พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END  (อ่าน 780787 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yuki_Moji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หมั่นไส้อิพี่ยะเหลือเกินนนนน แต่ก็ยังเชียร์ให้พระจันทร์อย่าดื้อกับพี่ยะนะ
พี่มังกร น้องเหวินจิ้ง เชียร์สุดใจ อิอิ
แม่ฟ้า พ่อตะวันก็รักน่ารัก หนูลินเอาใจป้าไปเลยลูกจ๋าาา
หมอกานต์ มาคัส มาด้วยยย อิอิ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
รอตอนหน้า มาไวไวน๊าาาา

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เบื่อพี่ยะว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ทำไมไม่ทำอะไรให้มันชัดเจน  ให้คนอื่นเรียกพระจันทร์ว่า หยางเฟิ่ง
แต่กลับไม่เคลียร์สถานะให้เรียบร้อย

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
หนูจันททททททททททททททททท์ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ oa_ko

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
เอิ่มมมมมม
เป็นคนที่ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนแทนหนูจันทร์เท่าไหร่
เพราะมองว่าตรรกะของพี่ยะคือ จันทร์คือหงส์ในกรง ส่วนเรื่องแต่งงานมันคือหน้าที่และสิ่งที่ควร
ซึ่งมันคนละเรื่องกัน

แต่เรื่องราวหลังจากนี้ จะตะล่อมเข้าเรื่องยังไง ซึ่งคงต้องมีตัวกระตุ้นพี่ยะ แต่เหมือนมังกรจะมีคู่เร็วไปนิด

 :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
พันธนาการ...รัก #20



               ณ ห้องโถงกลางของเรือล่องแม่น้ำขนาดใหญ่ ตอนนี้มันเต็มไปด้วยแขกเหรื่อในแวดวงคนชั้นสูงของธุรกิจสีเทาจากทั่วทุกมุมโลก งานนี้เป้าหมายของคนที่มาไม่ใช่มีแค่เรื่องประมูลที่ดิน แต่การจะขยายฐานการค้าและอำนาจของตัวเองนั้นจำเป็นต้องมีผู้หนุนหลัง และต้องรู้จักคนให้มากเข้าไว้ และงานที่รวบรวมเอาแต่สุดยอดของคนในวงการขึ้นมาแบบนี้ ใครเลยจะยอมพลาด...

               ซานตงและเหยียนจวิ้นสวมใส่ชุดสูทสากลสีดำและทำหน้าขึงขังเดินตามสุริยะมณฑล ที่มีหงส์เดินคล้องแขนควงอยู่ไม่ห่างเข้ามาในงาน ซึ่งบรรยากาศของผู้มาใหม่นี้เรียกสายตาของคนทุกผู้ในงานให้หันมารวมกันเป็นตาเดียว เสียงจ้อกแจ้กจอแจที่มีอยู่เมื่อครู่ก็เงียบลงไปชั่วครู่โดยอัตโนมัติ หงส์ปรับยิ้มที่สวยหวานตามธรรมชาติให้กลายเป็นยิ้มการค้า หยิบหน้ากากของคนไฮโซชั้นสูงขึ้นมาสวมโดยฉับพลัน ซึ่งสุริยะมณฑลก็ทำเช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่ว่าจะเวลาไหนชายหนุ่มก็ใส่ยิ้มมุมปากเพื่อการค้าอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะมีก็แต่เวลาอยู่บ้านบ้างเท่านั้นที่ใครบางคนมักจะได้เห็นรอยยิ้มจริงๆของเจ้าตัว

              แต่พอถัดมาข้างหลัง เป็นรังสิมันต์ที่อุ้มเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังตากลมโตเข้ามาด้วย บรรยากาศก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม เห็นจะมีแตกต่างจากเดิมไปบ้างก็ที่หญิงสาวหลายคนพากันชี้ชวนมาที่ชายหนุ่มและหนูน้อยตลอดทางที่รังสิมันต์เดินผ่าน มาคัสและเตโชที่เดินขนาบข้างคนเป็นนายหันมาสบตากันเล็กๆด้วยรู้กันดี ว่าตอนนี้บรรยากาศรอบตัวนายตัวเองนั้น มันอ่อนโยนลงมากเพียงใดตั้งแต่มีครอบครัว และยิ่งเป็นเวลาที่มีคุณหนูไวโอลินตัวน้อยอยู่ใกล้ๆด้วยแบบนี้ บรรยากาศแลดูเข้าใกล้ง่ายกว่าพี่ชายเยอะ ยิ่งคืนนี้เจ้านายไม่ควงคุณฟ้ามาด้วย มีหวังได้มีคนมาขายขนมจีบกันให้เป็นแถวทั้งๆที่รู้ว่าเจ้านายเขามีเจ้าของแล้วนั่นแหละ

              พอเข้ามาได้ไม่ทันไร ก็มีชายหนุ่มผมทองเชื้อสายตะวันตกเข้ามาทักทายกับสุริยะมณฑลอย่างสนิทสนม จากนั้นก็ตามด้วยหนุ่มผิวขาวเชื้อสายจีนร่างท้วม ลงพุงน้อยๆพร้อมสาวน้อยหุ่นอวบอั๋นเคียงข้างถึงสองคนก็เข้ามาร่วมแจมด้วย และอีกซักพักก็มีหญิงสาวอายุราวๆสี่สิบกว่าพร้อมบอดี้การ์ดซ้ายขวาเดินเข้ามาร่วมสมทบ กลายเป็นว่าในตอนนี้ ไม่ทันที่สุริยะมณฑลจะอยู่ในงานเกินสิบนาที ก็กลายเป็นจุดศูนย์รวมเรียกผู้คนที่อยากทำความรู้จักกับเจ้าพ่อเกาะฮ่องกงได้ในทันที

             แต่กระนั้นสายตาอิจฉาจากผู้ไม่หวังดีก็มีมากระทบประปราย ให้ซานตงต้องคอยเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ตลอดเวลาเพื่อการอารักขาเจ้านายตามหน้าที่ให้สูงที่สุด

             ส่วนรังสิมันต์ก็ไม่น้อยหน้า ถึงจะไม่ค่อยมีผู้คนในวงการสีเทารู้จักเขามากนัก เพราะส่วนใหญ่ชายหนุ่มคอยช่วยบิดาดูแลบริหารกิจการในด้านสีขาวเสียมาก ทำให้คนที่เข้ามาทักทายเขาเป็นหญิงน้อยหญิงใหญ่ในแวดวงไฮโซและสังคมชั้นสูง ซึ่งเรื่องแรกที่สาวเจ้าเหล่านั้นหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อสนทนาก็หนีไม่พ้นเรื่องเจ้าหนูตัวน้อยที่รังสิมันต์อุ้มอยู่ มีหลายคนที่ออกปากถามถึงภรรยา และข่าวลือที่ว่าภรรยาคนที่ว่าเป็นผู้ชาย แต่รังสิมันต์ก็เพียงยิ้มๆให้ ไม่ทั้งตอบรับและปฏิเสธ ทำให้หลายคนเข้าใจและเอาไปพูดต่อว่าจริงๆแล้วเรื่องนั้นมันเป็นแค่ข่าวลือจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นผู้ชายที่ไหนจะมีลูกให้รังสิมันต์เอามาอุ้มโชว์ตัวอยู่แบบนี้ได้ล่ะ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่รังสิมันต์ต้องการ เพราะอย่างน้อยน้ำฟ้าจะได้พ้นจากการถูกปองร้าย และอยู่กับเขาได้อย่างสงบสุข ไม่ถูกใครมาขุดคุ้ยเรื่องราวออกมาอีก...

             แต่ถึงกระนั้นทุกคนก็มะรุมมะตุ้มรังสิมันต์ได้เพียงชั่วคราว เมื่อมีชายหนุ่มร่างสูง ผิวสีแทน ในชุดผ้าโพกศีรษะกูตราสีขาวล้วน บ่งบอกว่าคงมาจากหนึ่งในกลุ่มประเทศอาระเบียนหนึ่งในกลุ่มยูเออี  อีกด้วย ชายคนนั้นมีบรรยากาศรอบตัวกดดันสูงคล้ายสุริยะมณฑล แต่กระนั้นกลับอ่อนลงทันทีเมื่อเจอเพื่อนร่วมธุรกิจอย่างรังสิมันต์พร้อมลูกน้อยยืมอยู่ท่ามกลางสาวน้อยใหญ่เกือบสิบคน

“ไม่คิดจะทักเพื่อนกันเลยใช่มั้ย” ชายชาวอาหรับ ผู้มีไรเคราจางๆที่ปลายคางเป็นฝ่ายเอ่ยปากทักรังสิมันต์ขึ้นมาก่อน ซึ่งชายหนุ่มชาวเอเชียที่มีความสูงไล่เลี่ยกันก็ยิ้มมุมปากให้ แล้วยื่นมือออกไปจับทักทายอย่างคุ้นเคย

“ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะมาทักก่อน...ไฟซาล” ทักได้แค่นั้น สองเพื่อนรักก็กอดไหล่กันกลมโดยมีหนูลินคั่นกลาง ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าตัวร้องครางประท้วงออกมาอย่างอึดอัดแทบจะในทันที

“โทษที หนูลินขี้ร้อน...” รังสิมันต์เอ่ยบอกเพื่อน พวกเขาขอตัวจากกลุ่มสาวๆ เดินเลี่ยงออกมาจากในหมู่ผู้คนไปที่ริมฐานช่อดอกไม้ด้านหนึ่ง ซึ่งไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากนัก

“ฮ่ะๆ ไม่เป็นไร...เคยเห็นแต่ในรูป ตัวจริงท่าทางโตขึ้นจะสวยเหมือนแม่เขานะ” ชายในชุดขาวล้วนหัวเราะในลำคอเบาๆไม่ถือสาเจ้าเด็กแก้มป่องตาแป๋วที่จ้องเขาไม่วางตา

“พูดไปไฟซาล หนูลินของฉันเพิ่งจะสองขวบกว่า ใครจะรู้ โตขึ้นอาจจะหล่อเหมือนฉันก็ได้” รังสิมันต์ชักตงิดกับคำเพื่อนรักที่ทำนายลูกเขาได้อย่างจั๊กจี้ที่สุด เขารู้ดีว่าถ้าหนูลินโตขึ้น โอกาสที่จะออกไปทางน้ำฟ้านั้นมีมาก เพราะเจ้าตัวน้อยยิ่งโต ยิ่งฉายแววคล้ายแม่เข้าไปทุกวัน ยิ่งรวี น้องชายของเขา พ่อแท้ๆของหนูลินดันเป็นคนที่เกิดผ่าเหล่า สูงไม่ทันเขาและสุริยะมณฑล แถมยังได้เค้าจากแม่ไปเต็มๆคนเดียว นั่นจึงทำให้คุณนายดารกานต์ติดโอ๋ลูกชายคนเล็กนี่ที่สุด

“อ้าว...ก็ดูจากที่เห็น แม่เขาก็สวยไม่ใช่เล่น ยิ่งพักหลังๆรูปครอบครัวที่นายส่งมาให้ฉันดู ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้ชาย”

“หึหึ ฉันเลี้ยงดีก็อย่างนี้ล่ะ” รังสิมันต์ยืดอกรับแบบไม่มีอายเมื่อมีคนมาชมภรรยาตัวเองให้แบบนี้

“เฮ้อ...ถ้าตอนนั้นรัญญาท้องลูกของฉันจริง ป่านนี้แกก็คงจะโตไล่เลี่ยกับลูกของนาย...ถ้าฉันได้เจอเขาเร็วๆก็ดีน่ะสิ หนูลินจะได้มีเพื่อน...อยากได้เพื่อนมั้ย” ท้ายประโยคคนพูดก้มลงไปให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับหนูลินแล้วออกปากถาม เจ้าหนูพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะกางแขนออกตรงหน้าชายชาวอาหรับ

“เขาอยากให้นายอุ้ม...” ชายหนุ่มบอก ก่อนจะยอมให้เพื่อนได้อุ้มเจ้าลูกชายแสนรู้ของตัวเองอย่างง่ายดาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวนิ่มเกาะติดตัวเขาอย่างกับลูกม้าน้ำเกาะติดสาหร่ายทะเลแน่ะ “เขาอยากปลอบใจนาย...หนูลินเป็นเด็กที่แปลก เขาจะรับรู้ความรู้สึกของคนที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ดี ถ้าดีใจเขาก็จะหัวเราะตามไปด้วย แต่ถ้าเสียใจเขาก็จะกอดปลอบ...เหมือนที่เขากอดคอนายอยู่ตอนนี้ไง”

“ลูกนายนี่...ถ้าฉันลักกลับทะเลทรายไปตอนนี้เลยดีมั้ยนะ” ไฟซาลพูดทีเล่นทีจริง ฝ่ามือใหญ่กอดกระชับร่างอุ่นๆนุ่มนิ่มที่กอดซบแก้มกับไหล่เขานิ่งๆ ความรู้สึกอ่อนโยนแบบนี้เขาไม่ค่อยจะได้รับมากนักจากผู้คนในครอบครัวตัวเอง เพราะลูกเขาจากภรรยาทั้งสามคนนั้นเป็นชายล้วน ที่ถูกมารดาแข่งกันเลี้ยงให้แข็งแกร่งที่สุด เพราะฉะนั้นความรู้สึกของลูกที่จะออดอ้อนพ่ออย่างนี้เขาไม่เคยได้รับ

“ลองดูมั้ย นายจะได้กลายเป็นศพอยู่ตรงนี้แหละ”

“โหดจริง...นี่ถ้าเป็นผู้หญิงนะ ฉันจะขอหมั้นให้กับลูกชายฉันเสียเลย น่ารักขนาดนี้...ไงเรา อยากไปเที่ยวทะเลทรายมั้ย ได้ขี่อูฐด้วยนะ มีเหยี่ยวที่บินบนท้องฟ้า แล้วก็โอเอซิสสวยๆเต็มเลย” ไฟซาลเอ่ยถามลูกชายเพื่อน ซึ่งเจ้าหนูก็ใช้แขนเล็กๆดันใบหน้าตัวเองให้เงยมองคนอุ้ม ก่อนจะกระพริบตาปริบแล้วยิ้มยิงฟันซี่เล็กๆน่าเอ็นดูให้

“อยากคับ! หนูลิน...อยากไป นะปะป๊า พาหนูลินไปนะ...” เจ้าเด็กน้อยส่งเสียงออดอ้อนคนเป็นบิดา ที่ยืนกอดอกทำตาดุๆใส่

“กำลังจะถูกเขาล่อลวงไปขายแล้วยังไม่รู้ตัวอีกนะลูกชายพ่อ ” รังสิมันต์เอ่ย ชายหนุ่มมองหน้าเพื่อนรักที่ดูหมองๆแล้วก็สงสารนัก ฝ่ามือหนักจึงตบลงที่ไหล่เพื่อปลอบใจอีกคน

“ไม่ต้องห่วงนะไฟซาล ฉันจะช่วยนายตามหารัญญาและลูกนายให้เจอ ถ้าสองคนนั้นยังอยู่บนแผ่นดินไทย รับรองได้ว่าไม่เกินมือฉัน แล้วจะรีบส่งข่าวบอกเป็นระยะ...” รังสิมันต์บอกเพื่อน ซึ่งชายชาวอาหรับยิ้มมุมปากให้เขาแล้วเอ่ยตอบ

“ขอบใจมาก...แต่ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมข่าวของรัญญาถึงหายไปในทันทีที่เธอเหยียบลงที่สนามบินไทย...” ชายหนุ่มเอ่ยคล้ายรำพันกับตัวเอง “...นี่ก็ผ่านมาสองปีแล้ว ฉันก็ได้แต่หวัง...ขอให้เธอและลูกปลอดภัย...”

              สิ้นประโยคนั้นเจ้าหนูลินก็โผเข้ากอดคอชายชาวอาหรับแปลกหน้าอีกครั้งอย่างไม่รังเกียจ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอู้อี้ๆข้างหูหนุ่มร่างสูงเพื่อนพ่อว่า

“โอ๋ๆ ไม่เปนไยน้า...หนูลินสันยา จะช่วยหาให้เจอเองนะ!”

             คำบอกของเจ้าหนูน้อยทำเอาสองผู้ใหญ่หัวเราะขำๆกับความน่ารักแบบธรรมชาติของเจ้าหนู ความใสซื่อ และคำสัญญาที่บริสุทธิ์นั้น ใครเลยจะรู้ ว่าอีกสิบปีข้างหน้า เจ้าหนูอาจจะทำได้จริงก็เป็นได้...



 
             เหยียนจวิ้นผู้มีเซนส์เฉียบขาด รู้สึกถึงสายตาอันแหลมคมที่จ้องทิ่มแทงพวกเขามาตั้งแต่เข้างานด้วยอาการขนลุก มันเป็นสายตาแหลมคมที่แรงกล้า ฝ่าทะลุคลื่นอื่นๆออกมาอย่างโดดเด่น ชายหนุ่มพยายามที่จะคอยจับทิศทางและมองหาว่าเป็นใคร จะสะกิดเพื่อนเพื่อให้ช่วยมองก็เห็นจะไม่เข้าที เพราะรายนั้นเพียงแค่รับรู้ได้ว่ามีคนปองร้าย แต่ก็ยังไม่แม่นทิศทางเท่าเขา แต่เสียงรบกวนและกลิ่นน้ำหอมฉุนจมูกของบรรดาอีหนูและคุณหญิงคุณนายทั้งหลายก็คอยช่วยก่อกวนเขาได้อย่างดีเยี่ยม

             แต่ว่าเหยียนจวิ้นก็ไม่ต้องสงสัยนาน เพราะบุคคลที่เขากำลังหานั้นเดินเข้ามาปรากฎตัวลงตรงกลางวง พร้อมสายตาหรี่ลงที่บ่งบอกถึงความไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด ผู้คนที่เคยรุมล้อมรอบตัวสุริยะมณฑลรีบสลายตัวออกไปในทันที เพราะรู้ดีว่าถ้าสองสิงห์จะตีกัน สังเวียนนั้นไม่ควรจะมีสิงสาราสัตว์อื่นๆเข้าไปป้วนเปี้ยน เดี๋ยวจะโดนลูกหลงเข้าไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว

“ไม่คิดจะเข้ามาทักหลานเจ้าของงานเขาหน่อยเหรอ ไม่คิดเลยนะว่าเจ้าพ่อฝั่งฮ่องกงจะเป็นคนที่ไร้มารยาทขนาดนี้” คำพูดหลอกด่ากันอย่างไม่ไว้หน้าของผู้มาใหม่ทำเอาซานตงขมวดคิ้วหมุ่น มือเกือบเผลอล้วงเข้าไปในอกเสื้อตามความเคยชิน แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าในงานนี้เขาห้ามพกพาอาวุธปืน หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านาย เขามีสิทธิ์ใช้ได้แค่หมัดและความสามารถเฉพาะตัวเท่านั้น

“สวัสดี ปีเตอร์ โจว...” สุริยะมณฑลมองจ้องตรงไปยังผู้มาใหม่อย่างไม่สะทกสะท้าน เอ่ยคำทักทายแบบธรรมดาสามัญที่ทำเอาคนทักก่อนต้องกัดฟันกรอด

           เขามันโง่เองที่ข่มอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ จนต้องเป็นฝ่ายเดินเข้ามาทักมันก่อนอย่างเสียศักดิ์ศรี ก็ใครให้มันเป็นคนเข้ามาแย่งความนิยมจากคนในงานไปจากเขากัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก่อนที่มันจะเดินเข้ามา เป็นเขานี่...ที่ทุกคนต้องรีบวิ่งเข้ามาประสบสอพลอ ไม่ใช่มัน!

“ดี...ที่ยังจำชื่อฉันได้ หวังว่างานนี้แกจะไม่เล่นอะไรตุกติก ยื่นซองประมูลกันอย่างขาวสะอาดนะ” ชายนามปีเตอร์ โจวเอ่ยขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่ง จงใจให้คนที่อยู่รอบข้างได้ยินด้วย แต่กระนั้นหญิงสาวที่ยืนข้างกายสุริยะมณฑลก็ตอบกลับได้ทันควัน หล่อนรู้ดี คนอย่างสุริยะมณฑลจะไม่ลดตัวลงไปต่อปากต่อคำกับคนคนนี้เองเด็ดขาด

“แต่หงส์ว่า...ปีเตอร์นายควรจะบอกตัวเองก่อนดีกว่ามั้ยอ่ะ ข่าวหน้าสังคมเมื่อวันก่อนเขายังลงเรื่องของนายโดนตำรวจค้นบริษัท เพราะโดนลูกค้าฟ้องร้องเรื่องความไม่ซื่อของผู้บริหารอยู่เลยไม่ใช่เหรอ...” หญิงสาวเผยยิ้มจริงใจให้เป็นการจบประโยค

             แต่คำพูดประโยคนั้นไม่สามารถทำให้ปีเตอร์ โจวหน้าถอดสีแต่อย่างใด กลับมีการเผยรอยยิ้มขึ้นมาให้หญิงสาวรูปร่างอรชรตรงหน้าอีกต่างหาก ก่อนจะเอ่ยประโยคตอบกลับมาว่า

“ดีใจนะ...ที่เหม่ยเฟิ่งยังติดตามเรื่องราวของฉันอยู่”

            คำพูดของปีเตอร์ โจว ไม่ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกแปลกใจอะไร เพราะทุกคนรู้สาเหตุที่ทำให้ปีเตอร์ โจว หลานของอัลเบิร์ต โจว เจ้าพ่อคาสิโนไม่ถูกกับหยาง หลง เจ้าถิ่นฝั่งฮ่องกงก็คือเหม่ยเฟิ่งคนสวยที่ยืนกอดเกี่ยวแขนอยู่กับหยาง หลงอย่างสนิทสนมอยู่ตอนนี้นั่นเอง...

            ...ใครๆก็รู้ ว่าปีเตอร์ โจว แอบชอบเหม่ยเฟิ่งมาตั้งนานแล้ว เลยไม่พอใจมาก ที่คนที่คว้าหงส์แสนสวยคนนี้ไปครอบครองได้คือ หยาง หลง...

            เพราะเหตุที่ทั้งคู่ไม่ถูกกันนั้นมันค่อนข้างสมเหตุสมผลอยู่ คนรอบข้างจึงพากันเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ได้กับคำพูดไม่เหมาะสมของปีเตอร์ โจว และแอบสรรเสริญเยินยอสุริยะมณฑลอยู่ในใจเงียบๆ ที่ยังสามารถยืนนิ่งไม่โต้ตอบกับคำสบประมาทพวกนั้นได้ดี

“ไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ แต่พอดีป๊าอ่านให้ฟัง ก็เลยรู้ไปด้วย...” หญิงสาวเอ่ยตอบแบบเรียบๆ

             ปีเตอร์ โจว นั้นรู้อยู่เต็มอก ว่าหญิงสาวคนนี้นั้นไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลเขา ตั้งแต่เด็กแล้ว สมัยที่พวกเขาเรียนไฮสคูลมาด้วยกัน สุริยะมณฑลมักจะแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขา ทั้งผลการเรียนที่ยอดเยี่ยม ความสามารถเชิงกีฬา แล้วยังดวงใจของเขาที่เฝ้าแอบมองมาตั้งแต่หญิงสาวตรงหน้ายังผูกผมเปีย แต่จู่ๆกลับถูกไอ้หมอนี่มันแย่งเอาไปอีก จะไม่ให้เขารู้สึกเกลียดมันได้ยังไง...

              ...อ้อ ยังจะมีไอ้มังกร เพื่อนมันอีกคน...พี่ชายของเหม่ยเฟิ่ง คนที่พยายามกันเขาออกจากน้องสาวมันทุกวิถีทาง...

“หึหึ...แล้วว่าแต่แกไม่พาเพื่อนรักแกมาด้วยเหรอ เมื่อก่อนเห็นตัวติดกันอย่างกับคู่เกย์แน่ะ” ปีเตอร์ โจวเอ่ยปากถามพร้อมยกมือกอดอก เขารู้ดีว่าเรื่องนี้แหละที่จะเป็นตัวทิ่มแทงอารมณ์ของไอ้หนุ่มขี้เก๊กตรงหน้าได้ดีนัก

“เรื่องอื่นมีเป็นร้อยพันเรื่อง ทำไมไม่ถามบ้างล่ะปีเตอร์...ฉันว่า...” หงส์พยายามจะเข้ามาช่วยพูด แต่คราวนี้กลับเป็นสุริยะมณฑลที่เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน

“มันก็มา...อยู่ข้างหลังนายนั่นไง” สุริยะมณฑลชี้ด้วยสายตาไปที่ข้างหลังคนที่ยืนหาเรื่องเขาปาวๆด้วยท่าทางยิ้มเซ็งๆ กะว่าจะเลี่ยงแล้วเชียว ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับคนคนนี้ตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นเรือ

“เหมิงหลง!!” ปีเตอร์ โจว อุทานชื่อคนที่มายืนเงียบๆอยู่หลังเขาอย่างตกใจ ไอ้เจ้าลูกน้องบ้าสองคนนั่นก็ไปยืนหลบเสียไกล จะกลัวอะไรกับอีแค่มังกรทมิฬตัวนี้กันนักวะ

“เออ...ฉันเอง” มังกรขึ้นมาด้วยเสียงห้วนๆ “แค่สงสัยว่าคนมันมุงดูอะไรกัน ก็เลยเดินเข้ามาดู...ไม่คิดว่าจะมีปาหี่มาแสดงโชว์กลางงานแบบนี้ด้วยนะ” มังกรเอ่ยคำพูดกระทบทั้งเพื่อนเก่าและคนมาหาเรื่องอย่างเผ็ดร้อน ซึ่งคนแรกนั้นไม่มีท่าทางอะไร แต่คนมาหาเรื่องนี่สิที่ใบหน้าเปลี่ยนสีและแสดงอาการขึ้งโกรธขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“นี่...พวกแกคิดจะรุมฉันกันงั้นเหรอ!” ปีเตอร์ โจว ไม่ใช่คนที่ฉลาดนักเรื่องการใช้คำพูด ประโยคที่พูดออกมาเลยทำให้คนรอบข้างแอบกลั้นขำในใจว่านายปีเตอร์ โจวกำลังถูกรุมตรงไหนกัน ก็เห็นมีแต่เจ้าตัวที่เข้ามาหาเรื่องสุริยะมณฑลก่อนทั้งนั้น

               ซึ่งเพราะตัวสุริยะมณฑลเองก็รู้ตัวว่าความนิยมของตัวเองนั้นมีมากกว่าชายที่อยู่ในชุดสูทสีดำแต่ทองแพรวพราวตรงหน้าอยู่มาก เลยไม่คิดจะลดระดับค่าของตัวเองลงโดยการเต้นไปตามเกมส์ เผยอาการโกรธออกมาอย่างออกนอกหน้าเหมือนใครอีกคน

              ไม่ใช่ไม่รู้ว่าทำไมปีเตอร์ โจว ถึงไม่ชอบขี้หน้าเขา แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ที่จะให้อีกฝ่ายยอมสงบศึกกับเขา อาจจะมีบ้างที่อีกคนคอยมาขัดแข้งขัดขากับธุรกิจของเขา แต่ก็เพียงแค่ทำให้เขารู้สึกคันๆเท่านั้น ไม่ได้ถึงขั้นทำให้เจ็บแสบหรือเจ็บปวดอะไร

             ทุกวันนี้สุริยะมณฑลก็เลยปล่อยเลยตามเลย อยากเกลียดเขาก็เกลียดไป แต่อย่ามาทำอันตรายใดๆกับคนใกล้ตัวเขาเป็นอันขาด...ซึ่งก็ถือเป็นโชคดีของเขาในระดับหนึ่ง ที่คุณโจวไม่ได้เข้าข้างหลานแบบไม่ลืมหูลืมตาขนาดนั้น

             และในวินาทีที่ปีเตอร์ โจว คิดจะต่อปากต่อคำกับสุริยะมณฑลต่อ เสียงของเบิร์นนี่ เหลียง เลขาของมิสเตอร์โจวก็เข้ามาขัดจังหวะ ราวกับรอเวลาอยู่แล้วได้อย่างเหมาะเหม็ง ชายหนุ่มเดินเข้ามาแล้วก้มหัวลงต่ำนิดๆหนึ่งครั้งเป็นการแสดงความเคารพแบบสากล ก่อนจะเอ่ยด้วยถ้อยคำภาษาอังกฤษชัดถ้อชัดคำ

“ขอโทษครับ มิสเตอร์โจวต้องการพบมิสเตอร์หยางหลง มิสเตอร์เหมิงหลง และเหม่ยเฟิ่งครับ ท่านรออยู่ที่ริมระเบียงทางด้านนี้ เชิญครับ...” พูดจบคนพูดก็ผายมือบอกทิศทางและเป็นเร่งแขกคนสำคัญให้เดินตามไปด้วย

“เฮอะ...นี่ฉันก็คงจะต้องไปด้วยสินะ” ปีเตอร์ โจวขยับจัดคอปกสูท แล้วตั้งท่าจะเดินตามไปด้วย แต่ทว่าเบิร์นนี่ เหลียงกลับเขยิบเข้ามาขวางทางแล้วยิ้มให้ปีเตอร์ โจวอย่างผู้มีมารยาทดี

“มิสเตอร์โจวอยากให้มิสเตอร์ปีเตอร์คอยรับแขกอยู่ที่นี่ครับ...” คำพูดนั้นทำเอาปีเตอร์ โจวขมวดคิ้วหมุ่นแล้วตวาดชื่อเลขาของปู่ตัวเองเสียงดังลั่น

“เบิร์นนี่!!!”

“ครับ” เลขาหนุ่มผู้รู้อารมณ์หลานเจ้านายดีอยู่แล้วเพียงแค่รับคำอย่างนอบน้อมเท่านั้น เมื่อเห็นว่าปีเตอร์ โจว ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเพียงยืนมองเขาตาขวาง เลขาหนุ่มเลยถือโอกาสพูดต่อกับรังสิมันต์ที่เดินเข้ามาสมทบทีหลังว่า

“เชิญมิสเตอร์หยางจินกับคุณหนูไวโอลินด้วยนะครับ”

             สิ้นคำ คนพูดก็น้อมกายลง คล้ายต้องการส่งคนที่ถูกเรียกชื่อทั้งหมดไปตามทางเดินโดยเร็วที่สุด ท่าทางการยืนปิดทางไม่ให้คนอื่นตามไปทำให้ปีเตอร์ โจวกำมือแน่น

           ...เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ! เขาที่เป็นหลานแท้ๆกลับไม่ได้รับการเอาใจใส่

           ...แต่กับไอ้หยางหลง หลานนอกไส้นั่น! ทำไมถึงได้โอ๋มันข้ามหน้าข้ามตาเขาได้ถึงขนาดนี้!

           ...พวกชอบเลียแข้งเลียขาคนอื่นแบบมัน หึหึ สมควรแล้ว...ที่จะต้องแตกคอกับเพื่อน...

           ...เพียงเพราะแค่ผู้หญิงของเขาเพียงคนเดียว!...   

-----------------------------------------------------------




ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์



             อัลเบิร์ต โจว เป็นชายอายุวัยเข้าใกล้เจ็ดสิบ ผิวหนังเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลา หลังที่เคยยืดตรงมีอาการงอค่อม แต่ร่างบนรถเข็นไฟฟ้าอย่างดีที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยชุดผ้าไหมสีน้ำเงินเข้ม เล่นลายมังกรด้วยไหมสีทอง ก็ช่วยขับรัศมีของผู้มีอำนาจออกมาจากภายในได้อย่างไม่ยาก ใกล้ๆรถเข็นยังมีบุรุษในชุดสูทสีดำร่างกายสูงใหญ่ และหญิงสาวที่ท่าทางเจ้าระเบียบ นัยตาติดดุในชุดไหมสีแดงทรงกี่เพ้ายืนขนาบข้างซ้ายขวา ยิ่งช่วยส่งรัศมีการเป็นเจ้าคนนายคนออกมาได้อย่างดี

            สุริยะมณฑล หงส์ มังกร รังสิมันต์ และหนูน้อยไวโอลินที่ถูกปะป๊าโอบอุ้มอยู่น้อมศีรษะให้ร่างบนรถเข็นเป็นการทักทายตามธรรมเนียมสากล อัลเบิร์ต โจวค่อยๆผ่อนแรง เอนหลังลงพิงพนักเบาะก่อนจะสะบัดปลายมือเบาๆหนึ่งครั้งเพื่อเป็นการบอกว่าให้ทุกคนยืนกันตามสบายได้

“ไม่ได้เจอกันนาน...ทำไมพวกเธอทำตัวห่างเหินกับฉันจัง” น้ำเสียงติดแหบเอ่ยออกมาอย่างไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจัง ซึ่งสุริยะมณฑลก็รู้ จึงเพียงแค่ก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วยิ้มมุมปากเล็กๆให้ร่างชราที่อยู่บนเก้าอี้รถเข็น

“นี่เหรออาตี๋น้อยของลื้อ หยางจิน...” จู่ๆความสนใจของร่างบนรถเข็นก็เบนเบี่ยงไปที่ร่างเล็กๆดิ้นดุกดิกได้ในอ้อมแขนของรังสิมันต์แบบกะทันหัน คนถูกพุ่งความสนใจก็เงยใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราขึ้นมาจากการเล่นสร้อยคอของบิดา แล้วส่งสายตาระคนสงสัยมามองคนที่เรียกเขาว่า ‘อาตี๋น้อย’ แบบสนใจมากกว่า

“...ตี๋..น้อย...” เสียงน่ารักเอ่ยเลียนแบบออกมากระท่อนกระแท่น พลางเอียงศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นไหมสีน้ำตาลอ่อนไปข้างๆอย่างสงสัยเต็มที่

“ใช่...ตี๋น้อย...เจ้ามังกรน้อยแห่งตระกูลหยาง...” น้ำเสียงทรงอำนาจแปรเปลี่ยนเป็นอบอุ่นและอ่อนโยน ถึงขนาดที่ว่าหนูลิน เจ้าเด็กตัวน้อยยังเผลอส่งยิ้มยิงฟันตาหยีให้ แล้วชี้นิ้วไปที่ร่างชราแล้วบอกว่า ‘ตา..ตา..’ ให้บิดามองตาม

“ไม่ใช่ตาสิ...นี่ต้องปู่” น้ำเสียงแหบต่ำแก้ให้ปนหัวเราะน้อยๆ

“ปู...คุนปู...ปะป๊า...” เจ้าเด็กน้อยเลียนเสียงผู้ใหญ่ พยายามแล้วนะที่จะให้มันชัด แต่ทำไมคุนปูถึงส่ายหน้าใส่เขาล่ะ

“ไม่ใช่ปูสิ เจ้ามังกรน้อย...มา มาให้ปู่อุ้มหน่อย...ได้มั้ย...” เสียงของอัลเบิร์ต โจวเอ่ยขึ้นพร้อมฝ่ามือเหี่ยวย่นที่ยื่นออกมาตรงหน้าหนูน้อยไวโอลิน แต่นั่นทำให้หญิงสาววัยเลยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆมิสเตอร์โจวต้องออกเสียงห้ามเบาๆ

“นายท่านใหญ่...แต่ดิฉันคิดว่าร่างกายท่าน...”

“ฮื่อ...ซ้อหลิว คนแก่ก็แค่อยากจะเล่นกับหลานบ้างก็เท่านั้นเอง...ไม่เป็นไรๆ” เสียงปรามไม่จริงจังเอ่ยตัดบท

              รังสิมันต์ก้มลงหอมกระหม่อมบางของเจ้าลูกชายเบาๆหนึ่งที แล้วก้าวออกไปข้างหน้ารถเข็นก่อนจะคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เจ้าหนูลินไม่มีอาการงอแงให้เห็นนั่นทำให้ชายหนุ่มเบาใจไปได้เล็กน้อย แต่การที่จะให้จู่ๆคนแปลกหน้ามาอุ้มแบบนี้ไม่รู้ว่าเจ้าจะยอมหรือเปล่า

             คนเป็นบิดาปล่อยให้ลูกชายได้จ้องหน้ากับมองฝ่ามือเหี่ยวย่นที่ยื่นตรงมาให้ แล้วตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะยอมให้อีกฝ่ายอุ้มหรือไม่ หนูลินใช้ดวงตากลมโตใสแจ๋วมองใบหน้าของคนบนรถเข็นที่ยิ้มอย่างใจดีให้ ใบหน้าตุ๊กตาเอียงคอน้อยๆ ก่อนจะใช้เวลาไม่นานในการตัดสินใจยื่นมือสั้นป้อมไปแตะกับฝ่ามือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้า แล้วเป็นฝ่ายดันตัวเองปีนขึ้นตักอีกคนไปด้วยท่าทางเก้ๆกังๆจนคนเป็นบิดาต้องช่วยดันก้นขึ้นไปให้

            รังสิมันต์เพิ่งรู้สึกขอบคุณคนเป็นมารดาเจ้าตัวเล็ก ที่ทำให้น้ำหนักหนูลินต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปของเด็กวัยเดียวกันอยู่เล็กน้อย แต่คงเป็นเพราะขนาดของเจ้าตัวที่ก็ไม่ได้สูงเหมือนลูกชาวบ้านเขาเพราะถอดแบบคนเป็นแม่ออกมาเปี๊ยบด้วยละมั้ง มิสเตอร์โจวที่นั่งอยู่บนรถเข็นจึงไม่ต้องรับภาระหนักมากในการกกกอดเด็กวัยสองขวบกว่าอย่างหนูลินเอาไว้ในอ้อมแขน วันนี้เจ้าหนูก็ช่างอารมณ์ดีเหลือเกิน ไม่มีงอแงให้พ่ออย่างเขาต้องลำบากใจเลยแม่แต่น้อย...ส่อแววเข้าสังคมเก่งแต่เด็กเลยแฮะลูกพ่อ... รังสิมันต์รู้สึกปลื้มอกปลื้มใจเจ้าตัวลูกชายอยู่ลึกๆ

“มังกรน้อย...เจ้าดูไปที่แสงไฟบนพื้นดินนั่นนะ” ชายชราชี้ไปที่แสงไฟบนเกาะที่อยู่ตรงหน้า มิสเตอร์โจวกระชับอ้อมแขนที่มีหนูลินนั่งเล่นแขนเสื้อของเขา แล้วเอื้อมมือข้างหนึ่งไปกดปุ่มรถเข็นเพื่อให้มันหมุนปรับทิศทางหันออกไปนอกตัวเรือ ก่อนที่ชายชราจะก้มลงมองดูเด็กน้อยนัยตากลมโตที่ยังสนใจแขนเสื้อเขาไม่เลิก

“ทั้งหมดนั่นคืออาณาจักรของฉัน...ฉันสร้างมันขึ้นมาด้วยสองมือคู่นี้ สร้างทุกอย่างขึ้นมาจากศูนย์...”

             บุรุษร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้มิสเตอร์โจวที่สุดหยิบผ้าจากซ้อหลิวมาคลุมให้คนพูด พร้อมทำท่าทางว่าจะอุ้มหนูน้อยให้เอง ทว่าคนที่กำลังเพลินกับการอุ้มหนูน้อยอยู่กลับโบกมือให้เบาๆ บุรุษในชุดสูทดำจึงโค้งให้นิดๆก่อนจะถอยกลับไปยืนระวังให้อยู่ด้านหลังตามเดิม

“...มังกรน้อย...รู้มั้ยว่าอาณาจักรของฉันมันกว้างใหญ่มาก...มากจนบางครั้ง ฉันก็นึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าถ้าไม่มีฉันอยู่คอยปกครองอีกแล้ว มันจะเป็นยังไง...” เสียงแหบต่ำเอ่ยบอกเอื่อยๆ ไม่ได้มีเป้าหมายว่าต้องการจะให้ใครรับรู้เป็นพิเศษ “...มีลูกชายกับเขาคนเดียว ก็ไปสนใจแต่ปล่อยเงินกู้ ไม่คิดอยากมาช่วยฉันดูแลอาณาจักรนี้เลย พอมีหลาน...”

             เสียงนั้นหยุดอยู่แค่นั้น แต่คนที่อยู่รอบด้านก็เข้าใจโดยที่ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆต่อ ยกเว้นหนูลินคนเดียวที่ยังสนุกกับการอ้าปากงับลมที่พัดตีหน้า พอโดนลมก้อนใหญ่กระแทกเข้าก็หงายหลังล้มตึงไปชนชายชราที่นั่งโอบอุ้มอยู่ด้านหลัง ก่อนจะหัวเราะฮิฮ่ะออกมาอย่างอารมณ์ดี

“พอฉันตาย...พวกหมาล่าเนื้อที่จ้องจะตะครุบธุรกิจของฉัน คงจะรุมลงมาจิกทึ้งกินเนื้อกันอย่างสนุกเลยทีเดียว...มันน่าเสียดายมากเลยนะ ว่ามั้ย หยางหลง...”

             คนถูกเรียกชื่อเงยหน้าขึ้นมองคนพูดฉับพลัน ในสมองประมวลผลหาคำตอบที่คู่ควรกับคำถามนั้นอย่างรวดเร็วก่อนเอ่ยตอบ

“ไม่หรอกครับ...ธุรกิจของคุณลุง ยังต้องยิ่งใหญ่แบบนี้ต่อไป ไม่มีทางล้มได้แน่นอนครับ”

“ไม่...ไม่...ถ้าลื้อ กับเหมิงหลงไม่ร่วมมือกัน ฉันก็ไม่เห็นใครอีกแล้ว ที่จะสามารถเข้ามาฮุบกิจการและดูแลสืบทอดธุรกิจทั้งหมดได้...”

“นายท่านใหญ่คะ! / เจ้านายใหญ่ครับ!” สองเสียงร้องด้านหลังดังมาจากสองคนสนิท

“นายท่านคะ...ทำไมพูดแบบนี้คะ!”

“ซ้อหลิว ลื้อก็เห็น...ว่าฉันพูดถูกทุกอย่าง...อันที่จริงเรื่องนี้ ฉันไม่ได้เพิ่งคิดหรอกนะ ฉันปรึกษากับศิลาแล้วก็เมธีไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่าอยากให้หยางหลงกับเหม่ยเฟิ่งแต่งงานกันให้เร็วที่สุด...เพื่อที่ว่า...จะได้ดองทั้งเกาลูนและฮ่องกงให้เป็นหนึ่งเดียวกัน พอถึงตอนนั้น ทั้งหยางหลงและเหมิงหลงจะได้ร่วมมือกัน ปกครองอำนาจของฉันไปคนละครึ่ง...เพราะปีเตอร์หลานฉันไม่สามารถเอามันอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวแน่ๆ ฉันยังไม่อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันสร้างขึ้นต้องมาพังทลาย เพราะไม่ใช่แค่ครอบครัวฉันอย่างเดียวที่จะต้องสูญเสีย...แต่ครอบครัว พนักงาน ลูกน้องของฉันอีกนับพันก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย...”

“มิสเตอร์โจวหมายถึง...โคซา นอสตรา ที่มันจ้องจะเข้ามาฮุบกิจการในฮ่องกงของเราตอนนี้ใช่มั้ยครับ...” มังกรเอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมคิ้วที่ขมวดยุ่ง สุริยะมณฑลหันไปมองคนพูดแล้ววกกลับไปมองชายบนรถเข็นอีกครั้งก่อนเอ่ยปากถาม...

“โคซา นอสตรา...มาเฟียอิตาลีจากซิซิลีนั่นน่ะเหรอครับ”

“ใช่ พวกที่เคยไล่ฆ่าฉันเมื่อสามปีก่อน จนทำให้ฉันได้เจอกับพระจันทร์นั่นไง...”

              คำพูดโต้ตอบของมังกรทำเอาสุริยะมณฑลกำมือแน่น...เพราะจู่ๆก็เผลอคิดไปในทางกลับกันว่า ถ้าไม่มีไอ้พวกนั้น มังกรก็คงไม่ได้เจอกับพระจันทร์ ก่อนที่เจ้าเด็กนั่นจะได้มาเจอเขา...ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น มันจะดีซักแค่ไหนนะ ที่ในสมองของพระจันทร์จะไม่มีชื่อผู้ชายคนอื่นอยู่เลย นอกจากเขาคนเดียว...

             ...คิดบ้าอะไรวะไอ้อาทิตย์ ตอนนี้มันใช่เวลาที่เขาควรจะมาหงุดหงิดอะไรแบบนี้รึไง...

“พวกมันคิดจะล้างโคตรพวกเรา แล้วยึดเกาะฮ่องกงเป็นแหล่งทำมาหากินใหม่ แล้วเมื่อไหร่ที่พวกมันทำสำเร็จ คนในเกาะฮ่องกงของเราก็จะโดนแย่งงาน อาจจะโดนเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอย่างไม่เป็นธรรม หรือไม่ก็โดนเอารัดเอาเปรียบอยู่บนแผ่นดินเกิดของตัวเอง...” คนพูดเอ่ยบอกพร้อมสายตาที่ทอดมองไกลไปยังฝั่งบนแผ่นดิน ที่ทอแสงระยิบระยับพร่างพราวสวยงามในเวลากลางคืนที่พระจันทร์เร้นแสงไปในคืนนี้ เรือสำราญของเขาลอยลำห่างออกจากฝั่งมาเรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้เขามองเห็นเกาะที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าเล็กลงไปเรื่อยๆเช่นกัน แท้จริงแล้ว อัลเบิร์ต โจว ไม่ใช่ผู้ที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย เขาก็เป็นแค่ตาแก่หัวดื้อ ที่ยังไม่ยอมลงจากบัลลังก์มังกรเล็กๆของตัวเอง เพราะมัวแต่หาทายาทมังกรมาสืบทอดกิจการต่อไม่ได้เสียทีก็เท่านั้น...

“มันเป็นเรื่องน่าเศร้า...ถ้าเราอยู่บนแผ่นดินเกิดของตัวเอง แต่มีคนชาติอื่นเข้ามาครอบครอง...ว่ามั้ย”

               สายตาคนพูดเหม่อมองออกไปไกลในท้องทะเล ไม่มีใครกล้าขัดคนที่ยังมีท่าทีว่ายังพูดอะไรไม่จบ ขนาดหนูลินยังนั่งเงียบอ้าปากกว้างงับลมเล่นเบาๆสบายใจเฉิบเลยทีเดียว   

              สายตาฝ้าฟางเงยมองหญิงสาวในชุดสีแดงอมส้ม แล้วใช้สายตากวักเรียกให้เข้ามาหาใกล้ๆ ซึ่งหงส์ก็อ่านความหมายนั้นออกจึงรีบเดินไปยืนเคียงข้างสุริยะมณฑลอย่างรู้งานในทันที

             มังกรเหลือบมองคนทั้งคู่ที่ยืนนิ่ง แต่สายตาพุ่งตรงไปที่ร่างงองุ้มบนรถเข็นด้วยความเคารพเชื่อฟัง...ในสมองครุ่นคิดหนัก เพราะตัวเองเริ่มเดาทางถูกแล้วว่าที่ชายผู้เป็นหัวหน้ามังกรตะล่อมพูดมาทั้งหมดนั้นเพื่ออะไร...

“ทีนี้รู้แล้วใช่มั้ย...ว่าการแต่งงานระหว่างลื้อสองคน มันมีความสำคัญมากแค่ไหน...หยางหลง...อาเหม่ยเฟิ่ง...”
   เสียงลมที่หวีดหวิวอยู่ข้างหู ยังดังไม่เพียงพอกับความต้องการในใจของสุริยะมณฑล...ตอนนี้เขาอยากจะปิดหู ไม่อยากได้ยินและรับรู้อะไรทั้งนั้น...

             ...ให้เฉือนหัวใจตัวเอง...เขายอมทน...

             ...แต่ถ้าจะให้เฉือนหัวใจของนกน้อยในกรงของเขาไปด้วยอีกคน...

           ...จะให้เขาทนได้ยังไง !...

-----------------------------------------------------------


 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:   :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
นั่นสิ แค่นี้หนูจันทร์ก็เศร้าอยู่แล้ว :ling1:
แต่ตอนนี้หนูลินน่ารักเชียว :-[

ออฟไลน์ jilantern

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
โฮฮฮฮฮฮ
ไม่น๊าาาา พระจันทร์ของช๊านนน
แค่นี้ก็เจ็บพอแล้วนะ!!

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
อ่าาา พี่อาทิตย์รีบเคลียตัวเองเพื่อพระจันทร์เลย  :beat:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อ๊าวววว..หนูจันทร์จะทำไงอ่ะ
ปูเรื่องมาอย่างนี้มีคู่หนูลินต่อใช่ป่ะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เรื่องมันมาถึงขั้นนี้รีบจัดการตัวเองเลยนะพี่ยะ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
มังกรก็มีคู่แล้วปะงี้พระจันทร์จะทำไงงงงงง
พี่อาทิตย์เป็นแค่คนธรรมดาคงจะดีกว่านี้เนอะ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
เหอะๆ
เชียร์มังกรดีกว่าเยอะเลย
รำคาญอิพี่ยะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2013 22:07:11 โดย indy❣zaka »

ออฟไลน์ NannY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +125/-1
พี่ยะต้องแต่งงานจริงๆ เหรอเนี่ยยยยยย แล้วรัญญาคือใครน้าาา

ออฟไลน์ FahFon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
แล้วพระจันทร์ของป้าจะทำไงละเนี่ยยยยยย

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:


ไม่นะ!!!!!!!

อย่าทำให้พระจันทร์ต้องเสียใจนะ พี่ยะ

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
กดดันได้อีกนะตอนนี้ สงสารพระจันทร์

ว่าแต่เชียร์ให้คนแต่ง แต่งภาค3ต่อเลยดีมั้ยหนอ
นู๋ลินกับลูกของไฟซาล อลังการงานช้าง 555+

ออฟไลน์ poisongodx

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
จะแต่งงานแล้วให้พระจันทร์เป็นเมียน้อยอยู่ในกรงทองหรอ  :z6: ชั้นไม่ยอมนะเฟ้ย  :z3: :z3:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โหยยยย จะดราม่าแล้วหรอ
ปล.หนูลินน่ารักอีกแล้ว

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อืม... ปู่คิดอะไรแบบโบราณจริงๆด้วยแฮะ

แต่งงานระหว่าง 2 ตระกูล สมัยนี้เชื่อไม่ได้แล้วนะ
ถ้าตกลงกันเองได้ระหว่าง 2 ตระกูล มันน่าจะได้ผลดีกว่าอีกเยอะ
รอดูว่าจะมีทางออกจากเรื่องนี้ยังไง
อย่ามีเรื่องร้ายแรงให้พระจันทร์ต้องเจ็บปวดเลยนะ

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:โอ๊ยยยยยยยยยมามามาอีกแระ
 :katai1: :katai1: :katai1:ค้างมากเบย
 :hao5: :hao5:หนูลินน่ารัก ปล.โธ่หนูจันทร์ของเจ๊

ออฟไลน์ Yuki_Moji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หนูลินน่ารักตล๊อดดดด
ดีใจที่มาต่อ แต่แอบหน่วงดราม่า
จะแอบปีนขึ้นเรือสำราญ ปาดคอหงส์นางนั้นดีมั๊ยเนี้ยยย :katai3:
สงสารน้องจันทร์ หมั่นไส้อิพี่ยะมากกกกก :m16:

มาต่อไวไวนะคะ อย่าทิ้งไปนาน มันหน่วงงงง :hao7: :hao7: :katai1: :ling3:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เอิ่ม พูดไม่ออก T^T ไม่อยากจะคิดต่อเลย

ออฟไลน์ lalitalx

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-3
โอ๊ยยยย หน่วงงงงงง ไม่น้าาาาาาา  อย่าทำแบบนี้เลยยย  :hao5:  :ling1: :ling1:
พี่ยะห้ามแต่งงานนะขอร้อง สงสารพระจัน ทำไมมันกดดันเยี่ยงนี้ สงสารพี่ยะด้วย โอยยย กดดันแทน  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เออออ ถ้ามันลำบากนักก็แต่งไป แล้วปล่อยน้องไปเท่านั้นจบ อย่ามาทำตัวเป็นหมาหวงก้างเห็นแก่ตัว เก็บน้องไว้ในฐานะเมียเก็บ

รำคาญพี่ยะมากจริงๆ ความรักของพี่มีแต่ความเห็นแก่ตัว ทำน้องเสียใจเท่าไหร่ บอกจะดูแลปกป้องรักไม่ให้เสียใจ แต่ไม่ว่าอะไรก็ทำน้องเสียน้ำตาเสมอ

พูดเลย ว่าตอนนี้เริ่มเกลียดพี่ยะจริงๆ

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
จะแต่งก็แต่งไปเลยรำคาญ แล้วกรุณาเลิกยุ่งกับพระจันทร์ด้วยนะอย่าหวงก้าง เหม็นขี้หน้าหาคู่ให้พระจันทร์ใหม่ดีกว่า ชิส์!!!!

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
เชียร์ให้พี่ยะแต่งงานกับหงส์ไปเลย    จะได้ให้พระจันทร์แต่งงานกับมังกร

 
 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด