พระจันทร์ค่อยๆสอดตัวเองลงใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับชิวชิว เจ้าลูกหมาน้อยนอนหายใจจนท้องกลมๆกระเพื่อมอยู่ในตะกร้าเรียบร้อยแล้ว...ส่วนชิวชิวก็นอนหลับตา พ่นลมหายใจอุ่นๆออกมาใส่ตะกร้าอย่างสม่ำเสมอ...ส่วนพระจันทร์ทั้งที่พยายามนับแกะก็แล้ว ข่มตาให้หลับก็แล้ว...เอาหนังสือเรียนมาอ่านก็แล้ว...มันก็ไม่ยักกะง่วงเลยซักนิด
...ก็จะให้หลับลงได้ยังไง...ในเมื่อคำว่า ‘คนอื่น’ มันคอยแต่จะวนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมไปไหนอยู่แบบนี้...
ยิ่งคิดถึงสิ่งที่พี่ยะพูดแล้วก็ทำต่อกันไปวันนี้...มันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของพระจันทร์...
...ว่าจริงๆแล้วบ้านนี้เขามันก็แค่คนอาศัย ไม่มีอะไรเลยซักอย่างที่เป็นของเขา...
...ที่ผ่านมาเขาคงจะลืมตัวมากไป...เพราะมัวแต่หลับหูหลับตาดีใจกับอิสรภาพภายในกรงที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้...
...จนลืมคิดไปว่า...แท้จริงแล้วที่นี่...
...มันไม่มีที่สำหรับเขาให้มาตั้งแต่แรกแล้ว...
‘...พระอาทิตย์ดวงนั้นจะรู้มั้ยนะ...ว่าวันนี้แสงของมันได้ทำร้ายพระจันทร์ดวงนี้...จนแสบไปทั้งใจอีกแล้ว...’---------------------------------------- - --- -- -
วันนี้ทั้งวันงานที่บริษัทมันรุมสุมจนสุริยะมณฑลไม่มีโอกาสที่จะปลีกตัวไปไหนได้เลย อีกทั้งยังลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองได้ไปบังคับใครไว้ให้ทำอาหารรออยู่ที่บ้าน...เหตุเพราะการที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยจับแก๊งเด็กก่อกวนเมืองผู้มีแบ็คอัพใหญ่ๆทั้งหลายแหล่คราวนั้นนั่นล่ะ ที่ผลมันค่อยๆเริ่มปรากฎให้เห็นบ้างแล้วในตอนนี้ว่ามันส่งผลกระทบกับระบบงานของเขาจริงๆ แม้จะไม่มากนักแต่ด้วยนิสัยที่รักความสมบูรณ์แบบ ชายหนุ่มจึงยื่นมือเข้าไปเคลียร์ทุกอย่างด้วยตัวเอง...เริ่มตั้งแต่จัดการความวุ่นวายในคาสิโนหลายแห่ง โรงแรมและร้านอาหาร รวมไปทิ้งห้างสรรพสินค้าที่เขาเป็นหุ้นส่วนอยู่ก็ถูกก่อกวนขึ้นมาเล็กๆ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้มันลุกลามใหญ่โต เขาจึงได้จัดการตระเวณเดินทางไปทุกที่เพื่อสะสางเองทั้งหมด
และก็ยังดีที่งานบางส่วนเพื่อนตำรวจหนุ่มของเขาก็ยินดีที่จะยื่นมือช่วยเหลือเพื่อตอบแทนกัน โดยการช่วยเก็บกวาดพวกลูกกระจ๊อกไปได้หลายกลุ่ม ซึ่งนั่นทำให้งานเกี่ยวกับคาสิโนของเขาพอจะเบาบางลงไปได้บ้าง...แต่ที่เห็นจะหนักหน่อยก็ตรงงานเก็บอากรท่าเรือนี่แหละ เพราะคนที่โดนหางเลขไปด้วยไม่ใช่แค่คนของเขา แต่เป็นเหล่าลูกค้าผู้เสียอากรให้เขาต่างหาก...สุริยะมณฑลจึงต้องเดินทางไปพบลูกค้าเหล่านั้นด้วยตัวเอง เพิ่งจะว่างได้เอนหลังอยู่ตรงเบาะหลังรถยนต์ก็เมื่อเวลาล่วงเข้าหกโมงเย็นไปแล้วนั่นเอง...
“ฮัลโหล...ตี้เฉิน วันนี้พระจันทร์ทำอะไรบ้าง...ทำไมฉันไม่ได้รับข้อความรายงานจากนายเลย...เอ๊ะ ฮัลโหล” จู่ๆเขาก็รู้สึกเหมือนโทรศัพท์ของลูกน้องตัวเองโดนเปลี่ยนมือไป เสียงฮึดฮัดเหมือนปลายสายกำลังอารมณ์ไม่ดีลอดเข้ามา สุริยมณฑลจึงเดาคนรับสายใหม่ได้ไม่ยากว่าเขาคือคุณแม่บ้านใหญ่ของเขานั่นเอง “...ป้าแหม่มเองหรือครับ...คือจั...”
‘คุณยะ! ป้าโกรธคุณยะมาก!! มากๆด้วยค่ะ...วันนี้หาข้าวทานนอกบ้านไปเลยนะคะ ป้าไม่ให้คุณหนูของป้าทำอาหารให้คุณยะแล้ว ทำแล้วก็ไม่มากิน...โทรหาก็ไม่ติด จะโทรมาบอกซักนิดก็ไม่ได้ว่าจะไม่มา...ใจร้ายที่สุดเลยค่ะ!’ ปลายสายพ่นใส่เขามาชุดใหญ่ สุริยะมณฑลถึงกับต้องเลื่อนโทรศัพท์ห่างออกห่างจากหูมาเล็กน้อย เพื่อลดความระคายเคืองจากคำพูดปนอารมณ์โกรธขึ้งของคุณป้าแหม่ม พอเห็นว่าเสียงเงียบไปจึงได้เอามาแนบหูเหมือนเดิม...เขาก็พบว่าปลายสายชิงตัดสายเขาทิ้งไปแล้ว
ฝ่ายป้าแหม่มพอได้ด่าคุณหนูตัวโตของหล่อนจนพอใจแล้วก็กระแทกโทรศัพท์คืนให้พ่อบอดี้การ์ดตัวโตของคุณหนูพระจันทร์ หล่อนไม่สนว่าคนเป็นเจ้าของบ้านจะรีบติดต่อกลับมาแล้วพ่อบอดี้การ์ดนั่นจะตอบอะไรไปบ้าง...ตอนนี้ที่หล่อนสนมีเพียงความรู้สึกของคุณหนูพระจันทร์ของเธอเท่านั้น...
โถ...ดูสิ วันนี้อุตส่าห์รีบลงมาทำอาหารมื้อเช้าให้ตั้งแต่ยังมืด...โดนมีดบาดไปก็หลายแผล แต่คนสั่งให้ทำกลับแต่งตัวลงมาแล้วเดินออกจากบ้านไปเสียเฉยๆ จะปรายตามองหรือบอกอะไรกันบ้างก็ไม่มี...คุณหนูพระจันทร์ของเธอก็ได้แต่นั่งทานข้าวเช้าคนเดียวหงอยๆ ทานไปได้นิดหน่อยก็ต้องวาง ยกกับข้าวไปเก็บแบบซึมๆ...พอมามื้อเที่ยงก็อีก คุณหนูพระจันทร์อุตส่าห์ปอกเงาะ เลาะเมล็ดไปแช่ตู้เย็นให้ฉ่ำๆไว้ให้จนนิ้วแดง กับข้าวก็เลือกทำให้แต่ของโปรดพี่ยะของเธอทั้งนั้น...ฝ่ายนั้นก็ช่างกระไร จะไม่กลับมากินข้าวที่บ้านก็ไม่มีโทรมาบอก...คนของเราติดต่อไปก็ได้แต่บริการรับฝากข้อความ พอโทรหาทั้งซานตงและเหยียนจวิ้นก็ไม่ติดกันทั้งคู่...ไม่รู้มีธุระอะไรนักหนา ปล่อยให้คนของหล่อนต้องยอมสละกับข้าวที่ตัวเองอุตส่าห์ทำลงถังขยะทั้งน้ำตาเป็นรอบที่สอง...
แต่คุณพระจันทร์เธอก็ยังไม่เข็ด...ช่างเชื่อฟังคำพี่เสียเหลือเกิน ตั้งใจจะลงมือทำข้าวเย็นไว้รอทั้งที่ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นหมันรอบที่สามรึเปล่า...หล่อนทนไม่ได้เพราะนิ้วคุณหนูของเธอนั้นทั้งช้ำทั้งบวมเต็มไปด้วยรอยมีดหมดแล้ว เธอจึงบังคับให้คุณหนูเลิกทำแล้วหลอกล่อให้ไปนั่งวาดรูปอ่านหนังสืออยู่ในสวนนอกบ้านพร้อมชิวชิว ซิมบ้าและเจ้าหมาน้อยตาบอดเสีย...ขืนปล่อยให้ทนอุดอู้อยู่แต่ในบ้านเห็นทีจะไม่ค่อยดีนัก...
หลังจากนั้นราวๆสองทุ่มกว่าๆรถยนต์ยี่ห้อหรูที่ไว้ใช้เวลาทำงานทั่วไปของสุริยะมณฑลก็กลับมาจอดเทียบอยู่หน้าบ้าน...คุณแม่บ้านแสดงอาการปั้นปึ่งใส่ลูกชายเจ้านายแบบไม่กลัวเกรงเพราะเลี้ยงมาเองกับมือ และสุริยะมณฑลก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากออกปากถามหาพระจันทร์ก่อนเป็นอันดับแรก ยังไม่ทันที่คุณป้าแหม่มจะได้ตอบแทนคุณหนูตัวน้อยว่า ‘ยังสนใจกันด้วยเหรอ’ ตามที่นึกอยาก...ร่างผอมๆขาวๆของพระจันทร์ก็เดินกลับเข้ามาพร้อมเฟรมวาดรูปหนึ่งอันและกระดาษม้วนหนึ่งแผ่น โดยมีซิมบ้าใช้ปากคาบตะกร้าพู่กันและดินสอสีตามมา ตบท้ายด้วยชิวชิวที่ใช้ปากคาบลูกสุนัขตาบอดมาด้วยอีกตัว...
“จันทร์...คือวันนี้พี่ยุ่งมาก เลยไม่ได้โทรมาบอก...ขอ...”
“ไม่เป็นไรครับ...แล้วพี่ทานอะไรมารึยัง” เขาออกปากถามตามความเคยชิน แม้ว่าท่าทีและคำพูดจะยังเหมือนเดิม แต่สุริยมณฑลก็รู้สึกแปลกๆว่าแววตาที่มองกันมันดูไม่อบอุ่นเหมือนเคย...เหมือนพระจันทร์ทำไปเพราะหน้าที่หรือถูกบังคับเสียมากกว่า...และเขาก็ไม่ชอบมันเลยซักนิด
“ยังเลย...ไปทำอะไรให้กินหน่อยสิ...” ได้ทีเขาก็รีบบอก ถอดเสื้อนอกยื่นให้อีกคนแล้วยิ้มให้บางๆ ทว่า...จู่ๆคุณป้าแหม่มที่ยืนอยู่ตรงกลางก็ยื่นมือมาขวางแล้วดันหลังพระจันทร์ให้ออกเดินไปทางบันได้ขึ้นชั้นบนแล้วบอก
“ไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนได้แล้วค่ะ...จะสามทุ่มแล้วนอนดึกไม่ดีนะคะคุณหนู ส่วนใครที่หิวก็ให้เขาหาอะไรกินเอง...ทีตอนคนอื่นทำไว้ให้ล่ะไม่มากิน แบบนี้ต้องปล่อยอดเสียให้เข็ด...” ป้าแหม่มพูดประชดประชันคุณหนูตัวโตแล้วมองค้อนราวตัวเองเป็นคุณหนูพระจันทร์เสียเองอย่างนั้น
พระจันทร์ออกปากคัดค้านแต่ก็ทนแรงยุของป้าแหม่มไม่ไหว...ต้องยอมเดินขึ้นบันไดไปอาบน้ำแต่งตัวชุดนอนแต่โดยดี...เมื่อเสร็จก็ทิ้งภาระดูแลเจ้าหมาน้อยให้เป็นของสองหนุ่มหน้าขนตัวใหญ่ที่ตอนนี้เริ่มชินกับลูกหมาตัวเล็กๆแล้ว เพื่อที่ตัวเองจะได้มีโอกาสแว่บลงมาข้างล่างอีกครั้ง เพื่อพบว่าใครอีกคนกำลังกดน้ำร้อนลงใส่ถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยใหญ่ ทั้งๆที่ชุดทำงานก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเลยด้วยซ้ำ...เฮ้อ ดูท่าคงจะโดนป้าแหม่มเมินเข้าให้จริงๆ ถึงได้ไม่ยอมทำอะไรให้เจ้าของบ้านเขากินเลยแบบนี้
“เดี๋ยวจันทร์ผัดผักกับทอดไข่เจียวเพิ่มให้นะ...ปลาตัวเล็กยังมีอยู่ในกระปุก พี่ยะจะเอาเพิ่มด้วยมั้ย” พูดพลางคนตัวเล็กก็เดินเข้ามาในครัวแล้วตรงไปที่ตู้เก็บอาหารกระป๋อง เอื้อมหยิบกระปุกปลาตัวเล็กของโปรดอีกคนออกมาวาง แล้ววนไปที่ตู้เย็นเพื่อค้นหาผักและไข่มาทอดให้เป็นอย่างต่อไป...
“...” สุริยะมณฑลไม่ตอบอะไร แต่ก็เดินถือถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปนั่งรอที่โต๊ะกับข้าวกลางห้องครัว สายตาคมจ้องมองคนที่เมื่อก่อนแม้แต่ไข่อยู่ไหนก็ยังไม่รู้ เริ่มลงมือหยิบโน่นหั่นนี่ ท่าทางคล่องแคล่วชำนาญขึ้นเยอะ...พระจันทร์เป็นเด็กหัวไว และความจำดีเลิศข้อนี้เขารู้ดี...แต่เพิ่งมาประจักษ์ว่าคนตัวเล็กคงจะเป็นเด็กเรียนง่ายจริงๆก็คราวนี้เอง
อะไรที่ชอบ...พระจันทร์ไม่เคยที่จะลืม...แต่อะไรที่ไม่ชอบ...พระจันทร์ก็ไม่เคยที่จะใส่ใจ... มันจึงทำให้หลายครั้งวิชาที่พระจันทร์ไม่ชอบเรียนจะคอยฉุดรั้งคะแนนเจ้าตัวให้ลดต่ำ แต่ในขณะเดียวกัน วิชาที่เจ้าตัวชอบอย่างศิลปะ กลับมีผลงานออกแกลอรี่ตั้งแต่ม.ห้า หรือวิชาคณิตศาสตร์ เจ้าตัวก็ชนะเลิศรางวัลเหรียญทองในการแข่งขันคณิตศาสตร์มาตอนม.หกให้เป็นที่ประจักษ์กันไปแล้ว
ชายหนุ่มจ้องร่างบางๆในชุดเสื้อนอนกับกางเกงผ้าฝ้ายเงียบๆ เขาเงียบ พระจันทร์ก็เงียบ...เมื่อรู้สึกอยากทำลายบรรยากาศอึมครึมที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างกัน สุริยะมณฑลถึงได้ยอมเอ่ยปากออกมาก่อนในระหว่างที่อีกคนกำลังเทน้ำมันหอยลงไปผัดกับผักที่อยู่ในกะทะนั่นดังฉู่ฉ่าว่า...
“จันทร์โกรธพี่เหรอ”
“เปล่า” และอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ราวคิดคำนวณคำตอบเอาไว้ในใจนานแล้ว
“จันทร์โกรธพี่แน่ๆ ที่พี่ไม่โทรมาบอกวันนี้ใช่มั้ย...”
“ไม่ได้โกรธ...” พระจันทร์เอ่ยตอบ...ถึงปากจะบอกว่าไม่ได้โกรธ แต่ท่าทางมันก็ฟ้องอยู่ทนโท่...
“...วันนี้พี่ยุ่งมาก ต้องเดินทางไปหลายที่ ทั้งเขตเมืองใหม่ มาเก๊า...แล้วก็ต้องข้ามไปฝั่งเกาลูนอีก...งานพี่กำลังมีปัญหา เพราะมีการส่งคนเข้ามาแทรกแซง...พี่เลยต้องลงไปแก้ด้วยตัวเอง...”
“...เป็นเพราะเรื่องที่...เราไปช่วยพวกตำรวจจับรถแข่งวันนั้นรึเปล่าครับ” น้ำเสียงพระจันทร์อ่อนลงเล็กน้อย เมื่อได้ยินอีกฝ่ายค่อยพูดอธิบายสาเหตุให้ฟังไม่ปิดบังกัน
“นั่นก็ส่วนหนึ่ง...แต่อีกส่วนก็มาจากเรื่องที่พี่ไปขัดผลประโยชน์เขาในการประมูลที่ดินที่กำลังจะมีขึ้นนั่นไง...”
“แล้วตอนนี้...เรียบร้อยดีมั้ยครับ หรือว่ายังมีปัญหาอยู่อีก...” พระจันทร์เริ่มอ่อนลงจนใกล้จะปกติแล้ว อยู่กันมาสองปีทำไมจะไม่รู้...เวลามีงานเข้า อีกคนจะลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง โหมงานหนักจนละเลยสุขภาพ ยกเวลาทั้งวันให้งานมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนครอบครัวและอื่นๆจะเป็นเรื่องรองถัดลงมา...และที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพราะอยากให้ครอบครัวสบาย ไม่ต้องมีปัญหาคาราคาซังให้ยุ่งยากหรือบานปลาย จนส่งผลให้หลายบริษัทต้องล้มเหมือนอย่างที่พระจันทร์เห็นตามข่าวอยู่ทุกวันนี้...
ผัดผักเสร็จมาหนึ่งอย่างภายในเวลาสั้นๆ และตอนนี้เขาก็กำลังมือเป็นระวิงกับการตีไข่เตรียมทำไข่เจียวอยู่...
“ก็ยังมีอยู่บ้าง...แต่พี่ไม่ไว้ใจให้ใครเข้ามาเคลียร์แทน พรุ่งนี้พี่ก็คงจะยังยุ่งๆอยู่อีกซักวัน จันทร์ก็ไม่ต้องทำอะไรเผื่อพี่นะ...” สุริยะมณฑลใช้ตะเกียบกวนๆบะหมี่ในถ้วยให้เข้ากัน แล้วเริ่มคีบผักมาแกล้มกินกับบะหมี่บ้างแล้ว...เพราะที่บอกไปว่าวันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยนั้นคือเรื่องจริง...ตอนนี้เขาเลยหิวไส้กิ่วจนแทบขาดเลยทีเดียว...
“แต่พี่ก็ควรจะทานข้าวเช้า...งั้นพรุ่งนี้จันทร์ปิ้งขนมปังกับชงกาแฟไว้รอตอนเจ็ดโมงครึ่งนะครับ พี่ยะจะได้ทานเร็วๆแล้วออกไปทำงานเลย...” ระหว่างที่พูดมือขาวๆก็ช้อนไข่เจียวหอมกรุ่นลงวางเคียงผัดผัก ไม่ต้องใช้สองจาน แต่ใส่รวมไปเลยง่ายๆแบบนี้แหละ...เพราะสุดท้ายมันก็ต้องถูกกินรวมพร้อมกันไปอยู่ดี
“...ก็ได้...แต่เปลี่ยนเวลาเป็นเจ็ดโมงแล้วกัน จันทร์ตื่นไหวมั้ย...” คนพูดถาม ก่อนจะคีบไข่เจียวพร้อมผักเข้าปาก...ไม่รู้ว่าพระจันทร์ฝีมือดีขึ้นมากหรือว่าเขาหิวมากกันแน่...อาหารง่ายๆทั้งสองอย่างนี้ถึงได้มีรสชาดอร่อยจนเขาหยุดกินไม่ได้เลยทีเดียว...
“ไม่มีปัญหา จันทร์จะทำให้เสร็จตรงตามเวลาเลยครับ...” เด็กหนุ่มบอก หยิบกะทะและถ้วยตีไข่ไปล้างน้ำพอให้หมดคราบใหญ่ๆไปก่อน แล้วค่อยเปิดประตูเครื่องล้างจานอัตโนมัติใต้ซิงค์น้ำออก จัดวางกะทะและถ้วยไม่ให้ซ้อนกัน รอพี่ยะกินเสร็จก็เอาจานอีกใบมาวางแล้วจะได้กดล้างไปทีเดียว...
“...ผัดผักกับไข่เจียวอร่อยดีนี่ จำสูตรนี้ไว้นะ...พี่ชอบ” สุริยะมณฑลเอ่ยบอกแบบไม่คิดอะไร...โดยที่ไม่รู้เลยว่าไอคำว่า ‘ชอบ’ ของตัวเองที่ออกจากปากไปทำให้อีกคนนั้นดีใจแค่ไหน...
“จะ...จะจำได้ไงล่ะ จันทร์ก็กะเอาเดามั่วทั้งนั้นแหละ...คราวหน้าไม่รู้จะแอบเผลอใส่น้ำตาลแทนเกลือรึปล่าเลย...”
“ถึงงั้นก็เถอะ...เอาแบบนี้อีกแหละนะพี่ว่าโอเคแล้ว ผัดผักนี่กำลังดีเลย ผักไม่เฉา...แล้วก็ไม่เค็มมากด้วย” สุริยะมณฑลชมน้อง...ซึ่งอีกคนก็เก็บอาการดีใจ แล้วหันไปแก้เขินทางอื่นด้วยการเก็บไข่ที่เหลือเข้าตู้เย็นแล้วก็ยืนวางเรียงไข่ใหม่ไปมา ราวกับมันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้เสร็จภายในคืนนี้
เสียงตะเกียบกระทบจานและเสียงซดน้ำซุปของอีกคนบ่งบอกให้รู้ว่าคงหิวมาก ไม่ก็อาหารของพระจันทร์คงถูกปากอย่างที่บอกจริงๆ พระจันทร์วางแก้วน้ำเย็นลงข้างๆจานใส่ผัดผัก แล้วเอ่ยเตือนอีกคนว่าให้ค่อยๆกินก็ได้เดี๋ยวจะสำลัก ซึ่งคนตัวสูงก็เงยหน้ามายิ้มรับคำเตือนไม่ได้ตอบอะไร...แต่พระจันทร์ก็รับรู้ ว่าอีกคนเข้าใจในคำเตือนว่าเขาหวังดีและเป็นห่วง ไม่ได้ละเลยคำพูดธรรมดาๆแบบนี้ของพระจันทร์ซักนิด
บรรยากาศเงียบๆ ในห้องครัวที่ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ กับข้าวธรรมดา แต่แค่มีใบหน้าหวานๆขาวๆของอีกคนมาให้นั่งมองไปทานไป แว่บหนึ่งที่สุริยะมณฑลเผลอคิดขึ้นมาว่า...เพียงแค่นี้ ชีวิตเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว...
ความอึดอัดก่อนหน้าที่มีระหว่างกันมันค่อยๆเลือนหายไปพร้อมกับเส้นบะหมี่ที่อยู่ในถ้วย...สุริยะมณฑลกวาดเรียบทั้งผัดผักในจานและไข่เจียว ก่อนจะชมเปาะอีกครั้งให้คนทำตัวลอยเล่นๆ เขาอยู่รอพระจันทร์เก็บจานไปล้างในเครื่องล้างจานอัตโนมัติ เสร็จแล้วก็ช่วยเก็บกวาดและเช็ดโต๊ะกินข้าวเอง ไม่ให้เหลือเป็นภาระใคร...ซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่ทำให้พระจันทร์ยอมรับว่าเป็นจุดดีเด่นของคนตัวสูง ที่ถึงแม้จะปากร้าย ขี้แกล้ง แต่ก็ไม่เคยโยนเรื่องส่วนตัวให้เป็นภาระลูกน้อง...ทั้งๆที่เรื่องแบบนี้รอให้พรุ่งนี้เช้าพวกแม่บ้านเขาตื่นมาจัดการเอาเองก็ได้ เพราะพี่ยะนั้นอยู่ในฐานะนายจ้าง ที่จ้างพวกเขามาคอยจัดการกับเรื่องแบบนี้เองอยู่แล้ว เพราะงั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องทำเองเลยซักนิด
ใครจะไปเชื่อ...ว่าคุณสุริยะมณฑลผู้ยิ่งใหญ่ กิจการเป็นร้อย ลูกน้องเป็นพันจะลงมือเช็ดโต๊ะกินข้าวที่ตัวเองทานด้วยตัวเอง เก็บกวาดเศษขยะแล้วยังผูกถุงดำในถังขยะเก่าปิดปากเรียบร้อยตั้งรอไว้ให้แม่บ้านเอาไปทิ้งให้พรุ่งนี้เช้า พร้อมกับเปลี่ยนถุงดำใหม่ลงถังขยะ พับขอบเรียบร้อย ทำแทนแม่บ้านของตัวเองเสร็จสรรพไม่มีเกี่ยงงอน...
เพราะพระจันทร์ได้รู้เบื้องหลัง ได้รู้ตัวตนที่แท้จริงๆของคนๆนี้...เขาเป็นคนดี ที่ถึงจะบ้างานไปหน่อยแต่ก็ใช่ว่าจะเลวร้าย...อารมณ์น้อยใจ เสียใจเมื่อตอนกลางวันเลยโดนความดีเล็กๆของคนคนนี้เป่าทิ้งเป็นที่เรียบร้อย กลายเป็นว่าพระจันทร์ก็ไม่สามารถงอนเขาได้ข้ามวันจริงๆอย่างที่คุณป้าแหม่มเคยปรามาสเอาไว้อีกแล้ว...เฮ้อ
“เป็นอะไร...ถ้าเหนื่อยมากนักก็ไปนอนได้แล้ว ขอบคุณสำหรับผัดผักกับไข่เจียวนะ...” สุริยะมณฑลเอ่ยบอกอีกคนตรงหน้าห้องครัว พระจันทร์ยิ้มรับคำชมด้วยความดีใจ นัยน์ตากลมโตดุจลูกกวางตัวน้อยจ้องคนชมอย่างมีความหวังว่าอาจได้คำชมเพิ่ม อีกคนเลยอดไม่ไหวที่จะยกฝ่ามือใหญ่มายีศีรษะทุยเสียสองทีพร้อมบอก “พรุ่งนี้ถ้าตื่นไม่ไหวก็ไม่เป็นไรหรอก...เดี๋ยวพี่ค่อยให้อาตงหาซื้อโจ๊กแถวบริษัทมาให้ก็ได้ สัญญา...ว่าจะไม่อดข้าวเช้าแน่ๆ”
“...จันทร์บอกว่าจะทำก็ต้องทำสิ...เคยผิดสัญญาที่ไหน พี่ไม่เคยผิดสัญญากับจันทร์...จันทร์ก็จะไม่คิดจะผิดสัญญากับพี่หรอกนะ...แฟร์มั้ย”
“ก็...แฟร์ดี แต่ดีให้ตลอดแล้วกัน ไอ้ตัวเปี๊ยก...” ท้ายเสียงคนพูดเย้าแกมหยอก และก็ได้ผลเพราะอีกคนหน้าหุบลงมาทันควัน
“นั่นมันชื่อเจ้าหมาน้อยของจันทร์นะพี่ยะ...!” พระจันทร์ว่าเสียงงอนๆไม่จริงจังนัก แต่สุริยะมณฑลกลับเบิ่งตาโตแล้วถามกลับ
“สรุปจันทร์ให้มันชื่ออะไรนะ”
“...ชื่อไอ้ตัวเปี๊ยก...ก็เดี๋ยวนี้พอได้ยินเสียงเรียกเปี๊ยกๆมันก็หันทุกทีนี่นา ผิดที่พี่ยะแหละ...ชอบพูดกรอกหูมันว่าตัวเปี๊ยกๆ มันเลยจำเลยเห็นมั้ย”
“เอ้า...ผิดอีก ก็มันตัวเปี๊ยกจริงๆนี่...หรือจะให้ชื่อใหญ่เบิ่ม? ตัวเท่าฝ่ามือก็เลือกชื่อได้ตรงดีแล้วนี่...ซิมบ้า ชิวชิว ตัวเปี๊ยก...เข้ากันดีแฮะ”
“เข้ากันดีบ้าอะไรล่ะ...พี่ยะอ่ะ!”
เสียงเง้างอนเล็กๆดังประสานกับเสียงหัวเราะร่วนของอีกคน ระหว่างที่สองร่างค่อยๆเดินหายลับขึ้นไปบนชั้นสองตัวบ้าน...คุณป้าแหม่มค่อยๆขยับออกมาจากมุมเหลี่ยมห้องรับแขก แล้วเดินตามไปชะเง้อคอมองตรงบันไดเพื่อพบว่าสองเจ้านายปิดประตูเข้าห้องนอนใหญ่กันไปเรียบร้อยแล้ว...นางเดินกลับมาตรวจฐานทัพใหญ่ของตัวเอง ก็พบว่าคุณหนูยะของหล่อนยังคงเป็นคนเรียบร้อยและใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ไม่เปลี่ยน...
“ถือว่าทำดีไถ่โทษ...ป้าจะยกโทษให้ซักครั้งหนึ่งนะคะ...” นางเอ่ยเบาๆพลางมองเครื่องล้างจานอัตโนมัติส่งเสียงหวี่ออกมาท่ามกลางความเงียบของห้องครัว...ในใจคิดถึงภาพบรรยากาศเจ้านายสองคนที่นั่งทานข้าวกันอยู่เมื่อครู่นี้...
อันที่จริงหล่อนกำลังจะลงมาหาข้าวหาปลาให้คุณหนูยะของหล่อนอยู่แล้วล่ะ...ใครจะไปใจร้ายทิ้งให้คุณหนูที่เลี้ยงดูมากับมือแต่อ้อนแต่ออกอดอยากกันล่ะ...ทว่าหล่อนคงลงมาช้าไป ไม่ทันคุณหนูพระจันทร์ที่เริ่มลงมือเจียวไข่เสียหอมฟุ้งแล้ว...บรรยากาศแบบนี้แหละที่หล่อนอยากเห็นคุณยะมีกับภรรยาของเธอนัก...
ถ้าเพียงแต่คุณหนูพระจันทร์จะเป็นผู้หญิงนะ...อะไรๆมันคงจะเข้าที่เข้าทางกว่านี้แยะเชียว...
---------------------------------------- - --- -- -
to be continue...
เอาตอนมาใหม่มาเสิร์ฟค่า า า า... 
แล้วก็มาขอขมากับการล่าช้าจ่ะ...

ตอนนี้แพทเหลืออีกห้าสัปดาห์ก็จะหมดเทอมสปริงแล้วค่าาา หลังจากนั้นคงจะได้มาต่อกันบ่อยๆล่ะเนอะ 
ได้ข่าวว่าตอนนี้เมืองไทยอากาศร้อนมาก คุณผู้อ่านรักษาสุขภาพกันด้วยนะจ๊ะ
แล้วเจอกันใหม่จ่ะ
เชิญทวงกันได้ตามสบายที่นี่จ่ะ >>>Click!!!<<< 