กราบขออภัยคนอ่านที่น่ารักของเราทุกคน
จู่ๆหายไป เพราะ..สภาพร่างกายไม่ไหวจริงๆ
แพ้อากาศ ร้อนมาก ร้อนจนไข้จับ ไม่สามารถทำอะไรได้
ที่สำคัญดันเป็นคนแพ้แอร์อีกต่างหาก ซวยซ้ำซวยซ้อน
พัดลมที่พัดให้ความสุขเป็นประจำ ดันพัดแต่ไอร้อนระอุของอากาศ 40 องศา
พาให้ตับ ม้าม ปอด แทบสุกไปตามๆกัน
ตอนนี้สามารถเข็นออกมา 50% ก่อนนะคะ ไว้จะรีบปั่นมาต่อให้อีก
ขอบคุณที่ติดตามทวงถามกันมาไม่ขาด Luk.
รักรั่วๆของ..พรต&รัน
Part 5
(Special Prot) “กว่าจะมากันได้ ต้องให้พ่อโทรตาม” แม่ทำน้ำเสียงตัดพ้อ แต่หน้าระรื่นเชียวครับ
“ทำอย่างกับผมตีพุงอยู่ว่างงั้นแหละคุณนาย แคมเปญญี่ปุ่นเลื่อนประชุมลูกน้อง 2 นัดแล้ว พรุ่งนี้มีประชุมยาว”
ไม่ได้แก้ตัว เรื่องจริงล้วนๆ
“อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยพรต โหมงานจนลืมทานข้าวปลา เจ็บป่วยไม่คุ้มนะลูก” เจอหน้าแม่ไม่ย้ำเรื่องนี้คงแปลกพิลึก
ฟังตั้งแต่จำความจนมีผัวเป็นตัวตน แม่ยังไม่เลิกย้ำผมอีก
“ผมไม่เท่าไหร่คุณณีช่วยได้เยอะ ห่วงลูกชายแม่โน้น เพิ่งได้เลขารู้ใจไม่ถึงอาทิตย์
ก่อนหน้าเอกสารจะทับหัวมันตายเอา” พยักเพยิดไปทางประตู ไอ้รันคุยอยู่กับพ่ออย่างออกรส
ผมเข้ามาดูแม่ทำมื้อเย็นในครัว วันนี้เรามาตามนัด..ทานข้าวร่วมกันบ้านใหญ่
“คิคิ..รายนั้นพ่อเราบ่นถึงประจำ ถูกใจกันนักหนา”
“ไม่รับเป็นลูกบุญธรรมยกสมบัติให้มันเสียเลย..หืม” แอบประชด
“เพี๊ยะ!..โตจนปานนี้พูดไม่รู้จักคิด รันได้ยินเข้าจะรู้สึกยังไง บ้านเขาออกมีหน้ามีตามีฐานะชาติตระกูล
อย่าพูดอีกนะตาพรต!!” ขู่ตาเขียวเชียว ฟาดไหล่ผมไปที อะไรจะปกป้องไอ้รันขนาดน้าน!!!!
“โด่! ว่าแต่พ่อ แม่เองก็ปลื้มมันจนออกนอกหน้า” ไม่ได้อิจฉารู้สึกภูมิใจแทนมัน
ที่ทำให้พ่อกับแม่รักขนาดนี้ แม้แต่ป้าอรแม่บ้านเก่าแก่ยังเอ็นดูยังกับอะไรดี
ไอ้ห่านิมีขุนแผนชัวร์ นึกว่ากูหลงคนเดียวเสียอีก
“เหรอ!! แม่กับพ่อคงไม่เท่าลูกชายคนเล็ก เล่นจับเขามาเป็นคู่ชีวิต ทำปากดีประชดแม่นะเรา”
ผมหลุดยิ้มกว้าง คุณนายตอกหงายเงิบ..คึคึ
“มันแหละมาเอาผมเอง” ขอเอาแต้มหน่อย เสียหน้าแย่
“จร้า!! ทำอย่างกับแม่ดูไม่ออก..จิ๊!” น้าน! มีจิ๊ปากค้อนผมตากลับ อารามออกอาการหมั่นไส้สุดๆ แล้วคุณนาย
“ตกลงผมลูกแม่หรือไอ้รันกันแน่..วุ้ย!” ทำบ่นไปงั้น
“เราสิลูกแม่ แต่ลูกเขยก็คือลูกเหมือนกัน” อรึ้ย! ไปไม่เป็นเลยตรู
“เสร็จหรือยังครับ ยกขึ้นโต๊ะเลยไหม” เปลี่ยนเรื่องขันอาสาช่วยยกสำรับจัดโต๊ะอาหาร
หนีบทสนทนาเข้าตัวนี้ก่อน เว้ย! ลูกเขยเต็มปากซะงั้น
“ไม่ต้องวุ่นวายเลยพ่อคุณ เดี๋ยวให้บังอรกับเด็กๆในบ้านเค้าจัดการ เราไปบอกพ่อกับรันเตรียมตัวดีกว่า”
แล้วคุณนายสุดสวยก็ดันหลังผมออกจากห้องครัว ท่ามกลางสายตาอมยิ้มกลั้นขำของป้าอร
ที่แอบฟังผมกับแม่ปะทะคารมกันไปหลายยก..
“พ่อ..เตรียมตัวทานข้าว” พ่อคุยถูกคอหน้าบาน..ยิ้มตลอดเวลา
“อืม..พ่อกำลังฟังแคมเปญญี่ปุ่น ไอเดียตะเกียงชิ้นเอกที่จะไปโชว์เข้าท่ามาก งานนี้โดนเต็มๆ..คึคึ!”
ทิ้งท้ายหัวเราะเจ้าเล่ห์ มาดนักการค้าเข้าสิงอีกต่างหาก
“ไอ้รันคิดล้วนๆ” ยกผลประโยชน์ให้กุนซือเทพ ไม่อาจหาญรับความดีความชอบ สมองของมันนี่หว่า
“รันบอกพ่อ..พรตช่วยร่างแบบใช่ไหม” แหนะ!..อวยกูอีก เดี๋ยวปั๊ด! จูบโชว์พ่อเลยนิ..
“แหะๆ..นิดหน่อยน่า รันไม่ต้องอวยกู” เขินสัด!
“หึหึ! พรตร่างแบบให้แผนกดีไซน์ลงรายละเอียด อวยตรงไหน..หืม”
ยิ้มกรุ้มกริ่มแบบนี้ล้อกูใช่ไหม..สัดนิรู้กูเขินยังเสือกเล่น
“พอๆ..ทำกูปลื้มไม่รับเงินเดือนจะยุ่งนะโว้ย” ไปไม่เป็นตัดบทดื้อๆ วันนี้คารมสู้ใครไม่ได้เลยวุ้ย!
แพ้ตั้งแต่แม่ในครัว สงสัยต้องลับฝีปากให้เก่งกล้ากว่านี้ ขืนจนมุมตลอดมีหวังตายสนิท
“ทานข้าวกัน..รันไปกับพ่อ” ว้าว!! ชวนลูกเขยมีตบไหล่อีกต่างหาก ส่วนลูกชายทิ้งให้นั่งหัวโด่ไม่เรียกสักคำ
“อ้าว! แล้วผมล่ะไม่คิดชวนเลยงั้น” ขอนอยด์หน่อย
“ชวน?..ทำไมต้องชวน” กรรม! พ่อกูทำหน้างง?
“ทำไมถามแบบนี้เล่า ตกลงไม่ให้ผมกิน” ชักนอยด์จริงแล้วเว้ย!
“ประสาท เราเป็นคนตามพ่อกับรัน ต้องให้ชวนอีก..ไอ้ลูกบ้า” เงอะ!
“ผมตามแต่เจ้าบ้านคือพ่อนิ ชวนไอ้รันไม่ชวนผมได้ไง” เถียงใจขาด
“หืมบ้านนี้เราไม่เคยอยู่เหรอพรต ออกเหย้าออกเรือนมีครอบครัว กลายเป็นอื่นไปแล้ว”
อร๊าก!! อยากกัดลิ้นตาย พ่อทำไมฝีปากร้ายเช่นนี้
“แหะๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพ่อ พูดซะแรงเชียว” แพ้อีกแล้ว อยากเอานิ้วจิ้มลูกตาระยิบระยับกลั้นขำของไอ้รันสุดๆ
มึงจะขำห่าไรเนี่ยะ..จิ๊! กลับบ้านทีไรกลายเป็นลูกชายสุดโปรดเลยนะ
“ยิ้มเหี้ยไร..วะ!” สักทีเหอะ ลงใครไม่ได้ลงมันนี่แหละ
“พูดจาใช้ไม่ได้พรต หัดพูดกับผัวดีๆหน่อย ทำตัวแบบนี้รันหนีไปมีกิ๊ก
อย่าหอบผ้ามาร้องห่มร้องไห้ฟ้องพ่อกับแม่เชียวนะ” อึ้งตาค้าง ขอนอนตายโซฟาก่อนได้เปล่า
ไม่แดกแล้วข้าว ฟังพ่อพูดดิ..กรรม!
“ทำตัวเป็นเด็ก หึหึ!” ไอ้กุนซือเทพหัวเราะก่อนดึงมือผมลุก แม่งเพราะมึงทีเดียว
ทำกูเหวอะหวะพรุนทั้งตัว มีหน้าหัวเราะอีก ฝากไว้ก่อนเถอะสิงห์รัน ไว้กูเอาคืนบ้านมึง คึคึ!
พ่อแม่มึงหลงกูไม่ต่างกันหรอกวุ้ย! ทีใครทีมัน..คอยยิ้มออกเลิกขุ่นมัวบัดดล
“อืม” ผมลุกพรวดเดินดุ่มๆ สองหนุ่มต่างวัยแอบส่ายหัวให้ผมอีก อะไรก็ช่างตอนนี้ท้องข้าพเจ้าต้องการพลังงาน
จากรสมือคุณนาย นานทีจะลงครัวเองสักครั้ง เรื่องจิ๊บๆขี้หมูสุดหล่อวรพรตไม่ใส่ใจหวะ..คึคึ!
“พรต!..พรุ่งนี้ทุ่มตรงเป็นตัวแทนพ่อกับแม่ไปร่วมงานนักค้าอัญมณีที่โรงแรมxxx หน่อยนะ
พ่อบอกรันไปแล้วที ย้ำเราอีกคน” ระหว่างทานข้าวคุณผู้ชายก็เปรยกับผม
“อ้าว! ทำไมพ่อกับแม่ไม่ไป เขาเชิญมาไม่ใช่” โบ้ยหน้าที่ให้ผมเฉย
“เราเป็นประธานในอนาคต พ่อกับแม่จะเพลามือลงแล้ว รอเราสองคนกลับจากแคมเปญญี่ปุ่น
ตั้งใจพักร้อน 2 เดือน พาแม่แกไปเยี่ยมพี่ๆ ถือโอกาสเที่ยวไปด้วยเลย” พ่อพรั่งพรูโปรแกรมออกมาทันควัน
“ฮั่นแน่! วางแผนฮันนีมูนรอบสองเหรอ” อดแซวไม่ได้
“บ้า! ตาพรตพูดจาแซวแม่แบบนี้นะ” คุณนายเขินเสียเอง
“แปลกตรงไหน พ่อทำงานมาทั้งชีวิต หาเวลาพาเมียไปรำลึกความทรงจำพิลึกยังไง..หืมเจ้าพรต”
แม่ตรูเขิน แต่พ่อยอมรับหน้าตาเฉย แถมค่อนขอดผมอีก
“แหม..แค่แซวเล่นนิดหน่อยเขิน โด่! มีของขึ้นนะพ่อ”
“เขินไม่ใช่พ่อแกแน่เจ้าพรต ถ้าเขินแกไม่มีโอกาสลืมตาดูโลกมานั่งแซวพ่อหรอก..ไอ้ลูกบ้า”
ว๊าก! ทำไมมาด่ากันบ้าเล่าเนี่ยะ
“ผมบ้ายังไงฟ่ะ! ไอ้ที่ผมลืมตาดูโลกคือหนึ่งในความภาคภูมิใจของพ่อไม่ใช่
ไหนแม่เล่าพ่อเห่อตั้งแต่ผมปฏิสนธิไม่ถึงเดือน วิ่งโร่ให้หลวงตาตั้งชื่อรอ เลือกไว้ทั้งชื่อผู้หญิงด้วยซ้ำ ชื่ออะไรนะ?
อ๋อ!นึกออกแล้ว ‘วรนุช’ ชื่อตัวเหี้ยชัดๆ โชคดีชะมัดผมเกิดมามีกระจู๋ เลยชื่อ ‘วรพรต’ รอดเหี้ยปริยาย”
พูดผิดตรงไหนแม่เล่าให้ฟังนี่นา พากันขำทั้งโต๊ะ คนบ้าพวกเขาต่างหาก..เหอะ! แค่นี้ก็หัวเราะหน้าแดง..
ผมกับไอ้รันขอตัวกลับหลังอยู่คุยสัพเพเหระกับพ่อแม่อีกครู่ใหญ่ ตลอดการคุยพากันหัวเราะผมไม่เลิก
หรืออาชีพผมควรเป็นตลก เมืองไทยคงโจษจันขนาดใหญ่ ตลกหล่อเท่ยังกับพระเอกฮอลลิวู้ด..ฮะฮ่าๆๆ!
“รันโทรหาไอ้โต๋ ชวนมันมาร่วมงานอัญมณี” บอกไอ้รันขณะมันทำหน้าที่สารถี เรากำลังเดินทางกลับบ้าน
“คิดยังไงมันจะมา” อ้าว! หันมาทำหน้านิ่งถามผมอีก
“แวดวงธุรกิจ ‘สิงห์อัคนีกรุ๊ป’ ของมันอาจอยากมาแจมต่อยอด”
“พรต! ธุรกิจของตะเกียงกับไอ้โต๋ คือพืชผลภาคเหนือ เกี่ยวอะไรกับอัญมณีจิวเวลรี่..หืม” ดูทำสีหน้าระอาผมอีก
“มึงไม่รู้หรือแกล้งไม่เข้าใจ” ผมถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แล้วไง” แหนะ! หน้านิ่งชำเลืองผมแวบ หันไปสนใจถนนต่อ
“แล้วไง..ตะเกียงสามารถต่อยอดธุรกิจกับกลุ่มพ่อค้าอัญมณี มึงเข้าใจที่กูอธิบายเปล่าเนี่ยะ!”
หางเสียงลงหนัก เรื่องแบบนี้ก็ต้องอธิบาย ไม่อยากเชื่อสมองอย่างไอ้รันดันไม่เข้าใจที่ผมสื่อ
“อะไรนะ พ่อค้าอัญมณีจะซื้อพืชผลเกษตรไปทำไม” มันงงจริงด้วย แบบนี้ได้โอกาสหากำไรคืนแล้ว
“ตกลงมึงไม่รู้” ทำหน้าเจ้าเล่ห์ให้เห็นชัดๆ มึงแพ้กูแล้ว
“อืม..ไม่ใช่ไม่รู้..กูงง?” มันยอมรับตรงๆ ดีมากไม่ต้องเสียเวลา
“อยากให้เฉลย ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” คิ้วเข้มของมันแอบกระตุก
กูแอบเห็นนะ..พออ้างข้อแลกเปลี่ยนมีชะงัก..สัด!
“ว่ามา” แต่มันก็รับปาก
“กูเฉลย มึงต้องนวดให้กู ฮะฮ่าๆๆ” มีความสุขได้แกล้งไอ้รัน
“แถมนาบให้ด้วย” กวนตรีนนนน!!
“นาบพ่อง!!..กูให้นวดเว้ย!” ตอดตลอด
“รั่ว..กูบอกแถมเอาไหม” เรียกรั่วอีกแหละ
“ไม่ต้องการของแถม นาบตามกติกาพุธกับเสาร์” ข้อตกลงของเรา ขืนยอมมันจัดทุกคืนเหมือนคบกันแรกๆ
มีหวังเหนื่อยตาย คึกยังกับมาศึก..กูเป็นฝ่ายรับหรอกสาดดดด!!
“หึหึ! โอเคนวดก็นวด เฉลยดิ..ห้ามมั่ว ขืนมั่วมึงแพ้” ขู่ตบท้ายอีก
“ง่ายนิดเดียว พ่อค้าอัญมณีซื้อไปกินสิวะ..ฮะฮ่าๆๆ” ชนะขาดลอย
“ผลั๊วะ! สัด..ซื้อไปกินเฉลยพ่องมึงแหนะ” ห่ารัน..ตบกบาลกู
“ตบกูไม..เฉลยผิดตรงไหน มึงไม่กินนิ..คนเรากินผักผลไม้ทั้งนั้น ผิดตรงไหนวะ!” ผมลูบหัวตรงที่มันเบิด
“มึงรั่วจนบ้าแล้วพรต มันจะขึ้นเครื่องจากเชียงรายมาร่วมงานพรุ่งนี้ เพื่อขายผักผลไม้ให้พ่อค้าอัญมณีนี่นะ”
ไอ้รันเสียงห้วนสุดๆ บ่งบอกเริ่มมีน้ำโหในคำตอบของผม
“เออดิ..งานใหญ่ระดับนี้คนมาเป็นร้อยนะโว้ย แต่ละคนคอนเน็กชั่นกว้างขวาง
ถ้าตะเกียงกับไอ้โต๋จับลูกค้าได้ครึ่งหนึ่ง รับรองยอดขายผลผลิตของมันพุ่งทะยานไม่น้อยนะมึง” ผมยืนกราน
“50 คนที่ซื้อมันแดกนี่นะ จะคุ้มค่าเครื่องค่าขนส่งจากเหนือ..ห๊ะ!” มันยังดุผมไม่เลิก
“มึงคิดไม่ถึงจริงด้วย 50 คนยังมีครอบครัวมีคนรู้จัก อาจมีใครที่มีคอนเน็กชั่นระหว่างประเทศด้านผักผลไม้
หากไอ้โต๋กับตะเกียงได้สานสัมพันธ์พื้นฐาน ไม่แน่แจ็คพ็อตตูมเจอพ่อค้ารายใหญ่ต่อยอดธุรกิจสั่งผลผลิตมันส่งออก
ไปยังประเทศที่มันไม่ได้เปิดตลาดใครจะไปรู้ ของแบบนี้ต้องลอง” ผมเถียงคอตั้ง
“หึ! ความคิดฟังดูดี ก่อนมึงโทรตามมัน ลองถามพ่อค้าเหล่านั้นก่อนไหม มีใครพ่วงธุรกิจเกษตรบ้าง
ค่อยแนะนำมันเอาทีหลัง ประเด็นคืออะไรกันแน่ ที่ให้กูโทรบอกไอ้โต๋” ว่าแล้วมันต้องนกรู้ หลอกไม่เคยสำเร็จ
นอกจากมีขุนแผนแล้ว ยังเลี้ยงกุมารทองอีก อย่าให้รู้ว่ามึงแอบเล่นของ..
“กูคิดถึงพวกมัน ไม่เจอหน้าหลายเดือนแล้ว อีกไม่กี่อาทิตย์เราต้องบินไปญี่ปุ่น
เผื่อพวกมันอยากฝากอะไรให้ไอ้กานด้วย” ยอมรับก็ได้ฟ่ะ! โด่กูแค่อยากเจอตะเกียงก็แค่นั้น
“ทำอ้างธุรกิจ นึกว่ากูโง่รู้ไม่ทัน” ป๊าด!! เพราะมึงฉลาดเกินนี่แหละ สัด! รู้ดีทุกเรื่อง
“ตกลงเอาไง จะโทรชวนมันไหม ข่มกูอยู่ได้”
“ได้..กูโทรให้แต่มีข้อแลกเปลี่ยน” อ้าว! ไปๆมาๆกลายเป็นข้อเสนอของมันแทนได้วะ
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไร” ชักเสียวประตูหลัง
“มึงต้องนวดกู” เฮ้ย! อะไรของมันเนี่ยะ
“แถมนาบด้วยไหม” ขอกูประชดบ้างเหอะ..ระยำ!
“อืม..เยี่ยมกูเอา”
“เฮ้ย! ทำไมมึงไม่ปฏิเสธ” แหกปากลั่นรถเลย ลืมตัว..
“แล้วไมกูต้องปฏิเสธ” ถามหน้าตายอีกไอ้นี่นิ
“อ้าว! ทีกูยังปฏิเสธมึงเลย” ผมรีบสมอ้างทันควัน
“นั่นมันมึง..แต่กูจะเอา นวดนาบ” อะไรฟ่ะ!
“มึงเปลี่ยนใจเป็นรับตั้งแต่เมื่อไหร่รัน” หรือมันอดใจไม่ไหวอยากหาประสบการให้ผมรุก กูชักงงกับมึง
“พ่องมึงแหนะ ใครให้มึงรุก นาบในความหมายกู มึงออนท็อปดิ”
“เฮ้ย!บรื๋ออออ!! กูไม่ทำ..สัด” ที่ผ่านมากูครึ้มใจยอมทำให้หรอกห่า ติดใจนะมึง อยากให้กูออนเนี่ยะ
“มึงไม่มีสิทธิ์เลือก ข้อเฉลยมึงมั่วซ่อนเร้นแอบแฝง ความผิดกระทงนี้มึงก็หมดโอกาสแก้ตัวแล้วพรต
สำคัญคือจะให้กูโทรบอกไอ้โต๋กับตะเกียงลงมาเจอหรือเปล่า ก่อนไปเคมเปญญี่ปุ่น..ว่าไงเลือกมาดิ”
สีหน้าท่าทางมันอ่านยากมาก ไอ้ห่ารันมันเจ้าเล่ห์ตัวพ่อจริงๆ ชนะไม่เคยได้สักที
“กูเปลี่ยนใจแล้ว ช่างหัวแม่งเหอะ มึงไม่ต้องโทรไม่เจอก็ไม่เจอ ไม่ต้องเสียท่านวดแอนด์นาบมึงด้วย”
ผมยักคิ้วกวนอย่างถือไพ่เหนือกว่า คงแอบคิดว่ากูจะหลงกลดิ โทษทีกูไม่หลงว่ะ!..ฮะฮ่าๆๆ
“อืม..ไม่ต้องเป็นธุระยุ่งยาก กลับไปนวดก่อนแล้วค่อยอาบน้ำ นาบตามทีหลัง” อ้าว???
“เฮ้ย! ได้ไงมึงไม่ต้องโทรนิ ทำไมกูต้องทำด้วย นี่มึงอย่ามาตีคลุมเอาเองนะ..สัด"
“มึงแพ้ คิดจะเบี้ยวหืม” อะไรของมันฟ่ะ! หน้าด้านดื้อๆ
“แพ้ตรงไหนเว้ยเฮ้ย!” ค้านหัวชนฝา
“แพ้ที่ตั้งคำถามซี้ชั้วคำเฉลยบ้าบอ กูย้ำแล้วห้ามมั่ว ตามเงื่อนไข มึงต้องนวดให้กู
ส่วนนาบมึงเสนอเป็นของแถม กูตกลงเอาทั้งสองกรณีล้วนเป็นมึงแส่หาเรื่องใส่ตัว อย่าพลิ้วกูเด็ดขาด..พรต”
กรรม! ตกลงผมพลาดอย่างที่มันบอกเหรอเนี่ยะ
“ไม่จริงอ่ะ..มึงมัดมือชก” ไม่ยอมจนมุมหรอก
“ตามใจถ้ามึงหน้าด้านขี้โกง กูได้รู้ศักดิ์ศรีเหยี่ยวของมึงความหมายลมปาก
ไอ้พวกประเภทพูดแล้วกลืนน้ำลายตัวเอง เพิ่งรู้ว่ามึงเริ่มเอามาใช้ พรตคนที่กูรู้จักไม่เคยมีนิสัยแบบนี้
แพ้คือแพ้ชนะคือชนะมันยืดอกรับอย่างสมเกียรติ” เล่นพูดซะกูอึ้ง วันนี้เป็นเชี้ยไรตั้งแต่ที่บ้านแล้ว
จนคำพูดตลอด เถียงไม่ออก..ง่าาา!!!
“แม่งเล่นพูดซะกูเน่าหนอนแดกเลยสัด แม่งเอร้ย! ระยำจริง ตกลงนวดนาบ..แต่มึงโทรหาไอ้โต๋ให้กูด้วย
สำคัญต้องให้มันพาตะเกียงมาให้ได้ ไหนๆกูไม่มีทางเหลี่ยงแล้วนิ เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง
อย่างน้อยได้ตามต้องการถือว่าคุ้มทุน..ฮะฮ่าๆ กูไม่เสียโง่มึงหรอกควายรัน” ผมยิ้มสะใจอย่างผู้ชนะ
ในที่สุดผมก็ให้มันโทรตามไอ้โต๋สำเร็จ แถมต้องให้พาตะเกียงลงมาให้ได้
ไอ้รันมันกลับยิ้มปากฉีกหัวเราะลั่นซะงั้น มันบ้าไปแล้ว เจอมุกเอาคืนไม่ขาดทุน
ดันจี้เส้นขำบ้องตื้น โด่! เพิ่งสำนึกสิว่ามันต่างหากเสียรู้ผม..กร๊ากกกก!!!
ดูไอ้พี่พรตมันรั่วต่อไปค่ะ
ส่วนใครที่สนใจหนังสือรีปริ้น ติดต่อมาได้เลยนะคะ
คลิ๊กเข้าไปดูที่แบรนด์เนอร์โฆษณา หรือจะไปดูรายละเอียด
ที่หน้าแรกของ พรต& รัน ก็มีรายละเอียดค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่ตามให้กำลังใจกัน
ยอดวิวล้นทะลัก ยอดเม้นท์ไม่ว่ากัน เจอคนอ่านท่านหนึ่งตอบหลังไมค์ว่า
'ที่ไม่เม้นท์ ไม่แสดงตัว เพราะงานเขียนของคุณมันดีอยู่แล้ว ไม่รู้จะเม้นท์อะไร'
เป็นคำชมที่คนเขียน ร้องไห้ดีใจน้ำตาไหลขึ้นหน้าผาก

5555!!!
เอาค่ะ เม้นท์ไม่เม้นท์ตามสะดวกนะคะ เขียนมานับสิบเรื่องแล้ว
เข้าใจคนอ่านค่ะ แต่ถึงยังไง คนเขียนขอบคุณนักอ่านที่ดันกระทู้ตลอดมา
ขอบคุณทุกถ้อยคำตัวอักษร จะมากจะน้อยเราซาบซึ้ง ด้วยจิตคารวะทุกท่านค่ะ
รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ 50% จะรีบปั่นมาเสิร์ฟให้เร็วค่ะ
Luk.
