Re: [รัก ร้อน เรา]:*จบ* p.27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: [รัก ร้อน เรา]:*จบ* p.27  (อ่าน 224605 ครั้ง)

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
My Dangerous Fire
รัก ร้อน เรา
ตอน 22 ลมพิษ
Geng's







              โชคดีสุดๆ ที่อาคารกิจกรรมชมรมเปิดลิฟต์ให้ใช้ในวันเสาร์
ต้องขอบใจวงโยธวาทิตซ้อมดังตึงๆ ครองครึ่งสนามฟุตบอลขณะนี้
เฟรมแบกผมขึ้นหลัง พวกเรารีบเร่งจนถึงที่หมายชั้น 5
ติง! แค่เลื่อนเปิดหันซ้ายมาก็เจอลมกับหมอกตัวติดกัน

“เชรี่ยหมอก! มึงทำอะไรเพื่อนกูปล่อยเดี๋ยว-เน้!” เก็ทพุ่งเข้าชาร์จทันที

(((‘ผลัวะ/---ปึง!!/---โครม/---โอ๊ยยยย!!!)))
                เก็ทหมาบ้าผลักหมอกตัวหนาหวังให้ลมหลุดมือแต่ที่ไหนได้
หมอกรวบร่างลมแน่นได้แซ่ดๆ ถอยเซไปชนเพื่อนข้างหลังล้ม 3-4 คน
“เฮ้ย! ไอ้เก็ทมันมาได้ไงวะ!?”
“โอยหัวกูสัด บ้าเอ๊ย! ล้มทับมาได้” เพราะเข้าปะทะดับเครื่องชนทันทีจึงทุลักทุเลเกินบรรยาย

“ไอ้เก็ทเดี๋ยว! เต๋าบี ดูเก้งที” เฟรมจะห้ามแต่ติดพยุงผมอยู่
           เต๋าบีเร่งส่งผมลงนั่งม้ายาวคู่ขนานระเบียงทางเดิน
สภาพมั่วซั่วอลหม่าน ข่างช่วยเคี้ยง บอล โอ๊ตกลุ่มเพื่อนพวกนั้น
มีเฟรมแยกหมาดุเก็ทแง่งๆ จะซัดปากหมอกอย่างเดียว


“แค้นอะไรมาฉะกับกูนี่ อย่ายุ่งกับเพื่อนกู บ้าเอ๊ย!” เก็ทตะโกนลั่น
“เก็ทพอแล้ว! หมอกปล่อยก่อนกูเอง เต๋าช่วยที” เฟรมเข้มพลางเรียกเต๋า
         เพิ่งเห็นผิดวิสัยตรงลมทิ้งตัวพาดบ่าหมอกนิ่งไม่กระดิกทั้งที่เกิดเหตุใหญ่

            ผมวูบวิตกทันใดที่เห็นร่างขาวป้อแป้ไม่มีแรงมาวางนอน
เขยิบให้หนุนตักก่อนตรวจตรา ลมเพิ่งรู้สึกตัวตื่นกรอกตาปรือไปมาแบบเบลอแฮงค์ไม่รู้เรื่อง
แขนตกจนต้องจับไว้ วินาทีนั้นใจสั่นกลัวเพื่อนตาย
“เก็ทมาดูเพื่อนมึงที มันจะตายอยู่แล้วนะ!” ตะโกนเรียก
“ลมจ๋าเป็นอะไร อื้อหือ! เหม็นฉิบหาย” บีรี่เข้ามาก่อนหน้าเบ้
“บุหรี่” ผมรู้
“ควันบุหรี่ เก็ทเคยบอกว่ามันแพ้!” เต๋าโพล่ง

            ซวยล่ะ นึกขึ้นได้ว่าลมจะเกิดภูมิแพ้กับสารกระตุ้นบางอย่าง
ที่แน่ๆ คือแสงแดดเปรี้ยงรู้จากออกค่าย รด.
 ส่วนผงชูรสกับควันบุหรี่เคยได้ยินจากเก็ทแต่ไม่คิดจะได้เห็นจริงๆ กับตาตัวเองวันนี้
            พวกห่าเหวเกาะกลุ่มไทยมุงดูอยู่ไม่ห่าง
เคี้ยง บอลห้องสองกับโอ๊ตหัวรุนแรงจากห้องอื่น
ที่เหลือเคยเห็นจากแก๊งรถแข่งรวม 6-7 คน
             ลอบเห็นสีหน้าหมอกเจ็บปวดจนผมเองไม่กล้าสู้สายตา
ทำไมลมถึงมาอยู่ที่นี่ หมอกกับลม...ไม่กล้าคิดต่อ หมอกจ้องร่างลมเขม็งจนน่ากลัว

“มันยังไงกันแน่ พูด!” เฟรมมาดเหี้ยมเจ้าพ่อมาเฟียไต่สวนลิ่วล้อ
“ก็...นั่นบอกมีเรื่องจะคุยด้วย เลยเรียกขึ้นมา” ชี้สลับระหว่างหมอกกับลม ชัดล่ะ
“มาถึงดันเฉยไม่คุยกันซักที เข้าห้องก็ปิดปากเงียบทั้งคู่ พวกกูก็ดูดๆ กันไป เห็นอีกทีไอ้นั่นค่อยๆ โหง่ยลงจากเก้าอี้แล้ว”
“ไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ สาบานได้”
“มันไม่ให้แตะเลยต่างหากล่ะ” บางคนบุ้ยที่หมอก
“เพื่อนมึงตามขึ้นมาเอง พวกกูไม่ได้ทำอะไรนะเว้ย”
“เชรี่ย! ในห้องเก็บวิทย์เนี่ยนะสัดเอ๊ย” เต๋าของขึ้นอีกคน

               ห้องเก็บสมบัติชมรมวิทยาศาสตร์ ชั้นเหล็กสูงตั้งเป็นแถวเว้นช่องทางเดินแคบๆ
ไว้เก็บโครงงาน ซากกระดูกอนาโตมีรกๆ แหล่งหลุมดำรู้กันทั่ว
 ดูดบุหรี่ จู๋จี๋หญิง ป๊อกเด้ง แอบดื่มเหล้าอะไรร้ายๆ นานาสารพัด

-----

“จะ...จะอ้วก” ลมดันตัวขึ้นโก่งคออาเจียนลงกันสาดเละเทะ
             ผมกับบีช่วยลูบหลังให้ คิดในใจ (=”=) ภารโรงเห็นเช้าวันจันทร์คงปลื้มน่าดู
“แหวะไม่ไหว อยากจะอ้วกตาม” บีผละหนีไปทรุดฝั่งโน้น
“เต๋า น้ำในถุงกีฬากู” เก็ทหันมาจับบ่าลมไม่ให้ร่วงตก
“คอแดงเลยสัด แขนเป็นจ้ำเยอะด้วย” ผมสำรวจด้วยอยู่ใกล้สุด
“ลมพิษขึ้นเหมือน รด.เลยว่ะ” เต๋าเข้าแทนบียื่นน้ำให้ลมล้างปาก

“พวกมึงรมควันเพื่อนกูเท่าไหร่?” เก็ทหันไปโวยกับพวกนั้น
“อะไรเท่าไหร่ก็ดูดกันหมดนี่แหล่ะ หมดซองรวมๆ ก็หลายอยู่”
“กูหมายถึงเวลา กี่ชั่วโมงกี่นาที!?” เก็ทจะบ้าอีกหน
“ซะ...ซักชั่วโมงนึงได้”
“ไม่ถึง กูว่าแค่ครึ่งหรอก”
“มะ...มันจะตายมั้ยวะ”
          พวกนั้นเริ่มระส่ำระสายกับภาพตรงหน้าคิดไม่ถึง
 ผมเองก็ไม่คาดเหมือนกันว่าจะรุนแรงเห็นผลทันตา

“ฮื่ย! ฮัลโหลสวัสดีครับ คุณลุงหมอให้เบอร์นี้ไว้ เพื่อนผมลมพิษขึ้นเคสที่เคยไปตรวจสกินเทสต์โรงบาลพี่ คนไข้ชื่อลมเหนือครับ/----/อาการ.../----/ไปไม่ทันครับผมโทรมาถามยาที่แพ้” เก็ทกลับเป็นผู้นำคนเดิม โทรศัพท์ถามโรงพยาบาลที่ลมเคยไปตรวจภูมิแพ้ เสียงดังใส่พวกนั้นให้รู้สึกผิดหนักข้อ

              ถึงขนาดนี้ผมยังไม่ได้ยินหมอกเอ่ยเลยซักคำเดียว
 ปากหนาปิดสนิทใบหน้าเคร่งเครียดราวแค้นใครมาซักสิบชาติ
จ้องตรึงไม่ละจากร่างลม แม้กระทั่งเก็ทหรือเฟรมคู่กรณีอื่นล้วนไม่อยู่ในสายตา


“บี พี่เขาจะบอกชื่อยาที่มันแพ้ ช่วยที” เก็ทยื่นให้บีเพราะจะจับลมไว้
“เอ่อ...” บีเงอะงะไม่คุ้น เป็นเคี้ยงผละจากกลุ่มผู้ร้ายรับไปพูดเอง
“มาบีคุยให้ อ๋อครับพอจะทราบครับ---” เคี้ยงโชว์ลูกชายเภสัชกรอยู่กับบีด้านโน้นปล่อยเก็ทจับเนื้อตัวเพื่อนเรียกสติจะพาไปหาหมอ

“ลมไหวมั้ย กูเองเก็ทไงพวกเราด้วยมึงไม่เป็นไรแล้ว ปะไปหาหมอกัน”
“ยะ...อย่าบอกแม่ นอนหายก่อนนะเก็ทนะ” ลมขาดห้วงแผ่วเบา
“เชรี่ยเอ๊ย!” เก็ทสบถก้มหน้านิ่ง สองมือบีบบ่าเพื่อนแน่น
             ผมพูดไม่ออก น่าจะทุกคนในนี้พูดไม่ออกเหมือนกัน
โดยเฉพาะพวกนั้นหน้าเสียสุดๆ

(‘ปังงงงง!’)
หมอกกำปั้นทุบบานประตูเสียงดังแทบพัง เดินดุ่มเข้าห้องชมรมวิทย์ทันที
แก๊งนั้นตามหมอกไปเหลือ 2-3 คนรั้งท้ายอยู่หน้าประตู
            เฟรมปล่อยผ่านไม่ปิดกั้นแต่เห็นร่างสูงกัดฟันแน่นจนขึ้นสันกราม
ก่อนมีเสียงเอะอะโครมครามในห้องพร้อมเสียงห้ามร้องเรียกชื่อ  (“หมอก!”)

             ระเบียงโล่งเหลือกระจุกอยู่แค่พวกเรา
โอบร่างเพื่อนห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลกับความรู้สึกเอ่อท้น
เรื่องงี่เง่าคาใจไม่สำคัญแล้วนาทีนี้ ชีวิตคนเราจะตายวันตายพรุ่งไม่รู้
ถ้าเป็นผมจะมีสติคิดถึงคนข้างหลังได้อยู่หรือ

              ณ ขณะเราหันสบตากัน เห็นความรักความห่วงใยในนั้นเต็มเปี่ยม
ผมเห็นเงาตัวเองในแก้วตาของอีกฝ่าย
...ผมมีเฟรม...เฟรมมีผม

-----
-------


             20.00 น. สองทุ่มตรงห้องของเรา กำลังนั่งดูหนังเคเบิ้ล
เฟรมคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง เลื่อนประตูเปิดพอให้ได้ยิน
“ให้มันเข้าบ้านน่ะดีแล้ว แต่ชัวร์ว่าไม่มีไข้แน่นะ/...../โอเค มึงสแตนด์บายไว้ละกันเก็ทเผื่อมีอะไรกลางดึกก็โทรมาเรียกกูได้ เดี๋ยวช่วย” แสดงว่ากำลังคุยกับเก็ทเรื่องลม
“...../เด็กมันนอนบ้านมึงด้วยเหรอ หึหึ โทรมานะเว้ยไม่ต้องเกรงใจ” ตัดสายก่อนเดินเข้ามาข้างใน

               ลมน็อกลมพิษขึ้นเมื่อใกล้เที่ยง เหตุโรงงานยาสูบจากแก๊งหมอกพ่นควันใส่
หิ้วปีกลงมาอัดสามเต๋า ลม เก็ทแว้นไปคลินิกใกล้ๆ
ครู่เดียวพี่ยักษ์ พี่ภู่และพี่แมวก็ห้อกระบะเข้ามาพาพวกเราที่เหลือตามไปสมทบ
ฉีดยาให้ลมนอนพักที่นั่นแพทย์ถึงแยกมาตรวจขาเจ็บของผมบ้าง
                พี่ ม.6 ย้อนกลับไปห้องวิทย์จะเอาเรื่องหมอกกับพวกแต่แก๊งนั้นไม่อยู่แล้ว
เป็นเก็ทบีเสียเองที่อยากให้เรื่องสงบ พี่ๆ จำยอมด้วยเหตุผล
ปล่อยผมกับเฟรมแยกกลับบ้านติวเรียนพิเศษและซ้อมวงกับรมย์ดำตามเดิม
                แสดงว่าเก็ทอยู่ยาวจนกระทั่งพาลมส่งกลับบ้าน คงปิดปากไม่ยอมบอกแม่เพื่อนเป็นแน่

“ไอ้เก็ท?” ผมถามกึ่งชวนคุยอยากรู้ภาคต่อ
“ใช่ หายแล้วโชคดีไม่มีไข้ แต่เด็กนอนบ้านมันด้วยเผื่อมีอะไรได้วิ่งไปช่วยตอนดึก” เฟรมอมยิ้มขำสองคนหลังมากกว่า
“บีนอนบ้านเก็ท?”
“นั่นแหละ ไอ้เด็กนรกบอกเลิกงานร้านดอกไม้ให้เพื่อน กลัวไปแพ้ฟอร์มาลินสารกันบูดเทือกนั้น ร้ายมาก” 
“อ๋อ ที่ว่าร้านดอกไม้ญาติทรายน่ะเหรอ” ผมรู้จากบีมาบ้างแล้ว  มิน่าช่วงนี้ทรายถึงคุยกับลมมากกว่าปกติ

                เก็ทห่วงเพื่อนก็จริงแต่ทว่าหวงบีมากกว่า
ช่วงขณะลมหลับแอบแวบช่วยดูงานโรงเรียนก็หนีบบีไปด้วยปล่อยพี่ภู่หรือคนอื่นเฝ้าแทน
ไม่แปลกใจที่ไนซ์บอยป๊อบปูล่าร์ชนะใจใครต่อใคร
แต่ภาพฟิวส์ขาดจะชกหมอกนาทีนั้นยังสยองไม่หาย

-----

“ดูเรื่องอะไรอยู่” นั่งลงโซฟาเดียวกัน
            พาดแขนคร่อมพนักกึ่งๆ วางพาดบนไหล่ผม เสื้อกล้ามดำโชว์หัวไหล่น่ากิน
         
            เพิ่งฉุกคิดขึ้นได้จากลอกคราบคนป่วยเมื่อครู่
บีเสนอไอเดียเปลี่ยนเสื้อให้ลมเพราะควันบุหรี่คลุ้ง
 ผมยกเสื้อขาวทีมเจ้าบ้านให้ใส่แทนเสื้อโปโลสีเทา
ที่มีตราบริษัทคอมพิวเตอร์กิจการบ้านหมอกหรา
เท่าที่ทราบคือลมทำงานพิเศษในบริษัทสาขาหรือไม่ทำแล้วกันแน่

“งานพิเศษ ไหนว่ามันทำกับบริษัทพ่อไอ้หมอก?” 
“เลิกตั้งนานแล้ว เก็ทให้เล่นเปียโนโรงแรมพ่อมันข้างโรงเรียนเราแทน แต่เดือนนี้รมย์ดำเสียบแทนหาเงินซื้อคีย์บอร์ดใหม่ ในวงไม่ได้บอกเหรอ”
“หึ ไม่ได้บอก แค่ว่ารับจ๊อบนอก ซ้อม 6 โมงเย็นเมื่อกี้แทน” เอ่ยถึงเพื่อนวงดนตรี ‘ภิรมย์’ ลูกครึ่งไทย-แอฟริกันอเมริกัน
             มิน่าเจอพี่กายเลี้ยงชาบูครั้งก่อนยังบอกเคยเจอเพื่อนผิวดำเล่นเปียโนที่โรงแรม
ผมเงียบไม่รู้จะตอบยังไงเพราะงงว่าทำไมไม่ใช่ลมขาวเพื่อนเก็ท
บีบลูกบอลโฟมสไมล์ลี่ ความขุ่นมันจางหายแต่ควันไฟยังกรุ่นไม่หมดเสียทีเดียว
โหมดนี้ไม่ใช่กรกฎาเลยจริงๆ


“เฟรม...ถามจริง ไม่ได้โกรธหรืออะไรนะแค่อยากรู้เฉยๆ” ผมสูดลมหายใจเข้า ออกตัวด้วยถ้ามีเรื่องคาใจจะรวนไม่เป็นผู้ไม่เป็นคน
“ว่า?” มือใหญ่กดปุ่มเงียบเสียงเหลือแค่ประโยคแปลที่จอภาพ
“ที่คุยกันเรื่องต้นจั๋ง ทำไมต้องเป็นมึง” ต่อจากห้องพักนักกีฬา
          ลึกๆ แล้วกูหวง กูโกรธ กูยังอยากให้ง้อต่ออยู่นะเออ

“อ้อ เอนไกโดยังไม่ลืมแฮะ หึหึ”
“เชรี่ยเฟรม” นี่ถามดีๆ อยากเคลียร์ขาดให้จบๆ ไป
“ที่ต้นจั๋งโดนพี่มอสลากกลับไปคืนนั่นไม่ยุ่งด้วย แต่ต้นจั๋งต้องมาเรียนทุกวันตามปกติ ห้ามขาดแบบไม่มีเหตุผล”
“เออ อันนี้รู้แล้ว” ผมเข้าใจแบบเหวี่ยงๆ ใกล้จะติสต์แตกเล็กน้อย
           (ภายหลังถึงทราบว่าลมก็ยื่นโนติสแบบนี้กับเฟรมเหมือนกัน ห้ามคนของมึงซอมบี้มาโรงเรียน ไอ้ชั่วเล่าหน้าตายจนแทบอยากชกเปรี้ยง; เก้ง)

“พูดกับต้นจั๋งเองไม่ได้ต้องบอกพี่มอส คิดว่าจะให้ใครไปพูดล่ะ”
“นี่?” ผมจิ้มหน้าอกคนตรงหน้า
“ใช่ นั่นแหละที่โทรมา” เงยถามความเห็นประมาณจบไหม

            เวลาอยู่ในห้องเรียนจะมีพวกพี่แก๊งพี่มอสเตร่มาสอดส่องเนิร์ดเล็ก
เพื่อนปกติไม่รู้แต่พวกเราทราบดี ต้นจั๋งนกน้อยในกรงทองสุดหวง
ดิ้นรนบอกเลิกไปรอบยังถูกตามกลับ ไม่รักไม่หลงคงไม่ทำถึงขนาดนี้
อดชื่นชมกับความรักอันร้อนแรงของทั้งคู่ไม่ได้
            เฟรมมีคุณสมบัติครบทุกอย่างที่จะคุยกับพี่มอสได้ จบครับ

----

              โอเคกับเหตุผลห่วงเพื่อนเนิร์ดช่วยซ่อนบอยเลิฟแอนด์เลิฟบอยโจทก์ยกฟ้อง
ที่ไม่ใจคือแม่ง! มึงรู้ดีเกินไป ข้อความอีนิกมาสั้นจู๋แต่คนของเรากลับทำเหมือนเคยๆ กันมาก่อน
อย่างนี้เก้งมีเคลียร์ ฮึ่ม!
“ที่คุยกัน เมสเซจนั่นรู้กันตั้งแต่เมื่อไหร่”
“หา เอ่อ...อ่า”
“เอ่ออ่าไม่ใช่คำตอบ” ผมจิก
“หึ...” เฟรมถูจมูก กิริยานี้มักเกิดขณะร่างยักษ์เขินอายเป็นเด็กแอบทำผิดโดนจับได้
           ทำไมเป็นตอนถามถึงคนที่กูไม่ชอบที่สุดด้วยวะ จี๊ด!!!
“ว่ามา ตอนไหนเมื่อไหร่?” พยายามลดปรอทเดือด

              เราตัวติด 7/24 ผมขยับเฟรมขยับ ผมลุกเฟรมลุก
โทรโข่งขยายเสียงจากเฟรมปากหนักก็คือผม ไม่มีเวลาไหนที่เราไม่รู้ความเป็นไปของอีกฝ่าย
รอดสายตาพลาดท่าเสี้ยวไหนของวินาที

“เดินผ่าน เก็บจานโรงอาหาร หน้าห้องน้ำ” เฟรมระบุสถานที่
“ยังไง?” มีช่องว่างระหว่างเรากระนั้นหรือ
“ไม่ได้คุยจริงจังถามตอบไม่กี่คำ ไปทำงานกับไอ้หมอก? มันก็อือใช่เงินดี อีกทีก็จะเลิกทำแล้ว? มันก็ใช่อาทิตย์หน้า แค่นั้น”
“...” ผมอึ้ง

“แต่แรกสุดจริงๆ คือจากไอ้เก็ท ม.2 รึ 3 จำไม่ได้ ที่ยังกินเหล้ากับเราแล้วแฮงค์อ้วกนอนให้น้ำเกลือห้องพยาบาลเป็นวัน มันก็เดินมาบอก ห้ามไอ้เก็ทหน่อย เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”
“ลมมันพูดก่อน?” เพิ่งรู้ความจริง
“ใช่ จากนั้นอีกทีปีที่แล้วได้ หมอกเล่นรถกับมึงใช่ไหม ยังไม่ทันพูดอะไรมันก็บอกดูด้วย เป็นบ้าอะไรไม่เล่นฟุตบอล”
“หึ!” เจ้าชายสีขาวผู้งดงาม ลูกศรคมกริบปักแทงทะลุอก
“ช่วงหลังๆ มีเรื่องเดียวคือต้นจั๋งกับพี่มอส อยู่ลานรถเป็นยังไง ดูแลต้นจั๋งดีไหม บอกพี่มอสอย่าโหดนักทำนองนั้น” เฟรมบอกว่าลมให้ปรามพี่มอสไม่อยากให้ต้นจั๋งมีรอยคิสคอแดงหรือเพลียจนเสียการเรียนจะแย่ทั้งคู่ ไม่อยากให้เพื่อนถูกมองไม่ดี
               กดเปลือกตา เรื่องอื่นผมรับได้แต่ที่เจ็บใจคือตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา
นับได้ไม่ถึงสิบครั้งที่เฟรมจะเก็บจานเอง แวะเข้าห้องน้ำก่อนขึ้นภาคบ่าย
ส่วนใหญ่ให้ผมรอใต้ซุ้มทางเดิน จังหวะลมเหนือพัดมาเยือน
ไม่อยากจะเชื่อ ชั่วขณะที่ผมยืนห่างไม่ถึง 10-20 ก้าวแท้ๆ


“มึงจำได้ทุกคำ” เจ็บปวดจนรวดร้าว
“ไม่นะ แค่คร่าวๆ” เฟรมเรื่อยๆ เหมือนไม่ใส่ใจไม่ใช่เรื่องใหญ่
“แต่ทำไมถึงมายุ่งกับมึงลับหลังกู นี่ต่างหากที่ไม่ชอบ” น้ำตาปริ่ม
“ดื้อ...” เฟรม

      ไม่ชอบเสียงนี้
      ไม่ชอบฝ่ามืออุ่น
      ไม่ชอบสายตาเว้าวอน
      ไม่ชอบเลย...มันทำให้ผมอ่อนแอ


“ทำไมเฟรม”
“ดื้อ...ไม่มีอะไรเลยมันเป็นเพื่อน”
“เพื่อน! นี่นะเพื่อน” ผมติสต์แตกแบบโง่ๆ
           รู้ว่าไม่ควรแต่คนมันบ้าครับ บ้ารัก หึงหวง น้อยใจ กลัวโดนแย่ง กูผิดตรงไหน
“ไอ้ลมแค่ห่วงเพื่อนมันเท่านั้นเอง ไม่ได้จะอะไรเลย”
“อึ่ก!” ผมเกลียดตัวเองตอนนี้จริงๆ
“ดื้อ...ชู่ว์” เฟรมย้ำ จับบ่าผมแน่นดึงร่างเข้าอก กำแพงความเข้มแข็งเพียรสร้างพลันล้มครืนพังสิ้น

“แต่มึงมองมัน มองไอ้ลม เห็นนะ...ตลอดเลยด้วย” ผมยังทิฐิ
“กูมองมันเพราะมึงเก้ง เพราะมึงคนเดียว” ขึ้นกูมึงและเรียกชื่อ
“ไม่---” ไม่เข้าใจคือคำจะกล่าวต่อ
              กลับวุ่นวายสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะประโยคต่อไปนี้...
“ก็เหมือนที่มึงอยู่กับกู นอนกับกูแต่ตัวมึงเองที่ไม่ได้มองกูเลย มองแต่ไอ้เหี้ยเก็ทมาตลอดเหมือนกัน ถูกไหม”
“อะ! เฟรม ที่มองน่ะ---” ผมแหบแห้งพลิกหาคำตอบไม่ทัน
“คิดว่าไม่รู้ล่ะซิ หึ!”

               อากาศถูกดูดเป็นสูญญากาศก่อกระบวนการสร้างพายุ
หมุนวนเข้าหลุมลึกอัดร่างเราให้แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เพราะรักเพราะหวง เพราะห่วงมากเกิน หวาดกลัวจนเสียความเป็นตัวของตัวเอง
นาทีนี้กลับทำลายทุกอย่างสูญสลายด้วยคำว่า ‘เชื่อใจ’
ไม่มีสิ่งใดแตกหักเสียหาย...ยกเว้นหัวใจ

-----

                เฟรมเหลืออดเดินดุ่มไปที่โต๊ะข้างหัวเตียง กระชากลิ้นชักพรืดล้วงกุญแจหยิบสิ่งของ
“จะ...จะไปไหน!” ผมพร่ามัวน้ำตาแต่เท้าหนักไม่ขยับก้าว
“ยังไม่คุยตอนนี้! อยู่นี่ไม่ต้องออกไปไหนไม่งั้นกูฆ่ามึงแน่เก้ง”
“...ฮือ...” ชันเข่าทรุดพิงหน้าเตียง
          กอดตัวเองร้องไห้สะอึกสะอื้นเบาๆ ไม่อยากให้ใครได้ยินทั้งที่เหลืออยู่คนเดียว

...เฟรมไปแล้ว
ไม่แม้แต่จะเหลือบมอง
แผ่นหลังนั้นลับหายจากสายตา
ผ่านเลยไปราวอากาศธาตุ



*************TBC ออนมันเดย์

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
 :z13:
ไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย  :o12:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2013 09:30:04 โดย tuckky »

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
อ้าววว ไมเป็นงี้ได้ล่ะ  :sad11:

เฟรมกลับมาก่อน ปละหนูเก้งจ๊ะอย่าคิดมากเลยนะ

บวกเป็ด

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6

pahpai

  • บุคคลทั่วไป
อ้าววว ไหงพลิกไปทางนี้ได้? 

เคลียร์กันไวๆนะ สงสารทั้งสองคนเลย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
อ้าว ทำไมเป็นอย่างงี้ เฟรมจะไปไหน  :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ป้าอ่านแล้วป้าก็เข้าใจ
แต่เฟรมกับเก้งยังวนเวียนอยู่กับอารมณ์ ความหึงหวง และโคตรจะคิดมาก
คนเราก็ต้องมีไอดอลในใจสักคนสองคนบ้าง ไม่ใช่รักแบบแฟนซะหน่อย
สรุป ลมเหนือเป็นห่วงเพื่อนที่มีปัญหา แล้วให้เฟรมเป็นตัวปฏิบัติการ
เพราะออกแนวห้าวหาญพูดอะไรเพื่อนฟัง ไม่ฟังก็ซัดกันไปเลย


ออฟไลน์ eaey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
 :m4: :m4:ผูกเรื่องทำเอาเรามึน อึนไปหมด  คนแต่งเก่งมาก  ไม่รู้โน๊ตเหตุการณ์ สถานที่ เวลาไว้ยังไงให้เข้ากับเรื่องที่ผ่านมา :m28: :m28:

ออฟไลน์ R-Chisel

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
เก้งกับเฟลมอย่าเป็นแบบนี้สิ ไม่ชอบเลย

รีบๆปรับความเข้าใจกันนะ  :sad4:

ออฟไลน์ Satanza321

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 671
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
เคลียร์กันดีๆนะ ใจเย็นๆ

อยากรู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไงอะ  :a5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
เฟรมไปไหน ไปตามใครมาเคลียร์หรือป่าว

กลับมาไวไว เก้งอยู่คนเดียว ร้องไห้ใหญ่แล้วววววว   :m15: :monkeysad:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
อ้าว ทะเลาะกันซะล่ะ

ลมเหนือน่าสงสารจริงลมพิษกำเริบซะน่ากลัว  หมอกทำทำไม

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
ไม่อยากให้ทะเลาะะกันเลย
ถึงตอนแรกอยากให้เก้งโกรธ
แต่ก็ค่อยากเห็นเฟรมง้อเก้งมันน่ารักดี
เฟรมรีบกลับมาปรับความเข้าใจกันน้า  :monkeysad:

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
สงสารเก้งน้อย...
นั่นแหละ เพราะรักมากไปหรือไม่เชื่อใจเขา
หึงหวงน่ะใช่ แต่เชื่อใจต้องมาก่อน...ไม่งั้นจะเป็นเราเองที่คิดผิด

ตาเฟรมหวงออกนอกหน้ามาตั้งนาน
เพิ่งมาหลุดมาดกลายเป็นหึงงี่เง่าเอาก็ตอนนี้...
ยังดีที่พูดออกมาให้เขารู้ตัวว่าเรามองอีกคนเพราะเหตุใด

อาการปลื้มหรือชื่นชมใครไม่ใช่เรื่องผิด แต่มักพาให้-เข้าใจผิด-
และไม่ใช่ว่าการกระทำเท่านั้นที่สำคัญ แต่คำพูดยืนยันจะทำให้ความสัมพันธ์ชัดเจนขึ้น

จุดอ่อนของ-นั่น-มีเยอะจนต้องจำ...ทำเอาเกือบตายหลายอยู่
แต่ทำให้รู้ว่า...ทุกวินาทีมีค่า ไม่ว่าเราจะอยู่ด้วยกันในสถานะอะไรก็ตาม

โบกธงพร้อมยกป้ายไฟ(สามารถมาก) ให้กลับมาเคลียร์ยาวโดยไม่บุบสลายซักนิด...จิ๊ดเดียวก็ไม่ ฮี่ๆ

ปล.แอบคิดอยู่ว่า-คนถูกดูแล-ส่วนใหญ่ในทุกเรื่องมา...ไม่ยอมพูด-คำนั้น-
ต้องจวนตัวสุดๆ ถึงจะยอมคายมาได้ ^^ พาบรรดาคนรักทั้งหลายจะตายเอาเหอะ ^^

......................................................

เข้ามาดิท...ที่จริงจะหลังไมค์ก็ได้ แต่ไม่เอาอ่ะ ไหนๆ ก็จะพูดถึงแระ มันติดใจ แหะๆ
เพิ่งนึกได้...ในอนาคตชีวิตเด็กๆ นี่ เมื่อเข้าเรียนต่อที่ต่างกันไป เขาจะรู้กันมั้ยว่า...
แหวนบนนิ้วน้องลมนั่นได้แต่ใดมา...ห่างกันไม่กี่เพลา มีคนจองซะแล้ว ฮิ ^^
แค่เรื่องติดใจ...ไม่มีอะไรต้องคิดเยอะนะตั๋ว เก๊าคิดต่อเฉยๆ แฮ่... ;p
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2013 23:06:17 โดย Gokusan »

ออฟไลน์ chaWice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0
อ้าว เห้ยยยยยยยยยยยยยย
โอ๊ย วุ่นวาย
เหนื่อย แต่ ก็รักนะ
วัยรุ่น กับความรัก นี้มันดีจริงๆ

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
ตอนแรกก็เหตุการณ์ชุลมุนกับลมเหนือ
มาตอนท้ายไหงมันออกมาเป็นอย่างนี้ล่ะ
อย่าให้ความหึงหวงมันมาบังตาเลยนะ
มันจะทำให้เรามองไม่เห็นอะไรที่ควรเห็น
แต่คงไม่ทันแล้วมั้งเก้ง :monkeysad:
ค่อยพูดค่อยจากันเน้อ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
ลมเป็นห่วงเพื่อนทุกคนเลย
ทำไมกลายเป็นเฟรมงอนเก้ง :serius2:

ออฟไลน์ owlkapam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
    :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ทำไมมันผิดคาดอย่างเน้..........รอรอรอรอรอรอรอรอ :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ wews

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
อ้าวววว...เคลียร์ยังไม่เสร็จเฟรมมีของขึ้น...
คู่นี้คบกันมานาน...แต่หวาดระแวงไม่มั่นคง..
สงสัยต้องเปิดใจอีกมาก ๆ ...เด็กน้อยไม่มีความมั่นใจตนเอง..
ลมจ๋าคนดี..สุขภาพก็ไม่ค่อยดีแต่น้ำใจให้เพื่อนเต็มเปี่ยม  :กอด1:

 :L2::pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
ไมออกมาหน้านี้ได้  :m15:
 

 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ ruby

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 477
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-3
เคลียร์กันเร็วๆนะจ๊ะ รักมากก็หวงมาก หึงมาก อย่างงี้แหละ
ใจเย็นนะเฟรม มาง้อเก้งเร็วๆล่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
โธ่ถังกะละมังหม้อไห
ทำไมถึงไม่เข้าใจกันซะทีน้อเด็กๆ
ไม่มีใครเป็นน้ำเลยสักคน
สมกับชื่อเรื่องจริงๆ
ไฟมาเจอไฟมันก็ยิ่งลุกโหมเข้าไปใหญ่
 :fire:
รีบๆเข้าใจกันเถอะเด็กๆ
คนอ่านเสียใจ
 :sad4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ง่า...นำ้ตาไหลเลยอ่ะ ฟีลกำลังมา ชอบจังบีบหัวใจดี

bauloy

  • บุคคลทั่วไป
My Dangerous Fire
«ตอบ #534 เมื่อ17-02-2013 10:52:56 »

เเง้น้ำตาไหลเบยย
เคลียร์กันเร็วน่อออ ปวดใจT T

ออฟไลน์ ekonut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 350
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
อย่าทะเลาะกันนนนนนนน

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
My Dangerous Fire
รัก ร้อน เรา
ตอน 23 ความหลังและคำทำนาย
Geng's





   

 
        (‘ก๊อกๆ’) ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีคนเคาะประตู
แปลกใจ ไม่บ่อยครั้งนักที่หม่าม้าจะเป็นฝ่ายขึ้นมาหาถึงห้องนี้ ท่าทางมีธุระจะคุยด้วย
“อาเฟรมออกไปคนเดียวหรือ?”
“...” ผมอาศัยเช็ดหน้าตาง่วนไม่ตอบ
“หาเพื่อนตามประสากระมัง ไม่เห็นเก้งไปด้วยเลยขึ้นมาคุย” หม่าม้าเกริ่นเรื่อยๆ
       ไม่ถือสากับหน้าตาไม่พร้อมใช้ของผม

              คุยถามถึงพี่แป้งหมี่ระหว่างอยู่ที่ห้องแถวด้านหน้าโน้น
ว่ากระบวนการตัดต่อหนังสั้นถึงไหนแล้ว
เพื่อนๆ ลูกเป็นอย่างไรด้วยเหตุจากผู้หญิงคนเดียว
ที่เหลือเป็นผู้ชายทั้งโขยง ทำงานดึกดื่นแม่เป็นห่วง

“แป้งหมี่กลับมานอนตีสองตีสาม ใกล้แค่นี้ก็จริงแต่หม่าม้าไม่ได้แวะไปดูเลย บ้านเรางานเยอะมากขึ้นทุกวัน ใช้แต่คนเอาของกินไปให้กับกิ๋มหยกเฟยมาเล่าว่ามีแต่เพื่อนผู้ชายทั้งนั้น เขาเป็นอย่างไรกันบ้างล่ะ”
“ครับ...ก็ดีครับ” ผมตามน้ำสงวนท่าที
“ริจะประกวดอะไรก็ไม่รู้เด็กพวกนี้ เห็นบอกส่งสิ้นเดือนนี้ใช่ไหม”
“ครับ เห็นว่างั้น”
“ดีที่อาเฟรมช่วยดูพี่เขาอีกแรง ไม่อย่างนั้นหม่าม้าคงเป็นแม่ที่แย่มากๆ ไม่สนใจลูกเลยว่าไหม” หม่าม้ายิ้มๆ

              หลังซ้อมดนตรีเสร็จดึกๆ ผมกับเพื่อนถึงได้ฤกษ์ขึ้นไปเยี่ยมหน้าทักทาย
กลายเป็นแบงค์ แย้ รมย์ดำสนิทสนมกับพี่พวกนั้นมากกว่าผมเสียอีก
ส่วนเฟรมอ่านหนังสือรออยู่ข้างล่าง ไม่อยากทักก็ต้องรู้จักหมดทุกคน
            หม่าม้าต้องทราบจากปากลูกสาวตัวเองมาก่อนหน้านี้แล้ว
ตอนเช้าเราสองคนออกจากบ้าน พร้อมพี่แป้งหมี่ก็ลงมาจะไปเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนกัน
ยังไงก็ต้องพูดคุยตามประสาแม่ลูก


“ที่หม่าม้าจะคุยด้วยคือเรื่องเก้งกับอาเฟรม”
“...” นั่นประไร ซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้วะ
           เหงื่อเย็นซึมออกฝ่ามือก้มหลบสายตาทันที คุณผู้หญิงตรงหน้ารู้ลึกมากน้อยเท่าไร
ไม่มีทางที่จะเห็นดีเห็นงามด้วยแน่ๆ พ่อแม่ที่ไหนอยากให้ลูกชายตัวเองรักกับผู้ชายด้วยกัน
 ถึงแม้ไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ แต่ก็เลี้ยงเฟรมมาตั้งแต่เล็ก
            ในหัวสมองสร้างภาพร้ายๆ ล่วงหน้าไปไกลเกิน
ถ้าผู้ใหญ่ในบ้านรู้ คำว่าเราย่อมไม่มีเหลือ
พ่อแม่แสนดีมีแต่ในนิยายวายบอยเลิฟใสๆของพี่กวางเท่านั้น ผมคิด

“เรื่องเก้งกับ---บอกกระทั่งเฮียฟง เตี่ยเฮียน่ะ---อาม่าก็ถาม---ในบ้านหมดแล้ว” หม่าม้าพูดยาวมากแต่ไม่มีสติรับฟังเพราะกลัวเกิน
          อะไรคือในบ้าน
          อะไรคือหมดแล้ว...ต่อประโยคไม่ติดจับประเด็นไม่ได้

“วะ...ว่าอะไรนะครับหม่าม้า ที่ว่ารู้หมดแล้ว?” ผมซีดเผือด   
“ก็คิดดูว่าทำไมถึงยอมให้เก้งมาอยู่กับอาเฟรมล่ะ”
“เอ่อ...” ไม่เข้าหัวซักนิดเดียว

             กลัวจนถึงขั้นหวาดผวา โดยเฉพาะคนที่มีความผิดติดหน้าผาก
เวลาแห่งการจากลาเข้ามาทักทายเร็วเกินไป
เพิ่งลืมตาตื่นยังไม่ได้ก้าวไปไหนเลยด้วยซ้ำกลับต้องแยกทาง
             นี่มันนิยายสุดโศกแห่งปีชัดๆ น้ำตาที่ว่าแห้งกลับปั๊มสูบขึ้นมาใหม่
หยดร้อนไหลเร็วลงร่องแก้ม รีบปัดเช็ดออกกลัวหม่าม้าเห็น


“อ้าว ร้องไห้ใหญ่แล้ว ถ้าอาเฟรมเห็นได้ดุหม่าม้าทางสายตาอีกแน่ๆ”
“...” สับสนสงสัย หม่าม้าต้องการจะสื่อสารข้อไหน หรือเป็นผมเองที่เครื่องรับสัญญาณไม่ดี
“เก้งก็รู้ เฮียฟงกับหม่าม้าไม่ได้ดูแลอาเฟรมเท่าที่ควร ไม่เหมือนปิง ป๋องหรือแป้งหมี่ได้เลี้ยงดูเต็มที่ ส่วนหนึ่งเพราะช่วงเฟรมเกิดบ้านเรารับงานเข้ามาพอดี และอาเฟรมคือลูกชายอาม่า ถึงสายเลือดเดียวกันแต่ไม่ใช่ลูกในไส้ บางทีอะไรๆ มันก็ไม่ได้ง่ายดายเท่าไรนัก” คุณพิมเอ่ยเรื่องที่เธอบกพร่องต่อหน้าที่แม่กับเฟรม
            หม่าม้าดูแลเลี้ยงดูป้ปนข้าวป้อนน้ำขณะอาม่าก็อยู่ในบ้านด้วย
 สั่งสอนตักเตือนใดๆ ทำไม่ได้เต็มที่เพราะความเกรงใจกันทั้งสองฝ่าย
เฟรมจึงจิตเอกเทศไม่สน ไม่ขึ้นกับใครตั้งแต่เด็ก

“เฟรมเคยบอกผมว่าหม่าม้ากับเตี่ยเฮียเป็นพ่อกับแม่ครับ ที่โตมาจนทุกวันนี้ก็เพราะหม่าม้า” ผมใส่ไข่บ้างให้สบายใจ
“ก็นั่นแหละ ส่วนหนึ่งเพราะอาเฟรมมีเก้งกับทางโน้นช่วยด้วย หม่าม้าเลยรู้สึกผิดน้อยลง ต้องขอบใจกาญจน์จริงๆ” คุณพิมเอ่ยถึงแม่ผม
“แม่บอกเฟรมเป็นลูกชายแม่อีกคนด้วยครับ” พูดความจริง
“นั่นซินะ เก้งนี่เหมือนแม่จริงๆ ยิ่งโตมาก็ยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่ หน้าตาจมูกปากสวยๆ อย่างนี้น่ะใช่เลย” หม่าม้ายิ้มแย้มพิศหน้าชื่นชม
“อ่า...” ผมเขิน ไม่ใช่แค่นิสัย หน้าตาผิวพรรณถอดมาเด๊ะ พี่กวางได้เค้าพ่อมักบ่นน้อยใจว่าอยากสวยเหมือนแม่

          นึกขึ้นได้ว่าเราคุยเรื่องไหนกันอยู่หว่า พัดออกทะเลไม่รู้ตัว
“เก้งรู้ใช่ไหมว่าอาเฟรม...เป็น”
“...” ตัวเย็นเฉียบ คุณผู้หญิงตรงหน้ารู้ความลับจริงๆ ด้วย
“พูดตรงๆ เลยนะ ตอนแรกหม่าม้าว่าจะไม่บอกให้เก้งรู้หรอก แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ” คุณพิมยิ้มมีเลศนัย
“ผมไม่เข้าใจครับหม่าม้า จะไม่ให้ผมรู้เรื่องอะไร?”


            คุณพิมพิไลแตกประเด็นตั้งกระทู้ใหม่ในห้องพูดคุย
ด้วยเห็นช่วงนี้เราสองคนระหองระแหง คอแข็งใส่กันบ่อยครั้ง
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจนพลอยผู้ใหญ่ปวดหัวไปด้วยจึงมาบอกให้ทราบดีกว่า

---------

         ประโยคต่อจากนี้เป็นข้อมูลจริงไม่ใช้สแตนอิน ไม่ต่อสลิงใดๆ  โปรดฟังให้ดี...
“มีอยู่วันหนึ่ง อาเฟรมเดินลงมาถามหน้าซื่อๆ ถ้าจะเป็นเกย์ เตี่ยเฮียกับหม่าม้าจะไล่อั๊วะออกจากบ้านไหม จำได้ว่าเฮียฟงสำลักน้ำชาออกจมูก หม่าม้าทำกาแตก หิ้วมาจากเมืองจีนด้วยเสียดายไม่หาย”
“อา...” พยายามจูนข้อมูลอย่างยิ่งยวด
“กำลังนั่งงงกันอยู่สองคน ไม่ถึงชั่วโมงกาญจน์ก็กระหืดกระหอบเข้ามาในบ้าน ตกใจใหญ่ว่าอาเฟรมไปถามแบบเดียวกัน เพิ่มอีกข้อคือขอเก้งมาแต่งงานด้วยได้ไหม”
“...(0-0)...” กรกฎาหงายเงิบ

          นิยายวายชัดๆ พล็อตมั่วไม่เป็นสับปะรด คนอ่านได้ส่ายหน้า
ไอ้เฟรมทำบ้าอะไรกัน เพี้ยนผีโอวัลตินเข้าสิง (นมรสโปรดมันครับ)
แม่ตูไม่เอาไม้กวาดฟาดตายคาที่วะ
‘ขอเก้งมาแต่งด้วย’ นี่คือการพรากลูกชายจากอกคนเป็นแม่ ซึ่งก็คือมารดาของกูเลยนะเฟ้ย
           พูดจาประสาเด็กน้อยจอมบังคับขู่เข็ญกับผู้ใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มันริจะเป็นเกย์ตอนไหนทำไมผมไม่ทราบมาก่อน
(T0T) วินาทีนี้กูอยากตายครับ


          หม่าม้าพิมยังทำการแสดงต่อไม่ลุกออกจากห้องไปง่ายๆ
เรื่องนี้อาถรรพ์ ใครได้เข้าฉากแล้วชอบอยู่ยาวขโมยซีน ไม่เข้าใจ
“กลายเป็นเราสามคนล้งเล้งเสียงดังกันใหญ่ สุดท้ายคือใครมาห้ามรู้ไหม” คุณพิมหัวเราะ
“มะ...ไม่ทราบครับ”
“อาม่า แม่จริงๆ ของอาเฟรม”
“อะ...อาม่า?” ผมสะกดความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่ได้
           หรืออาม่าจะล่วงรู้ว่าลูกชายสุดท้องของตัวเอง...เป็น

“ใช่ อาม่ากับอาป๊ารู้ก่อนใคร เฟรมบอกอาม่าตอนจบ ป.6 อาม่าถึงยอมให้เรียนที่นี่กับเก้งต่อเพราะไม่อยากให้ลูกเสียใจ คิดว่าโตขึ้นคงจะลืมๆ ไปเองตามประสา”
          คุณพิมเล่าต่อว่าอาม่าประเมินลูกชายตัวเองผิดตั้งแต่ต้น
เฟรมทำเฉยไม่ไปเรียนที่อเมริกาตามรอยญาติคนอื่นๆ
           จนกระทั่งเวลาต่อมาคือจบ ม.3
เฟรมก็มาบอกเตี่ยเฮีย หม่าม้าและแม่กาญจน์หมดทั้งสามคนในเวลาพร้อมๆ กัน
อาม่าถึงทราบว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไป

“หมายถึงที่บอกว่าชอบผมคือ ม.3 เหรอครับ” เพิ่งคลำพบเส้นด้ายเฉลยในเขาวงกต
“น่าจะก่อนสอบไล่ พอรู้ว่าจะส่งไปเรียนต่อที่นู่น อาเฟรมก็มาบอกวันรุ่งขึ้นเลยว่าชอบเก้ง จะอยู่กับเก้ง จะไม่ไปอเมริกาถ้าไม่มีเก้งไปด้วย”
...(+0+)...” หงายเงิบไม่พอ ขอล้มตึงหัวน็อคพื้นสลบสามรอบซ้อน



            คราวนี้ผู้ใหญ่ทั้งบ้านเปิดเวทีดีเบทโต้วาทีแบบหมู่อย่างเร่งด่วน
เสียงแรกบอกยังไงก็ต้องจับแยก อีกเสียงบอกให้ดูๆ ไปก่อนเดี๋ยวโตเป็นผู้ใหญ่ก็เบื่อไปเอง
อีกก็บอกเรื่องของเด็กมันจะไปยุ่งอะไรด้วย ความรักเป็นสิ่งสวยงาม
 ซินแสก็บอกอยู่ว่าอาเฟรมน่ะแปลกคน คิดอะไรไม่เหมือนใคร ขัดดวงชะตาเปล่าๆ

           เพิ่งรู้ความจริงอีกข้อว่าผมเกิดมาเพื่อเสริมดวงเฟรมอย่างไม่น่าเชื่อ
ประมาณหงส์คู่มังกรอะไรเทือกนั้น
ไม่รู้กิ๋มหยกเฟยโกหกรึเปล่าแต่ทำกรกฎาอึ้งกิมกี่หนักข้อ
              สุดท้ายคือเรียกเฟรมกล่าวสปีช...
‘อั๊วะรักเก้ง นานแค่ก็จะยังรัก ถ้ารู้ว่าเก้งอยู่ที่ไหนก็จะตามไปอยู่ด้วย จะเป็นเกย์กับเก้งคนเดียว เอาเก้งเป็นเมียให้ได้’

“หม่าม้าจำได้ จะทำงานหาเงินไปซื้อบ้านอยู่เกาะด้วยกันสองคนอะไรประมาณนั้น แม่นที่สุดคือจะเอาเก้งเป็นเมีย โกรธๆ อยู่ขำกิ๊กเลย” แล้วคุณพิมก็หัวเราะเสียงดัง
           เล่าว่าที่เฟรมบอกความจริงเพราะแค่อยากให้รับรู้เฉยๆ ไม่ได้ต้องการอะไร
ตรรกะเด็ก ม.3 วัยรุ่นช่างร้อนแรง (มันเข้าก่อนเกณฑ์ครับ)
           ภาพเด็กผู้ชายหัวเกรียน นัยน์ตาแกร่งสีดำสนิทเอ่ยอ้างประโยคช็อกโลก
กลับพลิกผันทุกสิ่งอย่าง ล้มกำแพงหนาเป็นสะพานลัดข้ามเส้นทางที่ต้องการจะก้าว
 เรียกว่าเดินบนอากาศชัดๆ    

              มันคิดมากเกินเด็กหรือไม่มีอะไรอยู่ในหัวกันแน่ ชัวร์ว่าอย่างหลังมากกว่า


             สรุปทุกคนลงความเห็นสร้างกรงแห่งกฏเกณฑ์ ข้อแม้กฎระเบียบมากมายนับไม่ถ้วน
จะเพื่อพิสูจน์ เพื่อกีดกัน เพื่อย่อท้อลำบากให้เลิกคิด
แต่ไม่ใช่สำหรับคนชื่อเฟรม...เปลวไฟสีน้ำเงินเข้มผู้โชติช่วงร้อนแรงอย่างที่สุด

“พอได้เรียนต่อ ม.4 แค่เดือนเดียวอาเฟรมก็แหกกฎทุกอย่าง เล่นกีฬาจริงจังไม่สนช่วยงานที่บ้าน แข่งรถหาเงินใช้ ไปเรียนพิเศษอ่านหนังสือเองไม่ต้องให้บอก และพาเก้งมานอนที่นี่ด้วยทุกคืน”
“โอ...” ผมว่าพล็อตออกทะเลไปกันใหญ่
             พี่กวางคงอยากฉีกบทนี้ทิ้งตั้งแต่เห็นบรรทัดแรก
ทว่ากลับทำให้กรกฎาฟูลอยไร้ทิศทาง
เฟรมบ้าบิ่นอาจหาญแอบซุ่มซ่อนทำการตามลำพังเพื่อผม
ไม่หวั่นเกรง ไม่เคยปริปากบอก
ทำทุกอย่างเพื่อจะอยู่ด้วยกัน...เพื่อจะรัก
      ...เพิ่งรู้ใจตัวเองว่าคนที่ผมควรเชื่อใจมากที่สุดคือเฟรม
      ...คนที่ควรจะแคร์มากที่สุดคือเฟรม
      ...คนที่จะบอก จะพูด จะง้อขอคืนดีก็คือเฟรมอีกเหมือนกัน
ทุกอย่างช่างสดใสเกินบรรยาย สูดลมหายใจเข้าปอด ‘ชีวิตนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน’


“ยิ้มได้แล้วซินะ”
“ครับ” ผมแก้มแทบแตก ใจลอยไปหากับคนที่คิดถึงที่สุดแล้ว
“เอาล่ะ แค่นี้คงรู้แล้วว่าจะยังไงต่อ คงไม่ต้องให้บอกหรอกใช่ไหม”
“ครับ! หม่าม้า” สูดลมหายใจ ไม่เคยแข็งแรงเท่านี้มาก่อน
“ที่เล่ามาทั้งหมดเพราะอยากให้ทำตัวสบายๆ เป็นเด็กสดใสร่าเริงเหมือนที่เก้งเคยเป็น ที่ผ่านๆ มาดูเครียดเกิน“
“งั้นเหรอครับ“ ผมแก้เก้อ

“อาม่ากับอาป๊าเขาเป็นห่วง จะใช้หม่าม้ามาถามหลายทีแล้ว เก้งรักอาเฟรมบ้างไหมอยู่นั่น“
“โอ๋ย...“ อยากมุดใต้โต๊ะ
“เตี่ยเฮียก็เหมือนกัน กลัวเก้งจะทิ้งอาเฟรมไป หม่าม้าฟังจนเบื่อ จนแป้งหมี่จะถามให้เองเลยนะ ดูซิ“ คุณพิมสดชื่น
“ผมรักบ้านนี้ครับ โดยเฉพาะหม่าม้า“ ลุกเข้ากราบที่ไหล่
“ใครว่าอะไรไม่ดีก็ไม่ต้องสนใจ คิดมากไปก็ปวดหัวเปล่าๆ อยากให้เก้งช่วยดูแลอาเฟรมให้ดีก็พอ อ้อ! ที่หม่าม้าเคยบอกว่าเป็นแม่ของเก้งน่ะ หม่าม้าหมายความตามนั้นจริงๆ” มือลูบหัวเบาๆ พลางว่าปรานี
“ขอบคุณครับ หม่าม้าคือแม่ผมจริงๆ เหมือนกัน ไม่มีหม่าม้าผมคงไม่มีวันนี้” ผมยิ้มชื่น กอดคุณผู้หญิงอีกครั้ง

ไม่ได้บอกว่าผมต้องประพฤฒิตัวอย่างไร
ฝากฝังผูกมัดไว้หรือก็ไม่
ไม่บังคับใดๆ ทั้งสิ้น
ช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้เติบโตมากับครอบครัวนี้

“จะลูกสาวลูกสะใภ้หม่าม้ารับได้หมดนะบอกไว้ก่อน”
“อ่า...” ตงิดในใจ ทำไมไม่มีลูกชายหรือลูกเขยวะ
“แหม ทำหน้าอย่างนี้อีกล่ะ มิน่าแป้งหมี่ถึงอยากแกล้งเรานักหนา” บีบแก้มผมเอ็นดูแล้วก็ขำมากอะ

              หม่าม้าไม่ได้ดูซิทคอมอยู่นะครับ
นี่เรื่องจริงของผมล้วนๆ ไม่ใช่นิยายวายใส่ไข่ของพี่กวางซะหน่อย

“ก็หม่าม้าบอกลูกสาว ลูกสะ...”
             คิดได้อยากกัดลิ้นตาย
ถ้าวาร์ปหายไปได้ทันทีเลยยิ่งดี (>///<) กูอายมากขอบอก

---------

             ฮองเฮายังมีโบยแส้สุดท้าย...
“ไหนๆ ก็ไหนๆ บอกให้ก็ได้ วันนั้นอินเตอร์โฟนทำงานเราถึงได้ยินกันหมดทั้งบ้าน เก้งคงไม่รู้ตัวเลยซิท่า”
“วันไหนนะครับ!?” พยายามจูนคลื่นตามให้ทัน
         เสียววาบถึงวันสิ้นสุดทิ้งความว่า ‘เพื่อน’ แปรเปลี่ยนจุดกำเนิดความเป็น ‘เรา’
...ขออย่าใช่
...อย่าใช่วันนั้นเลย

“วันที่อาเฟรมบอกรักเก้ง ว่าได้เก้งเป็นเมียแล้วนั่นล่ะ”
(=///=) โอ้วววววววววววววว มายก๊อด!
              หม่าม้าพิมเฆี่ยนผมตายหลายรอบมาก พลังแบทเทิลหดหายเก็บไอเท็มกลับคืนไม่ทัน
ทว่าชีวิตคนเราต้องดำเนินต่อไป


              จนนานสะดุ้งเข้าร่างเพราะ...
[Rrrrr!] ริงโทนดังเสียดหูเรียกสติ
             ใครโทรมา วูบนั้นที่อยากรู้ทันทีคือเวลาเท่าไหร่แล้ว
จอทัชสกรีนมือถือบอก 23.45 น. โทรทัศน์เปลี่ยนฉายหนังเรื่องใหม่
             ลืมปิดทีวีก่อนคุยกับหม่าม้า บ้าจริง
ผมกลายเป็นวิญญาณเหม่อลอยไปกับสูญญากาศเนิ่นนานถึงขนาดนี้เชียว
มือขวาฉวยรีโมทจะกดปิด มือซ้ายหยิบโทรศัพท์

[6เคี้ยง]
คิ้วยุ่ง ชื่อโทรเข้าคือเพื่อนเราแต่ทำไมถึงเป็นคนนี้ได้
เพิ่งมีเรื่องกันเมื่อก่อนเที่ยงไม่ใช่หรือ

“ฮัลโหลเคี้ยง”
“เก้ง! มึงทำใจดีๆ ไว้นะ”
“อะไร! ทำไม! เกิดอะไรขึ้น!?” ผมค้างขณะจอพลาสม่าดับวูบ



************* TBC วันพุธ


ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
เพิ่งรู้ว่าเฟรมรักเก้งมานานมากกกกกกกกกกกกกกก ถึงกับไปขอกะป๊าม๊าตั้งกะมอ 3   :กอด1:

แต่จากนี้เก้งคงเชื่อใจเฟรม ไม่ต้องน้อยใจ คิดมากอีกแล้วนะ

แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :z3:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2013 09:56:41 โดย rujaya »

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
อย่าบอกนะว่าเฟรมรถชน  :z3:
กำลังจะเข้าใจกัน ทำไมยังมีอุปสรรคเข้ามาอีก  :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด