พันธนาการ...รัก #24 งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้เป็นงานเลี้ยงประมูลของพวกเครื่องเพชร เครื่องประดับต่างๆ กระเป๋าและของมีค่าอื่นๆที่พวกคุณหญิงคุณนายต่างพึงประสงค์อยากจะได้เอามาไว้ในครอบครอง ถือเป็นงานเลี้ยงเอาใจบรรดาป๋าใจป้ำ เสี่ยเลี้ยงเด็ก และผู้มีอิทธิพลต่างๆที่ควงภรรยาและสาวๆในสต็อกมาล่องเรือในครั้งนี้ด้วย ซึ่งของที่ถูกเอามาประมูลนั้นแน่นอนว่าก็ต้องเป็นของหายาก ที่ไม่สามารถประมูลได้อย่างถูกกฎหมายบนพื้นดิน
สิ่งของที่ถูกเอามาประมูลเป็นอย่างแรกๆจะมีนางแบบสาวสวยและนายแบบหนุ่มหล่อเป็นผู้เชิญออกมา ทั้งรูปภาพของแท้หายากจากศิลปินชื่อดังก้องโลกในอดีต ป้ายทะเบียนรถทองคำล้อมลายขอบด้วยเพชรน้ำงาม ไปจนถึงมงกุฏเพชรของอดีตราชินีองค์หนึ่งตั้งแต่สมัยยุคเรอเนซองค์ของยุโรป...จนตอนนี้เริ่มเป็นการประมูลเครื่องเพชรเครื่องพลอยราคาแพงธรรมดา ที่บรรดาผู้ไม่ประสงค์อยากสะสมของแปลกๆหายากเหล่านั้นสามารถประมูลเพื่อเอาไปเป็นของขวัญให้กับภรรยาหรืออนุภรรยาได้
พระจันทร์อุ้มหนูลินให้หันหน้ามานั่งซบลงกับไหล่ ตบก้นเด็กน้อยเบาๆเพื่อให้หลับ ส่วนสายตาก็จับจ้องไปที่แผ่นหลังกว้างใหญ่ภายใต้การสวมคลุมของชุดสูทสั่งตัดพิเศษจากแบรนด์ดิออร์ วันนี้สูทของพี่ยะเล่นลายตารางถี่เล็กที่บริเวณปกและขอบกระเป๋า ส่งให้ตัวเสื้อแลดูมีลูกเล่นไม่เป็นสูทแบบทางการมากนัก ข้างกันก็มีสาวสวยที่อยู่ในชุดราตรีสั้นเปิดไหล่ ที่เล่นลายขอบชุดเป็นผ้าลายตารางแบบคล้ายคลึงกับพี่ยะมาก พระจันทร์พยายามแล้วที่จะเบี่ยงความสนใจไปที่ของประมูลบนเวที แต่ภาพท่อนแขนเรียวบางที่สอดคล้องอยู่กับมือใหญ่และท่าทางการชี้ชวนให้ดูชุดเครื่องเพชรต่างๆแล้วกระซิบกระซาบอยู่ข้างหูของพี่ยะก็มาแย่งซีนไปจนได้
ที่นั่งแถวแรกติดเวทีถูกจองพร้อมติดป้ายชื่อเฉพาะบุคคลสำคัญเอาไว้เรียบร้อย และแน่นอนว่าบุคคลที่ไม่ได้สำคัญถึงขนาดจะให้พี่ยะควงออกหน้าออกตาได้อย่างเขา จะเอาชื่อที่ไหนไปติดเคียงข้างกันในแถวเดียวกันได้ แล้วยิ่งมาเห็นสายตาเศร้าๆของพี่หงส์ที่เห็นตอนพี่ยะจับจูงมือเขาออกมาจากห้องพร้อมกับหนูลิน พระจันทร์ก็ยิ่งรู้สึกว่าคงต้องเจียมตัวเอง และทิ้งระยะห่างระหว่างกันให้มากกว่านี้...
...แต่ทำไม...พอเห็นพวกเขาสองคนได้อยู่เคียงข้างกันจริงๆแล้วมันถึงเจ็บที่หัวใจตัวเองแบบนี้ล่ะ...
...จะทำตัวเป็นนางเอกในละครไปถึงไหนกันเนี่ย พระจันทร์...
“จันทร์ หนักมั้ย...ให้พี่อุ้มแทนดีกว่ามั้ย...มา” น้ำฟ้าที่นั่งข้างรังสิมันต์เอี้ยวตัวหันมามองพระจันทร์ที่นั่งอยู่แถวหลังตัวเองแล้วเอ่ยปากถาม เพราะเห็นลูกชายตัวเองทิ้งตัวลงนอนทับคนเป็นน้าเสียจนพระจันทร์ท่าทางจะหนัก ถึงได้ทำหน้าไม่สู้ดีแบบนั้น
“ไม่เป็นไร...จันทร์ไหว เดี๋ยวน้องตื่น...” เสียงแหลมหวานเอ่ยตอบกลับมาเบาๆ คนตอบพูดเสร็จก็ก้มลงมองเจ้าหนูบนตักพร้อมตบก้นให้เบาๆ สองแขนเล็กขยับเล็กน้อยเพื่อโอบกอดคนเป็นน้าให้แน่นขึ้น พร้อมเปลี่ยนมุมนอนให้หลับบนตักเล็กได้อย่างสบายตัวขึ้นด้วย
“อาทิตย์...มองไปไหน ดูนี่ก่อน...หงส์อยากได้สร้อยกับแหวนชุดนั้นน่ะ ประมูลให้หน่อย...”
ระหว่างที่น้ำฟ้ากำลังมองน้องชายตัวเองด้วยความเป็นห่วงอยู่นั่นเอง เสียงหวานใสของหญิงสาวในชุดเข้าคู่กันกับสุริยะมณฑลก็ดังขึ้น เด็กหนุ่มผมยาวขยับหน้าไปมองคู่ที่นั่งถัดไปจากสามีตัวเองตามต้นเสียงที่ได้ยิน ก็เห็นสุริยะมณฑลถูกมือสาวดึงแก้มเบาๆให้หันกลับไปมองการประมูลบนเวทีต่อ ท่าทางหวานแหววคล้ายคู่รักก็มิปานทำให้น้ำฟ้ารู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อย เพราะตัวเองรู้ดีว่าภาพนั้นทำร้ายจิตใจน้องชายตัวเองมากแค่ไหน
น้ำฟ้าหันไปดึงเสื้อสามีตัวเองที่นั่งกั้นระหว่างเขากับสุริยะมณฑลให้ก้มลงมาใกล้ๆ ก่อนจะกระซิบคุยกันเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน
“ว่าไงครับที่รัก อยากได้อะไรเดี๋ยวพี่ประมูลให้...”
“พี่ตะวันจะเลี้ยงต้อยฟ้าเหรอ...” น้ำฟ้าพูดพร้อมแถมแหนบเข้าที่แขนแข็งแรงอีกที
“แบบนี้ไม่เรียกว่าเลี้ยงต้อยแล้ว เขาเรียกว่าเลี้ยงเมียครับที่รัก...” รังสิมันต์ยังมีอารมณ์พอที่จะหยอกเอินคนรัก แม้จะเห็นแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในโหมดพร้อมที่จะเล่นตอบกลับเขา
น้ำฟ้าส่ายหน้าให้กับความกะล่อนของคนรัก ก่อนจะตีเบาๆอีกเพี้ยะเข้าที่เดิมแล้วบอกเสียงเบาว่าตัวเองกำลังซีเรียสอยู่นะ เมื่อนั้นล่ะสามีหนุ่มหล่อของเขาถึงได้ยอมหุบยิ้มแล้วเอียงหน้ามาใกล้ๆให้น้ำฟ้ากระซิบได้ถนัดกว่าเดิม...
“พี่ตะวัน ฟ้าสงสารน้อง...ได้ยินน้องตอบคนอื่นว่าตัวเองเป็นแค่พี่เลี้ยงหลานให้คุณอาทิตย์แล้วฟ้าไม่สบายใจเลย...ฟ้าสงสาร ไม่อยากให้น้องอยู่ในงานแล้ว...คุณอาทิตย์นี่ก็ยังไงนะ ถ้าตัวเองจะพาคุณหงส์ออกงานด้วยก็ไม่น่าจะพาพระจันทร์มา แล้วยังจะพาน้องของฟ้าไปนั่งแถวเดียวกับบอดี้การ์ดด้านหลังอีก...ทำเหมือนไม่เห็นความสำคัญกันแบบนี้พี่ตะวันว่าคุณอาทิตย์เขาใจร้ายเกินไปมั้ย...”
น้ำฟ้าจบประโยคยาวเหยียดพร้อมส่งสายตากังวลจับจิตไปที่น้องชายตัวเองคนที่ว่า รังสิมันต์มองคนเป็นภรรยาที่พูดได้เยอะกว่าทุกครั้งเมื่อเป็นเรื่องของคนอื่นแล้วก็ถอนหายใจ คนผมยาวทำท่าเป็นห่วงเป็นใยอีกฝ่ายเสียจนออกนอกหน้า จนเขาไม่รู้จะบอกอีกคนยังไงแล้วว่าถึงยื่นมือเข้าไปช่วยก็ใช่ว่าอะไรมันจะดีขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของพวกเขาสามคนที่เอาเชือกมาผูกเงื่อนกันเอง เขาจะไปแก้ให้ก็คงทำได้แค่ใช้กรรไกรตัดฉับเข้าตรงกลางนั่นแหละ แต่ใช่ว่าเงื่อนทั้งหมดมันจะคลายเสียเมื่อไหร่ อย่างมากก็คงทำให้ตัวเชือกมันไม่สามารถเอามาต่อกันติดได้อีกเท่านั้นเอง
ที่สำคัญ...เงื่อนครั้งนี้มันดันมีปมพันกันยุ่งเหยิงที่สุดตรงกลางใจพี่ชายของเขาเอง...ถ้าน้ำฟ้าอยากจะแก้นักก็คงต้องแหวกอกพี่เขาออกมา...แต่มันคงไม่ง่ายนักหรอกที่คนอย่างเจ้าพ่อเกาะฮ่องกงคนนั้นจะยอมให้ใครไปยุ่มย่ามกับหัวใจเขาง่ายๆ...แต่ถ้าเป็นพระจันทร์ก็ว่าไปอย่าง เพราะเด็กนั่นเป็นคนเดียวที่มีกุญแจ สามารถเดินเข้าออกหัวใจพี่ชายเขาได้เพียงคนเดียว...
ดีไม่ดี...ไม่ต้องถึงกับให้พระจันทร์ไปแหวกอก...แต่พี่ชายเขาคงเป็นคนยอมควักหัวใขตัวเองออกมากองตรงหน้าให้เลยมากกว่า...
“คุณ...พี่ตะวัน? เหม่ออะไร...มองหน้าฟ้าแล้วก็เอาแต่อมยิ้ม ฟ้าถามเรื่องซีเรียสอยู่นะ...”
“พี่รู้...พี่แค่กำลังคิดอยู่”
“คิดได้รึยัง...คิดเร็วๆ...” น้ำฟ้าเร่ง ยิ่งพอเห็นดวงตาสามีเปล่งประกายแปลกๆก็ยิ่งลุ้นตามไปด้วย คิดว่าอีกฝ่ายคิดได้แล้วจึงเอามือเข้าไปเกาะแขนช่วยลุ้น แต่คนเป็นสามีกลับกระหวัดแขนเข้าดึงอีกฝ่ายจนเซมาที่ตักแล้วหอมแก้มฟอดแบบไม่อายสายตาประชาชีกว่าห้าสิบชีวิตในห้องจัดเลี้ยง แถมเมื่อกี๊นางแบบบนเวทีเกือบทำแก้วไวน์เก่าแก่ราคาเฉียดสิบล้านตกลงมาแตก รังสิมันต์จึงโดนคนเป็นภรรยาจับดึงจนหูเกือบยานไปเป็นเหนียงเป็นการตอบแทน
สุริยะมณฑลเหลือบมองไปข้างหลังอีกครั้งเป็นรอบที่ร้อย เห็นแววตาเศร้าๆของพระจันทร์มองไปยังคู่ของน้องชายตัวเองแล้วแย้มยิ้มน้อยๆ แต่เป็นยิ้มที่ดูออกได้เลยว่าเจ้าตัวไม่ได้มีความสุขไปกับยิ้มนั้นที่ฉาบบนใบหน้าเลยซักนิดเดียว...ตอนนี้ในใจของเขานั้นร้อนเป็นไฟ สายตาผู้คนมากมายที่พากันจับจ้องมาที่หยางเฟิ่งของเขานั้นทำให้รู้ตัวทันที ว่าคิดผิดอย่างมหันต์ที่ทำตามคำมิสเตอร์โจวว่า...เขาไม่น่าพาดวงใจตัวเองมาเปิดเผยตัวตนวันนี้เลย
แล้วยิ่งสายตาของไอ้ปีเตอร์ โจวที่นั่งอยู่ตรงสุดปลายขอบเวทีนั่นอีก อยู่ไกลขนาดนั้นยังมองตามร่างของพระจันทร์แทบไม่กระพริบตาได้อีก...มันน่าเอาลูกปืนยิงใส่ให้ตาบอดนัก...วันนี้เขาพยายามหลายครั้งที่จะเอามือพระจันทร์มากุมไว้ แต่กลับโดนหงส์เข้ามาขวาง แล้วยังเจ้าตัวที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดีอีก แถมยังตอบใครต่อใครเขาไปทั่ว ว่ามางานนี้ในฐานะพี่เลี้ยงของหนูลิน...จะบอกเขาไปตามตรงว่ามาในฐานะหยางเฟิ่งของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย
...แต่คนคิดคงจะลืมไป...ว่าตัวเองนั้นก็ได้แต่คิด แต่ไม่เคยบอกเจ้าตัวให้รู้และยอมรับในฐานะนี้ของตัวเองมาก่อนเลย...
การประมูลกำเนินไปจนถึงเครื่องเพชรชุดหนึ่งบนเวทีประมูล มันเป็นชุดเครื่องเพชรน่ารักจุ๋มจิ๋มที่ประกอบไปด้วยแหวน ต่างหู กำไลและสร้อยคอ มันจะไม่น่าสนใจเลยถ้าหากว่าธีมของเครื่องเพชรชุดนี้จะไม่ใช่ธีมของ ‘จักรวาล’...มันไม่ใช่ของเก่าแก่อะไร เพียงแต่มันถูกดีไซน์โดยนักออกแบบเครื่องประดับชื่อดังคนหนึ่งแถบอเมริกาใต้ และมันกำลังจะถูกประมูลได้ไปโดยเสี่ยพุงพลุ้ยคนหนึ่งที่โดนอีหนูฝั่งซ้ายมืออ้อนขอ เพราะอยากได้แหวนเพชรทรงสามมิติที่ถูกตกแต่งให้เป็นรูปโลกในชุดนั้น ทว่าเป็นเพราะสุริยะมณฑลเหลือบหันไปเห็นสายตาของคนนั่งข้างหลังที่จ้องมองสร้อยพระจันทร์ด้วยรอยยิ้มบางเบา แต่แค่นั้นก็ทำให้สุริยะมณฑลดับฝันของตาแก่พุงพลุ้ยที่อยากเอาใจอีหนูคัพดีข้างๆได้ในทันที ด้วยการยกป้ายหมายเลข 8 ขึ้นมาแล้วบอกราคาประมูลของตัวเองที่มากกว่าเสี่ยไร้นามคนนั้นกว่าเท่าตัว
