พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END  (อ่าน 779544 ครั้ง)

ออฟไลน์ Onosaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คิดถึงพี่ยะกะพระจัรทร์มากๆเลยค่ะ  มังกรกะเหวินจิ้งก้สู้นะคะ Ps.คนเขียนมาต่อไวๆนะคะ รออยุ่เสมอนะคะ:)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ไม่ว่ายังไง ก้อจะ "รอ" ให้สิทธิเต็มที่ ยังไงก้อจะตามอ่าน^^

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
มาจิ้มๆไว้ก่อน ตามมาจากคุณแม่ฟ้ากับพ่อตะวัน    :z13:

ออฟไลน์ miyuujung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ง่าาา ตามมาจากเรื่อง คุณแม่...ครับผม อ่านมาถึงตอนล่าสุด กะลังหวานเบยย แงๆๆๆ ไม่ลบได้ม้ายยย ลงต่อเลยได้ม้ายยย (เกาะขาขาอ้อนวอนคนเขียน) แงๆๆๆ เค้าอยากอ่านต่อ แงๆๆๆๆ

Fay_ya

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9

ออฟไลน์ dark-soleil

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
คิดถึงจังเลย ยังรอพระจันทร์กับตะวันนะคะ :L2:  :3123: :L1:

ออฟไลน์ Lullaby_Doll

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: :katai1: :katai1: พระจันทรรรรรรรรรรรร์ ฮือๆๆๆๆ :ling1: :ling1:
ตอนอ่านตรงที่ปีเตอร์ชอบหงส์เนี่ยเเอบคิดว่า เออเอาไปเลย เอาเจ้หงส์ไปเล้ยยยยยเเล้วไม่ต้องมายุ่งกับพี่ยะเเละพระจันทร์อีกนะยะ!!!
 ปลาลม. หนูลินน่าร้ากกกกกก :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แล้วแต่คนเขียนสะดวกเลยค่ะ เราก็จะตามอ่านต่อนะ ชอบเรื่องนี้ อ่านแล้วติด อิอิ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
หื๊ออ!! คิดถึงจังง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
มาเกลือกกลิ้งหน้าเพจรอ  :katai5: อ่านอีกรอบ รออยู่นะคร๊าบบบบ

prince_elloit

  • บุคคลทั่วไป
แบบว่า แอบงง สรุปแล้ว น้องจันทร์ จะเรียกพี่ ยะ ว่า พี่ยะ หรือ คุณยะ ล่ะ?? น่าจะเรียก พี่ยะ นะคะ น่ารักดี ^^

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
รอน้องพระจันทร์เสมอค่าาา

ออฟไลน์ oa_ko

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0

ออฟไลน์ miho

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คิดถึงจังเมื่อไรจะมา  :katai5:

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
อ่านทันแล้ว
ตามมาอ่านจากเรื่อง คุณแม่ครับผม (เผอิญซื้อหนังสือ)

อยากบอกว่า เราชอบนิยายพลอตมาเฟียๆแบบนี้
แล้วยิ่งนายเอกดูน่ารัก น่าสงสาร อย่างน้องพระจันทร์
ก็ยิ่งชอบไปกันใหญ่ 

รอวันที่คุณแพทมาอัพต่อจนจบ แล้วก็รวมเล่มเหมือนคุณแม่ครับผมนะคะ

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
ร้องเพลงรอของมาช่า รออยู่คร๊า :mew1:

ออฟไลน์ แม่มดน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อย่าลืมมาต่อน้า  :mew2:

ชอบพี่ยะกะน้องจันทร์สุดๆเลย :man1:

รักคนเขียนด้วย จะรอนะ :mew1:

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
พันธนาการ...รัก #27 [100%]

              เฮลิคอปเตอร์ห้าลำถูกส่งขึ้นฟ้าได้ในเวลาเก้าโมงเช้าของอีกวัน ในขณะที่บนท้องทะเลก็มีเรือเร็วอีกนับสิบลำวิ่งออกจากฝั่งพร้อมๆกัน รังสิมันต์ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป ส่วนมังกรนั้นลงเรือไปพร้อมตำรวจและชาวประมงริมฝั่งที่อาสาเอาเรือตัวเองช่วยออกตามหาตามประสาคนชินพื้นที่ โดยในเฮลิคอปเตอร์และบนเรือยังมีหมอและหน่วยกู้ชีพเตรียมพร้อมอยู่ทุกลำ แน่นอนว่าหมอกานต์ที่จิตวิญญาณความเป็นหมอเข้าสิงก็ใส่กาวน์เตรียมพร้อมขึ้นเฮลิคอปเตอร์พร้อมสุริยะมณฑลมาด้วย ในขณะที่น้ำฟ้าและเหวินจิ้งนั้นถูกทิ้งให้เตรียมรอรับข่าวอยู่ที่บ้าน แม้ว่าก่อนทุกอย่างจะลงตัวตามนี้ทั้งรังสิมันต์กับมังกรจะต้องเสียหยาดเหงื่อในการทะเลาะกับน้ำฟ้าและเหวินจิ้งมาตั้งแต่เช้ามืดก็เถอะ

              คณะลาดตระเวนใช้วิธีกระจายหาแบบเหวี่ยงแห เฮลิคอปเตอร์ห้าลำบนฟ้าเริ่มทิ้งช่วงห่างเรือที่แล่นบนผิวน้ำออกไปเรื่อยๆ ก่อนที่ทั้งห้าลำจะเริ่มบินวนแยกย้ายหาตามเกาะแก่ง แล้ววิทยุสื่อสารกันเป็นระยะว่ามีใครพบเห็นสิ่งผิดปกติบ้างหรือไม่
   
              การค้นหาเป็นไปอย่างเข้มข้นกว่าสองชั่วโมงเต็ม ก่อนที่ข่าวดีจะมาจากเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งที่บินวนอยู่เหนือเกาะหินกลางทะเล ทีมค้นหาทุกหน่วยพุ่งเป้าไปที่นั่นอย่างทันท่วงที และในที่สุดคนบนฝั่งที่ใจจดใจจ่อกินไม่ได้นอนไม่หลับมาสองวันเต็มๆถึงได้ค่อยหายใจโล่งอกหน่อยเมื่อสามีสุดที่รักโทรไปบอกว่า พระจันทร์กับสุริยะมณฑลถูกช่วยเหลือเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที โดยที่พระจันทร์นั้นมีแค่รอยฟกช้ำกับแผลถลอก และร่างกายอ่อนเพลียมากเท่านั้น ในขณะที่สุริยะมณฑลนั้นมีแผลถูกยิงที่แขนทั้งสองข้าง แต่ทางทีมแพทย์ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลไปเรียบร้อยแล้ว

   น้ำฟ้า ป้าแหม่ม และเหวินจิ้งที่รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านรีบช่วยกันเก็บข้าวเก็บของบึ่งรถไปโรงพยาบาลที่ว่ากันอย่างรวดเร็ว แต่พอไปถึงก็พบตำรวจ รังสิมันต์ มังกร หงส์ และยังมีแขกผู้ไม่ได้รับเชิญอย่างโรเบิร์ต โจวที่พาหลานชายมาด้วยยืนออกันอยู่เต็มหน้าห้องฉุกเฉิน น้ำฟ้าชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพาหนูลินกับเหวินจิ้งเดินตามป้าแหม่มที่เดินตัวปลิวเข้าไปถามอาการของเจ้านายตนตัวปลิวก่อนใครเพื่อน คุณหมอวัยกลางคนในชุดกาวน์พร้อมมาสก์สีเขียวปิดปากและจมูกยื่นกระดานจดรายละเอียดการตรวจคืนให้กับพยาบาล ก่อนจะถอดมาสก์ออกพร้อมรายงานอาการของผู้ที่แอดมิทเข้าห้องฉุกเฉินด้วยท่าทางจริงจังให้กับญาติผู้ป่วยและผู้ที่ไม่ใช่ญาติแต่มารอฟังข่าวว่า

“ไม่ต้องห่วงนะครับ เสื้อเกราะกันกระสุนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่น่าเป็นห่วงคือแผลโดนยิงที่แขนทั้งสองข้างเท่านั้นแต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ส่วนด้านหลังก็มีแค่รอยช้ำของกระสุนที่เจาะโดนเกราะเท่านั้น พักฟื้นที่นี่ให้แน่ใจว่าแผลไม่ติดเชื้อสักสองสามวันก็กลับได้แล้วล่ะครับ”

               สิ้นเสียงรายงานของคุณหมอหลายคนก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอก จะมีเสียงผิดแผกออกมาก็แค่คนเดียว ปีเตอร์ โจว

“...ผมอุตส่าห์ยอมตามอากงมาเพราะกะจะมาได้ยินข่าวดีว่ามันโดนยิงตายหรอกนะ แต่ได้ยินแบบนี้ผมกลับล่ะ...”

“เดี๋ยว ปีเตอร์...” เสียงยานคางแต่ทรงอำนาจของโรเบิร์ต โจวหยุดเท้าของหลานชายไว้ได้ชะงัด แต่กระนั้นปีเตอร์ก็ยังมีท่าทีหัวเสียและฟึดฟัดอย่างเสียมารยาทและไม่แคร์สื่อใดๆทั้งสิ้น คนเป็นปู่เลยถือโอกาสอบรมเจ้าหลานชายต่อหน้าคนอื่นอย่างไม่ไว้หน้าเช่นกัน

“ปีเตอร์ คนจะทำงานใหญ่สำเร็จได้ต้องไม่โง่แล้วอวดฉลาดเหมือนหลาน ที่ทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อความสนุกลงไปแล้วไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่มันจะตามมา...เพราะหลานเป็นอย่างดีไงปีเตอร์ อากงถึงปล่อยวางเรื่องทุกอย่างลงบนมือหลานไม่ได้เสียที...ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้นั้น ฉันกับปีเตอร์ก็มีส่วนผิดที่นำเอาคนร้ายเข้ามาแล้วเปิดโอกาสให้มันชิงลงมือได้ จนสุดท้ายเรื่องมันก็กลับกลายมาเป็นแบบนี้ ฉันไม่คิดจริงๆว่าอาฉี ที่ฉันเห็นว่าฝีมือดีแล้วยกให้หลานชายของฉันมันจะทำเรื่องอะไรแบบนี้ได้...ฉันขอโทษด้วย...”

                 มังกรเฒ่าแห่งเกาะฮ่องกงค้อมหัวเล็กน้อยให้กับรังสิมันต์และมังกรที่ยืนอยู่เบื้องหน้าและฟังถ้อยความของพวกเขาอยู่เงียบๆ ปีเตอร์ โจวออกอาการไม่พอใจทันทีที่เห็นปู่ของตัวเองก้มหัวให้ผู้มีอาวุโสน้อยกว่าอย่างนั้น

“อากง! ทำไมทำแบบนี้!! แค่นี้พวกเราก็เสียศักดิ์ศรีมามากพอแล้วนะ อากงทำแบบนี้ถ้าคนอื่นรู้เข้าใครเขาจะมาเคารพนับถือตระกูลของเราอีก ผม...”

“และฉันจะไม่ทำแค่ขอโทษพวกเขาแค่ปากด้วย เรื่องคราวนี้คงไม่เกิดถ้าแกไม่เป็นคนเปิดโอกาสให้อาฉีเข้าไปจับตัวเด็กคนนั้น...” โรเบิร์ตเอ่ยค้านตัดคำพูดหลานชาย แต่ปีเตอร์ก็ยังไม่ยอมจบ เพราะในความคิดของเขา เรื่องคราวนี้เขาไม่มีส่วนผิดเลยสักนิดเดียว!

“ถึงผมไม่สั่งอาฉีก็คงลงมือทำเองอยู่ดี! อากงก็ได้ยินที่ตำรวจเขาเล่าให้ฟังไม่ใช่เหรอ ว่าอาฉีรู้จักเด็กนั่นอยู่แล้วและลงมือทำตามแผนของตัวเองที่วางเอาไว้ก่อน...เราไม่เกี่ยว เราไม่ผิด!...ทำไมอากงต้องขอโทษพวกมันด้วย!”

“แค่คำสั่งของแกที่ให้อาฉีไปจับตัว ‘คนรัก’ ของหยางหลงมันก็ผิดมากแล้วปีเตอร์! ฉันจะมอบที่ดินที่หยางหลงประมูลได้ให้กับเขา โดยคิดราคาประมูลแค่ครึ่งเดียวของเงินที่แกยื่นมาปีเตอร์”

“อากง!!!” ใบหน้าของปีเตอร์ โจวทั้งถมึงทึงและแดงก่ำอย่างคนที่โกรธจัด ...ครึ่งหนึ่งของเงินที่เขาประมูลงั้นเหรอ...นี่อากงจะหักหน้าเขาไปถึงไหน!!!...

              น้ำฟ้าที่เข้าใจภาษาจีนกลางทั้งหมดในบทสนทนานั่นรีบกระตุกแขนสามีให้ทำอะไรสักอย่าง แต่หลี่อี้นายตำรวจหนุ่มผู้รับผิดชอบคดีนี้กลับยื่นมือเข้าไปไกล่เกลี่ยให้แทนอย่างเข้าใจสถานการณ์

“โอเค เรื่องนี้เราควรรอจนกว่าหยางหลงฟื้นแล้วค่อยจัดการอีกทีน่าจะดีกว่า ตอนนี้โฉนดก็ให้หยางจินเก็บไว้ก่อน ให้น้องชายเก็บไว้ให้คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” หลี่อี้มองซองเอกสารที่อยู่ในมือมังกรเฒ่าแล้วหันไปพยักหน้าให้รังสิมันต์เป็นคนมารับไปเก็บไว้ก่อนดังที่ว่า ซึ่งชายหนุ่มร่างสูงที่อุ้มลูกชายอยู่ในวงแขนก็ทำตาม เอกสารแผ่นสำคัญถูกเปลี่ยนมืออย่างง่ายดายต่อหน้าปีเตอร์ โจว ซึ่งเมื่อการส่งมอบสิ้นสุดปุ้บเขาก็หันหลังกลับไม่แม้แต่จะรอช่วยเข็นรถให้กับปู่ที่ส่ายหน้าให้กับพฤติกรรมของหลานอย่างระอา

“ขอโทษแทนหลานชายด้วย ฉันจะจัดการเขาให้เรียบร้อยเอง...” โรเบิร์ตกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการจบธุระที่ตนมาถึงโรงพยาบาลในวันนี้

“ท่านไม่ต้องขอโทษพวกเราหรอกครับ สิ่งที่ปีเตอร์พูดก็ไม่ได้ผิดอะไร ถ้าจะผิด...ก็คงจะผิดที่โชคชะตาของพวกเขาเองมากกว่า” รังสิมันต์เอ่ยตอบ พร้อมกับโค้งรับคำขอโทษอีกครั้งของโรเบิร์ตด้วยท่าทีนอบน้อมผิดกับตตอนที่ปีเตอร์อยู่ลิบลับ

“อชิระต่างหากที่เป็นตัวต้นเรื่องทั้งหมด ท่านไม่เกี่ยว” มังกรช่วยยืนยันอีกคน แต่คนแก่มากประสบการณ์รู้ดีว่าในตอนนี้คนอย่างเขาควรจะน้อมรับความผิดเอาไว้แล้วยอมรับมันซะดีที่สุด หากเราต้องการให้คนอื่นเชิดชูเรา เราต้องอ่อนน้อมและเชิดชูเขาก่อน เหมือนอย่างตอนนี้ที่เขาสามารถซื้อใจของเหมิงหลงและหยางจินได้อีกครั้ง

“เอาเถอะ ฉันอยู่นานก็ยิ่งเกะกะการทำงานของคุณตำรวจกับพวกเธอ ฉันกลับก่อนก็แล้วกัน แต่หากคุณตำรวจต้องการความร่วมมืออะไรพวกเราตระกูลโจวยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ อ้อ...ส่วนเรื่องปีเตอร์ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะจัดการให้มันไปโรงพักเพื่อให้ปากคำกับคุณให้ได้แน่นอน”

               หลังคำพูดนั้นจบลงโรเบิร์ต โจวก็กดบังคับรถเข็นไฟฟ้าของตัวเองให้หันกลับไปตามทางเดิน ทิ้งให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่เขาคิดฝากสัมภาระในมือเอาไว้เบื้องหลัง

            ความจริงธุระของเขาเสร็จสิ้นลงนานแล้ว หลังคำพูดที่ว่า...หยางหลงไม่เป็นอะไร...นี่ต่างหากคือธุระที่แท้จริง

            และในขณะที่ทุกคนกำลังมองส่งโรเบิร์ต โจว น้ำฟ้ากับคุณหมอก็ได้ขอตัวเดินออกไปอย่างเงียบๆพร้อมกัน

----------------------------------------------

“น้องชายของผมปลอดภัยดีใช่มั้ยครับ เขาไม่ได้โดนยิงหรือโดนอะไรร้ายแรงใช่ไหม”

“คุณไม่ต้องเป็นห่วง อาการภายนอกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาแค่เพลียมาก ให้น้ำเกลือสักขวดสองขวดก็กลับได้แล้วครับ...แต่ว่า...เรื่องอาการภายใน...”

“ผมต้องการให้เรื่องนี้เป็นความลับ พวกเราเป็นคนไข้ในโครงการวิจัยพิเศษของโรงพยาบาลxxx ในมหาวิทยาลัยzzz ที่ประเทศอังกฤษครับ คุณหมอ...”

“ไม่ต้องห่วง ทางเราได้รับการติดต่อมาจากด็อกเตอร์เชนทร์ล่วงหน้าเกี่ยวกับการรักษาคนไข้รายนี้เรียบร้อยแล้วครับ เพียงแต่เขาละเลยการกินยาอย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งมันค่อนข้างส่งผลกระทบกับตัวเขาไม่น้อย ทางเราไม่ได้ตรวจเขาอย่างละเอียดเพราะทางคุณหมอเจ้าของไข้จะเป็นคนจัดการเอง เขาบอกเพียงแต่ว่าให้ส่งคนไข้รายนี้ไปที่โรงพยาบาลที่คนไข้ไปรับยาเป็นประจำ...แต่...”

“ได้โปรดทำตามนั้นด้วยเถอะนะครับคุณหมอ...” น้ำฟ้าเอ่ยขอร้องกับคุณหมอวัยกลางคนที่ทำท่าคิดหนัก

“คุณจะไม่บอกเรื่องนี้ให้มิสเตอร์หยางหลงรับทราบจริงๆเหรอครับ คุณรู้มั้ยว่าตอนที่ผมทำแผลให้เขา เขาไม่ยอมให้เราใช้ยาสลบ เราฉีดแค่ยาชาแล้วเย็บแผลสดให้ เพราะตัวเขาต้องการมีสติเพื่อต้องการมาหาคุณลูน่าทันทีที่ทำแผลเสร็จ ผมต้องแอบฉีดยานอนหลับให้เขาโดยแกล้งบอกว่าเป็นยาแก้ปวด พอเขาหลับผมถึงได้ออกมาแจ้งอาการเขากับพวกคุณได้...ผมว่าถ้าคุณบอกเรื่องนี้กับมิสเตอร์หยางหลง...เขาต้องดีใจแน่...”

“เรื่องนั้นให้เขาสองคนตัดสินใจกันเองเถอะครับ ตอนนี้ผมอยากให้คุณหมอช่วยทำเรื่องส่งตัวลูน่าไปที่โรงพยาบาลประจำของเขาก่อน...”

“แต่คนอนุญาตต้องเป็นผู้ปกครองของเขาคือมิสเตอร์หยางหลงนะครับ และผมคิดว่ามิสเตอร์เขาคงไม่ยอม...”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ผมเซ็นอนุญาตแทนเองได้ครับ...ฝากที่เหลือด้วยนะครับ และเป็นไปได้ผมอยากให้น้องย้ายไปวันนี้เลย” ไม่รู้ว่าเราติดนิสัยชอบสั่งแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอคุณหมอพยักหน้ารับคำทำให้แล้วน้ำฟ้าก็ถอนหายใจพรู เขาจับมือน้องชายต่างสายเลือดขึ้นมาแล้วกำแน่นๆเหมือนให้กำลังใจคนกำลังนอนหลับ อีกมือก็ยกลูบผมอีกคนด้วยความเอ็นดูก่อนจะเอ่ยขึ้นมาแผ่วเบาว่า

“ตอนนี้เรื่องร้ายๆก็ผ่านไปแล้วนะพระจันทร์ หลังจากนี้ขอให้มีแต่เรื่องดีๆผ่านเข้ามาในชีวิตนะ...คนดีของพี่”

                  เย็นนั้นพระจันทร์ก็ถูกย้ายโรงพยาบาลในทันทีตามคำขอของน้ำฟ้า ก่อนที่ตกดึกคืนนั้นสุริยะมณฑลที่เพิ่งฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบก็ขอย้ายโรงพยาบาลตามพระจันทร์ไปเช่นกัน แล้วหลังจากนั้นอีกสองวันทั้งพระจันทร์และสุริยะมณฑลก็ได้ออกจากโรงพยาบาล พร้อมกับความคืบหน้าของคดีที่ทางตำรวจสามารถรวบตัวผู้ร่วมขบวนการคนอื่นที่ยังอยู่บนเกาะฮ่องกงได้ทั้งหมด แต่อีกหนึ่งอาทิตย์ให้หลังต่อมาทั้งหมดก็ถูกยื่นขอประกันตัวไปเพราะเจ้าทุกข์อย่างพระจันทร์นั้นไม่ติดใจเอาความ ในขณะที่สุริยะมณฑลนั้นยื่นข้อแม้ไปให้คนทั้งหมดติดแบล็กลิสท์กลับเข้ามาในฮ่องกงไม่ได้อีกตลอดชีวิต

------------------------------------------------------

                 จากวันที่เกิดเรื่องมาจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้ว พระจันทร์เปิดเทอมใหม่ และก้าวเข้าสู่การเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยมาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วด้วย ส่วนพี่ยะก็ยังคงทำงานหนักเหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่ลืมรับจ๊อบเสริมเป็นสารถีตามรับตามส่งพระจันทร์ไปกลับมหาวิทยาลัยเหมือนเดิมทุกวัน ทุกอย่างที่บุคคลอื่นเห็นจากภายนอกแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย...แต่ว่าลึกๆแล้วพระจันทร์คิดว่ามันมีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะตัวของพี่ยะนั้นเปลี่ยนแน่ๆ...

                  ยกตัวอย่างง่ายๆก็ห้องนอนของพวกเขาสองคนตอนนี้ไง ห้องส่วนตัวของพี่ยะแทบจะกลายเป็นห้องร้างไปแล้ว ชายหนุ่มเอาแต่มาขลุกนอนกับเขาด้วยทั้งวัน แถมยังทำเรื่องแบบนั้นกับเขาทุกที่ที่มีโอกาสอีก นี่ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้วพี่ยะก็เพิ่งสั่งให้เปลี่ยนเตียงใหม่ ยกเตียงควีนไซส์ของเขาไปไว้ในห้องนั่งเล่นให้ซิมบ้ากับชิวชิวใช้นอน ในขณะที่ตัวเองกลับสั่งให้คนซื้อเตียงคิงไซส์มาใส่แทน พร้อมบอกเหตุผลว่าเตียงเก่าของเขาเล็กไป ชายหนุ่มใช้ ‘ทำ’ ไม่ถนัด...นี่ก็อาจจะเป็นอีกเรื่องใหม่ที่เปลี่ยนไปสำหรับพี่ยะ...ก็พระจันทร์เพิ่งจะรู้นี่นา ว่าเนื้อแท้แล้วพี่เขาเป็นคนที่หื่นได้ผิดมนุษย์มนาจริงๆเลย

                การทำตัวผูกขาดพระจันทร์จนมากเกินพอดีก็เป็นอีกเรื่องที่แปลกใหม่ ช่วงนี้ไม่รู้ทำไมแทบทุกชั่วโมงจะต้องมีเมสเสสส่งมาถามว่าตอนนี้อยู่ไหน อยู่กับใคร ไม่ก็ทานข้าวรึยัง ไม่งั้นก็เป็นเมสเสสแสดงความรู้สึกสั้นๆเช่น คิดถึง, อยากเห็นหน้า ไม่ก็อะไรเทือกๆนี้มาให้เสมอ แรกๆพระจันทร์ก็ยังมีหน้าแดงเขินอายอยู่บ้างหรอกนะเวลาอ่าน แต่พอเล่นได้รับทุกวันมันก็เริ่มมีการชาชินขึ้นมาบ้าง ครั้งหนึ่งเขาเคยแกล้งชายหนุ่มกลับไปด้วยการตอบกลับว่า คิดถึงก็มารับกลับสิ ปรากฎว่าไม่ถึงสิบนาที รถคาดิแลคสีดำก็มาจอดรออยู่หน้าอาคารเรียนเรียบร้อย หลังจากนั้นพระจันทร์เลยได้บทเรียนว่า...ไม่ควรจะล้อเล่นไม่ว่าจะเรื่องใดๆกับผู้ชายคนนี้อีกเด็ดขาด เพราะคุณสุริยะมณฑลเธอเป็นคนพูดจริง คิดจริง ทำจริง ‘ทุกเรื่อง’

                อย่างวันนี้ก็เหมือนกัน ชายหนุ่มไปรอรับเขาก่อนเวลาเลิกเกือบยี่สิบนาที พอเข้ามาในรถได้ปุ๊บเขาก็ถูกจับจูบ นี่ถ้าไม่โดนตำรวจจราจรที่ประจำอยู่หน้าตึกเป่านกหวีดไล่ พระจันทร์คิดว่าคงได้มีซัมติงรองต่อยาวกว่านี้แน่ๆ เด็กหนุ่มมองค้อนคนขับรถที่ส่งสายตาแพรวพราวมาให้อย่างน่าหมั่นไส้ที่สุด ก่อนจะหันกลับไปทำหน้าอายเขินแดงกับกระจกรถ คนขับรถรับส่งกิตติมศักดิ์ของพระจันทร์จึงเอื้อมมือมายีผมเขาเล่นก่อนเอ่ยเย้าว่า

“โดนทุกวันขนาดนี้น่าจะชินได้แล้วนะพระจันทร์”

“พี่ยะนะ...คอยดูวันไหนเผลอๆจันทร์จะจับเจี๋ยนทิ้งให้”

“อ้าว ชอบของพี่มากถึงขนาดอยากตัดเก็บเอาไว้ดูเองเลยเหรอ ทำไมไม่บอกก่อนพี่จะได้ให้เขาหล่อปูนปลาสเตอร์เลียนแบบมาตั้งเอาไว้ให้ในห้องนอนเราไง หรือจะให้ทำเป็นโคมไฟดี...หรือ...”

“สัปดน!!! เอาอีกแล้วนะ...จันทร์หมายถึงอยากตัดทิ้งเพราะต่อมหื่นของพี่จะได้หายไปด้วยต่างหาก เป็นขันทีไปซะเถอะคนบ้า!”

“ได้สามีเป็นขันที...ไม่อายคนอื่นเขาแย่เหรอ”

“ไม่อาย เพราะไม่มีใครเห็นหรอก อย่างน้อยก็ดีกว่าเอวหักเพราะมีสามีขี้เอาเช้ากลางวันเย็นแบบนี้แล้วกัน”

“โห...เดี๋ยวนี้พูดคำว่าสามีได้ไม่กระดากปากแล้วรึไง”

“กระดากทำไม จันทร์ก็ติดมาจากพี่ยะนั่นแหละ...พี่ยะด้านได้ จันทร์ก็ด้านได้เหมือนกัน”

             พระจันทร์ลอยหน้าลอยตาย้อนกลับ สุริยะมณฑลอยากละมือมาตบกระหม่อมเมียที่เคารพซักทีนัก ไม่รู้สังคมมหาวิทยาลัยมันสอนคนรักของเขายังไง พระจันทร์ถึงได้แก่แดดแก่ลมขึ้นทุกวัน ไม่เหมือนพระจันทร์ที่ใสๆเหมือนตอนอยู่ม.ปลายคนนั้นอีกแล้ว

“เย็นนี้จะเอายังไง จะกินข้างนอกหรือกินในบ้าน...”

“อืม...จันทร์อยากกิน...”

             ...ตื๊ด...ตื๊ด...

           จู่ๆเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ในช่องเก็บของระหว่างเบาะของคนทั้งคู่ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ และเป็นพระจันทร์ที่หยิบมันขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ บนหน้าจอปรากฏภาพสาวสวยผมยาวเป็นลอนสีน้ำตาลอมทองล้อมรอบใบหน้าสวยคม ดวงตากลมโตโหงวเฮ้งดีแบบผู้มีอำนาจที่ได้สบเพียงครั้งเดียวก็สามารถจดจำได้ไม่มีลืมทำให้พระจันทร์กดเลื่อนหน้าจอรับสาย พร้อมกับหยิบบลูทูธยื่นให้เจ้าของโทรศัพท์เอาใส่หูแล้วคุย ส่วนตัวเองก็ทำเป็นหันกลับไปจ้องมองหน้าปกหนังสือเรียนที่วางอยู่บนตักแทนเมื่อมั่นใจว่าปลายสายคงไม่มีธุระอะไรกับเขาแน่ๆ

“ว่าไงหงส์...รู้ตัวมั้ยว่าขัดจังหวะคนเขาจะจู๋จี๋กัน”

“...”

“...อืม...แล้วนี่อยู่ที่ไหน” สุริยะมณฑลเอ่ยถามปลายสาย พระจันทร์เห็นชายหนุ่มทำหน้าขึ้งเครียดขึ้นมาวูบหนึ่งก็พอเข้าใจในสถานการณ์ เขาจึงได้แต่นั่งเงียบๆไม่พูดไม่จาอยู่ที่เบาะข้างคนขับ “...ฉันจะรีบไป อย่าเพิ่งเดินไปไหนนะหงส์ รอฉันอยู่ตรงนั้นก่อน”

               สุริยะมณฑลสิ้นสุดการสนทนาไว้แค่นั้น ก่อนจะตบไฟเลี้ยวขวาเตรียมยูเทิร์นรถแบบฉับพลัน

“พี่ยะจะไปไหน”

“สงสัยเราคงต้องไปฝากท้องไว้ที่ฟูดคอร์ทของสนามบินเสียแล้วล่ะพระจันทร์...ทนหิวหน่อยไหวไหม”

“ไหวครับ แต่มันเกิดอะไรขึ้น”

“แล้วพี่จะเล่าให้ฟังนะคนดี” ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์กลับให้พระจันทร์เป็นคนถือเอาไว้ ก่อนที่ตัวเองจะเร่งเครื่องพาตัวรถกลับไปทางตรงกันข้ามเพื่อมุ่งสู่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง

------------------------------------------------------

   ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วที่พระจันทร์รู้สึกมึนที่ศีรษะ ตอนนั่งมาในรถนั้นยังรู้สึกไม่เท่าไหร่ แต่พอได้ลงจากรถมาเจอฝูงคนที่เดินกันขวักไขว่เต็มสนามบินอาการมึนศีรษะในตอนแรกก็เริ่มเปลี่ยนเป็นปวดขึ้นมาตุ้บๆ จนหลายครั้งที่รู้สึกเหมือนตัวเองจะวูบอยู่ตลอด แต่ทว่าฝ่ามือหนาที่เกาะกุมมือเขาเอาไว้แน่นขณะพาเขาเดินฝ่าฝูงคนเพื่อมุ่งตรงไปข้างหน้าก็ทำให้พระจันทร์ต้องพยายามเดินเท้าตามเขาไปให้ทัน จนเมื่อเริ่มรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้วนั่นแหละคนตัวสูงใหญ่ถึงได้หยุดชะงักเท้าลง แล้วปล่อยมือพระจันทร์เพื่อเอื้อมไปจับแขนหญิงสาวตรงหน้าที่อยู่ในลุคใหม่ ตัดผมเสียสั้นและในมือข้างหนึ่งก็เท้าลงกับกระเป๋าเดินทางใบโตข้างกาย พระจันทร์มีเวลาหยุดดูได้แค่นั้นก็ต้องรีบยื่นมือเข้าไปเอื้อมจับเสื้อสูทของสุริยะมณฑลเพื่อพะยุงตัวที่ทำท่าจะล้มมิล้มแหล่ในทันที

“หงส์ นึกยังไงจู่ๆปุ๊บปั๊บก็จะไป” ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยปากถามคู่หมั้นสาวที่อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมเดินทางด้วยท่าทีจริงจัง ในขณะที่หงส์นั้นกลับทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจเสียเต็มประดาที่ได้ยินคำถามนี้

“ก็ป๊าน่ะสิจะเร่งงานแต่งงานของเราสองคนให้เร็วขึ้น หงส์ก็เลยจะรีบชิ่งไปล่องเรืออยู่แถวๆทะเลแคริบเบียนแล้วต่อไปมหาสมุทรแอตแลนติกสักเดือน ให้มันรู้ไปว่าอยู่แต่บนเรือแบบนั้นป๊าจะหาหงส์เจอได้ไง”

“นี่ไม่ใช่ทางออกที่ฉลาดเลยนะ”

“แล้วอาทิตย์จะให้ทำยังไง จะเข้าไปคุยกับพ่อหงส์ซึ่งๆหน้าเลยงั้นเหรอ หึ...คงจะได้อยู่หรอก ยิ่งพี่กรเป็นอย่างนั้นไปแล้วมันคงจะง่ายขึ้นน่ะนะ”

“ไอ้กรทำไม? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย”

“ก็ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ก็เพราะพี่กรน่ะสิ...! เมื่ออาทิตย์ก่อนน่ะป๊าไปหาพี่เขาที่คอนโด แล้วดันไปเจอช็อตเด็ดของพี่กรกับคุณเหวินจิ้งเข้า ป๊าเขาก็เลยช็อคมาก ทะเลาะกับพี่กรใหญ่โตเลย ผลสุดท้ายก็เลยมาลงที่ฉันเพราะพี่กรเขาไม่ยอมเลิกยุ่งกับคุณเหวินจิ้งน่ะสิ”

“...”

“เห็นใจพี่ก็เห็นใจอยู่หรอกนะ แต่ตัวเองก็ต้องเอาตัวให้รอดเหมือนกัน ที่โทรหาเมื่อกี๊ก็ไม่ได้ต้องการจะให้นายมาหาหรือว่ามาห้ามหรอกนะ เพียงแค่บอกให้รู้ไว้ เพราะอยู่บนเรือหงส์จะถูกตัดขาดโทรศัพท์มือถือและโลกโซเชียลทั้งหมด ดังนั้นหงส์ก็เลย...”

“พอเถอะ ไม่ต้องทำขนาดนี้หรอก กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับพ่อเธอให้เอง ถ้าเป็นความสมัครใจของเราสองคนก็ไม่น่าจะมีปัญหา”

“ความคิดนี้ต่างหากที่ไม่ใช่ทางออกที่ฉลาด หงส์พูดจนปากจะฉีกอยู่แล้วก็มีแต่จะยิ่งแย่ลง ยิ่งอาทิตย์เข้าไปพูดกับป๊าตอนนี้ว่าจะขอถอนหมั้นหงส์นะ รับรอง...ฮ่องกงร้อนเป็นไฟแน่ๆ ที่สำคัญนายนั่นแหละที่จะเดือดร้อน”

“ฉันไม่มีทางเดือดร้อนเพราะเรื่องแค่นี้แน่ อีกอย่าง ตอนนี้ฉันก็ตัดสินใจแล้วว่ามันถึงเวลาที่ฉันต้องทำอะไรทุกอย่างให้มันเข้าลู่เข้าทางเสียที ปล่อยให้มันคารังคาซังต่อไปแบบนี้ฉันสงสารพระจันทร์...”

“พระจันทร์...พระจันทร์เป็นอะไร...ฉันว่าน้องท่าทางไม่ค่อยดีนะอาทิตย์...”

“พระจันทร์!” เสียงสุดท้ายที่ได้ยินเข้ามาในโสตประสาท คือเสียงเรียกชื่อของเขาที่ดังลั่น

   พระจันทร์รู้ตัวว่าต้องตอบ แต่ตอนนี้เขาไม่ไหวที่จะตอบเสียงเรียกชื่อนั้นอีกแล้ว อาการเมาคลื่นมนุษย์หรือคงเพราะท้องว่างมานานก็ไม่ทราบ ถึงได้พรากเอาสติของพระจันทร์หลุดหายไปในที่สุด

------------------------------------------------------

   ป้าแหม่มหยิบผ้าเย็นมาโปะแล้วเช็ดไปตามแขนของพระจันทร์ พร้อมกับเอามือไปลูบที่ไรผมของคนที่นอนหมดสติอยู่อย่างแผ่วเบา ความเย็นของผ้าที่ลูบไปตามแขนค่อยๆดึงพระจันทร์ให้ค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้น แสงไฟสีส้มนวลตาของห้องนอนตัวเองทำให้พระจันทร์ค่อยๆสูดลมหายใจเข้าลึก เพดานคุ้นตาทำให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัยและสบายใจที่ได้ตื่นขึ้นมาในที่ที่คุ้นเคย

“คุณหนู...ฟื้นแล้วเหรอคะ หิวมั้ย ป้าทำข้าวต้มไว้ให้ทานหน่อยนะคะ” คุณแม่บ้านใหญ่ค่อยๆช่วยวางหมอนขึ้นไปพักไว้ที่หัวเตียง แล้วประคองคนเพิ่งฟื้นไปนั่งพิงหัวเตียงดีๆ ก่อนจะหันไปสั่งนางเล็กๆให้ไปอุ่นข้าวต้มแล้วนำขึ้นมาให้นางบนห้อง พระจันทร์หลับตาแน่นๆแล้วก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่ออาการปวดหัวมันลามมาที่หน่วยตา

“ป้าแหม่ม แล้วพี่ยะล่ะครับ”

“คุณยะเธอไปทำธุระที่บ้านคุณหงส์ค่ะ เธอบอกว่าเดี๋ยวจะรีบกลับ”

“...เหรอครับ” เสียงที่ตอบออกมานั้นหงอยเหงาลงไปทันตาจนป้าแหม่มรู้สึกได้ มือที่กร้านเพราะผ่านการทำงานบีบที่ฝ่ามือของพระจันทร์อย่างต้องการให้กำลังใจ หล่อนรู้ดีว่าตอนนี้เจ้านายทั้งสองคนอยู่ร่วมกันในฐานะใด เพราะสุริยะมณฑลไม่เคยที่จะปิดบังความรู้สึกของตัวเองต่อพระจันทร์เวลาที่อยู่บ้านเลยสักครั้ง

“คุณหนู เดือนสองเดือนมานี้เป็นลมบ่อยนะคะ ไม่บอกคุณยะจะดีหรือคะ”

“เอ่อ ป้าแหม่ม...ระ...เรื่องนั้นจันทร์แค่...เรียนเหนื่อย...แล้วก็”

“เดือนที่แล้วคุณก็ไม่ได้ใช้ผ้าอนามัยใช่มั้ยคะ”

“ป้าแหม่ม...คือ...เรื่องนั้น...”

“คุณเป็นอะไรกันแน่คะ บอกป้าได้ไหม ถ้าไม่อยากให้คุณยะรู้ป้าก็จะไม่บอก แต่อาการของคุณหนูไม่ใช่อาการของคนไข้ออทิสติกปกติแน่ๆ แล้วยาที่ไปรับที่โรงพยาบาลทุกเดือนนั่นอีก นั่นมันยาอะไรกันแน่คะ”

“ป้าแหม่มอย่าบอกใครนะ ห้ามบอกพี่ยะด้วย...จันทร์ขอร้องนะ” จมูกขาวๆเริ่มแดงก่ำ มือที่คุณแม่บ้านใหญ่จับไว้ก็เย็นเฉียบ

“ถ้าป้าจะบอกป้าบอกไปหลายปีแล้วล่ะค่ะตั้งแต่เรื่องเลือดวันนั้น พูดตรงๆว่าป้าเองก็ไม่อยากมีความลับกับคุณยะหรอกนะคะ แต่เพราะป้าสงสารคุณหนู ตอนนี้คุณหนูน่ะผอมเอาๆ เป็นลมก็บ่อย ปวดหัวแทบทุกวัน ถึงคุณหนูจะพยายามปิดไม่ให้คุณยะรู้ แต่สักวันเขาก็ต้องรู้แน่ๆว่าคุณหนูไม่ได้เป็นออทิสติกอย่างที่เข้าใจ...ป้าน่ะ...”

   ...ก๊อก...ก๊อก...

“ป้าแหม่ม...พระจันทร์...เป็นยังไงบ้าง” คนเป็นเจ้าของบ้านแต่ก็ยังรักษามารยาทเคาะห้องนอนผู้อยู่อาศัยเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางคิ้วขมวด ชายหนุ่มพับแขนเสื้อขึ้นไปเหนือข้อศอก ก่อนจะตรงเข้าไปนั่งที่ขอบเตียงข้างคนรักแล้วเอามืออังไปตามหน้าผากและซอกคอ

          พระจันทร์พยายามฝืนยิ้มชืดๆให้ก่อนจะส่ายหน้าว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ส่วนคุณแม่บ้านใหญ่ก็ได้แต่คันปากยิบๆ อีกนิดเดียวหล่อนก็จะสามารถล้วงความลับของคุณหนูพระจันทร์ถึงสิ่งที่หล่อนสงสัยมานานได้แล้วเชียว แต่โดนคุณยะมาขัดเสียได้ จะให้พยายามถามต่อหน้าคุณยะตอนนี้คุณหนูพระจันทร์เธอก็น่าสงสารเกินไป คุณยะเธอไม่ชอบให้ใครมามีลับลมคมในใส่ ดีไม่ดีคุณหนูพระจันทร์ของหล่อนจะโดนโกรธเอาอีก วันนี้หล่อนจะยอมถอยทัพแค่นี้ก็ได้...

“งั้นเดี๋ยวป้าไปเอาข้าวต้มมาให้นะคะ คุณยะก็อยู่เป็นเพื่อนคุณหนูพระจันทร์ไปก่อนก็แล้วกัน” ป้าแหม่มผู้เป็นห่วงเจ้านายอย่างสุดแสนค่อยๆรีบเฟดตัวเองออกไปจากห้อง แต่ทว่านางเล็กๆที่เพิ่งอุ่นข้าวต้มเสร็จก็ยืนถือถ้วยชะงักอยู่หน้าห้องพอดี นางจึงออกปากสั่งให้นางเล็กๆนั้นแหละเป็นคนนำถ้วยข้าวต้มเข้าไปให้ เพราะหล่อนกลัวตัวเองอดใจไม่ไหวเผลอหลุดปากพูดหรือถามอะไรคุณหนูพระจันทร์ให้ต้องเป็นเรื่องเข้าน่ะสิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2014 18:46:30 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์

“อ้าปาก” คำสั่งแรกออกมาแล้ว พระจันทร์เบือนหน้าหนีเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยความต้องการของตัวเองออกไปบ้าง

“ไม่เป็นไร จันทร์กินเองได้ ไม่ต้องป้อนหรอก”

“...อ้าปาก”

“...ฮื้อ พี่ยะ...จันทร์กินเองได้จริงๆ...”

“แต่พี่จะป้อน...เร็วๆ...อ้าปาก”

“...อื้อ...” สงเสียงบ่นขัดใจไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายอย่างพระจันทร์น่ะหรือจะเอาชนะพี่ยะได้ สุดท้ายก็ต้องยอมกลายเป็นง่อยให้เขาบริการป้อนถึงปากอยู่นั่น

“ไม่เอาแล้ว...อิ่มแล้ว”

“กินให้หมดอย่างอแง เพิ่งได้สามคำเองจะอิ่มได้ยังไง...เพราะกินข้าวอย่างกับแมวดมอย่างนี้ล่ะสิวันนี้ถึงได้เป็นลมน่ะฮึ...อ้าปาก”

“เอ่อ...พี่ยะไม่มีงานอื่นแล้วเหรอ...”

“ไม่ต้องมาแกล้งเปลี่ยนเรื่องเลยจันทร์ ถ้าวันนี้กินไม่หมดพี่ไม่ยอมไปไหนแน่ๆ อ้าปากเร็ว...อีกคำหนึ่ง”

“...ไม่เอาแล้ว จันทร์อิ่มแล้วจริงๆ...” ดวงตากลมโตช้อนมองคนป้อนที่จ่อช้อนคาไว้ที่ปากด้วยสายตาอ้อนวอนขอให้สงสาร แต่สุริยะมณฑลไม่มีให้แม้แต่ความเห็นใจ หมอบอกเขาว่าร่างกายพระจันทร์นั้นอ่อนแอ พักผ่อนน้อย และมีเรื่องเครียด จึงทำให้เป็นลมไปในวันนี้ ดังนั้นเขาจะต้องดูแลให้พระจันทร์กินข้าวให้เยอะกว่านี้ แล้วก็ต้องไม่ให้เครียด แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเขาเลย

ดูสินั่น...พอยอมอ้าปากกินข้าวคำที่สี่ไปก็ทำหน้าผะอืดผะอม และในที่สุดเจ้าตัวก็รีบพุ่งตัวเข้าไปที่ห้องน้ำ แล้วอาเจียนเอาข้าวที่ทานไปเล็กน้อยเมื่อสักครู่ออกมาหมด

“นี่อ้วกประชดพี่หรืออะไร ถ้าขืนยังไม่ยอมกินให้มากกว่านี้นะพี่จะจับให้กินข้าวผ่านทางสายยางเลยคอยดู” คนเอ่ยคำพูดใจร้ายพยายามช่วยประคองตัวพระจันทร์เอาไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ช่วยลูบหลังให้

           แต่ทว่าท่าทางอาเจียนจนทรมานของพระจันทร์เริ่มทำให้คนปากดีเริ่มเครียดเขม็งขึ้นมาอย่างจริงจัง เด็กหนุ่มผิวขาวอาเจียนเอากระทั่งน้ำย่อยในกระเพาะออกมาก็ยังไม่หมดท่าทางผะอืดผะอม จนสุริยะมณฑลต้องบอกให้พระจันทร์ฝืนหยุดอาเจียนแล้วบ้วนน้ำเปล่า

“แค่ก...แค่ก...”

“พระจันทร์ ทำไมอาเจียนหนักขนาดนี้ พี่ว่าไปหาหมออีกทีดีกว่า เมื่อกี๊หมอคงตรวจไม่ละเอียด ไปโรงพยาบาลน่าจะวิเคราะห์ได้ถูกจุดกว่านี้...”

“มะ...ไม่เอาพี่ยะ จันทร์อยากนอน ไม่ต้องไปหาหมอหรอก” เด็กหนุ่มรั้งชายแขนเสื้อของคนพูดเร็วทำเร็วให้วางโทรศัพท์มือถือในมือลง

“แต่พระจันทร์...”

“ไม่มีแต่...อุ้มหน่อย เดินไม่ไหว...อยากนอนต่อแล้ว”

“พรุ่งนี้เช้าถ้าไม่ดีขึ้นพี่จะให้เราลามหาวิทยาลัยแล้วไปหาหมอกับพี่ โอเคมั้ย”

“ก็ได้ครับ แต่พี่ยะอย่าแอบโทรไปหาหมอให้มาดูจันทร์ตอนหลับนะ จันทร์ไม่ได้เป็นอะไรมาก วันนี้แค่เรียนเยอะไปหน่อยแล้วก็กินข้าวไม่ตรงเวลาน่ะก็เลยทรุด จันทร์รู้ตัวเองดีหรอก...”

“ถ้ารู้ตัวเองดีก็ช่วยบอกพี่หน่อยเถอะว่าเราไม่ไหว ไม่ใช่ไปล้มในสนามบินให้พี่ใจหายใจคว่ำแบบวันนี้อีก ถ้าพี่รับไว้ไม่ทันเราจะเป็นยังไง หัวฟาดพื้นไปนี่เป็นเรื่องอื่นเลยนะ” คนพูดพูดไปมือก็ช้อนอุ้มตัวพระจันทร์พากลับมาที่เตียงตามคำขออย่างเรียบร้อย และแน่นอนว่าการจะปล่อยให้คนรักต้องนอนเหงาอย่างเปล่าเปลี่ยวอีกนั้นไม่มีเสียหรอก เขารีบเอาตัวเองสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันทันทีที่พระจันทร์ตลบผ้านวมผืนหนานุ่มขึ้นมากองอยู่บนอก

“พี่ยะขึ้นมาทำไม ลงไปเลยนะจันทร์จะนอน” เสียงขุ่นเอ่ยบอก แต่คนหน้ามึนก็ยิ่งแทรกท่อนแขนเข้าไปรวบตัวพระจันทร์เข้ามากอดไว้แน่น ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรเขาติดหมอนข้างกลิ่นหอมตัวนุ่มคนนี้ที่สุดเลย

“จันทร์ก็นอนไปสิ พี่จะกล่อมให้ไง”

“ไม่เอา มีพี่นอนด้วยเดี๋ยวก็ไม่ได้นอนอีก” ประโยคสุดท้ายนั้นมันดังงุดงิดมาจากใต้ผ้าห่ม เมื่อคนป่วยยกผ้าขึ้นมาห่มมิดเหลือแต่ตา ในขณะที่มือนั้นก็ต้องคอยผลักไสท่อนแขนหนาๆที่เอาแต่ลูบเอวเขาไม่หยุด

“ทำไมจะไม่ได้นอนล่ะครับ หืม? เพราะอย่างนี้รึเปล่า...หรือว่าเพราะอย่างนี้...”

“พะ...พี่ยะ...มะ...ไม่เอา...ไม่เอานะไม่เอา...หยุด เดี๋ยวนี้...”

   พระจันทร์ดิ้นหนีจนตัวแทบบิด ก็อย่างนี้แรกของพี่เขาคือการสอดมือเข้ามาในเสื้อ ส่วนอย่างนี้สองของชายหนุ่มคือการสอดมือเข้ามาในกางเกง...นี่จะไม่สงสารคนป่วยจริงๆใช่มั้ย...

“ไม่ต้องมองพี่ตาปรอยแบบนี้เลยนะ รู้ตัวมั้ยว่ายิ่งตอนที่เราป่วยเนี่ย มองพี่ตาเยิ้มขนาดไหน” คนพูดเอาศอกเท้าหมอนไว้ข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็เอาลูบแขนลูบเอวพระจันทร์ไปทั่ว

“พี่ยะ! ไม่เอานะ จันทร์ป่วยอยู่...” คนป่วยหน้าแดงเถือก พยายามยื้อเอวกางเกงเอาไว้อย่าวสุดชีวิต

“รู้ครับ...ว่าป่วย...แต่ตอนนี้น่ะพี่...” ชายหนุ่มลากเสียงยาว ในกังวาลแว่วอารมณ์สุนทรีย์เสียจนน่าหมั่นไส้

   แล้วจู่ๆคนที่นอนค้ำศีรษะคนอื่นอยู่ก็ยื่นหน้ายื่นจมูกเข้ามาใกล้ พระจันทร์เขยิบหนีเสียจนหมอนบุ๋ม แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ได้แค่นั้น เมื่อสุริยะมณฑลเอาจมูกเข้าไปชิดจนชนกัน แล้วค่อยๆร้องเพลงเพลงหนึ่งออกมา

“...อยากจะกินกลืนเธอทั้งตัวไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น~ อยากได้ยินเพียงเสียงของเธอเพรียกบอกรักเพ้อ…ถึงฉันผู้เดียว กดอารมณ์ทนไปไม่ไหว ใจมันหวิวหวาม~ ไม่เจอคงขาดใจ...” เสียงทุ้มนุ่มขาดหายไป

   ดวงตาสองคู่สบประสานกันอย่างไม่มีใครยอมใคร และสุดท้ายก็เป็นพระจันทร์ที่ยอมหลบตาไปก่อนพร้อมร้องท่อนต่อไปให้อีกฝ่ายฟังด้วยใบหน้าแดงๆ

“...โอ๊ย โอ๊ย...”

“...แค่นี้เหรอ เอาให้จบท่อนนี้สิ...” สุริยะมณฑลเรียกร้อง ในตอนแรกพระจันทร์ส่ายหน้าให้ แต่สุดท้ายก็ทนสายตารบเร้าไม่ไหว ยอมร้องต่อให้จนจบ

“...โอ่ย โอ๊ย...ตัวหนักจังเธอ...”

“...”

   สิ้นสุดเสียงร้องเพลง สุริยะมณฑลหรี่ตามองคนที่นอนขดอยู่ใต้ร่างเขาด้วยอารมณ์ทั้งขำทั้งขรึม นับวันเขาชักจะปล่อยให้เด็กคนนี้มาปีนเกลียวเขามากเกินไปแล้ว

“หนักใช่มั้ย หนักมากเนอะ...เดี๋ยวจะทำให้หนักยิ่งกว่านี้อีก เอาให้หนักด้วยอึดอัดด้วยเลยดีกว่าเนอะ เหมือนตอนนั้นไง ตอนที่เรากลับมาจากเกาะ แล้วพระจันทร์ก็เป็นหวัด...บนเตียงนั้นที่โรงพยาบาล...อื้ม...”


   เสียวจ้วบดังขึ้นเบาๆเมื่อริมฝีปากสีชมพูอมส้มทำการอาจหาญชาญชัยยื่นเข้าไปปิดปากคนเชี่ยวชาญกว่าก่อน พระจันทร์จูบไม่เก่งหรอก ทำเป็นแค่เอาปากไปประกบ นอกนั้นก็ไม่รู้วิธีอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาตัวเองก็ทำได้แต่เป็นผู้ตาม อีกฝ่ายจะชักนำเขาไปอย่างไรก็สุดแล้วแต่เขาจะพอใจ

“พี่ยะ...ไม่เอา...”

“ไม่เอาแต่พี่อยากให้ อย่าคิดนะว่าตัวเองเริ่มก่อนแบบนี้แล้วมันจะหยุดลงง่ายๆ...เตรียมตัวเลยคนดี ถึงป่วยพี่จะไม่ละเว้นให้แน่...”

“พี่ยะ...ไม่นะ ไม่เอา...จันทร์...อื้ม...”

   เสียงครางเป็นลูกแมวซมไข้ค่อยๆดังแบบสะอื้นฮึกฮักเมื่อโดนเจ้าของตัวใหญ่พยายามที่จะงับปากเขาแล้วกอบโกยน้ำหวานจากโพรงปากเสียจนหายใจไม่ทัน พอเห็นดังนั้นเจ้าของลูกแมวจึงยอมเปิดช่องว่างให้คนตัวเล็กได้พักหายใจเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงไปปิดปากเจ้าลูกแมวซ้ำอีกครั้งเมื่อความหวานที่ได้ชิมนั้นช่างติดลิ้นเสียเหลือเกิน

   จูบหวานล้ำที่สุริยะมณฑลก้มลงป้อนให้ถึงปากทำให้สมองของพระจันทร์ค่อยๆขาวโพลน คิดอะไรต่อไม่ออก มันตันๆแล้วก็ตื้อๆ เพราะความคิดทั้งหมดมันถูกบังคับให้ลอยวนไปวนมาอยู่รอบๆตัวผู้ชายร่างสูงตรงหน้าไปหมดแล้ว

“ตระ...ตรงนั้น...ฮึก...”

“มันลื่นแล้วนะพระจันทร์ วันนี้ไม่ต้องใช้เจลก็น่าจะเข้าได้นะ...” สุริยะมณฑลเกี่ยวชั้นในและกางเกงแพรของคนตัวเล็กที่นอนระทวยอยู่ในอ้อมกอดถอดออกไปพร้อมๆกันอย่างคุ้นเคยมือ จากนั้นก็ไม่ต้องมีการอารัมภบทกันนาน เพราะฝ่ามือใหญ่จัดการแปะเข้าไปที่หว่างขาของคนป่วยใต้ผ้าห่ม แล้วลูบสำรวจตามอำเภอใจในทันที

“มัน...มันจะ...เจ็บ...” พระจันทร์กล้าที่จะบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปตรงๆ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องน่าอาย แต่ในเวลาแบบนี้พี่ยะไม่เคยที่จะไม่รับฟัง...ใช่...เขาแค่รับฟัง แต่น้อยครั้งมากที่จะทำตาม...

   ตอนนี้สุริยะมณฑลยกตัวเองขึ้นไปทับเหนือร่างพระจันทร์แบบเต็มตัวแล้ว แต่กระนั้นก็ระวังที่จะไม่ถ่ายเทน้ำหนักของตัวเองลงไปมากเกิน ท่อนขาใหญ่ทั้งสองข้างเบียดเข้าแทรกระหว่างขาของพระจันทร์แล้วเทน้ำหนักลงไปตรงนั้นเพื่อช่วยทรงตัว เมื่อเข้าที่เข้าทางแล้วช่วงบนของพระจันทร์ที่ถูกละเลยมานานก็ถูกจัดการในทันที

   นิ้วมือกร้านใหญ่แตะผ่านยอดอกนิ่มๆของคนนอนโอนอ่อนแผ่วๆ จากนั้นก็ค่อยๆปลุกปั่นมันขึ้นช้าๆ ก่อนที่ตัวเองจะเอาศีรษะมุดกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วงับติ่งเนื้อนุ่มนิ่มที่เริ่มแข็งตึงขึ้นมาผ่านผ้า แล้วปล่อยให้มันเด้งกลับซ้ำๆ  จากนั้นพระจันทร์ก็ได้ยินเสียทุ้มห้าวอู้อี้ดังลอดเสื้อขึ้นมาว่า

“พี่ว่าช่วงนี้เราอ้วนขึ้นมั้ย นมเริ่มตั้งเต้าแล้วนะพระจันทร์...”

   เฮื้อก...! วินาทีนั้นพระจันทร์แทบหัวใจหยุดเต้น มือเย็นเฉียบขยุ้มหลังเสื้อคนที่ง่วนอยู่กับอกเขาให้เงยหน้าขึ้นมาหา ก่อนจะเอ่ยถามเสียงสั่นว่า

“พะ...พี่ยะ...รู้ได้ยังไง...”

“หึหึ...ถามแปลก พี่จับของพี่อยู่ทุกวัน ทำไมพี่จะดูไม่ออกว่ามันแฟ่บ...หรือว่าใหญ่ขึ้น...”

“...คะ...คือ...มัน...”

“แต่นิ่มๆแบบนี้ก็ดีนะพี่ชอบ หอมดีด้วย...หอมหวานๆเหมือนนม...”

“พี่ยะนะ! ถ้าชอบใหญ่ๆตู้มๆก็ไปคอนโดพี่เลยไป...มาจับทำไมคนไม่มีนมอย่างจันทร์น่ะ...”

“อะไร ทักแค่นี้นี่หึงพี่ไปโน่น...ไม่เอาน่ะอย่าทำตัวน่ารักมากไปกว่านี้เลย ตั้งใจไว้ว่าวันนี้จะแค่รอบเดียวเพราะเห็นใจคนป่วย แต่ทำแบบนี้พี่จะหยุดไม่ได้เอานะพระจันทร์...”

“พี่ยะ..!”

“ครับ”

“นี่แน่ะ...จะทำอะไรก็ทำ...อย่าพูดมาก” พร้อมกับที่พูด พระจันทร์เอามือกดศีรษะอีกฝ่ายลงทับอกแบนๆของตัวเองอีกครั้ง ตั้งใจจะกดไม่ให้เขาหายใจออก แต่ทว่าคนไม่เคยสิ้นลายกลับแลบลิ้นเลียแผล่บเข้าให้ พระจันทร์ตาโตปล่อยมือออกแทบไม่ทันเพราะความเสียวมันแล่นปรี๊ดถึงปลายนิ้ว

   ...คนอะไรไม่รู้...กะล่อนที่สุด!...

“อ่ะ...อ๊ะ..อ๊า...พี่ยะเจ็บ!...มันฝืด...”

“ฝืดที่ไหน นี่ไงเข้าไปได้แล้วตั้งหนึ่งนิ้ว...มันบับทักทายนิ้วพี่ใหญ่เลย ไม่รู้สึกเหรอ” คนพูดลองกระดิกปลายนิ้วที่สอดเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่ายทีเผลอด้วยดวงตาเป็นประกาย จุดไหนที่เป็นจุดอ่อนไหวของพระจันทร์เขาจำได้หมด และไม่ลังเลเลยที่จะโจมตีจุดนั้นซ้ำๆ จนพระจันทร์ก้นลอยแทบไม่ติดพื้นเตียงแล้วตอนนี้

“พะ...พอนะ...ไม่เอาแล้ว...อ๊ะ...พี่...อ๊า...ไม่...ไม่เอา...มันจะ...จะออก...”

“อะไรจะออกครับ...นี่แค่นิ้วเดียวเองนะ จะไปแล้วเหรอ...”

“อะ...มะ...ไม่...ไม่เอา...พี่ยะ...อย่าแกล้งจันทร์...อย่าแกล้งน้อง...”

“ก็น้องน่าแกล้ง...พอแกล้งแล้วตรงนี้ของน้องพระจันทร์ก็จะร้องไห้ออกมา แต่อย่าเพิ่งนะครับคนดี...รอพี่อาทิตย์ก่อนนะ...”

   เสียงผ้าสวบสาบและเสียงหัวเข็มขัดกระทบกันทำให้พระจันทร์พยายามลืมตาที่ปิดแน่นสนิทมาตลอดขึ้น เขามองไม่ถนัดหรอกว่าตอนนี้พี่ยะกำลังทำอะไรอยู่เพราะทัศนียภาพมันโดนกองผ้าห่มที่มันสุมอยู่บนตัวบดบัง แต่กระนั้นเขาก็พอจะเดาออกหรอก เมื่อตรงท่อนขาของเขาโดนฝ่ามือเปียกชื้นของพี่ยะจับแยกออกจนกว้าง พร้อมกับที่อะไรบางอย่างอุ่นๆร้อนๆเริ่มถูไถไปตามซอกขาของเขาเหมือนปลาไหลที่ต้องการหาทางไป

“ดะ...เดี๋ยว...พี่ยะ...อ่ะ จันทร์...ไม่เอานะ...ตรงนั้นมันยัง...เล็ก...มัน..อ่ะ...อ๊า...”

   พูดไม่ได้หรอกว่าร่างกายของเขาถูกเตรียมให้พร้อมสำหรับรับอีกฝ่ายเข้ามาแบบนี้ แต่ตอนนี้ห้ามไปก็ไม่ทันแล้ว เมื่อส่วนหัวของมันมุดเข้ามาจนจมมิดอยู่ในร่างกายของพระจันทร์เรียบร้อยแล้ว

“อึก...อื้ม...”

   ชายหนุ่มร่างสูงยืดตัวขึ้นไปจูบปลอบขวัญคนรองรับตัวตนของเขาอย่างหวานฉ่ำอีกรอบ พระจันทร์ส่งเสียงครางติดอยู่ในลำคอ ฝ่ามือเล็กน่ารักก็คอยแต่จะกระชากคอเสื้อของเขาออก แต่แรงเท่าแมวดิ้นแบบนี้น่ะหรือจะหยุดเขาได้...คนอย่างสุริยะมณฑลไม่ใช่คนกินมั่ว แต่ถ้าลองได้กินของโปรดเข้าแล้วล่ะก็ต่อให้ใครหาว่าเขาตะกรุมตะกรามเขาก็ไม่สนและไม่มีทางหยุดกินด้วย เลือดแม่เขามาเต็มตรงนี้ล่ะ เกลียดแรงรักแรง...และชอบแกล้งคนที่รักเป็นที่สุด...

“อ่า...พระจันทร์ รัดแรงๆครับ...พี่ชอบ...”

“ไอ้...พี่ยะ...โรค...จิต...”

 “ฮ่าๆ...ก็เลียนแบบเหมือนในหนังไง...ไม่ชอบเหรอ...”

“ฮื้อ....อึก...พี่ยะ..อย่าพูด...มันกระเทือน...”

“อ้าวเหรอ...ขอโทษๆ พี่ก็แค่หัวเราะ...”

“ไอ้พี่ยะ! ฮื้อ...อ่ะ...ห๊า...อึก..อ๊า”

   ไม่ต้องรอให้เกิดแรงสะเทือนเบาๆมากไปกว่านั้น สุริยะมณฑลก็จัดหนักจัดเต็มใส่ร่างขาวๆหอมๆของพระจันทร์ทันที ปลายเท้าของคนรองรับร่างกายของเขากระตุกเกร็ง มือน้อยกำแน่นจนข้อขึ้นขาว คนตัวโตกว่าจึงก้มลงไปจูบที่กำปั้นน้อยเบาๆแล้วเอามือตัวเองทั้งสองข้างมาสอดจับมือพระจันทร์เอาไว้แทน ก่อนจะพาโอบขึ้นไปตรึงเอาไว้เหนือศีรษะ ก่อนจะขยับองศาเอวให้ได้มุมที่ถนัดแล้วลงมือเริ่มห่มสะโพกลงหาผิวเนื้อนิ่มๆเป็นจังหวะ

“...พะ...พี่ยะ...ช้า...อะ...อึก...อ๊ะ...”

“ช้าแล้วครับ...รัดพี่แน่นเสียขนาดนี้ขยับเร็วได้ไง...เดี๋ยวพระจันทร์ของพี่จะเจ็บ...”

“พี่ยะ...ฮึก...อื้อ...”

   เพราะเสียงหวานที่ครางระงมมันช่างน่ารัก และอาการออดอ้อนสัมผัสจากเขาโดยไม่รู้ตัวก็ช่างโดนใจ สุริยะมณฑลจึงก้มลงไปหาริมฝีปากชุ่มฉ่ำนั่นเป็นระยะ สลับกับก้มลงกัดยอดอกผ่านเสื้อผ้า สงสัยจบรอบนี้แล้วคงต้องพาอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนชุดใหม่เสียแล้ว ขืนปล่อยให้นอนเปียกทั่วอกขนาดนี้พรุ่งนี้ตื่นมาคงได้มีคนเป็นปอดบวมแน่

   สุริยะมณฑลเฝ้ากกกอดวนเวียนจูบพระจันทร์อยู่จนอีกฝ่ายเริ่มสะอื้นฮักออกมาจริงจัง ริมขอบตาเริ่มมีน้ำตาหยาดไหลลง คงเป็นเพราะรู้สึกมากเกินไปแล้วไม่รู้จะระบายออกมายังไง สุริยะมณฑลจึงได้โอกาสจบเพลงรักครั้งนี้ลง เขาเป็นพวกอึดกับเรื่องแบบนี้มาก แต่พระจันทร์นั้นไม่ใช่...หลายครั้งที่เขาทำให้พระจันทร์ต้องขาดเรียนเพราะเพลียและมีไข้ต่ำๆ ดังนั้นเขาต้องเพิ่มความใส่ใจในตัวของคนรักให้มากกว่านี้

   คิดแล้วชายหนุ่มก็จัดการสาวสะโพกของตัวเองออกมายาวๆแล้วกดซ้ำลงไปแน่นๆ จากนั้นจึงหมุนวนสะเอวให้สัมผัสแรงรัดรึงรอบๆกายเขาแน่นๆ เมื่อมันถึงจุดสิ้นสุดของอารมณ์ ชายหนุ่มก็ระเบิดของเหลวของตัวเองพุ่งใส่อีกฝ่ายไปเต็มแรง กดค้างเอาไว้ให้ร่างกายกระตุกปลดปล่อยตัวตนออกมาทั้งหมดให้มันพร่างพรายอยู่ในตัวของพระจันทร์...ถึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่บ้ามาก แต่ใจลึกๆก็เคยมีแอบคิด ว่าถ้าเชื้อของเขาตัวใดตัวหนึ่งสามารถสร้างลูกทาผูกพันธ์พระจันทร์เอาไว้กับตัวเองได้ก็คงจะดีไม่น้อย...

“อ่า...พี่...พี่อยากให้จันทร์รับของพี่ไปทั้งหมด...ไม่แน่นะ ในนี้...สักวัน...อาจจะมีลูกของพี่ฝังอยู่ก็ได้...ฮ่า...”

   และทันทีที่สิ้นเสียงคำพูดนั้น ร่างกายพระจันทร์ก็กระตุกหงึก พร้อมกับของเหลวในร่างกายตัวเองที่พวยพุ่งออกมาภายนอก...และสติที่ดับลงไปพร้อมคำพูดสุดท้ายที่ดังก้องอยู่ในหัว...

   ...ในนี้...สักวัน...อาจจะมีลูกของพี่ฝังอยู่ก็ได้...

   ...ลูก...

   ...ไม่จริง...

---------------------------------------------

ลงครบจบสิ้นกระบวนความแล้วนะคะ :D  หลังจากนี้แพทจะลงตอนต่อไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับลงตอนที่มีการแก้ไขไปด้วยค่ะ แต่อาจลงไม่ได้ทีเดียวนะคะเพราะบางตอนไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาพวกอักษรเกิน แล้วตอนมันจะล้นไปหรือเปล่า :D

แต่ดีใจที่ได้กลับมาลงเรื่องนี้ต่อเหมือนเดิมแล้วค่าาาาา ฮุฮิ  :katai2-1: :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2014 19:00:15 โดย dek-zaal3 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aoaer

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
รอต่อไปอีกนิดนึง  เดี๋ยวคนแต่งคงมาต่อ

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
คุณพระตาฝาดเหรอ

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
พระจันทร์มาแล้วววว :heaven :heaven

ออฟไลน์ Moonwish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
กลับมาแล้ว เย้ๆ
ตอนนี้นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น อยากรู้คู่ของมังกรกับเหวินจิ้งด้วย
ว่าหลังจากนั้นจะเป็นยังไง

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
กริ๊ดดดดดดดดดดดด ตาไม่ฝาดได้อ่านต่อแล้ววววววววว

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
กรีี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด



ว่าแต่เค้าได้กันตอนไหนจำไม่ได้

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ยินดีต้อนรับการกลับมาค่าาาาาาาาา


ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
นึกว่าตาฝาดดด !!!! :ling1:
แอบติดใจตรงที่หมอบอกว่าถ้าบอกพี่ยะพี่ยะคงดีใจ...??

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
กลับมาแล้วใช่มั้ยจะไม่หายไปอีกแล้วแน่ใช่มั้ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด