บนเตียงสี่เสาที่มีผ้าขาวบางคลุมอยู่มีร่างผอมโซของเหวินจิ้งนั่งทับส้นเท้าก้มหน้ามองเตียงอยู่เงียบๆ มังกรถอดเสื้อสูทตัวนอกออกได้ก็โยนทิ้งส่งๆไปบนโซฟา ก่อนจะสาวเท้าเดินขึ้นไปนั่งลงบนเตียงแล้วหันหลังได้กับคนที่ยังก้มหน้างุด ได้ยินคำสั่งของสุริยะมณฑลที่เอ่ยปากบอกพระจันทร์แล้วอยากลองทำบ้าง เพราะตั้งแต่ที่เขาจับตัวอีกฝ่ายมาตั้งแต่คืนวันแรกจนถึงวันนี้ พวกเขาไม่เคยมีกิจกรรมอื่นๆทำร่วมกันเลย...นอกจากอีกฝ่ายโดนเขาบังคับกินข้าว...แล้วก็บังคับกอด
วันนี้เขาจะลองบังคับเหวินจิ้งทำอย่างอื่นบ้าง...ให้นวดก็คงไม่เลว
“นวดให้หน่อย...กินอาหารมาแล้วน่าจะมีแรงขึ้นนะ...” มังกรเอียงศีรษะซ้ายขวาคล้ายต้องการไล่ความเมื่อยขบ สองแขนเท้าเอนไปด้านหลังทางที่คนตัวผอมยังนั่งนิ่งอยู่ แต่กระนั้นก็ไม่มีปฏิกริยาอะไรตอบกลับมาตามคำสั่ง
“บอกให้นวดให้ไง...หรืออยากโดนฉันนวด แต่รับรองว่าฉันจะไม่นวดให้แค่ข้างนอกหรอก ฉันจะเอาไอ้นี่เข้าไปนวดให้นายถึงใจเลย...อยากลองอีกใช่มั้ย” มังกรเอ่ยปากขู่พลางตบลงที่หน้าขาตัวเองเยื้องๆกับเป้ากางเกง ซึ่งอีกฝ่ายที่นั่งนิ่งอยู่ด้านหลังมีอาการสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่ลาดไหล่ของมังกรจะรู้สึกเหมือนมีอะไรแผ่วๆมาจับ แล้วก็ลูบไปลูบมาช้าๆ ไม่มีการลงน้ำหนักมือให้รู้สึกถึงการนวดใดๆทั้งสิ้น
“บอกให้นวดไม่ใช่ให้จับอยู่เฉยๆ ไม่ลงแรงเลยแบบนี้แล้วฉันจะหายเมื่อยมั้ย...” มังกรเอ่ยบอกแบบเลือกใช้น้ำเสียงแนวฉุนเฉียว อีกฝ่ายเพียงลงน้ำหนักมือขึ้นมาอีกเล็กน้อยแต่ก็ทำเพียงจับๆแตะๆไปมาเท่านั้น
ชายหนุ่มแสร้งเป็นเอนหลังอยู่แบบนั้นครู่หนึ่งก็พลิกตัวฉับ ตัดสินใจนอนยาวคว่ำหน้าราบลงไปกับเตียง แต่เอาศีรษะไปซุกไว้ตรงหน้าตักของอีกฝ่าย เอื้อมแขนสองข้างออกไปโอบเอวอีกคนเอาไว้แน่นแล้วเอ่ยสั่งเสียงอู้อี้กับหน้าท้องบางเฉียบที่ตัวเองซุกหน้าเอาไว้ว่า
“ถ้านอนอย่างนี้น่าจะนวดถนัดกว่านะว่ามั้ย เอาล่ะ นวดแรงๆกว่านี้หน่อย ลงแรงที่นิ้วโป้งเยอะๆ ใกล้ๆตรงปีกไหล่ซ้ายน่ะที่ฉันเมื่อยมาก...นวดแรงๆล่ะอย่ามัวแต่สำออยกลัวฉันเจ็บอยู่...” มังกรปิดตาลงพลางผ่อนแรงลงทับอีกฝ่ายเต็มที่ เหวินจิ้งอยากหากรรไกรหรืออะไรก็ได้แหลมๆมาแทงคนบนตักนัก แต่ติดที่เขาขยับออกไปไหนไม่ได้ ขาก็โดนทับ หนักก็หนักแต่ก็ไม่กล้าออกปากทักท้วง กลัวจะโดนอะไรที่มันจะทำให้ต้องเจ็บตัวปวดใจกันอีก
...ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...“...คุณลูน่ามาครับ” เสียงบอดี้การ์ดหน้าห้องตะโกนบอกเป็นภาษาจีนกลาง มังกรที่กำลังนอนเคลิ้มหลับสบายลืมตาขึ้น แล้วเงยหน้ามองเจ้าของตักที่เขากำลังซุกซบอยู่ ก่อนจะค่อยๆยืดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วจัดคอปกเสื้อให้เรียบร้อย
“ฉันจะออกไปข้างนอก ส่วนเธอก็ไปอาบน้ำรอฉันกลับมา อย่าเพิ่งนอนนะเดี๋ยวฉันจะกลับมาให้เธอนวดต่อ...” ชายหนุ่มลุกยืนริมเตียงเต็มความสูง มองร่างผอมที่ยังนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาตอบโต้อะไรเขาแล้วก็เผลอถอนหายใจเบา จะกลัวอะไรเขานักหนาก็ไม่รู้ เพราะตั้งแต่วันที่เขาจับโกหกไอ้ผู้ชายคนนั้นได้ว่าที่จริงแล้วมันเองก็ถูกจ้างมา ให้บอกกล่าวว่าเหวินจิ้งเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังและวางแผนการณ์ทั้งหมด เขาก็หยุดทำร้ายและเค้นคอให้เหวินจิ้งสารภาพผิดมานานแล้ว แต่ที่ยังไม่ยอมปล่อยให้ไป ทั้งที่เขาเองก็โดนบิดาฝ่ายตรงข้ามหมายหัวแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอิทธิพลเพียงพอสู้เขา ก็เพราะอะไรบางอย่างมันทำให้เกิดความรู้สึกไม่อยากจะปล่อย สังหรณ์ลึกๆมันบอกว่าถ้าเขายอมปล่อยมือแค่สักครั้ง โอกาสที่จะได้มันกลับคืนมาให้เขาเล่นด้วยเอาตามแต่ใจแบบนี้อีกคงไม่มี
ที่หน้าห้องมีร่างของพระจันทร์ยืนอยู่ ท่าทางที่ยืนหันหลังและเอามือจับกันไปมาคล้ายอาการคนคิดไม่ตก ทำเอามังกรอมยิ้มมุมปาก แอบย่องเข้าไปด้านหลังร่างบอบบางแล้วเอามือจี๋เอวเบาๆ แค่นั้นก็ทำให้ตัวคนคิดมากสะดุ้งเฮือกแล้วหันขวับกลับมามองเขาด้วยความตกใจ
“พี่กร! ทำอะไรครับผมตกใจนะ...” พระจันทร์เอ่ยบอก หันขวับไปเจออีกคนยืนอมยิ้มกริ่มมองเขาอยู่ก็พาลอยากเอื้อมมือไปหยิกต้นแขนเขานัก ทว่าปฏิกริยาของพระจันทร์คงจะไวไปนิดมือบางเลยยกตีเพี๊ยะเบาๆที่ต้นแขนตามที่คิดทันที
“โอ๊ย ตีพี่ทำไม เจ็บนะครับ...”
“พี่กรทำกับคุณเหวินจิ้งเจ็บกว่านี้อีก โดนแค่นี้ไม่ต้องมาบ่นว่าเจ็บเลย...” พระจันทร์เอ่ย แอบชะเง้อชะแง้มองเข้าไปในห้องเพื่อมองหาอีกคน อยากรู้นักว่ากลับห้องมาแล้วเป็นยังไงบ้าง
“มองหาใคร” มังกรถาม จงใจค่อยๆปิดประตูห้องตัวเองเสีย
“พี่กรไม่ต้องปิดจันทร์เลยนะครับ พี่กร...จันทร์ว่าเรื่องตอนนั้นคุณเหวินจิ้งเขาอาจไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยจริงๆก็ได้นะครับ วันนี้จันทร์ได้คุยกับเขาแล้ว จันทร์ว่าจันทร์ดูออก...เขาไม่ได้โกหกหรอก” มังกรถอนหายใจเฮือก เอามือไปขยี้ผมพระจันทร์เบาๆแล้วเอ่ยตอบ
“พระจันทร์...เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่จัดการเองดีกว่านะครับ ส่วนเราน่ะกลับไปอาบน้ำนอนเถอะไป”
“พี่กร จันทร์มีส่วนที่ทำให้คุณเหวินจิ้งเขาต้องเป็นแบบนี้...”
“ต้องเป็นแบบนี้...เป็นแบบไหน”
“ไม่ต้องมาย้อนถามจันทร์เลย พี่ปล่อยให้คุณเหวินจิ้งเขาเป็นอย่างนี้ได้ยังไง เขาผอมจะแย่แล้วไม่เห็นหรือครับ” ถือโอกาสต่อว่าแทนคนที่ตัวเองเลื่อนขั้นให้ขึ้นเป็นเพื่อนเรียบร้อย เพราะความสงสารแท้ๆที่ทำให้พระจันทร์ยอมขัดคำสั่งพี่ยะ แอบออกมาจากห้องเพื่อมาเจรจาให้แทนเพื่อนใหม่อยู่แบบนี้
“แล้วใครสั่งให้ไม่ยอมกินข้าวล่ะ กับข้าวดีๆพี่ก็เอาให้กินทุกมื้อ แต่เขาไม่ยอมกินเองนี่ พี่บังคับแล้วด้วยนะจันทร์ไม่ต้องมามองพี่อย่างนั้นเลยนะ”
“จันทร์กำลังมองคนใจร้าย...ก็พี่เคย...เอาอะไรใส่ในข้าวให้คุณเหวินจิ้งทานล่ะ เขาก็เลยฝังใจ ไม่ยอมทานอาหารที่พี่เอาให้เขาอีกยังไงล่ะครับ วันหลังนะพี่ให้คุณเหวินจิ้งมาอยู่กับผมเถอะนะครับ แล้วผมจะหาอะไรให้เขาทานเอง จันทร์สงสารเขา...” มังกรดูออกว่าอีกฝ่ายคงเป็นห่วงคนที่อยู่ในห้องเขาจากใจจริงๆ เพราะแววตาของพระจันทร์ไม่เคยปิดอะไรได้มิด เจ้าตัวคิดอย่างไรก็สื่อออกมาหมดทั้งคำพูดและดวงตากลมหวานนั่น
ส่วนคนในห้องนี่ก็น่าจับปากมาทำโทษนัก...โทษฐานมันบางและเปราะเกินไป รั่วเรื่องอะไรไม่เป็นเรื่องเสียหมดเปลือก จนเขาต้องมาโดนพระจันทร์เอ็ดใส่อยู่แบบนี้
“หึ...ช่างเถอะจันทร์ เราน่ะเอาตัวให้รอดก่อน กลับห้องไปได้แล้ว...เดี๋ยวเจ้าของเราเขาจะออกมาเด็ดหัวพี่ด้วยจุดสามเจ็ดเอา”
“แต่...”
“ไม่มีแต่...กลับไปได้แล้วคนดี” พร้อมกับที่พูดมังกรก็ใช้มือดันหลังคนตัวเล็กกว่าให้เดินกลับไปทางห้องตัวเอง พระจันทร์ยังมีอาการพะว้าพะวงคอยหันกลับมามองทางเขา แต่ชายหนุ่มก็รีบถือโอกาสนั้นเดินกลับเข้าห้องแล้วปิดประตูให้เห็นจะจะว่าเรื่องนี้...เป็นเรื่องไร้สาระที่พระจันทร์ไม่สมควรจะยื่นมือเข้ามายุ่ง
พระจันทร์ยังมีอาการเหลียวตามองจนวินาทีสุดท้ายแม้ว่ามังกรจะหายเข้าห้องไปนานแล้ว จนเมื่อตัวเองเดินถอยหลังกลับเข้าห้องที่ตี้เฉินเปิดรอไว้ก็ต้องชะงักเท้าอยู่แค่ธรณีประตู เมื่อแผ่นหลังของเขาสัมผัสเข้ากับกำแพงแข็งแกร่งที่มันไม่น่าจะมีอยู่ตรงนี้ได้
กลิ่นหอมสบู่ที่โชยออกมาอ่อนๆทำให้พระจันทร์นึกรู้ทันทีว่ากำแพงที่อยู่ข้างหลังเขานั้นมีชีวิต และเป็นสิ่งมีชีวิตที่เขาคุ้นเคยและรู้จักดีถึงขนาดที่ว่าใช้สบู่ยี่ห้อเดียวกัน กลิ่นเดียวกันเสียด้วย แต่บรรยากาศกดดันที่กระจายห้อมล้อมอยู่รอบตัวเขาตอนนี้ทำให้เด็กหนุ่มไม่อยากที่จะหันหน้ากลับไปเผชิญกับเจ้าตัวเขาเลยจริงๆ
“...พี่สั่งเอาไว้ว่ายังไง” น้ำเสียงติดเย็นชาถามออกมาแผ่วเบา เพียงต้องการให้ได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น
“...เอ่อ จันทร์แค่ออกไป...”
“ตอบไม่ตรงคำถาม...” สุริยะมณฑลอยากเอามือไปกระชากไหล่อีกคนมาเขย่าแล้วถามนัก ว่าเอาความกล้าที่ไหนมาขัดคำสั่งของเขา สุริยะมณฑลรู้สึกเหมือนเขามีเมีย แล้วเมียแอบหนีไปหาชู้อย่างไรอย่างนั้น...แถมยังทำให้สามีอย่างเขาจับได้คาหนังคาเขาเสียอีก...
อยากรู้จริงๆว่าสามีคนอื่นเขาลงโทษภรรยาแสนดื้อแบบนี้กันยังไง...แต่ช่างเถอะ เขาจะไม่ตามใครหรอก เพราะเขาเองก็มีวิธีจัดการปราบเด็กดื้อในแบบฉบับของเขาเหมือนกัน
“เอ่อ...คือจันทร์...”
ตั้งใจว่าจะอดทนไม่แตะต้องเนื้อตัวจนกว่าอีกฝ่ายจะแสดงท่าทีสำนึกผิด แต่ไอ้อาการไม่ยอมหันมาสบตาและพยายามจะนอกเรื่องนี่มันทำให้เขาหงุดหงิดจริงจังขึ้นมาเสียแล้ว ชายหนุ่มเอามือเกี่ยวเอวพระจันทร์แล้วดึงให้หันหน้ามาสบตาตัวเอง ท่อนแขนเล็กยกมากั้นบนอกเขาโดยอัตโนมัติ สุริยะมณฑลจึงเอาชนะด้วยการเอาแขนโอบรอบเอวพระจันทร์ทั้งสองข้างแล้วรัดแรงๆ เมื่อก่อนเขาไม่ค่อยทำแบบนี้เพราะกลัวเอวบางๆของพระจันทร์จะหักกลางเอา แต่อารมณ์ ณ เวลานี้มันทำให้เขามองข้ามความเป็นห่วง คิดอย่างเดียวคือจะทำยังไงเขาถึงจะเอาคนดื้อนี่อยู่หมัด เอาสิยิ่งดันออกเขาก็จะยิ่งรัด เอาให้ขาดใจตายสลายกลายเป็นร่างเดียวกับเขาได้ก็ยิ่งดี
“พะ...พี่ยะ จันทร์...อึดอัด...” เด็กหนุ่มร้องครางหงิง ช้อนสายตาขึ้นเหลือบๆมองคนที่กอดเขาแน่น แต่ไม่มีความอบอุ่นเลยซักนิด พระจันทร์อยากรู้จริงๆว่าที่กอดเขาอยู่นี่มันท่อนแขนหรือท่อนเหล็กกันแน่ เอวเขาเป็นเนื้อคนนะ คิดจะกอดให้ขาดกลางเลยรึยังไง...เขาก็เจ็บเป็นนะ
“พี่ยะ...ปล่อย...บอกว่าจันทร์...อึดอัด...” เด็กหนุ่มร้องบอกอีกทีเมื่อคำอุทธรณ์ครั้งแรกนั้นไม่ได้ผล แต่ทว่าก็ดูเหมือนคำร้องครั้งที่สองก็คงจะตกไปไม่ต่างจากครั้งแรก เพราะอีกฝ่ายเพียงปรายตามองเขาอย่างโกรธๆแล้วเพิ่มแรงที่แขนลงบนเอวเขาเท่านั้น
“...พี่ก็อึดอัดเหมือนกัน ตอนที่จันทร์ไปคุยกับมัน...” สุริยะมณฑลเอ่ย รู้สึกได้เลยว่าน้ำเสียงเขาส่งอารมณ์ขุ่นมัวออกไปเต็มที่ ดวงตากลมโตของพระจันทร์ออกอาการไหวระริกตอนที่ได้ยินเขาพูด ก่อนจะก้มหน้าลงมองแขนตัวเองที่ดันอกเขาเอาไว้ แล้วพึมพำคำขอโทษกับเขาเบาๆ
“ถ้าอยากให้ยกโทษให้ก็เงยหน้ามา...”
“ห๊ะ...” เสียงเล็กอุทาน
“เงยหน้า...หลับตาด้วย...” คนสั่งก็ยังคงสั่งต่อไป
พระจันทร์มีอาการขมวดคิ้วแล้วเงยหน้ามอง ตั้งใจจะออกปากถามคนออกคำสั่งว่าต้องการให้เขาทำอะไรกันแน่...แต่คำตอบก็เฉลยต่อตาเมื่อเด็กหนุ่มไม่ยอมหลับตาตามคำสั่ง จึงได้เห็นชัดทุกวินาทียามเมื่อใบหน้าอีกคนก้มลงมาใกล้ จนถึงขนาดที่ระยะสายตาหาจุดโฟกัสไม่เจอ และในขณะที่เผลออยู่ริมฝีปากของเขาก็ถูกช่วงชิงเอาไปได้อย่างง่ายดาย
“อื๊อ...!” พระจันทร์ตั้งท่าจะร้องประท้วง แต่กลีบปากที่บดลงมาค่อนข้างแรงแสดงชัดจึงอารมณ์คุกรุ่นของผู้นำการกระทำ การขบริมฝีปากล่างของเขาเป็นการกระทำที่เจ้าตัวพยายามจะข่มให้เด็กหนุ่มยอมเสียแต่โดยดีถ้าไม่อยากเจ็บตัว กำปั้นมือน้อยสองข้างที่ยกขึ้นขัดขืนจึงค่อยๆผ่อนแรงลงวางบนแผงอกเบาๆ และยอมเอียงศีรษะไปตามมุมที่มือใหญ่กำหนดผ่านการบังคับท้ายทอยของเขา
พระจันทร์หลับตาลงยอมรับการลงโทษที่ทั้งเจ็บปวดและแสนหวานไปพร้อมๆกันด้วยความเต็มใจ สองตาหลับลง พยายามบังคับตัวเองไม่ให้ขัดขืนคนตัวใหญ่กว่าเพราะอาจจะทำให้โดนอะไรที่มันหนักหนากว่านี้ก็ได้ เพราะช่วงบริเวณหน้าท้องของเขารู้สึกร้อนผ่าวแปลกๆอย่างไรไม่รู้ ก็กางเกงนอนผ้าแพรของอีกคนมันหนามากเสียที่ไหน อะไรๆที่มันตุงๆเลยพลอยออกมาอวดศักดาโดนหน้าท้องเขาไปด้วย
สุริยะมณฑลสูดดมกลิ่นหอมคล้ายนมสดปนคาราเมลจากผิวเนื้อนุ่มพลางละเอียดชิมริมฝีปากนุ่มๆเสียจนเต็มอิ่ม พอเห็นอีกฝ่ายไม่มีขัดขืนก็ยิ่งได้ใจ ชายหนุ่มจึงรุกคืบเข้าไปในโพรงปากนุ่มด้วยความลำพอง ที่ผ่านมาถึงเขาจะเคยจับพระจันทร์จูบมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยจัดแบบลึกซึ้งขนาดนี้ให้เลยซักที แถมครั้งนี้เด็กหนุ่มยังทำตัวเป็นผู้ตามที่ดีจนสุริยะมณฑลชักจะหยุดอารมณ์ตัวเองให้ยับยั้งอยู่แค่จูบไม่ค่อยจะไหว ต้องขอเพิ่มการชิมรสเนื้อหอมนุ่มส่วนอื่นบ้างด้วยฝ่ามือหยาบใหญ่ของตัวเอง เบื้องล่างเริ่มปวดหนึบตุบๆเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าถ้าเขาไม่รีบหยุดตัวเองในตอนนี้ ไม่แน่ว่าคืนนี้พระจันทร์คงจะโดนเขารังแกแบบจัดเต็มเข้าให้แน่ๆ
ริมฝีปากหนาร้อนผ่าวของผู้รุกรานค่อยๆเปลี่ยนที่ชิมจากริมฝีปากมาเป็นสองแก้มขาว กดย้ำซ้ำๆจนจำได้ถึงระดับความนุ่มของพวงแก้ม แล้วจึงค่อยพาริมฝีปากเลยไปที่ใบหู เขารู้สึกได้ถึงขนอ่อนที่ลุกชันของคนตัวบางบริเวณติ่งหูนุ่มนิ่ม...ตรงนี้ก็หอมไม่แพ้ที่แก้มเลย...ในสมองเริ่มประมวลภาพบทเรียนถัดไปที่ตัวเองอยากจะเริ่มสอนให้เต็มแก่ ในขณะที่มือก็ดึงเอวบางของอีกคนมาปะทะแล้วใช้ฝ่ามือบังคับให้มันเสียดสีกันเองอย่างร้อนรน
“พี่ยะ...อย่า...นะ...ไม่เอา...” พระจันทร์คอยพยายามขัดขืน แน่ใจว่าเสียงตัวเองที่ลอดผ่านลำคอนั้นดังพอที่อีกฝ่ายจะรับรู้ได้...แต่สิ่งหนึ่งที่พระจันทร์ไม่รู้ ก็คือเสียงที่ว่านั่นดันไปกดปุ่มอารมณ์ของคนพยายามจุดชนวนผิด จากปุ่มสต๊อปกลายเป็นฟอร์เวิร์ดไปเสียอย่างนั้น...ผลที่ได้ตามมาสุดท้ายเลยกลายเป็นแผ่นหลังนวลเนียนของพระจันทร์ ที่ต้องไปนอนราบอยู่บนที่นอนได้อย่างไรก็ไม่รู้
“อย่าห้ามพี่เลยนะ...พี่ทนไม่ไหว...พี่รับไม่ได้ ที่เห็นจันทร์โดนไอ้กรมันแตะต้อง...พี่หวง...คนดีของพี่...นะครับ...” น้ำเสียงเว้าวอนแสนกระเส่าที่กระซิบอยู่ข้างหูทำเอาพระจันทร์จนลุกซู่ อารมณ์หวาบหวานภายในกายถูกจุดติดขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกตัว แต่ถึงกระนั้นสำนึกผิดชอบชั่วดีที่ยังมีมากกว่าก็คอยบังคับให้พระจันทร์พยายามห้ามปรามอีกฝ่ายที่ดูท่าว่าจะกู่อารมณ์ไม่กลับ ให้มันยังอยู่ในขอบเขตที่เขาพอจะยอมให้รังแกกันได้เพราะหัวใจไม่รักดีมันคอยค้านบอกให้สมยอม
...จะแปลกอะไร ถ้าเขาจะยอมให้พี่ยะรังแกกันจนถึงที่สุดในตอนนี้ ในเมื่อเขาก็รักอีกคนสุดหัวใจ และอีกฝ่ายก็แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนเช่นกันว่าต้องการเขา...
...แต่ความรักกับความต้องการมันต่างกันนะพระจันทร์...อีกอย่างร่างกายของเขาก็พูดไม่ได้เป็นปากว่าเป็นกายภาพของผู้ชายร้อยเปอเซนต์ ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมา คงจะยุ่งไปกันใหญ่แน่...
...ไม่แน่หรอก วันนี้พี่ยะเองก็เครียดจากเรื่องข้างนอกมาด้วย อะไรที่เราพอจะช่วยผ่อนคลายให้เขาได้เราก็ควรจะทำไม่ใช่เหรอ เราก็เห็นอยู่แล้วนี่ว่าการกระทำที่ผ่านมาของอีกฝ่าย มันบ่งบอกชัดเจนว่าไม่มีทางทอดทิ้งเราแน่...
...แต่อนาคตมันเป็นสิ่งไม่แน่ไม่นอนนะ วันนี้เขาอาจจะเอ็นดูเราอยู่ แต่วันไหนที่เขาเกิดเบื่อเราขึ้นมาล่ะ...
...โอ๊ย พระจันทร์! คิดเล็กคิดน้อยเหมือนเป็นพวกสาวพรหมจรรย์ไปได้ บอกให้ยอมก็ยอมเขาไปซักที คนดูน่ะลุ้นจนเหนื่อยแล้วนะ...!
แองเจิลกับเดวิลน้อยปะทะคารมณ์กันอยู่ในห้วงสติที่เหลืออยู่น้อยนิดของพระจันทร์ จนเมื่อหน้าท้องแบนเรียบเริ่มรู้สึกถึงการไต่ยุบยิบของปลายนิ้วทั้งห้าของคนที่คร่อมอยู่ด้านบน เด็กหนุ่มก็ตัดสินใจได้ทันทีในวินาทีนั้นว่า มันควรจะหยุดลงได้แล้ว ก่อนที่เดวิลตัวน้อยในห้วงความคิดของเขาจะหลุดออกจากการควบคุมของแองเจิลจนปราบไม่อยู่อีกต่อไป
“พี่ยะ! จันทร์พูดจริงๆนะ...พอเถอะ...จันทร์ขอร้อง...” น้ำเสียงเว้าวอนชวนให้สงสารส่งไปกระทบโสตผู้ฟัง แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่คิดจะใส่ใจจึงปัดมันทิ้งแล้วเริ่มกดบั้นท้ายของตัวเองให้แนบชิดอีกฝ่ายมากขึ้น ก่อนจะบดส่ายไปมาจนพระจันทร์ผวา เพราะจินตนาการอันล้ำเลิศของตัวเองมันกะเดาขนาดความใหญ่โตของอีกฝ่ายได้ชัดเจนเสียเหลือเกิน
“พี่ยะ...ถ้าไม่หยุด จันทร์จะต้องให้พี่ตี้ช่วย...” เด็กหนุ่มเริ่มดึงคนนอกมาเกี่ยว เอามือซ้ายมาดึงมือขวาของอีกคนที่ไต่อยู่บนขอบกางเกงของเขาออก แต่กลายเป็นว่าขอบเสื้อของเขาก็ถูกร่นขึ้นมาจนถึงหน้าอกเพราะมือข้างที่ว่างอีกมือของคนอารมณ์ขึ้นแทน
“ร้องไปสิ...ให้มันรู้ไปว่าไอ้ตี้มันจะฟังจันทร์มากกว่าฟังพี่...” ถึงปากจะพูดไปอย่างนั้นแต่ในหัวกลับคิดไปอีกแบบ...ลองไอ้ตี้เปิดประตูเข้ามาตอนนี้สิ ลูกน้องก็ลูกน้องเถอะ เขายิงทิ้งได้แบบไม่เสียดายเลยจริงๆด้วย!...
“พี่ยะ...! จันทร์ขอร้อง...ฮึก...นะ...” อารมณ์ปั่นปวนบีบคั้นความรู้สึกภายในเพราะเริ่มทำอะไรไม่ถูกของพระจันทร์กลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตา ถึงตอนนี้สุริยะมณฑลจะหน้ามืดตามัวแค่ไหน แต่ใช่ว่าเขาจะละเลยไม่ใส่ใจรายละเอียดอาการเล็กๆแบบนี้ของพระจันทร์ไปได้
ชายหนุ่มจงใจขบกัดที่ฐานคอของเด็กหนุ่มแรงๆจนร้องโอ๊ย มั่นใจว่าขึ้นรอยแน่ๆก็ถอยหน้าออกมามองผลงานของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ นึกอยากฝากรอยทิ้งไว้เพิ่มอีกซักหน่อยแต่ก็สงสารเนื้อขาวๆที่ต้องแดงเป็นจ้ำลายพร้อยเหมือนยุงกัด เอาแค่รอยเดียวแต่เน้นชัดๆแบบนี้ก็พอแล้ว...เอาแค่ให้หลาบจำ ว่าคำสั่งของเขาศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่อยากโดนตีตราลงบนผิวนิ่มแบบนี้อีกอีกฝ่ายต้องยอมเชื่อฟังคำพูดของเขาอย่างเคร่งครัด
“ทีนี้เข้าใจรึยัง...ว่าถ้าจันทร์ฝ่าฝืนคำสั่ง ไม่สิ...คำพูดของพี่...เราจะโดนอะไร...แล้วพรุ่งนี้ห้ามใส่เสื้อปิดคอนะ เอาตัวสีครีมคอวีนั่นก็ได้ ได้ยินรึเปล่า...มองหน้าคนพูดสิแล้วตอบรับด้วย...”
“...จันทร์ยอม...ให้พี่ขังอยู่แต่ในบ้านยังดีกว่าอีก...” พระจันทร์เอียงหน้าหันข้างคุย ไม่ยอมทำตามคำสั่งแบบเก็งกำไรของเจ้าพ่อค้าหน้าเลือดนี่
“อืม ไม่ยักรู้ว่าเราจะชอบ...อยากถูกพี่กักขังหน่วงเหนี่ยวเหมือนเหวินจิ้งก็ไม่บอก พี่ทำได้นะ...และพี่คิดว่าพี่ทำได้ดีกว่าไอ้มังกรด้วย...”
“ไอ้พี่ยะ...! โรคจิต...!!!”
เสียงหัวเราะราวมัจจุราชท่านกำลังมีความสุขนักหนาที่ได้กลั่นแกล้งเจ้ากระต่ายน้อยที่โดนดึงตกนรกยังคงก้องอยู่ในหู พระจันทร์เอาผ้าห่มมาคลุมโปงนอนตะแคงหันข้างจนชิดขอบเตียง กัดริมฝีปากเสียแทบห้อเลือด...เจ็บใจนักที่ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะคนขี้แกล้งนี่ได้...ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไม...
ตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนดีที่ไหน มีอารมณ์ความรู้สึกกับคนที่รักไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป จะให้ปัดป้องเหมือนจะเป็นจะตายก็ไม่ใช่เรื่อง...
...เรื่องนี้จะหาตัวคนผิดก็ต้องโทษที่ตัวการใหญ่...อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล...เต้นตุบๆอยู่ตรงอกข้างซ้ายของเขานี่เอง...ทำไมต้องเผลอหลงไปเทคะแนนเสียงความรักให้กับคนคนนั้นเสียขนาดนั้นด้วยนะ...เจ้าบุคคลต้องห้าม ที่ไม่สมควรจะมีรายชื่ออยู่ในสมาชิกผู้ควรได้รับความรักจากเขา...ผู้สมัครรายอื่นก็มี ทำไมไม่รู้จักฟังนโยบายปราศรัยของพวกเขาเสียบ้าง...นี่เล่นหลงลมแค่เพียงเขาเอาความใจดีไม่กี่ครั้งมาแลก...ตัวการใหญ่เจ้ากรรมก็เผลอยอมเสียรักซื้อเสียงของเขาไปแล้ว...
...เมื่อไหร่กันนะ! เมื่อไหร่กันที่จะมีใครซักคนมาทำรัฐประหาร...
...โค่นเจ้าตัวการที่ชื่อว่า ‘หัวใจ’ ของเขาดวงนี้ได้เสียที!...
---------------------------- - - - - - - ------- - - - --- - - ------ - --- -- -
ช่วงนี้ใกล้ไฟนอลแล้ว แพทก็เลยหายหัวไปนานหน่อย อย่าโกรธกันเลยนะที่รัก

เดี๋ยวว่างอีกวันไหนจะแอบเอาน้องผึ้งมาลงบ้าง อิอิ

เจอกันใหม่นะจ๊ะ จุ๊บๆ
