“เหี้ยเอ้ย...!! ไอ้แก่นั่นมันขี้โกง...มันเอารถแข่งจริงมาขับนี่หว่า !!!” เหวินจิ้งกระแทกมือกับพวงมาลัยรถอย่างแรงระหว่างที่พาตัวรถพุ่งโลดทะยานผ่านคู่แข่งคนอื่นๆจนกระทั่งสามารถเป็นผู้นำได้สำเร็จ
อี้หลินมองผ่านกระจกหลังไปที่ม้าสีแดงเพลิงที่วิ่งกระโจนผ่านรถคันอื่นๆขึ้นมาเรื่อยๆแบบไม่มีการเสียจังหวะช้าลงเลยซักนิด... หล่อนเองก็แทบไม่เชื่อสายตาเช่นกันเมื่อจู่ๆรถที่ใครๆก็มองเศษเหล็กในการแข่งขันครั้งนี้จะพลิกฝ่ามือกลับกลายมาเป็นม้ามืดที่พุ่งทะยานทำลายคู่ต่อสู้ไปทีละคันๆแบบนี้... เพราะเพียงเริ่มการแข่งไปได้ไม่ถึงห้านาทีดี รถคันดังกล่าวก็มาจ่อท้ายรถของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว...
เหวินจิ้งระงับโทสะไม่อยู่ จึงเปิดกระจกแล้วยื่นมือออกไปนอกรถพร้อมนิ้วกลางนิ้วเดียว... และในทันทีที่อีกคันเห็นเป็นเช่นนั้นมันก็ขับตีคู่ขึ้นมาทันทีอย่างง่ายดาย...
อี้หลินมองผ่านกระจกที่เปิดค้างไว้ทางฝั่งเหวินจิ้ง หล่อนเห็นกระจกรถสีแดงเพลิงค่อยๆเลื่อนกระจกลง มันเป็นฝั่งของคนนั่งข้างคนขับ เส้นผมสีดำที่ล้อมกรอบใบหน้าหวานซึ้งน่ารักของลูน่าปลิวพัดไปตามลม หล่อนมองไม่เห็นใบหน้าเพราะเด็กคนนั้นกำลังนั่งก้มหน้าไม่ยอมเงยขึ้นมาเลย... ในขณะที่คนขับซึ่งนั่งเคียงกันกลับยกมือที่สอดประสานกุมไว้กับคนตัวเล็กโชว์ขึ้นมาให้ดู ก่อนจะเอามาจูบที่หลังมือคนตัวเล็กเบาๆ... ท่ามกลางความตะลึงงันของทั้งหล่อนและเหวินจิ้ง ม้าแข่งสีแดงเพลิงก็พุ่งทะยานแซงพวกเขาไป พร้อมตัวรถที่ถูกดริฟท์เข้าโค้งไปอย่างมืออาชีพ...
“เห้ย!!! ด่านตำรวจ!!!” เหวินจิ้งตะโกนขึ้นมาคับรถเมื่อตัวเองเลี้ยวเข้าโค้งสุดท้ายไปแล้ว
“อาจิ้ง!! เราเลี้ยวรถกลับไม่ได้...ชนแน่ๆ...”
“ช่วยไม่ได้...คงต้องฝ่ามันไปเหมือนไอ้เฟอร์รารี่คันนั้น...
เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!” เหวินจิ้งกระแทกเท้าเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน เมื่อจู่ๆเฟอร์รารี่สีแดงเพลิงที่เขาเห็นทีท่าว่าคงจะตัดสินใจฝ่าด่านตำรวจในอีกไม่ถึงร้อยเมตรนั่นแน่ๆ กลับตีโค้งดริฟท์แบบเป็นวงกลมโดนัท 360 องศา แล้วหันหัวรถมาทางเขาแทน...
เสียงเบรกเอี๊ยดอ๊าดดังลั่นถนนทันทีเมื่อผู้เข้าแข่งขันรายอื่นเลี้ยวพ้นโค้งมาแล้วมองเห็นว่ามีด่านตำรวจตั้งปิดถนนอยู่ด้านหน้า พร้อมเฟอร์รารี่สีแดงที่สาดไฟสูงจอดนิ่งสนิทอยู่กลางถนนเป็นเส้นตรง คล่อมเส้นคั่นเลนส์สีเหลืองพอดีเป๊ะ...
“อาจิ้งข้างหลัง!! รถตำรวจมาจากไหนไม่รู้ ขับมาล้อมพวกเราไว้หมดแล้ว!!! เราถอยไม่ได้นะอาจิ้ง...” อี้หลินเอ่ยบอกคนขับเมื่อเธอเห็นฝ่ามือใหญ่เลื่อนกระปุกเกียร์เตรียมถอยหลังกลับ
“ไอ้เหี้ยนั่นมันเป็นสายตำรวจแน่!!!” เหวินจิ้งเอ่ยอาฆาตก่อนจะตามด้วยถ้อยคำสบถออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดยาวเหยียด ตอนนี้ในใจนั้นเดือดปุดๆที่โง่จนต้องมาจนมุมถึงขนาดนี้ อยากจะเหยียบคันเร่งให้มิดแล้วเหยียบพวกมันให้เละติดล้อไปทั้งไอ้แก่นั่นและพวกตำรวจบ้าที่เหวี่ยงแหจับพวกเขาได้ยกแก๊งค์ขนาดนี้ ...แต่ว่าเพราะคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อ ว่าถึงเขาจะเกเรแค่ไหน...แต่พ่อเขาขอไว้ว่าอย่าให้ถึงขั้นต้องฆ่าคน... ถ้าไม่อย่างนั้นน่ะนะ ไอ้แก่นั่นคงไม่ได้ไปยืนยิ้มจับมือกับไอ้ตำรวจหนุ่มหน้าอ่อนนั่นหรอก...
---------------------------------------- - --- -- -
“หยางหลง...ขอบใจมากนะเว้ยที่อุตส่าห์ช่วยต้อนเด็กพวกนั้นมาเข้ากรงกันเรียบร้อย...” ภาษาจีนกลางของนายตำรวจคนหนึ่งในชุดเสื้อเกราะกันกระสุนเอ่ยบอกพลางเดินเข้าไปหาหนุ่มร่างสูง ที่ค่อยๆเดินลงมาจากรถเฟอร์รารี่สีแดงเพลิงอย่างเท่ห์... ก่อนจะวนไปรับตุ๊กตาหน้ารถผิวขาวจั๊วะที่มองดูก็รู้ทันทีว่ายืนไม่ค่อยจะไหวเพราะขาสั่นมาก...
“เออ” สุริยะมณฑลตอบรับเพื่อนแกนๆ ก่อนจะชี้นิ้วโป้งไปที่รถตัวเอง... “แล้วรถฉันต้องจ่ายเท่าไหร่...”
“ไม่เป็นไรว่ะ...ถือว่ามาช่วยราชการ ไม่ต้องเสียค่าปรับ...” หลี่อี้มองเพื่อนที่เอามือลูบศีรษะเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยเบาๆอย่างเป็นห่วง ...เด็กคนนี้สินะน้องชายคนใหม่ที่ว่าเพิ่งไปรับเอามาเลี้ยงเมื่อสองปีที่แล้ว... “นี่ใช่มั้ย...หยางเฟิ่ง ของนายที่เขาลือกัน หงษ์สุริยา ที่อยู่คู่กับ มังกรสุริยันของนาย...”
“หลี่อี้...นายพูดมากไปแล้ว... นี่ลูน่า น้องชายฉัน...” สุริยะมณฑลแนะนำคนตัวเล็กให้เพื่อนแบบส่งๆ แต่หลี่อี้นายตำรวจร่า
บึ้กกลับเดินเข้ามาใกล้พระจันทร์ ที่ก็หลบเข้าหลังเขาทันทีก่อนจะถอดหมวกตำรวจออกแล้วยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
“สวัสดีครับ...น้องลูน่า เรียกพี่อี้ก็ได้นะ...วันหลังมีอะไรก็บอกพี่ได้ พี่เป็นตำรวจที่รักในสันติ...ไม่ต้องกลัวพี่ขนาดนั้นก็ได้นะครับน้องลูน่า...”
“อย่าจับ...ดูแต่ตา มืออย่าต้อง...” สุริยะมณฑลเตือนเพื่อนนิ่มๆเมื่อมือใหญ่ยาวยื่นเข้ามาเตรียมคว้ามือของคนตัวเล็กไปจับ
“แหม...หวงจริงนะ น้องหรือเมียว่ะเนี่ย...” หลี่อี้แซวเพื่อนอย่างสนุกปาก แต่อีกคนมีท่าทางไม่ขำไปกับเขาด้วย... สายตาคมของเพื่อนตวัดมองไปทางด้านหลัง ที่หัวหน้าแก๊งค์ลูกชายผู้มีอิทธิพลกำลังถูกนายตำรวจสามนายเข้าจับกุมแล้วลากตัวมา เด็กคนนั้นส่งเสียงร้องโหวกเหวกโวยวายด่าทอไปทั่ว... แต่ทว่าคำพูดที่ได้ยินมันก็ช่างแปลกๆนัก จนเมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นถูกลากเข้ามาใกล้พวกเขา หลี่อี้จึงได้ยินคำด่าชัดๆเต็มสองรูหูว่า...
“...ไอ้สายสืบสกปรก! ไอ้สายตำรวจเฮงซวย!!...มึงจำไว้นะไอ้สัตว์นรก...กูไม่เอามึงไว้แน่!!! กูจะให้พ่อกูเล่นงานมึงให้ได้เลยคอยดู...!!!”
เสียงด่าสาดเสียเทเสียใส่สุริยะมณฑลเหมือนกลายเป็นอากาศธาตุ เมื่ออีกคนเพียงปรายตามองด้วยท่าทีเย่อหยิ่งแบบพี่ยะที่พระจันทร์มักจะเห็นอยู่บ่อยๆเวลาอยู่หน้าคู่ค้าคนอื่นๆ... พระจันทร์เกือบแล้วที่จะเปิดปากบอกผู้ชายที่มาด่าพี่ยะว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สายตำรวจ...แต่ว่าเป็นเจ้าถิ่นต่างหาก...ทว่าก็ไม่ทันเมื่อนายตำรวจที่ถูกพี่ยะเอ่ยบอกว่าชื่อหลี่อี้เมื่อครู่กลับหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วเอ่ยแก้ให้แทน
“ฮ่าๆ เด็กน้อย...ได้แข่งกับนักแข่งในตำนานแล้วยังไม่รู้ตัวอีก... นี่น่ะ คือหยางหลง...มังกรสุริยัน...ผู้เป็นเจ้าของบริษัทตระกูลหยางสองฝากถนนที่พวกนายเอามาใช้ทำสนามแข่งนี่ไง...ฮ่าๆ...นี่ดูไม่ออกจริงเหรอ”
หลี่อี้มองใบหน้าอึ้งตะลึงงันของเด็กหนุ่มที่มองเพื่อนเขาด้วยสายตาเบิกกว้างเท่าที่ตาตี่ๆนั่นจะทำได้แล้วมันน่าขำชะมัด...เด็กน้อยเอ๊ย เล่นกับไฟอยู่นี่ไม่รู้ตัวเลยรึไง...
“หยาง...หลง... นักแข่งในตำนาน... จริงๆงั้นเหรอเนี่ย...!!” เหวินจิ้งหลุดปากออกมาตามที่ใจคิด ผลที่ได้ก็คือสุริยะมณฑลที่เดินเข้าไปหา ก่อนจะก้มมองลงมาอย่างคนที่เหนือกว่าในทุกด้าน... คนที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวและมีอำนาจอยู่เต็มมือ... คนที่ช่างดูสูงเหลือเกินเมื่อเทียบกับตัวเขาในตอนนี้...
“ถึงจะปากเสียไปหน่อย...แต่วิธีขับก็ไม่เลว ไม่ตัดสินใจพุ่งรถเข้ามาฆ่าพวกตำรวจ...ก็ต้องถือว่าเธอยังมีสำนึกที่ดีอยู่บ้าง... เอาเป็นว่าคราวหน้าถ้าอยากแก้มือแล้วก็แข่งกันจริงๆจังๆเมื่อไหร่...ให้ติดต่อมาที่บริษัทของฉัน...แล้วฉันจะสั่งปิดสนามแข่งรถจริงๆให้... คนที่มีความสามารถอย่างเธอ ถ้าได้เอาไปใช้อย่างถูกที่ถูกทาง...มันก็คงจะดีมากกว่าที่จะต้องมาโดนพวกชาวบ้านเขาแช่งด่ากันถึงพ่อแม่เธอทุกวันแบบนี้...” สุริยะมณฑลพูดจาคล้ายต้องการกล่าวตักเตือน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะทะลุเข้าไปในเนื้อสมองให้อีกคนจดจำเอาไว้ได้บ้างรึเปล่า เพราะเขาไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรกลับมา นอกจากสายตาที่เบิ่งโตมองเขาไปจนสุดกระทั่งถูกพาเข้ารถตำรวจไปพร้อมลูกน้องในแก๊งค์คนอื่นๆ
“เฮ้อ...ถ้าไม่เอามังกรมาสยบ...ไอ้ลูกจิ้งจอกพวกนี้คงไม่ยอมสยบแล้วก็ศิโรราบกับพวกเราแน่ๆ หลังจากนี้พวกมันคงหายกันไปพักใหญ่ เพราะรู้แล้วเจ้าถิ่นที่นี่น่ะโหดจริง...ใช่มั้ยครับน้องลูน่า...” หลี่อี้ยังมีท่าทีมากะลิ้มกะเหลี่ยใส่พระจันทร์ของเขาอย่างออกนอกหน้าต่อไป... สุริยมณฑลจึงตัดสินใจดึงพระจันทร์ให้หันหน้าเข้าอกแล้วกอดเอาไว้แน่นๆ ก่อนจะเพ่งสายตามองเพื่อนแสดงรัศมีความหวงแผ่ซ่านแบบไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น
“โหย...ไอ้บ้า ถามจริงนะเพื่อน นี่แกกำลังทำตัวเป็นพี่...หรือทำตัวเป็นพ่อน้องเขากันแน่ว่ะ... หวงเสียอย่างกับตัวเองเป็นผัวน้องเขาอย่างนั้นล่ะ...”
“จะพี่หรือจะผัวก็ไม่ให้ยุ่งเว้ย...ของฉัน ต้องพากลับไปส่งให้ผู้ปกครองที่บ้านเขากล่อมนอนแล้วด้วย เพราะงั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นฉันไปก่อนนะ... หวังว่าที่สัญญากันจะเปิดช่องให้ฉันเก็บที่ดินบนเกาลูนผืนนั้นจะไม่บิดพลิ้ว...” สุริยะมณฑลยังไม่วายตบท้ายด้วยเรื่องงาน ก่อนจะหมุนตัวเดินพาพระจันทร์กลับไปส่งขึ้นรถ... แล้วกลับมาชี้หน้าใส่เพื่อนเมื่อเจ้าตำรวจตัวดียังพยายามโบกไม้โบกมือแย้มยิ้มให้กับพระจันทร์ของเขาไม่เลิก...
ฝ่ายหลี่อี้ยังคงมองตามรถเฟอร์รารี่ของเพื่อนที่กลับรถมาสาดไฟสูงใส่เขาอีกสามทีติดแล้วขับจากไปด้วยความขำ... เออเว้ย ที่เขาลือกันว่ามังกรกำลังฟักไข่นี่มันเรื่องจริงเหรอวะเนี่ย...นี่เพื่อนเขาดันไปเก็บไข่หงส์มาฟักแล้วเตรียมเอาขึ้นแท่นพญาหงษ์เคียงคู่บัลลังก์มังกรจริงๆใช่มั้ยเนี่ย...
แล้วก็มาเคยหาว่าเขาชอบเลี้ยงต้อย...แล้วเป็นยังไง...ตอนนี้ตัวเองก็มากินเด็กพอกันแหละว้า... หลี่อี้คิดในใจพลางส่ายหน้าปลงๆในความปากแข็งของเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยมฯ เมื่อก่อนเป็นยังไง...เดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิมเป๊ะเลยนะ...ไอ้มังกรสุริยันโลลิค่อนเอ๊ย ฮ่าๆ...
---------------------------------------- - --- -- -
to be continue...
ชื่อจีน...ชื่อจีนเต็มไปหมดเบยยยยยยยย

(วิบัติเพื่อความรื่นรมย์จ่ะ)
ตอนนี้แพทเปิดเรียนแล้ววววว...อาจมาไม่ได้บ่อยอย่างที่บอกไว้...แต่จะมาเรื่อยๆแบบนี้แหละนะจ๊ะ

สุดท้ายจะพูดคุย ติ ชมก็เชิญที่เดิมจ้าาาาา... >>
จิ้มจ่ะ ^^<<
ไปแว้ววว...ง่วงนอนแว้ววว...ม่ายหวายเลี้ยววววว...

ราตรีสวัสดิ์ จุ๊บุ