ตอนที่ 16หยางเฟิงหวง“ใช่ เฮียตัดสินใจแล้ว และคงต้องฝากนายติดต่อกับทางนั้น แม้จะดูว่าเราสองแก๊งไม่ถูกกัน แต่จริงๆมันไม่มีอะไรเลย ก็แค่เรื่องสมัยรุ่นพ่อแม่ ตอนนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว ทางนู้นเองก็พยายามหยิบยื่นไมตรีมาให้ตลอด มีแต่ทางเรานี่แหละที่ตั้งแง่ ส่วน ‘เรื่องนั้น’ ก็ผ่านมานานแล้ว แถม ณ วันนี้อะไรๆก็เลยเถิดมาขนาดนี้แล้วด้วย เอาเถอะ ยังไง.....เฮียฝากเรื่องนี้กับเฟิงหวงด้วยนะ”
สิ้นประโยคฝากฝังแกมออกคำสั่งของเฮียตี้หลงแล้ว ผมหน้าร้อนวาบและต้องหลบสายตารู้เท่าทันปนหยอกเย้าของอาเฮียทันที ส่วนในหัวก็คิดถึงหน้า ‘คนทางนู้น’ ที่เฮียพูดถึง และให้คิดไปไกลว่า ‘อะไรๆที่เลยเถิด’ น่ะหมายถึงอะไร พาลให้นึกเคืองตัวต้นเหตุร่วมที่ไม่ได้อยู่เผชิญหน้า กับการล้อเลียนของเฮียตี้หลงด้วยกัน ทำให้ผมลืมคู่รักตรงหน้าไปเลย กระทั่งได้ยินเสียงคุณธัชดุว่าที่นายใหญ่แห่งหยางหลงเหยียนเบาๆ ผมจึงเงยหน้าละสายตาจากพื้นหินอ่อน ก่อนจะได้เห็นคุณธัชโดนเฮียตี้หลงลากออกไปจะห้องรับรองในเวลาชั่วเสี้ยววินาทีต่อมา
“ร้อนแรงจริงน้าคู่นี้ นี่ถ้าคุณธัชเป็นผู้หญิง หยางหลงเหยียนคงมีทายาทสืบสกุลแบบหัวปีท้ายปีแน่ๆ ฮึๆ” ผมก็ได้แต่ขำในความมากเล่ห์ของเฮียตี้หลง ที่ขยันตักตวงความสุขจากพี่สะใภ้นัก แต่ได้เห็นคนทั้งคู่รักกันหวานชื่นแบบนี้ผมก็มีความสุขตามและสบายใจขึ้น ผิดจากเมื่อห้าวันก่อนลิบลับ ด้วยทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องหึงหวงโดยมีจางกุ้ยหลินเป็นเหตุ ถึงขั้นคุณธัชไข้ขึ้นและเฮียตี้หลงเองก็ต้องวิ่งวุ่นดูแลคนรักไม่ห่าง แต่เมื่อปรับความเข้าใจกันได้แบบนี้ก็ดีที่สุดแล้ว
“แล้วจะเอายังไงล่ะทีนี้ เป็นคนยื่นบทลงโทษให้เองแท้ๆ ต้องผิดคำพูดเองรึไงกัน เฮ้อออ” ผมถอนใจยาวเมื่อกลับมาถึงนึกสิ่งที่เฮียตี้หลงพูดไว้
ด้วยขณะนี้ผมได้รับมอบหมายให้คุยกับเฮียหลี่ เพื่อหาที่พักใหม่ให้กับคุณธัช เพื่อให้แผนแทรกซึมแก๊งจินหมิงดำเนินไปอย่างราบรื่น และไม่ให้จางจินหู่ผิดสังเกตไปมากกว่านี้ แค่นี้พยัคฆ์ทองคำเจ้าเล่ห์ก็คงสงสัยไม่น้อย ที่คุณธัชต้องพักร่วมบ้านกับเรา ทั้งๆที่ทำธุรกิจกับจินหมิงแท้ๆ และสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับคุณธัชก็คงต้องเป็นของแก๊งหวางหย่งกัง ด้วยอย่างน้อยให้จินหู่ยำเกรงบ้างก็ยังดี และจินหู่เองก็คงไม่หาเรื่องทำร้ายคุณธัช ภายใต้ปีกของแก๊งมาเฟียอันดับหนึ่งหรอก
ผมจะไม่มานั่งหนักใจแบบนี้เลย ถ้าไม่มีสมองอันชาญฉลาดและประเมินได้ถึงความเสียเปรียบ ที่อาจจะเกิดจากการต่อรองกับเฮียหลี่เพื่อขอที่พักให้คุณธัช เจ้าพ่อใหญ่อย่างหวางหลี่จวินนั้นต้องไม่ยอมเสียเปรียบแน่ๆ และคงต้องหวังกอบโกยผลประโยชน์จากผมไม่น้อย แต่อย่าเพิ่งคิดกันไปว่าผมจะมาเล่นตัวอะไรตอนนี้ ทั้งๆที่ก็ ‘เลยเถิด’ ตามที่ได้ยินเฮียตี้หลงแซวผมไปแล้ว
นี่ยังดีนะครับที่เฮียตี้หลงรู้แค่คนเดียวว่าผมนั้นเป็นคนของตระกูลหวางเต็มตัวไปแล้ว ด้วยช่วงสายของวันที่ผมไปค้างที่คฤหาสน์หวาง กลับมาถึงบ้านดันเจอเฮียตี้หลงที่เดินมาส่งหมอเก่อที่หน้าบ้านเข้าพอดี และแค่เฮียตี้หลงกวาดตามองผมอย่างสำรวจก็เข้าใจเรื่องราวทะลุปรุโปร่งแล้วครับ เพราะผมไม่เคยปิดบังแฝดพี่คนนี้ได้ เหมือนที่เฮียตี้หลงเองก็ไม่เคยปิดบังความลับจากผมได้เช่นกัน
ผมขอแก้ตัวหน่อยเถอะว่าผมไม่ได้คิดจะเล่นตัวนะครับ เพราะการร่วมรักกับคนรักก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แถมผมนั้นมีความสุขมากๆเลยด้วยซ้ำ ผมแค่อยากให้พญามังกรเจ้าเสน่ห์ได้รับบทลงโทษให้ครบตามที่เอ่ยปากไว้เท่านั้นเอง เพราะเฮียหลี่จะได้จดจำบทเรียนนี้ไว้ ไม่ให้มันเกิดขึ้นมาทำร้ายจิตใจผมได้อีก แต่เมื่อมันไม่มีทางเลี่ยงผมจึงต้องติดต่อไปหาเฮียหลี่ด้วยตัวเอง ซึ่งผลก็ไม่ต่างจากที่คิดไว้จริงๆ ด้วยเฮียหลี่อยากให้ผมเข้าไปพูดคุยด้วยตัวเองที่คฤหาสน์หวาง!!
“เรื่องที่อยู่ของมิสเตอร์ธนอรรถน์ไม่มีปัญหาครับ แต่ว่าเฮียมีข้อแลกเปลี่ยน....[เหอะ! ว่าแล้วเชียว]....ฮึๆ ก็เราเป็นมาเฟียนี่ครับ ให้ง่ายๆก็ไม่สมกับสถานะที่เป็นสิ จริงมั้ย” อาการของผมตอนนี้เรียกว่าค้อนตาคว่ำครับ ก็ฟังมาเฟียใหญ่เค้าพูดสิข้ออ้างชัดๆเลยจะไม่ให้ผมหมั่นไส้ได้อย่างไร แถมคนที่เตรียมยื่นข้อแลกเปลี่ยนยังหาเศษหาเลยกับผมอีก ด้วยการรวบเอวและยกตัวผมให้ขึ้นไปนั่งบนตัก จนผมเห็นสายตาวิบวับเจ้าเล่ห์ถนัดตาเชียวล่ะ แต่ข้อแลกเปลี่ยนของเฮียหลี่กลับทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย และถึงกลับเหวอลืมปัดป้องจมูกโด่งๆ ที่ฉวยโอกาสโน้มเข้าหาเพื่อขโมยกลิ่นแก้มของผมไป
“ฟอดดด....ฮึๆ อะไรกันครับ หงส์น้อยแปลกใจขนาดนั้นเชียว แค่เฮียยอมรับโทษต่อ ไม่ยอมผิดคำพูดที่รับปากไว้เองนะครับ แต่อีกสามวันหลังหมดโทษ หงส์น้อยต้องมาค้างที่นี่สามคืนนะครับ ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนระหว่างเราแล้วกัน และเป็นรางวัลของ ‘ปาปา’ ที่ยอมตามใจรับโทษจาก ‘มามา’ นะครับ” รอยยิ้มกว้างเจิดจ้าของเฮียหลี่ทำผมหน้าไหม้และซ่อนยิ้มแทบไม่ทัน กับการออดอ้อนปนเจ้าเล่ห์ของคนที่หาประโยชน์เข้าตัว และทำให้คิดไปไกลว่าสามคืนที่ผมต้องมาค้างที่นี่จะต้องเจอกับอะไรบ้าง เพราะดูสายตาวิบวับส่อแววของเฮียหลี่ก็รู้แบบไม่ต้องเดาแล้วครับ
ในความเขินก็ยังมีความภูมิใจในตัวคนตรงหน้าอยู่ด้วย ที่เฮียหลี่ไม่คิดจะยกเลิกบทลงโทษของผม ซึ่งยอมรับโทษต่อแต่โดยดี เป็นผลให้ผมตอบตกลงคำชวนทานอาหารเย็นของเฮียหลี่ในวันนี้อย่างไม่อิดออด เพราะถือซะว่าให้รางวัลในความซื่อสัตย์ของปาปาของลูก และบรรเทาความคิดถึงของตัวเองที่มีต่อลูกฝาแฝดด้วยครับ ซึ่งผมก็รู้ว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ เพราะเสียงหัวเราะและใบหน้ายิ้มแย้มของหลี่ผิงกับเหมยอิงที่ผมได้เห็น ยามที่ผมไปรับทั้งคู่กลับจากโรงเรียนพร้อมเฮียหลี่นั่นไงครับ แถมมื้อเย็นในวันนี้ก็เป็นมื้อที่ผมอิ่มใจและมีความสุขที่สุด ที่ได้ร่วมโต๊ะพร้อมหน้ากับคนที่เรียกว่าครอบครัวสำหรับผม ‘พ่อ แม่ และลูก’ อบอุ่นใจชะมัดแหะ!!
..................................................
“ว่าไงครับคนเก่ง ทำไมยังไม่นอนล่ะ มองหน้ามามามีอะไรครับ หืม” ผมลูบหัวน้อยๆที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมละเอียดของหลี่ผิง หลังจากส่งคำถามให้เจ้าตัวเมื่อเจอตาแป๋วๆจับจ้อง ยามเงยหน้าขึ้นจากหนังสือนิทานในมือ และนึกแปลกใจว่าทำไมหลี่ผิงถึงไม่มีแววง่วงนอนสักนิด ทั้งๆที่ผมเล่านิทานจบไปถึงสามเรื่อง พอเหลือบมองไปอีกเตียงที่อยู่ข้างกันก็พบว่าเหมยอิงกอดตุ๊กตาหมีขาวตัวโตหลับตาพริ้มไปแล้ว
“หลี่ผิงอยากมองหน้ามามาเฟิงหวงนานๆ ตุนเอาไว้เยอะๆ เผื่อไว้ตอนที่มามาไม่อยู่จะได้ไม่คิดถึงมากไงครับ” แววตาใสซื่อกับประโยคจริงใจง่ายๆของหลี่ผิง ทำให้ผมชะงักมือที่ลูบหัวลูกชายและมีอาการใจกระตุกนึกสงสารหลี่ผิงจับใจ เพราะคำพูดของลูกนั้นแสดงให้เห็นว่าไอ้ตัวน้อยของผมคงโหยหาความรักของคนที่เป็นแม่มาก พอมีผมเข้ามาอยู่ในสถานะนี้ก็ทำให้เจ้าตัวยึดติด และต้องการความรักทดแทนช่วงเวลาที่ขาดไป ผมคลี่ยิ้มใส่ตาใสๆคู่ตรงหน้าก่อนบรรจงจูบหน้าผากมน
และกอดร่างน้อยๆไว้แน่นพร้อมกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูของหลี่ผิง ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบที่ผมไม่เคยใช้กับใครมาก่อน
“หลี่ผิงครับ มามายังไม่ไปไหนหรอก ยังอยู่ให้หลี่ผิงมองหน้าอีกหลายวันเลย ตอนนี้นอนก่อนนะครับคนเก่ง มันดึกแล้ว” หลังจากประโยคโน้มน้าวแล้ว ผมก็ผละจากร่างน้อยและคลี่ยิ้มปลอบโยน ก่อนร้องเพลงกล่อมเด็กคลอเบาๆพร้อมลูบหัวหลี่ผิงไปด้วย จนกระทั่งตาโตๆค่อยๆหรี่ปรือและปิดสนิทในที่สุด ผมจึงก้มลงจูบหน้าผากหลี่ผิงอีกที และทำแบบเดียวกันนี้กับลูกสาวตัวน้อยที่อยู่อีกเตียง พร้อมคำอวยพรให้ลูกๆฝันดี
“กู๊ดไนท์นะครับเด็กๆ” ผมยืนมองร่างเล็กของทั้งคู่สลับไปมา ก่อนถอนใจแผ่วเบาแต่ยาวเหยียดด้วยความหนักใจ ด้วยนึกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของเด็กน้อยทั้งคู่ดีเชียวล่ะ ว่าไอ้ความรู้สึกโหยหาความรักความอบอุ่นจากแม่น่ะเป็นยังไง ระหว่างที่ผมหมุนตัวเตรียมเดินออกจากห้องลูกๆนั้น ใบหน้าผมก็ปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้าง จนต้องอุทานออกมาเบาๆ ก่อนถูกรวบกอดและรั้งเอวจากเจ้าของแผ่นอก และพาออกนอกห้องลูกๆในเวลาต่อมา
“อ๊ะ!... / หงส์น้อย! เป็นอะไรไปครับ หืม” เมื่อออกมานอกห้องแล้ว ผมก็หมุนตัวพลิกหน้าเข้าหาอกของเฮียหลี่ และกอดรอบร่างแกร่งไว้แน่น จนเจ้าของอ้อมกอดอุ่นจัดที่รวบกอดร่างผมตอบนั้น เรียกชื่อผมอย่างตกใจ ก่อนประโยคคำถามแสดงความห่วงใยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจะตามมา ทำให้หัวตาผมร้อนผ่าวจนน้ำตาซึมที่ขอบตา และพูดในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะพูดออกไป
“เฮียหลี่แต่งงานกับผมนะ... / ห้ะ! ว่ะ ว่าไงนะครับหงส์น้อย แต่งงานเหรอ!?” ไหล่ผมถูกดันออกจากอกอุ่นทันที ด้วยฝีมือเจ้าของอ้อมกอดที่ผมใช้ซับน้ำตา หลังจากผมเอ่ยประโยคนั้นจบลง
เฮียหลี่ตาเบิกกว้างสีหน้าตกใจแววตาฉายชัดว่ามึนงงปนสับสน ก่อนจะละล่ำละลักถามผมออกมาด้วยความไม่แน่ใจ ทำให้ผมรู้สึกตัวทันทีว่าพูดอะไรออกไป ใบหน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง และเสหลบตา ก่อนจะพยักหน้าเบาๆเป็นการยืนยัน แม้ผมจะตกใจที่เอ่ยปากขอเฮียหลี่แต่งงานก่อนด้วยตัวเอง แต่ผมก็ไม่นึกเสียใจนะครับ เพราะแค่คิดถึงใบหน้าของสองแฝดเมื่อสามวันก่อน ที่พอลูกๆรู้ว่าผมต้องกลับบ้านหลังส่งลูกเข้านอนแล้วนั้น ลูกๆที่มีสีหน้าเศร้าหงอยและดวงตาก็เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ช่างน่าสงสารจับใจนัก บวกเข้ากับถ้อยคำของหลี่ผิงเมื่อครู่ด้วยแล้ว ทำให้ผมตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะไม่ค้านสิ่งที่ตัวเองหลุดพูดขอแต่งงานเฮียหลี่ออกไป ซึ่งก็เหลือแต่คนตรงหน้านี่แหละว่าจะเอ่ยตกลงกับผมรึเปล่า ระหว่างที่ผมเบือนหลบแววตาสงสัยปนตกใจของเฮียหลี่นั้น ก็ไร้ซึ่งเสียงใดๆรอบตัว จนกระทั่งมีนิ้วอุ่นๆเชยปลายคางให้ผมหันกลับไปเผชิญหน้า กับคนที่ผมเพิ่งขอแต่งงาน เฮียหลี่คลี่ยิ้มอ่อนโยนใส่ตาผม และส่งนิ้วมาไล้เกลี่ยรอยชื้นที่ปลายหางตา ก่อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกแฝงแววอ่อนโยน
“รู้ใช่มั้ยว่าเฮียหลี่รักหงส์น้อย แต่เฮียจะยังไม่เอ่ยตกลงคำขอแต่งงานหรอกครับ ทั้งๆที่ใจจริงเฮียอยากตกลงแต่งด้วยใจจะขาด ขอเฮียรู้เหตุผลของหงส์น้อยก่อนได้มั้ย ว่าทำไมถึงแย่งซีนพระเอกอย่างเฮีย เอ่ยขอแต่งงานในตอนนี้กัน....ว่าไงครับ” ผมจ้องแววตาอ่อนโยนแฝงแววให้กำลังใจของเฮียหลี่เขม็ง และค่อยๆคลายริมฝีปากที่เม้มไว้ออก ก่อนเอ่ยความในใจออกไป ด้วยตัดสินใจดีแล้ว
“ผมสงสารลูกๆ อยากเข้ามาดูแลและให้ความรักที่พวกแกโหยหา ผมไม่อยากเห็นหลี่ผิงกับเหมยอิงเศร้าเลยครับ เห็นทีไรใจไม่ดีเลย” แววตาอ่อนโยนของเฮียหลี่ฉายแววผิดหวังวูบหนึ่ง ก่อนจะกลับมาแจ่มใสภายในเสี้ยววินาที แต่รอยยิ้มอ่อนโยนที่มีให้ผมก็ยังคงประดับอยู่บนเรียวปากไม่จางหาย
“เฟิงหวง ฟังเฮียนะครับ หลี่ผิงกับเหมยอิงน่ะเป็นลูกพญามังกร ลูกอาจจะดูน่าสงสารในสายตาหงส์น้อย เพราะใจนั้นผูกพัน และคิดไปแล้วว่าหงส์น้อยจะมาเป็นมามาของเจ้าตัวในเร็ววันนี้ ซึ่งมันเป็นความผิดของเฮียเอง ที่ใส่ความคิดนี้ให้กับลูก แต่เชื่อเถอะครับ ลูกมังกรอย่างหลี่ผิงและเหมยอิงนั้นเข้มแข็งกว่าที่เห็น ยังไงทั้งคู่ก็มีความอดทนมากพอ และรอมามาเฟิงหวงได้เสมอ เฮียกับลูกคงคิดไม่ต่างกัน และเฮียเองก็ไม่อยากให้หงส์น้อยแต่งงานกับเฮียเพราะสงสารลูก ทั้งๆที่ตัวเองยังไม่พร้อม เฮียรอหงส์น้อยมาตั้งนาน ทำไมจะรออีกนิดไม่ได้ล่ะครับ”
ผมหยุดหายใจไปชั่วขณะ หัวใจในอกก็เต้นแผ่วเบา แต่หัวสมองกลับหมุนติ้วคิดตามคำพูดของเฮียหลี่ให้วุ่น พร้อมจ้องใบหน้าอ่อนโยนของคนตรงหน้าอย่างค้นคว้า ด้วยสงสัยว่าทำไมเฮียหลี่ที่ดูเหมือนรักผมมาก ถึงไม่ยอมตอบตกลงคำขอแต่งงาน ทั้งๆที่โอกาสการเป็นเจ้าของผมอย่างสมบูรณ์นั้นอยู่ตรงหน้าแท้ๆ จนนึกน้อยใจตามมาและพาลให้คิดไปไกลว่าเฮียหลี่นั้นหมดรักกันไปแล้ว แต่แววตาอ่อนโยนที่ผมจับจ้องมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ผมคิดนัก ผมจึงทบทวนคำพูดที่เพิ่งได้ยินอีกครั้งในใจ ก่อนปฏิกิริยาทางกายที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา จะเกิดปฏิกิริยาที่ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ด้วยผมหายใจถี่แรงมีผิวแก้มร้อนผ่าว หัวใจก็เต้นรัวแรงแทบกระดอนออกนอกอก หัวสมองที่เคยคิดหาคำตอบก็ค่อยๆหมุนช้าลงจนหยุดนิ่ง เพราะคำตอบที่ผมได้นั้นมันไม่ต้องใช้สมองคิดสักนิด ด้วยผมใช้หัวใจเปิดรับคำตอบแทนสมองนั่นเอง
วันนี้ เวลานี้ ขณะนี้ ผมภูมิใจในตัวเองชะมัดที่คิดรักคนไม่ผิด ‘ผมรักหวางหลี่จวิน’ มาเฟียใหญ่แห่งหวางหย่งกังนัก คนที่มีอำนาจเหลือล้นอยู่เหนือคนทั่วเกาะฮ่องกง สามารถชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้ และเป็นคนเดียวกับผู้ชายมาดนิ่งมากเสน่ห์แฝงความเจ้าเล่ห์แพรวพราว แถมเป็นยอดนักต่อรองและฉกฉวยประโยชน์ตัวยง คนๆเดียวกันนี้กลับไม่เคยใช้สิ่งเหล่านั้นกับผม เพื่อตอบรับคำขอแต่งงาน กลับเลือกที่จะรอให้ผมพร้อมและต้องการมันจากใจ ไม่ใช่เพียงแค่ผมนึกสงสารลูกๆจนอยากเข้ามาเป็นมามาให้ลูกเท่านั้น ทำให้ผมรู้ซึ้งคำว่า ‘รัก’ ของเฮียหลี่ก็ตอนนี้เอง ว่ารักนั้นมาจากใจไม่ใช่เพียงแค่ลมปาก และความต้องการของร่างกาย แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมรักเฮียหลี่เพิ่มขึ้นได้อย่างไรล่ะครับ
“ก็ได้! ในเมื่อเฮียไม่ตกลงแต่งงานกับผม งั้นคุกเข่าลง เร็วสิครับ คุกเข่าลง!!...ฮึๆ” ผมหัวเราะอย่างถูกใจหลังจากแกล้งตีหน้าขรึมพร้อมข่มขู่ จนเฮียหลี่ยอมทำตามคำขู่ของผม ด้วยการคุกเข่าลงทั้งสองข้างอย่างเงอะงะ แววตาเคลือบแคลงสงสัยชัดเจน ผมจึงส่งยิ้มหวานให้กำลังใจผู้ชายรูปหล่อที่ว่าง่ายที่สุดสำหรับผม ก่อนเอื้อมมือกุมฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างไว้ และเอ่ยปากในสิ่งที่ตัวเองมั่นใจแล้วว่าเป็นความต้องการของหัวใจ
“ผมพร้อมแล้ว ขอแต่งงานผมสิครับ....[หือออ!?]....ผมรักเฮียหลี่ และพร้อมแล้วที่จะมาช่วยเฮียดูแลหลี่ผิงกับเหมยอิง เหตุผลแค่นี้พอรึยังกับการที่เฮียจะเอ่ยปากขอผมแต่งงานน่ะ” ใบหน้าหล่อเหลาของเฮียหลี่เปลี่ยนจากมึนงงสับสนเป็น
กระจ่างใส ด้วยรอยยิ้มกว้างและมีแววตาสดใสระยับพราวทันทีที่ผมให้เหตุผลจบลง
แต่แล้วในเวลาต่อมาก็ต้องกลายเป็นคนปากดีอย่างผมซะเอง ที่มีอาการตกใจคาดไม่ถึง เมื่อเฮียหลี่ควักกล่องกำมะหยีสีน้ำเงินเข้มออกจากกระเป๋ากางเกง ก่อนเปิดกล่องและยื่นมันขึ้นมาตรงหน้าผม จนแสงเพชรระยิบระยับล้อแสงไฟส่องกระทบตา ผมเหลือบมองหน้าเฮียหลี่นิดด้วยกำลังชั่งใจว่านี่มันเรื่องบังเอิญหรืออย่างไร ‘คนอะไรพกแหวนเตรียมพร้อมขอแต่งงานตลอดเวลา’ เฮียหลี่มองหน้าผมก่อนหัวเราะในลำคอเบาๆ เหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
“เฮียเพิ่งได้แหวนมาวันนี้เองครับ ก็จากงานที่เราไปเมื่อสามวันก่อนนั่นไง และไม่คิดว่าจะได้ใช้มันขอเฟิงหวงแต่งงานตอนนี้....อะแฮ่ม!....เฟิงหวงครับ เฮียหลี่รักเฟิงหวงมาก ขอโอกาสให้เฮียได้ดูแลช่วงชีวิตที่เหลือทั้งหมดของเฟิงหวง และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเฟิงหวงตลอดไปได้มั้ย แต่งงานกับเฮียนะครับ” เฮียหลี่ขอผมแต่งงานด้วยสีหน้าจริงจังผิดเคย จนผมนึกขำและเมินมองไปทางอื่น ด้วยอยากแกล้งมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ดูบ้าง เฮียหลี่อยากไม่ตอบรับคำขอแต่งงานของผมแต่แรกเองนี่หน่า
เมื่อผมเหล่ตากลับมามองคนที่นั่งคุกเข่า พบว่าเฮียหลี่เองกลับเลิกคิ้วอมยิ้มแก้มตุ่ยไม่ทุกข์ร้อนสักนิด ทำให้ผมรู้ว่าการแกล้งครั้งนี้ของผมไม่ได้ผล ผมจึงยื่นมือซ้ายไปตรงหน้า ก่อนตอบรับคำขอแต่งงานด้วยสีหน้างอนๆ
“ครับ ผมจะแต่งงานกับเฮีย ฝากตัวด้วยนะครับ” ความเย็นจากทองคำขาวสัมผัสที่ปลายนิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งความเย็นนั้นก็ค่อยๆเคลื่อนขึ้นมาจากปลายนิ้วอย่างช้าๆ ผิดจากอุณหภูมิของหัวใจที่อุ่นจนเกือบร้อน และเริ่มแผ่กระจายความอบอุ่นไปทั้งกาย จนกระทั่งความเย็นนั้นมาอยู่รอบนิ้ว พร้อมกับหัวคิ้วของผมที่คลายออก ก่อนเปิดรอยยิ้มที่ผมคิดว่าหวานที่สุดใส่ตาคู่ชีวิตหมาดๆ เฮียหลี่ลุกขึ้นมารวบกอดผมเข้าหาอก ผมจึงวาดมือโอบรอบเอวหนาและซบหน้าลงกับลาดไหล่
“ขอบคุณครับหงส์น้อยที่ไว้ใจเฮียในดูแลชีวิตที่เหลือ เฮียหลี่ก็ฝากตัวและหัวใจกับหงส์น้อยด้วยนะครับ” รอยสัมผัสอุ่นชื้นประทับนิ่งกลางหน้าผาก ทำให้หัวใจผมเต้นรัวแรงและเผลอพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ ก่อนคางผมจะถูกเชยขึ้นให้สบแววตาอ่อนหวานของเฮียหลี่ และจุมพิตผนึกสัญญาก็ตามมาอย่างนุ่มนวล
แม้จุมพิตนี้จะไม่ได้ลึกซึ้งพาให้ร่างกายสั่นไหว แต่กลับสร้างความอบอุ่นใจและความสุขให้ผมได้มากกว่าจูบครั้งไหนๆ และจะว่าไปแล้ว จูบครั้งนี้ก็เปรียบดัง ‘จูบสาบาน’ ในพิธีแต่งงานหลังสวมแหวนของคู่บ่าวสาวไม่มีผิด ซึ่งผมได้สัญญากับตัวเองว่าจะรักและดูแลผู้ชายคนนี้ด้วยชีวิต ไม่ว่าจะยามสุขหรือทุกข์เฮียหลี่จะมีผมเคียงข้างเสมอนับแต่นี้และตลอดไป และผมก็คิดว่าเฮียหลี่คงคิดไม่ต่างจากผมนัก ไม่อย่างนั้นคงไม่รอผม จนเรากลับมาพบและรักกันอีกครั้งหรอกครับ!?
..........................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
คนสวยเค้าขอแต่งงานเองเลย งานนี้เฮียหลี่คงต้องให้รางวัล
ลูกชายลูกสาวซะแล้ว ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เฟิงหวงเอ่ยปากเอง
แต่ก็นะ ถ้าไม่รักถึงเด็กๆจะน่าสงสารแค่ไหน เฟิงหวงคงไม่ยอม
ง่ายๆหรอก และตอนนี้ก็เป็นคำตอบในเรื่องบ่วงรักพญามังกร
ว่าอะไรคือรางวัลที่รอเฮียหลี่อยู่ถึงได้รีบกลับ หลังจากที่เฮียหลี่
ไปส่งเฮียธัชที่คอนโด ซึ่งเปรียบได้กับช่วงฮันนีมูนของคู่นี้นั่นเองค่ะ
ตอนหน้าจะมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ทั้งเรื่องดีและเรื่องที่น่าตกใจ
ดังนั้นจึงห้ามพลาดค่ะ เจอกันวันพุธนะคะ
ขอแจ้งว่าเมื่ออัพนิยายวันพุธแล้วจะขอยื่นใบลานักอ่านที่น่ารักทุกท่าน
เพื่อเดินทางครั้งใหญ่ของชีวิต จะกลับมาอัพอีกทีต้นเดือนหน้าเลยค่ะ
เมื่อร่างกายพร้อมจะรีบมาอัพแบบด่วนๆเชียวล่ะ
ขอประชาสัมพันธ์การรวมเล่มนิยายเรื่อง “บ่วงรักพญามังกร” ค่ะ
ใครสนใจสามารถติดต่อเข้ามาได้เลยนะคะ รวมทั้งสอบถามรายละเอียด
นิยายชุด “บ่วงรัก” ได้ค่ะ (บ่วงรักพญามังกร , บ่วงหงส์ , บ่วงรักรุ่นเล็ก)
เปิดจอง & โอน หนังสือชุดบ่วงรักตั้งแต่ วันนี้ ถึง 30 เม.ย. 561.บ่วงรักพญามังกร >>> เฮียธัช+ตี้หลง 60 ตอน + 7 ตอนพิเศษ (มีทั้งคู่ เฮียธัช+ตี้หลง และ ธี+ภีม)
1.ไอติม 2.น้ำยาดี 3.ผิดใจ 4.รักไม่เปลี่ยน 5.ง้อเมีย 6.ฉลองชัยชนะ 7.วาเลนไทน์(ไม่)เดียวดาย
จำนวน 900 หน้า ต่อ 2 เล่ม ราคาเล่มละ 400 บาท 2 เล่ม 800 บาท
เนื้อใน กระดาษถนอมสายตา พิมพ์ขาวดำ ปก กระดาษอาร์ตการ์ด 270 แกรม พิมพ์ 4 สี 1 ด้าน เข้าเล่ม ไสกาว
*มีที่คั่นหนังสือให้ทุกเล่ม
ติดต่อได้ทางPM หรือเมล miss-u_novel แอท hotmail.co.th
จะแจ้งรายละเอียดทั้งหมดให้ทราบค่ะ