เชลยเจ้าหัวใจ (จีนโบราณ) By Pita : ตอน พิเศษ 12/4/14 P20
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เชลยเจ้าหัวใจ (จีนโบราณ) By Pita : ตอน พิเศษ 12/4/14 P20  (อ่าน 196760 ครั้ง)

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง
ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,
ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง
ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก
ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ
กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว
ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง
ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะ
เสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น
คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว
ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย
และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย
เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ
ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ
ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ
โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-04-2014 04:46:25 โดย pita »

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
### ตัวละคร ###


อู๋ อี้ ฟาน    (อู๋อ๋อง)      ผู้ปกครองแคว้นอู๋ นักรบที่ได้ฉายาว่า “มังกรไร้ใจ” ฝีมือการรบไร้เทียมทาน แต่กลับเป็นคนเย็นชา
                                  เพราะอดีตบางอย่าง

ฮวาง จื่อ เทา              อ๋องน้อยแห่งแคว้นเย่ว นิสัย มุทะลุ กล้าได้กล้าเสีย รักพวกพ้อง


เฉิน                          องค์รักษ์ของ จื่อเทา  พูดน้อย  ซื่อสัตย์


ซิ่วหมิ่น                    อ๋องน้อยแห่งแคว้นอู๋ น้องชายต่างแม่ของ อี้ฟาน ร่าเริง มองโลกในแง่ดี


ลู่ห่าน                        ชายาคนรองของเย่วอ๋อง


เย่วอ๋อง  (ฮันเกิง)      ผู้ปกครองแคว้นเย่ว พ่อของจื่อเทา


 อี้ ชิง                        องค์รักษ์และคนสนิทของ อี้ฟาน




 บทนำ
   

 วสันต์ฤดูเพิ่งผ่านพ้น
   
       เหล่าไพร่พลสองแคว้นเข้าห้ำหั่น
 
       สงครามก่อยื้อแย่งแผ่นดินกัน
 
       ต่างมุ่งมั่นต่อตีไม่มีเกรง


ห้าปีผ่านแต่การยังคงอยู่

      สองแคว้นสู้สูสีไม่หนีหาย

      แม้จักเสียไพร่พลจนวอดวาย
 
      แต่มิคลายความแค้นแน่นอุรา


องค์ชายน้อยด้อยนักในการศึก

      แม้นจักฝึกยุทธการนานหนักนา

      แต่กลับพ่ายจากฝ่ายเจ้านครา

      ผู้เก่งกาจศาสตราอาวุธมี

       

ตกเป็นเพียงเชลยผู้ต่ำต้อย

     ยังต้องคอยถูกเหยียบย่ำช้ำหนักนา

      แต่ศักดิ์ศรีแห่งหน่อเนื้อขัตติยา

      ย่อมมิอาจเสียน้ำตาแม้หยดเดียว





......................................................................

จีนโบราณแต่กลอน กรุงศรีสุดๆ ฮ่าๆๆ
แต่งได้เท่านี้หลังจากที่ไม่ได้แต่งมาเกือบสิบปี  :laugh:
ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ
       
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2013 13:57:14 โดย pita »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เย้ๆๆๆ ชอบๆแนวจีนโบราณ

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
เหมือนรีบน อิอิ รออยู่นะ  :z2:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ชื่อตัวลรตคุ้นๆแฮ้ะ

zodiacniing

  • บุคคลทั่วไป
ว้าวๆ รอต่อน้า ชอบๆ :mc4:

ออฟไลน์ vanny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
 :mc4: :mc4: :mc4:

ต้อนรับเรื่องใหม่ รอติดตามค่ะ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
วิ่งมาเกาะขอบเลยจ้ะ


ชอบมากค่า  o13

ออฟไลน์ O[]OVampire

  • เพียงเธอสบตา...แทบลืมหายใจ เพียงเธอ...จากไป...ตราบชั่วลมหายใจ ...ไม่ลืม
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
มาปูพรมรอ ชอบแนวนี้สุดๆ

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
อัยยะ ท่านอ๋อง :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ชี้แจง แม้ว่าเรื่องนี้เป็นนิยา จีนโบราณ แต่เพื่อความมันส์ และความเข้าใจ พิตจะไม่ใช้ศัพท์ที่มันดูโบราณากจนเกินไปนักนะคะ
แอบเห็นว่ามีคนถามว่าทำไมชื่อ ตัวละคร คุ้นๆ บอกก่อนว่าพิต เอามาจากแฟนฟิค ของตัวเอง ฮ่าๆๆ

เด็กน้อยในตลาด


ปลายฤดูฝนบนถนนการค้าในแคว้นอู๋ ผู้คนต่างออกมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคับคั่ง แม้ว่าแคว้นอู๋จะเป็นเพียงแคว้นเล็กๆแต่กลับมีสภาพบ้านเมืองที่เจริญรุ่งเรืองเนื่องจากการค้าขายกับต่างชาติ ทั้งต้าชิง โซซอน หรือแม้แต่แคว้นที่อยู่ไกลออกไปในโพ้นทะเลอย่างเซียนหลัว ความมั่งคั่งของการค้าทำให้แคว้นอู๋กลายเป็นแคว้นที่มีอิทธิพลทั้งทางการเมือง รวมถึงการทหารไปด้วย
เสียงอึกทึกกึกก้องของฝีเท้าม้านับสิบตัวทำเอาชาวบ้านที่กำลังจับจ่ายอยู่ต่างหยุดชะงัก อาชาตัวใหญ่พ่วงพีต่างห้อตะบึงเข้ามาในเมืองอย่างรวดเร็ว แม้นจะอยู่ท่ามกลางทหารนับสิบคนแต่ร่างสูงที่สวมอาภรณ์สีดำทั้งร่างกลับโดดเด่น จนผู้คนต้องเหลียวมอง  ใบหน้าเฉยชาราว แต่แฝงไปด้วยอำนาจและความน่าเกรงขาม  เขาคือบุรุษผู้มีฉายาว่า มังกรไร้ใจ ชายผู้ที่ไม่เคยแยแสให้กับสิ่งใด ผู้ที่ที่อยู่บนจุดสูงสุดของแคว้นอู๋    “อู๋  อี้ ฟาน “ หรือ อู๋อ๋อง ผู้ปกครองสูงสุดของแคว้น





ร่างเล็กๆของเด็กผู้ชายอายุราวๆสิบสามสิบสี่ที่ยืนอยู่บนกำแพง มองชายหนุ่มบนหลังม้าอย่างไม่วางตา แววตาชื่นชมเผยให้เห็นชัดเจน จนชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆต้องกระตุกชายเสื้อกันลมเบาๆ  เพราะถึงเวลาที่ต้องกลับซักที

“อ๋องน้อย ได้เวลากลับแล้วนะขอรับ”  ชายหนุ่มหน้านิ่งเอ่ยบอกกับร่างเล็กด้วยท่าทางนอบน้อม

“เฉิน ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าถ้าอยู่นอกแคว้นห้ามเรียกข้าอย่างนั้น ทำไมเจ้าถึงจำไม่ได้เสียที”

“ขออภัยขอรับ คุณชาย” ท่าทางที่ดู เคร่งขรึมขององครักษ์หน้าตายทำเอาเจ้านายร่างเล็กต้องส่ายหน้าอย่างเอือมระอา หากว่าเฉินจะมีท่าทางผ่อนคลายมากกว่านี้  คนตรงหน้าอาจจะเป็นเพื่อนเล่นที่น่าอยู่ด้วยกว่านี้มาก

“แต่ถึงเวลาที่เราทั้งคู่ต้องกลับโรงเตี๊ยม แล้วนะขอรับ”

“ ข้าขอดูต่ออีกสักครู่ได้หรือไม่” ร่างเล็กเอ่ยปากขอร้อง

“ไม่ได้ ขอรับ ” เสียงเข้มงวดบอก ก่อนจะจ้องร่างเล็กเขม็ง สายตาที่ไม่ฉายแววใดๆนอกจากความเข้มงวดทำให้ อ๋องน้อย เริ่ม หมดสนุก

“เฮ้อ ท่านพ่อช่างคิดถูกจริงๆที่ส่งเจ้ามาเป็นองครักษ์ข้า เจ้าเข้มงวดจนข้าต้องกลัวจริงๆ ”
ร่างเล็กกระโดดลงจากกำแพงอย่างเสียมิได้ ริมฝีปากขมุบขมิบไม่พอใจกับความเข้มงวดขององครักษ์ที่เหมือนกับผู้คุมเสียมากกว่า


ร่างเล็กเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนก่อนจะยกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ เมื่อเห็นว่าผู้คุมหน้านิ่งกำลังเผลอ
“อ๋องน้อย”  แอบหลบเข้าไปตรอกแคบก่อนจะรีบหลบให้พ้นสายตาผู้คุม ทันที

“ข้าขอโทษนะเฉิน เจ้าต้องโทษตัวเองนะที่เข้มงวดกับข้าจนเกินไป” ร่างเล็กบอกกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะออกมาจากตรอกแคบนั่นหลังจากแน่ใจว่าหลบพ้นแล้ว


อ๋องน้อย ผู้ไม่เคยก้าวออกจากแคว้นหรือแม้แต่ตำหนักอ๋องโดยปราศจากผู้ติดตามกำลังเดินยิ้มร่าอยู่ในตลาดแคว้นอู๋ที่แสนคึกคัก อย่างตื่นเต้น ชีวิตอิสระที่ใฝ่ฝันกำลังจะมาถึง


“อ่า พี่ชายๆๆ ท่านขายอะไรหรือ” ร่างเล็กเอ่ยถามชายร่างผอมคนหนึ่ง

“นี่เจ้า ไม่รู้จักพุทราเชื่อม เหรอ เจ้าเป็นคนบ้านป่าเมืองเถื่อนหรืออย่างไร”

“อ่า ข้าขอซื้อหนึ่งไม้ได้หรือไม่” ร่างเล็กเอ่ยถามอย่างดีใจ ดวงตาสีดำขลับมองเจ้าพุทราเชื่อมอย่างหลงใหล เขาอยากกินไอ้เจ้านี่มานาน
แล้วแต่ท่านแม่ไม่ยอมให้กินเสียทีเพราะบอกว่ามันเป็นของธรรมดาพื้นๆ  เหอะ แต่ข้าน่ะ อยากกินของพื้นๆ มานานแล้วของแพงๆที่ท่าน
แม่บอกไม่เห็นจะอร่อยสักนิด

“ได้สิน้องชาย ไม้ละหนึ่งอีแปะ”

ร่างเล็กเอื้อมมือหวังจะหยิบของกินล่อตาแต่ถูกมือผอมๆของคนขายฝาดลงมาอย่างแรง

“โอ้ย ข้าเจ็บนะ”

“เจ้าเด็กนี่ ไหนล่ะเงินเจ้า จ่ายมาก่อน ” ร่างผอมตะคอกเสียงดัง ก่อนจะแบมือรับเงิน

“เฉิน เอาเงิน เอ่อ ” ร่างเล็กเพิ่งคิดได้ว่า เขาไม่มีเงินติดตัวมาเลยสักอีแปะเดียว เพราะเงินทั้งหมดอยู่กับเจ้าองครักษ์หน้านิ่ง

“อะไร นี่เจ้าไม่มีเงินเหรอ ไม่มีเงินก็หลบไปให้พ้น ข้าจะทำมาหากิน”   เจ้าของร้านตะคอกก่อนจะผลักให้ร่างเล็กออกไป

“อ๋องน้อย” ได้แต่มองอาหารพื้นๆตาละห้อย เพราะตอนนี้เขาไม่มีเงินสักอีแปะเดียว จะไปซื้ออะไรกินได้ ไม่น่าเลย ไม่น่าหนีเฉินมาเลย




“เจ้าอยากกินนี่หรือเด็กน้อย”  พุทราเชื่อม ถูกยื่นมาตรงหน้า ร่างเล็กรีบคว้าไว้ก่อนจะหันไปขอบคุณคนใจดี

“ขอบคุณท่านมาก  เอ๋  ท่านที่อยู่บนม้านิ”

อ๋องน้อยได้แต่แปลกใจเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือคนเดียวกับ คนที่อยู่บนหลังม้าเมื่อครู่ ใบหน้าเฉยชาที่ไม่แยแสต่อสิ่งใดแบบนี้เขาจำมันได้ดีเชียวล่ะ

“เจ้ามิรู้จักข้าหรือเด็กน้อย” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

“ท่านนิก็แปลกคน ข้ากับท่านไม่เคยเจอกันแล้วข้าจะรู้จักท่านได้อย่างไร” เอ่ยบอกอีกคนเสียงเรียบ

“ฮ่าๆๆ นั่นสินะ ข้ากับเจ้าไม่เคยรู้กันแล้วเจ้าจะรู้จักข้าได้อย่างไร”

อ๋องน้อย มองชายหนุ่มที่หัวเราะร่วนอย่างแปลกใจ เขาพูดเรื่องตลกหรือไง เท่าที่จำได้เขายังไม่ได้พูดเรื่องตลกสักเรื่องนะ

“ถ้าเช่นนั้น เจ้ายินดีจะอยู่เล่นเป็นเพื่อนกับคนที่เจ้าไม่รู้จักได้หรือไม่เด็กน้อย” เจ้าของร่างสูงนั้นเอ่ยถาม ร่างเล็กไม่ตอบแต่กลับยิ้มร่า
ก่อนจะลากคนตัวสูงไปทันที





สองร่างต่างวัย จับจูงกันไปบนถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ร่างเล็กแสนร่าเริงดูจะตื่นตากับทุกสิ่งในเมือง จนอีกคนทำได้เพียงส่ายหน้า ภาพบุรุษผู้เป็นใหญ่ในแคว้นจับจูงเด็กชายวัยสิบสามเดินเที่ยว สร้างความประหลาดใจให้กับชาวเมืองทุกคนที่พบเห็น แม้ร่างสูงนั้นจะยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยแต่หากเมื่อมองลึกลงไปจะเห็นว่าแววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความอาทร ยิ่ง

อ่า เด็กคนนั้นเป็นใครกันหนอ

ความสงสัยเกิดขึ้นมากมายแต่ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากหรือแม้แต่ เงยหน้าขึ้นมอง เพราะถึงแม้ท่านอ๋องจะไม่ได้ถือตัวจนต้องก้มหัวทุกครั้งที่เจอแต่ด้วยใบหน้าเย็นชาและสายตาคมกริบนั้นก็ทำให้ผู้คนประหวั่นพรั่นพรึงแม้เพียงเฉียดใกล้ ต่างจากร่างน้อยๆที่ลากร่างสูงไปมาอย่างมิเกรงกลัว ยิ่งสร้างความแปลกใจให้ชาวเมืองเป็นอย่างยิ่ง



“เหนื่อยแล้วหรือเด็กน้อย” เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างเล็กที่ลากเขาไปเที่ยวมาทั้งวัน

“เปล่า แต่ข้าหิว ”

“ถ้าเช่นนั้น ข้าขอเลี้ยงเจ้าหนึ่งมื้อได้ไหมเด็กน้อย”

“ดีๆๆ ไปเลยนะ” ร่างเล็กบอกอย่างร่าเริงก่อนจะจูงเจ้าของร่างสูงเข้าไปในโรงเตี๊ยมทันที

“อ่า ท่าน อะ   ”

เพี๊ยะ

“โอ้ย”

เสียงของเสี่ยวเอ้อ ขาดหายไปเพราะถูก ชัดอะไรสักอย่างใส่ปาก เป็นอันว่า ท่านอ๋องสั่งเป็นนัยๆว่าห้ามทุกคนเรียกขาน

“อ่า นายท่านๆ เชิญทางนี้ขอรับ”

ชายร่างอ้วนที่เป็นเถ้าแก่ออกมาต้อนรับ “แขก” คนสำคัญของร้านอย่างนอบน้อม พร้อมกับให้เสี่ยวเอ้อจัดห้องพิเศษและเตรียมอาหารให้ทันที



“นี่ท่านคงจะเป็นคนสำคัญของแคว้นอู๋สินะ” ร่างเล็กเอ่ยถาม

“เหตุใดเจ้าจึงพูดเช่นนั้น”

“ถึงข้าจะเป็นเด็กแต่ ข้าก็พอจะดูอาการของคนในร้านออกนะ ว่าพวกเขาตกใจแค่ไหนที่ท่านเข้ามา ” ร่างเล็กบอกอย่างจับผิด จนคนตัวสูงหัวเราะร่วน

“เจ้านี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ถ้าเช่นนั้นเจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร”

“ท่านต้องเป็น นายทหารคนสำคัญหรือไม่ก็แม่ทัพ ของแคว้นใช่หรือไม่ เพราะเมื่อเช้าข้าเห็นท่านในกองทหาร”

“อืม คงเป็นอย่างที่เจ้าว่า ” อู๋อ๋อง ยิ้มพราย ก่อนจะตอบเจ้าเด็กช่างสังเกต

“เทาน่ะ ฉลาดอยู่แล้ว” ร่างเล็กบ่นพึมพำ

“หือ เจ้าพูดว่า “ลูกท้อ” เหรอ  หรือเจ้าอยากจะกินลูกท้อหรืออย่างไร”

“ใช่ที่ไหน นั่นมันชื่อข้า” ร่างเล็กบอกเสียงขุ่น

“ฮ่าๆๆ ชื่อเจ้าช่างแปลกนัก เจ้าลูกท้อ”

คนที่ถูกเรียกว่า เจ้าลูกท้อ ได้แต่เบ้หน้า ไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นใคร เอาเป็นว่าเลยตามเลยแล้วกันนะ

“ท่านรู้จักชื่อข้าแล้ว แล้วท่านเล่ามีชื่อว่าอย่างไร” ท่าทางเคร่งครัด และพูดอย่างเป็นทางการทำให้อู๋อ๋องมองเด็กตรงหน้าอย่างพิจารณา ท่าทางจะมิใช่ลูกชาวบ้านร้านตลาดธรรมดา หรือบางทีอาจจะเป็นลูกของขุนนางสักคนเป็นแน่

“เจ้าเรียกข้าว่า หลง เถอะ”

“ข้าขอเรียกท่านว่า พี่หลงได้หรือไม่”

“ได้สิ เจ้าลูกท้อ”






“แย่แล้วๆๆๆ” เจ้าเด็กพูดมาก ร้องดังลั่นหลังจากที่มองออกไปข้างนอกท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว

“เจ้าเป็นอะไร”

“ข้าต้องกลับแล้วล่ะ พี่หลง ข้าออกมานานเกินไปแล้ว”

“จะต้องกลับแล้วหรือ” ร่างสูงเอ่ยถาม ไม่เข้าใจตัวเองสักนิด ว่าเหตุใดจึงไม่อยากให้เจ้าเด็กพูดมากนี่ กลับบ้านเลย

“ขอรับ ต้องกลับแล้ว”

“แล้วเจ้าจะออกมาเจอพี่อีกไหม”

“ลูกท้อ สัญญานะขอรับ หากมีโอกาส ข้าจะกลับมา แต่ตอนนี้ต้องไปแล้ว ไปก่อนนะพี่หลง”


ร่างเล็กบอกอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งหายไปท่ามกลางผู้คนที่คลาคล่ำบนท้องถนน ร่างสูงทำได้เพียงถอนหายใจ เสียงดัง ไม่เข้าใจตัวเองสักนิด ว่าทำไมถึงใจหาย เพียงแค่เจ้าเด็กนั่นบอกลา




“ท่านอ๋อง ไม่ควรออกมาตามลำพังเยี่ยงนี้นะขอรับ” เสียงปริศนาดังขึ้นก่อนที่ร่างๆ หนึ่งจะปรากฏตัวออกมาจากที่ซ่อน

“อี้ชิง เจ้าก็รู้ว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรข้า ”

“คนแคว้นอู๋ อาจไม่ทำแต่คนแคว้นเย่ว นั้นหาได้วางใจได้”

“เจ้าหมายความว่าเยี่ยงไร”

“หน่วยสอดแนม รายงานว่า ทางแคว้นเย่วมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ขอรับ”

“หึ เช่นนั้นรึ” ร่างสูงเพียงแค่ยกยิ้ม ก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้าและควบออกไปทันที



...........................TBC........................................

นิยายสนองนี้ดตัวเองอีกแล้ว ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Pam_Teukky

  • 83 Line & shevine
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-3
อร๊ายยยยยยยยยยย แนวจีนโบราณ ชอบๆๆๆ
เทาเทาน่ารักอ่า :impress2:
แคว้นของพี่หลงกับน้องลูกท้อต้องไม่ถูกกันแน่เลย
ปล.นี่มันพี่เงิงกับน้องแพนด้านี่นา><


รอตอนต่อไปนะคะ :กอด1: :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
แอร๊ยยยย เค้าเจอกันแล้ววว :-[

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3


ใช้ภาษาได้ดีมาก
เรียบเรียงได้เข้าใจสุดๆ เ ลยค่ะ
 
 

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:-[ :-[ :-[ :-[อัยยะเป็นศัตูรกันต่อไปจะเป็นอย่างัยน๊า :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:



รออออออออออออออออออออจ้า :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
การเผชิญหน้าของสองแคว้น

5 ปีผ่านไป

ปัง

เสียงทุบโต๊ะของชายผู้เป็นผู้นำสูงสุดของแคว้น ทำเอาเหล่านายทหารต่างสะดุ้งไปตามๆกัน

“แพ้อีกแล้ว แพ้อีกแล้ว” ร่างนั้นสั่นเทิ้มด้วยความโกรธก่อนจะกวาดสายตามองแม่ทัพนายกองที่ยืนสำนึกผิดอยู่

“เรียนท่านอ๋อง พวกข้าน้อยได้กระทำการรบสุดความสามารถแล้ว แต่เพราะข้าศึก มีกำลังมากกว่าทำให้เราเพลี่ยงพล้ำ”

“พอ ข้าไม่ต้องการคำแก้ตัวของพวกเจ้า สิ่งที่ข้าต้องการคือ ชัยชนะและหัวของอู๋ อี้ ฟาน ” เย่วอ๋องตะโกนลั่น ร่างสูงสง่าที่บัดนี้หน้าบึ้งตึงจ้องแม่ทัพเขม็ง

“ท่านพ่อ ได้โปรดฟังลูกได้หรือไม่” ร่างเพรียวที่ยืนนิ่งมานานเอ่ยขึ้น

“เจ้ามีอะไรก็ว่ามา จื่อ เทา”

“เรียนท่านพ่อ ลูกคิดว่าการศึกครั้งนี้เราเดินหมากผิดมาตั้งแต่ต้นขอรับ”
คำว่า “เดินหมากผิด” ของอ๋องน้อย ทำเอาแม่ทัพนายกองต่างก้มหน้ากันชุลมุน แม้ว่าอ๋องน้อยจะไม่ได้ อารมณ์ร้อนเหมือนท่านอ๋องแต่หากถูกโกรธละก็ ชาตินี้อย่าหวังมีชีวิตที่สงบสุขเลย

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

“ลูกคิดว่า การเอาแต่เป็นฝ่ายบุกของเราไม่ถูกต้อง ขอรับ แม้ว่าเราจักเป็นฝ่ายท้ารบแต่หากรู้จักตั้งรับ รู้จักผ่อนปรน และรอโอกาส เหมาะเสียบ้าง เราอาจจะมีโอกาสชนะ ได้มากกว่านะขอรับ”

“นี่เจ้าบอกให้อ๋อง อย่างพ่อหดหัวอยู่ในกระดองอย่างนั้นรึ”

“มิได้ๆ ลูกมิได้ความเช่นนั้น ลูกเพียงแต่เสนอให้เราปรับเปลี่ยน วิธีการรบ จากจู่โจมเป็นตั้งรับและรอดูท่าทีของอีกฝ่ายเสียก่อน มิใช่เอะอะก็บุกเพียงอย่างเดียว กอปร กับอู๋อ๋องนั้น มีกุนซือที่ชานฉลาด ไหนจักฝีมือการรบของทหารแคว้นอู๋ที่หากสู้กับทหารแคว้นเราแล้วเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตลอดห้าปีที่ผ่านมาท่านพ่อก็เห็นแล้วมิใช่หรือว่าเราต้องเสียไพร่พลไปนับไม่ถ้วนโดยที่แคว้นอู๋เสียไพร่พล
เพียงไม่กี่ร้อยนาย”

แม่ทัพนายกองต่างกลั้นหายใจ ทันทีที่อ๋องน้อยพูดจบ ตายแน่ คราวนี้ตายแน่ๆ  เพราะสิ่งที่อ๋องน้อยพูดมาทั้งหมดล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น คราวนี้คงไม่สามารถรักษาศีรษะไว้บนบ่าได้แล้ว

“หึ ได้ พ่อจะลองเชื่อเจ้าดู หากว่าเจ้ามีแผนการรบที่ดีกว่านี้ ค่อยเอามาหารือกัน” เสียงทุ้มบอกก่อนจะเดินออกจากกระโจมไป ท่ามกลาง
การถอนหายใจอย่างโล่งอกของแม่ทัพทั้งกองทัพ อย่างน้อยวันนี้พวกเขาก็รอดจากโทสะของท่านอ๋องหนึ่งวัน




“ท่านมีแผนการเตรียมไว้แล้วหรือ” แม่ทัพคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น

“ยังไม่มีหรอก” ตอบกลับหน้าระรื่น ก่อนจะเดินออกมาทิ้งให้เหล่าแม่ทัพมองอย่าง งงงันอยู่ด้านหลัง





“ท่านมีแผน แล้วใช่ไหมขอรับ” เสียงคุ้นหูเอ่ยถามก่อนจะเดินเข้ามาหาร่างเพรียว

“เจ้านี่ เฮ้อ ข้าหลอกเจ้าไม่ได้จริงๆสินะ” ร่างเพรียวพ่นลมหายใจออกอย่างขัดใจเพราะสุดท้ายก็ไม่สามารถ หลอกองครักษ์คนสนิทได้

“ข้าอยู่กับท่านตั้งแต่ท่านเกิด เรื่องน้อยใหญ่เกี่ยวกับท่าน ข้าล้วนรับรู้ เหตุข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นคนที่คิดแผนสำรองเอาไว้ก่อนจะพูดเสมอ”

“นั่นสินะ ก็เจ้าคือ ผู้คุมของข้านี่นา ท่านแม่ทัพเฉิน”

“ข้าน้อยเป็นเพียง องครักษ์ต่ำต้อย มิบังอาจให้ท่านกล่าวสรรเสริญเช่นนั้น” องครักษ์หนุ่มบอก

ร่างเพรียวกำลังคิดสงสารคนที่จะมาเป็น ภรรยาเจ้าคนหน้านิ่งนี่จริงๆ คงต้องทนอึดอัดกับท่าทางเคร่งครัดแบบนี้ทั้งวันเป็นแน่

“เจ้านี่ เมื่อไหร่จะผ่อนคลายเสียบ้างนะ ขมวดคิ้วทั้งวันไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”

“ข้าน้อย มีหน้าที่อารักขาอ๋องน้อย ไม่มีสิทธิ์หละหลวมได้ขอรับ หากเกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อห้าปีก่อนข้าน้อย…”



“เฮ้อ ช่างเถอะๆ  เรื่องมันผ่านไปแล้ว แม้ว่าการลอบทำร้ายครั้งนั้นจะทำให้ข้าบาดเจ็บแต่ก็ไม่ตายสักหน่อย เจ้าอย่าคิดมากอีกเลย  ข้าเบื่อแล้ว ไปหาพี่ลู่ห่านดีกว่า”

ร่างเพรียวบอกก่อนจะเดินไปที่ “เรือนสราญใจ” เรือนพักของ “พี่ลู่ห่าน” ของเขาทันที



“มีใครอยู่ไหมเนี่ย” อ๋องน้อยตะโกนเสียงดังลั่น

“นี่ใคร บังอาจมาเอะอะโวยวาย หน้าเรือนพักของชายาลู่กัน” เสียงของเสี่ยวอี้ ต้นห้องของ “พี่ลู่ห่าน” หรือก็คือ ชายาลู่ ชายาคนรองของอ๋องเย่วเหวลั่น

“ข้าเอง เจ้ามีอันใดหรือเปล่า เสี่ยวอี้”

“อะ เอ่อ เสี่ยวอี้ มิกล้าๆ เชิญอ๋องน้อยเจ้าค่ะ” สาวใช้ถึงกับขาอ่อนเมื่อเห็นว่าคนที่เธอตะโกน “ด่า” เมื่อครู่คืออ๋องน้อย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของท่านอ๋อง

“อ้อ ถ้าข้าไม่เรียก อย่าเข้ามาล่ะ ข้ามีเรื่องจะคุยกับชายาลู่” บอกเสียงเข้มก่อนจะเดินเข้าเรือนไป




“เอะอะโวยวายอะไรกัน หืม จื่อเทา” เสียงหวานเอ่ยทักก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาจากห้องด้านใน
ร่างบอบบางที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่มีเค้าความเป็นชายสักนิดของชายาลู่ ถามคนมาใหม่ก่อนจะยกยิ้มอ่อนโยนให้

“เฮ้อ ข้าก็แกล้งเสี่ยวอี้ เหมือนทุกวัน พี่อย่าใส่ใจเลย”

“เจ้านี่ยังไงนะ แกล้งเสี่ยวอี้ตั้งแต่เด็กจนโต” เสียงหวานเอ็ดเบาๆ

“ก็เสี่ยวอี้ น่าแกล้งจะตาย คนอะไรโดนข้าแกล้งทุกวัน จนป่านนี้ยังไม่เลิกกลัวข้าเลย”

“ใครๆเขาก็กลัวเจ้ากันทั้งนั้น”

“ข้ามีอะไรน่ากลัวกัน” ร่างเพรียวเอ่ยก่อนจะจิบชาเงียบๆ


ลู่ห่านมอง “คนที่ไม่มีอะไรน่ากลัว” พลางส่ายหน้า จื่อเทา หนอ จื่อเทา เจ้า ไม่เคยรู้ตัวเลยสินะว่าหน้านิ่งๆของตัวเองมันน่ากลัวแค่ไหน ไหนจะฝีมือการต่อสู้ที่หาตัวจับยาก ยังพ่วงด้วยตำแหน่งอ๋องน้อยแห่งแคว้นเย่วอีก ใครจะไม่กลัวกันเล่า


“เจ้าก็หัด ยิ้ม มากๆ พูดมากๆกับคนอื่น เหมือนเวลาที่เจ้าอยู่กับข้าหรือเฉิน สิ นั่นอาจจะทำให้คนอื่นไม่กลัวเจ้าก็ได้นะ”

“ไม่เอาหรอก ข้าขี้เกียจ ”  คนขี้เกียจส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ขนาดเขาทำตัวน่ากลัวยังมีพวกชอบประจบสอพลอเข้าหามิได้ขาดหากว่า
เขาอัธยาศัยดีกว่านี้ คงสลัดคนนี้ไม่หลุดแน่ๆ




ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ขัดบทสนทนาทำให้คนทั้งคู่ชะงัก เพราะหากไม่มีเรื่องร้ายแรง ไม่มีทางที่ใครจะกล้าขัดคำสั่งเขาแน่

“เรียนอ๋องน้อย ตอนนี้หน่วยสอดแหนมรายงานมาว่า กองทัพของแคว้นอู๋กำลังเคลื่อนพลมาทางทิศเหนือแล้วขอรับ” เสียงคุ้นหูของคนสนิทเอ่ยบอก

“ใครนำทัพ”

“อู๋อ๋อง ขอรับ”



เพล้ง !!!!



เสียงของแตกทำให้ร่างเพรียวต้องหันกลับมามองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยสายตาไม่เข้าใจ

“พี่เป็นอะไร”

“ปะ เปล่า พี่แค่ตกใจที่ข้าศึกมาประชิดเมืองน่ะ ไม่มีอะไร”

“อืม เช่นนั้นข้าต้องขอตัวก่อน”

ร่างเพรียวเอ่ยลา ก่อนจะรุดไปที่เรือนเพื่อเตรียมการออกศึก



เสียงแตรและกลองที่ดังขึ้นท่ามกลางสมรภูมิรบ สองฝ่ายต่างยืนประจันหน้ากันละกันอย่างเตรียมพร้อม แต่ยังไม่มีฝ่ายใดบุ่มบ่ามเข้าบุกก่อน

“เฉิน เจ้ารู้หรือไม่ ว่าเหตุใดแค้วนอู๋จึงเป็นฝ่ายโจมตีเรา”

“เรียนอ๋องน้อย ข้าคิดว่า ฝ่ายนั้นอาจจะต้องการจบศึกนี้โดยเร็วขอรับ เพราะศึกยืดเยื้อมากว่าห้าปี ฝ่ายนั้นก็คงเดือดร้อนอยู่มากเพราะเป็นสมรภูมิรบมากกว่าฝ่ายเรา”

“อืม ถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอให้มันจบเหมือนกัน จำไว้นะเฉินไม่ว่าจะเกิดสิ่งใด ข้าดีใจที่ได้ร่วมรบกับเจ้า”




เฉิน ส่งสัญาณให้กองทหารบุกเข้าไปทันที ท่ามเสียงกลองศึกและเสียงตะโกนของทหารของทั้งสองฝ่ายที่ต่างโรมรันเข้าต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ศพแล้วศพเล่าของทหารที่สิ้นลมจากอาวุธของเขาทำเอาร่างเพรียวเบือนหน้าอย่างเหนื่อยใจ  แม้ในห้วงมโนสำนึกจักนึกสงสาร ลูกเมียที่อยู่เบื้องหลังมากเพียงใด แต่นี่ก็คือกฎแห่งการอยู่รอด หากไม่ฆ่าก็คงถูกฆ่า นั่นคือความจริงในสนามรบ

“หึ ท่านคืออู๋อ๋อง ใช่หรือไม่” ร่างเพรียวเอ่ยถามบุรุษผู้สวมอาภรณ์สีดำบนหลังม้า ท่วงท่าสง่างามแม้ยามตวัดดาบฆ่าคนทำให้ ร่างเพรียวมองอย่างตกตะลึง แม้นจะรู้สึกคุ้นเคยแต่กลับนึกไม่ออกสักทีว่าเคยพบเจอคนผู้นี้ที่ใด

“เป็นเกียรติยิ่ง ที่อ๋องน้อยรู้จักข้า” เสียงทุ้มเอ่ย

“อย่ามัวพล่าม หากจะสู้ก็จงยกดาบขึ้นมา”

ร่างสูงมิตอบอันใดเพียงแต่ยกดาบเข้าต่อสู้กับร่างเพรียวทันที ปลายดาบตวัดเกี่ยวด้วยท่วงท่าสง่างามแต่หนักหน่วง ทำให้ร่างเพรียวต้องเป็นฝ่ายตั้งรับอย่างจำยอม แม้นจะเคยประมือกับคนมามากแต่เพลงดาบของคนตรงหน้ากลับทำให้เขาอดที่จะประหลาดใจไม่ได้   แต่เพราะความอ่อนประสบการณ์ทั้งเพลงดาบและสมรภูมิรบ ทำให้ร่างเพรียวตกเป็นรองทำได้เพียงหลบหลีกปลายดาบที่หวังจะปลิดชีพเท่านั้น   ร่างสูงยกยิ้มอย่างถูกใจก่อนจะอาศัยจังหวะที่เด็กหนุ่มเผลอตวัดปลายดาบหมายจะบั่นคอตรงหน้าให้จบๆไป


แต่เมื่อดวงตาดำขลับคู่นั่นมองกลับมา ความเด็ดเดี่ยวในแววตา ที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดของคนตรงหน้าทำให้ปลายดาบหยุด เพียงแค่จ่อไว้ที่ลำคอเท่านั้น

“สั่งทหารเจ้าหยุดซะ ไม่เช่นนั้น ดาบนี่จะบั่นลงบนคอเจ้า” เสียงทุ้มสั่ง

“ไม่ หากจะฆ่าก็จงฆ่าเสีย ชายชาตรีมิเคยอ้อนวอนศัตรู”

“น่ายกย่องๆ ท่านอ๋องน้อยช่างน่ายกย่อง ฮ่าๆๆๆ ”  ร่างสูงหัวเราะร่วน

“ทหารแคว้นเย่ว จงหยุดวางอาวุธซะหาไม่แล้ว วันนี้พวกเจ้าคงได้เชิญศพอ๋องน้อยกลับไป” 

เสียงทุ้มประกาศเสียงดัง ทหารแคว้นเย่วที่อยู่บริเวณนั้นต่างหยุดชะงักและยอมทิ้งอาวุธทันที ก่อนที่เฉินจะสั่งให้ทหารทั้งกองทัพทิ้งอาวุธ

“หยุดนะ พวกเจ้าอย่าไปฟัง สู้ต่อไป ข้าไม่กลัวตาย” ร่างเพรียวตะโกนก้อง แต่กลับไม่มีทหารคนใดขยับตัว

“กล้าหาญๆ   อี้ชิง มัดมือท่านอ๋องน้อยแล้วเชิญลงจากหลังม้าซะ” เอ่ยสั่งกับคนสนิท ก่อนจะหันกลับไปพูดกับองค์รักษ์ของร่างเพรียว

“โปรดนำคำของข้าไปบอกกับ ท่านอ๋องของพวกท่านด้วย ว่าข้าขอลูกชายเขาเป็นตัวประกัน และขอยุติศึกครั้งนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ หากวันใดที่แคว้นเย่วบุกแคว้นอู๋ เมื่อนั้นคือวันที่อ๋องน้อยจะสิ้นลมหายใจ!!!!”
บอกพลางอุ้มตัวประกันกิตติมศักดิ์ ให้ขึ้นบนม้าตัวเดียวกันก่อนจะควบออกไปพร้อมกับคนสนิท


.............................TBC......................................

มาต่อแล้วนะจ๊ะ  มาเร็วไปเร็ว ไปแล้วววววววววววววววว


ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตัวประกัน

“ปล่อยข้านะ” ร่างเพรียวกระโกน พลางพยามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนแกร่ง แต่เหมือนคนๆนี้จะทำด้วยเหล็กเพราะไม่ว่าเขาจะดิ้นยังไง ร่างสูงก็ไม่สะเทือนแม้แต่นิด

“ปล่อยรึ เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรืออย่างไรว่าจะจับเจ้าเป็นตัวประกัน เหตุใดข้าต้องปล่อย”

“ชายชาตรี ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ หากจะจับข้าเป็นตัวประกันก็จงฆ่าเสีย” ร่างเพรียวเอ่ยบอกรอดไรฟัน เขาถูกสอนมาให้แพ้ไม่เป็น ต่อให้อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ขอยอมตายดีกว่า

“หึ ฆ่าเจ้า แล้วข้าจะได้อะไร ฆ่าไปเจ้าก็ตายเปล่า สู้รักษาชีวิตเจ้าไว้ต่อรองกับพ่อเจ้าไม่ดีกว่าหรือ”

“เจ้ามันชั่วช้า”

“หึ หากจะนับความชั่ว ข้าคนนี้คงไม่อาจสู้พ่อเจ้าได้ อย่าให้เกียรติข้าขนาดนั้นเลย ” เสียงทุ้มเอ่ยประชด

“สามหาว เจ้ากล้าดีอย่างไร มาว่าพ่อข้า”

“ทำไมข้าจะว่าไม่ได้ พ่อเจ้าเป็นเทพมาจากไหนหรือ” ร่างสูงที่เผลอต่อปากต่อคำกับร่างเพรียวทำเอา อี้ชิง ต้องทำหน้าประหลาดใจ เพราะไม่เคยเห็นท่านอ๋องมีท่าทางเช่นนี้มานานแม้จะอยู่กับ ท่านชายซิ่วหมิ่น น้องชายต่างมารดาที่ทั้งดื้อทั้งซน แต่ประโยคเหล่านี้ก็ไม่เคยออกจากปากร่างสูงสักครั้ง มีเพียงแค่คำพูดเรียบเฉยและแววตาที่แม้นจะไม่ได้เฉยชาอย่างเวลาปกติแต่ก็ไม่เคยมีแววตาที่อ่อนโยนที่แฝงมากับแววตาเจ้าเล่ห์แบบนี้  ท่านอ๋องจะรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังใช้สายตาแบบเดียวกับที่มอง “คนผู้นั้น” มองอ๋องน้อยที่เป็นตัวประกันของแคว้นศัตรู


“ท่านอ๋องขอรับ มีคนตามเรามา” อี้ชิงกระซิบบอกผู้เป็นนาย เพราะเขาสังเกตมานานแล้วว่ามีใครสักคนใช้วิชาตัวเบาสะกดรอยตามพวกเขามา 

“เฉยไว้ อย่าเพิ่งให้มันรู้ตัวว่าเราจับได้ ข้าเชื่อว่าอีกสักพักคงปรากฏตัว เพราะคนที่มันต้องการอยู่กับเรา”
บอกกับอี้ชิงก่อนจะเสมองร่างเพรียวที่ตอนนี้หลับไปแล้ว อย่างเหนื่อยใจ เหอะ นี่หรือรองแม่ทัพแคว้นเย่ว มีทหารที่ไหนเขาหลับซบอกศัตรูบ้าง



“อี้ชิง พักก่อน คืนนี้เราจะพักกันที่นี่” ร่างสูงบอกกับคนสนิท ก่อนจะปลุกคนที่หลับอยู่เบาๆ

“นี่เจ้า ตื่นได้แล้ว”

“ตื่นได้แล้ว”

“หือ เฉิน ข้ายังง่วงอยู่เลย ข้าขอนอนต่ออีกนิดนะ” ร่างเพรียวบอกเบาๆก่อนจะซุกอกร่างสูงต่อ

“เจ้าไม่ตื่นเองนะ อย่าหาว่าข้าใจร้ายล่ะ” ร่างสูงบอกก่อนจะอุ้มคนหลับลงจากหลังม้าด้วย

ตุ๊บ

โอ้ยยยยยยยยยยยย

ร่างเพรียวตื่นทันที่ที่ถูกโยนลงพื้นพลางหันไปแยกเขี้ยวใส่ร่างสูงที่ยืนหัวเราะร่วนอยู่

“เจ้า เจ้าทำอะไร โยนข้าทำไม”

“เหอะ เจ้าอย่าลืมว่าตอนนี้เจ้าเป็นตัวประกัน มิใช่อ๋องน้อย อีกต่อไปแล้ว จงสำนึกตนไว้ด้วย”

“เจ้ามัน ”

ร่างเพรียวได้แต่ข่มความโกรธไว้ ในสถานการณ์ที่เป็นรองเช่นนี้ไม่ควรบุ่มบ่าม เพราะเขาคงสู้อีกฝ่ายไม่ได้ สู้เก็บชีวิตไว้แก้แค้นภายหลังดีกว่า



“เอ๋า เจ้าไปตักน้ำมาให้ข้าดื่มสิ” ร่างสูงเอ่ยพลางโยนถุงน้ำให้ร่างเพรียว

“ข้าไม่ใช่คนรับใช้เจ้านะ ทำไมเจ้าไม่ใช้เขาเล่า” เอ่ยพลางใช้นิ้วเรียวชี้ไปที่อี้ชิง

“อี้ชิงเป็นองครักษ์ไม่ใช่คนรับใช้ และตอนนี้คนที่เป็นคนใช้คือเจ้า ไปตักน้ำมาซะ   อี้ชิง เชิญอ๋องน้อยไปตักน้ำ”

ประโยคแรกบอกกับร่างเพรียว ก่อนจะหันไปสั่งคนสนิท

ร่างเพรียวได้แต่ฮึดฮัดอย่างขัดใจ สักวัน ข้าจะแก้แค้นเจ้า  หากว่าข้าปล่อยให้เจ้ารอดไปได้ อย่ามาเรียกข้าว่า ฮวาง จื่อ เทา เลย



ถุงน้ำถูกโยนมาให้ร่างสูงก่อนที่ตัวประกันกิตติมศักดิ์จะกระแทกตัวนั่งลงข้างๆ  ร่างสูงทำเพียงส่ายหน้า กับความดื้อดึงของคนตรงหน้า ช่างหยิ่งสมเป็นลูกของเย่วอ๋อง จริงๆ

“เจ้าชื่ออะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถาม  เพื่อทำลายความเงียบ

“ถามทำไม ข้าไม่จำเป็นต้องบอกเจ้า”

“จงบอกมาก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน” เสียงทุ้มบอกก่อนจะบีบที่ข้อมืออีกคนแน่น

“โอ้ย ข้าบอกแล้ว ปล่อยก่อน” ร่างเพรียวร้องลั่นก่อนจะเบ้หน้าด้วยความเจ็บ เขาไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่เพราะกำลังภายในของคนๆนี้เข้ม
แข็งเกินไปจึงทำร้ายเขาได้อย่างง่ายได้

“เจ้าชื่ออะไร”

“ฮวาง จื่อ เทา ข้าชื่อ ฮวาง จื่อ เทา”

“ดี ต่อไปข้าจะเรียกเจ้าว่า จื่อเทา แล้วกัน”

“เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเรียกข้าห้วนๆแบบนั้น ข้าเป็นอ๋องน้อยนะ” ร่างเพรียวเอ่ย

“แต่ข้า คือคนที่มีอ๋องน้อยอย่างเจ้าเป็นตัวประกัน เจ้าว่าข้ามีสิทธิ์ไหม” ร่างสูงบอกอย่างเป็นต่อ



ดึกสงัด อู๋อ๋อง สั่งให้คนสนิทและตัวประกันพักค้างคืนในป่า ถ้าเขาคาดไม่ผิดเจ้าคนที่สะกดรอยตามพวกเขามามันต้องลงมือคืนนี้แน่

สวบๆๆ

เสียงผีเท้าของคนที่ค่อยๆย่องผ่าน ป่าเข้ามาทำให้อู๋อ๋องและคนสนิทยกยิ้มอย่างพอใจ

หึ ในที่สุดก็มา จนได้สินะ

เงาปริศนา ค่อยๆย่องอย่างแผ่วเบา เพื่อผ่านร่างสองคนที่นอนอยู่ด้านหน้าเพื่อเข้าไปให้ถึงอีกคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ด้านใน

“หึหึ” ร่างปริศนายกยิ้มมุมปากก่อนที่จะยืนมือหมายจะคว้าไหล่ของคนหลับ

หมับ

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่” เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างปริศนาที่ก้มหน้านิ่ง

“ตอบพี่มา ซิ่วหมิ่น เจ้ามาทำอะไรที่แคว้นเย่ว” ร่างสูงกดเสียงให้ต่ำลง เพื่อคาดคั้นคนที่ยืนหน้าซีดเป็นไก่ไหว้เจ้าอยู่ บ่งบอกความโกรธที่มีมากพอจะสั่งกักบริเวณเจ้าตัวแสบนี่ได้

“ข้า ข้า เอ่อ ข้า มาเดินเล่น น่ะพี่ใหญ่” ตอบอ้อมแอ้มก่อนจะก้มหน้าไม่กล้าสบตา

 ตายๆๆ คราวนี้ตายแน่ๆ ท่านพี่ต้องสั่งขังข้าแน่ๆ  ร่างอวบๆของซิ่วหมิ่น หรือท่านชายซิ่วหมิ่น น้องชายต่างมารดาของอู๋อ๋อง ได้แต่คิดอย่างปลงๆ แม้พี่ใหญ่ใจดีกับเขามากแต่ก็เข้มงวดมากเช่นกัน คราวนี้ซิ่วหมิ่นตายแน่ๆเลย

“ซิ่วหมิ่น อย่าโกหก”

“ก็ข้าเป็นห่วงท่าน ท่านเป็นพี่ชายคนเดียวของข้านะ ข้าแค่อยากมาดูว่าท่านจะชนะ ข้าผิดตรงไหน” ร่างอวบบอกอย่างขัดใจ แต่ไหนแต่ไร
เขาก็เป็นคนเอาแต่ใจอยู่แล้ว ทำไมพี่ใหญ่ต้องสงสัยด้วย

“เฮ้อ เจ้าตัวแสบ พี่เป็นห่วงเจ้านะ เรามีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง พี่ไม่อยากให้เจ้าเป็นอะไรไป เข้าใจหรือไม่” ร่างสูงบอกกับน้องอย่างใจเย็น

“ข้าขอโทษ ข้าเพียงแต่ห่วงท่านเท่านั้นเอง ท่านอย่าโกรธ ข้าเลยนะ”

“เฮ้อ ข้าจะไปโกรธเจ้าได้ยังไง ” บอกพลางลูบผมน้องชายอย่างแผ่วเบา อู๋อ๋องผู้ไม่เคยแยแสหรือใส่ใจผู้ใด ยิ้มให้กับญาติเพียงคนเดียวที่เหลือในโลกอย่างอ่อนโยน


เหตุการณ์ทั้งหมดตกอยู่ในสายตา “ใคร” บางคนที่อยู่บนต้นไม้โดยตลอด ร่างที่สวมอาภรณ์สีดำทั้งร่างเหลือเพียงดวงตาคม กำลังมองคนร่างอวบที่ชิงลงมือตัดหน้าเขาอย่างหัวเสีย เขาอุส่าแอบติดตามคนทั้งสามมาทั้งวันแต่เจ้าเด็กนั่นกลับทำเสียแผนซะได้
วันนี้คงไม่มีโอกาสลงมือแล้ว
ร่างนั้นคิด ก่อนจะผลุบหายไปในป่าอย่างรวดเร็วแต่กลับไม่สามารถรอดพ้นสายตาคนสนิทของร่างสูงได้ อี้ชิงลอบยิ้ม ก่อนจะกลับไปมองร่างอวบที่อ้อนพี่ชายอยู่ อย่างเอ็นดู อย่างน้อยท่านชายก็ทำอะไรๆให้มันง่ายขึ้นล่ะนะ


..................TBc..................


ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
แกล้งเทาเทา ได้ไงงง  :beat: :beat: :beat:

jamemy

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ beer

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เมื่อไหร่จะจำกันได้

ต่างคนต่างลืมซะได้


ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ปะกันแฮ๋ม จ๋ำก๊านบ่อได้ก่ ชอบม๊ากกกกกกกกกก
ขอบใจจ้า

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
แล้วเมื่อไรสองคนจะจำกันได้นะนั่น

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:L2: :L2: :L2: :L2:รออออออออออออออออออออออออออออออจ้า :bye2: :bye2:

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากค่ะ  o13

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
จื่อเทาน้อยผู้น่าสงสาร

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด