[13]
“..ปะ.ปู่...ฮึก..มะ..อื้ออ..”
เสียงครางไม่เป็นภาษาของคนที่ผมกำลังถาโถมสะโพกใส่ดังสลับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดของเตียงยิ่งเร่งอุณหภูมิในร่างกายผมให้ไต่ระดับพุ่งสูง จนทนกักเก็บไม่ให้มันทะล้นทะลักออกมาแทบไม่ไหวอีกต่อไป
“เก้า..กู..จะ.ฮึ่ม..จะแตก.แล้ว..” ผมกัดฟันอัดกระแทกดินน้อยที่ไม่ค่อยน้อยเท่าไหร่แบบเน้นๆ ตรงจุดเดิมซ้ำๆ จนคนที่รองรับอยู่ข้างล่างยิ่งดิ้นเร่ามากกว่าผม
“ผม..ผม.ก็..อ้า..อือออ..ปู่ดินนนนน” เสียงมันกลืนหายไปพร้อมกับร่างที่กระตุกเกร็ง มือที่รูดรั้งลูกชายตัวเองอยู่ขยับถี่รัวจนในที่สุดหยาดน้ำข้นสีขาวก็ถูกพ่นออกมาเลอะเต็มหน้าท้องของเจ้าตัว
“ฮ่า..” ตัวที่เกร็งงอขึ้นมาเพิ่งครู่ถูกทิ้งให้นอนราบไปกับเตียงอย่างหมดแรง ผมเอื้อมมือไปละเลงน้ำบนหน้าท้องมันเล่นพร้อมกับสาวเข้าออกอีกหลายครั้งก่อนจะถึงฝั่งตามมันไปอีกคน
“อืมมม..” ผมครางลึกในลำคออย่างพอใจ แล้วทิ้งตัวซบกับอกมันอย่างหมดเรี่ยวแรงไม่ต่างกัน ..เหนื่อยโคตรๆ นี่เป็นเซ็กส์เต็มรูปแบบครั้งแรกในรอบเกือบสามเดือนเลยก็ว่าได้ ก็ตั้งแต่ไอ้เก้ามันเริ่มมาวุ่นวายกับชีวิตผมไงล่ะ
“ปู่ดิน” เสียงอู้อี้ดังขึ้นพร้อมกับจมูกที่ฝังลงมาบนกลุ่มผมของผม แขนของคนที่ผมนอนทับโอบรัดผมเอาไว้ทั้งตัวคล้ายกับกลัวว่าผมจะหายไปไหน ก่อนที่เสียงกระซิบเบาๆ จะดังตามมา
“ผมรักปู่ดินนะ”
ผมยิ้มรับทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเห็น แล้วหลับตาลงฟังเสียงหัวใจที่ยังเต้นอึกทึกอยู่ข้างหูด้วยความรู้สึกสบายใจอย่างประหลาด..
“เป็นไงมั่ง?”
หลังจากนอนพักจนลมหายใจกลับสู่ภาวะปกติกันทั้งคู่แล้ว ผมก็ยันตัวขึ้นพร้อมกับถอดถอนลูกดินออกมาจากตัวไอ้เก้า มันครางซี้ดเบาๆ ตอนที่ลูกผมหลุดออก แล้วส่งยิ้มแหยๆ มาให้
“เจ็บ”
“เจ็บอย่างเดียวเหรอ?” ผมถามยิ้มๆ จัดการกับถุงใช้แล้วเรียบร้อยก็ทิ้งตัวลงบนที่ว่างข้างมัน
“เสียวด้วย” มันตอบแบบเขินๆ พลิกตัวตะแคงมาหาผม
“ชอบไหม?”
“รักเลย” หน้าตาทะลึ่งทะเล้นของมันทำเอาผมอัดคว้ามาฟัดด้วยความหมั่นเขี้ยวไม่ได้
“มึงนี่นะ!”
“ฮ่าๆๆๆ โอ๊ย ปู่ดินเบาๆ ดิ มันกระเทือนนะ”
เล่นกันอยู่พักหนึ่ง เราก็กลับมานอนกอดก่ายกันโดยที่ผมซ้อนอยู่ข้างหลังและกอดคอมันเอาไว้
“เก้า..” ผมเรียกมันด้วยเสียงเรียบๆ พยายามไม่แสดงอารมณ์ใดเป็นพิเศษ
“ครับ?”
“ถูก..สารภาพรักบ่อยไหม?”
“หา?”
