KOUSOKU # 26 and It's the END 9/8/56
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: KOUSOKU # 26 and It's the END 9/8/56  (อ่าน 76762 ครั้ง)

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #120 เมื่อ24-05-2013 21:52:42 »

“จะกลับบ้านเลยใช่มั้ย?”  เสียงห้าวทุ้มถามขึ้นเรียบ ๆ

“อะ...อื้อ”  คัตซึฮิโกะพยักหน้ารับ

“งั้น...”  ร่างสูงยกมือขึ้นเกาจมูกนิด ๆ  แล้วเสมองไปทางอื่น  “เอ้า  นี่”

เซย์ริวยื่นดอกลิลลี่สีขาวดอกใหญ่พรวดไปตรงหน้าคัตซึฮิโกะ  เล่นเอาชายหนุ่มมึนงงไปชั่วขณะ

“อะ...อะไร?”

“จะอะไรเล่า  ก็...ก็ของขวัญที่ออกโรง’ บาลไง”  เสียงนั้นเกือบตะคอก  แต่อาการหลบตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นั้นบอกชัดว่าเซย์ริวกำลังเขินอาย

คัตซึฮิโกะมองดอกไม้ตรงหน้าอย่างลังเลใจอยู่ชั่วครู่  ถ้าเป็นของขวัญก็ควรจะรับไว้โดยมารยาทสินะ  แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่อยากรับของจากเซย์ริวอยู่ดี  เขาไม่มีวันยอมยกโทษให้กับเรื่องที่เซย์ริวทำกับเขาเป็นแน่  แม้จะยอมอยู่ด้วยกันเหมือนแต่ก่อนก็ใช่ว่าการทำดีด้วยเล็ก ๆ  น้อย ๆ  จะทำให้เขายอมลงให้อีกได้

“เอาไปให้ – ฮิ – โร – กิ – ของคุณเถอะ  ผมไม่ต้องการหรอก”  คัตซึฮิโกะพูด  แล้วก็เดินหนีไปอย่างไม่ใยดี

มือแกร่งคว้าแขนของชายหนุ่มได้แล้วกระชากกลับเต็มแรง  พร้อมกับเงื้อมืออีกข้างเหมือนจะตบ...คัตซึฮิโกะรู้อยู่แล้วว่าการกระทำของเขาจะทำให้เซย์ริวโกรธแค่ไหน  และก็รู้ด้วยว่าอาจจะโดนทำร้ายอีกก็ได้  แต่เขาก็ทำ...เพื่อว่าถ้าถูกทำร้ายอีกครั้ง  เขาจะได้ย้ำกับตัวเองได้ชัด ๆ  ว่า  เขาจะไม่มีวันยอมให้อภัยคนโหดร้ายคนนี้อีกเด็ดขาด

หากมือนั้นไม่ได้ฟาดลงมา...ร่างเพรียวถูกกระชากดึงไปกอดไว้กับอกกว้าง  แนบชิดเสียจนได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่เต้นระรัวเร็ว  มือใหญ่ลูบลงบนผมนุ่มช้า ๆ ...

“อย่า...”  เสียงห้าวกระซิบแห้งเหือด  “อย่าบังคับฉันอีกเลย  คาซึโกะ...อย่าให้ฉันต้องทำกับแกอีก...”

นับตั้งแต่วินาทีที่เห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของคัตซึฮิโกะ  นั่นเป็นครั้งแรกที่เซย์ริวรู้สึกได้ถึงรสชาติขมปร่าของการสูญเสียมาแผ่ซ่านอยู่ที่ปลายลิ้น...และไม่รู้ว่าเพราะอะไร  แต่เขาบอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมสูญเสียคัตซึฮิโกะไปเป็นอันขาด!

เพราะอย่างงั้นเขาถึงยอมอดทน  ไม่ทำอะไรอย่างที่เคยทำมาตลอด  ไม่แตะต้องคัตซึฮิโกะ  ไม่ทำอะไรรุนแรงกับคัตซึฮิโกะ  พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คัตซึฮิโกะคนเดิมกลับมา...แต่ดูเหมือนว่าคัตซึฮิโกะพยายามบีบคั้นเขาเหลือเกิน  เมื่อกี้นี้ก็เกือบไปแล้ว...ถ้าเขาหยุดตัวเองไม่ได้  จะเป็นยังไงกันนะ

คัตซึฮิโกะเบิกตากว้าง  ซบนิ่งอยู่กับอกของร่างสูง  ตกใจกับน้ำเสียงของคำพูดนั้นพอ ๆ  กับตกใจที่ตัวเองไม่โดนตบ...เขาบังคับเซย์ริวอย่างนั้นหรือ?...คงจะจริง  ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เซย์ริวลงมือกับเขา  เพื่อว่าเขาจะได้รู้สึกอย่างแน่นอนเสียทีว่าเขาควรจะเกลียดคน ๆ  นี้ให้หมดทั้งหัวใจ  เรื่องที่เขาเคยพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ  เขาก็กลับยั่วยุกระตุ้นอีกฝ่าย  แต่เซย์ริวก็ไม่เคยทำอะไรเขา  ทั้งที่เมื่อก่อนนี้แม้แต่คำพูดที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดสะกิดอารมณ์  ร่างสูงก็ยังเอาไปเป็นอารมณ์แล้วมาทำร้ายเขาได้  แต่คราวนี้ทั้งที่เขาจงใจยั่วยุ...แต่เซย์ริวกลับไม่แตะต้องเขาเลย  คนอย่างเซย์ริวต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกัน...

ร่างเพรียวค่อย ๆ  ดันอกกว้างออกห่าง  มองหน้าร่างสูงโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว  ก่อนที่จะผละไปหยิบดอกไม้ที่ตอนนี้หล่นอยู่กับพื้นถนน

“หึ...แกไม่ต้องการมันนี่  จะเก็บมาทำไมล่ะ”

“ทิ้งไว้แบบนี้สงสารดอกไม้มันนะ...”

เซย์ริวไม่ได้พูดอะไร  เขาเพียงแต่หันกลับแล้วออกเดินไปตามถนนมุ่งหน้ากลับสู่  “บ้าน”  ของคัตซึฮิโกะ  ขายาว ๆ  ก้าวอย่างรวดเร็วตามนิสัย  แต่เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งถี่ตามมาข้างหลัง  ชายหนุ่มก็ผ่อนฝีเท้าลงเพื่อให้คนที่วิ่งตามตามทัน

คัตซึฮิโกะหอบน้อย ๆ  เมื่อต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามเซย์ริวมาค่อนข้างไกล  แต่แม้ว่าร่างสูงจะผ่อนฝีเท้าให้  เขาก็ตัดสินใจที่จะเดินตามอยู่ข้างหลัง

ร่างเพรียวมองตามหลังคนที่เดินอยู่ข้างหน้า  แผ่นหลังกว้างนั้นหยัดตรงและท่วงท่าเดินสง่างามนั้นบ่งบอกถึงความทรนงในตัวเองอย่างสูง...ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่คัตซึฮิโกะได้มองแผ่นหลังนี้จนคุ้นตา...

“ทำไมถึงเป็นดอกลิลลี่สีขาวล่ะ?”  คัตซึฮิโกะเอ่ยถามขึ้นเบา ๆ   และได้รับคำตอบสวนกลับมารวดเร็วราวกับไม่ต้องเสียเวลาคิด

“เพราะมันเหมาะกับแกยังไงล่ะ”

คัตซึฮิโกะเพียงแต่อมยิ้ม  ร่างสูงปรายตามองรอยยิ้มนั้นแล้วก็ยิ้มนิด ๆ  เช่นกัน

ดอกลิลลี่สีขาว...เทวดาสีขาว...ทำอย่างไรปีกคู่นั้นถึงจะไม่แปดเปื้อนนะ...
//////////

กลิ่นกายที่ระคนมากับกลิ่นอาฟเตอร์เชฟอ่อน ๆ   เรือนผมนุ่มมือ  ผิวกายขาวนวลเนียน  น้ำเสียงแหบพร่าครางกระเส่าแผ่วเบาเมื่อถูกสัมผัส  ลมหายใจหอบถี่สะท้อนอยู่ข้างหู  และเมื่อกายแกร่งบดเบียดเข้าแนบชิด...

“อ๊ะ...อย่า...ไม่!!!!”
...

ร่างสูงลืมตาโพลงขึ้นมาในความมืด  อาการสะดุ้งตื่นของเขาทำให้คนในอ้อมกอดขยับตัวนิด ๆ  พร้อมกับครางเบา ๆ  อย่างรำคาญ  เซย์ริวงุนงงอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะนึกออกว่าเมื่อครู่นี้คือความฝัน...หากคัตซึฮิโกะตัวจริงก็อยู่ในอ้อมแขนเช่นกัน

ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงต้นขาของร่างเพรียวกำลังเสียดสีอยู่กับความแข็งขึงที่ส่วนกลางกายของเขา  เซย์ริวรีบผละออกห่างแล้วลุกขึ้นนั่ง

มือแกร่งยกขึ้นลูบหน้า...นี่มันผิดปกติแล้ว  เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนับตั้งแต่อยู่กับคัตซึฮิโกะมา...เขากำลังฝืนตัวเองมากเกินไปอย่างนั้นหรือ...

เซย์ริวลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อย  ในหัวมีแต่เรื่องของคัตซึฮิโกะ...แววตา...สีหน้า...น้ำเสียง...ทุกอย่างของคัตซึฮิโกะ...เขาต้องการทุกอย่างนั้น!

แต่อาชญากรหนุ่มก็รู้ดีว่าตอนนี้จะทำเช่นนั้นไม่ได้  เขาเคยลองแล้วหลายครั้ง  ทุกครั้งที่ถูกสัมผัสคัตซึฮิโกะกรีดร้องราวกับคนบ้าจนเขาไม่กล้าจะแตะต้องมากไปกว่านั้น  ทุกวันนี้  สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือนอนกอดคัตซึฮิโกะเอาไว้ในยามค่ำคืน  ซึ่งนั่นดูเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวที่คัตซึฮิโกะไม่ปฏิเสธ

...แต่ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป...เขาต้องคลั่งตายแน่...

มือใหญ่กอบกุมแก่นกายของตัวเองแล้วขยับกระชากรูดหนักหน่วง  ดวงตาคมหลับแน่น  กลิ่นกายของคนในความฝันยังติดอยู่ที่ปลายจมูก  ที่ข้างหูหลอนถึงเสียงกระซิบแผ่วกระเส่าที่เคยพร่ำเรียกชื่อเขา  เรียวเล็บที่เคยจิกกรีดลงกับแผ่นหลัง  ร่างกายที่เคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อนตอบสนองทุกการเคลื่อนไหวของเขา...ช่างน่าสมเพท!  ใครคนนั้นอยู่ห่างไปแค่เอื้อม  ได้กอดได้สัมผัสทุกค่ำคืนเสียด้วยซ้ำ...แต่กลับแตะต้องตามที่ใจปรารถนาไม่ได้!

ชายหนุ่มขบฟันกรอดเมื่ออารมณ์เร่าร้อนพลุ่งพล่านถึงขีด  เสียงของคัตซึฮิโกะในจินตนาการหวีดก้องอยู่ในสมอง...

“อึ่ก...คาซึโกะ...คาซึโกะ...”

ร่างสูงขยับมืออีกไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยความปรารถนาทั้งหมดให้พวยพุ่งออกมา

ลมหายใจหอบเหนื่อยดูอ่อนล้ากว่าเคย  เมื่อเห็นมือที่เปรอะเปื้อนคราบไคลของตัวเองแล้วก็ยิ่งรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก

เซย์ริวล้างหน้าล้างมือแล้วเดินกลับมาที่เตียง  คัตซึฮิโกะยังคงนอนหลับสนิท  ดวงตาที่มีขนตายาวเป็นแพปิดพริ้มไม่รับรู้ความเป็นไปภายนอก...ทั้ง ๆ  ที่ใครอีกคนกำลังต้องการเขาจนเจียนบ้า

ร่างสูงนั่งลงที่ข้างเตียงแล้วเกลี่ยผมนิ่มแผ่วเบา

“คาซึโกะ...”

ตั้งแต่เกิดมา  เซย์ริวไม่เคยต้องการใครแบบนี้มาก่อน  เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม  แต่ผู้ชายคนนี้เท่านั้นที่เขาไม่ต้องการปล่อยให้หลุดมือไป...นับตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน...ไม่ใช่คืนฤดูใบไม้ร่วงที่แสนหนาวเหน็บ...แต่นานกว่านั้น...ที่ซอกตึกแห่งนั้น  กลางฤดูร้อน...

“อือ...”  ร่างเพรียวขยับตัวนิด ๆ  เมื่อรู้สึกได้ถึงการสัมผัส  ริมฝีปากสีจัดขมุบขมิบนิดหน่อยเหมือนจะละเมอ

อาชญากรหนุ่มยิ้มนิด ๆ  กับกิริยานั้น...ในเวลาแบบนี้ที่คัตซึฮิโกะยังคงเป็นคัตซึฮิโกะคนเดิม  คัตซึฮิโกะที่ไม่มีแววตาเย็นชาเหมือนกับเขา...ใบหน้าคมโน้มลงไปใกล้อย่างห้ามใจไม่อยู่  ริมฝีปากร้อนแตะลงกับเรียวปากนุ่มอย่างแผ่วเบา  แต่ก่อนที่จะรุกล้ำไปมากกว่านี้  คนที่นอนนิ่งอยู่ก็ขยับหนีพร้อมกับส่งเสียงประท้วง

“...ไม่...ไม่เอานะ...”

หากเซย์ริวไม่หยุด  เขาตวัดแขนโอบร่างเพรียวไว้พร้อมกับบดริมฝีปากแนบแน่นมากขึ้น  ก่อนที่จะใช้เรียวลิ้นซอกซอนเปิดทางเพื่อรุกเข้าไปลิ้มรสหวานหวามที่กระหายอยาก

คัตซึฮิโกะรู้สึกตัวได้สติก็เมื่อตกอยู่ในวงแขนแกร่งอย่างไม่มีทางหนี  เขาได้แต่ผลักไสร่างสูงอย่างไม่ยินยอม  แต่ถึงตอนนี้เซย์ริวก็ทาบทับอยู่เหนือร่างของเขาแล้ว  ริมฝีปากขยับเพื่อเปล่งเสียงกรีดร้องแต่ก็ไม่มีผล  ทุกถ้อยคำถูกปิดกั้นไว้ด้วยกลีบปากนุ่มจึงได้แต่ส่งเสียงอึกอักอยู่ในลำคอ

เซย์ริวไม่สามารถหยุดตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว  เขาลูบไล้ฝ่ามือร้อนเปะปะไปตามเรือนร่างที่อยู่ข้างใต้  สอดมือเข้าไปในเสื้อยืดตัวหลวมที่คัตซึฮิโกะใส่นอน  ตรงเข้าหยอกล้อและขยี้คลึงยอดอกสีเข้มเป็นการกระตุ้น

“ยะ...ไม่...”

ร่างเพรียวพยายามหยุดการรุกรานนั้น  แต่ดูเหมือนร่างสูงกำลังคลั่งไปเสียแล้ว  ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความดุดันและเรียกร้อง  เซย์ริวพยายามเต็มที่ที่จะปลุกเร้าให้คัตซึฮิโกะรู้สึกคล้อยตามไปกับเขา...หากคัตซึฮิโกะกำลังตื่นกลัว

ในตอนแรกคัตซึฮิโกะคิดเพียงว่าตัวเองกำลังฝัน  แต่เมื่อทุกสัมผัสค่อย ๆ  แจ่มชัดขึ้นเขาถึงได้รู้ว่าไม่ใช่  ริมฝีปากร้อนของร่างสูงยังคงประทับแนบแน่นทำให้ไม่สามารถส่งเสียงร้องออกมาได้  มือใหญ่เริ่มรุกรานลงต่ำ  คัตซึฮิโกะผวาเกร็งไปทั้งร่าง...เขาไม่ต้องการ...

อาชญากรหนุ่มสะดุ้งถอนริมฝีปากออกเมื่อถูกขบกัดจนเลือดออก  คัตซึฮิโกะอาศัยจังหวะที่เซย์ริวชะงักไปผลักเต็มแรงแล้วเผ่นลงจากเตียง  เมื่อเซย์ริวตั้งตัวได้ คนที่เขาพยายามครอบครองอยู่เมื่อครู่ก็วิ่งหนีออกไปอยู่ที่ระเบียงหลังห้องแล้ว

ร่างเพรียวยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวอยู่ตรงนั้น  มือหนึ่งยึดลูกกรงระเบียงแน่น  แววตาที่จับจ้องมายังร่างสูงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น  คัตซึฮิโกะในตอนนี้เหมือนสัตว์ป่าที่กำลังหวาดกลัวถึงขีดสุดและถ้าหากต้อนให้จนมุมมากกว่านี้ก็อาจจะเลือกทางตายเป็นทางหนี

ตอนนั้นเองที่เซย์ริวได้สติ  เขาจ้องมองมือที่เกาะลูกกรงของคัตซึฮิโกะ  ถ้าเขาเข้าใกล้กว่านี้อีกเพียงเล็กน้อยคัตซึฮิโกะคงกระโดดลงไปแน่...ชายหนุ่มยกหลังมือขึ้นเช็ดเลือดที่ริมฝีปาก  เขาโดนคัตซึฮิโกะแว้งกัดเอาอีกแล้ว  แต่เป็นการแว้งกัดที่เกิดขึ้นเพราะเขาไล่ต้อนคัตซึฮิโกะเอง  แววตาที่จ้องมองเขามีแต่ความหวาดกลัว...เขาไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนั้น

เซย์ริวไม่ได้พูดอะไรอีก  เขาคว้าเสื้อแจ็กเก็ตที่พาดไว้กับเก้าอี้มาสวมแล้วออกจากห้องไปเงียบ ๆ

เมื่อร่างสูงออกไปแล้ว  คัตซึฮิโกะถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงนั่งอยู่ตรงนั้น  เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น  ที่ผ่านมามันก็สงบเรียบร้อยดีมาตลอด  เขาไม่ได้ปากร้ายกับเซย์ริวอีกและเซย์ริวก็ไม่ได้แตะต้องเขามากไปกว่านอนกอด...แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น...แววตาของเซย์ริวเมื่อตอนอยู่บนเตียงนั้นมันเหมือนกับเมื่อวันแรกที่พวกเขาพบกัน  ฆาตกรที่ข่มขืนเขาอย่างโหดร้าย...แววตาของเซย์ริวในคืนนี้เป็นแบบนั้น

คัตซึฮิโกะยกมือขึ้นกอดร่างที่สั่นเทาของตัวเอง...ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นอีกแล้วหรือ  ที่ผ่านมาไม่มีความหมายอะไรเลยอย่างนั้นหรือ  เซย์ริวไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยนับจากวันนั้น...เป็นเช่นนั้นจริง ๆ  หรือ...
//////////

เซย์ริวก้าวเท้าฝ่าแสงสลัวของเมืองยามค่ำคืนมุ่งหน้าไปอย่างไร้จุดหมาย  เขารู้ว่าเพิ่งทำสิ่งผิดพลาดครั้งใหญ่ลงไป  แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว  เมื่อครู่นี้ถ้าหากเข้าไปพยายามดึงคัตซึฮิโกะกลับเข้ามาในห้อง  เขาแน่ใจว่าคัตซึฮิโกะจะต้องกระโดดลงไปแน่นอน

ความรู้สึกเร่าร้อนที่เกิดขึ้นนั้นมอดดับไปหมดแล้ว  ร่างสูงจึงไม่รู้ว่าควรจะไปทำอะไรที่ไหนดี  เขาไม่ได้อยากดื่มหรือไปหาซื้อบริการทางเพศจากใคร...ในค่ำคืนแบบนี้  เวลาที่เหลืออยู่ช่างไร้ความหมายเหลือเกิน

รู้สึกตัวอีกครั้ง  เซย์ริวก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องเช่าเก่า ๆ  ของตัวเอง  ชายหนุ่มถอนใจปนหัวเราะ...อย่างนี้จะเรียกกว่ากลับมาตายรังได้หรือเปล่านะ...เขาควานหากุญแจในที่ซ่อนแล้วไขเปิดเข้าไป

ห้องมันก็รกเท่ากับตอนที่เขาแวะมาครั้งก่อน  แต่ครั้งนี้ผ้าห่มของเขากลับกองอยู่กลางห้อง  เซย์ริวจำได้ว่าตอนที่มาคราวที่แล้วเขาไม่ได้แวะมานอน  เมื่อมือใหญ่เอื้อมไปกดสวิตช์เปิดไฟกลางห้อง  กองผ้าห่มนั้นก็ขยับขยุกขยิก

“อือ...ใครอ้ะ?”

หัวทุย ๆ  กับใบหน้าคุ้นตาโผล่ออกมาจากผ้าห่ม  คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างนึกรำคาญคนที่มาขัดจังหวะการนอน

“แกมาทำอะไรในห้องฉัน  ฮิโรกิ?”  ร่างสูงกอดอกแล้วถามห้วน ๆ

“ก็...มานอนน่ะสิ”  ฮิโรกิฉีกยิ้มหวานให้เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนเป็นเจ้าของห้องที่ตนมาแอบสิงอยู่

“แน่ใจนะว่าแค่นอน  หวังว่าแกคงไม่...”  เซย์ริวสอดมือเข้าไปที่หลังตู้ซึ่งเขามักจะใช้เป็นที่เก็บซ่อนเงินเสมอ

“ปล๊าว!!  ฉันไม่ได้มาแอบเม้มตังค์แกนะ”  ฮิโรกิปฏิเสธเสียงหลงพร้อมกับโบกมือไม้ให้วุ่นวาย  “ฉันแค่มานอนจริง ๆ   ทะเลาะกับยัยจิอากิน่ะ  คราวนี้แพ้เลยต้องระเห็จมานอนนี่”

เจ้าของห้องยังไม่ว่าอะไร  เขาดึงถุงใส่เงินออกมานับเงินจนเรียบร้อยแล้วจึงหันไปมองสีหน้ายิ้มกะเรี่ยกะราดเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำความผิดของฮิโรกิ

“พรุ่งนี้ฉันจะเปลี่ยนที่ซ่อนเงิน”  เซย์ริวพูดลอย ๆ   แต่ก็จงใจจะให้ไอ้ตัวแสบรู้ว่าเขารู้ว่าเงินเก็บอยู่ไม่ครบ  “ว่าแต่มันเรื่องอะไรถึงมานอนห้องฉัน?”

“ก็...บอกแล้วไงว่าทะเลาะแพ้ยัยบ้านั่น  เลยโดนเฉดหัวออกจากห้องมาน่ะ”

“ฉันว่าพวกแกทะเลาะกันแล้วหาทางออกไม่ได้  แกเลยงอนจิอากิแล้วหนีออกจากบ้านมามากกว่า”  ร่างสูงยังคงพูดเรียบ ๆ   แต่ฮิโรกิเบิกตากว้าง

“ทำไมแกรู้อ้ะ?”

เซย์ริวถอนใจเบื่อ ๆ   ถอดแจ็กเก็ตโยนสุมไปแถว ๆ  กองผ้าที่ไม่ได้ซักมานานนับเดือน

“ฉันเห็นพวกแกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  นี่กะว่าเขาจะตามหาแล้วมาง้อสินะ  แต่พอดีเขายังหาไม่เจอเพราะดันมาหมกอยู่ที่นี่...กี่วันแล้วล่ะ  สามวัน?”

“พอเลย ๆ   เงียบปากไปเลย  ฉันเบื่อคนรู้ทันอย่างแกเป็นบ้า”  ฮิโรกิว่าพลางทำหน้ามุ่ยเอาหมอนใกล้มือโยนใส่  “เพิ่งคืนที่สองเท่านั้นเฟ้ย  แล้วที่ไม่ไปนอนบ้านคนอื่นเพราะมันเรียกร้องจะเปิดซิงแบ็ค  เวอร์จิ้นฉัน  ฉันเลยจับมอมยาฉกตังค์แล้วเผ่นมานี่”

ร่างสูงกุมขมับฟังไอ้ตัวเล็กของเขาอธิบายเป็นฉาก ๆ  แล้วแบมือยื่นไปตรงหน้าฮิโรกิที่ทำหน้างง ๆ

“อะไร?”

“ค่าเช่าห้อง...ได้เงินมาด้วยไม่ใช่เรอะ  จ่ายมาซะดี ๆ ”  นิ้วเรียวยาวกระดิกเป็นเชิงบอกให้ส่งเงินมา

“เฮ้ย!  ใจร้าย  แค่อาศัยนอนเอง  เนี่ย เก็บห้องให้ด้วยนะ  ห้องน้ำก็ล้างแล้ว  ขยะก็เอาไปทิ้งให้  ยังจะมาเก็บเงินอีกเหรอ?”  ร่างบางลำเลิกบุญคุณ  “นี่อุตส่าห์มาเฝ้าห้องให้ด้วยนะ  เห็นหายไปไม่กลับเป็นเดือน ๆ   กลัวจะมีคนมางัดเอาตังค์ไปนะเนี่ย”

ก่อนที่ฮิโรกิจะพูดมากไปกว่านี้  มือใหญ่ ๆ  ก็แปะเข้าที่หน้าเต็มรัก

“พอ ๆ  ๆ   หยุดพูดได้แล้ว  น่ารำคาญจริง  แกนี่”

เจ้าตัวเล็กยิ้มเผล่

“ว่าแต่...ลมอะไรพัดมาล่ะ  ถึงได้กลับมาถึงนี่ได้  นึกว่าหลงคัตซึฮิโกะจังจนโงหัวไม่ขึ้น  บ้านช่องไม่กลับเสียอีก”

ร่างสูงเพียงแค่ยักไหล่ไม่ตอบอะไร  ฮิโรกิเลยได้โอกาสแหย่ต่อ

“เอ๋...หรือว่าเป็นแบบฉัน  ทะเลาะกันแล้วงอนหนีออกจากบ้านมา  รอให้คัตซึฮิโกะจังมาง้อ”

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #121 เมื่อ24-05-2013 21:57:31 »

“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง”  เซย์ริวตอบเรียบ ๆ   แต่เล่นเอาฮิโรกิอ้าปากค้าง

“เฮ้ย  จริงง่ะ?”

“จริง”

“แกไม่ต้องรับมุกฉันมากนักก็ได้นะ  เซย์”

“ไม่ได้รับมุก  แต่เรื่องจริง...ฉันเพิ่งมาจากบ้านหมอนั่นเมื่อกี้นี้เอง”  เซย์ริวพูดเรื่อย ๆ  พร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนฟูกที่ฮิโรกิปูไว้

ฮิโรกิจ้องหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ของเซย์ริว...มีเพียงคนใกล้ชิดอย่างเขาเท่านั้นที่เห็นร่องรอยบางอย่างในแววตาที่ดูเฉยเมยคู่นั้น  ชายหนุ่มถอนใจแล้วหยิบบุหรี่มาจุดสูบแล้วส่งอีกมวนให้เซย์ริว

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน  แต่แตะต้องหมอนั่นอย่างที่ต้องการไม่ได้”  ร่างสูงรับบุหรี่จากฮิโรกิมาคลึงเล่นโดยไม่ได้คิดจะสูบ

“หมายความว่าไง?  คัตซึฮิโกะจังไม่ยอมให้แกกอดเหรอ  หรือว่าแกเสื่อมสมรรถภาพ?”  ฮิโรกิพูดพลางชูนิ้วก้อยแล้วรีบตะกายเผ่นให้พ้นรัศมีขายาว ๆ  ของเพื่อนรักทันที...แต่เซย์ริวกลับนิ่งเฉย

“มันไม่ให้ฉันกอด...แล้วฉันก็กอดมันไม่ได้ด้วย  แต่ไม่ได้เสื่อมอย่างที่แกว่าหรอก”

ฮิโรกิถอนใจแล้วกลับมานั่งที่เดิม  ภายใต้น้ำเสียงเย็นชาของเซย์ริวนั้นมีแววกลัดกลุ้มแฝงอยู่  นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ยินน้ำเสียงแบบนี้จากคนที่นั่งข้าง ๆ

“ฉันได้ยินมาเหมือนกันนะ  เรื่องที่แกไปเฝ้าใครสักคนที่โรง’ บาลหมอมาสะอยู่เป็นอาทิตย์  คนคนนั้นคือคัตซึฮิโกะจังใช่มะ?  คัตซึฮิโกะจังเป็นอะไรไปเหรอ?”

“กรีดข้อมือตัวเอง”

ร่างบางตกตะลึงไปชั่วขณะ

“นั่น...เพราะเรื่องที่ฉันไป...หรือเปล่า...?”

“ใช่”

“ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้นนะ...ฉันแค่...นึกสนุก...แล้วแกก็อนุญาต...”  ความรู้สึกผิดท่วมท้นขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจฮิโรกิ  “แล้ว...คัตซึฮิโกะจังเป็นอะไรมากหรือเปล่า?”

“ไม่ใช่ความผิดของแกหรอก  ฮิโรกิ  แล้วหมอนั่นก็ไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย  เพียงแต่พอออกจากโรง’ บาลแล้วมันดูแปลก ๆ  ไป  ทั้งสีหน้าทั้งแววตา...เหมือนไม่ใช่มันคนเก่า  แล้วมันก็กลัวที่จะถูกฉันกอดเอามาก ๆ ”  เซย์ริวเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฮิโรกิฟังคร่าว ๆ

ฮิโรกิรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจในอะไรบางอย่างที่ละเอียดอ่อนเกินกว่าที่เพื่อนของเขาจะสังเกตเห็น...อะไรบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นในใจของคัตซึฮิโกะ  และบัดนี้ได้ถูกพวกเขาทำลายยับในชั่วข้ามวัน...ถึงเซย์ริวจะบอกว่าไม่ใช่ความผิดของเขา  แต่เพราะเขาทำให้เกิดเรื่องนั้นขึ้น  จึงไม่สามารถปัดความรู้สึกผิดนี้ได้...แต่แม้จะคิดว่าตัวเองเข้าใจในสิ่งที่เซย์ริวไม่รู้  แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องบอกออกไป  เพราะเรื่องแบบนั้นเป็นเรื่องที่เซย์ริวจะต้องเข้าใจเอาเอง...แต่มันอาจจะยากสักหน่อยสำหรับคนที่แข็งกระด้างอย่างเซย์ริว

“ที่ออกจากบ้านคัตซึฮิโกะจังมานี่...เสี้ยนแล้วไม่ได้ระบายออกใช่มะ?”  ฮิโรกิถามตรง ๆ

“จะว่างั้นก็ได้  แต่พูดจริง ๆ  มันน่าจะเป็นระบายออกไม่หมดมากกว่า”  เซย์ริวก็ตอบตรง ๆ  เช่นกัน  ระหว่างพวกเขาสองคนนั้นแทบจะไม่มีอะไรที่ปิดบังกันได้อยู่แล้ว

“งั้นก็ออกไปซ่องสิโว้ย  มานั่งเสี้ยนอยู่ทำไมวะ”

“มัน...ไม่มีอารมณ์ว่ะ”

“งั้น...”  ไอ้ตัวแสบยื่นหน้าไปยิ้มเจ้าเล่ห์ใกล้ ๆ   “กับฉันเป็นไง?”

ร่างสูงขมวดคิ้ว

“อย่ามาตลก  ฮิโรกิ  แกปฏิญาณเอาไว้ว่าชาตินี้จะไม่ยอมเสียแบ็ค  เวอร์จิ้นให้ใครไม่ใช่หรือไง?”

“ก็แล้วใครบอกว่าฉันจะถวายความบริสุทธิ์ให้แกวะ”  ฮิโรกิเอานิ้วจิ้มหน้าผากผู้เป็นเพื่อน  “ถ้าแค่ใช้มือใช้ปากช่วยแกระบายเสี้ยนนิด ๆ  หน่อย ๆ  น่ะฉันพอจะทำให้ได้เฟ้ย  จะเอาไหม?”

“จะเป็นตัวแทนหมอนั่นให้หรือไง?”

เซย์ริวพูดยิ้ม ๆ   แต่ไหนแต่ไรมาฮิโรกิปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกับเขามาตลอด  ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นมันจะมากหรือน้อยก็ตาม  และแม้ตัวเขาเองจะยอมรับว่าเคยสนใจและอยากลิ้มลองรสชาติของฮิโรกิอยู่บ้าง  แต่พวกเขาใกล้ชิดกันมากเสียจนเห็นกันเป็นพี่เป็นน้องไปเสียแล้ว...แต่เมื่อคราวนี้ฮิโรกิเป็นฝ่ายเสนอมาเอง...เขาที่กำลังรู้สึกอึดอัดได้ที่ย่อมไม่คิดจะปฏิเสธ

“แต่ตกลงกันก่อนนะ  ห้ามเกินเลยกับฉันเด็ดขาด  ถ้าแกลามปามหละก็เลิกกัน”  ฮิโรกิยื่นคำขาด

ร่างสูงพยักหน้ายอมรับข้อตกลง  แต่ก็ยังไม่วายถาม

“ทำไมวันนี้ใจดี?”

“ก็แค่...ฉันทำให้คัตซึฮิโกะจังไม่ยอมให้แกกอดนี่  ชดเชยให้นิด ๆ  หน่อย ๆ  เท่านั้นเอง  ทีกับคนอื่นฉันยังเล่นด้วยได้  แค่ทดแทนบุญคุณให้แกหน่อยจะเป็นไรไป”  ฮิโรกิยักไหล่...เวลาที่ออกล่าเหยื่อ  เขามักจะปล่อยตัวเองให้หาความสุขทางเพศนิด ๆ  หน่อย ๆ  จากฝ่ายตรงข้ามก่อนที่จะมอมยาแล้วรูดทรัพย์...และเขาก็ยอมรับว่าพึงพอใจในสิ่งที่ผู้ชายพวกนั้นกระทำไม่น้อย

ร่างสูงส่งบุหรี่ที่คลึงเล่นอยู่นานเข้าไปคาบไว้ในปากแล้วชะโงกหน้าไปต่อกับบุหรี่ที่เจ้าตัวเล็กกำลังสูบอยู่  ชายหนุ่มอัดควันลึกก่อนที่จะดึงบุหรี่ที่จวนจะหมดมวนของฮิโรกิออก  ริมฝีปากอุ่นร้อนประกบแนบลงกับเรียวปากบางแล้วพ่นควันเข้าไปอย่างเชื่องช้าและเย้ายวน  มือใหญ่ขยี้ดับบุหรี่ทั้งสองลงกับที่เขี่ยบุหรี่

“ถ้าถึงตอนที่มันเกินเลยแล้วฉันไม่หยุด  แกจะทำยังไง?”  เซย์ริวถามทั้งที่ยังเคล้าคลอริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่ง

“ต่อยสักเปรี้ยงหรือไม่ก็ลนด้วยไฟแช็กหละมั้ง”  ร่างบางหัวเราะคิกคัก  หากฝ่ายตรงข้ามเพียงแต่ยิ้ม

“หลังจากเสร็จแล้ว...อย่ามาบ่นก็แล้วกัน  ฮิโรกิ...”


เซย์ริวและเล็มริมฝีปากไปตามผิวละเอียดเนียนขาวของร่างบาง  เสื้อที่เขาสวมอยู่ถูกถอดทิ้งอย่างไม่ไยดี  และเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเขาที่ฮิโรกิเอามาใส่นอนถูกปลดกระดุมทั้งหมดและแหวกออกเผยให้เห็นแผ่นอกบางและหน้าท้องแบนราบ  ทุกแห่งที่เขานาบริมฝีปากร้อนลงไปเรียกเสียงครางเครือจากอีกฝ่ายได้ไม่ยาก  เรือนร่างเล็กบิดส่ายยั่วเย้าอย่างคนที่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้เป็นอย่างดี  เสียงหวานที่ครางแผ่วเป็นระยะกระตุ้นอารมณ์ของใครก็ตามที่ได้ยินเสียงและยังหวีดหวานในบางครั้งที่ร่างสูงเข้าหยอกล้อกับจุดไวสัมผัส...ผนังห้องเช่าบางเท่าบาง  หากทั้งสองไม่ได้สนใจว่าใครจะได้ยินเสียง  และเชื่อได้ว่าใครก็ตามที่ได้ยินเสียงจะไม่กล้ามายุ่งกับพวกเขา

กางเกงวอร์มขายาวถูกดึงร่นลงต่ำ  ช่วงสะโพกบางและจุดต่ำกว่าที่น่าพิสมัยกว่านั้นค่อย ๆ  ปรากฏขึ้นต่อหน้าร่างสูง  ฮิโรกิขยับตัวเล็กน้อยเป็นเชิงบอกให้ปลดเปลื้องปราการชิ้นสุดท้ายที่เกะกะนี้ออกเสียที...แม้ทุกอย่างจะยังไม่เริ่มต้น  แต่เขาก็ตื่นตัวขึ้นมากว่าครึ่งหนึ่งแล้ว...ชายหนุ่มถอนใจสะท้านเยือกเมื่อเซย์ริวถอดกางเกงออกให้ตามคำขอ  ผิวกายสัมผัสกับอากาศเย็นของยามค่ำคืนสั่นระริก  และยิ่งเห็นแววตาที่จ้องมองร่างของเขา  ฮิโรกิก็สะท้านไปทั้งร่าง...แววตาของเซย์ริวดูอันตราย  แต่ก็มีเสน่ห์ยั่วยวนอย่างบอกไม่ถูก...มิน่าเล่า  จิอากิถึงได้ยอมทอดกายให้เชยชิม

เซย์ริวยกเรียวขาขาวขึ้นจูบหยอกเย้าที่ซอกขาด้านใน  เพียงเท่านั้นร่างบางก็กระตุกผวาทั้งตัว

“อือ...อย่าแกล้งสิ”  เสียงสั่นพร่าด้วยอารมณ์หวามไหวครางเครือ

หากร่างสูงยังคงขบเม้มไปตามเนื้ออ่อน  กระตุ้นเร้าอารมณ์คู่นอนในคืนนี้ให้กระเจิดกระเจิงมากขึ้น  เรียวลิ้นลากไล้ชิมรสชาติแปลกใหม่ไปทั่ว...ฮิโรกิเองก็หอมหวาน  หากแฝงกลิ่นคาวของชีวิตที่ผ่านมือใครต่อใครมาอย่างโชกโชน...ต่างกับคัตซึฮิโกะ  ซึ่งแปดเปื้อนด้วยมือของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

มือเล็กสางไล้เส้นผมหนาแล้วดึงเบา ๆ   ไม่เคยมีใครทำให้ฮิโรกิรู้สึกเร่าร้อนได้อย่างนี้มาก่อน  หัวใจเต้นระรัวอยู่ในอก...จะเป็นความตื่นเต้นหรือยินดีเขาก็ไม่อาจบอกได้  รู้แต่เพียงพึงพอใจในทุกสัมผัสของเซย์ริว  ทั้งยังเสียวสะท้านเหมือนจะขาดใจไปกับการกลั่นแกล้งหยอกล้อนั้น  และเมื่อมือใหญ่เข้ากอบกุมร่างที่กำลังตื่นตัวของเขา  ร่างบางถึงกับหวีดร้องออกมาอย่างไม่อาจสะกดกลั้นได้  อุ้งมือร้อนนั้นขยับนวดคลึงเพียงไม่กี่ครั้ง  ชายหนุ่มก็ตื่นพร้อม...ฮิโรกิปรือตาขึ้นมองคนที่ครอบครองเขาอยู่แล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดหน้า...ดวงตาคมที่มองจ้องมาและรอยยิ้มบาง ๆ  ที่ริมฝีปากของร่างสูง  ทำให้เขารู้สึกประหม่าราวกับเป็นการเผยร่างเปลือยเปล่าต่อหน้าคนอื่นเป็นครั้งแรก...นั่นไม่ใช่เซย์ริวที่เขารู้จัก

ร่างสูงทอดมองเจ้าลูกแมวยั่วสวาทที่บิดกายอยู่ใต้ร่างของเขาแล้วก็ยิ้ม  ริมฝีปากร้อนเคลื่อนลงต่ำแล้วงับเบา ๆ  ตรงกลางลำของแก่นกายที่กำลังแข็งขืน

“อ๊า...เซย์...”  ร่างบางส่งเสียงครางกระเส่าตอบรับการกระทำนั้นทันที

เซย์ริวไม่รอช้า  เขาจัดการลิ้มชิมรสชาติของเจ้าตัวเล็กอย่างเต็มที่  เรียวลิ้นลากไล้ดูดเลียจนร่างนั้นเปียกชุ่ม  ก่อนที่จะส่งมันเข้าปากกลืนกินจนสุดความยาว

ฮิโรกิสะท้านไปทั้งร่าง  เอวบางแอ่นขึ้นรับสัมผัสของร่างสูงทุกจังหวะ  รู้สึกมึนและเบลอไปหมดราวกับโดนยาป้ายเสียเอง  ที่ชัดเจนที่สุดคงเป็นความรู้สึกร้อนวาบที่เกิดขึ้นตรงส่วนกลางกาย...มันแล่นปลาบไปทั่วทั้งร่างจนจรดปลายนิ้ว  ความหฤหรรษ์เพลิดเพลินที่ได้รับทำให้หลงเคลิบเคลิ้มไปกับการปรนเปรอนั้น  มือเรียวขยุ้มเรือนผมหนาแล้วกดเข้าหาตัว  สะโพกเล็กขยับขึ้นลงรับจังหวะกับริมฝีปากของเซย์ริวจนแทบจะไม่ติดฟูก  ได้แต่ส่งเสียงครางระงมแทบไม่เป็นภาษา...สุดยอดของอารมณ์รอเขาอยู่ตรงหน้านี้แล้ว...

ทว่า...ร่างสูงถอนปากออกก่อนที่ฮิโรกิจะสมปรารถนา  แก่นกายแกร่งถูกจรดเข้ากับช่องทางรัดรึงและทำท่าว่าจะเข้ารุกราน!!

“เซย์!?”  ร่างบางผวากายขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว  หากมือแกร่งยึดสะโพกของเขาไว้มั่น  “ไม่นะ!  เซย์!  แกบอกแล้วว่าจะไม่ทำ!!”

อาชญากรหนุ่มไม่ฟังเสียง  ภาพตรงหน้ามันพร่าพรายไปหมด  เขาเห็นภาพของคัตซึฮิโกะกับฮิโรกิซ้อนทับกันไปมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว  ถึงตอนนี้เขาไม่อาจหักห้ามใจได้อีกต่อไป  เขาต้องการปลดเปลื้อง...เดี๋ยวนี้!!

ความแข็งขืนพยายามดุนดันเข้าหา

“ไม่!!  เซย์  อย่า!!  อย่าทำแบบนี้  ไม่ได้นะ!”  ฮิโรกิร้องห้าม  สองมือพยายามผลักไสและยกขาเตะถีบพัลวัน

มือใหญ่สะบัดตบแก้มซ้ายเข้าให้เต็มรัก  ร่างบางสะดุ้งตัวชาไปชั่วขณะ  รู้ขึ้นมาในวินาทีนั้นว่าเพื่อนรักของเขากำลังหน้ามืดถึงขีดสุด  หากปล่อยไว้อย่างนี้เขาต้องเสียบริสุทธิ์ให้กับคนคนนี้แน่  ฮิโรกินึกด่าตัวเองอยู่ในใจที่ดันยื่นข้อเสนองี่เง่านี่ให้เซย์ริวเพียงเพราะอยากลอง  ตอนนี้เขาต้องปกป้องตัวเองเท่าที่จะทำได้...ต้องหยุดเซย์ริวให้ได้

ฮิโรกิรู้สึกเหมือนสวรรค์เข้าข้างเมื่อควานไปเจอไฟแช็กที่โยนทิ้งไว้แถว ๆ  นั้น  เขาจุดไฟพรึ่บขึ้นตรงหน้าร่างสูงทำให้ชะงักไปชั่วขณะ  พริบตานั้นเอง  ร่างบางรีบกระถดถอยออกห่าง  แต่มือแกร่งคว้าข้อเท้าของเขากระชากกลับแล้วตบเต็มแรงอีกที

คราวนี้ฮิโรกิรู้สึกเหมือนโลกดับวูบไปขณะหนึ่ง  ดวงตามองเห็นแสงวูบวาบพร่างพรายเหมือนดาวระยิบระยับไปหมด  แล้วความรู้สึกเจ็บแปลบก็แล่นขึ้นมาจากส่วนลี้ลับของเรือนร่าง  ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว

“ไม่!!!!”

เซย์ริวแยกเรียวขาขาวกว้างและจับกดจนร่างบางอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  ความเป็นชายแข็งขึงค่อย ๆ  ดุนดันสอดใส่เข้าไปในช่องทางเล็กแคบที่ไม่มีการเตรียมพร้อมมาก่อน  และมันยิ่งยากลำบากเมื่อเจ้าของเรือนร่างนั้นไม่ยอมเปิดทางให้  หากชายหนุ่มก็ฝืนบังคับเอาซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่สนใจกับเสียงกรีดร้อง  จนกระทั่งส่วนปลายล่วงล้ำเข้าไป

“เจ็บ!!  เซย์...ไม่...อย่า...เซย์!!”  เมื่อไม่รู้จะอย่างไรได้  ฮิโรกิก็ปล่อยโฮออกมา

ร่างสูงชะงัก  เสียงหวีดร้องด้วยความหวาดกลัวของใครบางคนแทรกเข้ามาในสมอง  เขารีบปล่อยมือและผละออกห่างจากร่างบางทันที

เจ้าตัวเล็กนอนสะอื้นตัวสั่นเทาอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่ม...เขาเกือบพลั้งมือทำลายเพื่อนคนสำคัญของตัวเองไปเสียแล้ว...อ้อมแขนแกร่งประคองร่างเล็กขึ้นมากอด

“ไม่เป็นไรนะ...ฉันขอโทษ  มัน...หน้ามืดไปหน่อย”

“ไม่หน่อยหละ!  แกตบฉันเต็มแรงตั้งสองทีด้วย”  ฮิโรกิต่อว่าทั้งยังสะอื้น

“ขอโทษ...”  แม้จะฟังดูสั้นห้วน  หากน้ำเสียงนั้นก็ทอดอ่อนเหมือนจะปลอบโยน

“บอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่เอา ๆ   มันเจ็บจริง ๆ  ด้วย  บ้าที่สุด!”  เจ้าตัวแสบยังตัดพ้อพลางเช็ดน้ำตาป้อย ๆ

“ขอโทษนะ  ฮิโรกิ”

น้ำเสียงที่แผ่วหวิวอย่างที่ไม่เคยได้ยินจากเซย์ริวทำให้ฮิโรกิสะท้อนใจ  เขารู้ว่าเซย์ริวรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้กับเขา  และเขาก็รู้ว่าเซย์ริวไม่ได้ตั้งใจ  เพียงแต่หักห้ามใจไม่ได้...แล้วคิดดูสิว่าคัตซึฮิโกะสำคัญกับเซย์ริวมากขนาดไหน  ถึงขนาดต้องหยุดตัวเองไว้อย่างสุดกำลังเพื่อไม่ให้พลั้งมือทำร้ายอีก...แม้แต่กับเขาซึ่งเป็นเพื่อนคนสำคัญ  เซย์ริวยังไม่คิดจะห้ามตัวเอง

ดวงตาคมหลุบต่ำ  ริมฝีปากเม้มแน่นเพื่อสะกดกลั้นความพลุ่งพล่านที่ยังไม่ได้รับการระบายออก...ฮิโรกิมองเพื่อนรักแล้วก็สงสาร  ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจูบปลายคางของร่างสูงเบา ๆ

“ให้ฉันช่วยนะ”

“แต่ถ้าทำแบบนั้น...ฉันอาจจะลืมตัวอีกก็ได้”

“ไม่เป็นไร  คราวนี้ฉันทำให้แกเอง”

ฮิโรกิยิ้มก่อนที่จะขบจูบไล่ระไปตามแผ่นอกกว้าง  ได้ยินเสียงถอนใจอย่างหฤหรรษ์เป็นระยะ  ลิ้นเล็ก ๆ  เลียไปตามกล้ามท้องได้รูปซึ่งเกร็งเขม็งรับสัมผัส  ก่อนที่จะไล้ต่ำลงไปจนถึงแก่นกายที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่ยังค้างคาอยู่  เรียวลิ้นตวัดชิมส่วนปลายยอดที่เมื่อครู่ทำให้เขาเจ็บปวดเจียนตาย

“อืม...อีกสิ”  เสียงนั้นเหมือนคำสั่งหากก็เหมือนคำร้องขออยู่ในที  มือใหญ่ไล้ไปตามผมนุ่มเบามือ

ร่างบางยิ้มกับตัวเองแล้วเฝ้าวนเวียนจูบเลียอยู่เพียงแค่ตรงปลาย  เหมือนจะเอาคืนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้  แต่ก็ดูเหมือนว่าเซย์ริวจะพอใจกับการทำโทษเอาคืนนี้ไม่น้อยทีเดียว

ลิ้นร้อนเลียชิมรสชาติปร่าแปลกของร่างสูงทีละนิดละน้อยก่อนจะดูดกลืนมากขึ้น  ขนาดอันใหญ่โตทำให้ไม่อาจกลืนกินเข้าไปหมดในครั้งเดียว  ฮิโรกิถอนปากออกมาไล้เลียตามความยาวตั้งแต่โคนถึงปลายซ้ำ ๆ  หลายครั้ง  ปฏิกิริยาตอบรับคือเอวหนาขยับสะดุ้งและเสียงครางอย่างสะกดกลั้นอารมณ์

มือแกร่งขยุ้มเรือนผมหนานุ่มเบา ๆ  เป็นการบอกให้ปรนเปรอให้เขามากกว่านี้  ฮิโรกิไม่ปฏิเสธ  เขารังแกร่างสูงจนสาแก่ใจแล้ว  โพรงปากร้อนจึงครอบแก่นกายที่แข็งราวกับหินนั้นอีกครั้ง  ปรนเปรอให้อย่างถึงอกถึงใจทั้งปากและมือ  แล้วเปิดลำคอค่อย ๆ  กลืนกินมันเข้าไปทั้งหมด

“อะ...ฮ่า...ฮิโรกิ”  เสียงห้าวทุ้มครางต่ำ  เขาขยุ้มเรือนผมของฮิโรกิและกดศีรษะเข้าหาตัว

ฮิโรกิรู้ดีกว่าเขาควรทำอะไรต่อ  มือเรียวเข้าช่วยกอบกุมและกระชากรูดท่อนเนื้อแน่นในขณะที่ปากก็ดูดกลืนหนักหน่วง  เขาไล้ลิ้นพร้อมดูดเลียมันราวกับเป็นไอศกรีมหอมหวาน  พยายามขยับทุกจังหวะให้สอดคล้องกับเซย์ริว...นุ่มนวล  ทว่าหนักหน่วง...จังหวะแห่งความต้องการกระชั้นมากขึ้นทุกที  ชายหนุ่มเร่งริมฝีปากจนชาหนึบ  หากก็เพลิดเพลินกับเสียงครางของร่างสูงที่ตอนนี้ดังระงมไม่แพ้ที่เขาเป็นเมื่อครู่เช่นกัน  มือเรียวเลื่อนไปกอบกำแก่นกายของตัวเองขยับรูดกระตุ้นด้วยเช่นกัน

เซย์ริวรู้สึกอึดอัดแน่นในอกไปหมด  ลมหายใจหอบถี่มีเสียงครางแผ่วแทรกปนออกมาด้วย  มันต่างกับที่คัตซึฮิโกะเคยทำให้เขา  แต่มันก็ให้ความรู้สึกดีพอกัน...ถ้าหากว่าคนทำเป็นคัตซึฮิโกะจะให้ความรู้สึกที่สุดยอดแค่ไหนนะ...

เพียงแค่คิดถึงใครคนนั้น  ชายหนุ่มก็ทำท่าว่าจะถึงจุดสุดยอด  เขาดึงฮิโรกิออกแล้วกอบกุมร่างของตัวเองด้วยมือ  แต่เจ้าตัวเล็กที่ยังติดใจรสชาติแห่งความเพลิดเพลินนั้นครอบริมฝีปากลงมาลิ้มรสอีกครั้ง  คราวนี้ร่างสูงปล่อยให้ร่างบางหยอกล้อกับส่วนปลายของเขาไปในขณะที่เขาพยายามพาตัวเองตะเกียกตะกายไปให้ถึงที่สุดแห่งอารมณ์

แล้วทุกอย่างก็มาถึงจุดสิ้นสุด  เซย์ริวระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างเต็มกลั้นเกือบจะพร้อม ๆ  กับที่ฮิโรกิเองก็พรั่งพรูหยาดแห่งอารมณ์ออกมา  ร่างสูงกระตุกอีกสามสี่ครั้งก็ปลดปล่อยทุกอย่างออกมาจนหมด  เขาเหนื่อยหอบสิ้นกำลังราวกับบรรเลงบทรักเต็มขั้นมาหมาด ๆ   ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่ก็หายเหนื่อย  เจ้าลูกแมวยั่วสวาทของเขาก็เข้ามาเคล้าคลอ

“ไง...หายเสี้ยนมั้ย?  ฝีมือใช่มั้ยล่ะ?”  รอยยิ้มล้อ ๆ  กับคำถามกวน ๆ  ทำให้ร่างสูงพอจะยิ้มออก

“เก่ง...ไม่คิดว่าจะเก่งขนาดนี้”  ฮิโรกิเตรียมยิ้มแป้นกับคำชมนั้น  แต่ก็ต้องหุบทันทีเมื่อได้ยินประโยคถัดมา  “เก่งจนไม่อยากจะเชื่อว่ายังไม่เสียแบ็ค เวอร์จิ้นให้ใคร”

“ไอ้บ้า!  ฉันยังซิงนะโว้ย!!”  ไอ้ตัวเล็กคว้าหมอนใกล้ตัวกระหน่ำทุบเพื่อนปากมอม

“โอ๊ย ๆ   รู้แล้ว ๆ   ไม่ล้อแล้ว”  เซย์ริวยกมือขึ้นปัดป้อง  เมื่อได้ระบายอารมณ์ออกไปทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง

“ชิ!  มีแกคนเดียวนั่นแหละที่อาจหาญจะมาเปิดซิงฉัน  จำไว้ซะด้วย”  ฮิโรกิว่าแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวผืนเล็กปึงปังเข้าห้องน้ำไป

ร่างสูงหัวเราะเบา ๆ  แล้วจัดการทำความสะอาดตรงที่พวกเขาทำเลอะเทอะเอาไว้

ข้ามผ่านไปอีกคืน...เมื่อพรุ่งนี้มาเยือน  เขาจะทำอย่างไรกับคาซึโกะของเขาดีนะ...
//////////


(โปรดติดตามตอนต่อไปครับ)

ออฟไลน์ Altasia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #122 เมื่อ24-05-2013 23:04:09 »

ที่จริงฮิโรกิน่าจะโดนซะบ้าง มันจะได้รู้สึกว่าคัตซึฮิโกะรู้สึกอย่างไร คนที่เป็นแต่เอาคนอื่น ลองโดนเอาเองซะมั้งจะได้สาสม

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #123 เมื่อ24-05-2013 23:41:07 »

อึดอัดอ่ะ เมื่อไหร่ทั้งคู่จะลงเอยกันสักทีน้า ~

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #124 เมื่อ24-05-2013 23:44:35 »

อยากบอกว่า ชอบฮิโรกิที่สุดเลยแฮะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
แต่อยากเห็นฮิโรกิโดนคนเอาแบบsm ><
น่าจะคู่กับผู้ชายแทนจิอากินะเนี่ย ^^

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #125 เมื่อ24-05-2013 23:54:55 »

สมน้ำหน้าเซย์ริวมากกกกก อยากไปทำร้ายคาซึโกะขนาดนั้นก็ สมควรที่เค้าจะกลัวนายหรอก
คาซึโกะมาซบอกเจ๊มา อย่าไปสนคนใจร้ายคนนั้นเลยย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #126 เมื่อ25-05-2013 00:07:37 »

โอยๆๆๆ ยิ่งอ่านยิ่งเครียด แต่ก็ลุ้นไปด้วย เมื่อไหร่จะเข้าใจกันซะทีนะ

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #127 เมื่อ25-05-2013 16:56:44 »




     งือ คาซึโกะกลัวขนาดนั้นเลยเหรอ
     แต่ฮิโรกิก็นะ เกือบไปแล้วสิ
     ถ้ายังเพื่อนกันอยู่ก็ยังพอช่วยดันๆคู่นี้ได้หน่อย ยิ่งเข้าใจยากๆกันทั้งคู่อยู่




ออฟไลน์ kangkaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #128 เมื่อ25-05-2013 17:11:35 »

มาขอจับจองพื้นที่

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #129 เมื่อ25-05-2013 19:19:47 »

จะดีได้อีกซักกี่น้ำนะเซย์ เชียร์เซย์ๆๆๆ
สู้ๆๆ

:pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
« ตอบ #129 เมื่อ: 25-05-2013 19:19:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #130 เมื่อ25-05-2013 23:23:13 »

มันใช่เรยอ่าา  :hao7:  ชอบบอ่าา ตรงแนวเราที่สุดอ่าา  :ling1:

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตรงเสปกที่สุดละอะ หวานๆขมๆ หม่นๆ โรคจิตนิดๆ #ไม่นิดละ หลังๆนี่ก้ผ่อนลงบ้าง?

ติดตามมมม  :katai2-1:

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #131 เมื่อ27-05-2013 08:27:58 »

ชอบมากกกกกกก

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: KOUSOKU # 15 : 24/5/56
«ตอบ #132 เมื่อ27-05-2013 22:13:44 »

จะสงสารเซย์ริวดีไหมเนี่ย  :ling1:

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #133 เมื่อ31-05-2013 22:10:59 »

สวัสดีวันศุกร์  สวัสดีวันสิ้นเดือนครับ
ใครไปฉลองสิ้นเดือนกันบ้าง?
ผมนั่งทำงานอยู่บ้านนิ่ง ๆ ละครับ

...

KOUSOKU 16

เจ้าของร้านขายดอกไม้มองดูลูกจ้างหนุ่มของเธอด้วยแววตาเป็นกังวลนิด ๆ   สองสามวันมานี้คัตซึฮิโกะไม่ค่อยร่าเริงเหมือนอย่างเคย  ชายหนุ่มรดน้ำต้นไม้อย่างซังกะตาย  เผลอ ๆ  ลืมตัวหน่อยก็ถอนใจเสียเฮือกหนึ่ง  จัดช่อดอกไม้ก็ดูเลื่อน ๆ  ลอย ๆ   และที่สำคัญคือดวงตาดูนั้นดูเศร้าและเป็นทุกข์

“ถ้าคนขายต้นไม้ไม่ยิ้ม  ต้นไม้ก็จะไม่สบายใจนะจ๊ะ”  คุณป้าพูดขึ้นในขณะที่คัตซึฮิโกะกำลังใช้กรรไกรเล็มใบไม้ที่เริ่มเฉาออกจากต้นมะนาวเล็ก ๆ   เป็นผลให้ชายหนุ่มชะงักมือ

“เอ๋  ผมน่ะเหรอครับ?”

“จะมีใครเสียอีกล่ะจ๊ะ  ไม่รู้เหรอว่าเราน่ะทำหน้าเหี่ยว ๆ  แบบนี้มาสองสามวันแล้วนะ  ดูสิ  ต้นไม้ของป้าเลยพาลเหี่ยวไปด้วยเลย”  เธอแกล้งว่าพลางเดินดูต้นไม้ที่ทิ้งใบลู่ลง

“อ่า...ขอโทษครับ”  คัตซึฮิโกะตอบด้วยเสียงอ่อย ๆ

“ป้าไม่ได้ว่าอะไรเราหรอกนะจ๊ะ  ซาโนะคุง  ป้าแค่สงสัยว่าเรามีปัญหาอะไรหรือเปล่าถึงได้ไม่ร่าเริงเลย”  คุณป้าเดินมานั่งที่เก้าอี้ใกล้ ๆ

“มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ”

“หรือว่าทะเลาะกับแฟนตัวสูง ๆ  นั่น?”

คัตซึฮิโกะแทบจะตัดต้นมะนาวขาดเป็นสองท่อน  เขาอ้าปากค้างแล้วหันไปมองคุณป้าอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง...แฟนอย่างงั้นเรอะ!!?

“เซย์ริวไม่ใช่แฟนผมนะครับ!!!!”

“อ้าว  ตายจริง  ป้านึกว่าใช่เสียอีก”

“คุณป้าเอาอะไรมาคิดว่าผมกับหมอนั่นเป็นแฟนกันครับ?”  คัตซึฮิโกะถามด้วยเสียงระทดระท้อ  ไอ้เรื่องแบบนี้มันน่าปวดหัวยิ่งกว่าเรื่องที่เขากำลังคิดอยู่เสียอีก

“ป้าก็แค่ดู ๆ  เอาน่ะจ้ะ  เห็นเขาซื้อดอกไม้ให้  มาเทียวรับเทียวส่งบ่อย ๆ   แรก ๆ  ป้าก็รู้สึกแปลก ๆ  อยู่  แต่ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปแล้วเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องส่วนบุคคล  ป้าไม่ได้รังแครังคัดอะไรหรอกนะ”  คุณป้าพูดยิ้ม ๆ  พลางรินน้ำชาดื่ม  “ดูเราสองคนสนิทกันดี  ป้าก็เลยนึกว่าใช่  แต่ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไปเถอะจ้ะ  นึกเสียว่าป้าไม่เคยพูดเรื่องนี้แล้วกันนะ”

“กับหมอนั่นน่ะนะครับ...”  ดวงตาคู่สวยหรี่ซึมลงไปอีก  “ไอ้คนที่เอาแต่ใจตัวเองชอบใช้กำลังแบบนั้นน่ะ...”

คุณป้ามองดูชายหนุ่มที่มีท่าทีกลัดกลุ้มด้วยสายตาเอ็นดู  อยู่ ๆ  ก็เปลี่ยนอารมณ์ไปมาแบบนั้น  มันเหมือนคนที่กำลังอยู่ในห้วงรักน้อยอยู่เมื่อไรล่ะ  เพราะแบบนี้แหละเธอถึงได้คิดว่าเขากับเพื่อนชายร่างสูงนั้นมีความสัมพันธ์เกินเลยกว่าความเป็นเพื่อนกัน  แต่ความเศร้าลึกและความกังวลที่เผยออกมาทางดวงตานั้นดูจะรุนแรงจนเธออดห่วงไม่ได้

“ถ้ามีอะไรอึดอัดไม่สบายใจ  จะเล่าให้ป้าฟังบ้างก็ได้นะจ๊ะ”

เพียงคำพูดนั้น  ทำให้กำแพงที่คัตซึฮิโกะสร้างขึ้นมาปิดกั้นตัวใจตัวเองพังทลายลง...ถ้าเป็นคนคนนี้อาจจะใจกว้างพอที่จะรับฟังเรื่องของเขาบ้างก็ได้

“ผม...เกลียดหมอนั่นครับ”  คัตซึฮิโกะเริ่มด้วยเสียงเบา ๆ  เหมือนกับจะยังไม่แน่ใจว่าควรจะเล่าต่อไปหรือไม่  แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ให้กำลังใจของคุณป้าแล้วเขาก็ตัดสินใจเล่าต่อ

“คนเอาแต่ใจและชอบใช้ความรุนแรงแบบนั้น  เป็นใครก็ชอบไม่ลงหรอกครับ  อย่าว่าแต่แฟนหรือเพื่อนเลย  แค่จะให้เป็นคนรู้จักยังไม่อยากจะเป็น...แต่มันก็เข้ามายุ่งกับชีวิตผมแล้ว”  ชายหนุ่มนิ่งไปนิดหนึ่ง  “แต่...ผมก็เคย...คิดว่าตัวเองชอบหมอนั่น  ทั้งที่ไม่มีอะไรควรจะชอบเลย  แต่ตอนนั้นผมกลับคิดว่าผมชอบเขา  บางทีตอนนั้นผมอาจจะแค่ต้องการใครสักคนมาอยู่ด้วยก็ได้  เพราะผมไม่มีใครเลย  หรืออาจเพราะหมอนั่นแสดงความรู้สึกและทำแบบที่ตัวเองต้องการอย่างตรงไปตรงมาแบบที่ผมไม่เคยทำได้...แต่หมอนั่นกลับทำเรื่องเลวร้ายกับผม...เรื่องที่ผมคงไม่สามารถให้อภัยหมอนั่นได้ไปตลอดชีวิต  ผม...ผมเกลียดหมอนั่น...”

“แต่พวกเธอก็อยู่ด้วยกัน?”

“ครับ”

“ทำไมอย่างงั้นล่ะ?”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  แต่ผมก็สลัดหมอนั่นไม่หลุด  และหมอนั่นก็ไม่คิดจะไปจากผมด้วย...ผม...ผมไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน”  คัตซึฮิโกะทอดถอนใจ  แต่แววตาดูคลายความกลัดกลุ้มลงบ้างแล้ว  “แล้วมันดันมีเหตุที่ทำให้ผมกับหมอนั่นต้องมีสายเลือดเดียวกัน...ผมชักเริ่มไม่เข้าใจอะไรมากขึ้นทุกทีแล้ว”

“แล้ว...ตอนนี้ซาโนะคุงมีความสุขหรือเปล่าล่ะจ๊ะ?”

“จะมีความสุขได้ยังไงล่ะครับ?”

“แต่ป้าเห็นเรามีความสุขดีนะ  จนสองสามวันที่ผ่านมานี่แหละ”

“ผมเนี่ยเหรอครับ  ดูมีความสุข?”  คัตซึฮิโกะย้อนถามอย่างงง ๆ

“ใช่...ซาโนะคุงน่ะทำงานอย่างมีความสุข  พูดคุยยิ้มแย้มกับลูกค้าอย่างดี  ดูแลต้นไม้ดอกไม้อย่างเข้าอกเข้าใจ”  คุณป้าพูดยิ้ม ๆ  พลางกุมถ้วยชาอุ่น ๆ  ในมือ  “แล้วยิ่งตอนที่เราอยู่กับ...เซย์ริวคุง  ใช่มั้ย?  เราดูร่าเริงยิ่งกว่าตอนคุยกับลูกค้าหรือดูแลต้นไม้อีกนะ  ถึงจะทำสีหน้าไม่พอใจตลอดเวลา  หรือพูดจากันแรง ๆ  จนบางทีป้านึกว่าจะทะเลากันแล้ว  แต่ก็ดูเป็นธรรมชาติมากเลย  ทางเซย์ริวคุงเองก็เหมือนกัน  เขาก็ดูมีความสุขดี...ยิ่งเขาแหย่แล้วเราโกรธ  เขาก็ยิ่งแหย่  แต่มันก็เป็นการแสดงออกต่อกันอย่างตรงไปตรงมา  หายากนะ  คนที่จะคบหากันอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้ได้  ไม่สิ...ต้องพูดว่าคนที่แสดงความรู้สึกเข้าปะทะกันตรง ๆ  แล้วยังคบกันอยู่ด้วยกันได้เนี่ย  หายากเสียยิ่งกว่ายาก  คนแต่งงานกันมาเป็นสิบ ๆ  ปีแล้วลองทำตัวใส่กันแบบนี้ป้าก็เห็นไปไม่รอดสักราย  มีแต่พวกเรานี่แหละ...ป้าถึงได้คิดว่าเราเป็นแฟนกันไงล่ะ”

คัตซึฮิโกะนิ่งคิดตามที่คุณป้าพูด  จริงอยู่ว่าหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว  เขาไม่เคยเก็บความรู้สึกใด ๆ  ที่มีต่อเซย์ริวอีกเลย  เขาแสดงออกไปตรง ๆ  จนบางครั้งกลายเป็นการยั่วยุให้เซย์ริวโกรธ  แต่ทางเซย์ริวเองแม้จะโกรธก็จริง  แต่ก็ไม่เคยร้ายกับเขาเหมือนกับที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้  ราวกับว่าเมื่อก่อนนี้เพราะเขาไม่แสดงอารมณ์อะไรออกไปเลย  ความสมดุลระหว่างพวกเขาจึงไม่มี  เซย์ริวเป็นฝ่ายแสดงออกอย่างเดียว  ผลที่เขาได้รับจึงรุนแรงเป็นสองเท่า  แต่ในตอนนี้เมื่อเขากล้าที่จะปะทะกับเซย์ริวตรง ๆ   เซย์ริวจึงยอมลงให้บ้าง  เป็นการตอบสนองที่เท่าเทียมกันทั้งสองฝ่าย  และแม้เซย์ริวจะเอาแต่ใจแต่เขาก็ไม่ได้ตามใจแบบเมื่อก่อน...ยกเว้นเมื่อคืนก่อนนี้ที่เซย์ริวพยายามจะหักหาญน้ำใจเขาอีก  แล้วก็หายหน้าไปหลายวันแล้ว

“ผมกับเซย์ริวอาจจะมีอะไรเกินเลยกันบ้าง...แต่พวกผมไม่ได้เป็นแฟนกันนะครับ  จะเรียกว่าเพื่อนกันยังไม่ได้ด้วยซ้ำ”  คัตซึฮิโกะสรุปในที่สุด

“มันอาจจะเป็นความสัมพันธ์แบบพิเศษที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาสำหรับพวกเธอโดยเฉพาะก็ได้”  คุณป้ายิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วยกถ้วยชาขึ้นดื่มจนหมด  “อย่าทุกข์ใจไปเลย  ซาโนะคุง  ปล่อยทุกอย่างไปตามธรรมชาติอย่างที่เคยเป็นมานั่นแหละดีแล้ว  ไหน...สบายใจขึ้นหรือยัง  ยิ้มให้ป้าดูหน่อยซิ”

คัตซึฮิโกะหัวเราะออกมาเบา ๆ   เขารู้สึกดีขึ้นมากทีเดียวที่ได้พูดเรื่องอะไร ๆ  ที่เก็บเอาไว้ในใจคนเดียวให้คนอื่นได้ฟังบ้าง  และโชคดีที่คุณป้าใจกว้างมากพอที่จะยอมรับเรื่องของเขาได้ทั้งหมด  นี่เป็นครั้งแรกที่คัตซึฮิโกะรู้สึกเหมือนได้คุยกับญาติผู้ใหญ่ที่สนิทกัน  และเป็นครั้งแรกที่นึกขอบใจเซย์ริวที่ยัดเยียดงานนี้มาให้ทำ


วันนี้ร้านขายต้นไม้ของคุณป้าปิดเร็วกว่าปกติเพราะลูกสาวของคุณป้าจะพาหลานตัวน้อย ๆ  มาเยี่ยม  ซึ่งเป็นเหตุให้คัตซึฮิโกะได้กลับก่อนเวลา  เขาปฏิเสธคำชวนอยู่ทานข้าวของคุณป้าเพื่อให้คุณป้าได้ใช้เวลากับครอบครัวได้เต็มที่  แต่แม้จะได้เลิกงานเร็ว  มันก็เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับของฟ้าแล้ว

“งั้นผมกลับก่อนนะครับ  คุณป้า”  คัตซึฮิโกะบอกหลังจากดึงประตูเหล็กหน้าร้านลงมาปิดล็อกเรียบร้อย

“จ้ะ  ขอบใจจ้ะ  แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะ”  คุณป้าบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

คัตซึฮิโกะโค้งให้พร้อมกับกล่าวคำอำลา  รอยยิ้มของเจ้าของร้านดอกไม้ออกจะแจ่มใสและมีความสุขขนาดนั้น  เขาจะอยู่เป็นตัวขัดความสุขได้อย่างไรเล่า  และยังไงเสียวันนี้เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นบ้างแล้วด้วย

ชายหนุ่มตั้งใจจะเดินไปที่สถานีรถไฟใต้ดินเพื่อกลับบ้านตามปกติ  แต่เมื่อเดินผ่านปากซอยที่เขาใช้เป็นทางลัดเดินมาทำงานทุกเช้าแล้ว  ใบหน้าของเจ้าคนน่าโมโหก็ผุดขึ้นมาในหัวอย่างไม่มีสาเหตุ

‘…หรือว่าทะเลาะกับแฟนที่ตัวสูง ๆ  นั่น…’

คำพูดของคุณป้าที่นึกขึ้นมาได้ยิ่งทำให้รู้สึกโมโหขึ้นเป็นสองเท่า...ทำไมเขาต้องโดนเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกับเซย์ริวด้วย!?...ทำไมไอ้คนเอาแต่ใจคนนั้นถึงได้หาแต่เรื่องเสื่อมเสียมาให้เขาอยู่เรื่อยเลย!?

ซอยนี้เซย์ริวเคยห้ามไม่ให้เขาเดินผ่านในตอนเลิกงานถ้าเซย์ริวไม่ได้มาด้วย  เหตุผลก็คือมันอันตราย  และเพราะเหตุผลนั้น  เขาจึงไม่เคยเดินกลับบ้านเวลาเลิกงาน...คัตซึฮิโกะถอนใจกับตัวเองอย่างฉุนเฉียว  นึกโกรธตัวเองว่าทำไมจะต้องเชื่อฟังเซย์ริวทุกครั้งเสมอ  ในขณะที่เซย์ริวไม่เคยฟังเขาเลยสักนิด  ไม่เคยฟังทั้งเรื่องราว  เหตุผล  ไม่สนใจกระทั่งความรู้สึก...ตั้งแต่ตอนที่ยอมรับเซย์ริวเข้ามาในชีวิต  เขาวาดฝันไว้ถึงครอบครัวที่เขาไม่เคยมี  เซย์ริวอาจจะเป็นคนที่เป็นตัวแทน  “ครอบครัว”  ให้เขาได้...แต่...ความฝันที่วาดเอาไว้  ถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี  และยิ่งตอนนี้...

คัตซึฮิโกะก้าวเข้าไปในซอยด้วยอารมณ์ขุ่นมัวล้วน ๆ   จนสภาพรอบตัวไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มหวั่นไหว  กระทั่งเดินไปได้พักหนึ่งคัตซึฮิโกะถึงได้รู้สึกตัว...มันเป็นสถานที่ที่สมควรแล้วที่เซย์ริวจะบอกว่าอันตราย  รอบกายของคัตซึฮิโกะในตอนนี้ราวกับเมืองคนบาปในตำนานเก่า ๆ   ต่างกับยามเช้าหน้ามือเป็นหลังมือ

ซอยเล็ก ๆ  แคบ ๆ  นั้นมีเพียงแสงสลัว ๆ  จากเสาไฟที่จวนจะดับไม่ดับแหล่ไม่กี่ดวง  และบางดวงก็แตกละเอียด  กลิ่นเหม็นเน่าจากขยะที่ถูกทิ้งลืมและกลิ่นของเสียจากร่างกายมนุษย์ชวนคลื่นเหียน...น่าแปลกที่กลิ่นของมันชัดเจนกว่าตอนกลางวัน  บนกำแพงสกปรกมีรอยสีสเปรย์พ่นเอาไว้เป็นถ้อยคำหยาบคายเกือบตลอดทาง  มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นท่าทางทรุดโทรมนั่งรวมกลุ่มเสพยาอยู่ตามซอกเล็ก ๆ  ข้างตึก  หน้าคูหาบางห้องมีเด็กหนุ่มสาวในเสื้อผ้าน้อยชิ้นนั่งรวมกันอยู่  ทุกคนมีสายตาที่ดูหวาดหวั่น  มีผู้ชายตัวใหญ่หน้าโหดนั่งคุมพวกเขาอยู่ไม่ไกลนัก  ไม่ต้องบอกคัตซึฮิโกะก็รู้ว่าคูหาตึกเหล่านั้นคือแหล่งขายบริการทางเพศดี ๆ  นี่เอง
บรรดาคนคุมเด็กเหล่านั้นจ้องมองมาที่ชายหนุ่มด้วยแววตาน่ากลัว  พวกมันกำลังวิเคราะห์ว่าคัตซึฮิโกะเป็นใคร  หลงมาจากไหน  มาคนเดียวหรือมีคนมาด้วย  มีเงินหรือไม่  ต้องการซื้อยาหรือซื้อบริการ...คัตซึฮิโกะพยายามไม่มองไปทางนั้น  เขารู้ตัวแล้วว่าคิดผิดที่เข้ามาในนี้โดยไม่สนใจคำสั่งของเซย์ริว  แต่จะให้ย้อนกลับไปทางเก่าเขาก็เข้ามาลึกเกินไปแล้ว  ถ้ากลับออกไปตอนนี้พวกที่อยู่ในซอยนี้จะรู้ว่าเขาเป็นคนนอก...เป็นเหยื่อ!

โลกตรงนี้เป็นโลกชั้นต่ำกว่าโลกของเซย์ริวหลายระดับนัก  สำหรับเซย์ริวเองแล้ว  ถ้าไปอยู่ในแก๊งยากุซ่าเสียก็อาจจะเป็นระดับแนวหน้าได้ทีเดียว  เพียงแต่ชายหนุ่มไม่สนใจใครนอกจากตัวเองจึงหยุดอยู่เพียงระดับวายร้ายในโลกมืดอย่างนี้เท่านั้น...และสำหรับคัตซึฮิโกะในตอนนี้  เขายินดีโดนคนระดับเดียวกับเซย์ริวปล้นเอาดีกว่าจะโดนคนพวกนี้รุมกินโต๊ะเพราะเห็นเป็นเหยื่อที่หลงเข้ามาถึงปาก

คัตซึฮิโกะเอาเป้ของตัวเองมากอดไว้เพื่อความอุ่นใจ  ในเป้ไม่ได้มีอะไรพอจะเป็นอาวุธให้ป้องกันตัวได้และก็ไม่ได้มีสมบัติอะไรให้ขโมย  แต่มันก็ดีกว่าจะให้โดนแย่งไป  ยิ่งเดินเข้าไปลึก...คัตซึฮิโกะก็ยิ่งกอดเป้แน่น  เขาเดินก้มหน้างุดไปตลอดทาง  อาศัยเพียงแสงราง ๆ  บนพื้นพอให้เดินไปถูกทางไม่ไปชนกำแพงหรือเสาไฟเข้า  บรรยากาศรอบด้านยิ่งน่าหวาดหวั่นยิ่งขึ้น  ในตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใครสนใจใครกันแล้ว  พวกที่เสพยาก็เสพกันสด ๆ  ให้เห็นอยู่ข้างทาง  พวกที่ขายบริการก็แทบจะเปิดให้บริการกันตรงนั้น  คัตซึฮิโกะรีบสาวเท้าเร็วขึ้น  ลมร้อนที่พัดวูบลงมาในซอยส่งเสียงหวีดหวิวน่ากลัว  แต่มันไม่ได้ทำให้เหงื่อที่ไหลพลั่กจนเปียกชุ่มเสื้อของชายหนุ่มแห้งลงได้  เขาได้แต่ภาวนาให้พ้นจากช่วงตึกนี้ไปเร็ว ๆ   แต่ว่า...

พลั่ก!

“โอ๊ย!  ไอ้สัตว์เอ๊ย!  เดินยังไงของมึงวะ!?”  เสียงผรุสวาทดังขึ้นทันทีที่คัตซึฮิโกะเดินไปชนใครคนหนึ่งเข้า

“อ๊ะ!  ขอโทษครับ  ผม...ผมไม่ทันระวัง”  ชายหนุ่มนึกด่าตัวเองอยู่ในใจ  เพราะความรีบร้อนทำให้ไม่ทันระวังตัวจนเกิดเรื่องให้ต้องเสียเวลามากขึ้นไปอีก

“ขอโทษแล้วมันหายเหรอวะ  ไอ้เด็กเวรนี่...”  มันคนนั้นทำท่าจะเอาเรื่อง

“ขอโทษ...ขอโทษจริง ๆ  ครับ  ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ”  คัตซึฮิโกะระล่ำระลัก  คนที่เขาเดินชนดูท่าจะเป็นเสี่ยใหญ่จากที่ไหนสักแห่งซึ่งกำลังเมาได้ที่และมีบอดี้การ์ดเดินตามมาด้วยอีกสองคน

“ชิ...ไอ้...”  มันชะงักไปเมื่อเห็นคู่กรณีชัด ๆ

ดูแค่ภายนอกก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนประเภทที่อยู่ในซอยนี้  เขาเข้าออกที่นี่เพื่อทวงหนี้หรือกำจัดลูกหนี้ไม่ได้ความทิ้งเป็นประจำแต่ก็ไม่เคยเห็นคนลักษณะเดียวกับชายหนุ่มคนนี้มาก่อน...ทำไมคนแบบนี้ถึงหลงเข้ามาที่นี่ได้

สมองที่ตอนนี้โดนฤทธิ์แอลกอฮอล์บดบังสติปัญญาคิดขึ้นมาได้ในทันทีว่า...ชายหนุ่มคนนี้คงจะเข้ามาเพื่อขายบริการทางเพศเป็นแน่  เพราะคนดี ๆ  ที่ไหนเขาจะเข้ามาที่นี่กัน  และที่สำคัญคือชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้มีท่าทางเหมือนพวกที่เสพยาเลยแม้แต่น้อย  ดังนั้นความน่าจะเป็นสุดท้ายก็คงเป็นทางนั้นแน่

ดวงตาที่เยิ้มฉ่ำด้วยความมึนเมามองสำรวจร่างเพรียวตั้งแต่หัวจรดเท้า  เขาเป็นประเภทที่ไม่เกี่ยงชายหรือหญิงอยู่แล้ว  และคู่กรณีของเขาคนนี้ก็ท่าทางไม่เลวเสียด้วย

“อืม...ดูดีนี่  ไอ้หนู...”  ดวงตารีเล็กมองคนตรงหน้าอย่างโลมเลียไปทั้งร่าง

“อะ...อะไร...?”  ก่อนที่คัตซึฮิโกะจะไหวตัวทัน  มืออวบใหญ่ก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเขา

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #134 เมื่อ31-05-2013 22:14:22 »

“ดูท่าจะยังหาลูกค้าวันนี้ไม่ได้สินะ  ฉันจะซื้อเธอเองก็ได้...ดีมั้ยล่ะ?”  ถ้อยคำหยามหมิ่นออกมาจากปากของมันพร้อมกลิ่นละมุดเน่า

คัตซึฮิโกะชักสีหน้าแล้วสะบัดมือออกทันที

“ผมไม่ใช่พวกขายตัวนะ!”

“อะไร๊...ใช่ก็ยอมรับสิว่าใช่  คนดี ๆ  ที่ไหนเขาจะเข้ามาเดินในที่แบบนี้กัน  นี่ฉันอุตส่าห์เสนอให้ดี ๆ  แล้วนะ  แกจะเรียกเท่าไหร่ล่ะ  ว่ามาเลย  ฉันมีเงินให้แกแน่”  มันว่าพลางดึงมือคัตซึฮิโกะอีกครั้ง

“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า!!”  คัตซึฮิโกะดึงมือออกพร้อม ๆ  กับง้างหมัดต่อยเข้าให้เต็มแรง  เล่นเอาเจ้าเสี่ยบ้ากามผงะหงายไปหาบอดี้การ์ด

คัตซึฮิโกะฉวยจังหวะที่ยังไม่มีใครตั้งตัวติดวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

“ไอ้สัตว์เอ๊ย!  ไปลากตัวมันมาให้กูให้ได้!!”  เสียงมันตะโกนสั่งคนของมันไล่หลังมา

เร็วเท่าที่เท้าจะพาไปได้...คัตซึฮิโกะวิ่งสุดแรงเกิด  แต่เสียงฝีเท้าที่ไล่หลังมากลับกระชั้นชิดเข้ามามากขึ้น...มากขึ้น...ในที่สุดมือแกร่งของใครคนหนึ่งก็คว้ากระชากคอเสื้อของเขาได้

ร่างเพรียวถูกดึงเหวี่ยงจนถลาไปปะทะกำแพง  ชายร่างใหญ่สองคนยืนล้อมเขาไว้อย่างหมดทางหนี  คัตซึฮิโกะพยายามมองหาทางรอด  แต่ดูเหมือนว่าการจะรอดไปจากที่นี่ได้คงต้องลงมือฆ่าทั้งสองคนนี้เสียก่อน...ซึ่งนั่นไม่มีทางเป็นไปได้เลย  สองคนนี้ตัวใหญ่กว่าเขาเยอะ

เสี่ยใหญ่เดินตามมาถึง  มันแสยะยิ้มน่าสะอิดสะเอียนแล้วย่างสามขุมเข้ามาหาคัตซึฮิโกะ

“เมื่อกี้มึงทำแสบ...ไอ้หนู  กูอุตส่าห์ใจดีด้วยเสือกไม่ยอม  คราวนี้เจ็บตัวหละมึง”  มันยิ้มล้อเลียนพลางยกมือขึ้นหักข้อนิ้วเป็นเชิงข่มขู่  แต่เมื่อเห็นสายตาของลูกไก่ในกำมือแล้วก็ต้องหุบยิ้ม

แม้จะไร้ทางสู้  แต่สายตาคู่นั้นไม่ได้บอกเลยว่ายอมแพ้  มันเป็นสายตาของสัตว์ป่าที่พร้อมจะแว้งกัดอยู่ตลอดเวลาหากเขาขยับพลาดไปนิดเดียว...และสายตาแบบนั้นมันทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังวูบ

“เล่นแม่ง!  เอามันให้หมอบ  เอาให้มันยอมกูให้ได้!!”

ขาดคำ  กำปั้นลุ่น ๆ  ก็อัดเข้าที่ลิ้นปี่ของคัตซึฮิโกะเต็มแรง  แม้จะระวังตัวอยู่แล้วแต่น้ำหนักหมัดขนาดนั้นก็เล่นเอาจุกจนตัวงอ  หลังจากนั้นคัตซึฮิโกะก็ได้แต่ปัดป้องทั้งมือทั้งเท้าที่ประเคนเข้าหา  หูยังได้ยินเสียงมันคนนั้นแว่ว ๆ  มา

“อย่าให้เสียโฉมนะโว้ย  มันยังต้องบริการชดใช้ให้กูอีกเยอะ”
//////////

เสียงเคาะประตูหน้าร้านขายต้นไม้ดังขึ้น  ทำให้คุณป้าต้องละมือจากหม้อต้มแกงแล้วรีบออกมาที่หน้าร้าน  เธอส่องดูผู้มาเยือนทางช่องประตู  แล้วก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงที่คุ้นหน้ากันยืนเก้ ๆ  กัง ๆ  อยู่  เธอรีบเปิดประตูออกไป

“อ้าว  เซย์ริวคุง  มีอะไรเหรอจ๊ะ?”

“เอ้อ...ปิดร้านแล้วเหรอ”

“จ้ะ  วันนี้ปิดเร็วนิดหน่อย  มารับซาโนะคุงเหรอ?”

“อื้อ  หมอนั่นกลับไปแล้วเหรอ?”

“ไปนานแล้วจ้ะ”

“เอ๊ะ  นานแค่ไหนแล้ว?”

“ก็สักครึ่งชั่วโมงแล้วหละจ้ะ”

“งั้น...ขอบคุณ”

เซย์ริวกล่าวขอบคุณคุณป้าแล้วรีบรุดไปทางสถานีรถไฟ  เมื่อครู่นี้เขาก็เตร่อยู่แถว ๆ  ทางเข้าสถานีรถไฟ  ถ้าเทียบเวลากันแล้ว  ถ้าคัตซึฮิโกะไปถึงสถานีรถไฟก็ควรจะได้พบเขา  หรือถ้าแวะกลางทางก็ควรจะเจอกันอยู่ดี...ถ้าอย่างนั้น...คัตซึฮิโกะไปไหน!?
หัวใจชายหนุ่มกระตุกวาบเมื่อคิดถึงทางลัดที่เขาเป็นคนบอกทางให้คัตซึฮิโกะ

‘…ไอ้หมอนั่นคงไม่…!?...’

ร่างสูงเร่งฝีเท้าจากเดินเป็นวิ่ง  หวังไว้ในใจว่าเขากับคัตซึฮิโกะคงจะแค่คลาดกัน  คัตซึฮิโกะไม่ได้เข้าไปที่นั่น...
//////////

คัตซึฮิโกะกองทรุดอยู่กับพื้น  เนื้อตัวมีรอยฟกช้ำจากการโดนรุมทำร้าย  แม้อาการบาดเจ็บจะไม่มากมายแต่ทุกที่ล้วนแต่โดนจุดเจ็บที่ทำเอาหมดแรงต่อต้านโดยง่าย  ชายสองคนนี้เป็นมืออาชีพของแท้

ชายหนุ่มถูกลากเข้าไปในซอกตื้น ๆ  แล้วโยนโครมลงกับพื้น  เขาตั้งสติไล่ความมึนงงอยู่ชั่วครู่แล้วค่อย ๆ  ยันกำแพงพยุงกายขึ้น  ก่อนที่จะโดนกระชากผมแล้วผลักไปพิงกำแพง

“ไง...สิ้นฤทธิ์แล้วสิ  ยอมดี ๆ  เสียแต่แรกก็ไม่ต้องเจ็บตัวอย่างนี้หรอก”  มืออวบอูมค้ำคอร่างเพรียวไว้  นิ้วอ้วน ๆ  ขยับไล้ไปตามผิวแก้ม  “ผิวเนียนจริง ๆ   แกนี่มันก็ของชั้นดีนะ  ไม่น่าเข้ามาเป็นของขายในนี้เลย  โอ๊ะ...จริงสิ  บอกว่าไม่ได้ขายสินะ  ฉันจะเชื่อแกก็ได้  แต่ที่แกทำไว้เมื่อกี้น่ะ...ต้องชดใช้คืนเป็นร้อยเท่าทีเดียว”

ลิ้นร้อนเลียเข้าที่ข้างแก้มและไล้ลงมาที่ซอกคอขาว  คัตซึฮิโกะสะดุ้งและผวาปัดป้อง  แต่สภาพร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย  ยิ่งเขาขัดขืน  มันก็ยิ่งดูจะสนุกมากขึ้น

เสี่ยหนุ่มใหญ่ลูบไล้ลวนลามไปตามเรือนร่างของเหยื่อที่จับได้ในคืนนี้  กลิ่นกายของชายหนุ่มยังอวลไปด้วยกลิ่นจาง ๆ  ของโคโลญจ์หรือน้ำหอมที่ใช้ยิ่งกระตุ้นให้อารมณ์ใคร่พลุ่งพล่าน  เขาขบกัดลงที่ซอกคอแล้วหัวเราะเบา ๆ  เมื่อร่างเพรียวสะดุ้งสุดตัวและส่งเสียงร้องเบา ๆ

“ไม่...หยุดนะ...”  คัตซึฮิโกะพยายามผลักไสผู้รุกรานให้ออกห่าง  แต่นั่นยิ่งเป็นการยั่วยุ  มือสากสอดเข้าไปในเสื้อยืดของเขาแล้วลูบไล้แผ่นอกอย่างจาบจ้วง

“อย่าดื้อไปเลยน่า  เดี๋ยวฉันจะทำให้แกรู้สึกดีจนแทบคลั่งเลยหละ”  มันพูดด้วยเสียงกระเส่าพลางแทรกต้นขาเข้าไปตรงหว่างขาของชายหนุ่มแล้วบดเบียดกระตุ้น

“ไม่นะ!”  คัตซึฮิโกะคว้าข้อมือของเจ้าเสี่ยบ้ากามไว้แน่นเมื่อมันพยายามปลดกางเกงยีนส์ของเขา

“บอกว่าอย่าดื้อไงเล่า!”  กำปั้นหนัก ๆ  อัดเข้าที่ลิ้นปี่คัตซึฮิโกะอีกครั้ง  แม้จะไม่รุนแรงมากแต่ก็ทำให้ชายหนุ่มหยุดการต่อต้านได้ทันที

กางเกงถูกดึงลงมาจนถึงต้นขา  คัตซึฮิโกะหลับตาแน่นด้วยความรู้สึกขยะแขยง...ทำไมถึงเป็นแบบนี้...ทำไมไม่ว่าเมื่อไรเขาถึงช่วยอะไรตัวเองไม่ได้เลย...ทำไม...

เสียงเอะอะดังแว่วมาเข้าหู  แต่หนุ่มใหญ่ที่กำลังกลัดมันไม่สนใจ  เขากำลังอยากขม้ำเหยื่อชิ้นใหญ่ตรงหน้ามากกว่า  แต่ก่อนที่ชั้นในของร่างเพรียวจะถูกเกี่ยวลง  เงาของใครบางคนก็ทาบทับลงบนร่างของเขาและเหยื่อในกำมือ

“เฮ้ย!  กูบอกไม่ให้กวนไง...!?”

เพียงขาดคำ  คนตวาดก็สะดุ้งเฮือกขึ้นทั้งตัวด้วยอาการเจ็บแปลบที่ชายโครง  เขาก้มลงดู...มีดเล่มไม่เล็กนักเสียบติดอยู่ที่ตรงนั้น!!

“อะ...เฮ้ย...นี่...”  เสี่ยใหญ่ตะกุกตะกักด้วยความตะลึงลาน  เขาแหงนเงยขึ้นมองคนทำ

ร่างสูงโปร่งเจ้าของมีดจ้องมองตอบนิ่ง ๆ   หากดวงตาเป็นประกายวาววามด้วยไฟโทสะ  เขากระชากมีดออกแล้วถีบร่างหนา ๆ  ของเสี่ยจนล้มคว่ำ  ดวงตาคมปรายมองคนที่ยืนพิงกำแพงตัวสั่นอยู่

“ซะ...เซย์ริว...”

เซย์ริวมองสำรวจคัตซึฮิโกะตลอดเรือนร่าง  ทั้งรอยฟกช้ำและเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยยิ่งทำให้เขาพลุ่งพล่านมากขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกางเกงยีนส์ของคัตซึฮิโกะถูกดึงลง...ไอ้สัตว์นรกนั่นมันแตะต้องคนของเขาไปถึงขนาดไหนแล้ว!?

ร่างสูงตวัดเท้าเตะอัดเข้าที่แผลของคนที่นอนกองอยู่กับพื้นเต็มแรงบังเกิดเสียงกรีดร้องน่าสยองขึ้นพร้อมกับเลือดที่ไหลปรี่ออกมาเหมือนท่อประปาแตก  แต่นั่นยังไม่หนำใจ  เขาขยับตัวหมายจะซ้ำ

“เซย์ริว!  อย่า!  พอแล้ว!!”  คัตซึฮิโกะร้องห้าม

อาชญากรหนุ่มหันไปหาคัตซึฮิโกะพลางเงื้อมือขึ้นเตรียมกระหน่ำซัดเสียให้หายโกรธ  ค่าที่ขัดคำสั่งของเขา  แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรคัตซึฮิโกะ  เจ้าบอดี้การ์ดสองคนที่เขาซัดไปเมื่อครู่นี้ก็เข้ามาหวดด้วยท่อนไม้

เซย์ริวยกแขนขึ้นรับป้องกันตัวเองได้ทันพอดี  เขาถลาไปสองสามก้าวแล้วสะดุดร่างของเจ้าเสี่ยที่นอนอยู่ตรงนั้นล้มลง  การตะลุมบอนเกิดขึ้นทันที  ชายหนุ่มต่อสู้ได้ไม่ถนัดนักด้วยไม่ทันได้ตั้งตัว  เขาพยายามปัดป้องและระวังไม่ให้มีดหลุดไปจากมือ  แล้วชั่วแวบหนึ่ง  เขาเห็นปากกระบอกปืนดำมะเมื่อมส่องเล็งมาที่เขา

เพียงระยะแค่นี้  เขาไม่มีทางหลบพ้น!

ผัวะ!!

ท่อนไม้หนาที่หาได้ง่ายในบริเวณนั้นกระทบศีรษะของเจ้ามือปืนอย่าง  มันร้องลั่นออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นกุมหัวและทำปืนหลุดจากมือ  ในขณะที่อีกคนที่กำลังตะลุมบอนกับเซย์ริวหันไปมองด้วยความตกใจ

แม้จะเจ็บแขนอยู่บ้างแต่ด้วยความที่คุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้  เซย์ริวไม่เว้นช่องว่างให้ศัตรู  ชั่ววินาทีที่ได้สติ  ปลายแหลมของมีดคู่มือก็เสียบเข้าใต้ราวนมของคนที่อยู่ตรงหน้าเขา  มันสำลักอากาศเฮือกหนึ่งแล้วทรุดลงไปกองโดยไม่ทันได้ร้อง 

เซย์ริวตะกายลุกขึ้นแล้วก็เห็นคัตซึฮิโกะกำลังใช้ไม้ท่อนนั้นกระหน่ำฟาดเจ้ามือปืนไม่ยั้งจนกระทั่งมันหมอบนิ่งอยู่กับที่

“คาซึโกะ!  พอแล้ว!”  มือแกร่งฉวยคว้าไม้ท่อนนั้นแล้วกระชากออกจากมือคัตซึฮิโกะ

ร่างเพรียวหอบเหนื่อยด้วยความรู้สึกอันสับสน  เสียงเอะอะโวยวายทำให้คนแถวนั้นเริ่มออกมาดู

เซย์ริวฉวยเป้ของคัตซึฮิโกะที่หล่นอยู่แถวนั้นแล้วคว้าข้อมือคนตัวเล็กกว่าออกวิ่ง  เขาไม่แน่ใจว่าไอ้เสี่ยนั่นจะมีคนติดตามมามากกว่าสองคนหรือเปล่า  ถ้ามีพวกเขาคงแย่  ลำพังตัวเองนั้นไม่เท่าไรแต่คัตซึฮิโกะคงรับมือไม่ไหว  ทางที่ดีที่สุดคือหนีไปให้พ้นจากที่นั่นเสียก่อน

คัตซึฮิโกะถูกร่างสูงลากถูลู่ถูกังมาจนถึงหน้าห้องในแมนชั่นเล็ก ๆ  อันเป็นที่พัก  ถึงที่นี่แล้วเป็นอันปลอดภัย  เขาเหนื่อยหอบราวกับจะขาดใจ  มือของเขาสั่นเสียจนไขกุญแจเข้าห้องไม่ได้  เซย์ริวจึงดึงกุญแจไปไขเสียเอง  มือแกร่งโอบไหล่ประคองร่างบางแล้วพาเข้าไปในห้อง

คัตซึฮิโกะปล่อยเป้ลงกับพื้นแล้วซวนเซเหมือนจะทรุดลงตรงหน้าประตูแต่ร่างสูงช่วยประคับประคองไว้

“ใจเย็น ๆ   ไม่ต้องกลัวแล้ว”

ร่างเพรียวสูดหายใจเฮือกใหญ่  เขาทั้งตื่นเต้น  ตกใจ  และหวาดกลัว...เมื่อกี้นี้  เขาได้เห็นการฆ่ากันต่อหน้าต่อตาเป็นครั้งแรกในชีวิต  เซย์ริวช่างทำได้อย่างหน้าตาเฉยเหลือเกิน...เมื่อนึกถึงแววตาของเซย์ริวในตอนนั้น  คัตซึฮิโกะก็สะท้านไปทั้งร่าง...มันยิ่งกว่าที่เขาเห็นในตอนที่พบกันครั้งแรก  แววตาของเซย์ริวคุโชนด้วยไฟโทสะแรงกล้าจนเหมือนพร้อมจะฆ่าทุกคนที่เข้ามาในรัศมี...เซย์ริวเป็นอาชญากร  เป็นฆาตกร...แต่นั่นเพื่อช่วยเขาไม่ใช่หรือ...

คัตซึฮิโกะเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงด้วยสายตาหวั่นไหว

“เป็นอะไร?  เจ็บตรงไหนรึไง?”  คำถามนั้นเย็นชาหากอุ่นวาบขึ้นในหัวใจของคัตซึฮิโกะ

มือเรียวเกาะยึดเสื้อของเซย์ริวแน่น

“เมื่อกี้...คุณฆ่าคน...”  น้ำเสียงของคัตซึฮิโกะสั่นเล็กน้อยเมื่อต้องเอ่ยถ้อยคำอันเหมือนเป็นบาปร้ายแรง

อาชญากรหนุ่มถอนใจแล้วจ้องหน้าคัตซึฮิโกะ  ริมฝีปากเม้มนิด ๆ  เหมือนหนักใจ

“ใช่  แล้วไง?  ถ้าไม่ทำมัน  มันก็ทำเรา”

“เพื่อผมเหรอ?”

คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย  ร่างสูงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยนั้นเหมือนจะค้นหาความหมายของคำถาม

“มันกล้าดีมาแตะต้องของของฉัน  ก็ต้องโดนดีบ้าง”  เซย์ริวบอกด้วยน้ำเสียงเครียด ๆ   “ว่าแต่แก...ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามเดินกลับบ้านทางนั้นตอนกลางคืน”

คัตซึฮิโกะหลบตาเซย์ริวทันทีเหมือนเด็กที่ทำความผิด  เขาคิดไว้แล้วว่าต้องโดนเล่นงานบ้าง  แต่ประโยคถัดมากลับทำให้ต้องเงยขึ้นมองหน้าร่างสูงอีกครั้ง

“แต่เมื่อกี้ก็ทำได้ไม่เลว...แกช่วยฉันไว้นะ  คาซึโกะ”

รอยยิ้มบาง ๆ  แบบที่นาน ๆ  จะได้เห็นสักครั้งปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของร่างสูง  คัตซึฮิโกะจ้องหน้าเซย์ริวด้วยความหลากใจอยู่ชั่วขณะแล้วก็ยิ้มน้อย ๆ  ตอบไปบ้าง

“คุณก็ช่วยผมไว้เหมือนกัน”

เซย์ริวไม่ได้พูดอะไร  มือใหญ่แตะลงเบา ๆ  ที่รอยช้ำตรงโหนกแก้มของร่างเพรียว  ก่อนที่จะขยับเข้าไปใกล้แล้วแนบริมฝีปากอุ่นร้อนลงไปตรงรอยช้ำอย่างแผ่วเบา

ไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านจากคัตซึฮิโกะ...


จุมพิตแผ่วเบาแนบลงบนริมฝีปากนุ่มเหมือนจะหยั่งเชิง  คัตซึฮิโกะสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน  ร่างสูงจับแขนของเขาให้โอบรอบคอเป็นหลักพยุงกาย  เซย์ริวบดคลึงริมฝีปากอย่างเนิบช้า  เรียวลิ้นแตะแทรกเข้าไปก่อนที่จะหยุดลง

“อย่ากัดฟันไว้แบบนั้นสิ”  เสียงห้าวทุ้มปนมากับเสียงหัวเราะเบา ๆ   ราวกับเอ็นดูที่คัตซึฮิโกะทำเหมือนกับว่านี่เป็นการจูบครั้งแรก

คัตซึฮิโกะปรือตาขึ้นมองร่างสูงแล้วทำหน้าลำบากใจ  เขายังนึกหวั่น ๆ  ที่จะยอมรับการสัมผัสจากเซย์ริว  แต่เพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นมาไม่เกินชั่วโมงที่แล้วบอกให้เขารู้ตัวว่า  เขายอมรับได้ในสิ่งที่เซย์ริวทำ...แม้กระทั่งการฆ่าคน...เขาไม่ได้พยายามห้ามเซย์ริวเลยแม้แต่น้อย  พูดกันตามตรงแล้ว  เขาก็เหมือนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำของเซย์ริว...เพราะงั้น  การกระทำเช่นนี้ก็...

คัตซึฮิโกะหลับตาลงและเผยอริมฝีปากเล็กน้อย  เซย์ริวแนบริมฝีปากลงมาประกบอีกครั้งแล้วส่งปลายลิ้นเข้าไปควานหาความหวานล้ำที่ปรารถนาจะลิ้มรสมานาน  ลิ้นนุ่มคลุกเคล้ากับลิ้นของอีกฝ่ายที่เอาแต่ตั้งรับการรุกรานของเขาโดยไม่ยอมตอบสนองแม้แต่นิดเดียว

นาน...กว่าเซย์ริวจะถอนจูบออก  ดวงตาคู่สวยลืมขึ้นจ้องมองใบหน้าคมของคนตรงหน้าอย่างหวั่นไหว  ใบหน้าแดงเรื่อ  คัตซึฮิโกะรีบหลบตาร่างสูงแล้วซบหน้าลงกับไหล่หนา  เซย์ริวจูบลงบนผมนิ่มที่กรุ่นกลิ่นเหงื่อจาง ๆ  แล้วค่อยไล้ริมฝีปากลงไปยังแก้ม  เขาขบเม้มเบา ๆ  ที่ติ่งหูของคนตัวเล็กกว่าแล้วลากลิ้นไปที่ซอกคอเพรียวบาง

“อือ…”  คัตซึฮิโกะครางออกมาเบา ๆ   ทั้งร่างสั่นสะท้าน

“คาซึโกะ...”  ร่างสูงกระซิบที่ข้างหูเบา ๆ   “ไปที่เตียงมั้ย?”

คัตซึฮิโกะเพียงแต่พยักหน้าน้อย ๆ  แทนคำตอบ  เซย์ริวจึงช้อนร่างเพรียวขึ้นแล้วก้าวยาว ๆ  ไปนั่งที่ขอบเตียงก่อนที่จะวางคนในอ้อมแขนลงนั่งบนตัก  สองมือสอดและดึงเสื้อยืดของคัตซึฮิโกะขึ้นช้า ๆ   ปลายลิ้นค่อย ๆ  ไล้เลียไปตามผิวขาวนวลที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า  จนเสื้อของคนในอ้อมแขนหลุดพ้นตัวเขาจึงจูบเน้นที่ไหล่บาง  รอยแดงปรากฏขึ้นบนผิวขาวนั้น  สองแขนของคัตซึฮิโกะยังคงเกาะกอดร่างสูงเอาไว้แน่นและขยับกายด้วยความรู้สึกประหลาด  ลมหายใจหอบถี่  ฝ่ามือและปลายนิ้วลูบไล้และกดเน้นลงตามมัดกล้ามบนแผ่นหลังของเซย์ริว  อาชญากรหนุ่มรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นและแรงสะท้านน้อย ๆ  ที่ฝ่ามือนั้นผ่านเนื้อผ้าของเสื้อที่สวมอยู่

“กลัวเหรอ?”  เซย์ริวกระซิบถามเบา ๆ

ร่างเพรียวส่ายหน้าแทนคำตอบแต่ร่างทั้งร่างยังสั่นไม่หยุด  ตาคู่สวยเริ่มชื้นไปด้วยน้ำตา  ความหวาดกลัวที่ฝังใจกำลังกลับมาเล่นงานเขา

เซย์ริวจูบซับคราบน้ำตานั้นอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่ามันจะแตกสลายแต่เขาไม่อยากหยุดแค่นี้ในเมื่อคัตซึฮิโกะไม่ได้ออกอาการขัดขืนแม้แต่นิดเดียว

อาชญากรหนุ่มค่อย ๆ  ดึงมือซ้ายของคัตซึฮิโกะมาประคองไว้เบา ๆ   ปลอกข้อมือถูกดึงออกเผยให้เห็นรอยแผลเป็นที่น่ากลัว  ครั้งแรกคัตซึฮิโกะกระตุกมือหนีทันทีตามสัญชาตญาณ  แต่มือที่แข็งแรงกว่ายึดเอาไว้มั่น

ร่างเพรียวช้อนตามองร่างสูงอย่างไม่ไว้วางใจ  รอยแผลนี้...รอยแผลที่เขาถูกกดดันให้ต้องกระทำ...ทั้งหมดเป็นฝีมือของคนตรงหน้านี้ไม่ใช่หรือ?  แววเจ็บช้ำและอาฆาตปรากฏขึ้นแวบหนึ่งในแววตา  หากเซย์ริวไม่หลบตาและยังยกมือนั้นขึ้นจรดริมฝีปากแล้วจูบเบา ๆ

คัตซึฮิโกะสะดุ้งเฮือก  รู้สึกร้อนวาบที่รอยแผลราวกับถูกนาบด้วยเหล็กร้อน  เขาพยายามดึงมือออกให้พ้นจากการเกาะกุม

“อ๊ะ...อย่านะ...ไม่เอา...”

แต่ร่างสูงกลับเคล้าคลอริมฝีปากขบเม้มซ้ำแล้วซ้ำอีก...อ่อนหวาน  นุ่มนวล...อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน  ละมุนละไมเสียจนใบหน้าของคัตซึฮิโกะซับสีเลือดระเรื่อ...

ในที่สุด  มือขวาที่ยังเกาะแขนเซย์ริวอยู่ก็บีบลงเบา ๆ พร้อมกับเสียงทอดถอนใจ  ร่างสูงยิ้มออกมาน้อย ๆ   แววตาที่สบประสานกับคัตซึฮิโกะเป็นประกายระยับ  คัตซึฮิโกะเม้มปากแน่น  รู้สึกเหมือนเสียรู้ให้เจ้าวายร้ายนี้อีกครั้ง...แต่สัมผัสที่ข้อมือกลับบอกเขาว่า  นี่ไม่ใช่การโกหกหลอกลวงกันอีกต่อไป...ชายหนุ่มหลบตาอีกฝ่ายพร้อมกับยิ้มบาง ๆ 

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #135 เมื่อ31-05-2013 22:17:57 »

เมื่อเห็นแบบนั้นมือใหญ่จึงค่อย ๆ  ลูบไล้แผ่นอกบางอย่างยั่วเย้า  บดปลายนิ้วขยี้เบา ๆ  ตรงยอดอกสีชมพูซึ่งหดตัวตามแรงกระตุ้นทันที

ร่างบางผวาขึ้นทั้งร่างและพยายามขยับตัวหนีแต่แขนแข็งแกร่งของเซย์ริวรั้งเอวเขาไว้แน่นแล้วค่อย ๆ  เคล้นคลึงช้า ๆ   ในขณะที่ริมฝีปากก็จูบไซร้ไปบนผิวขาวนวล  ร่องรอยแดงช้ำถูกแต้มไว้บนแผ่นอกขาว  รอยฟกช้ำบนร่างกายถูกประทับรอยจูบลงเหมือนคนทำตั้งใจจะเปลี่ยนรอยพวกนั้นให้เป็นรอยที่เกิดจากเขาคนเดียว  คัตซึฮิโกะเกร็งสะท้านไปทั้งร่าง  น้ำตาไหลซึมจนขนตายาวเป็นแพนั้นชื้นไปหมด  เขาหอบราวกับขาดอากาศหายใจแล้วก็สะดุ้งเมื่อมือใหญ่ค่อย ๆ  ปลดกางเกงของเขาออกและเลื่อนต่ำลงไปข้างล่าง ก่อนที่จะแทรกลงไปสัมผัสร่างที่กำลังตื่นตัว  มือที่สั่นเทาเกาะยึดร่างสูงไว้แน่นเมื่อปลายนิ้วเรียวค่อย ๆ  แตะต้องและกดน้ำหนักลงช้า ๆ  แล้วก็ลูบไล้เบา ๆ

คัตซึฮิโกะซบหน้าลงกับไหล่กว้างนั้นและกัดริมฝีปากตัวเองแน่น  แต่อารมณ์ที่คุกรุ่นนั้นเกินจะสกัดกั้นได้  เสียงหวานจึงครางแผ่ว  เอวบางเริ่มขยับไหวไปตามจังหวะการเล้าโลมนั้นช้า ๆ   เซย์ริวยิ้มน้อย ๆ  ให้กับตัวเองและกอดประคองร่างที่ชื้นเหงื่อไว้แนบอก  เขาใช้ปลายลิ้นและริมฝีปากและเล็มไปตามผิวนุ่มนั้นเบา ๆ

“อือ…พะ…พอ…” คัตซึฮิโกะครางกระเส่าออกมา

“ถ้าไม่ห้ามฉันให้จริงจังกว่านี้  ก็ไม่ได้หรอกนะ  คาซึโกะ”

คัตซึฮิโกะเพียงแต่ก้มหน้างุดเมื่อร่างสูงค่อย ๆ  ปัดเกลี่ยเส้นผมที่ปรกระข้างแก้มและจูบซับน้ำตาให้อีกครั้ง  แล้วระริมฝีปากเรื่อยลงไปที่ซอกคอขาว

“จากนี้ไป…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ฉันจะไม่หยุดให้แล้วนะ  คาซึโกะ”  เซย์ริวบอกทั้งที่ยังใช้ริมฝีปากไล้ไปตามลำคอเพรียวบางไม่หยุด

“อื้อ…”  คัตซึฮิโกะตอบรับ  เสียงนั้นยังสั่นและปนมากับเสียงหอบหายใจ

นิ้วเรียวจึงกดขยี้เคล้นคลึงยอดอกสีชมพูที่แข็งเป็นไตนั้นอย่างแรง  ริมฝีปากก็ขบเน้นซอกคอขาวจนคัตซึฮิโกะผวาเฮือก  สองแขนยังโอบรอบคอเซย์ริว  มือของเขาสอดไปตามเส้นผมสีน้ำตาลยาวนั้นและกำรวบไว้แน่น  ร่างสูงใช้ปลายลิ้นหยอกล้อกับแผ่นอกขาวบาง

“อา…เซย์…”  ชายหนุ่มครางกระเส่าเมื่อเซย์ริวดูดดุนป้านสีชมพูสลับกันไปมา

มือหนึ่งก็ไล้แผ่นหลังเนียนไปอย่างกระตุ้นเร้า  ส่วนอีกมือก็ค่อย ๆ  เลื่อนมาปลดกระดุมกางเกงของคัตซึฮิโกะแล้วรูดซิปลงช้า ๆ   ก่อนที่จะลูบไล้หน้าท้องที่มีกล้ามได้รูปไปมา

ร่างเพรียวหอบฮัก  เขากอดและซบหน้าลงกับไหล่กว้างของเซย์ริว  ส่งเสียงครางไม่ขาดปากด้วยความรู้สึกอัดอั้นที่หาทางระบายออกไม่ได้  ร่างสูงไม่ยอมแตะต้องจุดสำคัญที่สุดเลยแม้แต่นิดเดียว  เซย์ริวขบเม้มติ่งหูของคัตซึฮิโกะเบา ๆ  ในขณะที่อีกมือก็ค่อย ๆ  ดึงกางเกงลงและเคล้นคลึงบั้นท้ายกลมอย่างสนุกมือ  แล้วเขาก็พลิกคัตซึฮิโกะลงนอนกับเตียง

จูบอันหนักหน่วงบดขยี้ลงบนริมฝีปากบางอีกครั้ง  และเมื่อถอนริมฝีปากออกเซย์ริวก็พบว่าดวงตาของคัตซึฮิโกะกำลังจับอยู่ที่เขา

“มีอะไรเหรอ?”

ไม่มีคำตอบจากคนที่อยู่ใต้ร่างของเซย์ริว  นอกจากรอยยิ้มบาง ๆ   มือใหญ่ค่อย ๆ  ไล้เรื่อยไปตามอกบางที่เขาทิ้งร่องรอยแดงเอาไว้แล้วเลื่อนต่ำลงไปยังขอบกางเกงที่ปลดค้างเอาไว้  ก่อนที่จะขยับรูดมันออกจากเรียวขาของร่างเพรียว

เซย์ริวค่อย ๆ  ใช้ปลายลิ้นสัมผัสแผ่นอกบางอย่างยั่วเย้า คัตซึฮิโกะบิดกายเบา ๆ  เมื่อลิ้นอุ่นตวัดเลียยอดอกสีชมพู แล้วไออุ่นของริมฝีปากกับปลายลิ้นก็ค่อย ๆ  เคลื่อนตัวต่ำลงไปยังหน้าท้องแบนราบ  ไล้วนรอบสะดือก่อนที่จะเดินทางต่ำลงไปอีก  คราวนี้ชายหนุ่มครางออกมาอย่างสุดกลั้น  สัมผัสอุ่นร้อนเข้าครอบครองร่างอันบอบบางช้า ๆ   มันเป็นสัมผัสที่เสียวสยิวยิ่งกว่าสัมผัสใดที่เคยได้รับ  คัตซึฮิโกะบิดกายอย่างเร่าร้อนพร้อมกับส่งเสียงครางหวาน  ปลายเล็บจิกลงกับผ้าปูที่นอนแน่น  มันเป็นสัมผัสที่ทำเอาอารมณ์กระเจิง  เขาแหงนเงยหน้าไปด้านหลังแอ่นกายขึ้นรับสัมผัสที่เหมือนจะจงใจแกล้งนั้น  น้ำตาไหลพรากด้วยความรู้สึกอึดอัด  ลมหายใจติดขัดราวกับจะขาดใจ  ทั้งร่างร้อนรุ่มราวกับอยู่ท่ามกลางกองไฟ

แล้วเซย์ริวก็ถอนปากออก  เขาถอดเสื้อของตัวเองพร้อมกับกางเกงออก  แล้วยกขาเรียวของคนที่นอนระทดระทวยอยู่ขึ้นมาจูบไล้จากปลายเท้าไปเรื่อย

คัตซึฮิโกะเกร็งสะท้าน  ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองแน่น  เซย์ริวไม่เคยสัมผัสเขาแบบนี้มาก่อน

เซย์ริวมองร่างอันบอบบางที่แข็งขึงตื่นตัวเต็มที่แล้วก็ยิ้ม

“จะทนไม่ไหวแล้วเหรอ  คาซึโกะ?”

เพียงแค่ใช้มือสัมผัสซ้ำ  หยาดน้ำเหนียวก็หลั่งรินออกมา  คัตซึฮิโกะผวาขึ้นสุดตัว  เซย์ริวใช้ปลายนิ้วสะกิดตรงส่วนปลายยอดอย่างยั่วเย้า  แล้วก็ได้ยินเสียงคนสะอื้นฮักด้วยความปรารถนาสมใจอยาก

“มะ…ไม่ไหวแล้ว..เซย์…”

“อยากให้ทำยังไงล่ะ?”  เซย์ริวถามขึ้นก่อนที่จะจูบลงบนต้นขาเนียนในขณะที่มือก็ยังไม่หยุดการทำงาน

“อะ…อา…”  คัตซึฮิโกะหอบฮัก

“เอาแต่ครางอย่างนี้น่ะ  ฉันไม่รู้หรอกนะ”

“เซย์ริว…ได้โปรด...มัน…มันทรมาน…”  คัตซึฮิโกะเอ่ยปากขอร้อง

“แล้วอยากให้ชั้นทำแบบไหนล่ะ?”

“สัมผัสผม…”

เซย์ริวหัวเราะเบา ๆ  แล้วก้มลงไปจูบ  มือที่เกาะกุมร่างของคัตซึฮิโกะอยู่ก็ค่อย ๆ  กดน้ำหนักไล่ลงทีละนิ้วก่อนที่จะกำรูดเป็นจังหวะช้า ๆ   คัตซึฮิโกะผวากายขึ้นจากความเสียวซ่านที่ได้รับ  เขาเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้นชั่วครู่  แล้วริมฝีปากและลิ้นอุ่นชื้นก็เข้าครอบครองร่างของเขาแทนมือใหญ่อีกครั้ง  สัมผัสหยอกเอินนุ่มนวลทำให้ชายหนุ่มแทบคลั่ง

เซย์ริวไล้ลิ้นและริมฝีปากแผ่วเบาราวกับเนื้อนุ่มนั้นเป็นขนมมาชมัลโลว์อันอ่อนหวาน  สองมือยกสะโพกบางขึ้นจากเตียงเพื่อจะได้ลิ้มรสให้เต็มที่  คัตซึฮิโกะใช้มือกดจิกลงกับไหล่ของเขาและขยับสะโพกอย่างเร่าร้อน  ปากก็ส่งเสียงครางผะแผ่วอย่างเต็มกลั้น  แล้วเซย์ริวก็เพิ่มการบีบรัดและเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น  คราวนี้คัตซึฮิโกะงอตัวขึ้นแล้วใช้มือกดหัวของเขาแน่นลงกับกลางลำตัว  ร่างบางบิดเบนไปมาอย่างทุรนทุราย  แล้วในที่สุดคลื่นแห่งความต้องการก็ทะลักทะลายออกมา  เซย์ริวดื่มกินทุกหยาดหยดที่หลั่งออกมาจากร่างนั้น

คัตซึฮิโกะนอนหายใจรวยรินอย่างอ่อนล้า  แต่มืออุ่นร้อนก็เข้าครอบครองร่างของเขาอีกครั้ง  ชายหนุ่มกระถดตัวถอย

“เซย์ริว...เดี๋ยว…”

“ไม่เป็นไรหรอก คาซึโกะ...ฉันไม่เร่งแกหรอก”  แล้วร่างสูงก็ขยับกายขึ้นมาทาบทับริมฝีปากลง  ปลายลิ้นฉกวูบเข้าไปอย่างรวดเร็วกว่าที่คัตซึฮิโกะจะป้องกันตัวเองได้

ครั้งแรก  ชายหนุ่มขัดขืนเล็กน้อย  แต่แล้วก็หลงใหลไปกับรสสัมผัสของปลายลิ้นอุ่น   เขาเผลอเคลิบเคลิ้มไปจนอารมณ์เริ่มคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง  ร่างในอุ้งมืออุ่นร้อนนั้นตื่นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว  เซย์ริวถอนริมฝีปากออก  แล้วกระซิบถาม

“ลุกขึ้นไหวมั้ย?”

โดยไม่รอฟังคำตอบ  ร่างสูงก็ค่อย ๆ  ประคองร่างเพรียวขึ้นช้า ๆ  ให้นั่งคุกเข่าอีกครั้ง  มือใหญ่ค่อยเคล้นคลึงบั้นท้ายนุ่มเบา ๆ   คัตซึฮิโกะผวาเกาะเซย์ริวแน่น  ทั้งร่างเกร็งสะท้าน...ไม่ว่าทำอย่างไร  ความกลัวนี้ก็ไม่หายไปเสียที

“ไม่ต้องกอดแน่นขนาดนั้นก็ได้”

เซย์ริวสอดนิ้วเข้าไปในปากของคัตซึฮิโกะ  ชายหนุ่มดูดกลืนนิ้วนั้นด้วยความรู้สึกประหลาด  แล้วร่างสูงก็ถอนนิ้วออกและใช้นิ้วที่เปียกชุ่มนั้นสอดแทรกเข้าไปในร่างบางช้า ๆ   คัตซึฮิโกะสะดุ้งสุดตัว

“อา…เซย์ริว…”

อาชญากรหนุ่มเลื่อนนิ้วเข้าไปจนสุดทางแล้วขยับนิ้วนั้นเข้าออกเป็นจังหวะ  อีกมือหนึ่งก็กำรูดร่างบอบบางของคัตซึฮิโกะเอาไว้
ความรู้สึกเสียวปลาบที่แล่นขึ้นมาจากส่วนกลางลำตัวค่อยแปรเปลี่ยนเป็นความสุขสม  คัตซึฮิโกะกอดเซย์ริวไว้แน่นแล้วหอบหายใจถี่  นิ้วของร่างสูงทำให้เขารู้สึกปั่นป่วน  แล้วเอวบางก็เริ่มขยับไหวไปตามจังหวะการเล้าโลมนั้นช้า ๆ

“เอวสั่นแล้วนะ…ต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“มะ…ไม่รู้…”  คัตซึฮิโกะครางออกมา

“งั้น…เตรียมให้พร้อมอีกนิดดีกว่า  ท่าทางแกยังกลัวฉันมากอยู่เลยนะ”

ยังไม่ทันที่คัตซึฮิโกะจะเข้าใจกับคำพูดนั้นก็ต้องผวาขึ้นทั้งร่าง  เมื่ออยู่ ๆ  อีกนิ้วหนึ่งก็แทรกเข้ามาในร่าง

“เจ็บ…”  คัตซึฮิโกะอุทธรณ์ออกมา

“อย่างเกร็งสิ  คาซึโกะ  แกก็รู้วิธีดีนี่นา”  เซย์ริวพยายามบอก  ร่างเพรียวจึงได้ผ่อนอาการเกร็งลง

เมื่อนิ้วทั้งสองล่วงล้ำผ่านเข้าไปได้  ร่างสูงก็กวาดนิ้วควานจนทั่วแล้วก็ถอนปลายนิ้วออกจนเกือบจะหลุดออกมาก่อนที่จะสอดกลับเข้าไปใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก  แล้วค่อย ๆ  เปลี่ยนจังหวะจากช้าให้เร็วขึ้นทีละน้อย

เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นเคยกับนิ้วนั้น  ความเจ็บปวดก็ค่อย ๆ  จางหายไปและเอวบางก็เริ่มขยับตามจังหวะของนิ้วนั้นอีกครั้ง  การสอดใส่ก่อให้เกิดอารมณ์ล้ำลึกขึ้นภายในกายของคัตซึฮิโกะ  เขารู้สึกเป็นสุขจนไม่อยากให้มันจากไปไหน  เสียงหอบหายใจยังคงปนแทรกมากับเสียงครางแผ่วที่พยายามจะสะกดกลั้นเอาไว้  แต่ความรู้สึกที่เอ่อล้นขึ้นมาทำให้เกินจะเก็บกดเอาไว้ได้  เสียงคร่ำครวญจึงดังขึ้นเรื่อย ๆ

เซย์ริวจูบลงบนริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงแล้วทิ้งน้ำหนักทาบทับร่างบางลงกับเตียง  เบียดร่างกายเข้าหาอย่างเร่าร้อนพร้อม ๆ  กับที่ใช้มือลูบไล้ไปทั่วร่าง  คัตซึฮิโกะตกใจกับการจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว  เขาขัดขืนนิดหนึ่งก่อนที่จะถูกสัมผัสของร่างสูงดึงอารมณ์ให้โอนอ่อนตามไปอย่างรวดเร็ว  รู้สึกตัวอีกทีสองขาก็ถูกแยกออกกว้าง  ปลายนิ้วของร่างสูงสะกิดกระตุ้นจุดกระสัน

คัตซึฮิโกะผวากายขึ้นสุดตัว  แต่เสียงร้องถูกปิดเอาไว้ด้วยริมฝีปากอุ่น  ไม่นานนักเมื่อร่างกายเกิดความเคยชิน ความรู้สึกเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยความสุขสม  มืออุ่นลูบไล้ไปตามมัดกล้ามได้รูปบนแผ่นหลังของเซย์ริวอย่างหลงใหล  เอวบางขยับไหวด้วยสัญชาตญาณไปตามจังหวะของปลายนิ้ว  ก่อนที่อารมณ์ของคัตซึฮิโกะจะขมึงเกลียวขึ้นถึงขีดสุด  เซย์ริวก็ถอนนิ้วออก  เขายกขาของร่างบางขึ้นแล้วจูบลงเบา ๆ  ทำเอาคนถูกกระทำสะท้านไปทั้งร่าง  ริมฝีปากและลมหายใจอุ่นร้อนลูบไล้สัมผัสไปตามเรียวขา  หลอกล่อให้เคลิบเคลิ้ม  ทุกแห่งที่มันสัมผัสลงไป  ร่างบางรู้สึกราวกับว่าโดนนาบด้วยเหล็กเผาไฟ  ทั้งรู้สึกอึดอัดทรมานและสุขสมอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก  แต่แล้วความรู้สึกหอมหวานชวนหลงใหลก็ขาดสะบั้นลงเมื่อส่วนที่แข็งแกร่งของร่างสูงจรดจ่อลงกับเส้นทางเร้นลับและพยายามจะแทรกกายเข้าไป

“อะ…อ๊า!!!  ไม่!  ไม่เอา!!”  คัตซึฮิโกะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับพยายามผลักร่างสูงออกห่างตัว…ภาพในวันนั้นกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง

“คาซึโกะ…อย่าเกร็ง…ผ่อนแรงหน่อย…”  เซย์ริวกระซิบบอกและพยายามรั้งตัวเองไว้

“ผมเจ็บ…ไม่เอาแล้ว…”  ร่างเล็กสะอื้นฮักและกระถดตัวหนี  แต่พอขยับตัว  ความเจ็บปวดที่ได้รับก็เพิ่มมากขึ้น

“อย่าเกร็ง…มันจะไม่เหมือนวันนั้น  เข้าใจมั้ย…”  เซย์ริวลูบผมนิ่มเบา ๆ  เหมือนจะปลอบโยน

“เซย์ริว…ผมกลัว…”  ร่างเล็กบอกด้วยเสียงสั่นพร่า...หากผ่านค่ำคืนนี้ไปแล้ว  ทุกอย่างจะเหมือนเดิมไหม  เขาจะต้องกลับไปเป็นของเล่นของเซย์ริวอีกเหรือเปล่า...

“ไม่ต้องกลัว  แกเป็นของฉันเท่านั้น  คาซึโกะ…”

แขนเรียวยกขึ้นกอดร่างสูงไว้แน่นอย่างว่าง่ายแล้วซบหน้าลงกับไหล่กว้าง  เซย์ริวกอดคัตซึฮิโกะตอบ  เมื่อรู้สึกว่าอาการเกร็งของร่างในอ้อมแขนบรรเทาลง เขาก็ค่อย ๆ  เคลื่อนตัวแทรกกายเข้าไปช้า ๆ

คัตซึฮิโกะกรีดร้องออกมาเบา ๆ  ด้วยความเจ็บปวดที่ยากจะทนทาน  ปลายเล็บจิกแน่นลงกับแผ่นหลัง  เขาห่างเหินกับสัมผัสนี้มานานพอดู  แต่แม้จะร้องคร่ำครวญ…ก็ไม่ได้มีเสียงร้องห้ามแม้แต่นิดเดียว…

เมื่อร่างสูงแทรกกายเข้าไปจนสุดทาง  เขาก็อดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้จนกระทั่งคัตซึฮิโกะคลายอาการเกร็งจึงขยับสะโพกให้เคลื่อนไหวช้า ๆ   ครั้งแรกคัตซึฮิโกะร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง  แต่พอการเคลื่อนไหวผ่านไปสักครู่หนึ่ง  เสียงร้องก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงครางอย่างเป็นสุข  ร่างเพรียวสั่นไหวไปตามแรงกระแทกตัวของร่างสูงที่ครอบครองเขาอยู่  การเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นและถี่เร็วขึ้น  เสียงครางเริ่มขาดห้วง  เมื่อความอึดอัดจนแทบจะขาดใจท่วมท้นขึ้นมาตามแรงกระแทกที่ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ   คัตซึฮิโกะเกาะกอดเซย์ริวเอาไว้แน่น  หอบถี่แรงราวกับหายใจไม่ทัน  เขารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่แผ่ซ่านไปตามกระแสเลือดราวกับคลื่นไฟฟ้าที่เคลื่อนตัวไปตามสายไฟที่ขึงแน่นเกินไป  โลกทั้งโลกหมุนคว้าง  ชายหนุ่มเกร็งร่าง  โอบเรียวขารัดรอบเอวของร่างสูงแน่นก่อนที่จะกรีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อความสุขสมทะลักเข้ามาอย่างเร่าร้อนและรุนแรง

“อะ...อ๊า!!  เซย์ริว!!!!”

แล้วโลกทั้งโลกก็ดับสนิท…คัตซึฮิโกะรู้สึกได้แค่เสียงหอบหายใจของใครบางคนที่ดังอยู่ข้างหู  แล้วก็รู้สึกว่าตัวเบาหวิวเหมือนกับขนนกเมื่อร่างอันอบอุ่นค่อยถอนกายออกไป  แขนแข็งแกร่งโอบกอดรั้งร่างบางไปแนบไว้กับอก ความรู้สึกสุดท้ายที่รู้สึกได้นอกจากความเปียกชื้นที่ต้นขาของตัวเองแล้ว  คัตซึฮิโกะรู้สึกสบายใจและอิ่มเอมที่สุดในชีวิตราวกับสิ่งที่เฝ้าตามหามาตลอดได้มาอยู่ในมือของเขาแล้ว...ชายหนุ่มผล็อยหลับไปอย่างเป็นสุข



(โปรดติดตามตอนต่อไปครับ)

ปล. พูดกันตามตรง...คนข้างห้องต้องได้ยินพวกมันทำอะไรกันทุกครั้งแหงๆอ้ะ...

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #136 เมื่อ31-05-2013 23:48:26 »

เกือบไปแล้วไง! เฮ้อวว์
ดูคัตสึจังจะเปิดใจมากขึ้นแล้วน่ะนะ :)

:pig4:

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #137 เมื่อ01-06-2013 01:57:14 »

ชอบตอนนี้!!!
น่ารักเป็นที่สุด!!!!

ปล.มาอวยฮิโรกิ >< ชอบอ่า คนโปรดเลยคนนี้ !!

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #138 เมื่อ01-06-2013 02:25:44 »

ชอบบบบบมาก

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #139 เมื่อ01-06-2013 11:50:39 »

ดีกันแล้ว   :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
« ตอบ #139 เมื่อ: 01-06-2013 11:50:39 »





ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #140 เมื่อ01-06-2013 18:33:28 »

พูดตามตรง ว่าอยากเป็นคนข้างห้อง :m25:

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #141 เมื่อ01-06-2013 23:49:41 »

เฮ้อออออออออออ หลังจากวันนี้ ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จะดีขึ้นมากๆแล้วล่ะนะ

แต่เรื่องเสี่ยคนนั้นจะมีอะไรตามมาอีกมั้ยเนี่ย อยากให้สองคนนั้นได้อยู่กันสงบๆกะเค้าบ้าง

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #142 เมื่อ02-06-2013 06:01:25 »

เข้าใจกันรือยังนะ
อย่าเล่นกบความรู้สึกของคาซึโกะอีกเลยยย

ออฟไลน์ railay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 983
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #143 เมื่อ02-06-2013 10:15:50 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป
Re: KOUSOKU # 16 : 31/5/56
«ตอบ #144 เมื่อ05-06-2013 08:15:12 »




   เข้าใจกันแล้ว ><"
   เพราะคุณป้ากันพวกต้นไม้ใช่ไหมนะ




ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: KOUSOKU # 17: 7/6/56
«ตอบ #145 เมื่อ07-06-2013 21:32:05 »

สวัสดีวันศุกร์ครับ (ไม่มีมุขใหม่ๆมาทักเลยสิน่า)

KOUSOKU 17

ร่วมห้าเดือนแล้วที่นัตสึไม่ได้พบกับคัตซึฮิโกะเลย  ฤดูใบไม้ผลิผ่านพ้นไปและล่วงเข้าสู่ฤดูร้อนนานแล้ว  ท่ามกลางบรรยากาศสดใสของฤดูกาล  จิตใจของนัตสึกลับห่อเหี่ยวมืดมน  เขาเงียบขรึมและมึนซึมจนคนรอบข้างและแฟนสาวเป็นห่วง  เขาก็ไม่อยากให้ใครเป็นห่วง  แต่เขาไม่สามารถบอกเหตุผลที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้กับใครได้...ด้วยมันเกี่ยวข้องกับพี่ชายที่รักของเขาโดยตรง


วันนั้นที่เขาผลุนผลันเปิดประตูห้องคัตซึฮิโกะเข้าไปเพราะเสียงคนในห้องกรีดร้อง  ภาพตรงหน้ากระตุกอารมณ์ของเขาอย่างแรง...มันคนนั้น...คนที่เขาเกลียดขี้หน้าที่สุดกำลังครอบครองพี่ชายของเขา  และไม่ใช่แค่เพียงครอบครอง  หากมันกำลังขืนใจคัตซึฮิโกะ!

ในตอนนั้นนัตสึอยากฉีกร่างสูงออกเป็นชิ้น ๆ  ด้วยความโกรธแค้นชิงชังจนถึงขีดสุด  มันเป็นใคร...ถึงได้กล้ามาย่ำยีสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเขา  แต่คำพูดที่ตามมาทำให้ตกตะลึงยิ่งกว่าเก่า

‘…ถ้าจะเรียกว่ากล้าดี ฉันกล้าดีกับพี่แกมาเป็นปีแล้ว...พี่แกมันใจง่าย...ปากก็ร้องไปสิ แต่สะโพกงี้ ส่ายไม่หยุด…’

ทุกถ้อยคำของมันยังดังก้องอยู่ในใจจนถึงตอนนี้  และหัวใจก็ยิ่งรวดร้าวกว่าเดิม  เมื่อพยายามคาดคั้นเอาความจริงจากคัตซึฮิโกะและได้คำตอบเป็นการนิ่งเฉยไม่ยอมสบตา...อันเป็นการยอมรับว่า  สิ่งที่มันพูดมาเป็นความจริง!

วันนั้นเขาวิ่งออกมาจากห้องของคัตซึฮิโกะด้วยความรู้สึกสับสนอย่างรุนแรง...เขาไม่อยากเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง  แต่ด้วยคำตอบของคัตซึฮิโกะ...มันยืนยันทุกอย่าง

...ยอมให้กอดมาเป็นปี...นั่นแสดงว่าตั้งแต่ตอนที่เขาพบกับมันในวันที่ชวนคัตซึฮิโกะไปฮาราจุกุ  คัตซึฮิโกะก็ตกเป็นของมันแล้ว!  ทำไมเขาถึงไม่ระแคะระคายอะไรเลย...พี่ชายไม่เคยบอกอะไรเขาเลย

นัตสึปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้  เขาไม่มีหน้าไปพบคัตซึฮิโกะ  วันนั้นเขาทิ้งพี่ชายไว้คนเดียวตามลำพังทั้งที่ควรจะอยู่ด้วย  แต่ตอนนั้นเขาโกรธไปหมดทุกอย่าง...โกรธมันที่ล่วงเกินพี่ชายของเขา...โกรธคัตซึฮิโกะที่ทำเหมือนเขาเป็นเด็ก  ไม่เคยบอกอะไรเขาเลย...และโกรธตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อคนสำคัญที่สุดในชีวิตได้เลย

เขาเคยแวะไปหาคัตซึฮิโกะที่ทำงาน  แต่ปรากฏว่าคัตซึฮิโกะได้ลาออกจากที่นั่นแล้ว  ดังนั้นที่เดียวที่จะพบคัตซึฮิโกะได้คือที่แมนชั่น  แต่นัตสึก็กลัวจะเจอมันคนนั้นเข้า...หากอีกใจก็กลัว  ว่าถ้าไปที่แมนชั่นแล้วคัตซึฮิโกะไม่อยู่ที่นั่น...ถ้าพี่ชายของเขาหายไป...เขาจะทำอย่างไร


นัตสึรวบรวมความกล้าไปพบคัตซึฮิโกะในเย็นวันหนึ่ง  เขาดักรอคัตซึฮิโกะอยู่หน้าทางเข้าแมนชั่น  แล้วคนที่เขารอก็มา  ร่างเพรียวสะพายเป้คู่ใจใบเก่า  มือหนึ่งถือถุงใส่ของที่ซื้อมาจากตลาด  นัตสึเผลอยิ้มกว้าง...คัตซึฮิโกะยังสบายดี

“พี่...”

ร่างเพรียวชะงักเท้า

“...นัตสึ”

ชายหนุ่มนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มบาง ๆ  ให้...รอยยิ้มนั้นยังอบอุ่นใจดีเหมือนเดิม  แต่อาการนิ่งก่อนจะยิ้มนั้นทำให้นัตสึรู้สึกแปลบขึ้นมาในใจ...อะไรบางอย่างในตัวคัตซึฮิโกะเปลี่ยนไป

“ผอมลงนะ  แฟนขอให้ไดเอ็ตเหรอ?”  คัตซึฮิโกะถามแกมหยอก

“เปล่า...ฉันแค่...”  นัตสึอ้ำอึ้ง  เขานึกไม่ออกว่าควรจะพูดคุยอะไรกับคัตซึฮิโกะดี...เมื่อก่อนนี้  เขาคุยอะไรกับคัตซึฮิโกะบ้างนะ
“เข้าบ้านก่อนสิ...กินอะไรมาหรือยัง?”  คัตซึฮิโกะชักชวน

นัตสึไม่ได้ตอบ  แต่เดินตามหลังคัตซึฮิโกะต้อย ๆ  ไปจนถึงหน้าห้องถึงได้ชะงัก

“พี่...แล้ว...หมอนั่น...”

คัตซึฮิโกะมองอาการไม่อยากเข้าห้องของน้องชายอย่างงง ๆ  นิดหนึ่งก่อนจะนึกได้

“เซย์ริวไม่อยู่หรอก”  ชายหนุ่มบอกพลางไขกุญแจเข้าห้อง

ห้องของคัตซึฮิโกะยังเหมือนเดิมอย่างที่นัตสึเคยเห็นทุกครั้ง  มีเพียงบรรยากาศบางอย่างที่ผิดแปลกไป  จนนัตสึรู้สึกราวกับว่าที่นี่ไม่มีที่สำหรับเขาอีกแล้ว...ของใช้ในชีวิตประจำวันบางอย่างเพิ่มขึ้นเป็นสองชิ้น  แสดงให้เห็นว่าในห้องนี้มีใครอีกคนอยู่นอกเหนือจากคัตซึฮิโกะ...ทั้งแก้วน้ำ  จานชาม  แปรงสีฟัน  ผ้าเช็ดตัว...ทุกชิ้นดูก็รู้ว่าเป็นรสนิยมของคัตซึฮิโกะ...พี่ชายของเขาเลือกของให้มัน!

แต่สิ่งที่ทำให้อึดอัดใจที่สุดคือ  เสื้อโค้ทสีดำเก่า ๆ  ที่แขวนอยู่ใกล้ ๆ  ประตู

นัตสึนึกอยากเอาไอ้เสื้อตัวนั้นไปเผาแทนตัวเจ้าของเสียให้หายแค้น  เด็กหนุ่มขยุ้มผ้าเนื้อหนานั้นอย่างลืมตัว

“อย่าไปยุ่งกับเสื้อนั่นเลย  หมอนั่นมีโค้ทแค่ตัวเดียว  เดี๋ยวหน้าหนาวนี้จะไม่มีใส่”  เสียงคัตซึฮิโกะบอกมาจากในครัว  ทำเอานัตสึสะดุ้ง

“ฮึ!  ไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย”  เด็กหนุ่มเดินปึงปังไปนั่งที่โต๊ะหนังสือ

คัตซึฮิโกะหัวเราะเบา ๆ  แล้วชะโงกหน้ามาถาม  “อยากกินอะไร  จะทำข้าวเย็นเลี้ยง”

“ไม่หละ  เดี๋ยวไอ้หมอนั่นมา  ไม่อยากเจอมัน”

“อาจจะไม่กลับก็ได้  บางทีก็ชอบหายไปหลาย ๆ  วัน”  คัตซึฮิโกะบอกเรียบ ๆ  แล้วเข้าไปทำอะไรก๊อกแก๊กอยู่ในครัว

แต่นัตสึสะท้อนใจกับคำพูดของพี่ชาย...คัตซึฮิโกะใช้คำว่า  “กลับมา”  สำหรับมัน  นั่นแปลว่าคัตซึฮิโกะยอมรับว่าที่นี่คือบ้านที่มีไว้รอมันกลับมา  ไมใช่แค่ที่ที่มันจะไปมาหาสู่อีกแล้ว...บ้านของพี่ชายเขากลายเป็นบ้านของมันไปแล้วอย่างนั้นหรือ

‘…ทำยังไงถึงจะกำจัดมันได้นะ…’

นัตสึเฝ้าครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มาตลอด  แต่มองไม่เห็นทางเป็นไปได้เลยที่จะทำให้มันเลิกยุ่งกับพี่ชายของเขาทั้ง ๆ  ยังมีชีวิต...ทางเดียวที่จะทำได้คือ  ฆ่ามันซะ!  แต่ใครจะเป็นคนทำ...แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เขา  ระดับมันต่างกันเกินไป...

“คิดอะไรอยู่?”

พร้อมกับคำถาม  ข้าวห่อไข่หน้าตาน่ากินก็ยื่นมาตรงหน้า  พอคนที่กำลังคิดอะไรฟุ้งซ่านอยู่เงยหน้าขึ้นมอง  ก็พบผู้เป็นพี่ชายยืนยิ้มอยู่  นัตสึรับจานข้าวมาอย่างเก้อ ๆ  เขิน ๆ  พร้อมกับงึมงำคำขอบคุณเบา ๆ

คัตซึฮิโกะหยิบหนังสือแล้วไปนั่งลงบนเตียง  เขาเปิดหนังสืออ่านไปเรื่อย ๆ ...นัตสึคงมีเรื่องอยากพูดกับเขามากมาย  แต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร...คัตซึฮิโกะไม่เร่งรัดน้องชาย  เขามีเวลารอเหลือเฟือ  และเขาก็กำลังรอให้นัตสึเริ่มก่อน  เพราะทางเขาไม่มีอะไรจะต้องอธิบายนอกจากรอจะตอบคำถามของนัตสึ

“คัตจัง...”  นัตสึทำลายความเงียบขึ้นในที่สุด  “พี่เปลี่ยนงานแล้วเหรอ?”

“ใช่”  คัตซึฮิโกะตอบทั้งยังอ่านหนังสืออยู่

“ทำไมพี่ไม่บอกฉันบ้าง  นี่ฉันไปหาพี่ที่ทำงานนะถึงได้รู้ว่าพี่ลาออกแล้ว”  นัตสึตัดพ้อ

“ก็มันกะทันหันแล้วก็ยุ่ง ๆ  ด้วย  เลยไม่ได้บอก”

“แค่โทรบอกเอง”

“ก็...”  ชายหนุ่มปิดหนังสือ  “พี่คิดว่านายคงยังไม่อยากจะพูดกับพี่  เลยรอให้นายพร้อม”

นัตสึเขี่ยข้าวในจานเล่น...จริงของคัตซึฮิโกะ  เขาเองที่เป็นฝ่ายหลบหน้า

“แล้ว...งานใหม่คืออะไรเหรอ?”  เด็กหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุย

“ขายต้นไม้ดอกไม้น่ะ”

“หา!?”  นัตสึงงไปชั่วขณะ  พี่ชายของเขาทำงานกราฟิคดีไซน์มาตลอดนี่นา  แล้วจู่ ๆ  ก็เปลี่ยนมาขายดอกไม้...นี่มันไม่ช็อกวงการไปหน่อยหรือ

คัตซึฮิโกะเพียงแต่ยิ้ม ๆ  กับท่าทางเหวอสนิทของคนเป็นน้อง  เขาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าปฏิกิริยาของนัตสึจะออกมาแบบนี้

“...แล้วทำไมถึงลาออกซะล่ะพี่  เงินเดือนเขาก็พอใช้ได้ไม่ใช่เหรอ  แล้วขายต้นไม้น่ะเงินพอใช้เหรอ?”  นัตสึถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลเหลือเกิน

“เงินมันก็ได้ไม่มากหรอก  แต่สบายใจดี  ฉันเองก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองอะไรขนาดนั้นหรอก”

“แล้ว...คัตจัง...”  นัตสึเริ่มต้นคำถามใหม่อย่างไม่มั่นใจเอาเสียเลย  แต่นั่นก็เป็นคำถามที่คัตซึฮิโกะกำลังรอฟังอย่างตั้งใจ  “พี่...โกรธฉันรึเปล่าที่ทำท่าไม่ดีแบบนั้นไปน่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ  ตามนิสัย

“ฉันไม่เคยโกรธนายหรอกนะ  นัตสึ”

“จริงเหรอ!?”  เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มกว้างทันที

“จริงสิ  ก็นั่นมันเรื่องของนายที่นายจะคิดจะรู้สึก  ไม่ใช่เรื่องของฉันนี่นา”

นัตสึรู้สึกหน้าชาไปราวกับโดนตบอย่างแรง...แม้จะมีรอยยิ้มละไม  แต่ทั้งสีหน้าทั้งถ้อยคำของคัตซึฮิโกะช่างเย็นชาจนน่าหวาดหวั่น...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของเขากันแน่...เด็กหนุ่มกำช้อนกินข้าวในมือแน่น  รู้สึกจุกขึ้นมาจนถึงคอหอย...นี่ไม่ใช่คัตซึฮิโกะที่เขาเคยรู้จัก

‘…หรือว่า...เป็นเพราะมัน…!?...’

นัตสึกัดริมฝีปากแน่น  เขาไม่แน่ใจว่าควรจะถามต่อดีหรือไม่  แต่ความสงสัยใคร่รู้มันอัดแน่นจนเต็มอกมาตลอดหลายเดือนนี้

“พี่...ยังคบกับมันอยู่หรือเปล่า?”

แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อ  แต่คัตซึฮิโกะก็รู้ว่านัตสึหมายถึงใคร...มันคนนั้นของนัตสึมีอยู่คนเดียว

“พวกฉันไม่ได้คบกัน...ไม่เคยคบกันเลยด้วย”

“แล้วทำไม...ไอ้เรื่องแบบนั้น  มันข่มขืนพี่  แล้วทำไมพี่ไม่เอาเรื่อง?”  นัตสึถามเสียงดังด้วยอารมณ์ที่สับสนพลุ่งพล่าน

“นัตสึ...นี่มันเรื่องของฉัน”

เด็กหนุ่มนิ่งอั้นไปอีกหน  เขาไม่เข้าใจพี่ชายของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว  มันคนนั้นทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นแต่ทำไมคัตซึฮิโกะถึงทำท่าเหมือนกับไม่ใช่เรื่องสำคัญ  แล้วที่ว่าไม่ได้คบกัน  ทำไมถึงมีข้าวของของมันอยู่ในห้อง...ทำไมมันถึงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคัตซึฮิโกะไปได้

“คัตจัง...”  นัตสึเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง  “ไปอยู่ที่บ้านเถอะ  ฉันขอร้อง”

ชายหนุ่มมองหน้าผู้เป็นน้องชายนิ่ง ๆ  โดยไม่พูดอะไร  ยิ่งเห็นสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ  ของคัตซึฮิโกะ  นัตสึก็แทบห้ามตัวเองไม่ให้เสียงดังไม่ได้

“หรือไม่ก็ไปที่ไหนก็ได้...ไปให้พ้นจากมัน  ทำไมพี่ถึงต้องอยู่กับมันด้วย  ฉันไม่เข้าใจเลย  ไอ้คนพรรค์นั้น...มันไม่มีอะไรดี  แล้วทำไมพี่ต้องยอมมัน...ทำไม...!?”

“ฉันแค่ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปจากเซย์ริว  ก็เท่านั้นเอง”  คัตซึฮิโกะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

นัตสึถลันขึ้นยืนโดยไม่สนใจจานข้าวที่หล่นลงพื้น

“ฉันไม่เข้าใจ!!  เพราะอะไร...ทำไมพี่ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้!?”

“ฉัน...กลายเป็นแบบไหนงั้นเหรอ  นัตสึ?”

“ก็...ก็แบบที่พี่เป็นอยู่นี่น่ะสิ  เมื่อก่อนพี่ไม่ใช่คนแบบนี้!  มันทำอะไรกับพี่  มันข่มขู่อะไรพี่รึไง  ทำไมพี่ถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?”  นัตสึตะเบ็งเสียงอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่

“นัตสึ...ใจเย็น ๆ  ก่อน”  คัตซึฮิโกะปรามด้วยเสียงค่อย ๆ  เหมือนกับที่เคยทำทุกครั้งที่นัตสึอาละวาด  นั่นทำให้เด็กหนุ่มค่อยสงบลงได้บ้าง

“ฉันจะเคยเป็นยังไงฉันไม่รู้หรอกนะ  ฉันอาจจะใจดีกับนาย  ใจดีกับใครต่อใคร  แต่มันก็แค่ความใจดีไม่ใช่เหรอ  ฉันก็มีชีวิตของฉันในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับใคร  ชีวิตส่วนตัวที่อาจจะไม่มีใครรู้จัก  นายจะมารู้ทั้งหมดได้ยังไง?”

“แต่...ฉันเป็นน้องพี่นะ  ฉันอยู่กับพี่มาตลอด”

“นั่นมันผ่านมากี่ปีแล้ว  นัตสึ?”  คัตซึฮิโกะยิ้มให้อย่างอ่อนโยน  “ถึงตอนนี้นายจะสามารถพูดได้เต็มปากอีกหรือว่ารู้จักทั้งหมดที่เป็นฉัน  เท่า ๆ  กับที่ฉันก็พูดไม่ได้ว่ารู้จักทั้งหมดของนาย  ตั้งแต่ตอนที่นายมีบ้าน  มีครอบครัวของตัวเอง  ฉันก็มั่นใจว่าจะสามารถปล่อยมือจากนายได้  เพราะนายมีที่ที่นายจะอยู่ได้อย่างมีความสุขแล้ว”

ความรวดร้าวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม

“พี่คิดแบบนี้เหรอ?”

“ฉันแค่คิดว่านายพบที่ของนายแล้วเท่านั้นเอง  นายมีความสุขได้โดยไม่ต้องมีฉันแล้ว”  มืออุ่นเอื้อมไปลูบผมสีทองนุ่มมืออย่างนุ่มนวลเหมือนที่เคยทำทุกครั้งเพื่อปลอบโยน

“แต่...พี่คือความสุขหนึ่งของฉันนะ”

“พี่รู้  นัตสึ”

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: KOUSOKU # 17: 7/6/56
«ตอบ #146 เมื่อ07-06-2013 21:34:21 »

เด็กหนุ่มทรุดลงนั่งบนเตียงแล้วกอดผู้เป็นพี่ชายเอาไว้แน่น...อ้อมกอดนั้นยังเหมือนเดิม  พี่ชายยังคงอบอุ่นและอ่อนโยนเสมอ...แต่หลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น  นัตสึสัมผัสได้  และเขาไม่ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น...พระเจ้า...หรือใครก็ได้  ช่วยเขาด้วย...เขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้พี่ชายคนเดิมของเขากลับคืนมา!

นัตสึซบนิ่งอยู่กับอกของคัตซึฮิโกะอย่างนั้นครู่ใหญ่  เขาอยากซึมซับความอบอุ่นอ่อนโยนของพี่ชายให้เต็มที่เพื่อย้ำให้ตัวเองมั่นใจว่าคัตซึฮิโกะไม่ได้เปลี่ยนไป  แต่กระแสอะไรบางอย่างที่ถ่ายทอดผ่านอ้อมกอดนั้น  ทำให้นัตสึสะท้อนใจลึก ๆ ...อะไรบางอย่างไม่มีวันเหมือนเดิม

เด็กหนุ่มผละออกจากคัตซึฮิโกะช้า ๆ  แล้วก้มไปเก็บจานข้าวที่หล่นอยู่บนพื้นห้อง

“เดี๋ยวฉันกลับก่อนดีกว่า...”

“อิ่มแล้วชิ่งอีกแล้วเหรอ?”  คัตซึฮิโกะถามยิ้ม ๆ  ก่อนจะรับจานข้าวเปล่า ๆ  มาไว้ในมือ  “ไว้วันหลังต้องให้นายทำให้กินบ้างแล้วมั้ง”

“ทำก็ได้  แต่ต้องเป็นที่บ้านฉันนะ”  นัตสึตอบกลับเหมือนจะล้อเล่น  แต่แววตาเอาจริง...ถ้าคัตซึฮิโกะไปที่บ้าน  บางทีพ่อกับแม่ของเขาอาจเกลี้ยกล่อมคัตซึฮิโกะให้เขาได้  เพราะพ่อกับแม่ก็คิดอยากให้คัตซึฮิโกะมาอยู่ด้วยกันนานแล้ว

“พ่อกับแม่ก็อยากเจอพี่ด้วย”

“ถ้าว่างจะไปนะ”

“พี่ก็ทำตัวให้ว่างซี่  พรุ่งนี้เลยก็ดี”

“พรุ่งนี้ทำงาน...แต่ถ้าเลิกได้เร็วจะแวะไปหาแล้วกัน”  คัตซึฮิโกะแบ่งรับแบ่งสู้  “เออ...แต่ถ้าได้ไปจริง ๆ   ก็ขอเมนูเป็นปลาไหลย่างซีอิ๊วหรือไม่ก็ซูชิมาคุโระนะ  กับสลัดมันฝรั่งควบซุปมิโสะ  แล้วก็...”

นัตสึยกมือห้ามก่อนที่พี่ชายจะขออะไรมากไปกว่านี้

“พอเถอะพี่  ไม่งั้นเดี๋ยวมันได้ลามไปถึงพวกอาหารฝรั่งเศสฟูลคอร์สแน่ ๆ  เลย”

“ไม่ถึงขนาดนั้นซะหน่อย  นายก็รู้ว่าพี่ชอบอาหารญี่ปุ่น”

นัตสึส่ายหน้า

“อาหารญี่ปุ่นชั้นสูงน่ะสิ  เอาเถอะ  ถ้าไปก็โทรไปหาฉันก่อน  จะได้ทำไว้รอ”

“ต้องทำเองนะ  ห้ามให้คุณแม่ทำให้ด้วย”  คัตซึฮิโกะย้ำในขณะที่นัตสึหยิบกระเป๋าเตรียมตัวกลับ

“ขอให้ไปเถอะ  อยากกินอะไรจะทำให้กินทุกอย่างเลย”  นัตสึบอกพลางเดินไปที่ประตูโดยมีคัตซึฮิโกะตามไปส่ง

“งั้นฉันกลับก่อนนะพี่”

“อื้ม  กลับระวัง ๆ  นะ”

นัตสึก้าวออกจากห้องแล้วก็ต้องชะงักเท้า  ร่างสูง ๆ  ที่เขาชิงชังหนักหนากำลังเดินมาตามระเบียง  เด็กหนุ่มกำมือแน่น...ทำไมมันถึงมาที่นี่ตอนนี้

เซย์ริวชะงักไปนิดหนึ่งเช่นกันเมื่อเห็นว่ามีคนออกมาจากห้องที่เขาอาศัยหลับนอนอยู่ในตอนนี้  แต่เมื่อเห็นชัด ๆ  ว่าเป็นใคร  ร่างสูงก็ยกมุมปากขึ้นเหมือนจะแสยะยิ้ม...ไอ้หนูขี้โวยวายมันกล้ามาที่นี่แล้วอย่างงั้นหรือ

“ไม่เห็นตั้งนาน  นึกว่าจะไม่กล้ามาเหยียบที่นี่แล้วซะอีก”  เซย์ริวเริ่มด้วยคำทักทายที่ยียวน

“ฉันก็ไม่คิดว่านายจะมาอยู่แถวนี้เหมือนกัน  ไม่งั้นคงไม่มาให้เสียอารมณ์หรอก”  นัตสึสวนกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้กัน

“ถ้าอย่างงั้นไม่ต้องมาอีกเลยก็ดีนะ  เพราะตอนนี้ฉันอยู่ที่นี่  มาเมื่อไรแกก็เสียอารมณ์เมื่อนั้นแหละ  แล้วดีไม่ดีอาจจะได้เสียชีวิตด้วย”  ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ  หากแววตาคมกริบจ้องอีกฝ่ายราวกับงูจ้องกินเหยื่อ

นัตสึรู้สึกเย็นวาบไปทั้งแผ่นหลัง  แต่ก็ไม่ยอมถอยให้  เขาพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น

“อ้อ  นายมาเกาะพี่ฉันกินหละสิ  หน้าด้านใช้ได้นี่”

“หึ...แต่อย่างน้อย  ฉันก็อยู่กับหมอนี่ในตอนที่มันต้องการให้มีคนอยู่ด้วยมากที่สุด  ไม่ใช่ทิ้งกันไปเป็นเดือน ๆ  อย่างใครบางคน”
ถ้อยคำของร่างสูงแทงใจนัตสึเข้าอย่างจัง  เด็กหนุ่มได้แต่ยืนนิ่ง...เถียงไม่ออก  ที่เซย์ริวพูดเป็นเรื่องจริง  แต่ตอนนั้นเขาแค่กำลังสับสนนี่นา

“นั่น...นั่นก็เพราะแกนั่นแหละ!”

“เพราะฉัน...?”  ชายหนุ่มเลิกคิ้ว  “เป็นแบบนั้นจริง ๆ  เหรอ  ไอ้หนู?  ไม่ใช่ว่าแกทนดูสภาพพี่ชายสุดที่รักไม่ได้...ทนตัวเองที่ไร้น้ำยาไม่ได้หรอกเหรอ?”

“ไม่ใช่!  ฉัน...”

นัตสึนึกคำตอบไม่ออก  แต่ในวินาทีนั้นด้วยความโกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจมือขวาก็เงื้อง่ากำปั้นขึ้นหมายจะต่อยหน้ากวน ๆ  ของเซย์ริวสักเปรี้ยง

“พอแล้ว!  ทั้งสองคนนั่นแหละ”  คัตซึฮิโกะร้องห้ามหลังจากที่ฟังอยู่นาน  เป็นผลให้คู่กรณีทั้งสองเงียบลงทันที  “เซย์ริว  คุณเลิกกวนโมโหนัตสึได้แล้ว”

“เหอะ!”  ร่างสูงทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่แยแส

“นัตสึ  นายกลับไปก่อนเถอะ  ไว้พรุ่งนี้พี่จะโทรไปบอกว่าว่างหรือเปล่านะ”

เด็กหนุ่มลดมือที่กำแน่นลง  ถ้าวันนี้ไม่ได้ต่อยปากไอ้เลวนี่เขาคงนอนไม่หลับ  แต่คัตซึฮิโกะห้ามไว้อย่างนี้จะทำยังไงได้  เขาได้แต่ระบายลมหายใจอย่างขัดใจ

“ก็ได้  กลับก็ได้”

แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินเลี่ยงไปตามระเบียง  มือแข็ง ๆ  ก็รั้งไหล่ของเขาไว้  เสียงห้าวทุ้มกระซิบเบา ๆ  ให้พอได้ยินกันแค่สองคน

“แกนี่...เป็นหมาที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของดีนะ  เห็นเจ้าของก็ระริกระรี้ดีใจเข้าไปหา  พอเห็นจะมีคนมาใกล้เจ้าของก็หวง  ขู่ใส่เห่าใส่ไล่กัด...แต่ดันเป็นแค่ลูกหมาที่ทำอะไรไม่ได้  ปกป้องเจ้าของไม่ได้  ไม่มีประโยชน์”

นัตสึนิ่งอั้นไปชั่วครู่  อีกฝ่ายหัวเราะใส่หูเขาเบา ๆ  แล้วผละไป  เด็กหนุ่มหันขวับไปหมายจะเอาเรื่อง  แต่ในตอนนี้เจ้าวายร้ายนั่นโอบเอวพี่ชายของเขารั้งไว้ในอ้อมแขน  มันแสยะยิ้มให้นิดหนึ่งแล้วโน้มลงจูบคัตซึฮิโกะอย่างรวดเร็ว

ครั้งแรกมือเรียวยกขึ้นดันอกผลักไส  แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นเกาะยึดเมื่อจูบนั้นอ่อนหวานลึกซึ้งขึ้น  คัตซึฮิโกะไม่ได้ต่อต้านอะไรอีก
ดวงตาคมตวัดมองนัตสึนิ่งนานจนเด็กหนุ่มเห็นรอยยิ้มแบบผู้ชนะในแววตานั้น  ก่อนที่จะพริ้มตาลงอย่างไม่สนใจสายตาที่จ้องมาอย่างตกตะลึงแล้วก็ทำราวกับว่ากำลังเพลิดเพลินในรสจูบนั้นเสียเหลือเกิน  ชายหนุ่มค่อย ๆ  ประคองคนในอ้อมแขนเข้าห้องพร้อมกับปิดล็อกประตูทั้งที่ริมฝีปากยังเคล้าคลอไม่ห่าง

นัตสึถลาเข้าไปแทบจะทันทีแต่ไม่ทัน  เขาเขย่าลูกบิดแรง ๆ  หมายจะให้มันเปิดออก  เมื่อไม่ได้ผลเขาก็กระหน่ำทุบประตูพลางตะโกนเรียกพี่ชายอย่างบ้าคลั่ง...มันพรากพี่ชายเขาไปต่อหน้าต่อตาซ้ำยังล่วงเกินอีกด้วย  แต่...คัตซึฮิโกะไม่ได้ขัดขืน...ทำไม...
กลีบปากอิ่มถูกลิ้มชิมรสจนแดงช้ำกว่าอีกฝ่ายจะถอนจูบออกแล้วคลอเคล้าไปตามแก้มนุ่ม  คัตซึฮิโกะนึกอยากจะเคลิ้มตามไปกับรสสัมผัสนั้นแต่เสียงทุบประตูและเสียงตะโกนของน้องชายดึงเขาเอาไว้  เขาดันอกร่างสูงให้ออกห่าง

“คุณพูดอะไรกับนัตสึน่ะ?”

“หือ...?  สำคัญด้วยเหรอ?”  ร่างสูงวกกลับมาขบเม้มเบา ๆ  ที่ริมฝีปากนุ่ม  แต่คัตซึฮิโกะผละออก

“อือ...คุณแกล้งนัตสึอีกแล้วนะ”

“ก็น้องแกมันน่าแกล้ง  ไอ้ลูกหมาที่ได้แต่เห่ามันก็น่าเอาตีนเขี่ยให้กลิ้งไปกลิ้งมาแบบนี้แหละ  นี่เห็นว่าแกห้ามไว้หรอกนะ  ไม่งั้นฉันจะแกล้งมันให้หนักกว่านี้อีก”

“นัตสึไม่ใช่หมานะ”  คัตซึฮิโกะตวัดตามองขุ่น ๆ  หากมีรอยยิ้มในสีหน้า

“เหอะ!  ไอ้ลูกหมาดี ๆ  นี่แหละ”  เซย์ริวว่าแล้วก็ประกบปิดริมฝีปากของร่างเพรียวด้วยเรียวปากอุ่นร้อนของตนอย่างไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้งอะไรได้อีก

นัตสึทุบประตูห้องจนระบมไปทั้งมือก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนในห้องจะมาเปิดประตูให้เขา  เด็กหนุ่มทรุดลงนั่งอย่างรวดร้าว...นี่เขาแพ้อย่างหมดรูปเลยงั้นหรือ...

“คัตจัง...คัตจัง...”

ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่เขาพร่ำเรียก  มีเพียงเสียงบางอย่างดังลอดออกมาเบา ๆ ...เป็นเสียงที่เขาไม่อยากได้ยินที่สุดในชีวิต  มันกำลังครอบครองพี่ชายเขาอีกครั้ง!

...และน้ำเสียงของคัตซึฮิโกะก็มิใช่เสียงร้องแสดงความขัดขืนอีกต่อไป...

นัตสึกัดริมฝีปากตัวเองจนได้รสเลือด  ดวงตาร้อนผ่าวหากน้ำตากลับไม่ไหลออกมาด้วยความคั่งแค้นถึงที่สุด  เขาจะทำทุกอย่าง...นัตสึสาบานกับตัวเอง...เขาจะต้องเอาพี่ชายของเขาคืนมาให้ได้...จะแย่งคืนมา  แม้จะต้องฆ่ามันก็ตาม!!



(โปรดติดตามตอนต่อไปครับ)
ปล. ทำไม...ตอนนี้มันสั้นจัง

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
Re: KOUSOKU # 17: 7/6/56
«ตอบ #147 เมื่อ08-06-2013 00:30:49 »

ตกลงคาซึโกะโดนรีเซ็ตใหม่ให้เย็นชากับน้องแล้วเรอะ
เฮ้อ ออออ นัตสึจะทำไงต่อละเนี่ย น่ากลัวจริง

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
Re: KOUSOKU # 17: 7/6/56
«ตอบ #148 เมื่อ08-06-2013 00:49:30 »

โหยยย ไมเราแอบสงสารนัตสึว้าา (สงสัยจะเป็นอาการเด็กไม่ยอมโต 555)
แบบคัตจังคิดอย่างที่พูดจริงๆน่ะหรอ?

น้อยใจแทนเบาๆ แต่ก็อดสงสารคัตจังไม่ได้ โดดเดี่ยวมาตลอด *กระซิก*

:pig4:

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: KOUSOKU # 17: 7/6/56
«ตอบ #149 เมื่อ08-06-2013 10:11:59 »

คัตจังผ่านความตายมาได้อย่างฉิวเฉียด เลยนิ่งสุขุมจนเกือบจะเย็นชาแบบนี้สินะ

บางทีคัตจังก็อาจจะอยากอยู่สบายๆ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องสนใจใครบ้างก็ได้นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด