บทที่38 หัวใจ
คีย์Talk
ไอ้เก้าถูกลูกน้องไอ้กิตจับแขนไขว่หลังแล้วหมัดไว้ ทั้งๆที่ถูกทำแบบนั้นแต่มันไม่ขัดขืนเลยแถมตายังมองมาทางผมตลอด ไม่สนใจในสิ่งที่พวกไอ้กิตกำลังทำสักนิด ทำไมมันถึงทำแบบนี้
“หึ ที่นี่แหละถึงตากูเอาคืนบ้าง ถ้ามึงไม่อยากเห็นมันตายต่อหน้าต่อตา มึงก็อยู่เฉยๆไว้ ถ้ามึงขืนเอาคืนแม้แต่นิดเดียว รอยมีดสวยๆนี่ได้กีดกลางหน้ามันแน่น”ไอ้กิตตะโกนคุยกับไอ้เก้า ทั้งๆที่มือมันก็ยังถือมีดจี้ที่คอผมอยู่
“ไอ้ทิวมึงมาถือมีดจี้มันไว้”มันหันไปสั่งคนที่ยืนอยู่ข้างๆมันให้มาทำหน้าที่เอามีดจี้คอผมแทน ไอ้ทิวเหี้ยอะไรเนี่ยก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
พอมีคนมาทำหน้าที่แทนมันแล้วไอ้กิตก็เดินไปหาไอ้เก้าที่ถูกลูกน้องมันสองคนล็อคไว้ ทั้งๆที่มือก็ถูกจับหมัดแล้ว
“หึ โกรธกูหรอ แค้นกูใช่ไหม ก็ดีรู้สึกเยอะๆเหมือนที่กูเคยรู้สึก มึงจะได้รู้ไงว่าสามเดือนที่ผ่านมาเนี่ยกูรู้สึกยังไง”มันเข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้เก้าแล้วตะโกนใส่หน้า ถึงขนาดความสูงจะต่างกัน แต่ก็ไม่มาก ทำให้มันตะโกนใส่หน้าไอ้เก้าได้อยู่ดี
“ที่มึงจับมันมาก็เรื่องนั้นใช่ไหม นี่ไงจับกูได้แล้วมึงก็ปล่อยมันได้แล้ว”ไอ้เก้าพูดเสียงเรียบแต่ตาก็ยังคงมองมาทางผม
ส่วนผมก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาเชิงบอกว่ากูไม่เอาแบบที่มึงพูด น้ำตาก็เริ่มคลอแล้วด้วย ไม่ใช่เพราะผมเจ็บแผลพวกมันทำ แต่ผมกำลังกลัว กลัวเหตุการณ์ตรงหน้า ยิ่งพอมันพูดแบบนี้น้ำตาที่ผมพยายามอดกลั้นไว้ มันก็แทบจะทะลักออกมาเอาดื้อๆ ความรู้สึกมากมายไหลเข้ามาให้หัวจนยากจะอธิบาย
“ตุ๊บ! มึงอยู่ในสถานะที่ต่อรองกับกูได้หรอ อย่าลืมซิว่าใครที่เหนือกว่ามึง”ไอ้กิตต่อยเข้าที่หน้าไอ้เก้าอย่างแรง เสียงกำปั้นกระทบกับหน้าดังสนั่น จนลูกน้องมันที่ล็อคตัวไอ้เก้าไว้ยังเซไปตามแรงต่อยด้วยเลย
ไอ้เก้าก้มหน้าอยู่ได้สักพักก็เงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับเลือดที่มุมปาก กับรอยแดงตรงแก้มที่ผมเห็นได้อย่างชัดเจนถึงจะอยู่ห่างจากมันมากก็เหอะ
“หน้าตัวเมีย ไอ้คีย์มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น”ไอ้เก้าพยายามขยับปากพูด ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่ามันลำบาก คงเจ็บไม่น้อย
“พลั๊ก!”หมัดที่สองตรงเข้าที่ท้องไอ้เก้าแทบจะทันทีที่มันพูดจบประโยค แรงพอจะทำให้ไอ้เก้าทรงตัวแทบไม่อยู่
“อย่า!”ผมตะโกนออกไปสุดเสียง พยายามดิ้นให้ข้อมือที่ถูกรวบไว้ด้านบนนั้นหลุด รู้สึกถึงเชือกที่บาดคอมือจนปวดร้าวไปหมด
“หึๆ5555 รักกันหน้าดูเลยนะพวกมึง ไอ้พวกวิปริต!”ไอ้กิตหัวเราะชอบใจพร้อมกับเอามือดึงผมไอ้เก้าให้เงยหน้าขึ้นมองมาทางผม
“มึงแหกตาดู เมียมึงมันกำลังจะเป็นจะตายเพราะมึงไง ดูหน้ามันที่กำลังจะร้องไห้ดิ 5555 ฮาซิพหาย เลยมึงว่าไหม แต่นี่แหละที่กูต้องการ”
พูดจบมันก็ต่อยหน้าไอ้เก้าอีกหลายหมัด ต่อยท้องอีกหลายที จนคนที่ล็อคไอ้เก้าไว้ถึงกับล็อคไม่อยู่ ทันทีที่พวกนั้นปล่อยมือ ไอ้เก้าก็ทรุดลงกับพื้นทันที เลือดกระอักออกมาจากปากมันเต็มพื้น จนดูหน้ากลัว
“หยุด ไอ้สัสหยุด ฮือพี่ หนีไปดิ หนีไป ฮือๆๆๆๆๆ”ผมอดทนต่อไปไม่ไหวแล้วครับ ผมรู้ว่าคนอย่างไอ้เก้าถึงจะถูกจับหมัดแขนแบบนั้น ถ้ามันจะหนี หรือตอบโต้ไปบ้างก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
แต่เพราะผม เพราะมีดเล่มเล็กๆนี่ที่จี้มาที่คอผม มันเลยยอมให้กิตซ้อมมันจนลงไปกองกับพื้นแบบนี้ ทำไมล่ะทั้งๆที่การกระทำตรงหน้านี้ ทำให้ผมหมั่นใจได้อยากหมดหัวใจว่ามันทำเพื่อผมจริงๆ ทำให้ผมรู้ว่าคนๆนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อผม แต่ผมกลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด ถ้าเลิกได้ แค่ตอนนี้ ขอให้มันเห็นแก่ตัวแล้วรีบหนีไป ถ้าเป็นแบบนั้นผมอาจจะไม่เสียใจขนาดนี้ อย่างน้อยๆผมเองก็จะไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้มันเจ็บขนาดนี้
“55555ร้องแล้วๆ หนูน้อยร้องแล้ว”ไอ้กิตเหมือนพวกบ้า ยิ่งผมร้องเท่าไหร่มันก็ยิ่งดูจะชอบอกชอบใจมากเท่านั้น
“ผวะ ตุบๆๆๆๆ”พูดจบมันก็เข้าไปกระทืบท้องไอ้เก้าที่นอนกองอยู่ที่พื้นอีกหลายที
ตัวไอ้เก้าขยับตามแรงกระทืบทุกครั้ง ยิ่งโดนเลือกก็เริ่มทะลั่กออกมาจากปากมันอีก
“อึก อัก อั่ก”เสียงไอ้เก้าร้องในรำคอ ยิ่งทำให้ภาพตรงหน้านี้ ดูโหดร้ายมากยิ่งขึ้น
น้ำตาผมไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ถึงม่านน้ำตาจะให้ภาพตรงหน้านั้นไม่ชัดเจน แต่ความรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอย่างแสนสาหัสนี้มันไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย กลับยิ่งชัดเจนแล้วเจ็บลึกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“หยุด กูบอกให้หยุดฮือๆๆ หยุดซิโว้ย ฮือๆๆ มาทำกูดิ ฮือๆๆ”พูดแทบไม่เป็นภาษา
ชีวิตจริงยิ่งกว่าในละคร คำๆนี้คงจะใช้ได้ดีกับสถานการณ์ตอนนี้ที่ผมกำลังเผชิญ ภาพตรงหน้าคือภาพของคนรักที่เสื้อผ้าเปื้อนเลือดกับฝุ่นไปทั้งตัว เลือดเต็มปาก นอนกองอยู่ที่พื้น สายตามองมาทางผมในหลายๆความหมาย
ทั้งๆที่อยู่แค่ตรงหน้า ทั้งๆอยู่ใกล้แค่นี้ แต่ผมกลับช่วยอะไรไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย
ทั้งๆที่ผมรักมันขนาดนี้ แต่ผมก็ยังทำอะไรไม่ได้ แค่ตัวเองยังดูแลไม่ได้ แฃ้วยังจะทำให้มันมาอยู่ในสภาพแบบนี้ก็เพราะผม
เกลียด
เกลียดตัวเองที่เกิดมาอ่อนแอ
เกียดตัวเองที่มีรูปร่างแบบนี้
เกลียดตัวเองที่ดีแต่สร้างปัญหา
เกลียดตัวเองที่ตลอดเวลาเอาแต่ใจ
เกลียดตัวเองที่ผมรักมัน
เกลียดตัวเองที่รักมันมากขนาดนี้แต่ผมก็ยังทำอะไรไม่ได้
แต่ถึงจะแบบนั้น แต่ผมก็ยังรักมัน ยังรักมันหมดหัวใจ ถึงจะช่วยอะไรมันไม่เคยได้ แต่ผมก็ยังรักมัน
ทั้งๆที่รักมัน แต่ผมก็ยังทำอะไรไม่ได้
“55555ดูเมียมึงดิ มันบอกให้กูไปทำมันแทนทั้งๆที่สภาพมันก็ไม่ได้ต่างกับมึงเท่าไหร่ เอาไงดีหว่า ไหนๆมันก็ขอร้องกูมาขนาดนี้ กูจะไม่สนองให้ก็ใช่ที่”ไอ้กิตหมุนตัวเตรียมเดินมาทางผม แต่ไอ้เก้าที่นอนกองอยู่ที่พื้นคลานมาจับขามันไว้
ไม่เหลือคาบไอ้เก้าที่เห็นศักศรีสำคัญกว่าอะไร คนที่มีลูกน้อยเดินตามนับร้อย คนที่ใครๆก็พากันเกรงขาม หรือคนที่ผมเคยเห็น
“อย่า”พยายามพูด แต่ดูเหมือนมันจะเจ็บจนแทบไม่มีเสียง หน้าตาบอกช้ำ เลือดและรอยเขียวแดงเต็มใบหน้าจนดูแทบไม่ออกว่านี่คือหัวหน้าซอย13แห่งเทคนิคxที่ใครๆก็ต่างพากันกลัว
“555555 พวกมึงดูดิ ตลกชิพหาย ไอ้พวกวิปริตนี่มันรักกันดีจริงๆ เอาซิ มึงเลือกเอาว่าจะให้มีดแล่มนี้ปักที่ใคร”ไอ้กิตคว้ามืดพกจากกระเป๋ากางเกงมันออกมาชู ดูจากน้ำเสียงแล้วมันเอาจริงแน่น
“อย่าๆๆๆฮือๆๆๆ กูยอม กูยอมหมดแล้ว ฮือๆๆ อย่าทำอะไรมัน”ผมร้องไห้อย่างกับคนเสียสติ ไม่เอา ไม่เอา แค่นี้หัวใจผมก็แทบจะแหลกอยู่แล้ว ถ้าจะต้องให้มองดูคนที่ตัวเองรัก โดนทำร้ายมากมายขนาดนี้ต่อหน้าต่อตาสู้ผมโดนเองยังจะดีซะกว่า ผมทนไม่ไหวถ้าจะต้องเห็นภาพที่มีดเล่มนั้นบักลงไปบนตัวมัน แค่คิด หัวใจผมมันก็บีบแน่นจนเจ็บไปทั่วทั้งหน้าอกแล้ว
“ยอมหรอ งั้นแสดงว่าปักที่ตัวมึงซินะ”ไอ้กิตเดินเข้ามาทางผม ผมถึงกับหัวใจกระตุกวูบเพราะความกลัวเลยตัวชาไปหมด แต่ไอ้เก้าก็ยังคงรั้งขามันไว้
“อย่า กูเอง”
น้ำตาผมไหลทะลักเลยครับ คำว่ารักที่ผมเคยให้มันเทียบอะไรไม่ได้กับคำพวกนี้กับการกระทำแบบนี้ ณ สถานการณ์ตรงนี้
“อย่า ฮือๆๆๆ”พูดได้แค่นั้นจริง ให้มีดนี่ปักเข้าที่อกผมคงจะเจ็บน้อยกว่าที่ผมเห็นมันปกอยู่ที่ตัวไอ้เก้าอีก ไม่รู้ว่าเรื่องเมื่อตอนนั้นมันร้ายแรงขนาดนี้ มันร้ายแรงจนต้องทำให้มันทำขนาดนี้ได้เลยหรอ
“55555 เอาไงดีว่ะ ปักแม่งทั้งคู่เลยแล้วกัน”ตัวชาวาบเลยครับเมื่อได้ยินประโยคที่มันพูดเมื่อกี้
ไอ้กิตเตรียมจะแท่งลงไปที่หลังไอ้เก้าแต่
“เฮ้ย! อย่าเลยพอแค่นี้เหอะ”แต่ก่อนที่หัวใจผมจะแหลกจริงๆ ไอ้คนที่มันถือมีดจี้ที่คอผม เดินเข้าไปรั้งแขนไอ้กิตไว้รวดเร็ว
“ปล่อยกู นี่มึงหักหลังกูหรอไอ้สัสทิว”ไอ้กิตหันไปตะโกนด่า
“เปล่า มึงก็รู้ดีว่ากูไม่มีวันทำอะไรแบบนั้น แต่นี่มันมากเกินไปว่ะ กูว่าแค่นี่ก็พอเหอะ”ไอ้นั้นร้องห้าม พรางทำหน้าลำบากใจ
“ปล่อยกู กูจะฆ่ามันปล่อยกู”ไอ้กิตพยายามดึงแขนตัวเองออกจากมือไอ้นั้นที่จับแขนมันไว้
“พอเหอะ กูไม่อยากให้มึงฆ่าใคร ถือว่ากูขอเหอะ”ไอ้นั้นก็ยังคงไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยกู”มันพยายามยื้อกันไปกันมา แต่เวลานี้เรื่องพวกนี้ไม่ได้เรียกความสนใจผมจากไอ้เก้าที่นอนกองอยู่ที่พื้น มันนอนหอบหายใจเหนื่อย ดูหมดเรี่ยวแรง แต่สายตาก็ยังคงมองมาทางผมพร้อมรอยยิ้ม ยิ้มที่คนอื่นไม่เคยจะรับจากมัน รอยยิ้มที่เป็นของผมคนเดียว
แท็คTalk
เมื่อกี้ได้รับโทรศัพท์จากไอ้เก้าให้บอกไปรอที่จุดนัดพบ พวกเราที่แอบซุ่มอยู่ก็ค่อยเดินออกไปขึ้นรถกันหมด
แต่ผมว่ามันแปลกเกินไป ถ้าแค่เมียมันคนเดียวก็พอจะเข้าใจว่าแค่มันคนเดียวสบายมาก แต่นี่ไอ้ยาจกก็อยู่ด้วย ถึงจะไม่ลำบากอะไรในการช่วยเหลือสองคนพร้อมกันแต่ผมว่ามันแปลกเกินไป และอีกอย่างไอ้ยาจกนั้น เป็นของผม ของที่ถูกแย่งไปจะให้คนอื่นมาเอาคืนให้ได้ไง จริงไหม
“เฮ้ยพี่จะไปไหน”ไอ้จิมเข้ามาถามทันทีที่ผมเดินแยกออกไปอีกทางที่ขึ้นรถ
“เรื่องของกู พวกมึงไปรอที่จุดนัดพบไป”พูดเสร็จผมก็ไม่สนใจมันเดินแยกออกไปอีกทาง
“อะไรของพี่ว่ะ”ได้ยินเสียงบ่นไล่หลังมา แต่มันคงไม่ตามมาหรอกเพราะไอ้แดนก็อยู่ด้วยทั้งคน คงไม่ปล่อยให้มันตามผมมา
“รีบๆด้วย ขี้เกียจรอ”หันหลังไปเห็นไอ้แดนยืนอยู่ข้างๆไอ้จิมที่ยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ หึ มันเองก็คงรู้ซินะ ว่าผมกำลังจะทำอะไร ก็คงจะแบบนี้ ระดับความคิดของหัวหน้ากับลูกน้องมันต่างกัน
ผมทำทีเดินออกไปจากตัวโกดังเข้าไปในป่าแถวนี้แบนความสนจากพวกลูกน้องไอ้พวกที่จับตัวไอ้ยาจกไป เจอต้นไม้อะไรสักอย่างที่สูงพอจะปีนขึ้นไปดูราดราวจากข้างบน
เป็นไปตามที่คิด บนนี้เห็นพวกลูกน้องที่เฝ้ากันอยู่5-6คนเห็นจะได้ มีคนเฝ้าแค่นี้ วางใจเกินไปแล้วพวกมึง
ทีนี่แหละมาหาทางลอบเข้าไปแบบไม่ให้พวกมันรู้ตัวดีกว่าถึงคนพวกมันจะน้อยไม่ลำบากอะไรถ้าเข้าไปจัดการตรงๆแต่ ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างในเป็นไง
ดูจากตรงนี้ ทางที่จะเข้าไปข้างในได้มีแค่ทางเดียวคือประตูหน้าเพราะด้านหลังดูเหมือนจะถูกปิดไว้แน่น แต่ก็แค่กุญแจกับโซ่ขึ้นสนิมเก่าๆ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพังเข้าไป ก็อย่างที่ว่าไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างในเป็นยังไงบ้าง จะบุกเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าก็คงไม่ได้ ยังไงก็ต้องหาทางไปแบบเงียบที่สุด
เข้าทางด้านหลังเลยเห็นจะเป็นทางที่ดีที่สุดมีคนเฝ้า2คน ดูจากระยะที่ยืนห่างกันขนาดนั้น ถึงจะเข้าไปเล่นงานอีกคน อีกคนก็คงไม่รู้ตัวแน่น
คิดแผนได้แล้วก็เดินไปตามกิ่งไม้ที่ทอดยาวจนเกือบถึงดาดฟ้าของโกดัง แต่ก็ยังห่างเกือบ3เมตรเห็นจะได้ แถมยังมีใบไม้เต็มกิ่ง ถ้ากระโดดไปจากตรงนี้แล้วเกิดสะดุดใบไม้เข้าคงจะเป็นเรื่องแน่น สูงขนาดนี้อีก ล่วงลงไปคงจะไม่สวยเท่าไหร่ แต่ถ้าจะเข้าไปทางด้านหลังพวกนั้นก็มีแต่วิธีนี้เท่านั้น
พวกตู้คอนเทเนอร์ก็วางเลียงไว้เต็มไปหมด แต่ถ้ากระโดดไปเหยียบต้องมีเสียงแน่น แล้วด้วยขนาดตัวกับความสูงระดับนี้ จะกระโดดไปให้เสียงเบาคงจะยาก
เดินถอยหลังจากกิ่งไม้ประมาณสามก้าว โชคดีที่ต้นไม้นี้ค่อนข้างใหญ่ กิ่งเลยแข็งแรงไม่งั้นคงจะได้ล่วงตั้งแต่ปีนขึ้นมาแน่นมองไปข้าง แล้วออกตัววิ่งกระโดดข้ามไปยัง ดาดฟ้าโกดัง
“ตุบ”ซี๊ด ส่งสัยจะผิดท่าไปหน่อย ข้อเท้าคงแพง แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสำออย ต้องรีบไปช่วยไอ้ยาจกก่อน
หึ โทษที่ทำให้กูต้องลำบากขนาดนี้ กลับไปกูจะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกเลยมึง
จับข้อเท้านิดหน่อยแล้วค่อยเดินมอบ ไปตามแนวโกดัง
เจอบันไดเหล็กด้านข้าง ถ้ารีบๆไต่ลงไปพวกที่เฝ้าอยู่คงยังไม่หันสังเกต
ไต่ลงไปครึ่งทางเลยกระโดดลงมาแทน เจ็บข้อเทาเข้าไปอีกแต่วิธีนี้คงเร็วกว่า
นั้นไง เดินถือมีดสปาต้าอยู่ตรงนั้นมองไปทางด้านหน้าอย่างไม่ระวังตัว หึ ก็ใครจะไปคิดล่ะว่ามีคนเข้ามาหลัง นอกจากพวกของตัวเอง ทั้งๆที่บันไดทางขึ้นก็มีแค่ทางเดียว แต่ก็นะ ก็มาได้แล้ว
เดินเข้าไปทางด้านหลัง ขนาดประชิดตัวขนาดนี้มันยังไม่รู้ตัวเลย เอานิ้วสะกิดที่บ่ามัน
“เฮ้ย”ไม่มีเวลาให้มันร้อง ต่อยเข้าไปที่หน้ามันอย่างจังจนลงไปกองอยู่ที่พื้น
“อ่อน”เอาล่ะจากตรงนี้ก็เหลืออีกคนที่มีแนวโน้มว่าจะเดินมาทางนี้ ยังไงซะก็คงต้องเคลียร์ทางให้เรียบร้อยก่อน
ค่อยเดินไปอีกฝั่งเพื่อจัดการคนที่เหลือ
“เฮ้ย”เกือบไปแล้ว จู่มันก็ดัหันมาทางผมพอดี ก่อนที่มันจะได้ร้องอะไรออกไปก็เข้าไปต่อยที่หน้ามันอย่างแรง แต่ไอ้นี้คงน่าสงสารหน่อย พอดีไม่ได้ออมแรงเลย สภาพก็เลยล่วงลงไปทันทีอย่างที่เห็น
เอาล่ะที่เหลือก็แค่ประตูตรงนี้ มีโซ่สนิมเส้นใหญ่คล้องอยู่พร้อมกับกุญแจเก่าๆจากด้านนอกพอลองขยับประตูนิดหน่อยก็เลยพอมีช่องให้มองด้านใน แต่เห็นไม่ชัดเท่าไหร่เพราะมีลังไม้วางเต็มไปหมด กวาดตามองไปรอบๆเห็นไอ้เก้ากำลังโดนซ้อมอยู่พร้อมกับเด็กมันที่ร้องห่มร้องไห้ยกใหญ่
“หึ นี่หรอว่ะไม่ต้องห่วง อ่อนว่ะ”ก่อนที่จะไปสะดุดที่แผ่นหลังคุนเคยที่ถูกหมัดติดกับเสาปูนต้นใหญ่อยู่มีคนยื่นประกบคนหนึ่ง ไม่เห็นหน้ามัน แต่อย่างน้อยๆก็ยังมีชีวิตอยู่
ที่นี่ปัญหาก็อยู่แม่กุญแจถ้าถีบแรงๆได้ก็คงจะหลุด แต่นั้นมันก็เสียงดังเกินไปอีกคงต้องพยายามหาอะไรมาทบแม่กุญแจนี่ แต่ต้องทำให้เบาที่สุด
หันซ้ายหันขวาก็เจอกับคีมเหล็กขนาดใหญ่ที่ดูท่าจะมีสภาพไม่ต่างจากแม่กุญแจพวกนี้เท่าไหร่ แต่อะไรมันจะดวงดีขนาดนั้น ก็อย่างว่าพระเจ้ามักเข้าข้างพระเอก(?)
แต่ดูพระองค์คงจะไม่ชอบอะไรที่ง่ายเกินไป เพราะไอ้คีมเหล็กนี่มันเก่าเกินไป จนติดแง็ก คีบอะไรก็ไม่ได้ ก็ต้องออกแรกกันอยู่นานกว่ามันจะหายฟืด
“เหี้ยทำไมไม่หลุดว่ะ”พยายามหนีบตรงแม่กุญฝุๆนะ แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด
“เพล้ง!”ตายโหง พลาดเองเลยมีเสียงดัง
“เฮ้ยพวกมึงทำอะไรอ่ะ”เสียงจากข้างในตะโกนออกมา สงสัยคงคิดว่าลูกน้องมันเล่นอะไรกัน
“ป่าวพี่ ผมเผลอหลับอ่ะ”ผมก็ทำเสียงแหบๆแล้วตะโกนออกไป หวังว่าพวกมันคงจะเชื่อ
“เฝ้าดีๆซิมึง อย่าให้ใครหลุดมาได้นะโว้ย”กูเองนี่แหละจะเข้าไปเอง
ถึงเสียงจะดังไปสักนิด แต่แม่กุญแจก็หลุดออกค่อยๆ เอาโซ่ออกแล้วพลักประตูเข้าไปนิดหน่อย อาฮะ ง่ายดีว่ะ ไม่มีคนมองมาทางนี้กันเลย
“หยุดเหอะกู อย่าถึงกับฆ่ากันเลย”ภาพที่เห็นคือไอ้พวกนั้นที่แย่งมีดกันอยู่
แต่ไม่ต้องไปสนใจเป้าหมายมีอยู่คนเดียวที่นั่งน้ำตาคลอกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่อยู่ห่างจากมันไปเกิบๆ4เมตร ก่อนที่จะไปห่วงคนอื่น ควรเอาตัวเองให้ลอดดีกว่าไหม
แล้วจะเข้าไปยังไงไอ้นั้นยืนประกบข้างด้วย นี่ถ้าไอ้เหี้ยเก้าไม่อ่อนแบบนี้คงง่ายกว่าเยอะ
สภาพนี่โคตรน่าเวทนา นี่หรอว่ะหัวหน้าซอย13 อ่อน
แต่เหมือนสวรรค์จะเข้าข้างเมื่อจู่ๆคนที่ยืนประกบข้างไอ้ยาจกอยู่ก็เดินเข้าไปดึงไอ้สองคนที่มันกำลังยื้อแย่งมีดกันอยู่ ผมได้โอการเลยรีบเดินไปยังเสาต้นที่ล่ามไอ้ยาจกไว้
“เฮ้ย”มันร้องออกมาทันทีที่เห็นผมอยู่ด้านหลังจนผมต้องรีบหลบหลังเสาแทบจะไม่ทัน
“เหี้ยอะไรของมึง”เสียงไอ้พวกที่จับมันมาหยุดแย่งมีดแล้วหันมาสนใจไอ้ยาจก
เสาต้นที่ผมหลบอยู่นับว่าใหญ่พอดู แต่ก็ไม่รู้ว่าจะบังผมได้มิดไหม
“ป่าว ก็พวกมึงจะแทงเพื่อนกู กูเลยร้องห้าม ไม่ได้ไง”น้ำเสียงกับสีหน้าเลิกลั่กนั้นถ้าเป็นผมผมคงไม่เชื่อมันหรอก แต่ก็อย่างว่าพวกนั้นคงไม่มีเวลาจะวิเคราะห์อะไรเท่าไหร่
“ตัวซวยจริงๆ”ผมกระซิบเบาๆที่ข้างๆหูมันในขนาดที่พยายามแกะเชือกที่หมัดมันให้หลุด
เห็นมันสภาพนี้อดอารมณ์เสียไม่ได้ เลือดเลอะตามเสื้อผ้าเล็กน้อย กลิ่นคาวกับกลิ่นเหล้าตีกันจนกลบกลิ่นอ่อนๆของมัน
“...”มันนิ่งครับไม่สวนหรือแสดงอาการไม่พอใจกับคำพูดผมเลย
“ลุกเร็ว เงียบด้วย”เมื่อผมแกะเชือกเสร็จก็เตรียมตัวเดินไปตามหลังกล่องลังไม้อย่างน้อยๆก็เอาไอ้ยาจกนี่ไปไกลๆจากตรงนี้ก่อน ส่วนเรื่องไอ้เก้า เห็นแบบนี้ผมก็ไม่ได้เกียดอะไรมันหนักหนา แต่ก็ไม่ได้อยากช่วย ก็แค่ทนเห็นความน่าสมเพชพวกนี้ไม่ไหวเท่านั้นเอง ตีกันมาก็หลายรอบ ไม่เคยเห็นมันสะบักสะบอมขนาดนี้ แต่แค่ไอ้เตี้ยๆนั้นคนเดียวทำได้ขนาดนี้ นับว่าเจ็บใจเอาเรื่องเลย
“...”ไม่มีอาการตอบรับใดๆทั้งสิ้นครับ มันยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมลุก ทำให้ผมต้องเดินกลับไปหลังเสาร์อีกครั้ง
“กูบอกให้ลุก มึงจะนั่งทำเหี้ยอะไรเดี๋ยวก็ซวยกันหมด”ผมกระซิบ แล้วพยายามสะกิตแขนมัน
“...”เงียบครับ ไม่เงยหน้ามามองผมแต่ก็ยอมลุกแล้วเดินไปหลังเสาร์ตามที่ผมบอก
“อยู่นี่นะมึง อย่าสร้างเรื่อง อยู่จนกว่ากูจะมา”ผมสั่งมันที่เดินมา ให้มันนั่งอยู่ข้างๆประตูหลังที่ผมงัดเข้ามานั้นแหละ
มันนั่งลงที่ๆผมสั่งก้มหน้าไม่พูดไม่จา จนผมอดหงุดหงิดไม่ได้ อยากจะถามว่ามันเป็นอะไรแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา ดูท่าพวกข้างในจะเริ่มโว้ยวายขึ้นมาอีก
“เฮ้ยไอ้เหี้ยโนไปไหนว่ะ พวกมึงเฝ้ากันยังไงสัสเอ้ย”
“เฮ้ยหายได้ไง เมื่อกี้มันยังอยู่นี่เลย”
“แสดงว่ามีคนมาช่วยมัน เฮ้ยไปดูไอ้พวกข้างนอกดิ โดนเล่นงานหรอว่ะ”เสียงสั่งการฟังดูวุ่นวายกันไปหมด ก่อนที่มันจะไปเจอ
ไอ้โนต้องรีบๆจักการให้เสร็จ เหี้ยเก้าก็หมดสภาพเลยจะเอาไงว่ะ
“เฮ้ย มึงเป็นใครว่ะ”
Tbc.
อ่านคอมเม้นทุกคนคิดมากเนอะ ดูจากชื่อเรื่องนิยายเรื่องนี้ดร่าม่าหรอ?

พระเอกนายเอกตายได้ที่ไหนอย่าว่าแต่คนอ่านรับไม่ได้เลย คนเขียนยังรับไม่ได้เลย

ตอนนี้สอบเสร็จแล้วต่อไปทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ

ได้ทำงานที่เดิมอะไรๆก็เหมือนเดิม ไม่ปล่อยให้คนถึงนานหรอก
จากการเขียนตอนนี้ว่าจะสงสารคีย์เก้า แต่พอมานั่งอ่านดันกลายเป็นหมั่นไสแท็ค ไม่รู้อารมณ์ไหน

ขอบคุณทุกคมเม้นนะ ในที่สุดก็ถึงพันกับชาวบ้านเขากันแล้ว