[เรื่องสั้น] ::อยากให้ลมหนาวพัดมาอีกครั้ง...(When the winter comes):: (ตอนจบ+บทส่งท้าย)19 ธันวา 55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ::อยากให้ลมหนาวพัดมาอีกครั้ง...(When the winter comes):: (ตอนจบ+บทส่งท้าย)19 ธันวา 55  (อ่าน 18257 ครั้ง)

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
แปะกฎก่อน กันลืม  o13 o13 o13


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2012 01:11:28 โดย จากต้นจนอวสาน »

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
พูดคัยกันก่อนนะครับ... สวัสดีหน้าหนาวอันแสนร้อนครับ
ไม่รู้ว่ากรุงเทพจะได้สัมผัสลมหนาวมั้ยนะปีนี้ เพราะมันร้อนๆๆๆจนแสบตัวไปหมด
แต่ผมน่ะเหรอ...แอบหนีร้อนไปเที่ยวเหนือมา หนาวได้ใจจริงๆครับ อยากไปอยู่เหนือมากๆเลยตอนนี้

เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นเรื่องที่ 2 ของผมครับ ทีแรกว่าจะไม่เขียนหรอก
เพราะมันเป็นเรื่องสั้นที่เอาส่วนหนึ่งมาจากชีวิตจริงของผมเอง (แต่ผมไม่บอกหรอกว่าส่วนไหน 555)
ผมพยายามจะเขียนให้มันซึ้งๆ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำสำเร็จมั้ยนะครับ
เอาเป็นว่า ขอฝากผลงานชิ้นใหม่ของผมด้วยนะครับ


เรื่องที่ผ่านมา

1.  One More Night :: บังเอิญรัก โดยตั้งใจ  >>> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=35929.0
2. รสมือหมอนวด : Oh! My Sassy Boy [เรื่องสั้นจบในตอน] >>> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36067.0




จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้ลมหนาวพัดมาอีกครั้ง... When the winter comes

ตอน 1
          ผมรีบบึ่งรถไปสนามบินทันทีหลังได้รับโทรศัพท์จากพี่ชายว่าพ่อล้มเข้าโรงพยาบาลที่อ.ฝาง ก่อนที่จะทรุดและต้องส่งตัวด่วนมาที่ตัวเมืองเชียงใหม่ พ่อเจ็บออดๆแอดๆอยู่แล้วจากโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ยิ่งหน้าหนาวแบบนี้ เหมือนอาการจะยิ่งแย่ ผมร้อนรน ทิ้งงานทั้งหมดและบินไปเชียงใหม่...

         เล้าจน์หรูของสายการบินไม่ค่อยมีคนมากนัก คงเป็นเพราะห้องนี้สำหรับลูกค้าวีไอพีเท่านั้น นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสองราย นักธุรกิจใส่สูทผูกไทเต็มยศอีก 1 คน ผม และผู้โดยสารอีกคนที่นอนเอานิตยสารปิดหน้าไว้ ไฟลท์เช้าๆแบบนี้ถ้ารีบออกมาก่อน เราจะมีเวลาได้นั่งพัก ผมบินไปกลับกับสายการบินนี้เป็นประจำจนมีไมล์สะสมบินไปทั่วโลกได้แล้วกระมัง

“สวัสดีค่ะ” พนักงานต้อนรับเสียงหวาน “จะรับอาหารเช้าเลยมั้ยคะ”

ผมพลิกเมนูไปมา เลือกเมนูโปรด “ขอเกี๊ยวน้ำที่นึงครับ”

“รับกาแฟเพิ่มมั้ยคะ”

“ดีครับ ขอบคุณมากครับ...อ้อ ขอบะหมี่เป็ดด้วยครับ” พนักงานพยักหน้ารับคำ ผมเดินมาตักของกินเล่น

วันนี้มีขนมมากหน้าหลายตา ทั้งเค้ก แซนวิช ข้าวต้มมัด ผมตักมานิดๆหน่อยๆ พออิ่ม

พอนั่งในเครื่องคงหลับยาวเลยแหละ...

              ลืมแนะนำตัว ผมชื่อเมย์ครับอายุ 27  ปี เป็นชาวเชียงใหม่แต่กำเนิด ตอนนี้ทำงานที่กรุงเทพ ก็แค่รับส่งผลไม้จากสวนพ่อมาขายต่อ ผมมีหน้าที่ดูแลเรื่องกระแสเงินสด การกระจายของและหาสินค้ามาขายไม่ให้ขาดตลาด ส่วนใหญ่ก็เอามาจากสวนตัวเองทั้งนั้น แต่ดีหน่อยตรงที่ผมไม่ต้องไปลงมือทำเอง เพราะที่สวนมีพี่ชายผมอยู่แล้ว พี่มาก (แกชอบให้เรียกมาร์ค ตามเพื่อนๆที่อังกฤษเรียก) เป็นคนดูแลอยู่ แกเรียนจบอินเตอร์บิสซิเนสจากอังกฤษ แต่สุดท้ายก็มาลงหลักปักฐานทำสวนช่วยที่บ้าน ก่อนกลับก็พ่วงแหม่มออสเตรียมา 1 คนหน้าตาสละสวยพร้อมกับลูกน้อยในท้อง นั่นเป็นครั้งแรกที่พ่อผมเป็นลม และก็เป็นครั้งแรกที่เรารู้ว่าสุขภาพของท่านไม่แข็งแรง จากวันที่พี่มากกลับมาจนวันนี้ก็เกือบ 10 ปีแล้วนะครับ ตอนนี้แกก็อายุ 33 แล้ว น้องไมร่าก็เริ่มโตเป็นสาวสวยซะด้วย ผมเพิ่งรู้ข่าวไม่นานนี้เองว่าพี่สะใภ้ก็กำลังจะมีลูกชายให้แกอีกคน แฮปปี้แฟมมิลี่จริงๆ

               ส่วนผมน่ะเหรอ ผมน่ะ เกย์ทั้งแท่งครับ รู้ตัวเองมาตั้งแต่เด็กว่ามีเมียเป็นเพศตรงข้ามไม่ได้ ผมหลงไหลในสรีระร่างกายของผู้ชายมาโดยตลอด สมัยก่อนสื่อต่างๆยังไม่เยอะเท่านี้ ชายรักชายสมัยก่อนต้องเก็บเงียบ แต่ผมปล่า ถึงแม้สื่อจะน้อย แต่ผมก็มีสิ่งยั่วยุตั้งแต่เด็ก สวนติดกับผมมีลูกชายคนนึงครับ เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยชื่อว่า ภิวัฒน์ ชื่อเล่นว่า พีท (จริงๆชื่อว่า พีซที่มาจากคำว่า มาสเตอร์พีซ เพราะเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เจ้าตัวไม่ชอบ เลยให้เรียกว่าพีทแทน) ครอบครัวเราเขม่นกันตั้งแต่ผมจำความได้ แต่เราสองคนก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จนวันหนึ่งเมื่อตอนผมอายุ 10 ขวบ พีทก็หนีออกจากบ้านมาเพราะทนเสียงทะเลาะของพ่อกับแม่ไม่ไหว ผมให้เขามานอนด้วย...

   เรานอนด้วยกันตามประสาเด็กๆครับ แต่ไม่นาน พีทก็มากอดผม แล้วถามผมว่า

“เมย์อยากรู้มั้ย ว่าผู้ใหญ่เค้าทำอะไรกันในตอนกลางคืน”

“ไม่รู้ เค้าทำอะไรกันเหรอ” ผมก็ซื่อๆใสๆอะครับ ก็คนมันไม่รู้จริงๆนี่นา

“อยากรู้มั้ย”

“อืม” ผมรับคำ

“งั้นเราจะโชว์ให้ดู เมย์ห้ามขัดนะ” แล้วเค้าก็เลิกเสื้อผมขึ้น โลมเลียที่หน้าอกเล็กๆของผม

“อ๊ะ พีท ทำอะไรน่ะ” ลิ้นน้อยๆบรรเลง ขบและดูดเหมือนอมลูกกวาด

“กำลังโชว์ให้ดูไง”

“แล้วพีทไปรู้มาจากไหน” ผมถาม

“เราแอบเห็นคนงานที่บ้านเค้าทำกันแบบนี้ พอเสร็จก็หัวเราะคิกคักเลย”

“มันสนุกเหรอ”

“คงจะสนุกแหละ ไม่อย่างนั้นเค้าจะหัวเราะทำไม” พีทดึงกางเกงผมออก แล้วครอบจู๋น้อยผมไว้

“อา...ดีจัง” ผมคราง

“เมย์ทำให้เราด้วยสิ” แล้วเค้าก็ยืนแท่งกระจุ๋มกระจิ๋มมา ผมอ้าปากรับ เราผลัดทำให้กันจนเหนื่อย...

“เมย์ สนุกมั้ย”

“เหนื่อย แต่สนุกดี มันรู้สึกแปลกๆ ขนลุก” ผมตอบ

“ยังมีสนุกกว่านี้อีกนะ”

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
“ยังไงอะ” ผมตาลุกวาว

“เมย์นอนคว่ำลงก่อน” ผมทำตาม “ยกตูดขึ้นมา...แยกๆขาหน่อย”

พีทน้อยๆค่อยๆดันเข้ามาในตัวผมครับ มันไม่เจ็บเลย กลับรู้สึกแปลบๆเสียวๆ

“อ๊ะ เจ็บ...” กลับเป็นพีทซะอีกที่บ่นว่าเจ็บ (มานึกตอนนี้ว่าทำไม....สงสัยเพราะตอนแทรกเข้ามันโดยไม่มีอะไรหล่อลื่นมันจะถูกเสียดสี ของฝ่ายรุกจะโดนเต็มๆ มันเลยทำให้เจ็บ)

“พีท พอก่อนก็ได้” ผมปราม

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่เจ็บแล้ว ดูสิ มันเข้าไปหมดทั้งอันเลย”

“สนุกดีจัง” ผมบอก

“เดี๋ยวเราลองขยับดูนะ” แล้วพีทก็ขยับบั้นท้ายเด้งเข้าออก ผมรู้สึกตื่นเต้นกับสัมผัสแปลกใหม่นี้มาก...

สุดท้ายพีทก็กระตุกและล้มพับลงไป ไม่มีน้ำใดๆออกมา พวกเราหอบทั้งคู่...

“เมย์ทำให้เราบ้างสิ” ผมจัดท่าพีทแบบที่เขาทำ สอดแทรกของตัวเองเข้าไป

“เจ็บ..เมย์ไม่ทำแล้ว” ผมดึงออก นอนกอดเค้า...ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่คิดที่จะรุกใครอีกเลย

นับจากวันนั้นพีทก็แอบมานอนค้างกับผมบ่อยๆ ผลัดกันนั่ง ผลัดกันนอนจนกลายเป็นเรื่องปกติของพวกเรา

“ความลับของเราสองคนนะ...” พีทบอก “เมย์ห้ามบอกใครนะ ไม่อย่างนั้นเราจะเล่นแบบนี้กันอีกไม่ได้” ผมพยักหน้า

ตอนนั้นผมไม่อยากให้เราสองคนหยุดการละเล่นแบบนี้เลย...

         จนกระทั่งเราอยู่ม.ต้น ครอบครัวพีทเริ่มมีปัญหาหนักข้อขึ้น พ่อมีเมียน้อยและพาเข้าบ้าน ไม่นานพีทก็มีน้องชายคนใหม่
พีทเริ่มเกเรตามประสาวัยรุ่น ไม่มาหาผมเหมือนเดิม พอม.2 พีทก็มีแฟนเป็นสาวสวยของโรงเรียน
ตอนนั้นพีทเป็นนักกีฬาด้วย ทั้งหล่อและเล่นกีฬา ถึงแม้การเรียนของพีทจะไม่ดี แต่ก็ไม่ทำให้ความนิยมในตัวเขาลดลง
ผิดกับผม หน้าตาผมธรรมดามากๆ เป็นแบบชาวเหนือขนานแท้ หน้าขาวๆเคราเยอะ คิ้วหนาเป็นปื้น
ตาโตคมเข้ม ถ้ามองแยกเป็นส่วนๆจะดูดีมากๆ แต่พอประกอบลงหน้าผมแล้ว...ทำไมไม่หล่อเลยวะ
แต่ผมเรียนเก่ง ผมถีบตัวเองให้อยู่จุดสูงสุดทางด้านนี้ เพื่อประชดพีท เพื่อให้เขารู้ว่า เราอยู่คนละขั้วกันแล้ว

ผมเสียใจได้ไม่นาน คืนฝนตกคืนหนึ่งตอนที่เราอยู่ ม.3 พีทก็มาหาที่ห้องด้วยสภาพเปียกโชก

“เห้ย...พีท มาได้ไง” ผมตกใจ แต่ผมรู้อยู่แล้วว่าเขามาได้

            บ้านผมเป็นบ้านไม้ทรงไทย แต่ด้วยพื้นที่เปิดโล่ง ชั้นบนจึงแม่ห้องแค่ 2  ห้อง คือห้องพ่อแม่กับห้องพี่
แต่ก่อนผมจะนอนห้องพี่มาก เพราะแกเป็นโรคขี้กลัว นอนคนเดียวไม่ได้เลยนอนกับพ่อแม่ พอโตหน่อยก็มาแย่งห้องผม
พ่อเลยเทพื้นด้านล่างและทำเป็นห้องใหม่ 2 ห้อง 1 ในนั้นคือห้องนอนผม...

นี่ถ้าพีทมันเดินขึ้นด้านบน แล้วเจอพี่ผมล่ะ...

“เมย์...” มันทำหน้านิ่ว เหมือนพยายามกลั้นอะไรบางอย่าง

“อย่าเพิ่งพูดอะไร เช็ดตัวก่อน” ผมยื่นผ้าเช็ดตัวให้ “เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย เดี๋ยวไม่สบาย”

เสียงลมและฝนกรรโชกด้านนอกกลบเสียงต่างๆมิด แต่ผมได้ยินเสียงมันร้องไห้โฮอย่างชัดเจน

“เห้ย พีท เป็นอะไรไปวะ” ผมละล่ำละลักถาม

“เมย์ กูจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วนะ...พ่อกับแม่กูจะหย่ากัน กูต้องไปอยู่ขอนแก่นกับแม่”

ผมตกใจแกมใจหายแว้บ มันไม่ได้มาบ้านผม 3 ปีได้ และครั้งนี้เหมือนจะมาบอกลา...

น้ำตาพาลจะไหล...

“เออ อย่าพูดอะไรมากเลย เช็ดหัวให้แห้ง” ผมขยี้ผ้าเช็ดตัวกับผมหนาๆของมัน

มันเงยหน้ามา ดวงตาดำขลับนั้นหม่นหมอง ใบหน้าขาวซีดสะท้อนแสงฟ้าแลบในความมืด

“เมย์ กูขออะไรมึงหน่อยได้มั้ย” ผมสบตามัน ใบหน้าเรียวยาวรับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน

“อะไรวะ”

มันไม่ตอบ แต่คว้ามือผมไว้ โยนผ้าเช็ดตัวทิ้ง...แล้วก็จูบผม

รสจูบที่เคยค้างคาในความทรงจำกลับมาหาผมอีกครา คราวนี้มันเศร้าสร้อย อ้อยอิ่งและวาบหวาม...


จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
มันปลดกระดุมชุดนอนผมออกทีละเม็ด ดึงกางเกงผมออกและขว้างมันทิ้ง...

“เมย์...กูไม่เคยลืมมึง...กูลืมมึงไม่ได้” มันพร่ำเพ้อ ผมนอนราบลงกับพื้น ในใจก็ร่ำร้องหารสสัมผัสจากมันมาโดยตลอด

“พีท...มึงมีแฟนแล้วนะ”

“กูรู้...แต่กูก็หยุดคิดถึงมึงไม่ได้” มันพรมจูบใบหน้า ซอกคอผม ลงลิ้นกับหน้าอก เม็ดไตสีชมพูของผมสะดุ้งรับรสสัมผัสนั้น
สองมือผมกระชากเสื้อของมันออก กล้ามเนื้อวัยรุ่นนักกีฬาเกร็งกระชับเมื่อผมลูบไล้หน้า รักแร้และหน้าอกของมัน...

“แล้วมึงหายไปไหนมา” ผมถาม

มันดึงกางเกงในผมออก ใช้ปากทำอย่างอื่นแทนการตอบคำถาม

“อา พะ พีท...เสียวววว” ผมร้องคราง มันได้ใจดูดหนักกว่าเดิม

“ทำให้กูด้วยสิ” มันกลับตัวจ่อเจ้าโลกของมันตรงหน้า

            ผมจ้องมันด้วยความโหยหา...นี่คือสิ่งที่อยู่กับผมมาตลอด 3 ปี...และมันก็จากผมไป 3 ปีจนกระทั่งวันนี้
มันใหญ่ขึ้น แกร่งขึ้น ความดุดันตามประสาวันรุ่นทำให้มันแปลกตาไปบ้าง แต่มันก็คืออันเดิมที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ผมใช้ปลายลิ้นแตะตรงหัวบาน มันผงกรับดั่งกับรู้ว่าได้กลับบ้าน ก่อนที่พีทจะดันเข้ามาทั้งหมด...
ดุ้นดุนดันเข้าออกตามแรงกระเด้งของเจ้าตัว พีทขยับสะโพกเป็นจังหวะ ปากของเราเคลื่อนไหวขึ้นลง...
เขาดูดแน่นขึ้น ทึ้งมันราวกับว่าจะให้มันหลุดออกจากตัวผม

“พีท อ๊า เสียว...อย่า อย่าแรงแบบนั้น โอว๊ ... อะ อะ...อ๊าๆๆๆ” ผมทนต่อไปไม่ไหวหลั่งออกมาในปากเขาจนหมด

และยิ่งแปลกใจที่พีทไม่ถอนปากออก แต่ครอบไว้ดูดดื่มจนเกลี้ยง...ผมหมดแรง

“เมย์...” มันเรียกผม

“หืม..”

“กูขอทำแบบเดิมนะ” มันบอก ผมรู้ว่าแบบเดิมคืออะไร เพราะมันเป็นความลับของเรา

“อืม...”

พีทนอนหงาย ผมชอบให้มันนอนท่านี้ที่สุด

ฝ่ามือของมันประสานช้อนหนุนหัว ชาชันพอประมาณและเผยเห็นให้ตัวมันทั้งหมด

“กูขอทำแบบเดิมนะ” ผมบอกมัน...ผมมองดูความเข้มแข็งที่ใหญ่โตขึ้นกว่าเดิม มันแกร่งและพร้อมแล้ว

“เดี๋ยว อย่าเพิ่ง มึงวาสลีนมั้ย” มันทัก

“มีๆ กูเอาไว้ทากันปากแตก” ผมลุกไปที่โต๊ะ เปิดลิ้นชักและค้นหา...ในที่สุดผมก็เจอ...

“เอามาทำอะไร” ผมถาม

“ทามันตรงนั้น” มันชี้ที่ท่อนเอ็นของตัวเอง “ทาให้ชุ่มเลยนะ”

ผมป้ายวาสลีน ชะโลมทั่วลำ “พอแล้ว ลงมาเถอะ”

ปรกติสมัยเป็นเด็ก เราจะทำกันแบบนี้เป็นปกติ ไม่ต้องหล่อลื่น แต่ทำกันสนุกๆ ต่างก็ไม่คิดอะไร

แค่มันนอนหงาย ผมก็นั่งลงไป มันจะกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บจากการเสียดสี แต่ผมกลับรู้สึกดี...

ผมหย่อนบั้นท้ายตัวเอง ให้ท่อนเนื้อมันประชิดรู

แล้วผมก็นั่งทับไปสุดแรง

“โอ๊ยยยยยยยยยยย!!” ผมตกใจร้องลั่น เชี่ย!! ทำไมมันเจ็บอย่างนี้วะ น้ำตาคลอเลย

ผมยกสะโพกขึ้น ก่อนที่จะสุดทั้งลำ ไอ้พีทก็คว้าเอวผมไว้ แล้วดึงมันลงจนสุดอีกที

“อ๊ากกกกก ไอ้พีท กูเจ็บ” ผมประท้วง “เชี่ย ทำไมไม่เหมือนเดิมวะ ทุกทีไม่เห็นเจ็บ”

“อย่าเพิ่งดิ้น อยู่เฉยๆก่อน” มันบอก “จะไม่เจ็บได้ยังไง เล่นนั่งทับทีเดียวมิดลำ” ผมสูดปากด้วยความเจ็บ

“แล้วของกูก็ใหญ่ขึ้น ของมึงยังใหญ่ขึ้นเลย” มันเอื้อมมือมาจับคลึงน้องชายที่แห้งเหี่ยวของผม

สงสัยมันหดตอนสัมผัสแรกเสียบ...

“กะ กูเจ็บ...เอาออกก่อนได้ไหม” ผมพยายามขยับ แต่มันไหวตัวตาม “อ๊ะ อย่าเพิ่งขยับ เชี่ย อวู๊!!”

ไอ้พีทดึงตัวผมไปจูบ คราวนี้มันสอดลิ้นเข้ามา ริมฝีปากบดกัน เสียงดูดลิ้นจ๊วบจ๊าบ


จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
ประสาทสัมผัสผมตื่นตัว ขนลุกสะท้าน น้องชายเริ่มพองและเสียดสีกับหน้าท้องมัน

สองมือมันจับที่สะโพกผมไว้ ค่อยๆยกขึ้นและกดลงช้าๆ บั้นเอวเด้งสอดใส่เบาๆ

ผมได้แต่ครางอู้อี้ เพราะปากถูกประกบไว้...จนผมทนไม่ไหว ถอนปากออกเพื่อควานหาอากาศ

“กูขยับล่ะนะ” มันบอก แต่ไม่ปล่อยให้ผมเตรียมตัว เมื่อมันยกตูดผมขึ้น รูคับรูดเสียดสีกับท่อนแข็ง

มันเด้งเอวใส่ประกบกับกระชากเอวผมลง ตึบ! ตับ!!

เสียงลมด้านนอกกลบทุกอย่างได้หมด ยกเว้นเสียงป๊าบๆจากการกระทบกันของเรา

“อา เมย์ แน่นโคตร ฟิต...ตอดดีชิบ...” ผมหน้าเหยเก ความเจ็บในตอนแรกเริ่มหายไป กลับกลายเป็นความแปลกใหม่เข้ามา

“อา พีท เสียว โอยยยยย อา ช่วยกูด้วย กูจะขาดใจตายแล้ว ทำไมมันเสียวแบบนี้”

พีทกระเด้าถี่ๆ ซอยมิดลำถี่ๆเน้นๆ “กูขอแช่ในรูมึงนะ” มันกระซิบ

มันกระแทกตัวจังหวะสุดท้าย บั้นท้ายกระตุกและพ่นลาวาออกมาในตัวผมจนหมดสิ้น...

ผมชักของตัวเองต่อโดยที่ของมันยังแข็งคาอยู่ ไม่นานผมก็สุขสมไปกับมัน

เรานอนด้วยกันอีกสักพัก น้องชายของมันไม่มีทีท่าจะหดตัว

“เห้ย พีท...เอาออกก่อน กูเจ็บ”

“ขอคาไว้ก่อนได้มั้ยเมย์...ให้มันได้อยู่ในที่ของมันก่อน” มันอ้อน

“มึงจะไปวันไหน...” ผมถาม

“จบเทอมหน้าก็ไปเลย” มันบอก “กูจะไปต่อม.4 ที่ขอนแก่น”

ผมใจหายวาบ “เราจะได้เจอกันแบบนี้อีกไหม”

“กูไม่รู้ว่ะ”

“ไม่รู้ได้ไง บ้านมึงก็อยู่แค่นี้”

“กูกลัวว่ามึงจะไม่ต้อนรับกูอีกแล้ว...เมื่อกี้กูยืนตั้งนาน เกือบจะล้มเลิกความตั้งใจมาหามึง”

“แต่มึงก็มา...” ผมหันหน้าไปมองมัน “กูดีใจนะ” มันจูบผม

“เมย์...กูขออีกยกนะ” ผมไม่ตอบ นอกจากพลีกายให้มันเชยชมอีกหลายต่อหลายครั้ง...

จนใกล้เช้า..รอบที่เท่าไหร่แล้วผมก็จำไม่ได้ ฝนหยุดไปแล้ว เสียงผู้คนไกลๆเอะอะ

ผมหรี่ตา แต่ด้วยความง่วง ผมลืมตาไม่ขึ้น จนกระทั่ง...

ตัวผมถูกกระชากอย่างแรง เสียงผู้คนโหวกเหวก

“ไอ้ลูกชั่ว” พ่อไอ้พีท “ไอ้คนไม่รักดี” มันโดนจบหน้าฉาดใหญ่

“มึงจะคบใครกูไม่ว่า แต่อย่ามาเกลือกกลั้วกับคนในครอบครัวนี้”

เสียงแม่ไอ้พีทร่ำไห้หนัก เข้ามาโอบกอดลูกชายไว้ ผมจะพุ่งไปหา แต่ก็ถูกพ่อกับแม่ดึงไว้เหมือนกัน

“พวกมึงออกจากบ้านกูไปเลยนะ อย่าเอาความจัญไรมาปล่อยที่นี่อีก” พ่อผมตะโกนไล่

“ไอ้มาก มึงเอาที่นอนน้องมึงออกไปเผา อย่าให้หลงเหลือความอุบาทว์แถวนี้อีก”

“พ่อ!!”

“เงียบ! ไอ้ลูกไม่รักดี สมสู่กับผู้ชายก็ก็ช้ำใจพอแล้ว แต่นี่ดันเป็นลูกชายไอ้เชี่ยนี่...”

“ลูกกูแล้วเป็นไงวะ ลูกมึงวิเศษมาจากไหน”

“พอแล้ว!!” พีทตะโกน “พ่อจะด่าเค้าทำไม เมย์ไม่ผิด ผมเอง ผมเข้ามาหามันเอง ผมรักมัน..”

ฉาด!!  มันโดนพ่อมันตบล้มกลิ้ง ถูกประเคนด้วยเท้าอีกนับไม่ไหว

“เพ็ญ เอาลูกมึงออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้” พ่อผมประกาศิต ลึกๆแล้วพ่อก็สงสารเด็กไม่อยากให้ถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้

แล้วป้าเพ็ญก็พาไอ้พีทนั่งรถไปขอนแก่นในวันนั้นเลย...นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน...




จบตอน...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2012 18:40:37 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เรื่องเศร้านะเนี่ย จะดราม่าไหมอ่ะ สงสารเมย์จังเลย

คือเรื่องนี้เดี๋ยวเมย์ก็จะได้เจอกับพีทแล้วแยกจากกันอีก และมาเจอกันอีกทีที่ลมหนาวมาเยือน ตามชื่อเรื่องป่ะ

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องเศร้านะเนี่ย จะดราม่าไหมอ่ะ สงสารเมย์จังเลย

คือเรื่องนี้เดี๋ยวเมย์ก็จะได้เจอกับพีทแล้วแยกจากกันอีก และมาเจอกันอีกทีที่ลมหนาวมาเยือน ตามชื่อเรื่องป่ะ


ต้องติดตามนะครับ เรื่องนี้แต่งเสร็จแล้ว คืนนี้จะเอามาลงจนจบครับ  :bye2: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ใส่กุญแจล็อกห้องให้แน่นหนาก่อนxxx

 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อตามสัญญาแล้วนะครับ....

ตอนที่ 2

              ผมจัดการกับอาหารคาวหวานตรงหน้า ความหิวไม่ปราณีตัวผมจริงๆ...หลายคนคงอยากรู้ ว่าผมมีชีวิตต่อยังไงหลังจากนั้น ... ไม่มีอะไรเลยครับ พ่อปิดข่าวเงียบ ฝั่งบ้านไอ้พีทก็ด้วย คงเพราะอาย แต่ผมก็เลยถือโอกาสนั้นบอกทางบ้านไปเลยว่า ผมไม่ชอบผู้หญิง พ่อกับแม่ผมก็บังคับอะไรไม่ได้ เพราะช่วงเดือนแรกๆที่ไอ้พีทย้ายออก ผมร้องไห้และซูบผอมไม่เป็นผู้เป็นคน เป็นแบบนั้นอยู่จนจะจบเทอมสุดท้ายของม.ต้น ผมก็ได้พบกับแฟนใหม่...

               พี่เน็ตเป็นนักเรียนชั้น ม.6 สูง โปร่ง ขาว ตี๋ เรียนดี กีฬาเยี่ยม...เราสนิทกันเพราะทางบ้านผมจ้างพี่เค้ามาเป็นติวเตอร์ ให้ผมที่เรียนไม่รู้เรื่องเลยเพราะมัวแต่เสียใจที่ไอ้พีทจากไป แรกๆผมก็ไม่เรียน ประท้วงไปทั่ว แต่พี่เน็ตก็อดทนกับผมอย่างมาก ไม่นานผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แกฟัง ทีแรกพี่เขานิ่ง คงเพราะอึ้ง...แต่ไม่นานนักพี่เขาก็มาแนวใหม่ จับมือถือแขนผมตลอดเวลาที่สอน บางทีก็โน้มตัวมาหอมแก้มเวลาที่ผมทำโจทย์ถูกต้อง บ่อยครั้งเข้ามันก็ก่อตัว แล้วผมก็นอกใจไอ้พีท...
   
            กาแฟส่งกลิ่นหอมกรุ่น...เสียงข้อความมือถือดัง “อยู่เชียงเวแล้ว กำลังจะไปรับที่สนามบินแล้วนะ เดี๋ยวเจอกัน...เน็ต” ผมอมยิ้ม หลายคนคงยิ้ม คิดว่าผมกับพี่เน็ตคบกันอยู่ 

เปล่าครับ

            เราคบกันได้แค่ 4 ปี จนผมมาเรียนที่กรุงเทพ พี่เขาเริ่มทำงานที่เชียงใหม่ ความไกลมันก็เป็นอุปสรรค อีกอย่างหนึ่ง ผมเจ้าชู้ หลงไหลได้ปลื้มมากๆกับคนหล่อๆ เลยเปลี่ยนแฟนตลอด แต่ผมกับพี่เน็ตก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน แกแต่งงานแล้วครับ กับเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยหลังเรียนจบ ใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่ที่บ้าน วันนี้พี่มากไม่ว่างเพราะวุ่นวายกับที่สวนและเรื่องพ่อ พี่เน็ตเลยอาสามารับผมเอง...

                เสียงประกาศขึ้นเรียกผู้โดยสารดังมา ผมวางกาแฟลง ผู้โดยสารคนอื่นๆทะยอยเดินออกไปแล้ว ผมลุกเดินผ่านผู้ชายที่นอนบนโซฟา เขางัวเงียๆและตื่นตามเสียงปลุกของพนักงานที่มาเขย่าตัว ผมเห็นเขาแค่ซีกเดียว หล่อดีแฮะ...ว้าว...ขอให้นั่งติดกันด้วยเถอะ! ผมภาวนาในใจ...หน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนซักที่ สงสัยเป็นนายแบบหรือไม่ก็ดารา หน้ายังกับพี่เวียร์ ผมไม่สนใจ รีบเดินไปขึ้นเครื่องทันที...

                 ผมไม่มีสัมภาระติดตัวมาเลยด้วยความที่รีบมา คว้าได้แค่กระเป๋าตังค์ ไอแพด มือถือแค่นั้น พอถึงที่นั่งผมก็เหม่อออกไปนอกหน้าต่าง สนามบินสุวรรณภูมิยามเช้ารับแสงแดดจ้าในเดือนธันวาคม ผมสัมผัสได้ถึงไอร้อนรางๆ นี่หน้าหนาวจริงหรือเปล่าวะเนี่ย! ผมนึกถึงวันเก่าๆ 12 ปีผ่านไปที่ไม่ได้เจอกับพีทมันช่างยาวนาน ผมรู้จักกับมันมาครึ่งชีวิต และมันก็หายจากชีวิตผมไปอีกเกือบครึ่งค่อนที่เหลือ ซากความทรงจำมันผุกร่อนและเริ่มเจือจางไปกับกาลเวลา 

“อยู่บนเครื่องแล้วนะ...ถึงแล้วจะโทรหา” ผมส่งข้อความในโปรแกรมไลน์หาใครคนหนึ่ง...

“OK” เขาตอบกลับมาสั้นๆ สงสัยจะหลับอยู่ ก่อนผมออกมาเขาก็อาสามาส่ง แต่เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย ผมเลยขับมาเอง

เก้าอี้ติดกันทรุดฮวบตามน้ำหนักคนนั่ง ผมมองหน้าครึ่งซีกของเขา

อ๊ะ! หนุ่มหล่อคนเมื่อกี้นี่นา คนที่นอนเอานิตยสารปิดหน้าไว้

ผมลอบมอง แล้วเขาก็หันหน้ามา...มันคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก

แล้วเขาก็พูดขึ้น... “เมย์ เมย์ใช่มั้ย” ผมงง

“ครับ คุณรู้จักชื่อผมได้ไงอะ” ผมถาม

เขาไม่ตอบ คว้าผมไปกอดหมับ

“เมย์ กูเอง...พีท” เศษซากความทรงจำกลับมาประติดประต่อในใจผมอย่างรวดเร็ว....

ผมไม่เชื่อหูตัวเอง อ้อมกอดแกร่งและเสียงหัวใจเต้นรุนแรงรัดผมไว้

“พะ พีทเหรอ”

“อืม” เขาไม่คลายอ้อมกอด จนผมต้องผลักออก

                ผู้ชายตรงหน้าผมเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะ แต่ความหล่อของมันไม่เคยลดลงเลย กลับยิ่งเพิ่มตามอายุที่มากขึ้น รอยย่นที่หางตาบ่งบอกความยาวนานของการใช้ชีวิต ดวงตา จมูก ริมฝีปากที่ผมเคยสัมผัสนั้นตอบรับกับใบหน้า

“ไม่เจอกันนานเลยนะ...” ผมเอ่ย ไม่รู้ว่าจะสรรหาอะไรมาพูด

“อืม นานมาก” เขานิ่ง “สบายดีมั้ยเมย์”

“สบายดี...นายล่ะ” เขาพยักหน้า ผมยิ้มน้อยๆ

“คิดถึงเมย์มากเลยรู้มั้ย” คำพูดง่ายๆของเข้าเสียดแทงเปิดปากแผลของผมอีกครั้ง ผมเบือนหน้าหนี

หวนนึกถึงตอนที่มันจากไป ตอนที่มันหายไปจากชีวิต ผมต้องทนอยู่กับห้วงความเจ็บปวดเหล่านั้นจนแทบทนไม่ไหว

“จริงดิ...” ผมถาม “ถ้าคิดถึงทำไมไม่ติดต่อมาเลยล่ะ” มันเอื้อมมากุมมือผม ผมชักหนี

“ทำไมจะ...”

“ผู้โดยสารคะ กรุณารัดเข็มขัดด้วยค่ะ กัปตันจะนำเครื่องออกแล้วค่ะ” เสียงพนักงานต้อนรับบอกพวกเรา

ผมหยุดการสนทนา รัดเข็มขัด เบือนหน้าหนี และหลับยาวไปตลอดทาง....

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
     ผมสะดุ้งตื่นตามเสียงประกาศนำเครื่องลงของพนักงาน พีทมองผมด้วยรอยยิ้มที่คุ้นเคยและจับมือผมไว้

ถ้านี่คือความฝัน ก็ขอให้พวกเราอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปด้วยเถอะ....

ผมไม่พูดอะไร เขาก็นั่งนิ่งๆ แต่ไม่ละสายตาไปจากผม จนเราลงจากเครื่อง...

            สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ยามสายผู้คนพลุกพล่าน เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวคลาคล่ำ ผมเดินตัวปลิวออกมาด้านนอก ทิ้งพีทรอรับกระเป๋าไว้ด้านใน แล้วผมก็เห็นพี่เน็ต...

               พี่เน็ตเป็นคนรูปร่างโปร่ง แต่ไม่สูงมากนัก เค้าความหล่อยังเหลือเกาะเกลื่อน แต่ด้วยวัยเกิน 30 แกเลยมีพุงป่องยื่นออกมา ผมยังจำภาพตอนที่เราคบกันได้ พี่เน็ตทั้งหล่อ เอาใจเก่งและยอมรับสิ่งที่ผ่านมาของผม แกพร่ำบอกว่ารักผมตอนที่เรามีอะไรกัน มันไม่หสือหวา ไม่รุนแรง มีแต่ความอบอุ่น แตกต่างจากพีท ที่มีแต่ความเร่าร้อน ฮึกเหิม โรมรันและริดรอนลมหายใจผมให้ขาดห้วง...

“โอ้โห ว่าที่คุณพ่อคนใหม่ ทำไมปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้เนี่ย” ผมกอดพี่เน็ตแน่น สายตาทุกคู่มองเราเหมือนเป็นตัวประหลาด

            พี่เน็ตกอดกลับ แกไม่แคร์สายตาคนเหล่านั้นอยู่แล้ว ด้วยความที่แกออกตัวแล้วว่าเป็น “เสือใบ”  ที่ได้ทั้งชายและหญิง คนรอบข้างแกก็เลยไม่มีใครว่าอะไร แต่ผมไม่มั่นใจว่าภรรยาแกรู้เรื่องนี้ด้วยรึเปล่า แต่เท่าที่ผมรู้มาคือ ทั้งคู่ต่างเหมาะสมกันและอยู่ด้วยกันมาโดยไม่มีปัญหาอะไร

“แหม คนแก่แบบพี่ ลูกเมียก็มีแล้ว ไม่รู้จะรักษาหุ่นไปทำไม” พี่เน็ตตอบ ส่งสายตาเจ้าชู้มาอีก

“หยุดมองผมแบบนั้นเลยพี่เน็ต ผมไม่ยุ่งกับคนมีเจ้าของแล้ว...รีบไปกันเถอะ หนาวอะ ผมไม่มีของอะไร”

“ปะ..” พี่เน็ตเดินนำผมออกไป แผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าทำให้ผมอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้มอง

“พี่เน็ต...ผมขอเข้าห้องน้ำก่อนได้มั้ย พี่จอดรถไว้ไหนอะ”

“เดี๋ยวพี่ไปเอารถมาวนรับก็ได้ เมย์ออกประตู 2 นะ” ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินกลับเข้าไป

ไม่นานผมก็เห็นเขาเดินลากกระเป๋าออกมา เราสบตากัน ผมยืนนิ่ง รอยยิ้มหล่อนั้นกำลังกระชากใจผมอีกครั้ง

“นึกว่า เมย์จะไม่รอซะอีก”

“ไปกันเถอะ” ผมไม่ตอบอะไรมาก เดินนำเขาออกไปที่ประตูสอง

“เมย์” พีทเรียก

“หืม” ผมดูสิ่งที่มันยื่นให้

“ใส่ซะ อากาศเย็น เดี๋ยวจะไม่สบาย”

“ไม่เป็นไร เราไหว” ผมเลี่ยง

“ไหว แต่ซี้ดปากตลอดเนี่ยนะ ใส่เถอะ เรามีมาอีกตัว” เขายัดเสื้อกันหนาวใส่มือผม ไออุ่นจากตัวเขาส่งกลิ่นหอมฟุ้ง

“ขอบใจนะ” เขาพยักหน้ารับ คำแทนตัวของเรากลายเป็น นาย กับ เรา แทนที่จำเป็น มึง กับ กูเหมือนแต่ก่อน

ช่องว่างของเวลา 12 ปีทำให้ผมยังต่อกับเขาไม่ติด ถึงแม้จะเคยใกล้ชิดกันเพียงไหนก็ตามที

รถยนต์คันใหญ่ของพี่เน็ตเลื่อนมาจอดรับผมที่ประตู ผมบอกว่าขอพาเพื่อนไปด้วยเพราะเจอบนเครื่องเมื่อกี้ พี่เน็ตก็ไม่ว่าอะไร

“นี่พี่เน็ต พี่ชายคนสนิทเราเอง” ผมแนะนำ “พี่เน็ต นี่พีท ลูกลุงพันสวนข้างๆผม”

“พีท....อย่างนั้นเหรอ” พี่เน็ตทวน สายตาแกเปลี่ยนไปทันทีที่รับรู้ว่าเขาเป็นใคร ความเป็นมิตรจางหาย

พีททำหน้างุนงง ...

“ใช่ครับ พีทคนนั้นแหละ”

“คนที่ทิ้งเมย์ไป สิบกว่าปี โดยที่ไม่เคยส่งข่าวน่ะนะ” พีทอึ้ง ผมทำตาเว้าวอนใส่พี่เน็ต

“พี่เน็ต พอเถอะ” ผมปราม พีทคำรามในคอ “เรื่องมันผ่านไปแล้ว” พี่เน็ตนิ่ง

“พวกคุณสองคนเป็นอะไรกันแน่...ไม่ใช่แค่พี่น้องใช่มั้ย” พีทเอ่ยปากถาม

“ใช่ เราเคยเป็นมากกว่าพี่น้อง...”พี่เน็ตโพล่ง “เราเคยคบกันมาก่อน”

“คุณใช้คำว่าเคย” พีทพูดเหมือนเยาะ

“ถึงจะเคย...อย่างน้อยผมก็ไม่ทิ้งเมย์ไปไหน” พี่เน็ตเสียงเข้ม “อย่างน้อยผมก็อยู่กับเมย์ตอนที่เขาไม่มีใคร”

“พี่เน็ต พอเถอะ...พีทหยุด” ผมห้าม บรรยากาศตึงเครียดจนผมเหนื่อยล้า...

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
             ระยะทางจากเชียงใหม่ไปที่อ.ฝางประมาณ 150 กิโลเมตร เรานั่งเงียบกันมาเกือบตลอดทาง แวะพักหาอะไรกินที่เชียงดาวก่อนขับรถออกมาต่อ ไม่เคยจะอึดอัดอะไรแบบนี้เลยโว้ย!!!

“พ่ออาการเป็นไงบ้างอะพี่เน็ต”

“ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ สบายใจได้ พี่แวะไปบอกแกแล้วว่าจะมารับเราเอง” น้ำเสียงแกอบอุ่นเหมือนเดิมเวลาคุยกับผม

“แล้วพีท...กลับมาทำไมอะ นานมากแล้วนะที่ไม่ได้ข่าวคราว” ผมพยายามเกลี่ยความสำคัญ พีทนั่งนิ่งๆ

“มางานศพพ่อ” ผมอึ้ง พี่เน็ตเหมือนจะรู้เรื่องอยู่แล้วเลยไม่ต่อความยาวอะไรอีก อย่างน้อยแกก็เป็นผู้หใญ่ที่รู้จักกาละเทศะ

“ลุงพันเสียเหรอ นานรึยัง”

“เมื่อคืนนี้เอง” ผมใจหายวาบ หน้าเหี้ยมเกรียมที่ตบพีทยังเด่นชัดในสมองผม

“แล้วนายล่ะ กลับมาทำไม” พีทถาม

“พ่อป่วย เข้าโรงพยาบาลเมื่อคืนเหมือนกัน..เห้ย! พี่เน็ต ...พ่อผมอยู่โรงพยาบาลในตัวเมือง”

ผมเพิ่งนึกได้ การได้พบพีทอีกครั้งทำให้ผมลืมทุกเรื่องไปจนหมด...

“เออ จริงด้วย พี่ก็ลืมไปเลย” แล้วพี่เน็ตก็กลับรถ พีทขอตัวลงที่ท่ารถเชียงดาวเพราะต้องไปช่วยงานศพ

เราต้องนั่งย้อนกลับมาที่โรงพยาบาลอีก 80 กิโลเมตร กรรม!

   สายระโยงระยางพันตัวพ่อไว้ พ่อตัวหดเล็กลงไปมากด้วยความชราที่มาเยือน พี่เน็ตขอตัวกลับไปทำงานหลังจากส่งผมแล้ว

“สวัสดีครับแม่” ผมโผไปกอด แม่ร้องไห้น้ำตาไหลพราก “เมย์เอ๊ย มาซะทีนะลูก” ผมน้ำตาซึม

“พ่อเป็นยังไงบ้างอะครับ” ผมถาม

“หมอบอกว่าต้องรอดูอาการต่อ เมื่อคืนแย่มาก แต่เช้านี้อาการดีขึ้น” ผมมองพ่อที่หายใจใต้หน้ากากอ็อกซิเจน

“แล้วพี่มากล่ะ”

“กลับบ้าน ไปดูสวนต่อ ช่วงนี้คนเยอะ ปล่อยเมียมันดูแลไม่ไหว รายนั้นพูดไทยยังไม่คล่องเลย”

ผมพยักหน้า เข้ามานั่งข้างเตียง จับมือแห้งของพ่อไว้ “พ่อ ผมกลับมาแล้วนะครับ”

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

               ชายหนุ่มนั่งรถสองแถวจากเชียงดาวมาถึงฝาง จากนั้นก็โทรให้ที่บ้านเอารถมารับ เขาไม่อยากรบกวนคนอื่นมากนัก เพราะกำลังวุ่นกับการเตรียมงานศพ เขาถึงบ้านที่คลาคล่ำไปด้วยญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ยกมือไหว้ทักทายกันไม่หวาดไม่ไหว ก่อนจะขึ้นบ้าน พบว่าพ่อนอนอยู่ในโลงกลางบ้านนั่นเอง

             เขานึกถึงวันเก่า วันที่เขายังอยู่บ้านนี้กับพ่อ วันที่พ่อกับแม่ทะเลาะกันจนเขาต้องหนีไปค้างกับเมย์ หรือวันที่พ่อตามไปลากเขามากระทืบซ้ำที่บ้านหลังจากจับได้ว่าลูกชายของพ่อไปมีอะไรกับผู้ชาย และเป็นลูกชายของคนที่พ่อเกลียด.. เขากราบศพพ่อ “ผมกลับมาแล้วนะครับพ่อ ขอโทษครับที่ผมมาช้า ... แม่ไม่ได้มาแต่ฝากมากราบพ่อด้วยครับ” ผมตาแดง พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหล

“พี่พีท ใช่พี่พีทรึเปล่าครับ” เสียงเด็กหนุ่มวัยรุ่นถาม ผมมองไปยังคนที่หน้าละม้ายตัวเอง

“อ้าว เพลงเหรอเนี่ย โห โตเป็นหนุ่มแล้วนะเรา อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย”

“14 ปีแล้วครับ” น้องชายต่างมารดาของผมตอบ ผมเคยเห็นน้องคนนี้แค่ครั้งเดียวในวันที่พ่อมาเมียใหม่เข้ามาในบ้าน

เพลงยังเด็กมาก แค่สองขวบเองมั้ง...”แม่ พี่พีทมา” เพลงตะโกนเรียกมารดา

ชายหนุ่มนั่งอยู่เฉยๆ ความอ่อนล้ามันทับถมจนแทบลืมตาไม่ไหว ไม่รู้ว่าตัวเองเสียใจหรือโล่งใจที่พ่อจากไปแล้ว

พ่อที่ทิ้งแม่ พ่อที่ตบตีเขา พ่อที่พรากเขาไปจากคนที่เขารัก...

“สวัสดีครับน้า” เขาไหว้ตามมารยาท

“สวัสดีจ้ะพีท...น้าดีใจมากเลยนะที่พีทมา” หญิงวัยกลางคนน้ำตาคลอ เขาเบือนหน้าหนี

“ครับ พ่อผมทั้งคน...” เขาประชด ก่อนที่รู้ตัวว่าอย่าพูดอะไร “มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ”

“ไม่มีจ้ะ น้าจัดการหมดแล้ว พีทไปนอนพักก่อนก็ได้นะ น้าจัดห้องให้แล้วล่ะ ห้องเก่าของพีทนั่นแหละ

คุณพ่อไม่ยอมให้ใครแตะต้องห้องนั้นเลย บอกว่าเก็บเอาไว้รอพีทตอนกลับมาเยี่ยม...”

แต่เขาก็ไม่ได้มาหาพ่ออีกเลยตลอด 12 ปี...

“ขอบคุณครับ ผมขอเดินรอบๆก่อนแล้วกัน” ชายหนุ่มเดินออกมา เขาเดินดุ่มๆไปเรื่อยๆ ลมหนาวของเชียงใหม่พัดกรู
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2012 23:34:31 โดย จากต้นจนอวสาน »

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
แสงแดดที่เจิดจ้าเริ่มไล่ความหดหู่ออกไป เขามาหยุดที่บ้านหลัง

หนึ่ง...สวนพฤกษ์ตะวัน

ชายหนุ่มเดินเข้าไปในสวน บ้านหลังใหญ่ตระหง่านโดดเด่น ไม่มีแล้วบ้านไม้ทรงไทยหลังเดิม ไม่มีแล้วความหลังครั้งนั้น

“น้าๆ มาเที่ยวเหรอคะ” เสียงเด็กสาวลูกครึ่งหน้าตาสละสวยถาม

“อะ ..ครับ” เขารับคำ

“งั้น สวัสดีค่ะ หนูชื่อไมร่า พฤกษ์ตะวันค่ะ ขอต้อนรับคุณน้า..เอ่อ...คุณน้าชื่ออะไรคะ”

“ภิวัฒน์ครับ เรียกน้าพีทก็ได้” ผมตอบ

“อ๋อค่ะ ขอต้อนรับน้าพีทสู่สวนพฤกษ์ตะวันนะคะ วันนี้เรามี package เดิน ชิม ช็อปสวนของเรา...”

ไมร่าบรรยายอย่างคล่องแคล่ว และพาชายหนุ่มเดินตามลูกค้ากลุ่มก่อนหน้าไป เด็กหญิงพูดไม่หยุดจนไปชนชายคนหนึ่ง

“โอ๊ย ... ขอโทษค่ะลุงเบสต์ หนูไม่ทันมอง”

หนุ่มหล่อร่างใหญ่หน้าตาดีดุจดาราฮ่องกงยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ เจ็บมากมั้ยเรา เดินระวังหน่อยสิจ๊ะ เดี๋ยวไปชนคนอื่นอีกนา”

“ไม่เจ็บค่ะ” เด็กหญิงส่งเสียงร่าเริง

บุรุษชื่อเบสต์ยิ้มให้เขา เขายิ้มกลับ “มาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ”

“ครับ มาคนเดียว คุณเบสต์ล่ะ”

“ผมมากับครอบครัวครับ กลุ่มใหญ่เลยอยู่ทางโน้น”

ชายหนุ่มมองกลุ่มตามที่เบสต์ชี้ ท่าทางทุกคนดูมีความสุข

“เที่ยวกับพวกเราก็ได้นะครับ ภรรยาผมคงดีใจที่จะได้มีเพื่อนเพิ่ม”

“อย่าดีกว่าครับ ผมแค่แวะมาดู เอ่อ สำรวจน่ะครับ ว่าจะมาทีหลังกับเพื่อนๆ”

“อ๋อครับ” เบสต์พยักหน้าแล้วขอตัวเดินไป

“น้าไปก่อนนะไมร่า เดินระวังๆหน่อยล่ะ” เด็กหญิงรับคำหนักแน่นแล้วเดินเกาะกลุ่มเมื่อกี้ไป ผมหันหลังกลับ

“พี่มาก!” ชายหนุ่มมองบุรุษตรงหน้า เขาไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มพูดยังไง

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

               กว่าพ่อผมจะฟื้นก็สายแล้ว พ่อคุยได้เป็นปรกติและรบเร้าอยากกลับบ้าน แต่หมอสั่งให้อยู่ต่ออีกคืนนึง พี่มากกลับมาบ่ายแก่ๆพร้อมไมร่า หลานสาวตัวน้อย ที่นี่หมอไม่ให้ญาติเฝ้าไข้ พวกเราก็เลยต้องกลับหลังจากที่พ่อเข้านอน ทีแรกพี่มากอยากให้เราค้างที่โรงแรม แต่แม่อยากให้ผมกลับไปนอนที่บ้าน พี่มากเลยต้องขับรถไปอีก สรุปวันนี้แกขับไปมาร่วม 400 กิโลเมตรเลยทีเดียว

                เรามาถึงบ้านมืดมากแล้ว เสียงดนตรีบรรเลงเพลงในงานศพลอยแว่วมาแต่ไกล ผมถอนหายใจกับความไม่แน่นอนของชีวิต คนเราเกิด แก่แล้วก็ต้องตายในที่สุด ไม่มีใครอยู่ได้ค้ำฟ้าเลยสักคน พลันผมก็นึกถึงคนๆนั้น กระชับเสื้อกันหนาวแนบตัวแน่น...

“วันนี้พี่เจอพีทด้วยนะ” พี่มากบอกผมตอนที่เราอยู่หน้าบ้าน

“ผมรู้แล้ว ผมเจอเค้าแล้วเหมือนกัน”

“แล้ว...” พี่มากไม่พูดต่อ

“ผมโอเคพี่ ผมทำใจได้นานแล้ว...” จริงๆแล้วผมไม่โอเค ไม่เลยสักนิด พี่มากรับคำแล้วเดินเข้าบ้าน

ดาวส่องสว่างในคืนเดือนมืด ความหนาวเกาะตัวเหมือนเพื่อนสนิท “ถ้าเมย์คิดถึงเรา...ให้มองดาวดวงนั้นนะ”

“ดวงไหนอะ” ผมมองตาม

“โน่นไง ดาวเหนือ” พีทชี้

“ทำไมต้องดาวเหนือ” ผมถาม

“เพราะมันสว่างที่สุด ไม่ว่าอยู่ไหนเมย์ก็จะเห็นเราได้ชัดๆไง” เขายิ้ม แล้วกอดผมแน่นกว่าเดิม

...น้ำตาของผมไหลริน ดาวเหนือส่องสว่างจนแสบตาไปหมด...

“เรามองดาวเหนือแล้วนะพีท...นายจะรู้มั้ยว่าเรามองมันตลอดเวลาที่คิดถึงนาย”

ผมปล่อยให้ความเศร้าโอบกอดตัวเองไปพร้อมๆกับความหนาว

พรุ่งนี้ผมจะลืม...พรุ่งนี้ผมจะลืม...มันเป็นคำพูดที่ผมพร่ำบอกตัวเองมาตลอด 12 ปี...

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป


พี่เน็ตมาแล้วครับ.... เอารูปคนที่ตัวเองจิ้นว่าเป็นพี่เน็ตมาลงให้ดู

ถ้าตามท้องเรื่อง ต้องเป็นรูปสมัยเรียนเท่านั้น 5555



จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
มาถึงคนนี้ พ่อของลูกผม แอร๊ยยยยยยยยยยย ไม่ใช่ พระเอกของเรา

หน้าละม้ายคล้ายพี่เวียร์ หล่อแบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะนายเอกหลงเพ้อตลอดๆ











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2012 01:13:17 โดย จากต้นจนอวสาน »

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อจนจบแล้วนะครับ....

ตอนที่ 3

            ผมยืนมองฟ้า อ้อยอิ่งอยู่นาน เสียงพระสวดแว่วมาแต่ไกลเงียบลงแล้ว ไออุ่นขาวถูกพ่นออกตามลมหายใจและทางปาก น้ำค้างหยดแหมะที่แก้ม ผมกลัวจะป่วย เลยกลับเข้าบ้าน

หมับ!

ข้อมือผมถูกรั้งไว้ ความเย็นเฉียบของมือแกร่งส่งผ่านมา “พีท”

เขาหลบตามองต่ำ “ทำอะไรอยู่เหรอ”
 
“ดูวิวน่ะ มองฟ้า มองดาวเรื่อยเปื่อย”

“เห็นดาวของเรามั้ย” เขาถาม “ตอนอยู่ขอนแก่น เรามองไปที่ดาวดวงนั้นตลอด” ผมซึม

“เราขอพรกับดาวนั้น...ขอพรให้ได้เจอนายอีกครั้ง...ขออีกครั้ง” เสียงเขาขาดห้วง

ผมจูงเขาเดินหลบจากหน้าประตูบ้าน กลัวเสียงคุยจะดังปลุกคนอื่น

“นายล่ะเมย์...” ผมรู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร

“ไม่ค่อยได้มองหรอก” ผมโกหก “ที่กรุงเทพมองเห็นดาวที่ไหนล่ะ” เหมือนมีก้อนอะไรจุกที่ลำคอ

“น่าเสียดายจังเลยนะ” เขาตัดพ้อ

“นายมาที่นี่ทำไม” ผมถาม

เขาดึงตัวผมให้หันไปเผชิญหน้า “มาหานาย”

“มันไม่ช้าไปหน่อยเหรอพีท” ผมน้ำตาคลอ “ผ่านไปตั้ง 12 ปีเพิ่งคิดอยากจะมาเจอกันเหรอ”

“รู้มั้ย” น้ำตามันไม่รู้ไหลมาตั้งแต่ตอนไหน “ว่าเราใช้ชีวิตที่เหลือยังไง เราอยู่ยังไง”

ผมปาดน้ำตา “ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ไม่มีจดหมายหรือข้อความอะไรจากนายเลยสักอย่าง” ผมตัดพ้อ

“แล้วมาบอกว่า อยากมาหา” ผมสะอื้น “มันไม่นานไปหน่อยเหรอ”

เขาโผเข้ามากอด “ขอโทษ...” เขาร้องไห้ “เมย์...เราขอโทษ”


              เรากอดกันร้องไห้ตรงนั้น ผมปลดปล่อยความอั้นอั้นที่คั่งค้างออกมาจนหมด เข้าใช้สองมือประครองหน้าผมไว้แล้วจูบหน้าผาก หว่างคิ้ว ที่ตา จมูก...แล้วก็ประทับความหลังที่ริมฝีปาก...ส่งถ่ายความอบอุ่นที่หายไปแสนนานเข้ามา ผมเผยอปากรับ เขาสอดลิ้นเข้ามา ลึกล้ำ เร่าร้อนแต่อ่อนหวานในที ลมหายใจของผมเหมือนจะหยุดอยู่ตรงนี้ เขารุกไล่ ผมตั้งรับและพัวพันไปกับมันจนอิ่มเอม...

“เมย์...” ผมแตะริมฝีปากเขาไว้ เราสบตากันเนิ่นนาน ก่อนที่ผมจะบรรจงจูบเขา...

                 ในห้องนอนแสนอุ่น ดวงไฟสว่างไสว ผมเปิดเผยผิวขาวเนียนให้เขาได้เชยชม เขาปลดเปลื้องกล้ามเนื้อแน่น ผมเห็นเขาตั้งแต่เด็ก วัยรุ่นและวัยนี้ กล้ามเนื้อเขาใหญ่โตตามวัย สัดส่วนที่กระชับยิ่งกว่าเก่า ทุกสัดส่วนเติบโตตามกาลเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิม คือ เขายังเป็นพีทคนเดิม

“ความลับของเรา” เขาพูด ก้มดูดลำคอผม โลมเลียดุจไฟเผาไหม้ขี้ผึ้ง ผมปล่อยตัวให้สอดรับกับการโลมเล้าของเขา

             ปากและลิ้นของเขาสอดส่าย กระหวัดไปทั่วร่าง ผมครางกระเส่าด้วยความตื่นเต้นและเป็นสุข... เขาจับผมนอนคว่ำ ยกบั้นท้ายโด่ง แล้วใช้นิ้วชุ่มน้ำลายควานชอนไช จากหนึ่งเป็นสอง เขาสอดใส่และคลี่ขยายมันออก และเพิ่มนิ้วอีกจนเป็นสาม ผมผ่อนคลาย ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมรู้จักหวะเปิดรับ รูของผมถูกขยายจนพร้อม

“พีท...พอเถอะ...ใส่เข้ามาเลย” ผมร้องขอ ความทรมานกัดกร่อนตัวผมจนตัวสั่น

“เมย์...ขอท่าเดิมได้ไหม” เขาถาม

“อืม” ผมตอบ ลุกขึ้นมา ผลักตัวเขาลงไปนอนราบกับพื้น เขาชันขา ท่าประจำของเรา
           
ผมก้มจูบเขา บดขยี้ริมฝีปากแรงๆและนั่งทับแท่งเอ็นนั้น...มันใหญ่โตตามเวลาที่ผันผ่าน แต่มันไม่เคยยากเกินที่จะรับไหว

ท่อนแข็งของเขาผลุบหายเข้าไปในตัวผมช้าๆ ผมกดสะโพกลงเป็นจังหวะ ผ่อนหายใจ และปล่อยให้รูนั้นครอบครองมันจนมิด

ผมขมิบ ตอดรัดเขา เขาครวญไม่หยุด

“เมย์...ดีมาก อา...แน่นจัง”

ผมโยกบั้นท้าย บดขยี้ให้ขนเสียดสีกับง่ามของผม “มะ เมย์ ขยับเถอะ ไม่ไหวแล้ว เสียว” เขาร้อง

บั้นท้ายผมยกขึ้นลงเป็นจังหวะ ผมตอดรัดเขาอย่างแรง

“อ๊ะ เมย์ อย่าตอด โอว๊”

เขาทนไม่ไหว ต้องเด้งบั้นท้ายเพื่อยับยั้ง เขากระทุ้งตัวสวนกับจังหวะกดลงของผม ความเสียวแล่นพล่าน


จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
           ถึงแม้เขาจะไม่ใช้ผู้ชายที่ใหญ่หรือลีลาดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา แต่เขาคือคนที่เติมเต็มความต้องการของผมได้ดีที่สุด เขากระทุ้งท่อนเนื้อตรงจุดเสียว ผมครางโฮกอย่างลืมตัว...น้อยคนนักที่จะรู้ว่าตรงไหนคือจุดอ่อนของผม

“พีท อา เสียว อย่า...ตรงนั้น...เสียว อ๊า” เขาเร่งจังหวะชักให้ผมไปด้วย น้องชายผมผงกก่อนกระตุกพ่นพิษออกมาจนหมด

“เมย์ ... อา ดีมาก...อา...” เขาคราง พลิกตัวมากดให้ผมนอนหงาย เขาแยกขาผมสูงเป็นตัววี แล้วสอดใส่ลำเมื่อมเข้าไป

เขากดหัวลงช้าๆและแช่ไว้แค่นั้น ก่อนดันอีกนิดแล้วซอยถี่ๆ ผมครางด้วยความเสียว ใบหน้าเขาบิดเบี้ยว

เหงื่อไหลย้อยต้านทานลมหนาวที่พัดกรูอยู่ด้านนอก “พีท...อย่าทรมานกันแบบนี้เลย” ผมร้อง “ใส่มาทั้งหมดเถอะ”

เขาสบตาผมแล้วยิ้มให้ มันเป็นรอยยิ้มที่หวานฉ่ำจากความต้องการที่เอ่อล้น เขาดึงตัวออกนิดนึง และกระแทกมันจนมิด

ผับๆๆๆๆ

เสียงเนื้อเรากระทบกันดังเป็นจังหวะ ไม่ใช่แค่ผมที่เก่งขึ้น เขาก็เก่งและอึดขึ้นเช่นกัน

ท่อนลำผมผงาด เขาชักมัน ผมเผลอเสียงดัง ก่อนหาหมอนมาอุดไว้ ไม่อยากให้คนทั้งบ้านตื่นมาได้ยิน

เขากระแทกสุดลำไม่ยั้ง มันรุนแรงและเร่าร้อน ผมสอดรับ บดบี้ ตอดรัดเท่าที่จะทำได้

แล้วผมก็หลั่งมาอีกครั้ง...ก่อนที่เขาจะซอยถี่รุนแรงมากขึ้น

เขาแช่ทั้งลำคาไว้ในรูแคบของผมแล้วปลดปล่อยทุกความต้องการออกมาจนทะลักทะลาย...

ผมหอบหายใจด้วยความเหนื่อยหอบ “พีท...มัน...สุดยอดมาก”

“อะไรเหรอที่สุดยอด” เขาแกล้งถาม...ผมไม่ตอบ

“เราไม่เจอกันมากี่ปีแล้ว...” ผมถามเค้า “12 ปีไง” เขาตอบ ทำหน้าทะเล้น

“งั้น...อีก 11 ยก พีทไหวไหม” ผมขมิบรูตอดรัดเขาเป็นการเชื้อเชิญ เขาครางซี๊ด...

“ของแบบนี้...ไม่ลองไม่รู้นะ” เขาก้มจูบผม ท่อนเนื้อแข็งปั๋งในตัวผมขยับอีกครั้ง...

ผมส่งเสียงครางให้ดังที่สุดเพื่อปลดปล่อยทุกอย่างออกมาภายในรอยจูบเขานั่นเอง...

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

                คืนนั้นเขาจัดไปได้ 4 ยก เป็นผมเองที่ไม่ไหว เพราะเพลียจากการเดินทาง...วันรุ่งขึ้นพ่อผมก็กลับมาจากโรงพยาบาล ผมอยู่กับพ่อได้ครึ่งเดือน พีทยังไม่กลับ เวียนแวะมาหาผมบ่อยๆและจัดหนักทุกคืน

“เพื่อเรียกร้อง 12 ปีที่ผ่านมา” ผมอิ่มเอมและตักตวงวินาทีตรงหน้านี้ให้ถึงที่สุด...เราฉลองปีใหม่ด้วยกัน จนกระทั่งวันหนึ่งกลางเดือนมกราคม ผมเดินไปหาพีทที่บ้าน ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน

“สรุปจะแต่งไม่แต่ง...หนีมาแบบนี้จะให้เมย์ทำไง” ผมเงี่ยหูฟังเสียงผู้หญิงที่กำลังระเบิดอารมณ์ยกใหญ่

“ขอเวลาผมอีกนิดนึงนะเมย์” เสียงนั้นตอบ คงความลังเลอย่างเห็นได้ชัด

“เราจะแต่งกันเดือนหน้าแล้วนะพี่พีท ชุดก็ยังไม่ได้ลอง รูปก็ยังไม่ได้ถ่าย เมย์ไปแจกการ์ดก็มีแต่คนถามหาว่าที่เจ้าบ่าว”

ผมอึ้ง ช็อคกับบทสนทนาที่ได้ยิน ... พีทกำลังจะแต่งงาน

“ไม่รู้ล่ะ พี่ต้องกลับไปกับเมย์วันนี้!!”  ฝ่ายหญิงตวาด ก่อนเดินด้วยความขัดใจมาเจอผม

“อ๊ะ...” หญิงสาวตกใจ ไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ตรงนี้ ผมมองเธอ...ทั้งสาว ทั้งสวย อายุยังน้อย...

“เมย์” เราทั้งสองหันไปตามเสียงนั้น...แล้วผมก็พูดแก้เก้อ “วันนี้ว่างน่ะ เลยมาหา ไว้มาวันหลังละกันนะ”

ผมเดินออกมา กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล... “เมย์ รอเดี๋ยว” เขาตามมา ผมวิ่งสุดชีวิต น้ำตาไหลมาตลอดทาง

พีท...คนที่ผมรัก กำลังจะเป็นของคนอื่น...ผมนอนร้องไห้ในห้องจนหลับไป

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
           ผมลืมตาโพลงในความมืด ท่อนแขนหนักๆพาดผ่านตัวผม กลิ่นกายที่คุ้นเคย ร่างกายใหญ่โตห่อหุ้มผมด้วยอ้อมกอด มันอบอุ่น มั่นคงและเข้มแข็ง...ผมก่ายกอดมันไว้ หันไปหาเขา เขาก็ลืมตาในความมืดเช่นเดียวกัน ผมคลำหน้าเขา รอยยิ้มที่มุมปากกว้าง แล้วเขาก็จูบที่หน้าผากผมเบาๆ

“คิดถึงจังเลย” เขาพูด แล้วก็จูบปากผมอีกครั้ง... “คิดถึงเหมือนกัน...” ผมจูบตอบ

วินาทีนั้น ผมมั่นใจได้เลยว่าจะไม่ยอมปล่อยเขาไปไหน จะให้เขากอดก่ายอยู่แบบนี้ตลอดไป

“มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถาม

“ซักพักแล้วล่ะ” เขาตอบ

“ทำไมไม่ปลุกล่ะ” ผมงอน

“เห็นว่าหลับอยู่ เลยไม่อยากกวน” เขาตอบยวนๆ

“พ่อกับแม่ว่าไงบ้าง”

“ก็ไม่ว่าอะไรนี่นา ท่านใจดีกับผมจะตาย” ผมยิ้มกับคำตอบ

“ทำไมเพิ่งมาล่ะ สเตฟาน...รู้มั้ยว่าผมคิดถึงคุณแค่ไหน...”

เขาไม่ตอบ ดึงตัวผมไปจูบ สองมือใหญ่หนาควานทุกซอกทุกมุมในตัวผม...

“ผมเคลียร์งานเสร็จ ก็บินมาหาคุณทันทีเลยนะ...รู้มั้ย แค่เดือนเดียว มันกลับนานจนผมแทบบ้า”

“แต่คุณก็มาแล้วนี่นา...” ผมตอบ

“ใช่...แต่ผมมาช้าไป” เขาตอบ

“ไม่หรอก...ไม่ช้าไปหรอก” ผมกอดเขา...ปล่อยน้ำตาไหลในความมืด...เดือนเดียว มันเร็วกว่า 12 ปีตั้งเยอะ...


จบ!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2012 00:54:07 โดย 2pmui »

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
บทส่งท้าย....



15 ธันวาคม 2555

               ผมกลับมาที่บ้านอีกครั้ง คราวนี้สเตฟานเคลียร์งานทุกอย่างและมากับผมด้วย เราวางแผนจะอยู่ที่เชียงใหม่ตลอดหน้าหนาว พ่อกับแม่ผมรู้เรื่องผมกับสเตฟานตั้งนานแล้ว เขาเป็นเพื่อนพี่มากสมัยแกเรียนที่อังกฤษ ติดสอยห้อยตามมาเที่ยวและเจอผมเข้า ทีแรกพี่มากไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทเป็นเกย์หรอก เพราะสเตฟานไม่ใช่เกย์ แต่ได้ทั้งชายทั้งหญิงหรือเสือใบนั่นแหละ เขาบอกว่าชอบผมทันทีที่เจอกัน บอกว่าผมคือรักแรกพบ และขอจีบ ผมก็ยังว่างและสเตฟานหล่อมากๆ ผมก็เลยไม่ขัด เราคบกันตั้งแต่นั้นถึงตอนนี้ก็ 4 ปีมาแล้วครับ เขาขอผมหมั้นเมื่อปีที่แล้วนี่เอง และวางแผนจะไปแต่งงานกันที่แมนเชสเตอร์บ้านเกิดเค้าในฤดูร้อนของอังกฤษ

              หากอยากรู้ว่าสเตฟานเป็นยังไง เขาหล่อสไตล์ผู้ดีอังกฤษแท้ๆเลยครับ สูงโปร่ง ขาวซีด โกนหัวตลอดเวลาเพราะไม่ชอบสระผม จริงๆไม่ชอบอาบน้ำด้วย ทนตัวเหม็นได้เป็นอาทิตย์ จนผมต้องพาอาบน้ำทุกวันจนเป็นนิสัยนั่นแหละ แต่ก็ยังไม่วายโกนหัวเพราะไม่ชอบสระผม ความต่างของสเตฟานกับพีทคือ ต่างกันทุกอย่าง ทั้งหน้าตา นิสัยใจคอ สเตฟานเป็นคนเปิดเผย พีทเป็นคนเงียบๆเก็บกด ไม่พอใจอะไรก็จะเงียบและเก็บมันไว้ในใจ แต่สเตฟานเปล่า ถ้าเขาไม่ชอบใจอะไรก็จะบอกกันตรงๆ ผมชอบที่เขาเป็นแบบนี้นะ ... แต่ผมก็ชอบพีทที่เป็นแบบนี้เหมือนกัน สเตฟานหน้าฝรั่ง พีทหน้าไทย เขาเหมือนพี่เวียร์พระเอกช่อง 7 มากๆ (ผมเลยชอบพี่เวียร์ที่สุดไง ตอนที่แสดงเป็นคุณใหญ่ผมก็คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกทุกที) ...

              จากวันนั้น ถึงวันนี้ ก็ครบรอบ 1 ปีพอดีกับการพบกันของพีทกับผม หลังจากที่เขาทะเลาะกับเมย์ในวันนั้นผมก็ไม่ไปหาเขาอีกเลย จนกระทั่งคู่หมั้นเขากลับกรุงเทพ เขาก็มาหาที่บ้าน นั่นเองที่เขาได้พบกับสเตฟานคนรักของผม เขาไม่พูดอะไร ไม่ร้องไห้ ไม่โวยวาย แค่เดินจากไปเงียบๆ แค่เดินจากไปเงียบๆ...สุดท้ายเขาก็เข้าพิธีแต่งงานกับลูกสาวนายธนาคารใหญ่ในกรุงเทพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง ผมไปร่วมงานด้วยในฐานะเพื่อนสนิทและไม่ลืมพาสเตฟานไปเปิดตัวออกสื่ออย่างเต็มที่ เราทักทายกันพอเป็นพิธี เขาโอบเอวผมแน่นตอนถ่ายรูปกับบ่าวสาว รั้งมือไว้จนผมต้องแกะออก สายตาที่บ่งบอกไม่ได้ว่าเขารู้สึกยังไงทำให้ผมหมองใจ แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี

                 ผมนั่งมองกล่องใบเก่าตรงหน้า พี่มากยกมาให้ผม มันเป็นจดหมายที่มาจากพีทตลอด 12 ปีที่ผ่านมา พ่อผมเป็นคนสั่งให้พี่มากเอาไปเผา แต่แกสงสารเลยเก็บไว้ให้ตลอด ผมโวยวายลั่น ว่าทำไมเพิ่งเอามาให้ตอนนี้ แกก็บอกว่าอยากให้ผมก้าวไปข้างหน้า ดีกว่าจมอยู่กับอดีต ผมโมโหแกไม่น้อย แต่ใจหนึ่งก็ขอบคุณทั้งพ่อและพี่มาก เพราะการทำแบบนี้ทำให้ผมได้รู้จักและคบกับสเตฟาน...ผมเคยถามพ่อว่า ทำไมถึงไม่ถูกกับบ้านโน้น พ่อเล่าว่ามันเริ่มตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ย่าของผมเป็นคนรักของคุณปู่พีท แต่ปู่ผมแย่งคุณย่ามาได้แล้วแต่งงานกัน ปู่ของพีทผูกใจเจ็บและปลูกฝังรุ่นพ่อเราให้เกลียดกัน โชคดีที่พวกผมไม่หลงเชื่อพาลเกลียดกัน...หรือว่าเราควรจะเกลียดกัน เผื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้
   
               ตอนผมเกิดมา หน้าตาเหมือนคุณย่าเปี๊ยบ บ้านฝั่งโน้นยิ่งชังบ้านผมไปกันใหญ่ แล้วปู่พีทก็เสียก่อนเขาเกิดไม่กี่เดือน น่าแปลกที่ว่าเขาถอดแบบมาจากคุณปู่ไม่มีผิดเพี้ยน สองครอบครัวยิ่งขนลุก กลัวว่าเราทั้งคู่คือปู่กับย่ากลับมาเกิดเพื่อคู่กัน...เพียงแต่ชาตินี้เราเป็นผู้ชายทั้งคู่เท่านั้นเอง...

                 น้ำตาผมแห้งไปแล้ว จดหมายของพีททำให้ผมร้องไห้จนหอบโยน สเตฟานคอยปลอบใจและอยู่กับผมตั้งแต่ต้นจนผมอ่านจบ เขากอดผม ลูบตัวผม เช็ดน้ำตาให้ ผมซาบซึ้งกับทุกการกระทำของเขาเช่นกัน...เนื้อหาในจดหมายเหมือนมีดที่กรีดแทงจิตใจผม พีทเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเจอมาตลอด 12 ปี บ้านใหม่เป็นยังไง เหงาแค่ไหน คิดถึงผมแค่ไหน โกรธผมแค่ไหนที่ไม่ยอมตอบจดหมาย แฟนสมัยเรียนเป็นยังไง มี sex กับผู้หญิงครั้งแรกเป็นยังไง เรียนมหาลัยที่ไหน อยู่ยังไง...


“.....เมย์...วันนี้เราเจอผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อเมย์เหมือนนายเลยนะ หน้าตาก็คล้ายกัน ต่างกันที่เค้าไม่มีหนวดและเคราเท่านั้น...ทั้งชื่อ หน้าตาและนิสัยถอดแบบนายมาเปี๊ยบ เราคิดว่าคนนี้คือนายในเวอชั่นผู้หญิง นายกลับมาหาเรา.....

....เมย์ วันนี้เรากับเมย์ตกลงเป็นแฟนกันแล้วนะ...เราขอโทษนะที่ระหว่างเราต้องมาเป็นแบบนี้ แต่เราอยากให้นายรู้ไว้นะ ไม่ว่ายังไง นายคือคนที่เรารักที่สุด...

...เมย์ เรารถชนแหละ ขาหัก ต้องพักฟื้นยาว เลยมีเวลาว่าง เราจะเขียนจดหมายมาหานายทุกวันเลยนะ เมย์มาเฝ้าเราทุกวัน ถามว่าเราเขียนจดหมายหาใคร ... เราตอบไปว่า เขียนหาคนสำคัญในชีวิต...เมย์งอนใหญ่เลย แต่เราก็ยอมนะ ....

....เมย์ หมอผ่าตัดหัวเข่าเรารอบที่สองแล้ว เจ็บจนยืนไม่ไหว ได้แต่นอนซม...แต่เราจะต้องหาย เราจะไม่ตายก่อนที่จะกลับไปหานายอีกครั้ง....

...เมย์ พ่อเราเสีย เรากับแม่อึ้งมาก แม่เรายังลืมพ่อไม่ได้เหมือนกัน ท่านร้องไห้หนัก แต่ก็ใจแข็งไม่ยอมมางาน เราเลยต้องตีตั๋วด่วนจากขอนแก่นมาเชียงใหม่ ทีแรกเราไม่อยากมาเลยสักนิด แต่พอเราได้กลับมาเจอนาย เราจำได้นายได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่สบตากัน นายไม่เปลี่ยนไปเลย ใบหน้าของนายเหมือนเมย์วัย 10 ขวบ..เมย์ของเรา...

....เมย์ เราเสียใจมากที่รู้ว่านายมีคนรักอยู่แล้ว...แต่เราไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เราร้องไห้ไม่ออก น้ำตาเรามันตกในไปแล้ว มันทรมานยิ่งกว่าปล่อยให้มันไหลออกมาเสียอีก...เมย์ เราอยากตาย...ไม่มีเมย์แล้ว เราจะอยู่ยังไง....

....เมย์ ไปงานแต่งงานเราด้วยนะ....

...เมย์ ขอบคุณนะที่ไปงานแต่งเรา ขอบคุณมากๆ เราดีใจมากที่เห็นนายกับแฟนมีความสุข เราดีใจด้วยจริงๆ....

...เมย์ จดหมายฉบับนี้จะเป็นฉบับสุดท้ายแล้วที่เราจะเขียนมาหานาย เราอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้อีกแล้ว เมย์**ไม่พอใจมากที่เรายังเขียนจดหมายอยู่ทุกวัน เราทะเลาะกันใหญ่...ก่อนที่เราจะหยุดเขียนจดหมาย เราอยากจะบอกกับนายว่า...ไม่ว่านานแค่ไหน ไม่ว่าโลกนี้จะแตกดับวันใด...เรารักนายนะเมย์ เรารักนายที่สุด การได้อยู่กับนาย คือช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดในชีวิตห่วยแตกของเราแล้ว....ถ้านายคิดถึงเรา ก็มองดาวดวงนั้นของเรานะ

รักนายเสมอ

พีท”



   ผมแหงนมองฟ้า คืนนี้ดาวเหนือดูจะสว่างสุกใสกว่าทุกครั้ง...

“มองอะไรเหรอเมย์” สเตฟานถาม

“ดูดาวน่ะ เห็นดวงนั้นไหม มันสว่างสดใสมาก” เขากอดผมไว้

“เมย์ชอบดาวดวงนั้นเหรอ”

“ใช่ มันเป็นดาวของผมกับพีท” สเตฟานเขารู้เรื่องผมกับพีท เพราะผมเล่าให้เขาฟัง

“มันสวยมากเมย์...”

“ใช่ มันสวยมาก” ผมน้ำตาไหล...

เขาเช็ดน้ำตาให้ผม

“อย่าร้องไห้เลยนะเมย์...พีทไม่ได้จากไปไหนหรอก เขาแค่ไปอยู่บนนั้น และเฝ้ามองเมย์ด้วยความรักไง”

“ผมรู้...” ผมร้องไห้ “ผมรู้...” ลมหนาวพัดพรั่งพรูราวกับรับรู้ ความเหน็บหนาวโอบกอดผมไว้

ผมมองดาว แล้วอธิษฐาน....ขอให้ลมหนาวพัดมาอีกครั้ง





“ป.ล. ถ้าจะให้เราเลิกเขียนจดหมายหานาย สู้เราตายไปเสียดีกว่า...ช่วงเวลาที่มีค่าคือตอนที่ได้อยู่กับนาย และมันยิ่งมีค่ามากขึ้น เวลาที่ได้เขียนจดหมายถึงนายแบบนี้....หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราได้เกิดมาคู่กัน ได้รักกันทุกชาติไป”

อวสาน...






-------------------------------------------

เมย์** = ภรรยาของพีท ที่ชื่อเดียวกับนายเอก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2012 01:34:03 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
รักแรกก็ฝังใจแบบนี้ล่ะเนอะ

ตอนจบ อ่านแล้ว หือ?จบแล้วเหรอ?
555 สนุกดีจ้า

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
แหะๆ จบแล้วครับ...ฟู่! โล่งอก  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เรื่องนี้แต่งไปแต่งมาใช้เวลา 1 วัน 1 คืน...แก้แล้วแก้อีก

ตอนแต่งบทส่งท้าย ผมร้องไห้เองไปด้วยนะเออ ไม่รู้ทำไมจะต้องอินขนาดนั้น

ชอบหรือไม่ชอบก็ส่งเสียงติชมกันมาได้นะครับ ผมเข้ามาอ่านทุกคอมเม้นต์แหละ

ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตอบ เพราะงานรัดตัวจริงๆ (แถมยังเอาเวลางานมาอู้แต่งนิยายด้วย)


ปิดท้ายด้วย นายเอกของเราเลยครับ...นายเมย์

คิดถึงคนนี้แว้บเข้าหัวเลย 5555





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2012 09:15:42 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
หักมุมเอาตอนที่สเตฟานโผล่มา
สรุปต่างคนก็ต่างมีคนของตัวเองอยู่แล้ว แต่ผ่านไปยังไงก็ยังลืมกันไม่ได้เนอะ
ตอนแรกก็โกรธพีทนะที่ไม่ติดต่อแถมโผล่มาพร้อมสาวอื่นอีก
แต่พอรู้ความจริงเรื่องจดหมายที่ส่งไม่ถึงมือเมย์ก็พาให้เศร้าปนเสียดายอ่ะ
อ่านบทส่งท้ายแล้วก็น้ำตาซึมเหมือนกันค่ะ
ตามความเข้าใจของเรานี่คือพีทเสียแล้วใช่ไหมคะ
ดูจากคำพูดของสเตฟานประกอบกับคำพูดในปล. ยิ่งคำลงท้ายนั่นอีกด้วย
แต่คำที่พีทเขียนในจม.ฉบับสุดท้ายว่าจะหยุดเขียนจม.ด้วยทะเลาะกับภรรยาทำให้สับสนนิดหน่อย
ถ้าพีทเสียแล้วก็หวังว่าจะไม่ใช่แบบที่เราคิดนะ เหอๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2012 01:25:40 โดย RoseBullet »

จากต้นจนอวสาน

  • บุคคลทั่วไป
ดราม่าสุดๆ   :sad4: :o12:
v
v
v

ดราม่าขนาดคนเขี่ยนยังร้องไห้เลยครับ



หักมุมเอาตอนที่สเตฟานโผล่มา
สรุปต่างคนก็ต่างมีคนของตัวเองอยู่แล้ว แต่ผ่านไปยังไงก็ยังลืมกันไม่ได้เนอะ
ตอนแรกก็โกรธพีทนะที่ไม่ติดต่อแถมโผล่มาพร้อมสาวอื่นอีก
แต่พอรู้ความจริงเรื่องจดหมายที่ส่งไม่ถึงมือเมย์ก็พาให้เศร้าปนเสียดายอ่ะ
อ่านบทส่งท้ายแล้วก็น้ำตาซึมเหมือนกันค่ะ
ตามความเข้าใจของเรานี่คือพีทเสียแล้วใช่ไหมคะ
ดูจากคำพูดของสเตฟานประกอบกับคำพูดในปล.
แต่คำที่พีทเขียนในจม.ฉบับสุดท้ายว่าจะหยุดเขียนจม.ด้วยทะเลาะกับภรรยาทำให้สับสนนิดหน่อย
ถ้าพีทเสียแล้วก็หวังว่าจะไม่ใช่แบบที่เราคิดนะ เหอๆ

เข้าใจถูกต้องแล้วครับ เรื่องนี้มันจบเศร้า  :o12:
พีทเป็นเด็กมีปัญหา เก็บกด ทางออกเดียวของเขาคือการระบายกับเมย์ผ่านตัวหนังสือ
ยิ่งมาพบกันหลังจากไม่เจอกัน 12 ปี และมารู้ว่าเมย์มีคู่แล้วพีทยิ่งหนักเลย...
อย่างที่บอก เขาเวียใจ แต่น้ำตาตกใน ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา
และยิ่งแต่งงานแล้วถูกตีกรอบชีวิตหลายๆอย่าง พีทก็เลย...ในความคิดผม...ฆ่าตัวตาย
สรุปเรื่องนี้ สงสารทุกคนเลย ทั้งเมย์และพีท...เศร้าอ่า
(แต่งเอง เศร้าเองก็เป็นนะเรา)


ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
เข้าใจถูกต้องแล้วครับ เรื่องนี้มันจบเศร้า  :o12:
พีทเป็นเด็กมีปัญหา เก็บกด ทางออกเดียวของเขาคือการระบายกับเมย์ผ่านตัวหนังสือ
ยิ่งมาพบกันหลังจากไม่เจอกัน 12 ปี และมารู้ว่าเมย์มีคู่แล้วพีทยิ่งหนักเลย...
อย่างที่บอก เขาเวียใจ แต่น้ำตาตกใน ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา
และยิ่งแต่งงานแล้วถูกตีกรอบชีวิตหลายๆอย่าง พีทก็เลย...ในความคิดผม...ฆ่าตัวตาย
สรุปเรื่องนี้ สงสารทุกคนเลย ทั้งเมย์และพีท...เศร้าอ่า
(แต่งเอง เศร้าเองก็เป็นนะเรา)

แง๊
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วยว่าพีทน่าจะเป็นคนจบชีวิตตัวเองเอง
สงสารอ่ะ ยิ่งกว่านั้นคือเสียดายเวลาเสียดายโอกาสที่ผ่านไปตลอดระยะเวลา 12 ปี
เพราะพวกผู้ใหญ่ใจร้ายแท้ๆ
แต่อีกใจก็คิดว่าพีทเองก็มีคนของตัวเองอยู่แล้วนี่เนอะ เมย์เขาก็ต้องไปมีชีวิตที่ก้าวต่อไปเหมือนกัน

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
อ่านแล้วเศร้าอ่ะ สงสารทั้งสองคนเลย

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
หดหู่ใจเนอะ ที่รักเราคงรักกันไม่ได้ เพราะว่าหัวใจของเธอนั้นมีเจ้าของ จบแบบทรมารใจจัง ส่วนเรื่องหมอนวนยังดีที่อยู่ด้วยกันถึงไม่หวานซึ่งมันก็อบอุ่นหัวใจดี

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด