พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END  (อ่าน 780684 ครั้ง)

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
นับวันยิ่งหึงออกหน้าออกตานะพี่ยะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เกลียดพี่ยะแม่งงงงงงง
สงสารพระจันทร์สุดๆๆๆๆ
พี่ยะนิสัยไม่ดี เห็นแก่ตัวไปป่ะ
จั๊ดง้าววววววววว

ออฟไลน์ jitsupa apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ชอบปล่อยให้ฟินเอง รู้ไหมว่ามันค้าง อารมณ์กำลังได้ที่เลย :katai1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สงสารเหวินจิ้ง ส่วนพี่ยะนี่ก็รุนแรงกับน้องจังน๊า

ออฟไลน์ 13smblue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คือแบบว่ามันเป้นตอนที่มีความสุขมากเลย  :กอด1: :กอด1:

แต่ว่า..มันสุขไม่สวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดอ่ะ  :katai1: :katai1:

สู้ต่อไปกะไฟนอล แล้วเราจะไปตั้หน้าตั้งตารอที่หน้าวอล์นะคะ 555

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
มันหน่วงมาก  ทั้งมังกร และพี่ยะ สมแล้วที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกัน  นิสัยเดียวกันเปี๊ยบ คือไม่ฟังเหตุผล เอาแต่ใจ รักมาก แต่ก็ปากหนักมากทั้งคู่เลย   และคนที่น่าสงสารก็จะเป็นเหวินจิ้งและพระจันทร์ เพราะต้องคอยมารองรับอารมณ์

แล้วแบบนี้เมื่อไรมันจะเข้าใจกันนะ   

ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
มังกรไม่เคยทำอะไร แค่บังคับกิน กับบังคับกอดเอง ..โห๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

55555555555555 สวดยอดแล้วพี่เอ๊ยยย

นึกว่าจะลึกซึ้ง...คนแต่งเริ่มเข้าประเด็นหลักล่ะ ความรักที่มีชัดขึ้นมาแล้ว ฮี่ฮี่

รอตอนต่อไปคร๊าบบ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
น่าสงสาร :hao5:

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
หนูน้อยโดนทำโทษ  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
อ่านแล้วหน่วงในใจยังไงไม่รู้สิ
พี่ยะอย่าใจร้อน ฟังน้องก่อนนนนน
ส่วนนายกร ท่าทางจะตกหลุมรักเด็กแล้วสินะแต่ยังไม่รู้ใจตัวเอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
น้องจันทร์ ยอมพี่ยะเถอะ คนอ่านลุ้นตัวโก่งแล้ว นี่พูดจริงนะ

ออฟไลน์ phana_qbz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Chanta

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:เมื่อรัยจะสมหวังซักทีนะคู่นี้ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เหวินจิ้งมันคือทาสรักบำเรอ =_=
ส่วนพระเจ้า นกน้อยในกรงทอง(?)

กรรม ชีวิตพระจันทร์

พี่ยะ เลือกสักทีสิคะ จะลูน่าหรือหงษ์ สักอย่างค่ะ ควบสองไม่ได้ค่ะ
ไม่งั้นคนอ่านจะหาคู่ให้ลูน่านะคะ = 0 =

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
เฮ้อ อ่านแล้วหน่วงมากเลย

เมื่อไหร่ทั้งสองคนจะลงเอยกันนะ

พี่ยะเองก็ยังจัดการปัญหาตัวเองไม่ได้เลย

แล้วจันทร์จะวางใจรักได้อย่างไร

เข้าใจความรู้สึกของจันทร์อ่ะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ตายๆ มันจะเปงไงละนี่ ท้องซะเลยดีมะ><

แล้วให้มีกดหนูลินซะ 555

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ดูท่าว่า มังกร จะหลง เหวินจิ้ง เข้าแล้วซิ

อย่าปล่อยให้หลุดมือละ แล้วก็ดูแล เหวินจิ้ง เค้าให้ดีด้วยละ

ส่วน พี่ยะ ก็บอก จันทร์ไปได้แล้วว่า รักน้องอ่ะ

อมพะนำอยุ่นั้นแหละ เซ็งแทน จันทร์ เลย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกมึนๆ อึนๆ เบลอๆ เอ๋อๆ พิกล

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
สงสารเหวินจิ้ง มังกรรู้สึกอย่างไรกับเหวินจิ้งกันแน่ ทำไมถึงทำแบบนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
แล้วพระจันทร์จะทำงัยอะ ถ้าพี่ยะแต่งงานอะ

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
สงสารพระจันทร์อ่ะ ยิ่งถ้ารู้เรื่องที่ถูกเร่งแต่งงาน น้องจะเป็นไงบ้างเนี่ย

ออฟไลน์ justlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :mew1: อยากให้มีช่วงหัวใจโดนปฏิวัติชั่วคราวก็ยังดี จะสมน้ำหน้าพี่ยะ  :mew2:

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
นับวันจะยิ่งเกลียดอิพี่ยะขึ้นเรื่อยๆ

ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สวัสดีค่ะ เพิ่งมาอ่านครั้งแรก ฝากตัวด้วยน่ะค่ะ :katai3:
อ่านรวดเดียวถึงตอนปัจจุบัน เล่นเอาเกือบเช้าเลยทีเดียว
เลยนอนพักแล้วตื่นมาเม้นนี่แหละค่ะ
สงสารพระจันทร์อ่า TT^TT :katai1: :heaven
อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยอ่ะ ตรงประโยค ไม่ใช่ไม่รัก แต่รักไม่ได้ ฮือออออออออออออ
สงสาร จริงๆพี่ยะ ก็รัก แต่ก็น่ะผลประโยชน์
ขอให้พียะแก้ไขสถานการณ์ได้เร็วพลัน
มิฉะนั้น จันทร์จะหนีไปน้าาา><
เป็นกำลังใจให้จ้า อัพต่อน้าๆๆๆ
ps.เดี๋ยวแว๊บบบไปอ่านน้องลินให้จบก่อนน้า^^

ออฟไลน์ Vavaviz

  • oONaMMOo
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-4
สงสารพระจันทร์

เมื่อไร่จะมีความสุขจริงๆสักทีน้าาา~

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
พันธนาการ...รัก #22



            พระจันทร์ยื่นหน้าออกไปนอกระเบียงเรือเพื่อสูดเอาอากาศแสนสดชื่นของเช้าวันใหม่เข้าปอดให้ลึกที่สุด เขารู้สึกและสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์ในอากาศที่เข้าไปในร่างกาย ซึ่งมันช่วยให้เขากระปรี้กระเปร่าขึ้นได้มาก ชายหนุ่มเดินลากมือไปตามราวระเบียงเรือแล้วเดินเลียบต่อไปเรื่อยๆ แวะชมกำแพงต้นไม้ที่ออกดอกสีขาวปนชมพูสลับสีม่วงเข้มแซมเล็กๆอย่างน่ารัก หยาดน้ำค้างยามเช้าเกาะพราวตามใบสีเขียวเข้มเพิ่มความระยิบระยับจนพระจันทร์อดไม่ได้ ที่จะแอบหยิบโทรศัพท์มือถือราคาแสนแพงของตัวเองออกมากดรูปเก็บไว้ดูย้อนหลัง ในศีรษะนึกถึงเฟรมเปล่าและขั้นตอนการผสมสีอะคริลิกออกมาเป็นสีต่างๆให้เสมือนจริงที่สุด

           ...ขาวกับชมพูนี่ก็พอไหว แต่สีม่วงเข้มปนน้ำเงินสวยๆแบบนี้ กว่าจะผสมจนออกมาจนได้ถูกใจคงจะยุ่งยากไม่น้อย...แต่คนที่รักการวาดภาพอย่างพระจันทร์ก็คิดว่าขั้นตอนนี้ไม่ใช่ขั้นตอนที่ลำบากอะไรนัก ออกจะสนุกมากเสียด้วยซ้ำที่ได้เห็นสีในจานสีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนได้เล่นมายากล
 
           เด็กหนุ่มชื่นชมธรรมชาติยามเช้าด้วยความอารมณ์ดีอยู่ครู่หนึ่งก็ต้องสะดุ้งตัวขึ้นมากะทันหัน เมื่อรู้สึกเหมือนมีคนเอานิ้วมาจิ้มอยู่ที่ไหล่ของเขาเบาๆ เด็กหนุ่มรีบหันขวับไปมอง จึงได้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มกับผมสีดำสนิทยาวสลวยของผู้หญิงคนหนึ่งยืนยิ้มให้อยู่ด้านหลัง

“...ชอบดอกดรังค์เก็นเซลเลอร์เหมือนกันเหรอคะลูน่า...” เสียงหวานใสเอ่ยถามทักทาย

“คุณหลิน!” ส่วนพระจันทร์ก็เอ่ยตอบกลับเป็นชื่อของสาวเจ้า ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้เจ้าของชื่อยิ้มกว้างสดใสกลับมา ดีใจที่ผู้ชายตรงหน้าจำชื่อของตนได้

“ค่ะ...หลินเอง...หลินชอบกลิ่นของมันนะคะ...จำได้ว่าเคยเห็นที่ไทยด้วย แต่จำชื่อไทยไม่ได้แล้ว...”

“เอ่อ...มันคือ...ดอกเล็บมือนางครับ”

“อ๋อ ค่ะ...นี่หลินก็เดินตามกลิ่นมันมาจนเจอลูน่านี่แหละ โชคดีจังเลยนะคะ...” หญิงสาวพูดพร้อมยิ้มหวานส่งให้ พระจันทร์ยิ้มรับก่อนจะตอบออกไปว่า ‘ครับ’ คำเดียว เพราะไม่รู้จะพูดอะไรมากไปกว่านั้นดี

“เอ้อ...เจอตัวแล้วก็ดีเลย หลินจะได้เอาของคืนให้คุณซักที นี่หลินเอาพกติดตัวไว้ตลอดเลยนะคะ เพราะคิดว่าเผื่อเราบังเอิญเจอกันจะได้เอาคืนให้...แล้วนี่ลูน่ามาร่วมงานที่นี่กับใครเหรอคะ ใช่...ผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า”

             ถึงอี้หลินจะไม่พูดชื่อออกมา พระจันทร์กพอเดาออกว่า ‘ผู้ชายคนนั้น’ น่ะคือใคร...

“ก็...ครับ” พระจันทร์ตอบรับ

“ว้า...นี่เป็นแฟนกันจริงๆเหรอคะเนี่ย หลินก็นึกว่าหลินยังพอมีหวังเสียอีก” หญิงสาวพูดพร้อมทำหน้าน่าเสียดายได้อย่างน่าเอ็นดูที่สุด พระจันทร์มองอาการนั้นแล้วก็รีบบอก

“เปล่าครับ...ผมกับเขาเราไม่ได้เป็นแฟนกัน แค่พี่น้อง...” ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าคำว่า ‘มีหวัง’ ของหญิงสาวนั้นหมายถึงตัวเองหรือสุริยะมณฑลกันแน่

“...พี่น้อง? หลินว่าไม่ใช่นะ สายตาที่เขามองคุณหลินดูแว่บเดียวก็รู้...เขาคิดเกินพี่เกินน้องกับลูน่านะ...” หญิงสาวเอ่ยพลางเริ่มออกเดินช้าๆไปพร้อมกับพระจันทร์ ที่เดินเยื้องซ้ายมาด้านหลังหญิงสาวเล็กน้อย

“คุณหลินคงตาฝาด...เขามีคู่หมั้นอยู่แล้วครับ เขาจะมาคิดอย่างนั้นกับผมได้ยังไง...” เด็กหนุ่มเอ่ยอธิบายเพิ่มเติม สายตาหลุบมองต่ำไปที่ชายผ้าพันคอของตัวเอง

              ...เมื่อคืนเจ้าตัวเขาสั่งให้เขาใส่เสื้อคอวีสีเทา เขาก็ใส่ตามคำสั่ง...แต่ไม่ได้ห้ามเอาไว้นี่ว่าห้ามใส่อย่างอื่นเพิ่มอีก...ผ้าพันคอบางๆสีฟ้าตุ่นๆเลยกลายมาเป็นเครื่องประดับอีกชิ้นบนร่างกายพระจันทร์ในเช้านี้...

“ลูน่าคงจะไม่รู้...วงการนี้นะคะ เขาแยกคำว่าคู่หมั้นกับแฟนออกจากกัน...คู่หมั้นก็คือคู่หมั้น หมั้นได้ก็ถอนได้...แต่แฟนคือภรรยา ผู้หญิงคนเดียวของพวกมาเฟีย...เลิกไม่ได้หรอกค่ะมันผิดกฎ” หญิงสาวเอ่ยอธิบาย เรียวขายาวสวยที่โผล่พ้นชายกระโปรงผ้าเนื้อหนักเดินทอดน่องช้าๆไปตามทางเดิน สูดลมหายใจเก็บกลิ่นน้ำที่ลอยมาตามลมเข้าปอดลึกๆ พระจันทร์เห็นอย่างนั้นก็เลยทำบ้าง สูดลมหายใจลึกๆแล้วผ่อนออก...มันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้เยอะเหมือนกันนะ...

“กฎ? กฎอะไรเหรอครับ...” พระจันทร์ถามเพียงเพื่อต้องการจะสานบทสนทนาต่อ ไม่ได้มีความอยากรู้จริงจังในสิ่งที่สาวเจ้าเอ่ยมาซักนิด...เพราะทำใจไว้ตั้งแต่ได้ยินคำว่า ‘ภรรยา’...คำที่พจนานุกรมส่วนตัวของเขาบัญญัติให้กับผู้หญิงในตำแหน่งคู่หมั้นตัวจริงของสุริยะมณฑลเท่านั้น

“ก็กฎใต้ดินไงคะ...มันไม่ได้ถูกทำเป็นลายลักษณ์อักษร แต่อาศัยศักดิ์ศรีขององค์กรเป็นเครื่องค้ำประกัน...บุคคลพวกนี้นะคะ เขาจะรักกันเหมือนพี่น้อง เหมือนเป็นครอบครัว ไม่ว่าจะผิดจะถูกก็ต้องเข้าข้างคนของตัวเองเอาไว้ก่อนเสมอ...ต้องเคารพตำแหน่งกันอย่างเคร่งครัด ใครตำแหน่งต่ำกว่าต้องเคารพผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าแบบไม่มีเงื่อนไข...”

“เงื่อนไข...?”

“เงื่อนไขที่ว่าหลินหมายถึงพวกอายุ วุฒิภาวะ หรือการศึกษาน่ะค่ะ เพราะคนระดับสูงบางคนก็อายุยังน้อย การศึกษาอาจจะจบมาต่ำกว่า ทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ...แต่เพราะกฎข้อนี้ ทำให้มาเฟียบนเกาะฮ่องกงแห่งนี้ไม่มีปัญหามากเหมือนพวกที่ซิซิลีหรือลาสเวกัสไงคะ” หญิงสาวหันมองคนข้างตัว พอเห็นว่าผู้ฟังทำสีหน้าเหมือนว่าเข้าใจพร้อมยิ้มบางๆส่งให้หล่อนสาวเจ้าก็พูดต่อ

“แต่สิ่งสำคัญที่สุดในบรรดาทุกกฎใต้ดินก็คือ...ความซื่อสัตย์ค่ะ...ถ้าภายในองค์กรด้วยกันเองไม่มีความซื่อสัตย์ให้กันแล้วล่ะก็เท่ากับเกิดหายนะเลยนะคะ ใครที่ทรยศหักหลัง โทษสถานเดียวที่จะได้คือตาย...ต้องตายแบบหาศพไม่เจอด้วยนะคะ จะได้ไม่มีใครเอาศพไปทำพิธีให้ วิญญาณของคนที่ตายก็จะได้ทนทรมานกันไม่จบไม่สิ้น...โหดเนอะ” ท้ายประโยคหญิงสาวหันมามองคู่สนทนา พระจันทร์ขนลุกตั้งแต่ที่สาวเจ้าเอ่ยอธิบายวิธีลงโทษคนทรยศหักหลังแล้ว มันโหดร้ายเกินกว่าที่ผู้หญิงหน้าตาสวยๆแบบอี้หลินจะมายืนเล่าให้เขาฟังได้ด้วยหน้าตาเฉยเมยเหมือนกำลังบรรยายพวกดินฟ้าอากาศทั่วไปให้เขาฟังแบบนี้

“...ก็เพราะอย่างนี้ไงคะ มาเฟียทุกคนจะต้องเริ่มมีความซื่อสัตย์ให้กับคนที่บ้านตัวเองก่อน พวกเขาต้องมีภรรยาหรือคนที่รักแค่คนเดียว คู่หมั้นหรือคู่แต่งงานเขาไม่นับเพราะถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับพวกผลประโยชน์...แต่คู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันที่บ้านต่างหากที่สำคัญที่สุด...”

             พระจันทร์ฟังที่อี้หลินเล่าแล้วก็อยากจะเอ่ยปากค้าน แต่พอเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจที่เจ้าตัวแสดงออกมาหลังพูดจบก็ทำให้พระจันทร์กลืนคำพูดกลับลงคอ นิ่งสงบพร้อมเสสายตาออกไปจ้องท้องทะเลภายนอกเรือแทน

             ...ทำไมเขาไม่เข้าใจคำว่าซื่อสัตย์ต่อคู่ชีวิตที่อี้หลินพูดเลย...รักคนคนหนึ่ง แต่ไปแต่งงานกับอีกคน...แล้วจะเรียกคนรักที่อยู่ที่บ้านว่าคู่ชีวิตได้อย่างไร...ทำแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาคนรักมาทำเป็นเมียเก็บหรอก...ชีวิตที่ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ ออกหน้าออกตาไม่ได้...บอกกับใครไม่ได้ว่านี่คือ...คนที่ตัวเองรัก...

             ...ชีวิตที่ต้องทนอยู่แบบนั้นมันทรมานสิ้นดี...

“เอ๊ะนั่น...พี่ปีเตอร์!!”

             จู่ๆอี้หลินก็หยุดเดิน แล้วหรี่ตามองจ้องตรงไปข้างหน้าเขม็งพร้อมอุทานเสียงลั่น พระจันทร์มองตรงตามไปก็เจอชายหนุ่มในชุดสูทดำสี่ห้าคนกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่เป็นกลุ่ม แต่หนึ่งในนั้นที่ท่าทางว่าจะดูเป็นหัวหน้ากลับมีแจ็กเก็ตสีฟ้าเข้มสวมทับอยู่ด้วย ทำให้ดูแตกต่างจากคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด...

“ไปเร็วค่ะลูน่า เดี๋ยวหลินจะแนะนำพี่ชายให้รู้จัก เขาเป็นถึงหลานสายตรงของมิสเตอร์โจวเชียวนะคะ...” หญิงสาวเอามือมาป้องข้างหูเชาแล้วกระซิบบอกว่า ‘คนจัดงานนี้ไง’

             พระจันทร์มีอาการขนลุกชันแปลกๆระหว่างที่ยอมเดินตามสาวเจ้าที่เล่นคว้าข้อมือเขาแล้วลากพาเดินไปเสียเอง ยิ่งตอนที่โดนผู้ชายทั้งกลุ่มนั้นจ้องตรงมาที่เขาอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรนักก็ยิ่งรู้สึกขนลุกจนไม่อยากจะก้าวขาต่อ แต่สุดท้ายเพราะต้องการรักษาน้ำใจของอี้หลินทำให้เด็กหนุ่มยอมเดินตามมาจนถึงบริเวณกลุ่มชายสี่ห้าคนนั้นจนได้

“อี้หลินนั่นใคร...”

           พระจันทร์ยืนตัวแข็งทื่อ ไม่นึกว่าประโยคแรกที่พวกเขาคุยกันจะลากเอาเขาเข้าไปเกี่ยวด้วยแบบไม่ทันตั้งตัว

“เพื่อน...ชื่อลูน่า เป็นคนไทย...ลูน่า นี่พี่ปีเตอร์ ลูกพี่ลูกน้องกับหลินเองค่ะ” หญิงสาวแนะนำเขาในประโยคแรกเป็นภาษาจีนกลาง แต่หันมาแนะนำบุคคลในกลุ่มชายชุดดำนั่นให้เขาฟังเป็นภาษาไทย

“...จ่าว ซ่าง ห่าว...(อรุณสวัสดิ์)” พระจันทร์เป็นฝ่ายเอ่ยปากทักทายเป็นภาษาจีนก่อน “...หว่อ ซื่อ ลูน่า (ผมชื่อลูน่าครับ)...หวอ เหิ่น เกา ซิ่ง เริ่น ซือ หนี่ (ยินดีที่ได้รู้จักคุณ)”

“หว่อ ซื่อ ปีเตอร์...ปีเตอร์ โจว (ผมชื่อปีเตอร์...ปีเตอร์ โจว)” อีกฝ่ายตอบเขาพร้อมก้มพยักหน้าให้เล็กน้อยเป็นการทักทาย พระจันทร์รู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มมองเขาอย่างมิตรมากขึ้น สายตาทิ่มแทงอย่างคนไม่รู้จักเริ่มจางหายไปช้าๆ

“โห...ถ้าคุยกันแบบนี้ก็ดีสิ หลินจะได้ไม่ต้องเป็นคนกลาง...แล้วนี่พี่ปีเตอร์ไม่ไปช่วยมิสเตอร์โจวดูแลแขกเหรอคะ หรือว่าแอบอู้” หญิงสาวเอ่ยกับลูกพี่ลูกน้องตัวเองราวกับรู้จักนิสัยอีกฝ่ายดี ปีเตอร์ โจวเพียงยักไหล่ไม่ยี่หระกับคำถามจากคนมีศักดิ์เป็นน้องสาว เพราะตอนนี้ชายหนุ่มสนใจคนข้างๆน้องสาวของเขามากกว่า มันคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน คำใบ้คีย์เวิร์ดว่าเป็นคนไทยนึกทำให้เขาตงิดใจเล็กๆเพราะนึกภาพไปถึงสองหนุ่มชาวไทยที่เป็นศัตรูกับเขามาเนิ่นนานอย่างเหมิงหลงและหยางหลง

“เธอมาที่งานนี้กับใคร...ท่าทางคงไม่ได้มาคนเดียวหรอกใช่มั้ย ใครพาเธอมา...”

            ใบหน้าเนียนใส แก้มขาวๆ ริมฝีปากอมชมพูกับดวงตากลมโตประกอบกันอย่างลงตัวมากบนใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กหนุ่มตรงหน้านี่ ปีเตอร์พินิจพิจารณาแล้วก็เกิดอยากรู้ว่าเจ้าตัวมีพันธะผูกคอรึยัง เพราะถ้ายังเขาก็เกิดความคิดประหลาดที่อยากจะได้ลองเอามาแนบกายดูซักครั้ง หนุ่มชาวไทยผิวขาวตัวเล็กน่ารัก เดินคู่กันมากับน้องสาวเขาแบบนี้แล้วทำเอาชายหนุ่มนึกออกแต่คู่เลสเบี้ยนทอมดี้ขึ้นมาได้อย่างไรไม่รู้ ไม่มีความคิดวกไปหาว่าเป็นคู่ขาของน้องสาวเขาเลยซักนิด

“ลูน่าเขามากับแฟ...เอ๊ย พี่ชายเขา พี่จะอยากรู้ไปทำไม...นี่หลินถามก่อนนะทำไมไม่ตอบ แอบอู้อีกแล้วใช่มั้ยคะ” หญิงสาวเห็นพระจันทร์อึกอักก็รู้ว่าคงลำบากใจที่จู่ๆก็โดนคนแปลกหน้าพุ่งความสนใจมาหาขนาดนี้เลยเป็นฝ่ายช่วยตอบให้แทน แว่บแรกก็แอบเผลอเอ่ยบอกไปแล้วเชียว ดีที่ทันหันมาสบตากับเจ้าตัวที่ส่งสายตาปรามๆมาเสียก่อนหล่อนจึงได้เผลอบอกออกมาทันว่ามากับ ‘พี่’ ไม่ใช่ ‘แฟน’ อย่างที่หล่อนเข้าใจ

“พี่? ใคร...แขกทุกคนที่มางานนี้ฉันรู้จักทั้งนั้น ใครคือพี่ชายเธอ...” ปีเตอร์ยังไม่ยอมวกหัวข้อออกจากพระจันทร์ ชายหนุ่มนึกสนใจเด็กหนุ่มตั้งแต่แว่บแรกที่เห็นจากรูปลักษณ์ภายนอก แล้วยิ่งคุยก็ยิ่งมีปริศนาให้ไข เพราะนอกจากชื่อลูน่าแล้วเด็กหนุ่มยังไม่ยอมเอ่ยปากคุยอะไรกับเขาด้วยตัวเองเลยซักประโยคเดียว

“พี่ปีเตอร์! ถ้าไม่สนใจกันอีกหลินจะไปฟ้องป๊าให้ไปฟ้องมิสเตอร์โจวว่าพี่แอบอู้ มาสูบบุหรี่กับลูกน้องในเวลาหน้าที่” หญิงสาวเริ่มออกอาการเท้าสะเอวแล้วบ่น ปีเตอร์ยกนิ้วก้อยมาแคะขี้หูทำท่าราวกับรำคาญสาวเจ้าเสียเต็มประดา ตั้งแต่เด็กแล้วที่อี้หลินคนนี้ทำตัวเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองคอยจับผิดเขาอยู่เรื่อย

“พี่ก็รู้นะว่ามิสเตอร์โจวไม่ชอบ...แล้วถ้าท่านรู้พี่ได้โดนลงโทษ...”

“เลิกบ่นฉันเป็นยายแก่เสียทีอี้หลิน! ฉันรำคาญ...มีอะไรก็ไปทำไป ฉันมีเรื่องอยากถามลูน่าต่ออีก...อย่ามาขัด...” ปีเตอร์ส่งสายตาคุกคามไปที่หญิงสาว แต่กระนั้นอี้หลินก็ไม่มีหลบ ยังคงยืนเท้าเอวสลับกอดอกพร้อมทำแก้มป่องอย่างไม่พอใจอยู่อย่างนั้น

“พี่มีอะไรจะถามเกี่ยวกับเพื่อนหลินก็ถามหลินได้ หลินรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเพื่อน...! เตือนไว้ก่อนว่าคนนี้แตกต่างจากเพื่อนหลินคนอื่นนะ...เขาพิเศษ...ห้ามยุ่งถ้าไม่อยากเดือดร้อน...” หญิงสาวคว้าข้อมือพระจันทร์มากุมแล้วดึงเอาไปไว้หลังตัวเองคล้ายจะปกป้อง พระจันทร์ยิ้มอ่อนเมื่อได้เห็นหญิงสาวคนนี้ที่เพิ่งเจอกันไม่กี่วันกลับยกสถานะเขาขึ้นมาเป็นเพื่อนคนพิเศษที่เจ้าตัวแสดงอาการทั้งหวงทั้งปกป้องให้เห็นเสียขนาดนี้ เด็กหนุ่มถอนหายใจเล็กๆแล้วเป็นฝ่ายเอ่ยขัดขึ้นมาเองเสียก่อนที่ปีเตอร์ โจวจะทันตอบโต้กลับน้องสาว

“ไม่เป็นไรครับ มีอะไรคุณปีเตอร์ก็ถามผมโดยตรงได้ ผมยินดีตอบ...” พระจันทร์บอก ซึ่งนั่นก็ทำให้ปีเตอร์หันสายตาวาววับกลับมาจับจ้องที่เด็กหนุ่มเหมือนเดิม และเลิกสนใจน้องสาวของตัวเองไปโดยทันที

“ถ้างั้น ลูน่าคงไม่รังเกียจ ถ้าผมจะเชิญคุณไปร่วมทานอาหารเช้าที่ห้องพักแขกพิเศษของผม เราจะได้คุยกันต่อ...” จู่ๆปีเตอร์ โจวก็เปลี่ยนการเรียกขานและท่าทางให้ดูสุภาพขึ้นแบบกลับตาลปัตรจนอี้หลินเผลอมองพี่ชายตัวเองแล้วอ้าปากค้าง ทำท่าทำทางราวกับกำลังต้อนรับแขกกิตติมศักดิ์อย่างไรอย่างนั้น หญิงสาวมองอาการพี่ชายที่เปลี่ยนกระแสสายตาคุกคามกะทันหันไปเป็นสายตาแวววาวอย่างงงงวย

“ทำสายตาอย่างนั้นทำไม ก็ถ้าเขามากับพี่ชายเขา...แล้วพี่ชายเขาเป็นคนใหญ่คนโตที่มาร่วมงานประมูลที่นี่ ฉันก็ต้องต้อนรับเขาให้ดีไม่ใช่รึไง...เดี๋ยวเธอก็จะมาบ่นฉันอีกว่าไม่ทำงาน นี่ก็ทำให้ดูแล้วนะยายแก่...” ถึงปีเตอร์จะสุภาพกับพระจันทร์ยังไงแต่ก็ยังไม่วายกลับไปจิกกัดน้องสาวตัวเองเหมือนเดิม

             พระจันทร์มีท่าทางลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดในตอนแรกที่จะตอบรับคำเชิญชวนที่ว่านั่น แต่เพราะอี้หลินบอกว่าจะไปด้วยสุดท้ายก็เลยต้องยอมเลยตามเลย เดินตามอี้หลินที่สาวเจ้าก็ฉุดแขนเขาให้เดินตามเหมือนอย่างตอนขามาไม่มีผิด

             ห้องอาหารที่ว่านั้นอยู่ก่อนชั้นบนสุดของดาดฟ้าเรือ มันเป็นคล้ายๆห้องรับแขกส่วนตัวของคนที่เดินนำพระจันทร์และอี้หลินเข้ามา เพราะภายในห้องนั้นมีการตกแต่งด้วยรูปถ่ายของเจ้าตัวและอุปกรณ์หลายอย่างที่บ่งบอกว่าห้องนี้เป็นของนายปีเตอร์ โจว ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับหลานชายของเจ้าของเรือโดยเฉพาะ

“นั่งรอที่นี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวผมไปสั่งงานลูกน้องให้เขายกอาหารมาให้ที่นี่...คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า”

“ทีกับน้องนี่ไม่ถามนะ” อี้หลินอดแขวะพี่ชายไม่ได้ ก็ดูสิ สนใจแต่พระจันทร์แต่ทีกับเธอนะเมินเอาๆ

             พระจันทร์มองตามหลังประตูที่เพิ่งถูกปิดแล้วหันมายิ้มให้กับอี้หลินที่นั่งหน้าบูดอยู่ที่โต๊ะ หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น พระจันทร์จึงเสสายตาหันมองไปรอบห้องแทนเมื่อไม่มีใครคุยด้วย เด็กหนุ่มมองไปรอบห้องอย่างผ่านๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นรูปของชายหนุ่มกับครอบครัว พื้นหลังบ่งบอกว่าครอบครัวนี้คงได้ไปเที่ยวมาแล้วเกือบทั่วโลกเลยทีเดียว พระจันทร์กำลังพิจารณาลายเครื่องแก้วบนตู้วางหนังสืออยู่ด้วยความคิดที่อยากจะลองออกแบบลวดลายเหนือจินตนาการแบบนั้นดูบ้าง ก็เผลอเหลือบไปเห็นรูปถ่ายขนาดฝ่ามือสีซีดๆที่หลบอยู่ใกล้จานแก้วอีกใบที่วางอยู่ใกล้กัน เด็กหนุ่มลุกเดินเข้าไปมองใกล้ๆเมื่อรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงในรูปอย่างไรไม่รู้   

              พระจันทร์เอื้อมมือไปขยับรูปให้เหลื่อมออกมาจากขอบแก้วอีกนิดเพื่อมองให้เห็นรูปทั้งใบชัดๆ ในสมองก็พยายามนึกเค้นว่าเขาเคยเห็นผู้หญิงในรูปนี้ที่ไหนซักที่แน่ๆ แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าที่ไหน...

              ...อะไรที่ทำให้พระจันทร์นึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้นะ...ใช่ คงจะเป็นดวงตาคมเฉี่ยวที่แสดงความมั่นใจฉายชัดออกมาอย่างเต็มเปี่ยม กับไฝเล็กๆใต้ตานี่ละมั้ง...เขาคุ้นดวงตานี่และมั่นใจมากว่าเขาเคยเห็นผู้หญิงที่มีไฝเสน่ห์เล็กๆใต้ตาแบบเธอคนนี้ที่ไหนมาก่อนแน่ๆ...

              พระจันทร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรูปไว้สองทีอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบหันกล้องไปทางจานกระเบื้องด้านข้างแล้วกดถ่ายรูปเพิ่มเมื่อเขาได้ยินเสียงอี้หลินที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเอ่ยออกมาว่า

“จานกระเบื้องนั่นเป็นของเก่าตั้งเกือบร้อยปีแล้วแน่ะลูน่า...แต่ลายสวยเหมือนไม่ใช่ฝีมือคนสมัยก่อนเลยเนอะ...” อี้หลินชวนคุย เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มที่หล่อนพามาด้วยท่าทางจะสนใจจานกระเบื้องนั่นมากถึงขนาดต้องรีบถ่ายรูปเก็บไว้ทีเดียว

“อ...อ๋อ นั่นน่ะสิครับ ผมกำลังหาแรงบันดาลใจออกแบบลายใหม่ๆอยู่พอดี ใกล้วันเกิดเพื่อนแล้วน่ะครับ เลยอยากเพ้นท์เสื้อให้เขาเป็นของขวัญซักตัว...” พระจันทร์เอ่ยบอก เขาทำเป็นก้มลงพิจารณาลายแก้วอีกนิดหน่อยก่อนจะกลับไปนั่งข้างอี้หลินดังเดิม

“ลูน่าเพ้นท์เสื้อเป็นด้วยเหรอคะ! หลินก็อยากได้ซักตัวจังเลย ไว้ว่างๆเพ้นท์ให้หลินซักตัวนะคะ...” หญิงสาวออกเสียงออดอ้อนเด็กหนุ่มอย่างพยายามอยากตีสนิทด้วย พระจันทร์หันไปยิ้มน้อยๆให้เธอก่อนจะตอบรับคำว่าได้

“เอ่อ...แล้วว่าแต่รูปผู้หญิงข้างๆแก้วนั่นล่ะครับใครเหรอ เธอสวยมากเลยนะครับ...” เด็กหนุ่มถาม พยายามบังคับเสียงให้มันเรียบเรื่อยเหมือนถามเรื่องทั่วไป ไม่ได้สนใจเรื่องรูปนั่นเป็นพิเศษ

“อ๋อ...อดีตคนรักของพี่ปีเตอร์เขาน่ะ...คนนี้เขารักมากเลยนะ แต่ไม่รู้ทำไมถึงเลิกกัน...จู่ๆพี่เขาก็ไม่เคยพาเมนี่มาให้หลินเจออีกเลย ทั้งที่เมื่อก่อนชอบพามาอวดจะตาย...” หญิงสาวเอ่ยเล่าเรียบเรื่อย ไม่ทันได้มองว่าพระจันทร์นิ่งอึ้งตาค้าง เพราะมองภาพผู้หญิงคนนั้นพร้อมระลึกชื่อเจ้าหล่อนขึ้นมาได้ทันควัน

   ...เมนี่ หวง...!

   ...คนที่ทำให้พี่ยะกับพี่กรทะเลาะกัน...

   ...แล้วรูปถ่ายของเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไหนจะเรื่องคนรักของคุณปีเตอร์ โจวนี่อีก...

“เอ่อ...คุณหลิน ผมเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระด่วน ต้องรีบกลับไปเดี๋ยวนี้...หวังว่าเราจะได้พบกันใหม่ และขอบคุณนะครับที่อยู่เป็นเพื่อนคุย” เด็กหนุ่มรีบผุดลุกขึ้นและกล่าวลาสาวเจ้าอย่างรวดเร็ว อี้หลินไม่ทันได้เอ่ยลาตอบกลับพระจันทร์ก็หุนหันพาร่างตัวเองออกไปจากห้องเสียแล้ว ทิ้งให้หญิงสาวมองตามอย่างงงงวยเพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีทีท่าว่าพระจันทร์จะมามีเรื่องด่วนอะไรเอาตอนนี้

“แปลกจริง...แล้วก็อดคืนเข็มกลัดให้อีกจนได้นะ เฮ้อ...”





                 ฝ่ายพระจันทร์เมื่อออกมาพ้นหน้าห้องนั้นแล้วก็รีบสาวเท้าอย่างรวดเร็วเพื่อกลับไปที่ชั้นของตัวเอง ตี้เฉินที่คอยตามประกบอยู่ตลอดรีบออกมาเผยตัวแล้วรั้งแขนพระจันทร์ให้หยุดเดินเมื่อเห็นท่าทีแปลกๆของเด็กหนุ่มหลังออกมาจากห้องนั่น

“คุณพระจันทร์ เมื่อกี๊ในห้องนั่นเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ...” ชายหนุ่มที่โผล่พรวดเข้ามาเอ่ยปากถามพระจันทร์เสียงเครียด เด็กหนุ่มมองหน้าบอดี้การ์ดเงาของตัวเองแล้วก็ผ่อนลมหายใจก่อนจะเอ่ยบอกตรงๆ

“จันทร์เจอรูปของคุณเมนี่ในห้องนั้นครับพี่ตี้...”

“คุณเมนี่...?”

“ครับ...เมนี่ หวง...”

“คุณพระจันทร์! นั่นน่ะ...” ตี้เฉินทำตาโตมองหน้าเด็กหนุ่มราวกับว่าเขาพระจันทร์เพิ่งเล่าเรื่องโกหกเรื่องใหญ่ออกมาแล้วเขาก็จับได้ทันทีอย่างไรอย่างนั้น

“พี่กรเคยเอารูปคุณเมนี่ให้จันทร์ดู แล้วเล่าให้จันทร์ฟังหมดแล้วว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ทำให้พี่ยะกับพี่กรทะเลาะกัน...จันทร์...”

“คุณห้ามเอาเรื่องนี้ไปพูดกับใครเด็ดขาดเลยนะครับ...ไม่ว่าจะทั้งคุณหยางหรือจะเป็นเหมิงหลง เรื่องนี้เรื่องใหญ่ เพราะปีเตอร์ โจว คือหนึ่งในศัตรูของพวกเราครับ” ตี้เฉินรีบบอก เรื่องนี้ถ้ามิสเตอร์หยาง หลง รู้ เรื่องที่โกรธคงไม่ใช่เรื่องที่ได้รู้ว่า เมนี่ หวง คือผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับปีเตอร์ โจว...แต่คงจะโกรธเป็นไฟเรื่องที่รู้ว่าคุณพระจันทร์มามีส่วนข้องเกี่ยวกับปีเตอร์ โจว นี่ต่างหากที่ทำให้ตี้เฉินกังวล!!

“ถ้าอย่างนั้นจันทร์ต้องรีบบอก...จันทร์รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลยังไงแปลกๆ” เด็กหนุ่มบอก เขารู้สึกขนลุกทุกครั้งเวลาที่นึกถึงเรื่องผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา ตี้เฉินส่ายหน้าให้เขานิดๆก่อนจะเอ่ยบอกว่าจะรีบพาเขากลับไปที่ห้อง ซึ่งพระจันทร์ก็ไม่ได้ขัดขืน ยอมเดินตามตี้เฉินกลับไปที่ห้องของตัวเองแต่โดยดี






“...บอสสั่งให้หยางเฟิ่งไปอยู่ที่ห้องของหยางจินครับคุณตี้ เพราะวันนี้บอสจะมีงานเลี้ยงทั้งวัน ได้กลับมาอีกทีคงจะเป็นช่วงค่ำเลยครับ” บอดี้การ์ดสองคนที่ยืนยามอยู่หน้าห้องเอ่ยบอกตี้เฉินที่พาพระจันทร์กลับมาห้องตัวเอง เด็กหนุ่มเงยหน้ามองบอดี้การ์ดเงาร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างกัน ก่อนจะพบสายตาเห็นด้วยของตี้เฉินว่าให้ทำตาม

“กลับไปอยู่กับคุณฟ้าก่อนนะครับ...ส่วนเรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ผมจะเป็นคนบอกคุณหยางเอง...”

              ตี้เฉินรอจนพระจันทร์เข้าไปในห้องกับน้ำฟ้าเรียบร้อยแล้วก็ปิดประตูลงให้เรียบร้อย ในสมองคิดหาวิธีไปร้อยแปดพันเก้าที่จะบอกเจ้านายตัวเองเรื่องที่พระจันทร์ไปรู้ไปเห็นมา...จะบอกยังไงไม่ให้หยางหลงรับรู้...ว่าเขาปล่อยให้หยางเฟิ่งของตัวเองไปอยู่ในห้องของศัตรูได้เป็นนานสองนาน...แต่ก็เพราะเขาก้าวก่ายไปหาพระจันทร์ได้แค่เฉพาะในกรณีที่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นเท่านั้น ชีวิตประจำวันที่พระจันทร์อยากทำทุกอย่างเขาจะต้องปล่อยให้ทำไม่มีการขัดขวางยกเว้นบางเรื่องที่เขาเห็นสมควรต้องห้าม...และนั่นแหละคือหน้าที่ของบอดี้การ์ดเงา...

               ...แม้ว่าตี้เฉินจะคิดหาวิธีจนหัวแทบแตก แต่สุดท้ายเขาก็ก็ยังไม่มีโอกาสได้บอกหยางหลงเรื่องนั้นซักที...

---------------------------- - -  -  -              - - -------          - - -             --- -               -        ------   - ---   --         -

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์




               พระจันทร์นั่งเงียบๆครุ่นคิด มือก็กดโทรศัพท์เลื่อนภาพผู้หญิงคนนั้นซ้ำไปมาพลางพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวด้วยตัวเอง แต่มันก็ช่างยากเย็นเหลือเกินเพราะสิ่งที่เขารู้มามันไม่เพียงพอที่จะต่อจิ๊กซอว์ทั้งหมดให้กลายเป็นรูปภาพที่สมบูรณ์ได้

“คุนน้า...ลินอยากกินหงุ่น...” เด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตักเหวินจิ้งเรียกร้องหาของโปรดพลางชี้นิ้วขาวป้อมไปที่ถาดผลไม้ตรงโต๊ะข้างหน้า

              เหวินจิ้งเอื้อมมือไปเด็ดออกมาหนึ่งลูกแล้วปอกเปลือกให้ ก่อนจะถือองุ่นไร้เมล็ดลูกใหญ่นั่นให้หนูลินกัดไปจากมือทีละนิด เพราะคุณหมอณัฐกานต์ได้บอกเอาไว้ว่าหนูลินยังเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด กินผลไม้หรือขนมชิ้นใหญ่ไปไม่ได้

“ฟ้า...น้องแกเป็นอะไร ฉันเห็นตั้งแต่เข้าห้องมาก็เอาแต่นั่งเงียบ นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ” คุณหมอณัฐกานต์ใช้เอวพิงเคาเตอร์ครัวขณะพูดกับเพื่อนที่กำลังล้างแก้วอยู่เบาๆ

“ไม่รู้เหมือนกัน แกเป็นหมอนี่ เข้าไปดูให้หน่อยสิ...” น้ำฟ้าบอกกลับ

“จะบ้าเหรอ ฉันเป็นหมอเด็กไม่ใช่หมอจิต” คุณหมอณัฐกานต์บอก น้ำฟ้าถอนหายใจเฮือกพลางมองไปที่น้องชายก่อนจะวางพักแก้วใบสุดท้ายลงบนที่คว่ำแก้วเพื่อสะเด็ดน้ำ

             น้ำฟ้าเดินออกจากหลังซิงค์น้ำแล้วตรงไปนั่งข้างๆพระจันทร์ สายตาเหลือบมองรูปในโทรศัพท์มือถือคนมีศักดิ์น้องแล้วก็เอ่ยปากถาม

“ใครเหรอจันทร์ มองแล้วทำหน้ายุ่งเชียว...” น้ำฟ้าเอ่ยทัก สายตามองหน้าน้องชายแล้วเลยไปที่ลูกชายตัวน้อย ซึ่งกำลังเอร็ดอร่อยอยู่กับองุ่นซึ่งเหวินจิ้งกำลังปอกแล้วป้อนให้อยู่อย่างเงียบๆ

“เขาชื่อเมนี่ครับ...เมนี่ หวง...คนที่ทำให้พี่ยะกับพี่กรทะเลาะกัน...” พระจันทร์เอ่ยตอบน้ำฟ้าไม่มีอะไรปิดบัง ผู้ฟังฟังแล้วก็เพียงพยักหน้ารับไม่พูดอะไร แต่เสียงพึมพำเบาๆเป็นภาษาอังกฤษที่ดังมาจากคนอุ้มหนูลินอยู่ตอนนี้ ก็เรียกสายตาทั้งของพระจันทร์ น้ำฟ้าและคุณหมอณัฐกานต์ให้ไปรวมกันที่เหวินจิ้งเป็นตาเดียว

“...เมนี่ หวง...คนรักของปีเตอร์ โจว...”

“คุณรู้จักเหรอครับ! คุณเหวินจิ้ง...” พระจันทร์ผุดลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเหวินจิ้งอย่างรวดเร็ว เจ้าหนูตัวน้อยบนตักเหวินจิ้งเงยมองหน้าน้าชายตัวเองกับแม่แล้วก็ก้มลงงับลูกองุ่นคำสุดท้ายเข้าปากไปอย่างรวดเร็วไร้การกัดอีก

“...ก็...เมื่อก่อนตอนผมคบกับอี้หลิน เราเคยเจอกัน...” เหวินจิ้งตอบกลับพลางเงยมองพระจันทร์นิ่งๆ

“แล้วคุณรู้อะไรเกี่ยวกับเขาอีกบ้าง...ได้โปรดบอกผมที...ผมอยากรู้เรื่องนี้เพราะมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของพี่ยะ...เอ่อ ของพวกเราทุกคน” พระจันทร์เอ่ย ใจแกว่งไปนิดตอนที่เอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้นออกมา

“ผมรู้อะไรไม่มากหรอก” เหวินจิ้งตอบกึ่งแบ่งรับแบ่งสู้เป็นภาษาจีนตามภาษาบ้านเกิด ถึงเขาจะไว้วางใจว่าบุคคลเหล่านี้ไม่มีอันตรายต่อเขาแน่ แต่เขาก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของคนที่เพิ่งพบหน้ากันแค่วันสองวันนี่เท่าที่ควร ยังไม่รู้แน่ชัดว่าอะไรพูดไปแล้วจะโดนดีหรืออะไรพูดไปแล้วจะปลอดภัย เพราะคนสมัยนี้...รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจจริงๆ...

“ได้โปรดเถอะครับ คุณรู้อะไรก็ช่วยบอกผมที...ถึงจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ได้ นะครับ...ได้โปรด” พระจันทร์นั่งลงข้างๆเหวินจิ้งก่อนจะจับลงบนท่อนแขนอีกฝ่ายแล้วบีบขอร้องเบาๆ

“แล้วคุณจะอยากรู้ไปทำไม ในเมื่อคุณท่าทางก็ไม่ได้รู้เห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องของสองคนนั่น...ผมว่าทางที่ดีคุณอย่ารู้เลยจะดีกว่า ปล่อยให้คนที่เกี่ยวข้องเขาจัดการกันเองเถอะ...” เหวินจิ้งเอ่ย เขามองท่าทางจริงจังที่เด็กคนนี้แสดงออกมาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อใจว่าเด็กคนนี้ขอร้องเขาด้วยใจจริงๆ

“แสดงว่าคุณไปรู้อะไรมาใช่มั้ยครับ” น้ำฟ้าร่วมผสมโรงพ่นภาษาจีนกับเหวินจิ้งและพระจันทร์ไปด้วยอีกคน ทำเอาคุณหมอณัฐกานต์ผู้ซึ่งสื่อสารได้แค่สองภาษาคือไทยและอังกฤษถึงกับงงเต๊ก หันมองคนนั้นทีคนโน้นทีอย่างไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกัน

“ผม...” เหวินจิ้งพูดค้างไว้แค่นั้น ตั้งใจไว้ว่าจะไม่เล่าอะไร แต่ทนสายตาขอร้องปนอ้อนวอนของพระจันทร์ที่นั่งเขย่าแขนเขาอยู่เบาๆไม่ไหว สุดท้ายเลยตัดสินใจเล่าเรื่องที่ตัวเองพอจะรู้อะไรมาบ้างจากคำบอกเล่าของอี้หลินและบางเหตุการณ์ที่เขาได้ประสบพบเจอมาด้วยตัวเอง

“...ผมรู้แค่ว่า...จริงๆแล้วข่าวลือที่คนทั่วไปเข้าใจกันว่า...ปีเตอร์กับหยางหลงเป็นศัตรูกัน เพราะปีเตอร์ชอบเหม่ยเฟิ่ง คู่หมั้นของหยางหลงมานานแล้ว แต่โดนหยางหลงแย่งไปน่ะ...ไม่ใช่เรื่องจริง...” เหวินจิ้งเกริ่น

“แล้วเรื่องจริงคืออะไรครับ เกี่ยวกับคุณเมนี่ใช่รึเปล่า...เพราะพี่ยะ...ฆ่าคุณเมนี่...ใช่รึเปล่าครับ” คำบอกเล่าของพระจันทร์ที่เอ่ยออกมาทำให้ทั้งเหวินจิ้งและน้ำฟ้ามองพระจันทร์อย่างตกใจปนสงสัย เพราะน้ำห้าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนจึงตกใจ แต่เหวินจิ้งที่รู้เรื่องนี้อยู่แล้วเพียงแค่สงสัย เพราะไม่คิดว่าพระจันทร์จะรู้และเอ่ยออกมาได้ง่ายดายขนาดนี้

“คุณรู้? แล้วทำไมคุณถึงไม่กลัวผู้ชายที่ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นแบบนั้น...ทำไมถึงยังยอมอยู่ข้างๆฆาตกรที่ฆ่าคนเล่นเป็นผักเป็นปลา...แม้กระทั่งผู้หญิง...ก็ไม่เว้น...” เหวินจิ้งถามเพราะสงสัยจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าร้ายใส่สุริยะมณฑล ซึ่งพระจันทร์ก็พอจะอ่านกระแสเสียงออกจึงตอบไปแบบยิ้มเศร้าๆ

“...เพราะผมรู้ว่าเนื้อแท้แล้วเขาไม่ใช่คนเลว...เขาทำไปทุกอย่างเขามีเหตุผลของเขา พี่ยะไม่ใช่คนที่จะไปทำร้ายใคร ถ้าคนคนนั้นไม่ไปทำร้ายเขาหรือคนรอบๆตัวเขาก่อน...”

“...คุณรักเขา...? ใช่มั้ย...” คำถามของเหวินจิ้งที่ส่งตรงไปให้พระจันทร์ทำเอาเด็กหนุ่มนิ่งเงียบไปในทันที พระจันทร์พยายามเงยหน้าขึ้นมาสบสายตาของเหวินจิ้งแต่ก็ไม่เต็มที่นัก และเหวินจิ้งถือเอาว่าอาการนั้นคือการตอบรับของพระจันทร์ “...เพราะคุณรักเขา คุณเลยเป็นห่วงเขาใช่มั้ย...คุณก็เลยอยากรู้เรื่องทั้งหมดเพราะอาจจะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเขาได้บ้างใช่มั้ย...”

             พอถึงตรงนี้เหวินจิ้งสาบานได้ว่าเห็นใบหน้าขาวนวลของพระจันทร์ขึ้นสีเรื่อ น้ำฟ้าและหมอกานต์ที่ถึงจะไม่เข้าใจบทสนทนาทั้งหมดก็ยังเห็นพระจันทร์หลบสายตาเหวินจิ้งพร้อมทั้งเห็นใบหูที่มันแดงๆขึ้นมาอย่างน่าดูชม

“เอาเถอะ...ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็จะบอก...ที่คุณเข้าใจน่ะถูกแล้ว ปีเตอร์ไม่ได้แค่เกลียดหยางหลง...แต่ปีเตอร์แค้นหยางหลงมากต่างหาก เพราะหยางหลงฆ่าคนรักของตัวเองตาย...” เหวินจิ้งเอ่ยบอกจนจบแบบสั้นๆ ซึ่งนั่นทำเอาน้ำฟ้าและพระจันทร์ต้องหันมาสบตากันอย่างตกใจในทันทีที่ได้ฟัง

“...ฟ้า สรุปว่าคุยอะไรกัน ทำไมต้องทำหน้าตกอกตกใจแบบนั้นด้วย...” คุณหมอณัฐกานต์ที่กำลังหาช่องจะแทรกเพราะก็อยากรู้เรื่องด้วยคนสบโอกาสถามพลางดึงแขนเสื้อเพื่อนยิกๆ

“...พระจันทร์ไปเจอรูปคนที่ทำให้คุณอาทิตย์กับคุณมังกรทะเลาะกันที่ห้องของนายปีเตอร์ โจว...แล้วคุณเหวินจิ้งก็เล่าให้ฟังว่าคนคนนั้นคือคนรักของนายปีเตอร์ ซึ่งถูกคุณอาทิตย์ฆ่าตายไปแล้ว...นายปีเตอร์ โจวก็เลยแค้นฝังหุ่นคุณอาทิตย์...” น้ำฟ้าเอ่ยเล่าแบบคร่าวๆโดยไม่ได้มองหน้าเพื่อน จึงไม่รู้ว่าคำบอกเล่าของตนไม่ได้ช่วยไขความกระจ่างอะไรให้เพื่อนหมอหน้าใสของตนได้ซักเท่าไหร่เลย

“อ๋อ...แล้วปีเตอร์จง...ปีเตอร์โจวนี่...ใครกันอ่ะ” คุณหมอถามแบบหน้ามึน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเองได้ยินชื่อที่ว่านั่น ส่วนน้ำฟ้านั้นพอจะเคยได้ยินเรื่องราวของผู้จัดงานนี้มาบ้างจากสามีตัวเอง

“ปีเตอร์ โจว...เป็นหลานชายของมิสเตอร์อัลเบิร์ต โจว...คนจัดงานนี้ยังไงล่ะครับพี่หมอ...” พระจันทร์เอ่ยตอบข้อสงสัยของเพื่อนพี่ชายให้แทนเป็นภาษาไทย และนั่นก็ทำให้คุณหมอกานต์อ้าปากค้างเพราะเริ่มเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

“ฮ๊า! งั้นก็หมายความว่า...พวกเราหลงมาอยู่ในดงศัตรูงั้นเหรอเนี่ย!...ถ้าพวกมันคิดจะทำร้ายคุณสุริยะมณฑลหรือพวกเราคนใดคนหนึ่งก็ทำได้ง่ายดายเลยน่ะสิ...อยู่ภายใต้จมูกมันนี่เอง...” คนพูดพูดพลางรีบกระแซะตัวเพื่อนด้วยความกลัว สอดส่ายสายตาซ้ายขวาอย่างตีตนไปก่อนไข้

“ถ้าเขาจะทำอะไรเขาก็คงจะทำไปก่อนหน้านี้แล้วล่ะหมอกานต์...เพราะฉันเคยถามพี่ตะวันเรื่องคุณอาทิตย์กับคุณมังกร เห็นว่าเขาเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่ทะเลาะกันจนแตกหักเมื่อนานมากมาแล้วนะ...ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องนี้ใช่มั้ยพระจันทร์” ท้ายประโยคคนพูดหันไปถามน้องชายตัวเองซึ่งกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดกับเรื่องที่ได้รู้ ซึ่งพระจันทร์ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี

“...ลูน่า ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่าถึงคุณจะรู้เรื่องตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก อย่าทำหน้าเครียดไปเลย...” เหวินจิ้งผู้ไม่เคยปลอบใจคนอื่นมาก่อนทั้งชีวิตอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงบอกคนที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างตัว

           เจ้าหนูไวโอลินที่ตอนนี้ปากเหนียวเหนอะหนะจากการกินองุ่นของโปรดเริ่มทำการพยายามคลานและปีนตัวเองออกจากตักเหวินจิ้ง เพื่อไปนั่งจุ่มปุ๊กอยู่กับตักของใครอีกคนที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ข้างๆ มือน้อยที่ถือกลีบส้มอยู่ยื่นไปที่ปากน้าชายแล้วเอ่ยเสียงงุ้งงิ้งเบาๆว่า

“น้าจัน...กินโส้ม...น้าจัน อย่าย้องนะ...” เสียงเด็กวัยสองขวบกว่าที่ดังขึ้นทำให้พระจันทร์ยิ้มออกมาได้  เจ้าหนูตัวน้อยดูยังไงว่าเขาจะร้องไห้กัน

“น้าจันทร์ไม่ได้ร้อง...ไม่มีน้ำตาเลยซักหยดเห็นมั้ย” พระจันทร์ช้อนสองแขนเข้าไปใต้จักแร้ของหนูลินแล้วยกขึ้นมานั่งตักของตัวเองดีๆ หยิบกระดาษทิชชู่มาชุบน้ำเปล่าในแก้วน้ำตัวเองแล้วเอามาเช็ดรอบปากให้หนูน้อยที่ตอนนี้มันเหนียวเหนอะจนเห็นคราบ

“น้าจัน...you’re face...not happy (หน้าคุณ ดูไม่มีความสุขเลย)” เด็กน้อยพูดปนสองภาษา เมื่อนึกภาษาแม่ของตัวเองไม่ออกว่าจะบรรยายอาการของคนเป็นน้าชายได้อย่างไร เด็กน้อยยอมยื่นหน้าให้พระจันทร์เช็ดรอบปากด้วยทิชชู่เย็นๆแต่โดยดี ก่อนจะจัดการให้มันเลอะซ้ำอีกครั้งทันทีด้วยการเอากลีบส้มที่ตอนแรกจะยื่นให้น้าชายเข้าปากตัวเองแทน

“น้าจัน...หงุ่นอีก...” เคี้ยวส้มยังไม่ทันหมด เจ้าหนูน้อยก็เรียกร้องของโปรดพร้อมชี้มือป้อมๆไปทางถาดผลไม้ คนเป็นแม่มองอาการเอาแต่ใจ ชี้นกได้นก ชี้ไม้ได้ไม้ของลูกชายแล้วก็ต้องส่ายศีรษะ...นิสัยก๊อปปี้พ่อของตัวเองมาเหมือนเปี๊ยบ...

“จันทร์อย่าไปตามใจลูกพี่มาก...กินทั้งวันจนอ้วนตุ๊บกลายเป็นลูกหมูแล้ว” น้ำฟ้าเอ่ยบอกน้องชายที่กำลังเริ่มปอกองุ่นยื่นให้เจ้าตัวเล็กบนตักตามคำขอ พระจันทร์เงยหน้ามายิ้มเล็กๆให้พี่ชาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบตามใจเจ้าตัวน้อยที่กินเก่งเสียจนคนป้อนเพลินมือ

             ...ก๊อก...ก๊อก...

“คุณฟ้าครับ...คุณหงส์มาหาครับ” จู่ๆเสียงเอ่ยจากซึโยชิ บอดี้การ์ดหนุ่มหน้าห้องตัวเองก็ดังขึ้น คนทั้งสามยกเว้นเหวินจิ้งที่ไม่เข้าใจภาษาไทยหันมองหน้ากันอย่างแอบสงสัยนิดๆ ว่าคนที่มาหามีธุระอะไรกับใคร

“เปิดเถอะครับคุณโยชิ” แต่ถึงกระนั้นน้ำฟ้าก็เอ่ยอนุญาต เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีเรื่องให้น่ากังวลอะไรเพราะรู้ๆกันอยู่ว่าหงส์นั้นคือคู่หมั้นของสุริยะมณฑล

                รูปร่างสูงเพรียวของหงส์ในชุดเดรสสั้นสีแดงอ่อนพร้อมรองเท้าส้นสูงสีดำเล่นลายระยิบเดินก้าวเข้ามาในห้อง บรรยากาศรอบด้านมีแต่ความมั่นใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความมีอำนาจที่เจ้าตัวจงใจแสดงออกมา พระจันทร์เงยมองผู้ที่ก้าวเข้ามาใหม่แล้วก็รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆที่ให้รู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้า ไม่ใช่ ‘หงส์’ ที่เขาเคยรู้จักก่อนหน้านี้

“ขอโทษนะคะที่จู่ๆก็มา...แต่หงส์มีเรื่องที่ต้องพูด...กับพระจันทร์...” หญิงสาวพูดจบก็มองจ้องมาที่พระจันทร์ คนถูกเอ่ยนามเงยใบหน้าที่แสดงความสงสัยออกมาอย่างเต็มเปี่ยมขึ้นช้อนมองคนที่มีเรื่องจะพูดด้วย ก็พบเพียงดวงตาคมเฉี่ยวที่มองจ้องสบตาอย่างตรงๆไม่มีหลบเช่นกัน



---------------------------- - -  -  -              - - -------          - - -             --- -               -        ------   - ---   --         -

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
จะคุยอะไรกันคะคุณหงส์??

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เรื่องอะไรหว่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด