Overwhelming lovers เหตุเกิดเพราะรักมากมายของนาย(นาย)ออฟฟิต=ตอนที่40=(จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Overwhelming lovers เหตุเกิดเพราะรักมากมายของนาย(นาย)ออฟฟิต=ตอนที่40=(จบแล้ว)  (อ่าน 58866 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
แล้วชินหายไปไหนอ่าๆๆ

ขอเรื่องชินเยอะๆ เพราะความรู้สึกเหมือนกัน มันเศร้า

555


สนุกดีครับ
ชอบๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
บางครั้ง...ความอยากได้ เมื่อได้มาแล้ว ไม่นานก็เบื่อ...........

เฮ้อ!!!!

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
=22=

เสียงถุงพลาสติกกระทบกันไปมาตลอดทางเดินที่มายังห้องผู้ป่วยพิเศษของทางโรงพยาบาล หลังจากเลิกงานได้เพียงไม่เท่าไหร่ นั่นเป็นเพราะเจตน์กำลังรู้สึกผิดที่เขาทำให้อีกฝ่ายต้องเข้าโรงพยาบาล ทั้งๆที่ร่างกายก็กำลังไม่สบายอยู่แท้ๆ แต่เขาก็ยังไปทำแบบนั้นอีก

" พี่อาร์ต ผมเข้าไปนะ " เจตน์เคาะที่ประตูห้องพอเป็นพิธีก่อนจะเดินพรวดพราดเข้าไปในห้องผู้ป่วย

"อ่ะ....อืม... " คนที่ดูจะนั่งเหม่อลอย อาจจะเป็น เพราะด้วยอาการป่วย และใบหน้าของหนุ่มลูกครึ่งที่ก้มลงมาเมื่อครู่ยังอยู่ ในความทรงจำนั้น สะดุ้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามา

" พี่เป็นยังไงมั่ง? " เจตน์รีบเดินเข้ามาแตะแก้มอีกฝ่าย

" ผมขอโทษ .. ไม่น่าเลย ทั้งๆที่รู้ว่าพี่ไม่ค่อยสบาย แล้วยัง.. "

"ไม่เป็นไร... ฉันไม่พักเอง..." อารยะกล่าว พลางยิ้มน้อยๆให้กับอีกฝ่าย

" นี่ ผมซื้อของที่พี่ชอบมาฝากด้วยล่ะ  " เจตน์รีบแกะของในถุงที่ซื้อมาให้อีกฝ่าย
" หิวหรือเปล่า? หมอบอกว่าหมดน้ำเกลือขวดนี้ก็กลับได้แล้วนะ แต่ถ้าพี่จะนอนอีกคืนผมจะอยู่เฝ้าเอง "

"ไม่เป็นไรหรอก แค่เพลียนิดหน่อย นายเอง ก็ไปพักซะมั่งเถอะ เดี๋ยวเกิดมาป่วยแบบฉันอีก ฉันก็โดนว่าเอาสิ"
อารยะรับเอาขนมขึ้นมาทานพอไม่ให้เสียน้ำใจ ก่อนจะวางลง

" ใครจะมาว่าพี่ล่ะ ทุกคนเขาเป็นห่วงพี่กันทั้งแผนก พี่คิมฝากให้ผมเอานี่มาให้พี่ด้วย  " เจตน์ยื่นกระป๋องวิตามินรวมให้อีกฝ่าย
" เขาบอกว่าเจอพี่เที่ยวอยู่บ่อยๆ .. ผมว่าพี่ก็เพลาๆลงมั่งเหอะ "

คนป่วยรับเอาขวดวิตามินรวมมา ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้

...ขี้เก๊กชะมัด...ทำไมไม่ให้ตั้งแต่เมื่อกี้เลยล่ะ...

" ดีใจเหรอครับ? " เจตน์ถามขึ้นมา ดวงตารีจับจ้องใบหน้าที่ปิดความดีใจเอาไว้ไม่ทันนั่นนิ่ง

"อ่ะ... ก็มีคนอุตส่าห์เป็นห่วงเยอะแยะแบบนี้ " อารยะว่าพลางหันไปยิ้มให้กับอีกฝ่าย ทำเหมือน ไม่เข้าใจกับสิ่งที่อีกคนถาม มือเรียวเอื้อมเอาขวดวิตามินไปวางไว้ข้างเตียง

" แล้วพี่จะนอนต่อไหม หรือจะกลับดี? "เจตน์เปลี่ยนเรื่อง .. ทั้งๆที่เขาก็กำลังสงสัยอยู่

ดวงตาคู่สวยเหลือบมองใบหน้าของอีกฝ่ายเล็กน้อย

...สงสัยอยู่ล่ะซิ่นะ...

"ก็...ถ้ากลับไปแล้ว ...ไม่ต้องป่วยอยู่ห้องคนเดียวล่ะก็...นะ" มือเรียวยกขึ้นแตะมือแกร่งของอีกฝ่ายเบาๆ ริมฝีปากบางกระซิบออกมาเป็นคำออดอ้อน

" พี่อยากให้ผมอยู่ด้วยจริงๆเหรอ "เจตน์กระซิบตอบเบาๆ
" ไม่ใช่คนอื่นใช่ไหม? "

".........ก็...ใช่น่ะซิ่ นายต้องรับผิดชอบฉันไม่ใช่หรือไงกัน" คนป่วยตอบกลับ

" ก็ใช่ ผมทำให้พี่ต้องเข้าโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ? "เจตน์ทำท่าลำบากใจ

"นั่นล่ะ " อารยะยิ้มก่อนจะยื่นมือที่มีสายน้ำเกลือระโยง ยิ่งทำให้คนป่วยดูบอบบางลงไปอีกนั้น ไปสวมกอดอีกฝ่ายเอาไว้เบาๆ
"ก็จะเป็นใครเสียอีกล่ะ... "

" ผอมลงนะ " เจตน์กอดตอบอีกฝ่าย ริมฝีปากได้รูปแตะกับแก้มของอีกฝ่ายแล้วแนบกับหน้าผากมนนั่นเบาๆ

"เหรอ..." อารยะตอบกลับเบาๆ

" ไปเที่ยวทุกวัน ถึงได้ผอมล่ะสิ "เจตน์กอดคนตรงหน้าแน่นขึ้นอีก

"ก็...ฉัน..." อารยะหยุด อดจะสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม หลังๆมานี่ถึงต้องออกไปที่ผับนั่นทุกวันๆ ทั้งๆที่ไปแล้วก็มีแต่คนจะเข้ามาทำรุ่มร่ามใส่อยู่ทุกครั้งไป

" ถ้าอยากไป จะไปเป็นเพื่อน ดีไหม? "

แต่ชายหนุ่มให้อ้อนแขนกลับขยับตัวออก "...ไม่เป็นไรหรอก..."

" พี่อยากเจอใครรึไง? "เจตน์ถามเสียงเรียบ

"ก็...ตามประสา มีเพื่อน มีอะไร ก็ไปไง..." อารยะว่าพลางหัวเราะ
"มีอะไร...หึงเหรอ"

" ใช่ พี่แฟนผมไม่ใช่รึไง? "เจตน์ตอบออกไปทันที

"ก็ใช่...." ร่างบางตอบกลับทันควันเช่นกัน
"...... " ริมฝีปากบางเม้มแน่น เขารู้ดีว่า อีกฝ่ายกำลังไม่พอใจในพฤติกรรมของตัวเขา แต่... จะให้ทำยังไงได้ หากว่า ปล่อยมือจากคนๆนี้ มันก็เท่ากับเขากำลังจะกระโดดลงไปที่ก้นเหว โดยที่ไม่มีร่มชูชีพ หรือ ตาข่ายคอยรองรับ

...ไม่มีคนให้อยู่ด้วย แบบนั้นน่ะ...ไม่เอาหรอก

"เรา...ต้องรู้จักกันมากขึ้นไม่ใช่หรือไงล่ะ...ฉันก็แค่อยากให้นายรู้ว่า นี่ก็เป็นฉัน ฉันก็มีสังคม อีกอย่าง อีกที่ ที่นอกเหนือจากบริษัท และการอยู่กับนาย..."

" ผมเองก็อยากจะรู้จักพี่ให้มากขึ้นเหมือนกัน "เจตน์รีบบอก
 " ไว้คราวหน้าไปด้วยกันก็ได้ "

".........ขอฉันพักก่อนก็แล้วกันนะ...เจตน์"ชายหนุ่มร่างบางว่าพลางผละออกจากอีกฝ่ายแล้วเอนตัวลงกับเตียง

===================

วันเวลาผ่านไปกับความเงียบเหงาในโรงพยาบาล เจตน์ไม่ได้มาเยี่ยมเขาในช่วงกลางวัน... แน่ล่ะ เพราะว่ามันเป็นเวลาทำงาน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังอยากคุยกับใครซักคนอยู่ดี
คิดได้แบบนั้นมือเรียวของคนป่วยก็คว้าเอาโทรศัพท์มา กดหมายเลขที่คุ้นเคยทันที


ชื่อที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ทำให้หนุ่มลูกครึ่งหยิบมันแล้วเดินออกจากแผนกไป ยังไง เจตน์ที่ยังนั่งอยู่ตรงนั้นก็ไม่ควรจะมารับรู้เรื่องนี้
เขากดรับสาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

"คิมหันต์..นายยุ่งอยู่รึเปล่า..." เสียงแหบพร่าดังมาจากปลายสาย

" มีธุระอะไรเหรอครับ ถึงได้โทรมา " คิมหันต์ตอบกลับไปเรียบๆ

"อยากกินพายไก่ของร้านกาแฟข้างบริษัท ...แต่ไม่มีคนมาเยี่ยม... " อีกฝ่ายตอบ ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าบนใบหน้ามนนั้นจะปรากฏเป็นรอยยิ้ม

" ผมจะบอกเจ้าเจตน์ให้ เอาอะไรอีกไหมครับ? "

".........แต่ฉันอยากให้นายมานี่"เสียงที่ปลายสายเปลี่ยนเป็นจริงจัง เมื่อได้ยินชื่อของบุคคลที่สาม
"นายเองก็เป็นคนนึงที่ทำให้ฉันป่วยนะ รับผิดชอบหน่อยซิ่"

" ผมจะไปกับเจ้าเจตน์ก็แล้วกัน "เสียงเรียบเฉยของคิมหันต์ไม่เปลี่ยนเลยซักนิด

"...แต่ฉันไม่ได้อยากเจอหน้าเจตน์นี่... "

"ตอนนี้ ฉันอยากกินพายไก่...ที่นายเป็นคนเอามาให้ " น้ำเสียงของคนป่วยยังคงเอาแต่ใจอยู่ไม่เปลี่ยน

" คุณโตแล้วนะ อารยะ ผมจะฝากเจตน์เอาไปให้ เย็นนี้ก็แล้วกัน " ท่าทางเอาแต่ใจที่รู้สึกได้จากน้ำเสียงทำให้คิมหันต์ขมวดคิ้ว

"ขอโทษนะ คนป่วยมันเป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องสนใจหรอก! "คำพูดที่เหมือนกับจะสั่งสอนของหนุ่มลูกครึ่ง ทำให้ ปลายสายหงุดหงิดขึ้นมาทันที ก่อนจะกดตัดสายไปด้วยความโมโห

...แน่ล่ะซิ่...ฉันมันก็เป็นแบบนี้นี่...ผิดหวังอีกซิ่ ทำอะไรไม่เคยเข้าตาเลยนี่...

===================

เย็นวันนั้น ดูเหมือนว่า จะไม่มีอะไรมาทำให้คนป่วยรู้สึกสงบใจได้เลยแม้แต่น้อย
จนพยาบาลสาวหลายคนที่มักจะคอยแวะเวียนเข้ามาหาเพื่อพูดคุย ก็ยังต้องขอตัวตีจากเมื่อเดินเข้าไปก็จะเจอกับคำพูดแสบๆ ที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าไปทำอะไร มาถึงสรรหามาใช้กับคนอื่นได้มากขนาดนั้น

...หงุดหงิด...ทำไมไม่มาล่ะ...ฉันป่วยนะ...เพราะนายนะ...

จนกระทั่งเสียงเปิดประตูห้องผู้ป่วยดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงถุงอาหาร และเสียงฝีเท้าจากรองเท้าหนัง
คนป่วยที่พร้อมจะหันไปห้ามไม่ให้พยาบาลก้าวเข้ามาในห้องหันไปหมายจะเอ่ยปากห้ามแต่ก็ต้องหยุด

"นายมา...? " เสียงที่เปล่งออกไปนั้นฟังดูประหลาดใจอยู่ไม่น้อย

" พายไก่ของคุณ " คิมหันต์วางถุงพายไก่ลงที่โต๊ะข้างเตียงคนป่วย " ท่าทางสบายดีนี่ครับ "

"ก็..ยังป่วยอยู่ดี...ไม่งั้นก็ออกไปได้แล้วซิ่" อารยะว่าพลางหันไปสนใจพายไก่...นั่นดูเหมือนการแก้เขินมากกว่า

" งั้นผมไปล่ะนะ " คิมหันต์ทำท่าจะออกจากห้องไป

"เดี่ยวก่อนซิ่" ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มือเรียวของคนป่วยถึงได้คว้าข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้

" ผมเอาพายไก่มาให้แล้วไง เดี๋ยวเจตน์มันคงจะมา " คิมหันต์มองมือที่ดึงเขาไว้

"ซื้อมาตั้งหลายอัน... อยู่กินกาแฟกันซักแก้วก่อนซิ่" เสียงของคนป่วยว่า

" ไม่ล่ะครับ ผมไม่ชอบกินกาแฟในโรงพยาบาล "คิมหันต์ปฏิเสธทันที
 " หรือ...คุณจะชวนกินอย่างอื่น? "ใบหน้าได้รูปก้มลงเข้าใกล้อีกฝ่าย

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองใบหน้าคมของอีกฝ่าย ด้วยความไม่เข้าใจ
"นาย...ฉันมันก็เป็นได้แค่นั้นใช่ไหม...ฉันจะทำกับนายที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ใช่ไหม?" อารยะว่าพลางยกมือข้างที่มีสายน้ำเกลือขึ้นให้อีกฝ่ายดู

" คุณน่ะ...อยากให้ผมเป็นอะไรกันแน่..เราเป็นแค่คู่ขาไม่ใช่หรือไง? "คิมหันต์มองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา

"ฉัน... "อารยะกัดริมฝีปากแน่น ความรู้สึกอึดอัด ที่แปลกประหลาดนี่มันคืออะไรกันแน่ ...ใช่...เขาบอกตัวเอง และ บอกคิมหันต์เองว่า อีกฝ่ายเป็นแค่คู่ขา
แต่ในตอนนี้ถูกอีกฝ่ายปฏิเสธการจิบกาแฟ ยามเย็น  ด้วยถ้อยคำ และสายตาเย็นชาแบบนั้นกลับเป็นอะไรที่เขาทนไม่ได้
"ฉันก็แค่อยากจะให้นาย นั่งลง แล้วก็...กินกาแฟกับฉันซักแก้วก็เท่านั้น" ชายหนุ่มว่าพลางก้มหน้าลง มือเรียวที่วางอยู่บนหน้าตักและอีกข้างที่จับมือของอีกฝ่ายเอาไว้นั้นกำแน่น

" คู่ขาน่ะ เขาไม่ทำกันแบบนี้กันหรอกนะ .. ที่เขาทำกันน่ะก็แค่เซกส์เท่านั้น "คิมหันต์บีบมืออีกฝ่ายเบาๆ
" คุณก็พอใจแค่นั้นไม่ใช่หรือไง? "

"ในตอนนั้น มันก็.......จริง .... " อารยะขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะปล่อยมือจากมือของอีกฝ่าย แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง

" ฉันปวดหัวแล้ว..."

" งั้นก็พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวเจตน์ก็มา "คิมหันต์เดินออกจากห้องไปทันที

===================

ทันทีที่ประตูห้อง ปิดลง ถุงพายไก่ก็ลอยละลิ่ว ลงไปอยู่กับพื้น ด้วยแรงปัดจากคนป่วย

"บ้าเอ้ย...นายอย่ามาปั่นหัวฉันเล่นนะ" อารยะสบถดังลั่น ด้วยความรู้สึกสับสน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ เขาไม่เคยสนว่าใครจะทำอะไร ที่ไหน หรืออย่างไร แต่ ในตอนนี้ ในหัวของเขามีแต่ห่วงว่า คิมหันต์จะทำอะไร และ คิมหันต์จะคิดยังไงกับเรื่องของเขา ...อยู่ๆ มันก็กลายเป็นแบบนี้

"...นี่ฉันพลาดไปแล้วหรือไง?.... "
ว่าพลางก็ทิ้งตัวลงนอนกับหมอนของโรงพยาบาล กลิ่นยาที่ตลบอบอวลไปทั่ว ยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิดและ อารยะรู้ดีว่าคนที่จะโดน ระบายใส่เป็นคนแรก ก็คงจะหนีไม่พ้นพยาบาลหน้าใหม่ที่คงจะเดินเข้ามาวัดไข้ในอีกไม่กี่นาที

...แล้วฉันต้องการอะไรจากคิมหันต์กันแน่?...

แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในสมองคิดไปเรื่อยจนกระทั่งกลับมาถึงคำพูดของหนุ่มลูกครึ่งที่ทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่จะเดินออกไป

...ก็อยากให้อยู่ใกล้ๆ...
...อยากให้ พูดคุยกันบ้าง ไม่ใช่แค่มีเซกส์...

แต่มันจะทำได้ยังไงในเมื่อไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกไป อีกฝ่ายก็จะเห็นเป็นเรื่องแบบนั้นไปเสียหมด...
หรือว่า ก่อนหน้าที่ผ่านมานี้ เขา มุ่งหวัง ในเรื่องนั้นมากเกินไป ??
อารยะยังคงคบคิดไปเรื่อยจนกระทั่งการวัดไข้เสร็จสิ้นลง

===================

หลังจากนั้นอีกสองวัน หมอก็อนุญาตให้อารยะกลับมาทำงานได้ตามปรกติ ร่างของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ปรากฏตัวขึ้นที่แผนกต่างประเทศนั้นเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่มากก็น้อย ในเมื่อดูจะเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัทที่เป็นลมล้มพับไปหลังจากการประชุม

" พี่อาร์ต..  " เจตน์รีบเดินมาหาคนรักที่โต๊ะ " น่าจะพักผ่อนอีกหน่อยนะครับ "

"ฉันพักมาหลายวันในโรงพยาบาลแล้ว...อยู่ต่อไปเป็นง่อยกันพอดี... แล้วก็จะได้ไม่มีใครมาว่าฉันมาว่าฉันว่า อู้งานด้วย" อารยะตอบ พลางยกเอาเอกสารตั้งใหญ่มากองไว้ตรงหน้า เพื่อตรวจสอบ ตามหน้าที่ที่ควรจะเป็น

" พี่คิมเขาไม่ว่าหรอกครับ ใจดีจะตาย " เจตน์หันไปทางคิมหันต์

" พูดดีนี่ วันนี้เลี้ยงข้าวเที่ยง " ซึ่งคิมหันต์ก็รับคำทันที
" แล้วก็มีเรื่องสำคัญจะพูดกับนายด้วย " ดวงตาสีนิลมองไปทางอารยะที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

คำพูดของหนุ่มลูกครึ่งที่ดังขึ้นทำให้ ชายหนุ่มต้องหันไปมองด้วยความไม่เข้าใจนัก
" เรื่องสำคัญเหรอครับ? ผมกะจะชวนพี่อาร์ตไปกินข้าวด้วยกันพอดีเลย " เจตน์บอกเสียงอ่อย

" ไม่เป็นไรหรอก เจตน์..ไปเถอะ " อารยะว่าพลางทำท่าไม่สนใจ ทั้งๆที่ยังนึกสงสัยไม่หายว่าคิมหันต์ต้องการจะทำอะไร

" ไปด้วยกันก็ได้นี่ครับ " คิมหันต์พูดขึ้นมา " ผมเลี้ยงข้าวคุณด้วยก็ได้ ไหนๆก็ทุ่มเทกับโปรเจคขนาดล้มหมอนนอนเสื่อ ผมเองยังไม่ได้ไปเยี่ยมคุณเลย อย่างน้อยก็น่าจะได้เลี้ยงข้าวบ้าง "

เจตน์พยักหน้าแรงๆอย่างเห็นด้วย

"....."อารยะมองหน้าของหนุ่มลูกครึ่งอย่างชั่งใจ
"ได้... ครับ ผมจะไป "

เจตน์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเหลือบมองคนทั้งคู่เล็กน้อย

... เขาอยากจะรู้เหมือนกัน.. การเผชิญหน้ากันทั้งสามคนมันจะเป็นอย่างไร...

===================

ภายในร้านอาหารใกล้กับบริษัท ชายหนุ่มสามคนมารับประทานอาหารเที่ยงกัน โดย ที่เลือกนั่งที่ โต๊ะตัวด้านในร้าน อารยะนั่งอยู่แทบจะเรียกได้ว่าระหว่างสองคนที่นั่งประจันหน้ากัน

บรรยากาศความตึงเครียดดูเหมือนจะเข้ามาทับถมชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาไม่มีทางรู้เลยว่า สายตาที่คิมหันต์มองมาในตอนนั้นมันจะหมายความว่าอะไร

" พี่..ใส่เยอะไปแล้ว " เจตน์ทักเมื่ออารยะเทเกลือมากเกินไปสักหน่อย
" ปกติพี่ไม่กินเค็มนี่ " คำพูดสนิทสนมราวกับเป็นคนรักกันนั้นพูดออกมาทั้งที่คิมหันต์ยังนั่งอยู่ตรงกันข้าม

"ฉันเหม่อไปหน่อยน่ะ..."อารยะสะดุ้งก่อนจะหันไปมองหน้าของเจตน์ "ทำไงดี...กินไม่ได้แล้วเนี่ย"

" สั่งใหม่สิครับ " คิมหันต์ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเรียกพนักงานเพื่อจะสั่งอาหารจานใหม่
" ท่าทางสนิทกันจังนะ เจตน์ นายรู้ด้วยรึไงว่าอารยะชอบอะไรไม่ชอบอะไร " คิมหันต์ถาม ทั้งที่รู้ดีว่าอารยะกับเจตน์เป็นอะไรกัน แต่..ต่อหน้าเจตน์ เขาจะต้องไม่รู้อะไรทั้งสิ้น

" ก็..พวกผม.. " เจตน์หันไปมองหน้าอารยะ

"เอ่อ.... " อารยะเห็นท่าทางของเจตน์แล้วแต่เขาก็ไม่อยากจะให้พูดอะไรออกไป...ไม่ใช่ต่อหน้าคิมหันต์ แต่เป็นในสถานที่สาธารณะแบบนี้ต่างหาก " เอ่อ คิมหันต์เมื่อกี้คุณสั่งอะไรนะ นั่นใช่ของคุณหรือเปล่า "

" ของผมต่างหาก พี่คิม กินเนื้อที่ไหนกันเล่า "เจตน์รับเอาจานอาหารของตนมาวางตรงหน้าก่อนจะจัดการปรุงรส

"อ้าว...เหรอ" เมื่อเจตน์ท้วงแบบนั้น ก็ทำเอา อารยะมองหน้าคิมหันต์ไม่ติด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่า เขา...ไม่ค่อยจะรู้อะไรเกี่ยวกับอีกฝ่ายเลย

" ไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอกน่ะเจตน์ เมื่อก่อน ฉันกับอารยะก็ไม่ค่อยได้ "ทำอะไรร่วมกัน" เท่าไหร่หรอก " คิมหันต์บอกไปแบบนั้นก่อนจะยิ้มรับจานอาหารของตนเองมาจากพนักงาน
" เหลืออีกชุดนะครับ ช่วยเร่งด้วย " เขาบอกกับพนักงานเสิร์ฟ ก่อนจะมองหน้าอารยะ

"อ้อ...อ่ะ...อืม ...ใช่แล้ว "อารยะรับคำพลางเบือนหน้าไปอีกทาง

เพียงไม่นานนัก อารยะก็ได้อาหารชุดใหม่ของตนเอง พวกเขายังคงทานอาหารกันต่อไป โดยที่มีเพียงบทสนทนาระหว่างเจตน์กับคิมหันต์เสียเป็นส่วนมาก ส่วนอารยะที่เดิมไม่ใช่คนเงียบในวันนี้กลับเงียบลงอย่างเห็นได้ชัด

" ไม่อร่อยเหรอ? " เจตน์แตะแขนของคนรักเบาๆ

"อ่ะ..เปล่า อร่อยซิ่ อร่อย " อารยะว่าพลางหันไปยิ้มให้กับคนรัก แต่ไม่รู้ทำไม ถึงรู้สึกฝืดคอที่จะยิ้ม ที่จะพูดอย่างบอกไม่ถูกเพียงแค่ รู้ว่า คิมหันต์นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

" ไว้คราวหน้าไปร้านอื่นไหมครับ? ร้านอาหารอิตาเลี่ยนแถวๆนี้ก็อร่อย " คิมหันต์ทำหน้าเสีย ทำเอาเจตน์ต้องรีบบอก

" ไม่หรอกพี่ ร้านนี้ก็อร่อย "

" พอดีวันนี้ ไม่ค่อยอยากอาหารล่ะมั้ง...เพิ่งหายป่วยก็แบบนี้ล่ะ อย่าใส่ใจเลย" อารยะพูด

...ทำไมต้องพูดเหมือนจะเอาใจแบบนั้นด้วย...

" ก็ผมทำให้คุณป่วยนี่ครับ? .. รึว่าคนอื่น? " คิมหันต์หันไปทางเจตน์เล็กน้อย ทำเอาเจตน์ถึงกับหน้าเสีย

"มันก็....เอ่อ....ผมผิดเองนั่นล่ะ ไม่ดูแลตัวเอง มาป่วยเอากลางงานแบบนี้ ก็ทำให้คุณลำบากเหมือนกัน ขอโทษนะครับ "ชายหนุ่มว่าพลางก้มลงเล็กน้อย

" พรีเซนต์โปรเจตน์คเสร็จแล้วนี่ครับ รอให้ทางนั้นตัดสินใจแล้วค่อยว่ากันต่อแค่นั้นเอง "หนุ่มลูกครึ่งบอก
 " อย่าคิดมากเลยครับ "

"มันเป็นงานที่ได้รับมอบหมายมา...ไม่คิดมากคงไม่ได้หรอกครับ....เอ่อ...เดี๋ยวผมขอตัวซักครู่" อารยะพูดตัดบทก่อนจะลุกเดินไปที่ห้องน้ำ

....พยายามจะเล่นอะไรกันแน่...คิมหันต์....

===================

--- RRR ---

เสียงโทรศัพท์ของคิมหันต์ดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบมันมาดูก่อนจะขอตัวจากเจตน์ไปรับโทรศัพท์อีกด้านของร้าน

"นายคิดจะทำอะไรของนาย...พูดอะไรกำกวมอยู่ได้... " เสียงที่ดังขึ้นจากปลายสายนั้นฟังดูคุ้นเคย ไม่น้อย

" นึกว่าคุณจะทนเล่นละครได้อีกหน่อยซะอีก " คิมหันต์กรอกเสียงกลับไปอย่างอารมณ์ดี เสียงก้องที่สะท้อนเข้ามาในหูโทรศัพท์ อีกฝ่ายอยู่ในห้องน้ำจริงๆ

หนุ่มลูกครึ่งเดินตามเข้าไป โดยที่ไม่ลืมจะหยิบป้าย "ระหว่างทำความสะอาด" มาแขวน
" กลัวอะไรรึไง? "

" ฉันต้องกลัวอะไร?" คิ้วเรียวขมวดมุ่น เขาล่ะอยากจะยกหมัดกระแทกหน้าของอีกฝ่ายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปกับการที่มาทำให้เขาต้องหัวปั่นแบบนี้

" กลัวเจ้าเจตน์มันจะรู้น่ะสิ..ว่าลับหลังมัน คุณเป็นยังไง " คิมหันต์เดินเข้ามาหาอีกฝ่าย มือเรียวคร่อมร่างนั้นไว้กับเคาท์เตอร์อ่างล้างมือ

"..... " ไม่มีคำพูดตอบกลับเหมือนทุกที...ใช่ เขากลัว...ไม่ใช่แค่กับเจตน์...เขากลัว การสูญเสียภาพพจน์มากยิ่งกว่าอะไร
"แล้วนายล่ะ... ดีนักเหรอ มาทำแบบนี้...คนที่บริษัทรู้เข้า นายเองก็แย่เหมือนกันล่ะ... "

" คนที่แย่คือคุณต่างหาก ..เรื่องในตอนนั้นก็เหมือนกัน "
ดวงตาสีเทาเข้มที่สบตาอีกฝ่ายฉายแววเศร้าเล็กน้อย แต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้น
" คุณไม่ต้องห่วงผมหรอกน่ะ " ริมฝีปากได้รูปแตะกับอีกฝ่าย ในขณะที่มือข้างว่างคลายปมไทค์ของคนตรงหน้าออก

"ไม่ได้ห่วง...อ๊ะ..." เสียงครางเครือดังขึ้นเบาๆ เมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากของอีกฝ่าย

.....คิดถึงเหรอ??....สัมผัสของหมอนี่...

"ฉัน...จะ..แฉ..นาย” อารยะพูดด้วยน้ำเสียงขาดห้วง

" อ้าปากสิ " คิมหันต์ไม่ได้สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดแม้แต่นิด มือเรียวเย็นๆไล้กับลำคออุ่นๆจนอีกฝ่ายถึงกับสะดุ้ง ปลายลิ้นเลียริมฝีปากได้รูปอย่างยั่วเย้า

".....ไม่..... " เสียงที่เล็ดลอดไรฟันที่ขบกันแน่นออกมานั้นดูจะเป็นการหักห้ามใจของตัวเองมากกว่า ห้าม อีกฝ่าย ไม่ให้แตะต้องตัวเอง

สัมผัสเย้ายวนบนผิวกายที่ห่างหายไปนาน....ทำไมคิมหันต์ถึงทำแบบนี้กับเขา...ทำไมถึงต้องปั่นหัว ให้เขาต้องการอีกฝ่ายมากขนาดนี้ด้วย

มือเรียวกำแน่น พยายามอย่างมากที่จะไม่หลงกลเผลอไผลไปกับสัมผัสยั่วเย้า

...............แต่มันก็อดใจไม่ไหวเสียแล้ว......................

สองมือเรียวเปลี่ยนมาโอบรัดร่างของอีกฝ่ายเข้าหาตัวเองแน่น เช่นเดียวกีบริมฝีปากบางที่เผยอขึ้นรับสัมผัสจากอีกฝ่าย
ตอบสนองอย่างรุนแรง เร่าร้อน ราวกับกระหาย ที่จะแตะต้องมานาน

คิมหันต์มอบความเร่าร้อนผ่านริมฝีปากและมือทั้งสองข้างของเขา ปลายลิ้น และริมฝีปากเลื่อนไล้จากปาก ผิวแก้ม ใบหูก่อนจะเลียที่ลำคอขาวนั้น และจงใจฝังร่องรอยไว้ เรียกเสียงครางเครือออกจากอีกฝ่ายได้ไม่ยาก

"อืม...คิม....คิม.... " ริมฝีปากบางเรียกร้องออกมาเป็นชื่อของอีกฝ่าย มือเรียว ละไล้ไปทั่วแผ่นหลังแกร่งของอีกฝ่าย





เสียงและชื่อที่คุ้นเคยทำให้หนุ่มผมสีน้ำตาลทองที่เดินไปที่หน้าห้องน้ำต้องหยุดฝีเท้าทันที .. เสียงหอบครางของคนรักของเขาที่กำลังเรียกชื่อรุ่นพี่ของเขาอย่างเร่าร้อน ..

เจตน์..เดินไปทางห้องน้ำช้าๆ ป้ายที่บ่งบอกว่ากำลังทำความสะอาดไม่ได้ทำให้เขาสนใจมากไปกว่าสิ่งที่อยู่ข้างใน
และภาพที่เขาเห็น ก็ทำให้เขาถึงกับหัวโล่งไปหมด ..ดวงตารีเบิกกว้าง..

"อืม....คิม.... " ดวงตาคู่สวยหรี่ปรือ เพลิดเพลินกับสัมผัสร้อนบนผิวกาย แต่แล้วดวงตาสีน้ำตาลอ่อนก็ต้องเบอกกว้าง เมื่อเห็นว่ามีใครยืนอยู่ที่ประตูห้องน้ำ ซ้ำร้าย....ยังเป็น

"เจตน์!!" มือเรียวผลักคิมหันต์ออกห่างทันที

===================

talk : กลับมาต่อแล้วค่ะ คอมเมนต์แรงได้ใจมากค่ะ สำหรับอารยะน่ะ ติดตามอ่านกันต่อไปนะคะแล้วจะได้รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้เป็นแบบนี้กัน ส่วนเจตน์จะปล่อยอารยะไปง่ายหรือเปล่านะ

ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
คาหนังคาเขา อยากรู้จริงๆว่าบักอาร์ตจะแถยังไง! แล้วเจ้าเจตน์จะว่ายังไง อยากรู้จริงๆ!!!
รออ่านต่อจ้า
ปล.น้องชินยังคงไร้บทต่อไป

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
จับได้ก็เลิก

แล้วกลับไปหาชิน ได้แล้วววว

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้เจตน์ปล่อยพี่อาร์ตไปง่ายๆเถอะ เห็นเต็มตาขนาดนี้ คบไปก็คงมีแต่เสียความรู้สึก

เราว่าเรื่องในห้องน้ำนี้คิมต้องตั้งใจแน่เลย ตอนแรกนึกว่าคิมจะอ่อนๆยอมอาร์ตมากกว่านี้นะ แต่นี่เล่นเอาอาร์ตไปไม่เป็นเลย

พ่อหนุ่มอ้วนของเราหายไปเลย ตอนแรกนึกว่าชินเป็นตัวเอกของเรื่อง แต่ไหงดูเหมือนเป็นพี่อาร์ตไปได้ล่ะนี่

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
=23=

" พวกพี่ยังไม่กลับออฟฟิตรึไง จะได้เวลาทำงานแล้วนะครับ " เจตน์สูดลมหายใจลึกก่อนจะพูด ดวงตารีสบตากับอารยะนิ่ง

"อ่ะ...เอ่อ... เดี๋ยว ก็ว่าจะกลับแล้วล่ะ " อารยะตอบละล่ำละลัก จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง

" พอดีผมรีบน่ะ พวกพี่ตามสบายก็แล้วกัน " เจตน์เดินออกไปจากตรงนั้น โดยไม่หันกลับมาแม้แต่น้อย

" นี่คุณ ค่อยๆไปก็ได้ ยังหอบอยู่เลย " คิมหันต์หันมายิ้มให้อีกฝ่ายราวกับไม่ได้ทำผิดอะไร

"นาย...." มือเรียวคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายเข้าไว้ทันทีด้วยแรงโมโห
"ยังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอ"
ทั้งที่ยังหอบอยู่จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า แต่ในตอนนี้ มันกลับเต็มไปด้วยความสับสนและความอับอาย มากกว่า

" ผมต้องรับผิดชอบอะไรรึไง? แค่คู่ขาที่ทำตามหน้าที่ก็เท่านั้น " มือเรียวแกะมืออีกฝ่ายออกได้อย่างง่ายๆ ก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นไปเช่นกัน

"แต่ฉันไม่ได้ขอให้มันเป็นอย่างนี้ .... "เสียงที่ดังออกมาจากคนที่ยืนอยู่นั้นสั่นเครือ

...หมดกัน...จบกัน.... พอกันที....

====================

หลังจากกลับเข้าไปที่บริษัท ความอึมครึมก็แทบจะปกคลุมไปทั่วแผนกต่างประเทศ เมื่อพนักกงานทั้งสามคนที่ออกไปทานข้าวพร้อมกันดีๆ ต่างเล่นไม่พูดไม่จาใส่กันเลยแม้แต่น้อย
เจตน์ที่เอาแต่นั่งทำเอกสารอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนคิมหันต์ก็นั่งคุยโทรศัพท์กับลูกค้าด้วยภาษาถนัดของตนอย่างยาวนาน
จะมีก็แต่ อารยะ ที่ดูจะเงียบลงไปทันตาเห็นชายหนุ่มได้แต่เดินเอกสารจากห้องนั้นไปห้องนี้ ด้วยตัวเอง ทั้งๆที่ตามปรกติแล้วไม่ใช่งานของเขาเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าไม่อยากจะอยู่ตรงนั้นแม้ซักนาที

.....เมื่อไหร่จะเลิกงานนะ ...

อารยะคิดในใจของตัวเอง

====================

จนกระทั่งเวลาเลิกงานที่เจตน์ไม่ได้หันมาพูดอะไรกับอารยะเลย เขาเก็บของออกจากแผนกไป ทิ้งให้อีกฝ่ายได้แต่มองตามไปเท่านั้น

"อ้าว....ว่าไง " เสียงชินดนัย ทักตอบอย่างไม่ยินดียินร้าย ชายร่างท้วมกำลังง่วนเก็บงานเข้าแฟ้ม
"มีอะไรอีกล่ะคราวนี้... ทำหน้ามุ่ยมาแต่ไกล"

" อ้วน..กู.. " ชายผมสีน้ำตาลทำท่าลำบากใจ
" มึงไม่ได้นัดใครไว้ใช่ไหมวะ วันนี้ " เพราะว่าเดี๋ยวนี้ชินดนัยเริ่มสนิทกับหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นดอกฟ้าของบริษัทไปแล้ว เขาเลยถามออกไปแบบนั้น

" ที่จริงมันก็..นะ “ ชินดนัยอ้ำอึ้ง อันที่จริง เขาเพิ่งจะตอบตกลงกับเอิร์นไปว่าเขาจะไปซื้อของเป็นเพื่อนเธอหลังเลิกงาน
" แต่เรื่องของมึงท่าทางน่าจะใหญ่กว่า "ว่าพลางก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความไปหาเอิร์น

" งั้น ไปกินเหล้ากัน " เจตน์โพล่งขึ้นมา " นะ " น้ำเสียงเหมือนจะอ้อนอย่างไม่รู้ตัว

"เออๆ ไปกินเหล้าๆ ก็ได้" ชินดนัยฝืนยิ้ม เขารู้ดีว่า มันจะเป็นเรื่องอะไรไม่ได้นอกจากปัญหาใจของคุณเพื่อนอีกแน่นอน

....เรามันก็นะ....ก็แค่ที่ปรึกษานั่นล่ะน้า..

====================

ร้านเหล้าร้านประจำของทั้งคู่ยังมีคนไม่มากนักในเวลาที่เพิ่งเลิกงานแบบนี้ แต่เจตน์กลับดื่มไปหลายแก้วแล้ว และแก้วที่ห้าของเขาก็ทำให้เขากล้าที่จะพูดออกมาจนได้

" อ้วน .. พี่อาร์ต .. เขา "เจตน์กลิ้งแก้วเหล้าที่ว่างเปล่าไปมาบนโต๊ะ
" กับพี่คิม... "

"อืม... " ชินดนัย รับคำเบาๆ ในลำคอ
... ในที่สุดมึงก็รู้ซิ่นะ...

" มึงรู้? "

ชินดนัยไม่ตอบ แต่ก็พยักหน้าลงเบาๆ

ดวงตารีที่มองชินดนัยนั้นเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและผิดหวัง " ทำไมมึงไม่บอกกู "

"กู... กลัวมึงเสียใจ" ชินดนัยก้มหน้าตอบไปตามตรง

" มึงปล่อยให้กูโง่เป็นควาย! " เหล้าแก้วที่หกถูกกรอกลงไปในปากจนหมดแก้ว

"แต่ที่กูทำ ก็เพื่อมึง เจตน์... มึงคิดว่ามึงที่กำลัง หลงพี่เขา หัวปักหัวปำ จะยอมฟังกูเหรอ? มึงที่พยายามให้โอกาสพี่เขาทุกทาง น่ะ จะยอมฟังกูไหม? ถ้ากูบอกไปตอนนั้น...บางเรื่อง กูเลือกที่จะเก็บเอาไว้ก็เพราะกูรักมึงหรอกนะ" ชินดนัยว่าพลางกระกดเบียร์ ลงไปจนหมดแก้ว

" ตั้งแต่เมื่อไหร่? " เจตน์หันไปมองอีกฝ่าย ใบหูเริ่มแดงเพราะฤทธิ์ของเหล้าเพียวๆ

"ก็..." เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองพลั้งปากพูดอะไรออกไป ... ชินดนัยก็ละล่ำละลัก หาทางออกให้กับตัวเอง
"ก็... ตั้งแต่ที่มึงคบกับกูนี่ล่ะ....เป็นเพื่อนกันนี่หว่า เพื่อนรัก"

" กูถามว่า มึงรู้เรื่องนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? "เจตน์ขมวดคิ้วถาม ไม่ได้สนใจคำตอบของอีกฝ่ายเมื่อครู่นี้แม้แต่น้อย

"อ่ะ...อ้อ.... "ชินดนัยเกือบจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเขาเข้าใจอะไรผิดไปเอง
 "ก็...ตั้งแต่...เอ่อ...อาทิตย์ก่อน...ที่พี่อาร์ตจะย้ายเข้าไปแผนกมึงอะ "

" คงจะเร่าร้อนกันน่าดูสิวะ กูมันไม่ได้เรื่องเอง ไม่งั้นเมียจะไปมีคนอื่นได้ไง ฮะ ฮะ ฮะ "หนุ่มผมสีน้ำตาลทองหัวเราะ คำพูดแต่ละคำที่ออกมานั้น น่าอายจริงๆ

"เฮ้ย เจตน์ ... ไปเรียกพี่เขาแบบนั้น... เดี๋ยวเขาก็เสียใจหรอก" ชินดนัยไม่รู้จะพูดอย่างไรดี

" ก็เขาเป็นเมียกู!! " เจตน์ตะโกนใส่เพื่อน ก่อนจะดื่มอีกแก้ว

"เอ่อะ...เอ่อ...เอาน่าๆ ใจเย็นๆ" ชินดนัยพยายามสงบสติเพื่อนของตัวเอง
"  แล้วมึงจะทำยังไงต่อไป?"

" กูไม่เลิกแน่ เรื่องอะไรจะยอมง่ายๆ หึ!  "พูดจบก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้ววางเงิน
" อ้วน กูเลี้ยง " พูดจบก็เดินออกจากร้านตรงไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตฝั่งตรงกันข้าม เพื่อซื้อของไปทำอาหารเย็นให้คนรักของเขา

"เฮ้ยๆ เจตน์... ให้มันเพลาๆหน่อยเถอะ กูไม่อยากให้มึงฝืนใจทำอะไรแบบนี้นะเว้ย" ชินดนัยว่า แต่ก็ไม่ได้เสียงหรือท่าทางตอบรับใดๆจากเพื่อรัก
 
"ทำยังไงดีๆ.... ทำยังไงดีๆ... "เสียงพึมพำเบาๆดังขึ้นจากริมฝีปากบาง ก่อนที่จะขบฟันลงไปบนเล็บอีกครั้ง ด้วยอยากจะหาที่ระบาย
ดวงตาคู่สวยมองไปยังนาฬิกามันใกล้เวลาเดิมๆที่ คนรัก ของเขาจะมาแล้ว ....ถ้าเขายังจะมาอยู่นะ
 
---RRR—

เสียงออดดังขึ้นในเวลาเดิมๆของมัน
ร่างบางของเจ้าของห้องถลันลุกไปเปิดประตู  แทบจะในทันที แต่คนที่มาหาเขาในเวลาแบบนี้กลับเป็นอีกคน

"คิมหันต์ !?"

" จะไล่หรือให้เข้าไปล่ะครับ? "มือเรียวจับขอบประตูห้องไว้ ดวงตาคู่สวยสะกดดวงตาสีน้ำตาลของอีกฝ่าย

"นาย...ยังจะมาอีกเหรอ... " ริมฝีปากเรียวสั่นเบาๆ เขาไม่แน่ใจนักว่าเป็น เพราะความโกรธ หรือเป็นเพราะอะไร
"พอกันที...กลับไปเลย..."ชายหนุ่มเจ้าของห้องผลักอกของอีกฝ่ายให้ถอยออกห่าง

" เจ้าเจตน์กำลังขึ้นมา .. จะให้ผมลงไปตอนนี้ก็ได้นะ " คิมหันต์บอกเรียบๆก่อนจะหันไปทางลิฟท์ของอาคาร

ดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างพิจารณา ....ไม่เชื่อสายตา...

"นาย...คิดจะทำอะไรกันแน่....แก้แค้นเหรอ?"

" เจตน์มันถือถุงใส่ของสดมาด้วย  "คิมหันต์ไม่ตอบคำถามนั้น

"นาย...มันบ้าไปแล้ว..."อารยะว่า เสียงลอดไรฟันออกมา

" ก็คุณไง  "นิ้วเรียวจิ้มที่อกอีกฝ่าย ร่องรอยแดงๆของเขายังคงประทับอยู่ที่นั่น " ผมบ้าก็เพราะคุณ "
แม้ว่าปลายนิ้วที่สัมผัสลงบนอกจะทำให้ใจสั่นไหว แต่คิมหันต์ในตอนนี้กำลังจะทำให้เสียแผนการหมดทุกอย่างที่เขาวางเอาไว้

...ฉันไม่ต้องการที่จะให้อะไรๆมันเป็นแบบนี้...

"มีความสุข...นักใช่ไหม" เสียงที่ดังลอดริมฝีปากของอารยะนั่นสั่นเครือ

" ไม่.. " ดวงตาสีนิลเหลือบมองไปที่ลิฟท์ เสียงลิฟท์ดังขึ้นแล้ว
มือนั้นโอบเอวบางก่อนจะแนบริมฝีปากกับอีกฝ่าย

"อื้อ.. " ดวงตาคู่สวยเบิกดพลงขึ้นด้วยความตกใจ เขาได้ยินเสียงลิฟท์ แต่ในขณะเดียวกัน หนุ่มลูกครึ่งตรงหน้าก็ดึงรั้งเขาเอาไว้ มือเรียวพยายามดันอีกฝ่ายออก

เป็นจังหวะเดียวกับที่เจตน์เดินอกมาพร้อมกับถุงชอปปิ้ง
ดวงตารีมองภาพนั้นอย่างเรียบเฉย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นตรงหน้า ส่วนคิมหันต์ก็ปล่อยร่างบางนั้นช้าๆ

 " ผมกลับล่ะนะ "

มือเรียวผลักร่างสูงออกไปห่าง ในขณะที่ตัวเอง ก็ดูเหมือนไม่มีแรงจะยืน...

....นี่มันบ้าอะไรกัน....

คิมหันต์ที่เดินสวนเจตน์ไปกลับถูกดึงแขนไว้ " พี่คิม "
" ผมซื้อของมาเยอะแยะ ทานข้าวด้วยกันไหมครับ? "

"ไม่ต้องหรอก...หมอนั่นเสร็จธุระแล้ว " อารยะกลับเป็นฝ่ายตอบออกไปแทน ดวงตาคู่สวยมอง คิมหันต์ ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาความรู้สึก

" แล้วไม่เหนื่อยรึไงครับ? ทานข้าวที่นี่ก็ได้ครับ " เจตน์ตอกกลับมาก่อนจะเดินนำคิมหันต์เดินเบียดเจ้าของห้องเข้าไป
เป็นเจตน์ในแบบที่อารยะเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ

"......." ชายหนุ่มเจ้าของห้องรีบเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปข้างใน "เจตน์...นาย......คิดจะทำอะไร "

" ผมมาทำข้าวเย็นให้พี่ไง .. ก็เหมือนทุกวัน มีอะไรเหรอ? " เจตน์เดินเข้าครัวไปตามปกติที่ทำให้อีกฝ่ายอยู่ทุกเย็น

"ไม่...นาย... " อารยะรู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ
"นาย....เอ่อ....ขอบใจ นายทำกับข้าวไปเถอะ"  เขาบอกขอบใจก่อนจะรีบวิ่งไปดูที่ทางหน้าห้อง

....หมอนั่นล่ะ...

คิมหันต์นั่งเก้าอี้ที่รับแขกราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือเรียวหยิบหนังสือนิตยสารบนโต๊ะรับแขกขึ้นมาอ่านอย่างสบายอารมณ์

"คิมหันต์...นี่นาย...หมดธุระแล้วไม่ใช่รึไง กลับไปได้แล้ว" อารยะว่า มือไม้สั่นไปหมด เขาไม่รู้จะทำยังไงแล้วในสถานการณ์แบบนี้

" เจ้าเจตน์มันชวนกินข้าว คุณก็รู้ว่าผมเหนื่อย "หนุ่มลูกครึ่งหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน " ขอน้ำหน่อยสิครับ  "

เมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้น ชายหนุ่มร่างบางเดินตึงตังไปที่ห้องครัวก่อนจะมองหน้าของเจตน์ที่ยินอยู่ตรงหน้าซิงค์น้ำ
เปิดน้ำจากเครื่องกรองน้ำมาใส่แก้วมาสองใบสาดใส่หน้าเจตน์ ไปเสียหนึ่งแก้วแล้วถืออีกแก้วเดินมายังหน้าคิมหันต์แล้วสาดน้ำใส่หน้าของหนุ่มลูกครึ่งไปเสียอีกหนึ่งแก้ว

"สนุกกันนักใช่ไหม....เชิญกินข้าวกันไปสองคนเถอะ...ฉันไปล่ะ"  ว่าแล้วก็เดินเข้าห้อง ล็อคประตูทันที

====================

"บ้า บ้า บ้า นี่มันเกิดบ้าอะไรกันขึ้นเนี่ย "อารยะโวยวายอยู่เพียงคนเดียวในห้อง
เขาไม่เข้าใจว่า คิมหันต์มาทำอะไรที่นี่...มาเพื่อยั่วให้เขาโมโหเพิ่มขึ้น ?
เช่นเดียวกับ เจตน์ ทั้งๆที่ ฝ่ายนั้นก็รู้แล้วว่า เขากับคิมหันต์ นั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์กันตามแบบ เพื่อนร่วมงานธรรมดาทั่วไป... ทั้งๆที่เคยคิดแคลงใจมากขนาดนั้น...แต่ในตอนนี้กลับยังคงมาหาเขา ด้วยท่าทีที่เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

... จะทำยังไงดีๆ ...

อารยะล้มตัวลงนอนบน เตียง เขารู้ดีว่าสองคนนั้นยังไม่กลับไป... แต่เขาก็ไม่คิดจะไปดู...
...ไม่รู้ล่ะ... อยากทำอะไรไปก็เชิญ...ไอ้พวกบ้าเอ้ย...

====================

ในตอนเช้า ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เขาเหมือนจะนอนไม่หลับ
"....... " เจ้าของห้องเดินออกมาด้านนอก ทั้งเจตน์ และ คิมหันต์ไม่อยู่แล้ว ซึ่งนั่นทำให้โล่งอกไม่น้อย แถมด้วยนึกในใจว่าหากทั้งสองคนยังยืนยันจะอยู่กับสถานการณ์หงุดหงิดแบบนั้นกันข้ามคืนก็คงจะไม่ใช่คนแล้ว

กับข้าวที่เจตน์ทำวางไว้เมื่อคืน ถูกห่อด้วยพลาสติกวางทิ้งไว้บนโต๊ะ

....พวกนายคิดอะไรกันอยู่....

ชายหนุ่มคิด ก่อนจะเดินกลับเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวในห้อง แล้วออกไปทำงาน โดยไม่ได้แตะอาหารที่เจตน์ทำเอาไว้

====================

ที่ด้านล่างของอพาร์ตเมนต์หนุ่มร่างสูงยืนรออยู่ด้านหน้า เป็นวันแรกที่เขาทำแบบนี้

 .. เรียกได้ว่า ไม่ยอมแพ้ ถึงจะถูก ..

" พี่ไม่ได้นอนเหรอ?" เจตน์ทักพลางยิ้มให้

"อ่ะ... " เสียงอุทานเบาๆดังขึ้นจากที่หน้าประตูกระจก
"ก็...เอ่อ...ประมาณนั้น" อารยะว่าพลางเลี่ยงเดินไปอีกทาง

....ยังไม่อยากเจอหน้าตอนนี้เลย...

" เอา..แซนวิชที่พี่ชอบไง "
มือแกร่งยื่นแซนวิชอบร้อนจากร้านสะดวกซื้อใกล้ๆให้ " เดี๋ยวก็ไม่สบายไปอีก "

".............." ดวงตาคู่สวยมองหน้าของอีกฝ่าย "ถ้าไม่เต็มใจนักก็ไม่ต้องฝืนก็ได้" อารยะเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่ก็รับถุงใส่แซนวิชร้อนๆเอาไว้

" ไปเถอะ เดี๋ยวสาย " เจตน์เดินนำอีกฝ่ายไปยังสถานีรถไฟเพื่อไปทำงานพร้อมกัน

"อืม... "อารยะตอบก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างเงียบๆ พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดอะไรกันเลย ระหว่างทางไปจนถึงบริษัท

====================

หนุ่มลูกครึ่งที่กำลังยืนคุยกับสาวแผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทนั้นเป็นภาพชินตาของคนในบริษัทไปเสียแล้ว แต่ใครจะว่าอะไรได้ ในเมื่อคิมหันต์ไม่เคยทำให้งานของตนเองเสีย และหัวหน้าแผนกที่เป็นอเมริกันก็ไม่เคยว่าอะไร

อารยะเอง ก็เห็นภาพนั้น ปรกติเขาคงจะไม่รู้สึกอะไร แต่ในตอนนี้กลับทำให้รู้สึกยิ่งหงุดหงิดมากเข้าไปอีก

...อะไร...คุยกับผู้หญิง อีกแล้ว..
....อยากได้นักก็หิ้วไปซักคนเลยซิ่....
...จะมาตามทำแบบนี้ให้ฉันเห็นทำไม....
...จะมาคอยปั่นหัวฉันไปเพื่ออะไร...

" ไง เจ้าเจตน์? " คิมหันต์ทักเจตน์ย่างอารมณ์ดี ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

" ร้านเมื่อคืนสนุกดีนี่พี่ " เจตน์ทักกลับ

บทสนทนาเหล่านั้นทำให้อารยะหันไปมองหน้าของเจตน์สลับกับหน้าของคิมหันต์ด้วยความประหลาดใจ

....นี่พวกนายสองคน...ปั่นหัวฉัน?....
....ไปเที่ยว??....

" ใช่ไหมล่ะ " คิมหันต์หันไปทางอารยะ
" ท่าทางไม่ค่อยดีเลย ยังไม่หายอีกเหรอครับ? "

"...ผม...ผมหายดีแล้ว ไม่เป็นไร" อารยะพยายามยิ้ม "ไม่ต้องเป็นห่วงนักก็ได้...."

" ผมทำให้คุณป่วยนี่ครับ ไม่ห่วงได้ยังไงกันล่ะ "
คิมหันต์ตอบกลับมาก่อนจะเดินไปที่ลิฟท์ " ทางนั้นเขาตกลงมาแล้วนะครับ เราต้องเดินหน้าต่อกันแล้วล่ะ "

" พี่ก็อย่าทำให้ผมห่วงสิ " เจตน์กระซิบเบาๆก่อนจะเดินนำอีกฝ่ายไปที่ลิฟท์

อารยะขมวดคิ้วมองหน้าเจตน์ด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปด้านใน

====================

บรรยากาศในห้องทำงานค่อนข้างเครียดไม่น้อย เมื่อคิมหันต์กับอารยะได้งานชิ้นนี้ พวกเขาก็ต้องรับผิดชอบงานชิ้นใหญ่นี้ร่วมกัน
คิมหันต์ร่างเอกสารแล้วมอบให้เจตน์ โดยที่ตนเองเป็นคนติดต่อกับลูกค้า ส่วนอารยะนั้นอยู่ในส่วนการวางแผน
และหากจะให้พูดมันก็เหมือนกับความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามคนในตอนนี้

... อยู่ตรงกลาง...

====================

talk : คนที่คิดถึงเจ้าชิน ..ออกมาแล้วล่ะค่ะ..แอบรักเพื่อนนี่น้า น่าเศร้าจริงๆเลยนะคะ

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
บอกตรงๆว่าสมน้ำหน้าอารยะทำตัวเองนี่นะ
แต่คือชินจะเอายังไงอ่ะเค้ารออยู่นะ
แต่อย่าเอาไอ้เจตน์เลยโง่ดีนัก เอาให้หล่อกว่ามัน

ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ทั้งๆที่อาร์ตทำตัวแบบนี้ ทำไมทุกคนถึงยังไม่ถอยออกมาล่ะ
สงสารชินจัง ชินตัดใจซะเถอะ คนแบบนี้คงจะเห็นค่าเราจริงๆก็ตอนสุดท้าย
โอ๊ยยยย ขอประธานมาบอกรักชินที(เริ่มไปไกล)
ตอนนี้ภาวนาให้อาร์ตรีบตัดสินใจเลือกคิมหันต์อย่างเดียวเลย รีบๆเลือก แล้วตัดเยื่อใยกับเจ้าเจตน์ซะ!
รออ่านต่อจ้า

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
เออ.....อ่ะ ไม่มีอะไรแน่นอนซักอย่าง

รอคอยการตัดสินใจของทุกคนต่อไป 4เศร้า เล่าความเท็จ!!!!!!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
=24=

" ขอพักเดี๋ยวก็แล้วกัน " คิมหันต์ขยับคอไปมาเล็กน้อยก่อนจะล้วงหาบุหรี่แล้วเดินออกจากห้องไป
ส่วนเจตน์ก็ไม่ได้รับรู้อะไรนัก เพราะยังนั่งอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์

"งั้นเดี๋ยวฉันไปชงกาแฟ..."ทั้งๆที่เป็นงานที่ขอให้พนักงานสาวๆทำให้ก็ได้ แต่อารยะกลับพูดออกไปแบบนั้นแล้วลุกตามอีกฝ่ายออกไปบ้าง

เจตน์มองตามคนทั้งคู่ไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วหันมาสนใจงานของตนเองต่อ

===============

"เมื่อคืนนายตั้งใจจะทำอะไร... " เสียงอารยะดังขึ้นด้านหลังของหนุ่มลูกครึ่ง หลังจากที่เดินออกมาตรงที่พ้นสายตาของผู้คนเป็นที่เรียบร้อย

" ก็แค่อยากต่อเรื่องเมื่อกลางวัน แล้วบังเอิญเจ้าเจตน์มันมา "คิมหันต์พ่นควันขาวออกจากปากในบริเวณห้องสำหรับสูบบุหรี่ของบริษัท

"แต่ตอนนั้น...ฉันไม่ได้ขอให้นายทำแบบนั้น...คิมหันต์" อารยะพูดพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ เขาเจ็บใจแค่ไหนกับคำพูดยัดเยียดว่า "เขาเป็นฝ่ายต้องการ" ที่ออกมาจากปากของอีกฝ่าย

" มีแต่คุณที่ต้องการฝ่ายเดียวหรือไง? .. ผมอยากทำ ผมก็มา ก็แค่นั้น " หนุ่มลูกครึ่งเก็บบุหรี่ไว้ที่เดิมก่อนจะยักไหล่

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองใบหน้าคมของอีกฝ่ายด้วยความสับสน

...เจ็บ...

"บางทีฉันอาจจะผิดเอง..."

" คุณตามผมมาถึงนี่เพื่อจะพูดอะไร? "คิมหันต์สบตาอีกฝ่ายนิ่ง

"ฉันมาเพื่อถาม...ว่านายต้องการอะไรกันแน่... อยากให้ฉันทำอะไร...ทำยังไง ก็บอกมา ไม่ใช่มาทำใส่กันแบบนี้ มายัดเยียดความรู้สึกเจ็บปวดให้กันแบบนี้ " เสียงของอารยะสั่นเครือ
"ฉันเกือบ...เกือบจะคิดไปแล้วว่า.... "

....ฉันต้องการนาย...จากใจจริง...

" คุณเองก็ยัดเยียดความรู้สึกเจ็บให้ผมตั้งแต่แรกแล้วนี่ เพราะฉะนั้น… "คิมหันต์พ่นควันมะเร็งออกมา
" ถ้าเห็นคุณเจ็บปวดเป็นบ้างก็คงจะดี "

ใบหน้าของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเงยขึ้น ไม่รู้ว่าคิมหันต์จะเห็นหรือเปล่า ถึงน้ำตาที่คลออยู่เล็กๆกับ ริมฝีปากที่สั่นระริก
"งั้นนายคงสมใจอยาก...พอที...ฉันไม่เอาแล้ว" ชายหนุ่มว่า ก่อนจะหันหลังให้กับอีกฝ่าย

มือแกร่งนั้นดึงแขนอีกฝ่ายไว้ ก่อนที่จะเดินออกไป

ใบหน้าที่หันกลับมาคือใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา ....น้ำตาที่ค่อยทิ้งตัวลงมาจากหางตาข้างหนึ่งของชายหนุ่มผมสีน้ำตาล
"เรามีอะไรต้องคุยกันอีกหรือไง..."

...ฉันไม่อยากจะเป็นต้นเหตุของเรื่องบ้าๆนี่อีกแล้ว...

" คุณ..ร้องไห้ทำไม? "

"ไม่... " อารยะยกมือขึ้นปาดน้ำตาด้วยความเจ็บใจ เขาอยากรู้ว่าทำไมคิมหันต์ถึงทำแบบนี้ และเขาก็รู้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันเริ่มจากเขาเอง...
เขาล้อเล่นกับความรู้สึกของอีกฝ่าย และในตอนนี้ ต้องมาเจ็บปวดกับความรู้สึกของตัวเอง ต้องการอีกฝ่ายมาก แต่ ก็พูดออกไปไม่ได้
เขาเป็นคนที่ทำให้ความรู้สึกของอีกฝ่ายต้องแปดเปื้อน และ ในตอนนี้ เป็นความรู้สึกของเขาเองที่แปดเปื้อน
เพราะความคิดที่เขายัดเยียดให้อีกฝ่ายตั้งแต่แรก

....มันก็แค่ราคะ...มันก็แค่....คู่ขา....

"ฉัน....เจ็บใจ ที่ท้ายที่สุดแล้วเรื่องทุกอย่าง มันพัง เพราะตัวฉันเอง...ตั้งแต่ต้น"

" แค่นั้นใช่ไหม? " คิมหันต์เค้นเสียงหัวเราะ มือทั้งสองข้างบีบแขนของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว

"ถ้านายต้องการจะให้ฉันตอบว่า "แค่นั้น" เหมือนอย่างที่นายพยายามจะให้ฉันบอกว่า "นายเป็นแค่คู่ขา" ล่ะก็ฉันก็จะตอบแบบนั้น"

" แล้วผมในตอนนี้ล่ะ เป็นอะไรสำหรับคุณ? "คิมหันต์ถามออกมาทันที

ใบหน้าของอารยะเบือนหลบสายตาของอีกฝ่าย "ฉันไม่รู้ " เขาตอบไปตามตรง

คิมหันต์ปล่อยมืออกจากอีกฝ่ายทันทีที่ได้คำตอบ ก้นบุหรี่ถูกปล่อยลงที่เขี่ยบุหรี่

"ฉันแค่ต้องการนาย...ต้องการที่จะรู้จักนาย...ต้องการที่จะอยู่ใกล้ๆนาย... ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้ มัน… " ชางหนุ่มร่างบางรับรู้ถึงการละออกไปของอีกฝ่าย แต่เขาก็ยังได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

" คุณชอบผมบ้างรึเปล่า? "คิมหันต์ถามออกมาตรงๆ

อารยะเงยหน้าขึ้นมองหน้าของอีกฝ่าย
"ถ้าฉันไม่ชอบนาย...ฉันคงไม่เจ็บแบบนี้... ฉันคงไม่เป็นแบบนี้ "

" เลิกกับเจตน์ซะ "  คิมหันต์บอก ก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานของตนเองไป

".......ฉัน...ไม่มีหน้าไปบอกหมอนั่นหรอก"

และทั้งๆที่คิมหันต์เองก็ได้ยิน เขาก็ไม่ได้หันกลับมาแม้แต่น้อยเช่นกัน

===============

...เลิกกับเจตน์ซะ...

...ฮะ...ถ้าทำได้ง่ายๆก็คงจะดี...

อารยะคิดอย่างหัวเสีย เมื่อมองไปฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ แล้วเห็น ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองนั่งอยู่
"จะเลิกได้ยังไง " ชายหนุ่มพึมพำออกมาเบาๆด้วยความลืมตัว

" เลิกอะไรเหรอ? "   เจตน์หันมาถามก่อนจะยื่นเอกสารให้ " ผมทำเสร็จแล้ว พี่เอาไปอ่านนะ ให้แก้ตรงไหนก็บอก "

"อ้อ..เปล่า...ไม่มีอะไรหรอก ขอบใจนะ "อารยะว่าพลางรับเอาเอกสารมาจากอีกฝ่าย
"เอ่อ...แล้ว เมื่อคืนไปผับนั่นมาเหรอ"

" ก็พี่ไม่ยอมไปกับผมนี่ " เจตน์ตอบ " ที่นั่นเจ๋งเป็นบ้า "

"อ้อ...เหรอ" อารยะรับคำอย่างขอไปที ก่อนจะหันกลับมาส่งเอกสารชุดหนึ่งคืนให้เจตน์ "ตรงนี้พิมพ์ผิด"

เจตน์รับเอาเอกสารกลับมา " ไปกินข้าวกันที่ไหนดีฮะ วันนี้ผมชวนพี่คิมไว้แล้ว " 

"นายยังจะให้ฉันไปอยู่ระหว่างพวกนายสองคนอีกเหรอ... "คำชวนของอีกฝ่ายทำให้อารยะต้องปลายตามอง
 "ไม่กลัวโดนสาดน้ำอีกเหรอ ช่วงนี้ฉันอารมณ์ขึ้นๆลงๆนะ"

" แล้วทำไมพี่ไม่เลือกล่ะ? "เจตน์ถามแล้วหันหลังให้อีกฝ่ายทันที เพื่อแก้เอกสาร

กระดาษเปล่าที่อยู่ใต้มือของอารยะถูกขยำจนยู่ไปตามแรง

...อีกแล้ว...เอาอีกแล้ว...

ถ้าฉันไม่รู้สึกผิด ที่ตกลงใจคบกับนายจนเลยเถิดมาป่านนี้ ฉันก็คงจะบอกเลิกกับนายไปแล้ว

===============

กระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งถูกวางอยู่ที่โต๊ะทำงานของอารยะ
"อะไรอีกล่ะนี่" อารยะดึงกระดาษโน๊ตแผ่นนั้นขึ้นมาดูอย่างหัวเสียเล็กๆ

-- เจอกันที่ผับเดิม สี่ทุ่ม ---

อารยะหันไปมองหน้าของคนที่นั่งอยู่ไม่ห่างนัก ราวกับจะถามว่า "จะบ้าเหรอ"

คิมหันต์ยักไหล่แทนคำตอบก่อนจะสนใจงานของตนเองต่อ

...คิดอะไรกันอยู่ คนพวกนี้ ...จะให้ฉันปวดหัวตายใช่ไหม ...
...อ้อ แน่ล่ะ นี่คืดการชดใช้ผลกรรมที่ทำเอาไว้นี่นา...

===============

ตอนเที่ยงของวันนั้น พวกเขาไปกินข้าวกันสามคน บรรยากาศแปลกๆนั้นทำให้เจตน์ทำลายความเงียบ

" คืนนี้ไปเที่ยวกันนะ เดี๋ยวผมไปรับ ดีไหม? "เจตน์หันมาถามอารยะ

"อ่ะ...เอ่อ..."อารยะอึกอัก จะหันไปทางคิมหันต์ หรือก็ไม่กล้า "ฉัน...ไม่ว่างน่ะ" ชายหนุ่มตอบ ไม่เงยหน้าขึ้นมองใครทั้งนั้น

" ว้า… " เจตน์หันไปทางคิมหันต์เล็กน้อย ซึ่งคิมหันต์ก็ตอบท่าทางนั้นด้วยการเรียกพนักงานมาสั่งอาหารเพิ่ม

"อืม...ขอโทษทีนะ"อารยะว่า แต่ก็ยังไม่ได้เงยหน้าเงยตาขึ้นมามองหน้าใครเหมือนเดิม...มันดูออกจะผิดวิสัยของเขาไปเลยนับตั้งแต่สถานการณ์เป็นแบบนี้... ราวกับว่า เขากำลังเป็น อีกคน ...ที่สับสน...และไม่มีใคร

===============

ในคืนนั้น อารยะแต่งตัวออกไปยังผับ ที่เป็นที่นัดหมายกับคิมหันต์ เมื่อตอนกลางวัน แม้ว่าเขาจะเดาใจอีกฝ่ายไม่ออก แต่ในตอนนี้...สิ่งที่เขาคิดอยากจะทำมากที่สุดคือ การไปอยู่กับคิมหันต์ในคืนนี้

...นายจะคิดยังไง ฉันไม่อยากจะสน...
...แต่ทำแบบนี้ นายอาจจะเห็นได้ชัดกว่า ว่าฉันอยากจะทำอะไร...

เมื่อเดินเข้าไปในผับ ท่ามกลางเสียงเพลงและผู้คนมากมาย ชายหนุ่มร่างสูงนั้นมาสามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ไกล

"คิมหันต์... " ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย มือเรียวยกขึ้นแตะแขนของอีกฝ่ายเบาๆ "รอนานไหม"

" ตรงเวลาดีนะครับ " มือเรียวแตะแก้มอีกฝ่ายก่อนจะโอบเอวเอาไว้ ดวงตาสีนิลนั้นเห็นใครบางคนกำลังเดินเข้ามา

"ฉันก็...ตรงเวลาแบบนี้มาตั้งนานแล้ว" อารยะพูดเบาๆ ไม่กล้าสบตาของอีกฝ่ายตรงๆ

....นี่ ฉันกำลัง เขิน?...




" ไหนพี่บอกว่าไม่ว่าง? " เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้อารยะสะดุ้งได้ทันที




"อ่ะ...เจตน์?"อารยะหันหลังกลับไปมองหน้าของคนที่เข้ามาทักแทบจะไม่ทัน ก่อนจะหันไปมองหน้าของคิมหันต์
 "คิมหันต์...นี่นาย..."

" เจตน์มันชวนคุณตอนกินข้าวไง ไม่ได้เกี่ยวกับผมนี่ " คิมหันต์ไม่ปล่อยมือจากอารยะ
" โทษนะเจ้าเจตน์ วันนี้เขามาหาฉันว่ะ "คิมหันต์ตอบก่อนจะดึงอารยะมานั่งข้างๆ

"คิมหันต์..."อารยะหันไปมองหน้าของเจ้าของชื่อ สลับกันกับใบหน้าของเจตน์ "เจตน์...ฉัน...มัน...เอ่อ....." ชายหนุ่มร่างบางหมดคำพูด

" ไปล่ะนะ " คิมหันต์ลาซะดื้อๆแบบนั้นโดยที่ยังโอบเอวอารยะเอาไว้

" ทำไมรีบไปล่ะครับ? ไม่กินเหล้ากันก่อน? "เจตน์หันมามองหน้าคนทั้งคู่สลับกัน

" ไม่ดีกว่า "ด้วยว่าถูกดึง ขึ้นมาดื้อๆทำให้เขาสรรหาคำพูดอะไรมาบอกลาอีกฝ่ายไม่ทันนอกเสียจากหันไปมองหน้าของเจตน์ ก่อนจะออกมาจากผับเท่านั้น

===============

talk : ถ้าไม่ทำแบบนี้อารยะจะตัดสินใจเลือกไหมนะ? ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะชัดเจนขึ้นมาแล้ว เจตน์จะกลับไปซบอกอวบๆของเจ้าชินหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ชินไปไหนคิดถึงชิน  :mew2:

 :katai4: :katai4:


ออฟไลน์ BlackKnight09

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
อ่านทันเสียที

ยุ่งเป็นยุงตีกันเลยอ่ะ ทำเอาปวดหัวเล็กน้อย

ทำไหมเป็นแบบนี้ละ

แล้วจะเป็นอย่างไรต่อละเนี่ย งงดีแท้

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
=25=
มี NC เบาๆนะคะ

"พามาที่นี่...ทำไม" อารยะถามขึ้นเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง ...ห้องของคิมหันต์...

" ผมนัดคุณมากลางคืนแบบนี้ .. คุณก็มานี่ แล้วยังจะถามอะไรอีกรึไง? "
ชายหนุ่มเลี้ยวรถไปยังที่จอดรถของอพาร์ตเมนต์หรูของเขา

"โอเค..." อารยะยักไหล่เล็กน้อย แม้จะได้ยินแต่เสียงของหัวใจตัวเองเต้น จากเหตุการณ์เมื่อครู่
"ฉันถามผิดเอง โทษที "

คิมหันต์ไม่ตอบอะไรอีก เมื่อจอดรถยังที่จอดรถของตนเองแล้ว เขาก็เดินนำอีกฝ่ายไปยังห้องของเขาเอง

==============

"...ยังไม่ได้ดื่มซักแก้ว ก็ต้องกลับแล้วแบบนี้...เซ็งเลยนะ" อารยะว่าก่อนจะถือวิสาสะเดินไปที่ห้องครัวของคิมหันต์ เปิดหาไวน์ที่เขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะต้องมีเก็บเอาไว้อย่างแน่นอน

" คุณก็ไม่ได้อยากอยู่เจอหน้าเจ้าเจตน์ตน์มันหรอกน่า " คิมหันต์ตอบกลับมาแล้วไปนั่งที่โซฟาในห้อง ไม่ได้เดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในครัว

"มันก็จริง...แต่ฉันก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้นักหรอกนะ" อารยะเดินกลับมาพร้อมกับไวน์หนึ่งขวดและแก้วอีกสองใบ "เอาไหม "

" ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการหรอกน่ะ " คิมหันต์รับแก้วไวน์จากอีกฝ่ายมา

"แต่คนเราก็มีหลากหลายความต้องการใช่ไหมล่ะ" อารยะว่า ใบหน้างอง้ำอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่รู้จะทำยังแล้วเหมือนกัน

" คุณก็เคยเรียกผมมา เพราะต้องการเซกส์ก็เท่านั้นนี่ "คิมหันต์จิบไวน์รสเลิศ
" แต่วันนี้ผมพาคุณมาที่นี่ มันก็ยังดีกว่าวันนั้นล่ะนะ " เขาพูดถึงวันที่อารยะเรียกให้เขาไปหาเพื่อที่จะมีอะไรกันและยื่นความสัมพันธ์ในแบบ”คู่ขา”มาให้

"...แต่นายก็ยังไม่ยอมรับฉัน... ในตอนนี้ นั่นก็ไม่เป็นไร ฉันรู้ตัวดี..หมดไวน์แก้วนี้แล้วฉันก็จะกลับ" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองว่าพลางดื่มไวน์ลงไปอึกใหญ่

" ผมไม่ได้พาคุณมาที่นี่ เพราะจะเลี้ยงไวน์หรอกนะ "คิมหันต์ตอบกลับมา ดวงตาสีนิลมองอีกฝ่ายจากหัวจรดเท้า

"แล้วนาย ต้องการจะให้ฉํนทำอะไร... ที่นี่เลยอย่างนั้นใช่ไหม...ทั้งๆที่นายก็บอกให้ฉันไปเลิกกับหมอนั่นก่อน..มันออกจะแย่นะ ถ้านายยังจะมองว่า ฉันในตอนนี้ยังต้องการนายเพียงเพราะแค่เรื่องอย่างว่า" อารยะสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะพูดความคิดของตัวเองออกมา

หนุ่มลูกครึ่งยักไหล่  " คุณเองก็รู้ว่าผมนัดคุณออกมาทำไม "
" ถ้าตอนนี้คิดอยากจะเป็นคนดีขึ้นมา คุณจะออกมาหาผมทำไมล่ะ? "

"..." อารยะอ้าปากหมายจะเถียง "ฉัน...เอ่อ...ฉันก็แค่อยากให้หมอนั่นรู้ว่า ฉันเลือกแล้ว... ก็เท่านั้น ฉันไม่รู้ว่านายคิดอะไรอยู่.. " ดวงตาคู่สวยมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่งแล้ว ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกรอบ ...หมดแก้ว...

"ฉันกลับล่ะ"

" ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไร ทั้งๆที่คุณคบกับเจ้าเจตน์ แต่ก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกัน "คิมหันต์รั้งอีกฝ่ายไว้
 " ผมก็แค่ ไม่อยากจะเป็นคนดีแล้วก็เท่านั้น "

"แล้วนายจะทำยังไง... รอให้ฉันเลิกก็ไม่ได้ ไม่เลิกก็ไม่ได้อย่างนี้"

คิมหันต์วางแก้วไวน์ลงกับโต๊ะรับแขกแล้วดึงแขนอีกฝ่ายให้ลงมานั่งข้างๆ
" อะไรคือได้ อะไรคือไม่ได้? "
คำพูดเหมือนไม่รับผิดชอบอะไรใดๆทั้งสิ้นก่อนจะแนบริมฝีปากกับอีกฝ่าย

อารยะหลับตาลงรับสัมผัสนั้น " ถ้านายยังตอบไม่ได้ ฉันก็ไม่รู้ "

" คุณต้องการไม่ใช่รึไง? " มือแกร่งสอดเข้าไปในเสื้อ ขณะที่แทะเล็มไปทั่ว

"ใช่... " เสียงของอารยะ แผ่วเบา หากแต่ก็รู้สึกเจ็บปวด
"นี่คงจะเป็นการชดใช้ซิ่นะ... "

" ไม่ต้องพูดแล้ว .. แค่ร้องออกมาดังๆก็พอ " คิมหันต์กดร่างนั้นลงกับโซฟา ดวงตาสีนิลสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง

"....ขอโทษ...." อารยะเอ่ยออกมาเบาๆ ดวงตาที่มองตอบกลับมานั้น เหมือนกับจะร้องไห้
ก่อนที่แขนเรียวจะโอบรอบคอของอีกฝ่าย แล้ว โน้มลงมาจูบเบาๆที่ริมฝีปาก

คิมหันต์จูบตอบอย่างร้อนแรง มือทั้งสองข้างดึงสิ่งที่กีดขวางร่างของพวกเขาออกอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นร้อนๆ ไล้เลียไปทั่วก่อนจะรั้งขาเรียวนั้นออก

มีเสียงครางเครือดังขึ้นเพียงเบาๆ มันเจ็บปวดที่ใจมากเกินกว่าจะรู้สึกถึงความหฤหรรษ์บนร่างกาย
"คิม...หันต์... " เสียงอารยะดังขึ้นข้างหูครางเครือออกมาเป็นชื่อของอีกฝ่าย เมื่อรู้สึกถึงกันและกัน มือเรียวฝากรอยไว้บนแผ่นหลังของชายร่างสูง

หนุ่มลูกครึ่งขยับร่างเข้าหาอีกฝ่าย เมื่อรู้สึกถึงรอยเล็บนั้น ใช่ ร่างของคนที่เขากอดอยู่กำลังต่อต้าน
" อา..ต้องให้..สอนอีก..เหรอ "
ปลายลิ้นร้อนๆเลียใบหูบางอย่างเย้ายวน " อย่า..เกร็ง "
มือแกร่งนั้นขยับความต้องการของอีกฝ่ายไปมา

"อึก...อื้อ.." ราวกับอยากจะให้มันจบลงให้เร็วที่สุด อารยะเร่งเร้าอีกฝ่ายด้วยร่างกาย เสียงครางเครือเรียกร้อง ทั้งทรมาณและสุขสม
คิมหันต์ขยับร่างเร็วขึ้น และร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้ มันเป็นแค่ความต้องการของเขาเท่านั้น
"อ๊า... "เสียงร่างบางกรีดร้อง เมื่อ ร่างกายถูกชักนำไปจนถึงที่สุด ฟันขาวขบลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่าย เพื่อสะกดเสียงของตัวเองเอาไว้ ก่อนที่ร่างที่เกร็งเครียดจะค่อยๆผ่อนกายลงกับโซฟานุ่ม

แต่คิมหันต์กลับยังไปไม่ถึงเหมือนอีกฝ่าย เขาหอบหายใจแรง แล้วพลิกร่างนั้นให้คว่ำลงกับโซฟา มือที่เปียกชื้นนั้นรั้งสะโพกบางเข้ามาหาตัวแล้วกระแทกร่างเข้าไปอีกครั้ง

"อ่ะ...คิม...ไม่ ! พอแล้ว..."เสียงร้องดังขึ้นจากร่างที่อ่อนแรง มือเรียวจับยึดขอบโซฟาเอาไว้เป็นหลักยึด
นิ้วเรียวจิกแน่น ลงบนผิวผ้า...เจ็บ...ร่างกายของเขากำลังรู้สึกต่อต้าน

" อา..อีกนิด.. "
คิมหันต์ซุกไซ้กับอีกฝ่าย ด้วยอารมณ์ที่กำลังพุ่งขึ้นสูง เขากำลังจะมาถึงปลายทางแล้ว

 "อึก...คิม...พอ...พอแล้ว"

หนุ่มลูกครึ่งส่งปลายนิ้วเข้าไปในริมฝีปากบาง รเพื่อหยุดเสียงร้อยห้ามนั้น
สะโพกขยับเข้าหาร่างบางมากขึ้น เร็วขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ

ไม่มีเสียงประท้วง... มีเพียงแค่น้ำตาที่ไหลลงมาจากหางตาของร่างที่เจ็บปวด มือเรียวจิกเกร็งลงบนพนักโซฟาจนเห็นเป็นข้อขาว .. ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองได้ยินเสียงลมหายใจเปี่ยมสุขจากร่างที่ทาบทับอยู่เบื้องหลัง

....คิมหันต์.....ทั้งๆที่อยากจะตะโกนออกไปแบบนั้น แต่เขากลับทำไม่ได้ นิ้วของอีกฝ่ายยังคงละไล้อยู่ที่ริมฝีปาก
สุดท้าย..ปลายนิ้วนั้นก็ละออกไป เมื่ออารยะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่หลั่งออกมาอยู่ในตัวของเขา มันไหลลงมาที่ต้นขา มือที่ร้อนชื้นของคิมหันต์กอดร่างนั้นไว้แน่น เสียงครางเบาๆอย่างสุขสมดังขึ้นตามมา
สองแขนที่พยายามยันตัวเองเอาไว้หมดแรงที่จะทำหน้าที่ต่อไป อารยะแทบจะทิ้งตัวลงบนโซฟา หากว่าคิมหันต์ไม่ดึงรั้งร่างของเขาเอาไว้

คิมหันต์จับให้อารยะนอนลงที่โซฟา ก่อนจะถอนกายออกจากร่างอบอุ่นนั้น

"...คิมหันต์...ฉัน... " เสียงอารยะหอบหายใจ ดังขึ้นเบาๆ
ดวงตาคู่สวยพยายามจะลืมตาขึ้นมองหน้าของอีกฝ่าย แต่น้ำตามันก็บดบังเสียใจใบหน้าของอีกฝ่ายพร่าเลือน

" เสียใจ?..รู้สึกผิด..หรือรังเกียจ? " คิมหันต์ถามออกมาเมื่อเห็นหยาดน้ำตาของอีกฝ่าย เขาเองก็เจ็บปวด นิ้วเรียวเกลี่ยน้ำตาออกจากหางตาของคนที่เขากอดอยู่

"ฉัน....ต้องการนาย....มากกว่าอะไรเลยนะ...."

" ............................... " คิมหันต์เงียบกับคำพูดนั้น บอกไม่ถูกว่าเขาจะดีใจหรือเปล่า
 " เพราะคุณควบคุมผมไม่ได้สินะ? "

มือเรียวยกขึ้นแตะแก้มของอีกฝ่ายเบาๆ
"เพราะ... เป็นนาย... " เสียงของอารยะ แหบพร่า ก่อนที่จะค่อยถูกแทนด้วยเสียงหายใจแผ่ว...มือเรียวตกลงข้างตัว

....เหนื่อยเกินกว่าจะลืมตา...

talk : ขอโทษค่ะที่หายไปนาน ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเท่าไหร่เนอะ เจ้าชินของทุกๆคนก็ยังไม่ออกโรง ความรักมันก็แบบนี้ล่ะค่ะ บางอย่างมันก็เข้าใจยาก ทำได้ยากด้วย ค้างคาต่อไป(?) แต่ก็มาต่อเรื่อยๆนะคะ ไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ออ สงสารเจตน์ ที่อาร์ตมีให้ก็แค่ความสงสารกับรู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้า อ่านแล้วเซ็งอาร์ตขึ้นอีกเยอะเลย

ชอบคิมหันต์นิดหน่อย ที่มาจัดการปั่นหัวอาร์ตให้เลิกเล่นกับความรู้สึกคนอื่นสักที 55 แต่แน่นอนว่าชอบมากที่สุดก็เป็นชินกับเจตน์เหมือนเดิมค่ะ (:

snooppy

  • บุคคลทั่วไป
ชินน่าร๊ากกก....หนูช่างเป็นคนดีอะไรเช่นนี้

(พี่ไม่อยากให้ได้กะไอ้เจตต์เลยอ่ะ ... ได้กะคุณเลขายังดีซะกว่า)

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
สงสารชิน

ต้องเจ็บไปถึงเมื่อไหร่เนี๊ยะ???

โคตรจะไม่ชอบอารยะเลย


แม่งร่าน!!

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
=26=

อารยะลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกร้าวแล่นขึ้นมาจากเบื้องล่าง ก่อนจะค่อยๆดันตัวเองขึ้นนั่ง หนุ่มลูกครึ่งเจ้าของห้องยังคงหลับอยู่ข้างๆ บนไหล่และแผ่นหลังยังคงปรากฏร่องรอยของเขาอยู่
มือเรียวเสยเส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้าของตัวเองขึ้นไปเล็กน้อย ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา

....ต้องการ...
....ความหมายของคำๆนี้ ....มันคืออะไรกันนะ....
....ฉันไม่รู้ว่านายใช้คำนั้นในความหมายไหน คิมหันต์....

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหันไปพิจารณาใบหน้าคมของหนุ่มลูกครึ่งที่ยังไม่ได้สติ
"แต่ฉันใช้มันในทุกๆความหมาย....กับนาย...."
มือเรียวไล้เบาๆที่ไหล่แกร่งของชายหนุ่มก่อนจะก้มลงจูบเบาๆ บนผิวกายนั้น

" อืม " สัมผัสแผ่วเบาบนผิวกายทำให้คิมหันต์ต้องลืมตาตื่นขึ้น กับท่าทางที่เขาไม่เคยเห็นจากอีกฝ่าย
" อารยะ ? "

"อ่ะ..." เมื่อเห็นอีกฝ่ายรู้สึกตัวขึ้นมาแบบนั้น อารยะ รีบขยับตัวออกห่างทันที
"ขอโทษ...ทำให้ตื่นเหรอ "

มือนั้นดึงแขนอีกฝ่ายเอาไว้โดยอัตโนมัติราวกับกลัวว่าอารยะจะหนีกลับไป " ยังไงก็ต้องตื่นแล้วนี่ "

"อ่ะ...เหรอ"ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองไม่รู้จะพูดอะไร ดวงตาคู่สวยมองมือที่จับแขนของเขาเอาไว้
"ฉันไม่ไปไหนหรอก"

คิมหันต์ปล่อยมือที่จับแขนอีกฝ่ายไว้ทันที " อาบน้ำเถอะ ผมจะไปต้มกาแฟ "
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาใส่ ก่อนจะเดินเข้าครัวไป

ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองพาร่างของตัวเองเข้าไปอาบน้ำ อย่างยากลำบาก
....เจ็บ...

================

เป็นนานเลยทีเดียวกว่าอารยะจะเดินกลับออกมาพร้อมกับเสื้อคลุม ด้วยไม่มีเสื้อผ้าอื่นจะใส่
กลิ่นกาแฟดำหอมๆอบอวลไปทั่วห้องครัว โดยที่ไม่มีกลิ่นใดๆอีก คิมหันต์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ขณะที่รอให้กาแฟได้ที่
"อาบเสร็จแล้ว " อารยะว่าพลางเดินไปนั่งตรงโต๊ะทานข้าว

" อืม กาแฟนะ " คิมหันต์ชี้ไปที่หม้อต้มกาแฟแล้วเดินไปยังห้องน้ำ

"อ่ะ......"ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรอีกฝ่ายก็เดินหายเข้าห้องไปเสียแล้ว

คิมหันต์กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าลำลองแนวสปอร์ต " วันนี้โดดเถอะ "

"เอ๊ะ.... " อารยะหันหน้าไปมองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ

" คุณเองก็คงไม่มีหน้าไปเจอเจ้าเจตน์ใช่ไหมล่ะ? " คิมหันต์ตอบกลับมา

"มันก็.... "ชายหนุ่มอ้ำอึ้ง "จริงอยู่... "

" ไปไหนดี? "คิมหันต์เดินไปที่หม้อต้มกาแฟ " เดทไหม? "

"อะไรนี่...อยู่ๆจะมาชวนเดท"อารยะ ไม่รู้จะยิ้มดีหรือเปล่า...

....เมื่อคืนยังพูด แต่เรื่อง "ความต้องการ"อยู่เลย....

" ถ้าไม่ไปผมก็จะไปส่งที่ห้อง "คิมหันต์ตอบกลับมาง่ายๆ

"ไม่ใช่แบบนั้น...ฉันหมายถึง...ไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนต่างหาก" อารยะตอบ

" เดี่ยวหาให้ "คิมหันต์ดึงอีกฝ่ายให้ตามเขากลับไปในห้องนอน แล้วเปิดตู้เสื้อผ้า " เลือกดูตามใจชอบเลย "

".....วันนี้พูดแปลกๆไปนะ " อารยะพูดขึ้นเบาๆ ร่างบางค่อยๆ เลือกหยิบเสื้อผ้าออกมาจากตู้

" เหรอ? "คิมหันต์ตอบกลับมา " อะไรมันเปลี่ยนไปแล้วนี่ "

"งั้นเหรอ..."แต่คำที่ตอบรับกลับมานั้น กลับให้ความรู้สึกเศร้าอย่างประหลาด ดวงตาสีน้ำตาลหลุบลงต่ำ

" เอ้านี่ คงใส่ได้นะ " คิมหันต์หยิบเสื้อลำลองกับกางเกงให้อีกฝ่าย

"ขอบใจ" อารยะตอบเบาๆ ก่อนจะรับเอาเสื้อผ้ามาจากอีกฝ่าย "งั้น...เอ่อ...รอเดี๋ยวนะ " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองว่า ก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ

คิมหันต์มองตามร่างนั้นไปก่อนจะเดินไปเก็บที่นอนให้เรียบร้อย ท่าทางของอารยะเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปในแบบที่เขาไม่เคยเห็น .. หรือนี่จะเป็นตัวจริงของคนๆนี้กันแน่?..

"เสร็จแล้ว... " ชายหนุ่มเดินกลับออกมาพร้อมๆกับ เสื้อผ้าของอีกฝ่าย แม้จะตัวใหญ่ไปนิด แต่ก็ดูเข้ากับ ผมที่ไม่ได้รับการเซ็ทเป็นอย่างดีทีเดียว

คิมหันต์มองคนที่เดินออกมาพลางยิ้มเล็กน้อย " ดูแปลกตาดีนะ เพิ่งเคยเห็นคุณแบบนี้ "

"....เหรอ..."ชายหนุ่มว่า พลางเสยผมขึ้นอย่างเขินๆ

....ทำไมต้องพูดกันแบบนี้ด้วยล่ะ.....
.....ฉันในชุดไหน...นายก็คงแค่อยากจะให้ถอดไม่ใช่เหรอ....

" ไปเถอะ "คิมหันต์ดึงแขนอีกฝ่ายให้เดินตามเขาออกจากห้องไป

=====================

"เราจะไปไหนกัน ... " เสียงชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองถามขึ้นเมื่อเดินมาขึ้นรถของหนุ่มลูกครึ่ง

" ไปไหนก็ได้ " คิมหันต์ตอบกลับมาก่อนจะเปิดประตูรถ

"อ้าว ก็เห็นว่าเป็น คนชวนหรอกนะ" อารยะหันไปมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ

" ผมก็แค่ อยากอยู่กับคุณเท่านั้น จะไปไหนก็ได้ "
หนุ่มลูกครึ่งว่าก่อนจะปลดเบรกมือเพื่อพาเขาทั้งคู่ออกจากอพาร์ตเมนต์

.....ไอ้คำพูดนั้นมันน่าจะเป็นฉันมากกว่าที่อยากจะพูดน่ะ....

อารยะ อดที่จะคิดน้อยใจไม่ได้

"ไปที่ไหนก็ได้ ที่นายคิดว่ามันน่าจะเป็น เดทที่ดีน่ะ" อารยะว่าพลางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเพราะอดขำไม่ได้กับคำพูดแปลกๆของตัวเอง

" ดูหนังไหม? "คิมหันต์ถามขึ้นมาก่อนจะเปิดวิทยุภายในรถของเขาเอง เพลงรอคหนักๆแบบที่ชอบดังขึ้นทำเอาชายหนุ่มยิ้มอย่างถูกใจนิ้วเรียวเคาะกับพวงมาลัยไปมา

" ชอบฟังเพลงรอคเหรอ? " อารยะว่าพลางหันไปถาม ตามปรกติ เขาไม่เคยเห็นคิมหันต์แต่งตัวแบบนี้ นอกจากชุดทำงาน ไม่เคยได้รู้เลยว่า อีกฝ่ายชอบฟังเพลงอะไร ... ชอบทำอะไรเวลาวันหยุด
"แล้ว อยากดูหนังแบบไหนล่ะ"

" หนังแอคชั่น ที่กำลังเข้า นี่เป็นไง? "คิมหันต์ถามออกมา " แนวอื่นคงได้หลับคาโรงหนัง "

" ชอบหนังแอคชั่นหรอกเหรอ" อารยะพยักหน้ารับ "ไปดูเรื่องนั้นก็ได้"

" ทำไมต้องก็ได้ล่ะ? .. จะดูหรือไม่ดูก็ว่ามา "หนุ่มลูกครึ่งขมวดคิ้ว " ว่าไงล่ะ? "

"ไม่ๆ...ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ไปดูๆ"อารยะส่ายหน้ารัว

...แค่นี้ก็ดุด้วย...

===================

ภาพพยนต์อเมริกันที่ได้นักแสดงมากฝีมือ ร่วมแสดง ทั้งฉากแอคชั่นที่โหดสะเทือนอารมณ์ และฉากดราม่า ที่ทำได้อย่างลงตัวจบลงภายในเวลาสองชั่วโมงกว่าๆ ในวันทำงานแบบนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่นั่งอยู่ในโรงภาพยนต์กลางเมือง

"สนุกดีนะ..." อารยะพูดขึ้นมาเบาๆ หลังจากที่เดินออกมาจากโรงหนัง

.... ทั้งเรื่อง มัวแต่นั่งดูหน้าหมอนี่ จะไปดูรู้เรื่องได้ยังไง...

" หิวแล้วล่ะ กินอะไรดี? "
คิมหันต์ดูนาฬิกาข้อมือ ของตนเอง กว่าหนังจะจบก็เลยบ่ายไปแล้ว

"อะไร...ก็ได้ วันนี้ เอาแบบที่นายชอบก็แล้วกัน" อารยะว่า

" ไปกินแมคก็แล้วกัน ใกล้ดี ตอนนี้หิวแล้วด้วย "
คำตอบง่ายๆของคิมหันต์ ตามใจตนเอง ราวกับจะทดสอบอะไรบางอย่าง

.....แมค?....ปรกติไม่เห็นจะเคยกินนี่....

" เอ่อ.. วันนี้ กินอะไรง่ายๆหน่อยก็ดีนะ" อารยะตอบ ...เขาไม่ชอบกินแมค เอาเสียเลย

คิมหันต์ยักไหล่เล็กน้อยแล้วเดินนำอีกฝ่ายไปยังร้านสีสันสดใสจากอเมริกัน โดยสั่งอาหารใส่ห่อกลับบ้าน โดยที่ไม่ถามอีกฝ่าย

"อ่ะ...เอ่อ...ขอ...แมคฟิซที่นึงครับ แล้วก็ เอ่อ...โค้ก เฟรนซ์ฟรายด์" อารยะรีบสั่งรัว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่รอ

" ไปพัทยาไหม? " คิมหันต์ถามเมื่ออีกฝ่ายแทบจะวิ่งตามเขามาแล้ว

"อ่ะ..อื้ม ไปซิ่ไป " อารยะว่า เขาไม่ได้ตั้งใจฟังด้วยซ้ำไปเพราะมัวแต่ตั้งใจที่จะเดินตามอีกฝ่ายให้ทัน
===================

เพราะรถสปอร์ตคันงามที่ขับด้วยความเร็วสูงและผ่านทางด่วนจึงทำให้พวกเขามาถึงที่หมายในเวลาเพียงไม่นาน ถุงของกินจากแมคโดนัลถูกแกะออกที่ม้านั่งยาวริมทะเล…พัทยา

ลมทะเล ที่พัดโชยเข้ามา หอบเอากลิ่นเกลือเข้ามาปะทะผิว หากแต่ทำให้รู้สึกดีไม่น้อยสำหรับ พวกที่ต้องทำงานอยู่แต่ในบริษัทแล้ว วันแบบนี้ อาจจะเป็นวันที่ให้ความรู้สึกดีที่สุดก็เป็นได้

"ขอบใจนะ" อารยะพุดขึ้นเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อลอยไปไกล

" เรื่องอะไร? "
คิมหันต์หันมามองใบหน้านั่น .. ใบหน้าที่เขาเลี่ยงที่จะมองมาตลอดทั้งวัน ซึ่งบัดนี้ลมทะเลทำให้เส้นผมนุ่มมือของอารยะลู่ไปตามลม

..น่ามอง..

"ก็เรื่องวันนี้...ฉันได้รู้อะไรอีกเยอะเลย" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองตอบพร้อมด้วยรอยยิ้ม

" ปกติไม่ดูหนัง ไม่กินแมคหรือไง? .. พูดอะไรแปลกๆ "คิมหันต์หันหน้ากลับไปแทบจะทันที

"เปล่า ก็ไม่ถึงขนาดนั้น... " อารยะพูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ "แต่อย่างน้อยวันนี้ ฉันก็ได้รู้ล่ะว่านายชอบดูหนังแบบไหน ชอบกินอะไร.... "ชายหนุ่มว่าพลาง ยกแก้วโค้กขึ้นเล็กน้อย
"เรื่องที่ปรกติฉันไม่รู้เลย "

" ปกติ ไม่เห็นนายจะอยากรู้เรื่องของใคร "คิมหันต์ตอบกลับมาก่อนจะกัดแฮมเบอร์เกอร์ที่เริ่มเย็นเข้าไปอีกคำ

"มันก็.....จริง.... "อารยะก้มหน้าลงเล็กน้อย

...ก็ปรกติ พอรู้ตัวอีกที ก็อยู่บนเตียงแล้ว...

" ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย ฉันไม่ได้กำลังว่านายซักหน่อย "คิ้วเรียวขมวด แล้วเปิดโค้กกระป๋อง
ก่อนจะดื่มแล้วยื่นให้อีกฝ่าย " ดื่มไหม? "

"อืม.... " ชายหนุ่มร่างบางตอบ ก่อนจะยื่นมือไปรับกระป๋องโค้กมาจากอีกฝ่าย
อารยะค่อยดื่มโค้กลงไปช้าๆ บริเวณปากกระป๋องยังรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของร่างกายของอีกฝ่าย ...มันก็ยังเหมือนเดิม...
แต่สิ่งที่แตกต่างออกไป ก็ดูจะเป็นวิธีปฏิบัติของคิมหันต์  หนุ่มลูกครึ่งคนนี้ดูแปลกไปมาก ตั้งแต่เมื่อวาน

....ดู.... ดุขึ้นนะ...

" ตอนเด็กๆฉันอยู่ที่นี่ " คิมหันต์พูดทำลายความเงียบขึ้นมา
" พ่อของฉันเคยมาเปิดบาร์ที่นี่ แล้วก็เจอกับแม่ ” ดวงตาคู่สวยแบบชาวตะวันตกเหม่อมองออกไปที่เส้นขอบฟ้ากับทะเล

"เหรอ.... คุณพ่อ คุณแม่ของนาย เป็นคนยังไงล่ะ... " อารยะพยายามจะถามต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น น่าแปลก เหลือเกินที่ในตอนนี้ เรื่องราว ของคิมหันต์นั้นดูน่าพิศมัยเหลือเกินสำหรับเขา

" ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก แม้แต่หน้าของพ่อยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ แม่พาฉันไปอยู่กับประธานบริษัทคนก่อน หลังจากที่พ่อป่วยตาย " หนุ่มลูกครึ่งตอบกลับมา โดยที่ไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปเลย ดวงตาสีนิลมองดูผืนน้ำสีน้ำเงินเข้มตรงหน้านิ่ง

" แม่ฉันเป็นเมียน้อยของประธานบริษัทคนก่อน ." เขาหันกลับมามองอีกฝ่าย สีหน้านั้นเจ็บปวด
" นั่นล่ะคือเหตุผลที่นายต้องถูกเด้งไปอยู่แผนกเอกสาร แทนที่จะเป็นฉัน "

"คิมหันต์.... " คำพูดของหนุลูกครึ่งทำเอาอีกฝ่ายอ้ำอึ้งไม่รู้จะพูดอะไรดี

" แต่มันก็แค่นั้น ฉันช่วยอะไรนายไม่ได้ ..อะไรที่คิดว่าอยากจะชดเชยได้ก็อยากจะทำ "
คิมหันต์สบตาอีกฝ่ายนิ่ง " ฉันคิดว่าฉันชดเชยกับนายมากแล้ว ถ้านายยังไม่พอใจก็ขอโทษด้วย "

"...ฉัน...ต่างหากที่ต้องขอโทษ " อารยะว่า

คิมหันต์มองน้ำทะเลตรงหน้านิ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมา

"ฉันมันเป็นตัวก่อเรื่อง ฉันรู้ดี...คิมหันต์..ฉัน...ขอโทษที่ทำร้ายความรู้สึกนาย.. มาตลอด "

" เราทั้งคู่ก็ไม่มีใครดีไปกว่ากันหรอก "คิมหันต์พูดออกมา มือนั้นลูบผมอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะดึงคนตรงหน้ามากอด

"อ่ะ.... เดี๋ยวใครมา " อารยะหันซ้ายหันขวา แทบจะทันที

คิมหันต์ปล่อยอีกฝ่ายทันทีที่ได้ยินประยคนั้น " นั่นสิ .. กลับกันเถอะ จะไปส่ง "เขาลุกขึ้นจากม้านั่งยาว

" ขอโทษ..." อารยะพูดออกมาเบาๆ

แต่หนุ่มลูกครึ่งเดินไปที่รถ โดยที่ไม่หันกลับมาเลยแม้แต่น้อย
====================
อารยะเดิมตามอีกฝ่ายไปจนกระทั่งถึงรถ ชายหนุ่มเข้าไปนั่งด้านใน รู้สึกกระสับกระส่ายกับ สิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
"โกรธรึเปล่า...เมื่อกี้"

" แค่แปลกใจ ปกติ นายก็ไม่แคร์อะไรนี่? "คิมหันต์เปิดดึงเบรกมือลงแล้วขับรถออกจากตรงนั้น

"ไม่นะ...ฉันแคร์...แคร์สายตาคนที่จะมองมา... แต่ทำเป็นไม่สนใจเท่านั้นเอง.. "อารยะตอบ
"เมื่อกี้...ฉันแค่ไม่อยากให้ใครเห็น...แล้วเอาไปพูดกัน... "

คิมหันต์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาขับรถพาอีกฝ่ายกลับมาถึงห้อง

====================

"ขอบใจนะ...ฉันสนุกมากเลยวันนี้" อารยะพูดขึ้นเบาๆ พลางหันไปยิ้มให้กับอีกฝ่าย

....โกรธอยู่ซิ่นะ...ถึงไม่ได้พูดอะไรเลย...

"แล้วก็ขอโทษ ถ้าทำให้โกรธ " มือเรียวเอื่อมไปจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้เบาๆ

สัมผัสนุ่มจากมือทำให้คิมหันต์หันไปมองอีกฝ่าย
ใบหน้าได้รูปขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะแตะริมฝีปากกับริมฝีปากของอีกฝ่ายเบาๆ

"ไม่โกรธได้ไหม"ดวงตาคู่สวยสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง

ปลายลิ้นร้อนๆเลียริมฝีปากบางเบาๆแทนคำตอบ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนปิดลงรับสัมผัสแผ่วเบา

"ฉัน... เอ่อ... ไปก่อนดีกว่า" อารยะพูดออกมาอย่างลำบาก  ก่อนจะค่อยขยับถอยออกมา

=================

ทันทีที่อารยะปิดประตูรถ หนุ่มลูกครึ่งก็ออกตัวรถไปทันที ทิ้งให้หนุ่มผมสีน้ำตาลทองต้องยืนมองอยู่หน้าอพารืตเมนต์แบบนั้น

" ผมนึกว่าพี่ไม่สบายซะอีก " เสียงห้าวดังขึ้นจากด้านหลัง

ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองหันไปมอง ด้วยความตกใจ ไม่น้อย "เจตน์...นายมาทำอะไรเนี่ย" อารยะ พยายามยิ้ม หวังว่าอีกฝ่าย คงจะไม่เห็นอะไรที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

" มาหาไงครับ เห็นพี่ไม่ไปทำงานพร้อมพี่คิม  บอสเลยให้มาดูน่ะ " เจตน์ชูถุงของกินให้อีกฝ่ายดู

"อ่ะ...เหรอ ขอบใจนะ อุตส่าห์เป็นห่วง " อารยะตอบพลางรับเอาถุงของกินมาถือไว้ "จะขึ้นไปใช่ไหม"

" พี่เบื่อผมแล้วใช่ไหม? " เจตน์ยิงคำถามก่อนจะฉวยเอาถุงของกินเดินเข้าไปในครัว

"..... ฉัน..... " อารยะอ้ำอึ้ง... เขาไม่ได้คิดเบื่อเจตน์...การมีเจตน์อยู่นั้นทำให้รู้สึกอุ่นใจว่า อย่างน้อยที่สุดแล้ว เขาอาจจะยังมีใครซักคน
แต่...
เขาก็แค่อยากจะเลือกแล้ว ก็เท่านั้นเองในตอนนี้ ....ถึงแม้ว่า คนที่เขาเลือกจะตีค่าการกระทำของเขาไปอีกทาง

" พี่จะพูดอะไรล่ะ? "เจตน์ถามขึ้นมา เสียงเปิดน้ำล้างผักดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเปิดเตาไฟฟ้า

"ฉันรู้ว่า ฉันทำผิด เจตน์...ฉันไม่น่า ...มันไม่ควรเป็นแบบนี้ตั้งแต่ต้น"อารยะพูดขึ้นราวกับจะพูดกับตัวเอง ชายหนุ่มร่างบางเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างอ่อนแรง

เสียงผักใบเขียวผัดกับซอสดังขึ้นในกะทะร้อนฉ่าก่อนจะจบลง เจตน์เดินออกมาจากห้องครัว

" พี่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ผมไปล่ะนะ "

"แล้วนายล่ะ...ต้องการอะไร" เสียงนุ่มของเจ้าของห้องหยุดอีกฝ่ายเอาไว้

" พี่คิดว่าผมพิศวาสพี่ขนาดนั้นหรือไง? " เจตน์หันกลับมามองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา
ก่อนจะเปิดประตูห้องของอารยะแล้วเดินออกไป

"ถ้าไม่ได้พิศวาส...ก็เลิกๆไปเสียซิ่... จะมาทำแบบนี้ ทำไม " อารยะพุดกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรงจนรู้สึกได้ถึงรสเลือดที่กระจายออกมา

แต่เจตน์ก็เดินห่างออกไปจากประตูห้องเสียแล้ว ...


talk : อึนต่อไป ดันทุรังกันต่อไป เรื่องรักๆนี่ไม่มีเหตุผลเลยจริงๆนะคะ :hao4:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ดันทุรังกันเข้า่ไป...ให้ตายซิ ชีวิต!!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ goldfishpka

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-0
    • twitterของp.k.a
เราไม่เชื่อว่าคนเราพอมีคนใหม่ก็จะเลิกกับคนเก่าได้ทันทีหรอกนะ ใจคนตัดขาดไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
จะบอกว่าโคไรท์ปกป้องอารยะก็ได้ ถึงหมอนั่นจะดู....ร่าน...ในสายตาคนอ่าน (ฮา) ....แต่เราก็ยังชอบที่เขาเป็น "คน"
แบบนั้นอยู่ดีนะ

ลำเอียงกว่านี้มีอีกไหม ฮ่าๆ :katai2-1:

โคไรท์เอง นานๆจะโผล่มา 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Anyann

  • บุคคลทั่วไป
ใช่ เจตน์ ไม่พิศวาสก็เลิกซี่ เลิกเลย เลิกเลย เนี่ย ส่งอาร์ตไปให้คิมหันต์จัดการดัดนิสัยซะให้เข็ด
ส่วนเจตน์ก็กลับมาหาชินอ้วนของเรา ไม่รู้ป่านนี้น้องอ้วนเราโดนผู้หญิงหลอกอยู่รึเปล่า มีคนสวยๆมาชอบแล้วแคลงใจพิกล 5555

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
=27=

การตื่นไปทำงานในตอนเช้าดูจะกลายเป็นเรื่องยาก ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทอง เกิดความรู้สึกเหนื่อยหน่ายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้ตัวว่าต้องไปทำงาน ในสถานที่ ที่มีแต่ความอึดอัด
กับคนที่อยากอยู่ด้วย ก็ดูจะกำลังสับสน ในขณะที่กับอีกคนที่อยากจะเลิกรา ก็ดูจะไม่สบโอกาสอะไรเสียที
เจตน์ไม่ได้มายืนคอย หรือมารับ นั่นทำให้ชายหนุ่มโล่งใจไปเปราะใหญ่
แต่ที่ทำให้หนักใจ ก็คงจะหนีไปพ้น ภาพที่ควรจะชินตาได้แล้วของคิมหันต์ที่ยืน หัวร่อต่อกระซิกอยู่กับพนักงานสาว ที่หน้าลิฟท์ตัวเดิม

=================

" ไว้เจอกันนะครับ " คิมหันต์บอกกับหญิงสาวก่อนจะเดินเข้าลิฟท์พร้อมๆกับอารยะ

"อรุณสวสัดิ์" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อประตูลิฟท์ปิดลง

" อรุณสวัสดิ์ "หนุ่มลูกครึ่งทักกลับมา ดวงตาสีนิลมองไปตามตัวเลขที่ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆตามชั้นที่ลิฟท์ขึ้นผ่าน

"เสื้อผ้า...ไว้เดี๋ยวจะเอาไปคืนนะ"

" เก็บไว้เถอะ ยังไงก็ใส่ไม่ได้อยู่แล้ว "คิมหันต์ตอบกลับมา

"เหรอ....."ท่าทางของคิมหันต์ทำให้อารยะ ต้องขยับไปด้านข้างเล็กน้อย

คิมหันต์กดลิฟท์ให้หยุดก่อนจะดึงไทค์ของอีกฝ่ายให้เข้ามาหาตัว มือทั้งสองข้างล้อมกรอบร่างนั้น ดวงตาสีนิลสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง

" เจ้าเจตน์มันว่าไงมั่ง? "

".....ไม่ได้ว่าอะไร....." อารยะตอบคำถามนั้น เขาไม่แน่ใจเลยว่า คิมหันต์กำลังคิดจะทำอะไร

คิมหันต์ทำหน้าเซ็งเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว มือที่ล้อมกรอบร่างนั้นไว้เปลี่ยนเป็นโอบเอวคนตรงหน้าไว้
" แบบนี้ก็แย่น่ะสิ "

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มองหน้าของอีกฝ่าย ด้วยความไม่เข้าใจ "นาย...คิดอะไรอยู่...."

คิมหันต์ก้มหน้าลงจูบอีกฝ่ายเป็นการตอบคำถามนั้น

"อะ...คิมหันต์... นาย" มือเรียวดันอีกฝ่ายออก เขาอยากรู้ อยากได้คำตอบ " นายคิดจะทำอะไรกันแน่...ตอบฉันซิ่"

" นาย..กลัวรึไง? "คิมหันต์ผละออกจากอีกฝ่ายก่อนจะกดลิฟท์ให้เปิดออก แล้วเดินออกไปจากลิฟท์

"กลัวซิ่" อารยะพูดออกมาเบาๆ "นายที่เป็นแบบนี้น่ะ... "

=================

"ช้าจัง" เสียงนุ่มดังขึ้นเบาๆ ดวงตาสีเข้มมองดูนาฬิกา ใบหน้าเล็กได้ขยับเป็นรอยยิ้มจางๆ เมื่อนึกถึงคนที่เขากำลังรออยู่
"เรียกเขาแล้วแน่นะ" เจ้าของร่างเล็กถามเจ้าของห้อง หัวหน้าแผนกชาวอเมริกัน

" เรียกแล้วน่ะสิ เดี่ยวก็มาน่า หมอนั่นโดดงานเมื่อวาน นายต้องอบรมด้วยล่ะ "  หนุ่มอเมริกันดูนาฬิกาข้อมือของตน
" นั่นไง เดินหล่อมาแล้ว "

"โดดงาน? นี่ยังทำแบบนั้นอยู่อีกเหรอ ไม่ได้แล้ว แบบนี้ต้องเรียกมาเตือนเสียหน่อย " เจ้าของเสียงนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้พบคนๆนี้

=================

--- RRR--

เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นที่โต๊ะของหนุ่มลูกครึ่งทันที่ที่เขาเดินไปที่โต๊ะ
" ครับ? "

"มาที่ออฟฟิศด้วย "

เสียงนุ่มนั้นทำให้คิมหันต์ต้องขมวดคิ้ว " ครับ? "

"อะไรกัน...ไม่กี่ปีก็ลืมเสียงฉันแล้วเหรอ มาที่ห้องบอสเลยนะ เดี๋ยวนี้เลย "

รอยยิ้มปรากฏขึ้นกับโทรศัพท์ก่อนที่หนุ่มลูกครึ่งจะวางหูแล้วเดินเข้าไปในห้องของหัวหน้าแผนกแทบจะทันที

ส่วนชายหนุ่มร่างบางที่เดินตามหลังอีกฝ่ายมาติดๆ เห็นหนุ่มลูกครึ่งรับโทรศัพท์ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้นนั้น ทำให้อดที่จะสงสัยไม่ได้

....อะไรกัน...รอยยิ้มแบบนั้น...

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองตามร่างสูงที่เดินไปยังห้องจองหัวหน้าแผนก ก่อนที่ประตูที่ถูกปิดไปแล้วจะถูกเปิดออกพร้อมๆกับที่ร่างเล็กของหนุ่มหน้าสวยผมยาวประบ่าที่ถูกรวบเอาไว้เพียงครึ่งเดียว เดินออกมาพร้อมๆกับคิมหันต์

"คิม... นายนี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ" ร่างบางที่เดินออกมาพร้อมกับหนุ่มลูกครึ่งพูดขึ้นพร้อมๆกับมือเรียวที่แตะเบาๆบนแขนของอีกฝ่าย

" ผมก็เริ่มแก่แล้วนี่นา "
คิมหันต์ยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินสวนอารยะไป ดวงตาสินิลจับจ้องอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มให้ ในแบบของเพื่อนร่วมงาน
ท่าทีของคิมหันต์ที่มีต่อเขา และท่าทีของชายหนุ่มแปลกหน้าที่มีต่อคิมหันต์นั้นทำให้รู้สึกแปลกๆ

...ยิ้มเมื่อกี้ เพราะเขางั้นเหรอ....

ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองหันไปมองตามทั้งคู่ที่เดินออกจากแผนกไป

....ธาวิน เฮงสกุล...

อารยะไม่แน่ใจนักว่าใช่ หรือเปล่า แต่เท่าที่เขาจำได้ คนๆนี้ คือลูกชายของประธานบริษัท คนก่อน

เห็นว่าไปประจำอยู่ที่สำนักงานที่ต่างประเทศ ... แล้ว เป็นอะไรกับคิมหันต์ ? ....
คิดได้แบบนั้นร่างบางก็วางของแล้วรีบเดินตามสองคนออกไปด้านนอกทันที

=================

" แล้วนี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ? " คิมหันต์ถามขึ้นมา

"เมื่อคืน... " ชายหนุ่มร่างบางพูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาร่างสูงกว่า "อยากเจอนายเลยมา"

" ผมไม่เชื่อหรอกนะ ฮะ ฮะ ฮะ " คิมหันต์หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะลูบผมอีกฝ่ายแล้วก้มหน้าลงไปใกล้ ธาวินเป็นพี่ชายอายุมากกว่าสามปี ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดใดๆกับเขาเนื่องจากเป็นลูกชายของประธานบริษัทคนก่อน พ่อเลี้ยงของเขา ร่างเล็กบางเคยเป็นแบบไหนก็เป็นเช่นนั้น รอยยิ้มสดใส ขี้เล่น เคยมีอย่างไรก็ยังคงมีเช่นนั้น
" คุณไม่เห็นแก่ลงเลยแฮะ "

"แน่นอน...ดูแลตัวเองดี อีกอย่าง...มันอยู่ที่ใจนะ" ยูนะว่าพลางยิ้มมือเรียวโอบคออีกฝ่ายของเอาไว้ ก่อนจะโน้มลงมาหาตัว
"จะพิสูจน์ไหมละ"

คิมหันต์โอบเอวอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้


ภาพของชายหนุ่มร่างสูง ที่โอบเอวของอีกคนเข้ามาหาอย่างไม่มีการเคอะเขิน จากคำเชิญชวนของอีกคน นั้นอยู่ในสายตาของอารยะอยู่ตลอดเวลา มือเรียวเผลอขยุ้มเสื้อตรงอกแน่น ความรู้สึกเจ็บวิ่งเข้าเสียดกลางหัวใจ

พลัน คิมหันต์ที่เหลือบเห็นบุคคลที่สาม เขาปล่อยร่างของคนตรงหน้าทันที

"หืม...มีอะไรเหรอ" เมื่อสัมผัสถูกละออก ชายหนุ่มร่างเล็กเองก็แปลกใจเช่นกัน

" เอ่อ .. คุณวิน นี่อารยะ เป็นพาร์ทเนอร์ของผมนะ " คิมหันต์แนะนำคนทั้งคู่ให้รู้จักกัน

"อ่ะ... " เมื่ออยู่ๆ ก็ถูกแนะนำตัว ทำให้อารยะ หันไปมองหน้าคิมหันต์ด้วยความไม่เข้าใจนัก ก่อนยกมือไหว้แล้วแนะนำตัวกับอีกคน
"อารยะ ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก"

"เช่นกันครับ...ธาวินครับ" ชายหนุ่มร่างบางว่า พลางยกมือรับไหว้อีกฝ่าย

" ว่าแต่คุณวินมีที่อยู่รึยังครับเนี่ย  คุณคงไม่พักที่บ้านใหญ่หรอกใช่ไหม? "คิมหันต์ถามติดตลก

"ลองไม่ไปซิ่ เป็นเรื่อง...."ชายหนุ่มร่างบางหัวเราะออกมาเบาๆ
" เอาไว้ จะไปหาวันหลังก็แล้วกัน คงมาอยู่อีกซักอาทิตย์น่ะ" มือเรียวแตะแขนของอีกฝ่ายเบาๆ

อารยะมองตามท่าทางแบบนั้นของชายหนุ่มร่างบาง ก่อนจะตวัดสายตามองหน้าของคิมหันต์
"ผมว่าผมขอตัว" ชายหนุ่มพูดพลางเดินไปอีกทาง ด้วยความรวดเร้ว

คิมหันต์มองตามคนที่เดินจากไปก่อนจะหันมาทางคนที่ยืนข้างๆเขาซึ่งกำลังมองเขาอยู่
" ครับ? "

"นั่นแน่....คิดเอาไว้แล้วเชียว"ธาวินชี้หน้าของอีกฝ่ายพลางยิ้ม
"เขาชอบนายนะ"

" แต่เขาก็ไม่ยอมเลิกกับคนอื่นอยู่ดี "คิมหันต์ตอบกลับมาแทบจะทันที

ดวงตาคู่สวยหันมาสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง
"นายเองก็ชอบเขานี่"

" แต่จะทำอะไรได้ละครับ ในเมื่อทั้งเขาทั้งผมก็ยังค้างคาอยู่แบบนี้ " หนุ่มลูกครึ่งถอนหายใจ

"ก็ไปทำให้มันหายค้างคากันเสียซิ่....ฉันเห็นท่าทางของเขาเมื่อกี้... " ยูนะว่าพลางมองไปทางที่อารยะเดินจากไปเมื่อครู่
 "ไม่ว่าเขาจะมีใครอยู่..เชื่อฉันเถอะ ว่า เขาพร้อมแน่ที่จะเลิก เพื่อมาหานาย"

" เดี๋ยวนี้คุณเลิกหวงผมแล้วเหรอ? " คิมหันต์รีบเปลี่ยนเรื่อง

"อืม... นายก็เปลี่ยนไปแล้ว ฉันก็เปลี่ยนไปแล้ว จะให้มาหวงห่วงเหมือนแต่ก่อน คงไม่ได้" มือเรียวแตะที่ใบหน้าของอีกฝ่ายเบาๆ

" นั่นสินะ .. ไปเถอะครับ ผมจะไปส่ง ท่านประธานคงจะรออยู่ที่บ้านใหญ่น่ะครับ "

คิมหันต์จูงมืออีกฝ่ายให้เดินตามเขาไปเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กๆ เติบโตมาด้วยกัน และมีรักครั้งแรกของกันและกัน..แต่มันก็จบลงไปแล้ว..

มือที่กุมมือของเขาเอาไว้นั้น ทำให้ ธาวินยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
"ทำเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว... นายนี่ เห็นฉันตัวแค่นี้ ล่ะทำเหมือนฉันเป็นเด็กทุกทีเลยนะ แล้วก็เมื่อไหร่จะเลิกเรียกพ่อว่าท่านประธานเสียที?"

“ สำหรับผมแล้ว ท่านก็เป็นท่านประธานที่มีพระคุณเสมอล่ะครับ ” คิมหันต์บอกปัด เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เคยยอมเรียกพ่อบุญธรรมของตนว่าพ่อเลยซักครั้ง ด้วยสำนึกในพระคุณและความต่ำต้อยของตนและแม่
" ไว้แฟนคุณมาผมจะปล่อยก็แล้วกัน " คิมหันต์ยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน เป็นการตัดบทเรื่องครอบครัวเสีย

"อันที่จริงก็มานะ...รออยู่ที่บ้าน" ยูนะอดที่จะแหย่อีกฝ่ายไม่ได้จริงๆ

" ไปหลอกหนุ่มที่ไหนมาอีกล่ะ "คิมหันต์ทำท่าหน่ายๆ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ

"อืม หนุ่มอเมริกัน ตัวใหญ่ ผมสีเข้ม หน้าตาดี... ธาวินหันมองมองหน้า "ทำไม  จะหึงเหรอ"

" ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วล่ะ "มือแกร่งหยิกแก้มนุ่มนั้นเบาๆ
 " อย่าทำให้เขาหลงหัวปักหัวปำแล้วก็สลัดทิ้งก็แล้วกัน  "

คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ ร่างบางต้องทำเสียอย่างไม่พอใจนัก
"หึ นายเองก็ยังเปลี่ยนไปเลย...ฉันจะเปลี่ยนบ้างไม่ได้เหรอ "

" ผมเปลี่ยนไปตรงไหนกัน? "คิ้วเข้มได้รูปเลิกขึ้นอย่างแปลกใจในคำพูดของอีกฝ่าย

"หลายอย่าง... แต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้ นายเริ่มคิดจะจริงจังกับใคร แล้วใช่ไหมล่ะ"

" อย่างกับผมไม่เคยคิดกับคุณงั้นแหละ " คิมหันต์หัวเราะออกมาเบาๆ

"เอาไว้ไปกินข้าวเย็น รำลึกความหลังกันก็แล้วกันนะ" ธาวินว่าพลางปล่อยมือจากอีกฝ่ายแล้วเดินตรงไปที่ลิฟท์
"ส่งแค่นี้ก็ได้....แล้วก็ไปทำงาน ตั้งใจด้วยล่ะ " ชายหนุ่มร่างเล็กว่าพลางโน้มคออีกฝ่ายลงมาจูบลาเบาๆที่ข้างแก้ม

" ครับ แล้วผมจะไปหา "คิมหันต์จูบแก้มอีกฝ่ายตอบก่อนจะปล่อยให้ธาวินเข้าไปในลิฟท์ของอาคาร

=================

ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทอง เดินไปตามทาง ดวงตาสีที่เคยเป็นประกาย มองไปยังคนนั้นคนนี้อย่างซุกซน บัดนี้ดูเลื่อนลอย

ส่วนเจตน์ที่กำลังยืนสูบบุหรี่เพื่อผ่อนคลายความเครียดต้องหันไปมองท่าทางแบบนั้นอย่างแปลกใจ ก่อนจะดับบุหรี่มวนนั้นลงกับที่เขี่ยบุหรี่ที่บริษัทเตรียมไว้ให้แล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย

เสียงเดินที่ดังตามหลังมานั้น ทำให้ชายหนุ่มต้องไปมอง
"เจตน์............... "

" พี่เป็นอะไร? "เจตน์ถามพลางขมวดคิ้ว สีหน้าแบบนี้เขาไม่เคยเห็นเลย

"เจตน์......" เสียงที่เรียกชื่อของอีกฝ่ายสั่นเครือ ก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆไหลลงมาจากหางตา ชายหนุ่มรีบยกมือขึ้นเช็ดออกทันที แต่ดูเหมือนยิ่งเช็ด น้ำตาก็ยิ่งไหลลงมา จนดูเหมือนว่าจะหยุดไม่ได้เสียแล้ว ใบหน้ามนแดงก่ำไหล่ทั้งสองข้างสั่น

.....เจ็บ.....หยุดไม่ได้แล้ว.....

อารยะร้องไห้ออกมา สะอึกสะอื้น ในแบบที่แม้แต่ตัวเจตน์เองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

" อะ..เฮ้ .. พี่เป็นอะไรไปน่ะ " หนุ่มผมสีน้ำตาลทองตกใจจนทำอะไรไม่ถูก มือทั้งสองข้างไม่รู้จะวางตรงไหน ชายหนุ่มแตะไหล่ที่สั่นระริกนั้นเบาๆก่อนจะดึงคนตรงหน้ามากอด
" เอ่อ.. อย่าร้องนะ .. ผมขอโทษ "

"ไม่... ไม่... ไม่.. " อารยะส่ายหน้าไปมาในอ้อมกอดของอีกฝ่าย พยายามที่จะดันเจตน์ออกไป แต่ก็ดันออกไปไม่ได้

....มันไม่ใช่เรื่องของนาย....

" ผม..ขอโทษ..อย่าร้องนะ อย่าร้อง " เจตน์กอดคนตรงหน้าไว้แน่นด้วยความรู้สึกผิด เขาไม่น่าพูดแบบนั้นใส่อารยะเลยจริงๆ

"ไม่...ไม่....... " อารยะขืนตัวออก ก่อนจะหันหน้าไปอีกทาง พยายามจะหยุดน้ำตาของตัวเองเอาไว้

....มันไม่ใช่เรื่องของนาย...
.....แล้วก็อย่ามาทำดี...

" ไม่ ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ทำอะไรพี่ทั้งนั้น พี่เกลียดผมแล้วรึไง? " เจตน์พูดออกมาในที่สุด เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าที่พูดใส่อีกฝ่ายไปแบบนั้นมันแรงไป

"ไม่... ฉันไม่ได้เกลียดนาย..." ชายหนุ่มร่างบางพูด

"แล้วเรื่องนี่....มันก็ไม่ได้......" อารยะเก็บคำสุดท้าของประโยคเอาไว้กับตัวเอง

.....ไม่ได้เกี่ยวกับนาย...

ดวงตาคู่สวยมองหน้าของอีกฝ่าย เต็มไปด้วยน้ำตา และความรู้สึก สับสน

....ทำไมถึงเจ็บได้ขนาดนี้....
.....เพราะไม่ใช่เรื่องของหมอนี่....

" พี่จะบอกว่า .. ที่ร้องไห้ไม่ใช่เพราะผมใช่ไหม? " หนุ่มรุ่นน้องถามขึ้นมาเสียงเรียบ

... กำลังทำหน้ารู้สึกผิดอยู่นี่..

"เจตน์.... " เสียงสั่นเครือ เรียกชื่อของอีกฝ่าย มือเรียวกำแน่น ราวกับกำลังรวบรวมความกล้า

ดวงตาคู่สวยสบตามองกับชายร่างสูง แน่นอนว่าเต็มไปด้วนความหนักใจ แต่ถ้าหากว่าเขาไม่ทำ ....มันคงจะเจ็บกว่านี้

"เราเลิกกันเถอะ"


" รักพี่คิมใช่ไหม? "
เจตน์ถามออกมาเสียงเรียบ น่าแปลกที่ถูกบอกเลิก แต่เขายังนิ่งอยู่ได้ ทั้งร่างกาย และจิตใจ มันสงบนิ่งจนน่าแปลกใจ

อารยะ ส่ายหน้า "ฉันไม่รู้... ฉันรู้แค่ว่า ฉันต้องการเขา.... " มือเรียวกำแน่น
 "และฉันทนไม่ได้....ที่จะเห็นเขาไปกับคนอื่น...นั่นเรียกว่าหึงใช่ไหม....นั่นเรียกว่ารักหรือเปล่า" ดวงตาคู่สวยมองหน้าของอีกฝ่าย ราวกับจะวอนหาคำตอบ

" คิดว่าเลิกกับผมแล้ว จะไปหาพี่คิมได้ง่ายๆรึไง? " เจตน์ถามออกมา

" รักกับพี่คิม คนอย่างพี่จะทนได้แค่ไหน? ไม่สิ .. พี่น่ะ เคยต้องอดทนกับความรักด้วยรึไง? "หนุ่มผมสีน้ำตาลทองยิงคำถามออกมาเป็นชุด
" พี่ต้องการคนอยู่ด้วยตลอดเวลา อยากให้คนตามใจตลอดเวลา .. อย่างพี่คิมน่ะ ทำให้พี่ไม่ได้แน่ๆ  " เจตน์หัวเราะออกมา
" ก็ดี .. น่าสนุกดีเหมือนกัน"

....สนุก?....

คำพูดที่เหมือนกับเคยได้ยิน บุคคลที่ถูกกล่าวถึงพูดนั้นทำให้อารยะต้องหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย
"พวกนายเห็นฉันเป็นอะไร... พวกนายเห็นฉันเป็นคนยังไง...เลวมาก...ใช่ไหม ใช่ไหม"

" พี่พูดเรื่องอะไร? "เจตน์ถามเสียงเรียบ

"ฉันรู้ ฉันเอาแต่ใจ...แต่....แต่...." อารยะพูด ท่าทางดูสับสน
"แต่ฉันก็แค่ต้องการอย่างจะหาคนที่ฉันจะรักได้ อย่างจริงใจก็เท่านั้น... แต่พอเจอ พอคิดว่าใช่.....มันก็เป็นแบบนี้ " มือเรียวกำแน่น
"....ฉัน....ฉันผิดเองตั้งแต่ต้น "

" ใครเอาพี่กลับมาที่แผนกต่างประเทศรู้ไหม? "หนุ่มผมสีน้ำตาลทองตัดสินใจบอก
" พี่คิม .. พี่คิมเข้าไปขอบอสด้วยตัวเองเลย .. ผมก็รู้ดี .. ผมรู้ดีตั้งแต่ต้น ทุกอย่าง ! "ดวงตารีมองอีกฝ่าย
 " พี่คิมดีกับพี่ขนาดไหน  แต่มันก็แค่นั้น "

"แล้วฉันต้องทำยังไง...ฉันพยายามไม่สนใจนาย....ฉันยอมแทบจะทุกอย่างแล้ว แล้วเมื่อไหร่มันถึงจะจบ....เรื่องในแผนก ฉันไม่เคยขอร้อง...ไม่เคยขอให้เขาพาฉันกลับมา นี่มันอะไรกัน" 

" ไปถามเอาเองซี่!! " เจตน์ตวาดใส่อีกฝ่าย ก่อนจะหลับตาลงอย่างชั่งใจ
" ไปซะ อยู่แบบนี้มันก็ไม่มีประโยชน์หรอก "

ร่างบางของชายหนุ่มร่างบางสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงตวาด และคำพูดต่อมาของเจตน์... ก็ทำให้ร่างบางคิดได้...
"ฉันขอโทษ....ฉันขอโทษ " ร่างบางหมดแรง เซไปพิงกับผนัง ตึก โชคดีที่เป็นบริเวณที่ไม่มีใครเดินผ่านมา

" พอแล้ว..พี่รีบๆไปซะ " เจตน์บอกอีกฝ่ายอย่างเย็นชาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นแทบจะทันที โดยไม่หันกลับมามองอีกแม้แต่น้อย

"แล้วจะให้ทำยังไง...เขาก็ไปกับคนอื่นแบบนั้น...ไม่เห็นจะสนใจความรู้สึกของฉันบ้างเลย" อารยะพึมพำกับตัวเอง ร่างบางทรุดลงนั่งกับพื้นทางเดิน ....

.....เหนื่อยจัง....

=================

ชายหนุ่มร่างบาง ลุกขึ้นยืน หลังจากที่นั่งเหม่อลอยได้พักใหญ่ เดินไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างคราบน้ำตาออกจากแก้ม ก่อนจะเดินกลับไปที่แผนกต่างประเทศ กลับไปที่โต๊ะทำงานของเขาที่อยู่ข้างๆโต๊ะของคนที่ทำให้เขาต้องร้องไห้

....คิมหันต์....

ดวงตาสีนิลเหลือบมองคนที่เข้ามา แต่ก็ต้องมองนิ่ง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนแดงบวม

..ร้องไห้??..

" เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? " ชายหนุ่มถามออกมา .. แบบผู้ร่วมงาน..

ดวงตาคู่สวยของคนที่ถูกถาม จ้องนิ่งอยู่บนปึกเอกสาร

....ฟังน้ำเสียงซิ่... เขาสนใจฉันที่ไหน ...

"ไม่ครับ....ไม่เป็นอะไร... " อารยะตอบ ก่อนจะลงมือทำงานของตัวเอง

" งั้นเหรอครับ "คิมหันต์ตอบกลับมาเพียงเท่านั้นก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตนเองต่อไป

ส่วนเจตน์ .. เขาไม่ได้กลับเข้ามาในแผนกอีกเลยทั้งวัน

=================

talk : คิดว่าคงมีคนดีใจมากมายที่ อาร์ตเลิกกับเจตน์เสียทีนะคะ .. ว่าแต่ ธาวิน ?? ....

ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ชินหายไปกับสายลมแล้วใช่ไหม TT~
ดีใจกับอาร์ตด้วยนะที่ตัดสินใจได้สักที เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง!! สู้ๆนะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ลืมน้องชินไปรึเปล่า ชินหายไปดันมีธาวินเข้ามาอีก

ถ้าอาร์ตกับคิมคบกันนี่รับไม่ได้เลยนะ คนที่ล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นมันต้องมีบทเรียนให้เจ็บแล้วไม่กล้าที่จะทำอีกให้มากกว่านี้สิ

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
ต้องงี้ซี่ เจตน์อย่าได้แคร์นะ คิมก็อย่าใจอ่อนมากนะ อาร์ตน่ะนิสัยเสีย ปั่นหัวจนเคยตัว ต้องจัดการดัดนิสัยกันก่อน 5555

มีตัวละครใหม่โผล่มาซะแล้ว พร้อมกับน้องอ้วนของเราก็ถูกลืมต่อไป เอ หรือที่น้องอ้วนออกมาตอนต้นๆเรื่องนี่แค่เป็นคนบรรยายชีวิตของเจตน์กันนะคะ (ฮา)

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
=28=

หลังจากเลิกงาน ในตอนเย็น ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทอง ที่เคยทักทายเพื่อนร่วมงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทุกครั้ง ตอนนี้ กลับดูมืดหม่นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ร่างบางเก็บของลงกระเป๋า แล้ว เดินออกไปจากตึกชนิดที่ใครๆ ก็ถามไม่ทันว่าขาจะไปไหน

....ที่ไหนก็ได้...ที่จะทำให้ฉันพ้นจากความรู้สึกแย่ๆแบบนี้...

===============

และแล้ว ขาก็พาเดินขึ้นรถไฟ มาลงที่สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อโดยไม่รู้ตัว ที่อโคจรยามค่ำคืนของเขา

อารยะเดินเลื่อนลอยผ่านคนมากมายไปยังผับแห่งเดิม เมืองของคนราตรี แสงสี และเสียงดนตรีที่ดังอยู่นั้นไม่ได้ช่วยให้รื่นเริงนัก
มือเรียวปลดเนคไทและกระดุมเสื้ออกเมื่อก้าวเข้าไปนั่งอยู่ที่ด้านในสุดของเคาท์เตอร์

"วอดก้า "

" วันนี้มาเร็วจังนะครับ .. นี่ครับ " บาร์เทนเดอร์หนุ่มรินเหล้าสีขาวใสลงในชอตเล็กๆให้ชายหนุ่ม

"อืม....เลิกงานเร็ว เลยอย่ามาผ่อนคลายหน่อย" อารยะตอบเบาๆ ก่อนจะกระดกแก้ว ทีเดียวหมด
จากแก้วแรก แก้วต่อๆมาก็เริ่มมาขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆกับคนที่เข้ามาในร้านมากขึ้น แต่อารยะก็ไม่สนใจใครแม้แต่น้อย

"นี่...มาสเตอร์" ชายหนุ่มร่างบาง ยกมือขึ้นเรียก ใบหน้ามนเปลี่ยนสีแดงก่ำ ดวงตาสีน้ำตาลเป็นกระกาย จากฤทธิ์แอลกอฮอลล์

" ครับ? " บาร์เทนเดอร์หนุ่มวางแก้วเหล้าลงตรงหน้าอีกฝ่าย แปลกจริงๆที่แขกประจำของเขาดื่มหนักขนาดนี้ ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน
"คุณเคยรู้สึกว่า ตกหลุมรัก แล้วก็อกหักไปในเวลาเดียวกันไหม"

" เคยครับ "เขาตอบกลับมาแทบจะทันที มือทั้งสองข้างเช็ดแก้วไวน์ไปด้วย

"เหรอ... "อารยะเลิกคิ้วขึ้นมองหน้าของอีกฝ่าย
"แล้วมันเป็นยังไง ทรมานไหม รู้สึก แย่ รู้สึกจะเป็นบ้าไหมเวลาที่ รู้สึกตัวว่า ต้องการเขาแทบตาย แต่ ไม่รู้จะแสดงออกยังไง เผลอทำอะไรให้เขาโกรธ ไปจน... มันดูเหมือนจะแก้ไขไม่ได้... "  ปลายเสียงนุ่มแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยอ่อนแสง ลง

" ในตอนนั้นเป็นเพราะผมไม่ไปง้อเขาน่ะครับ " เขาเทคอกเทลสีหวานลงในเหยือกเล็กๆ แล้ววางไว้ที่เคาท์เตอร์สำหรับหญิงสาวที่นั่งอยู่อีกด้าน

"แล้วยังไง... คุณเสียเขาไปไหม ในตอนท้าย " อารยะ กุมขมับของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าของอีกฝ่าย
รอยยิ้มเศร้าๆของบาร์เทนเดอร์หนุ่มคือคำตอบของคำถามนั้น ก่อนที่เขาจะขอตัวไปรับออเดอร์จากอีกด้านของเคาท์เตอร์
"เหรอ...ฮ่ะๆ...นั่นซิ่นะ" อารยะหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะวางเงินลงบนเคาท์เตอร์ มากกว่า ค่าเหล้าจริง ที่จะต้องจ่าย
"นี่ถือเป็นน้ำใจ ก็แล้วกัน " ชายหนุ่มพูดก่อนจะพาร่าง เดินโซวัดโซเซออกมาจากร้าน

===============

ทางลัดด้านหลังร้าน จะทำให้เขาไปถึงสถานีได้ไวขึ้น ถึงมันจะเปลี่ยวก็ตาม หนุ่มร่างบางเดินโซซัดโซเซด้วยฤทธิ์เหล้าโดยไม่สนใจใคร จนกระทั่งไปชนกับชายร่างใหญ่คนหนึ่ง

" เฮ้ย เดินยังไงวะ?! " เสียงห้าวนั้นตะคอกพลางกระชากคอเสื้อของอารยะขึ้นมา

"ก็ด้วยขาไง...แม่มึงไม่ได้สอนเหรอ" อารยะหัวเราะเบาๆ ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรด้วย

" ไอ้หน้าอ่อน กวนนะมึง ! " เขาจับร่างบางกระแทกกับผนังตึกอย่างแรงก่อนจะจัดการสั่งสอนอีกฝ่ายด้วยมือและเท้า

อารยะยกสองมือไร้แรงขึ้นป้องกันตนเอง แต่ก็ไม่ได้ผลเท่าไรนัก เหล่าที่ดื่มเข้าไปราวกับน้ำ ไม่ได้ช่วยให้เขากล้าหาญ หรือหายเจ็บปวดใจ...ซ้ำร้าย ร่างกายจะยิ่งเจ็บหนักกว่าเดิมเพราะการกระทำที่ไม่ค่อยจะคิดเท่าไรของตัวเอง


เสียงโครมครามที่ดังขึ้นทำให้หนุ่มลูกครึ่งที่กำลังเดินเข้าทางลัดเพื่อตระเวนราตรีแก้เบื่อหน่ายต้องวิ่งไปตามเสียงนั้นทันที

...เขาสังหรณ์ไม่ดีเลย..

แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

ร่างบางที่ยังสวมชุดที่เขาเห็นมาทั้งวัน บัดนี้นอนงอตัวด้วยความเจ็บอยู่ที่พื้น คิมหันต์ปราดเข้าไปกระชากร่างใหญ่นั้นออกแล้วจัดการล้มเขาให้ได้ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันตั้งตัวด้วยซ้ำ

" อารยะ " มือจับเนื้อตัวของอีกฝ่าย แล้วตบแก้มที่ช้ำบวมนั่นเบาๆ
" ได้ยินฉันไหม? "เสียงนั้นถามอย่างเป้ฯห่วง

..ทำไมไม่สู้มัน..

"หืม....ไม่เอาน่าา จะฆ่าก็ฆ่าเลยซิ่" เสียงที่ดังออกมานั้น ราวกับว่าจะไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว
ดวงตาคู่สวย ปรือขึ้นมองภาพเลือนลาง ใบหน้าที่...ดุเหมือน...จะคุ้นเคย
"สนใจฉันแล้วรึไง...ถึงมา "

" แม่ง! อยากตายนักรึไง ถึงทำแบบนี้!? " คิมหันต์โวยวายใส่ หากแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม เขาอุ้มร่างบางขึ้นทันที

"ตายก็ดี....ฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บ...อีกต่อไป" ดวงตาคู่สวยปิดลงช้าๆ ก่อนจะพิงศีรษะลงกับอกอุ่นของอีกฝ่าย

....ทำไมรักใครแล้วถึงเจ็บแบบนี้นะ....

" งี่เง่า .. ไม่สมกับเป็นนายเลย " คิมหันต์เร่งฝีเท้า ดูจากสภาพแล้วคงจะใกล้หมดสติแล้ว แต่เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายหมดสติไปตอนนี้
" อย่าเพิ่งหลับ คุยกับฉัน "

"หืม...คุยอะไร ทำไมตอนนี้อยากคุย...."อารยะเริ่มจะครองสติเอาไว้ไม่อยู่ เสียงที่พูดนั้นอ้อแอ้ไม่ชัดนัก
"ก่อนหน้านี้ ไม่เห็นสนฉันเลย"

" มาทำงอนอะไรป่านนี้ " คิมหันต์ต่อปากต่อคำ เขายังให้อารยะหลับไปตอนนี้ไม่ได้ ก่อนจะเดินมาถึงรถที่จอดอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุนัก

"เพิ่งรู้รึไง....ไอ้บ้า" เสียงที่ต่อปากต่อคำกลับมานั้นแผ่วเบาลงอย่างเห็นได้ชัด

"ชอบเจ็บตัวนักรึไง?" คิมหันต์วางอีกฝ่ายลงยังที่นั่งข้างคนขับก่อนจะเอนเบาะให้นอนลง

"ไม่ใช่..ก็คนมันเมานี่...." อารยะตอบ เบาๆ เจ็บระบบไปหมด

คิมหันต์ไม่ตอบอะไรอีก เขาวสตาร์ทเครื่องแล้วขับออกจากที่จอดรถไปทันที โดยที่จุดหมายปลายทางคือห้องของเขาเอง

===============

" ลุกได้แล้ว " หนุ่มลูกครึ่งบอกคนที่น่งอยู่ข้างๆ

"อือ...เพราะนายนั่นล่ะ..." อารยะว่าพลางเปิดประตูลงจากรถ
"เพราะนายนั่นล่ะที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ " เสียงคนเมาเริ่มพูดอะไรในใจออกมาเสียแล้ว

" เป็นยังไง? " หนุ่มลูกครึ่งรูดคีย์การ์ดแล้วเดินนำอีกฝ่ายเข้าไปในห้อง

"นายนั่นล่ะผิด... ทำให้ฉันต้องทรมานแบบนี้...มันอึดอัดเข้าใจไหม จะบอกรักก็พูดไม่เป็น... เลยต้องเมานี่ไง "
ชายหนุ่มร่างบางว่าพลางเดินโซเซไปนั่ง ที่ โซฟา

" บอกรัก? "คิมหันต์ทวนคำของอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่

..ที่คุณวินพูด จริง??..

"เออซิ่...ฉันรักนาย ได้ยินหรือยัง"

" นาย?? " คิมหันต์ย้อนคำถามนั้นก่อนจะหลับตาลงแล้วลงมานั่งข้างๆ
" รักฉันคนไหนกัน คนที่ใครต่อใครเห็น หรือคนที่เป็นแบบนี้ " ดวงตาสีนิลจับจ้องใบหน้าที่ฟกช้ำนั่นตรงๆ

"รักนาย...ทั้งสองด้านของนาย.. " มือเรียวยกขึ้นแตะใบหน้าคมของอีกฝ่าย
"นายที่อ่อนโยนกับทุกคนแบบนั้น กับ นายที่ด่าฉันเอาๆ แบบนี้...รู้ไหม คืนนี้ ฉันไม่ได้ออกไปไหนกับใครเลยนะ...ไม่ได้ออกไปไหนกับใครมาตั้งนานแล้วด้วย" น้ำเสียงที่เคยพูดจาเอาแต่ใจกลับอ่อนจนฟังดูเหมือนอ้อนในที

คำพูดนั้นทำให้คิมหันต์ดึงคนตรงหน้ามากอดไว้แน่น " ฉันไม่น่าทำแบบนั้น "
ดวงตาสีนิลไหววูบ แต่เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็น

"ทำแบบไหน...อ่อนโยน กับ ทุกคน หรือ ด่าฉัน" อารยะพูดขึ้นเบาๆ แม้ว่าจะยังมึนกับแอลกอฮอล์ แต่ ก็ยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย

" ฉันร้ายกับนาย กดดันนาย .. ทำให้นายรัก .. ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันจะทำยังไงกับนายดี "
หนุ่มลูกครึ่งถามอย่างสับสน เขาร้ายกับอีกฝ่าย เป็นการเดิมพันเพื่อให้ได้วามรัก และเขาก็ได้มันมา แต่เขากลับไม่รู้วิธีจะรักษามันเอาไว้

"ก็แสดงออกบ้างซิ่... อย่าทำแบบนี้ ..." อารยะพูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะหลับตาลง

" ก็ได้ " คิมหันต์ผละออกจากอีกฝ่าย
" ทำแผลเถอะ นั่งบอกรักกันอยู่นี่ ไม่มีประโยชน์หรอก " เขาว่าก่อนจะเดินไปหากล่องพยาบาลมาทำแผลให้อีกฝ่าย

"นายไม่ต้องลำบากหรอก...ฉันทำเองก็ได้" อารยะว่าพลางลุกขึ้น หมายจะเดินตามไป แต่ด้วยความมึนงง จากแรงกระแทกตอนถูกทำร้าย กับแอลกอฮอล์ ก็ทำให้เขาไม่สามารถเดินตามอีกฝ่ายไปได้เร็วนัก

" เฮ้ย  " คิมหันต์รีบเดินกลับมา
" จะตามมาทำไมเล่า "มือนั้นประคองคนที่เจ็บตัวไว้

"ก็...ไม่อยากรบกวนนี่.. เดี๋ยวจะหาว่าฉันเอาแต่ใจอีก" ชายหนุ่มร่างบางพูดออกมาเบาๆ

" ทำไม? ตอนนี้อยากจะเอาใจฉันขึ้นมาบ้างเหรอ? "หนุ่มลูกครึ่งถามติดตลก ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องพยาบาลมาวางที่โต๊ะในครัว เปิดมันออกแล้วใช้สำลีใส่แอลกอฮอล์เช็ดแผลที่ใบหน้ามนนั่น

"ก็...นาย..."ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของอีกฝ่าย "ไม่ชอบให้ฉันเอาแต่ใจนี่... ฉันก็กำลังพยายามปรับปรุงอยู่นี่ไง" เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ

" ตัวจริงของฉันก็เอาแต่ใจ  "
คิมหันต์ตอบกลับมา " ฉันเปิดเผยตัวจริงที่เป็นแบบนี้แล้ว ฉันจะไม่ถามนายว่ารับได้หรือเปล่า แต่นายเลือกได้ว่าจะอยู่หรือไป “

“ว่าไง? "

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าองอีกฝ่ายนิ่ง ใบหน้าสวยเอียงลงรับสัมผัสจากฝ่ามือของอีกฝ่าย
"ถ้านาย...ยังไม่เบื่อ กับฉันที่เป็นแบบนี้...ฉันก็จะไม่ไปไหน...อีกแล้ว"

คิมหันต์สบตากับอีกฝ่ายนิ่ง นิ้วมือไล้กับริมฝีปากได้รูป

"...ฉันรักนายนะ คิมหันต์ ต้องการนาย... "

" นาย... "

"เรียก อาร์ต สิ " อารยะพูดขึ้นมาเบาๆ เขาไม่เคยได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อเล่นของเขาเลย

" อาร์ต " คิมหันต์เรียกอีกฝ่ายก่อนจะก้มหน้าลงมา ริมฝีปากได้รูปนั้นค่อยๆขยับ .....กระซิบติดริมฝีปากบวมเจ่อนั้น
 " กินยาแก้ปวดซะ พรุ่งนี้ไข้ขึ้นแน่ "

"ฮ่ะๆ " คำพูดของคิมหันต์ ทำให้อารยะหัวเราะออกมาเบาๆ "เรียกเสียดิบดี ...ให้กินยาเหรอ"

" จะไม่กินก็ได้นะ " หนุ่มลูกครึ่งยื่นเม็ดยาและน้ำให้

"โอ๊ะ..โอ้ย" เจ้าของร่างบางที่มีแต่รอยช้ำร้องโอดโอย

" กินเองไม่ได้? " คิมหันต์ถามอย่างรู้ทัน " จะให้ป้อนรึไง? "

"เปล่า... กินเองก็ได้ เอาน้ำมาซิ่ " อารยะเบ้หน้าเล็กน้อย ก่อนจะมองหาน้ำ

คิมหันต์ยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นก่อนจะหยิบยาใส่ปากแล้วดื่มน้ำลงไป ก่อนจะรั้งเอวบางนั้นเข้ามาแล้วป้อนยาให้

อารยะหลับตาลงรับสัมผัสนั้น ก่อนที่จะค่อยกลืนยาที่อีกฝ่ายส่งมาลงไป มือเรียวโอบรอบคอของอีกฝ่ายเอาไว้เล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากบางจะขยับคลี่เป็นรอยยิ้ม
"นี่น่ะหรือคนเอาแต่ใจ...นายก็ยังตามใจฉันทุกที"

" ฉันอยากจูบนายก็แค่นั้น "อีกฝ่ายเถียงกลับมาแทบจะทันที
 " ไปนอนได้แล้วไป "

"ครับๆ...ตามแต่จะรับสั่งครับ"อารยะหัวเราะ "ถ้าอย่างนั้นก็พาคนเจ็บไปนอนหน่อยซิ่"

" ห้องนอน เคยไปแล้วนี่ ไปนอนก่อนเลย เดี๋ยวตามไป "คิมหันต์ชี้ไปที่ประตูห้องนอนแล้วผละอีกฝ่ายออก

"โธ่...แค่นี้เอง" อารยะเบ้หน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปทางห้องนอน แสงไฟสว่างขึ้น ก่อนที่จะมีเสียงของเตียงดังขึ้นเบาๆ เมื่ออารยะล้มตัวลงไปนอน

===============

เพียงไม่นานหลังจากนั้น คิมหันต์จึงเดินตามเข้ามาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ แล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ
" หลับรึยัง? "

"อืม... " มีเพียงแค่เสียงครางรับจากในลำคอ ดวงตาคู่สวยไม่ได้มองหน้าของอีกฝ่ายหากแต่ปิดสนิท แต่ใบหน้ามนกลับระบายด้วยรอยยิ้มจางๆ

คิมหันต์ห่มผ้าให้เขาและอีกฝ่ายก่อนจะปิดไฟในห้องนอนของตน เตียงกว่างที่บัดนี้มีคนอยู่ด้วย อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่คุ้นเคย แต่เขาจะลองดู

"คิมหันต์... "

“ เรียก คิม สิ ” คิมหันต์เลียนแบบประโยคที่อารยะพูดเมื่อชั่วโมงก่อน พลางลอบยิ้มจากด้านหลัง คำพูดนั้นทำให้หัวใจของอารยะเต้นรัวอย่างมีความสุข

" คิม...อย่าหันหลังให้ฉันอีกนะ... " เสียงของอารยะดังขึ้นเบาๆ พร้อมๆกับมือเรียว ที่ยื่นออกมานอกชายผ้าห่ม

" .............. " ไม่มีคำตอบ มีเพียงอ้อมแขนที่กอดอารยะไว้ใต้ผ้าเพียงเท่านั้น

===============

หนุ่มลูกครึ่งตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ในอ้อมแขนของเขามีคนที่บาดเจ็บซุกตัวกับอก คิมหันต์ขยับตัวออกมาเบาๆ แล้วลุกขึ้นไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยแล้วกลับมาต้มกาแฟในครัว

"อืม... " เสียงร่างบางที่บอบช้ำครางเครือขึ้นเบาๆ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองพลิกตัวไปเจอกับความว่างเปล่า ของเตียงอีกด้าน ความอบอุ่นบนผืนผ้าจางลงไปมากทีเดียว น่าแปลกที่ผิวสัมผัสนั้นทำให้รู้สึกหวั่นใจพิกล

"คิม... " ชายหนุ่มเรียกชื่อของอีกฝ่าย กลิ่นหอมของกาแฟลอยมาแตะจมูก นั่นทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง

...อยู่ข้างนอกซิ่นะ...

อารยะค่อยลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนอน แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาทางบานหน้าต่างบานใหญ่ของอพาร์ตเมนท์ของคิมหันต์
"คิม"

" ว่าไง? " หนุ่มลูกครึ่งถามพลางหันมาหา " นอนต่อเถอะ วันนี้วันหยุด "

"ไม่ล่ะ...นอนมากพอแล้ว " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทองว่าเดินไปนั่ง ที่โต๊ะทานข้าว สองแขนวางลงบนผิวหน้าของโต๊ะ ก่อนจะหันไปมองทิวทัศน์ด้านนอก
"รู้สึกเหมือน...ไม่ได้มาที่นี่ตั้งนานแล้ว "

" หืม? " คิมหันต์รินกาแฟร้อนใส่แก้วแล้ววางตรงหน้าอีกฝ่าย แล้วยกกาแฟในแก้วของตนขึ้นมาจิบ

"มีความรู้สึกเหมือนไม่ค่อยได้มาที่นี่เลยน่ะ..ช่วงระยะที่ผ่านมา "อารยะว่าพลางหันไปยิ้ม ใบหน้ายังคงมีรอยบอบช้ำจากเหตุการณ์เมื่อคืน

" มาบ่อยๆก็ไม่มีใครว่านี่ "คิมหันต์เบือนหน้าไปอีกทาง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
" เอ้อ วันนี้จะไปบ้านใหญ่..เอ่อ บ้านประธานคนก่อน พอดีถูกเรียกพบน่ะ "

"อ่ะ...เหรอ... " ชื่อบุคคลที่สามที่ถูกเอ่ยถึงทำให้อารยะถึงกับสะอึกออกมาเบาๆ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองหน้าของอีกฝ่าย

...จะไปทำอะไรเหรอ... ราวกับจะถามออกไปแบบนั้น

คิมหันต์ลุกออกจากตรงนั้นแล้วเดินกลับมาพร้อมกับกุญแจห้องและคีย์การ์ด
" เอ้านี่ เผื่อฉันไม่อยู่จะได้เข้ามาได้ "

อารยะมองสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายนิ่ง ก่อน จะรับมาอย่างอึ้งๆ

...ที่ให้นี่...

"แล้วนายล่ะ..." ทั้งๆที่รู้ก็ยังจะถามออกไปอย่างนั้น ชายหนุ่มร่างบาง หน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

" ยังไงคืนนี้ก็กลับมานอนนี่แหละ จะออกไปไหนก็ระวังแผลด้วยละกัน  " คิมหันต์ไม่ยอมตอบคำถามนั้นตรงๆ

"อ่ะ...อื้ม" อารยะยิ้ม พลางก้มลงดูพวงกุญแจที่อยู่ในมือ น่าแปลก ทั้งๆที่เป็นเพียงกุญแจ แต่กลับดูมีค่ามากเหลือเกิน

" จริงๆ ถ้านายไม่เละขนาดนี้ เย็นนี้คงพาไปด้วยนะ ยังไงก็พักผ่อนล่ะ ไม่ต้องรอหรอก " มือแกร่งจับที่หลังคอตัวเอง รู้สึกเขินแปลกๆที่พูดออกไปแบบนั้น

" ไปไหน?" อารยะว่าพลางเอียงคอมองอีกฝ่าย ก่อนจะยกมือขึ้นแตะหน้าตัวเองแล้วหันไปอีกทาง
 "ขอโทษนะ ที่กลายเป็นแบบนี้น่ะ "

" ขอโทษฉันทำไม ตัวของนายเอง ถ้ารู้จักรักตัวเองบ้างก็คงไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้ "คิมหันต์ใช้นิ้วจิ้มที่รอยช้ำบนใบหน้าของอีกฝ่าย

"โอ้ย เจ็บนะ" อารยะะหันไปมองค้อน... "แล้ว คืนนี้ ก็จะไปที่บ้านของท่านประธานจนดึกเลยเหรอ"อารยะถาม ด้วย นึกอยากจะรู้เหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะไปทำอะไรกันแน่ ภาพของคนๆนั้น มันยังบาดตาบาดใจไม่หาย

" ก็ท่านเรียก อาจจะไม่ดึกมากหรอก "
คิมหันต์ยักไหล่ " จะไปรึไง? "

"ไม่... " อารยะรีบส่ายหน้า "ฉันจะไปทำไมกัน"

" ทำหน้าเหมือนอยากไปด้วย "นิ้วเรียวจิ้มที่ปลายจมูกโด่งของอารยะเบาๆ

"เปล่า นี่...ก็ไม่ได้รู้จักท่านเป็นการส่วนตัว จะไปเสนอหน้าทำไมกัน...อีกอย่าง วันนี้ ฉันก็อยากจะไปทำอะไรให้มันเสร็จๆไปด้วยเหมือนกัน "อารยะว่าพลางเบี่ยงตัวหลบปลายนิ้วของอีกฝ่าย

" อืม แล้วแต่ ..งั้นเดี่ยวก็แยกไปเลยละกัน "คิมหันต์ลุกจากโต๊ะกินข้าวแล้วเดินเข้าไปแต่งตัวในห้องนอน
ทันทีที่อีกฝ่ายลุกไป ร่างบางเองก็ลุกตาม น่าแปลกที่อยากจะอยู่ใกล้กับคิมหันต์ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เคยมีแม้กระทั่ง ความรู้สึกที่ว่า ไม่อยากจะอยู่ใต้หลังคาเดียวกันเสียงด้วยซ้ำ

....แต่ก็รักไปแล้ว...

"เดี๋ยว จะไปแล้วเหมือนกันล่ะ" ชายหนุ่มว่าพลางเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของอีกฝ่าย
 "ขอยืมเสื้อผ้าหน่อยได้ไหม...แล้วจะเอามาคืน "

" ตามสบาย " คิมหันต์ว่าก่อนจะถอดเสื้อออกทางศีรษะ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า

อารยะมองร่างสูงของอีกฝ่ายเล็กน้อย ก่อนจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง ตามเนื้อตัวของตัวเองมีแต่รอยฟกช้ำ
"แย่เลย...." ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็น รูปร่างของตัวเองในกระจก ผอม...และฟกช้ำ ดำเขียวไปทั่วตัว ชายหนุ่มเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆของอีกฝ่าย
"ฉันนี่ น่าเกลียดเป็นบ้าเลย"

" โดนมันเล่นงานซะขนาดนั้นนี่  " คิมหันต์ไล้สายตามองอีกฝ่ายแล้วเดินมาซ้อนข้างหลังก่อนจะก้มลงเม้มที่หลังคออีกฝ่ายจนเป็นรอย

"ก็ใช่น่ะซิ่... แต่ก่อนฉันไม่เคยเป็นแบบนี้หรอกนะ อ๊ะ! " ร่างบางสะดุ้งเล็กน้องก่อนจะเอียงคอรับสัมผัส จากอีกฝ่าย
"อืม...เป็นก็เพราะนายนี่ล่ะ... "

คิมหันต์ถอนริมฝีปากออกมาเมื่อฝังรอยไว้ได้สำเร็จ
" อืม.. "แล้วหันไปรื้อเสื้อออกมาให้อารยะ
 " ตัวนี้น่าจะใส่ได้ "

ชายหนุ่มรับเสื้อเชิ๊ต แขนสั้นสีขาวมากจากอีกฝ่าย ดูจะตัวเล็กกว่า ตัวอื่นๆที่อยู่ในตู้
" นี่ ตัวเล็กขนาดนี้... เสื้อตอนเด็กรึไง" อารยะหัวเราะ

" จะใส่ไหม? " คิมหันต์ดึงเสื้อตัวนั้นกลับมา

"ใส่ซิ่..ใส่... นานๆจะได้ยืมเสื้อจากแฟนเสียทีนี่นะ" ชายหนุ่มร่างบางหัวเราะ พลางดึงเสื้อกลับมา สวมเสร็จสรรพ พร้อมกับกางเกง ขาสี่ส่วนที่รื้อได้จากแถวนั้นเช่นกัน แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรน่าเขินอายไปเสียแล้ว
" ฉันไปก่อนดีกว่า..." อารยะเดินไปมองหากระเป๋าของตัวเองอย่างร้อนรน ใบหูเล็กบางแดงระเรื่อ
"เอ..กระเป๋าสตางค์ล่ะ... " ชายหนุ่มเดินหันซ้ายหันขวามองหาของของตัวเอง เมื่อคืน ทั้งเมา ทั้งเจ็บตัว จนไม่รู้เรื่องอะไรเลย

" จะให้ไปส่งไหม? " คิมหันต์ถามออกมาอย่างเป็นห่วง " น่วมไปทั้งตัวแบบนี้น่ะ "

"ไม่เป็นไรๆ... นายมีธุระนี่นา... ฉันไปเองได้ ห้องฉันอยู่แค่นี้เอง " อารยะว่าพลางยิ้มในการแสดงออกถึงความเป็นห่วงในแบบของคนรัก ใบหน้าก็ยังคงมีรอยฟกช้ำ อีกหลาย วันคงกว่าจะหาย

" อื้อ งั้นไว้เจอกันละกัน " หนุ่มลูกครึ่งว่าก่อนจะคว้าเอาเสื้อสูทลำลองสีฟ้าอมเทามาสวมอีกชั้น

"อืม เอาไว้เจอกันนะ" อารยะเดินไปที่ประตู ชายหนุ่มหันกลับมามองหน้าของอีกฝ่าย...เจ้าของห้องยังคงยืนอยู่ด้านใน ... น่าแปลกที่ดูห่างไกลเหลือเกิน

...แน่ล่ะ วันนี้ เขามีธุระสำคัญนี่นา...

"ไปก่อนนะ" หนุ่มร่างบางว่าพลางเดินออกจากห้องไป

===============

หลังจากที่ออกจากห้องของคิมหันต์...ชายหนุ่มดูจะไม่สนใจที่จะไปหาหมอเพื่อทำแผลอะไรให้มันดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่ ร่างบาง กลับ ตรงไปที่สถานีรถไฟ และจุดหมายปลายทางที่เดียวที่นึกถึงได้ในตอนนั้น คือ อพาร์ทเมนต์ของเจตน์

... ฉันควรจะเด็ดขาดกับตัวเองเสียที...

===============

talk : ยังคงเป็น คิมหันต์กับอารยะ เช่นเคยค่ะ o18 น่าจะลงตัวแล้ว (หรือยังนะ) สำหรับคู่นี้
ส่วนเจ้าชินคงจะออกเร็วๆนี้ค่ะ โปรดรออ่านกันนะคะ!!

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
รออ่านค่ะ ว่าอาร์ตจะเด็ดขาดกับเจตน์ได้ขนาดไหน แต่ก็พอนึกออกว่าคิมหันต์ให้บรรยากาศที่ดูเข้าไม่ถึงในบางทีเหมือนกัน

เอาใจช่วยทุกคนในเรื่องเลยค่ะ

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
=29=

--- RRR---

เสียงออดที่ดังขึ้นหน้าห้องทำให้เจตน์เดินหาวออกมาเปิดประตู " ครับ? "

"อรุณสวัสดิ์...."อารยะว่าพลางยิ้ม

" พี่อาร์ต?.. ให้ตายสิ ไปทำอะไรมา ทำไมเละแบบนี้วะ " เจตน์รีบดึงอีกฝ่ายเข้ามาในห้องสภาพของอารยะทำให้เขาตกใจอย่างมาก

"แฮ่ะๆ...เมาไม่เป็นท่าอีกน่ะซิ่ ถามได้...เจอมาก็หลายรอบแล้ว ไม่ชินอีกเหรอ" ชายหนุ่มร่างบางหัวเราะ

" ชินกับเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ? ว่าแต่ทำแผลมารึยัง? กินอะไรมารึยัง? " เจตน์ถามพลางมองซ้ายมองขวา ด้วยความเป็นห่วงเช่นทุกครั้ง

"อื้ม ทำแผลแล้ว... กินมาแล้วด้วย"อารยะพยักหน้าลงเล็กน้อย
"เมื่อคืน..พอดีมีคนไปช่วยไว้น่ะ "

" พี่คิม? " เจตน์ถามอย่างรู้ทัน
" งั้นเหรอ? " เจตน์พยักหน้าเบาๆ " จะไปอยู่กับพี่คิมแล้วล่ะสิ? "

"ฉันก็ไม่แน่ใจนักหรอกนะว่า ฉันจะเป็นที่ต้องการหรือเปล่า.. " อารยะพูดออกมาเบาๆ มือข้างหนึ่ง อยู่ในกระเป๋ากางเกงกุมกุญแจห้องที่เจ้าของชื่อให้เอาไว้แน่น
"แต่ ฉันก็คิดว่า ฉันเจอคนที่ฉันจะสามารถเรียกว่า "รัก" ได้เต็มปากเต็มคำแล้ว" ดวงตาคู่สวยสบหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง

" ที่มานี่ก็เพื่อนที่จะมาบอกเลิกกับผมให้เป็นเรื่องเป็นราวล่ะสิ "ดวงตารีสบตากับอีกฝ่าย เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรเลย
อารยะ พยักหน้าลงข้าๆให้กับคำพูดนั้น

"ฉันรู้ว่า ฉันทำตัวไม่ดี...ฉันอาจจะเคยทำให้นายเสียน้ำใจ...เจ็บใจ... เสียใจ... ฉันอยากจะขอโทษ...ทั้งหมดแล้ว มันก็เป็น ความเอาแต่ใจของฉันที่อยากจะตามหาใครซักคนที่คิดว่าใช่ "

" อืม..โชคดีก็แล้วกัน  " เจตน์พยักหน้าเบาๆ น่าแปลกที่เขากลับยอมรับมันได้อย่างง่ายๆ

 ... คนที่คิดว่าใช่งั้นเหรอ?...

"นายเอง... ก็มีคนทีนายคิดว่าใช่อยู่ใช่ไหมละ" อารยะว่าพลางเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย

" แต่ผมก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขาต้องการก็ได้นี่ " เจตน์ตอบกลับมาแทบจะทันที ในในหัวของเขานึกถึงเพียงแต่คนที่อยู่กับหญิงสาวสวยของแผนกเลขาคนนั้นเท่านั้น

"...." ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้อารยะยิ้ม มันทำให้เขานึกถึง ท่าทีของเจตน์ในตอนแรกๆที่ได้รู้จักกัน
"ถ้าไม่ถาม ถ้าไม่บอก แล้ว จะได้รู้กันไหมล่ะ "

" นั่นสินะ "  เจตน์พยักหน้าลง คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เขาตัดสินใจได้เสียที
" พี่จะกลับเลยรึเปล่า จะให้ไปส่งไหม ที่ห้องพี่คิมน่ะ? "

ปรกติแล้วเขาคงจะอ้อนให้อีกฝ่ายไปส่ง แต่น่าแปลกที่คราวนี้ อารยะกลับส่ายหน้า
"ไม่เป็นไรหรอก..นี่ก็ยังกลางวัน ฉันไม่ไปเมาตกท่อที่ไหนแน่ล่ะ...นี่ว่าจะไปหาหมอด้วย...ก่อนไปที่ห้องเขาน่ะ" ชายหนุ่มว่าพลางลุกขึ้น

" จะย้ายของเมือ่ไหร่ก็บอกผมนะ จะได้ไปช่วย " เจตน์เดินไปส่งที่ประตู แต่ก็ยังไม่วายแซวเรื่องของรุ่นพี่จนได้

"ยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า... " อารยะว่าพลางหันไปตบไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆ
"...ขอบใจมากนะ...ที่..ช่วยดูแลมาตลอด.. ขอโทษที่รบกวนด้วย" ชายหนุ่มร่างบางบอกกับฝ่าย

" ไม่เป็นไรครับ "  เจตน์เดินไปส่งก่อนจะเปิดประตูให้ " หายเร็วๆนะ "
"อืม..ขอบใจนะ" อารยะรับคำ ก่อนจะถอนหายใจยาวออกมาเมื่อประตูห้องปิดลง

...จบลงแล้วซิ่นะ...

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ก็รู้สึก โล่งอย่างบอกไม่ถูก มันนานแค่ไหนกันที่เขาต้องทนกับความรู้สึกอึดอัด กับการปิดบัง และ การปั้นหน้าหลอกลวง ทั้งตัวเอง และ คนอื่น

...แต่ตอนนี้มันจบลงแล้ว...

อารยะยิ้ม ก่อนจะเดินไปยังลิฟท์ เพื่อลงไปข้างล่าง

===============

"บ้านคุณนี่...หลังใหญ่ จัง" เสียงทุ้มของชายชาวอเมริกัน ที่ บุตรชายคนโตของตระกูลดัง พามาที่บ้านหลังจากกลับจากอเมริกา ดังขึ้นเบาๆ
" แน่นอน บ้านฉันนี่นา มาเถอะ " มือเรียวดึงมืออีกฝ่ายให้เดินตามเขาให้เข้ามาในบ้าน 

" ให้แขกใช้ห้องนอนทิศตะวันออกนะ ติดกับห้องฉันน่ะ " ธาวินสั่งการแม่บ้าน ซึ่งเธอเองก็รับคำแล้วเดินไปอย่างรู้งาน

"พูดว่าอะไร... " เอริคว่าพลางหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย

" ให้นายมานอนห้องใกล้ๆฉันไงล่ะ " ธาวินยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์
 " นอนด้วยกันไม่ได้หรอกนะ เรื่องเราน่ะ ความลับ "

"ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่นา... " เอริคยิ้ม "ห้องไหนก็ได้อยู่แล้ว " ใบหน้าคมก้มลงไปใกล้กับใบหน้าของอีกฝ่าย กระซิบให้รู้ความหมายกันเพียงสองคน

"อื้อ  คิมจะมาแหละ "หนุ่มร่างเล็กบอกกับเอริค " อยากเจอใช่ไหมล่ะ? "

"อื้ม " เอริคยิ้มร่า "อยากเจอเหมือนกัน คนที่คุณเรียกว่า "ลูกหมา"น่ะ... ท่าทางจะน่าสนใจ "

" เล่นได้แต่ห้ามแกล้งด้วย ฉันแกล้งหมอนั่นได้คนเดียว " นิ้วเรียวจิ้มข้างแก้มคนรักเบาๆ

"ว้า... แย่จริง" เอริค หัวเราะเบาๆ "ผมไม่เล่นหรอก... คนใหม่ อย่างผม...กลัวเขาจไม่คุ้น มากัดเอาน่ะซิ่"

ท่าทางแบบนั้นของนักร้องหนุ่มชื่อดังทำให้ธาวินหันซ้าย ขวา ก่อนจะโน้มคออีกฝ่ายลงมาจูบเบาๆ
" มันไม่กัดนายหรอก มันมีเจ้าของใหม่แล้ว "

"เหรอ... แบบนั้นก็ดี... เพราะ เจ้าของเก่าคนนี้ ผมก็จองแล้วเหมือนกัน" เอริควาพลางโอบเอวบางจองอีกฝ่ายเข้ามาใกล้

" ฉันจะพาขึ้นไปดูห้องดีไหม? ตอนนี้ห้องนายแม่บ้านคงจัดการให้อยู่ ถ้าไงไปอยู่ห้องฉันก่อนก็แล้วกัน " ริมฝีปากบางกระซิบติดใบหูอีกฝ่ายอย่างยั่วเย้า

"ชัวร์... ตื่นเต้นจัง" เอริคว่าพลางถูกมือกับอกเสื้อของตัวเอง "เหมือนมาบ้านแฟนตอนเดทครั้งแรก "

" งั้นก็มาสิ " มือเรียวจูงเอริคขึ้นไปบนห้องตนเอง

==================

คอนโดของชินดนัยที่ไม่ได้มาเหยียบนานมากแล้ว เจตน์ยืนนิ่งอยู่ที่ด้านล่างของอาคารอย่างครุ่นคิดก่อนที่ช่วงชายาวจะเดินขึ้นไปตามบันได ตามทางเดิน จนกระทั่งหยุดที่หน้าประตูห้อง

นิ้วเรียวกดออดที่หน้าห้องของเพื่อนสนิท

"ครับ... " เสียงฝีเท้าหนักๆดงขึ้น ก่อนที่บานประตู จะเปิดออกรับ แขก

"อ้าว...เจตน์...ไปไงมาไง เนี่ย "

" เอ่อ ..กูมีเรื่องจะคุยกับมึง " หนุ่มร่างสูงไม่รู้จะพูดอะไร ดวงตารีสบตาอีกฝ่ายนิ่ง
แต่ก็ต้องเสมองไปทางด้านในของห้องที่ เมื่อเขาได้ยินเสียงอุทานของผู้หญิงตามมาด้วยเสียงตะหลิวกระทบกับกะทะ

"เข้ามาดิ่... " ชินดนัยว่า เขาเองก็ไม่รู้จะทำหน้า ยังไง...ดูท่าทางเพื่อนเขาจะกำลัง...ทุกข์ใจ?...ไม่ซิ่ สีหน้าแบบนี้มันเหมือนกำลังอึดอัดอะไรบางอย่างมากกว่า

" คือ.. " เจตน์ไม่รู้จะทำอย่างไร เขามาที่นี่โดยที่ไม่มีแผนสำรองอะไรไว้เลย เขาคงจะลืมไปจริงๆว่าชินดนัย กำลังคบหากับหญิงสาวสวยแผนกเลขาอยู่

" อ้าว คุณเจตน์ " หญิงสาวผมสีน้ำตาลเดินออกมาจากครัวในชุดผ้ากันเปื้อนสีชมพูอ่อน " สวัสดีค่ะ ทานข้าวหรือยังคะเนี่ย? "มือเรียวจับแขนของคนรักร่างท้วมไว้พลางยิ้มให้

"อ่ะ...วันนี้ เอิร์นเขามาทำกับข้าวให้น่ะ" ชินดนัยยิ้ม "กินด้วยกันไหมล่ะ"

" เอ่อ คือพอดีกู... " เจตน์อ้าปากจะปฏิเสธ แต่รอยยิ้มของอิศราภรณ์ทำให้เขาต้องเงียบ

"เอาน่า...เข้ามาๆ " ชินดนัยยิ้มพลางดึงแขนเพื่อนร่างสูงเข้ามา น่าแปลกที่ระยะหลังๆ เขารู้สึกว่าไม่ได้สัมผัสร่างของอีกฝ่ายแบบนี้ซักเท่าไหร่นัก

" งั้นผมขอชิมฝีมือคุณเอิร์นด้วยนะครับ " เจตน์ก้มศีรษะให้หญิงสาวเล็กๆอย่างมีมารยาท แล้วเดินเข้าไปในห้องของชินดนัยที่ราวกับว่านานเหลือเกินที่ไม่ได้มาที่นี่เลย อาจจะเป็นเพราะทุกอย่างดูแปลกตาไปหมดกับสิ่งที่คงจะเป็นหญิงสาวคนนี้ที่ทำมาตกแต่งห้องให้ชินดนัยเสียใหม่ ส่วนอิศราภรณ์ก็ขอตัวไปจัดการอาหารในครัวต่อ



"มองอะไรเล่า..มานั่งนี่มา" ชินดนัยหัวเราะกับท่าทางของเพื่อน พลาง ตบลงตรงเบาะนั่ง ข้างๆเขา

"เปล่า  กูนึกว่ามึงอยู่ห้องใหม่  " เจตน์แซว แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้ดีใจกับการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนี้เลย

"โธ่เอ้ย ยังไงก็ไม่รกเหมือนห้องมึงล่ะวะ" ชินดนัยว่าพลางใช้มือหนาตบลงบนไหล่ของอีกฝ่าย

" เอ่อ..แล้วนี่ตกลงคบกันแล้วเหรอ? " เจตน์เปลี่ยนเรื่องพลางหลบแรงที่ตบลงมาที่ไหล่

"ก็...เอ่อ..." จะพูดว่า "ตกลง" ไหมมันก็ไม่เชิง...แต่หลังจากที่ความสัมพันธ์มันมากไปกว่าเพื่อนร่วมงานเมื่อตื่นขึ้นมาพบกับตัวเองมีหญิงสาวสวยคนนี้ อยู่ในอ้อมกอด...อะไรๆมันก็ดูจะเปลี่ยนไป
ชินดนัยอึกอัก เล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลงรับโดยดี
"ก็ได้เขามาดูแล คนอ้วนๆแบบกูนี่ล่ะ...ใช่ไหม" ว่าแล้วก็หันไปหาหญิงสาวที่ยังอยู่ในครัว

มือแกร่งกำแน่น " โชคดีแฮะ ไอ้อ้วน... กูเลยแห้วเลย " ดูเหมอืนประโยคหลังเขาจะพูดกับตัวเองเสียมากกว่า

"แห้ว?...อะไรวะ...เฮ้ย ชอบเอิร์นเหรอ" ชินดนัยพูดไปเรื่อย

" เฮ้ย ไม่ใช่! " เจตน์ปฏิเสธเสียงดัง รู้สึกเจ็ลแปลบๆที่อีกฝ่ายเรียกชื่อผู้หญิงที่เพิ่งจะเอาอาหารมาวางอย่างสนิทสนม
นี่ก็คงจะ..ไปถึงไหนๆกันแล้วล่ะมั๊ง

"อ้าว..แล้วอะไรอ่ะ"ชินดนัยว่าพลางรับจานจากอายะมาส่งให้กับอีกฝ่าย

" ไม่มีอะไร กินเหอะ " เจตน์ตักบทก่อนจะตักข้าวใส่ปาก ที่จริงอาหารของหล่อนควรจะอร่อย ถ้าเขาไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้

......อกหัก.........

ท่าทางแบบนั้น มีหรือจะปิดเพื่อนที่คบกันมานาน คนนี้ได้

"ไว้...เราไปส่งเอิร์นที่สถานีด้วยกันก็แล้วกันนะเจตน์...คืนนี้มึงค้างกับกู " ชินดนัยรวบรัด
เจตน์ก้มหน้าก้มตากินข้าวของตัวเองไปโดยที่ไม่พูดอะไร ลิ้นของเขาแทบจะไม่รุ้รสแล้ว

==================

เมื่อมื้ออาหารที่เงียบเชียบเสร็จสิ้นลง ชินดนัยพูดโน้มน้าวให้อิศราภรณ์กลับบ้านได้สำเร็จ ทั้งสองคนเดินไปส่งหญิงสาวที่สถานี ก่อนจะใช้โอกาสในขากลับ เพื่อที่จะพูดคุย...เหมือนอย่างที่ได้ตั้งใจเอาไว้

"มีอะไร ไม่สบายใจ รึเปล่า " ชินดนัยถามขึ้น ดวงตาสีเข้มของชายหนุ่มร่างท้วมจ้องมองที่ปลายเท้าเมื่อพวกเขาเดินเลาะริมถนนมาเรื่อย

" เอาเบียร์หน่อยไหม? " เจตน์ถามแต่ก็เดินเลี่ยงไปยังร้านสะดวกซื้อ ได้เบียร์มาสองกระป๋องใหญ่

"อืม...มึงนี่รู้ใจกูดีจริงๆ " ชินดนัยว่าพลางหัวเราะ รับกระป๋องเบียร์เย็นๆมาจากอีกฝ่าย

" เผื่อเมาแล้วกูจะได้กล้าขึ้นมาไง " เจตน์ว่าก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่ม

"กล้าอะไร?....ทะเลาะอะไรกับพี่อาร์ตเขาอีกล่ะ " ชินดนัยพาลคิดไปเรื่อย เพราะเจตน์ก็หาเรื่องเมาแบบนี้ทุกที

" กูเลิกกับเขาแล้ว " เจตน์ตอบกลับมาสั้นๆแล้วดื่มเบียร์ไปอีกอึกใหญ่

"อ้าว...ไหงเป็นงั้นล่ะ....อ้อ... "ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่า อารยะนั้นดูจะโอนเอียงให้กับทางคิมหันต์อยู่ ก่อนแล้ว
ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ
"เอาน่า...เพื่อนกูหล่อ เดี๋ยวหาได้ดีกว่านี้อยู่หรอก "ชินดนัยว่าพลางเดินเข้าไปโอบไหล่เพื่อนเบาๆเป็นการปลอบใจ

...ที่แท้ก็อกหักจากพี่อาร์ตแล้วนี่เอง....

ขณะที่กำลังปลอบเพื่อน ใจส่วนหนึ่งก็ปลอบตัวเองอยู่ด้วยเช่นกัน

...แบบนี้ คืนนั้น ฉันเองก็ไม่น่า...
 
" กู..ต้องบอกมึงบางอย่างนะ แต่...พอเห็นมึงตอนนี้แล้ว กูไม่แน่ใจว่าจะบอกดีมั๊ย " เสียงห้าวนั้นแหบแห้ง

"บอกอะไรวะ..."ชินดนัยชักจะงง กับท่ทางของเพื่อน "คบกันมาตั้งป่านนี้ มีอะไรก็บอกกันได้...." ชินดนัยหัวเราะเบาๆ

เจตน์หันมามองหน้าอีกฝ่าย




" อ้วน ... กูชอบมึง "




talk : ในที่สุดก็มีวันนี้นะคะ  :mc4:

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
บอกทีว่าชินโดนยาสลบ ไม่ได้นอนกับเลขาจริงๆ

จะรับไม่ได้มากมายถ้าคนอย่างอารยะมีความสุข แต่ชินไม่สมหวังอ่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด