพี่เสือตอนต่อไป

เดี๋ยวพี่เสือเริ่มออกลายแล้ววว

น่าอ่านมากๆ

จะติดตามนะคะ

ขอบคุณค่ะท่านยูชอน

:เฮ้อ: พี่เสืออ่ะใจร้าย... คิดเองเออเองว่าพ่อไม่รัก

ไม่รักก็ทำให้รักซะสิ ส่วนน้องชายน่ะ มีไว้เรียกร้อยยิ้มก็ได้ไม่ใช่เหรอ

 :z3: ต่อไปจะอยู่ร่วมกันได้ยังไงล่ะเนี่ย

เป๊ะเลย พี่เสือคิดว่าพ่อไม่รัก จริงๆพ่อเขารักพี่เสือเน่อ :man1:

พี่เสืออย่างดุเลยอ่ะ

ดุตามชื่อเลยค่ะ  o18

แหมดิบอย่างนี้ คงเป็นพระเอกสินะ แล้วถ้าตอนลงเอยกันจะเป็นยังไงน้า เดาไม่ออกเลยทีเดียว  :กอด1:

ฮ่าๆ ติดตามตอนต่อไปแล้วจะทราบความจริงในใจ !!

เสือใจร้ายจังสงสารน้อง


พยายามเข้าหายังมาตะคอกใส่อีก


รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบ

คร้าบบบ ตอนต่อไปมาแล้ว ว่าไปสงสารเมษาอยู่นะ  :z3:

เสือก็มืดมนเกินไปหน่อย
พ่อเลี้ยงมา20กว่าปีนี่ ยังไงมันก็มีความผูกพันธ์กัน รักและห่วงใยกันบ้างแหละ
น้อยใจรุนแรงแบบนี้มันก็เกินไปนะ

หุๆเรื่องของจิตใจวัดจากการแสดงออกไม่ค่อยได้
ต้องกันต่อไปเนอะ คริคริ

อ้าววว ชักยังไง


รู้สึกว่าเสือจะไม่ได้คู่กับเมษแล้วมั้ง


แต่ขอบอกว่าถ้าคู่กับตุลย์ เราจะกรี๊ดดด มากกว่า ดูเหมาะสมกันมากกว่า


ส่วนคุณพ่อกับพี่เสือ คุณพ่อคะบางทีลูกก็ไม่ได้อยากได้แค่นั้น หรอกค่ะ บางทีการพูดจา การสัมผัส ความเป็นห่วง อะไรเหล่านี้มันควรจะแสดงออกมามากกว่านี้

กรี๊ดๆ! อย่ามาเดาาาน้าาา 5555 อุตส่าห์เก็บเป็นความลับตั้งนาน  :m16:
พ่อเขามีวิธีแสดงออกไม่เหมือนใครแน่ๆ เดี๋ยวต้องเพิ่มบทซะแล้ว

บางทีอยากให้เมษอยู่นิ่ง ๆ บ้างเหมือนกัน เข้าหาพี่เสือแบบนี้มันยิ่งสร้างความรำคาญใจให้พี่เค้านะ

เมษาไฮเปอร์แน่ๆค่ะ!!

โห ตุลย์ -เสือจะแซ่บกว่าล้ะมั้งเนี่ย หึหึ

แซบไม่แซบไม่รู้เนอะ ดูตอนหน้าๆๆๆๆ อีกห้าร้อยตอนค่า  :pig4:

รออ่านต่อนะคะ เนื้อเรื่องดูน่าสนใจดี
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นเสือเมษซะอีก
มาอ่านอันนี้ สงสัยว่าจะเป็นตุลย์เสือซะแล้ว

ขอบคุณค่าาา
เห็นตอนแรกๆหลายคนคิดว่าพี่เสือกับน้องเมษา
ตอนนี้เกือบจะเฉลยแล้ว

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
Re: Brothers: Chapter 2 - The Turbidity [20/11/2555]
«ตอบ #28 เมื่อ20-11-2012 15:55:13 »


พี่เสือออออออออออออออออออออออออออออออออออ


ใครไม่รักก็ช่างเขาแต่เราต้องรักตัวเองนะคะ


โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Brothers: Chapter 2 - The Turbidity [20/11/2555]
«ตอบ #29 เมื่อ20-11-2012 16:29:50 »

พี่เสือดื้อเงียบนะต้องหาคนมาปราบเสือ เหอๆ จะตุลย์หรือน้องเมษดีอ่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด