รักรั่วๆของ..พรต&รัน
Part 26
(Special Run) “รัน..กูเข้าไปนะ” ไอ้รั่วเรียกหน้าห้องเบาๆ ตื่นเช้านี่หว่า นึกว่าต้องเป็นผมไปปลุกมันเสียอีก
“อืม..เข้ามาดิ” อนุญาตปุ๊บ ประตูเลื่อนเปิดปั๊บ
“เพิ่งตื่นเหรอมึง” มันถาม คงเห็นหัวผมกระเซิงอยู่มั้ง
“อืม..อาบน้ำแล้ว” ดูมันหน้าตาสดชื่นเหมือนอาบน้ำเรียบร้อย แต่ยังสวมยูกาตะใส่นอนอยู่ ผมจึงไม่แน่ใจ
“เออ..กูอาบแล้ว กะมาปลุกมึงเห็นว่ายังเช้าอยู่มาก เปลี่ยนใจให้มึงนอนต่อ อาบเสร็จมึงยังไม่มีทีท่าโผล่หัวออกห้อง
กูต้องมาเรียก” มันตื่นเช้าจริงๆ ก่อนหน้าผมดูเวลาเพิ่งจะหกโมง แสดงว่ามันตื่นก่อนนั้นอีก
“เป็นอะไร..นอนไม่หลับเหรอ แหกขี้ตาตื่นแต่ไก่โห่” ผมเป็นห่วง
“หลับปกติ..ปวดเยี่ยวเลยลุก ห้องน้ำดันเดินไปห้องแช่น้ำร้อน พานตาสว่างหายง่วงเลยกู เปลี่ยนใจอาบน้ำแม่งเลย
จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาหลายรอบ สงสัยเป็นกุศโลบายคนโบราณให้ลูกหลานตื่นเช้า ถึงได้สร้างห้องน้ำไว้แบบนี้” คิดไปนั่น
“คนไทยก็ไม่ต่าง บ้านต่างจังหวัดสร้างห้องน้ำอยู่นอกบ้านเยอะแยะ
แปลว่าเขาคิดกุศโลบายเดียวกันกับคนญี่ปุ่นงั้นดิ” ผมย้อน
“มั้ง..คนรุ่นใหม่กลายเป็นคนขี้เกียจ มีห้องน้ำในห้องนอนซ้า! จะว่าไปสมัยนี้เวลาเป็นเงินเป็นทอง
สมัยก่อนไม่ต้องรีบร้อนแข่งขัน เช้าไปทำไร่ไถนาเย็นพระอาทิตย์ตกก็กลับเข้าบ้าน ชีวิตวนเวียนอยู่อย่างเดิมๆ
นึกสร้างอะไรก็เอื้อต่อวิถีชีวิตประจำวัน สำคัญกูว่าส้วมสมัยโบราณคงเก็บกลิ่นไม่ได้ดีเหมือนปัจจุบัน ระบบสุขาภิบาลยังไม่ได้
มาตรฐาน กลิ่นอาจไปรบกวนคนอาศัยภายในบ้านมากกว่า ถึงได้สร้างซะห่าง แต่มันไม่ใช่ประเด็นที่บ้านโซไดเสือกให้แขก
เดินไปใช้ห้องน้ำเนี่ยะแหละ” บ่นใหญ่เชียวไอ้รั่วมันเคยชินกับการทำธุระส่วนตัวในห้องนอนมากกว่า
มันจึงมีปัญหามากกว่าผม..เป็นเรื่องปกติ
“เอาน่า..อีกสามวันก็กลับแล้ว นอนที่นี่อีกคืน พรุ่งนี้มึงไปเล่นสกีค้างแรมไม่ใช่ ที่พักคงปกติไม่เป็นแบบนี้หรอก”
ผมเตือนความจำโปรแกรมที่แพลนกันเอาไว้
“อืม..จริงของมึง แต่กูมีเรื่องชื่นชมนะโว้ย! โถฉี่ที่นี่แม่งโคตรฉลาดเลยวะ!” มันพูดทิ้งค้างให้ผมอยากรู้
“ยังไง..กูเห็นปกติ” ผมไปใช้มาแล้ว ไม่เห็นแปลกประหลาดพิเศษพิสดารตรงไหน
“ที่กูตาสว่างหายง่วงส่วนหนึ่งมาจากโถฉี่แหละมึง” ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่ หรือผมพลาดรายละเอียดอะไรไป