“ที่ผ่านมาน่ะ.. มีผู้หญิงมาบอกว่าชอบบ่อยไหม?” แม้จะไม่เต็มใจ แต่ภาพที่หน้าห้องน้ำห้างเมื่อตอนบ่ายก็ไหลย้อนเข้ามาในความคิดของผมอีกครั้ง..
“ก็..ไม่บ่อยหรอก ปู่ดิน..”
“กี่ครั้ง?” ผมถามขัดก่อนที่มันจะได้ถามอะไร
“ใครจะไปนับ” มันตอบด้วยแสงกระปอดกระแปด ขณะที่ผมเริ่มรู้สึกกรุ่นขึ้นมาตงิดๆ
“.........” มันหลายครั้งจนจำไม่ได้เลยเหรอวะ?
แม่ง แล้วทำไมกูต้องหงุดหงิดด้วยเนี่ย? ฮื่อ..
“ทำไมจู่ๆ ปู่ดินถึงอยากรู้เรื่องนี้ล่ะ?” ไอ้เก้ามันพลิกตัวมาจ้องผมตาแป๋ว
“ไม่มีอะไร” ผมตอบปัดมัน พร้อมกับปัดความคิดงุ่นง่านออกไปจากหัวตัวเองด้วย ผมพลิกตัวนอนหงาย เฉไฉมองเพดานไปเรื่อยเปื่อย
“ปู่ดิน..” ไอ้เก้ามันชันตัวนอนเท้าศอก แววตาบ่งบอกถึงความฉงนสนเท่ห์
“ต่อไปนี้มึงห้ามไปทำเหมือนให้ความหวังใครนะ รู้ไหม?” ผมพูดโดยไม่ละสายตาไปจากเพดาน
“ผมไม่เคยทำแบบนั้นสักหน่อย” ผมเห็นทางหางตาว่าหน้ามันเริ่มง้ำงอ
“นั่นแหล่ะ แล้วก็อย่าเปิดโอกาสให้ใครเขามาสารภาพรักได้ด้วย” แต่ผมก็ยังคงมุ่งมั่นพูดกับเพดานต่อไป
“แล้วถ้าเขามาของเขาเองล่ะ?”
“ก็เดินหนีดิ ไม่สนใจแล้วมึงจะอยู่ฟังไปทำไม?”
“.........” แล้วไอ้เก้าก็เงียบไป
“อะไร?” ความเงียบของมันทำให้ผมต้องยอมละสายตาจากเพดานในที่สุด
“ผมกำลังคิดว่า..” เสียงมันเงียบหายไป ก่อนที่รอยยิ้มกว้างจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า “ปู่ดินหวงผมใช่ไหมเนี่ย?”
“ไอ้เก้า..” ผมทำเป็นกระแอมแก้เขิน แล้วเก๊กหน้าเก๊กเสียงเป็นงานเป็นการ “มึงเป็นหลานกูนะ”
“ปู่ดิน..” มันครางแผ่ว แววตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจระคนตัดพ้อ
“แล้วมึงก็เป็นเมียกูด้วย” ผมยิ้มกว้างออกมาบ้างที่แกล้งมันได้สำเร็จ “แบบนี้ไม่หวงได้ไง?”
“ผมรักปู่ดินที่สุดในโลกเลย!” จากนั้นก็เลยถูกมันโถมเข้าใส่แบบทั้งตัว
“ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะชอบใจของตัวเองที่ดังก้องอยู่ในห้องทำให้ผมนึกแปลกใจกับตัวเองไม่น้อย
นี่กูทำไมหัวเราะได้สบายใจขนาดนี้วะ? ทั้งที่มันเป็นหลาน ทั้งที่มันเป็นผู้ชาย.. แต่ดูเหมือนเรื่องพวกนั้นแทบจะไม่มีผลอะไรกับผมเลย ..อย่างน้อยก็ในตอนนี้
ใช่สิ แค่ในตอนนี้ก็พอ.. เรื่องของพรุ่งนี้ไว้ค่อยคิดเอาพรุ่งนี้แล้วกันนะ ไอ้ดิน
มันอาจดูไม่ค่อยเหมาะค่อยควรสำหรับคนที่เป็น ‘ปู่’ คนเท่าไหร่ แต่ในฐานะของผู้ชายคนหนึ่ง..
ใช่แล้ว ไอ้ดินก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง...แค่นั้นเอง
“งั้นตอนนี้..” จู่ๆ เสียงไอ้เก้าก็ดังแทรกเข้ามาในความคิดผม ทำให้ทุกอย่างต้องหยุดพักเอาไว้ก่อน
“มึงจะทำอะไร?” ผมเลิกคิ้วมองไอ้คนที่แทรกตัวเข้ามาตรงหว่างขาอย่างไม่แน่ใจ ..นั่นแล้วมึงจะสอดแขนเข้ามาใต้ข้อพับเข่าทั้งสองข้างของกูแล้วช้อนยกขึ้นทำไมวะ?
อย่าบอกนะว่า..
“ถึงเวลาที่ปู่ดินต้องทำหน้าที่เจ้าสาวของผมบ้างแล้ว” ไอ้เก้ายิ้มกริ่ม ในขณะที่ผมเริ่มมองเห็นสถานการณ์วิกฤติของตัวเองชัดเจนขึ้นทุกวินาที
“มึงเอาจริงดิ? กูว่า..” ผมพยายามจะยื่นข้อเสนอ แต่มันดันไม่เปิดโอกาสให้
“ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นครับ ปู่ดิน”
“.........” มึงพูดมาขนาดนี้.. กะฝังกลบกูแบบไม่ต้องผุดต้องเกิดเลยใช่ไหม ไอ้เก้า.. ฮึ่ม!
ไอ้เด็กห่า กูอุตส่าห์ตัดกำลัง!!
“..อึก..ฮื่อ..”
เสียงถอนหายใจพรั่งพรูออกมาแทบจะพร้อมกันทันทีที่ลูกชายไอ้เก้าสามารถมุดเข้ามาสำรวจในถ้ำดินของผมได้สำเร็จ หลังใช้ความพยายามอย่างมากมากว่าครึ่งชั่วโมง เพราะไอ้เก้ามันพิถีพิถันเตรียมปูทางด้วยลิ้นด้วยนิ้วของมันซะยิ่งกว่าตอนที่ผมทำให้มันอีก และทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาตงิดๆ ที่ไม่ได้ใส่ใจมันมากเท่าที่มันใส่ใจผม
แต่กระนั้นผมก็ยังอยากจะบอกว่า.. เหี้ยเอ๊ย เจ็บชิบหาย!!
ที่มึงทำเหมือนไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ ที่ไม่โอดไม่ครวญเมื่อกี๊น่ะ มึงหลอกให้กูตายใจใช่ไหม ไอ้เวรเก้า!!
อูยยยยย.. แม่งทั้งเจ็บทั้งจุกจนร้องไม่ออกเลยกู
“ซี้ดดด.. ปู่ดิน...มันแน่นมาก” หน้าตามันบูดเบี้ยวบ่งบอกความเสียวได้เป็นอย่างดี
“อืม..” ผมพยายามทำทุกวิถีทางให้ร่างกายปรับรับสภาพได้มากที่สุด
คิดแล้วก็อดสะท้อนใจไม่ได้.. อุตส่าห์ใช้ชีวิตเยี่ยงลูกผู้ชายชาตรีมาตลอดสามสิบปี แต่พอย่างเข้าสู่ปีที่สามสิบเอ็ด ดันต้องมานอนอ้าขาให้ผู้ชายด้วยกันมันเย่อเอาซะอย่างนั้น ..ที่สำคัญดันเป็นผู้ชายที่ผมเห็นมาตั้งแต่มันยังเป็นเด็กตัวแดงๆ อีกต่างหาก
ช่างเป็นประสบการณ์ชีวิตที่น่าสะเทือนใจและยากจะลืมเลือนจริงๆ เหอะๆๆ
“ปู่ดิน..ผมทน.ไม่ไหวแล้ว..ผม...” เสียงไอ้เก้าดึงสติผมกลับมาอีกครั้ง และแรงเสียดสีที่เกิดจากข้างล่างก็ทำให้ผมรู้ว่าไอ้เก้ามันเลิกทนเรื่องอะไร
“โอ๊ะ..ดะ.เดี๋ยว..”
ผมยังพูดไม่ได้ตามที่ต้องการก็ต้องหุบปากเพราะเจ็บจนพูดไม่ออกอีกครั้งเมื่อไอ้เก้ามันดันลูกชายที่เพิ่งถอนออกสวนกลับเข้ามา...ถอนออก..แล้วก็สวนกับมาอีกครั้ง..และอีกครั้ง...ก่อนที่มันจะเกร็งตัวสะท้าน สะบัดหน้าแหงน สูดปากแล้วครางเสียงต่ำๆ อย่างคนสาสมแก่ใจ
“มึง..แตกแล้วเหรอ?” ผมที่นิ่งค้างไปเพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วจนตามไม่ทัน เริ่มดึงความสามารถในการพูดกลับมาได้อีกครั้ง ผมถลึงตามองมัน ส่วนมันก็แก้มแดงแป๊ดจนผมเชื่อสนิทใจเลยว่าเลือดทั้งหมดในตัวมันต้องรวมกันอยู่ตรงนั้นที่เดียวแน่ๆ
“ก็...ข้างในปู่ดิน..มันให้ความรู้สึกดี..ซะ.จน..อ๊า~” มันพูดงุบงิบแล้วสุดท้ายก็ทนความอับอายไม่ไหวจนต้องยกมือปิดหน้าตัวเอง
“เหอะ” ผมแค่นเสียงอย่างดูถูกดูแคลนเต็มที่ ..ไม่ได้ผิดหวังนะเนี่ย ไม่ได้ผิดหวังเลยสักนิด.. จริงจริ๊งงงง
“.........”
“ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย” ผมมองแก้มแดงๆ ของมันอยู่อีกพักหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัว หวังให้ลูกชายไอ้เก้าหลุดออก แต่ดันถูกตัวพ่อมันคว้าสะโพกเอาไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวปู่ดิน..” มันละล่ำละลักไม่ยอมให้ผมไปไหน “เดี๋ยวก่อน...แป๊บนึง..”
“มึง..” ตอนแรกผมขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่ามันคิดจะทำอะไร แต่จู่ๆ ก็เริ่มรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังขยับขยายอยู่ในตัวผม “นี่มึง?”
ผมมองหน้ามัน มองข้างล่าง แล้วก็กลับมามองหน้ามันอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ ..เฮ้ย! เมื่อกี๊มึงเพิ่งจะเสร็จไปเองไม่ใช่เรอะ?!
“แหะๆ” มันหัวเราะแห้งๆ แล้วเริ่มจัดท่าให้เข้าที่เข้าทาง พร้อมเริ่มต้นใหม่อีกรอบ
“แม่ง!” ผมสบถออกมาด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย
“วัยรุ่นก็ดีแบบนี้แหล่ะ เครื่องฟิต สตาร์ทติดง่าย” พูดแล้วมันก็กระทุ้งเข้ามาหนักๆ จนผมอดสูดปากไม่ได้
“ซี้ดดดดด..” แน่ล่ะ นอกจากความจุก ความเจ็บ แล้วมันก็ยังพอมีความเสียวอยู่บ้าง
“คราวนี้ผมส่งปู่ดินถึงสวรรค์แน่นอน” มันโน้มลงมาดูปากผม ก่อนพร้อมเดินเครื่องแบบเต็มกำลัง
ให้ตาย.. ผมว่าผมชักจะหมั่นไส้วัยรุ่นขึ้นมาบ้างแล้วนะ
“อูยยย..”
หลังพากันขึ้นสวรรค์ไปหลายรอบตลอดคืนที่ผ่านมา นรกก็ได้เยี่ยมหน้ามาต้อนรับผมตั้งแต่เช้าตรู่เลยทีเดียว..
อูยย ระบมร้าวไปทั้งสะโพกแล้วกู ไม่อยากจะเดาเลยว่าถ้าวันนี้เกิดข้าศึกบุก แล้วกูจะกล้าเข้าส้วมไหม? โอยยๆๆ ทำอะไรเกินสังขารไปหรือเปล่าวะกู?
“อือ.. ปู่ดิน..” เสียงงึมงำจากคนที่นอนข้างๆ เรียกความสนใจจากผมได้ชะงัด เห็นหน้ามันแล้วก็อยากจะเขกมะเหงกสักทีสองทีด้วยความหมั่นไส้ แม่งเหอะ! เห็นรอบหลังๆ กูเริ่มสู้แรงมึงไม่ไหว มึงก็รีบกอบโกยใหญ่เลยนะ ไอ้เด็กเวร!
เห็นท่าว่าหลังจากนี้ผมต้องไปฟิตร่างกายให้พร้อมรบสักหน่อยแล้ว ไม่งั้นอีกหน่อยคงกดมันไม่ลงแน่ๆ เหอ
“อืออ..” ไอ้เก้ายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น แต่หน้าแดงๆ กับเหงื่อที่ผุดซึมตามหน้าผากทำให้มะเหงกของผมต้องเป็นหมัน ผมลองเอาหลังมือแตะตัวมัน แล้วก็พบว่าร้อนอย่างที่คาดไว้จริงๆ
“.........” รู้สึกว่ากูคือคนที่ขาดทุนนะเมื่อคืน แล้วทำไมมึงถึงเป็นคนที่ป่วยวะ ไอ้เก้า?
ผมตัดสินใจลากสังขารที่เหมือนจะแซงหน้าอายุไปหลายสิบปีเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว จากนั้นก็ออกไปที่ครัวเพื่อมองหาของที่พอจะกินได้กลับมาให้ไอ้เก้าพร้อมกับยาแก้ไข้แก้อักเสบอีกอย่างละเม็ด
“เก้า.. เก้าตื่นขึ้นมากินยาก่อน เร็วเข้า” ผมเขย่าปลุก มันงัวเงียอยู่สักพักก็เริ่มได้สติ
“ปู่ดิน..” ผมช่วยพยุงมันนั่งพิงหัวเตียง ก่อนจะยกถาดรองชามโจ๊กมาวางบนตัก
“กินโจ๊ก แล้วก็กินยา” ผมบอก
“.........” แต่มันก็ยังกระพริบตาปริบๆ มองผมเฉยๆ
“ตัวมึงร้อนนะ” จนผมต้องบอกอีก
“ป้อน” จู่ๆ มันก็พูดแบบนั้น ด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“มึงเป็นไข้นะ ไม่ได้เป็นง่อย” ผมหรี่ตามองอย่างไม่เห็นด้วย
“ป้อนนะ” ทีนี้มันออดอ้อนทั้งหน้าทั้งตาเต็มที่เลย
“เฮ้อ.. เออ ก็ได้” และสุดท้ายผมก็ต้องยอมทำตาม
“เย้~!” มันยื่นหน้าเข้ามาฉกห้อมแก้มผมแล้วย้อมแป้น “ปู่ดินใจดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว ผมรู้”
“แล้วมึงคิดว่ากูไม่รู้หรือไง?” ผมพูดยิ้มๆ แล้วตักโจ๊กมาเป่าก่อนเอาไปจ่อที่ปากมัน
“เพราะแบบนี้ไงผมถึงได้รักปู่ดิน” มันพูดหลังกลืนโจ๊กแล้ว
“เพราะกูใจดีนี่นะ?”
“เพราะปู่ดินหลงตัวเองนี่ล่ะ”
“ไอ้นี่” ผมแจกมะเหงกมันเบาๆ เพราะเห็นว่ามันป่วย
“ฮ่าๆๆๆ” แต่แทนที่จะซาบซึ้งในบุญคุณ มันดันหัวเราะชอบใจซะงั้น
“.........” ช่างเป็นคนป่วยที่หัวเราะได้สดใสอะไรอย่างนี้นะ..
“ปู่ดิน?”
“.........” กว่าจะรู้ตัวผมก็มองเห็นตาโตๆ ของมันกำลังจ้องมองมาในระยะประชิด รสชาติของเค็มนิดหน่อยของโจ๊กยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น.. โจ๊กที่ไม่ได้มาจากช้อน แต่มาจากกลีบปากแดงๆ คู่นั้นต่างหาก
“ปู่..ปู่ดิน” ดูเหมือนสีแดงจากริมฝีปากอิ่มจะเริ่มกระจายไปที่แก้มอีกครั้ง
“เอ้อ..” ผมรีบดีดตัวกลับมา เสยผม มองผนัง กระแอมแก้เก้ออีกหนึ่งที “อื้ม...เค็มไปหน่อยนะ ว่าไหม?”
“ครับ?”
“โจ๊กน่ะ” ผมชี้ไปที่ชามโจ๊ก
“แต่ผมว่ามันหวาน..” ไอ้เก้าพูดเบาๆ พร้อมทั้งอมยิ้มน้อยๆ “โดยเฉพาะคำเมื่อกี๊..”
มันมองชามโจ๊ก ผมก็มองชามโจ๊ก.. ดูเหมือนว่าจู่ๆ พวกเราก็รู้สึกเขินกันขึ้นมาเฉยๆ
ไอ้เก้าน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ดินด้วยเนี่ยสิ!
มึงอายุสามสิบแล้วนะนะเว้ย สามสิบ! ยังจะมานั่งเขินอายไปวัยรุ่นริมีความรักไปด๊ายยยย บ้าไปแล้ว..
“.........” ผมเสตาไปที่ผนัง ซบแก้มข้างหนึ่งกับฝ่ามือตัวเอง เท้าศอกกับหน้าขา ขณะที่ขาก็นั่งไขว่ห้าง.. เป็นท่าของคนที่คิดไม่ตกว่าจะจัดการกับอารมณ์หวั่นไหวเพราะวัยรุ่นยังไงดี(ฮา..)
“ปู่ดิน?” เสียงเรียกมาพร้อมแรงสะกิดเบาๆ
“อือ..” ผมครางรับไปงั้น
“ปู่ดินครับ”
“อะไร?” เมื่อคืนก็คุยกับเพดาน ไม่คิดว่าตอนเช้าจะต้องมาคุยกับผนังอีก ..กูหนอกู
“มีอะไรอยากจะสารภาพกับผมหรือเปล่าครับ?”
“.........”
“ปู่ดินครับ”
“.........”
“ปู่ดิ..”
“กูชอบมึง” เสียงที่เอ่ยขัดเสียงของไอ้เก้าดังแผ่วๆ จนแม้แต่ผมก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่ามันเป็นเสียงของใครกันแน่
ของผมเหรอวะ? จริงน่ะ??
“อะไรนะครับ? ไม่ค่อยได้ยินเลย”
“กูบอกว่า..” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วพูดให้ดังขึ้น...โดยไม่ละสายตาไปจากผนังดังเดิม “กูชอบมึง”
“แค่ชอบเองเหรอ” ผมไม่เห็นหรอกว่าไอ้เก้ามันพูดแบบนั้นด้วยหน้าตาแบบไหน
แต่ถ้าให้เดา...มันต้องกำลังทำหน้าบานอยู่แน่ๆ
“ปู่ดิน”
เอาเถอะ.. ผมถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ แล้วตัดสินใจหันไปสบตากับมันได้สักที
“กูรักมึง”“.........” ทั้งที่คิดว่ามันคงจะยิ้มจนแก้มแตกแน่คราวนี้ แต่ที่ผมเห็นคือมันกำลังเม้มปากแน่น.. แน่นจนเป็นเส้นตรง.. จนผมชักไม่แน่ใจว่าเมื่อกี๊ตัวเองเพิ่งพูดอะไรออกไป
“อะไร?” เสียงของผมแสดงความประหลาดใจมากกว่าที่ตัวเองคิดซะอีก
“พูดอีก..ได้ไหมครับ?” มันถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ขณะที่ผมเผลอระบายลมหายใจโล่งอกออกมาแบบไม่รู้ตัว
“อืม กูรักมึง” นอกจากคำพูดแล้วคราวนี้ผมยังแถมรอยยิ้มให้มันอีกโดยไม่ตั้งใจ
คนฟังเริ่มแย้มยิ้มออกมาทีละน้อย ทะละน้อยจนเต็มหน้าในที่สุด
“พูดอีกนะ” มันเอื้อมมือมาเขย่าแขนผมแบบอ้อนๆ
“เออๆๆ กูรักมึง” ใช่ว่าจะพูดได้โดยไม่รู้สึกเขิน ผมกลับไปนั่งท่าหวั่นไหวเพราะวัยรุ่นอีกครั้ง(ฮ่าๆ) แต่ปากก็ยอมพูดตามที่มันขออย่างไม่มีอิดออด
“อีกทีนะ”
“กูรักมึง”
“พูดอีก”
“กูรักมึง ไอ้เก้า กูรักมึง..”
จำไม่ได้แล้วว่าเช้านั้นผมต้องพูดประโยคเดิมซ้ำๆ ไปกี่ครั้ง..
ทั้งที่ควรจะรู้สึกรำคาญ ..แต่ก็เปล่า
เพียงแค่ได้เห็นแก้มแดงๆ กับแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของคนที่รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
มันก็เหมือนจะทำให้ผมลืมเรื่องรำคาญใจเล็กๆ น้อยๆ ไปจนหมด
เฮ้อ..
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสุดท้ายแล้วผมก็ตกหลุมรักหลานชายของตัวเองเข้าจนได้
มึงแน่จริงๆ ว่ะ ไอ้เก้า
**จบเด้**และแล้วก็จบลงด้วยความสมหวังของทุกฝ่าย กร๊ากกกกกกก
ตกลงไวท์ตัดสินใจทำเรื่องนี้เป็นหนังสือนะ
หากสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ได้ที่แฟนเพจเลยจ้ะ
http://www.facebook.com/WhittyRavenปล. หนังสือ H-series ก็ยังพอมีอยู่เป็นบางเล่มนะจ๊ะ :”D