♥~ รักกุบกิบ~ ♥ UPDATE!!! มีข่าวประกาศและแบบสอบถามค่า [06/01/15]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥~ รักกุบกิบ~ ♥ UPDATE!!! มีข่าวประกาศและแบบสอบถามค่า [06/01/15]  (อ่าน 84444 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pumpkin_23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
จินน่ารักนะ คีย์ก็น่ารักตกลงปลงใจกันเร็วๆนะ

มาต่อเร็วๆนะคะ   :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ NONSENSE

  • เพ้อฝัน ไปวันวัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
โอ๊ยยย  ฟินนนน  ^O^

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เย้ๆๆๆๆๆ เข้าล๊อคไปหนึ่งคู่
เหลือพี่คีย์กะจิน ลุ้นๆๆ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
โฟมเหมือนเด็กเลยเวลาอยู่กับพี่ไผ่
ตอนแรกนึกว่าคู่กับถังก๊ากกกกกก
แต่จินนี่ต้องจีบหน่อยนะท่าทางรักเก่าพี่คีย์เค้าฝังใจ ._.

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
พี่ไผ่โฟมเรียบร้อยไปคู่นึงแล้ว
คู่ต่อไปจะเป็นคู่ไหนล่ะเนี่ย ลุ้นๆ

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
กว่าจะตกลงปลงใจกันได้ เหอๆๆๆ  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
จินก็ช่วยมีความรู้สึกอยากดูแลคีย์มากๆหน่อยสิ
จะได้ชอบกันไวๆ  :katai3:

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ยิ่งอ่านยิ่งกรุบกริบหัวใจจริงๆ เลย  :mew1:

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Kagehana : เคลียร์คัทไปแล้วหนึ่ง แต่เหลือน้องจินเรานี่แหละ....ตอนนี้ยังกุบกิบหัวใจ แต่ต่อไปไม่แน่นะคะ ฮิฮิ o18

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ ทุกๆกำลังใจค่ะ อ่านเม้นท์ทีไรปลื้มใจทุกที ฮี่----





-7-





...หนาว...

ร่างสูงใหญ่ที่นอนอยู่ในบ้านเกวียนหลังเล็กขยับตัวยุกยิกไต่มือหาผ้าห่ม...ไอ้พี่คีย์เปิดแอร์23อีกแล้วแหงๆ...

จิณณ์ขมวดคิ้ว ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น จนเมื่อนัยน์ตาสีเข้มมองเห็นเพดานหลังคานั่นแหละ เขาถึงได้รับรู้ว่าที่ๆนอนอยู่ตอนนี้ไม่ใช่คอนโดของคิรากร เขาขยับตัวโยนเป้ที่ใช้หนุนไปข้างๆ ก่อนจะก้มลงมองแฮมสเตอร์ที่นอนขดตัวกลมผมปิดหน้า...หลับแปะอย่างสบายใจอยู่ข้างๆ

หนาวไหมวะนั่น..จิณณ์พูดในใจแล้วเอื้อมมือไปแตะแขนที่เย็นเฉียบ

“พี่คีย์... มานอนดีๆ ตัวเย็นหมดแล้ว”

“อือ...” แขนที่เย็นๆนั้นยกขึ้นก่อนจะคว้าเอามือของร่างสูงไปกอดเอาไว้โดยไม่ยอมแม้แต่จะลืมตา

“กอดอีกแล้ว แต๊ะอั๋งป่ะเนี่ย”

คนที่ถูกกล่าวหาค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะรีบปล่อยมือออก “เปล่า...ตื่นแล้วเหรอจิน เดี๋ยวจะได้ไปกินข้าวกับคนอื่นๆ” คิรากรลุกขึ้นนั่งก่อนจะถอดแว่นออกมาเช็ดไปพลาง จัดผมตัวเองไปพลาง

“พูดแล้วหิวเลย เห็นพี่ไผ่ว่ามีดูดาวกลางคืน หลังกินข้าวมั้ง อากาศเย็นแบบนี้เอาผ้าห่มไปด้วยดีกว่า”

“อื้อ พี่เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน” คนอายุมากกว่ารับคำก่อนจะฉวยเอาผ้าห่มมาพับทีละทบอย่างเรียบร้อยแล้วพาดกับแขนเอาไว้

จิณณ์รอให้ไอ้แว่นแฮมจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนทั้งคู่จะเดินออกมาพร้อมกัน

หลังจากหลับเพลินจนพลาดมื้อกลางวัน ท้องก็ส่งเสียงประท้วงทันทีที่มาถึงลานกว้างที่มีเตาบาร์บีคิวที่ขนกันมาวางไว้ กลิ่นเนื้อย่างปนซอสทำเอาจิณณ์แทบอยากจะพุ่งเข้าหาเตาทันที ถ้าไม่ติดที่ว่า...ที่เตามีบรรยากาศแปลกๆ ของเพื่อนเขาทั้งสองคนลอยอยู่จางๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พี่ไผ่จะมายืนย่าง...แต่ไอ้คนขี้ร้อน กลัวเหม็นอย่างเม็ดโฟม ทำไมถึงมายืนยิ้มทำหน้ามุ้งมิ้งช่วยย่างได้

ปกติก็นู่น นั่งสั่งแล้วรอกินอยู่ที่โต๊ะ

“หือ? โฟม...มึงย่างเองอย่างงี้กินได้เหรอวะ”

“พี่ไผ่สอน กูช่วย จะได้เสร็จเร็วๆให้พวกมึงกินไงครับ หรือมึงไม่กิน” อิชย์ที่ยืนยิ้มอยู่หันมาทำตาขวางใส่ร่างสูงที่เดินเข้ามาทันที

“ตั้งแต่โดนพี่ไผ่ลากไป กลับมามึงอารมณ์ดีเลยนะครับน้องเม็ดโฟม พี่ไผ่ให้แดกเพ็ดดีกรีแล้วหายบ้าเหรอ” คนที่ยืนอยู่อีกด้านของเตาแซวเสียงดัง

“พ่อมึงครับไอ้ถัง ไม่ต้องแดก ไปหาที่เตาอื่นไป” เขาสวนกลับพร้อมทั้งแยกเขี้ยวใส่ให้

“เด็กๆไปพักกันเถอะ เดี๋ยวพี่ทำให้เอง เร็วกว่า” คิรากรรีบอาสาพร้อมก้าวไปที่ข้างเตาย่างทันที

“สกิลเมียกำเริบเหรอ ไปนั่งกับอาลัวไป เดี๋ยวผมย่างให้”

“ไม่เอา พี่อยากทำให้ นะ” นะสุดท้ายคนอายุมากกว่าลากหางเสียงให้ยาวพร้อมทั้งรอยยิ้มกว้าง

“ใครย่างก็เอาค่า น้องลัคกี้หิวจนจะกินหัวนังน้องแจ๊สได้แล้ว” ลัคกี้ที่มาในชุดธีมเสื้อขนประหนึ่งอยู่เกาหลีเดินมาหน้าเตาแล้วเบะปาก “อี๊ น้องโฟมคะ มึงย่างเนื้อหรือถ่านคะ กระเทยแดกบาร์บีคิวค่ะไม่ใช่แดกก้อนมะเร็ง”

“ก็กูเพิ่งหัดทำครับ”

“เห็นไหม ให้พี่ทำให้นะ” คิรากรไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มขยับดันน้องลัคกี้ออกไปพร้อมทั้งดึงอิชย์ออกมายืนข้างๆ

“ไผ่...” คนอายุมากกว่าแบมือออก เป็นสัญญาณให้ส่งที่คีบมาให้ มืออีกข้างดันแว่นขึ้นคาดไว้บนศีรษะก่อนจะรับเอาที่คีบมา

“จินจะถือจานให้ไหม”

“เออ” คนตอบพูดเสียงห้วน จิณณ์ยืนถือจานเปลรอรับเนื้อที่อีกฝ่ายกำลังพลิก ดูจากท่าทางแล้ว อนาคตของเพื่อนสัตว์โลกที่อุทิศตัวเป็นอาหาร ดูจะคุ้มค่ามากกว่าเวลาที่อิชย์เป็นคนทำ

“มือโปรก็ไม่บอก อยู่ที่นู่นย่างบ่อยอ่ะดิ”

“อื้ม เวลามีปาร์ตี้ พี่จะย่างน่ะ ปล่อยให้พ่อไม่ก็อันไปรับแขก” คิรากรตอบพลางคีบเนื้อไก่ที่สุกแล้ววางลงบนจานก่อนจะหยิบชิ้นใหม่มาวางแทน

“พี่ดูรักคนชื่ออันมากเลยเนอะ...ถามตรงๆเหอะ ไม่เกลียดเขาบ้างเหรอที่ทำแบบนี้กับพี่”

“ก็ เรียกว่าเสียใจดีกว่า ไม่ได้เกลียดหรอก” เขาหันมายิ้มให้ ก่อนจะหยิบเนื้อที่เสียบไม้ทั้งหมดใส่จานให้

“แล้วถ้าเขามาง้อ จะยอมคืนดีไหม” ถามออกไป...โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองรอฟังคำตอบแค่ไหน

“ก็...ถ้าอันหย่าจริงๆ พี่คงยอม” คนอายุมากกว่าหยิบเนื้อใหม่ลงวางบนเตา

นัยน์ตาสีดำเข้มมองน้ำมันที่ฉาบผิวเนื้อหยดลงบนถ่านแดงร้อนโดยไม่พูดอะไรต่อ จิณณ์ได้แต่คิดถึงใครอีกคนที่ถูกรักทั้งที่เป็นคนทำร้ายทุกอย่าง ถูกรัก...โดยไม่มีเงื่อนไข เช่นเดียวกับแม่เขาที่เคยรักพ่อแบบนี้หมดทั้งหัวใจ

แต่ก็ไม่ได้อะไรตอบแทน...

“ชาตินี้จะมีใครรักผมแบบนี้ไหมเนี่ย” คำพูดติดตลก แต่คนพูดรู้...ว่ามันฝืดเฝื่อนเหลือเกิน

“ทำไมจะไม่มีล่ะ เดี๋ยวจินก็ได้เจอ” คิรากรพลิกเนื้อทีละชิ้น “บอกแล้ว มาติดอยู่กับพี่ เดี๋ยวก็ไม่มีใครสนใจ”

“จีบพี่คีย์ดีกว่า” จิณณ์ปรับรอยยิ้มที่แปร่งปร่าให้กลายเป็นยิ้มสดใส... “จีบนะ?”

มือของเขาหยุดค้างไปก่อนจะมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ “...อะไรนั่น”

“ตกใจอ่ะดิ” คนที่ถือจานอยู่ยิ้มขำกับท่าทางเหวอๆ “ซ้อมไว้ไง เผื่ออยากจีบเมื่อไหร่จะได้พูดคล่องๆ”

“ไม่ต้องมาแกล้งพี่เลย...” คิรากรทำเสียงขุ่นพลางคีบเนื้อที่เริ่มสุกแล้วใส่จานอย่างรีบร้อน “เอาไปให้คนอื่นเลย”

“โกรธหรือเขินเนี่ย ยังไม่ได้จีบซะหน่อย...หรือจะให้จีบเลย”

“ทั้งสองนั่นแหละ ไม่เคยคบผู้ชายไม่ต้องเลย” คนอายุมากกว่าไม่พูดเปล่า เขารีบยกมือขึ้นปัดๆให้อีกฝ่ายยกจานไปให้คนอื่นที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะ

“พี่คีย์คร้าบบบ มานั่งกินก่อนก็ได้ เดี๋ยวให้ไอ้จินมันทำต่อ” รฐกรที่นั่งล้อมวงอยู่กวักมือเรียก “แจ๊ส มึงไปช่วยไป”

“ไม่เป็นไร พี่ทำให้เสร็จก่อนแล้วเดี๋ยวตามไป เด็กๆกินก่อนเลย”

“ต๊ายยย น่ารวั๊กที่สุดค่ะ อยากได้กระเทยไปช่วยย่างๆปิ้งๆไหมคะพี่คีย์ขา”

“น้องลัคกี้ทานเลยครับ ตามสบาย พี่ทำคนเดียวสะดวกกว่า ขอบคุณนะครับ” คิรากรส่งยิ้มกว้างให้

“แมนม๊ากกกกกกก คุณผู้ชายดูไว้นะคะ ดีไม่ได้ครึ่งของพี่คีย์สุดเลิฟของน้องกี้เลยสักคน อิถัง มึงอย่าแดกเนื้อในจานกูค่ะ อิถังงงงงงง” คนที่ยืนชมอยู่วิ่งถลาเข้าไปตบตีอีกคนที่คีบเนื้อออกมาใส่จานตัวเอง ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดไม่คิดชีวิต

จิณณ์ที่ยืนมองอยู่หัวเราะลั่น แล้วก้มลงกระซิบข้างหู “อยากเปลี่ยนแนวเป็นน้องกี้ไหมครับ พี่คีย์สุดแมน แมนมากกกก แมนพันธุ์แฮมสเตอร์”

คนถูกเรียกเป็นหนูแฮมสเตอร์ถึงกับขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งใส่ “ไม่ต้องมาล้อเลียนพี่เลย ไปกินไป...”

“ไอ้จินคะ มึงกระหนุงกระหนิงกับพี่คีย์มากๆกูคิดนะคะ” จิรนันท์เอ่ยเสียงดังโดยที่สายตายังไม่ละไปจากอาหารในจานของตัวเอง

“ก็คิดไปดิ” คนพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ยักคิ้วให้อย่างท้าทาย

“กรี๊ดดดดด ไม่นะคะพี่คีย์ขา พี่จินขา อย่าทำอย่างงี้ คนหล่อ นิสัยดี อย่ากินกันเอง กูเสียใจ พี่คีย์มากินน้องกี้ดีกว่าค่ะ แซ่บเวอร์นะ”

คิรากรได้แต่ยิ้มแห้งๆให้ “ไม่ได้กินกันเองครับน้องลัคกี้...” ปากพูดไปอย่างนั้น แต่ชายหนุ่มก็รู้ดีว่าหลังจากที่อีกฝ่ายยอมโอบเขาไว้ในอ้อมกอดตอนที่นอนด้วยกันนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงตัวเองที่เปลี่ยนไป— คิดไปเองว่าอีกฝ่ายมีบรรยากาศรอบๆตัวบางอย่างที่ชวนให้คิดถึงอนล ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นการคิดไปเองฝ่ายเดียวล้วนๆ แต่บางที การกระทำของจิณณ์ก็ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้บ้างไม่ต่างกัน

“ใช่ไหมจิน” เขารีบหันไปให้อีกคนช่วยแก้ข่าว

“ตอนนี้ยัง แต่อนาคตไม่แน่” พูดจบเสียงเป่าปากแซวก็ดังขึ้น ถ้ามองไม่ผิด เขาแอบเห็นนัยน์ตาของแฮมสเตอร์ตวัดค้อนออกมาอีกด้วย

“ค่อยย่าง ไปกินได้แล้ว โฟม มึงมาย่างต่อเร็ว”

“จะเสร็จแล้ว กินไปก่อนเลย” คิรากรไม่ยอมเชื่อฟังง่ายๆ เขารีบกวาดเนื้อจานสุดท้ายในถาดวางบนเตาก่อนจะเริ่มย่าง

“เดี๋ยวกินจานนี้ได้ พวกเรากินไปก่อน” ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาย่างโดยที่เสียงของอีกฝ่ายยังดังก้องอยู่ในหู

...อนาคตไม่แน่...

...งั้นเหรอ...

ทางฝั่งโต๊ะที่นั่งอยู่ ปกติแล้วจะมีคุณชายอะไรก็ได้อย่างนภัสรพีนั่งเงียบ...ยิ้ม... แต่ที่แปลกคือ คนขี้โวยอย่างอิชย์กลับนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา เอาแต่เบียดกระแซะคนนั่งข้างๆ

“โฟม...หนาวเหรอ” ประธานรุ่นกระซิบถามเสียงแผ่ว

เจ้าของชื่อส่ายศีรษะเป็นคำตอบ “อยากนั่งใกล้ๆเฉยๆ”

“งั้น....” คนถามเลื่อนมือลงแอบด้านหลังแล้วดึงมืออีกฝ่ายมากุมไว้...ซ่อนเร้นจากสายตาไอ้พวกเพื่อนๆตัวกวนทั้งหลาย “ขอจับมือนะ”

“อื้ม” อิชย์อมยิ้มก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม แล้วค่อยหยิบไม้บาร์บีคิวมาวางบนจาน

“อ้าวๆๆๆๆๆ สองคนนั้นครับ โลกไม่ได้มีแต่มึงครับ สนใจกุกะอาลัวบ้าง จะแดกหญ้าแทนเนื้อแล้ว”

“อะไรของมึงวะถัง เนื้อก็มีเยอะ แดกๆเข้าไปดิวะ” คนตัวเล็กโวยกลับบ้าง

“ถังหึงเหรอ ที่โฟมอยู่กับพี่ไผ่” จิรนันท์ว่าขึ้นบ้างก่อนจะรีบยกโค้กขึ้นดื่มอึกใหญ่

“นั่นไง กูว่าละ ในหัวแกนี่มีแต่ไอ้พลอตนิยายวายให้ผู้ชายได้กันรึไง”

“ก็ดูพูดสิ เรียกร้องความสนใจชัดๆ จะไม่ให้เราคิดได้ไง”

“แจ๊สครับ หน้าอย่างกูเนี่ย” เจ้าตัวชี้หน้าตัวเอง แล้วชี้ไปฝั่งตรงข้ามซึ่งอิชย์นั่งอยู่ “ไม่เอามันทำเมียแหงๆ เพราะกูชอบผู้หญิง ขีดเส้นใต้สามเส้นอย่างหนาว่าผู้หญิงเว้ย ไม่ใช่กระเทยอย่างมึงด้วยอีกี้”

“กัดกูอีกแล้วนะคะถังขา คืนนี้อย่ามามุดเกวียนกี้แล้วกัน น้องแจ๊สขา คืนนี้นอนกะกี้นะ กี้กลัวโดนมันปล้ำ” ลัคกี้คนสวยประจำคณะยิ้มเชือดเฉือนเหมือนนางงามที่เพิ่งตัดหน้าเข้าวินได้ตำแหน่งก่อนจะพูดต่อ “กี้สวย แล้วเลือกด้วย”

“อื้อ นอนด้วยกันสิ ไม่นอนกะกี้เราจะนอนกะใคร” เธอหันมายิ้มให้แล้วหยิบแก้วเปล่าวางลงบนจาน “อิ่มแล้ว พี่คีย์ ตาพี่คีย์แล้วนะคะะะ”

“มาแล้วครับน้องแจ๊ส” คิรากรเดินมาที่โต๊ะโดยที่มีอีกคนเดินตามมาด้วย

“หลบไปอีกี้” ชายหนุ่มหัวสกินเฮดพูดแล้วดันไหล่ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดโวยวายของคนไม่อยากลุก แต่สุดท้ายลัคกี้ก็แพ้แก่สายตาของจิณณ์ที่มองมา หญิงสาวในร่างชายหนุ่มเดินบ่นปอดแปดจิกกัดเป็นพิธีก่อนจะเดินออกไปช่วยเพื่อนสาวอีกคนที่นำหน้าไปยืนอยู่ที่เตาเรียบร้อย

“เอาน้ำอะไร โค้ก เบียร์ หรือเหล้า” จิณณ์ก้มลงกระซิบข้างหูคิรากรเพราะเสียงวงดนตรีเริ่มจะลอยมาจากวงอีกด้านแล้ว

“จินล่ะ เดี๋ยวพี่ไปเอาให้”

มือใหญ่กดที่ไหล่ให้คนที่ทำตัวเป็นรุ่นพี่ตลอดเวลานั่งลงแล้วก้มกระซิบข้างหู “นั่งเลย ผมบริการมั่ง”

คิรากรอดไม่ได้ที่จะต้องยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเองข้างนั้นเอาไว้ คล้ายกับอยากจะให้มันหายร้อนเพราะรุ่นน้องตัวโตที่ชอบก้มลงมาพูดข้างๆ

“เอาโค้ก...ก็พอ...”

จิณณ์ตะเบ๊ะล้อเลียนพร้อมกับยักคิ้วให้ เขาก้าวยาวๆเข้าไปกลางวงที่พวกรุ่นพี่นั่งกอดถังน้ำแข็งแล้วหยิบเบียร์ในถังน้ำแข็งพร้อมๆกับรินโค้กใส่แก้วที่ทำจากขวดน้ำตัดครึ่ง ชายหนุ่มถูกให้ดื่มเหล้าในวงไปเกือบสองแก้วกว่าจะหลุดออกมาได้

“โทษที นานไปหน่อย” คนพูดหน้าแดงนิดๆแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเบียดแลกไออุ่นกันและกัน ยังดีที่ว่าตอนนี้รถถังกับลัคกี้ลากอาลัวไปร่วมวงร้องเพลงแล้ว ส่วนพี่ไผ่กับโฟมก็เดินเล่นสร้างโลกส่วนตัว อาการอ้อน...ที่เกิดอยากจะทำขึ้นมาจึงไม่ตกเป็นเป้าสายตาใคร

“กินเหล้ามาเหรอ...” เขาหันมาถามเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยมาอ่อนๆ “อายุยังไม่ถึง...ไม่ใช่เหรอ”

จิณณ์ตอบคำถามด้วยรอยยิ้มบางเบาก่อนจะพรูลมหายใจใกล้ผิวแก้มสีนวลของรุ่นพี่

“อ...อะไรจิน” คิรากรเอนตัวออกห่างเล็กน้อยเพื่อจะมองสีหน้าของอีกฝ่ายให้ถนัดขึ้น

“มึนหัว...พี่เต้แม่งผสมเหล้าขาวแหง แรงชะมัด” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ปลายนิ้วก็สะกิดฝาเบียร์แล้วกดเปิดออก

“ก็ไม่ต้องกินแล้วสิ...กินโค้กกับพี่แทน” เขาเอื้อมมือมาจับกระป๋องเบียร์เอาไว้

“จะกินเบียร์....” ปลายเสียงตวัดอย่างตั้งใจจะรวนเต็มที่...เช่นเดียวกับรอยยิ้มพราวระยับบนใบหน้านั่นแหละ

“ดื้อนะเรา ถ้าเมาพี่แบกกลับไม่ไหวนะ” คนอายุมากกว่าถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะจิบโค้กของตัวเองสลับกับจิ้มเนื้อในจานขึ้นกิน

ท่ามกลางความเงียบในคืนฟ้าพร่างดาว จิณณ์กลับไม่รู้สึกเหงาหรือหนาวสักนิด ถ้าจะรู้สึก...ก็มีเพียงสัมผัสอุ่นๆของคนข้างๆ แขนแนบแขน ไหล่แตะไหล่ ไม่ได้มากมายแต่ก็มากพอที่จะทำให้รู้สึกดีกว่าอยู่คนเดียว เขาเอนหัวซบลงบนไหล่ของตัวยุ่ง...รุ่นพี่ที่ต้องคอยดูแล ไอ้แว่นแฮม แล้วได้แต่แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว

...พี่ไม่รู้หรอก ว่าผม ‘แอบ’ มีความสุขแค่ไหน...

“ไม่เมาหรอก เมาก็นอนนี่ก็ได้”

“เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก...แล้วมาอ้อนพี่จะได้อะไร ดูถังนู่น ไปตามสาวๆไม่ยอมเลิก...” คิรากรหัวเราะเบาๆ เขาขยับแขนอีกข้างมาลูบศีรษะของรุ่นน้องที่ตัดผมทรงสกินเฮด

“อ้อนไม่ได้เหรอ”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร...แต่ทำมากๆ.........พี่....” เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้ง รู้ตัวดีว่ายังลืมคนรักเก่าไม่ได้ แต่ถ้าจิณณ์ยังทำตัวแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเผลอใจไปเมื่อไหร่

และถ้าถึงตอนนั้น คงไม่ได้คุยเล่นกันอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

...ผู้ชายปกติที่ไหนจะอยากให้ผู้ชายมาชอบ...

“ทำไมอ่ะ...ก็อยู่กับพี่แล้วผมสบายใจ” จิณณ์กระดกเบียร์ผ่านลำคอแล้วหันมามองหน้าคิรากร

“ก็รู้.....แต่พี่.......จินก็รู้ว่าพี่...ชอบผู้ชาย.......”

“ก็รู้...” คนตอบจงใจทำเสียงอ่อนให้เหมือนเสียงของรุ่นพี่ที่พูดออกมา “รู้อยู่แล้ว...แล้วไง”

“ทำมากๆ........พี่คิดขึ้นมาจะทำยังไง” คิรากรก้มหน้าลงเพราะไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำหน้าแบบไหน แต่ทางที่ดี ก็ควรจะพูดให้ชัดเจนไว้ก่อน

“ก็ถ้าคิดแล้วพี่ลืมแฟนเก่าได้...ไม่ทำหน้าเศร้า...ก็คิดได้นะ” จิณณ์ยิ้มแล้วยกเบียร์ขึ้นดื้ม กระป๋องเปล่าถูกบี้จนแบนก่อนจะชู้ตลงไปยังถุงดำที่อยู่ใกล้ๆ

“รู้หรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา...” คนอายุมากกว่าเม้มปากแน่น ค่าที่อีกฝ่ายชอบทำตัวสบายๆเกินไปเลยอาจทำให้ไม่คิดถึงผลที่จะตามมาจากการกระทำของตัวเอง

“อ้าว คนนะพี่ไม่ใช่ปลาทอง....ไม่ได้เมาด้วย ที่พูดน่ะจะเอาจริงก็ได้นะ” คิ้วเข้มยักตบท้ายอย่างไม่ทิ้งลายความกวน

ชายหนุ่มเม้มปากเข้าหากันอีกครั้งก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับจิณณ์ “พี่บอกแล้วไง ว่าเลิกแหย่ได้แล้ว”

“ไม่ได้แหย่...แต่เอาจริง”

คิรากรไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องเป็นฝ่ายทำแบบนี้ ร่างบางถือโอกาสที่จิณณ์ยังไม่ทันตั้งตัว จับใบหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะขยับเข้าหาแล้วแตะริมฝีปาก...จูบ เพียงแผ่วเบา

คนที่นั่งยิ้มอยู่เมื่อครู่ถึงกับเหวอ ดวงตาที่เบิกค้างจับจ้องมองที่คิรากรก่อนจะกระพริบตาย้ำๆราวกับจะเรียกสติว่าถูกทำอะไรลงไป เกือบสิบวินาทีนั่นแหละ...จิณณ์ถึงรู้ตัวว่าตัวเองโดนรุ่นพี่ตัวแสบขโมยจูบไปแบบจังๆ

“ไอ้พี่คีย์....” พูดได้เท่านั้นเสียงก็ขาดหายไป “จูบจริงเหรอวะ”

“ก็ไม่ยอมเลิกแหย่พี่...ทีนี้เลิกหรือยัง”

คนถูกจูบไม่พูดอะไรแต่ดวงตาสีเข้มกลับถลึงใส่อย่างเอาเรื่องแล้วหันไปอีกทาง เขาไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนี่ว่ายังไง รังเกียจก็ไม่ใช่แน่นอน ชอบ...ก็คงไม่ แต่ที่แน่ๆ นอกเหนือกว่าอะไร จิณณ์เชื่อว่าถ้าจ้องหน้ากันต่อไอ้แว่นแฮมที่ขโมยจูบเขาจะจับอาการได้แน่

...สัด เขินทำเชี่ยไรวะไอ้จิน....

“เดี๋ยวโดนจูบกลับแน่” ตั้งสติได้ จิณณ์ก็ยกยิ้มปิดอาการสวนคำพูดกลับ

“จูบผู้ชายนะ ทำไม่ได้หร-?! หือ?” ความสนใจถูกเบนไปยังเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ปกติคนที่ติดต่อกันก็มีแต่คนตรงหน้า ทำให้คิรากรแปลกใจจนต้องหยิบขึ้นมาดู

“ไม่โชว์เบอร์ด้วย...” แม้จะพูดแบบนั้น เขาก็กดรับสายแล้วเอ่ยตามมารยาท

“สวัสดีครับ?”

-คีย์ ผมอันนะ....คิดถึง...-

“?!” น้ำเสียงที่ไม่ได้ยินมานานทำเอาคิรากรถึงกับชะงักไป หัวใจเต้นรัวขึ้นจนต้องยกมือขึ้นกดไว้

“อ เอาเบอร์ผมมาจากไหน...”

จิณณมองท่าทางที่ดูแปลกไปของคนตรงหน้าอย่างสงสัย...ใครกันที่โทรมาแล้วทำให้พี่คีย์เป็นแบบนี้

-เรื่องนั้นช่างเถอะ กลับมานะคีย์ ผมคิดถึงคุณ....อันคิดถึงคีย์นะ-

แค่คำว่าคิดถึงของอีกฝ่ายก็ทำให้อยากจะเจอหน้าขึ้นมาเสียได้ คิรากรนึกเกลียดตัวเองที่หวั่นไหวไม่เข้าท่าแบบนี้ ตัวเองตัดสินใจชัดเจนแล้วว่าจะไม่กลับไป ถ้าอนลไม่ยอมหย่า

“...ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าเลือกไม่ได้......ผมก็ไม่กลับไป แค่นี้นะอัน” ชายหนุ่มรีบกดตัดสายก่อนที่ตัวเองจะคุมน้ำเสียงให้ราบเรียบไม่ได้

คนที่อยู่ข้างๆรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร จิณณ์ยืนมองคิรากรที่จ้องโทรศัพท์อย่างเงียบงัน ก่อนที่จะก้าวเข้าไปหาแล้วดึงมากอดเอาไว้ ถ่ายทอดความอบอุ่นเข้าแทนที่ในหัวใจบอบช้ำ

“ไม่เป็นไรนะ...ผมอยู่ด้วย”

“................ขอบคุณนะ...จิน” คิรากรเอ่ยพูดเสียงเบา ปล่อยให้ร่างสูงโอบกอดตัวเองที่รู้สึกว่างเปล่าเอาไว้

“มัน.....เขา...โทรมาทำไม”

“บอกว่าคิดถึง ขอให้พี่กลับไป” เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของจิณณ์ “บ้าเนอะ รู้อยู่แล้วว่าถ้าไม่หย่า พี่ก็ไม่กลับ คงนึกว่าพี่จะใจอ่อนอย่างทุกที”

“แล้ว...อ่อนหรือเปล่า” ถามไป แต่ไม่รู้เลยว่าลุ้นกับคำตอบตัวเองแค่ไหน จิณณ์ได้แต่กอดคิรากรที่ดูอ่อนแอเสียดื้อๆเอาไว้แนบอกอย่างเป็นห่วง...ห่วง...ทั้งที่เป็นเพียงบัดดี้กัน

“ก็...พยายามไม่อ่อนอยู่ ถึงได้ตัดสายไปนี่ไง” พอถูกกอดเอาไว้อีก ร่างบางจึงปล่อยเลยตามเลย อาศัยความอบอุ่นจากอีกคนให้รู้สึกดีขึ้น

“ดีมาก เป็นหนูแฮมสายพันธุ์ใหม่แบบพัฒนาแล้ว” ปลายคางของคนสูงกว่ากดลงที่กลางศีรษะแล้วถูเบาๆด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มือใหญ่โอบกระชับรัดด้วยท่อนแขนแข็งแรงจนตัวแทบจะแนบเป็นเนื้อเดียวกัน จิณณ์ภาวนาให้คนในอ้อมกอดไม่เงยหน้าขึ้นมามอง...เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าของตัวเองกำลังเป็นยังไงอยู่

“เป็นแฟนผมแทนไหม”

คิรากรหัวเราะเบาๆกับคำถามของอีกคน “แหย่พี่อีกแล้วนะ”

เสียงหัวเราะแผ่วเบาไร้ความหมายดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงียบลงพร้อมๆกับท่อนแขนที่คลายให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ จิณณ์จับมือของคิรากรแล้วพาจูงเดินไปยังลานดูดาวที่อยู่ใกล้ๆ

ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวนับร้อยที่ส่องแสงระยิบระยับ ลมพัดแผ่วพริ้วกิ่งไม้ไหวเอน...เป็นลมหนาวที่ชวนให้บรรยากาศอ่อนหวานจับหัวใจ จิณณ์นั่งเอนหลังพิงท่อนไม้ที่วางทิ้งไว้ก่อนจะดึงใครอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆให้เขยิบเข้ามาชิด ไหล่เกยไหล่ ผิวสัมผัสผิวผ่านเนื้อผ้า และเมื่อคิรากรนั่งนิ่ง เขาก็ล้มตัวลงนอนหนุนตักแหงนหน้ามองท้องฟ้า...และใบหน้าเศร้าๆของใครบางคน

“.....” คนอายุมากกว่าก้มลงมามองจิณณ์แล้วยิ้มให้จางๆ “อะไรหือ”

“ยังไม่ได้ชำระความเรื่องพี่จูบผมเลย”

“.........เรื่องนั้น...ต้องชำระอะไรเหรอ” ถ้าอีกฝ่ายไม่พูดถึง เขาคงลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเมื่อครู่ทำอะไรลงไป

“รับผิดชอบด้วยสิ” ปลายนิ้วที่เอื้อมขึ้นแตะกลีบปากบางไล้แผ่วเบา...เช่นเดียวกับแววตาวาวระยับ

“...” แววตาของคิรากรหมองลงก่อนที่จะเอ่ยตอบ “...ขอโทษนะ พี่...ไม่ได้ตั้งใจ.....”

“พูดเล่นน่า...ดาวสวยจะตาย ก้มหน้าทำไม เงยหน้ามองฟ้าสิ”

ชายหนุ่มแหงนหน้ามองฟ้า ดวงดาวน้อยใหญ่เรียงรายประดับผืนฟ้าสีดำดูงดงามแบบที่หาดูไม่ได้ในเมืองใหญ่ “อืม...สวยจริงๆด้วย”

“เรื่องอะไรที่มันวุ่นวายใจก็ทิ้งไปบ้างก็ได้ พรุ่งนี้ก็วันใหม่แล้ว.....พี่คีย์ต้องผ่านไปได้แน่ๆ”

เพราะคำพูดให้กำลังใจทำให้คิรากรรู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมา ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อยพลางขยับเรียกอีกคน “จิน...ลุกขึ้นก่อนได้ไหม...”

จิณณ์ขยับลุกขึ้นนั่งตามคำขอ เขามองเข้าไปในดวงตาของคิรากรแทนคำถามมากมาย

“ขอยืมตัวหน่อยนะ...” คิรากรไม่รอฟังคำตอบ แต่เอนศีรษะพิงซบกับหัวไหล่ของอีกคน แล้วดึงแขนข้างนั้นของจิณณ์มากอดเอาไว้ “แป๊บเดียวก็ได้...”

ไม่รู้ความความรู้สึกไหนมากกว่ากัน ระหว่างตกใจ...กับอบอุ่นใจ

แต่อย่างน้อย...ชายหนุ่มที่ขาดแคลนความอบอุ่นมานานอย่างเขา ดีใจที่มีคิรากรอยู่ข้างๆ....

...ดีใจ...และสุขใจ...

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

To be continued...

 

 

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
ใส่ความจริงจังลงไปอีกนิดได้มั้ยล่ะ พี่เขาไม่เชื่อน่ะเห็นป่ะ


 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
น้องจิณรีบตัดสินใจนะคะ ว่าจะจีบแน่รึเปล่า
ถ้าแน่ใจแล้วลุยเลยค่ะ
อย่ามาหยอดเล่นนะ สงสารหนูแฮมสเตอร์ งื้อออ

ออฟไลน์ AoMSiN555

  • กรูบ้า.....อย่าทักกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เอิ้ยยยยยย จะกุบกิบไปไหนเนียยยยยยยยย :-[

ไอ้พี่อันแกไม่ต้องโทรมาอีกเลยนะ  :z6:

พี่คีย์จะได้ไม่ต้องเจ็บอีก ให้จินรักษาให้ ให้หมดใจเลย อิ๊กๆๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
จิณณณณณณณณณณณณณณณณณ อย่ามัวลังเลสิ  :z3:   จีบจริงจังไปเล้ยยยยยยยยยยยยย  :katai2-1:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ถ้าเราเป็นพี่คีย์ก็ไม่เชื่อจินดูมันทีเล่นทีจริง
ชอบจังๆแล้วพี่คีย์โอนเอนไปหาแฟนเก่าแล้วจะรู้สึก
เงี้ยแระคนเรา อะไรที่มีไว้แล้วไม่รักษาพอหายไปก็กลับอยากได้คืนอยู่กับเมียแกไปนั้นแหละอัน บาย

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
จิณรีบๆหน่อยนะ ไม่งั้นพี่คียื์โดนแย่งกลับไปแน่ๆ

ออฟไลน์ Pumpkin_23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
รีบๆจีบเลย  :katai4:

hanachiko

  • บุคคลทั่วไป
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
จินนนนนนนนนนน สู้สู้วววววววววววววว

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

แวะมานอนรอ

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
สวัสดีค่ะ หายไปนานเลย หมีกับดอกไม้ภารกิจรัดตัวทั้งคู่ ขอบคุณที่ยังคิดถึงกันนะคะ

คราวนี้มาแบบเบาๆหวานๆกันบ้าง เอาให้กรุบกริบสมชื่อกันไปเลย อิอิ

ป.ล. ไอ้น้องบิ๊กคือใคร จะกลับมามีบทบาทอีกเร็วๆนี้แน่นอนค่ะ

ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ


kagehana








-8-





“เริ่มหนาวขึ้นอีกแล้วนะ...” คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นลอยๆพร้อมกับขยับตัวเบียดกับพชรเข้าไปมากกว่าเดิมให้ไออุ่นจากร่างกายได้ถ่ายทอดถึงกัน ก่อนจะแหงนหน้ามองดวงดาวนับพันบนท้องฟ้าอีกครั้ง


ที่ถูกเบียดวาดวงแขนโอบไหล่เล็กแล้วดึงให้เอนซบ มือใหญ่ลูบต้นแขนให้เบาๆให้ผิวเย็นอุ่นขึ้น “หนาวมากรึเปล่า กลับเกวียนไหม”


“ไม่เป็นไร อยากนั่งดูดาวกับพี่ไผ่ก่อน” อิชย์ตอบพร้อมรอยยิ้มหวานบนใบหน้า รอยยิ้มแบบที่มีไว้สำหรับคนตรงหน้าคนเดียว


พชรมองรอยยิ้มนั้นด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม...ไม่นึกว่าตัวเองจะได้คบกับเพื่อนอย่างเม็ดโฟมในแบบที่ลึกซึ้งขนาดนี้ แม้ว่าจะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาล...แม้ว่าจะรู้ตัวว่าชอบ แต่ก็ไม่เคยคาดฝันว่าจะไปได้ไกลเกินกว่าคำว่าเพื่อนสนิท


“โฟมชอบเราตั้งแต่ตอนไหนเหรอ”


“.........นานแล้ว ก็โฟมหน้าตาแบบนี้ ถึงโดนแกล้งบ่อย แต่พี่ไผ่ไม่เคยเลย...ช่วยโฟมอีก”


“เรื่องตั้งแต่อนุบาลแล้วไม่ใช่เหรอ เราจำได้...โฟมหน้าเหมือนเด็กผู้หญิง ขี้แง ไอ้บิ๊กมันชอบแกล้ง “


“อื้อ ก็พี่ไผ่ใจดี โฟมเลยชอบอยู่ด้วย” คนตัวเล็กขยับแขนมาโอบเอวพชรเอาไว้ “แต่มารู้เอาก็ตอนพี่ไผ่เริ่มเล่นบาสนั่นแหละ”


“ทำไมอ่ะ ตอนเล่นบาส....จำไม่เห็นได้เลย” คนถามนึกย้อนไปถึงวันวาน...ในตอนที่เขาเป็นนักบาสตัวโรงเรียนแล้วอดนึกไม่ได้ว่าตัวเองมีอะไรให้ชอบ


“ก็....”










...













อิชย์นึกย้อนไปถึงตอนอยู่ชั้นมัธยมต้น พชรที่เริ่มตัวยืดหันไปเล่นบาสเก็ตบอล ทำให้เขาที่ไม่มีกิจกรรมให้ทำ ต้องไปนั่งรอดูอีกคนซ้อมในทุกๆเย็นหลังเลิกเรียน


“ไผ่----- สู้ๆนะ------” เสียงแหลมเล็กของเด็กสาวดังจากอีกด้านของสนามเรียกความสนใจของเด็กหนุ่มร่างเล็กให้หันไปมอง


ในตอนแรก เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นพชรหันไปมองและยิ้มให้ ความรู้สึกไม่พอใจไร้ที่มาก่อตัวขึ้นจนใบหน้างอง้ำ


จุดหมายของคนในสนามอยู่ที่ลูกกลมๆกับห่วงที่อยู่สูงเหนือศีรษะไปเกือบเท่าตัว พชรเลี้ยงลูกหลบฝ่ายตรงข้ามพลิกลูกมาเลี้ยงอีกมือก่อนจะส่งต่อให้เพื่อนในทีมที่ไปยืนรออยู่ใต้แป้น เด็กหนุ่มรับบอลแล้วชู้ตขึ้น ลูกสีส้มลอยสูงทว่ากลับกระแทกแต่เพียงกรอบนอก พชรแทบไม่ได้คิดถึงอะไรในยามที่กระโดดคว้าแย่งมา เขาสปริงตัวอีกครั้งแล้วโยนมันลงไป....เสียงลูกกระแทกกับห่วงเหล็กแล้วหล่นผ่านตาข่ายลงไปเป็นเสียงที่เขาชอบที่สุด


“เยส!!!” พชรกำมือแล้วแทงศอกไปข้างหลังอย่างสะใจทันทีที่กรรมการเป่าหมดเวลา มือใครต่อมือใครพุ่งมาหาที่เขาทั้งตบหัว ตบบ่า ด้วยความสุขของทีมที่ได้รับชัยชนะ พชรพูดคุยกับเพื่อนๆในทีมแล้วหันไปยักคิ้วใส่ทีมB


“คราวหน้ามึงมาอยู่ทีมBมั่งสิวะไผ่”


“เออ เดี๋ยวซ้อมแข่งคราวหน้ากูอยู่ให้ เฮ้ย กลับก่อนนะ จารย์หวัดดีครับ”


พชรยกมือไหว้โค้ชคุมทีมแล้ววิ่งเหยาะๆผ่านกลุ่มเด็กผู้หญิงที่มายืนแอบรอ หนึ่งในนั้นใจกล้าที่จะโบกมือให้เขา เด็กหนุ่มเลยยิ้มแล้วโบกกลับ...เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่น พชรยักไหล่แล้วเดินไปหยุดหน้าเด็กหนุ่มตัวเล็กที่ทำหน้างอง้ำ


“โฟม....กลับบ้านกัน ขอผ้าเช็ดตัวหน่อยสิ”


อิชย์ยื่นผ้าเช็ดตัวในกระเป๋ายื่นส่งให้โดยไม่พูดไม่จา สายตายังคงมองไปที่เด็กสาวกลุ่มนั้น


“เป็นไรปะ...แอบปิ๊งสาวๆในกลุ่มนั้นเหรอ”


“เปล่า! พี่ไผ่นั่นแหละ” เขาขึ้นเสียงก่อนจะลุกยืน “เล่นแต่บาสให้สาวกรี๊ด”


เด็กหนุ่มหยิบขมวดคิ้วมุ่นในคำกล่าวหา เขาไม่เคยคิดจะเล่นให้สาวกรี๊ด....แต่ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ “อ้าว เราเปล่า สาวๆเขามากรี๊ดเอง ไม่ได้กรี๊ดแต่เราเหอะ กรี๊ดให้พี่ภูมิกับพี่เอมากกว่าอีก”


“...ไม่เห็นน่าสนุกเลย บาสอะ”


“หัดเล่นไหม เดี๋ยวสอนให้ โฟมตัวเล็กไปหน่อยแต่เป็นพ้อยน์การ์ดพอได้”


“ไม่เอา ไม่ชอบ” เขาตอบทันที “ถ้าพี่ไผ่จะเล่นบาส โฟมไม่รอกลับบ้านแล้วก็ได้ เดี๋ยวกลับกับไอ้บิ๊ก” ไอ้บิ๊กที่ว่าก็คือเพื่อนร่วมชั้นตั้งแต่อนุบาล จากที่คอยแกล้งเขาตลอด ปัจจุบันกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแล้ว


“โกรธอะไรเราเหรอ” พชรถามด้วยความสงสัยพร้อมๆกับดึงกระเป๋าเป้มาสะพายบนบ่า “จะกลับกับไอ้บิ๊กแล้วทิ้งเราเหรอ”


“ก็พี่ไผ่ทิ้งโฟมมาเล่นบาสก่อนอะ”


พชรโปะผ้าขนหนูชื้นเหงื่อบนศีรษะกลมมนที่ผมยังไม่ยาวนักแล้วขยี้แรงๆอย่างหมั่นเขี้ยว “ไม่ได้ทิ้ง ออกกำลังกาย โฟมแหละไม่ยอมออกบ้าง ตัวเล็กอย่างกับลูกหนู”


“ก็โฟมไม่ชอบเหงื่อ...ร้อนด้วย” คนไม่ชอบเหงื่อไม่ได้ผลักหรือปัดผ้าขนหนูชื้นๆออกไปจากศีรษะตัวเองแต่อย่างใด


“งั้นเราเลิกเล่นก็ได้ โฟมจะได้ไม่ต้องรอ...ดีไหม”


ในทีแรกก็นึกลิงโลดในใจ ใบหน้าที่งอง้ำคลายออก แต่ก่อนที่อิชย์จะได้พูดอะไรต่อ เขาก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง “...แล้วพี่ไผ่ชอบเล่นบาสหรือเปล่า”


“ก็ชอบ...แต่ชอบโฟมมากกว่า ไม่อยากให้โฟมรอ” คนตอบตอบพร้อมรอยยิ้มยิงฟันขาว


คล้ายกับคำพูดว่าชอบตัวเองมากกว่าจะทำให้ความรู้สึกไม่พอใจของเด็กหนุ่มหายไปในที่สุด อิชย์ยิ้มกว้างให้กับร่างสูงก่อนจะเอ่ยบอก


“...โฟมรอก็ได้ พี่ไผ่เล่นเถอะ”


“ขอบใจนะ...แต่ห้ามกลับกับไอ้บิ๊กเด็ดขาด ไม่งั้นเราจะโกรธโฟม โอเคป่ะ”















...











“นั่นแหละ...โฟมเลยรู้ ว่าชอบ..............พอแล้ว...ตาพี่ไผ่เล่ามั่ง เขินแล้ว...” อิชย์ก้มหน้าลงซุกกับต้นแขนของร่างสูง พร้อมทั้งคะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายได้เล่าเรื่องส่วนของตัวเองบ้าง


พชรหัวเราะอย่างนึกเอ็นดู ใครจะรู้ว่าการที่เล่นบาสแล้วสาวกรี๊ดจะทำให้คนๆนึงถึงกับรู้ใจตัวเองขึ้นมาได้...ยังดีที่เขาไม่ได้พูดความลับเรื่องไอ้บิ๊ก ว่าเขาต้องใช้ทั้งคำขู่ทั้งปลอบแค่ไหนว่าจะเขี่ยมันออกไปได้


ยังดี...ที่มันไปติดถึงมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่ ตามคำแนะนำของเขาที่บอกให้มันเลือก


“เล่าเหรอ...อยากฟังอะไรดีล่ะ” คนพูดแกล้งทำเฉไฉ


“พี่ไผ่ไง...ชอบโฟม...ตั้งแต่เมื่อไหร่”


“ไม่บอกหรอก”


“อะไรอะ บอกนะ บอกโฟมนะ นะพี่ไผ่นะ” กิริยาออดอ้อนแบบนี้ไม่มีวันที่เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มจะได้เห็นเป็นอันขาด


“ก็....ตั้งแต่ตอนเล็กๆล่ะมั้ง” คนตอบตอบอย่างอมพะนำ แต่ในหัวไพล่นึกไปถึงสมัยชั้นเรียนอนุบาล....วันที่ได้เจอกับ “น้องเม็ดโฟม” วันแรก














...











“เอ้าทุกคน วันนี้ครูอ้อมพาเพื่อนใหม่มาให้รู้จักกันนะคะ เม็ดโฟม ทักทายเพื่อนๆหน่อยไหมคะ”


จบคำพูด เด็กตัวน้อยที่ยังสูงไม่พ้นเอวของครูสาวก็ค่อยๆโผล่ใบหน้าออกมาจากด้านหลัง มือเล็กๆจับชายกระโปรงของครูอ้อมเอาไว้ขณะที่ดวงตากลมโตมองไปรอบๆห้อง


“จื้ออะไยนะ” เด็กชายตัวโตตะโกนมาจากหลังห้อง พลาสเตอร์ที่ติดข้างแก้มกับปลายจมูกบอกให้รู้ถึงสถานะพี่ใหญ่ในชั้นอนุบาลเด็กเล็ก


ครูอ้อมรุนหลังให้เด็กตัวเล็กมายืนข้างหน้า อิชย์แหงนคอมองหน้าครูก่อนจะตอบด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก “เม็ด โฟมมม”


เด็กชายบิ๊กเท้ามือกลมป้อมแล้วชะโงกตัวออกมาจากโต๊ะเรียนที่สูงครึ่งตัวเขา “เลาชื่อบิ๊ก ลูกพ่อบู๊ น้องเม็ดโฟมชื่อแป๊กกกแปก” น้ำเสียงแจ้วๆที่ยังพูดไม่ชัดเอ่ยยานคางคล้ายจะล้อเลียนในที


“แปกยังไง แม่เม็ดโฟมตั้ง แปกตงไหน” คิ้วเล็กๆขมวดมุ่นเข้าหาพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มงอง้ำ “นิฉัยไม่ดี”


“ก็แปกสิ คนอะไยจื้อเม็ดโฟม ตัวก็ซีดเหมือนโฟมด้วย”


“........” ใบหน้าของเด็กชายตัวน้อยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกับปากที่เริ่มเบะออก “ซีด...อะไย.....อึก...”


“คุงคูค้าบ” เด็กชายตัวเล็กที่นั่งอยู่กลางห้องยกมือขึ้นก่อนที่เสียงร้องไห้จะดัง “ให้น้องเม็ดโฟมนั่งกับน้องไผ่นะคับ” พูดจบ เด็กชายพชรก็ยิ้มตาหยีให้กับเด็กใหม่ที่ใกล้จะร้องไห้เต็มแก่ “เลาชื่อไผ่นะ”


“เม็ดโฟม ไปนั่งกับพี่ไผ่นะคะ บิ๊ก เลิกแกล้งเพื่อนได้แล้วนะคะ ไม่งั้นครูจะบอกคุณพ่อนะคะ” ครูอ้อมรุนหลังอิชย์ให้เดินเข้าไปหา


ร่างเล็กก้าวขาสั้นๆเดินฉับๆไปที่โต๊ะว่างตรงกลางห้อง “...จื้อเม็ดโฟม.....”


“อื้อ เป็นเพื่อนกันนะ” นิ้วก้อยสั้นๆกลมๆยกขึ้นพร้อมรอยยิ้มหวานรับกับแก้มป่องๆสีแดงสด


“เป็น” อิชย์พยักหน้ารัวเร็วพลางรีบยื่นนิ้วก้อยของตัวเองขึ้นมาเกี่ยวไว้บ้าง ก่อนที่รอยยิ้มกว้างจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กที่เกือบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ


“ถ้าน้องบิ๊กแก้ง น้องโฟมบอกเลานะ เลาจะฟ้องคุงคูให้” เด็กชายตัวน้อยให้สัญญาเป็นมั่นหมาย


“อื้อ ถ้าบิ๊กแก้ง เม็ดโฟมจะบอกพี่ไผ่”


“เลาไม่ได้เป็นพี่นะ”


“ก็คูเลียกพี่... เม็ดโฟมเลยเลียกด้วย” ดวงตากลมโตหรี่หยีจนกลายเป็นเส้นโค้งยามที่เด็กน้อยยิ้มกว้าง


“ตามใจ” เด็กชายตัวน้อยอีกคนมองเพื่อนใหม่ก่อนจะเอื้อมมือป้อมไปวางแปะบนหัว “โอ๋นะ โอ๋นะ เลาจะดูแลน้องโฟมเอง...”


ไม่เคยรู้เลยว่าคำสัญญาของเด็กไม่กี่ขวบ...จะยาวนานจนถึงทุกวันนี้...









...







“จากอยากปกป้อง....ไม่รู้ว่ารักโฟมตั้งแต่เมื่อไหร่” น้ำเสียงทุ้มนุ่มพูดแผ่วเบายามที่อ้อมกอดอบอุ่นกระชับขึ้น


คนตัวเล็กยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะขยับตัวห่างจากอ้อมกอด “พี่ไผ่ เขยิบนิดนึง”


พชรขยับตามคำบอกของคนรักด้วยสีหน้าที่ยังคงสงสัย


อิชย์คลานเข่าไปนั่งอยู่ระหว่างขาของร่างสูงแล้วเอนหลังซบกับแผ่นอกกว้าง “แบบนี้อุ่นกว่า”


คนที่จู่ๆก็ถูกจู่โจมไม่รู้ตัวถึงกับทำอะไรไม่ถูก มือที่อ้าค้างยังคงค้างอยู่เช่นเดิมแม้ว่าแผ่นหลังอุ่นๆจะเบียดเข้าหาสักแค่ไหน ร่างที่อยู่ตรงกลางขยับยุกยิกอยู่ครู่หนึ่งจนได้จังหวะสบายตัว ใบหน้าของคนที่เขาหลงรักมาตลอดชีวิตก็เงยหน้าขึ้นสบตามอง


“เอางี้เลยเหรอโฟม......”


“อื้อ...ได้หรือเปล่า” อิชย์ไม่พูดเปล่า เขายังตบรอยยิ้มกว้างให้อีกทีก่อนจะยกแขนของร่างสูงให้มาโอบตัวเองเอาไว้


“มีใครเคยบอกป่ะ...ว่ากล้าผิดกับหน้าตาเลย” พูดจบ คนพูดก็รั้งเข้ามากอดแล้วหอมที่ข้างหูเบาๆ


ชายหนุ่มร่างเล็กหัวเราะเบาๆขณะย่นคอหนี “เคย จั๊กจี้นะพี่ไผ่”


“อยากลากโฟมเข้าห้องเลยว่ะ แต่เสียดาย....ดาวอุตส่าห์สวยขนาดนี้”


“ก็...ดูดาวด้วยกันก่อน...เนอะ” แม้จะไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่อิชย์ก็ไม่ได้ใสซื่อเสียจนไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดแปลว่าอะไร


พชรไม่ได้ตอบ...แต่แตะริมฝีปากเบาๆที่ข้างขมับเช่นเดียวกับแขนที่กอดรัดแน่นขึ้น “รักโฟมนะ.....”


“พูดบ่อยๆงี้ โฟมมีความสุขตายแน่ๆ”


คนบอกรักยิ้มเบาๆแล้งก้มใบหน้าลงไปคลอเคลียผิวแก้มนิ่ม ริมฝีปากอุ่นๆแตะลงใกล้ๆพร้อมที่จะขยับเข้าไปมอบจุมพิตหวานล้ำ....


“น้องโฟม อยู่นี่เอง....อ้าว ไผ่ด้วยเหรอ” ชายหนุ่มผิวแทนที่เพิ่งมาถึงถามอย่างแปลกใจ


เจ้าของชื่อหันไปมองทันทีด้วยความตกใจ “พี่แพท? มี...อะไรเหรอ” มือของอิชย์ยังจับแขนของร่างสูงไว้แน่น


“จะชวนไปนั่งกินเบียร์ดูดาวกัน แล้วก็.....พรุ่งนี้ไปถ่ายรูปชมพูภูคากันนะ”


“ผมไม่กินเบียร์...แต่ว่า พรุ่งนี้ผมไปกับพี่ไผ่แล้ว...” คนตัวเล็กพยายามตอบอย่างสุภาพตามเคย


“ปฏิเสธกันอย่างนี้พี่น้อยใจนะ” วศินพูดเสียงอ่อนหากแต่ปรายตาหนุ่มรุ่นน้องที่ยังคงกอดคนที่เขาตั้งใจจะจีบอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่


“เจอกันทุกวันอยู่แล้ว...ขอยืมตัวพรุ่งนี้วันเดียวนะน้องโฟม...”


“แต่...โฟมสัญญากับพี่ไผ่แล้ว...” อิชย์เหลือบมองพชรโดยหวังให้อีกฝ่ายช่วยเหลือ


“ขอโทษด้วย...โฟม กลับเกวียนเหอะ” ถึงจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่แววตาดุดันทำให้วศินถึงกับชะงัก แต่ไม่ไย...กลับท้าทายตอบ


“หวงเหรอไผ่ เป็นเพื่อนกันทำไมต้องกันท่าพี่วะ”


ร่างเล็กรีบดึงชายเสื้ออีกฝ่ายแล้วกระตุกสองสามที “ก็....ตามนั้นแหละพี่แพท เดี๋ยวโฟมกลับเกวียนก่อนนะ...”


“เดี๋ยว---” มือที่ยื่นออกมาจะจับถูกปัดออก วศินจ้องชายหนุ่มที่ปัดมือของเขาด้วยแววตาท้าทาย


“คนนี้ของผม พี่อย่ายุ่ง”


คราวนี้อิชย์เงียบปากไป เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าพชรจะพูดออกมาแบบนี้


“ไรวะไผ่ เฮ้ย! เดี๋ยวดิ โฟม!” วศินตะโกนไล่หลังคนที่ลากมือรุ่นน้องที่เขาจะจีบไป ชายหนุ่มว่าที่เภสัชถอนใจแล้วอดพูดไม่ได้ว่า “หวงชิบ...”


“พี่ไผ่...บอกไปแบบนั้น จะดีเหรอ” ร่างเล็กที่ถูกกึ่งลากกึ่งจูงเอ่ยถามหลังจากเดินพ้นมาจากบริเวณที่ให้ดูดาว


“เราไม่อยากให้ใครมายุ่งกับแฟนเรา”


“งั้นก็...บอกพวกถังได้...ใช่ไหม”


“โฟมอยากบอกก็บอกได้ เราไม่ได้อะไร ยังไงไอ้ถัง ไอ้จิน อาลัวก็เพื่อนกัน แต่กับพี่แพท.....” พชรนิ่วหน้าคล้ายไม่อยากพูดถึง “เราไม่อยากยุ่ง”


“อื้อ ก็ไม่อยากยุ่ง” อิชย์ยิ้มกว้างเห็นด้วย “งั้นกลับห้องนะ”


พชรโอบบ่าคนรักแล้วดึงเข้ามากอดอีกครั้ง ชายหนุ่มตัวสูงเสยผมที่ตกระใบหน้าอิชย์พลางจ้องเข้าในดวงตา


“เมื่อกี้พี่แพทเข้ามาขัดจังหวะ.....เพราะงั้น....” ใบหน้าคมเข้มซับสีเรื่อนิดๆ “เรา....รักโฟมนะ”


“โฟมก็รักพี่ไผ่นะ...รักสุดๆเลย” คนพูดยิ้มหวานทั้งดวงตาและริมฝีปาก


“เรารักมากกว่า” พชรยกยิ้ม...และแปรเป็นยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่ายทำหน้ามุ่ย


“ไม่จริง” คนตัวเล็กกว่าร้องท้วงขณะที่เงยหน้ามองพชร แขนสองข้างเอื้อมไปโอบกอดร่างสูงเอาไว้จนแน่น


“โฟมทำแบบนี้จะแกล้งไม่ให้เรานอนหลับใช่ไหม”


“โฟมจะแกล้งอะไรพี่ไผ่ได้ มั่วแล้ว” อิชย์หัวเราะออกมาก่อนจะดึงแขนอีกฝ่ายลากให้เดินต่อ “จะถึงละ”


พชรโอบไหล่คนตัวเล็กเข้ามากอดแนบชิดแล้วจูบลงบนปอยผมยาวแทนคำพูดอื่นใด นัยน์ตาสีเข้มเอ่ยแทนคำพูดหวานล้ำ....แทนคำว่ารักที่อยากบอกโดยไม่รู้จักเบื่อ


“ดีจัง ที่มาด้วยกัน”


“ดีสิ...ดีที่สุดเลย....”
 
 
 






 
 
 
 
 
 
To be continued...


ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พร่ไผ่กับเม็ดโฟมมันกุบกิบดีแท้
แต่เราแอบงงเวลาเรียกชื่อจริงกับชื่อเล่นสลับกันไปมาอ้ะ
เราแรมต่ำ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
ในที่สุดก็มาลงที่เล้าแล้ว ดีใจๆๆๆ
สงสารคีย์สุดๆ ถ้าอันไม่คิดที่จะทำอะไรให้ชัดเจน
ก็อย่ามายุ่งเกี่ยวกันเลยดีกว่า เกลียดคนแบบนี้ที่สุด
คนจับมาสองมือ รักพี่เสียดายน้อง อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
ขอให้สุดท้ายไม่เหลือใครเคียงข้างเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2013 23:06:51 โดย Aoya »

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
พร่ไผ่กับเม็ดโฟมมันกุบกิบดีแท้
แต่เราแอบงงเวลาเรียกชื่อจริงกับชื่อเล่นสลับกันไปมาอ้ะ
เราแรมต่ำ 55555

me too. เค้าก็งง อิอิ :impress2: :impress2:
ปล.คู่นี้น่ารักจริงๆ :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
คู่นี้หวานแล้วจินกับพี่คีย์ก็หวานด้วยเซ้ะะะ
แต่พี่ไผ่เจ็นเทิ้ลแมนสุดๆ เม็ดโฟมน่าร้ากกกกกกก

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
อยากให้จินณ์กับคิรากรเป็นแฟนกันเร็วๆ จังเลย คงจะน่ารักมากแน่ๆ เลย

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
รออ่านต่อนะคะ :katai2-1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
หวานมากกกกก มดกัดเลย อิอิ :o8:
ชอบตอนเป็นเด็กน้อยพูดไม่ชัด น่ารักจริงๆ  :laugh:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
เห็นแล้วอยากจะขออ้อนบ้าง อนุญาติมั้ยคะโฟม

 :กอด1:

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
สวัสดีค่ะ kagehana ค่ะ

กลายเป็นนิยายรายเดือนไปซะแล้ว  :z3:ขอโทษคนอ่านทุกคนนะคะแล้วก็ขอบคุณมากๆที่ยังติดตามกันเสมอ

ตอนนี้ใกล้มาถึงจุดเปลี่ยนแล้ว  :hao5:แต่ก็ยังพอมีเวลากรุบกริบอีกนิดหน่อย อิอิ

ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ

kagehana






-9-








...หนาวชิบหาย....


ชายหนุ่มร่างสูง เดินเซตามทางเดินมืดๆ ร่างสูงใหญ่เซถลาก่อนที่เจ้าตัวจะคว้าต้นไม้ใกล้ๆมาใช้ยันตัวเองไว้ นัยน์ตาหรี่ปรือกระพริบมองไปในความมืดสลัวที่มีเพียงดวงดาวเป็นแสงสว่าง หากแต่...รฐกรไม่มีอารมณ์จะมาชมดาวชมเดือนพระแสงของ้าวอะไรทั้งนั้น


“อุก...โอกกกกกก” ท้องไส้ภายในที่ปั่นป่วนด้วยฤทธิ์สุราที่ใครต่อใครผลัดกันมาเวียนชนเพื่อรับน้องแสดงอาการต่อเนื่องเป็นลมที่ตีขึ้น ชายหนุ่มโก่งคอคายของเก่าที่กินไปเมื่อเย็นจนหมดไส้หมดพุง ในตอนที่เขาตัดสินใจจะเดินต่อ ร่างกายก็ประท้วงด้วยการเซถลาจนล้มลงไปนอนพิงขอนไม้ เจ้าตัวหลับตาลงด้วยอาการปวดหัวและคลื่นไส้จนเกินกว่าจะไปต่อไหว


...แม่ง...อย่าให้กูสร่าง จะเอาคืนเรียงตัว....


ส่วนอีกทางหนึ่ง หญิงสาวร่างบางช่างเพ้อที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเดินฮัมเพลงมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนหน้านี้ขณะที่กำลังล้อมวงก๊งเหล้ากันอยู่ หนังสือที่ตามอ่านอยู่เพิ่งจะออกเล่มใหม่มาทำให้จิรนันท์รีบกดสั่งซื้อแทบไม่ทัน และตามนิสัยของเจ้าตัว อะไรก็ไม่สู้การได้อ่านหนังสือ


หญิงสาวสั่งซื้อและดาวน์โหลดหนังสือออนไลน์ลงมาไว้ในไอแพดเรียบร้อย หากไม่มีอะไรผิดพลาด พรุ่งนี้เช้าเธอจะต้องอ่านจบอย่างแน่นอน


“เฮ้ย” ขาของเธอสะดุดเข้ากับ'อะไรที่ผิดพลาด'จนเกือบจะหน้าคว่ำลงไปบนพื้นถ้าไม่ใช่เพราะแขนสองข้างที่หมุนไปด้านหลังจนสุดแรง


“อะไรเนี่ย...”


“โอยยย เหี้ย ใครเตะกูว้า....” น้ำเสียงอ้อแอ้ถามออกมาจากคนที่นอนอยู่


“อ้าว ศพใครอะ” จิรนันท์ร้องถามเสียงสูง


นัยน์ตาหรี่หยีเพราะแอลกอฮอล์พยายามจะลืมขึ้น ติดแต่ตรงที่ว่าดูจะเบิกกว้างได้แค่เท่าเดิม... “ครายยย ตาบอดไม่เห็น อึก คนนอน เหรอว้า...”


“เห็นแต่ศพรถถังเก่าๆ ไปนอนดีๆ เดี๋ยวก็เป็นหวัด” เธอเอาปลายเท้าเขี่ยขาอีกคนสองสามที


“ลุกไม่รอด พี่ไผ่..โฟม...ไอ้จิน อุ้มกูหน่อยเด๊ะ...เอิ้ก...” รฐกรหลับตาพึมพำพลางสะอึกไม่หยุด


“นอนให้ยุงรุมแดกโต๊ะจีนไปก็แล้วกัน” หญิงสาวเดินเลยผ่านไป ส่ายศีรษะด้วยความเหนื่อยใจ


“ใจร้าย...ใครๆก็ใจร้ายกะกู...อุก...สาดดด” คนเมาโวยวายในลำคอแล้วพลิกตัวหาที่นอนให้สบายตัว หมดความสนใจกับคนที่โวยวายอยู่ใกล้ๆอย่างสิ้นเชิง


“เอาเบียร์มาเล้ยยย ถังไม่เมาคร้าบบบ เอามาเลยยยยยยย”


พูดจบ..ชายหนุ่มหน้าตาดีที่ไม่เหลือดีก็สิ้นสติ...นอนหลับหนุนขอนไม้ไปในทันที









ดวงดาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าหายลับไปยามเมื่อแสงอาทิตย์มาแทนที่ อากาศเย็นของยามเช้าอุ่นขึ้นด้วยแสงแดดอ่อนๆ รฐกรที่เผลอหลับไปพลิกตัวลืมตาขึ้น อาการปวดเมื่อยทำให้เขาครางออกมาเบาๆ


“อูย....ชิบหาย มานอนนี่ได้ไงวะ” เขาหันซ้ายหันขวา...ก่อนที่ดวงตาสีเข้มจะหยุดนิ่งลง...และทอประกายอบอุ่นโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สักนิด


รฐกรขยับตัวเบาๆนั่งมองหญิงสาวร่างเล็กที่นั่งคออ่อนคอพับคาไอแพด ขนตายาวที่แนบอยู่บนผิวแก้มนวลกระเพื่อมนิดๆตามจังหวะหายใจ ริมฝีปากสีอ่อนจางดูนุ่มนิ่ม...นุ่มนวลจนอดคิดไม่ได้ว่าไอ้แจ๊สมันเป็นผู้หญิงที่น่ารักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่


มือที่จับไอแพดเอาไว้คลายออก ทำให้ไอแพดหล่นร่วงลงจากมือ “?! อ...อือ......แตกรึเปล่าวะ...”


“แจ๊ส...มานอนนี่ไมวะ” รฐกรหยิบไอแพดที่ร่วงลงมาดูแล้วส่งคืนให้ “เกวียนไม่มีนอนเหรอ หรืออีกี้เอาไปเทียมเกวียนไถนาแล้ว”


“ก็กลางคืนหนาว เดี๋ยวมึงแข็งตาย เลยเอาผ้าห่มมาให้” หญิงสาวรับเอาไอแพดมาแล้วจึงยืดตัวเพื่อบิดเมื่อย


“โห...มึงใจดีกับกู ฝนจะตกป่ะวะวันนี้”


“อยากแข็งตายก็ไม่บอก...” จิรนันท์ลุกขึ้นปัดๆตามตัวให้เศษดินเศษหญ้าหลุดออก “ไปก่อนละ เอาผ้าไปคืนอาจารย์ด้วย”


“ห่วงกูก็บอกตรงๆครับน้องแจ๊ส” ชายหนุ่มฉวยมือหญิงสาวเอาไว้ “อย่ามาเขินๆ”


“คงไม่ห่วงมั้ง เอาผ้ามาให้เนี่ย ไปแล้ว จะไปอาบน้ำ” ถึงแม้ปากจะพูดเย็นชา แต่เธอก็ไม่ได้สะบัดมือทิ้ง


ชายหนุ่มที่จับมือเอาไว้มองอีกฝ่ายพลางอมยิ้มนิดๆคล้ายกับมีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกใจเหลือเกิน “ขอบใจนะ”


“ไม่เป็นไร” รอยยิ้มที่ไม่ค่อยได้เห็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ดวงตากลมโตเหลือบมองมือที่ถูกจับอยู่ก่อนจะพูดออกมา “ถัง ปล่อยยัง มืออะ”


คนที่จับมืออยู่สะดุ้งนิดๆแล้วค่อยๆคลายออก ไม่รู้ว่าทำไม...แต่อดเสียดายเล็กๆไม่ได้ “แจ๊ส....มึงมีแฟนยังวะ”


“ยัง” หญิงสาวขมวดคิ้วจนแทบจะผูกเป็นโบว์ “มึงก็พูดเอง ผู้ชายที่ไหนจะเอาวะ”


“มี.......” คนพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ “อีกี้ไง โคตรเหมาะกับมึงเลยแจ๊ส” พูดจบก็สำทับด้วยเสียงหัวเราะดังลั่น


“อีบ้า กี้มันจะเอาผู้ชาย เหมือนมึงกับโฟมน่ะแหละ” จิรนันท์ยิ้มเยาะ ไม่รู้สึกอะไรกับคำล้อเลียนของอีกคน


“กูน่ะเอาผู้หญิง....ถ้าไม่เชื่อมาพิสูจน์ก็ได้”


“ไม่อะ เสียเวลา” หญิงสาวทำหน้าเบ้


“เออ จำไว้นะมึง”


รฐกรคาดโทษกลับ...โดยที่ไม่รู้เลยว่า ความสัมพันธ์ของเพื่อนคู่กัดจะเปลี่ยนแปลงไป...หลังจากนี้ไม่นาน

 

 












คิรากรที่ตื่นได้สักพักหนึ่งแล้วกำลังลังเลว่าจะปลุกรุ่นน้องที่ยังคงนอนอยู่ให้ตื่นมายังไงในตอนเช้าขนาดนี้


“จิน...” คนอายุมากกว่าลองเรียกชื่อดู แต่ก็ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้ยิน ร่างบางขยับเข้าไปใกล้แล้วลองเรียกอีกที


“...จิน ตื่นหรือยัง”


“อีก...ห้านาที...” คนที่นอนกอดหมอนแล้วเอาแขนหนุนแทนบิดตัวหลบเสียงที่รบกวน


“...ห้านาทีนะ งั้นเดี๋ยวพี่ปลุกอีกที พี่อยากไปดูดอกไม้ ที่ชื่อชมพูอะไรนะ...”


“ชมพูภูคา.....” จิณณ์ต่อให้จนจบ “พี่คีย์ไปอาบน้ำก่อนไป ง่วงอะ”


“ไม่เอา น้ำหนาว”


“กอดไหม” คนที่ตายังหลับอยู่อ้าแขนออกพร้อมสำทับต่อ “จะได้ไม่หนาว”


คิรากรนิ่งไป หากอีกฝ่ายเป็นอนล เขาคงทิ้งตัวลงไปแล้ว แต่เพราะว่าไม่ใช่ จึงไม่กล้าที่จะเข้าไปหา “ไม่ต้องมาล้อเลย”


จิณณ์ที่นอนอยู่ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าหลับตาลงแล้วดึงเพื่อนรุ่นพี่เข้ามากอดเอาไว้แล้วงึมงำข้างหูว่า “ผมหนาว กอดหน่อย”


“ห้านาทีนะ...” แขนสองข้างที่ไม่ได้โดนกอดแน่นจนขยับไม่ได้ยกขึ้นโอบรอบอีกฝ่ายแล้วแนบใบหน้าลงกับแผ่นอกกว้าง


จิณณ์ซุกใบหน้าลงกับปอยผมนุ่มหอมกลิ่นแอปเปิ้ลจางๆ จมูกโด่งได้รูปซุกไซ้เบาๆเพราะอาการง่วงนอนถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นของผิวเนื้อของเพื่อนรุ่นพี่ที่โอบหลังเขาไว้ สิ่งที่บอกไม่ได้...และไม่รู้สึกตัวเองก็คือ เขาชักจะติดกับการมีอยู่ของคนๆนี้แล้ว


จ้างก็ไม่บอกให้ดีใจหรอก


“จิน...จะอยู่กับพี่แบบนี้ไปก่อน...จริงๆนะ” เขาพึมพำกับแผ่นอกที่ซุกซบ


“อยู่สิ อยู่จนกว่าพี่คีย์จะไม่ให้อยู่ อยู่จนกว่าพี่จะเจอคนใหม่ จนกว่าพี่จะไม่อยากอยู่.....ก็พี่คีย์อยู่คนเดียวไม่ได้นี่นา แว่นแฮมขี้เหงา” แว่บแรก เขาอยากจะพูดอย่างจริงจังเรื่องความรู้สึกที่เกิดขึ้น แต่กลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นเป็นเรื่องตลกของเด็กอายุน้อยกว่า จิณณ์เลยทำให้มันฟังดูเหมือนการให้สัญญาของเด็กๆ.....มากกว่าจะจริงจังดังใจคิด


“อืม” คิรากรขยับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “จะห้านาทีแล้วนะ”


“พี่คีย์ล่ะ....ถ้าคนชื่ออันกลับมา จะทิ้งผมหรือเปล่า”


คำถามที่ไม่รู้ว่าคนถามจริงจังแค่ไหนทำเอาคนอายุมากต้องหยุดคิด


“ก็ถ้าอันกล้าหย่าจริงๆ พี่คงยอมคืนดี แต่ว่า พี่ไม่ทิ้งเราหรอกนะ”


“ไปล้างหน้าแปรงฟันเถอะ” จิณณ์คลายอ้อมกอดออกแล้วลุกขึ้นนั่งทำเป็นหาของในกระเป๋า “ใช่สิ เรามันแค่รุ่นน้อง สำคัญที่ไหน จริงไหม”


น้ำเสียงพูดกลั้วหัวเราะ หากเพียงแต่คิรากรจะมองหน้าสักนิด...คงรู้ว่าเจ้าตัวนั้นแววตาออกไปทางผิดหวังเล็กๆ


“อย่าพูดแบบนั้นสิ จินสำคัญนะ” เขาลุกตามมาหยิบหาแปรงสีฟันและโฟมล้างหน้ามาถือเอาไว้


“ไปดูชมพูภูคากันเถอะ” คนพูดเดินดุ่มๆออกจากบ้านเกวียนพร้อมกับเครื่องล้างหน้าและแปรงฟันที่ถือไว้ จิณณ์เปิดก็อกให้น้ำเย็นๆไหลออกมาแล้ววักขึ้นล้างหน้า...ลบอารมณ์ที่ค้างคาเอาไว้


เอาเหอะ ก็แค่เพื่อนรุ่นพี่ ไม่ได้อะไรสักนิด


ไม่เลย....


“อื้ม” คิรากรรีบก้าวตามลงมา จัดการล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ใช้ผ้าขนหนูซับหน้าเบาๆแล้วส่งผ้าให้อีกคน


ชายหนุ่มพึมพำขอบคุณแล้วเอาผ้าขนหนูมาซับเบาๆไล่ความง่วงและอารมณ์แปลกๆไปจากความรู้สึก “ไปสองคนไหม หรือจะชวนพวกพี่ไผ่ไปด้วย”


“ไปกันสองคนก็ได้ หรือถ้าอยากไปหลายๆคนเดี๋ยวพี่ไปช่วยปลุกเอาไหม”


“สองคนดีกว่า....มั้ง” พูดจบ คนพูดก็พุดรัวเร็วต่อราวกับจะแก้ตัว “ถังคงเมาไม่ตื่น พี่ไผ่กับโฟมคงไปช่วยอาจารย์ อาลัว....” อาลัวทำไรดีวะ....  “อาลัวตื่นสาย อย่าไปปลุกมันเลย”


“อื้ม งั้นก็ไปกันสองคน” คิรากรยิ้มตอบ “พี่ไม่รู้ทางนะ”


เส้นทางขึ้นไปดูดอกไม้ในยามเช้าไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด จิณณ์เดินนำขึ้นเนินสูงแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมาส่งมือให้คนที่เดินตามเป็นระยะๆ ภาพที่เห็นแทะจะทำให้หยุดหายใจ ต้นชมพูภูคาสูงใหญ่ประดับด้วยดอกไม้สีชมพูหวานสวยงาม จิณณ์หยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพเอาไว้ เขาเดินถอยหลัง...พร้อมกับเก็บภาพของคิรากรเอาไว้ทั้งในภาพถ่าย...และความทรงจำ


“ยิ้มหน่อยสิพี่คีย์”


“เอ๊า มาถ่ายอะไรพี่คนเดียว ถ่ายด้วยกันสิ” นายแบบจำเป็นหัวเราะเบาๆ แก้มสีซีดซับสีเลือดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างขณะกวักมือเรียกอีกคนให้มาถ่ายรูปด้วยกัน


“เออ ดีๆ ถ่ายนะ แล้วพี่ส่งไปอวดแฟนเก่าเลย บอกว่าเจอคนใหม่แล้ว หล่อกว่ามากมาย” จิณณ์เดินมายืนข้างๆแล้วยืดแขนออกไปเล็งองศากดชัตเตอร์


คิรากรยิ้มกว้างให้กับกล้องขณะที่ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้รุ่นน้องตัวสูงเพื่อให้เบียดกันเข้าไปในเฟรมได้ “ก็ว่าไปนู่น”


ผิวแก้มนุ่มๆที่เบียดแนบชิดทำเอาคนถือกล้องใจสั่น จิณณ์กระเถิบใบหน้าออกแต่ดูเหมือนอีกฝ่านจะจงใจแกล้งด้วยการแนบแก้มลงกลับมาที่เดิม ชายหนุ่มนิสัยเด็กมองค้อนแล้วแกล้งเอาริมฝีปากแตะเบาๆที่ข้างแก้มแล้วกดถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว


เขายกมือขึ้นทาบบริเวณที่ถูกขโมยจูบไป “ถ่ายรูปอะไรนั่น จิน...” ทั้งเขินทั้งแอบโมโหทำให้คิรากรยกมือขึ้นจับใบหน้าของจิณณ์เอาไว้แล้วทำเป็นพูดเสียงขุ่น “ไหน...หล่อกว่าอะไร”


“ไม่หล่อเหรอ” คนพูดยักคิ้วล้อเลียน


“ทำหน้าดีๆสิ ยักคิ้วแบบนี้ไม่หล่อหรอก” มือที่จับใบหน้าของร่างสูงเอาไว้ออกแรงกดเบาๆบังคับให้จิณณ์ทำหน้านิ่งๆ น่าแปลกว่าทั้งๆที่ก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา แต่คิรากรแทบไม่เคยได้มองหน้าอีกฝ่ายชัดๆแบบนี้


พอได้จ้องตาเข้าตรงๆ ก็รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะเหมือนครั้งที่เจอกับอนล “ก็.......หล่อ...ไม่เหมือนกัน....”




““บอกแล้วไงว่าหล่อกว่า” จิณณ์ย้ำแล้วกดเลื่อนดูรูป ในกล้อง...เป็นรูปตอนที่เขากำลังหันจมูกชนกับแก้มของคิรากร ดอกชมพูภูคาที่เป็นแบ็คกราวน์อยู่เบื้องหลังล้อมกรอบภาพให้กลายเป็นความรู้สึกโรแมนติก จนอดคิดไม่ได้ว่า....ถ้าเป็นแฟนกันจริงๆ คงให้ความรู้สึกแบบนี้ ““บอกไว้ตรงนี้เลยแล้วกันว่าผมหล่อกว่า ดีกว่า น่ารักกว่าไอ้แฟนเก่าเฮงซวยของพี่เยอะ เดี๋ยวกลับไปอัพโหลดรูปแล้วส่งไปเย้ยมันเลยนะ”““


“เข้าใจแล้ว” คิรากรหัวเราะให้กับความเป็นเด็กๆของอีกคน เขาคว้าเอาแขนข้างหนึ่งของจิณณ์มากอดเอาไว้แล้วชะโงกหน้าไปดูรูปในกล้องบ้าง “ให้พี่ดูด้วยสิ”


จิณณ์ลากคนที่กอดแขนอยู่พาไปนั่งที่ก้อนหินใหญ่ใกล้ๆ เขาค่อยๆเลื่อนรูปทีละรูป ศีรษะกลมมนที่เอนซบดึงดูดให้เขาซบด้วยไปโดยที่ไม่รู้ตัว และกว่าจะรู้สึกตัว...หัวใจก็เกิดอาการหวั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง


บ้าเอ๊ย....


ถ้าจะเรียกว่ารัก...คงอาจจะยังเร็วไป คิรากรเป็นแค่เพื่อนรุ่นพี่ เป็นคนสนิท....และคนสำคัญที่เขาไม่อยากให้เสียใจไม่ว่าจากใครหน้าไหนก็ตาม มันเป็นความรู้สึกเหมือนตอนที่เขากำลังจะพัฒนาจากคำว่าชอบไปเป็นความรู้สึกอีกอย่างที่ไม่เคยมอบให้ใคร


เอาเถอะ....ถ้ามันใช่ก็คงใช่


“พี่คีย์...ถ้าเลิกรักอันได้ พี่จะชอบผมแทนไหม”


...ถ้าเลิกรักอันได้


เพราะว่าตอนนี้ยังรักอยู่ ถึงได้ไม่คิดเปิดใจมองใครเลยสักนิดเดียว แต่ถ้าถึงวันที่เลิกรักอนลได้แล้วจิณณ์ยังอยู่ด้วยกันแบบนี้ คงง่ายมากถ้าจะให้รักให้ชอบ


“ถ้าเลิกรักอัน...” ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจิณณ์รอคำตอบแบบไหนอยู่ แต่ก็ถือว่าอีกฝ่ายถามมาตรงๆ เขาก็จะตอบตามตรง “ก็ต้องชอบสิ”


“โกหก....” แววตาที่มองมาทำให้จิณณ์เข้าใจทุกอย่าง “ยังเลิกรักไม่ได้สักหน่อย”


“ก็ยังเลิกรักไม่ได้...จินถามพี่ไม่ใช่เหรอ ว่าถ้า...ถ้าน่ะ”


“ทีหลัง....ถ้ายังเลิกไม่ได้ ไม่ว่าใครจะถามก็อย่าพูดให้ความหวังนะ....” พูดจบ รอยยิ้มจางๆก็วาดลงบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม รอยยิ้มละมุน...แสนอ่อนโยน “เพราะถ้าเขาชอบพี่จริงๆ เขาจะเจ็บมาก”


“.......อืม...พี่จะจำไว้ก็ได้...” คิรากรยิ้มตอบโดยที่ไม่รู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย


ชายหนุ่มมองตามรอยยิ้มแล้วเสหันหน้าไปทางอื่น แกล้งพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “ให้มันจริงเหอะ”


“จริงสิ พี่ไม่อยากให้ใครต้องเจ็บหรอกนะ” ...เจ็บแบบที่ตัวเองรู้สึกกับคำว่ารอของอนล


“ผมจะคอยดู” จิณณ์มองสบตาแล้วคลี่ยิ้ม...เปลี่ยนบรรยากาศแปลกๆที่จะนำพาไปสู่คำพูดที่เกือบจะหลุดออกมาเมื่อครู่


ให้ตาย...ก็บอกไม่ได้ ว่ารู้สึก...ชอบ...เข้าไปแล้ว


“กลับไปก็จะสอบแล้วสิ พี่คีย์ด้วย....เทอมสุดท้ายใกล้จบแล้วใช่ไหม”


“อื้ม เรียนจบ...เป็นผู้ใหญ่...” คิรากรจงใจจะยิ้มล้อเลียนอีกฝ่ายที่ยังอายุน้อยกว่า


“ผู้ใหญ่ที่ไหน เป็นแค่แว่นแฮม....จำตารางเรียนตัวเองให้ได้ก่อนเหอะ”


คิรากรหมดสิทธิ์เถียงกลับ เขาคว้าเอาแขนของร่างสูงมากอดเอาไว้อีกครั้ง “พอแล้วๆ ไปหาข้าวเช้าทานกันเถอะ แล้วเดี๋ยวจะได้กลับบ้าน ไปอัพรูปที่ถ่ายด้วยกันนะ”


“จะเอาไปใส่ไว้ในเพจคู่รักหนุ่มวายอะไรนั่นของไอ้แจ๊สด้วยเลยปะล่ะ” จิณณ์แซวพร้อมหัวเราะเสียงร่วน


“ว่าไปนู่น เดี๋ยวแฟนในอนาคตหาเจอก็เดือดร้อนหรอก ถ้าไม่อยากเดือดร้อนคงต้องหาแฟนแบบน้องแจ๊สแล้วล่ะ” คนอายุมากกว่าหัวเราะตาม


คนฟังเบ้หน้าแล้วส่ายหัว “ไม่เอา ปวดหัวตายห่า เอาแฟนแบบพี่คีย์ดีกว่า......หลอกง่าย แถมดูแลเก่งด้วย”


“.......หลอกง่าย......งั้นเหรอ....” คิรากรนิ่งคิดไป...และมันก็คงเป็นอย่างนั้นจริงๆ คนทั่วไป ใครจะทนรออยู่ได้เป็นปีขนาดนั้น “ก็คงจริง” พูดจบก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง


“เฮ้ย! ไม่ได้หมายความแบบนั้น” เพราะสีหน้าที่เศร้าลงไปทั้งที่หัวเราะทำให้ชักเอะใจ “ทำหน้าอย่างงี้อีกแล้ว เดี๋ยวผมโยนลงหน้าผาเลย” จิณณ์กอดตัวคิรากรเอาไว้แล้วทำท่าจะโยนเหวี่ยงลงไปจริงๆ


“อ๊ะ ไม่เอานะ พี่ยังไม่ได้สิ้นหวังในชีวิตขนาดอยากตายนะ ปล่อยนะจิน” แฮมสเตอร์ที่ถูกกอดแล้วยกขึ้นร้องโวยวายออกมาปนกับเสียงหัวเราะ


“ไอ้เฮงซวยอัน ไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัว สมน้ำหน้า” จิณณ์ตะโกนแล้วหัวเราะร่า “ตะโกนสิพี่คีย์ เอาให้ดังไปถึงอเมริกาเลย ตะโกนดังๆจะได้ลืมได้เร็วๆ”


คิรากรหัวเราะลั่นกับคำพูดของอีกฝ่าย “ไม่ต้องให้พี่ตะโกนแล้วมั้ง เสียงเราดังไปถึงขั้วโลกแล้วป่านนี้”


“ไม่คืนพี่คีย์ให้หรอก ไอ้บ้าอัน” คนที่อุ้มคิรากรอยู่กอดแน่นขึ้นก่อนจะวางลงแล้วจับมือเอาไว้ “สมน้ำหน้าเนอะ ไม่รู้คุณค่า โง่ชะมัด” พูดจบก็ตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวานพร้อมกับกระชับมือให้แน่นขึ้น


“กลับกันนะ”


“อื้ม กลับกันเถอะ” เขาบีบมือข้างนั้นตอบพร้อมทั้งรอยยิ้มบนใบหน้า


...ไม่นาน...


...อีกไม่นาน...


...ก็จะลบอนลออกไปจากหัวใจได้แน่นอน...

 

 

 

 

 

 

To be continued...

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ใกล้จะคลิ๊กกันแล้ว ดีใจ
ว่าแต่จะมีจุดเปลี่ยนอะไร เปลี่ยนแบบกุบกิบได้ป้ะ
ไม่อยากซดมาม่า 555555

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
เออไอ้อันไอ้ผชเฮงซวย ชอบตอนจินอะแม่งสะใจ555555555
พี่คีย์ก็เปิดใจหน่อยค่า คบเด็กนี่แบบเค้าว่าจะเปร่งปลั่ง55555555555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด