(: Marine love you always :) { รัก...นิรันดร์ } บทส่งท้าย (จบแล้วจ้า)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (: Marine love you always :) { รัก...นิรันดร์ } บทส่งท้าย (จบแล้วจ้า)  (อ่าน 28122 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
รอมาม่าอยู่จ้า น้ำเริ่มเดือดแล้ว :z3:

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เราพึ่งกินมาม่ามา T_T


ใครส่งอะไรมาอะะะ

ปล.จิ้มเป็ดๆๆๆ :z13: :z13: :z13:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
รอมาม่าอยู่จ้า น้ำเริ่มเดือดแล้ว :z3:

รับรสอะไรดีขอรับ

เรามาต้มมาม่ากันดีกว่า :oo1:

เราพึ่งกินมาม่ามา T_T


ใครส่งอะไรมาอะะะ

ปล.จิ้มเป็ดๆๆๆ :z13: :z13: :z13:

ขอบคุณที่เข้ามากินมาม่าขอรับ

เดี๋ยวข้าเจ้าพาไปแอบดูว่าใครส่งอะไรมาขอรับ :3123:

แจกเป็ดคนละตัวขอรับ
 :3123: :3123:


ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
ตอนที่ 18





   ‘ พี่ขอโทษกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น พี่ไม่มีคำอธิบายใดๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น พี่คงรักเราไม่ได้อีกแล้ว พี่คิดว่าขอให้ทุกอย่างมันจบลงไปให้วันนี้ดีกว่าที่ให้มันยืดเยื้อกันต่อไป

Mahasamuth.... ’


   เซาธอ่านข้อความจนจบ ก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนสนิทที่ตอนนี้อยู่ในอาการคล้ายกับคนช็อก


   “ รินกลับห้องก่อนเหอะ เดี๋ยวฉันขับเอง ”


   เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงช้า แต่กับไม่มีเสียงร้องแต่อย่างไร เซาธจึงเปลี่ยนเรื่อง และพาเพื่อนกลับไปตั้งหลักที่ห้องก่อน


   ในมุมมืดอีกด้านเขาทรุดตัวนั่งลงช้าๆ เหมือนกับคนที่ไม่มีแรงจะลุกขึ้นทำไมเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นทำร้ายอีกคนแค่ไหน สิ่งที่เขาไม่อยากเห็นก็คือน้ำตาของคนที่ตนรัก ไม่อยากทำให้ร่างเล็กนั้นต้องเสียใจ


   แต่การกระทำในวันนี้ของเขานั้น เขาคิดทบทวนมาหลายวันแล้ว เขาคิดว่าให้เสียใจในวันนี้เสียจะดีกว่า ที่จะปล่อยเรื่องราวให้ยาวออกไป เมื่อนั้นความรัก ความผูกพันมันคงมากกว่านี้ อีกคนคงจะเสียใจกว่านี้


   เขาไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ รู้ทั้งรู้ว่าไม่สามารถจะไปด้วยกันต่อได้ แต่ก็ยังดื้อดึงสุดท้ายมันก็คงจะเจ็บกว่าวันนี้ เขายอมให้คนที่ได้ใจเขาไปโกรธเขา เกลียดเขา เกลียดเขามากเท่าไหร่ยิ่งดี  อีกฝ่ายจะไม่ต้องเสียใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า


   “ พี่ขอโทษน้องริน แต่พี่คิดว่าทางนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรา พี่ไม่อยากให้น้องรินต้องเสียใจเพราะพี่เลย แต่พี่ไม่มีทางเลือก พี่ขอโทษ อย่าร้องไห้ให้กับผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างพี่เลย พี่ไม่มีค่าพอให้ใครต้องร้องไห้ให้หรอก ”


   เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับบางสิ่งที่ไหลลงมาช้าๆ ไม่ต่างจากคนที่ร้องไปก่อนหน้านั้น  ทำไมกันนะ โชคชะตามักเล่นตลกกับคนที่รักกัน ทำไมไม่เข้าข้างหากไม่อยากช่วย แต่ทำไมต้องทำให้จากกัน ทำไมถึงให้เวลามาน้อยนัก หากไม่ต้องการให้รักกัน แต่ทำไมต้องให้พบกันด้วย.....


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


   “ เกิดอะไรขึ้นอ่ะเซาธ รินเป็นอะไรเหรอ ”


   อีสทถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเซาธประคองเพื่อนกลับมาห้อง พร้อมรอยน้ำตาที่ไหลลงมาเรื่อยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด


   “ เอาน่าอย่าเพิ่งถามได้มั้ย ช่วยกันก่อนเหอะ ”


   ว่าแล้ว 3 แฝดก็ประคองเพื่อนของตนมานอนที่เตียง ก่อนที่จะออกมาที่ระเบียงห้องเพื่อซักถามเรื่องราว


   เซาธเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พี่น้องฟัง แม้ว่านอธและอีสทไม่อยากเชื่อนัก แต่ก็ต้องจำนนต่อหลักฐาน เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ 3 พี่น้องก็เข้ามาให้ห้อง แต่พอจะเข้ามาถามก็พบว่าเพื่อนหลับไปแล้ว ทั้งที่ยังร้องไห้อยู่


   “ ปล่อยให้หลับไปเหอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เราก็ไปนอนกันก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที ”


   นอธว่า ก่อนที่จะเดินไปปิดไฟ แล้วเข้านอน ปล่อยให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของวันนี้ แล้วค่อยลุกขึ้นมาสู้ใหม่ในวันรุ่งขึ้น



@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@



   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน แต่เจ้าของเครื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยิบขึ้นมาดูหรือรับแม้แต่น้อย ยังคงปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น


   “ บอกว่าพี่ไม่อยู่นะ ”


   เขาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าชอเดินมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูเบอร์ว่าใครโทรมากันแน่ แล้วทำไมเขาถึงไม่รับสักที เพราะโดยปกติแล้วเขาไม่เคยปล่อยคนปลายสายรอนาน แต่ในครั้งนี้นั้นเขาปล่อยให้มันมาเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว โดยไม่คิดจะสนใจแม้แต่น้อย


   แม้ชอจะสงสัยในสิ่งที่เขาพูด แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เพียงแต่เดินมารับโทรศัพท์ และบอกปลายสายไปตามที่เขาขอ


   “ พี่เหนื่อย ขอพี่พักหน่อยนะ ”


   ยังไม่ทันที่ชอจะเอ่ยปากถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย เขาก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน ราวกับรู้อยู่แล้วว่าชอจะถามอะไร ก่อนที่เขาจะนั่งลงบนเตียง แล้วดึงผ้าม่านปิดอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ส่วนชอก็ได้แต่งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น


   “ ไอ้เวฟ นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่วะ ”


   ชอหันมาถามเพื่อนอีกคนในห้อง ที่ตอนนี้ก็ทำหน้างงไม่แพ้กัน


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


   “ มีใครรับมั้ย ”


   “ มี พี่ชอรับ แต่บอกว่าพี่โอไม่อยู่ ”


   “ ฉันว่าพี่โออยู่แต่ไม่ยอมรับมากกว่า ”


   “ ช่ายๆ เราจะโทรไปอีก ทนได้ก็ทนไป ”


   “ พอเถอะ เซาธ อีสท นอธ ถ้าเขาไม่อยากรับก็เรื่องของเขา เราจะไปวุ่นวายกับเขาทำไม ”


   เสียงเถียงของ 4 หนุ่มแห่งภาควิทยาศาสตร์ทางทะเล ดังขึ้นต่อเนื่อง น้ำเสียงนั้นแสดงอารมณ์ของคนพูดได้เป็นอย่างดี


   “ แต่ถ้าทุกคนอยากจะทำอะไรต่อก็ตามใจแล้วกัน ฉันเหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อน ”


   มาริบอก 3 สหายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะทรุดตัวนั่งบนเตียง แล้วดึงม่านปิดเหมือนไม่อยากจะรับรู้เรื่องราวภายนอกอีก แต่เมื่อม่านปิดสนิทน้ำตาที่คิดว่าจะไม่ร้องอีกแล้ว มันก็ไหลออกมาอีกไม่ยอมฟังคำสั่งแม้แต่น้อย


   “ สงสารไอ้รินว่ะ ฉันอยากให้มันร้องออกมาดังๆดีกว่า จะเก็บเอาไว้อย่างนี้ ”


   “ มันก็ใช่ เพราะฉันรู้สึกว่า ให้มันร้องออกมาดังๆ มันจะได้ปลดปล่อย ไม่ต้องเก็บกั้นเอาไว้คนเดียวแบบนี้ ”


   “ พวกเราก็อยากจะให้เป็นอย่างนั้น แต่เราก็คงทำดีที่สุดได้แค่นี้แหละ เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคน 2 คน เราเข้ามาวุ่นวายมากนักก็ไม่ดี ”


   “ ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่า พี่โอจะเป็นคนอย่างนี้ ไม่งั้นชั้นจะไม่เชียร์ให้ไอ้รินชอบพี่รหัสตัวเองหรอก ”


   “ แกจะพูดอย่างงั้นก็ไม่ถูกหรอก เซาธ ถ้าอย่างนั้นนะ พวกเราทุกคนก็ผิดที่เชียร์น่ะ ”


   “ เฮ้อ!!! ”


   เสียงสนทนาอย่างคนแบกโลกของ 3 พี่น้องจบลงด้วยการถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ด้วยไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาตรงหน้าอย่างไร คนหนึ่งก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่ร้อง แต่ก็รับรู้ได้ว่าเสียใจเกินกว่าจะบรรยายได้


   ส่วนอีกฝ่ายที่ก่อเรื่องเอาไว้ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นคิดอะไรอยู่กันแน่ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเกือบปี เขาเป็นคนดี ดีมากๆ ดีตลอดเวลาที่ผ่านมา ดูแลมารินอย่างดี ไม่เคยจะทำให้เสียใจเลยสักครั้ง แล้วครั้งนี้ล่ะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงทำให้สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ทำในเรื่องที่ใครๆก็คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ทุกอย่างกับฟ้องด้วยตัวมันเอง


   เขาส่งข้อความมาขอเลิกกับ เขาทำสิ่งที่หลายคนต้องแปลกใจ และการกระทำในครั้งนี้ก็ไม่มีการอธิบายถึงเหตุผลใดๆทั้งสิ้น แล้วสิ่งที่ผ่านๆมาล่ะ มันคืออะไร เขาดูแลเด็กหนุ่มตนเองอย่างดีมาตลอด ดีเสียจนมารินไม่คิดว่าผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้


   เรื่องราวที่เขาทำให้มารินปลาบปลื้มไหลเข้ามาในห้วงความคิด ทั้งๆที่พยายามบังคับตัวเองไม่ให้คิด แต่ก็อดไม่ได้


   ครั้งแรกที่ออกค่าย Conservation เขาก็ทำให้มารินรู้สึกดีด้วยไม่น้อย เมื่อเขาพาตนเองออกจากป่าโกงกาง ที่ต้องเดินไปบนรากบ้าง เดินบนพื้นโคลนด้านล่างบ้าง เป็นระยะเกือบกว่ากิโลเมตร เพราะตนเดินไม่ไหว เนื่องจากโดนเปลือกหอยบาดเท้าตั้งแต่ยังก้าวเท้าเดินไปได้ไม่ถึงครึ่งทางเข้าเลยด้วยซ้ำ


   หลังจากนั้นระยะทางที่เหลืออยู่มารินก็เกาะคอเขาแน่น ยิ่งกว่าลูกลิง เพราะไม่อยากเป็นภาระให้เขาต้องมาห่วงว่าตนจะตกลงไป แถมตอนกลางคืนเขาก็นั่งเฝ้าเช็ดตัวให้ทั้งคืน  เพราะเท้าของตนอักเสบทำให้ไข้ขึ้น จนตัวเองไม่ได้พักผ่อนแม้แต่น้อย


   และอีกหลายๆครั้งที่เขาห่วงไย จนลืมนึกถึงตัวเอง และไม่ว่ามารินจะทำอะไร แค่ไหนเขาไม่เคยจะทำให้เสียใจแม้แต่ครั้งเดียว


   แล้วในครั้งนี้ล่ะมันคืออะไร ทั้งหมดที่ผ่านมามันคืออะไร ทำไมไม่คิดจะบอกอะไรให้เข้าใจบ้างเลย ทำไมต้องทำให้ตนเองเกลียดเขาด้วย มารินไม่อยากเกลียดเขา เพราะตลอดเวลาที่รู้จักกันนั้น เขามีเหตุผลเสมอ มีแต่ตนเท่านั้นที่เอาแต่ใจ ทำไมเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นด้วย มารินคิดในใจเศร้าๆ ก่อนจะหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


   เช้าวันใหม่ที่น่าจะเป็นวันที่สดใสของใครหลายๆคน แต่นั่นไม่ได้หมายความถึงอีกหลายๆคน ภาพของหญิงสาวที่ไม่มีใครรู้จักเดินเคียงคู่มากับชายหนุ่มที่ทั้งมหาวิทยาลัยรู้จักดี แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้เดินคู่กันเหมือนชายหญิงคู่อื่น แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ใครหลายคนมองตามได้ไม่ยาก


   “ เดี๋ยวคุณรอขึ้นรถตรงนี้นะครับ ผมต้องไปเรียนก่อน ”


   “ แหม..... Ocean คะจะไม่รอส่งเราหน่อยเหรอ ”


   “ ผมต้องขอโทษนะครับ ผมต้องไปเรียนก่อน อีกอย่างพี่ชายคุณก็รออยู่ด้วยไม่ใช่หรือ ”


   คำพูดอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจคนตรงหน้ามากนัก ออกจะตัดความสัมพันธ์อยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ทำคนฟังไม่พอใจแต่อย่างไร เพราะคนที่พูดนั้นมีศักดิ์ฐานะมากกว่า และการที่เขายอมพูดอยู่ด้วยขณะนี้ ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่งแล้ว


   “ ก็ได้ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ ”


   แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่สนใจหญิงสาวตรงหน้านัก แต่ภาพที่ทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกัน ก็ทำให้คนที่บังเอิญผ่านมาเห็นอดหวั่นไหวไม่ได้


   “ โว๊ย!!! เห็นแล้วมันอดใจไม่ไหว ขอมีเรื่องกับรุ่นพี่ซักทีเหอะ ”


   เซาธโวยขึ้น เมื่อเห็นภาพที่ไม่อยากเห็น เป็นเดือด เป็นร้อนแทนคนนิ่งเป็นทองไม่รู้ร้อน


   “ นี่ๆ น้อยๆหน่อยเซาธ แกจะแหกปากหาสวรรค์วิมานอะไรห๊ะ ไอ้รินมันยังไม่พูดอะไรซักคำเลย ”


   อีสทหันมาโวยใส่ฝาแฝด เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวปากมาก โวยวายจนเกินเหตุ


   “ ก็มันน่านี่นา ไม่เห็นแก่หน้าเพื่อนเราบ้างเลย ดูดิ บอกเลิกไอ้รินยังไม่ทันไร ก็มีผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาหาถึงที่ ”


   “ พอเถอะเซาธ เขาจะทำอะไรมันก็สิทธิ์ของเขานี่นา ปล่อยเขาไปเถอะ เรากลับห้องกันดีกว่า ”


   มารินว่าอย่างไม่สนใจ ทั้งที่ในใจมันตรงข้ามโดยสิ้นเชิง ใบหน้าที่เฉยเมย แต่ในใจนั้นกำลังร่ำไห้ กับสิ่งที่ได้เห็น


   “ เอ๊ย!!! รินได้ไงวะ แกจะไม่ทำไรเลยเนี่ยะนะ ”


   เซาธโวยวายไม่เลิก เมื่อเพื่อนตัวเองไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง


   “ พี่เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่น่า เซาธ ”


   มารินเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่นั่นก็พอที่จะทำให้อีก 3 คนตาโตได้ไม่ยาก ก่อนที่ทั้ง 3 เสียงจะประสานขึ้นมาพร้อมกัน


   “ ไม่ผิด ฉันว่าแกเสียใจจนเพี้ยนแล้วล่ะไอ้ริน..... ”


   แต่ก่อนที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ มารินก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน


   “ ฉันเป็นคนบอกกับพี่เขาเองว่า ถ้าพี่เขาเจอใครที่ดีกว่า ก็ขอให้บอกฉันจะไม่ว่าอะไรเลย ”


   มารินบอกเรื่องที่ไม่เคยบอกใครเป็นครั้งแรก


   “ ไอ้บ้า แกต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่บอกเขาไปอย่างนั้น ”


   นานทีเดียวกว่าที่อีสทจะได้สติแล้วตะโกนออกมาเป็นคนแรก โดยมีสีหน้าไม่พอใจของอีก 2 คน ที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่มารินก็ไม่ได้อยู่รอฟังคำบ่นของใครอีก เพราะเจ้าตัวหันหลังกลับเดินเข้าหอพักไปอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากเห็นภาพนั้นนานนัก ส่วน 3 แฝดก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ก็ในเมื่อเพื่อนตนเองเป็นคนพูดเปิดทางเอาไว้เองจะโทษใครได้อีก


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


   แสงแดดยามเย็นทอแสงอ่อนๆ พื้นน้ำพลิ้วไหวเป็นระลอก แสงสีทองระยับ ประดับท้องทะเลยามเย็น บรรยากาศริมทะเลยามเย็น สวยงามไม่น้อย ลูกไฟดวงโตทักทายพื้นน้ำที่สุดขอบฟ้า แต่ในใจของคนที่ยืนอยู่หาได้ชื่นชมกับภาพตรงหน้าแม้แต่น้อย


   ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลไหม้ และนัยน์ตาสีเดียวกันเหม่อมองภาพด้านหน้า แต่สายตานั้นไม่ได้หยุดอยู่ที่ภาพเบื้องหน้า หากแต่เหม่อออกไปไกลกว่านั้น


   “ ทะเลไม่เคยเหงา เพราะอย่างน้อยก็มีเกลียวคลื่นอยู่เป็นเพื่อน มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ยังคงโอบทะเลไว้ในอ้อมกอดเสมอ ”


   เสียงเอ่ยอันแผ่วเบา คล้ายจะฝากถ้อยคำนี้ผ่านสายลม  ท้องฟ้าและสายน้ำ ไปถึงใครบางคน


   “ ทะเลยามเย็นสวยเหมือนเดิมนะครับ ”


   เสียงเอ่ยของใครบางคนดังขึ้นด้านหลัง ทำให้คนที่ยืนอยู่ก่อนหันมองหาต้นเสียง


   “ น้องริน!!! ”


   เขาตกใจไม่น้อยที่เห็นคนที่อยู่ในใจตนมาตลอดเดินเข้ามาเงียบๆ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อตั้งสติได้แล้วเขาจึงกลับมาเป็นปกติ


   “ มีอะไรหรือเปล่าครับ ถ้าไม่มีอะไรพ่ะ....ผมขอตัวก่อน ”


   ทั้งที่ก่อนจะเดินเข้ามา มารินก็บอกกับตัวเองเอาไว้แล้วว่าจะไม่อ่อนแอให้เขาเห็น แต่เมื่อได้ฟังคำพูดที่เหินห่าง แสนจะเย็นชานั้น มันก็ทำให้ทนต่อไปไม่ได้จริงๆ


   น้ำตาที่ไม่ต้องการให้ใครเห็น โดยเฉพาะกับคนตรงหน้า

   “ น้องริน พ่ะพี่..... ”


   เขาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นคนที่ตนเองรัก และอย่างจะดูแลไม่อยากจะให้เสียใจร้องไห้ พลางเอื้อมมือจะเช็ดน้ำตาให้เหมือนกับทุกๆครั้ง แต่.....


   มารินทำให้สิ่งที่ตัวเองไม่เคยคาดคิดว่าจะทำและทำได้ ก่อนจะหันหน้าหนี แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำในสิ่งที่ต้องการ เขาก็ดึงมือตนไว้เสียก่อน


   “ พี่ขอโทษ พี่ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย ”


   เขาเอ่ยออกมาราวเสียงกระซิบ ก่อนจะดึงคนตัวเล็กกว่ามากอดเป็นครั้งแรกตั้งแต่คบกันมา เขาไม่เคยที่ล่วงเกินอีกคนเลยแม้แต่น้อย จับมือสักครั้งก็ยังไม่เคย เขาให้เกียรติคนที่เขารักเสมอ แต่ในครั้งนี้ทำให้อีกฝ่ายประหลาดใจไม่น้อย


   “ ปล่อย!!!  รินจะกลับห้อง ”


   มารินเอ่ยขึ้นอย่างตัดรอน แม้ในใจก็อยากจะขอโทษเขา ที่เมื่อครู่ตนฝากรอยมือเล็กๆไว้บนหน้าของเขา ที่ตอนนี้ขึ้นรอยจางๆ แต่ในอีกใจอยากจะอยู่อย่างนี้นานๆ แม้จะพยายามบอกตัวเองแล้วว่าเรื่องระหว่างตนเองและเขามันจบลงแล้ว อยากจะวิ่งหนี แต่ร่างกายมันไม่ยอมรับคำสั่งใดๆทั้งสิ้น




@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@



มาม่ารสหมูสับ :z2:

ไม่เผ็ดมาก ต้มสุกแล้ว กำลังอืดได้ที่ :laugh:

เสิร์ฟมาม่าขอรับ

ตอนนี้เหลือเนื้อเรื่องอีกประมาณ 2 ตอนก็จะจบแล้วขอรับ :กอด1:

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชิมมาม่าขอรับ :L2: :3123: :pig4:




ออฟไลน์ jusmine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :monkeysad: :monkeysad: สงสารน้องริน

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
:monkeysad: :monkeysad: สงสารน้องริน

ขอบคุณขอรับ (น้องรินมีคนเห็นใจแล้ว  :กอด1: )

แจกเป็ดเช่นเคยขอรับ  :3123:

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
อยากเอาหน้าจุ่มถ้วยมาม่า  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:


รินมาหาเค้ามา เดี๋ยวปลอบใจเองนะจ้ะ !!  :oo1:

 :3123: มอบเป็ดเช่นเคยยย :call:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
อยากเอาหน้าจุ่มถ้วยมาม่า  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:


รินมาหาเค้ามา เดี๋ยวปลอบใจเองนะจ้ะ !!  :oo1:

 :3123: มอบเป็ดเช่นเคยยย :call:

ขอบคุณขอรับ :pig4:

น้องรินมีคนปลอบเพิ่มขึ้นแลว :z2:

+เป็ดเช่นเคยขอรับ

 :pig4:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0

ตอนที่ 19


   เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ แต่มันก็เหมือนนานแสนนานในความรู้สึกของทั้งคู่ ไม่มีใครเอ่ยอะไร มีเพียงเสียงคลื่นและเสียงลมเท่านั้นที่ส่งเสียงอยู่เป็นระยะ


   “ พี่ขอโทษกับทุกอย่าง แต่พี่ไม่เคยต้องการให้มันเป็นอย่างนี้ ”


   เขาเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นก่อน พร้อมกับปล่อยตัวคนที่กอดมานาน แต่ยังคงจับมือไว้เช่นเดิม


   “ พี่จะขอโทษทำไม ขอโทษไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว ในเมื่อทุกอย่างพี่เป็นคนทำลายมันเอง ”


   มารินเอ่ยขึ้นในที่สุด หลังจากที่เงียบอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมาด้วยเสียงที่พยายามดัดให้เรียบที่สุด


   “ รินไม่โกรธพี่หรอก เพราะรินมันงี่เง่า รินมันบ้า มันโง่ อย่างที่ 3 แฝดบอกเอาไว้จริงๆ บ้าที่พูดอะไรไม่เคยคิด บ้าที่ปล่อยใจให้รัก บ้าที่รักทั้งๆที่เพิ่งรู้จัก บ้าที่หวั่นไหวไปเอง ”

   จากคำพูดแผ่วเบา เปลี่ยนเป็นดังขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ของคนพูดน้ำตาที่เอ่อคลออยู่ สุดท้ายก็ต้องไหลอาบ 2 แก้มอีกครั้ง


   “ พี่มาหลอกให้รินรักทำไม ทำไม!!! ตอบมาสิ ตอบมา ”

   มารินตะโกนใส่หน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว เพราะตอนนี้อารมณ์มันร้อนเกินจะหยุดได้


   “ พี่ไม่เคยคิดจะหลอกเราเลย ไม่เคยจริงๆ..... ”


   เขาเอ่ยขึ้น หลังจากปล่อยให้คนที่กำลังร้อนระบายความรู้สึกออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดต่อจนจบ ก็มีเสียงของอีกคนแทรกขึ้นมาเสียก่อน


   “ ไม่เคย ไม่คิด แล้วไอ้ที่พี่กำลังทำอยู่เนี่ยะมันเรียกว่าอะไร ความจริงใจงั้นสิ ”


   มารินพูดด้วยน้ำเสียงประชด ประชัน พร้อมกับน้ำตาเจ้ากรรมที่ไหลออกมาประจานความอ่อนแอของตัวเอง


   “ เราจะโกรธพี่ก็ได้ เกลียดเลยยิ่งดี เพราะอย่างน้อยพี่ก็ยังดีใจว่า เราก็ยังไม่ลืมเรื่องราวทั้งหมด ”


   คำพูดของเขานี้ ทำให้คนฟังงงไม่น้อยว่าทำไมเขาจึงพูดเช่นนี้


   “ พี่ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้ ถ้าพี่รู้ว่าทุกอย่างจะต้องลงเอยแบบนี้ พี่จะไม่ทำให้มันเกิดเลย แต่พี่ไม่รู้ พี่ไม่รู้ว่าทุกอย่างที่พี่เคยรู้ ทุกอย่างที่พี่เคยเป็น ในวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว พี่ไม่ได้เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว พี่กลับไปเป็นอย่างเดิมไม่ได้อีกแล้ว ”


   นับเป็นครั้งแรก ที่เขาเปิดปากบอกถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มารินเข้าใจมากนัก มันยิ่งทำให้เด็กหนุ่มงงเข้าไปอีก

   “ พี่หมายความยังไง รินไม่เข้าใจ ทุกอย่างที่พี่เคยรู้ ทุกอย่างที่พี่เคยเป็น พี่ไม่ได้เป็นเหมือนเดิม กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ มันคืออะไรกันแน่ครับ รินไม่เข้าใจ ”


   มารินถามเขาด้วยอารมณ์ที่เย็นลงมามาก เพราะเท่าที่เห็น เท่าที่ดู เขาก็เสียใจกับการกระทำของตนเองไม่น้อยกว่าตนเลย แต่ที่ตนเองโกรธเขานั้น เป็นเพราะเขาไม่เคยให้เหตุผล ไม่เคยอธิบายอะไรเลย คอยแต่หลบหน้ากันตลอด ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันนั้นที่เขายอมเปิดปากพูด


   “ พี่มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ มีเรื่องอะไรพอจะเล่าให้รินฟังได้มั้ยครับ เผื่อมันจะช่วยทำให้พี่สบายใจขึ้น ”


   มารินถามเขาด้วยน้ำเสียงปกติ เหมือนที่เคยเป็นตั้งแต่คบกันมา แม้มันจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานนัก แต่ตนเองก็พอจะรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร เขามักจะเก็บทุกอย่างเอาไว้คนเดียวเสมอ ซ่อนความไม่สบายใจเอาไว้ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่เคยที่จะบอกให้ใครรู้


   “ ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่น้องรินหายโกรธพี่ พี่ก็ดีใจแล้ว อย่าทำดีกับพี่อีกเลย เพราะยิ่งเราทำดีกับพี่เท่าไหร่ พี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองผิดมากขึ้นแค่นั้น พี่ไม่อยากให้เราต้องมาเสียเวลากับคนไม่ดี คนเห็นแก่ตัวอย่างพี่อีก ”


   “ ทำไมพี่พูดอย่างนั้นครับ อย่างน้อย ถึงเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ แต่เราก็ยังเป็นพี่รหัส น้องรหัสกันอยู่นี่ครับ ”


   มารินว่าพลางนั่งลงที่พื้นทราย ก่อนจะดึงมือเขาให้นั่งลงมาด้วย ตั้งแต่รู้จักกับพี่รหัสคนนี้มาก็เกือบจะปีแล้ว ทำไมตนเองจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร


   เขาเป็นคนมีเหตุผลมารองรับทุกการกระทำ และในครั้งนี้ก็เช่นกัน มารินเชื่อในใจว่า เขาต้องมีเหตุผลบางอย่างที่เก็บไว้คนเดียว ไม่ยอมบอกใคร แม้ว่าตนไม่ใช่คนอารมณ์เย็นนัก โดยเฉพาะเวลาอยู่กับเขา ตนเองจะเป็นคนที่งี่เง่าสุดๆเลยก็ว่าได้


   แต่ก็ใช่ว่าเด็กหนุ่มจะไม่มีเหตุผล แต่เหตุผลมักมาหลังอารมณ์เสมอ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่กัน 2 คน ดังนั้นเมื่อครู่มารินจึงหลุดไปชั่วขณะ แต่ตอนนี้เจ้าตัวสามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว และจะไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลอีกเป็นครั้งที่ 2


   “ พี่ขอโทษกับทุกอย่าง ขอโทษที่พี่เข้ามาในชีวิตของเรา ความจริงแล้วพี่ไม่น่าจะเข้ามาเลย พี่..... ”


   เขาก็ไม่รู้จะบอกอะไรได้ ทุกอย่างที่อยากพูด มันจุกอยู่ที่คอ ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากตรงไหน ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร


   “ เรื่องที่พี่ทำมาทั้งหมด พี่ยอมรับว่าพี่ตั้งใจ เต็มใจ แต่พี่ไม่อยากให้เราต้องมาเสียเวลากับพี่อีกอย่างที่พี่เคยบอกนะว่า เรื่องของเรามันไม่มีทางที่จะจบอย่างสมหวังแน่นอน พี่จึงอยากให้เรื่องราวทั้งหมด มันยุติลงแต่เพียงแค่นี้ ก่อนที่อะไรๆมันจะถลำลึกไปกว่านี้ ”


   “ ทำไมล่ะครับ เรายังไม่รู้เลยว่ามันจะจบอย่างไร ทำไมพี่ถึงบอกว่ามันจะไม่สมหวังล่ะ ถึงมันจะไม่สมหวัง แต่อย่างน้อยรินก็ขอทำให้สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้เป็นความทรงจำที่ดีจะดีกว่า ”

   มารินแทรกขึ้น แม้จะไม่รู้ถึงเหตุผลของเขาก็ตาม แต่ตนเองคิดว่าตนเลือกที่จะสร้างความทรงจำดีๆ เอาดีกว่า

   “ ถ้าพี่ไม่บอกเราตอนนี้ แล้วไปบอกตอนสุดท้าย ตอนจบ มันก็เหมือนกับว่า พี่เอาเปรียบ เห็นแก่ตัวเกินไปน่ะสิ ”


   เขาอธิบาย แต่นั่นก็ทำให้มารินงงเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เพราะทุกคำพูดของเขานั้น เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป


   “ พี่พูดเหมือนว่า รู้อยู่แล้วว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร หรือที่ผ่านมาพี่ไม่เคยคิดจริงจังกับรินเลย พี่หลอกรินมาตลอดเหรอ ”


   คำพูดของมารินทำให้เขาต้องรีบอธิบายอย่างเร่งด่วน เพราะกลัวอีกคนจะเข้าใจผิดไปกว่าเดิม


   “ พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พี่ไม่เคยหลอกเรานะ แต่พี่รู้ว่าต่อจากนี้ เรื่องของเรากับพี่ มันจะไม่มีทางสมหวัง ทั้งๆที่พี่อยากให้มันจบอย่างสวยงามแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็คงเป็นได้แค่ฝัน ”


   “ ทำไมครับ รินก็ไม่เข้าใจอยู่ดี พี่พูดเหมือนพี่รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อ ถ้าอย่างนั้น พี่จะมาทำให้รินรู้สึกดีด้วยทำไม ”


   มารินต่อว่า เพราะหากเขารู้ตอนจบอยู่แล้ว ทำไมต้องมาสร้างความทรงจำให้ตนรู้สึกดีด้วย


   “ พี่ยอมรับนะว่า ตอนนี้พี่รู้ว่าตอนจบเรื่องของเรามันจะต้องเป็นอย่างไร แต่..... ฟังพี่ก่อนนะ ”


   เขายอมรับโดยดี เมื่อมารินได้ฟังเช่นนั้น ก็กำลังอ้าปากจะต่อว่า แต่เขาก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน ทำให้เด็กหนุ่มต้องนิ่งฟังอีกครั้ง


   “ พี่ยอมรับว่า ตอนนี้พี่รู้ว่าเรื่องราวของเราจะเป็นอย่างไร แต่ในตอนนั้น พี่ไม่รู้เลย พี่หวังให้ทุกอย่าง เป็นไปตามที่เคยวาดหวังไว้ เช่นเดียวกับผู้ชายธรรมดาคนอื่นๆ แต่ในตอนนี้ พี่..... ”


   เขาพยายามอธิบายให้อีกคนเข้าใจให้มากที่สุด ก่อนจะหยุดไป เพราะไม่รู้จะอธิบายต่ออย่างไรดี


   “ ทำไมครับ ตอนนี้พี่เป็นอะไรเหรอ หรือว่าไม่ปกติ ”


   เมื่อเห็นเขาเงียบไปนาน มารินจึงเป็นฝ่ายถามต่อเสียเอง


   “ พี่..... พี่..... ”


   แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ยังไม่สามารถหาคำอธิบายให้เด็กหนุ่มฟังได้


   “ ครับ รินรู้แล้วว่าพี่เป็นพี่ ไม่ต้องบอกมากก็ได้ แต่เรื่องที่รินอยากรู้น่ะคือเหตุผลของพี่ต่างหาก ”


   มารินเอ่ยถามอย่างใจเย็น เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้คงทำให้เขาหนักใจไม่น้อย โดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่มั่นใจก่อนจะพูดเขาจะเรียงลำดับมาอย่างดีแล้ว แต่ในครั้งนี้เขาเหมือนกับคนที่ยังไม่ได้จัดระเบียบความคิด


   “ ถ้าเกิดน้องรินต้องเลือกระหว่างความรักกับหน้าที่ น้องรินจะเลือกอะไรครับ ”


   เขาพยายามเรียบเรียงประโยค เพื่อนำเข้าสู่คำอธิบายให้ได้มากที่สุด ซึ่งมันก็ทำให้มารินนิ่งคิดไปเช่นกัน เพราะไม่ค่อยเข้าใจว่ามันเกี่ยวกันอย่างไร


   “ คำถามของพี่ยากจัง ขอเปลี่ยนคำถามได้มั้ยครับ ”


   มารินตอบเขาทีเล่น ทีจริง เพราะไม่สามารถตอบได้เช่นกันว่า ถ้าหากต้องเลือกขึ้นมาจริง จะเลือกอะไร แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะเอ่ยอีกประโยคขึ้นมา


   “ แล้วถ้าเราต้องเลือกระหว่าง เรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวมล่ะ เราจะเลือกอะไร ”


   แม้เขาจะยอมเปลี่ยนคำถามใหม่อย่างที่อีกฝ่ายขอ แต่คำถามใหม่นี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ง่ายแก่การตอบไปกว่ากันเลย

   “ คำถามวันนี้ดูซีเรียสจัง ตอบไม่ถูกครับ เพราะรินก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วอีกอย่างนะ รินก็ไม่ได้มีหน้าที่ ที่ยิ่งใหญ่ขนาดต้องเลือกด้วยสิ แต่ถ้าเป็นเรื่องความรักล่ะก็ พ่อกับแม่คงไม่ให้รินเลือกหรอกว่า ระหว่างแฟนกับพ่อ แม่ รินจะเลือกอะไร เพราะท่านบอกว่า ถ้ารินรักใครท่านก็รักด้วย ขอให้เป็นคนดีก็พอ ทำไมหรือครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่พี่จะพูดเหรอ ”


   มารินตอบก่อนจะถามเขากลับเช่นกัน ส่วนเขาเมื่อได้ฟังคำตอบของคนข้างกาย ก็ระบายลมหายใจออกช้าๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง


   “ พี่อยากคิดอย่างเราบ้างจัง แต่เสียดายว่ามันคงเป็นไปได้อีกแล้ว พี่คงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว ”


   เขาตอบอย่างแผ่วเบายิ่งกว่าเสียงกระซิบ แต่มันก็ดังพอที่คนข้างจะได้ยิน และรับรู้ความรู้สึกของคนพูดได้เป็นอย่างดี


   “ ทำไมครับ พี่พูดแปลกๆ พูดเหมือนกับว่า คุณแม่ไม่ปลื้มเลย ”


   มารินพูดอย่างติดตลก เหมือนเวลาที่ใครๆชอบพูดกัน


   “ ก็ไม่เชิงหรอกครับ เมื่อก่อนที่บ้านพี่น่ะ ไม่ค่อยสนใจพี่เท่าไหร่หรอกว่าพี่จะอยู่ที่ไหน จะทำอะไร สบายดีหรือเปล่า เพราะพี่เป็นลูกคนเล็กไม่สำคัญเท่ากับพี่คนโต ทุกคนจะเป็นห่วงพี่ชายของพี่มากกว่า แต่พี่ก็ไม่เคยน้อยใจนะ เพราะพี่ชายของพี่น่ะ ต้องแบกรับภาระมากกว่ามากพี่นัก แต่ในวันนี้ มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ภาระหน้าที่ ที่พี่ชายของพี่เคยรับผิดชอบ มันกลับมาเป็นของพี่ ทุกสิ่ง ทุกอย่าง แม้มันจะทำให้พี่มีอำนาจมากขึ้นในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับพี่แล้ว พี่ไม่เคยต้องการมันเลยแม้แต่น้อย ”


   เขาอธิบายยาวเหยียด พูดทุกอย่างที่อยู่ในใจ พูดทุกอย่างแบบที่ไม่เคยพูดให้ใครฟังมาก่อน ก่อนจะก้มหน้า หลบสายตา ปกปิดความรู้สึกทั้งหมดที่ถาโถมเข้ามา

   มารินไม่เคยเห็นเขาเป็นเช่นนี้แม้แต่ครั้งเดียว เขาที่ตนเคยเห็นและรู้จักนั้น เข้มแข็ง ไม่เคยแสดงความรู้สึกในส่วนลึกให้ใครรับรู้ หรือต้องกังวลไปกับตัวเองแม้แต่ตัวของมารินเอง


   แต่มาในครั้งนี้ เขาเล่าทุกอย่าง อย่างที่ไม่เคยรับรู้ ทุกอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้ม ใครจะรู้ว่าในรอยยิ้มนั้นมีความทุกข์อยู่แคไหน


   “ พี่โอครับ ”


   มารินเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเขาก้มหน้านิ่งๆมานาน ตนเองอยากจะปลอบเขาแต่คำพูดที่อยากจะพูด มันกลับจุกอยู่ที่คอ ทำได้แค่วางมือบนบ่าเขาเบาๆ


   “ พี่ขอบคุณนะ ที่อย่างน้อยทะเลก็ไม่เคยทิ้งให้มหาสมุทรต้องอยู่คนเดียว เราจะโกรธพี่ก็ได้นะ เพราะพี่ไม่สามารถอธิบายอะไรได้ไปมากไปกว่านี้ พี่รู้แค่ว่า สุดท้ายแล้ว เราคงรักกันเหมือนคู่อื่นไม่ได้ เพราะทันทีหลังจากที่พี่จบ พี่คงไม่สามารถเลือกอะไรได้ด้วยความรู้สึกของตัวเองอีกแล้ว อีกไม่นานต่อจากนี้ พี่ก็คงต้องกลับไปทำหน้าที่ ที่พี่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับ หลังจากนั้นแล้ว พี่อาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกก็เป็นได้ เมื่อถึงตอนนั้นแล้วพี่ไม่อยากให้เราต้องเสียใจเพราะพี่อีก..... ”


   เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงรอยเศร้าๆไว้ในน้ำเสียง แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ มารินก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน


   “ พี่ก็เลยทำให้ทุกอย่างเป็นอย่างนี้ใช่ไหมครับ ทำไมพี่ไม่อธิบายให้รินฟังแต่แรก รินไม่ใช่คนไร้เหตุผลขนาดนั้นนะ พี่ทำอย่างนี้เหมือนพี่ดูถูกความรู้สึกของริน ทำให้คนอื่นพลอยเกลียดพี่ไปด้วย ทำไมล่ะครับ ”


   มารินถามพลางกระตุกมือเขา เมื่อเขาไม่ยอมตอบเสียที


   “ พี่..... ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้นพี่คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะทำยังไงดีทุกอย่างมันเข้ามาเร็วมาก เร็วจนพี่ไม่ทันได้คิดอะไรเลย ”


   เขาตอบออกมาในที่สุด


   “ พี่ก็เลยทำร้ายตัวเอง ”


   “ พี่ก็แค่อยากให้ทุกคนลืมพี่ หรือไม่ก็เปลี่ยนมุมมองที่มี ”


   “ พี่พูดเหมือนง่ายๆ แต่มันไม่ง่ายเลยนะ รินไม่เห็นว่ามันจำเป็นเลย พี่ก็เป็นพี่อย่างเดิม ไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย ”


   “ แค่นี้พี่ก็เหมือนคนเห็นแก่ตัวมากพอแล้ว พี่ไม่อยากให้เราต้องมาเสียเวลากับพี่อีก ”


   “ แต่รินไม่คิดอย่างนั้นหรอก ตลอดเวลาที่รู้จักกับมหาสมุทร มหาสมุทรสอนให้ทะเลเข้มแข็ง และเชื่อมั่นในสิ่งที่รัก มาถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ต่อให้ทางด้านหน้าจะเป็นเส้นขนานที่ไม่มีทางบรรจบ แม้ว่าจะถึงตอนนั้นเส้นขนานเส้นนี้ก็ยังอยู่ด้วยกัน แล้วทำไมล่ะครับ ทำไมมหาสมุทรถึงพยายามผลักไสให้ทะเลไป ทั้งที่รู้ว่า ไม่มีทางที่ทะเลและมหาสมุทรจะแยกจากกัน ”


   มารินพูดกับเขา ก่อนที่ตนจะเป็นฝ่ายเอนตัวไปซบไหล่ของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ


   “ ทะเลเต็มใจจะเดินต่อ ทั้งที่รู้ว่าทางด้านหน้าไม่มีวันบรรจบกันน่ะหรือ ”


   “ ถึงทางด้านหน้าไม่มีทางบรรจบกัน แต่อย่างน้อยมหาสมุทรก็จะอยู่ในความทรงจำของทะเลเสมอ ไม่ว่าจะนานเท่าใด ”


   มารินเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ เพราะตัดสินใจแล้วว่า หากความรักของตนในครั้งนี้ มันจะจบด้วยการจากลา แต่ตนก็จะขอเก็บช่วงเวลาดีๆเหล่านี้ไว้ อย่างน้อยมันก็เป็นช่วงที่มีความสุข และคอยเป็นเพื่อนในวันที่เขาต้องเดินไปในเส้นทางของเขา


   “ รัก แต่ต้องห้ามใจไม่ให้รัก มันเจ็บ เจ็บมากรู้มั้ย ”


   เขาเอ่ยขึ้นอย่างเจ็บซ้ำ เจ็บที่ตนเองไม่สามารถจะเลือกทางเดินให้กับตนเองได้อีกแล้ว เจ็บที่ไม่สามารถรักษาดวงใจของตนเองไว้ได้ เจ็บที่ต้องเป็นฝ่ายทำลายความรักที่พยายามค้นหามานาน แต่ต้องจบลงด้วยมือของตนเอง


   “ รินรู้ แต่เรายังมีเวลาอยู่ไม่ใช่เหรอครับ รินไม่รู้หรอกว่าหลังจากที่พี่จบไปแล้ว พี่ต้องกลายเป็นอะไรที่พี่ไม่อยากเป็นนั่น แต่ตอนนี้พี่คือนายมหาสมุทร พี่รหัสของรินคนที่ทำให้รินรู้จักคำว่ารัก และสอนให้รู้จักความรักที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทน ขอให้ได้รักก็พอ ไม่ว่าจะอย่างไรพี่จะอยู่ในใจของรินตราบเท่าที่ทะเลยังอยู่คู่กับมหาสมุทร ”


   คำพูดของเด็กหนุ่มนั้นมันตอกย้ำเข้าไปในโสตประสาท ย้ำลึกให้จำไม่ลืม เขาคิดไม่ผิดเลยที่รักคนๆนี้เพราะอย่างน้อย เขาก็มีคนที่รักเขาอย่างจริงใจไม่เหมือนคนอื่นๆ รักเขาไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร


   “ Marine love you always ”


   เขากระซิบข้างหูร่างเล็กเบาๆ ก่อนจะปล่อยให้ความมืด สายลม หมู่เมฆ ท้องทะเลโอบกอดความรู้สึกเหล่านี้เอาไว้


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@




สวัสดีขอรับ (มันเพิ่งจะคิดได้ :z3: )

ตอนนี้ก็ตอนที่ 19 แล้ว

ข้าเจ้าตั้งใจไว้ว่าเรื่องนี้จะมีแค่ 20 ตอน

ซึ่งก็หมายความว่า ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้าย(?)แล้ว :กอด1:

และแล้วมาม่าชามเล็กก็ผ่านพ้นไป :เฮ้อ:

ไม่รู้ว่าทุกท่านอิ่มกันหรือเปล่า

ขอบคุณทุกกำลังใจขอรับ :กอด1: :3123: :L1: :pig4: :call:




ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
พี่โอเป็นใครกันแน่ :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
พี่โอเป็นใครกันแน่ :angry2:

พี่โอเป็น.......

เป็นความลับขอรับ :z6: (หลบไม่ทัน)

ขอบคุณที่ติดตามขอรับ :pig4: :L2:

บวกเป็ดเช่นเคยขอรับ :กอด1:


ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0

ตอนที่ 20 ( สุดท้าย )



   1อยากให้วันเวลากลับไปเป็นวันเดิม วันที่ฉันได้เริ่มเรียนรู้รักเรา.....


   เขาว่ากันว่า คนที่อกหักมักจะฟังเพลงรักอกหักเพราะขึ้น เห็นจะเป็นจริงอย่างที่เขาว่ากัน แม้ตอนนี้มารินจะไม่ใช่คนอกหัก แต่อีกไม่นานต่อจากนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่ กำลังจะกลายเป็นความทรงจำระหว่างคนสองคน


   ความรักที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาแค่เพียงไม่กี่วัน แต่มันก็เป็นความรักที่จะตรึงในใจไปตลอด รักที่เหมือนจะราบรื่น แต่สุดท้ายกลับสะดุดล้มไม่เป็นท่า แต่กระนั้นแล้วตนก็เลือกที่จะเดินต่อ แม้สุดท้ายแล้วจะไม่ได้อะไรเลย หากรู้ว่าเส้นทางความรักที่กำลังก่อเกิดขึ้นมานั้น เป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้ คงไม่มีใครดื้อดึงที่จะเดินต่อ เพราะรังแต่จะทำให้ตัวเองเจ็บ เจ็บที่ต้องจากกันในที่สุด


   แต่ทั้งเขาและเด็กหนุ่มก็เลือกที่จะเดินต่อ เลือกที่จะสานความสัมพันธ์นั้นไปให้สุดทาง แม้ว่ามันจะจบด้วยความเศร้า แต่ก่อนจะถึงตอนจบระหว่างทางนั้นมันก็มีความทรงจำดีๆ และมารินก็เลือกที่จะเก็บมันไว้


   “ เฮ๊ย!!! ไอ้รินมายืนชมดาวอะไรตอนนี้วะ พรุ่งนี้มีงานแต่เช้านะ มานอนได้แล้ว พรุ่งนี้ตื่นมาตาเป็นหมีแพนด้า ถ่ายรูปออกมาดูไม่ได้นะ ”


   เสียงของ 1 ใน 3 แฝดดังขึ้นด้านหลัง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอีสท เรียกให้ใจที่ลอยๆของมารินกลับสู่ร่างอีกครั้ง


   “ อืมๆ เดี๋ยวตามไป ”


   มารินตอบกลับไป ทั้งๆที่ยังยืนมองท้องฟ้าด้านนอก


   “ พรุ่งนี้แล้วสินะ พรุ่งนี้แล้วที่ทุกอย่างจะเป็นเพียงความทรงจำความทรงจำที่จะไม่มีวันลบเลือน ”


   มารินเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา พลางยกมือเช็ดน้ำตาที่ค่อยๆไหล ก่อนจะยิ้มให้กับท้องฟ้าเบื้องหน้าอีกครั้ง


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


   ตลอดระยะเรียนที่หลายคนฝ่าฟันมาจนถึงวันสุดท้าย หลายคนเฝ้านับวันรอว่าเมื่อไหร่จะถึงวันสุดท้ายนี้เสียที แต่ยังมีคนที่ไม่อยากให้วันนี้มาถึง แม้ก่อนหน้านั้นจะต้องการ แต่ในตอนนี้ ไม่อยากให้มีวันนี้ เพราะมันเป็นวันสุดท้าย วันสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกัน วันสุดท้ายที่ทุกอย่างจะจบลง ทุกอย่างที่เขาพยายามทำมาทั้งหมดจะกลายเป็นเพียงความทรงจำ ความทรงจำที่แสนเศร้า


   “ นี่ๆริน แกนัดพี่เขาไว้ที่ไหนเนี่ยะ คนเยอะอย่างกับมดแตกรังอย่างนี้นะ ถ้าไม่นัดไว้ก่อน มีหวังเดินหาปวดหัวพอดี ”


   เสียงบ่นของคุณป้า(?)จอมบ่นดังขึ้น หลังจากที่เดินวนอยู่รอบบริเวณพื้นที่จัดงานอำลาสถาบันมาพักใหญ่ แต่ยังไม่เจอคนที่หาสักที


   “ แกจะบ่นทำไมนักเนี่ยะ ฉันขี้เกียจฟังโว๊ย ”


   เซาธโวยขึ้นมาอย่างหงุดหงิด หลังจากที่ต้องฟังป้าหม่อมจอมบ่นพล่ามมาตลอดทาง


   “ นัดไว้แล้ว เดี๋ยวพี่เขาคงมา ”


   มารินตอบเพื่อนด้วยรอยยิ้ม แต่ 3 หนุ่มนั้นรู้ดีว่าเพื่อนของตนฝืนใจแค่ไหน เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายทำไมพวกตนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนคนนี้บ้าง แต่ถึงพยายามห้ามอย่างไร ก็ไม่สำเร็จ เมื่อเจ้าตัวยืนยันที่จะทำมันให้ได้


   เหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อนยังอยู่ในความทรงจำ เพื่อนของฝาแฝดถูกบอกเลิก กว่าอาทิตย์ที่ไม่มีการพูดคุย เพื่อนคนนี้เป็นเหมือนร่างไร้วิญญาณที่มีเพียงลมหายใจ มันก็แน่แหละรักครั้งแรก วาดหวังไว้มาก


   แต่หลังจากที่เพื่อนหนุ่มน้อยกลับมาจากหาดในวันนั้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปอย่างที่พวกตนคิดไม่ถึง ทั้งคู่กลับมาคบกันเหมือนเดิม และอาจจะหวานกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทำให้พวกตนเริ่มจะเชื่อแล้วว่า เวลาที่ทะเลาะกันแล้วเข้าใจกันมันทำให้คนเรารักกันมากขึ้น


   แต่ความจริงที่ได้รับรู้จากปากเพื่อนร่วมห้องในวันต่อๆมา ทำให้พวกตนไม่เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนนัก เพราะผลสุดท้ายตอนจบก็เจ็บด้วยกันทั้งคู่ แถมเจ็บมากกว่าเดิมเสียอีก เพราะว่าเวลายิ่งนานก็ยิ่งผูกพัน แต่เพื่อนตัวเล็กก็ยังยืนยันที่จะไปต่อไม่ว่าหนทางด้านหน้าจะเป็นเช่นไร แต่เพื่อนคนนี้กลับบอกว่า.....


   ‘ ช่างมันสิ ทางด้านหน้ามันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน แม้มันจะทำให้เราผิดหวัง ก็ช่างมัน เราเลือกได้นี่นา เราเลือกที่จะจดจำช่วงเวลาดีๆระหว่างทางได้ ตอนจบจะเป็นยังไงก็ปล่อยมันไป เพราะเราเลือกที่จะเก็บวัน เวลาดีๆระหว่างทางไว้ก็พอ ’


   แม้มันจะเป็นเหตุผลที่ฟังดูแปลก เลือกที่จะให้ตัวเองเจ็บในตอนจบเพื่อเก็บช่วงเวลาแห่งความสุขระหว่างทางเอาไว้ แถมยังเป็นความเต็มใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย จะมีใครบ้างที่เลือกเดินในเส้นทางนี้


   “ นี่ริน แล้วทางบ้านพี่เขาอ่ะ มีใครมาบ้าง ”


   อีสทถามขึ้นอีกครั้ง หลังจากยืนรออยู่ที่ซุ้มของภาควิชามาพักใหญ่


   “ ไม่รู้สิ ไม่ได้ถาม ”


   “ โน่นๆ มาโน่นแล้ว คนอะไรแต่งชุดอะไรก็ดูดีไปหมด ”


   เซาธเอ่ยขึ้น เมื่อหันไปเห็นรุ่นพี่คนที่ทุกคนกำลังรอเดินเข้ามา ร่างสูงโปร่งอย่างนักกีฬา วันนี้อยู่ในชุดราชปะแตนสีขาว สวมทับด้วยครุยผ้าโปร่งทำให้ดูดีขึ้นมาอีกมาก


   “ โห!!! พี่โอวันนี้พี่หล่อมาก แค่ปกติพวกผมก็ใจละลายแล้ว นี่ยิ่งละลายไปใหญ่ เห็นแล้วไม่อยากให้พี่จบเลย เพราะถ้าพี่จบนะ ภาคเราก็ขาดคนหน้าตาดีไปตั้งคนหนึ่ง แต่ยังไงก็ยินดีด้วยนะครับ ”


   เซาธเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาเดินมาถึงบริเวณที่ทุกคนรออยู่ ก่อนจะส่งช่อดอกไม้ในมือให้


   “ ขอบใจครับ ความจริงไม่เห็นต้องยุ่งยากเลย ”

   เขาว่า พลางรับช่อดอกไม้นั้นมาถือไว้ ก่อนจะเหลือมองอีกคนที่ยืนเงียบอยู่ด้านหลังเพื่อนๆ


   “ เรามาถ่ายรูปกันดีกว่า ”


   เขาว่า พลางคว้าข้อมือของคนที่ยืนนิ่งๆมาจับไว้อย่างถือวิสาสะ


   “ วันนี้พี่ขอวันหนึ่งนะ ”


   เขากระซิบบอกคนรักของตนเองเบาๆ คล้ายจะเป็นการขออนุญาต เพราะแม้ว่ารู้จักกันมานานแล้ว แต่เขาก็เสมอต้น เสมอปลาย เขาไม่เคยจับมือคนที่ตนรักโดยไม่ขอก่อน


   “ แหมๆๆ หวานกันไม่เกรงใจใครเลยนะ มดขึ้นแล้ว ”


   จอมปากมากว่า ทำให้มารินหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้


   “ ที่เราพูดเนี่ยะอิจฉาเขาล่ะสิ ”


   น้ำเสียงคุ้นเคยของใครบางคนดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ต้องหันมาดู


   “ แหมพี่เวฟ มันก็ต้องมีกันบ้างแหละ ”


   “ พี่โอครับยินดีด้วยครับ อันนี้จากเรา 2 คน ”


   ชอที่เดินเข้ามาสมทบส่งกรอบรูปขนาดใหญ่ ที่มีรูปของทุกคนที่ถ่ายเอาไว้ในกิจกรรมต่างๆ


   “ พี่จบแล้ว แล้วผมจะหาพี่ห้องพ่วงตำแหน่งพี่รหัสที่แสนดี มาจากไหนล่ะครับทีนี้ ”


   เวฟว่า พลางทำหน้าน่าสงสาร ที่หลายคนเห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้


   “ พี่เวฟครับ ผมว่านะถ้าเป็นคนอื่นทำนะ มันอาจจะน่าสงสารแต่พอคนทำเป็นพี่เนี่ยะ มันแบบว่า..... ”


   เซาธเอ่ยขึ้น แต่ก็ไม่พูดให้จบประโยค จงใจจะเว้นเอาไว้ให้คิดต่อคนอื่นๆขำ แต่คนที่โดนรุ่นน้องประชดได้แต่แยกเขี้ยว เพราะทำอะไรไม่ได้


   “ วัน Bye’nior คนเยอะอย่างนี้ทุกปีเหรอครับ ”


   นอธถามขึ้น หลังจากปล่อยให้คนอื่นคุยมานาน


   “ ก็อย่างนี้ทุกปีแหละน้อง ”


   รุ่นพี่จอมปากมากตอบ


   “ พี่โอครับ ไปถ่ายรูปกันเหอะ ”


   ชอว่า ก่อนที่ทุกคนจะสลับ สับเปลี่ยนกันเป็นช่างภาพ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก


   เริ่มสาย ว่าที่บัณฑิตก็ต้องถ่ายรูปหมู่ก่อนจะตั้งขบวนเดินเข้าสู่หอประชุม ( จำเป็น ) เพื่อเข้าร่วมพิธีในช่วงเช้า ซึ่งเป็นการมอบเกียรติบัตรผลงานดีในด้านต่างๆ


   “ นี่ริน เราว่ากลับไปหลับเอาแรงก่อนเหอะ กว่างานตอนเย็นจะเริ่มก็ 6 โมงโน่น ”


   เสียงเพื่อนสนิทดึงสติของคนที่กำลังนั่งใจลอยให้กลับเข้าร่าง


   “ อืม..... ”


   คนใจลอยตอบกลับ แม้จะดูเหมือนว่ายังไม่สามารถรวบรวมสติกลับมาได้ก็ตาม 3 แฝดหันมองหน้ากันอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเพื่อนร่างเล็กของพวกตนนั้นหาได้มีสติอยู่กับตัวแม้แต่น้อย


   นัยน์ตาเหม่อลอยออกไปไกลๆ ทั้งที่เมื่อเช้าแววตายังมีความสุข ยังมีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แต่มาตอนนี้ หลังจากที่เขาต้องเข้าหอประชุม ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ทำไมพวกตนจะไม่รู้ว่าล่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้น


   มันก็เป็นแค่ละครฉากหนึ่ง ที่เพื่อนร่างจ้อยสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้คนๆนั้นไม่ต้องเศร้าใจ เพราะวันนี้เป็นวันที่เขาควรจะยินดีกับความสำเร็จที่พากเพียรมาตลอดเวลาหลายปี

   “ เซาธ อีสท นอธ พี่ว่าเราพารินกลับไปพักก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่บอกพี่โอให้เอง ”


   ชอเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นอาการของน้องรหัสของตัวเองที่พร้อมจะปล่อยโฮได้ทุกเมื่อ 3 ฝาแฝดพยักหน้ารับ ก่อนจะกึ่งดึง กึ่งลากข้อมือเพื่อนให้กลับห้องพร้อมกัน


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


   แสงไฟจากคบไม้ไผ่ จัดตกแต่งไว้รอบสระน้ำขนาดย่อม ดวงไฟเล็กๆอีกมากมายถูกจัดไว้ตามต้นไม้โดยรอบ เสียงพูดคุย กับเสียงดนตรีที่ดังอยู่ด้านหลังไม่ได้อยู่ในความรู้สึกแม้แต่น้อย


   “ โห!!! เนี่ยะเหรองาน ราตรีสีคราม ที่พี่บอก ผมไม่เห็นมีอะไรแปลกไปกว่างานเลี้ยงธรรมดาเลย ”


   “ บ่นมากจริง เนี่ยะแหละงานที่พี่บอก ”


   เสียงโวยวายจากจอมปากมาก กับรุ่นพี่ที่ปากมากไม่แพ้กัน


   “ ว่าแต่น้องปี 1 มีอะไรมานำเสนอเนี่ยะ ”


   “ แหมพี่ชอครับ ถ้าบอกตอนนี้ก็ไม่ตื่นเต้นสิ ”


   “ ช่าย..... ของอย่างนี้มันต้องรอดูเอง ”


   3 แฝดว่า พลางดึงมือเพื่อนของตนไปด้านหลังเวที เพื่อเตรียมการแสดงในคืนนี้


   “ พวกเราพร้อมมั้ย ”


   เสียงของประธานภาคชั้นปี 1 เอ่ยถาม หลังจากที่ปี 1 วิทยาศาสตร์ทางทะเลยืนอยู่ด้านหลังเวที ก่อนจะขึ้นไปบนเวที เพื่อร่วมแสดงความยินดีความความสำเร็จของพี่ปี 4 ในวันนี้


   “ พวกเราพร้อมนะ 3 - 4 ”


   เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น หลังจากที่ทุกขึ้นมายืนอยู่ตรงกลางเวทีครบทุกคนแล้ว สิ้นเสียงสั่ง บทเพลงที่ถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่จึงดังขึ้น



2 พี่ๆสั่งให้เขียนประวัติของตัวฉัน
บอกให้ส่งให้ทันวันพรุ่งนี้
มันยากจังทำไม่ไหว ซ้อมเชียร์ทั้งปี
แล้วจะเขียนให้ดีอย่างไร


* รายงานตัวก็ไม่รู้ หน้าตาก็ไม่คุ้น
กอดพี่อุ่นจริงๆ มันจริงไหม
พร้อมหน้ากันโดมอาหาร
นึกว่าแค่ฝันไป ไม่เคยมีที่ไหน ไม่มี


** โดนเช็คไม่เคยบ่นเลย กี่ทีไม่เคยบ่นไป
นอนหลับหนูเคล็ดจะตายทุกที
ไม่มีประวัติจะเขียน ให้พี่ได้อ่านพรุ่งนี้
บนหน้ากระดาษก็เลอะน้ำลาย


*** ถ้าพี่ฟังอยู่ ไม่ว่าพี่อยู่ไหน ไม่ว่าพี่เป็นใคร
ช่วยส่งรักกลับมา
ถ้าพี่ไม่อยู่ คิดถึงหนูหน่อยหนา
หนูขอสัญญาว่า หนูจะจบ 4 ปี


ซ้ำ ( *,**,*** )


   เสียงเพลงที่ถูกแต่งขึ้นมาใหม่ โดยเลียนแบบเพลงที่หลายคนคุ้นเคยดีจบลง พร้อมกับเสียงปรบมือ และเสียงอุทานประมาณว่า ‘ มันคิดได้ยัง ’


   สมาชิกทั้งหมดจับมือกันโค้งตัวขอบคุณเสียงปรบมือ ก่อนจะเดินลงเวที แล้วปล่อยเป็นหน้าที่ของพิธีกรต่อไป


   “ แหม ดูเหมือนว่าทุกคนจะชื่นชอบกับการแสดงชุดเมื่อครู่ ผมก็คนหนึ่งแหละครับที่ชอบ ”


   “ ใช่ครับ ผมก็ชอบ และก็คิดเหมือนหลายคนว่า ‘ คิดได้ไง ’ ไม่แน่ว่ากลับไปคืนนี้ น้องๆอาจจะมีอะไรสนุกๆทำกันก่อนนอนก็เป็นได้ ”


   เวฟและชอที่รับหน้าที่พิธี ( เกิน ) กรในค่ำคืนนี้เอ่ยขึ้น และมันก็พอจะทำให้น้องปี 1 หลายคนเสียวสันหลังวาบ กับประโยคสุดท้ายไม่น้อย ก่อนจะเอ่ยอีกประโยคที่ช่วยให้หลายคนคลายใจได้


   “ แหมน้องๆครับ พี่ล้อเล่น เพราะคืนนี้พี่คงไม่มีแรงหรอก สบายใจได้ทุกคน ”


   “ ใช่ครับ แต่ก่อนที่จะปล่อยให้พิธีกรเวฟพล่ามไปมากกว่านี้ ผมก็ขอเชิญท่านประธานสุดสวาท ขาดใจดิ้นของทุกคน ขึ้นมากล่าวแสดงความรู้สึก แล้วก็ร้องเพลงให้พวกเราฟังสักเพลงนะครับ ”


   คนโดนเรียกก็ต้องเดินขึ้นบนเวทีอย่างช่วยไม่ได้


   “ พี่ขอเป็นตัวแทนเพื่อนปี 4 ทุกคนในวันนี้ พี่ขอบคุณทุกคนมาก ที่จัดงานวันนี้ให้พวกพี่ทุกคน พี่ขอบคุณมาก และตอนนี้พี่ขอพูดในส่วนตัวบ้างนะ พี่ดีใจนะที่ได้มาเรียนที่นี่ พี่ไม่เคยคิดว่าที่นี่เป็นแค่ที่เรียน ตลอดเวลา 4 ปี ที่นี่คือบ้าน บ้านที่ให้ความสุข ให้ความรู้ ให้เพื่อน ให้มิตรภาพ และอีกหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ที่นี่สอนให้พี่เรียนรู้มากกว่าความรู้ที่ได้ พี่มีความทรงจำมากมายเกิดขึ้นที่นี่ และพี่ก็สัญญาว่า ภาพความทรงจำเหล่านั้น จะอยู่ในนี้ ในนี้ตลอดไป ”

   เขาว่า พลางชี้มาที่อกด้านซ้าย


   “ สำหรับบทเพลงนี้ หากพี่จะบอกว่าพี่ขอมอบเป็นพิเศษให้กับใครบางคนในที่นี่ คนสำคัญที่พี่จะไม่ลืม หวังว่าทุกคนจะไม่ว่าอะไรนะ ”


   ไม่มีใครว่าอะไร นอกจากเสียงปรบมือ ซึ่งคนที่ถูกบอกว่าเป็นคนสำคัญก็ได้แต่ยืนน้ำตาคลอเท่านั้น


3 ใจส่งถึงใจเธอ มือจับกันไว้
มองตาแล้วเข้าใจ ไม่ต้องเอ่ยคำ
เดินเกี่ยวแขนกันไป ถ่ายทอดความรัก
จงอย่าสนใจใครฉันอยู่ใกล้เธอ


เปี่ยมด้วยความรักต่อเธอ
* ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล


** ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์


คืนเปลี่ยนแม้วันผ่านกาลเปลี่ยนปรวนแปร
รักเรามั่นคงแน่มิเปลี่ยนแปรไป
เราหล่อหลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวกัน

คงจะไม่มีวันเหินห่างกันไป
เปี่ยมด้วยความรักต่อเธอ


( *,** ) ซ้ำ 2 รอบ


   เสียงเพลงจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือ เขาขอบคุณทุกคนอีกครั้งก่อนจะเดินลงจากเวที กลับมานั่งที่เดิม


   “ แหม หวานซะไม่มี อย่างนี้เราจะปล่อยให้ฝ่ายชายร้องคนเดียวได้ยังไง อย่างนี้มันต้องมีอีกฝ่ายด้วยจริงมั้ยครับ รู้สึกว่าคู่รักคู่นี้จะกลายเป็นตำนานของภาควิชาจริงๆครับ หวานได้ไม่แคร์สื่อ ถ้าอย่างนั้นขอเชิญน้องรินขึ้นมาร้องเพลงให้พี่ประธานของทุกคนสักหน่อยนะครับ ”


   เวฟยังคงทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และคำถามนั้นก็ได้รับการตอบรับเป็นเสียงปรบมือ พิธีกรจึงเรียกให้มารินขึ้นมาร้องเพลงตามคำเรียกร้องของทุกคน


   “ ขอบคุณมากครับ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ารินเป็นคนร้องเพลงไม่ได้เรื่องสักเท่าไหร่ ยังไงก็ต้องขอให้ทุกคนช่วยด้วยนะครับ ”


   มารินรับไมค์จากพิธีกร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเช่นเคย เสียงเพลงอินโทนเริ่มบรรเลงช้า ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเริ่มร้อง


4 สิ่งใดๆไม่มีอะไรเทียบรัก
ให้อุปสรรคมันมากมายเพียงไหน
ต่อให้ฟ้ากลั่นแกล้งปานใด
ถ้าใจสองเราผูกใจ
อย่างไรก็คงถึงกัน
ให้เวลาหรือฟ้ามากั้นเราสอง
ต่อให้พรมแดนเขตแคว้นกว้างใหญ่เพียงไหน
จะกี่ภพหรือจะกี่ชาติไป
ถ้าใจสองเราผูกใจ
อย่างไรก็คงถึงกัน



* รัก.....เธอเสมอ
ฉันใกล้เธอแต่เหมือนอยู่ไกลแสนไกล
แต่ยังจะรอยังเฝ้ารอต่อไป
รอฉันรอวันไหน
ให้ใจสองใจคู่กัน


ความจริงใจไม่มีอะไรกั้นขวาง
เมื่อใจนำทางให้เราได้มาเจอะกัน
จะโลกไหนถ้าใจรักกัน
ถ้าคนสองคนผูกพัน
ไม่หวั่นไม่กลัวเรื่องใด
( * ) ซ้ำ


ที่ใจสองใจคู่กัน
และยังจะรอยังเฝ้ารอต่อไป
รอฉันรอวันไหน
ให้ใจสองใจคู่กัน
   


   เสียงเพลงจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือเช่นครั้งอื่นๆ แต่ที่ต่างไปก็คือ มันจบพร้อมรอยยิ้ม และน้ำตาของคนร้องด้วย มารินขอบคุณทุกคนก่อนจะเดินลงมาจากเวทีอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ใครเห็นว่าตนเองร้องไห้ แต่นั่นก็ไม่สามารถรอดสายตาของใครบางคนไปได้



@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@




   ผืนน้ำพลิ้วไหวตามแรงลม คลื่นลูกเล็กหยอกล้อกับชายฝั่ง ดวงจันทร์กลมโตลอยเด่นกลางหมู่เมฆวันนี้คล้ายกับในวันนั้น น้ำทะเลขึ้นเต็มฝั่ง ทุกอย่างคล้ายกันมาก ที่ต่างไปก็คงเป็นความรู้สึก


   ในวันนั้นความรู้สึกที่มีบอกว่า ทุกอย่างกำลังเริ่มต้นขึ้น แต่ในวันนี้มันบอกว่าทุกอย่างกำลังจะจบลง


   “ คืนนี้เหมือนคืนนั้นเลยนะครับ ”


   มารินเอ่ยขึ้น หลังจากหันมาดูว่าเสียงที่เดินตามหลังตนมาเป็นใคร


   “ ครับ แต่มันก็แค่คล้าย แค่คล้ายเท่านั้น และถ้าเลือกได้ พี่ไม่อยากให้วันนี้มาถึงเลย ”


   เขาเอ่ยขึ้น หลังจากเดินมาหยุดอยู่ข้างคนที่ครองใจเขาไว้ และเลือกที่จะมองไปที่ท้องทะเลด้านหน้าเช่นเดียวกัน


   “ ทำไมพี่พูดอย่างนั้นล่ะครับ วันนี้เป็นวันที่พี่ต้องดีใจสิ ”


   “ อาจจะใช่นะว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนวันนี้เป็นวันที่พี่น่าจะดีใจ พี่เห็นรุ่นพี่คนอื่นจบพี่ก็อยากให้วันนี้ของพี่มาถึงบ้าง แต่เมื่อวันที่พี่เฝ้าคอยมาถึงจริงๆ ความรู้สึกที่มีมันก็เปลี่ยนไป พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันควรจะดีใจหรือเปล่า มันเป็นความรู้สึกสับสนเสียมากกว่า ใจหนึ่งพี่ก็ดีใจนะที่สามารถมาถึงวันนี้ได้ แต่อีกใจหนึ่ง พี่ก็ยังไม่อยากจบ เพราะเมื่อไหร่ที่พี่จบจากที่นี่ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันก็จะกลายเป็นแค่ความทรงจำ..... ”


   “ แม้ว่ามันจะเป็นแค่ความทรงจำ แต่มันก็เป็นความทรงจำที่ดีไม่ใช่เหรอครับ อย่างน้อยเราก็มีช่วงเวลาดีๆให้จดจำ ”


   มารินพูดขัดขึ้น แต่ก็มิได้ละสายตาจากผืนน้ำด้านหน้า เหมือนกับว่าสิ่งที่มองอยู่นั้นมีอะไรดึงดูดใจ เช่นเดียวกับเขา ก็มิได้ละสายตามาเช่นกัน มารินรู้ว่าถ้าหันกลับมาเมื่อไหร่ ตนเองต้องร้องไห้อีกแน่ ทั้งที่บอกกับตัวเองไว้แล้วจะไม่ร้องไห้อีก วันนี้ตนต้องยินดีไปกับเขา

   “ พี่โอครับ แล้วพี่โอออกมาทำไมครับเนี่ยะ เขาจัดงานให้พวกพี่นะ แต่พี่กลับหนีมายืนชมทะเล ใช้ไม่ได้ๆ ”


   มารินเอ่ยขึ้นอย่างติดตลก เพื่อผ่อนคลายบรรยากาศเศร้าๆเมื่อครู่


   “ ก็ออกมาตามเด็กขี้แงน่ะสิ ไม่รู้วิ่งไปไหนแล้ว เราพอจะเห็นมั้ยถ้าหาเจอนะ..... ”


   เมื่อเห็นว่าคนข้างกายเปลี่ยนเรื่อง เขาก็เปลี่ยนเรื่องตามไปด้วย


   “ ไม่รู้สิครับ แถวนี้ไม่มีนะเด็กขี้แง มีแต่เด็กน่ารักได้ไหม ”


   “ แหมๆ ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยนะเรา ”


   “ ไม่ได้หลงครับ แค่ชมตัวเองเล็กๆน้อย ๆพอให้สดชื่น ถ้าเราไม่เห็นความดีในตัวเอง แล้วใครเขาจะมาเห็นล่ะครับ ”


   “ ครับ..... ไม่เถียงแล้ว เถียงไม่เคยชนะเราเสียที แพ้ทุกที ”


   “ รินว่าที่พี่แพ้น่ะ เพราะพี่ไม่คิดจะเถียงมากกว่า ”


   “ มันก็ใช่นะ เพราะพี่ขี้เกียจต่อความยาว สาวความยืดกับเราน่ะสิ ไม่อยากเห็นเด็กงอแงน่ะ ”


   “ พี่ว่ารินงอแงเหรอ ”


   มารินกับเขานั่งเถียงกัน แต่ก็ไม่ได้มองหน้ากันแต่อย่างไร ทั้งคู่ยังคงมองออกไปด้านหน้าเหมือนเคย


   “ วันนี้เหนื่อยมั้ยครับ ”


   มารินถามขึ้น แต่ก็ยังไม่หันหน้ากลับมา


   “ ก็ไม่เท่าไหร่นะ เพราะพี่ไม่ต้องอดนอนตื่นไปแต่งหน้า ทำผมเหมือนพี่ผู้หญิง ”

   เขาว่า แต่มันก็ทำให้อีกคนอดจะทำจมูกย่นใส่ไม่ได้


   “ ครับ..... ใครเขาจะไปดูดีเหมือนพี่ล่ะ ”


   มารินว่าเขาอย่างไม่จริงจังมากนัก


   “ พี่โอครับ รินมีของขวัญมาให้พี่ด้วย ”


   “ เหรอ ไอ้เราก็นึกว่าจะลืมเสียอีก เพราะเมื่อเช้าไม่เห็นพูดอะไรเลย กำลังน้อยใจอยู่พอดีเลย ”


   เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทีเหมือนจะดีใจจนออกนอกหน้า


   “ ก็เห็นว่าเมื่อเช้า มีคนให้เยอะแล้วกลัวจะถือไม่หมด ก็เลยยกยอดเอามาให้ตอนนี้ดีกว่า ”


   มารินว่า พลางหยิบกล่องกระดาษข้างตัวส่งให้เขา


   “ อะไรเหรอครับ ”


   “ อยากรู้ก็แกะดูเองสิครับ จะถามรินทำไม iboให้พี่ไปแล้ว ”


   “ บอกนิดหนึ่งไม่ได้เหรอ ”


   มารินส่ายหน้าแทนคำตอบ แต่เขาก็ไม่ว่าอะไรเพียงแต่รับกล่องใบนั้นมาแล้วค่อยๆแกะกระดาษที่ห่อออกช้าๆ นาฬิกาทรงกลมเรือนปานกลางพื้นหลังเป็นลายสมออะตอม สัญลักษณ์ของภาควิชาวิทยาศาสตร์ ทางทะเล และภายในนาฬิกาเรือนเดียวกัน ยังมีนาฬิกาอีก 2 เรือนที่ตั้งเวลาไว้ตรงกัน ด้านล่างสุดมีข้อความที่เขียนด้วยลายมือของคนให้


   ‘ ไม่ว่าจะอย่างไร เวลาของเราจะเดินไปพร้อมกันเสมอ ’


   เขาหันหน้ามองคนตัวเล็กเป็นครั้งแรก และมันก็เป็นจังหวะเดียวที่อีกคนหันมาเช่นกัน


   “ ไม่ว่าจะอย่างไรเรา 2 คนก็จะเดินไปพร้อมกันเสมอ แม้ว่าในวันต่อๆไปเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ใช่มั้ยครับ”


   “ ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ ”


   เขาว่า พลางยกมือเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อยของตน และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มารินไม่อยากจะหันหน้ามามองเขา เพราะรู้ว่าอย่างไรก็เก็บน้ำตาไว้ไม่ได้


   “ ไม่ว่าจะอย่างไร เรายังมีกันและกันอยู่เสมอ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปซักเท่าไหร่ แม้ว่าวันนี้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แม้ว่าเราจะไม่สมหวัง แต่อย่างน้อยเราก็ได้รู้จักกัน ได้เรียนรู้กันและกัน พี่ขอสัญญา เราจะเป็นคนแรก และคนเดียวที่จะเป็นคนสำคัญคนที่พี่รัก และรักมากเพียงคนเดียว พี่ยอมรับว่าแม้เวลาที่เราได้รู้จักกัน มันอาจจะไม่มากเหมือนกับคนอื่นๆ แต่พี่ก็แน่ใจและยังยืนยันในสิ่งที่พี่พูด เพราะพี่เชื่อและเคารพความรู้สึกของตัวเอง ”


   มารินไม่ได้ตอบว่าอะไร เพราะสิ่งที่พยายามฝืนมาตั้งแต่เช้า มาถึงตอนนี้มันไม่สามารถที่จะฝืนต่อไปได้อีก


   “ ร้องออกมาให้พอ ร้องวันนี้เป็นสุดท้าย และต่อจากนี้อย่าร้องอีกเลยนะ พี่ไม่อยากเห็นเราร้องไห้อีกแล้ว ต่อจากนี้ไปพี่อยากให้เรายิ้ม หัวเราะ เพราะเราน่ารักกว่าตอนร้องไห้ตั้งเยอะ ”


   เขากล่าว ก่อนจะกระชับร่างในอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ส่วนคนที่ถูกกอดก็กอดตอบ เพื่อเก็บความรู้สึกทั้งหมดนี้เอาไว้ให้ได้มากที่สุด ก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นแค่เพียงความทรงจำ.....



@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@



1 ท่อนหนึ่งของเพลงฉันมีแต่เธอ

2 ดัดแปลงเนื้อร้องจากเพลง ‘ เรียงความเรื่องแม่ ’

3 เพลงรักนิรันดร์

4 เพลงรักเธอเสมอ



@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้วขอรับ :o12:

แต่เหมือนว่าจะยังไม่จบ :a5:

ขออภัยที่มิได้มาอัพต่อเนื่องขอรับ

แบบว่าข้าเจ้ามิสบาย :เฮ้อ:

อาการก็เล็กน้อยถึงปานกลาง (ลุกไม่ขึ้นเท่านั้นเอง :z3: )

อากาศเริ่มเย็นแล้วรักษาสุขภาพด้วยนะขอรับ :กอด1:

 :L1: :3123: :pig4: :call:

ปล. เปลี่ยนสีตัวอักษรมิสำเร็จ ขออภัยอย่างแรง :monkeysad: :sad11:









ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
จบจริงหรือ อ่านแล้วมันค้างแปลกๆ :z3: :z3:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
จบจริงหรือ อ่านแล้วมันค้างแปลกๆ :z3: :z3:

จบขอรับแต่.....

ไม่สนิท  :z6: (โดนเต็มๆ)

ความจริงเรื่องนี้เหมือนจะไม่แฮปปี้แต่....

มันก็แฮปปี้นะขอรับ :z3:

ขอบคุณมากมายที่แวะมาหากันขอรับ

บวกเป็ดเหลืองเช่นเคย :pig4:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0

บทส่งท้าย


   พื้นน้ำสีคราม เกลียวคลื่นพลิ้วไหว กิ่งสนโอนเอน หาดทรายทอดยาวสุดแนว เมฆก้อนน้อยๆล่องลอย แสงแดดหยอกล้อกับผิวน้ำระยิบ ระยับ


   สิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้านี้กระมัง ที่ดึงดูดหัวใจสีทรายดวงนี้ให้กลับมาเยือนท้องทะเลนี้อีกครั้ง ทะเลแห่งนี้ก็ยังสวยงามอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม


   ไม่เคยรู้เหมือนกันว่าหัวใจดวงนี้ กลายเป็นหัวใจสีทรายตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงว่าตนเองรู้สึกผูกพันกับสายน้ำเค็มจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต หรืออาจจะเป็นดังเช่นที่ใครหลายคนพูดกัน


   แต่ท้องทะเลแห่งนี้จะรู้บ้างไหมว่า หัวใจสีทรายดวงนี้ยังคิดถึงพื้นน้ำสีครามอันกว้างใหญ่ ที่คอยโอบกอดทะเลอยู่เสมอ แม้ว่าเวลามันจะผ่านมาเท่าไหร่ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นยังรู้สึกเหมือนกับว่า มันเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว


   เรื่องราวทั้งหมดยังคงตราตรึงอยู่เสมอ ที่ตรงนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งสุข เศร้า เหงา สมหวัง ผิดหวัง แม้ในวันนี้ไม่เหมือนเมื่อวันก่อนๆ เพราะในวันนี้มหาสมุทรกว้างใหญ่มิได้อยู่เคียงข้างทะเลนี้อีกแล้ว


   แต่กระนั้นแล้วก็ใช่ว่าทะเลและมหาสมุทรจะแยกจากกัน แม้ตัวจะไม่อยู่ด้วยกัน แต่ดวงใจสีทรายทั้ง 2 ดวงจะยังอยู่ด้วยกันเสมอ.....


   เรื่องราวความรักของผมเกิดขึ้นที่นี่ แม้รักที่เกิดขึ้นนั้นมันอาจไม่จบอย่างที่ใครต้องการ แต่ผมไม่เคยที่จะเสียใจกับมันเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันผมดีใจเสียอีก แม้ว่าครั้งนั้นจะทำให้ผมได้เรียนรู้ความผิดหวังจากความรักเป็นครั้งแรก แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดหวังเหมือนที่คนอื่นๆเป็นกัน


   ผมไม่ได้อกหักอย่างที่คนอื่นเขาพูดกัน เพราะผมไม่ได้เลิกกับเขา แต่เราจากกันด้วยความรัก ความรักที่จะมีต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้อยู่เคียงข้างกันก็ตาม


   ตั้งแต่วันนั้น วันที่มหาสมุทรจากทะเลแห่งนี้ไป ผมไม่ได้ร้องไห้อีก เพราะคืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายที่ผมร้อง นั่นอาจเป็นเพราะว่าเขาขอเอาไว้ และผมเองก็รับปาก แต่ในวันนั้นผมไม่ได้ร้องไห้เพราะเสียใจ


   แต่มันเป็นความรู้สึกที่หลากหลาย ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตนเองรู้สึกอย่างไรกันแน่ ณ ตอนนั้น รู้เพียงแต่ว่า อยากจะอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นนั้นนานๆ แม้มันจะดูเหมือนกับการกระทำที่ไม่ควรเท่าใด เหมือนคนที่ปล่อยใจให้ง่ายเกินไป
 

   เมื่อมาถึงตอนนี้ ผมไม่เคยรู้สึกผิดกับการกระทำของตนเองในครั้งนั้นเลย แต่จะรู้สึกเสียใจมากกว่า หากในวันนั้นไม่ได้ทำ ทุกอย่าง ทุกการกระทำของเขาคนนั้น ยังอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ




@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@



   ‘ แม้ค่ำคืนนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ข้างกันจับมือกันอย่างนี้ แต่มันจะไม่ใช่คืนสุดท้ายที่หัวใจเราจะแยกจากกัน เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ดวงใจสีทรายดวงนี้ มหาสมุทรพื้นนี้ จะมีเพียงท้องทะเลแห่งนี้ตราบจนวันสุดท้าย ’


   ‘ เหมือนกันครับ รินไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยในวันนี้ รินก็ได้ทำในสิ่งที่ใจต้องการ ’


   เสียงสนทนาของคน 2 คนที่เดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆ หาได้สนใจกับงานเลี้ยงที่อยู่ด้านหลังแม้แต่น้อย


   ‘ อยากให้คืนนี้ยาวนานกว่านี้จัง หรือไม่ก็ ไม่ต้องเช้า ’


   ‘ โห!!! ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างพี่โอจะพูดอะไรแบบนี้ได้ ’


   มารินอุทานเสียงสูงอย่างไม่อยากเชื่อว่า จะได้ยินอะไรแบบนี้จากปากของคนตรงหน้า


   ‘ ทำไมล่ะ พี่พูดมันแปลกมากเหรอ ’


   เขาเอ่ยปากถามอย่างงๆ เพราะไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน คนอื่นก็พูดประมาณนี้กันเยอะแยะ


   ‘ ไม่แปลกหรอกครับถ้าเป็นคนอื่นพูดน่ะ แต่พอเป็นท่านประธานมหาสมุทรพูดนี่แหละถึงแปลก ’


   มารินว่า พลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทำให้คนโดนว่างงไม่น้อย


   ‘ ก็ปกติพี่เคยพูดแบบนี้ซะที่ไหนล่ะ วิชาการสุดๆ พอพี่พูดแบบนี้รินก็อดที่จะขำไม่ได้ ’


   มารินว่าพลางหัวเราะพลาง ทำให้คนฟังอดที่จะหัวเราะตามไปไม่ได้ เพราะมันก็เป็นเรื่องจริงตามที่อีกคนว่า เขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้นัก นอกจากจะอยู่กับคนตรงหน้านี้เท่านั้น


   ‘ รินจะเก็บเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่ทั้งหมดเอาไว้ในความทรงจำ ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี สุข ทุกข์ เศร้า เหงา รินจะเก็บมันไว้ให้ดีที่สุด เพราะอย่างน้อยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้รินโตขึ้น ทำให้รินเรียนรู้ที่จะเสียสละ ’


   ‘ พี่ก็เช่นกัน พี่บอกเราหมดทุกอย่างแล้ว และพี่จะไม่พูดคำนั้นซ้ำเพราะหากพูดซ้ำบ่อยๆมันจะกลายเป็นว่า มันก็เป็นเพียงคำพูดที่อยากจะพูดเมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อนั้นคำๆนั้นคงจะไม่มีความหมายอีกต่อไป ’


   ยามค่ำคืนยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แต่คนที่นั่งมองท้องทะเลเบื้องหน้าหาได้ลุกหนีหยาดน้ำค้างแม้แต่น้อย


   ‘  ดึกมากแล้ว จะกลับหรือยังครับ คนอื่นเขากลับกันหมดแล้วนะ งานเลิกแล้วด้วย ’


   เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยให้เสียงลมและเกลียวคลื่นขับกล่อมมานาน


   ‘ เฮ้อ!!! ง่วงแล้วด้วย ’


   มารินว่าพลางเปิดปากหาวหวอดๆ


   ‘ ง่วงแล้วเหรอ กลับกันเถอะ น้ำค้างแรงขึ้นแล้ว เดี๋ยวไม่สบาย ’


   เขาว่า ก่อนจะลุกขึ้นแล้วส่งมือให้ร่างเล็กจับพยุงตัวลุกขึ้น

   ‘ รินยังไม่อยากกลับเลย อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ ’


   มารินเล่นเกมต่อรอง แต่คาดว่าไม่สำเร็จเพราะคนฟังทำหน้าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง


   ‘ ไม่ได้ครับ เดี๋ยวไม่สบายไปจะทำยังไง พี่อยู่ดูแลเราไม่ได้แล้ว ต่อจากนี้เราต้องดูแลตัวเองดีนะ ’


   แม้ว่ามันจะเป็นคำพูดที่เขาเคยใช้ แต่ในครั้งนี้มันกับต่างออกไปโดยเฉพาะประโยคหลัง แม้จะพยายามเก็บอารมณ์ไม่ให้หางเสียงสั่น แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่สำเร็จอยู่ดี


   ‘ นั่นแน่..... อย่าบอกนะว่าท่านประธานสุดเลิฟของใครหลายคนกำลังจะ..... ’


   มารินเอ่ยขึ้นอย่างล้อๆ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย ทำไมนะการที่ต้องจากคนที่รัก ทั้งๆที่ยังรัก มันเจ็บขนาดนี้เลยเหรอ และเป็นเจ็บที่เจ็บด้วยกันทั้งคู่ ไม่ใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มันไม่ใช่เลิกกันเพราะหมดรัก


   แต่ต้องจากกันเพราะรัก และไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเป็นคนไม่ดี ไม่อยากรักอย่างคนเห็นแก่ตัว ที่ต้องการครอบครองคนเดียว โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะตามมา


   มารินไม่รู้ว่าโดนวงแขนอบอุ่นนี้กอดตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กลับอยากอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่อยากให้แสงของวันใหม่มาเยือน


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


   เสียงปากกาลากผ่านกระดาษหยุดลง เมื่อเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำเงยหน้าขึ้นมองท้องทะเลเบื้องหน้า พร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่แต่งแต้มบนใบหน้าใสๆ ไร้ซึ่งเครื่องสำอางใดๆ


   เสียงปากกาด้ามเดิมลากผ่านกระดาษดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเจ้าของจรดปลายเขียนอีกครั้ง


   หลายปีมาแล้ว แต่ผมไม่เคยลืมคำนั้นเลยแม้สักวัน คำที่คนพูดปากหนักไม่คิดจะพูดพร่ำเพรื่อ แต่ทุกอย่างสามารถรับรู้ได้จากการกระทำ


   คำพูดหรือจะสำคัญเท่าการกระทำ ทุกสิ่งที่เขาคนนั้นทำ มันบอกอะไรได้หลายอย่าง มากกว่าคำพูดนับร้อยเสียอีก


   ‘  ทะเลยังอยู่ในอ้อมกอดของมหาสมุทรฉันใด รักฉันจะมีอยู่เสมอฉันนั้น Marine love you always ’


   ฉันใดก็ฉันนั้น มหาสมุทรยังอยู่ในใจของทะเลเช่นกัน.....


Marine.....
   

   เสียงปิดหน้าสมุดดังขึ้น ก่อนที่เจ้าของร่างบางจะยืนขึ้น แล้วมองกลับไปด้านหลัง เมื่อรู้สึกคล้ายกับว่า มีใครคนหนึ่งกำลังมองมาความรู้สึกเหมือนจะได้เจอกับบางอย่างที่คุ้นเคย.....




Mariner IX




@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@




จบแล้วขอรับ :mc4:

ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมด้วยช่วยกันจนมาถึงบทส่งท้าย

ขอบคุณมากมายขอรับ :L2: :กอด1: :3123: :L1: :pig4:


ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
ค้างยิ่งกว่าตอนที่แล้วอีก :m16: :m16:

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เรื่องนี้สงสัยจะได้กินมาม่านะ ยังไม่กล้าอ่านขอทำใจแป๊บนึง กลัวเศร้าอ่ะ หัวใจไม่แข็งแรง ขอบคุณนะครับ

tantanlize

  • บุคคลทั่วไป
ค้างยิ่งกว่าเดิม -[]-

zodiacniing

  • บุคคลทั่วไป
อ่านรวดเดียวจบ

คนเขียนชอบทำค้าง

เรามาเอามาม่านอกรอบด้วย ^0^

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ capool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
จบแบบนี้ไม่มีต่อเหรอ ไม่ชอบเลยรักกันแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ยังไม่เห็นได้สู้เพื่อความรักเลยปล่อยผ่านไปเฉยๆ

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
จบแบบให้ไปคิดต่อเอาเองสินะ...

คาใจแค่ตัวละครที่เหมือนจะเด่น แต่กลับไม่มีบทอย่างคุณป้า และอาจารย์ซัน

ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
สนุกดีฮ๊าฟฟฟฟ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟ

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
เรื่องจบแล้ว แต่อารมณ์คนอ่านไม่จบตามอ่ะค่ะ
เฮ้อ!!! คนรักกันแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

ออฟไลน์ sarawutcom

  • เน็ตดีแทค 10 เม็ก 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 642
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-27
    • http://www.sarawutcomputer.com/
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด