[บันทึกรัก Leiden]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [บันทึกรัก Leiden]  (อ่าน 81431 ครั้ง)

nai

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #90 เมื่อ29-12-2006 22:12:37 »

hi see u again แล้วคุยกันครับ  :-[

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #91 เมื่อ29-12-2006 22:20:15 »

hi see u again แล้วคุยกันครับ  :-[

 :o :o

หวัดดี  ไอ้ปัญญาอ่อน :monkeylaugh2:

..........................................................
26 Mar. 2006
15.26 น. ชายหาดเมือง Den Hagg



“ลองกินปลา Haring กันไหม?”

“กินแบบสดๆ เหรอ  ไม่เอาอะ  แกกินคนเดียวเหอะ ฉันขอแบบทอดดีกว่า” ผมขยาดเล็กๆ ครับ  ขนาดชูชิผมยังไม่ค่อยกล้าเขมือบเลย  นี้เล่นแล่กันสดๆ เห็นจะๆ คาตาแบบนี้ไม่ไหวครับ  ขอถอยดีกว่า  ไม่เอาดีกว่า

“เฮ้ย! ได้ไง...  มาฮอลแลนด์ทั้งที่นายต้องลองสิ  มันเป็นคล้ายอาหารประจำชาติเลยนะ  เหมือนต้มยำกุ้งบ้านนายไง” มันยังไม่วายขยั้นคะยออีก  ผมเลยต้องฉลองศรัทธามันเสียหน่อย  ก็งี้หละครับ...คนมันเพิ่งจะหวานกัน  พอชี้นกก็ว่านกชี้ไม้ก็ว่าไม้  ไม่อยากค้านให้หมองหมาง  แต่ส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายคล้อยตามมากกว่า  อย่างวันนี้เป็นต้น...ไอ้โหด(ที่ตอนนี้กลายเป็นหวานใจผมแล้ว)ชวนมาเที่ยวทะเลกัน  มันบอกว่าอากาศดีๆ อย่างนี้(เมฆเบาบาง  แสงแดดสาดส่อง  สายลมโบกโชย  อุณหภูมิประมาณ 13-14 องศา) ควรจะไปเดินเล่นชายทะเลกัน  ผมเลยวาดฝันว่าคราวนี้แหละ!!  กรูจะได้ร่อนลงทะเลฮอลแลนด์เป็นขวัญตาคนแถวนี้เสียที(หรือเปล่า?)…

...แต่ผิดคาดอย่างแรงครับ  พอมาถึงอากาศเจือกเปลี่ยน  แดดหุบ  ลมกรรโชก  เมฆหนาฟ้าปิด  น้ำทะเลเย็นเจี้ยบเลยครับ  เป็นอันว่าอดโชว์พุงน้อยๆ ของผมเลย  นึกว่าจะเหมือนบ้านเรา  ไอ้โหดหัวเราะจนน้ำตาไหลเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังกับทะเลที่นี้ของผม  ก็คนมันไม่เคยมาทะเลที่ยุโรปนี่หว่านึกว่าจะเหมือนที่บ้าน  สุดท้ายก็ได้แค่เดินเล่นริมชายหาดไปเรื่อยๆ เดินเล่นไปกันลำพังสองคน มีความสุขไปอีกแบบ 

ระหว่างเดินกันไปเรื่อยมีการแอบโอบกันด้วย  ก็เขินนะครับแต่ว่ารู้สึกดีไงเลยยอม  แต่ว่าก็โอบๆ ปล่อยๆ นะครับแบบว่าทำเนียนว่าเพื่อนกันไง  ก็อายคนดิครับไม่ใช่ชายหาดส่วนตัวนิ  จะได้ทำไรก็ได้ตามใจชอบ  นี่...ชาวบ้านร้านตลาดเดินกันให้ขวัก

“ไง?  รสชาติเป็นไง”  ผมถามหลังเห็นมันแหงนหน้ากระเดือกไอ้ปลาตัวยาวๆ นั้นเรียบร้อยแล้ว

“ก็โอเคนะ  ถึงตานายแล้ว  ห้ามเบี้ยวนา” มันว่า

“แกกินแทนหน่อยดิ  นะๆ แล้วเดี๋ยวฉันเลี้ยงกาแฟแกแก้วนึง”

“ไรวะ?  มั่วนี้หว่า  แต่เออ...ก็ดีเหมือนกัน  หากาแฟกินล้างปากดีกว่า” ว่าแล้วก็เดินลากมือผมไปเฉยเลย....
.............................................................



จริงสิครับ!!  เมื่อตอนอยู่ริมทะเล  เราสองคนคุยกันหลายๆ เรื่อง  จนกระทั้ง

“แกเคยมีแฟนมาก่อนไหม จัสติน”

จัสตินมันบอกว่า  “ผมเคยมีแฟนมาแล้วสามคน  คนแรกก็คบกันอยู่แปดเดือนแล้วก็เลิกกันไป  พอคนที่สอง...เขาบอกว่าผมไม่มีเวลาให้เขา  ก็ตอนนั้นผมกำลังยุ่งเรื่องทำเรื่องจบอยู่มันเลยยุ่ง  เขาเกิดไม่พอใจขึ้นบวกกับมีคนใหม่เข้ามาด้วยเลยเลิกกันอีก  ส่วนคนที่สามเรารักกันมากนะ  แต่ว่าเขาต้องไปเรียนต่อที่สวีเดน”

“แล้วไงต่อ?”

“ฮึ!! ก็ไม่มีอะไรแค่เขาแต่งงานกับหนุ่มที่นั้น”

“หา!!!! แล้วแกทำไง?  เรื่องมันแย่มากๆ เลยนะฉันว่า”  เป็นผมนะต้องปวดใจอย่างแรงแน่ๆ ไม่ต้องสงสัย 

“ใช่!! มันเป็นเรื่องที่แย่เอามากๆ เพราะอย่างนี้ไงผมถึงไม่อยากมีแฟนอีก” มันพูดเศร้าๆ ครับ ”แนค เชื่อไหมว่าพอสุดสัปดาห์เมื่อไหร่  ผมจะอยู่คนเดียวไม่ได้เลย  มันทนไม่ได้จริงๆ ผมเห็นผู้คนมากมายมีใครคอยอยู่ด้วยข้างๆ  แต่พอหันมามองดูตัวเองกลับไม่มีใครเลย  ก็เลยต้องออกไปเที่ยวเธคบ่อยๆ เที่ยวเสียบ่อยจนบางครั้งก็เบื่อ  เบื่อจนต้องถามตัวเองว่า  ‘แกมาทำไรที่นี่วะ จัสติน’ นายเคยเป็นอย่างนี้ไหม?”

“ทำไมจะไม่เคย  ฉันก็เคยเป็นเหมือนกันวะ  เป็นออกบ่อยไป”  จะว่าไปแล้วผมกับมันก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่  ผมก็โดนคนอื่นแย่งแฟนไปเหมือนกัน แง  เศร้า+.+  อย่างว่าหละครับคนหน้าไม่โสภาอย่างผมจะเอาอะไรไปรั้งเขาไว้ได้

“แต่ตอนนี้ผมไม่เป็นอย่างนั้นแล้วหละ”

“เออ...  เอ็งเก่ง”   ผมยืนทอดสายตามองขอบฟ้าที่อยู่ฝั่งตรงข้าม  ไกลแสนไกลออกไปนอกชายฝั่ง  “ตรงนั้นมันจะเป็นประเทศอะไรนะ”

“ประเทศไทยมั่ง”

“มั่วแล้วแก...  ประเทศไทยมันจะอยู่ตรงนั้นได้ไงในเมื่อต้องเจอพวกอเมริกาแคนนาดาก่อนไม่ใช่เหรอ?”

“ก็ลองมองไปให้ไกลกว่านั้นอีกสิ  มองไปไกลๆ แล้วจินตนาการเอา  แล้วเราจะเจอในสิ่งที่เราอยากเห็น  ไม่เชื่อก็ลองทำดูสิ”  มันว่ามาอย่างนี้ครับ  ผมได้แต่อึ้ง อึ้ง แล้วก็อึ้ง  ก่อนที่จะทำตามอย่างที่มันว่า 

มันก็คล้ายหลอกตัวเองเหมือนกันนะแต่ว่าก็ดีครับ  แก้คิดถึงคนทางบ้านได้ดีในหลายระดับ แล้วต่อไปนี้ผมไม่ต้องไปยืนมองขอบฟ้าริมทะเลบ่อยๆ เสียแล้วหรือครับเวลาที่ผมคิดถึงมันขึ้นมา  ไอ้บ้าโหดเอ้ย!!  ทำไมฉันต้องเกิดมาชอบแกขึ้นมาด้วยวะ  ทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉันจะชอบฝรั่งอย่างแกได้ 

“ทำไมหน้าฉันมีอะไรผิดปกติเหรอ”  ผมถามหลังจากที่สังเกตเห็นว่าไอ้โหดมันแอบมองหน้าผมแล้วอมยิ้มคนเดียวหลายรอบแล้ว  แต่ความจริงมันก็ทำอย่างนี้มาตั้งแต่ตอนเดินด้วยกันริมทะเลแล้วหละครับ  แต่ผมยังไม่อยากถาม  คือคิดไปเองว่ามันมองไปเรื่อยเปื่อยไม่มีอะไรในก่อไผ่  บางทีผมเผลอยืนมองขอบฟ้าที่อยู่ไกลๆ โน้นนานไปหน่อย  ก็เหมือนว่ามีคนมองมา  พอหันไปมองก็เห็นมันส่งยิ้มมาให้อยู่แล้วครับ

“ไม่มีอะไร...  ทำไม?  มองหน่อยไม่ได้หรือไง”  อุ้ยๆ มีแอบหวานด้วยครับ  ผมหละเขิ้นเขิน :-[ :-[

“เห็นแกมองบ่อยๆ เลยสงสัยนะ”

“ก็พยายามมองว่า...  หน้าแนคบวมขึ้นหรือเปล่า  ดูๆ ไปคล้ายบอลลูนนะ ฮ่าๆๆ” มันยังมีหน้ามาหัวเราะอีกตอนผมไล่เตะมัน  ดูมันดิครับ  ผมกำลังจะสวีทแต่มันเจือกมาว่าหน้าผมขึ้นอืด  อย่างนี้มันต้องตื้บๆๆ ว่าไหมครับ?



22.00 น. ห้องโถงหน้าบ้าน
“ขอบใจนะที่วันนี้แกชวนฉันไปเที่ยวทะเล  แกรู้ไหมว่านี้เป็นครั้งแรกของฉันกับน้ำทะเลเย็นๆ แบบนี้”

“คงไม่เหมือนที่เมืองไทยบ้านนายดิ  ฉันเคยไปภูเก็ตมา  ที่นั้นสวยมากน้ำทะเลก็อุ่นด้วย” จริงครับ  ผมไม่เคยคิดว่าน้ำทะเลมันจะเย็นได้ถึงขนาดนี้  เป็นความรู้ใหม่สุดๆ  “แต่ก็ขอบใจ แนค นะที่ไปเป็นเพื่อนผมวันนี้  ผมอยากบอกว่าผมสนุกมากเลย” ตรงไหน?

“อืม...ไม่เป็นไร” 

“ขอบใจนายอีกครั้งนะแนคที่มาเจอผมที่นี่  ผม...จะพูดว่าไงดีล่ะ  ผมรู้สึกดีจริงๆนะที่ได้เจอกับแนค ทานข้าวเย้นกับแนคเดินเล่นกับแนค  ที่สำคัญผมคิดว่าผมชอบแนคมากจริงๆนะ  ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากห่างจากแนคเลย” มันจับมือผมทั้งสองข้างขึ้นมาเขย่าเบาๆ แล้วกระชับจับบีบเอาไว้แน่นๆ  ค้างอยู่อย่างนั้น

ผมฟังแล้วน้ำตามันจะไหลครับ เลยเดินเข้าไปกอดมันแน่นๆ พยายามให้แน่นมากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้  ซบหน้าลงกับบ่าแข็งๆ ของมัน  มันเองก็ซบทับลงบนหัวลงอีกที  มันกอดผมแน่นเท่าที่ผมกอดมันเลยครับ  เรายืนกอดกันอยู่อย่างนั้นนานเท่าไหร่...ไม่มีใครรู้  ผมรู้แต่ว่าผม...  ผมจะบอกว่าไงดีนะ  ให้มันตรงกับความรู้สึกที่อยู่ลึกๆ ในใจผมตอนนี้ 

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าระยะเวลาเพียงไม่นานมันจะทำให้ผมรู้สึกผูกพันกับใครสักคนที่มีความแตกต่างกันได้มากถึงเพียงนี้  เรามาจากที่ต่างกัน  พูดกันคนละภาษา  ฟังแล้วรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง  มันอาจเหมือนนิยายน้ำเน่ามากๆ ที่ตอนแรกเราไม่ชอบกันสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นว่ากลับมารู้สึกต่อกันดีๆ อย่างนี้  แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ บนโลกเบี้ยวๆ บูดๆ ใบนี้ครับ 

ผมไม่รู้ว่าเรื่องราวเหล่านี้มันจะจบลงตรงไหน  จบอย่างไร  แต่ผมก็ไม่เสียใจหรอกนะหากมันต้องจบลง...แต่คงทำไม่ได้ Y.Y ผมเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้คาดหวังว่าผมจะเจอคนสักคนที่จะกลายมาเป็นคนพิเศษ  คุณลองคิดดูนะครับว่า  คนที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะหน้าตาดีจนมีใครมาให้ความสนใจอย่างผม  คนที่คอยคิดอยู่เสมอว่าจะมีใครสักคนไหมที่มองผ่านหนังหน้ายับย่นอันนี้เข้ามามองกันข้างใน  ใครสักคนที่จะมอบความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน  ผมอยากได้ความรู้สึกดีๆ จากใครสักคนหนึ่งโดยที่ไม่ต้องสนหรือคำนึงถึงเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากเสียงที่มันดังก้องอยู่ในใจเท่านั้น

ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ได้มานั้นมันเป็นของจริงหรือไม่  มันจะยาวนานหรือยั่งยืนหรือเปล่า  ผมรู้เพียงแต่ว่า...ตอนนี้ผมได้รับมัน  ผมรับรู้ได้ถึงมันว่ามันวิ่งวนอยู่รอบๆ ตัวผม  นานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่เคยพบพานมันเลย  ผมเคยเชื่อว่าผมคงไม่มีทางจะได้พบเจอมันอีกแล้วในชีวิตนี้  แต่ก็ยังพยายามค้นหา  หาจนเหนื่อย  เหนื่อยจนท้อ  ท้อจนเริ่มสิ้นหวัง  มีเพียงความหวังเล็กๆ ที่แอบซุกซ่อนอยู่มุมที่มืดมิดของความนึกคิดซึ่งคอยหล่อเลี้ยงหัวใจผมไม่ให้มันแห้งผากมากนัก  ความหวังเล็กๆ ที่เหมือนแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาขับไล่ความเหน็บหนาวอ้างว้างเปลี่ยวเปล่าเมื่อความเหงาเข้ามาเกาะกุมหัวใจผม  มันช่างแสนทรมานเกินกว่าที่จะอธิบายให้ใครบางคนร่วมเข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกนี้

ผมหวังว่าสักวันหนึ่งผมอาจจะได้พบเจอความรู้สึกที่ผมกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้...  ผูกผันกับใครสักคนหนึ่ง  แม้ไม่รู้ว่ามันจะดีหรือร้าย  หากอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้กัน  เราหัวเราะด้วยกัน  กินข้าวด้วยกัน  เดินเคียงข้างกันไปเงียบๆ โดยที่ไม่ต้องพูดคุยกันแม้แต่สักคำแต่ผมก็รับรู้ว่าผมไม่เหงาอีกต่อไปแล้วเมื่อผมมีใครบางคน...จัสติน...คอยอยู่ใกล้ๆ เคียงข้างผม  เราอาจทะเลาะกันบ้าง  โมโหกันบ้าง  แต่มันก็ยังดีกว่าที่เราไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อกันเลยไม่ใช่หรือครับ  แต่พอผมเจอคนคนนั้น  อีกไม่นานผมก็กลับจะต้องจากเขาไปอย่างที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบเจอกันอีก  แล้วถ้าเป็นเช่นนี้...ผมควรจะทำไงต่อไปครับ  บอกผมที...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2006 01:27:47 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #92 เมื่อ29-12-2006 22:23:48 »

27 Mar. 2006
00.08 น. กับคอมพ์ บนโต๊ะทำงาน

ตอนนี้มันนอนหลับไปแล้ว  ผมแอบลุกขึ้นมาเขียนอะไรไร้สาระไปเรื่อยเปื่อย...  เวลามันหลับมันก็น่ารักดีนะครับ  ผมไม่เคยนึกออกเสียทีเวลาอ่านนิยายแล้วเจอประโยคที่คนเขียนบรรยายว่าหลับแล้วเหมือนเด็กนั้นมันเป็นแบบไหน  จะเป็นอย่างที่ไอ้โหดมันกำลังทำอยู่ตอนนี้หรือเปล่านะ?  แก้มมันใสดีครับ  ขนตาสีน้ำตาลดำนั้นยาวงอนเชียว  ผมละอิจฉามันจริงๆ พวกฝรั่งหละก็หน้าใสกันจัง  ผมว่า...เอาน้ำกรดมาสาดหน้ามันเล่นดีกว่าเนอะ  ท่าทางจะสะใจ

ผมกำลังนั่งเขียนบันทึกเรื่องราวของไอ้โหดเอาไว้ครับ  บันทึกเอาความทรงจำเรื่องราวต่างๆ ที่เราได้มาอยู่ร่วมกันในชายคาบ้านหลังนี้  อยู่ๆ ผมก็นึกถึงเพลงประกอบละครเรื่องคู่กรรมสมัยที่พี่เบิร์ดเล่นกับกวาง กมลชนก ที่ฉายในช่องเจ็ดเมื่อสมัยที่ผมยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ โน้น  ตอนนั้นฟังแล้วก็...เออ! ทำนองเพราะดีนะเลยหัดร้องเอาไว้  แต่ผมลืมมันไปนานแล้วจนมาวันนี้...วันที่ผมกำลังเป็นเหมือนในเพลง....

...ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง   แกล้งทรมานให้ฉันได้เจอ
เกลียดชิงชัง  สุดท้ายรักเธอ   แต่พอเผลอพรากเธอดับสูญ
เวรกรรม...หรือไรแต่ปางไหนนั้น   สุขเพียงชั่ววัน  แต่ช้ำทวีคูณ
ให้ห่างไกลสุดฟ้า  อาดูญ  สูญสิ้นเธอตลอดกาล...
เป็นไงครับ  เน่าได้ใจไหมครับ....
.............................................................

 “หือ!!  ว่าไงทำไมยังไม่นอน” มัวงัวเงียตื่นตอนผมหอมที่หน้าผากมันแรงๆ  ไอ้โหดแกจะรู้ไหมว่าฉันกำลังจะรักแกมากขึ้นทุกทีแล้วนะโว้ย  “ร้องไห้ทำไมอะ แนค” มันตกใจตื่นสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นว่าผมนั่งน้ำตาไหล  ก็มันอั้นไม่ไหวจริงๆ แล้วครับ  แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอมันอีกแล้วผมก็เริ่มหายใจไม่ออกอีกแล้ว

“ฉันกลัวนะ  กลัวว่าจะไม่ได้เจอแกอีกแล้ว” ตอนนี้ผมร้องไห้ไม่อายหมาไหนอีกแล้วครับ  กรูขอปลดปล่อยสุดๆ เสียทีนะ

“ทำไม?  ทำไมเราจะไม่ได้เจอกันอีก  ฉันก็ไม่ได้ไปไหนนิ” มันคว้าผมไปกอดแล้วลูบหน้าลูบหลัง

“อีกไม่กี่วัน...ฉันต้องไปจากที่นี่แล้วนะ  ถึงตอนนั้น...ฉันคงไม่ได้เจอแกอีกแล้วนะสิ”

“stupid boy ทำไมเราจะไม่ได้เจอกันอีก เราคุยกันทาง MSN ก็ได้นิ  เดี๋ยวนายทิ้งแอดเดรสนายไว้ให้ฉันก่อนไปด้วยนะ  แล้วถ้างานเสร็จฉันมีเวลาว่างเมื่อไหร่ฉันจะไปหานายที่เมืองไทยอีก  แนค…นายไม่ต้องห่วงเลย  ฉันไม่มีทางปล่อยนายห่างไปไหนหรอก”

“ฉันไม่รู้....อยู่ๆ มันก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา  ฉันกลัวจริงๆ นะ  กลัวว่าจะไม่ได้เจอแกอีก”

“ไม่ต้องกลัวหรอก  ไม่แน่พอนายไปอังกฤษแล้ว...เจอผู้ชายที่นั้นขี้คร้านจะลืมฉันนะสิ  ถึงตอนนั้นฉันก็คงเหงาเหมือนเดิม” 

:o ไอ้บ้า!  แกว่าฉันสำส่อนได้ขนาดนั้นเลยหรอ”

“ไม่ใช่  แค่ต้องบอกเฉยๆ ว่า เรื่องของอนาคตมันไม่แน่นอน  บางอย่างอาจเกิดขึ้น  บางอย่างอาจไม่  ไม่มีใครรู้ นายไม่ต้องคิดมาก  แค่ตอนนี้นายมีฉันแล้วฉันก็มีนาย  คิดแค่นี้พอแล้ว”

“คิดง่ายจังเลยนะแก”  :untrust:

“แล้วนั้นทำไรอยู่” มันหันไปพยักเพยิบกับโน้ตบุคผมที่อ้าซ่าอยู่ “ไม่เอา  นอนได้แล้ว” มันพูดตอนเดินไปปิดคอมผมก่อนหันหลังกลับมาที่เตียงแล้วพูดว่า  “Hug me” 

ผมเลยกระโจนเข้าใส่กอดมันสุดแรงควายเลยครับ

“More” ผมเลยรัดเพิ่มไปอีก  “You see, I am here now, on the bed with you. So, don’t worry, baby”

“อืม.....” คำเดียวที่ผมพูดออกไป  หากผมขอพรได้ผมอยากให้คืนนี้ทอดยาวนานออกไปอีกจัง

A LOVE THAT WILL NEVER GROW OLD  : รักนี้ไม่มีวันสลาย

Go to sleep, may your sweet dreams come true
หลับเถิดนะ แล้วฝันงดงามของนายจะกลายเป็นจริง

Just lay back in my arms for one more night
เพียงแอบอิงเอนกายในอ้อมแขนฉันอีกสักคืน

I’ve this crazy old nation that calls me sometimes
อีกบางครั้ง ในห้วงคำนึง ฉันมีความรู้สึกอันประหลาด

Saying this one’s the love of your life.
ที่คอยย้ำเตือนให้รู้ว่า นายนั่นเองคือรักที่ฉันเฝ้าคอย


‘Cause I know a love that will never grow old
เพราะฉันได้รู้ รู้จักรักที่ไม่มีวันจืดจาง

And I know a love that will never grow old.
และฉันได้รับรู้ รับรู้รักที่ไม่มีวันจืดจาง

When you wake up the world may have changed
เมื่อนายลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง โลกนี้อาจจะแปรเปลี่ยน


But trust in me. I’ll never falter or fail
แต่วางใจเถอะนะว่า ฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปร

Just the smile in your eyes, it can light up the night,
เพียงรอยยิ้มจากดวงตาของนายได้จุดกลางคืนให้กลายเป็นกลางวัน

And your laughter’s like wind in my sails.
และเสียงหัวเราะของนายคือแรงพลังให้ฉันดำรงอยู่ต่อไป


Lean on me, let our hearts beat in time,
เอนลงแนบกายฉัน ให้หัวใจเราสองเต้นเป็นดวงเดียว

Feel strength from the hands that have held you so long.
สัมผัสความแข็งแกร่งจากมือคู่นี้ที่ได้เกาะเกี่ยวนายไว้เนิ่นนาน

Who cares where we go on this rugged old road
ไม่มีใครจะมาสนใจหรอกว่า เราจะจบลงที่ใดบนเส้นทางชีวิตที่ยากเย็นเช่นนี้

In a world that may say that we’re wrong
เพราะโลกนี้ ใครๆ ต่างพากันบอกว่า เราคือสิ่งผิดอยู่ร่ำไป  :monkeysad:


   ใช่สิ...สำหรับโลกใบนี้  ความรักของผมกับจัสตินคงเป็นสิ่งที่ผิดไปตลอดกาล...เพียงเพราะว่าเราต่างไปจากส่วนใหญ่เท่านั้นเอง?

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #93 เมื่อ29-12-2006 22:29:46 »


28 Mar. 2006
19.45 น. ห้องใหม่  หอใหม่



(บ้านประตูแดงนั้นแหละครับ)

โทษทีครับไม่ได้เขียนมาหลายวัน  เอ! ความจริงแค่เมื่อวานเองวันเดียวเองเนอะ ก็จะใครหละครับ  มันนั้นแหละ  พอกินข้าวกินปลาเสร็จ  ผมอาบน้ำแล้วเตรียมตัวจะมาเปิดคอมเขียนมันก็ดันมาปิดซะงั้น แล้วก็ลากผมไปออกรบจนเกือบสว่าง

แล้ววันนี้ก็เหมือนกันกว่าจะได้ย้ายของออกมาก็บ่ายสามเกือบบ่ายสี่แล้ว  จะทำไมหรือครับ  ก็เพราะมันอะดิครับทะลึ่ง  ผมกำลังก้มอ่านแผนที่เมืองอยู่เพื่อจะหาว่าที่ทำการไปรษณีย์มันอยู่ที่ไหน  กะว่าพรุ่งนี้จะแวะไปส่งโปสการ์ดให้คนทางบ้านเสียหน่อย  กำลังไล่สายตาหาอยู่พอดี  มันเจือกมาประกบข้างหลังแล้วไม่ยอมถอยออก  แถมเอามือมาลูบเข้ามาในเสื้อผมอีก

“เอวแกเล็กนี้เนอะ” เล็กกับผีอะไรวะตั้ง 32  :untrust:

“ไม่นะ  อ้วนออก  อยากเอวเล็กกว่านี้ด้วยซ้ำ  อยากมีหุ่นเป็น v shape” ผมตอบแต่ว่าก็ยังยืนหาไปรษณีย์ท่าเดิมครับ  ไม่ทันฉุกคิดอะไรจริงๆ ตอนนั้น สาบานเลย  เอ้า!

“ไม่หรอกหุ่นอย่างนี้กำลังดี  แต่ก็ไม่น่าเชื่อนะว่านายจะหนัก 70 ผมยังหนักแค่ 78 เองเลยแต่เอวนายเล็ก ก้นสวยกลมดี ผิวก็ลื่นๆ ผิวเอเชียไม่มีขนเยอะผมชอบ” มือมันก็ลูบอยู่นั้นแหละ

“อืม...”  ผมก็เออออไปตามประสาไม่ได้สนใจมันมากนักเพราะกำลังเพ่งสมาธิหาที่ทำการไปรษณีย์จากแผนที่อยู่  แล้วอยู่ๆ มันก็...

“ไม่ต้องดูแล้วแผนที่  ไปทำอย่างอื่นบนเตียงต่อดีกว่า” 

 :pigscare2: อะ! ช่วยผมด้วยครับ  ผมไม่ไหวแล้ว  ซังกุงห้องเครื่อง(เครา)บอกว่าแทบจะผลิตน้ำเลิศรสไม่ทันอยู่แล้ว  ส่วนฝ่ายการทางพิเศษก็บอกว่าอุโมงค์เริ่มเสียหายหนักเนื่องจากมีปริมาณการจราจรคับคั่ง  เดี๋ยวเข้าเดี๋ยวออกให้วุ่นวาย  แถมไม่ใช่คันเล็กๆ เสียด้วยอาจต้องปิดซ่อมชั่วคราว  แต่ว่าก็เบรกมันไม่ได้สักที  ก็ผมนี้แหละครับที่ผลักมันลงไปนอนก่อนตามลงไปทาบทับมัน  อิอิ  อยากมากใช่ไหมน้องได้เลย  พี่มันไอ้เสือสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว  แล้วไส้กรอกเยอรมันก็ถูกกินไปอีกหนึ่ง  ส่วนมันก็อิ่มไปกับไส้กรอกอีสานอีกรอบ ฮ่าๆๆ 

ผมหละอาย  :myeye: ช่างก่อสร้างที่กำลังปรับปรุงผนังบ้านด้านนอกเสียจริง  พวกเขามองกันใหญ่เลยตอนผมเดินหิ้วของออกไป  ส่วนไอ้โหด...มันก็ทำหน้าร่าเริงบานเบิกอย่างแรง  มันไม่อายเข้าหรือไงนะ  คุณลองคิดดู  มันส่งเสียงร้องดังซะขนาดนั้นตอนมัน ‘come’  แล้วเสียงสปริงที่เตียงก็ลั่นเอี้ยดอ้าดดังสนั่นหวั่นไหว  แถมยังเป็นกลางวันแสกๆ คนพวกนี้ก็กำลังทำงานอยู่เลยตรงริมหน้าต่างห้องเสียด้วย  ไม่รู้ว่าผ้าม่านมันปิดสนิทหรือเปล่า  อ้ายยยยยยยยส์ ไม่ไหวแล้วได้ยินเสียงหัวเราะด้วย  วิ่งดีกว่ากรู อายฉิบ! :love2:

“วิ่งทำไมน่ะ” มันถามผมตอนวิ่งตามมาทันที่มุมถนน

“ก็อายคนงานนะสิ แกไม่เห็นเรอะว่าเขาหัวเราะกันด้วย”

“อายทำไม? ก็คนมันรักกันนี่” มันเดินมากระแซะไหล่ผม  จนเซไปโดนเก้าอี้ที่เขาวางไว้ให้คนนั่งจิบกาแฟกลางแสงแดดแบบ sit in the sun นะครับ  ไม่รู้นึกไงมานั่งตากแดดกินกาแฟ... 

“ไอ้บ้านี่...จะกระแทกไปถึงไหนโว้ย อย่าหนีนะ  หยุดเดี๋ยวนี่”  ผมตะโกนวิ่งไล่กวดมันที่วิ่งห้อแรดนำหน้าหนีผมแล้วครับ

21.17 น. ห้องใหม่ หอใหม่
“จะนอนนี่หรอ?” ผมถามคนที่ยังโอ้เอ้ไม่ยอมกลับไปเสียที

“อืม...  นอนกับนายนั้นแหละ  ขี้เกียจกลับไปห้องโน้น”

“เออ!  ความจริงฉันอยู่ห้องโน้นต่อก็ได้นี่หว่าเนอะ  เพราะว่าแกยังอยู่ห้องเดิมเลย  ฉันก็น่าจะค้างที่นั้นกับแกได้”

“นั้นสิ!  ผมก็ยังสงสัยว่าทำไมแนคต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย  ช่างยัย Astrid นั้นประไร” เห็นไหมครับว่าพอลับหลังเขามันเรียกเขาว่า ”ยัย” ทันที  แต่พอต่อหน้านะเรียก คุณครับ คุณครับ ตลอดเลย

สาเหตุที่ผมต้องย้ายออกมาพักที่นี่ก็เป็นเพราะว่าห้องนี้คือห้องที่ Miss Astrid จองไว้ให้ผมมาพักแต่ตั้งแรกเลยครับ  แต่ว่าที่ผมได้ไปอยู่กับไอ้โหดเพราะโปรเฟสเซอร์คนที่จองห้องเดียวกับไอ้โหดเขาแก่แล้ว  เดินไม่ไหวมันไกลจากตึกที่เค้าจะทำงานเลยขอแลกห้องกะผม  ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกเพิ่งมารู้เมื่อไม่กี้วันมานี้เองครับ 

มหัศจรรย์ไหมครับ ผมเลยต้องพลัดพรากจากห้องที่จองไว้ตั้งแต่ตอนแรกไปอยู่กะไอ้โหดมันแทน  ผมก็เลยได้กันเสียกับมันจนฉ่ำปอดอยู่นี้ไง  คิคิ  :monkeylaugh2:

“แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก  จนย้ายมาแล้วเพิ่งจะมาบอก” ผมเดินไปแกล้งบีบคอมันเล่นๆ

“ก็ไม่เป็นไร  คืนนี้เรานอนนี้  พรุ่งนี้ค่อยกับไปห้องของเรา” ว้าว! ดูมันพูดดิครับ ‘ห้องของเรา’ รู้สึกดีจังเลย
แหะ “เปลี่ยนสถานที่บ้างก็ดีนะ  จะได้รสชาติใหม่บ้าง  ตื่นเต้นดี” มันทำท่าหื่นใส่ผมอีกแล้ว

“ไม่ต้องเลยแก...นอนเลย นอนอย่างเดียวด้วย  ห้ามทำอย่างอื่น”

“จริงเหรอ?” มันทำตาวิบๆ ใส่ผม เดี๋ยวเถอะ! รู้จักตูน้อยไปแล้วละมั่งคุณน้องโหด

“ไม่เอาอะ  เจ็บ....  ไม่เห็นหรือว่าเมื่อกลางวันวันนี้ฉันยังบ่นๆ อยู่เลย”

“อืมๆ เชื่อครับ  เห็นแล้วว่าเจ็บจริง แต่ความจริงไม่น่าเจ็บนะ  ของผมเล็กนิดเดียวเอง”

“เฮ้ย! ใครบอกแก  อย่างนั้นเรียกว่าเล็กหรอ  ไม่ม้าง หย่ายยยยยยส์ จะตาย  ไหนเอามาใหม่สิ ฮ่าๆ แต่ไม่เอาดีกว่า  ไม่อยากวอนหาเรื่อง  ไม่ไหวฉันขอยอมแพ้”  :sad4:

“อิอิ  ผมด้วย  เจ็บเหมือนกัน” มันทำท่ายอมแพ้ แล้วทำตาเหลือก หน้าเบี้ยวแบบว่าเจ็บข้างหลังของมัน ฮ่าๆๆๆ  ดูมันทะลึ่งดิครับ  ไอ้โหดบ้ากามของผม  :angellaugh2:

“พูดมาก  นอนไปเลยแก  ฉันจะนอนแล้วปิดไฟๆ” ผมสั่งให้มันลุกขึ้นไปปิดไฟ  มันไม่วายบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ลุกขึ้นไปปิดตามคำสั่งแต่โดยดีก่อนพุ่งตัวลงมาหาผม

“ปิดไฟตามคำสั่งแล้วครับท่านนายพล  ตอนนี้ถึงเวลารับรางวัลพลทหารดีเด่นแล้วนะ ฮ่าๆ”

คืนนี้ผมเลยได้ฉลองขึ้นหอใหม่กับมันเพียงลำพังสองความอย่างมีความสุขแบบเหนื่อยๆ แต่ผมก็ชอบครับ คริคริ  ก็มันไส้กรอกเยอรมันกินอร่อยจริงๆ นี่ครับ  ใครบ้างจะอดใจไหว  :3063:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #94 เมื่อ29-12-2006 22:37:08 »

29 Mar. 2006
11.36 น. ที่ทำการไปรษณีย์



   ผมเดินมาส่งโปสการ์ดไปให้ตัวเองและคนที่บ้านครับ  สามใบค่าส่ง 2.55 ยูฯครับ  ถูกกว่าที่ฝรั่งเศสเสียอีก...ที่นั้นคิดแผ่นละ 0.95 ยูฯแน่ะ  เสียดายตังค์แทบแย่ตอนจ่ายเงิน  แต่ส่งจากที่นี่ไปก็ไม่รู้ว่ากี่วันกว่าจะส่งไปถึงมือคนรับ  ถึงตอนนั้น...ผมคงออกจากที่นี่ไปแล้ว  คิดๆ แล้วก็เศร้าครับ  :monkeysad2:

20.45 น. ห้องครัวครับ หอไอ้โหดมัน
“เฮ้!  จัสติน  ถามจริงๆ เถอะ  แกชอบฉันตรงไหน?” ผมเริ่มคำถามที่คาใจมาหลายวันแล้ว  อยากรู้จริงๆ ครับ  แล้วก็กินไอศกรีมในถ้วยตรงหน้าตัวเองไปด้วย

“ไม่รู้สิ  ชอบเวลานายยิ้ม  เวลานายทำหน้าตลกๆ (อันนี้ผมขอเถียงนะครับว่าไม่มี  ไม่เค้ยไม่เคยทำเด็ดขาด  ทำแต่หน้าหล่อย่างเดียว) แล้วชอบที่แกเอาใจใส่ฉัน”

“เอาใจใส่!!  ยังไง?” ผมขมวดคิ้วถาม  พลางคาบช้อนตักไอศกรีมคาปากเอาไว้อย่างนั้น

“ก็คอยหาของให้กิน  คอยมาถามว่าวันนี้จะกินอะไร  จะไปเที่ยวไหน  คอยปลุกให้ลุกไปทำงาน”

“หรอ?  แล้วทำไมตอนแรกแกชกฉันวะ”  ผมว่าผมถามคำถามโง่ๆ เนอะ

มันชะงักมือที่ตักไอติมเข้าปาก  เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมแว้บนึงแล้วตอบว่า  “ก็โมโหสิ  นายเดินชนผมตั้งหลายรอบ  แล้วไม่ขอโทษสักคำ  ว่าแต่นายเจ็บหรือเปล่าที่โดนผมชกนะ”

“ไม่หรอก  ไม่เจ็บเลย  แกชกเบามาก” :monkeycry2:

“แฮ่ะๆ ผมขอโทษนะ  เดี๋ยว...วันนี้ให้เบิ้ลสองรอบเลย  เอ้า!!”

“ไม่เอา  เหนื่อย  เชิญแกทำไปคนเดียวเอาเองแล้วกันฉันจะนอน  ว่าแต่...  อิอิ  แกเริ่มชอบฉันตอนไหนวะจัสติน  บอกหน่อยสิอยากรู้น่ะ”

“เอ!  ตอนไหนดีหว่า?” มันทำหน้านึกใหญ่เลยครับ  “ตอนเห็นแกนอนหลับอยู่บนรถมั่ง”

“หา!!! ตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรือ”

“มันก็ไม่เชิงหรอก  แค่อยากดูหน้าคนที่มันมาชนคนอื่นจนข้าวของเสียหายแล้วไม่รับผิดชอบนะ  โมโหมากกว่าเลยจับตาดูมาตลอด  ปกติคนเอเชียเขาไม่ค่อยกล้ามาวอแวกับคนยุโรปสักเท่าไหร่นิ  พอรู้ว่าได้มาที่เดียวกันเลยอยากแกล้งเอาคืนนะ”

“โห!! ขอบใจมากนะที่บอก  แสดงว่าที่ผ่านมาแกแกล้งฉันมาตลอดเลยใช่ไหม?”

“อืม.....” มันตอบตรงๆ ไม่มีอ้อมให้เสียเวลาเลยครับ  “แต่ว่ายิ่งแกล้งยิ่งชอบนะเวลาเห็นนายทำหน้าหงุดหงิดแล้วมันตลกดี”

“โรคจิตเปล่าแกนะ”

“ไม่รู้  แล้วนายหละชอบผมตอนไหน?”

“ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นตอนไหนเมื่อไหร่หรอกนะ  เพียงแต่ว่าตอนที่เห็นนายยืนอยู่กับอัตในเธคที่อัมสเตอดัมแล้ว  ใจฉันมัน...อยากเอานายกลับคืนมานะ”

“นายเลยขึ้นไปห้องมืดกับไอ้หมอนั้น?”

“ก็...ทีแกเองยังทำท่าว่าจะขึ้นไปกับอัตเลยทำไมฉันจะขึ้นบ้างไม่ได้?” ผมเอาสีข้างเข้าสู้

“ใครบอกว่าจะขึ้น  ขึ้นไปแล้วต่างหาก”

“อะไรนะ!!! แกขึ้นไปมาแล้วเหรอ  ขึ้นไปทำไม  บอกมานะ”  ผมลุกขึ้นเดินไปเขย่าคอมันไม่แรงมากนัก  แต่มันน่าบีบคอให้ตายจริงๆ

“แค่กๆ ทีแกยังไปมีอะไรกับไอ้ฮวนได้เลย”

“ก็ตอนนั้นฉันยังไม่ได้เป็นอะไรกับแกเลยนี่หว่า  ก็ทำได้สิ”

“แล้วตอนนี้เป็นอะไรหละ”  มันถามกวนบาทาผมอีกแล้ว

“เพื่อนแกไง” ผมตอบ

“เพื่อน? เป็นแค่นั้นจริงๆ เหรอ  ไม่มั่ง...  เป็นมากกว่านั้นนะผมว่า  เพื่อนเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก”  มันเดินมาโอบเอวผมจากข้างหลังตอนผมยืนล้างถ้วยไอติมที่อ่าง  แล้วซุกหน้าลงตรงซอกคอผม

“อย่านะ  มือเลอะอยู่  เห็นไหม?” ผมยกมือที่เลอะฟองสบู่ให้มันดู

“แค่จูบเฉยๆ นา นะนะ”

“อืม....”  สังเกตไหมครับว่าพักนี้ผม  ‘อืม….’ ตลอดเลย ฮ่าๆๆ :really2:

23.19 น. ห้องนอนไอ้โหดมันครับ
   อยู่อะไรก็ดลใจให้ผมเปิดเพลงนี้ขึ้นมาก็ไม่รู้  ผมเห็นมันยังค้างอยู่ใน play list ของโปรแกรมวินเอม  ผมเองก็จำไม่ได้แล้วว่ามันคือเพลงอะไร  เลยกดฟัง  ผมไม่ได้ขี้แยนะครับแต่ว่าถ้าใครกำลังเป็นอย่างผมตอนนี้คงจะรู้ดีว่ามันรู้สึกอย่างไรเวลาฟังเพลงๆ นี้


…I don't want to say goodbye 
ยากยิ่งนัก ที่จะหัก ใจกล่าวลา

Let the stars shine through.
ปล่อยแสงพร่า จากดารา ให้ส่องไหว

I don't want to say goodbye 
ยากยิ่งนัก จะเอ่ย คำว่าไป

All I want to do is live with you… 
เพราะหัวใจ ผมนั้น ต้องการคุณ

…Just like the light of the morning
เหมือนแสงอุ่น แห่งอรุณ ที่ส่องฉาย

After the darkness has gone   
หลังฟ้าดำ คลี่คลาย มลายสูญ

The shadow of my love is falling   
เงาแห่งรัก ของผม ก็สิ้นมูล

On a place where the sun always shone. 
บนผืนดิน ที่แสงอุ่น ยังส่องมา

Don't you know that's where our hearts both belong?... 
ไม่รู้หรือ ว่าหัวใจ เราอยู่ไหน


…'Cause I don't want to say goodbye 
ยากยิ่งนัก ที่จะหัก ใจกล่าวลา

Let the stars shine through. 
ปล่อยแสงพร่า จากดารา ให้ส่องไหว

I don't want to say goodbye 
ยากยิ่งนัก จะเอ่ย คำว่าไป

All I want to do is live with you. 
เพราะหัวใจ ผมนั้น ต้องการคุณ


Together our two hearts are strong   
ยังอยู่ใกล้ ยืนหยัด ดังภูผา

Don't you know that's where our hearts both belong?...
ไม่รู้หรือ ว่ารัก ไม่เคยซา  ถึงจากลา แต่ใจใกล้ ไม่ไหวติง


….'Cause I don't want to say goodbye 
เพราะผมนั้น ไม่อยาก เอ่ยคำลา

Let the stars shine through. 
ปล่อยแสงพร่า จากดารา ให้ส่องใส

I don't want to say goodbye 
และผมนั้น ไม่อยาก จากคุณไป

All I want to do is live with you
ในหัวใจ ร่ำร้อง อยากใกล้คุณ

All I want to do is live with you….
ทั้งหัวใจ ฝากไว้ อยากใกล้คุณ


30 Mar. 2006
ไม่มีอะไรนอกจากเศร้า  และก็ทะเลาะกันนิดหน่อยครับ  เรื่องอะไรหรอครับก็เพียงแค่ผมบอกว่าเด็กฝรั่งคนในรูปน่ารักดีจังเลย  เลยแอบถ่ายรูปเขามา  มันก็หาว่าผมมัวไปสนใจคนอื่นไม่ยอมสนใจถ่ายรูปให้มันที่กำลังยืนฉีกยิ้มกว้างเตรียมโพสต์ท่าเป็นนายแบบจำเป็นอยู่ตรงราวสะพาน

ผมก็บอกแล้วว่าแค่เห็นน้องเขาน่ารักดีเลยอยากถ่ายรูปเก็บเอาไว้ดูเล่นเฉยๆ มันก็ยังไม่ยอมฟังเดินหนีผมดุ่มๆ ไปทางหน้าบ้านที่มีเรือจอดอยู่นั้นไงครับ  ผมก็รีบวิ่งตามไปจนไปทันตรงกังหันลมอันใหญ่ใจกลางเมือง  พอไปถึงก็เห็นมันยืนทำหน้าอ้อล้อถ่ายรูปกับพวกสาวญี่ปุ่นทั้งหลายที่มาเที่ยวในฤดูเทศกาลดอกทิวลิปบานแบบนี้

แม่สาวพวกนั้นนะผมไม่คิดอะไรเท่าไหร่หรอกครับแต่พอไอ้หนุ่มคนที่เป็นตากล้องจะเข้าไปผลัดให้แม่สาวคนนั้นเป็นฝ่ายถ่ายรูปให้บ้าง  ไอ้โหดดันทำหน้าที่ดีเกินคาด...ไปโอบคอไอ้หนุ่มคนนั้นเฉยเลย  ผมนะ...ลมพุ่งปรี้ด....ตีคว้านอยู่ในสมองก่อนพุ่งพรวดทะลุออกหูสองข้าง  เลยเดินปาดหน้าหนีมันมาเลยครับ  มันจะตามมาหรือเปล่าผมไม่สนใจแล้ว  ตูงอน!

“แนคเป็นไรครับ?” เสียงไอ้บ้าห้าร้อยดังมาจากข้างหลัง

“...........”  เอาความเงียบเข้าข่ม

“โกรธผมหรอ?  เรื่องไรน้า...ผมไม่ยักกะรู้ตัวเลยนะ” เจ้าของเสียงมันเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผม  พอผมจะลุกขึ้นมันก็ตามมาคว้ามือผมไปไว้เสียก่อน “ทีแนคยังไม่ถ่ายรูปเด็กหนุ่มคนนั้นเลย”

“ฉันมันก็แค่ถ่ายรูปแต่แกล่ะ  ทำอะไร...หา!?”

“ก็เขามาขอให้ช่วยถ่ายรูปให้แล้วก็ชวนถ่ายรูปด้วยกัน”

“อ้อ.....แกก็เลยทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีกอดคอเขาเลยใช่ไหม  นี่แนะ! กอดเลยใช่ไหม  กอดชอบดีนักมันต้องโดนแบบนี้”

“โอ้ย! เดี๋ยวก่อนแนค  อู้ว! พอแล้ว  ผมเจ็บจะตายอยู่แล้วนะ  อ้าก!”

“ดีสม  แน่จริงตายไปเลยสิยังจะยืนอยู่ทำไม  ไหนว่าเจ็บไง”

“เจ็บสิใครว่าไม่เจ็บ  แนคมือหนักชะมัดเลย”

“นี้ยังน้อยไปนะ  คราวหน้าถ้ามีอย่างนี้อีกจะเอาให้หนักกว่านี้หลายเท่า  คอยดู!”

“คร้าบบบบ  กลัวแล้วครับ  คราวหลังจะไม่ทำให้เห็นอีกแล้วครับ”

“อะไรนะ?! หมายความว่าจะไปแอบทำงั้นหรอก  ไอ้บ้า! เตรียมตัวตายเสียเถอะแก”

“แว้กๆ ผมเปล่านะ  ผมไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย โอ้ยๆ ช่วยด้วย! ช่วยด้วยคร้าบ”

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #95 เมื่อ30-12-2006 01:22:58 »

19 Api. 2006
16.58 น. สถานีรถไฟกลาง Leiden



วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะใช่อากาศจากทองฟ้าของเมืองนี้หายใจ  ถ้าดูจากสถานที่ที่ผมเขียนบอกไปคุณคงรู้ว่าสินะว่าทำไม

ใช่ครับ! ผมกำลังจะเดินทางออกจากเมืองนี้  เพื่อไปไหน?  เพื่อกลับไปหาคนที่เขาบอกว่าคิดถึงผมอยู่ทุกลมหายใจ....แม่ของผม...และก็แน่นนอนอีกเหมือนกันว่าผมก็คิดถึงมากเหมือนกัน

คุณจะรู้สึกยังไงเมื่อมีคนบอกกับคุณอย่างนี้ ~ผมชอบคุณนะ~ สำหรับผมแล้วในห้วงเวลาแบบนี้มันช่างเป็นคำที่วิเศษเหลือเกิน  คืนก่อนหลังจากที่จัสตินกลับไปเพื่อเตรียมตัวไปยังอีกเมืองหนึ่งเพื่อทำงานวิจัยที่นั้น  ผมโทรศัพท์ข้ามประเทศไปหาโอ้ที่เยอรมัน


~แกก็ลองรักเขาดูก่อนก็ได้~

~ไม่ใช่แค่ลองรักนะสิแก  ฉันคิดว่าฉันรักมันไปแล้ว~

~ฉันอิจฉาแกวะที่มีคนมาสนใจ  ส่วนฉันสิไม่มีเลย~

~เพื่ออะไรแก?  เพื่อที่จะเป็นเพื่อที่จะรู้สึกอย่างที่ฉันกำลังเป็นอย่างนี้หรือ?~

~ชะตาฟ้าลิขิตนะแก  มีแต่คนบนฟ้าเท่านั้น...ที่จะรู้ว่าสิ่งไหนจะดำเนินไปทางไหน~

~ฟ้าลิขิต?  ลิขิตให้ฉันเป็นอย่างนี้หรอแก...มันยุติธรรมแล้วหรอ?~

สิ่งที่เกิดกับผมมันอยากจะเกิดขึ้นไม่ยากเย็นเลยสำหรับกรณีของคนอื่น  แต่สำหรับผม...ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ในช่วงชีวิตที่ผมเหลืออยู่  ความรักมันอาจจะเดินเข้ามาหาผมเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วจากไปตลอดชีวิตของผมเลยก็ได้  ผมจึงไม่อยากสูญเสียมันไปในตอนนี้

~ร้องออกมาเถอะแก   ฉันรู้ว่าร้องแล้วมันจะสบาย  แต่ร้องเพื่อล้างตานะอย่าร้องเพื่อแสดงความอ่อนแอเลย~

~แต่ฉันกลัว  ฉันไม่อยากจากมันไปเลย...จริงๆ นะโอ้~

~แกจะกลัวอะไร?  หมอดูยังบอกเลยว่าแกนะดวงไม่ขาดคนสิเน่หา~

~แต่แกคิดว่าฉันจะเจอคนอย่างจัสตินมันอีกหรอ? มันจะเป็นไปได้หรอ~

~ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทราหรอกนะ  แกเชื่อฉันสิ~

~อืม...ฉันจะเชื่อแก  ฉันต้องทำใจให้เข้มแข็งใช่ไหม?~

~เออ! อย่าเสียใจไปเลยนะแก  แกลองคิดดูสิว่าในโลกนี้จะมีใครสักกี่คนกันเชียวที่ได้พบเจอเรื่องราวอย่างที่แกเจอบ้าง~

~นั้นสินะ! เรื่องราวบ้าๆ บอๆ ตอนนี้จัสตินมันก็กำลังจะไปวิจัยที่เมืองอื่น  วันที่ฉันกลับ...            มันคงไม่ได้มาส่งหรอก~

~แล้วไง?~

~ก็ฉันอยากให้มันมาส่งนี้  แกว่าฉันควรจะโทรไปหามันไหม?  เมืองมันอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง~

~แกทำตามที่หัวใจแกบอกสิ~

~อืม...ขอบใจนะแก~
[/color]

ผมวางสายจากโอ้ก่อนกดเบอร์โทรศัพท์ที่จัสตินให้ผมเอาไว้เผื่อผมจะโทรหาเขาบ้างเมื่อผมกลับไปถึงเมืองไทยแล้ว  เสียงสัญญาณให้รอสายดังขึ้นแล้ว...ผมตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
สัญญาณดังขึ้นแล้วดังอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งสัญญาณตัดไป...ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ไม่มีคนรับสายของผม   ผมตั้งใจว่าจะกดอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ผมจะสายหูโทรศัพท์ลงกับแป้นเสียที  แต่แล้วก็...


~ฮัลโหล  แนคหรอ?~

~อืม...~

~นายโทรฯมามีอะไรหรือเปล่า?~

~เปล่าหรอกฉันแค่คิดถึงแกเท่านั้นน่ะ~

~แล้ว...นายสบายดีนะ~

~ฉันสบายดี  ขอบใจนะ นายละ~

~อืม..ก็ดีนะ~   

~แนค!+จัสติน!~

~นายพูดก่อนสิ...แนค~

~แกจะไม่มาส่งชั้นจริงๆ หรอ?...จัสติน~

~คงงั้น...ขอโทษนะแนคที่ผมไปส่งคุณไม่ได้  ผม...ไม่อยากเห็นคุณเดินจากไปจริงๆ~

~มาเถอะนะ ฉัน....แค่อยากกอดนายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะไปได้ไหม?  ขอร้อง~

~อย่าเลยแนค!...ผมไม่อยากเจอหน้านายอีก  ในเมื่อสุดท้ายแล้วเราก็ต้องจากกันอยู่ดี  นายรู้ไหมว่ามัน...ทรมาน  ผมเดินทางไปไกลแสนไกล  ผ่านไปหลายประเทศ  แต่ไม่น่าเชื่อผมกลับมาเจอนายที่นี่  มันเกิดอะไรขึ้นกับผม?  ทำไมผมต้องเจอคนที่กำลังจะจากผมไปด้วย  ทำไมผมถึงต้องเจอคนที่ไม่สามารถอยู่กับผมได้~

~.........~   

~เมื่อก่อนนายไปอยู่ไหนมา ทำไมเราถึงเพิ่งมาเจอกัน  ทำไมนายถึงทำกับผมอย่างนี้?~

~ไม่รู้...ฉัน...ขอโทษ~

~อืม..ช่างเถอะ  เดินทางดีๆ นะแนค ผม...รักคุณ~

~ฉันก็เหมือนกัน~   
……………………………………………

ผมว่าคำพูดเหล่านี้มันน่าจะอยู่แต่ในบทละครนะ  แต่ผมเจอมันในชีวิตจริง...วันนี้  ถึงผมจะอายุไม่มากแต่ก็พอประมาณได้พบได้เห็นอะไรมาพอสมควรแม้จะไม่มากมายนัก  ผิดหวังกับความรักมาก็หลายครั้ง  ร้องไห้มาก็หลายหน  แต่ผมก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่ดีว่าจะมีวันที่ผมได้ยินมันจากปากคนใกล้ตัวเมื่อผมอยู่ไกลบ้านอย่างนี้
ผมเป็นคนหน้าตาไม่ดีและไม่เคยคิดว่ามีส่วนดีอะไรในตัวด้วย  ไม่มีเลยสักอย่าง  ไม่ดีพอที่จะไปเสนอตัวให้ใครเลือก  แต่หากจะมีใครสักคนเข้ามาให้ความสำคัญผมมักมองว่ามันมีคุณค่าเสมอ  ผมไม่เคยกล้าเป็นฝ่ายเริ่มต้น  ได้แต่เฝ้ารออยู่อย่างใจจดใจจ่อเงียบๆ เท่านั้น  หากเมื่อมีใครสักคนผ่านเข้ามา  ผมก็จะทำมันให้ดีที่สุด  ตั้งใจที่สุด  แต่บางครั้งมันก็ไปไม่รอดด้วยตัวมันเองหรืออาจเพราะอีกฝ่ายอยากเลิกรา  หรือมีบางครั้งที่ผมเป็นฝ่ายขอยุติความสัมพันธ์นั้นเสียเอง

คุณเคยบ้างไหมที่เมื่อครั้งหนึ่งคุณให้เขาไปหมดแล้วทุกอย่าง  แต่เขากลับไม่สนใจ  เขาจากไปอย่างไม่แยแส  คุณต้องใช่เวลาเนินนานกว่าจะกลับลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง  แล้วเขาก็กลับมา  กลับมาขอทุกอย่างจากคุณอีกครั้ง  ขอโอกาสที่จะได้รับรักจากคุณอีก  คุณจะทำอย่างไรผมไม่รู้  แต่สายน้ำไม่มีไหลย้อนกลับสำหรับผม  และตลอดไป...

แต่คราวนี้มันไม่ใช่...  เรามาเจอกันเมื่อสายไป  เวลาที่เราสามารถอยู่ด้วยกันมันช่างสั้นนัก  แต่มันก็เป็นวันเวลาที่แสนสวยงามเสียเหลือเกิน   เกินกว่าครั้งไหนที่มีมาทั้งหมด  แต่สุดท้ายเราต้องจากกัน  แยกย้ายกันไปมีวิถีชีวิตตามทางของตัวเอง

ช่วงเวลาหนึ่งที่เส้นทางชีวิตเรามาบรรจบกับ  มันช่างแสนวิเศษเสียเหลือเกิน  แต่จากวันนี้ทางเดินของเราต้องแยกจาก  ห่างร้าง  แสนไกล  ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า  การจากกันทั้งที่ยังอาวรณ์อย่างนี้มันช่างแสนเศร้า   เพียงหยาดน้ำตาเท่านั้นที่เป็นเพื่อนยามนี้ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2006 02:01:16 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #96 เมื่อ30-12-2006 01:28:17 »

น่ารักกันเจงๆเลย อิจฉาตาร้อน
 :serius2: :serius2: :serius2:

ทำม้ายๆๆๆคนเยอรมันน่ารัก
ไส้กรอกเยอรมันอร่อยเจงหรือ
อร่อยกว่าใส้กรอกอีสานอ่ะป่าว
 :kikkik:

คนเราแม้ตัวจะไกลแค่ไหน หากใจยังถึงกัน
มันก็ใกล้แค่นิดเดียว
 :monkeysad:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #97 เมื่อ30-12-2006 02:16:41 »

19.15 น. ท่ารถเมือง Den Hagg
...สายลมเย็นยะเยือกกำลังพัดสอบเข้ามาในอาคารเตือนให้ผมกระชับคอเสื้อกันหนาวเข้าหากันให้มากขึ้น 
ผมกำลังคิดถึงใครบางคน  คุณเคยมองหาใครบางคนในที่ที่มีคนมากมายได้อย่างรวดเร็วไม่  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันที่ทำให้เป็นแบบนั้น  หรือเพราะว่าสองตาของเราคอยจ้องมองเพียงแต่เขาเพียงคนเดียว

แต่วันนี้เปล่าเลย!  ผมมองไม่เห็นมัน...ไอ้โหดของผม  ผมชะเง้อมองหามันตั้งแต่ผมเดินลากกระเป๋าออกมาจากห้องพัก  ผมได้แต่หวังอยู่ลึกๆ ว่าผมอาจจะเจอจัสตินมันตรงไหนสักแห่งระหว่างทางที่ผมเดินมาได้
ผมบอกจัสตินไปแล้วว่าผมจะกลับวันไหนเพียงแต่ยังไม่ได้บอกเวลาที่แน่นอนออกไปเท่านั้น เพื่ออะไรหรือครับ?  ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน  หรือว่าผมอาจจะแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่าจัสตินมันคงเปลี่ยนใจและรีบกลับมาหาผมให้ทันในวันที่ผมกลับ  เราอาจจะเจอกันที่ห้อง....ระหว่างทาง...บนสะพานหน้าตลาดที่เราเคยมาซื้อของด้วยกัน...หรือสุดท้ายบนชานชาลารถไฟที่สถานี  แต่จนแล้วก็เปล่า...ไม่มีแม้เงาของจัสตินปรากฏขึ้นในสายตาผม

จนกระทั่งผมมานั่งอยู่ ณ ที่ตรงนี้...เก้าอี้แข็งๆ เย็นๆ  ฮึ!!  ผมคงต้องจบบันทึกตอนนี้ลงเสียทีเมื่อได้ยินเสียงประกาศเรียกให้เอากระเป๋าไป check in แล้ว  ลาก่อนฮอลแลนด์  ดินแดนแห่งสายลมและทุ่งทิวลิป  ลาก่อนห้วงเวลาทั้งหลายที่ผมได้มาสัมผัสที่นี่  คนสุดท้ายที่ผมจะเอ๋ยลาก่อนเก็บโน้ตบุคลงกระเป๋าให้เรียบร้อย... เหมือนมีใครร้องเรียกชื่อผม  แต่เมื่อผมหันหลังกลับไปมัน....ว่างเปล่า

ผมเดินไปตามช่องทางที่ป้ายสัญญาณบ่งชี้  เหมือนใจผมจะเต้นช้าลง  ช้าลง สายลมหนาวพัดสอบเข้ามาอีกครั้ง  ผมรู้สึกเหมือนกระแสลมนั้นจะห้อมล้อมอยู่รอบกายผมอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนจะสลายจางหายไปดั่งคล้ายกับว่าจะกล่าวคำอำลาที่แสนเหน็บหนาวกับผม  แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับกลายเป็นความอบอุ่นอย่างประหลาด  ลาก่อนเช่นกันสายลมหนาว...ฝากบอกเขาคนนั้นของฉันด้วยว่า

~เมื่อใดที่ฉันรับรู้และสัมผัสถึงสายลมหนาวแบบนี้  ฉันจะคิดถึงนายเสมอ  ฉันสัญญา~

ผมกลับหลังหันก่อนออกเดินไปในทิศทางที่ผมกำลังก้าวย่างอีกครั้ง  ผม...ไม่อยากจะเอ่ยบอกเขาว่า...
ลาก่อนยอดรัก  จัสติน....ไอ้โหดของฉัน
................................................................................

จบแล้วครับทุกคน....ขอบคุณที่ทนอ่านกันมาจนถึงตอนนี้  ผมรู้ดีว่าเรื่องนี้มันน่าเบื่อไม่ชวนอ่านขนาดไหน  ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นจากเค้าโครงเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเอง  ผมตั้งใจจะเขียนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นเอาไว้อย่างละเอียดเพื่อจะเก็บไว้อ่านเตือนความทรงจำของตนเองอีกทั้งเพื่อให้ผู้อ่านคนอื่นๆ ได้ร่วมแบ่งปันความทรงจำที่สุขแต่เจ็บปวดนี้ไปด้วยกัน  ตัวละครในเรื่องมีชีวิตจริงทุกคนและยังคงดำรงชีวิตของตนไปตามวิถีแห่งตนครับ  ผมยังติดต่อคนพวกนั้นอยู่ตามที่กาละและเทศะอำนวย

ผมยังมีสำเนาจดหมายที่นายจัสตินส่งกลับมาเมื่อผมกลับมาถึงเมืองไทยเมืองไทยแล้วเก็บไว้(หายไปกับการล้างเครื่องคอมพ์เมื่อโดนไวรัสลง)  ผมไม่อยากบอกว่าผมร้องไห้อีกครั้งเมื่ออ่านเมลล์ฉบับนั้น  มันทำให้ผมรู้ว่าผู้ชายคนนี้รักผมอย่างไรถึงแม้ผมจะไม่สมหวังในรักครั้งนี้ก็ตาม  ความรู้สึกของผมเมื่ออ่านเมลล์ฉบับนั้นจบลงคงคล้ายกับความรู้สึกของคุณหญิงกีรติในเรื่องข้างหลังภาพที่เธอว่า

“ถึงแม้ฉันจะไม่สมหวังในรัก  แต่ฉันก็อิ่มใจที่ฉันมีคนที่ฉันรัก”

ขอบคุณแกจากใจจริงๆ จัสตินที่มาเจอฉันในตอนนั้น   ขอบใจที่มาเจอเพื่อรักกัน....นี้คือสิ่งที่ผมอยากบอกมันครับ


ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #98 เมื่อ30-12-2006 02:21:49 »

พฤษภาคม 2006

สวัสดีครับแนคที่รักสุดหัวใจของผม

ตอนนี้แนคคงกลับถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้วสินะ ผมยังคงวิจัยอยู่ที่เดิม  แนคเป็นอย่างไรบ้างที่นั้นส่วนผมสบายดี  หวังว่าแนคของผมคงสบายดีเช่นกัน

วันนั้น...วันที่แนคกลับไปเมืองไทย  ผมกลับไปหาแนคอีกครั้งที่ห้องพักแต่ไม่ทันกาล  ผมเจอห้องที่ปิดประตูสนิท  ผมรีบวิ่งออกไปตามท้องถนนในเส้นทางที่ผมคาดว่าแนคจะใช้ไปสถานี  แต่เปล่าเลย...ผมเจอแต่ความว่างเปล่า

ผมเตร็ดเตร่รอแนคอยู่ที่สถานีรถไฟนานสองชั่วโมง...เผื่อในกรณีที่แนคยังไม่มาที่สถานี  จากนั้นผมออกเดินไปในที่ต่างๆ ที่ผมคิดว่าแนคอาจจะไปเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกเดินทางกลับเมืองไทย 

ผมไม่รู้หนทางที่จะติดต่อกับแนคเลยเพราะแนคไม่มีโทรศัพท์  ผมทำได้เพียงแต่วิ่งไปรอบๆ ตามถนนเส้นต่างๆ ในตัวเมืองที่เราเคยเดินไปด้วยกันด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยมว่าผมจะเจอแนคเดินอยู่ตามที่นั้นๆ  แต่ถนนก็ว่างเปล่า...ไม่มีแนคของผมอยู่ที่นั้น

สุดท้ายผมกลับมาที่ห้องพักของแนคอีกครั้ง  แต่ผมเจอกับคนที่จะมาเข้าพักใหม่ต่อจากแนค  ผมจึงกลับไปที่สถานีรถไฟอีกครั้ง  ผมไม่รู้จริงๆ ว่าแนคของผมจะจากผมไปตอนไหนและผมจะได้เจอแนคอีกครั้งก่อนจากกันไปหรือไม่

แนคจำตรงที่เรานั่งรอให้ฟ้าสางที่สถานีด้วยกันได้ไหมครับ ผมอยู่รอแนคอยู่ที่นั้น  รอ...จนกระทั้งผมแน่ใจแล้วว่าผมคงไม่เจอแนคของผมอีกแล้ว  ผมจึงกลับห้อไปงด้วยร่างกายที่หาหัวใจไม่เจอ

ขอบคุณมากครับ..ยอดรัก  ขอบคุณที่มาเจอและได้รักกัน

รักนายเสมอ

จัสติน...ของนาย

...จบบริบูรณ์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2006 02:36:50 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #99 เมื่อ30-12-2006 04:02:49 »

บันทึกรักจบลง  แต่หวังว่าความรักคงไม่จบตามนะ  อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่ยังมีช่วงเวลานึง ที่เราได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าและเต็มที่ มีความสุขกับคน ๆ นึงละเนอะ  แล้วตอนนี้เจอคน ๆ นั้นละยังเอ๋ย  โชคดีสมหวังในรักนะคะ

ขอชมคุณอ้าวเองหน่อยนะ  เขียนเก่งนะเนี่ย  ชอบภาษาที่ใช้นะคะ  มันดูไม่เลี่ยนดี  คำพูดบรรยายสื่อลักษณะความคิดของตัวละครแต่ละตัวก็ดีเชียว  บรรยายอารมณ์ตอนเศร้าก็เศร้าดี  ทำเอาเราน้ำตาซึมเลยนะ  แถมมีมุขตลก  ๆ อีก  น่ารักจัง  การบรรยายแถว ๆ บทอัศจรรย์ก็ดีนะ ไม่มากไป ไม่น้อยไป  บางเรื่องที่เคยอ่านแบบว่ามันบรรยายใช้ภาษาที่อ่านแล้วแปลกๆ ไม่ชอบ ดูตรงเกินไป  แต่เรื่องนี้ดีนะ (น้อยไปหน่อยดิ  จริง ๆเราชอบหื่น ๆ อะ 5555  ล้อเล่น ๆ)

อ่านเรื่องนี้แล้วได้เมนูทำกับข้าวเยอะเรยยย  ทำให้นึกถึงตอนไปเล่นน้ำทะเลด้วย  เย็นเฉียบจริง ๆ ยังงงว่าพวกฝรั่งมันใส่บิกินี่ว่ายน้ำได้ไงฟระ  หนาวมากอะ  ยังไงก็จะรออ่านเรื่องต่อ ๆ ไปแล้วกันคะ  ชักติดใจแล้วสิ อิอิ   :yeb:

ปล. ในรูปนะ จัสตินเหรอคะ  หล่อโครตๆ อะ กรี๊ดดดดดดดดดดดด  อิฉันจะละลาย  ไม่น่าเป็นเกย์เล้ย   :like6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [บันทึกรัก Leiden]
« ตอบ #99 เมื่อ: 30-12-2006 04:02:49 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #100 เมื่อ30-12-2006 04:32:06 »

บันทึกรักจบลง  แต่หวังว่าความรักคงไม่จบตามนะ  อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่ยังมีช่วงเวลานึง ที่เราได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าและเต็มที่ มีความสุขกับคน ๆ นึงละเนอะ  แล้วตอนนี้เจอคน ๆ นั้นละยังเอ๋ย  โชคดีสมหวังในรักนะคะ

ขอชมคุณอ้าวเองหน่อยนะ  เขียนเก่งนะเนี่ย  ชอบภาษาที่ใช้นะคะ  มันดูไม่เลี่ยนดี  คำพูดบรรยายสื่อลักษณะความคิดของตัวละครแต่ละตัวก็ดีเชียว  บรรยายอารมณ์ตอนเศร้าก็เศร้าดี  ทำเอาเราน้ำตาซึมเลยนะ  แถมมีมุขตลก  ๆ อีก  น่ารักจัง  การบรรยายแถว ๆ บทอัศจรรย์ก็ดีนะ ไม่มากไป ไม่น้อยไป  บางเรื่องที่เคยอ่านแบบว่ามันบรรยายใช้ภาษาที่อ่านแล้วแปลกๆ ไม่ชอบ ดูตรงเกินไป  แต่เรื่องนี้ดีนะ (น้อยไปหน่อยดิ  จริง ๆเราชอบหื่น ๆ อะ 5555  ล้อเล่น ๆ)

อ่านเรื่องนี้แล้วได้เมนูทำกับข้าวเยอะเรยยย  ทำให้นึกถึงตอนไปเล่นน้ำทะเลด้วย  เย็นเฉียบจริง ๆ ยังงงว่าพวกฝรั่งมันใส่บิกินี่ว่ายน้ำได้ไงฟระ  หนาวมากอะ  ยังไงก็จะรออ่านเรื่องต่อ ๆ ไปแล้วกันคะ  ชักติดใจแล้วสิ อิอิ   :yeb:

ปล. ในรูปนะ จัสตินเหรอคะ  หล่อโครตๆ อะ กรี๊ดดดดดดดดดดดด  อิฉันจะละลาย  ไม่น่าเป็นเกย์เล้ย   :like6:




Frist, thanks a lot for your comment.

Yes, a man in above picture is Justin but i thinks he is not good looking guy, just soso  :pigha2:

i'm very very glad that you enjoy my novel. it cames from a part of my life when i visit at Leiden to finish my reserch program.

now, I still kept in touch with him, Justin. we gone to be a friend.  :impress3:



ps. take many thanks from me, bye  :impress:

pss.  see you on next my new novel.  :teach:


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #101 เมื่อ30-12-2006 07:28:37 »

อ่านแล้วสนุกมากครับ เขีนได้ดีทีเดียว ทำไมคิดว่าเขียนไม่ดีหล่ะครับ
ผมรับประกันว่าเขียนได้ดีครับ เพราะปกติผมเป็นคนอ่านหนังสือยากอ่ะ
แต่เรื่องนี้อ่านได้ไม่มีหยุด อิอิ  :love2:

หล่อแทบละลายเลยอ่ะจัสติน  :myeye:
ทำไมถึงไม่คบกันต่อหล่ะ นายกลัวแพ้ระยะทางหรือ
บางคนเขาไกลกว่านี้เขาก็ไม่ยอมแพ้นะครับ
 :yeb:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #102 เมื่อ30-12-2006 08:21:03 »

ตามมาทันแย้วว ในวันที่เค้าจบเรื่อง แหะแหะ  :yeb:

ในรูปใช่จัสตินจิงเย๋อ

น่านสินะสงสัยเหมือนเรย์ทะมาย 2 ไม่คบกะจัสตินต่อล่ะ
 กัวแพ้เรื่องระยะทางเหรอ
  :myeye:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #103 เมื่อ30-12-2006 14:35:04 »

ในที่สุด  :impress:


tamjai_sengped

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #104 เมื่อ30-12-2006 20:21:44 »

ความรักสวยงามเสมอ  :impress3:

hardytoon

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #105 เมื่อ31-12-2006 01:17:20 »


now, I still kept in touch with him, Justin. we gone to be a friend.  :impress3:


แล้วทำไมไม่คบกันต่อละครับ กลายเป็นเพื่อนกันซะงั้น

ปล.คุณoaw_eang นี่คือการไปทำวิจัยหรือว่าอะไรอ่ะคับ เห็นในเรื่องบอกว่าทำงาน เลยงง 

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #106 เมื่อ31-12-2006 03:31:12 »

อ่านแล้วสนุกมากครับ เขีนได้ดีทีเดียว ทำไมคิดว่าเขียนไม่ดีหล่ะครับ
ผมรับประกันว่าเขียนได้ดีครับ เพราะปกติผมเป็นคนอ่านหนังสือยากอ่ะ
แต่เรื่องนี้อ่านได้ไม่มีหยุด อิอิ  :love2:

หล่อแทบละลายเลยอ่ะจัสติน  :myeye:
ทำไมถึงไม่คบกันต่อหล่ะ นายกลัวแพ้ระยะทางหรือ
บางคนเขาไกลกว่านี้เขาก็ไม่ยอมแพ้นะครับ
 :yeb:


ขอบคุณครับสำหรับคำชมเชยดีๆ ที่เป็นกำลังใจให้  อ่านแล้วปลื้มใจดีจังเลยครับ

ส่วนเรื่องคบหรือไม่คบต่อกับจัสติน คือมันมีหลายอย่างให้ต้องเลือกนะครับ

จริงอยู่ที่ผมกับจัสตินรู้สึกดีๆ ต่อกันแต่เราก็ไม่ทราบว่าวันข้างหน้าเราจะยังรู้สึกแบบนี้ต่อไปอีกหรือเปล่า  หรือมันเป็ฯเพียงเพราะว่าเกย์สองคนได้มาอยู่ใกล้ชิดกันในเวลาเหงาๆ และไกลบ้านเท่านั้น

ผมมีสิ่งอื่นๆ อีกมากมายที่ยังรอผมอยู่ที่เมืองไทย  ผมยังมีครอบครัวเล็กๆ ของผมให้กลับไปดูแล  จัสตินมันเองก็เหมือนกันครับมีหน้าที่การงานและคนข้างหลังรอมันอยู่ที่เยอรมันเหมือนกัน

ในชีวิตของคนเรามันมีปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามาบีบบังคับให้เราไม่สามารถทำตามอย่างที่ใจปรารถนาได้เสมอไป  เรื่องจริงมันช่างยากเย็นกว่าในนิยายเยอะครับ

ผมไม่รู้ว่าทุกๆ คนให้นิยามคำว่าเห็นแก่ตัวไว้กว้างมากแค่ไหน  แค่คนที่คิดอ่านเพื่อตัวเอง  หรือคนที่ทำเพื่อครอบครัวและคนที่เขารัก  หรือคนที่อุทิศตนเพื่อส่วนรวม คนที่เห็นประเทศชาติมาก่อน  คนทำทุกอย่างเพื่อมวลมนุษยชาติหรือคนที่พยายามจรรโลงไว้ซึ่งทุกสรรพชีวิตบนโลกใบนี้  ผมยังมีสิ่งต่างๆ อีกมากมายที่เมืองไทยรอให้ผมกลับไปดูแล  ผมไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวในความหมายของตัวเองครับ

จัสตินมันเองก็เห็นด้วยกับความคิดผม  ถ้าจะให้ผมทิ้งทุกอย่างที่เมืองไทยเพื่อมาอยู่กัยจัสตินหรือให้จัสตินย้ายตามผมไปที่โน้น  ทั้งสองเรื่องนี้คงเป็นไปได้ยากมากๆ สำหรับในกรณีเราสองคน

ผมและมันเลยตกลงที่จะคงความสัมพันธ์ที่เหลืออยู่อย่างจางๆ ไว้ในรูปแบบของคำว่า เพื่อนเก่าครับ

แต่ผมก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น  ผมกับมันอาจจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งก้ได้ครับ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #107 เมื่อ31-12-2006 03:35:06 »

ตามมาทันแย้วว ในวันที่เค้าจบเรื่อง แหะแหะ  :yeb:

ในรูปใช่จัสตินจิงเย๋อ

น่านสินะสงสัยเหมือนเรย์ทะมาย 2 ไม่คบกะจัสตินต่อล่ะ
 กัวแพ้เรื่องระยะทางเหรอ
  :myeye:

เพิ่งจะตามมาทันก็ยังดีกว่าไม่ตามมาเลยครับ  อย่างนี้ต้องมีรางวัล :piglove2:

ใช่รุปจัสตินครับผมแอบถ่ายมาตอนที่พากันไปนั่งดื่มเบียร์ที่ร้านที่ผมเริ่มออกสตาร์ทเที่ยวกลางคืนกับน้องมิกอะครับ

ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมขอตอบอย่างที่ตอบคุณบูลไปแล้วนะครับตะแน่วววววววววววววววววว

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #108 เมื่อ31-12-2006 03:41:39 »


now, I still kept in touch with him, Justin. we gone to be a friend.  :impress3:


แล้วทำไมไม่คบกันต่อละครับ กลายเป็นเพื่อนกันซะงั้น

ปล.คุณoaw_eang นี่คือการไปทำวิจัยหรือว่าอะไรอ่ะคับ เห็นในเรื่องบอกว่าทำงาน เลยงง 

ดีครับคุณ hardytoon

ผมมาทำงานวิจัยครับ  เข้าใจปะเนี้ย :confuse:

ส่วนเรื่องการคบต่อกับจัสตินหรือเปล่าขอตอบอย่างที่ตอบคุณบลูไปแล้วนะครับ  ขอบคุณที่เข้ามาตามอ่านนะครับ

ขอบคุณเธอด้วย Lucifer  ผมเห็นชื่อเธอมานานแล้วในกระดานนี้  เห็นคอมเม้นต์เธอทีไรเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าทุกที่

ส่วนคุณtamjai_sengped ...ผมก็คิดแบบเดียวกับที่คุณคิดนั้นแหละครับ  เลยชอบที่จะมีและสร้างความรัก  คนอื่นๆ เลยกล่าวหาว่าผมเจ้าชู้  ชิส์ งอน

nai

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #109 เมื่อ01-01-2007 12:10:56 »

จัสติน ดูด้านข้างเท่ห์กว่าหน้าตรงนะครับพี่ เสียดายแทน น่าจะยกให้น้อง ขำๆ :haun6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [บันทึกรัก Leiden]
« ตอบ #109 เมื่อ: 01-01-2007 12:10:56 »





ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #110 เมื่อ01-01-2007 13:08:28 »



 :pigscare2: สามีนะคะคุณน้องมิใช่เสื้อจะได้ยกต่อให้กันได้  :pigha2:

nai

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #111 เมื่อ01-01-2007 20:01:03 »

รับทราบครับ คุณพี่ ข้าน้อยไม่กล้าแล้ว  :monkeysad: แต่อย่าเผลอนะครับ :haun5:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #112 เมื่อ02-01-2007 05:14:08 »

 :o

ลองดูสิมีตบ  :laugh:

เอ่อ  อยากทราบว่าถ้าคะแนนเต็มสิบเรื่องนี้จะได้กี่คะแนนในใจคุณๆ กันครับ  จะได้ประเมินตัวเองถูก  แบบว่าอยากรู้ว่าคนที่เข้ามาอ่านจะให้คะแนนเท่าไหร่  ตรงไหนที่ยังควรต้องแก้ไข

แต่ว่ามันก็เอามาจากเรื่องจริงแล้วจะแก้ไขตรงไหนกันนะ  แต่อยากเอาไว้พิจารณาตัวเองจริงๆ นะ  :3061:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #113 เมื่อ03-01-2007 11:40:21 »

แปะ ๆ ๆๆๆๆๆๆ  ตบมือให้กับตอนจบที่ประทับใจมาก ๆ  :yeb:

เขียนได้ดีมากเลยค่ะ บางช่วงบางตอนเหมือนได้เดินทางไปกับผู้เขียนเลย

ตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องแต่งซะอีก พอมาเฉลยว่าเรื่องจริงนี่ รู้สึกว่าชีวิตคุณจะมีสีสันดีนะคะ

ดีใจด้วยที่ได้พบกับความรัก ความรู้สึกดี ๆ ในแดนไกลค่ะ

จัสตินหล่อดีนะ (แต่ไม่ใช่สเป๊ค)  :laugh:  :laugh:  :laugh:


ส่วนคะแนนไม่รู้จะให้ยังไง แต่บอกได้เลยว่าถ้าคุณ oaw_eang แต่งเรื่องไหนอีก เดี๋ยวจะไปตามอ่านให้หมดเลย  :yeb:

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับเรื่องราวดี ๆ ค่ะ  :myeye:



ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #114 เมื่อ03-01-2007 17:41:56 »

ให้ 10 เต็มเลยค่ะ

ตามอ่านตั้งแต่แรกแล้ว ชอบสำนวนการเขียนมั๊กๆเลย

สนุกดีค่ะ มีครบทุกรสเลย

แล้วมาเล่าเรื่องสนุกๆ แบบนี้อีกนะค่ะ

จะติดตาม เป็นแฟนพันธุ์แท้เลย

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #115 เมื่อ04-01-2007 06:32:40 »



พูดอย่างนี้เค้าก็เขินแย่ซิพวกตัวเองสองคนละก็... :-[ :-[ :-[

อย่ายอเยอะนะ  เค้ามันคนบ้ายออะ

ด่าบ้างก็ได้นะ  จะได้แอบไปร้องไห้เงียบๆ คนเดียว  :monkeysad:

box_breathe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #116 เมื่อ05-01-2007 22:20:02 »

เต็ม 10 ให้ 10 เลยคร้าบ !!

ชอบบรรยากาศมากๆเลยอ่ะ ... โรแมนติกดี

และที่สำคัญ จัสติน หล่อมากเลย ... เห็นแล้วจะละลาย   :-[
 
************************
อืม....แล้ว โมนิค นี่ตกลงเป็นเกย์หรือเปล่าอ่ะ
         มีรูป โมนิค ไหม เอามาแบ่งให้ดูบ้างสิคร้าบ !!!

may_1223

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #117 เมื่อ12-03-2007 01:45:45 »

หุหุ อ่านแล้วสนุกดีค่ะ
ให้คะแนนเต็มสิบไปเรย อิอิ
มีทั้งโหด มันส์ ฮา ครบรสเลย
ตอนจบแอบทำน้ำตาซึมด้วย ฮือๆ



ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #118 เมื่อ12-03-2007 05:14:27 »

                               ไม่ทราบว่าเจ๊สองเคยได้ยินคำนี้จากจัสตินบ้างมั้ย

                                 :give2:Ik hou van jou


                     Heeft Justin een dikke piemel? :kikkik: :kikkik: :kikkik:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #119 เมื่อ12-03-2007 05:18:47 »


มันแปลว่าอะไรหรอครับ?

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด