Re: [รัก ร้อน เรา]:*จบ* p.27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: [รัก ร้อน เรา]:*จบ* p.27  (อ่าน 223270 ครั้ง)

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
เดอะแกงค์วุ่นวายกันสุดๆ ห่วงเพื่อนจนเวียนหัวแทน 55
ส่วนตัวเอกทั้งเฟรมเละเก้ง ส่งสายตาพิฆาตกันตลอดดด
เฟรมมันแอบคิดจิ๊จ๊ะกับเก้งตลอดดด 55

ออฟไลน์ So_Da_Za

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
ตามมาอ่านๆ

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Gokusan  คิดถึ๊งงงงงงงงง!! :L1:
             ไม่ได้เที่ยว ไปทำงานบนดอย เจไดขโมยซีนอินบรรยากาศท่าทางจะชอบสุด (แต่ตัวหอมฉุยมาก)
              ส่วนโจ๊กี้เมาเหล้าข้าวโพด ใสแบบตาตั๊กแตนแต่จุดไฟได้ นอนตายอยู่ 2 วัน
              อีกเจบอก 'มึงห้ามพามันมาอีกเป็นอันขาด' ก๊าก!
              เป็นฮอลิเดย์ที่... 555
******************************

My Dangerous Fire
รัก ร้อน เรา
ตอน 3 กลับเข้าบ้าน
geng’s






               ผมเจ็บร้าวทั้งกายใจ
ถ้าระเหิดหายกลายเป็นไอล่องลอยไปในอากาศคงดีมิใช่น้อย
แต่ความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์เราช่างโหดร้ายนัก
   ทำไมต้องเกิดกับผม
   ทำไมต้องเกิดกับคนชื่อกรกฎาคนนี้ด้วย
   ทำไม เพราะอะไร แล้วคนที่กระทำย่ำยีให้แหลกสลายกลับไม่ใช่ใครอื่น
มันคือคนใกล้ตัวมากที่สุดอย่างไม่น่าให้อภัยและไม่น่าเชื่อ...เฟรม
เพื่อนสนิทคนเดียวที่มีมาตั้งแต่เกิด
   คนที่ไว้ใจที่สุด
   คนที่ใกล้ชิดที่สุด
   คนที่ผมไม่ลังเลจะมอบชีวิตให้ถ้าเพียงเอ่ยขอ
เพื่อนเป็นเพื่อนตายทำไมทำกันได้ลงคอ

               จะว่าเผลอเรอเพราะเมามายขาดสติจนไร้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ไม่น่า
ตั้งแต่ครอบครัวนี้ประกอบกิจการรับซื้อขายส่งสุราและน้ำเปล่า
เฟรมไม่เคยเมาหัวทิ่มจนไร้สติสัมปชัญญะเลยแม้ซักครั้งเดียว
‘กินทำไม บ้านกูขาย เห็นจนเบื่อ’ สั้นๆ แต่ได้ใจความ
               จะว่าเงี่ยนจนคุมตัวเองไม่อยู่ก็ไม่ใช่
‘เล่นบาสสนุกกว่าตั้งเยอะ นมโตก็งั้นๆ เอาไม่มันส์หรอก’
                จะบอกว่ามึงตามร้อยเล่ห์เล่มเกวียนของผู้หญิงไม่ทันก็ว่ามาเถอะ ผมรู้ความลับดี

                เฟรมเก็บตัวไม่เคยมีแฟน ผู้หญิงเข้าหามากมายแต่เจอเก็กโหดหน้าดุ
ไม่ค่อยเทคแคร์ไม่มีทีท่าถนอมน้ำใจ หรือไม่ก็ปิดปากเงียบกริบเกินพอดี เป็นใครก็ถอย
ไม่ขวางโลกก็จริงแต่ขีดเส้นวงรอบกั้นพื้นที่ส่วนตัวสูงมาก

                แล้วเสือกมาเอากู อยากตะโกนก้อง ‘ตาถั่วรึไง กูผู้ชายนะเว้ย!!!’

-----------------

                 ฝันร้ายว่างูตัวใหญ่เกล็ดขึ้นเงามะเมื่อมสีน้ำเงินรัดขนดแน่นจนลืมหายใจ
‘เฮือก!’ ผุดกระตุกลุกลืมตาตื่นขึ้นมาหายใจ เกือบตาย

                ฝ้าเพดานสีขาว แสงไฟสว่างไม่คุ้นตา
ลอบมองโดยรอบค่อยรับรู้ว่าอยู่ในห้องพยาบาลของโรงเรียน อีก
ใจอยากผันกลับไปอยู่ในม่านมืดดำดังเคย ซ่อนเร้นกายใจไม่อยากตื่นรับรู้ความจริง

“เป็นไงบ้าง ดีขึ้นมั้ย” คนที่ไม่อยากเจอ
                งูสีดำเหลื่อมเกล็ดสีเข้มราวรัตติกาล
นิ่งขึงกับผนังห้องที่เดิมแบบเดียวกับเมื่อเที่ยงวันเป๊ะ
“...” หันมองนาฬิกาติดฝาผนัง บ่ายสองกว่าใกล้บ่ายสาม
“กลับกันเลยหรือเปล่า ช้ากว่านี้รถติด” ไม่สนผม หยิบกระเป๋าวางของกองเตรียมพร้อม
“อย่ามายุ่ง!”
“ถ้าไม่อยากให้ยุ่งก็อย่าเรื่องมาก” สวนควับไม่ถนอม
“ฮื่ย...”  กัดฟันกรอด
“ไปเข้าห้องน้ำล้างหน้า จะได้กลับบ้าน” มันช่างกล้าสั่งกู

          (T-T) ไอ้ชั่ว กูป่วยอยู่นะ ไม่มีลดราวาศอก
 
                หิ้วปีกเข้าห้องน้ำก่อนปล่อยผมทำธุระส่วนตัว
เจลเย็นเกะกะหลุดจากกางเกงด้านหลัง จับดูยังมีอุณหภูมิอยู่ ใจหล่นวูบถึงตาตุ่ม
ใครแอบเปลี่ยนใหม่ให้ อับอายกับเรื่องลับหนีเงื้อมือมารไม่พ้น

-------------
-----------------


                ถึงบ้านที่ไม่ใช่บ้านกรกฎา (Y-Y) เพราะมันคือบ้านใหญ่ของมันครับ
ดื้อยังไงก็ไม่ฟัง ขัดขืนแค่ไหนก็ไม่ได้ ด้วยมีพวกมากญาติเยอะอยู่กันเป็นหมู่ใหญ่
เนียนดันตัวผมขึ้นห้องชั้น 6 ฉิบ
(บ้านนี้ผู้หญิงเป็นใหญ่ ผู้ชายก้มหน้าทำงานกับหุบปากให้ปิดสนิทเข้าไว้)

“กินอะไรกันมาหรือยัง?” คุณพิมพิไล หม่าม้าเจ้าของสถานที่เงยหน้าจากกองเอกสารใบสั่งซื้อ
               ออฟฟิตโฮมทาวน์หน้าหมู่บ้านสวยๆ แอร์เย็นๆ มีไม่นั่ง ชอบทำงานกับโต๊ะครัว
“ยังครับ” เฟรมตอบพลางกดลิฟต์เล็กจะขึ้น (เพ็นธ์เฮ้าส์) ไม่รอ
“เดี๋ยวดูในครัวให้ แล้วเก้งหายไข้หรือยังล่ะ”
“ดีขึ้นแล้วครับ” ผม
“มีอะไรก็บอก เป็นอะไรมากจะลำบาก” คุณป้าพิมใจดี
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ จะโหวกเหวกโวยวายใช่ที่

              คนในบ้านนี้เป็นยิ่งกว่าครอบครัวของผมเอง
ดูแลเลี้ยงดูแทนแม่ที่ไปทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา
ทิ้งผมกับยายไว้ด้วยเหตุผลบริษัทต่างชาติเงินดีจริงแต่ต้องแลกสภาวะบางอย่าง
เงื่อนไขไม่ชอบแต่จำต้องยอมรับ
               บ้านหลังนี้กับบ้านจริงๆ ของเราอยู่ห่างกันแค่บล็อคถนนเดียว
และผมเคยชินกับที่นี่ยิ่งกว่าบ้านตัวเองเสียอีก

                ชั้น 6 ปิดประตูตามหลังปึงเบาๆ
ผมหันหลังกลับทันทีอยากออกจากห้องนี้เต็มทน
ไม่อยากเผชิญกับเตียงกว้าง ผ้าปูสีม่วงไม่ใช่สีขาวดังเก่า
แต่มันคือที่นอนหลังเดิมไม่เปลี่ยน

“อาบน้ำซะ กินข้าวเสร็จจะได้กินยา” คำสั่งจากคนถมึงทึงไม่ยิ้มไม่พูดซักแอะเดียวตลอดการเดินทาง
“กูจะกลับบ้าน” ผม
“บ้านไหน ไม่มีใครอยู่ นอนที่นี่ล่ะ”
“ไม่! กูจะนอนบ้านตัวกูเอง จะอยู่คนเดียว”
“คิดว่ากูควรจะยอม?” สืบเท้าเข้ารวดเร็วจนแผ่นอกชนหน้าผม

             ไอ้เปรตเดินดิน โหดหินใจร้ายเกินไปล่ะ

“มึงไม่ใช่เพื่อนกู” ผมไม่ลดละ
“นี่...เก้ง”
“กูจะไม่อยู่ร่วมชายคากับมึงอีกต่อไป” ยื่นคำขาด
“...” เงียบ มองอะไรไม่รู้เพราะผมก้มหน้างุดไม่ได้จับตาดู
“ตั้งแต่นี้เราขาดกัน!”

              ...เงียบเกินไป
              ...วังเวงเกินไปจนใจผมสั่น


               ไม่พูดไม่ตอบ ไม่เอ่ยซักคำเป็นปกติธรรมดาของมัน
แต่ครั้งนี้กรกฎาหนาวถึงขนาดเม็ดเลือดฟรีซแข็งตัว
ต่อยตี ด่าทอก็ลงมือเลยสิอย่าช้า...หลับตารอการลงทัณฑ์

                ได้ยินเสียงของหล่นตุบบนเตียงใกล้ที่ผมยืน
“ปีที่แล้วยายมึงมายืมเงิน 5 แสน ที่บ้านจะให้กู้แต่กูชิงโอนให้ก่อน”
“หะ...” ผมลืมตาตื่นเห็นกล่องรองเท้าสีดำ ขีดเครื่องหมายถูกสีส้มเด่นหรา
                 ตราเครื่องหมายการค้ายี่ห้อเดียวของเจ้าของห้องผู้ชื่นชอบเป็นหนักหนา
จากคำขวัญประจำตัว Just do it ‘ไนกี้’
ในนั้นมีกระดาษเอกสาร ซองจดหมายเก็บไม่เป็นระเบียบเหมือนโยนทิ้งใส่กล่องไว้เฉยๆ

“แม่มึงโดนข้อหาปกปิดบัญชียักยอกเงินบริษัทเก่า ถูกฟ้องไม่มีเงินจ้างทนาย แต่ตอนนี้เคลียร์ได้แล้วว่าโดนป้ายความผิดจากหัวหน้า”
“ไม่จริง!?” ผมไม่เคยรู้มาก่อน
“ใช่ ไม่จริง เพิ่งถอนฟ้องเมื่อครึ่งปีนี่เอง ตอนนี้เลยต้องทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตอยู่โน่น”
“กูไม่เข้าใจ” ผมมึนตามข้อมูลใหม่ไม่ทัน

“มึงขึ้น ม.4 ส่วนแม่ได้เลื่อนตำแหน่งทั้งยังไม่พ้นโปร เงินเดือนสูงลิ่วก็จริงแต่ทำไมต้องขายรถ ยายขายที่นาต่างจังหวัด ไปอยู่เมกาไม่กลับบ้านเป็นปี”
“หมายความว่ายังไง?”
“คิดดูดีๆ ปีที่แล้วบ้านมึงเจอกับอะไรบ้าง ไม่เคยเจอหมายศาลเลยเหรอ” เฟรมบังคับให้รื้อฟื้น
“ใช่ตอน ม.4 เทอมปลาย?” ผมรำลึกเหตุการณ์

               นึกว่าจะพ้นสภาพย่ำแย่ แม่เพิ่งเปลี่ยนงาน
แต่บอกไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ทั้งที่พี่กวางเพิ่งสอบได้ใบขับขี่
หวังรับส่งแม่ไปกลับสนามบินและดูแลผมกับยาย
               ทำไมแม่เปลี่ยนใจมีเงินให้พี่กวางเรียนยูในอเมริกา
ทั้งที่แรกสุดตัดสินใจเรียน ม.ของรัฐแถวบ้าน แผนการชีวิตกลับลำวินาทีสุดท้าย
ยายขายที่มรดก แม่ไม่กลับไทยทั้งที่บริษัทบังคับแค่ 3 เดือน คำตอบเพิ่งกระจ่าง
                 เรากำลังมีความหวังทว่าอดงุนงงไม่ได้ ทุกคนในบ้านเคร่งเครียดเสียเหลือเกิน
แค่ครึ่งปีที่ผ่านมาเกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนี้เชียวหรือ
ทำไมผมถูกปิดหูปิดตาไม่ให้รับรู้มาก่อน

                 และคนที่บอกเฉลยให้ได้ยินจากปากคือไอ้คนนี้...
“ใช่แล้ว ม.4 น่าจะตอนนั้น เตี่ยเฮียจะให้ทำสัญญาเงินกู้ แต่กูใต้โต๊ะโอนให้ก่อน ไม่มีสัญญาไม่มีค้ำประกัน ไม่หลักฐานอะไรเลย แม่มึงจะโกง เชิดเงินหายเข้ากลีบเมฆไปที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้”
“ไม่มีทาง!” ผมฉิววูบ แม่รักความถูกต้อง หญิงแกร่งสู้ไม่ถอย
“ก็นั่นแหละ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก แม่มึงน่าจะโบนัสเยอะ ฉลองปีใหม่เมื่อกี้โอนคืนมาให้ตั้งแสน” ร่างสูง
โบกสมุดบัญชีสีม่วงไหวๆ ก่อนโยนตุบทิ้งบนฟูกใกล้มือผม

                  สะอึกวูบ มิน่า ถึงเกิดเรื่องบัดสี

“เพราะอย่างนี้มึงถึงกล้าทำกับกู”
                 โยงใยเรื่องไม่เป็นเรื่อง อัพนิยายวายลงอินเตอร์เน็ตให้พี่กวางมากเกินจนสมองเฝื่อน
คุณลูกหนี้ผู้น่ารักน่าใคร่เอาตัวขัดดอกท่านเจ้าหนี้ สไตล์ตบจูบบิวตี้แอนด์เดอะบีทต์
“เหลวไหล”
“เหลวไหลเชรี่ย! มึงมันชั่ว โรคจิต กูเป็นผู้ชายนะ แล้วกูก็ไม่ได้...”
                  ผมยั้งคำว่า ‘รัก’ ไม่ให้หลุดจากปาก
ดวงตาสีดำคู่นั้นเศร้าสร้อยเกินไป เย็นเยียบเกินไป
คล้ายมีเปลวไฟสีน้ำเงินรอปะทุ

“เออ! กูชั่ว กูโรคจิต กูเอาผู้ชายซึ่งก็คือมึงคนเดียว...เก้ง!”
“...” อ้าปากค้าง
                จากเพื่อนยกสถานะเป็นเมียผัวชั่วข้ามคืน
48 ชั่วโมงต่อมาขยายฐานแปรพักตร์เป็นลูกหนี้เจ้าหนี้ซ้ำเติม
มารร้าย ซาตานแปลงร่างมาชัดๆ


“เอาเลย! อยากตะโกน อยากให้คนทั้งโลกรู้ก็ตามใจ กูรับได้ทั้งนั้น”
“เชรี่ย...” ผมเข่าอ่อนแต่แข็งขืนเซไปพิงโต๊ะข้างหัวเตียง

              อากาศถูกสูบไม่พอหายใจ
              ชีพจรอ่อนแรงกำลังจะตาย
              ความสับสนถั่งโถมตั้งตัวไม่ติด
              คำถามคำตอบมากมายปนเป

“ที่บอกเรื่องเงินเพราะกูจะบอกว่าอย่าได้เฮี้ยนทำอะไรบ้าๆ ไม่คิดหน้าคิดหลังเป็นอันขาด แค่ทำตัวปกติธรรมดาเหมือนที่ผ่านมาก็พอ”
“คิดว่ามันง่ายนักเหรอ” ผมประชด ความสัมพันธ์เปลี่ยน หมาโง่ตัวไหนก็มองออก
“ก็แล้วแต่ สนใจทำไม ใครเห็นก็ช่าง กูรู้ของกูคนเดียวก็พอว่ามึงน่ะ...เป็นเมียกู”
“...” เอิ่ม (-///-) ไม่ต้องตอกย้ำได้ไหม

“จะตัดขาดอะไรยังไงก็เชิญ ไม่ให้เข้าใกล้ ไม่คุย ไม่นอนด้วยยังไงได้หมด แต่ข้างนอก...ถ้าทำตัวเหมือนเดิมน่าจะดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหากับคนอื่น ูขี้เกียจตอบคำถามยาวๆ”
“นี่มึง...” ผมอ้ำอึ้งโดนย้อนข้อพิพาทแรกของตัวเอง
                สมองสั่งการไม่ทันเพราะมัวหน้าแดงตรงคำว่า ‘นอนด้วย’ นี่ล่ะ
คิดเป็นเด็ก 5 ขวบเหมือนเดิมเป๊ะ ‘กูขี้เกียจพูด’
เฟรมคือเฟรมปากหนักคนเดิมไม่ผิดเพี้ยน

“ตามนั้น คิดดีๆ ละกันว่าจะให้ทำอะไรยังไงก็บอก โอเคไหม”
“อะ...โอเค” ผมตามน้ำแบบฟังก์ชั่นเออเร่อ คดีพลิกมโหฬาร
“อ้อ! แล้วอย่าคิดทำอะไรโง่ๆ เด็ดขาด มีหน้าที่เรียนก็เรียนไป กีตาร์อยู่นั่นก็เล่นซะ คิดอะไรยากๆ เรื่องมากน่ะมัน---”
“มันอะไร?” อดไม่ได้
“มันไม่ใช่คนที่กูรัก”
“อา...” ผมเงอะงะดั่งรถเร่งเหยียบมิดไมล์โดนดึงเบรคมือฉับให้เหวี่ยงสะบัดเข้าดริฟต์
“เก้งของกูน่ะ...ดื้อกว่านั้นเยอะ”


                 รถยนต์หลุดการควบคุม
ทุกสิ่งอย่างไร้ความหมาย
จังหวะหัวใจคนขับหยุดเต้น
กระทั่งออกซิเจนก็ลืมเอาเข้าปอด    
(>0<) กรกฎาลอยคว้างกลางอากาศ

-------------

             มือใหญ่ช้อนคาง ปลายนิ้วแตะพวงแก้มใกล้หลังหู
บังคับมุมเงยเพียงเล็กน้อยแล้วมอบจุมพิตแผ่วเบานุ่มนวล
ก่อนขยับบดริมฝีปากบังคับเผยอออก
แทงเรียวลิ้นร้อนหยอกเย้าเข้ากวาดกินลึกถึงหัวใจเต้นแรง หวิวหวั่นจะทรงกายไม่อยู่
               จับยึดบิดเนื้อผ้าอีกฝ่ายแน่นช่วยพยุง อ้าปากหอบอากาศ
ภาพรายล้อมรอบด้านพร่าเลือนแต้มเจือสีชมพูจางๆ เกิดอาการตาบอดสีชั่วขณะ

‘จุ๊บ!’ ถูกจูบซับกับหน้าผากอีกครั้งก่อนศีรษะถูกกดเข้าวงกอด
ให้สูดกลิ่นผู้ชายตรงหน้าเต็มปอดเต็มความรู้สึก
“จะรอ...จนกว่ามึงจะอนุญาต หึหึ”
                พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงฟะ แอบชกใต้เข็มขัดนี่หว่า

                อมยิ้มติดมุมปาก หล่อเท่มาดร้ายชวนละลายก่อนคว้าเสื้อกล้ามดำพาดบ่า
มือใหญ่ฉวยนวมสีแดงจากไป คงฟุตเวิร์กต่อยกระสอบทรายเรียกเหงื่อที่ลานจอดรถสำหรับรับส่งของข้างล่าง

                   บานประตูปิดปึงพร้อมผมทรุดลงกับฟูกสีลาเวนเดอร์
ซบหน้ากับฝ่ามือตัวเองแล้ว...ซึน



*************TBC by puppyluv

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
 :z13:
เขาว่าฝันเห็นงูจะเจอเนื้อคู่ ท่าทางจะใช่แล้วละเก้ง  :laugh:
เฟรมจุดยืนดีมาก เก้งของกู  :laugh: คราวที่แล้วก็เมียรัก  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2013 11:00:28 โดย tuckky »

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
โดนน๊อคถาวร 555

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ไปไหนไม่รอด

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ละลายแทนเก้ง

ออฟไลน์ So_Da_Za

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
อั้ยย่ะห์ เก้งโดนน็อคเอ้าท์ด้วยคำพูดเฟรม คิคิ

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
รอดยากแล้วน้องเก้งเอ้ย :z1:

สุขสันต์วันเด็ก :กอด1: :L2: 

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
เนื้อคู้อยู่ใกล้ตัวแท้ๆ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






pahpai

  • บุคคลทั่วไป
อั้ยยะ!? แรกๆบทมึนๆทึมๆ ตอนท้ายตบหวานด้วยคำคนปากหนัก อร้ายยยย :-[

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
แอ๊วววววววววววววววววววววววววว

ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
แสดงความเป็นเจ้าของได้ทุกตอนสิน่า 55
เฟรมมันทำมันพูดขนาดนี้แล้ว
ยังไงๆเก้งคงต้องเป็น ของของมัน แล้วล่ะ เก้งเอ๋ย ^^

ออฟไลน์ jagkree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • Facebook
อ๊าาาาาาา  :-[ เค้าเขิลนะตะเอง  o22

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
มันคงเป็นหนี้รักซินะ  :กอด1:

ออฟไลน์ parn11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
เย้ ในที่สุด!!!! จะติดตามและเป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :o8:

ทั้งซึน ทั้งอึนเลยเนอะ เฟรมให้เวลา เก้งหน่อย เด็กกำลังสับสนอยู่

ออฟไลน์ ขนมหวาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +190/-2
เก้งของกู อิอิ  :a5:
เจอคำนี้เข้าไป ท่าทางจะไม่สามารถถอนตัวแล้วหละเก้งเอ๊ย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ขอแบบเฟรมที่นึงค่ะ คิคิ
ลูกผู้ชายต้องอย่างนี้ พูดน้อย ต่อยหนัก รักจริง ทำจริง

ice_painful

  • บุคคลทั่วไป
ซึนกันให้เยอะๆนะ
ดูซิ ว่าใครจะพูดออกมาก่อนกัน

แอบละลาย แทน เก้ง >///////<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :mc4:

ดีใจจังค่ะเพิ่งเห็นว่า puppyluv มีเรื่องใหม่
แถมเป็นเฟรมกับเก้งที่อยากรู้เรื่องคู่นี้มาตลอดด้วย

เปิดเรื่องมาก็ยังแรงสมชื่ออีกต่างหาก แต่แอบเสียดายนิด
ที่ไม่ได้เกาะขอบเตียงฟังเสียงหวานๆของเก้งเรียกหาเฟรม ฮิ้ววววว
 o18

รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
+1และเป็ดให้ทุกตอน
 :pig4:  :กอด1:

ออฟไลน์ Satanza321

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 671
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
เฟรมพูดขนาดนี้ แล้วเก้งจะไปไหนลอดมั้ยเนี้ย  :-[

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เมียที่รัก เก้งของกู
เอาใจไปเลย เฟรม

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :m3:
น้องเฟรมพูดน้อยต่อยจุกมั่กๆ
หลงรักเลย *ถีบพี่เหยี่ยวออกไปชั่วคราว
 :z6:
ถึงจะพูดน้อยแต่เข้าประเด็นดีแท้พ่อคุณเอ๋ย
ไม่เหมือนอิพี่เหยี่ยวเนอะๆ
*หันไปสะกิดคนเขียน
 :m12:
พูดมากแต่ไม่ค่อยได้เรื่อง แถมยังซื่อบื้ออีก
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ล้อเล่นนะพี่เหยี่ยว ยังไงน้องลมก็เป็นที่หนึ่งของคนอ่านเสมอ
(อิพี่เหยี่ยวงง เกี่ยวกับกูมั้ย??  :m28:)
ชอบๆๆ รอดูน้องเก้งจะรักน้องเฟรมของพี่เมื่อไหร่หนอ
ขอบคุณคนเขียนนะจ้ะ
 :จุ๊บๆ:

polar_light

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ววว เฟรม มีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่นาาาาา

อ่้าน 2 ตอนรวด สนุกทั้ง 2 ตอนเลยเจ้าค่า  o13

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
ก๊าก...เหมือนจะมาคุๆ อึนๆ ทั้งตอน
อิตรงความจริงเปิดเผยนี่ชวนคิดเหมือนเก้งนั่นล่ะ
แต่มาขำตรง...--ซบหน้ากะฝ่ามือแล้ว...ซึน-- นี่แหละ << อ่านนิยายเยอะจริงๆ ด้วย ^^

รอลุ้นว่าคนที่รู้จักกันมาทั้งชีวิตนี่ จะพิชิตความซึนได้เมื่อไหร่ อิอิ

ปล.อยากลองเหล้าข้าวโพดบ้างอ่ะ เค้าอยากรู้...หุหุ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จะรอจนกว่าจะอนุญาต คำนี้ช้าไปหรือเปล่าเฟรม

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
My Dangerous Fire
รัก ร้อน เรา
ตอน 4 ลานรถ
flame’s






                 ลานรถในจังหวัดปริมณฑลติดกรุงเทพมหานคร
เวลา 22.05 น. เพิ่งเกินสี่ทุ่ม เดินเตร่เข้าบริเวณคุ้นเคย

“ไง! เฟรม” เพื่อนรูปร่างคุ้นตา สูงใหญ่ใกล้เคียงผมแต่ล่ำกว่า
“หมอก” เอ่ยรับ ยกหน้าหมัดชกทักทาย
“วันนี้วันจันทร์ ไหงมานี่ได้วะ”
“เบื่อๆ”
“หึหึ เลยเจอของดี พวกแจ๊บเมื่อ 4-5 เดือนก่อนกลับมาขอแก้มือว่ะ” หมอกพยักพเยิดหน้า
               ให้มองลานกว้างด้านล่างกลางแสงสปอร์ตไลท์

               รถยนต์เล็กซิตี้คาร์ 5 คันเพ้นท์ลายฉูดฉาด
ดำ 3 เทา 1 ขาว 1 จอดเรียงแถวหันหน้าชนกับรถฝ่ายเรา
พวกนั้นแต่งเต็มออฟชั่นโฉบเฉี่ยวสไตล์ซามูไร
ไฟแบล็กไลต์ข้างใต้ตัวถังสว่างจ้าประกอบเสียงเพลงดังกระหึ่ม
               เจ้าของรถและบุคคลผู้เกี่ยวข้องปะปนกับพริตตี้แต่งหน้าจัดสวมชุดคล้ายคอสเพลย์
ดีไซน์ยั่วยวนน้อยชิ้นจนเกือบเปลือยเรียกแมงเม่า...มาแบบจัดเต็ม!
                ยกมือถือถ่ายคลิปซูมเก็บเป็นพิเศษกับสีขาวเส้นกราฟิค
เพนท์ทับด้วยซากุระสีดอกไลแลค กิ่งก้านดำสยายเต็มคัน
คิดถึงคนนอนหลับอยู่ในห้องชอบเทรนด์นี้เป็นพิเศษ
                ...นุ่มนวลในความเร็วและแรง
               ...อ่อนหวานในความเถื่อน
               ...ถ้าเห็นต้องตาโตแน่...เอาน่า ไว้เผื่อได้คุยกัน

               ใช่ เก้งหลับทั้งน้ำตา จะให้ผมทนอยู่ร่วมห้องได้อย่างไร
เมื่อเย็นก็บอกตัดขาดไม่มีเยื่อใย ไม่เป็นเพื่อนไม่ต้องการร่วมชายคา
แกร่งแค่ไหนก็แพ้น้ำตาเมีย (T"T) ถึงได้โฉบมาบินเดี่ยวที่นี่
   
-----

“มาคนเดียว?” หมอกเหลียวมองรอบตัว
“อืม แท็กซี่” ตอบรวบไม่อยากให้ถามต่อ
“บุหรี่ไหม?” ยื่นซองให้ขณะปากคาบมวนแต่ยังไม่จุดสูบ
“ตามสบาย” ผมไม่สนไม่แตะ สายตาไม่ละจากลาน
                ผู้ชายหน้าตี๋ญี่ปุ่นชุดหนังสีดำสไตล์พั้งค์โกธิค
ชายผ้ายาวกรอมเท้าแบบยมฑูตในเดธโน้ต
แผงผมสีเงินตั้งยาวเป็นฟุต โกนคิ้วบางเหมือนผู้หญิงเข้ารถคันขาวเส้นม่วงดอกไม้พร้อย
                  อย่าบอกนะว่าจะเอาคันนี้ลงแข่ง!!!
ดูตัวถัง ท่อ ลักษณะรถน่าจะเป็นคันที่แต่งเจ๋งสุด
วงการนักเลงควรเก็บไพ่ตายไว้ท้าย ไม่ใช่แบไต๋แต่แรกเช่นนี้

“กูว่าแบบนี้มัน...” ผมลูบคาง
“แล้วแต่ว่ะ คิดไม่เหมือนเรา คงอยากแฟร์ๆ ล่ะมั้ง” หมอกดูอยู่เหมือนกัน
“น่าจะ“ ผมรับ
“เฮ้ย! เฟรม มาด้วยเหรอวะ” เพื่อนอีกคน
“กูไม่ได้โทรบอก แต่หูไวตาไวนะมึงน่ะ”
“พวกนั้นมาด้วยมั้ย” เสียงทักจากบอล เคี้ยง โอ๊ต เพื่อนกลุ่มเดียวกับหมอก
               ผมเฉย หมอกส่ายหน้าบอกไม่มีใคร
“ไม่มาเหรอ เสียดายว่ะ รู้มั้ยใครลงแข่งกับพี่ยุ่นนั่น” โอ๊ต
“ใครวะ?” ผมมองหา 

                เขียว-ฝ่ายเรา ขาว-คู่แข่ง สองคันเข้าเส้นสตาร์ท
ที่เหลือถอยไปอยู่ใกล้รถบรรทุกคอนเทนเนอร์วางขาตั้งยึดพื้น ‘กองอำนวยการ’
ข้างในคือแผงควบคุมลานรถ เครื่องมืออิเลกโทรนิกทั้งหลาย
เวทีแสงสีเสียง สามารถบันดาลให้เกิดเธคแดนซ์ย่อยๆ ได้ในทันที
                  ส่วนที่นั่ง VIP อยู่ข้างบนหลังคารถยักษ์ใกล้กัน
คอนเทนเนอร์เหมือนกันแต่เลาะผนังเหล็กออก เปลี่ยนเป็นกระจกใสติดแอร์เย็นฉ่ำ
ตู้ปลาทองที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเข้าไปสัมผัส แต่ผม...ไม่

                หมอกเข้าออกกล่องที่ว่านั่นบ่อยครั้งมากกว่าผม
ป๋าจ่ายหนักเงินถึง เหยียบตีนผีแต่ปากปิดสนิทไม่โอ้อวด
มีรถแต่งคันใหม่ให้ยลเรื่อยแต่ขายทิ้งง่ายดายราวชิ้นเลโก้ของเล่น
ยกเว้นบีเอ็มสีดำส่วนตัวคันเดียวที่หวง ต้องไม่แม้รอยขนแมว
                   แปลกตรงแววตาหมอกไม่ได้บอกว่าสนุกหรือตื่นเต้นให้ปรากฏเห็น
แล้วมาที่นี่เพื่อ?
อาจจะมีเหตุผลเดียวกันกับผมก็เป็นได้ หาที่หลบซ่อนจากโลกที่เผชิญอยู่
ปลอดแอกความจำเจเคร่งเครียดกดดันในชีวิตประจำวัน แม้ซักชั่วโมงหรือนาทีก็ยังดี

                ถ้าไม่เพราะเก้งรักชอบรถยนต์ ผมคงไม่มีเหยียบที่นี่
                ถ้าเก้งไม่ปรบมือชอบใจ ผมคงไม่ใช่นักแข่งตีนผี
                ถ้าไม่ใช่เก้ง ก็ไม่มีอะไรเลย
         ...ป่านนี้จะหยุดร้องไห้แล้วหรือยัง

---------------
------------------

    (((ซูมมมมม!!!)))

“โว้วววววว!”
“วู้ววววววววว!” เสียงเซ็งแซ่ ฝูงชนลุกฮือ
                 เราสองคนอยู่บนเนินสูงมองเห็นข้างล่างชัดเจน
บอล เคี้ยง โอ๊ตอยู่กลุ่มคนรู้จักข้างล่างต่ำลงไป
เห็นเลนวิ่งทางเลี้ยวแคบหักมุม 45 องศาจุดแดงเดือดถนัดตา ตำแหน่งโปรดของเก้ง
คันไหนมีฝีมือจริงและอยากนำต้องดริฟต์ผ่าน
                 ผู้ชมลุกเชียร์อื้ออึง เข้าล้อมใกล้แนวกั้นยางรถยนต์ไม่กลัวอันตราย
อยากสัมผัสความตื่นเต้นชิดปลายจมูก

                  สองคันวิ่งฉิว ขาวคู่แข่งกับเขียวฝ่ายเราเจ้าถิ่นตีคู่กันมาสูสีเท่ากันดูไม่ออก
ถึงโค้งที่ว่า คันขาวปาดหน้าเข้าอยู่เลนในได้เปรียบหักพวงมาลัยได้ก่อน ทางตรงจึงขึ้นนำ 1 ช่วงตัวรถ
ถ้าเก้งอยู่ได้ร้องกู่ก้องพลางตบเข่าฉาด
แม่ง! ไอ้หน้านวลนั่นไม่คิดจะออกจากหัวกูเลยรึไงกัน

“เริ่มแข่งแล้วเหรอวะ ยังไง?” ผมเพิ่งดึงสติกลับสู่เกมตรงหน้า
“3 รอบ ตัวต่อตัว” หมอก
“เรา ใคร?” ถามถึงคันเขียวคุ้นตา รู้แต่ไม่อยากเดา
“คิดว่าใคร มีอยู่คนเดียว” หมอกไม่เฉลย เห็นประตูด้านคนขับติดสติกเกอร์ตัวเอ็มสีทอง
“พี่มอสว่ะ ฮิ้ว!” บอลเยื้องลงไปดังก้อง
“เชรี่ย เสือกให้มันอยู่เลนใน นำตั้งคันแล้วพี่ เฮ้ๆ เลี้ยวแล้วว๊อย ดริฟต์เพ่-ดริฟฟฟต์!” เคี้ยงโห่ร้อง
               แต่คันเขียวโชว์ดริฟต์แค่ครึ่งเดียวก็ฉวยโอกาสเข้าเลนในได้
ควรจะแซงนำม้วนเดียวจบตั้งแต่รอบนี้แต่...ไม่

                 หักล้อเข้าทางตรงรถกลับออกตัวช้าให้ซามูไรหัวตั้งก็ตามมาแซงได้ครึ่งล้อหน้าเหมือนเดิม
ราคาต่อรองคันเขียวเจ้าถิ่นลดฮวบ
“แม่ม! ไม่ได้ดั่งใจเล๊ย” โอ๊ตบีบกระป๋องในมือ
“จูนไว้ทำเตี่ยเหรอเพ่!”
“วางเครื่องแค่ทางโค้งรึไงคร้าบ ทางตรงเสือกปล่อยให้แซงฉิบ”
                เสียงด่าไม่พอใจจากคนคุ้นหน้าแต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว
บอล เคี้ยง โอ๊ต อยู่กลุ่มในนั้น การแข่งยังไม่รู้ผลแพ้ชนะกลับรีบวิจารณ์กันสนุกปาก

               ผิดกับเรา...
“หึหึ” ผม
“555” หมอกไม่เกรงใจ หน้าหงายหัวเราะลั่น
                ยัดมวนบุหรี่คืนซองไม่ดูด ดูเกมซ้อนเกมมันส์กว่าเยอะ
‘พวกนั้นไม่รู้อะไรซะแล้ว’ คิดไม่ทันจบประโยค


(((‘แกร้งๆๆๆๆ’)))
                ระฆังเตือนรอบสุดท้าย อีกไม่ถึง 10 เมตรจะเข้าโค้งมรณะที่ว่า
รถเขียวพี่มอสสะอึกพุ่งเข้ามาก่อน ปาดดริฟต์ชนิดคะแนนเกินสิบสวยงาม
ทิ้งคันขาวสะดุดหลบไม่ทันคิดว่าจะมาไม้นี้
รถยนต์ญี่ปุ่นคู่แข่งเซแฉลบชนกองยางตูมใหญ่
คนอยู่ใกล้วิ่งกระจายหนีตายกันจ้าละหวั่น
เสียงหวอไซเรนหน่วยบรรเทาภัยกับพิธีกรประกาศฉุกเฉินให้รีบถอยห่างดังลั่น
               ไม่ถึง 10 วินาทีรถพี่มอสพุ่งเข้าเส้นชัย
ธงตราหมากรุกโบกสะบัดพร้อมเสียงเฮจากเจ้าภาพลั่นสนาม

“อ่อนฉิบหาย” หมอก
“ตามคำนวณเป๊ะ” ผม

--------------

                  พี่มอสชูสองแขนน้อมรับเสียงโห่ร้องดีใจราวฟ้าถล่ม
ผิดกับเจ้าของคันขาวพุ่งออกมาทุบฝากระโปรง
เตะล้อก่อนกระโดดโหยงเจ็บเท้า เสียเหลี่ยมเดธโน้ต

“มือไม่ถึงแล้วโทษของ ห่วยว่ะ” หมอก
“ต่อให้ครึ่งคัน รอแก้มือรอบหน้าเถอะ” ผมรู้
“เหอะ ได้หมดตูดแน่ คงเหลือกลับซักคันหรอกมั้ง” หมอกก็รู้
                 พี่มอสวางแผนหย่อนเท้าไม่เร่ง
รอให้ตีคู่ก่อนปาดดริฟต์เชือดคอหอย เฉือนชนะแบบฉิวเฉียด
อ่อยให้ฮุบเหยื่อ ยุให้อีกฝ่ายของขึ้น
คิดว่าชนะเพราะฟลุ๊คโชคช่วยเคยสนาม

                  แข่งรอบแรกเรียกน้ำย่อยประมาณนี้ 3-5 ทุ่มแล้วแต่
จากนั้นเปิดปาร์ตี้ รออีกครั้งราวเที่ยงคืนตีหนึ่งก่อนปิดจบแยกย้ายตัวใครตัวมัน 
เกมเก่าเล่นใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รู้ทั้งรู้แต่บรรดาแมงเม่านิวเอ็นทรี่ยังมีมาไม่ขาดสาย
                 ที่เหลือคันดำ 3 กับเทา 1 กำลังคุยโขมง
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงลงเดิมพันสูงลิ่วชนิดเทหมดหน้าตักไม่เหลือกลับบ้าน
หมูในอวยรอเชือดชัดๆ

‘หวังว่าที่เหลือจะมีฝีมืออยู่บ้าง ไม่งั้นคืนนี้คงจืดชืดเกิน’ คิดในใจ
                   ถ้าคนนั้นอยู่ต้องหันมายิ้มกว้างกับผม...
‘ดูซิเฟรม เชียร์คันไหนดีวะ’ เก้งชอบให้กำลังใจแบบนี้
ไม่หวังชนะขาดลอยลำ เชียร์มวยรองแม้จะเป็นฝ่ายศัตรูก็ตาม
เจ้าเด็กดื้อจอมกวน หึหึ

----------------

                  เสียงคนวิจารณ์วงกว้างสนุกปากพร้อมๆ เพลงเทคโนดังกระหึ่ม
ดีเจทรงผมเด็ดร็อกโยกตัวบนแท่นหลังคาคอนเทนเนอร์ แสงสีเธคกลางแจ้งเปิดทำงาน
จอโปรเจคเตอร์ฉายให้เห็นรถบันไดทางลงแบบที่ใช้ในสนามบิน ของชิ้นสำคัญกำลังจะเผยตัว
“เล่นด้วยอะไรวะ” ถามเพราะไม่ได้ตั้งใจดูแต่แรก รถยนต์ เงินหรือผู้หญิง
“ผู้หญิง” หมอกชี้จอภาพ

                   พริตตี้สาวสวยแต่งหน้าจัด บิกินี่สีชมพูข้างในกับเสื้อแหปาดไหล่คอกว้าง
อวดเต้าทรงโตฉีกยิ้มหวานโบกมือให้กล้องคือฝ่ายผู้ชนะ
กับสาวอาทิตย์อุทัยบิ๊กอายขีดอายชาโดว์ยาว ผมม้าคิกขุหน้าง้ำโกรธนั่นฝ่ายผู้แพ้

---------

“เฮ้ย! หมอก เฟรม เห็นนั่นมั้ยวะ” ไม่ใช่จากผม เป็นบอลอุทานพลางวิ่งขึ้นมาหา
“อะไรวะ” หมอกสนใจ
“ไม่คิดจะมาด้วย เพื่อนห้องมึงนี่หว่าเฟรม” บอล

                     ผมตาถลนทั้งที่จอมีขนาดใหญ่มาก ต้นจั๋งวิ่งตัดหน้ากล้องออกมาจากตู้ปลาทอง
เบี่ยงหลบสองสาวชิงลงบันไดถึงพื้นก่อนหายจากจอ
“กูไปดูเดี๋ยว!” ผมถลาลงเนินไปจุดเกิดเหตุ
“ไปด้วย!” หมอกตาม ทิ้งบอลเคี้ยงโอ๊ตไว้ข้างหลัง

------------
----------------

“ต้นจั๋ง” เรียกเนิร์ดตัวเล็กร่างบางประมาณบี
เตี้ยและผอมกว่าเก้งแต่ผิวขาวกว่ามาก กำลังเดินวนไปมาตัดสินใจไม่ได้ใต้แสงไฟใกล้ทางออก
“เฟรม!” ต้นจั๋งตกใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่า มาไง?” ผม
“...” ต้นจั๋งก้มหน้านิ่ง หลังมือขยับแว่นวาวสะท้อนแสงทำให้มองไม่เห็นนัยน์ตา

“....../ครับ กำลังหาอยู่ อ้อ เจอตัวพอดี” หมอกสื่อสารกับโทรศัพท์ก่อนส่งให้
“ไม่คุย!” ต้นจั๋งกระชากเสียงกับหมอกที่ยื่นมือถือให้ ไม่ต้องเดาก็รู้ ต้นจั๋งมากับใครถ้าไม่ใช่
“คุยกันซะ อย่างน้อยก็บอกพี่เขาไป กลับด้วยก็ได้กำลังจะกลับพอดี” ผมเสนอด้วยรู้ความสัมพันธ์ทั้งคู่เป็นอย่างดี

                  ปีที่แล้วพี่มอสอยู่ชั้น ม.5 เป็นไบได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง
พบต้นจั๋งเด็กเข้าใหม่ ม.4 อยู่ชมรมวิทยาศาสตร์ด้วยกัน
เดินไปไหนมาไหนให้เห็นในโรงเรียนแค่ไม่กี่ครั้ง จากนั้นพี่มอสไม่เคยยุ่งเกี่ยวให้เห็น
                  นั่นแค่ฉากบังหน้า แท้จริงไม่ใช่...พี่มอสหยุดทุกคนที่เข้าหาเพราะต้นจั๋งคนนี้
ผมรู้ หมอกรู้ เพื่อนในวงการด้วยกันก็รับรู้แต่เลือกที่จะหุบปาก

“พี่/....../ครับ อยู่ประตูรั้ว หมอกกับเฟรมอยู่นี่ด้วย” ต้นจั๋งรับมือถือไปจนได้
“...” ผมเงียบ หมอกก็เงียบ เราพยายามไม่มองตากัน
“ปวดหัวอยากกลับก่อน พรุ่งนี้มีเทสต์เคมี/...../ ไม่ต้อง ต้นจั๋งกลับเอง แค่นี้นะครับ/ติ๊ด!” ต้นจั๋งไม่รออีกฝ่ายพูดสาย กดตัดจบทันที


           [Rrrrrr!] โทรเข้าใหม่รวดเร็วทันใจ
“ครับ/...” หมอกรับสายเลี่ยงไปอีกทาง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือพี่มอสเมื่อครู่โทรกลับมาใหม่
“จะคุยกับมึง” หมอกยื่นต่อให้ผม
(“เฟรม ส่งถึงบ้านพี่ อย่าแม้แต่รอยขีดข่วน ซีลให้ดีแล้วจะโทรเช็ค”)
“ครับ” ผมเชิดจ้องตาหมอกนิ่งไม่ขยับขณะรับฟังเจ้าของขี้หวง

          ‘ซีล’ ที่ว่าหมายถึงให้อยู่ในการดูแลอย่างเข้มงวดไม่ห่างสายตา
แต่ห้ามมือใดๆ แตะต้องโดยเด็ดขาด แม้กระทั่งเบบี้ซิสเตอร์เองก็ตามที
คงโดนรุมทึ้งในงานรื่นเริงจนขัดใครๆ ไม่ได้
นี่เองที่ผมไม่ชอบช่วงเฉลิมฉลองหลังได้รับชัยชนะ
ต้องปล่อยเจ้าตัวดื้อโดยไม่จำเป็น
                  คิดหรือว่ากูจะยอมห่างเมีย ไม่มีทาง!!!

“จะกลับเลย แท็กซี่นะ” บอกต้นจั๋ง อ้อล้อประโยคยาวๆ กับใครไม่เป็น ถ้าเก้งอยู่น่าจะดี
“เรากลับเองดีกว่า เฟรมไปเถอะ”
“มันดึก อันตราย ไปส่งบ้านดีกว่า” ผมกำชับ
“เราอยากกลับบ้านป้ามากกว่าน่ะ” นั่นประไร ต้นจั๋งทำท่าไม่อยากกลับที่พักของพี่มอส มีที่หมายอื่นซึ่งคือบ้านป้าซึ่งเป็นญาติแท้ๆ
“ถึงแล้วค่อยดูอีกทีว่าดึกมากมั้ย ถ้าอยากไปจริงๆ จะนั่งต่อไปด้วยก็ได้” ผมอะล่วมอะหร่วย
                บ้านเช่าพี่มอสอยู่หมู่บ้านจัดสรรใกล้โรงเรียน
ส่วนบ้านป้าต้นจั๋งไกลโคตร พี่มอสไม่ทางยอมแน่ๆ ขี้หึงขี้หวงขนาดนั้น

“กูไปเอารถ รออยู่นี่” หมอกไม่รอสรุป
“มึงอยู่ต่อเลย กูเอง” ผมพระเอก รู้ว่าปาร์ตี้กำลังเริ่ม
“ไม่ ที่นี่น่าเบื่อสำหรับกูล่ะ” อริยะพระเอกกว่า สหรัฐเซ็ง (=”=)

--------------
-----------------

                 สรุปกลับกันหมด หมอกเจ้าของบีเอ็มสีดำ
ผมนั่งหน้าคู่คนขับ ต้นจั๋ง เคี้ยง บอล สองคนหลังบ่นอุบว่ากลับเร็ว
กำลังจะได้พินพริตตี้เชียร์เบียร์อยู่รอมร่อ
“ไอ้โอ๊ตแม่มหิ้วไปฉิบ กูแห้วเลยสัด อุตส่าห์แดกเบียร์จนจุกคอหอย” บอลงุบงิบ
                  ส่วนเคี้ยงตาลอย เมาเบียร์คอพาดเบาะหลังเรียบร้อย

                   เข้าเขตเมืองย่านจอแจไฟสว่าง เคี้ยงกับบอลลงจากรถแยกไปอีกทาง
เหลือต้นจั๋งยังนั่งหลังคนขับไม่ขยับตำแหน่ง
ผมเหลือบตาดูผ่านกระจกมองหลัง
ต้นจั๋งมองวิวนอกรถนิ่งท่านั้นเป็นรูปปั้นตั้งแต่ออกมาจากลาน
                   เสียงสูดจมูกครืดคราดหลังออกรถได้ครู่เดียว
เหล่มองหมอกก่อนวิสาสะค้นเปิดคอนโซล
ได้กล่องทิชชู่ยื่นส่งให้หมดขณะเวลา 00.15 น. พอดี

“พรืด! เมื่อวานวันเกิดเรา...” ต้นจั๋งเอ่ยหลังผ่านด่านเก็บเงินอัตโนมัติ
                   เครื่องดังติ๊ดขณะป้ายบอกยอดเงินเหลือ 900 ถ้วนผมจำได้ติดตา

                 เพิ่งนึกออก การ์ดกระดาษขาวติดสติกเกอร์หัวใจดวงจิ๋วลายพร้อยเป็นรูปต้นไม้
เพื่อนในห้องยื่นต่อๆ กันมาให้เขียนคำอวยพรเมื่อบ่ายวันศุกร์
ลมต้นคิดทำตั้งแต่ ม.ต้น เดี๋ยวนี้เป็นบีหรือทรายจัดการแทน

------------

                  เมื่อวาน ก็เมื่อกี้นี้นะซิ คิดตามขณะหมอกเหล่หางตามาที่ผมเหมือนกัน
เราต่างไม่ได้หันหน้าส่อพิรุธ คนขับแล่นเอื่อยไม่รีบร้อนผิดวิสัยปกติที่เคยรู้
‘หมอกแม่ม! เหยียบอย่างกับซี้ปึ่กกับท่านพญายม นั่งรถมันกูนึกว่าได้ตั๋วฟรีทัวร์ด่วนนรก’
                   เคี้ยง บอลหรือใครๆ ว่าให้ได้ยินประจำ
   
“ทำไมต้องช้า ทำไมต้องสาย ทำไมทำไม่ได้อย่างที่พูด ทำไม!” ต้นจั๋งสะอื้นฮัก ร้องไห้แบบเงียบเสียง

                 ได้แต่เหล่มองหมอกแบบเกร็งคอนิ่งๆ เห็นมันนิ่วหน้ากำพวงมาลัยแน่น
ฝนตกรถแล่นช้าขณะเราเผชิญอยู่กับอะไรไม่รู้
                 นี่กูอยู่แค่ ม.5 เอง จะฟาทส์ทูฟีเรียสไปไหน (T-T)
ชีวิตวัยรุ่นสุดเหวี่ยงซักซี๊ดนึงก็ไม่มีเชียวหรือ
อยากกอดไอ้ดื้อจริงๆ เลยว๊อย!

                   รู้ธรรมเนียมเรื่องของเดิมพันดี วงการใต้ดินมีหลายอย่างที่เราต้องตามเกม
เป็นบทบาทจำต้องแสดง ขัดขืนอวดเก่งไปก็ไม่ใช่คนในกลุ่ม
ไม่ถือเป็นพวกเดียวกัน มีบ้างพวกขบถจองหองไม่ยอมใคร
ก็ผมกับหมอกนี่ล่ะที่แปลกแยก ถ้าเพื่อเงินหรือรถ เอา!
แต่อย่างอื่นไม่ เดิมพันอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คน
                   เหตุผลเดียว...นัยน์ตาสีน้ำตาลมองมา
คนของผมยืนอยู่ตรงนั้น ไม่มีที่ว่างเหลือให้ใครอื่น

--------------
----------------

                  ถึงหมู่บ้านจัดสรรระดับดีมากแห่งหนึ่ง
บ้านเช่าพี่มอสเป็นทาวน์โฮมติดรั้วโครงการ ที่ว่างด้านข้างจอดรถยนต์ได้เพียบ
เรียงซ้อนตามยาวดีๆ อาจจะได้ถึง 3 คัน ขณะนี้คลุมผ้าสีเงินมิดชิดเหลืออยู่คันเดียว

                   คนรักรถต้องอย่างนี้ คบกันได้เพราะโปรดปรานฮอบบี้สุดโต่งนี่ล่ะ

                   ถึงจะนิสัยพูดจามากท่าโอ่อวด จุกจิกจู้จี้ตามแบบคนชอบสุงสิงยุ่งขิงกับคนหมู่มากไปบ้าง
(วิ่งประสานงานจัดการในลานเก่งมือดีมากคนหนึ่ง)
แต่ถ้าเป็นความลับ พี่มอสเก็บลึกถึงขนาด
เชื่อถือได้ว่าไม่มีขายข่าว เป็นลูกผู้ชายพอตัวคนหนึ่ง

“มีกุญแจมั้ย?” ผมลงจากรถ หมอกจอดเอียงชิดรั้วส่องไฟหน้าสูงเห็นลูกบิดประตูบ้าน
“มี” ต้นจั๋งชูกรุ๋งกริ๋ง
“งั้นก็เข้าบ้าน อยู่คนเดียวเหรอ มีใครอยู่ด้วยหรือเปล่า?” หมอกออกมายืนส่งอีกคน
“ไม่ชัวร์ น่าจะไปกันหมด” ต้นจั๋งหลบมอเตอร์ไซค์จอดอยู่โรงรถด้านหน้าก่อนไขกุญแจ
                   เรือนแถว 3 ชั้นครึ่งแชร์กันอยู่หลายคน
เท่าที่ทราบคือพี่ ม.6 ก๊วนพี่มอส

“มีอะไรโทรบอก มีเบอร์แล้วใช่มั้ย” หมอก
“อืม ขอบคุณมากหมอก เฟรมด้วย” ต้นจั๋งยิ้ม
                  แสงไฟสะท้อนกระจกแว่นบดบังนัยน์ตาบวมแดง ผมยืนใกล้เห็นชัดแต่เมินไม่จ้อง

“เจอกัน” ผมเอ่ยลา
“เจอกันเฟรม” ต้นจั๋งเข้าบ้าน ไม่รื้อฟื้นเรื่องบ้านป้าซักคำเดียว
                 รอจนไฟชั้น 3 เปิดค่อยถอยรถจากมา
บ้านผมกับหมอกอยู่คนละทาง ออกจากโรงเรียนหมอกตรงดิ่งจากประตู
ส่วนผมกับเก้งกลับหลังหัน เราอยู่กันคนละด้าน
                 คนอื่นทั่วไปยกให้เป็นคู่แข่งกลายๆ แต่ผมไม่คิดเช่นนั้น
ระหว่างผมกับหมอกไม่มีปัญหาใดๆ แค่ปากหนักไม่พูดมากทั้งคู่เท่านั้นเอง

“ส่งกูเซเว่นข้างโรงแรมพ่อ...” ผมยั้งคำ ‘พ่อไอ้เก็ท’ ไว้ทัน เกือบไปแล้วหนอปาก
                 หมอกไม่ชอบชายรักชาย ส่วนกูเพิ่งเอาเพื่อนตัวเองเป็นเมียมาหมาดๆ
เพื่อนผู้ชายคนสนิทที่สุดต่างหาก สวรรค์ (=’=)
                รู้เบื้องลึกจากเก็ทแล้วว่าเพื่อนรักสองคนแตกคอ
เพราะไนซ์บอยสารภาพว่าสนใจเด็กผู้ชายซึ่งก็คือบี
หมอกเปลี่ยนเป็นคนละคนหลังจากนั้น
คุยหลังไมค์กับเก็ทถึงทราบว่าหมอกรังเกียจเกย์

                เก็ทห่างหมอกหรือหมอกไม่คุยกับเก็ทเองไม่ทราบ ไม่เกี่ยวกับผม
ทัศนคติต่างแต่ลึกๆ เรายอมรับมิตรภาพกันในที

------------
---------------

               รถจอดหน้าร้านสดวกซื้อไม่ห่างจากโรงแรมที่ว่ามากนัก
“ใจว่ะ” ผมจะลง
“เฟรม” หมอกรั้งไว้
“หือ?”
“อย่าช้า อย่าสายล่ะ”
“อะไรวะ?” กูงง หันกลับไปมองคนขับ
“กูบอกว่าถ้าเจอแล้วให้รีบคว้า อย่าช้าอย่าสายเหมือนกู” หมอกร่ายยาว
              โคลงศีรษะไปมาตามประโยคเหมือนสอนเด็ก

“อ่าฮะ” รับคำงงเต๊ก พูดเรื่องอะไรของมัน
“กล้าๆ หน่อย จะทำอะไรก็รีบทำ”
“เออ” ผมปิดประตูปึง

               รถแล่นจากไป วันนี้มีแต่พวกดีกรีแรง ชนเป้งแล้วหนีไม่รออธิบายให้เข้าใจ
เอพริลฟูลเดย์แอนด์ไนท์หรือไร คิดไม่ตกขณะนั่งแท็กซี่กลับเข้าบ้าน
อดเปรยกับตัวเอง เรื่องเดียวที่วนเวียนอยู่ในหัว
‘กูไม่ช้าไม่สาย เสือกทำแล้วด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะออกหน้าไหนว่ะ’

               กรกฎานอนรออยู่บนเตียง หยุดเท้าหน้าประตูไม้บานใหญ่ พึมพำกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
“...พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างด้วย”
สูดลมหายใจแล้วจับลูกบิดหมุน...เปิด


********************TBC by flame

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: รัก ร้อน เรา: ตอน 4 ลานรถ P.3 (14-01-2013)
«ตอบ #88 เมื่อ14-01-2013 10:37:08 »

เฟรมแกรักเมียมากเลยนะ
แอบอยากรู้เรื่องต้นจั๋ง จังเลย

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
Re: รัก ร้อน เรา: ตอน 4 ลานรถ P.3 (14-01-2013)
«ตอบ #89 เมื่อ14-01-2013 10:41:42 »

มีคู่ใหม่มาให้อยากรู้อีกแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด