- 11 -
(part1)
“เฮ้ย!!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอกับไอ้โทยืนจังก้าอยู่ ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กขยี้ผม บนตัวสวมชุดนอนซึ่งเป็นเสื้อยืดคอย้วยๆกับกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ ส่วนไอ้คนที่ยืนขวางผมอยู่ตอนนี้ ร่างกายมันมีเพียงแค่ผ้าขนหนูที่พันไว้รอบเอว อวดกล้ามเนื้อและผิวสวยๆของมัน
ผมก้มหน้า ทำเป็นไม่เห็น เบี่ยงตัวเดินไปอีกทาง แต่ร่างสูงใหญ่ตรงหน้าก็ขยับมาขวางไว้ พอจะเดินไปอีกทาง มันก็ตามขยับตาม
“หลบดิวะ” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมัน หยุดขยี้หัว
“...” แต่มันเงียบ เอาแต่จ้องผม
“จะยืนขวางกูอีกนานมั้ยสัด?” ผมเริ่มทนไม่ไหว หลบก็ไม่หลบ ตอบก็ไม่ตอบ
เมื่อคืนมันไม่ได้นอนที่นี่ เห็นว่าไอ้หลามโทรตามหลังอาบน้ำเสร็จ ไอ้โทแต่งหล่อ และก่อนมันจะออกจากห้องยังสั่งย้ำไม่ให้ผมหนีไปไหน ซึ่งมันล๊อคแม่กุญแจไว้ข้างนอกอีกชั้น ซึ่งผมก็ไม่ได้มีปัญหาอยู่แล้ว มันออกไปเที่ยวได้ยิ่งดีต่อตัวผม ส่วนเรื่องหนี ผมคงไม่คิดอะไรปัญญาอ่อนๆอย่างเช่นการปีนหน้าต่างคอนโดชั้นที่38หรอก
ไม่รู้ว่ามันกลับมาถึงห้องกี่โมง รู้สึกตัวอีกทีก็มีแขนหนักๆพาดไว้ตรงเอวและสัมผัสอุ่นๆจากด้านหลัง มีกลิ่นเหล้า บุหรี่อ่อนๆ แต่ด้วยความที่ผมหลับลึกเกินกว่าจะสนใจสิ่งรอบตัว แถมมีเครื่องปรับอากาศเย็นๆที่ผมจะได้สัมผัสแค่ห้องเรียนของมหาลัย บวกกับเตียงนุ่มผ้าห่มหนา แหม..ใครจะอยากตื่นล่ะครับ
แต่ผมก็ต้องสะดุ้งตื่น เนื่องจากปลายนิ้วเย็นๆมาแตะโดนท้องน้อยผม ผมขนลุกชันไปทั้งตัว พลิกตัวกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของปลายนิ้วที่กำลังลากขึ้นลงอย่างแผ่วเบา
ทันทีที่ผมพลิกตัวกลับไป ริมฝีปากร้อนก็จู่โจมอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ได้รสบุหรี่และแอลกอฮอล์จางๆ ผสมปนเปไปกับลิ้นที่พริ้วไหวทั่วโพรงปากผม ในขณะที่ผมกำลังมึนงงยังไม่ทันได้ลักมันออก ร่างหนาก็พลิกขึ้นมาอยู่เหนือตัวผมอย่างรวดเร็วโดยที่ริมฝีปากของมันและผมยังประกบกันอยู่
หากผมไม่ร้องประท้วงในลำคอมันก็คงไม่ยอมถอนปากออกไป มือหนาซุกซนสำรวจผิวกายผม ทุกๆที่ที่ลากผ่านเหมือนมีไฟฟ้าสถิตเบาๆ มันกระตุ้นผม...ให้ตื่น
ภายในห้องมีเพียงเสียงลมหายใจหอบหนัก ร่างสูงทิ้งน้ำหนักตัวแนบชิด ตั้งแต่ช่วงท้องลงไปไม่มีที่ว่างให้อากาศได้ลอดผ่าน ไอ้โทมันคงถอดกางเกงราคาแพงของมันทิ้งไปแล้วเพราะผมสัมผัสได้ถึงน้องชายของมันที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มันขัดขาผมไว้ จงใจเบียดเสียดน้องชายมันให้สัมผัสกับน้องชายของผมโดยผ่านเนื้อผ้าที่บางเบา ผมจะตะโดนร้องห้ามก็ไม่ได้เพราะปากถูกหลอมละลายด้วยริมฝีปากร้อนๆของมัน
ตอนนั้นผมเบลอมาก ง่วงก็ง่วง คุณคงเข้าใจใช่มั้ยไอ้การที่ถูกปลุกขึ้นมากลางดึกน่ะว่ามันหงุดหงิดแค่ไหน ผมจึงรวบรวมแรงผลักมันออกไป ในความมืดผมเห็นสายตาแรงกล้าที่สะท้อนใบหน้าผม มันเต็มไปด้วยความปรารถนา
‘กู-จะ-นอน’ ผมบอกช้าๆชัดๆ
‘ก็นอนไปสิ เดี๋ยวกูทำเอง’ พูดจบก็เอาใบหน้าหล่อเหลาของมันซุกเข้าที่ซอกคอผมทันที
แต่ต่อมามันก็ต้องร้องโอ๊ยและหยุดการกระทำทุกอย่างทันทีเพื่อลุกขึ้นกุมกล่องดวงใจของมัน ไอ้โทคงเจ็บปวดและทรมานมาก คือถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะ หากมันเป็นหมันสาวๆหลายคนคงเสียดายแย่
ไอ้โทค่อยๆหันมามองอย่างอาฆาตแค้น
‘มึง!!!’
แม้จะไม่มีเสียงโอดครวญแต่ผมก็เข้าใจดีเลยว่าการที่น้องชายของตัวเองโดนประทุษร้ายนั้นมันเลวร้ายขนาดไหน ยิ่งเมื่อกี้...น้องชายมันกำลังจะโตเต็มวัย....
แต่ผมผ่อนแรงแล้วนา...มันอะแอ๊คติ้งโอเวอร์เอง
แล้วเมื่อคืนผมก็ได้นอนต่ออย่างเป็นสุข
และการที่มันมายืนขวางผมอยู่แบบนี้ แสดงว่าเรื่องเมื่อคืนมันยังไม่จบสิ้นสินะ
“หรืออยากโดนอีกที?” ผมถามมันพร้อมกับจงใจมองไปยังจุดกึ่งกลางลำตัวที่ถูกผ้าขนหนูปิดบังอยู่ เสียดายจริงๆที่เมื่อคืนห้องมืด ไม่อยากนั้นผมว่าคงได้มีสัญญาณไฟจราจรสลับไปมาบนใบหน้าหล่อๆบ้างล่ะ
“...” ไอ้โทเงียบ เอาแต่จ้องผม ผมรู้เลยว่ามันโกรธผมมากที่ไปทำร้ายน้องชายมัน
งั้นกูขอภาวนาให้น้องชายมึงใช้การไม่ได้อีกนะ สมแล้วล่ะ...ที่ทำกับกูไว้
RRRRRRRRRRR
เสียงเรียกเข้าดังขัดจังหวะ ในที่สุดไอ้โทมันก็หลบทางผมจนได้เพราะมันเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ แต่ก็ยังมิวายเหลือบมามองผมด้วยหางตา
ผมไม่สนใจเดินหนีออกมาหน้าทีวี เปิดสลับช่องไปเรื่อยเพื่อหาหนังดู ผมชิลมั้ยล่ะ? ใช่...อย่างที่บอก ค่าตัวผมจะต้องแพงกว่าที่มันคิด
คิดใช่มั้ยว่ากูจะต้องหงอ? คิดใช่มั้ยว่ากูจะต้องตกเป็นเบี้ยล่างมึง? คิดเหรอว่ากูจะยอมให้มึงข่มขืนง่ายๆ? คิดเหรอว่ากูจะยอมลาออกจากร้านกุ้งเต้นตามที่มึงบัญชาน่ะ?
หึ เมื่อเช้าผมตื่นขึ้นมาก่อนมัน มันนอนหันหลังให้ผม ผมจัดการโทรหาเฮียโกว (จำเบอร์ได้) เพื่อบอกว่าผมขอลาหยุดพักร้อน ไม่ได้ลาออกอย่างที่ไอ้โทมันจะบงการชีวิตผม ซึ่งเฮียก็ดีใจใหญ่ นึกว่าจะเสียพนักงานเตี้ยๆอย่างผมไปอีกคนซะแล้ว
เอิ่มเฮีย ไม่อยากจะบอก พันธุ์เตี้ยๆอย่างผมหายากนะครับ ฮ่าๆๆๆ
ตกบ่าย มีคนมาเยี่ยมเยียนไอ้โทถึงห้อง ไม่ใช่ใครที่ไหน นักร้องหน้าหล่อสาวกรี๊ดตรึมอย่างไอ้ปลาฉลามนั่นแหละ เสียงกริ่งดังขึ้นในขณะที่เรา 2 คนกำลังผ่านมื้อเที่ยงแบบเส้นๆไปด้วยกัน (มาม่า) ไอ้โทมองหน้าผมเช่นเดิม ส่วนผมก็มองหน้ามันกลับไป
คิดจะใช้กูไปเปิดประตู? ฝันเหอะ กูแดกอยู่
ผมคีบเส้นหยิกๆสีเหลืองอ่อนเข้าปากต่อ เสียงกริ่งดังขึ้นอีกจนไอ้เจ้าของห้องต้องเสด็จไปเปิดประตู
“ทำไรอยู่วะ? กูกดออดจนข้างห้องเค้าจะเปิดประตูมาด่ากูอยู่ละ” เสียงมาก่อนตัวเลยครับ
“แดกมาม่า”
“ห๊ะ! น้ำหน้าอย่างมึงแดกมาม่า!?”
จะตกใจเหี้ยไรนักหนา ทำอย่างกับว่าไอ้โทมันไม่เคยแดกมาม่างั้นแหละ
“อะไรดลจิตดลใจให้มึงดะ...แดก” คำสุดท้ายไอ้หลามมันหันมามองเห็นผมที่นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวพอดี ผมวางตะเกียบ ก่อนจะยิ้มให้มันแบบแหยๆ
“มึงขึ้นมาได้ไง?” นี่เป็นประโยคแรกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผมเพิ่งได้ยินจากปากไอ้โท
“กูเหาะขึ้นมามั้งสัด...กูก็สแกนนิ้วมือมาสิวะ” ไอ้หลามตอบพร้อมชูนิ้วโป้ง ส่วนคนถามขมวดคิ้ว “เอ่อ...พอดีกูรู้จักเพื่อนที่อยู่คอนโดนี้อะ”
“เมียมึงก็บอกมา”
“แหะๆ ถ้าให้ถูกควรเรียกเมียเก่านะจ๊ะ” ไอ้หลามเดินมานั่งโซฟาหน้าทีวี “แล้ว...นะโมมาอยู่กับมึงได้ไง?”
ผมสะดุดไปนิดหน่อยกับชื่อเล่นแบบเต็มที่ไอ้หลามเรียก แต่ก็นะ...มันห่างเหินกับผมแล้วนี่ตั้งแต่รู้ว่าผมขายตามที่ไอ้โทประจานกลางห้องน้ำนั่น
“มึงไม่ได้ไปส่งมันที่หอเหรอ?”
“เปล่า กูไปส่งไอ้บูมก่อน แล้วกูลืมทางไปหอมัน กูเลยเอามันมาค้างที่นี่”
ไอ้หลามทำท่าเหมือนจะถามต่อ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
ผมเก็บรวบรวมภาชนะทั้งหมดไปล้าง แหมะ ไม่ต้องมองแบบนั้น ผมล้างของผมคนเดียวครับ
“แล้วนี่มึงมาทำไม”
“อ้อ! แม่กับน้องกูช่วยกันทำขนม เลยบอกให้เอามาฝากมึง”
“ฝากเสร็จแล้วก็ไปสิวะ”
“ไอ้เหี้ยนี่ไล่ ให้กูพักก่อนไม่ได้ไง๊?” ผมได้ยินเสียงบทสนทนาของทั้งคู่เนื่องจากห้องครัวไม่ได้ปิดประตู วางช้อนกับตะเกียบข้างๆซิงค์ และเดินออกมาข้างนอก
“เออๆ กูกลับก็ได้ สาดดดดด ไปละ พรุ่งนี้เจอกัน” มันลุกขึ้นบอกลาแล้วหันมามองผมที่เดินออกมาพอดี ก่อนจะเดินตรงไปยังประตู ภายในห้องเหลือเพียงผมกับไอ้โทอีกครั้ง
แน่นอนว่าตลอดทั้งบ่ายจนไปถึงกลางคืน ลามมาถึงเช้าวันจันทร์ มันไม่พูดกับผมสักคำ
ผมติดรถมาเรียนกับมัน ซึ่งตอนแรกผมเลือกที่จะใช้บริการขสมก. แต่นัยน์ตาดุที่มองมาพร้อมกับแรงกระชากดันตัวผมให้เข้าไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถยุโรปคันงามทำให้ผมต้องสำนึกว่า
ทางเดียวกัน ไปด้วยกัน ผมประหยัดเงิน มันเปลืองค่าน้ำมัน
พอมาถึงคณะผมก็รีบลงจากรถ เดินแยกกับไอ้ตัวดึงดูดสาวๆทุกคณะทันที เห็นไอ้บูมนั่งจิ้มไอโฟนมันอยู่ตรงโต๊ะประจำเจอร์ผมก็เข้าไปทักมัน
“มึง”
“อ้าว ไอ้เตี้ย มาไวจังว่ะ”
“เออ ไว้ก่อน เรื่องรูป...” ผมเกริ่น ซึ่งไอ้บูมก็หันซ้ายหันขวาแล้วเอียงหูทันที “กูว่ากูพอรู้แล้วว่าคนในรูปที่นอนกอดกูคือใคร”
“ใคร?”
“พี่พล...พี่รหัสกูเอง”
“เฮ้ย!..ฮุบ” ไอ้บูมร้องเสียงหลง เบิกตากว้าง ก่อนที่จะรีบปิดปากเมื่อรู้ว่าตัวเองส่งเสียงดัง “เฮ้ยย มึงแน่ใจแล้วเหรอวะ? เป็นไปได้ไงเนี้ย?”
แล้วผมก็เล่าสันนิษฐานของผมให้มันฟัง
“อืม...กูว่าจะไปถามพี่พลตอนพักเที่ยงนี้”
“เชี่ย! เหี้ยเอ๊ยยย!! กูอุตส่าห์นับถือเป็นพี่ แต่เสือกทำเรื่องเหี้ยๆแบบนี้แม่งต้องโดน!!” ไอ้บูมโมโหมาก ผมปรามให้มันใจเย็นลงก่อน เพราะก็ยังฟันธงไม่ได้ว่าคนในรูปคือพี่พลจริงๆ
“เออ กูก็ไม่ไว้แน่ต่อให้เป็นพี่ก็เถอะ...แต่ตอนนี้ มึงครับ 9โมงแล้วครับ เดี๋ยวโดนเช็คสายหรอก”
“สัด พูดอย่างกับมึงไม่เคยสายเลยเน๊อะ” ไอ้บูมด่าผมก่อนที่ผมกับมันจะขึ้นตึกเพื่อไปเรียนวิชาแรกของวัน
วันนี้ไอ้หลามไม่มาเรียน ซึ่งนายจ๊อบได้ให้สมมติฐานไว้ว่าคงตื่นไม่ไหวเพราะออกศึกกับสาวๆเมื่อคืน คนที่นั่งต่อจากไอ้จ๊อบคือไอ้โท ต่อจากไอ้โทคือผม และริมสุดคือไอ้บูมบึ้มๆ
ครับ ขนาดเก้าอี้ในห้องเรียนมันยังบังคับผมให้นั่งข้างมันด้วยสายตาเช่นเดิม ไร้การเอื้อยเอ่ยแต่อย่างใด สงสัยกลัวดอกพิกุลจะร่วง
“มึงกับไอ้โทดีกันแล้วเหรอวะ?” ไอ้บูมกระซิบถาม
ผมไม่ตอบ ทำทีเป็นจดเลคเชอร์บนสไลด์ ปล่อยให้มันสงสัยต่อไปจนหมดคาบ
พักเที่ยง พวกเรา 4 คนตัดสินใจมารับประทานอาหารกลางวันกันที่โรงอาหารกลาง ซึ่งตัวผมนั้นประสงค์ที่จะไม่ทานเพื่อตามหาพี่รหัส ไอ้ฟูอยากไปกินก๋วยเตี๋ยวที่คณะบัญชี ส่วนไอ้บูมอยากไปกินที่คณะวิทย์ แต่ใบหน้าเรียบนิ่งของไอ้โททำให้ทุกคนต้องหุบปาก เก็บความคิด เงียบเสียงและเดินตามร่างสูงมายังโรงอาหารกลางนี่แหละครับ
แต่ระหว่างทางที่เดินมา เหมือนฟ้าเข้าข้างผม ต้องการให้ผมเคลียร์เรื่องรูปให้มันจบๆ เพราะพี่รหัสผมเดินสวนกันพอดี
“ไง” พี่พลทักผมก่อน พี่เค้าเดินมาคนเดียวไม่ได้มีกลุ่มเพื่อนตามมาด้วย
“หวัดดีครับพี่พล” พวกผมทั้งกลุ่มยกมือไหว้
“จะไปไหนกันล่ะ? กินไรกันยัง?”
“กำลังจะไปกินครับ” ไอ้จ๊อบตอบ
“โอเคๆ งั้นเดี๋ยวพี่...”
“เอ่อ พี่พล ผมมีเรื่องจะคุยด้วยครับ” ผมขัดขึ้น “พวกมึงไปกินก่อนเลย”
ผมเดินแยกออกมากับพี่พลเพียงลำพัง ผมแอบสังเกตพี่พลเป็นระยะๆ จากการที่พูดคุยแต่ละครั้งอย่างเช่นเมื่อกี้ พี่พลก็ไม่ได้ส่อพิรุธอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากวันที่ผมตื่นขึ้นมาจากการกินเลี้ยงสายรหัสพี่พลก็ปฏิบัติต่อผมเหมือนเดิม คือไม่ค่อยสนใจ ไม่คุย นอกจากจะเอาหนังสือมาให้และทักทายหากเจอกันโดยบังเอิญ ไม่ได้มีทีท่าโกรธแค้นอะไรผม และผมก็มั่นใจแน่ๆว่าผมกับพี่พลไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แล้วมีเหตุผลอะไรที่ทำให้พี่พลต้องทำกับผมแบบนี้?
“มีอะไรล่ะ?” พี่พลหยุดเดินแล้วหันกลับมาถามผม ผมมองไปรอบๆ นักศึกษาที่พักกลางวันเดินพลุกพล่าน ผมไม่อยากให้ใครได้ยินเรื่องที่ผมกำลังจะถาม และนอกจากนั้นถ้าเกิดพี่พลตอบว่าใช่ พี่พลเป็นคนทำจริงๆแล้วผมเกิดเผลอต่อยพี่พลไปคงไม่ดีแน่
“เอ่อ...ตรงนี้คนเยอะไปหน่อย คุยตรงโน้นดีมั้ยครับ?” ผมชี้ไปตรงทางที่จะไปยังห้องเก็บของ อย่างน้อยตรงนั้นก็ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่
“อะไรวะ? เออๆ” พี่พลงงเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไป
ผมชักเริ่มหวั่นๆแล้วสิ ถ้าไม่ใช่พี่พลผมคงเข้าหน้าพี่เค้าไม่ติด
เมื่อเดินมาถึงผมก็เปิดฉากถามทันที
“พี่พลครับ คือผมมีเรื่องอยากถาม ขอให้พี่พลตอบผมจริงๆ อย่าโกหกได้มั้ยครับ?”
“อืม ว่ามา...แต่เถิบเข้าไปหน่อยได้มั้ยวะ ตรงนี้แดดส่อง” ผมเขยิบมาอยู่หน้าห้องเก็บของ ห้องที่ไอ้โทมันเกือบ...นั่นแหละ
“คือเทอมที่แล้ว ที่ไปกินเลี้ยงสายรหัส...” ผมเกริ่น “พี่พาผมไปส่งที่หอใช่มั้ยครับ?”
“เออ ใช่ ทำไม?”
“แล้ว...แล้วก่อนที่พี่จะพาผมไปส่งที่หอ ... พี่ได้พาผมไปไหนก่อนรึเปล่า?” ผมค่อยๆถามอย่างช้าๆ
“ยังไง?” พี่พลขมวดคิ้วตอบ
เอาแล้วไง...หรือว่าผมจำผิด แต่ไม่สิ...ผมว่าใช่นะ...ผมเชื่อสัญชาติญาณของตัวเอง...
“คือ...คือพี่ได้พาผมไปโรงแรมรึเปล่า?”
“...”
ผมคงถามไม่เคลียร์พอ...
“พี่...ข่มขืนผมใช่มั้ย!?”
ถามออกไปแล้ว...ผมมองตาพี่พล กลั้นหายใจจดจ่อรอคำตอบ
“ไม่...”
ผมถึงกับผ่อนลม แต่ประโยคต่อมาทำเอาผมตัวชาวาบ
“ไม่ได้ข่มขืน แค่...”
แค่...
“แค่...แค่อะไร!? พี่บอกผมสิ!!? พี่ไม่ได้ทำอะไรกับผมใช่มั้ย!?” ผมเขย่าตัวถาม พี่พลหลบตาราวกับไม่ต้องการจะพูด ณ วินาทีนี้สิ่งที่ผมอยากได้ยินคือแค่ผมสลบไป แค่นอนข้างกันเฉยๆ แค่...อะไรก็ได้
“แค่สมยอม...ก็บอกนะโมไปสิครับพี่พล”
เสียงนี้...
ผมกับพี่พลหันไปมองคนที่ยืนกอดอก ใบหน้าที่ผมคุ้นตาเพราะเห็นกันแทบทุกวัน...และเสียงหล่อๆแบบนี้มีเพียงคนเดียว...
“ไอ้หลาม...”
Next Chapter >> - 11 - (part2)
Talk
ไม่เอา ไม่ค้างนะทุกคน
แพรไม่เคยแกล้งคนอ่านนะ >_<
เมอร์รี่คริสมาสต์ย้อนหลังค่า ^^
ส่วนของขวัญวันคริสมาสต์+ปีใหม่....
อืมมมมม คิดว่าจะเขียนตอนพิเศษของนะโมกับโทแหละ (แบบหวานๆ )
หรือว่าจะเขียน 3P สนองตัณหาตัวเองก่อนดี (หึ ยังไม่บอกหรอกเรื่องของใคร แต่คิดพล๊อตไว้แล้ว)
ขอบคุณทุกท่านที่ส่งอิมเมจเข้าประกวดด้วยค่ะ อาหารตา เอ๊ย ละลานตาจริงๆ 5555+
