พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พันธนาการ...รัก (---Chain of love---) ตอนที่ 35 [29/05/2015] PG.67 {100%} END  (อ่าน 780630 ครั้ง)

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ผะผะผแผน!! :ling1: ไปช่วยดวงจันทร์เร้วว  :ling3:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
จันทร์ ของเจ้ โดนอะไรอีกมั่งเนึ่ยยยยย

 :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ MZter

  • ~ใครหาว่าผมอินดี้...ผมเกรียนจะตาย(•`^`•)~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
พระจันทร์!!! อย่าเป็นอะไรน้าาาาา รอพี่[ยะ]ก่อนนนนน

ปล.กะจะเข้ามาเช็คเฉยๆ แทบจะกรี๊ดให้แต๋วแตก
ปล.2 ดูแลตัวเองด้วยนะครับ เป็นห่วง

ออฟไลน์ BaII

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
รู้สึกหนูลินจะแก่แดดนะฮะ อิอิ แต่แบบนี้น่ารักดีครับ

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
อ่านสามตอนรวดเลย ไม่รู้คนเขียนอัพไวหรือเราอ่านไม่ทัน
ขอเม้นท์รวมสามตอนเลยนะคะ อารมณ์ต่อเนื่องเลยเรา
ยังคงสงสารพระจันทร์เหมือนเดิม ร้องไห้ได้ทุกตอนสิน่า
แต่เรื่องหัวใจทำท่าว่าจะไปได้ดีนะ อย่างน้อยพี่ยะก็มีพัฒนาการขึ้นล่ะ
แม้จะช้าไปมากๆๆ แต่ยังดีที่ไม่ปล่อยให้เนิ่นนานกว่านี้
เพราะไม่อย่างนั้นพระจันทร์ได้หนีหน้าไปไกลจากพี่แน่ๆ
และเราก็คงไม่อภัยให้แล้วนะ เพราะทำน้องร้องไห้หลายครั้งเหลือเกิน
แต่ก่อนอื่นมาเอาใจช่วยน้องจันทร์ให้รอดจากคนชั่วก่อนดีกว่า
เป็นผู้รับเคราะห์โดยแท้ ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยเล้ย :เฮ้อ:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :กอด1:
ป.ล. รักษาสุขภาพด้วยนะคะ จะได้แข็งแรงสดใสรับปีใหม่  :L2:


ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พี่หงส์คนดีที่หนึ่งเลย
ไอ้ปีเตอร์แกทำอะไรพระจันทร์ห๊าาา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มันค้างอย่างแรง

aunny.micky

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ย!! สรุปเปนแผนของพี่ยะ กะหงส์

ขอให้น้องพระจันทร์ปลอดภัยนะค่ะ :hao5:

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
กำลังมันได้ที่....  นอกจากจะนับถอยหลังรอปีใหม่แล้วยังต้องนับถอยหลังรอตอนต่อไปอีกด้วยนะเนี่ย

ในที่สุดเรื่องก็คลี่คลายลง  แต่............แทนที่จะรู้สึกผ่อนคลาย ตอนนี้กลายเป็นเครียดไปเลย   :katai1:  ตามไปช่วยพระจันทร์น้อยให้ทันนะพี่ยะ พี่มังกร   :katai2-1:





ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

หลอกกันนิ อิพี่ยะ ทำให้พระจันทร์เสียน้ำตาเป็นปีบ
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
พีหงส์ ♥

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
เรื่องราวเริ่มคลี่คลาย(รึป่าว?)แล้วสินะ

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
มันเป็นค่ะ มันเป็นแผนนนนนนนนนนน ฮรือออออ
แต่ก็น่าจะบอกให้น้องรู้ได้นี่น่า น้องร้องไห้ไปตั้งเยอะ
แล้วก็ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง พี่ยะ กับคุณมังกร ไปช่วยพระจันทร์ให้ได้นะ  :katai1:

Wednesday

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยยยย~ พี่หงส์ :กอด1:

ส่วนอีพี่ยะ :z6:

ออฟไลน์ poisongodx

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
มาต่อเร็วๆๆๆๆๆๆ  รอรอรอรอรอรอรอรอ :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ asmar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นแผนหรอ 
 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
รีบมาเร็วๆ
 :call: :call: :call: :call: :call:
รอตอนต่อไป
 :mew6: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หวังว่าน้องจันทร์จะไม่เป็นไรน้าาา
พี่ยะก็รีบๆไปช่วยเร็วๆๆ
แต่ขอให้ง้อยากๆๆๆเล้ย
คิดไม่ผิดจริงๆเรื่องหงส์โฮะๆๆๆๆ :hao3:
อัพต่อเร็วน้าาา จะรอจ้า

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
อ่านรวดเดียว... ขอฝากเนื้อฝากตัวมาติดตามจันทร์เจ้าด้วยคน  o1

อัลไลยังไงไม่ทราบ แต่ขอมาม่าต้มแซ่บบิ๊กไซส์สาดหน้ากรอกปากอิพี่ยะอย่างด่วนๆ  :o211:

หมั่นไส้มาก นี่พูดเลย เอาแต่ใจ คิดถึงแต่ตัวเอง ครึ่งๆกลางๆ ขอออเดอร์มือที่สามมาสอยจันทร์เจ้าไปทีเห้ออออ (แอบเคืองที่คอยไล่หมูลินด้วย ชริส์  :a14:)

รออ่านต่อนะตัวเทอว์

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
พันธนาการ...รัก #26


   เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังลั่นไปตามทางเดิน ซานตงและเหยียนจวิ้นที่ยืนรออยู่หน้าห้องประมูลวิ่งตามเจ้านายไปอย่างรวดเร็ว รวมลูกน้องของมังกรอีกสองคนรวมเป็นหก ทั้งหมดรีบวิ่งกลับไปที่ห้อง...ที่นั่นมีตี้เฉินคอยเฝ้าพระจันทร์อยู่คนเดียว เขามั่นใจในฝีมือของลูกน้องว่าจะปกป้องคนที่เขารักได้ แต่ทำไมพอได้ยินคำพูดสุดท้ายของปีเตอร์แล้วเขาถึงใจไม่ดีเอาเสียเลย...

“เฮ้ย...ใจเย็นๆ พระจันทร์ต้องไม่เป็นอะไร” มังกรบอกเพื่อนทั้งที่กำลังวิ่งไปเคียงข้างกัน อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรแต่แววตาเคร่งเครียดก็ทำให้มังกรพอจะรู้ว่าเพื่อนกำลังระงับอารมณ์อยากฆ่าใครซักคนเอาไว้สุดความสามารถ

   เมื่อชายหนุ่มทั้งหกคนเลี้ยวพ้นหัวมุมเข้ามาภาพตรงหน้าที่เห็นตรงทางเดินหน้าห้องก็ทำให้สุริยะมณฑลใจหาย...ภาพคุณหมอณัฐกานต์ เพื่อนของน้ำฟ้ากำลังปั้มหัวใจของตี้เฉินที่มีเลือดแดงฉานอยู่รอบๆตัวทำให้สุริยะมณฑลแทบเข่าอ่อน น้องชายของเขากับลูกน้องฝรั่งอีกคนกำลังนั่งยองอยู่ใกล้ๆ ในขณะที่ลูกน้องของมังกรที่มีสภาพไม่ต่างกันกับตี้เฉินมีคนในชุดสีขาวหกเจ็ดคน ซึ่งเขาคาดว่าน่าจะเป็นหน่วยพยาบาลของเรือกำลังช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้

“ตะวัน...นี่มันเกิดอะไรขึ้น...” ชายหนุ่มเอ่ยถาม น้องชายของเขาก้าวข้ามร่างของตี้เฉินมาหาก่อนจะจับไหล่เขาไว้แล้วเอ่ยบอก

“ผมจะไม่บอกให้พี่ทำใจเย็นๆ...แต่ตอนนี้พี่ต้องมีสติ...” รังสิมันต์บอกพี่ชายพร้อมตบไหล่เบาๆ เมื่อเห็นพี่ชายยกมือขึ้นกลึงหว่างคิ้วแล้วบอกว่าโอเค คนเป็นน้องชายจึงเอ่ยต่อ “...ผมขอโทษที่ประมาทเกินไป พวกมันคงอาศัยตอนที่ผมลงไปส่งน้ำฟ้ากับหนูลินขึ้นเรือเมื่อกี๊เข้ามาจัดการ...ตี้เฉินถูกแทง ดีที่หมอกานต์มาเห็นเลยช่วยปฐมพยาบาลให้อยู่อย่างที่เห็น ส่วนพระจันทร์...”

“...พวกมันจับตัวพระจันทร์ไปแล้วใช่มั้ย...” น้ำเสียงที่ถามกลับเบาหวิว รังสิมันต์ไม่ตอบด้วยเสียงแต่พยักหน้าเอา วินาทีนั้นสุริยะมณฑลรู้สึกเหมือนพื้นที่ยืนมันเอียง

“ผมขึ้นมาถึงก่อนพี่มาไม่นาน คิดว่าพวกมันคงยังไปไหนได้ไม่ไกล...เพราะการจะแบกเอาคนสองคนไปด้วยไม่ใช่เรื่องง่าย...”

“ตะวัน...นี่หมายความว่า...” มังกรที่เพิ่งออกมาจากห้องตัวเองพุ่งตรงเข้ามาหาเพื่อน ทันได้ยินประโยคสุดท้ายที่รังสิมันต์พูด

“ครับ เหวินจิ้งก็หายไปด้วยอีกคน ผมคิดว่าคงโดนจับไปพร้อมกัน” รังสิมันต์พูด มังกรที่ได้ยินก็สบถคำหยาบออกมาอย่างหัวเสีย เพราะไม่คิดว่าคนของตัวเองจะติดร่างแหไปด้วย

“แต่ผมให้โยชิตามไปแล้ว คงได้...” รังสิมันต์ยังพูดไม่ทับจบดี ร่างสูงใหญ่ของสุริยะมณฑลก็พุ่งตรงไปหาร่างของตี้เฉินที่ยังสลบไสลไม่ได้สตินอนอยู่กับพื้น ใช้มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและกระเป๋ากางเกงของร่างที่นอนอยู่จนหมอกานต์ต้องแหวออกมาเมื่อมีคนเข้ามายุ่งในขณะที่เขากำลังช่วยเหลือชีวิตคน

“นี่! คุณอยากให้ผมช่วยชีวิตลูกน้องคุณหรืออยากให้เขาตาย!!” หมอเด็กที่เด็กทั้งหน้าทั้งชื่อใช้ปากบ่นแต่มือก็ยังไม่วายทำงานไปด้วยอย่างคล่องแคล่ว แต่สุริยะมณฑลไม่สนออกปากถามหมอกานต์เสียงเครียด

“คุณหยิบอะไรออกไปจากร่างกายของอาตี้หรือเปล่า” คุณหมอณัฐกานต์ฟังแล้วก็ทำหน้างง แต่ก็ยอมตอบแต่โดยดี

“ไม่มี ผมแค่ปลดกระดุมเสื้อเขาออกดูแผลเท่านั้น” สิ้นคำสุริยะมณฑลก็เงยหน้าไปมองมังกรที่หน้าเครียดไม่แพ้กันแล้วเอ่ยบอก

“สร้อยพระจันทร์ไม่ได้อยู่ที่อาตี้ แสดงว่าเขาคงให้พระจันทร์ไปแล้ว และที่สร้อยนั่นก็มีสัญญาณติดตามตัวอยู่...”

   ไม่ต้องพูดอะไรมากไปกว่านั้นมังกรก็เข้าใจ รีบเดินเข้าไปก้มมองดูจอแท็บเล็ตขนาดฝ่ามือในมือของสุริยะมณฑลด้วยกัน


---------------------------- - -  -  -              - - -------          - - -             --- -       -        ------   - ---   --         -


   พระจันทร์รู้สึกตัวเมื่อพื้นที่นอนอยู่โคลงเคลงจนทนหลับตานอนต่อไปไม่ได้ ยิ่งพอได้ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยก็เจอแสงสว่างจ้าของพระอาทิตย์แบบที่ไม่ได้พบบนเรือลำใหญ่ที่ตัวเองเคยอยู่มาก่อนหน้านี้ ก็ทำให้ต้องขมวดคิ้วและลืมตาตื่นขึ้นมาในที่สุด...

   ...ที่นี่มัน...ที่ไหน? สปีดโบ๊ทงั้นหรือ...เด็กหนุ่มคิดในใจก่อนหันมองข้างในระยะที่หันมองได้ แล้วสมองก็เริ่มกรอกลับไปที่เหตุการณ์ก่อนหน้าที่ตัวเขาจะสลบ...

   พระจันทร์จำได้ว่าเขากำลังเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าอยู่ตอนที่มีคนมาเคาะห้อง ในใจคิดว่าคงเป็นพี่ยะของตัวเองแน่แท้แล้วจึงรีบเดินไปเปิดโดยไม่ทันได้ระวังอะไร ทว่าเมื่อประตูเปิด สิ่งที่ยื่นเข้ามากลับเป็นท่อนแขนใหญ่ๆของผู้ชายคนหนึ่งพร้อมผ้าเช็ดหน้าโปะยาสลบ มันปิดลงที่ครึ่งปากครึ่งจมูกของเขา ฤทธิ์ของมันทำให้พระจันทร์เริ่มสลึมสลือเมื่อโดนไปได้แค่ครู่เดียว ทว่าก่อนจะหลับตาลงและสติขาดหาย เขาทันได้ยินเสียงภาษาจีนแหบเครือของเหวินจิ้งดังขึ้นมาจากหน้าห้อง แล้วหลังจากนั้นสติของเขาก็ดับวูบไปในทันที

“เหวินจิ้ง...คุณเหวินจิ้ง!!!” เมื่อนึกได้ถึงตรงนั้นพระจันทร์ก็ลืมตาพรึ่บพร้อมลุกขึ้นนั่ง อาการความดันทำให้เด็กหนุ่มมีอาการปวดศีรษะอยู่เล็กน้อยเพราะรีบลุก ทว่า...ปลายหางตาที่เหลือบหันไปเห็นร่างที่โดนเชือกรัดซึ่งนอนนิ่งอยู่ทางขวามือทำให้พระจันทร์ต้องลืมเลือนความปวดหัวของตัวเอง ลงมือปลุกและแก้เชือกให้เหวินจิ้งซึ่งโดนพันธนาการอยู่ใกล้ๆอย่างรวดเร็ว

“คุณเหวินจิ้ง...คุณเหวินจิ้งตื่นเร็วครับ...” พระจันทร์ใช้ปากเรียกชื่อ มือก็พยายามแก้เชือกไปด้วย ดีที่พวกมันรัดเหวินจิ้งเอาไว้แค่หลวมๆทำให้พระจันทร์ปลดพันธนาการได้อย่างรวดเร็ว พอแก้ผ้าปิดปากได้เหวินจิ้งก็เหมือนได้สติพอดี

“ลู...น่า...” เหวินจิ้งครางเรียกชื่ออีกฝ่ายเมื่อเห็นหน้าเป็นคนแรกหลังจากลืมตาตื่น...

“ครับ...ผมเอง คุณเหวินจิ้งเจ็บตรงไหนมั้ย” พระจันทร์รีบถามกลับเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทรงตัวลุกขึ้นนั่งได้แล้ว เหวินจิ้งส่ายหน้าให้แต่กลับลูบข้อมือที่ถูกเชือกบาดเบาๆ

   ...จริงสิ แล้วทำไมเขาถึงไม่ถูกมัดเหมือนกับเหวินจิ้งล่ะ...จู่ๆพระจันทร์ก็พลันนึกสงสัยขึ้นมาในห้วงสำนึก

   และในระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังช่วยประคองเหวินจิ้งให้ลุกขึ้นยืน เขาก็พบว่าบริเวณที่ทั้งคู่ถูกพามาไว้รวมกันนั้นคือส่วนท้ายของสปีดโบ๊ทลำหนึ่ง ส่วนคนที่จับพวกเขาสองคนมานั้นพระจันทร์ไม่เห็นเลย...

“คุณเหวินจิ้ง คุณพอจะจำได้มั้ยว่า...ใครที่จับพวกเรามาที่นี่” พระจันทร์เอ่ยถามผู้ร่วมชะตากรรม

“ผมไม่รู้จักพวกมัน ผมจำได้แค่ว่ามันมากันสองคน...ผมพยายามที่จะช่วยคุณแล้วนะแต่ว่า...”

“ผมขอโทษนะ ที่ทำให้คุณพลอยติดร่างแหมาด้วย...” พระจันทร์เอ่ยบอก แน่นอนว่าเหวินจิ้งเพียงส่ายหน้าให้แล้วบอกว่าไม่เป็นไร

   ในขณะที่พระจันทร์และเหวินจิ้งกำลังพยายามช่วยกันคิดหาทางหนี เสียงรองเท้ากระทบพื้นเรือก็ดังมาจากทางกราบเรือข้างหนึ่ง เด็กหนุ่มทั้งสองคนจึงพากันกระเถิบหนีไปอยู่ชิดมุมเรืออีกฝั่งหนึ่งแทน พระจันทร์หยิบเชือกที่ใช้รัดตัวเหวินจิ้งมาถือไว้เส้นหนึ่งเผื่อพอใช้เป็นอาวุธได้ในยามฉุกเฉิน ทว่าเมื่อเจ้าของเสียงรองเท้ากระทบพื้นเมื่อครู่โผล่พ้นมุมบังสายตาออกมา พระจันทร์ถึงกับนิ่งตะลึงค้าง มือที่ถือเชือกไว้เมื่อครู่เผลอปล่อยมันลงพื้นโดยไม่รู้ตัว

อาชิ!!!” พระจันทร์อุทานดังลั่น เจ้าของคำเรียก ‘อาชิ’ จากปากของพระจันทร์ฉีกยิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินคำเรียกนั้น

                อาชิ หรือชื่อไทยคือ อชิระ เป็นชายร่างใหญ่ วัยประมาณสี่สิบปลายๆ ใบหน้าส่อเค้าลูกครึ่งจากดวงตาชั้นเดียวกับผิวขาวแบบชาวจีน พระจันทร์พิจารณาใบหน้านั้นอย่างไม่เชื่อสายตา แม้อีกฝ่ายจะดูมีอายุขึ้นมาบ้างจากผมที่มีสีดอกเลาแซมประปราย แต่พระจันทร์มั่นใจว่าเขาจำไม่ผิดแน่

“คุณหนู...ผมดีใจจริงๆ...ที่ในที่สุดแผนของผมก็สำเร็จ ผมสามารถพาตัวคุณหนูออกมาจากมันได้ซักที” น้ำเสียงทุ้มๆเอ่ยขึ้นเรียบๆ แต่คนที่เคยได้ยินเสียงอีกฝ่ายมาก่อนอย่างพระจันทร์กลับฟังออกว่ามันแฝงความปิติยินดีเอาไว้มากแค่ไหน

“แผน? แผนอะไร แล้ว...นะ...นี่มันอะไรกันครับ ทำไมอาชิถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วคนที่จับพวกผมมา คือ...”

“ใช่ครับ...ผมเองที่เป็นคนพาคุณหนูมาที่นี่...ผมกับไอ้ศักดิ์ ลูกน้องเก่าของพ่อคุณหนูไงครับ”

   พระจันทร์ฟังแล้วก็นิ่งอึ้งไปอีกครั้ง เหวินจิ้งยืนนิ่งงันเป็นเพื่อนแม้จะไม่เข้าใจอะไรเลยเพราะทั้งคู่สนทนากันเป็นภาษาไทย แต่เพราะพระจันทร์สนทนากับฝ่ายตรงข้ามได้เป็นวรรคเป็นเวรโดยที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทางคิดทำร้ายอะไร ทว่าเมื่อชายหนุ่มในสูทดูดีก้าวเข้าหาพระจันทร์มาอีกก้าว คนตัวสูงกว่าพระจันทร์ที่ยืนเคียงกันก็รีบเอาตัวเองไปยืนบังเด็กหนุ่มเอาไว้ อย่างน้อยเหวินจิ้งก็ถือว่าพระจันทร์เป็นหนึ่งในผู้มีพระคุณของตัวเอง ที่ผ่านมาสามวันบนเรือ...เขามีพระจันทร์คอยยอมรับฟังและเชื่อเรื่องที่เขาบอก แถมยังช่วยดูแลเขาเป็นอย่างดีอีก ในตอนนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเขาก็พร้อมจะเอาตัวเองเข้าช่วยเหลือเด็กหนุ่มชาวไทยคนนี้เป็นการตอบแทนคืนบ้างเหมือนกัน

“ถ้าผมจำไม่ผิด คนนี้คือลูกชายของท่านรัฐมนตรีเหวินเป่า...เขาเป็นเพื่อนกับคุณหนูเหรอครับ” อชิระถามลูกชายของอดีตเจ้านาย เมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่เป็นของแถมติดมาอีกคน เอาตัวเองมาบังตัวคนที่เขาต้องการเอาไว้เสียเกือบมิด

“ครับ...เขาเป็นเพื่อนผม...แล้วอาชิจับเขามาด้วยทำไมครับ เขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ...”

“ขอโทษนะครับคุณหนู แต่เพื่อนของคุณเข้ามาเห็นพอดีผมเลยต้องพาเขาติดมาด้วย...เอาไว้เรากลับถึงเมืองจีนเมื่อไหร่ผมจะให้คนของเราที่นั่นส่งเขากลับมาที่นี่ทีหลังก็แล้วกัน และตลอดการเดินทางนี้เขาจะปลอดภัย ตราบใดที่เขายังคอยปกป้องคุณหนูอยู่แบบนี้ อชิระตอบ สายตามองไปทางเหวินจิ้งเขม็ง พระจันทร์ได้ฟังคำตอบแล้วก็รีบเอาตัวเองมายืนบังเหวินจิ้งเอาไว้อีกครั้ง ก่อนจะออกปากคุยต่อด้วยตัวเอง

“อาชิครับ...อาชิทำแบบนี้ทำไมครับ ไม่ใช่จันทร์ไม่ดีใจนะที่อาชิยังปลอดภัย แต่...ทำไมจู่ๆอาชิถึงต้อง...คือ จันทร์สับสน จันทร์...”

“เมื่อสองปีก่อน ตอนที่พวกเราถูก ‘มัน’ เล่นสกปรกใส่ ผม ไอ้ศักดิ์ กับลูกน้องของพ่อคุณหนูอีกสามคน เราหนีรอดออกนอกประเทศได้ทัน ส่วนพวกที่เหลือผมมาได้ข่าวทีหลังว่า...ถ้าไม่ถูกพวกมันฆ่าตาย ก็ถูกจับส่งตำรวจได้เกือบหมด ฐานอำนาจของเราที่ไทยไม่เหลือเลย ผมกับพรรคพวกมาปักหลักกันอยู่ที่จีนเพื่อคอยสืบหาคนที่เหลือรอดจากคนของเราที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ไทย...แต่...ไม่มีใครอยากกลับมาทำงานนี้อีก พวกเขาตัดสินใจไปทำอย่างอื่นกันหมด...ผมเลยคิดที่จะตั้งหลักปักฐานลงที่จีน รอให้พวกเรากลับมามีกำลังกันอีกครั้ง...เพื่อที่จะได้แก้แค้น ‘มัน’...คนที่ฆ่าท่านธรรณธร พ่อของคุณหนูไงครับ...” อชิระตอบคุณหนูของเจ้านายที่เขาเคยเห็นมาแต่อ้อนแต่ออก

   พระจันทร์มีสีหน้าสลดลงทันทีที่ได้ยินชื่อของบิดา...ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า ‘มัน’ ที่อชิระเรียกด้วยความเคียดแค้นนั้นคือใคร...เพราะเขาคือคนที่พระจันทร์รู้ดีว่าเขาคือฆาตกร...คนที่ทำให้พระจันทร์กลายเป็นเด็กอกตัญญู รักคนที่ฆ่าพ่อตัวเองได้ลงคอ...

   เมื่อสองปีก่อน เขาย้ายมาอยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลที่สิงคโปร์และเรียนหนังสือที่นั่น พ่อเลือกให้เขาอาศัยที่นั่นเพราะอยู่ใกล้เมืองไทย และพ่อจะได้บินมาเยี่ยมเขาได้บ่อยๆ...เขาไม่รู้แน่ชัดว่าธุรกิจที่พ่อทำนั้นมีอะไรบ้าง รู้แต่ว่ามันคงจะเป็นธุรกิจผิดกฎหมายเสียเป็นส่วนใหญ่แน่ เพราะพ่อเกลียดตำรวจเป็นที่สุด...มันเลยพลอยทำให้เขารู้สึกไม่ดีกับพวกผู้พิทักษ์สันติราชไปด้วย

   ก่อนหน้าวันที่เกิดเรื่องหนึ่งวัน เขาถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพราะเกิดอาการความดันเลือดต่ำกะทันหัน เขาไม่เคยมีญาติที่ไหนมาเยี่ยมนอกจากพ่อ และลูกน้องพ่อสองคนที่มักจะคอยโผล่มาในเวลาที่เขาเดือดร้อนเสมอ วันที่เกิดเรื่องคือวันที่เขาได้เจอกับ ‘พี่ยะ’ ของเขาเป็นครั้งแรก...ชายในชุดสูทสีเทาเข้มจนเกือบดำ ร่างกายสูงใหญ่ตระหง่าน อกผายไหล่ผึ่ง เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนเขาโดยไม่เคาะ ชายหนุ่มเดินเข้ามาข้างเตียงก่อนจะเอ่ยปากถามเขาด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า

‘ลูกชายของธรรณธรใช่มั้ย’

   เขาจำได้ว่าตอนนั้นเขาเผลอทำตาโตใส่ กำลังจะถามกลับไปว่ารู้จักชื่อพ่อของเขาได้อย่างไร อีกฝ่ายก็ยกกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งขึ้นมาดู แล้วก็มองต่ำมาที่สายรัดข้อมือของทางโรงพยาบาลที่มีชื่อของเขาเขียนเอาไว้ ชายหนุ่มพึมพำออกมาให้เขาได้ยินว่า

‘ชื่อตรงกันแสดงว่าใช่...โทษทีนะแต่ช่วยหลับไปซักพักก็แล้วกัน’

   พระจันทร์ได้ยินแค่นั้นก็จำอะไรไม่ได้อีก เพราะเขาถูกอีกฝ่ายใช้ผ้าเช็ดหน้าโปะยาสลบใส่เขา มาฟื้นตื่นขึ้นอีกทีก็ตอนที่เขากำลังนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของอีกฝ่ายบนถนนของเมืองไทยเรียบร้อยไปแล้ว เขาที่โดนใครก็ไม่รู้จับมาก็ต้องโวยวายออกไปก่อน โดยไม่ลืมสิ่งที่พ่อคอยกำชับไว้เสมอว่าถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวตัวเองต้องแกล้งทำเป็นเด็กออทิสติกที่มีปัญหาด้านการสื่อสาร พูดไม่รู้เรื่อง...เขาพยายามทำตามที่พ่อบอก จนกระทั่งในที่สุดคนกำลังขับรถคงทนไม่ไหว ชายหนุ่มจึงหันมาขึ้นเสียงใส่เขาให้เงียบ ก่อนจะเอากุญแจมือมาคล้องแขนเขาไว้ข้าง อีกข้างก็คล้องใส่ข้อมือตัวเอง บอกว่ามัดติดตัวเอาไว้อย่างนี้ล่ะ ถ้าเขาคิดจะเปิดประตูรถหรือทำลายกระจกแล้วกระโจนออกนอกรถไปอีกล่ะก็จะได้ตายคู่...แต่ฝั่งนั้นจะไม่ยอมตายอยู่บนถนนนี่อย่างเด็ดขาด...เพราะฉะนั้นเขาก็จะไม่สามารถหนีออกไปนอกรถคันนี้ในขณะที่รถกำลังแล่นได้เช่นกัน

   แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่หยุดโวยวาย ยังคงพูดค่อยๆช้าๆแต่ไม่ต่อติดกันเป็นประโยค ถามวนเวียนซ้ำๆเหมือนเทปเสียว่าชายหนุ่มจะพาเขาไปไหน และสุดท้ายก็ต้องยอมเงียบเมื่ออีกฝ่ายยอมตอบเขามาว่า จะพามาดูหน้าพ่อของเขาเอง...เป็นครั้งสุดท้าย

   เขาถูกพาตัวเข้ามาในโกดังร้างแห่งหนึ่ง ตอนที่เขาถูกกระชากลงมาจากรถแล้วมองไปรอบๆ คนแรกที่เขาได้เห็นก็คือพ่อของเขาเองที่ยืนอ้าปากค้างอยู่กลางห้อง ข้างๆทางฝั่งของพ่อมีอาชิ นายศักดิ์และคนอื่นๆยืนเอาปืนจ่อมาทางเขาเต็มไปหมด เขาไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น จู่ๆเขาก็โดนคุณรังสิมันต์เอามีดมาจ่อที่คอและพี่ยะเองก็เอาปืนมาจ่อที่หัว พอถึงตอนนั้นเขาเลยถึงบางอ้อ เมื่อพอลองมองไปอีกฝั่งเขาก็เห็นคนผมยาวคนหนึ่งหน้าตาคุ้นๆกำลังโดนลูกน้องของพ่อเขาทำในสิ่งเดียวกันกับที่เขากำลังโดน

   และในตอนที่การแลกเปลี่ยนตัวประกันกำลังจะสิ้นสุด เพราะพี่ยะยอมไขกุญแจมือปล่อยเขา ส่วนพ่อก็ยอมปล่อยคนผมยาวคนนั้น ผู้หญิงอีกคนและเด็กทารกน้อยในอ้อมแขนของเธอแล้ว จู่ๆเสียงปืนที่ไหนก็ไม่รู้ดังขึ้น ความอลหม่านชุลมุนเริ่มบังเกิด เขาถูกใครก็ไม่รู้ดึงแขนหลบวิถีกระสุนนัดหนึ่งจนพ้น พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเขาก็พบว่าคนที่กำลังเอาตัวเองมากันเขาไว้ก็คือคนที่เพิ่งไขกุญแจให้เขาไปนั่นเอง ชายหนุ่มไม่พูดพล่ามทำเพลงรีบฉุดมือเขาพาวิ่งฝ่าดงกระสุน จนไปถึงกลุ่มคนของคุณรังสิมันต์และชายหนุ่มผมยาว เขาถูกผลักไปให้เตโช ลูกน้องคนหนึ่งของคุณรังสิมันต์จับเอาไว้ ก่อนที่พี่ยะจะวิ่งหายไป

   เขาถูกพาตัวออกมาพร้อมคนของคุณรังสิมันต์เพื่อไปยังโรงพยาบาล ระหว่างทางมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาใจสั่น เหมือนหัวใจมันหล่นหาย...รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเสียคนที่รักไป...หลังจากนั้นใครพาไปไหนเขาก็ไม่รู้สึกตัวอีก มาสะดุ้งอีกทีก็ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล เมื่อพยาบาลสาวนางหนึ่งวิ่งออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วถามหากรุ๊ปเลือดของเขาจากญาติคนไข้แล้วไม่มีใครมี...ตอนนั้นเขาจำหน้าผู้ชายผมยาวคนนั้นได้แล้ว เขาคือน้ำฟ้า เพื่อนร่วมเคสเดียวกันในโรงพยาบาลที่อังกฤษ ตอนนั้นถึงเขาจะไม่รู้สาเหตุว่าทำไมพี่ฟ้าถึงต้องโดนพ่อของเขาจับตัวไปแบบนั้น ทว่าเมื่อก่อนตอนเจอกันในโรงพยาบาล พี่ฟ้าเป็นคนไทยและเป็นเพื่อนร่วมเคสที่ดี คอยช่วยเหลือเขาเล็กๆน้อยๆ และเคยเอาขนมไทยมาฝากด้วย พอเห็นเป็นคนรู้จัก เขาเลยอาสาเป็นคนให้เลือดเอง และเพราะอย่างนั้น ในภายหลังคุณรังสิมันต์เลยขอร้องให้พี่ยะรับเลี้ยงดูเขาไว้ เพราะเขาเคยช่วยชีวิตพี่ฟ้าเอาไว้ในตอนนั้น

   เขาได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากของพี่ยะเองในภายหลัง ว่าพ่อของเขากับคุณศิลา บิดาของพี่ยะเป็นศัตรูทางธุรกิจกัน พ่อเขาต้องการกรรมสิทธิ์เกาะรังนกจากคุณศิลา จึงจับพี่ฟ้า หนูลิน และคุณหญิงดารกานต์ แม่ของพี่ยะไปเป็นตัวประกันเพื่อต้องการข่มขู่เอาเอกสารสิทธิ์มาจากคุณศิลา ซึ่งทางฝั่งนั้นก็ไม่ยอม จึงได้ให้พี่ยะมาจับตัวเขาไป เพื่อการจรจาต่อรองที่เท่าเทียมกัน...ถึงเขาจะโกรธที่พี่ยะทำอย่างนั้นกับเขา แต่มันก็โกรธไม่ได้สนิทใจเมื่อคนที่เริ่มก่อนคือพ่อของเขาเอง...ที่สำคัญพี่ยะที่เป็นคนเล่ายังมาสารภาพกับเขาเอง ว่าเป็นคนยิงพ่อเขาจนเสียชีวิต

“วันนั้นมันยิงพ่อของคุณหนูตายโดยที่ท่านยังไม่ทันจะรู้ตัวเลยซักนิด...มันโหดเหี้ยมผิดมนุษย์! มันทำได้กระทั่งจับคนไม่มีทางสู้อย่างคุณหนูมาเป็นตัวประกัน!” อชิระนึกถึงความหลังในวันนั้นแล้วก็ให้คับแค้นจนแน่นอก พ่อของคุณหนูพระจันทร์เป็นผู้มีพระคุณของเขากับครอบครัวอย่างมหาศาล เขาจึงรับไม่ได้อย่างหนักที่เจ้านายที่เขาแสนจะเทิดทูนบูชาต้องมาตายอย่างน่าอนาจขนาดนั้น

“แต่พ่อของจันทร์ท่านก็เป็นฝ่ายไปจับพี่ฟ้ามาก่อนนะครับ...พ่อทำอย่างนั้นมันก็ไม่ถูก...” พระจันทร์พูดเสียงอ่อน เมื่อต้องมาฟื้นความทรงจำของวันที่อยากลืมที่สุดในชีวิตเอาในตอนนี้

“แต่เกาะเหลาลาดิงมันควรจะเป็นของท่านมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...! ถ้าไม่ถูกพวกมันเล่นสกปรกจนได้สัมประทานเกาะรังนกนั่นไป...”

“...” พระจันทร์เงียบเสียง ไม่โต้ตอบอะไร เมื่อเห็นแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นมีไฟแค้นสุมแน่นนัยน์ตา เขาเชื่อว่าต่อให้พูดอย่างไร ไปอชิระก็คงไม่สามารถปลงได้ และหันกลับมามองความจริงกับปัจจุบันเหมือนอย่างที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้

“ผมเฝ้าติดตามหาข่าวคราวของมัน พร้อมทั้งตั้งรากฐานอยู่ในจีนให้มั่นคงไปด้วย...ผมสืบจนรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน และใครที่เป็นศัตรูใหญ่ของมัน...ผมเดินทางมาที่ฮ่องกง และโชคดีที่ได้ช่วยเหลือคนรู้จักของมิสเตอร์โรเบิร์ต โจวเอาไว้ พอผมขอร้องว่าผมอยากทำงานกับนายท่านใหญ่ เขาเลยช่วยพูดให้ผม ผมเลยได้มาอยู่ทำงานกับท่านโรเบิร์ตอยู่ประมาณครึ่งปี ก่อนที่ท่านจะยกผมให้ไปเป็นผู้ช่วยของหลานชายท่าน...ปีเตอร์ โจว...คนที่เกลียดมันที่สุดในชีวิตเหมือนกันกับผม...และผมก็คอยช่วยเหลืองานของท่านปีเตอร์ ในนามของ...อาฉี...ยังไงล่ะครับ...”

-------------------------------------------------------------  - -   - ------     - -     -                  -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2014 01:46:28 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
“...” พระจันทร์นิ่งเงียบฟังที่อชิระกำลังเล่า ไม่นึกเลยว่าในระหว่างสองปีที่ผ่านมา ลูกน้องของพ่อคนนี้จะทำอะไรมากมายขนาดนี้เพื่อช่วยแก้แค้นให้พ่อของเขา ในขณะที่เขากำลังอยู่อย่างสุขสบาย ภายใต้การกางปีกปกป้องของฆาตกรที่ฆ่าพ่อของเขาเอง

   ...ความรู้สึกผิดบาปและละอายใจเริ่มตีกลับขึ้นมาในหัวใจของเขาอีกแล้ว...

“ผมยังพยายามตามหามัน พร้อมๆกับที่พยายามตามหาคุณหนู...จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมไปเห็นโปสเตอร์ที่มีรูปคุณหนูเข้า...คุณหนูถ่ายกับมัน ผมจำรอยสักที่หลังของมันได้...รอยสักรูปพระอาทิตย์ รอยเดียวกับที่พ่อของมันมี! แต่เพื่อความแน่ใจ ผมจึงบุกไปหาคนที่กองถ่ายแล้วก็สอบถามความจริงอีกครั้ง ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันหมดว่ามันเป็นมาหาตัวคุณหนูกลับไปเอง...หลังจากนั้นผมจึงให้คนของผมคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของมันอยู่ตลอด พอสบโอกาสผมก็พยายามที่จะให้คนของผมพาตัวคุณหนูกลับมา...แต่...ผมก็พลาด แผนของผมผิดพลาดทุกครั้ง ผมไม่สามารถชิงตัวคุณหนูกลับมาจากมันได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว...”

   สิ้นสุดคำอธิบายของอชิระ พระจันทร์ก็ย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ครั้งที่เขาดื้อกับสุริยะมณฑล เพราะต้องการจะหาเงินให้ได้ด้วยตัวเองจึงยอมตกลงไปถ่ายแบบเครื่องนอนให้กับแมวมองคนนั้น  ไม่นึกเลยว่านั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้มาพบกับลูกน้องเก่าของพ่ออย่างอาอาชิระคนนี้อีกครั้ง

“แต่...เดี๋ยวก่อนนะครับอา อาบอกว่าแผนของอาพลาดทุกครั้ง...หรือว่า...เรื่องที่จิมซาโจ่ยตอนนั้น กับวันที่ผมกลับจากมหาวิทยาลัย...คนที่มาโจมตีรถของผมคือ...”

“ใช่ครับคุณหนู...เป็นคนของผมเอง” อชิระตอบ สายตาตวัดไปทางเหวินจิ้งที่ยืนจับแขนพระจันทร์อยู่ใกล้ๆ แล้วตัดสินใจเปลี่ยนประโยคที่กำลังจะพูดต่อไปให้เป็นภาษาจีน เพื่อที่ว่าเพื่อนของลูกชายเจ้านายจะได้เข้าใจด้วยเช่นกัน

“...ผมชื่ออาฉี เป็นคนของท่านปีเตอร์ โจว ต้องขอโทษด้วยที่ทำกับคุณแบบนี้ เพราะผมไม่รู้มาก่อนว่าคุณเป็นเพื่อนของลูกชายผู้มีพระคุณของผม” อชิระแนะนำตัวเองคร่าวๆพร้อมโค้งให้เหวินจิ้งนิดๆ ชายหนุ่มร่างสูงกว่าพระจันทร์หันมองไปทางเด็กหนุ่มชาวไทย ซึ่งก็หันมองตอบเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ สองมือพนมขึ้นก่อนจะเอ่ยปากขอโทษเขาเป็นภาษาจีนเมื่อคนที่จับเขามาเป็นคนรู้จักของเขาเอง...

“นี่มันเรื่องอะไรกัน...!” เหวินจิ้งรับคำขอโทษจากพระจันทร์ แต่หันไปตวาดเสียงดังใส่อชิระ ซึ่งคนโดนตวาดใส่ก็ไม่สะทกสะท้าน กลับหันหน้ามามองเขาอย่างเต็มตาพลางเอ่ยว่า...

“ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนกับคุณหนูของผม เรื่องต่อไปที่ผมจะบอกคุณก็ต้องมีสิทธิ์รับรู้ เพราะมันคือเรื่องที่เกี่ยวกับตัวคุณเอง...” อชิระจั่วหัวไว้พลางมองสบตาตอบเหวินจิ้งอย่างตรงไปตรงมา พระจันทร์เลื่อนมือลงไปประสานกับเหวินจิ้ง เพราะเขาเริ่มเดาออกแล้วว่าเรื่องที่อชิระกำลังจะพูดต่อไปนั้นคือเรื่องอะไร

“หลังจากที่ผมได้พบคุณหนูบนโปสเตอร์แผ่นนั้น และตามไปถามข่าวของคุณหนูถึงที่กองถ่าย...ผมก็ยังได้รับทราบเรื่องจากอาเฉิน...ตากล้องที่ถ่ายรูปของคุณหนูในวันนั้นเพิ่มเติมมาอีกว่า... ‘มัน’ มีเรื่องไม่ลงรอยกันกับคุณเหวินจิ้ง ที่เป็นนายแบบคู่กับคุณหนู ผมก็เลยเอาเรื่องนี้มาใช้ในแผน...โดยการสั่งให้ลูกน้องที่ตามคุณหนูไปวันนั้น ว่าถ้าหากถูกจับได้ก็ให้ซัดทอดไปที่คุณเหวินจิ้ง เรื่องมันจะได้ไม่สาวมาถึงตัวของท่านปีเตอร์ ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย...เรื่องนี้ ผมต้องขอโทษคุณเหวินจิ้งจริงๆนะครับ ที่ทำให้ลำบาก...” อชิระพูดแล้วก็โค้งตัวให้เหวินจิ้งอย่างสวยงามหนึ่งครั้ง ทว่าคนฟังที่เพิ่งรู้ตัวคนบงการใส่ร้ายเขากลับกำมือแน่น กัดฟันกรอด ผรุสวาทด่าอชิระออกมาเสียงดังลั่นเรือ

“ไอ้สารเลว!!! แกเอาฉันเข้าไปเกี่ยว...แกรู้บ้างมั้ย! ว่าไอ้สิ่งที่แกทำ มันทำให้ฉันต้องเจอกับอะไรบ้าง!! ไอ้ชั่ว...!!! ไอ้...” เหวินจิ้งตั้งท่าจะกระโจนเข้าไปหาอชิระแล้วปล่อยหมัดลงไปให้หายแค้น ทว่าพระจันทร์กลับเป็นคนยื่นแขนออกมากอดเหวินจิ้งเพื่อรั้งตัวเอาไว้ เขากอดรัดเหวินจิ้งแน่นอย่างสุดความสามารถก่อนจะพูดออกมาเคล้าสะอื้นเล็กๆว่า

“คุณเหวินจิ้ง...ผมขอโทษแทนอาชิด้วย...อาทำก็เพราะผม ผมเป็นต้นเหตุให้คุณต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้...ผมขอโทษนะครับ ถ้าจะโทษ...ก็ต้องโทษผม...นะครับคุณเหวินจิ้ง ผมขอโทษ...”

   เหวินจิ้งหันมองเด็กหนุ่มชาวไทยที่กอดเขาเอาไว้ แววตาสำนึกผิดทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้อะไรในเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกับเขาทำให้เหวินจิ้งโกรธไม่ลง สายตาโกรธขึ้งตวัดกลับไปที่อชิระ ซึ่งอีกฝ่ายก็เพียงตั้งรับอยู่นิ่งๆ ยืนมองอาการของทั้งเขาและเหวินจิ้งอยู่เงียบๆ ซึ่งพระจันทร์ก็พอดูออก ว่าในแววตาของอชิระไม่ได้มีความสำนึกผิดจริงอย่างที่พูดเลยซักนิด...ตอนนี้เขารู้สึกสงสารเหวินจิ้งเป็นที่สุดที่จู่ๆก็โดนลากเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยเลย

“คุณหนูครับ...ผมพยายามหาวิธีและช่องทางมากมายที่จะพาตัวคุณหนูกลับมา...ผมรู้ดี ว่าคุณหนูคงไม่ได้มีความสุขอยู่ที่นั่นแน่ คนอย่างมัน...คงกะจะเอาตัวคุณหนูไว้โขกสับ ไว้ทรมานเล่นใช่มั้ยครับ ไม่ต้องกลัวนะครับคุณหนู ต่อจากนี้มันจะไม่สามารถเข้ามาทำอะไรคุณหนูได้อีก...ไว้เราออกพ้นเขตฮ่องกงเมื่อไหร่ มันก็จะหมดอำนาจที่จะมายุ่งเกี่ยวกับพวกเราทันที” ความนี้อชิระยังคงพูดต่อเป็นภาษาจีน เพื่อให้บุคคลที่สามอีกคนยังสามารถเข้าใจบทสนทนาได้อยู่ หลังจากที่เขาได้ละเลยความสนใจจากเหวินจิ้งมาตั้งแต่ต้น

   ทั้งสองคนหันหน้ามองกัน แม้เหวินจิ้งจะไม่เข้าใจว่าทำไมอชิระ หรือ อาฉีคนนี้ถึงได้มีท่าทีแค้นคนที่เขาก็พอเดาออกว่าคงเป็นหยางหลง ผู้ปกครองของพระจันทร์นัก เพราะเขายังไม่ได้รับการบอกกล่าวถึงต้นสายปลายเหตุ แต่เขาเดาเอาและเข้าใจเอง ว่าลูกน้องของนายปีเตอร์คนนี้คงแค่อยากพาตัวพระจันทร์กลับไปกับตัวเอง เพราะเป็นลูกของผู้มีพระคุณดังที่อาฉีคนนี้กล่าวอ้าง และคงมีเรื่องอะไรผิดใจกับหยางหลงมาแต่หนหลัง แต่...เขาก็ไม่เข้าใจคำพูดของอาฉีคนนี้จริงๆ

“อาชิครับ จันทร์...จันทร์ขอบคุณ...ที่อาชิยังคอยตามหาจันทร์อยู่ แต่ว่า...ความจริงแล้วพี่ยะ...”

“คุณหนู!! คุณหนูไปนับญาติกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ!”

“อาชิ...ใจเย็นๆนะ ฟังจันทร์ก่อน...ที่ผ่านมา พี่...เอ่อ เขาไม่เคยทำร้ายจันทร์...เขาคอยปกป้องแล้วก็ดูแล...”

“เพราะอย่างนี้ใช่มั้ยครับ...คุณหนูถึงรักมัน!

“อะ...อาชิ...” พระจันทร์เอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา ตกใจ...ที่ได้ยินคำพูดนั้นออกมาจากปากของอชิระ

            สักพักเดียว จู่ๆความรู้สึกเหมือนโดนใครซักคนค้นเจอความลับก็บีบเค้นให้เขาน้ำตาเอ่อคลอ ความรู้สึกผิดเริ่มตีตื้นขึ้นมาซ้ำ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนคนนั้นเป็นลูกน้องเก่าของพ่อของเขาเอง ความรู้สึกผิดก็ยิ่งทบเท่าทวีคูณ...เขารักลูกชายของศัตรูพ่อ...

            ...เขารักพี่ยะ...

            เขาปฏิเสธความรู้สึกนี้ไม่ได้...ทั้งๆที่ความรู้สึกนี้...ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเขาเลย

“วันนั้นผมได้ยิน ที่คุณหนูกับผู้ชายผมยาวคนนั้นคุยกัน...หึ...อันที่จริงที่ผ่านมาผมก็พอเดาออกตั้งแต่เห็นมันพาคุณหนูขึ้นเรือมาด้วยแล้ว...คุณหนูรักมัน...และมันก็เลือกคุณหนู ไม่ใช่นังคู่หมั้นจอมปลอมนั่น! เพราะฉะนั้นการที่ผมพาคุณหนูออกมาจากมันได้ ก็เป็นการแก้แค้นที่ทำให้ผมยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว...ได้ทั้งคุณหนูกลับมาอยู่กับพวกเรา แล้วยังได้ทำให้มันรู้สึกทรมานเหมือนตายทั้งเป็น...ที่ต้องเสียของรักของหวง...หึหึ”

   เหวินจิ้งไม่เข้าใจว่าทั้งคู่สนทนาอะไรกันเป็นภาษาไทยอีกแล้ว แต่จากแววตาและการหัวเราะของอาฉีคนนี้มันไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย...เหวินจิ้งกัดฟันกรอด กำมือแน่น...เรื่องอื่นเขาจะไม่พยายามสนใจนักว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับเด็กหนุ่มชาวไทยคนนี้อีกบ้าง...ตอนนี้เขาต้องดึงอารมณ์โกรธของตัวเองมาหยุดอยู่ที่เรื่องมันเป็นคนใส่ร้ายป้ายสีเขา...เขาจะทำยังไงดี จะหนีรอดออกไปจากที่นี่ได้ยังไงดี!!

   จู่ๆในขณะที่เหวินจิ้งกำลังเสสายตาหันมองไปรอบๆ กลางผืนน้ำสีน้ำเงินเข้มตัดกับท้องฟ้าสีเทาขุ่นขมุกขมัว มันมีเงาดำอะไรบางอย่างพุ่งทะยานผ่านน้ำมาทางเรือที่พวกเขาอยู่ พอเพ่งมองดูดีๆมันคือสปีดโบ๊ทสามสี่ลำที่วิ่งฝ่าน้ำเข้ามาด้วยความเร็วสูง ในใจเหวินจิ้งกระตุกวาบ รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นเสื้อสีเหลืองขุ่นของหนึ่งในคนขับเรือมาจากไกลๆ เพราะจำได้ดีว่าเจ้าของคือใคร ในเมื่อตอนเช้านั้นเขาเป็นคนสวมเสื้อตัวนั้นให้ร่างกายสูงใหญ่ของมังกรด้วยตัวเอง

“เหมิงหลง...” เสียงพึมพำแหบต่ำของเหวินจิ้งเรียกสายตาจากทั้งพระจันทร์และอชิระให้หันมามองที่เขาเป็นตาเดียว อชิระตวัดสายตามองไปทางที่เหวินจิ้งกำลังมองค้างไว้ และพอเห็นในสิ่งที่เหวินจิ้งกำลังเห็น อชิระก็รีบวิ่งหายลับไปทางหัวเรือ พร้อมเสียงตะโกนบอกนายศักดิ์ที่ให้เร่งความเร็วเรือหนีสปีดโบ๊ทที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆนั่น

“พวกเขา...” พระจันทร์มองตามสายตาของเหวินจิ้ง แม้จะเห็นไม่ชัดแต่เค้ารางของคนขับสปีดโบ๊ทลำที่อยู่หน้าสุดก็ทำให้เขารู้สึกโล่งใจ ลำบากใจ และสุดท้ายก็คือหวาดกลัว...ตอนนี้พี่ยะไม่ควรจะมาเจอกับอาชิ เพราะมันจะไม่ปลอดภัยทั้งกับตัวอาชิเองแล้วก็ตัวพี่ยะด้วย

   ...แล้วแบบนี้เขาจะตัดสินใจยังไงดี...

   ...จะยอมกลับไปกับอาชิ...หรือ...จะยอมเป็นคนอกตัญญู ทำตามหัวใจตัวเอง...

        ...กลับไปอยู่เคียงข้างเขา...

   ...เขาจะทำยังไง...จะเลือกทางไหนดี...   

-------------------------------------------------------------  - -   - ------     - -     -                  -


   สุริยะมณฑลมองตามจุดสีเขียวซึ่งกำลังวิ่งห่างออกไปบนหน้าจอด้วยใจว้าวุ่น สปีดโบ๊ทยี่ห้อเดียวกันที่วิ่งนำเดี่ยวอยู่ข้างหน้าเริ่มเห็นใกล้เข้ามาลิบๆ เหลือบตามองไปด้านข้างก็เจอเรือของมังกรกำลังวิ่งตีตื้นขึ้นมาขนาบเขา ปลายนิ้วชี้ของมังกรชี้ไปที่เรือลำที่ว่าแล้วหันกลับมาสบตาแฝงความนัยด้วย สุริยะมณฑลพยักหน้าให้ก่อนจะเร่งเครื่องขึ้นไปหาเรือลำนั้นด้วยความร้อนใจและเป็นห่วงคนตัวบาง ไม่ต้องวางแผนอะไรออกมาเป็นคำพูดอีกเมื่อมังกรเห็นการขับเรือแบบนั้นของเพื่อน ชายหนุ่มเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองจะต้องทำทันที มังกรเร่งเครื่องตามหลังสุริยะมณฑลไปแล้วก็ขึ้นแซงนำหน้า

                  กำลังเครื่องยนต์ของเรือลำที่จับคนของเขาไปมีพอๆกัน แต่ดูจากลักษณะการขับแล้วฝีมือมันคนละชั้น เขากับสุริยะมณฑลเป็นสิงห์นักบิดบนท้องถนนก็จริง แต่ใช่ว่าพอต้องลงมาบิดในน้ำแล้วพวกเขาจะจอดเสียเมื่อไหร่ ซึโยชิลูกน้องของรังสิมันต์ที่ติดตามมาด้วยกับเรือของคนของมังกรเข้าไปแย่งที่นั่งคนขับ แล้วจัดการซิ่งเสียเอง อาศัยประสบการณ์สมัยอยู่ญี่ปุ่นขับตามประกบมังกร ปล่อยให้ซานตงขับตามสุริยะมณฑลไป

   คลื่นน้ำเริ่มสูงขึ้นเมื่อตัวเรือเริ่มฝ่าเข้าส่วนของทะเลลึก ประกอบกับท้องฟ้าเบื้องบนที่เริ่มมีเสียงครืนครางของฟ้าฝนดังไล่หลังมา ทำให้คนเรือทุกคนรู้ทันทีว่าพายุกำลังเข้า อชิระทุบมือกับคอนโซลเรืออย่างหัวเสีย เขาต้องขับออกนอกเส้นทางมาไกลก็เพราะโดนพวกมันคอยตามจองล้างจองผลาญกันไม่เลิก...แต่อย่าคิดว่าเขาจะยอมให้มันชนะอีก คราวนี้เขาลงทุนลงแรงไปเยอะ...ไม่ยอมให้มันเสียเปล่าหรอก

“พี่ ฝนทำท่าจะตก...ผมคิดว่าถ้าเรายังขับเรือวนอยู่อย่างนี้ไม่รีบขึ้นฝั่ง เราจะแย่กันนะพี่...” นายศักดิ์ที่รับหน้าที่เป็นคนขับเรือบอกอชิระ หนุ่มใหญ่ที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ใกล้คนขับเรือเห็นจริงดังที่เพื่อนร่วมแผนการณ์ว่า ทว่าจะให้เขาถอยหลังตอนนี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ ยังไงก็ต้องลองชนกับพวกมันดูอีกซักตั้ง...อชิระมั่นใจว่าคราวนี้เขาเป็นต่อแน่ เพราะเด็กหนุ่มสองคนที่เขาพาอยู่หลังเรือนั่นเป็นเกราะป้องกันพวกเขาได้อย่างดี ไม่มีทางที่พวกมันจะทำอะไรเขาได้แน่ตราบใดที่คุณหนูยังอยู่บนเรือลำนี้

“เฮ้ยยยย!!!”

   จู่ๆทั้งคู่ก็ต้องอุทานออกมาดังลั่น เมื่อเรือลำหนึ่งที่คนขับเรือเป็นชายร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อสู่ตัวนอกสีเหลืองขุ่นเร่งความเร็วเรือขึ้นสูงสุดจนแซงเรือเขาไปได้ แล้วมันก็หักหัวเรือปาดหน้าเขาอย่างกะทันหัน...ดีที่นายศักดิ์ขับเร็วไม่เท่าจึงได้หยุดชะงักเรือทัน

“เฮ้ย...เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแก ถอยไป!!” หนุ่มใหญ่เอ่ยขึ้นพร้อมยกปืนขึ้นขู่ฝั่งคนอายุน้อยกว่า ถึงอชิระจะเพิ่งมาทำงานกับปีเตอร์ได้ไม่นาน แต่คนดังแห่งฝั่งเกาลูนคนนี้ใช่ว่าเขาจะไม่รู้จัก ถึงจะไม่ละเอียดนักก็เถอะ

“คงไม่ได้หรอกมั้งลุง หลังเรือน่ะคนของผม...ลุงเป็นใคร แล้วจับพระจันทร์กับเหวินจิ้งมาทำไม” แม้จะโดนถือปืนขู่แต่เหวินจิ้งก็ไม่ถามกลับแบบไม่กลัวเกรง มองหน้าค่าตาแล้วตอนแรกเขานึกว่าลูกน้องของนายปีเตอร์คนนี้จะเป็นคนจีนเสียอีก แต่ได้ยินคำถามเป็นภาษาไทยมาแล้วก็ทำให้เขาเริ่มสงสัย...ท่าทางแบบนี้ไม่น่าจะใช่แผนของไอ้ปีเตอร์มันแล้ว...ท่าทางเหมือนจะเป็นแค้นส่วนตัว

   ...แต่...แล้วแค้นของใคร...ของพระจันทร์งั้นหรือ...

“มันไม่ใช่เรื่องของแก ถ้าไม่อยากตายอยู่กลางทะเลนี่ก็ถอยไปซะ!” อชิระหัวเสียหนัก เมื่อจู่ๆก็โดนคนที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาขัดขวาง...

“พี่ชิ! ข้างหลัง...!!!” จู่ๆนายศักดิ์ที่หันมองผ่านไปข้างหลังเพื่อหาทางหนีทีไล่ก็ตะโกนเรียกอชิระดังลั่น เพราะตรงนั้นมีร่างสูงใหญ่ของสุริยะมณฑลเพิ่งกระโดดขึ้นมาบนเรือ และทำท่าจะเดินเข้าไปหาคุณหนูของพวกเขา อชิระที่หันมองตามเสียงเรียกกัดฟันกรอด หมดความสนใจกับมังกรที่ยังขวางลำเรืออยู่ข้างหน้ารีบกระโดดไปหลังเรือทันที

   โชคดีที่สปีดโบ๊ทไม่ได้ลำใหญ่มาก ระยะไม่ได้ยาว อชิระจึงทันกระโดดเข้าขวางกลางระหว่างสุริยะมณฑลและพระจันทร์ ปืนพกประจำมือสีดำมะเมื่อมถูกยกขึ้นมาจ่อในระยะประชิด แว่บแรกที่สุริยะมณฑลมองเห็นคนเข้ามาขวางเขาก็เกือบเผลอยกปืนขึ้นมาสวนเข้าให้แล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงพระจันทร์ที่ดังขึ้นด้วยความตกใจ และเรียกคนตรงหน้าด้วยอาการแบบคนรู้จักกัน

“อย่าครับอาชิ! อย่ายิงเขา...จันทร์ขอร้อง...” พระจันทร์ที่จับมือเหวินจิ้งเอาไว้ตะโกนขัดขึ้น และนั่นก็ทำให้อชิระตัดใจกดนิ้วที่ไกปืนไม่ลง ทั้งที่ตั้งใจเอาไว้แล้วแท้ๆ...ว่าหากคราวหน้าได้เจอมันอีก...เขาจะไม่มีอาการลังเลในการที่จะฆ่ามันเพื่อแก้แค้นให้กับเจ้านายของตัวเองเลย

“จะให้อาไม่ยิงมันได้ยังไง ก็ในเมื่อมันฆ่าผู้มีพระคุณของอา จันทร์เป็นลูกแท้ๆทำไมถึงไม่แค้น ทำไมถึงไม่อยากฆ่ามันให้ตายเหมือนอาบ้าง!!!” อชิระพูดออกมาเสียงแข็งด้วยความโกรธที่สะสมมานานข้ามปี แววตาแห่งความเคียดแค้นรุนแรงส่งผ่านไปให้สุริยะมณฑลซึ่งยังยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่มีอาการสะทกสะท้านใดๆกับวาจาดุเดือดที่อชิระพูดใส่เขา...

“อาชิจันทร์ขอ...ขนาดจันทร์ที่เป็นลูกยังอโหสิกรรมให้เขาได้ แล้วอาชิที่เป็นคนสนิทของพ่อจะอโหสิกรรมให้เขาไปไม่ได้เลยเหรอครับ...จันทร์อยากให้ทุกอย่างมันจบลงไปแค่ในวันนั้น จันทร์ไม่อยากให้ใครรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก พ่อของจันทร์ท่านก็เสียไปแล้ว...ต่อให้อาชิฆ่าพี่ยะให้ตายตามไปอีกคน พ่อของจันทร์ก็ไม่มีวันฟื้นขึ้นมาหรอกครับ” พระจันทร์พยายามรวบรวมกำลังใจ เอ่ยเกลี้ยกล่อมให้อชิระลดปืนลง แต่หนุ่มใหญ่ที่ทำท่ารับฟังเขากลับไม่มีอาการลังเลหรือคิดอยากทำอย่างที่เขาบอกเลยซักนิด ดวงตาชั้นเดียวของหนุ่มใหญ่ตวัดกลับไปที่ใบหน้าหล่อคมของสุริยะมณฑลก่อนจะพูดใส่หน้าอย่างไม่กลัวเกรงว่า...

“แกนี่มันเลวจริงๆ...! แกคงจะหลอกให้คุณหนูของฉันหลงรัก หลอกให้เชื่อฉากหน้าที่ว่าแกเป็นคนดี เพื่อที่แกจะได้เลี้ยงคุณหนูของฉันไว้ทำตามสิ่งที่แกต้องการใช่มั้ย!!! ไอ้สารเลวเอ๊ย...!!” อชิระยกปืนขึ้นเล็งแล้วเหนี่ยวไกพร้อมกับที่ประโยคสุดท้ายถูกเอ่ย...

สุริยะมณฑลมองตามปากกระบอกปืนที่ถูกยกขึ้นมาจ่อที่หน้าทว่าก็ไม่ยอมหลบตา พระจันทร์ที่ยืนมองอยู่จากเบื้องหลังของอชิระตกใจมาก สมองสั่งการให้ออกวิ่งไปผลักอชิระจนกระสุนปืนที่ลั่นออกไปเฉี่ยวแก้มสุริยะมณฑลไปเพียงนิดเดียว ท่อนแขนใหญ่ยกขึ้นรับร่างของพระจันทร์ที่วิ่งเข้ามาหาแล้วเอามากอดไว้แน่น...

“พี่ยะ! เป็นอะไรมั้ย...โดนยิงหรือเปล่า” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงสั่นพลางยกมือไปประคองใบหน้าของคนที่กอดเขาเพื่อสำรวจดู ว่าอีกฝ่ายได้แผลมาหรือเปล่า

“...” ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร นอกจากรวบมือพระจันทร์ที่กุมแก้มเขาออกพาไปโอบรอบสะโพกตัวเอง ก่อนที่สองแขนใหญ่จะกกกอดพระจันทร์เอาไว้ในอ้อมแขน แล้วจูบลงที่ข้างกระหม่อมเบาๆ

“ฮึ้ย!! แก...” อชิระขยับยืนตรงอีกครั้งก่อนจะยกปืนขึ้นเล็งเพื่อจะยิงซ้ำสอง ทว่าสุริยะมณฑลเพียงแค่ยกนิ้วชี้ขึ้นชี้ตรงไปที่อชิระแล้วออกเสียงสั่งดังลั่นว่า

หยุดนะ!!” เสียงตวาดดังลั่นของสุริยะมณฑลได้ผล อชิระเผลอหยุดไปตามคำสั่ง ชายหนุ่มดันตัวพระจันทร์ไปไว้ด้านหลังของตัวเองแล้วจึงเอ่ยต่อโดยที่ยังไม่เอานิ้วลงว่า

“ถ้าคุณหวังดีกับพระจันทร์จริง คุณจะไม่มีทางหันปากกระบอกปืนมาทางนี้เด็ดขาด” สุริยะมณฑลเอ่ย พระจันทร์ที่หลบอยู่หลังคนตัวใหญ่กว่าเอามือเกาะเกี่ยวผสานนิ้วเข้ากับนิ้วมือแข็งแรงของอีกคนแล้วเกาะแขนเสื้อพี่ยะของตัวเองแน่น ก่อนจะค่อยๆเอ่ยคำพูดออกมา

“หยุดเถอะนะครับอาชิ จันทร์ขอร้อง”

“คุณหนูหยุดได้...แต่อาจะไม่หยุด จนกว่ามันจะตายไปด้วยมือของอาเอง...”

“งั้นอาก็ต้องข้ามศพผมไปก่อน ผมจะยอมให้เขาตายแบบนี้ไม่ได้...เพราะเขา คือคนที่จันทร์ตัดสินใจแล้วว่าจะรัก...รัก...โดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น”

“...พระจันทร์...” สุริยะมณฑก้มลงมองคนที่เกาะแขนเขาแน่น ทั้งที่มือบางกำลังสั่นอยู่แท้ๆ แต่คำพูดเท่านั้นที่ฟังดูจริงจังและมั่นใจ และมันก็ทำให้หัวใจเขาอุ่นวาบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“คุณหนู! ฮึ้ย...”

“...ระวัง!” ทันทีที่พูด คนร่างสูงใหญ่ก็รีบเอาตัวเองเข้ากันกระสุนแทนพระจันทร์ แต่ไม่รู้ว่าเพราะโชคดีหรือปาฏิหาริย์ ที่ทำให้สุริยะมณฑลรอดจากการโดนยิงมาอย่างหวุดหวิด เพราะมังกรที่เข้ามายิงสกัดให้จนปืนในมือของอชิระหล่นลงพื้นไป

แก!!!

“ถ้าแกคิดจะทำอะไรเพื่อนฉันและผู้มีพระคุณของฉัน...ก็มาลองดูกันซักตั้ง ว่าใครที่จะได้กลายเป็นศพลอยน้ำก่อนกัน”

   มังกรขู่อย่างดุเดือด มือข้างหนึ่งกอดกระชับร่างของเหวินจิ้งเอาไว้ สายฝนที่ตกลงมาโปรยปรายเริ่มลงเม็ดหนักขึ้น สายฟ้าแลบแปลบปลาบเห็นอยู่ไกลๆชวนให้สะดุ้ง และในจังหวะที่ไม่มีใครพูดอะไร สุริยะมณฑลก็กระตุกมือพระจันทร์ ให้กระโดดลงไปในเรือของเขาที่เริ่มลอยห่างจากเรือนายอชิระมากขึ้นไปทุกทีเพราะโดนคลื่นซัด อชิระรีบวิ่งตามมาเกาะกราบเรือแล้วตั้งท่าจะปีนเพื่อกระโดดลงตามสุริยะมณฑลและพระจันทร์ไป ทว่าอีกฝ่ายกลับยิงกระสุนสวนมาทำให้เขาต้องรีบหาที่หลบ ซึ่งในขณะเดียวกันมังกรก็อาศัยช่วงเวลานั้นพาเหวินจิ้งกระโดดหนีลงเรือของตัวเองบ้าง เมื่ออชิระหันมาอีกทีจึงพบเจอแต่ความว่างเปล่ากับร่างของนายศักดิ์ที่นอนสลบเหมือดอยู่หลังคอนโซลบังคับการเรือ

“โธ่เว้ย! อย่านึกว่าฉันจะยอมหยุดแค่นี้นะ!!!” อชิระสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะใช้เท้าดันร่างเพื่อนร่วมงานให้ถอยไปห่างๆ ก่อนจะเข้าเป็นคนสตาร์ทและขับเรือเพื่อไล่ตามเรือของสุริยะมณฑลแทน


-------------------------------------------------------------  - -   - ------     - -     -                  -


“...แย่แล้ว” ซึโยชิที่ขับเรือวนเวียนคอยดูสถานการณ์อยู่รอบนอกเห็นเรือของสุริยะมณฑลและมังกรตีวงออกมาจากเรือคนร้ายเรียบร้อยแล้ว ทว่าเรือของคนร้ายกลับเริ่มมีการขยับ มันมีการเร่งเครื่องแล้วก็ตีวงเลี้ยวกลับ เบนเข็มไล่ตามเรือของสุริยะมณฑล

   ชายหนุ่มหันไปบอกลุกน้องของมังกรให้ใช้วิทยุสื่อสารไปที่ซานตงว่าให้ช่วยยิงสกัดให้พลาง ระหว่างที่เขาซึ่งอยู่ใกล้กว่าจะเป็นฝ่ายขับเรือเข้าขวางเอง ซึโยชิสั่งเสร็จก็รีบเร่งความเร็ว ตั้งใจจะเอาเรือตัวเองเข้าขวางเพื่อไม่ให้คนร้ายตามสุริยะมณฑลไปได้ ทว่าอีกฝ่ายกลับมีการยิงตอบโต้สกัดเข้ามาก่อนที่เขาจะเข้าถึงลำเรือ แม้จะได้ซานตงช่วยยิงสกัดอีกด้าน แต่ดูเหมือนเรือคนร้ายจะขับแบบบ้าดีเดือด ไม่สนใจดงกระสุนแต่มุ่งฝ่าตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว และเมื่อชายหนุ่มเชื้อญี่ปุ่นหันมองไปข้างหลังก็เห็นมังกรพาเรือตีวงเลี้ยวกลับคงตั้งใจจะมาช่วยสมทบอีกแรง...

“คุณ...! คนบนเรือใหญ่วิทยุมาบอกว่าตอนนี้มีตำรวจน้ำที่อยู่บริเวณนี้กำลังเข้ามาช่วยเหลือพวกเราอีกแรง และบอกว่าให้เราต้อนมันเข้าฝั่งให้ได้เร็วที่สุด เพราะพายุกำลังจะเข้า...!”

“โธ่เว้ย!!!” ซึโยชิบ่นออกมาเป็นภาษาบ้านเกิด จะให้ต้อนมันเข้าฝั่งได้ยังไง ก็ในเมื่อตอนนี้พวกเขากำลังเบนเข็มห่างออกจากฝั่งโดยสิ้นเชิง “...ติดต่อบอกหยางหลงเร็วเข้า ว่าให้ล่อมันเข้าฝั่ง!”

“ติดต่อไม่ได้!! ผมพยายามแล้วตั้งแต่เมื่อกี๊” คนร่วมเรือของซึโยชิตะโกนบอก

   คราวนี้หนุ่มญี่ปุ่นสบถออกมาล็อตใหญ่ ฝนที่แค่โปรยปรายในตอนแรกเปลี่ยนเป็นตกลงมาหนักมาก คลื่นน้ำม้วนตัวสูงขึ้น จนตัวเรือที่วิ่งฝ่าคลื่นด้วยความเร็วเริ่มไปด้วยความเร็วเท่าเดิมอีกไม่ได้ แค่จะประคองเรือให้อยู่บนน้ำได้โดยไม่คว่ำก็ยากเต็มที...ชายหนุ่มพยายามมองฝ่าสายฝนไปข้างหน้า เขามองเห็นได้แค่แสงไฟท้ายเรือสีแดงๆเท่านั้น ทัศนวิสัยนอกเรือเริ่มเป็นไปในทางเลวร้าย แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาต้องเร่งตีเรือขึ้นไปหาสุริยะมณฑลให้เร็วที่สุดเสียแล้ว

“โธ่...มันลำไหนกันแน่วะ!!” เพราะความเร็วเรือของสุริยะมณฑลช้าลง ตอนนี้เรือสองลำที่ขับเคี่ยวกันอยู่ข้างหน้าจึงเริ่มแซงกันไปแซงกันมา เสียงปืนที่ดังขึ้นซึโยชิก็เดาไม่ออกว่ามันมาจากลำไหนไปไหนกันแน่ ทำให้ตอนนี้เขาทำได้เพียงพยายามเร่งเครื่องยนต์เพื่อตีตื้นเข้าไป แต่ทว่ามันก็ช่างยากเย็นเหลือเกินเมื่อสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่เป็นใจให้เขาเอาเสียเลย

“...ซึโยชิ!!!! ถอยเร็ววว” จู่ๆเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นฝ่าเสียงฟ้าร้องและเสียงคลื่นที่ม้วนตัวขึ้นตีเรือ พร้อมกับที่เขารู้สึกได้ถึงตัวเรือที่ถูกกระทบจากอะไรบางอย่างอย่างแรง

“...ซานตง!!” ซึโยชิที่เสียจังหวะไปนิดหลังจากที่ถูกซานตงขับเรือพุ่งเข้าชนจนหัวเรือเบี่ยงทิศทางหันมองไปข้างหน้า และเขาก็พบว่าเมื่อซักครู่นี้ซานตงได้ช่วยชีวิตเขาไว้อย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว

“...น้ำวน...” ซึโยชิพึมพำ

   ข้างหน้าของเขาบนผืนน้ำสีดำทะมึน แสงจันทร์บนฟ้าที่พอจะทอลอดม่านสายฝนลงกระทบกับลอนผิวน้ำ ส่องให้เห็นผิวน้ำที่เริ่มตีวงเข้าหากันจนกลายเป็นวงกลม ซึโยชิตกใจมาก เขารีบเอามือปาดน้ำที่สาดเข้าหน้าแล้วมองลอดฝ่าไปข้างหน้าก่อนจะเพ่งให้ดีๆ เขาทันเห็นไฟท้ายของเรือลำหนึ่งส่ายไปส่ายมาอยู่บนผิวน้ำ ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไปเรื่อยๆ...เสียงเครื่องยนต์เรือที่ดังไล่หลังมาติดๆของมังกรถูกซานตงเอาเรือเข้าขวางเพื่อไม่ให้ทะลุเข้าไปในแอ่งน้ำวนด้วยอีกลำ เขาได้ยินมังกรสบถหัวเสียเป็นภาษาไทยดังลั่น ประสานกับเสียงเหวินจิ้งที่ตะโกนเรียกชื่อ ‘ลูน่า’ ออกมาด้วยความขวัญเสีย...

-------------------------------------------------------------  - -   - ------     - -     -                  -

to be continue...

จะมีใครเชื่อมั้ยว่าตอนหน้านี้มันจะหวาน...หวานจนมดกัดเลยทีเดียว...เชื่อเต๊อะ เชื่อเก๊าเต๊อะ  :katai3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-01-2014 23:33:56 โดย dek-zaal3 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
กำลังเข้มข้นเลย
พี่ยะจะตามมาทันไหม

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
รอต่อนะฮะ  :oni1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ลุ้นๆ

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
โอ๊ยยยยยยยยยย หัวใจจะวาย ตื่นเต้น  :hao3:

ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ความรักกำลังจะไปได้ดีอยู่แล้วเชียวววววว
มีอุปสรรคอีกแล้ว :sad4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มาเร็วๆนะ

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
เรื่องเป็นแบบนี้เอง
ซับซ้อนขึ้นทุกที
พี่ยะจะทำไงต่อปายยย

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
โอว้ อีกฝ่ายก็รักจันทร์ในฐานะข้าที่ซื่อสัตย์ แถมไปเข้าพวกกะคนโกงไปแล้ว
อีกฝายก็คนรักของพระจันทร์

จะทำไงดี  :sad4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พระจันทร์คงไม่มีอันตราย แต่มันใช่เรอะ
อาชิ พาพระจันทร์ไปคืนเลยนะๆๆ

ออฟไลน์ jilantern

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
ปมใหญ่มากกกกกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด