บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 22+ส่งท้าย] 18 ธ.ค. 56 หน้า 18 จบแล้วค่ะ :)  (อ่าน 162173 ครั้ง)

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2013 10:50:46 โดย เดหลี »

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 56
«ตอบ #1 เมื่อ18-01-2013 07:48:43 »

บทที่ 1

“เรียบร้อยครับ” ผมยิ้ม รับเอกสารเก็บใส่แฟ้ม อวยพรให้โชคดีก่อนจะมองทั้งสองคนเดินเคียงกันออกไปจากร้านกาแฟ

คงไม่มีงานไหนแล้วที่เสียลูกค้าแต่เรายังยิ้มออก...

ความจริงธุรกิจจัดหาคู่ไม่ใช่ของใหม่ เพียงแต่ต้องอาศัยเวลาเล็กน้อยกว่าจะได้รับความเชื่อถือหรือความนิยม โดยเฉพาะกับ ‘ฝั่งเรา’ การที่ไม่มีอัตราการแต่งงานมาเป็นมาตรชี้วัดความสำเร็จออกจะทำให้จับต้องเป็นรูปธรรมได้น้อยกว่า   

แต่รักที่มั่นคง... ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ

ของแบบนี้ ก็แล้วแต่คน และขึ้นอยู่กับว่า... เขากำลังมองหาอะไรในชีวิต

ถ้าจะหาเพียงสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนผมว่าหลายคนไม่ได้เดือดร้อน แต่การหาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกัน ในกรณีหลังเราก็แค่... จัดให้คนที่มีความต้องการตรงกันอยู่แล้วมาเจอกันเท่านั้นเอง

ถ้าเขาตกลงปลงใจ ต่างฝ่ายต่างเห็นอีกฝ่ายอยู่ในชีวิตกันและกันในระยะยาว ก็อาจจะยกเลิกสมาชิก บ่งบอกว่าไม่ต้องการเดตใครคนอื่นอีก ผมก็ยินดีกับเขาด้วย ที่หา ‘คนคนนั้น’ เจอ และหวังให้เป็นคนที่ใช่ไปนานๆ

... สมหวังบ้างไม่สมหวังบ้าง เพราะบางที คนที่ยกเลิกสมาชิกไปแล้วก็กลับมาเป็นลูกค้าเราอีก

ผมถอนใจยาว พอดีกับที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เลยกดรับแล้วกรอกเสียงลงไปโดยไม่รอปลายสาย “เสร็จแล้วพี่อิท”

“เสร็จแล้วก็มาเสียทีสิจ๊ะ” ด้านหลังมีเสียงอึกทึกให้ได้ยินแว่วๆ “จำร้านได้ใช่ไหม ที่บอกเมื่อวาน”

“พี่อิท ผมวุ่นวายมาตั้งแต่เช้าละนะ” ผมพยายามขอความเห็นใจ ไม่ได้โอเว่อร์ด้วยแต่มันคือเรื่องจริง “... อยากกลับบ้านไปนอ...”

“งานลูกค้าเก่าเรา โผล่หน้ามาสักนิดก็ยังดี” อีกฝ่ายตอบ “ทำตัวเป็นคนแก่ไปได้แทคเอะอะกลับบ้านนอน อุ๊ย สวัสดีค่า...”

ท้ายประโยคแน่ใจว่าไม่ได้พูดกับผมแน่ ที่จริงร้านนั้นก็อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน ถ้าแวบไปแล้วหาทางแวบออกอย่างเร็วๆ ได้...

“มาน่า รู้หรอกว่ายังไม่ได้กินข้าว เมื่อกี้ลูกค้าก็ถามถึง...”

ผมนิ่งคิด นอกจากเรื่องรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า คนเรานี่พอพูดถึงข้าวขึ้นมาแล้วต้องหิวทั้งๆ ที่ห้านาทีก่อนยังดีๆ อยู่เลย กลับบ้านไปตอนนี้ก็ต้องหาอะไรกินอีก “... โอเคๆ แต่อยู่ไม่นานนะ...”

“อะไร ไม่ห่วงพี่ห่วงเชื้อบ้าง...” ปลายสายบ่นหงุงหงิง

“ก็ไปแล้วนี่ไง” ผมว่าก่อนได้ยินเสียงจอแจดังขึ้นอีกเลยถือโอกาสวางหู

จะว่าไปผมก็รู้จักกับพี่อิทมานาน... รุ่นพี่ที่ห่างกันหลายปี แต่มาพบตอนมีขอแรงแนะแนวน้องๆ โรงเรียนเก่าถึงการเรียนต่อมหาวิทยาลัย แล้วผมก็ต้องอึ้ง เพราะพี่อิทตอนจบม. 6 ชื่ออิทธิ

... พอกลับไปอีกหนชื่ออิสสริยา

ยังไงก็ตาม งานปัจจุบันนี่ผมก็ได้มาเพราะพี่อิท ถือว่าคุณเธอเป็นหัวหน้างานผมกลายๆ ชื่อในวงการพี่อิทก็มี คืออิสซี่ เธอชอบตัวละครนี้ในเกรย์ส์ อนาโตมี่ สงสัยนึกว่าตัวเองหน้าตาเหมือนแคธรีน ไฮเกิล

ผมก็ค่อนขอดไปอย่างนั้น... พี่อิท ‘เป็น’ ผู้หญิงได้ ‘ถึง’ มากที่สุดคนหนึ่ง คนแบบพี่อิทไม่เคยทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ อยู่แล้ว

ผมเดินเข้าร้านด้วยอาการหิวซ่ก กรุงเทพฯ ตอนเย็นก็รถติดได้อีก มนุษย์เรานี่จริงๆ อย่างที่ว่านั่นแหละ อาจจะอยู่ได้ถ้าไม่มีอะไรหรือใครมากระตุ้นเตือน ทุกคนคงมีประสบการณ์ปั่นงานจนลืมหิวกันบ้าง แต่พอเพื่อนมาทักว่ากินข้าวหรือยังจึงรู้ว่าแสบไส้ขนาดไหน ก็เหมือน... อีกหลายๆ เรื่อง

ในร้านค่อนข้างสลัว ไม่เข้าใจว่าสมัยนี้ทำไมต้องแต่งให้มืดเข้าไว้ เสียงเพลงออกจะดังเกินพิกัดไปหน่อย ผมพยายามมองหาพี่อิท... จนการยื้อยุดกันตรงมุมห้องที่เห็นแวบๆ จากหางตาดึงความสนใจไปเสียก่อน

จะดูว่าพูดจาจับมือถือแขนธรรมดาก็คงได้ เพราะกลืนไปกับความวุ่นวายในร้านจนคนอื่นอาจไม่ทันสังเกต ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่อยู่กลางวงล้อมด้วยสีหน้ายุ่งยากเป็นคนที่ผมกำลังมองหาอยู่ แถมยังคุ้นเคยกันมากพอจะดูออกว่าแบบนี้คือเต็มใจหรือเปล่า

ผมถลันเข้าไป “พี่อิ...”

ยังไม่ทันจบคำก็รู้สึกว่าคอเสื้อถูกดึงไปข้างหลังอย่างแรง ตึงเสียจนปกเชิ้ตข้างหน้าที่ปลดกระดุมไว้แล้วรั้งขึ้น ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศเป่ารดช่วงผิวตรงหลังคอพาให้ขนลุก

ผมรีบคว้ากลับแล้วจึงเห็นตัวการ... ที่โผล่มาเมื่อไรไม่รู้ขมวดคิ้วมองลงมาเหมือนกัน แต่ก่อนที่ผมจะนึกอะไรทัน อีกฝ่ายก็แทรกตัวเข้าไปในวง เบียดเอามือที่จับข้อศอกพี่อิทไว้หลุดออกอย่างเนียนๆ

ผมมองคนที่หันหลังยืนกอดอกแต่มือซ้ายขยับเล็กน้อย... ราวจะบอกให้ถอยไปก่อน พี่อิทรีบคว้าแขนผมดึงออกมาโดยไม่ต้องให้เตือนซ้ำสอง ผมเหลียวไปดู เห็นหมอนั่นก็คุยกับกลุ่มนั้นต่ออย่างไม่ติดขัด ท่าทางเหมือนรู้จักกันอยู่แล้ว

“โอ๊ยแทค ฉันใจหายใจคว่ำหมด” พี่อิทลากผมมาจนถึงโต๊ะที่ว่างอยู่อีกฝั่งของร้านแล้วจึงปล่อย “คนสมัยนี้นี่ คุยกันทำความรู้จักกันดีๆ ไม่ได้ จะต้องมาเกาะแกะถึงเนื้อถึงตัวตั้งแต่คราวแรกที่เจอเลยหรือไง”   

ผมยังไม่ทันตอบพี่อิทก็ร่ายต่อ “ฉันก็ไม่ใช่พวกหวงตัวอยู่บนหิ้งอะไรหรอกนะ อายุปูนนี้แล้ว แต่เบื๊อเบื่อพวกพูดไม่รู้เรื่อง... เข้ามาดีๆ จะไม่ว่าเล้ย เมื่อกี้ถ้าไม่ได้น้องคนนั้นคงยุ่ง”

ลงอีท่านี้ผมก็ได้แต่ปล่อยให้เธอบ่นต่อไปจนกว่าจะพอใจ ที่หิวๆ เมื่อกี้หดหมด สงสัยได้อะดรีนาลินไปแทน พักใหญ่ผ่านไปพอดีพี่อิทเจอเพื่อนอีกกลุ่มเข้ามาทัก ขยิบตาให้เป็นสัญญาณว่าไม่เป็นไร ผมเลยว่าจะเข้าห้องน้ำนิดหนึ่ง

ออกมาก็แทบชนกับผู้มีอุปการคุณเมื่อสักครู่ของพี่อิท พอเห็นหน้ากันชัดๆ ผมถึงรู้สึกว่าคุ้น คุ้นมาก ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้น ผมจำหน้าคนแม่น... ปกติก็เป็นประโยชน์กับการงาน เลยแน่ใจเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอแน่ๆ

โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายยิ้มให้เกินคนที่เพิ่งเห็นหน้ากันไปโข ยิ้มเหมือน... ดีใจที่ได้พบ จนผมเองต้องถาม

“... เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า”   
   
ถึงจะดูเหมือนประโยคชวนสนทนาเกร่อๆ (แบบที่เคยแนะลูกค้าไว้เองว่าอย่าทำ) แต่ตอนนี้ผมต้องการคำตอบจริงๆ

... รอยยิ้มขยายกว้างขึ้นเล็กน้อย ตามมาด้วยการพยักหน้า แล้วผมก็นึกออก

บ้านเดิมที่หาดใหญ่... รั้วติดกัน... เพื่อนบ้านใหม่... กว่าสิบปีมาแล้ว

ตอนนั้นผมก็อยู่ชั้นประถม จำอะไรไม่ได้ชัดนัก แค่แม่ชอบทำกับข้าวไปฝากบ้านข้างๆ... ฝากน้านันคนสวยของแม่ ส่วนเจ้าเด็กลูกน้าก็ชอบลอดรั้วข้ามมาประจำไม่ว่าจะได้รับเชิญหรือไม่ รู้ตัวอีกทีมันก็กินข้าวบ้านผมแทบจะทุกเย็นเพราะน้านันยังไม่กลับ

'บ้านแทค... ดีออก มีเสียงเพลง เสียงหัวเราะ พ่อแทคเล่นกีตาร์เก่ง แม่ก็ทำกับข้าวอร่อย'

ที่จำได้แม่นคือผมหมั่นไส้เจ้าเด็กนี่อยู่ไม่น้อย เพราะพ่อแม่ผมโอ๋ตามใจมันยิ่งกว่าลูกแท้ๆ อย่างผมเสียอีก มีโอกาสแกล้งได้ก็แกล้ง แต่มันก็ยังมา ราวกับอยากอยู่บ้านผมมากกว่าบ้านตัวเอง

“... โอบ” ผมพึมพำ

วันหนึ่งพอกลับบ้าน โต๊ะอาหารเย็นก็กลับมีแค่สามคนเหมือนเก่า น้านันพาลูกย้ายไปแล้ว... ตอนนั้นผมไม่ได้ดีใจอย่างที่คิด

แต่ก็อย่างว่า สิบกว่าปีมาแล้ว พอขึ้นชั้นมัธยม และไปเข้ามหาวิทยาลัยที่อื่นในเวลาต่อมา เรื่องเด็กข้างบ้านก็ลางเลือนจากความทรงจำจนไม่ได้นึกถึงอีก ทั้งที่จริงแล้วสมัยนั้น... ผมเจอมันแทบทุกวัน

โอบพยักหน้ายิ้มๆ “นึกว่าจะจำไม่ได้”

พี่อิทกวักมือเรียกเราอยู่ไหวๆ ผมก็เดินไปหาอย่างงงๆ เอาเข้าจริงคือไม่คิดว่าจะได้เจอโอบอีก แต่ก็นั่นแหละชีวิต มักจะมีอะไรไม่คาดคิดรออยู่เสมอ

โอบเดินตามมาด้วย ระหว่างทางคนทักมันเยอะก็มีหยุดคุยบ้าง ถึงจะยังยิ้มอยู่แต่ท่าทางติดจะหน่ายยังไงบอกไม่ถูกจนผมต้องเอ่ยเมื่อลับหูพวกเขาแล้ว

“ดูทำ... ยังกับไม่ชอบงานแบบนี้”

อีกฝ่ายกลับพยักหน้าเสียอย่างนั้น “คนเยอะ หนวกหู เหม็นบุหรี่... แต่งานวันเกิดสายรหัสก็เลยต้องมา"

เพราะมันมีส่วนเปิด กึ่งๆ กลางแจ้ง คนเลยตีเนียนสูบบุหรี่ พากลิ่นเข้ามาในร้านด้วย เอาอีกละ ถ้าไม่พูดเรื่องกลิ่นบุหรี่ก็จะไม่สังเกตอยู่แล้วเชียว

เจ้าของวันเกิดคือลูกค้าเก่าผม ญาติมีหุ้นที่นี่ถึงได้ปิดโซนหนึ่งในร้านจัดงาน...

ลูกค้าเก่าผมคนนี้เป็นเภสัชกร จบมหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่หน้าคนที่ผมจำแม่น โปรไฟล์ก็แม่น ช่วยตอนจับคู่ดีนักแหละ แสดงว่าโอบเรียนที่เดียวกัน

ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเรียนเก่ง บอกแล้วไงว่าที่เคยเจอกันนั้น... นานมากมาแล้ว   

"อะไรที่เขาทำกันก็ทำมาหมดเลยไม่เหลือความสนุกละ" โอบยังขยายความต่ออีก สงสัยเห็นหน้าผมแสดงถึงความไม่เชื่อถือว่าตัวเองจะเป็นคุณหนูอนามัย เหล้าไม่กินผับไม่เข้า อะไรเทือกนั้น

... เจริญ นี่แม่มันรู้หรือเปล่าว่าเรียนกรุงเทพฯ ก็เที่ยวซะขนาดทำมาหมดทุกอย่างแล้ว ผมเผลอจ้องมัน นึกถึงความเป็นไปได้ โอบหัวเราะหึๆ

"ก็จะอะไร เมาปลิ้น เต้นแร้งเต้นกา อ้วกในห้องน้ำ นี่แทคคิดไปถึงไหนแล้ว" ก่อนจะลดเสียงลงพูดเบาๆ "ทะลึ่งนะเราน่ะ"

ผมไม่ยอมแพ้ “รู้ได้ไงว่าคิดถึงอะไร แล้วมันก็ไม่เกี่ยวรึเปล่า ลืมไปแล้วเรอะว่าใครแก่กว่าใคร ห้าปีนะห้าปี”

โอบก็ยิ้มขำๆ เหมือนเดิม พอดีถึงโต๊ะ พี่อิทไม่พลาดโอกาสที่จะคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ หันมาบอกผมแค่ว่า “สั่งข้าวให้แล้วนะ”
 
ของกินอยู่ตรงหน้าผมเลยจ้วง ได้ยินเสียงโอบตอบคำถามดังมาเป็นระยะหลังจากขอบอกขอบใจกันไปเป็นที่เรียบร้อย

“กลุ่มนั้นเป็นเพื่อนของเพื่อนพี่รหัสผมเอง เคยเห็นหน้ากันอยู่บ้าง จริงๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ คงคะนองไปหน่อย”

“ไม่ได้น้องโอบช่วยเคลียร์ให้ล่ะพี่ลำบากแน่ๆ” พี่อิทว่า
           
ดีนะ ทีรุ่นน้องที่พุ่งเข้าไปตั้งแต่แรกล่ะไม่เอ่ยถึง...

“เรื่องเรียน... ถือว่าจบแล้วก็ได้ครับ ตอนนี้ช่วยงานวิจัยอาจารย์อยู่ที่คณะ รอสอบเอาใบประกอบ... ฝึกงานที่โรงพยาบาลไปด้วย”

“... อ๋อ ที่คุยกับแทค ครับเคยเจอกันมาก่อน ตอนเด็กๆ ผมอยู่หาดใหญ่ข้างบ้านกันเลย แต่แป๊บเดียวแล้วก็ย้ายไปอยู่เชียงใหม่เรียนโรงเรียนที่นั่น อำเภออื่นครับไม่ใช่เมืองหรอก...”

“เหรอ... แทคเคยเรียนเชียงใหม่เหมือนกันนะ ไม่ยักเจอกันก่อนหน้านี้” เสียงพี่อิท

“จะเจอได้ไง เชียงใหม่ไม่ใช่เล็กๆ” ผมเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นแทรก “แล้วโอบก็ลงมาเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ไม่ใช่เหรอ”

ซึ่งทำให้พี่อิทถามโอบเลยไปอย่างอื่นเสีย

ก็ดีแล้ว เพราะเรื่องที่เชียงใหม่เป็นเรื่องที่ผมไม่ได้อยากจะนึกถึง

ท้องอิ่มผมก็กะหาตัวเจ้าของงานสวัสดีให้เรียบร้อย จะได้ปลีกตัวกลับบ้าน มองไปมองมาโอบก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้เลยคิดจะถามหาสายรหัสเอากับมัน พอดีโอบพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

"... สี่ปีครึ่งนะ"

"หา" ผมต่อไม่ติดแล้วว่าเป็นเรื่องอะไร

"สี่ปีครึ่ง ไม่ใช่ห้าปี"

... อ๋อ เรื่องใครแก่กว่า

“นั่นแหละ ก็ปัดๆ เศษไปป่ะ” จะเป๊ะอะไร เรื่องนี้ปัดขึ้นดีกว่าปัดลง เพราะถ้าพูดว่าแก่กว่าห้าปีย่อมมีภาษีเป็นที่น่าเชื่อถือว่าสี่ ใช่มะ

“ไม่ได้ปัดได้ทุกเรื่อง” เป็นคำตอบ “คิดดูถ้าให้ยาคน สี่จุดห้ากรัมแต่ปัดเป็นห้านี่ ซี้แหงแก๋เลย”

เยอะแยะเหลือเกินจริงๆ ผมขยับจะตอบแต่พอดีเจ้าของงานผ่านมา ท่าทางกรึ่มหน่อยๆ “โอบ... กิจ! นั่งอยู่ตรงนี้เอง โอ๊ะ คุณแทค!” หันไปทักพี่อิทอีกจนรอบวงแล้วถึงได้ลงนั่ง เสียงพี่อิทถามถึงแฟนจากการจับคู่ของผมที่ประสบความสำเร็จไปเมื่อปีก่อนแว่วๆ

“... อยู่กับเพื่อนเขาตรงโน้นแน่ะ ต้องขอบคุณจริงๆ ไม่งั้นผมก็ไม่ได้เจอคนน่ารักยังงี้หรอก”

‘น่ารัก’ อย่างที่คุณภก. อยากได้และเคยระบุ คือ... ไม่ตามไม่ถามไม่จิก... แลกกับการที่ไม่ถูกตามถามจิกเช่นกัน กว่าจะหาให้เหมาะกันได้ผมแทบตาย... แต่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องรู้ โอบก็นั่งฟังไปท่าทางเฉยๆ สายนี้คงไม่ได้ปิดอะไรกันอยู่แล้ว

“จะเปิดร้านยาเองเมื่อไหร่ บอกเฮีย!” ลุงรหัสตบไหล่สายป้าบๆ “มันมีคูหาหนึ่งเพิ่งว่าง ทำเลดี เดี๋ยวคนอื่นจะมาเช่าไปก่อน”

“ผมยังไม่ได้ใบประกอบฯ เลย” สายรหัสหัวเราะ “เฮียปล่อยเช่าไปเหอะไม่ต้องห่วง ผมกะทำงานในโรงพยาบาลก่อน”

“เพิ่งเจอ ‘จารย์โดยบังเอิญ เห็นว่าที่ไปฝึกงานเขาก็รอจะจ้างอยู่แล้ว เปิดของตัวเองคู่ไปด้วยแหละ เชื่อเฮีย!”

“ครับ ครับ” ท่าทางน้องรหัสทำตามตำรา... อย่าเถียงคนบ้าอย่าว่าคนเมา แต่อีกฝ่ายไม่หยุดแค่นั้น

“คุณอิทคุณแทคดูแลน้องผมด้วยซิ.. นี่ก็ครบหมดทุกอย่างแล้ว ขาดแต่คนรู้ใจ”

“ผมไม่รีบ” โอบท้วง ส่วนผมไม่แน่ใจว่าคนพูดกรึ่มจนลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าเฉพาะทางแผนกของเราคืออะไร เลยพยายามเตือน
 
“หมายถึงบริษัทแม่ของเราใช่ไหมครับ” ก็ฝั่งที่เขาลงเอยกันด้วยการแต่งงานได้ไง

“ไม่ๆ แผนกคุณแทคแหละ!”

คราวนี้โอบก็ไม่ค้านอะไรเสียด้วย พี่อิทยิ้มกริ่มแต่ผมยังขอกระซิบถามคนต้นเรื่องให้แน่ใจ

"นี่ขับรถคร่อมเลน?"

"โน้ว วันเวย์ โอนลี่"

ผมขมวดคิ้วมองมัน โอบก็ยิ้มนิดหนึ่ง

เป็นครั้งที่สองของคืนนี้แล้วที่ผมต้องคิดว่า แม่มันรู้หรือเปล่าเนี่ย...

“โอเค ฝากด้วย” ทิ้งท้ายไว้แล้วเจ้าของวันเกิดก็ลุก ไม่วายบอก “ค่าสมาชิกหรืออะไรไม่ต้องห่วงนะ อยากเห็นน้องมีความสุข”

“ผมไม่กวนเฮียเรื่องนั้นหรอก” น้องรหัสว่า

ลูกค้าเก่าลุกไปแล้วพี่อิทแทบจะถลาใส่ลูกค้าในอนาคตจนผมต้องขัด “ที่จริงเมื่อกี้เดินไปเหยียบเท้าเขาหรือเปล่าถึงได้เกือบมีเรื่อง”

“ฉันเดินของฉันเฉยๆ นี่แหละ มืดๆ เมาๆ เข้าหน่อย ไม่ดูให้ดี” พี่อิทบ่น

“คนสวย จะมืดไม่มืดก็ยังสวยแหละครับ เขาคงเห็น” โอบก็พูดไปยิ้มๆ เหมือนเดิม

อื้อหือ... ผมชักไม่ค่อยเชื่อแล้วว่าคารมขนาดนี้ยังต้องอาศัยความช่วยเหลืออะไร มันดูยิ่งกว่าเอาตัวรอดได้อีกนะผมว่า

“น้องโอบ... พูดงี้รักตายเลย” พี่อิทชอบอกชอบใจ “เอาจริงๆ เรื่องเป็นหรือไม่เป็นสมาชิกนี่ไว้ค่อยคิดก็ได้นะ เอานามบัตรพี่ไปก่อน”

“ไหนว่าค่อยคิดไงครับ...”

“เรื่องเป็นสมาชิกหรือเปล่าค่อยคิด แต่ตอนนี้คิดถึงเจ้าของนามบัตรไปพลางไงจ๊ะ”

โอบหัวเราะ “พี่อิทครับ ผมชมนะ คือพี่สวย... เป็นผู้หญิงเกินไปน่ะ”

“โธ่ ถ้ารู้ว่าจะได้เจอน้องโอบ พี่ยังไม่รีบสวยหรอก จริงจริ๊ง” พี่อิทว่า “ไม่อยากจะเชื่อ อย่างน้องโอบไม่มีแฟน”

“ไม่มีจริงๆ ครับ สงสัยจะไม่มีโชคทางนี้”

“น้องโอบ... เรื่องแบบนี้ไม่ได้ใช้โชคช่วยอย่างเดียวหรอก งั้นเอานามบัตรแทคไป”

เอ้ย! ผมก็นั่งอยู่ดีๆ นะเนี่ย ยังไม่รู้ว่าโอบสนใจหรือเปล่าด้วยซ้ำ เมื่อกี้เพิ่งบอกว่าไม่ได้รีบ เดตไปเรื่อยๆ เล่นๆ นี่ไม่ไหวนะ เปลืองทรัพยากรเปล่า

พี่อิทหันมาสำทับ “เอานามบัตรให้เขาไปซิ”

“พี่อิททำไมมาเดือดร้อนผมล่ะ!” ผมกระซิบ พอดีโอบมีเพื่อนมาทักอีกแล้ว มันเลยหันไปคุยด้วย พี่อิทกระซิบกลับ

“เดือดร้อนอะไรกัน เราน่ะเพิ่งปิดงานเสร็จไปสองคน ตอนนี้ฉันดูอยู่ตั้งกระบุง ครีมก็ยังใหม่มาก เคยบอกแล้วใช่เปล่าว่าต้องขวนขวายหาลูกค้าใหม่ด้วย”

ครีมเป็นพนักงานคนล่าสุดในแผนกเรา ยังเรียนรู้งานอยู่ก่อนจะออกไปดูลูกค้าได้ด้วยตัวคนเดียว ผมส่ายหัว 

“มันจะเป็นสมาชิกหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ตอนนี้ไม่ใช่ผมไม่ยุ่งนะ” 

ถึงบัญชีลูกค้าที่ผมดูอยู่ในมือตอนนี้จะน้อยกว่าพี่อิท แต่ของยากๆ น่ะตกมาทางผมหมดทั้งสิ้น แต่ละคนนี่... อย่าให้พูด

“คิดๆ ดูแล้ว...” เสียงโอบดังขึ้น “ความจริงก็น่าสนใจ”

กับคนที่ ‘สนใจแต่ยังไม่ตกลงใจ’ ยิ่งลำบาก เพราะนโยบายบริษัทคือเราต้อง... พยายามให้เขาตกลงใจด้วยการเสนอคำแนะนำเรื่องนี้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อย่างน้อยก็หนึ่งครั้ง มากกว่านั้นแล้วแต่หัวหน้างานจะสั่ง

ในกรณีนี้ผมรู้สึกได้เลยว่าพี่อิทไม่ลังเลจะสั่งผมแน่

“ไหนบอกไม่รีบ” ผมว่า

“ไม่รีบ... แต่เจอเร็วก็ดีกว่าเจอช้ามั้ย”

“จริงค่ะ” พี่อิททะลุกลางปล้อง ยัดเยียดนามบัตรอีกใบใส่มือคนหมายมาดจะให้เป็นลูกค้า “น้องโอบคิดถูกแล้ว”

“พี่อิท บริษัทเรานี่ตั้งใจให้คนที่กะคบใครจริงจังมาเจอกันไม่ใช่เหรอ” ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไหนก็ตามเถอะ

“ก็ใครว่าจะไม่จริงจังล่ะ” คนได้นามบัตรไปว่า

“จะสอบอยู่ไม่ใช่หรือไง”

“มีคนให้กำลังใจดีจะตาย” โอบพูดก่อนก้มลงอ่าน “พันธิตร ที่ปรึกษา... บริษัทบำบัดโสด”

“พี่ล่ะอยากดูน้องโอบเอง” คนให้ทำเสียงเสียดาย “แต่ตอนนี้งานล้นมือ แทคว่างกว่า”

“พี่อิท มีนามบัตรผมได้ไง” ไม่เคยรู้สึกเหมือนถูกมัดมือชกมากเท่านี้มาก่อนเลยให้ตาย ส่วนคุณเธอตอบหน้าตาเฉย

“ฉันเป็นหัวหน้า ฉันก็มีนามบัตรของทุกคนแหละจ้ะ”

“พี่อิท!”

พี่อิทยิ้มแต่พูดโดยไม่ขยับปาก “จะเอาไหมโบนัส”

เพราะเลือดงกที่อยู่ในตัวหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ ทำให้ผมกระแทกแก้วลงกับโต๊ะ พูดโดยไม่ถนอมเสียงแล้ว “เออ! แต่ถ้าสุดท้ายแล้วยังไม่ยอมสมัครสมาชิก ก็ไม่ใช่ความผิดผมนะ”

เสียงพี่อิทบ่นผมแว่วๆ ว่าเรียนจิตวิทยามาแต่บางทีก็พูดอะไรได้ไม่มีจิตวิทยาเอาเสียเลย

ส่วนโอบเพียงแต่ยิ้มเหมือนเดิม ก่อนจะเก็บนามบัตรใส่กระเป๋า


... กว่าจะอพยพมาเรียกแท็กซี่กันได้ก็ดึกเกินความตั้งใจของผมไปโข นั่งไปส่งพี่อิทก่อนแต่โอบก็ขึ้นมาด้วย ส่งพี่อิทเสร็จมันก็ยังไม่ลง เอาเข้าจริงตอนแรกผมยังไม่ทันสังเกต นั่งง่วงๆ ไปนิดหนึ่ง จนถึงหน้าตึกที่อยู่ก็เดินด้วยสัญชาตญาณไปขึ้นลิฟต์

แล้วจึงรู้ว่าคนที่นั่งแท็กซี่คันเดียวกันมาก็ยังไม่ไปไหน

“นี่ส่งพี่อิทคนเดียวก็พอ” ผมว่า คือก็ไม่นึกหรอกว่าโอบจะอยากมาส่งอะไรผม แต่คิดไม่ออกว่าทำไมถึงยังอยู่

โอบส่งเสียงอืมในคอ เงยหน้าดูเลขบอกชั้น สาม... สี่... ห้า จนลิฟต์เปิดมันก็เดินออกมาด้วย

"แล้วจะตามมาทำไม กลับบ้านตัวเองไปซิ” ผมว่า

"ใครตามใคร" โอบทำหน้าไม่รู้เรื่อง

ผมเดินต่อจนถึงหน้าห้อง หันไปดูเลยเห็นว่า... อีกคนหันหลังล้วงอะไรยุกยิกในกระเป๋าอยู่

"... ล้อเล่นใช่มั้ย"

โอบชูกุญแจ "เพิ่งย้ายเข้า สดๆ ร้อนๆ"

ผมได้แต่ยืนมองมันไขเข้าห้องตรงข้าม เกาหัว หาว เกาหลัง สมองเพิ่งรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

... จะบังเอิญเกินไปละ

“แทค...”

ผมมองคนเรียก อันที่จริงโอบก็เปลี่ยนไปมากจากเด็กตัวเล็กหน้าตามอมแมมน้ำมูกยืด เด็กข้างบ้านของผมคนนั้น ถ้าเดินผ่านกันเฉยๆ โดยไม่ได้พิจารณาคิดว่าคงจำไม่ได้ ทั้งๆ ที่สมองคนเราถูกฝึกมาให้มองหาและจดจำ... หน้าอยู่แล้ว เป็นเหตุผลที่เรามักจะเห็นรูป ‘หน้า’ จากที่อื่นๆ ด้วยเหมือนกันเช่นก้อนเมฆบนท้องฟ้า พุ่มไม้ หรือบางทีแม้แต่วงกลมกับจุดสองจุดก็เพียงพอ

เมื่อได้เห็นหน้ากันชัดๆ แล้ว สมองส่วนหนึ่งก็จะพยายามหาว่าเคยรู้จักที่ไหน

... จากข้อมูลที่เก็บกักไว้เมื่อนานมาแล้ว

จะว่าไปตั้งแต่ตอนเด็กๆ โอบก็เรียกแต่ชื่อผมมาตลอดโดยไม่ต้องมีอะไรนำหน้า แทค... รอด้วย แทค... หิวแล้ว แทค...

... อย่าลืมนะ

“หืม”

“อย่าลืมเรื่องที่รับปากจะช่วยนะ”

โอบยิ้มก่อนจะหายเข้าไปในห้องกับประโยคสุดท้าย

“... บำบัดความโสดไง”


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตื่นเต้นลงเรื่องใหม่ เรื่องนี้ชิลนะ ภูมิหลังพอประมาณ (แต่ก็มี 55) ขอฝากไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณคนอ่านทุกคนเช่นเคย รักและคิดถึงคนอ่านม้ากมาก  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2013 13:25:01 โดย เดหลี »

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
เข้ามากรี๊ดก่อน แล้วค่อยอ่านนะคะ (ปลื้มคนเขียนจากเรื่องก่อนแล้ว แต่ว่ายังอ่านไม่จบ  :laugh: เพราะเป็นคนอ่านช้า แต่มิใช่ว่าทำอะไร "อย่างอื่น" ช้านะคะ  :laugh:)


ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :mc4:

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
โอ๊ยยยยยดีใจเห็นชื่อคนแต่งต้องรีบพุ่งเข้ามาด้วยความคิดถึง ^^


ตอนแรกก็สนุกแล้ว ท่าทางแทคจะได้บำบัดโสดให้ตัวเองปะเนี่ยย แอร๊ยยยย

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ irksome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :mc4: น่าอ่านๆ
รอตอนต่อไป  :z2:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
แอบหวาน เบาๆ อิอิ น่ารักจัง โอบ-แทค

ออฟไลน์ R-Chisel

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ PK37

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
"พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ" อ่านจบตอนแรกแล้วถึงกับต้องฮัมเพลงกันเลยทีเดียว
ไม่รู้พี่อิทจะดูน้องโอบออกหรือเปล่า แต่น้องโอบชอบแทคชัวร์ ชอบตั้งแต่เด็กๆ แล้วด้วยแน่ๆ  :z1:
เบอร์ก็ได้แล้ว ห้องก็อยู่ตรงข้ามกัน รอให้น้องโอบมาทำให้แทคยุ่งยากหัวใจ  :impress2:

เป็นกำลังใจให้และจะรอตอนต่อๆ ไปนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
 :L2:ต้อนรับเรื่องน่าอ่าน เขียนชวนติดตามค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
« ตอบ #9 เมื่อ: 18-01-2013 11:08:51 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
แค่ชื่อเดหลีก็ร้องโย่วววววว! แล้ว
ติดตามอย่างใกล้ชิด
แทคคคคคค ฮิ้ว
กดบวกปล่อยเป็ดให้โอบ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
เรื่องนี้สนุกดี โอบจะให้พี่แทคช่วยหา หรือ ช่วยเป็น "คนรู้ใจ"ละเนี่ย

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ดันจะกิน พนง.

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

มัวแต่ช่วยบำบัดให้คนอื่น

คราวนี้ถึงคราวบำบัดให้ตัวเองแล้วแน่เลย

+ เป็ดจ้า


sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
อึ๊ยยย น่ารักอ่ะ!!! เนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆ น่าติดตามจ้า ปล. บ.นี้มีอยู่จริงไหม อยากใช้บริการ 55555

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ตามมาค่ะ เย่ๆๆ

งานเข้าแทคละนะ คิคิ เหมือนน้องโอบจะน่ารักอ่าาาา

 :z2:

ออฟไลน์ PapermintReal

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-13
อยากถูกแทคบำบัดความโสดให้ง่าา :z1: /////  :z6: โดนโอบสกายคิก

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
ดีใจได้อ่านเรื่องใหม่ของคุณเดหลี  :man1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
บังเอิญเกินไปหรือเปล่าน้องโอบ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
มาบำบัดด้วยคน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 1] 18 ม.ค. 55
« ตอบ #19 เมื่อ: 19-01-2013 13:51:15 »





bozang

  • บุคคลทั่วไป
โอบแทค น่าอ่านนนน ลุ้นๆๆๆ

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
น่าสนุกมากๆๆๆ

ออฟไลน์ saruwatari_guy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
>.< น่าติดตามค่ะ เปิดมาก็ชอบแทคแล้วอ้ะ

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
บริษัทบำบัด 'โสด' [บทที่ 2] 24 ม.ค. 56
«ตอบ #23 เมื่อ24-01-2013 13:22:35 »

บทที่ 2

รุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ผมตื่นตามเวลาปกติเพราะชิน แต่กินข้าวเช้าเสร็จก็ไปนั่งง่วงต่อหน้าทีวี ถ้าไม่ใช่วันทำงานก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ดูหนังที่เช่ามา อ่านหนังสือ เก็บผ้าซักไปตามเรื่อง พี่อิทเคยถามเคยชวนแล้วแถมค่อนว่าผม ‘ไร้ชีวิตสังคม’ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น... แค่ขี้เกียจ ถ้าเต็มที่กับงานมาตลอดพอถึงวันหยุดผมว่าผมสมควรมีสิทธิ์เนือยและเลื้อยได้นะ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นพาให้ต้องขมวดคิ้ว เพราะไม่น่ามีเพื่อนหรือคนรู้จักคนไหนโผล่มาตอนเช้าอย่างนี้ ส่องดูแล้วจึงพบว่าก็เป็น... คนรู้จักจริงๆ แต่รู้จักนานมาแล้วน่ะ

“ว่า?”

โอบยืนยิ้มรับอรุณอยู่หน้าประตูโดยไม่สนใจว่าจะได้ยิ้มตอบกลับไปหรือไม่ “เพิ่งย้ายเข้ามาข้าวของยังไม่เรียบร้อย มีค้างอยู่ที่เก่าด้วย แต่ต้องรีบไปขนมาแล้วเพราะสัญญาหมด คนใหม่เขาจะย้ายเข้า”

ผมงงอยู่นิดหน่อยจนเริ่มระลึกได้ว่ามันบอกผมทำไม พร้อมๆ กับที่โอบพูดต่อ “แทคมีรถ เลย... จะมาขอความช่วยเหลือ”

“ขนของ...?”

“... ก็แทคมีรถ” โอบว่าอีกเหมือนเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นที่สุดในสากลจักรวาลนี้

“รู้ได้ไง”

“... พี่อิทบอก”

ผมเอารถห้าประตูคันเก่าของที่บ้านขึ้นมาใช้จากหาดใหญ่ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ขับ นอกจากเวลาต้องไปหาลูกค้าไกลๆ

ไม่รู้คุยอะไรกันไปบ้างสองคนนี้ตอนผมนั่งง่วงอยู่ในแท็กซี่เมื่อคืน หัวหน้าหนอ... ขยันหางานให้ทั้งราษฎร์และหลวง

แต่กับ ‘ราษฎร์’ คนนี้ คิดว่าอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบผมนะ

ชะรอยจะรู้สึกได้ถึงกระแสธุระไม่ใช่ที่แผ่ออกไปจากตัวผม โอบเลยเปลี่ยนมาทำเสียงอ้อนวอน

"แทค... ช่วยหน่อยน่า นะ นึกว่าเห็นแก่ลูกนกลูกกา ตาดำๆ"

ผมมองประเมินแล้วอยากจะบอกว่าอีแร้งสิไม่ว่า ตัวใหญ่ขนาดนี้เลยความเป็นลูกนกไปไกลแล้ว “เพื่อนตัวเองไม่มีหรือไง"

"ที่พอสนิทๆ กันกลับบ้าน ไม่ก็ติดธุระหมดเลย นะแทคนะ ช่วยหน่อย"

ผมถอนใจ ไอ้ 'ช่วย' ผมก็ช่วยแล้ว เกี่ยวกับการงานตัวเองด้วย คือพยายามให้มันได้เดต การชักจูงให้ตัดสินใจสมัครสมาชิกใหม่นี่ถึงกับต้องช่วยขนของย้ายเข้าหอด้วยเหรอ มากไปมั้ย

โอบทำท่าจะพูดต่อ แต่เสียงมือถือในกระเป๋าผมดังขัดเสียก่อน มองเบอร์แล้ว... ไม่รับก็ไม่ได้

“ว่าพรือโหลก...”

โทรมาเองแล้วถามทำไมนิแม่...

พอได้คำตอบเหมือนทุกทีคือสบายดีไม่ป่วยไม่ไข้ (ยัง) ไม่มีปัญหาอะไร แม่ก็เริ่มบ่นเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง เป็นกิจวัตร บ่นได้ทุกเรื่อง พ่อไม่ยอมเติมน้ำมันรถ ดีที่มันมาหมดเอาหน้าบ้าน... สวนยางปีนี้ไม่รู้จะได้กำไรเท่าไหร่... เด็กผู้หญิงที่โรงเรียนสมัยนี้เถียงคำไม่ตกฟาก...

อยากจะไปพูดต่อในห้องเหมือนกันแต่โอบยังยืนคาประตูอยู่ ผมก็รัวกลับแม่บ้าง ภาษาถิ่น ไม่มีซับไตเติ้ล เห็นสีหน้าคนพยายามฟังให้ทันแล้วขำดี

แต่โอบถาม “คุณป้าเหรอ” แล้วมันก็เรียกเลย “คุณป้าครับโอบเอง!”

เดซิเบลขนาดนี้น่าจะได้ยินไปถึงหาดใหญ่... อย่าว่าแต่ลอดเข้าหูโทรศัพท์ ผมได้ยินเสียงแม่ถามไถ่กลับมาอย่างดีใจ กำลังคิดว่าจะยื่นโทรศัพท์ให้คุยกันเลยดีไหมคุณนายก็สั่ง

"แทคเปิดลำโพงซิ"

"โอยแม่!" ทำไมต้องมาพูดโทรศัพท์กันสามคนให้วุ่นวายอย่างนี้ด้วยก็ไม่รู้ แม่เปลี่ยนกลับมาเป็นกลางทันทีที่รู้ว่า ‘น้องโอบ’ อยู่ในสายด้วย ผมจะดึงดันแหลงต่อคนเดียวก็ไม่ได้ ของอย่างนี้ต้องทูเวย์ คอมมิวนิเคชั่น ไม่งั้นไม่หรอย

"เปิดยัง แม่ไม่ได้ยินเสียงน้องโอบ"

“เปิดแล้วๆ แม่! ก็หลังจากเมื่อกี้มันยังไม่ได้พูดอะไรเลยจะได้ยินได้ไง”

... จากนั้นแม่ก็ซักสารทุกข์สุกดิบลูกนอกไส้เป็นการใหญ่ ถ้าสำหรับผมแล้ว โอบเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้ ในสายตาแม่ โอบคงเหมือนเดิม... เพราะแม่ก็ยังน้องโอบ นั่น นี่ ทุกคำ ซึ่งเรียกเด็กเจ็ดแปดขวบเมื่อก่อนคงดูน่ารักดี

แม้ไม่ค่อยจะเข้ากับหน้าคนยืนค้ำหัวผมในตอนนี้เท่าไหร่

มาสะดุดตอนแม่ว่า “นันเขาบอกน้องโอบใกล้เริ่มงาน ต้องย้ายจากหอเดิมด้วย ป้าเลยว่าไหนๆ จะย้ายแล้วมาอยู่ย่านเดียวกันก็ดี เผื่อมีอะไรได้ช่วยเหลือกันนะลูก”

แสดงว่าแม่ก็ยังติดต่อกับน้านันมาเรื่อยๆ...

แล้วแม่นี่เองชี้โพรงให้กระรอก! ได้ใกล้ขนาดชั้นเดียวกันตึกเดียวกันเลยแหละ ไม่ใช่แค่ย่านเดียวกันหรอก สมใจแม่... แล้วผมก็ต้องคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินคำตอบ

“ครับคุณป้า... นี่พี่แทคกำลังจะช่วยโอบย้ายของ”

ผมจ้องหน้ามัน โอบก็เลิกคิ้วคล้ายจะถามว่า ‘ไม่จริงเหรอ’ มีแต่ต่อหน้าแม่เท่านั้นแหละที่มันจะเรียกผมพี่

ผมไม่มีช่องปฎิเสธ เพราะแน่นอนว่าแม่เห็นดีเห็นงามแถมให้ผมรับปากเสียด้วย ก่อนจะร้อง

“อ้าวพ่อเข้าบ้านมาพอดี... พ่อๆ มาคุยกับแทคเร็ว น้องโอบด้วยพ่อ... ปัดโธ่ วางของก่อน! มานี่พ่อ”

ถึงเวลาโทรหาผมแม่จะบ่นพ่อคิดเป็นร้อยละเก้าสิบ แต่ความรัก เป็นร้อยละร้อย... ตั้งแต่วันแรกเจอกันในงานกีฬาเขต พ่อเป็นตัวแทนลงแข่งรักบี้แต่แม่มาจากคนละวิทยาลัย จนวันที่ต่างคนต่างจบไป พ่อเป็นครูดนตรี แม่เป็นครูคหกรรม ได้เจอกันอีก จนแต่งงาน พ่อจะตั้งชื่อเล่นลูกชายว่าแทคเกิ้ลเหมือนอย่างในรักบี้ แต่สุดท้ายก็ยอมตัดเหลือแทคเฉยๆ ตามแม่ว่าเพราะกลัวลูกถูกล้อ... จนวันที่ลูกชายคนเดียวนั้นเลยวัยเบญจเพสไปแล้ว

ผมก็คิดว่า ความรักยังเป็นร้อยละร้อยอยู่...   

“แทคพ่อถามว่าจะกลับบ้านอีกเมื่อไหร่”

“ได้ยินแล้วแม่” ทุกครั้งที่ลากพ่อมาพูดโทรศัพท์แม่ก็ทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้อีกต่อทั้งๆ ที่ไม่ต้องก็ได้ ส่วนพ่อตามใจเหมือนเคย... “แทคกลับเช็งเม้งไง เหมือนทุกปี”

แม่ไปเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่อีกพักก่อนจะว่า “พ่อบอกให้แทคไปช่วยน้องโอบเถอะเดี๋ยวจะสายมากกว่านี้ แล้วแม่ค่อยโทรมาใหม่...”

แต่กว่าจะได้วางหูจริงๆ ก็ล่อไปอีกเกือบสิบนาที ผมถอนใจเฮือก เห็นโอบมองยิ้มๆ

ผมยกไหล่นิดเหมือนบอกว่าพ่อแม่ก็อย่างนี้ ไม่แน่ใจว่าโอบจะจำได้แค่ไหนว่าพ่อแม่ผมเป็นอย่างไรจากที่เคยเจอกันเมื่อนานมาแล้ว นอกจาก ‘พ่อเล่นกีตาร์เก่ง แม่ทำกับข้าวอร่อย...’ ที่ผมนึกออกว่ามันเคยพูดตั้งแต่ตอนเด็กๆ โอบว่า

“พ่อแม่แทคดีออก รักกันดีด้วย เมื่อก่อนก็...”

แต่แล้วก็ทำท่าเหมือนลืมว่าจะพูดอะไรไปเสียอย่างนั้น


โอบลงจากรถแล้วผลุบหายเข้าไปในตึกหอเดิม จากในรถพอมองเห็นว่าพูดจาอยู่กับลุงที่คงเป็นคนเฝ้าอยู่นิดหนึ่งก็วิ่งกลับมา

“แทคลงมาช่วยกันหน่อยดิ๊!”

ขับรถขนของให้ยังไม่พอ ต้องมาใช้แรงงานอีก... เช้าวันหยุดที่ผมควรจะได้นอนเขลงอ่านหนังสือ งีบ ไม่ก็เรื่อยเปื่อยดูหนัง...

“แทครับปากแม่ไว้แล้วว่าจะช่วย ห้ามผิดคำพูดนะ”

“เออๆ” ผมจำต้องเดินตามเข้าไปในตึก โอบรับกุญแจจากลุงมาไขห้องเก็บของก่อนจะบอกผมว่าขนลงมาแล้วเมื่อสองสามวันก่อน ก็เหลือแต่ยกไปขึ้นรถเท่านั้น ส่วนกล่องข้างนอกอีกนิดหน่อยเพื่อนเพิ่งเอามาฝากลุงไว้เมื่อเช้า ก่อนรีบบึ่งไปธุระต่างจังหวัด

ผมคว้าลังขึ้นมา โอบก็ว่า “แทคยกอันนี้ดีกว่า อันนั้นหนังสือล้วนๆ เลย หนัก...”

“ไม่เป็นไร” ถึงมันจะหนักจริงผมก็ยกไหวล่ะน่ะ

“เถอะน่า เท่านี้ก็ใช้แรงงานคนแก่...” โอบเว้นนานอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะต่อ “... กว่า จะแย่แล้ว”

... มันน่าช่วยไหมเนี่ย!

ผมออกมายกของข้างนอกที่มีกล่องผ้าคลุมไว้เทินอยู่บนสุด แต่พอยก ลังที่ซ้อนกันอยู่ก็เหลื่อมจนเอียงวูบ

"แทคระวังดาวเรือง!"

โอบยังไวพอจะละมือมาจับเอาไว้ได้ทันท่วงที จึงไม่ถึงกับตกลงพื้นไป เลิกผ้าคลุมขึ้นดูแล้วก็ว่า

"หนูเรือง... เป็นไงมั่ง"

เอาจริงๆ ผมจะรู้ได้ไงว่าไอ้โอบมีสัตว์เลี้ยงรวมอยู่ในขบวนสัมภาระของมันด้วย พอเห็นถนัดตาก็ยังนึกไม่ออกจนต้องถาม

"ตัวอะไรหน้าตาพิลึก"

"แทคก็... เดี๋ยวเขาเสียใจ หนูเรืองเขาเป็นแฮมสเตอร์ยักษ์"

ผมไม่รู้ว่าเจ้าพวกนี้หนักได้เท่าไหร่ หรือว่าตัวโตได้แค่ไหน แต่ที่อยู่ในกรงนี่คู่ควรกับคำว่า 'ยักษ์' ทุกประการ

"อ้วนขนาดนี้เดินยังไง" ผมอยากรู้จริงๆ

"แทค!" โอบทำท่าประหนึ่งว่าผมทำร้ายความรู้สึกสัตว์โลกผู้น่ารักเข้าให้แล้ว ผมอดขำไม่ได้

"น่าเอ็นดูไปนะ หนูเรือง"

"ก็เขาเป็นหนูรึเปล่าล่ะ"

ผมคร้านจะเถียง กรง ‘หนูเรือง’ นี่รวมอยู่กับของข้างนอก ก็แสดงว่าเพิ่งถูกเอามาฝากลุงเมื่อเช้า

“หนูเพื่อน?”

“อืม หอพักเพื่อนเลี้ยงสัตว์ไม่ได้ ก็เลยเอามาเลี้ยงให้แทนก่อน” 

“... เพื่อน?”

“ก็เพื่อนสิ” โอบยกลังสุดท้ายใส่หลังรถแล้วปิดประตู ยังถือกรงหนูไว้ในมือ “ถ้าไม่ใช่เพื่อน จะอยากใช้ บอ-ริ-กาน บริษัทแทคทำไมเล่า”

เออเนอะ...

ขึ้นรถแล้วโอบก็เอากรงไว้บนตัก เอี้ยวตัวพยายามจะรัดเข็มขัด ผมช่วยสงเคราะห์ให้เลยเพิ่งจะเห็นชัดว่าตรงท้องแขนโอบมีรอยค่อนข้างยาว... เหมือนแผลเป็น แต่น่าจะเป็นแผลเก่า

“นี่ไปโดนอะไรมาเนี่ย”

ผมก็ไม่สังเกตมาก่อน ตอนเจอกันในร้านมืด ในแท็กซี่ก็มืด โอบใส่เสื้อแขนยาวแต่ตอนนี้ถลกแขนเสื้อขึ้นเมื่อยกของ หรือเพราะก่อนหน้านี้... ผมไม่เคยมีโอกาสดูดีๆ ก็เป็นได้

โอบมองตามสายตาผมก่อนจะดึงแขนเสื้อลง แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ยิ้มให้แล้วว่า "ไม่เป็นไรหรอก..."

รถข้างหลังที่มาจ่ออยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้บีบแตรสนั่น ผมเลยต้องรีบออกรถ ส่วนโอบก็นั่งปลอบใจแฮมสเตอร์ยักษ์พุงหลามไปกับการขับรถกระชาก (อย่างไม่ตั้งใจ) ของผม

... พอดีไม่เคยขับรถให้หนูนั่งน่ะนะ...


ขนของไปกองอยู่ในห้องโอบเสร็จผมก็หันหลังเดินกลับมาห้องตัวเอง กระพือเสื้อให้ลมเข้าไปพลาง อยากอาบน้ำอีกสักรอบ... รอให้เหงื่อแห้งหน่อยดีกว่า

แต่โอบเดินตามมาด้วย ผมหันไปจะปิดประตูมันก็ว่า

“... หิวเนอะ...”

เอาจริงๆ นอกจากภายนอกแล้ว... ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเท่าไหร่ สีหน้าท่าทาง คำพูดคำจา

ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็แค่ลากมันไปปล่อยทิ้งไว้กับแม่ แต่ตอนนี้ไม่มีกับข้าวแม่แล้วนี่สิ

“... แทคไม่หิวเหรอ”

มนุษย์เรา... อย่างที่บอก พอมีคนเตือนก็หิวขึ้นมาเลยแหละ

“ขี้เกียจออกไปอีก” ผมว่า ข้างนอกฟ้ามืดเดี๋ยวฝนคงได้ตกแน่

“... ขี้เกียจเหมือนกัน”

แล้วไงต่อล่ะ...

“เพิ่งย้ายเข้าของกินอะไรก็ยังไม่ได้ซื้อ ครัว... ง่อยมาก ตู้เย็นงี้ เล็กกว่ากรงหนูเรืองอีก”

ผมถอนใจ “เอ้า ไม่อร่อยห้ามว่า” ไหนๆ ผมก็ต้องทำกินเองอยู่แล้วน่ะ

ของในครัวผม (ที่เล็กเหมือนกัน แต่น่าจะดีกว่าของโอบหน่อยหนึ่ง) ก็ไม่ค่อยจะมี ถือว่าตามมีตามเกิดมากมื้อนี้ โอบตามมาเหมือนจะช่วย แต่ทำให้ลำบากขึ้นมากกว่า พื้นที่ก็น้อยอยู่แล้ว พอผมถามว่าไม่ถนัดแล้วจะช่วยทำไม มันดันตอบ

“... ก็มีมารยาท”

ผมจึงให้มันไปนั่งมีมารยาทรอที่โต๊ะ จากของที่มีก็ได้ไข่เจียวกับผัดผักโง่ๆ เนี่ยแหละ มีอะไรก็ใส่ไป ความจริงคนทำเก่งคือแม่อย่างที่เด็กนี่ก็รู้ ของผมแค่พอรับได้... แต่โอบก็ตั้งหน้าตั้งตากินท่าทางอร่อยจนผมต้องตักให้เพิ่ม

จากเมื่อวานที่มันคุยกับพี่อิท ผมรู้ว่าพอย้ายไปแล้วโอบเรียนอยู่เชียงใหม่จนมาต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ แต่จริงๆ ก็ไม่เคยรู้ว่าทำไมตอนนั้นถึงย้ายกะทันหัน ว่าไป โอบเองอาจจะไม่รู้ก็ได้ เด็กเจ็ดขวบกว่าในตอนนั้น... พอโตขึ้นบ้าง ปรับตัวเข้ากับที่ใหม่ ได้เพื่อนใหม่ คุ้นเคยกับบ้านใหม่ คงไม่คิดจะถามหรืออยากรู้อีกแล้วด้วยซ้ำ

ยิ่งเด็ก ยิ่งปรับตัวได้เร็ว ผมเรียนจิตวิทยา อาจารย์บอกอย่างนั้น...

ผมก็ว่าอย่างนั้น...

โอบหัวเราะนิดๆ เมื่อผมบอกสิ่งที่คิด "ก็ว่าไป... ตอนนั้นร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์ๆ เลย"

เสร็จก็ยิ้มเหมือนพูดเล่น ต่อด้วย “แต่ว่าขอบคุณมาก วันนี้”

ผมเงยหน้าขึ้นมอง โอบก็ยิ้มกว้าง

“ขอบคุณทั้งเรื่องที่ช่วยย้ายของ แล้วก็เรื่องข้าว อร่อยมาก มาก!”

ผมแน่ใจว่าโอบเกินจริง ตั้งแต่เรื่องร้องไห้เป็นอาทิตย์นั่นแล้ว เรื่องผมทำกับข้าวอร่อยมากนี่ยิ่งห่างไกลความจริงออกไปนอกจักรวาล

แต่คำชมใครได้ยินก็ดีใจใช่ไหมล่ะ...

... ชักจะเข้าใจอารมณ์แม่ขึ้นมาตงิดๆ ว่าทำไมชอบทำกับข้าวให้คนกินนัก... 


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณ Wordslinger ขอบคุณนะคะ เม้นแรกเลย อ่านช้าไม่เป็นไรแค่อ่านก็ดีใจแล้วค่ะ แอบเห็นนิยายคนอ่านอยู่เหมือนกันแต่คนเขียนแค่เขียนก็กินเวลาโขแล้วค่ะเลยยังไม่ได้ไปอ่านเลยยย

คุณ MiSS-U ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า

คุณ Millet คิดถึงเหมียนกันค่ะ อิอิ เรื่องนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะคะ

คุณ irksome ขอบคุณสำหรับการอ่านค่า ขอบคุณที่แวะไปอ่านเรื่องก่อนด้วยน้า

คุณ seaz ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่ะ ฝากตอนต่อไปด้วยน้า

คุณ R-Chisel ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า

คุณ PK37 55 พรหมลิขิตจริงๆ ด้วย เรื่องสองคนนี้ก็ไม่รู้ยังไงต่อ 55 ต้องขอฝากเชียร์ด้วยค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจค่า

คุณ moredee ขอบคุณมากค่า ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ puppyluv ขอบคุณสำหรับการอ่านค่า ขอบคุณสำหรับเป็ดของโอบ 55

คุณ sukie_moo ขอบคุณค่า ต้องรอดูกันต่อปายยย

คุณ ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ตอนนี้กินข้าวไปก่อน ฮา

คุณ AGALIGO ขอบคุณมากสำหรับการอ่านค่า ฝากตอนต่อไปด้วยนะคะว่าจะใครจะได้บำบัดใคร 55 ขอบคุณสำหรับเป็ดค่า

คุณ sunshinesunrise ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า ฝากติดตามต่อด้วยน้า บริษัทหาคู่มีค่ะ แต่แผนกเฉพาะอย่างของแทคนี่ไม่รู้มีป่าว 555

คุณ milkteabeige ยินดีต้อนรับอีกครั้งค่า คนเขียนก็รู้สึกว่าน้องโอบน่ารักค่ะ อิอิ

คุณ PapermintReal 555 ได้เลยๆ โอบไม่หวง กร๊าก

คุณ Aoya ยินดีที่เข้ามาอ่านเหมือนกันค่ะ ฝากอ่านต่อด้วยนะคะ

คุณ malula บังเอิญเพราะแม่บอกแล้วว่าแทคอยู่ตรงไหน 555

คุณ iforgive ขอบคุณมากที่อ่านนะคะ มาบำบัดไปด้วยกัน

คุณ bozang ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่า ฝากอ่านและลุ้นต่อด้วยน้า

คุณ boobooboo ขอบคุณมากค่า ฝากอ่านต่อด้วยน้า

คุณ saruwatari_guy ขอบคุณที่ชอบค่า ฝากติดตามต่อด้วยน้า

เอาล่ะ จริงๆ ต่างฝ่ายต่างก็มีเรื่องหลัง แต่อาจจะเป็นคนละเรื่อง (เดียวกัน) ฮา ขอบคุณคนอ่านทุกๆ ท่านมากเลยค่า  :กอด1:

ออฟไลน์ PK37

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
น้องโอบได้ทีอ้อนใหญ่เลยนะ ตอนนี้ก็มาอยู่ใกล้ๆ กับพี่แทคแล้ว
ถ้าน้องโอบแอบเล็งพี่แทคไว้ก็พยายามเยอะๆ ก่อนที่จะมีใครเข้ามาเป็นคู่แข่งนะ เริ่มก่อน?ได้เปรียบ หึหึ
หวังว่าหนูเรืองจะไม่ใช่หนูของแฟนเก่าหรืออะไรที่มากกว่าเพื่อนนะ
แผลเป็นที่แทคเห็นเดาเอาว่าน่าจะได้มาตอนที่อยู่กับแทคที่หาดใหญ่แน่เลย
น้องโอบสู้ๆ คนเขียนสู้ๆ  :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ท่าทางโอบจะทำตัวเป็นแขกขาประจำห้องแทคแล้วสิ

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

บุพเพสันนิวาส

คู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกันหรอกค่ะ

ว่าแต่ท่าทางจะมีอดีตอันเจ็บปวดอยู่นะคะน่ะ

+ เป็ดค่า


ออฟไลน์ mr_longza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ให้กำลังใจครับ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ชอบน้องโอบ  :จุ๊บๆ:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
น่ารักเกินไปแล้วหนูเรือง? 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด