ได้อ่านนิยายในเล้ามามากมาย (คริ คริ เพื่อสมัครสมาชิกได้) ขอขอบคุณคนแต่งทุกท่านนะครับ ที่เขียนนิยายดี ๆ แบบนี้ เรื่อง เออ กรูร้าย .........แต่กรูรักมรึงจบป่ะ เป็นนิยายสั้นเรื่องแรกที่แต่ง(ดองไว้นาน

) อย่างไงก็ฝากผู้อ่านทุกคนด้วยนะครับ

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เออ กรูร้าย .........แต่กรูรักมรึงจบป่ะบทนำ“คิมจัง” ตื่นหรือยังจ๊ะ แม่จะไปทำงานแล้วนะ
“ครับแม่ คิมตื่นแล้ว” เด็กชายตัวเล็ก ผิวขาวผอมบาง อายุราว ๆ 10 ขวบ วิ่งไปกอดแม่ไว้แน่น
“แม่ครับ คิมฝันว่ามีผู้ชายชุดดำน่ากลัวมาก ๆ แล้ว คุณย่า ก็มารับแม่ไปอยู่ด้วย แต่คิมรั้งแม่ไว้” เด็กชายกอดแน่นเดิม
“คิมจัง ฝันร้ายกลายเป็นดีนะจ๊ะ” พิมพ์กอดเด็กชายที่เอาหน้าซกอก แต่สีหน้าของคนเป็นแม่เริ่มเครียดอย่างเห็นได้ชัด (ทำไงดี พวกมันรู้ได้อย่างไงว่าเราอยู่นี้ ไม่ได้ละ ต้องไปจากที่นี่แล้ว เธอจะต้องหนีไปจนถึงเมื่อไร)
“แม่อย่าทิ้งคิมไปนะ”
“คิมจัง” จับไหล่เด็กชายที่หยุดร้องไห้ มองตาแม่อย่างตั้งใจ (ถึงเวลาที่ต้องบอกคิมแล้วซินะ)
“หากวันนึงแม่ไม่อยู่แล้วจงจำไว้นะลูก ว่าแม่จะอยู่กับเราเสมอนะ” พลางกอดลูกไว้ แล้วหยิบสร้อยที่คล้องแหวนวงเล็กสลักอักษรไว้ 2 ชื่อ นำไปคล้องคอลูกชายสุดที่รักของเธอ
“อะไรครับ เนี่ย” เด็กชายถามอย่างกระตือรือร้น
“สร้อยและแหวนเส้นนี้คือตัวแทนแม่กับพ่อจ๊ะ หากวันนึงลูกได้เจอคุณพ่อ ยื่นสิ่งนี้ให้คุณพ่อนะลูก” พิมพ์กอดลูกชายอีกครั้ง เธอไม่อยากสิ่งที่คิดไว้เป็นจริงเลย
“ครับ คิมจะรักษาเป็นอย่างดีเลย” เด็กชายยิ้มหน้าบานอย่างดีใจ นี่เป็นครั้งแรกที่แม่เอ่ยถึงพ่อ ^^
“อ้อ คิมจัง วันนี้เราต้องย้ายไปต่างจังหวัดกันแล้วละ ลูกรีบไปเก็บของที่จำเป็นแล้วรีบลงมา เจอกันอีก 10 นาทีนะ” พิมพ์รีบกำชับลูกชายอย่างเร็ว
“ครับ รอคิมแป๊บนะ” เด็กชายไม่ได้ติดใจอะไรนัก เพราะส่วนใหญ่เขากับแม่ก็ย้ายที่อยู่บ่อยเป็นประจำอยู่แล้ว
“แกร๊ก เสียงประตูด้านหน้า ที่มีคนพยายามไขเข้ามา” พิมพ์ได้ยินสิ่งผิดปรกติแล้วรีบคว้ากระเป๋าและลูกชาย ออกจากบ้านทางด้านหลัง ทั้งสองวิ่งออกทางด้านข้างของซอย แล้วให้ลูกชายหลบอยู่มุมถนนก่อน
“คิมจัง รอแม่แป๊บนึงนะ เดียวแม่ไปซื้อน้ำมาให้ก่อน” พร้อมกับยื่นของไว้กับลูกชายที่พยักหน้ารับรู้ว่าแม่พูดถึงสิ่งใด เด็กชายรีบเอาของมาซุกแล้วหลบมุมผู้คน
“เอี๊ยด ปังงงงง กริ๊ด ช่วยด้วยค่ะ คนถูกรถชน ช่วยด้วย” เด็กชายได้ยินเสียงคนบนถนน เอ๊ะ อะ เสียงดัง แต่ภาพที่เห็นทำให้เขารีบวิ่งไปยังคนที่นอน หายใจรวยรนนอนบนกองเลือด
“แม่ ! แม่ครับ อย่าเป็นอะไรนะ ฮึก ไหนบอกว่าจะอยู่กับคิมไง ฮือ คุณย่า คุณย่าอย่าเอาแม่ไปนะ เอาคิมไปแทนนะ คิมขอร้อง ฮือ ฮือ ” เด็กชายกอดร่างแม่ไว้แน่น
“คิม คิม คิมจัง ฟังแม่นะลูก หนีไป อย่าให้พวกมันจับได้” พิมพ์บอกลูกอย่างออกคำสั่ง
“ไม่เอา ฮือ ฮือ คิมจะอยู่ ฮึก กับแม่ ใครก็ได้ช่วยแม่ผมที ใครก็ได้” เด็กชายกอดแม่แน่นกว่าเดิม แต่คนรอบข้างเพียงแต่ยืนมองดูเท่านั้น แต่มีบางคนช่วยโทรแจ้ง 911 ให้แล้ว ระหว่างเสียงรถพยาบาล บวกกับคนชุดดำกำลังวิ่งมาไกล ๆ
“คิม มันกำลังมา อย่าร้องไห้ แม่ไม่ตายหรอกน่า เจอกันที่เดิม หนีไปซะ ไป!! ” พิมพ์ตะโกนบอกลูกชายให้รีบหนีชายชุดดำที่กำลังวิ่งมา พร้อมกับแสงของพิมพ์ค่อย ๆ มืดลงไป
เวลา 00.30 น. เป็นเวลา 5 วันแล้ว ที่คิมรอแม่ยังจุดนัดพบในซอยเล็กหลังภัตรคารแห่งหนึ่ง เด็กชายคตตัวน้ำลูบท้องไปมา ในกล่องลังขนาดใหญ่ นึกถึงอาหารที่กิน แต่ทำไมกินแล้วไม่อิ่มเสียที “อ้า กลิ่นหอม หอมจัง” ค่อย ๆ เดินไปยังคนงานสวมชุดขาวถือถุงอาหาร เร็วกว่าความคิด รีบวิ่งไปยังคนงานคนนั้น เพื่อจะขออาหารในมือที่กำลังจะทิ้ง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะถุงอาหารนั้น มันลอย พิ้ว ไปลงถังขยะเรียบร้อย คิมยืนมองอาหารที่ถังขยะกลืนน้ำลาย อย่างชั่งใจ “เอาไงดี หิวจัง” ระหว่างนั้น ความคิดก็แบ่งเป็น 2 ส่วน (คิมมองท้องที่ร้องประท้วงว่า “เอาอาหารลงมาซักทีดิวะจะทำงาน” อย่างโกรธ) กับ (ไม่ได้นะน้องคิม อาหารอะไรร่วมกันมักก็ไม่รู้ เดียวท้องเสีย อยากกินอาหารต้องทำงานดิมีเงินแล้วไปซื้อมากิน) คิมส่ายหัวไปมา “ทำงาน ใช่ ” ตัดสินได้จึงหลังจะเดินกลับไปยังบ้านกล่องของเขา
“เฮ้ยไอ้น้อง อยากได้เงินหรือเปล่าวะ ” เสียงเด็กผู้ชายอายุมากกว่าประมาณ 17-18 ปี กับพวกด้านหลังอีก 3-4 คนร้องถาม
“อยากได้ครับ แต่ อะ เออจะให้ผมทำอะไรครับ” พร้อมกับตาเป็นประกายอย่างดีใจ
“โอ๊ะ ดีมาก เราช่วยไปซื้อถุงยางอนามัย 5 กล่องที่เซเว่นโน่นให้หน่อยดิ” ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก แล้วหันไปมองเพื่อนที่เหลือ
“เฮ้ย ไอ้เอก มึงจะบ้าเปล่าวะให้เด็กไปซื้อ” เด็กหนุ่มผิวเข้ม ตะโกนบอกเพื่อน
“ไม่เป็นไรครับพี่ เดียวผมไปซื้อให้แต่ได้หรือเปล่าไม่รู้นะครับ” รีบบอกคนชื่อเอกอย่างเร็วกลัวเงินจะหลุดลอยไป
“เห็นไหมไอ้โบว์ น้องเขาเต็มใจ เอ้า เอาเงินไปที่เหลือไม่ต้องทอน แล้วเอาของไปให้พวกกูตรงซอยโน่นนะ” คนชื่อเอกชี้ไปยังซอยเล็กมืดมุมหนึ่ง คิมรีบวิ่งไปซื้อถุงยางมา ปรากฎว่าได้กลับมาดีใจมากที่ได้เงินมาซื้อข้าวกิน จึงรีบวิ่งเอาของที่คนชื่อเอกฝากซื้อ
“นี่ครับ ของที่ซื้อ”
“เออ ขอบใจ” เอกรับไว้แล้วแจกถุงยางให้เพื่อน ๆ
“ผมไปแล้วนะ อะ พี่ดึงมือผมไว้ทำไมครับ” คิมทำหน้าสงสัยกับมือที่ถูกรั้งไว้ไม่ให้เขาไปแล้วคนที่เหลือ ค่อย ๆ เดินมาล้อมไว้
“ค คือ พี่ครับปล่อยเถอะครับ ผมซื้อของมาให้แล้วนะ” พลางดึงแขนตัวเองออกอย่างหวั่น ๆ
“555 ยังโว๊ย มึงยังทำสิ่งที่กูจ้างไม่ครบเลยว่ะ” ไอ้เอก พูดกับอาการหายใจถี่ ๆ มองคนตรงหน้าแล้วเลียปาก
“อะ อะไรครับพี่ ผมก็ซื้อของที่สั่งมาแล้วไง” งง จริง ๆ ก็เขาซื้อมาให้แล้วจะเอาอะไรอีก
“ก็นี่ไงละ” ไอ้เอก พลักคนตรงหน้าให้ล้มลงพื้น ไม่นานพวกที่เหลือ จับแขนและขาไว้ ไอ้เอกขึ้นคร่อม จนคิมตกใจกับเหตุการณ์ที่ขึ้นตรงข้างหน้า
“ปล่อยผมนะ ปล่อย อ่า ปล่อยผม ” ไอ้เอกกระชากเสื้อขาดติดไปกับมือ ระดมจูบที่ซอกคอ อีกคนก็ถอดกางเกง จนร่างเล็กสะดุ้ง
“อย่าครับ อย่าทำผม อะ อ่า อย่า เจ็บ เจ็บ อย่า ” คิมเอามือปัดป้อง ไปมา สะดุ้งอีกครั้งกับด้านหลังที่พยายามจะเข้ามาในตัวเขา
“ปิ๊ด ปิ๊ด หยุดนะ นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ” ผู้พิทักษ์สันติราษฎ์รีบเข้าชาร์จจับกุมคนทั้งหมดในเหตุการ์ณอย่างรวดเร็ว
“ไอ้แนวไปดูเด็กดิ” ดาบตำรวจแน่วแน่ รีบไปดูเด็กชายที่ร้องและสั่นอยู่มุมผนัง
“น้องครับ เป็นอะไรหรือเปล่า ”
“อะ พี่อย่า ฮือ อย่า ฮึก อย่าทำผมเลย อย่าทำผมมมมม ” คิมร้องสุดเสียงกับร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำ ล้มลงแน่นิ่งไปกับพื้น
To Be Continued. .