สายตาผู้ร่วมงานหันกลับมาจ้องผู้ที่เพิ่งประกาศราคาประมูลเครื่องเพชรที่ไม่ได้มีจุดน่าสนใจนักรายล่าสุดเป็นตาเดียว พอยิ่งเห็นว่าเป็นหยางหลง เจ้าพ่อเกาะฮ่องกงที่นั่งนิ่งมาตลอดการประมูลเป็นผู้ยกมือเอ่ยราคาค้านการเคาะค้อนครั้งที่สาม ก็ยิ่งมีเสียงวิจารณ์ออกมาเซ็งแซ่ โดยเฉพาะหงส์ที่นั่งใกล้ๆ รังสิมันต์น้องชายรวมไปถึงน้ำฟ้าที่ก็หันมามองด้วยความสงสัย เพราะไม่คิดว่าจู่ๆเจ้าพ่อเขาจะมาสนใจเครื่องเพชรลายธรรมดาที่เป็นของคั่นเวลารายการใหญ่ๆแบบนี้
พิธีกรรายการประมูลของเผลอออกอาการอึกอักไปชั่วครู่ แต่ก็รีบกลับมาสวมบทบาทมืออาชีพ ดำเนินการประมูลและเชียร์ของต่อไปอย่างเชี่ยวชาญ เพราะหลังจากที่สุริยะมณฑลเริ่มเปิดปากประมูลครั้งแรกก็เริ่มมีผู้หันมาสนใจเครื่องเพชรชุดที่ว่า จนเสี่ยว่าที่เจ้าของคนแรกออกอาการหน้าหุบควันออกหูกันเลยทีเดียว
“พี่...จะเอาให้ใคร ของธรรมดาแบบนี้ผมให้ช่างที่บริษัททำให้ใหม่ก็ได้ ไม่ต้องลำบากประมูลหรอก” รังสิมันต์ที่ทนเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่เอ่ยปากถาม ทว่าคนที่ตอบกลับไม่ใช่คนที่โดนถาม สาวสวยคนที่นั่งข้างๆต่างหากที่เป็นคนเอ่ยปากตอบเองเป็นภาษาจีนกลางว่า
“จะใครล่ะถ้าไม่ใช่พี่...รู้ได้ยังไงคะหยางหลงว่าฉันอยากได้เครื่องเพชรชุดนี้...” ท่าทางกอดคล้องแขนและเสียงดังฟังชัด พร้อมปลายนิ้วเรียวสวยที่ยกบีบจมูกคนประมูลยิ่งทำให้คนอื่นมองว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง แม้สุริยะมณฑลจะไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่เสียงวิจารณ์เซ็งแซ่ที่ดังขึ้นก็มาในทำนองว่า หยางหลง เจ้าพ่อเกาะฮ่องกงออกหน้าสวีทหวานแหววกับคู่หมั้นสาว ตอกย้ำข่าวลือที่ว่าเร็วๆนี้สองเกาะฮ่องกง-เกาลูนคงจะได้ดองกันไม่ได้เป็นแค่ข่าวโคมลอย พอเหตุการณ์กลับเป็นแบบนี้แล้วคนที่สนใจจะประมูลเครื่องเพชรแข่งกับหยางหง เจ้าพ่อเกาะฮ่องกงจึงค่อยๆหายไปทีละคนสองคน จนท้ายที่สุดก็เหลือเพียงสุริยะมณฑล มังกร และปีเตอร์โจวเท่านั้นที่ยังพยายามเอาชนะคะคานกันด้วยราคาประมูลที่พุ่งขึ้นสูงลิ่วกว่าราคาเริ่มต้นที่ถูกตั้งไว้ในตอนแรกเริ่มหลายเท่า
มังกรที่เหลือบมองท่าทางจริงจังของสุริยะมณฑลที่ตีราคาของเขาและปีเตอร์ โจวตกไปทุกรอบด้วยความสนใจ คิดว่าน้องสาวของเขาไม่น่าจะมีอิทธิพลต่อผู้ชายที่ไม่เคยสนใจโลกของคนอื่นมากไปกว่าโลกของตัวเองได้แน่ ถ้างั้นแล้วใครที่เป็นคนจุดอารมณ์นี้ของไอ้เจ้าพ่อศูนย์รวมจักรวาลนี้ได้...ความน่าสนใจสำหรับเขา คือการคอยลุ้นดูว่าสุดท้ายแล้วใครจะได้รับเครื่องเพชรชุดนี้ไปครอบครองมากกว่า...พอคิดได้ดังนั้นมังกรจึงเป็นผู้ถอยออกจากสงครามประมูลครั้งนี้ไปคนแรก
เมื่อเหลือเพียงปีเตอร์และสุริยะมณฑล การประมูลครั้งนี้ก็ยิ่งทวีความสนุกให้กับผู้คนในห้องจัดเลี้ยงมากขึ้น เริ่มมีเสียงปรบมือดังตามตัวเลขประมูลที่เพิ่มขึ้นของแต่ละฝ่าย ตัวเครื่องเพชรหมดความน่าสนใจไปนานแล้วเพราะตอนนี้ทุกคนมุ่งมั่นอยู่กับการแข่งขันที่ว่าใครจะเป็นฝ่ายกำชัยชนะและได้มันไปเป็นของกำนัล ให้กับหงส์สาวสวย ซึ่งกำลังมีท่าทางยืดและเชิดแบบที่ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่ในห้องจัดเลี้ยงมองส่งเอาด้วยความหมั่นไส้
“พี่ชาย...ราคานี้กับเครื่องเพชรแบบนั้นมันไม่เหมาะสมกันเลยนะพี่” รังสิมันต์กระซิบบอกพี่ชาย แต่เขากลับได้รับคำตอบเป็นรอยยิ้มมุมปากกับนัยตาเขร่งขรึมกลับมาแทน “ก็ตามใจ งานนี้เขาให้จ่ายสด ไม่ผ่อนและไม่รับการ์ดด้วย ถ้าเงินไม่พอก็ไม่ต้องมายืมผมนะ...ผมเอาเงินไปซื้อนมให้ลูกกินยังจะมีประโยชน์เสียกว่าอีก”
รังสิมันต์จบคำด้วยการตบไหล่พี่ชายเป็นการย้ำในเจตนาของตัวเองอีกที ซึ่งคนเป็นพี่ชายก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเดือดร้อนอะไร ยังคงตั้งหน้าตั้งตาสู้การประมูลต่อไปด้วยความสูงของจำนวนเงินที่คงที่
ฝ่ายปีเตอร์ โจวนั้นเขาเห็นการประมูลครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องสนุก เพราะจู่ๆคนอย่างหยางหลงอุตส่าห์ออกปากประมูลของด้วยตัวเองทั้งที ทั้งที่พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันประมูลใหญ่ ซึ่งต้องใช้เงินอีกจำนวนไม่น้อยแล้วแท้ๆ แต่อีกฝ่ายคงอยากอวดรวย ซื้อเครื่องเพชรมอบให้ผู้หญิงแสนสวยคนนั้นต่อหน้าประชาชีให้คนมันมาชื่นชมเล่นๆมากกว่า...แล้วคิดหรือว่าคนอย่างนายปีเตอร์คนนี้จะยอมได้...เขาถึงได้ตัดสินใจกระโจนเข้าไปเล่นในเกมส์นี้ด้วยยังไงล่ะ...
แต่ทว่าในนาทีที่ปีเตอร์ตัดสินใจจะจบประมูลด้วยการวางตัวเลขในมูลค่าที่สูงกว่าเดิมถึงสามเท่า คนเป็นปู่ที่นั่งอยู่บนรถเข็นข้างๆกลับยกมือมาขวางไว้ตรงหน้าแล้วส่ายเบาๆ...
“แต่...!” ปีเตอร์จะค้าน แต่ซ้อหลิวและคนดูแลใกล้ชิดเขากลับบอกให้เขาเชื่อฟังนายท่านใหญ่ของตระกูลจะดีกว่า
“ลื้อก็เห็น...ไม่ว่าลื้อจะขึ้นราคายังไง อาหยางก็ยังจะเดินหน้าชนกับลื้อด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นเท่าเดิม ชิ้นนี้อาหยางคงอยากได้จริงๆ ลื้อก็ให้เขาไปเถอะ...”
“ถ้าเพชรแค่นี้อั้วะต้องยอมให้มันไปได้ แล้วของพรุ่งนี้อั้วะไม่ต้องยอมให้มันง่ายๆเพราะอากงขออีกเหรอ ทำไมอากงต้องเข้าข้างมันตลอด...ทั้งที่มันเป็นหลานก็ไม่ใช่!!” ปีเตอร์ตั้งใจอยากจะตะโกนประโยคข้างต้นให้ได้ยินโดยทั่วกัน แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วมันดังไม่มากไปกว่าเสียงกระซิบที่ให้ได้ยินกันแค่คนวงในเท่านั้น เพราะปีเตอร์ยอมรับและรู้ตัวเองดี...ว่าเกรงคนเป็นปู่มากแค่ไหน
สุดท้ายสุริยะมณฑลจึงสามารถประมูลชุดเครื่องเพชรชุดนั้นไปได้ในที่สุดพร้อมเสียงปรบมือเกรียวกราว พิธีกรบนเวทีออกปากให้นางแบบที่ถือชุดเครื่องเพชรเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าผู้ชนะประมูล ก่อนจะเอ่ยเรียกชายหนุ่มให้มารับของไปทั้งที่ยังไม่ได้จ่ายเงินเป็นกรณีพิเศษ
“ผมคิดว่าทุกท่านในที่นี้ คงจะได้รับความบันเทิงจากการประมูลในครั้งนี้ไปไม่น้อย...เอาล่ะถ้าผมไม่จบการประมูลด้วยภาพสวยๆ อย่างการให้เจ้าพ่อใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง...ท่านหยางหลง ได้สวมชุดเครื่องเพชรนี่ให้กับเหม่ยเฟิ่งของท่าน ก็ดูจะขัดอารมณ์ของท่านผู้มีเกียรติไปซักหน่อย...ดังนั้นได้โปรดท่านหยางหลง ให้เกียรติพวกเรา...มอบเครื่องประดับชุดนี้ให้แก่ผู้ที่ท่านอยากประมูลให้จะได้มั้ยครับ”
พอพิธีกรหนุ่มพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นอีกครั้งเป็นการบอกกล่าวว่าพวกเขาเองก็อยากเห็นภาพนั้นจริงดังที่พิธีกรหนุ่มบอก สุริยะมณฑลนั้นแม้ใจอยากปฏิเสธเพราะเห็นว่ามันวุ่นวายและยุ่งยาก ทว่าแรงดึงบวกแรงแหนบเล็กๆที่แขนจากสาวเจ้าที่นั่งคล้องแขนเขาอยู่นั้น ทำให้ชายหนุ่มจำใจต้องลุกขึ้นไปรับกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มมาถือไว้ตามแรงเชียร์
มือแข็งแรงใช้นิ้วโป้งดันฝากล่องให้เปิดออกตามเดิม กล่องกำมะหยี่ขนาดประมาณครึ่งไม้บรรทัดคูณกันบรรจุเครื่องประดับแวววาวอยู่ 6 ชิ้น ต่างหูรูปดาวเสาร์และดาวพฤหัสหนึ่งคู่ กำไลรูปทางช้างเผือกและดาวเคราะห์อื่นๆอีกหนึ่งคู่ แหวนรูปโลกหนึ่งวง และสร้อยพระจันทร์หนึ่งเส้น...นิ้วแกร่งไล้ไปตามตัวสร้อยที่วางอยู่ตรงกลางแผ่วๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่จี้รูปพระจันทร์เสี้ยวที่ทำจากอำพันบอลติก สีเหลืองเปล่งประกายราวทองคำเป็นเครื่องประดับชนิดเดียวในบรรดาหกชิ้นที่เล่นสีจนเด่นออกมางดงามที่สุด
...สร้อยเส้นนี้เขาดูแล้วรู้สึกว่ามันยังขาดอะไรไปบางอย่าง พระจันทร์เสี้ยวที่โดดเดี่ยวอยู่บนสร้อยเส้นนี้ ไม่ควรอยู่ตามลำพัง...เขาจะต้องทำอะไรซักอย่าง ก่อนที่จะมอบมันให้กับผู้เป็นเจ้าของ...
“พี่...จะยืนอยู่แบบนั้นอีกนานมั้ย...” รังสิมันต์เอาปลายเท้าสะกิดตรงส้นรองเท้าของพี่ชายตัวเองเพื่อเรียกสติ เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่จ้องมองเครื่องระดับนิ่งอยู่เกือบนาทีแล้ว
สุริยะมณฑลเหลือบมองไปทางน้องชายของเขาเล็กน้อย ก่อนจะเกี่ยวนิ้วเข้าไปที่แหวนรูปโลกทรงสามมิติแล้วเอาออกมาจากกล่องโดยที่ไม่ได้มองเลยซักนิด...ชายหนุ่มปิดกล่องก่อนจะยื่นให้เหยียนจวิ้นรับไป พร้อมกระซิบสั่งอะไรบางอย่างสองสามประโยคให้ลูกน้องรับทราบ ซึ่งคนรับกล่องก็รีบหันหลังเดินออกไปทำตามคำสั่งในทันที หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เอื้อมมือมาข้างหลัง ซึ่งหงส์ที่รอจังหวะอยู่แล้วก็วางมือลงไปอย่างรู้หน้าที่ หญิงสาวยืดตัวขึ้นเต็มความสูงบนรองเท้าส้นเข็มสีโอลโรส แล้วโปรยยิ้มหวานค้อมศีรษะเล็กน้อยเพื่อรับเสียงปรบมือที่ดังกระหึ่มห้องขึ้นมาอีกครั้ง
“อาทิตย์...นายเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย...” หงส์พยายามถามคนข้างตัวทั้งที่ปากยังยิ้มอยู่ ซึ่งสุริยะมณฑลก็ไม่ได้ตอบอะไร นอกจากคว้ามือขวาของหญิงสาวขึ้นมา แล้วสวมแหวนรูปโลกนั้นให้ที่นิ้วนาง ซึ่งพอทุกอย่างเสร็จสิ้นก็ยังคงมีเสียงปรบมือดังกระหึ่มตามมาพร้อมเสียงล้มตึงของอะไรบางอย่าง เมื่อปีเตอร์ โจวรีบลุกขึ้นจนทำเก้าอี้ล้มแล้วเดินออกไปจากห้องทันทีเช่นกัน...
“พี่ฟ้า...จันทร์พาหลานไปนอนก่อนนะครับ” ในระหว่างที่เสียงปรบมือนั้นยังไม่หยุด เสียงพระจันทร์ก็ดังแทรกเข้ามา น้ำฟ้าหันมองไปทางน้องชายก่อนจะพบว่าบนใบหน้าขาวซีดนั้นมีรอยน้ำเปื้อนอยู่ตรงสองข้างแก้ม คล้ายว่าเจ้าตัวคงจะพยายามเอามือปาดหยดน้ำตาออกไปแล้ว
“จันทร์...” น้ำฟ้าเรียกชื่อน้องชายด้วยความสงสาร “งั้นพี่ไปด้วย...”
ชายหนุ่มผมยาวตัดสินใจ เขาหันไปบอกสามีด้วยกันสะกิดที่ท่อนขาใหญ่เบาๆพร้อมชี้มือไปข้างหลัง รังสิมันต์มองตามแล้วก็พยักหน้าบอกให้ซึโยชิตามไปด้วยอีกคน น้ำฟ้าจึงลุกพาพระจันทร์ออกไปพร้อมซึโยชิที่อาสาเป็นคนรับคุณหนูไวโอลินไปอุ้มให้เอง...ทิ้งให้บรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยงเต็มไปด้วยความสุขชื่นมื่นกับความหวานของคู่รักคนดังแห่งเกาะฮ่องกง...
---------------------------- - - - - - - ------- - - - --- - - ------ - --- -- -
to be continue...
ใกล้วันปีใหม่แล้วนะทุกคนนนนน >_< คนไม่มีคู่นี่มันเหงาเนอะ T_T
