H E A R T L E S S อยากจีบ จีบได้ ..แต่ไม่รัก ♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: H E A R T L E S S อยากจีบ จีบได้ ..แต่ไม่รัก ♥  (อ่าน 309037 ครั้ง)

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
อินทัชกำลังกดอะไรเอาไว้ อยากรู้ ...แล้วเมื่อไหร่ที่เลิกเล่นบทคนดี จะเป็นยังไง . . .
รออ่านต่อ รอออออออออ  :call:
//ชอบตะนอย เท่ห์แถมมีสมองและความเข้าใจ คู่กับไอ้หล่อแต๊กยิ่งดีใหญ่เลย จรรโลงคนอ่าน


ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้จนตามทัน
ชอบมากเลยค่ะ :L2:
ตามมาจากซันนี่ล่ะ
รอคะ รอตอนต่อไป และรอเปิดรวมเล่ม
เราอยากได้ตะร้ายที่รักมั๊กมากเลย :3123:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ปล่อยมือพี่นทแล้วมาจับมือพี่อินดีกว่านะน้องเพชร
แต่อย่างทีุ่พ่อน้องเพชรห่วงก็จริง พี่อินดูยึดติดน้อง เหมือนมีอะไรในใจที่ไม่ได้บอกออกมา
แต่ทุกคนก็มีอะไรในใจ ถ้ามันไม่ได้ทำร้ายใคร ถ้ามันทำให้น้องเพชรมีความสุขมันก็น่าจะโอเคนะ
อยากให้น้องเพชรและแม่อาการดีขึ้น ๆ

 :pig4:


ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
น้องเพชร ลึกลับ แอบเศร้ามากตอนพี่นทมาลา
น้องเพชรรักพี่นทแบบที่พี่นทรักไหม อ่านไปอ่านมา
ชักเครียด เพราะน้องเพชรทำค้างงงงงงงงงง

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
Chapter :: 16 :: ไม่ยอม







“น้องเพชรเห็นอะไรครับ?”


“สะพาน..”


“สะพาน?”


“สะพานแขวน.. ที่สวนสาธารณะแถวบ้าน จะมีทะเลสาบ แล้วก็มีสะพานแขวนอยู่อันหนึ่ง”


“อืม ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ?”


“ห้าโมงสี่สิบห้า”


“น้องเพชรไปทำอะไรที่นั่น?”


“คุณแม่เรียกไป บอกว่ามีอะไรอยากให้ดู”


“แล้วตอนนี้คุณแม่อยู่ที่ไหน?”


“ยังไม่เห็น..นั่น เห็นแล้ว อยู่อีกฝั่งของสะพาน กำลังกวักมือเรียกเพชร”


“แล้วน้องเพชรก็เดินไปหา?”


“ใช่ เพชรเดินขึ้นไป ถึงไม่มั่นใจก็ยังเดินขึ้นไป ไปจนถึงกลางสะพาน คุณแม่ก็เดินมาถึงตรงนั้นพอดี”


“คุณแม่ดูเป็นยังไงบ้าง?”


“สีหน้าคุณแม่ดูปลอดโปร่ง.. คุณแม่ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูสบายใจมากที่สุดตั้งแต่เรารู้จักกันมา”


“แล้วคุณแม่พูดอะไรบ้าง?”


“พูดหลายอย่าง.. เพชรไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่ ฟังคล้ายๆ จะเป็นเรื่องของตัวคุณแม่เอง..ที่ผ่านมา เทือกๆ นั้นล่ะมั้ง ที่เพชรสนใจเป็นท่าทางกับวิธีการพูดของคุณแม่มากกว่า เพชรไม่เคยเห็นมาก่อน ..มันดูปกติมาก ..ปกติจนน่ากลัว..ไม่รู้ทำไมเพชรถึงรู้สึกแบบนั้น”


“แล้วไงอีกครับ?”


“แล้วจู่ๆ คุณแม่ก็เข้ามาจับมือทั้งสองข้างของเพชร มันทำให้เพชรสะดุ้ง แววตาที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันทำให้เพชรเย็นสันหลังจนไม่กล้าขยับตัว แล้วคำพูดของคุณแม่ก็เริ่มไหลเข้าสู่สมองเพชรอีกครั้ง..”


“ว่าอะไรบ้างครับ?”


“นทน่ะ ไม่กลับมาหาน้องเพชรอีกแล้วล่ะ นทน่ะ ทิ้งน้องเพชรไปแล้ว ไม่มีใครรักน้องเพชรอีกแล้วนอกจากคุณแม่ มีแค่คุณแม่คุณเดียว คุณป๋าก็ไม่รักน้องเพชรหรอก คุณป๋ารักคุณแม่ แต่คุณแม่รักน้องเพชรนะ รักที่สุดเลย น้องเพชรไม่รู้หรอกว่าคุณแม่รักน้องเพชรมากแค่ไหน คุณแม่ไม่มีวันทิ้งน้องเพชรไปเหมือนนท คุณแม่ไม่มีวันรักคนอื่นเหมือนคุณป๋า คุณแม่จะรักแค่น้องเพชรคนเดียว จะอยู่ข้างๆ น้องเพชรคนเดียว..ตลอดไป เราจะอยู่ด้วยกัน ตายด้วยกัน..นะ ไปตายด้วยกันนะ น้องเพชร เราไปตายด้วยกัน ..อ๊ะ!!”


“เกิดอะไรขึ้นครับน้องเพชร?”


“มะ..ไม่!!”


“น้องเพชร เกิดอะไรขึ้น?”


“อย่า! ปล่อยนะ!!”


“น้องเพชรได้ยินหมอหรือเปล่า?”


“อึก..”


“หมอขอสั่งให้น้องเพชรตื่นครับ ตื่นเดี๋ยวนี้!!”


!!


เฮือก..


แรงกดดันกับเสียงปรบมือที่ดังแทรกเข้ามาในโสตรับรู้ดึงกระชากผมออกมาจากภาพแห่งอดีต ผมสะดุ้งลืมตา เด้งออกจากโซฟา แต่ก็ต้องทรุดกลับลงไปเพราะไร้เรี่ยวแรง


มือเย็นๆ ของอีกคนในห้องเข้ามาช่วยพยุงให้ผมนั่งดีๆ ก่อนเจ้าตัวจะลุกเดินไปที่ประตู ผลักเปิด แล้วชะโงกหน้าออกไป


“คุณแป๋ม ขอช็อคโกแล็ตร้อนให้ผมแก้วนึงสิ”


สั่งเสร็จก็เดินกลับมานั่งที่เดิม นัยน์ตาเศร้าอันเป็นเอกลักษณ์ทอดมองผมคล้ายกำลังปลอบโยน โดยที่ปากไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใด


“.........” เรานั่งกันอยู่เงียบๆ สักพัก ลมหายใจของผมกลับสู่ภาวะปกติ พี่สาวพยาบาลคุ้นหน้าก็เดินเข้ามาพร้อมช็อคโกแล็ตร้อนสองแก้ว


“ทำไมของผมก็เป็นช็อคโกแล็ต?” คุณหมอขมวดคิ้วแต่ก็ยอมรับถ้วยช็อคโกแล็ตจากพี่สาวพยาบาล


“คุณโยบอกว่าวันนี้คุณหมอทานกาแฟไปสองแก้วแล้วค่ะ” คนตอบยิ้มหวาน ส่วนคนที่ขมวดคิ้วเมื่อครู่พรูลมหายใจออกมาเบาๆ


“บอกคุณโยว่าคราวหลังก็เอานมอุ่นมาให้ผมสิ”


“ประชดไม่ดีนะคะ คุณโยเขาจริงจัง” พี่สาวพยาบาลยิ้มกว้าง


คุณหมอไม่ต่อคำแต่โบกมือให้อีกฝ่ายกลับออกไป




“ดีขึ้นไหม?” หลังจิบช็อคโกแล็ตไปเกือบครึ่งแก้ว คุณหมอเป็นคนแรกที่เอ่ยทำลายความเงียบ


ผมพยักหน้า ขณะในหัวกำลังครุ่นคิดว่าภาพเมื่อกี๊มันคืออะไร?


ความทรงจำที่ถูกผมบิดเบือนไปอย่างนั้นหรือ? นั่นคือความจริงหรือ?


“นึกออกแล้วสินะครับ”


“.........” ใช่สิ มันคือความจริง


“เล่าให้หมอฟังได้หรือเปล่า?”


“ฮะ” ถึงจะตอบออกไปแบบนั้น แต่ผมก็ยังนั่งจิบช็อคโกแล็ตต่อไปเงียบๆ


“.........” และคุณหมอเองก็ไม่ได้เร่งเร้า เฝ้ารออย่างอดทนเหมือนทุกครั้ง



จนกระทั่งช็อคโกแล็ตของเราทั้งคู่หมดแก้ว ผมจึงเริ่มเปิดปาก..


“วันนั้น.. คุณแม่เรียกผมออกไป พูดพล่ามอะไรมากมาย สุดท้ายก็พยายามจะผลักผมให้ตกจากสะพาน คุณแม่รู้อยู่แก่ใจว่าผมว่ายน้ำไม่เป็น นั่นคือจุดประสงค์ของคุณแม่..อยากให้ผมตาย จากนั้นตัวเองก็จะตายตาม ถึงจะไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมต้องทำแบบนั้น แต่ตอนนั้นผมกลัวเกินกว่าจะมาคิดหาเหตุผล ผมไม่ได้อยากตาย แม้จะเคยมีความคิดแบบนั้นผุดขึ้นมาบ่อยๆ ในช่วงหลังๆ ตั้งแต่พี่นทไปอเมริกา แต่พอมาเจอสถานการณ์ที่อาจจะได้ตายจริงๆ ผมก็รู้ตัวว่าผมไม่ได้อยากตายจริงๆ หรอก ผมก็แค่หาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้เท่านั้น เรายื้อยุดฉุดกระชากกัน ผมเกือบพลาดท่าอยู่หลายครั้ง ทั้งที่ตัวผอมบางแต่ตอนนั้นคุณแม่กลับมีแรงมหาศาล ..แรงของคนบ้า ผมเข้าใจซึ้งเลย”


‘อยากตายก็ตายไปคนเดียวสิอีบ้า!!’


เหมือนฟางเส้นสุดท้ายขาด ทั้งที่พยายามตะเกียกตะกายไขว่คว้าเอาไว้ แต่จับต้องได้เพียงความว่างเปล่า..


อารมณ์เก็บกดตลอดหลายปีของผมพรั่งพรูออกมา ..ทำไมล่ะ? ทั้งที่ผมก็แค่อยากมีพ่อเหมือนเด็กคนอื่นๆ ทั้งที่ก็แค่หวังความรักจากพ่อแทนแม่ที่เพิ่งเสียไป ความรักที่แม่ที่เสียไปไม่เคยมีให้ ผมทำผิดไปตรงไหน? ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้? หรือเพราะผมเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมีตั้งแต่ต้น? ผมผิดใช่ไหม? เรียกร้องมากไปใช่ไหม? ที่พักใจหนึ่งเดียวอย่างพี่นทก็ยังทิ้งผมไปอีก


ไม่มี ..ไม่มีใครสักคนที่อยู่ข้างผม


ผมเจ็บปวด.. ผมเคียดแค้น..


ผมใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักคุณแม่ออกไป


‘ไม่ยอมหรอก..!!’



“ผมผลักคุณแม่ตกจากสะพาน.. มันเหมือนช่วงวินาทีที่แสนยาวนานที่ได้เห็นร่างของคุณแม่ค่อยๆ ร่วงหล่นลงไป ไม่ต่างอะไรกับใบไม้แห้งที่หมดอายุไข แต่ทันทีที่ร่างของคุณแม่กระแทกผืนน้ำ เสียงดังที่เกิดขึ้นก็ดึงสติของผมกลับคืนมา  ผมเห็นคุณแม่ดำผุดดำว่ายตะเกียกตะกายหนีจากความตายที่คุณแม่พร่ำเพ้อถึง”


“.........”


“ผมไม่เข้าใจ”


ทำไมคุณแม่ถึงไม่ยอมจำนนต่อความตายไปแต่โดยดี? ทำไมต้องดิ้นรนหนีความปรารถนาของตัวเอง? คุณแม่เฝ้ารอโอกาสนี้มาตลอดไม่ใช่หรือ?


งั้นก็ตายไปเสียสิ..


‘น้อง..เพชร...’



“แต่ถึงจะไม่เข้าใจ ผมก็กระโดดตามลงไปทันทีที่ได้ยินคุณแม่เรียกหา.. ลืมไปสนิทเลยว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น”


ถึงอย่างนั้นก็ยังอุตส่าห์พาตัวเองไปจนถึงตัวคุณแม่ได้ ยังไม่ทันได้คิดว่าจะช่วยต่อยังไง แค่จะเอื้อมมือไปหา คุณแม่ที่เหมือนกำลังจะจมก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมา คว้าไหล่ผมได้ก็ทุ่มแรงทั้งหมดที่มีกดผมลงใต้น้ำ ถึงจะตกใจ แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดยังคงทำงานได้ดี ผมพยายามสลัดมือคุณแม่จนหลุด แล้วใช้คุณแม่เป็นฐานเพื่อดันตัวเองขึ้นมารับอากาศเหนือน้ำจนได้


แน่นอนว่าคุณแม่ก็ไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ เราผลัดกันกดอีกฝ่ายจนสุดท้ายก็กอดกันจมลงไปใต้น้ำในที่สุด..


จมลงไป..


จมลึกลงไป..



“ผมฟื้นขึ้นมาอีกทีที่โรงพยาบาล ได้รับข่าวดีคือคุณแม่ปลอดภัย และฟื้นขึ้นมาก่อนหน้าผมนานแล้ว..”


“.........”


“แต่ข่าวร้ายคือคุณแม่เสียสติไปแล้ว” 


ผมสร้างภาพในจินตนาการขึ้นมาปิดทับความเป็นจริงไว้แทบสนิท


ภาพที่ตัวผมยืนมองคุณแม่ค่อยๆ จมหายไปอย่างเลือดเย็น ภาพของผมที่หันหลังให้แล้วจากมาอย่างไร้ความรู้สึก ภาพพวกนั้นวิ่งวนซ้ำๆ อยู่ในความทรงจำ จนผมเกือบเชื่ออยู่แล้วว่ามันเป็นความจริง


เกือบเชื่ออยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีความรู้สึก..


“น้องเพชรคิดยังไงกับเรื่องนี้ครับ?”


“ฮะ?”


“กับเหตุการณ์นี้”


“ผม.. เพราะผมมีความรู้สึก ถ้าเพียงแต่.. ถ้าเพียงแต่ผมจะไม่มีมัน เรื่องวันนั้นก็คงไม่เกิด ...ไม่มีความเจ็บปวด ..ไม่มีความเคียดแค้นชิงชัง ทุกอย่างจะดำเนินต่อไปอย่างที่มันเคยเป็น ...แม้ผมจะเป็นคนที่ถูกทิ้งเอาไว้.. แต่ก็จะไม่มีใครต้องเสียใจ ..ไม่มีใครต้องเจ็บปวด..เพราะผม”


ใช่แล้ว.. ผมไม่ควรจะมีความรู้สึกอีก


กำแพงอิฐสีแดงเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น..


“จำที่หมอเคยบอกก่อนหน้านี้ได้ไหมครับ?”


ผมเงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย ยังนึกไม่ออกว่าหมายถึงเรื่องไหน


“เราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อมันได้”


ผมมองรอยยิ้มที่ชวนให้วางใจราวกับว่าโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่แก้ไขไม่ได้


“และอย่างแรกที่น้องเพชรต้องทำตอนนี้เลยก็คือ ฝึกกล่าวให้อภัยตนเอง”


ไม่มีสิ่งใดที่ไม่สมควรได้รับการอภัย..


“มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ”


“.........”

 





“หนูอยู่กับคุณแม่ได้นะ?” คุณป๋ามองมาด้วยสายตาเป็นกังวล


เมื่อเช้าเราไปรับคุณแม่ที่โรงพยาบาลพร้อมกัน แต่พอตกสายคุณป๋าเพิ่งนึกได้ว่านัดรับส่งงานนักศึกษาที่คณะ เลยต้องออกไปมหา’ลัยอีก


“ฮะ คุณน้อมก็อยู่” ผมหันไปมองแม่บ้านที่เพิ่งยกตะกร้าผ้าเดินผ่านไป


“แล้วป๋าจะรีบกลับมานะ เดี๋ยวหอบมาตรวจที่บ้านนี่ล่ะ”


“ฮะ” ผมหันไปมองคุณแม่ที่นั่งเหม่ออยู่หน้าแปลงคุณนายตื่นสายที่คุณป๋าปลูกเอาไว้


“งั้นป๋าไปก่อนนะ” คุณป๋าบอกผม แล้วเดินไปคุยกับคุณแม่สองสามคำ


คุณแม่หันมายกยิ้มบางให้เหมือนทุกที ก่อนกลับไปเหม่อต่อ


“ขับรถดีๆ นะฮะ” ผมเดินออกมาส่งคุณป๋าที่รถ


“ครับ”


“.........” ผมมองตามรถคุณป๋าจนลับตา ยังไม่ทันหันหลังกลับรถคันใหม่ก็แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน


“เพชร..” คนที่ลงจากรถมาเป็นผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับคุณแม่


“.........” ผมยกมือไหว้ทั้งที่ยังนึกไม่ออกว่าเป็นใคร


“ป้าเข้าไปได้ไหม?” คนนั้นเดินเข้ามาถึงประตูรั้ว


ด้านหลังมีผู้ชายวัยรุ่นอีกคนเพิ่งลงจากรถฝั่งคนขับพร้อมตะกร้าใบหนึ่ง


“.........” ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่เลื่อนประตูรั้วเปิดให้อีกฝ่ายเข้ามา


“จำกันไม่ได้เหรอ?” คนที่เพิ่งเดินเข้ามาจ้องหน้าผมอย่างแปลกใจครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พรูลมหายใจออกมา “จริงสินะ เหมือนอินจะเคยเล่าให้ป้าฟังว่าถ้าเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเพชรจะยังจำไม่ได้”


“พี่..”


“จ้ะ พี่อิน นี่ป้าพิมแม่พี่อินไง ส่วนนั่นตาอิฐน้องพี่อิน เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกสินะ ตาอิฐเขาเป็นรุ่นน้องเพชรปีนึง แต่อินบอกว่าเราสองคนน่ะอายุเท่ากัน ..เอ้า เอาขนมให้เพชรสิอิฐ” แม่พี่แนะนำผู้ชายวัยรุ่นที่มาด้วยกัน


หมอนั่นพยักหน้ายิ้มๆ แล้วยื่นตะกร้ามาให้ 


“ของฝากจ้ะ เป็นขนมไทยที่คุณย่าทำเอง”


“ขอบคุณฮะ” 


ทั้งหน้าตาและรูปร่างน้องของพี่ดูคล้ายๆ กับพี่อยู่หลายส่วน


แต่ส่วนที่คล้ายที่สุดก็คงจะเป็นจมูกกับตาร้ายๆ คู่นั้น


“เห็นอินบอกว่าเพชรกับคุณพ่อไปรับน้องนาฏมาบ้านวันนี้ใช่ไหม? ป้าเลยอยากจะมาเยี่ยมน้องนาฏสักหน่อย ตอนอยู่โรงพยาบาลไม่ค่อยได้ไปหาเท่าไหร่ นี่เมื่อเช้าลุงโชติก็ไปขับรถให้คุณย่า ตาอินก็ไปเข้าค่ายเก็บตัว เหลือแต่ตาอิฐอยู่บ้านนี่แหล่ะ ป้าก็เลยให้ขับรถมาให้ เมื่อกี๊กำลังจะโทรถามอินเลยว่าบ้านหลังไหน ก็พอดีเหลียวเห็นเพชรยืนอยู่หน้าบ้านนี่ล่ะ” 


แม่พี่พูดไปเรื่อยๆ ขณะเดินตามหลังผม ทีแรกตั้งใจจะพาไปห้องรับแขก แต่พอได้ยินว่ามาเยี่ยมคุณแม่เลยพาเดินเข้ามาในสวนที่คุณแม่นั่งอยู่แทน


“คุณแม่ฮะ ป้าพิมมาเยี่ยมฮะ” ผมย่อตัวนั่งลงเกาะวิลแชร์ของคุณแม่


คุณแม่ไม่แม้แต่จะแสดงปฏิกิริยาว่าได้ยินด้วยซ้ำ ยังนั่งเหม่อเหมือนเดิม ปกติถ้าไม่ใช่เสียงของคุณป๋าคุณแม่ก็จะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้แหล่ะ


“นาฏจ๊ะ พี่พิมเองนะ..” 


“ฝากเอาใส่จานให้หน่อยนะฮะ” ผมปล่อยให้แม่พี่คุยกับคุณแม่แล้วถอยมานั่งที่โต๊ะ ส่งตะกร้าขนมให้คุณน้อมที่ยกน้ำออกมาให้แขกพอดี


“อะไร?” ผมหันไปถามน้องพี่ที่เอาแต่นั่งมองหน้าผมมาครู่หนึ่ง หลังเข้าไปทักทายคุณแม่เรียบร้อยแล้วถอยมานั่งโต๊ะเดียวกัน


“เปล่า แค่กำลังสงสัยว่าพี่มาปักอกปักใจอะไรกับนายน่ะ” หมอนั่งไหวไหล่ พูดยิ้มๆ ลักษณะเดียวกับพี่ไม่มีผิด


ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร


“แล้วรู้หรือยัง?”


“พี่ไม่ใช่คนที่เข้าหาใครแค่เพราะหน้าตา” หมอนั่นส่ายหัวแล้วถามกลับ 


“แล้วนายล่ะรู้หรือเปล่า?”


“.........” ผมส่ายหัวบ้าง


“ทำเสน่ห์ใส่พี่เปล่าเนี่ย?”


“ทำยังไง?”


“ก็เอาน้ำมันพรายป้าย เอารากราคะถูตัวแล้วบดใส่อาหาร หรือทำอาหารแล้วเอารอดหว่างขา หรือใช้ขน..”


“ไม่ใช่ละครหลังข่าว”


“ฮ่ะๆๆ โทษทีๆ ..งั้นก็คงมีแค่พี่คนเดียวที่รู้สินะ” หมอนั่นสรุป


แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีก..   



(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2013 21:50:37 โดย White Raven »

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
(ต่อ)



“อร่อยดี” หลังตักปลาราดพริกเข้าปาก เคี้ยวสองสามที ต๊อกแต๊กก็หันไปยิ้มให้คนที่ตักมันมาวางในจานของเขา


“เอาอีกชิ้นไหม?” ปากถาม แต่มือตะนอยก็ตักอีกชิ้นมาวางในจานของต๊อกแต๊กแล้ว


“เฮ้ย เดี๋ยวมึงก็ไม่อิ่มหรอก เอาคืนไป” ต๊อกแต๊กรีบตักคืนไปด้วยความเกรงใจ


“ไม่เป็นไร” แต่ตะนอยก็ตักมาไว้ที่เดิมอีก “แค่เห็นมึงกินกูก็อิ่มแล้วล่ะ”


“อ่ะ.. อย่าทำให้กูอยากอ้วกทั้งที่ยังกินไม่อิ่มได้ป่ะ” ปากบ่นกระปอดกระแปดแต่หูกลับแดงเถือกไปหมด ทำเอาเจ้าของปลาราดพริกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างกับคนบ้า


“.........” ผมซึ่งนั่งฝั่งตรงข้ามได้แต่มองทั้งสองคนสลับกันไปมา แล้วตักข้าวทานต่อเงียบๆ


เพราะวันนี้คุณป๋ามีสอนถึงหกโมงเย็น พี่ก็ยังอยู่ในช่วงเข้าค่ายเก็บตัว ผมเลยออกมาทานข้าวเย็นแถวหอเก่าพร้อมตะนอยและต๊อกแต๊ก


“หวัดดีครับเฮียจี้” ตะนอยเอ่ยทักคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้าน


พี่หมอพยักหน้าแล้วมานั่งเก้าอี้ว่างข้างๆ ผม


“เอ้า” พี่หมอยื่นเสื้อคลุมที่ผมไปลืมไว้ที่คลินิกเมื่อวันก่อนคืนให้ ก่อนมาพี่หมอก็โทรมาบอกผมก่อนแล้ว


“ขอบคุณฮะ” ผมเก็บเสื้อใส่เป้


“แล้วเรื่องแม่เป็นยังไงบ้าง?”


“ผ่านไปด้วยดีฮะ จนถึงวันที่พาคุณแม่กลับไปส่งก็ไม่มีปัญหาอะไร”


“อืม”


“พี่หมอทานอะไรมาหรือยังฮะ?”


“ยัง แต่นัดกับพวกไอ้ฝูไว้แล้ว เห็นมันบอกว่าจะมาหาตะนอยพอดี” ประโยคท้ายพี่หมอหันไปพูดกับเจ้าของชื่อ


“เฮียจะมาหาผมเหรอ? ..เรื่องอะไรวะ?” ตะนอยพึมพำกับตัวเอง ก่อนหันไปเห็นต๊อกแต๊กที่นั่งมองพี่หมอด้วยท่าทางสนใจ แต่ยังไม่มีใครแนะนำ 


“เออไอ้หล่อ นี่เฮียจี้ เพื่อนเฮียฝู อยู่คณะแพทย์ แล้วก็..สนิทกับเพชรด้วย”


“หวัดดีครับ” ต๊อกแต๊กยกมือไหว้พร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรที่ดูเกร็งเล็กน้อย


คงเพราะสีหน้าแววตาที่ค่อนข้างเย็นชาตามปกติของพี่หมอนั่นล่ะ 


“หวัดดี” พี่หมอรับไหว้


“มันชื่อแต๊กน่ะ” ตะนอยบอก


“อืม ที่เป็นเดือนมหา’ลัยปีนี้ใช่ไหม?” พี่หมอให้ยิ้มนิดๆ ทำเอาเจ้าตัวพยักหน้ารับแบบเขินๆ


“เฮียรู้ด้วยเหรอเนี่ย แสดงว่าไอ้หล่อของเราก็ดังเหมือนกันน่ะสิ”


“ดังสิ สาวๆ ที่คณะพี่พูดถึงกันบ่อยจะตาย มีแต่เรานั่นแหล่ะตะนอย พอเปลี่ยนลุคแล้วเงียบกริบเลยนะ”


“ฮ่ะๆๆ สงบสุขขึ้นเยอะเลยล่ะเฮีย”


“ดีแล้ว จะได้จบตามเกณฑ์กับเขาสักที”


“โหเฮีย..” หน้าบานไม่เก็บอาการจนคนที่นั่งข้างๆ เริ่มมองแปลกๆ แล้ว แต่ตะนอยก็ยังไม่รู้ตัว




“โย่ว” ผ่านไปครู่หนึ่งพี่ฟงฝูกับพี่ปอก็เดินเข้ามาในร้าน


“อ้าวหมอจี้ มานานแล้วยังวะ?” พี่ปอเป็นคนทัก


“เพิ่งมา”


“เฮียมีอะไรกับผมเหรอ?” หลังทักทายกับเรียบร้อย ตะนอยก็เข้าประเด็น


“กูมีข่าวดีๆ มาบอกมึงล่ะตี๋” พี่ฟงฝูแย้มยิ้มไม่น่าไว้ใจสุดๆ


“อะไร?” ตะนอยเริ่มหวาดระแวงขึ้นมาทันที


“เฟยเฟยกลับมาแล้ว”


“ห๊ะ?!” ท่าทางตะนอยตกใจกับข่าวนั้นมากทีเดียว


ผมกับต๊อกแต๊กมองหน้ากันอย่างแปลกใจ เพราะไม่ค่อยได้เห็นอาการสะดุ้งสะเทือนแบบนี้ของตะนอยสักเท่าไหร่


“ตามนั้นแหล่ะ อิอิ” แต่คนแจ้งข่าวกลับดูอารมณ์ดีแบบแปลกๆ 


“กูมาแค่นี้ล่ะ โชคดีนะ”


“เดี๋ยวเฮีย! ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมผมไม่รู้วะ?”


“วันก่อน.. ที่จริงมันสั่งว่าห้ามบอกเพราะกะจะมาเซอร์ไพรส์มึง อืม..เย็นนี้แหล่ะ”


“เย็นนี้? แล้วเพิ่งมาบอกเนี่ยนะ?!”


“เอ๊า ความผิดกูเหรอ?” พี่ฟงฝูทำตาปริบๆ ไม่รู้เรื่องราว 


“ก็บอกแล้วไงว่ามันสั่งห้าม แต่กูก็ยังอุตส่าห์ใจดีถ่อมาบอกมึงถึงนี่ เผื่อมึงต้องการเวลาเตรียมใจสัก..สองสามนาที”


“ใจดีกับผมมาก ไอ้เฮีย” ตะนอยกัดฟันกรอด “จริงๆ แค่โทรมาบอกก็ได้นะ ไม่ต้องอุตส่าห์ถ่อมา”


“เพราะกูอยากเห็นหน้ามึงตอนนี้ไงล่ะตี๋~ ฮ่าๆๆ”


“เอาน่ะ โชคดีที่ตอนนี้มึงยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน ไม่งั้นล่ะเตรียมหย่าขาดได้เลย เอี้ยเฟยไม่ยอมปล่อยมึงหลุดมือแน่” พี่ปอมาตบบ่าตะนอยแล้วหัวเราะชอบใจตามเพื่อนซี้ไปอีกคน


“ไอ้บ้านั่นจะมาเหรอ งั้นกูรีบไปดีกว่า” พี่หมอพึมพำแล้วลุกขึ้น


“เออ กูก็ไปแล้วนะ ไม่ค่อยอยากเจอหน้ามันเท่าไหร่เหมือนกัน ไปก่อนนะน้องเพชร ไปแล้วโว้ยไอ้หล่อแต๊ก” 


แต่ยังไม่มีใครได้ก้าวออกไปนอกร้าน ใครอีกคนหนึ่งก็เปิดประตูสวนเข้ามา พาพวกพี่ฟงฝูถอยกรูดกลับมาตั้งหลักกันที่โต๊ะด้วยความตกใจ


“นอยยยยย~” แต่คนมาใหม่เหมือนมองยังไม่เห็นใครนอกจากตะนอย


“เฮียเฟยมาได้ไงเนี่ย?” ตะนอยผวาถอยหลัง


แต่อีกฝ่ายคว้าแขนกอดหมับ ไม่ยอมให้ขยับหนี


“เซอร์ไพรส์ไหมล่ะ?”


ผู้ชายคนนี้ตัวสูงกว่าผมไม่เท่าไหร่ หน้าตาออกสวยพอๆ กับพี่หมอจี้ หรือเผลอๆ อาจจะดูสวยกว่าด้วยซ้ำ แต่ให้อารมณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้ามองพี่หมอแล้วนึกถึงภูเขาน้ำแข็ง ผู้ชายคนนี้ก็ให้อารมณ์ประมาณภูเขาไฟนั่นล่ะ


“มากมาย” ตะนอยที่ไม่สามารถสลัดอีกฝ่ายหลุดได้ทำหน้าเซ็งโลกเต็มที


“อ้าว แล้วลื้อมาทำอะไรที่นี่น่ะอาฝู?” ผู้ชายคนนั้นเพิ่งจะสังเกตเห็นคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แม้จะเจาะจงยิงคำถามไปที่พี่ฟงฝู แต่สายตากลับพุ่งตรงไปที่พี่หมออย่างไม่เป็นมิตร


“อั๊วะก็มีธุระบ้างสิ แต่ตอนนี้หมดแล้ว ขอตัวล่ะ” ตอบแล้วก็ทำท่าจะผละออกไป


“แล้วนายมาทำอะไรที่นี่ จิรา คงไม่ได้แอบมาหาอานอยของฉันหรอกนะ” 


ว่าสายตาไม่เป็นมิตรแล้ว น้ำเสียงยิ่งเป็นศัตรูชัดๆ


“เฮ้ยๆๆ ลื้ออย่าพาล เฟยเฟย ไอ้หมอมันมากับอั๊วะเว้ย”


พี่ฟงฝูกับพี่ปอที่กำลังจะออกไปต้องรีบกลับมาล็อคแขนพี่หมอคนละข้างแล้วลากออกไปด้วยกันทันที


“จิ๊ หมอนั่นไม่ได้มาหาลื้อแน่นะนอย?” คนถามตวัดสายตามองคนที่ตัวเองยังไม่ยอมปล่อยแขน พอตะนอยทิ้งตัวนั่งลง ทางนั้นก็ทิ้งตัวนั่งตามโดยไม่ยอมห่างไปไหน


“แหงสิ ทำไมเขาต้องมาหาผมด้วย?”


“อย่าคิดว่าอั๊วะไม่รู้นะว่าลื้อชอบหมอนั่นมาตั้งแต่ ม.ต้น ไม่ใช่ว่าอาศัยช่วงที่อั๊วะไปเรียนต่อแอบคบกันหรอกนะ?”


“บ้าน่า” ตะนอยตอบปัดพลางเหลือบมองต๊อกแต๊กที่เริ่มหน้าซีดลงเรื่อยๆ


“ยิ่งไอ้คนน่ากลัวหัวหงอกๆ นั่นไม่อยู่แล้ว ยิ่งทางสะดวกเลยสิ”


“ถึงเฮียฟ้าจะอยู่หรือไม่อยู่ ระหว่างผมกับเฮียจี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก”


“อย่าให้รู้แล้วกัน อั๊วะไม่ยอมแน่.. แล้วเด็กนี่เป็นใคร?” 


แล้วก็ถึงคิวผมจนได้ ตาเรียวสวยตวัดจ้องผมอย่างเอาเรื่อง


“เพื่อนน่ะ”


“แค่เพื่อน?”


“แค่เพื่อนน่ะสิ ชื่อเพชร ส่วนคนนี้ชื่อแต๊ก” 


“รู้จักกันได้ยังไง?” คนพูดเหลือบมองต๊อกแต๊กแค่แว้บเดียว แล้วพุ่งเป้ากลับมาที่ผมต่อ


“ก็เรียนคณะเดียวกัน” ตะนอยยังทำหน้าที่ตอบคำถามต่อไป สายตาเป็นกังวลก็เหลือบมองต๊อกแต๊กอยู่เรื่อยๆ


“สนิทแค่ไหน?”


“ก็แค่เพื่อนนั่นแหล่ะ ไอ้เปี๊ยกนี่มันมีแฟนแล้วน่า ซึ่งก็ไม่ใช่ผม”


“แล้วแฟนไปไหน ทำไมถึงปล่อยให้มานั่งกินข้าวกับนอย? หรือว่าเป็นหมอนี่?” เขาหันไปทางต๊อกแต๊ก


“เปล่าๆ เพื่อนกัน เพื่อนกันหมดนี่แหล่ะ แล้วเพื่อนจะมานั่งกินข้าวด้วยกันไม่ได้หรือไง?”


“แล้วแฟนเด็กนี่ล่ะ?” ถามไปถามมาก็เหมือนจะวนอยู่ในลูปเดิม


“เขาเป็นนักกีฬา ช่วงนี้อยู่ในช่วงเก็บตัวเลยไม่ว่าง”


“ปกติมานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้บ่อยไหม?”


“ก็ทุกวัน”


“ทุกวัน!”


“เอ้อ ก็เฉพาะกลางวัน ตอนเย็นแบบนี้ไม่ค่อย”


“แค่เพื่อนจริงๆ นะ”


“จริงครับ จริงๆ”


“ก็ดี..” ผู้ชายคนนั้นพักหน้า แต่สายตาที่มองมายังดูไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่


“.........” เหมือนเขากำลังระแวงผิดคน


แต่เอาเหอะ ท่าทางต๊อกแต๊กตอนนี้คงไม่พร้อมจะรับมือใคร งั้นผมจะยอมนั่งเฉยๆ ให้เขาระแวงต่อไปอีกหน่อยก็แล้วกัน..

 





“กูถูกใครสาปเปล่าว้า..” ตะนอยที่ฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะเลกเชอร์ระหว่างรอเรียนคาบแรกบ่นพึมพำ


“หมอนั่นไม่ยอมฟังนายอธิบายหรือไง?” ผมรื้อชี้ทออกมาพลิกหาหน้าที่เรียนค้างไว้


“ไม่ยอมให้อธิบายเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่เมื่อวานเย็นก็ปิดมือถือไปเลย กว่าเฮียเฟยจะยอมปล่อยตัว กว่าจะถ่อไปถึงหน้าบ้านหมอนั่นก็ดึกดื่น แถมเจ้าตัวยังไม่ยอมออกมาให้เจออีก ไม่รู้จะงอนอะไรนักหนา ไม่ใช่ความผิดเราสักหน่อย”


“ก็ไม่ถูก”


“หือ?” ตะนอยเอียงหน้าขึ้นมองผม


“คนเราพอยืนต่างมุม สิ่งที่มองเห็นต้องแตกต่างกันอยู่แล้ว เมื่อเราไม่ได้ไปเห็นอย่างที่อีกฝ่ายเห็น บางทีแค่คำพูดอาจยังไม่พอ..”


“เหรอ.. นั่นสินะ” 


“วันนี้มาแต่เช้าเลยนะเพชร” เพื่อนสนิทต๊อกแต๊กที่ผมจำหน้าได้ดีแต่ลืมชื่อทุกทีเอ่ยทักเมื่อเดินเข้ามาในห้อง


“คุณป๋ารีบมาเคลียร์งานน่ะ” 


ปกติถ้ามีเรียนเช้าขนาดนี้ คุณป๋ามักจะพาผมมาถึงมหา’ลัยแบบเฉียดฉิวทุกที


“หวัดดีเพชร” ต๊อกแต็กเดินมาทิ้งตัวนั่งข้างผมแทนที่จะเป็นข้างตะนอยเหมือนทุกวัน แถมยังทำเป็นมองไม่เห็นคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของผมด้วย


ผมหันไปมองตะนอย หมอนั่นก็ส่งสายตาขอร้องมาทางผม


“ผู้ชายคนเมื่อวานเป็นใครเหรอ?” ช่วยสักหน่อยก็แล้วกัน..


“เฮียเฟย เป็นคนรู้จักตั้งแต่เด็กน่ะ” ตะนอยพูดไปก็เหลือบมองอีกคนที่ทำเหมือนไม่สนใจไป แต่ผมมั่นใจนะว่าทางนั้นกำลังตั้งใจฟังอยู่ 


“อากงเรากับอากงของเฮียเฟยเป็นเพื่อนรักกัน ครอบครัวเราก็เลยสนิทกันไปด้วย รู้จักคุ้นเคยกันหมดทุกคนแหล่ะ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเฮียเฟยถึงได้มาปักอกปักใจอยู่กับเราคนเดียว ทั้งที่ครอบครัวเราก็มีเด็กผู้ชายอีกตั้งหลายคน แล้วก็คอยตามหึงตามหวงจนเรากับคนที่เคยคบกันก่อนหน้านี้จบไม่สวยเลยสักราย”


“ก็ไปม่อเขาเอาไว้น่ะสิ..อ่ะ!” พอรู้ตัวว่าหลุดพูด ต๊อกแต๊กก็รีบตะครุบปากตัวเองไว้ ..แต่ไม่ทันแล้วล่ะ


“เปล่าเหอะ เขามาของเขาเอง” พอเห็นว่าอีกฝ่ายสนใจ ตะนอยก็เริ่มได้ใจ แต่ก็ยังคงรักษาระดับน้ำเสียงไว้ให้ได้ยินกันแค่สามคน


“หน้าอย่างมึงเนี่ยนะจะมีคนสวยขนาดนั้นมาติดพันเอง เฮอะ” ต๊อกแต๊กเบ้ปาก


“หน้าอย่างกูมันทำไม? ก็หน้าอย่างกูไม่ใช่เหรอที่..”


“แล้วไม่เคยปฏิเสธเขาไปหรือไง?” ผมแทรกก่อนที่สองคนนี้จะเริ่มทะเลาะกันข้ามหัวผม


“เคย ขนาดเคยปฏิเสธไปตรงๆ แล้วว่าเราไม่ได้คิดแบบนั้นกับเขา แต่เขาก็ไม่ฟัง จนเราไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน จะให้ด่าแรงๆ ก็ใช่ที่ ยังไงเขาก็เป็นพี่เราหลายปี ยิ่งถ้าอาละวาดขึ้นมาจะยิ่งน่าปวดหัว ..แล้วก็อย่างที่บอกว่าครอบครัวเราสนิทกัน”


“.........” เพราะท่าทางจริงจังด้วยเหตุด้วยผลของตะนอยทำให้ท่าทีของต๊อกแต๊กเริ่มอ่อนลง แต่แววตายังแอบดื้อดึง


“จริงๆ เฮียเขาก็ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ แค่อาจจะมั่นใจในความคิดของตัวเองมากไปหน่อย เลยไม่ค่อยยอมฟังคนอื่นเท่าไหร่ มันพูดยากก็ตรงนี้แหล่ะ”


“ก็ทำให้เขายอมฟังสิ” พอเห็นต๊อกแต๊กอ้าปากเหมือนนึกเหตุผลที่จะเถียงออก ผมก็รีบแทรกขึ้นอีก สองคนมองมาที่ผมจุดเดียว 


“เพราะที่ผ่านมาไม่ได้คิดจะจริงจัง ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าเดือดร้อนเวลาที่ถูกเขามารังคราญจนต้องเลิกราไปใช่ไหมล่ะ?”


“ก็..ใช่” ตะนอยยอมรับ


“เขาเองก็คงเห็นว่านายไม่ได้มีท่าทีเดือดร้อนจริงจัง มันคงเหมือนมองเห็นความหวังล่ะมั้ง ก็เลยยังตามรังควาญมาเรื่อยๆ แบบนี้”


“ก็อาจจะใช่”


“แล้วคราวนี้ล่ะ?”  ผมถามเปิดทางให้


“จริงจัง” ตะนอยตอบหนักแน่น สายตาจับจ้องไปที่ต๊อกแต๊กแบบไม่วางตา จนทางนั้นต้องเป็นฝ่ายหลบตาไปเอง


“งั้นก็ไปดับความหวังเขาซะสิ” ผมพูดลอยๆ


ทั้งต๊อกแต๊กทั้งตะนอยมองผมแบบอึ้งๆ


“เลือกใช้คำพูดได้เลือดเย็นสมเป็นนาย..” ตะนอยพึมพำ


แล้วก็หันประสานสายตาเข้ากับต๊อกแต๊กที่กำลังมองมาพอดี


“ไปกับกูนะ” 


คำขอร้องของตะนอยได้รับริ้วแดงๆ จากแก้มของต๊อกแต๊กเป็นคำตอบ


ก็..เคลียร์แล้วล่ะมั้ง   


“.........” จู่ๆ ผมก็นึกสงสัยว่าตัวเองมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้

 





“ขอโทษค่ะ ใช่น้องเพชรหรือเปล่าคะ?”


หลังเลิกเรียน มีผู้หญิงหน้าตาไม่คุ้นคนหนึ่งมาดักรอผมที่หน้าตึก


“ฮะ” ผมพยักหน้าให้ เธอเดินก้าวเข้ามาหาใกล้ๆ


“ขอเวลาสักครู่ได้ไหม?”


ตากลมโตที่มองมาทางผมเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่ผมไม่อาจเดาสาเหตุ


“.........” ผมกระพริบตามองอีกฝ่ายด้วยไม่เข้าใจเจตนา


“ฉันชื่อขวัญข้าวค่ะ เป็นคู่หมั้นของคุณนนทรี” 


ผมหันไปมองตะนอยที่เลิกคิ้วมองมา แล้วพยักหน้าให้เพื่อนกลับไปก่อน


“งั้นเจอกันพรุ่งนี้” ตะนอยยกมือลา แล้วเดินออกไป


“หึ คราวนี้ไปยุ่งกับคนมีเจ้าของหรือไง เขาถึงได้ตามมาทวงน่ะ” แพตตี้เดินกระแทกไหล่ผ่านผมออกจากตึกไป


“ก็นึกอยู่ว่าจะเป็นเด็กดีของพี่อินได้นานแค่ไหน ออกลายซะแล้วเพื่อนเรา” อรก็ตามไปติดๆ


สองคนนี้ก็ยังหาโอกาสเล่นผมได้เรื่อยๆ ไม่รู้จักเบื่อ


“ทางนี้ฮะ” ผมบอกผู้หญิงแปลกหน้าให้เดินตามมาที่ม้านั่งตัวหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากตัวอื่นๆ พอสมควร


ผมนั่งลง แต่เธอไม่ ยังคงยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าผม แววตามุ่งมั่นเมื่อครู่เริ่มฉายแววสับสน ริมฝีปากเคลือบสีหวานเม้มสนิท สองมือกำแน่นเหมือนกำลังต่อสู้อยู่กับความคิดของตัวเอง ผมเลยนั่งรอเงียบๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพราะใกล้ถึงเวลาที่พี่มักจะโทรหาเป็นประจำทุกวันแล้ว


“ฉัน..” ในที่สุดเธอก็ยอมเปิดปาก


ผมเลยต้องละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มามองคู่สนทนา


“ฉันไม่ยอมแพ้หรอก”


ผมเลิกคิ้วน้อยๆ กับประโยคโดดๆ ที่ไม่มีบริบทแวดล้อมนั่น


“ฉันรักเขา.. และไม่คิดจะยอมแพ้คุณ” เธอจ้องมองผมอย่างคนที่ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว


“.........” โทรศัพท์ในมือผมสั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าใครบางคนได้โทรมาตามเวลาแล้ว ผมก้มมองแต่ยังไม่ได้กดรับ


“ฉันมาเพื่อบอกแค่นี้แหล่ะค่ะ”


ผมเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาอีกครั้ง


“ขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะคะ” เธอค้อมหัวให้ผมเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินจากไปด้วยท่าทางที่ผึ่งผายกว่าตอนมามาก


“.........” ผมเอนหลังพิงขอบโต๊ะ แหงนหน้ามองก้อนเมฆเลื่อนลอยบนท้องฟ้า ปล่อยให้โทรศัพท์ทำหน้าทีสั่นเตือนของมันต่อไป



“พี่นท..”











TBC.   :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2013 21:53:21 โดย White Raven »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สงสารน้องเพชรจัง  ตัวเองไม่ผิดอะไรซักหน่อย
แต่ตกเป็นจำเลยทุกกรณีเลย  เฮ้อ

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
อ่านแล้วก็ถอนหายใจ นิยายเรื่อวนี้ใสมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
ไฟท์ติ้งนะเบ่บี๋

 :กอด1:

ออฟไลน์ PK37

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
รู้เหตุผลแล้วว่าทำไมน้องเพชรปิดความรู้สึกตัวเอง เพราะเรื่องคุณแม่นี่เอง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมคุณแม่ถึงทำอย่างนี้กับน้องเพชร
ตายๆ ตะนอยเกือบตายเพราะเฟยเฟยซะแล้ว ดีนะที่น้องเพชรช่วย ทำให้ต๊อกแต๊กเข้าใจ
และหวังว่าตะนอยกับต๊อกแต๊กจะทำให้เฟยเฟยยอมรับได้ซะที
ชอบพี่ขวัญข้าวอ่ะ มาแบบแมนๆ มาก อยากให้พี่นทรักพี่ขวัญ เพราะอยากให้พี่ขวัญมาสนิทกับน้องเพชร  o18

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sulsul

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
กลับมาได้แล้ววว พี่อินนน
น้องจะตายอยู่แล้วววว

ออฟไลน์ misso

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
อยากให้น้องเพชรเป็นคนยุ่งเรื่องคนอื่นมากกว่านี้ อยากรู้ว่าสองคนนี้ไปปะเหมาะเคราะห์ดีกันยังไง :z3:

ขอบคุณค่ะ รักน้องเพชรซำเหมอ ฮิๆ  :-[

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
ลุ้นน้องเพชรกับพี่อินสจจะขาดแล้ว :z10:
 :pig4:

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ไม่น่าาาาาาาาาาา น้องเพชรอย่าไปหวั่นไหวกับพี่นทนะคะะะ เดี๋ยวพี่อินเสียใจนะะะะะ

ออฟไลน์ eastwind

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
อยากให้น้องเพชรชอบจุ้นเรื่องคนอื่นเพิ่มอีกสักนิ้ดดดนึง

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
ดีใจนะที่น้องเพชรให้คำแนะนำเพื่อน
อย่างน้อยก็เป็นการแสดงว่ายังใส่ใจเพื่อน
ไม่ได้ไร้ความรู้สึก  o13

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
เมื่อไหร่น้องเพชรจะมีความสุขจริงๆสักที

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ตะนอยงานเข้าแล้ว  :z2:

แล้วจะดูว่าน้องเพชรจะบอกพี่นทเรื่องที่ขวัญข้าวมาหารึเปล่า

+1 ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
พี่อิน เวลาอย่างต้องพี่อินเท่านั้น  :กอด1:

snice_cz

  • บุคคลทั่วไป
ตะนอยงานเข้าแล้ว ลุ้นน้องเพชร !!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
ตะนอย ต๊อกแต๊ก !!!!!!!!! อยากรู้เรื่องสองคนนี้อะ 55555555

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
อดีตน้องเพชรกับคุณแม่ช่างหนักหน่วง มันจะไม่มีพีคอีกใ่ช่มั้ยคะเนี่ย
คิดถึงพี่อินมากอ่ะ... นอยต้องเด็ดขาดนะไม่งั้นจะไม่ได้ซักคน
พี่เฟยเฟยดูรุกและจริงจัง

 :pig4:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
นึกว่าพี่อินจะโทรมา .....

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เพชรอยู่เฉย ๆ ก็ยังมีปัญหาวิ่งเข้ามาไม่หยุด ไหนจะปัญหาตัวเอง ปัญหาชาวบ้าน
ตะนอย-ต๊อกแต๊กจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสินะ เชียร์นะจ๊ะ คนเขียนหาคู่ให้เฟยเฟยด่วน
ขวัญข้าวดูเป็นคนดีพอสมควร ทำให้พี่นทมีความสุขทีเถอะ พี่แกน่าสงสาร

ออฟไลน์ BeauBeeiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ตอนที่น้องเพชรไกล่เกลี่ย ตะนอยกับแต๊กนี่แอบฮานะ ,, มานั่งทำอะไรตรงนี้ ชอบอ่ะ :impress2:

สำหรับความรัก ,, รักแล้ว ต่อให้เลิศมาจากไหน ฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอก! o13

ขอบคุณนะค่ะ  :bye2:

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
เอาใจช่วยเพรชนะ
เป็นคนที่มีปัญหาเข้ามาตลอดเลยอ่ะ
ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
รักและสงสารพี่นท......จับใจ!!!!!!!!!

 :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
คุณแม่น่ากลัวอะ สงสารน้องเพชร

นอย ต๊อกแต๊ก is real มากกก กรี๊ดด  :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด