“เชื่อกู..ปล่อยให้น้องมึงเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวบ้าง มึงไม่อยากเห็นน้องมาง้อมึงก่อนบ้างหรือไงริวซากิ เร็น”
“จะมีวันนั้นหรอวะ?”
“มั่นใจหน่อยเพื่อนกู น้องเขาหวั่นไหวกับมึงเกินคาดของพวกกูขนาดนี้แล้ว เตรียมใจไว้รับรักน้องได้เลยมึง เชื่อกูเหอะ มึงได้รักกับน้องสมใจมึงแน่นอน”
“แล้วถ้าน้องไม่มาง้อกูล่ะ”
“มึงก็รอดูไปก่อน ถ้าน้องไม่ง้อมึงจริงๆ มึงค่อยไปง้อเขา แต่เชื่อกูเถอะไม่เกินวันนี้หรอก” ดูท่าซึงโฮมันจะมั่นใจมากโข มันเสริมบอกผมอีกว่าดูจากสีหน้าและแววตาของน้องแล้ว มันเชื่อว่าน้องปันใจให้ผมแล้ว เพียงแต่ติดว่าเขาคงยังไม่ยอมรับว่าตัวเองรักผมเข้าแล้วเท่านั้น ผมก็พอจะเข้าใจอยู่ ก็น้องชอบคิดว่าตัวเขาแมนนิครับ
ถ้าอย่างนั้น..ผมจะอดทนคอยเพื่อปรับความเข้าใจกับน้องครับ
แต่หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงดี ยัยน้องสาวตัวแสบก็โทรเข้ามาหาผมที่โดน ซึงโฮลากไปกินมื้อเช้าตอนเวลาเกือบๆสิบเอ็ดโมงที่ร้านอาหารใกล้ๆกับคอนโดของผม
“เอมิโทรมาบอกว่าน้องสงสัยเรื่องต่างหูที่อยู่ในกระเป๋าของกูว่ะ”
“ก็ดีแล้วไง”
“น้องนัดเอมิไว้ตอนเย็น กูควรทำไงดีวะ?”
สมองตอนนี้ของผมตื้อตันไปหมด ความคิดมันก้าวกระโดดไปคิดว่าถ้าน้องรู้ว่าผมสั่งทำต่างหูคู่นั้นให้เขาแล้วเขาจะรู้สึกยังไง จะดีใจไหม จะตื้นตันใจหรือเปล่า หรือจะมีความรู้สึกอื่นๆที่ผมคาดเดาไม่ถูกโผล่ออกมากันแน่
“มึงนี่...พอเป็นเรื่องของน้องแล้วอาการหนักนะ”
ผมปล่อยให้เพื่อนรักต่างชาติของผมมันสรรเสริญไปโดยไม่ด่ามันกลับ เพราะอย่างน้อยมันก็มีประโยชน์กับผมอยู่มากนิครับ
วันนี้ทั้งวันน้องไม่ได้ออกไปไหน เขายังคงอยู่ในห้องของผม จนถึงเย็นน้องก็ลงมา เขาเดินผ่านผมที่นั่งอยู่ตรงเทอเรสของคอนโดไปโดยไม่ทันสังเกต ผมเห็นแล้วก็เลยเดินตามเขาไปห่างๆทั้งที่ใจอยากเข้าไปช่วยพยุงน้องเดิน แมวดื้อตัวน้อยของผมกำลังเดินกะเผลกๆไปยังจุดหมายที่นัดไว้กับยัยน้องสาวตัวแสบที่สัญญาว่าจะเป็นกามเทพแห่งความรักให้กับผม
ผมเดินตามหลังเขาไปจนถึงที่หมายและซ่อนตัวมองเขาจากมุมที่น้องจะมองมาไม่เห็น ที่รักของผมเขานั่งลงกับขอบกำแพงและเหยียดขาออกมา ใบหน้ามุ่ยเล็กน้อย คิดว่าเป็นเพราะใช้ขามากไป ผมมองเขาอย่างเป็นห่วงก่อนจะใจเต้นเมื่อน้องหยิบเอากล่องของขวัญที่ผมลืมทิ้งไว้ที่ห้องขึ้นมา น้องคงจะไปเจอมันอยู่ใน แจ็คเก็ตของผม
แต่สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นยิ่งกว่า ก็คือรอยยิ้มจางๆของน้องตอนมองสิ่งที่ อยู่ในกล่องใบเล็กกล่องนั้น
น้องคงจะสังเกตเห็นชื่อแบรนด์ที่อยู่บนกล่องนั่น ผมนึกขอบคุณพระเจ้าที่ให้น้องมีน้องรหัสเป็นเพื่อนกับยัยเอมิเลยทำให้เขาเคยได้ยินมาว่าแบรนด์ของต่างหูคู่นี้คือธุรกิจของบ้านยัยตัวแสบ หรือที่จริงมันก็เป็นธุรกิจของบ้านผมด้วยนั่นแหละครับ เพียงแต่บ้านของผมนั้นดูแลเรื่องการค้ากับต่างประเทศ แต่บ้านของเอมินั้นดูแลเรื่องการค้าในญี่ปุ่นนี่
ผมยืนมองน้องอยู่ครู่หนึ่ง ยัยตัวแสบก็โผล่มาหาผมเล่นเอาผมสะดุ้งไม่น้อยเมื่อถูกแตะไหล่
“พี่นี่ทำตัวเหมือนสโตรคเกอร์เลย ถ้าไม่เห็นด้วยตานี่ไม่เชื่อเลยนะนี่”
ผมหัวเราะกับคำพูดของยัยตัวแสบก่อนจะยกมือวางบนหัวน้องแล้วขยี้ ผมเธออย่างมันเขี้ยว
“ทำไงได้..ก็คนมันรักนี่นา” ยัยตัวแสบทำท่าอาเจียนใส่ผมอย่างล้อเลียนก่อนจะแลบลิ้นใส่ด้วยท่าทางสดใส
“งั้นกามเทพสาวคนนี้จะไปช่วยให้สมใจหมายก็แล้วกัน”
เธอบอกว่างั้นแล้วทำท่าจะผละไป แต่ผมคว้าข้อมือเอาไว้ก่อนแล้วดึงมากำชับอีกครั้ง
“RLS น่ะ ถ้าซัทสึกิถามก็บอกไปเลยนะว่าคืออะไร แต่ทำให้เขาคิดหน่อยล่ะว่าพี่ให้เราเก็บเป็นความลับน่ะ”
ผมหลิ่วตากับน้องสาวตัวแสบซึ่งยกนิ้วโป้งขึ้นมาให้
“วางใจได้เลย เอมิซะอย่าง!”
ที่เหลือ..ผมก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของยัยน้องสาวตัวแสบที่อาสาเป็นกามเทพให้ผมกับน้องครับ
เอมิทำหน้าที่ได้ดีอย่างที่ผมหวังไว้ เธอเข้าไปคุยกับน้องเพียงไม่กี่นาที ผมก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ของน้อง แก้มของน้องแดงจัดเมื่อ เอมิเขียนอะไรสักอย่างลงไปที่แขนของน้อง
ซึ่งถ้าให้ผมเดาจากสีหน้าของเขาแล้ว..ยัยตัวแสบของผมต้องบอกความหมายของตัวอักษรสามตัวนั้นให้น้องรู้แล้วแน่ๆ และยัยตัวแสบก็หันมา พยักหน้าให้กับผม ส่งสัญญาณให้ผมเดินเข้าไปหาน้องเมื่อซัทสึกิเขาเอาแต่ก้มหน้ามองดูข้อความบนแขนเขาเอง
“ลองไปถามพี่เร็นเอาเองก็แล้วกันนะคะ นั่นไง มานู่นแล้ว”
ผมขยับเดินเข้าไปใกล้อีก เอมิพอเห็นผมเข้ามาใกล้แล้วก็เลยขยับลุกและเอ่ยลากับน้องก่อนจะปลีกตัวออกไปโดยไม่ลืมจะหันมาโบกไม้โบกมืออย่างร่าเริงเมื่องานของเธอสำเร็จลุล่วงไปแล้วเรียบร้อย
ผมเดินเข้าไปหาน้องและนั่งลงข้างๆเขา เกร็งใบหน้าให้นิ่งเฉยเอาไว้ทั้งที่ในใจมันกำลังลิงโลด ผมแกล้งดึงเอากล่องของขวัญในมือของน้อง คนดีเขายอมปล่อยมาแต่โดยดีหลังจากยื้อไว้อยู่สองสามที ผมมองกล่องของขวัญในมือแล้วก็เริ่มคิดว่าจะให้น้องแบบไหนดี จะยื่นให้เขาเลยดีไหม แต่น้องก็ถามขึ้นมาเสียก่อน
“นั่นน่ะ...ตกลงจะให้ไหม!?”
น้องกระชากเสียงถามแถมยังยกมือขึ้นกอดอกอีกต่างหาก ผมเลยแกล้งมองหน้าเขานิ่งๆจนผ่านไปเกือบนาที สีหน้าที่กำลังงอนของน้องก็เปลี่ยนไป เขากำลังหงุดหงิดเพราะผมไม่ยอมยื่นกล่องของขวัญให้เขา
“ตกลงจะไม่ให้ใช่ไหม!! ต่างหูคู่นั้นสั่งทำมาให้ฉันไม่ใช่หรือไงกัน!?” ผมเบี่ยงหน้าหนีเขาเพราะรู้สึกว่าตัวเองกลั้นยิ้มต่อไปจะไม่ไหวแล้ว เด็กเอาแต่ใจของ ผม เขาจะรู้บ้างไหมนะว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไงต่อผู้ชายที่นั่งข้างๆคนนี้
แล้วเพียงพริบตาเดียวหลังจากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงเขาพยายามกลั้น ร้องไห้ เพียงเท่านี้ก็ทำเอาผมใจอ่อนยวบเลิกแกล้งเขา ผมดึงต่างหูออกมาจากกล่องและหันไปหาน้องที่เบือนหน้าหนีไปอีกทาง เขากำลังขยี้ตาอยู่ในนาทีที่ผม ดึงให้เขาหันกลับมามองหน้าผม และเลื่อนมือไปใส่ต่างหูให้กับเขาทีละข้าง
เรามองตากันและผมเห็นประกายอบอุ่นที่มันสะท้อนอยู่ในดวงตาของน้องที่กำลังเม้มปากด้วยความเขิน
พอผมใส่ต่างหูให้เขาเสร็จ ซัทสึกิเขาก็ก้มหน้าและเอ่ยขึ้นเสียงเบา
“เมื่อวาน...ขอโทษนะ แล้วก็...”
น้องเว้นวรรคไว้และเงยมามองผมที่ส่งยิ้มให้ ผมไม่ได้โกรธอะไรน้องเลย ผมโกรธตัวเองมากกว่าที่ทำให้เขาเชื่อใจผมได้ไม่มากพอ โกรธที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปพูดกับน้อง แต่อีกนัยหนึ่ง บางทีผมก็อาจต้องขอบคุณนางร้าย รับเชิญคนนั้น ที่ทำให้ผมมีโอกาสเห็นน้องหึงหวงผมล่ะนะ แถมน้องยังเป็นฝ่ายมาจูบผมอีกด้วย หลังจากที่เขาเอ่ยขอบคุณผมด้วยแก้มแดงๆ
“ขอบคุณนะสำหรับของขวัญวันเกิด”
ผมรั้งเอวของน้องไว้ ไม่ให้เขาขยับหนีและแนบจูบที่หนักหน่วงเหมือนกับใจที่มั่นคงของผมให้กับน้องที่หลับตาพริ้มยอมให้ผมจูบแต่โดยดี
และเมื่อผมปล่อยจูบ น้องก็หัวเราะออกมาอย่างสดใส ความสุขมันกระจายอยู่เต็มใบหน้าของเขาจนผมต้องหัวเราะอย่างมีความสุขบ้าง
ความขุ่นข้องหมองใจหรืออะไรก็แล้วแต่มันถูกโยนทิ้งไปหมด ผมไล้ปลายนิ้วไปตามแก้มของเขาก่อนจะปัดปอยผมไปทัดหูให้ น้องอมยิ้มแล้วยกมือขึ้นมาจับต่างหูซ้ายของเขาแล้วหันมากระตุกชายเสื้อผม
“เดินเล่นกัน” ผมพยักหน้ารับและยื่นมือไปให้เขาจับไว้แต่น้องดึงแขนของผมไว้แล้วอ้อนผมเสียงหวาน
“ขี่หลังได้ไหม?” ผมใจหวิวไม่น้อยครับกับน้องเวอร์ชั่นนี้ กายมันถลาหันหลังไปให้น้องขึ้นขี่แต่โดยดี สองแขนของน้องโอบรอบคอผมที่แบกเขาขึ้นมาและค่อยๆเดินไปตามทางริมคลองแสนสวยยามค่ำนี้ เราเดินกันไปเรื่อยๆโดยไม่ได้คุยอะไรกัน เพียงพักใหญ่ก่อนที่น้องซึ่งเอาคางเกยอยู่กับไหล่ของผมจะยกมือขึ้นมาเกลี่ยใบหูของผม
“นี่...นายเจาะหูหรือเปล่า?”
“เจาะ..ทำไมหรอ?” ผมถามน้องอย่างสงสัย แต่คนดีของผมเขาไม่ได้ตอบมา น้องขยับแขนไปทำอะไรสักอย่างก่อนที่เขาจะกลับมาจับหูผมอีกครั้ง
“นึกว่าถ้าไม่ได้เจาะก็จะบอกให้ไปเจาะซะ..เพราะว่า..”
ต่างหูที่ยังคงอุ่นเพราะสัมผัสของน้องถูกสอดเข้ามาในรูที่เจาะไว้บนติ่งหูซ้ายของผมพร้อมกับคำพูดของน้องที่เป็นเหมือนพันธะทางใจที่ผมไม่แน่ใจนักว่า เด็กดีของผมนั้นคำนวนไว้หรือเปล่า
น้องใส่ต่างหูให้ผมข้างหนึ่ง และทิ้งตัวลงมาซบบ่าผมอีกครั้ง สองแขนของเขากอดคอผมไว้แน่นและยอมให้ผมพรมจูบแก้มเขาอย่างรักใคร่
“นี่...ฉันคิดว่า...ฉันเริ่มจะชอบนายแล้วล่ะเร็น”
น้องเล่นผมแรงอีกแล้วครับ อุกอาจมากกว่าตอนโผเข้ามาจูบเมื่อสักครู่เสียอีก เล่นเอาผมหยุดชะงักเดินต่อไปไม่ไหวเลยทีเดียว
นอกจากจะบอกว่าชอบผมแล้ว น้องยังเรียกชื่อผมไม่ใช่นามสกุลอย่างที่ผ่านๆมาอีกด้วย แต่หลังจากนั้นน้องก็ทำแก้มพองใส่ผมที่หันกลับไปมองอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน คนดีเขาโวยวายตามประสาเด็กแมนๆอีกยกหนึ่ง
“แค่เริ่มชอบเท่านั้นนะ!! ห้ามหลงตัวเองคิดว่าฉันรักนายแล้วเด็ดขาด!!”
ผมหัวเราะอยากอดไม่ได้ ไม่ใช่เป็นเพราะขำ แต่เป็นเพราะความดีใจและดีใจมากที่สุดที่ได้ยินคำนี้จากน้อง ผมกระชับมือที่โอบเรียวขาของเขาไว้และก้าวเดินต่อ น้องเอาคางมาเกยกับบ่าของผมอีกหนแล้วเอานิ้วจิ้มแก้มผม
“ดีใจล่ะสิ..รู้นะ”
“พูดมากเดี๋ยวถูกจูบอีกรอบไม่รู้นะ”
พอผมแกล้งว่าไปอย่างนั้น สุดที่รักของผมเขาก็เงียบลง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ เงียบ..ก็คือหัวใจที่เต้นแรงของเขาจนผมได้ยิน
และคิดว่าน้องเองก็คงได้ยินเสียงหัวใจของผมด้วยเช่นกัน
ก็หัวใจของเราสองคน...มันเริ่มจะเต้นไปในจังหวะเดียวกันแล้วนี่ครับ..
-End of Make Love วุ่นรักป่วนใจ -
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ เรื่องนี้มีต่อภาคสองซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการจัดการเรื่องอยู่ ยังไงติดตามการอัพเดตได้ที่กระทู้นี้หรือ ทางเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ค่ะ
แล้วพบกันใหม่เรื่องหน้านะคะ