“อะไรที่มึงบอกโถฉี่ฉลาด” เอากับมันหน่อย คงไม่รั่วอย่างที่คิดไว้ล่ะ
“ตอนกูยืนฉี่อย่างงง? ฉี่อยู่ดีดี..ตาเหลือบไปเห็นที่โถมันบอก ‘โต๊โต’(TOTO) มันรู้ได้ไงวะ! อายอ่ะ
พอเปลี่ยนไปอีกโถงงเข้าไปใหญ่ ดันบอกว่า ‘โคตรโต’ (Cotto) นี่กูไม่เคยบอกใครเลยทำไมมันรู้ เปลี่ยนอีกโถเจอเข้าอีก
มันบอกขนาดมาตรฐานคนอเมริกัน (American Standard) เดี๋ยวนี้โถฉี่มันฉลาดนะเว้ยรู้ของกูอีก แต่กูโกรธตอนไปล้างมือ
ตรงก๊อกน้ำดันบอก ‘สั้นว่ะ’(Sanwa) เซ็งเบย..หายง่วงในทันที..ถือโอกาสอาบน้ำแม่งเลย"
“ผลั๊ว!..ตบหัวกูไมเนี่ยะ” เบิดกะโหลกไปที เสือกเล่นมุกรั่วแต่เช้า
ทำเอาผมหัวเราะเพราะกลั้นไม่อยู่ คิดได้..รั่วไม่มีลิมิต..เฮ้อ!
“เกริ่นจนกูอยากรู้ มึงพูดมาทำอย่างกับเมืองไทยไม่มี” เหน็บไปที ทำหน้าสำออยคลำหัวป้อยๆ
ทั้งที่ไม่ได้เจ็บอะไรสักหน่อย ผมแค่เบิดเบาๆ
“กูอุตส่าห์ทำให้มึงตื่นเต็มตา ไม่นึกว่าทำคุณบูชาโทษ ไปอาบน้ำเลยสัด..กูแต่งตัวรอ”
พูดจบ..งอนตุ๊บป่องหันหลังเดินกลับห้องหน้าตาเฉย ผมได้แต่ส่ายหน้าตามขำๆ มันช่างสรรหาวิธีการจริงๆ
แบบนี้ไม่ให้รักได้ไง เล่นซะผมตื่นเต็มตาอย่างมันพูดแหละ ไปทำธุระส่วนตัวดีกว่า...
“โซไดจังห้ายผมมาตามคับ” จุงเบโผล่มา จังหวะแต่งตัวเซ็ตผมกันเสร็จเรียบร้อย ไอ้รั่วใส่สูทสีดำเหมือนผม
เชิ้ตตัวในสีขาวดูเป็นทางการเพราะต้องพบปะคนมีสีมีระดับของญี่ปุ่นที่มาร่วมพิธีเปิดงาน รวมถึงการประมูลสินค้าในวันนี้
“นำไปเลยครับ..จุงเบ” ไอ้รั่วผายมือ ก่อนล่ามคนคุ้นหน้าจะเดินนำออกไป
เขาสวมสูทสากลเช่นกัน ผมกับมันตามจุงเบไปติดๆ
มาถึงหน้าทางเข้าบ้าน รถลีมูซีนสีขาวจอดรออยู่แล้ว เจ้าของบ้านโซไดกับคุณคิมยืนเคียงข้างกัน
เธอแต่งกายด้วยชุดเดรสสีครีมขับผิวขาวละออดูมีประกายขึ้นไปอีก ห้อยสร้อยไข่มุกบนคอระหง
มวยผมสูงปักปิ่นฝังทับทิมล้อมเพชร สวมถุงมือขาวสะพายกระเป๋ายี่ห้อหรูราคาแพง รวมทรัพย์สินบนตัวคุณคิม
มูลค่าไม่ธรรมดา
ส่วนโซไดสวมสูทสากลสีเดียวกับพวกผม ใส่นาฬิกาล้อมเพชรข้อมือซ้ายเป็นเครื่องประดับชิ้นเดียว
แต่กลับดูภูมิฐานราศีจับสมเป็นนักธุรกิจ
“โอฮะโย โกะไซมัส" คำทักทายพร้อมยื่นมือเช็คแฮนด์แบบสากล
ผมกับไอ้รั่วปฏิบัติตอบแบบเดียวกัน จับมือทั้งโซไดและคุณคิม
“ขึ้นรถเถอะครับ ได้เวลาเดินทางแล้ว” โซไดบอกด้วยภาษาอังกฤษ
คนขับและจุงเบทำหน้าที่เปิดประตูให้พวกเราเข้าไปนั่งส่วนผู้โดยสาร ภายในรถโอ่อ่าสมราคา
จุงเบขึ้นนั่งตีคู่คนขับซึ่งมีส่วนกั้นมิดชิด รถเคลื่อนตัวออกจากบ้านอย่างนุ่มนวลเงียบกริบไร้เสียงเล็ดลอดให้ได้ยิน
“หลับสบายไหมครับ” โซไดถามเราสองคน
“สบายมากครับ..ขอบคุณสำหรับการเทคแคร์ดีเยี่ยม” ไอ้รั่วตอบ
“ผมจะพาทานมื้อเช้าที่ภัตตาคารxxx ก่อนเข้างาน ไปถึงงานคงยุ่งจนไม่มีเวลาทาน”
ความคิดไม่เลว ผมกับไอ้รั่วพยักหน้าเห็นด้วย คำว่ามื้อเช้าคงเป็นอาหารอ่อนสบายท้องทั่วไป
“คนญี่ปุ่นทานหมูย่างหรือเปล่าครับ” จู่ๆ ไอ้รั่วมันเกิดถามขึ้นมา
“หมายถึงหมูสะเต๊ะเหรอครับ” โซไดย้ำ หลังฟังคำอธิบายจากคุณคิมเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกที
“เปล่า..ไม่เหมือนครับ หมูย่างเรียกอีกอย่างว่าอะไร คุณคิมรู้ไหม?” เปลี่ยนหันไปถามคุณคิมแทน
เมื่อเธอพยายามตีความให้โซไดเข้าใจเป็นหมูสะเต๊ะ ซึ่งแตกต่างจากหมูย่างในความหมายไอ้รั่วมัน
“คุณพรตหมายถึงหมูปิ้งข้าวเหนียวหรือเปล่าค่ะ”
เป็นการเปิดปากคุยกับมันครั้งแรกตั้งแต่เจอหน้าในเช้านี้ ไอ้รั่วยิ้มหล่อกระชากใจ
“คุณคิมกำลังบอกผมเรียกอีกชื่อว่า ‘หมูปิ้ง’” มันย้ำเธอให้แน่ใจ
“ค่ะ..นอกจากหมูปิ้งฉันนึกไม่ออกมีชื่ออย่างอื่น ปิ้งย่างความหมายไม่ต่างกัน” เธอตอบอย่างมั่นใจ
“แต่กรณีนี้ผิดครับ ‘หมูย่าง’ คือหมูเดินอย่างช้าๆ ค่อยๆ ย่างก้าว” ผมเบือนหน้าเกร็งกรามแทบตาย
ไม่ให้หลุดหัวเราะพรืดออกมา บ้าชะมัด!ดันรั่วใส่เธอเฉย แอบเห็นคุณคิมหน้าเหวอ ก่อนปิดปากหัวเราะไหล่สั่น
ส่งผลให้โซไดยิ้มร่ามองเธอสลับมันไปมาอย่างไม่เข้าใจ รอจนเธอควบคุมอารมณ์ตัวเองดีขึ้น
เป็นคนอธิบายด้วยภาษาญี่ปุ่นให้เขาฟัง ว่าเธอกับมันคุยอะไรกัน ผลสุดท้ายโซไดก็ระเบิดเสียงหัวเราะหลังฟังเธอเล่าจบ
“ฮะฮ่าๆๆ..คุณโจ๊กเกอร์มากๆ” โซไดพูดทั้งที่หัวเราะไปด้วย ไอ้รั่วมันระบายยิ้มยอมรับหน้าชื่นตาบาน
ก่อนหันมายิ้มให้ผม มุมนี้ผมถึงบางอ้อว่ามันเจตนาสร้างบรรยากาศภายในรถ
เจาะจงที่คุณคิมไม่ให้ดูอึมครึมปล่อยตัวสบายๆ และก็ได้ผลดีเสียด้วย
หลังจากนั้นเป็นการคุยปกติ ปนฮาตามประสาของไอ้รั่วนั่นแหละ ทำให้ภายในรถมีเสียงหัวเราะตลอดการเดินทาง
“ทหารไทยแบ่งเหล่าทัพตามนี้ รุงรังคือทหารราบ ตีนตะขาบพวกรถถัง ใส่กีบเท้าทหารม้า รักษาทหารหมอ
ติดต่อหน่วยสื่อสาร บำนาญหน่วยการเงิน เที่ยวเพลิดเพลินพวกขนส่ง กันหลงกลุ่มแผนที่ พวกหนีเมียคือสห.
ตัวพ่อคือปืนใหญ่ ร้องเล่นเต้นไปกลุ่มดุริยางค์ ก่อสร้างทหารช่าง อิ่มกันจังหน่วยพลาธิการ ยอดคนงานการสัตว์
ชอบกัดการข่าว งานหนาวหนาวสรรพาวุธ น่าเบื่อสุดกลุ่มสารบัญ..ฮะฮ่าๆๆ” มันท่องเป็นควุ้งเป็นแคว
สร้างเสียงหัวเราะให้คุณคิมเธอตลอด ผมเองพลอยขำไปด้วย แม้โซไดจะฟังภาษาไทยไม่เข้าใจ
แต่อาศัยสังเกตรอยยิ้มและอาการขำของว่าที่ภรรยา ใบหน้าหล่อสไตล์ญี่ปุ่นก็ยิ้มตามอย่างมีความสุข
มาถึงภัตตาคารหรูย่านดัง เจ้าบ้านจองโต๊ะเรียบร้อย ไม่เสียเวลาพอนั่งเรียบร้อย ชุดอาหารเช้าก็เสิร์ฟตรงหน้าพวกเรา
ของใครของมัน นึกว่าจะเป็นของอ่อนๆ พวกโจ๊กเสียอีก ตรงข้ามที่คิดไว้สิ้นเชิง คงเพราะอาการทางสีหน้าแสดงความสงสัย
ของไอ้รั่ว คุณคิมเธอสังเกตเห็น ลงมือทำหน้าที่อธิบายให้ฟังทันที
“อาหารเช้าแบบญี่ปุ่น โบราณมาชาวญี่ปุ่นกินข้าวเป็นหลัก พร้อมด้วยอาหารทะเลและเครื่องเคียงจำพวกผักดอง
เช่น แตงกวาดองเป็นต้น ที่ขาดไม่ได้เลยคือมิโสะซุป นอกจากนี้อาหารเช้าของคนญี่ปุ่นคืออาหารที่เหลือจากมื้อเย็นเมื่อวาน
เขาฝึกวินัยให้คนรักประหยัด” เธอพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้ ผมพยักหน้าเข้าใจ ดูเธอตอนนี้วางตัวปกติเป็นกันเองมากขึ้น
ดูไม่ค่อยอึดอัดสักเท่าไหร่
มื้อเช้าจึงเป็นไปแบบสบายๆ ผมกับไอ้รั่วไม่ปฏิเสธถึงแม้ไม่ชินกับการทานข้าวเป็นมื้อเช้ามาก่อน
พอลองชิมดันอร่อยจนหยุดไม่อยู่ โซ้ยจนหมดอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นโซไดก็จัดการเคลียร์ค่าใช้จ่าย
ก่อนพาพวกเราตรงมายังหอศิลป์สถานที่จัดงาน
เหลือเวลายี่สิบนาที ประธานกำลังเดินทางมาที่นี่ ฟังรายงานที่โซไดรับแจ้งจากลูกน้อง บรรยากาศในงานคึกคัก
ด้วยผู้คนรวมทั้งสื่อมวลชนซึ่งมาทำข่าว ชนชั้นมีอันจะกินแสดงตัวกันอุ่นหนาฝาคั่ง ต่างเดินชมอัญมณี บัดนี้อวดโฉม
ในฝาครอบแก้วตั้งให้เห็นเด่นชัด โดยเฉพาะชุดตะเกียงมูลค่ากว่า 80 ล้าน ประกายเพชรวิบวับเล่นไฟวูบวาบตลอดเวลา
น่าทึ่งคือลายซากุระที่เพ้นท์รอบคริสตัล เหมือนภาพสามมิติมีชีวิตชีวาอย่างกับไม่ใช่การเพ้นท์งาน
เหมือนหักกิ่งซากุระมาประดับยังไงยังงั้น
“ss##$$$..xx บลาๆๆ” เสียงซุบซิบพูดคุยทั่วบริเวณ ลูกค้าอุ่นหนาฝาคั่งแบบนี้ ผมกับไอ้รั่วพลอยชื่นใจ
ถือว่างานนี้ประสบความสำเร็จ พนักงานเราและทีมงานของโซไดยุ่งเป็นระวิง ไม่มีเวลาได้พูดคุยกันด้วยซ้ำ
แม้แต่พลัสก็ต้องแสตนบายด์จุดที่ได้รับมอบหมาย คอยประสานงานกับทีมออร์แกไนซ์ให้เป็นไปตามตารางไม่ผิดพลาด
ผมกับไอ้รั่วได้รับการแนะนำให้ทักทายคณะข้าราชการ เซเลบไฮโซของญี่ปุ่น คนทำหน้าที่คือโซได
ข้างกายมีคุณคิมประกบเรียกแสงแฟลชจากตากล้องและนักข่าวจนแสบตา ถึงแม้เราไม่มีเวลาพักหายใจเท่าไหร่
แต่ก็รู้สึกภูมิใจที่งานใหญ่ระดับนี้สมบูรณ์ลงตัว
“เลดี้แอนด์เจทเทิลเมน..บัดนี้ได้เวลาเปิดเคมเปญเครื่องประดับจากไทยแลนด์ร่วมกับบริษัทxxx
โดยประธานกรรมการมิสเตอร์โซไดสุเกะ และบริษัทมณีกาญจ์จากประเทศไทย มอบหมายให้รองประธานฝ่ายบริหารมาร่วม
คือมิสเตอร์วรพรต รัตนมณีกาญจ์ มาพร้อมกรรมการผู้จัดการมิสเตอร์อรัญ ขจรเกียรติวงศ์ เชิญตัวแทนทั้งสองฝ่ายบนเวที..
เรียนเชิญท่านรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ มิสเตอร์ฮารุโงะ xxx ขึ้นกล่าวเปิดงาน”
พิธีกรทำหน้าที่ประกาศ หลังประธานเดินทางมาถึงได้ 5 นาที โดยมีพวกผมต้อนรับอยู่ตรงโซฟารับรองวีไอพี
พวกเราทั้งคณะทยอยเดินขึ้นเวที ท่ามกลางเสียงปรบมือและชัตเตอร์จากช่างภาพสื่อมวลชนทั้งไทยและญี่ปุ่นที่รับเชิญมาร่วมงาน
ประธานใช้เวลากระชับในการกล่าวเปิดอย่างเป็นทางการ พร้อมตัดริบบิ้นเปิดงาน ตามด้วยการแสดงอุปรากรพื้นบ้านญี่ปุ่น
เป็นการแสดงตีกลองสวมหน้ากาก สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมไม่น้อยทีเดียว เท่าที่ฟังคำอธิบายจากจุงเบ
อุปรากรชนิดนี้เป็นการอนุรักษ์ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว
หลังจากนั้นเป็นการเดินแฟชั่นโชว์เครื่องประดับยี่สิบรายการ อาศัยนางแบบนายแบบชื่อดังของญี่ปุ่นโชว์ผลงาน
อลังการบนเวที ท่ามกลางสายตาชื่นชมของเหล่าบรรดาไฮโซทั้งหลาย ปิดท้ายด้วยการให้นางแบบนายแบบที่ใส่เครื่องประดับ
ออกมายืนโพสท่าเปิดประมูลราคาแต่ละชุด
ผลตอบรับเกินคาด มูลค่าการประมูลจากที่ตั้งเป้าไว้ พุ่งกระฉูดสร้างกำไรกว่า 100% ไอ้รั่วยิ้มหน้าบาน
ไม่มีชิ้นไหนขายไม่ออกหรือราคาดาวน์ลงสักรายการ ตรงข้ามได้ราคางาม พร้อมผู้ประมูลติดต่อรับสินค้ากลับบ้านทุกชิ้น
เหลือชิ้นสำคัญที่โซไดประกาศใช้เป็นสินสอดการแต่งงานของตนเองท่ามกลางแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน พากันฮือฮา
กลายเป็นข่าวใหญ่ไปเรียบร้อย คาดว่าพรุ่งนี้คงขึ้นหน้าหนึ่งแย่งซีนงานแน่ๆ โซไดเลือกเวลาและจังหวะเหมาะ
ในการใช้สื่อได้คุ้มน่าดูชม
ชิ้นนี้โซไดจังหรือชื่อจริงไดสุเกะ ใช้วิธีโอนเงินเข้าบริษัทผ่านระบบออนไลน์ ให้ไอ้รั่วติดต่อแผนกบัญชีที่ไทย
ตรวจเช็คยอดเงินเป็นที่เรียบร้อย ทุกอย่างราบรื่นไม่มีปัญหา ไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ถือว่าระบบรักษาความปลอดภัย
ในงานรัดกุมเข้มงวด สมเป็นมืออาชีพ
หลังส่งประธานและลูกค้าวีไอพีซึ่งหน้าชื่นตาบานยิ้มระรื่นทยอยกลับเป็นที่เรียบร้อย
เรานัดทีมงานฉลองที่ภัตตาคารหรูย่าน Asakusa ทั้งพนักงานของพวกผมและของทีมงานญี่ปุ่น
โดยค่าใช้จ่ายไอ้รั่วเป็นเจ้าภาพตัดเป็นค่าใช้จ่ายเอนเตอร์เทนของบริษัทตามระเบียบ
งานเลี้ยงเป็นไปอย่างกันเอง สังเกตสายตาพลัสมองตามผมทุกฝีก้าวแต่ไม่กล้าเข้ามาคุย
คงเห็นผมอยู่กับพวกผู้ใหญ่ ยอมรักษามารยาททั้งที่สายตาบ่งบอกชัดอยากคุยกับผมมาก
“หึ!..แม่ทีมมือโปรมองมึงตาละห้อย” ไอ้รั่วแอบกระซิบ ได้แต่สบตามันดุๆ ถึงยอมเงียบ
จบจากกินอาหารอิ่มหมีพีมัน เป็นช่วงคาราโอเกะ ปล่อยทีมงานวาดลวดลายลีลากันเต็มที่
ทั้งไทยทั้งญี่ปุ่นร่วมสามสิบชีวิต ร้องเล่นเต้นกระจาย
จุงเบล่ามประจำตัวอธิบายให้ไอ้รั่วฟัง ว่าน้องผู้หญิงจากญี่ปุ่นพูดอะไรกันในกลุ่มถึงหัวเราะเป็นที่สนุกสนาน
ได้ความว่า..เธอบอกเพื่อนชายที่ใส่กางเกงขากระบอกไม่ทันสมัย หากสนใจเธอให้ใส่ขาเดฟซึ่งกำลังฮิต
เปลี่ยนลุคเสียก่อนเธอถึงจะชายตาแล ผมกับไอ้รั่วอมยิ้มตาม
ห้องจัดเลี้ยงไพรเวท มีแต่ภาษาญี่ปุ่นคุยเซ็งแซ่ เลือดนิยมกันจริงๆ พวกผมจึงกลายเป็นหูหนวกรอจุงเบแปลให้ฟัง
ยกเว้นโซไดกับคุณคิมที่นั่งร่วมโต๊ะใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนากับพวกผม
“คนใส่ขากระบอกน้องบอกไม่เฟี้ยว ใส่ขาเดฟหลุดตูดรัดกระเจี๊ยว! น้องบอกว่าเฟี้ยว..น่ารักจุงเบย..ฮะฮ่าๆ”
ออกอาการรั่วตามเคย แม้จะพูดจาทะลึ่ง แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะจากคุณคิมเธอทันควัน
ดูเธอไม่เคอะเขินมันเลย ตรงกันข้ามขำมันด้วย เห็นแบบนี้ผมเบาใจ เธออาจทำใจได้บ้างแล้ว
เปลี่ยนสถานะเป็นเพื่อนดีที่สุด แต่มีบางอย่างที่ผมยังไม่อาจวางใจได้ แววตาเธอบางครั้งเผลอมองไอ้รั่วอย่างลุ่มหลง
แต่พอรู้ตัวจะรีบเปลี่ยนสีหน้าทันที ถ้าไม่สังเกตให้ดีจะไม่เห็นพิรุธแม้แต่น้อย เพียงแค่นี้ผมไม่หนักใจเท่าไหร่
เป็นเรื่องปกติคนเคยรักฝังใจย่อมหวั่นไหวเป็นของธรรมดา
พวกผมกรึ่มบรั่นดีราคาแพงพอสมควร ชนแก้วโซไดคอแข็งเอาเรื่อง งานเลี้ยงเลิกราหลังพวกผมขอตัวเคลียร์ค่าใช้จ่าย
ให้ทีมงานที่ยังสนุกอยู่กันต่อ พรุ่งนี้สิบโมงเช้าเรามีเดินทางไปภูเขาฟูจิ เพื่อเล่นสกีตามความฝันของไอ้รั่ว
กลับถึงบ้านโซได ราตรีสวัสดิ์เรียบร้อยแยกย้ายตรงชานนั่นแหละ
โซไดกับคุณคิมแยกไปทางระเบียงใหญ่ น่าจะเป็นที่พักพวกเขาอยู่โซนนั้น
ผมกับไอ้รั่วมาทางฝั่งซ้าย มันไม่ยักเข้าห้องตัวเองเนียนนอนพังพาบบนฟูกของผมหน้าตาเฉย ซาซิจังคงมาปูให้
“หึหึ! พรุ่งนี้กูจะสกีให้วี๊ดวิ้วเลยคอยดู” มันพูด
“อยากขนาดนั้นเชียว อย่าประมาทไม่ง่ายอย่างที่คิด ระวังตัวด้วยบาดเจ็บไม่คุ้มพรต”
ผมเตือน มันเหลือบตาคมจ้องหน้าผมตอบ ก่อนเผยยิ้มอย่างหล่อส่งให้
“กูพอเป็นเว้ย! ไม่ต่างสะเก็ตน้ำแข็งหรอกรัน มึงเคยเล่นมานิเป็นครูสอนกูดิ”
ผมเคยเล่นตอนพ่อพาไปเยี่ยมพี่ชายที่อังกฤษ ช่วงนั้นพี่ผมเรียนไฮสคูลเลยมีโอกาสสัมผัส แต่ก็พอเล่นได้ไม่เก่งอะไรมาก
“แค่ถูๆ ไถๆ ไม่ใช่โปรสกี” ผมออกตัว
“คึคึ! อยากถูไถไหมเล่า” ยั่วอีก
“คึกหรือมึง ไม่ดีกว่าพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ที่พักส่วนตัวสะดวกกว่าเยอะ”
ผมต้องอดทน ยังแอบหวั่นมีกล้องสอดแนมอยู่ดี
“ไม่ว่ากัน..น่าขำเนอะผู้ชายสมัยนี้ ให้มีเมียชายดันส่ายหัว ถ้ามีผัว..กี่คนก็รับไหว..ฮะฮ่าๆๆ” รั่วอีกเมียกู
“ประสาทล่ะมึง..ที่พูดคงไม่เหมามึงด้วยนะ” ผมหวงหากมันบ้าคิดอย่างที่พูดขึ้นมาจริงๆ
“กูไม่ทำหรอก ไม่ว่าจะผัวหรือเมีย พอแล้วชีวิตนี้” ฟังมันแล้วเผลอยิ้มจนได้
คงเพราะอารมณ์มันดี ที่งานเรียบร้อยประสบผลสำเร็จงดงาม กอปรกับดื่มบรั่นดีมาด้วย เลยครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ
“กูรับปาก ชีวิตที่เหลืออยู่จบที่มึงคนเดียว” ผมยืนยัน ลูบหัวมันด้วย เห็นแบบนี้แล้วดูมันเท่ดีชะมัด
“ต่อให้กูไม่เหลืออะไรมึงก็เอาเหรอ” ผมจ้องตามันเขม็ง พูดเหมือนดูถูกกันซะงั้น
“หมายความว่าไง” อดเสียงห้วนไม่ได้
“กูหมายถึง..ต่อให้กูหมดตูดไม่มีไอโฟนใช้มึงก็ไม่คืนคำ” บ้าชิบ!
“กูรักที่ตัวมึง ไม่ใช่ฐานะ” ย้ำเสียงหนัก
“โอเค..รู้แล้ว ถึงแม้ไม่มีไอโฟนใช้ รับประกันว่าไม่โหนรถมาทำงานเชื่อกูป่ะ!” ผมงง?
“พูดอะไรของมึง” งงครับ
“กูหมายถึง ถ้าไม่เหลืออะไรจริง กูก็ไม่ลำบากโหนรถมาทำงานเว้ย” พอเข้าใจแล้ว ว่ามันต้องการพูดอะไร
“มึงจะบอกว่ามึงสามารถมาทำงาน โดยไม่ต้องลำบาก..ทำไง”
“กูเดินเอา เรื่องอะไรจะโหนรถให้เสียชื่อ มีขาก็เดินดิ..คึคึ!”
“ป๊าบ!..รั่วไปแหละ” ตบหน้าผากมันจนได้ ใส่ไปทีไม่แรงหรอก
“เคยมือนะมึง ผิดหูลงไม้ลงมือตลอด กูเมียนะรันไม่ใช่กระสอบทราย..นิดหน่อยก็ซ้อม”
ผมเผลอยิ้มปากกว้างกับคำพูดมัน
“โทษที..กูหมั่นเขี้ยวนี่หว่า..หึหึ” หัวเราะไปด้วย หน้ามันดูตลก
“ประจำ..เห็นกูเป็นที่ระบาย สนใจอยากเป็นอุลต้าแมนไหม” มาไม้ไหนของมันอีก
“กูไม่ใช่เด็กติดยอดมนุษย์” ปฏิเสธไม่รับมุก
“เป็นหน่อยเหอะ ไม่ลำบากสักนิดกับการเป็นอุลต้าแมน ปัจจุบันมึงก้าวข้ามไปแล้วขั้น
ขออีกขั้นมึงก็สามารถเป็นยอดมนุษย์อุลต้าแมนสำเร็จ” เอากับมันดิ มาแบบนี้รั่วชัวร์
“ว่ามาดิ” เล่นกับเขาหน่อย
“ชายได้ชายคือยอดชาย แต่ถ้าชายได้ตุ๊ดคือยอดมนุษย์อุลต้าแมน..ฮะฮ่าๆๆ”
พูดจบเผ่นลุกพรวด เลื่อนประตูหนีกลับห้องพร้อมเสียงหัวเราะไม่หยุด ผมได้แต่ส่ายหน้าขำไหล่สั่น
ไม่ว่าเวลาไหนมันยังคงขยันสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้ผมเสมอ..เหยี่ยวรั่วเอ้ย!!!!
@@โอนจอง รักรั่วๆ..พรต&รัน@@
ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ก.ค. 56รายละเอียดหนังสือ1.นิยายมี 2 เล่มจบ รวมบ็อกเซท
2.เนื้อในกระดาษถนอมสายตา จำนวนหน้ารวม 500 หน้า
3.ที่คั่นหนังสือ 4 แบบ ตามปก 2 เล่ม
4.ตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงในเล้าฯ 10 ตอน
- เนื้อหาตอนพิเศษ เดินเรื่องต่อเนื่องยอมเปิดตัวเป็นแฟนกันให้พนักงานและคนรอบข้างรับรู้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีมา พร้อมการฉลองร่วมแสดงความยินดีปริญญาด๊อกเตอร์ของบอมย์เบย์ รวมทริปท่องเที่ยวเทศกาลสำคัญ ฯลฯ ก้าวกระโดดมาถึงตอนปัจจุบันที่เป็นเรื่องช่วงพี่บอมย์กับน้องจอม กินเนื้อที่เล่ม 2 กว่า 70%
รับประกันแพ็คอย่างดี กันกระแทกแน่นหนามาจองนะคะราคานิยาย+บ็อกเซท+ ค่าจัดส่งลงทะเบียน 860 บาท ฟรี!!! เสื้อยืดสีขาวสกรีนลายเหยี่ยวกับสิงห์ มูลค่า 140 บาทสำหรับ 200 ท่านแรก ที่โอนเงินมานะคะ
สามารถโอนและส่งรายละเอียดการโอนได้ที่
1.โอนได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 391-214997-2
ชื่อบัญชี นายภาณุพงศ์ ทับประสูติ
2.โอนแล้วแจ้งรายละเอียดการโอน พร้อมที่อยู่จัดส่งหนังสือมาทาง Mail ได้เลยค่ะluxilove_19690 แอท hotmail ดอท com
Thanks so.
ลักษ์.




