【Office Worker】เผลอรักหนุ่ม OT พิเศษ - เชน & ภูมิจิต 4 (จบ) - p.117 (8/4/57)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【Office Worker】เผลอรักหนุ่ม OT พิเศษ - เชน & ภูมิจิต 4 (จบ) - p.117 (8/4/57)  (อ่าน 775647 ครั้ง)

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ไม่อยากให้รถที่มาชนเป็นรถของฉกาจ  อยากให้เป็นคนอื่น
ไม่อยากให้มันต้องมาสมเพชเวทนาอะไรคุณนิดอีก
แล้วก็อยากให้คุณนิดจำความเจ็บครั้งนี้  อย่าให้อภัยมันง่าย ๆ
หรือไม่ต้องให้อภัยกันเลยได้เป็นดี  แค้นว่ะ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ตัดกันแบบนี้เหมือนตัดหัวใจกันเลยทีเดียว เหอะๆๆ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
อ่านตอนแรกก็แบบ เฮ้ย น่ารักแฮะ พออ่านไปอ่านมาแล้วแบบ..   :hao5:
รอตอนต่อไปอยู่เน้อ :mew1:

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
รอตอนต่อ ลุ้นๆๆ วันนี้จะมามั้ยหนอ >_<

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
สุดท้ายคนที่เสียใจก็คือตัวนิดเอง เขาทำไปได้ ทำเหมือนรัก
สุดท้ายก็ทำเพื่อประโยชน์ขอบตัวเขาเอง

ออฟไลน์ 403

  • 4 0 3 Forbidden
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-2
ตอนที่ 8 # หงุดหงิด

          “คุณสุทิน ช่วยขับรถช้าลงหน่อยนะครับ”

          “ครับนาย...แต่ว่าอีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาประชุมแล้วนะครับ ผมเกรงว่า...” คนที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับด้านหน้าลอบมองผมผ่านกระจกหลัง เจ้าตัวทำท่าอึกอักเล็กน้อย เมื่อกลัวว่าจะขับรถไปถึงที่หมายไม่ทันเวลาที่กำหนด

          “ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจัดการโทรบอกคณะบริหารเอง คุณขับรถช้าๆ ระวังหน่อยแล้วกันนะ” ผมบอกออกไป ไม่รู้ทำไมคนที่ตรงต่อเวลามาตลอดอย่างผมถึงบอกไปแบบนั้น... รู้อย่างเดียวแค่ว่า ไม่รีบคงจะดีกว่า

          หยิบเอกสารเตรียมการประชุมขึ้นมาอ่านแล้วหงุดหงิดเพราะตัวเองไม่มีสมาธิที่จะอ่าน ในหัวของผมไม่สามารถสลัดภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของใครคนหนึ่งได้ ไม่รู้จะจดจำอะไรนักหนา ก็แค่คนที่เคยอยู่ด้วยกันในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ยอมรับว่ารู้สึกดีด้วย...แต่...ไม่ได้รัก

          ผมถอนหายใจเนือยๆ เพ่งมองตัวเลขของกำไรที่เพิ่มขึ้นในเอกสาร ผมควรจะดีใจ แต่ไม่เลย...ในเมื่อมันไม่ได้มาจากความสามารถของผมโดยตรง ผมใช้กลโกง หลอกใช้ความใจดีของใครคนนั้นในการที่จะได้ข้อมูลนี้มา แต่มันก็สมน้ำสมเนื้อกันแล้วไม่ใช่รึไง ในเมื่ออีกฝ่ายก็โกงเหมือนกัน แม้ว่าจะยังทำไม่สำเร็จก็เถอะ

          “เฮ้ย!

          เอี๊ยดดด....!

          ผมเอามือค้ำยันเบาะไว้ก่อนที่ตัวเองจะพุ่งไปข้างหน้าเมื่อคนขับเบรกรถเต็มแรง

          “ขอโทษครับนาย...” สุทินว่า หายใจหอบด้วยความตกใจ

          “เกิดอะไรขึ้น” ผมถาม สายตาพลางมองออกไปนอกรถเพื่อหาสาเหตุ

          “คะ...คนครับ” คนขับว่าน้ำเสียงตื่นๆ

          “คุณขับชนเหรอ” ผมถาม สีหน้าวิตกพอกัน

          “เปล่าครับนาย รถเลนฝั่งตรงข้ามขับชนแล้วตัวเขาลอยมาตกที่นี่ ดีนะที่ผมเบรกทัน ไม่งั้นเหยียบซ้ำแล้วแน่ๆ...เฮ้ย! นายครับ รถคันที่ชนมันกำลังจะขับหนี!” ผมมองตามรถคันที่ว่ากำลังเคลื่อนตัวผ่านรถของผมไป

          “จำเลขทะเบียนกับลักษณะรถแล้วโทรแจ้งความด้วย ผมขอลงไปดูคนเจ็บก่อน”
 
          สุทินรับคำก่อนที่จะกดโทรหาตำรวจ เมื่อเสร็จแล้วก็ดับเครื่องยนต์แล้วตามผมลงมา

          “ไม่น่าจะรอดนะครับ เขากระเด็นมาไกลมากเลย” ผมกวาดสายตาไปตามถนน เห็นเศษซากของรถมอเตอร์ไซค์อยู่ไกลๆ ผมเช็คสภาพร่างกายคนเจ็บว่ามีส่วนไหนที่แตกหักบ้าง แขนกับขาของคนที่นอนนิ่งดูผิดรูปต่างไปจากปกติ และถ้าหากไม่สังเกตดีๆ คงไม่เห็นแรงกระเพื่อมน้อยๆที่หน้าอก มันทำให้ผมรู้ว่าเขายังหายใจอยู่
 
          พยายามไม่ให้ตัวเองโดนจุดแตกหักทั้งหลายนั่น กลัวจะไปซ้ำให้เขาเจ็บหนักกว่าเดิม จับที่คอดู...ตรงส่วนนี้ยังปกติ เลยตัดสินใจถอดหมวกกันน็อคออก คนเจ็บจะได้หายใจสะดวกยิ่งขึ้น แต่ใบหน้าที่เห็นมันทำให้ผมนิ่งค้าง ก่อนจะช้อนร่างนั้นขึ้นมาอย่างระมัดระวังเมื่อรวบรวมสติได้
 
          “สุทิน! คุณออกรถเดี๋ยวนี้เลย” ผมบอกออกไป รู้สึกว่าตัวเองมือสั่น จิตใจกระวนกระวายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

          “คะ...ครับนาย!”

          ห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาดเลยนะนิด!...

          .

          .

          .

          เกือบหกชั่วโมง ที่ผมนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ผมรู้สึกว่ามันนาน นานเกินไปจนผมเริ่มนั่งไม่ติด ต้องลุกขึ้นยืนทุกห้านาทีเพื่อชะเง้อมองว่ามีใครสักคนออกมาจากห้องผ่าตัดนั่นแล้วรึยัง แล้วก็ต้องนั่งลงกับที่ เมื่อพบว่าประตูห้องยังปิดสนิท
 
          สุทินยิ่งแล้วใหญ่ คนขับรถของผมกระวนกระวายพอกัน ระหว่างเรา มีแต่ความเงียบ สุทินไม่กล้าปริปากถามอะไรเมื่อรู้สึกถึงอารมณ์โมโหของผม...ใช่...ตอนนี้ผมกำลังโมโห และโมโหมากเสียด้วย

          คนโง่...โง่ที่ถูกหลอกไม่พอ ยังโง่ทำร้ายตัวเองอีก รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองขับรถไม่เป็น แถมไม่มีใบขับขี่ ยังจะดันทุรังขับ และผมยิ่งโมโหหนักขึ้นกว่าเก่า เมื่อเจ้านายใหม่ของคนที่นอนไม่ได้สติบุกมาถึงโรงพยาบาล ด่ากราดคนเจ็บว่าทำงานพลาด ทำให้มันต้องเสียเวลา ได้ยินแล้วผมแทบจะยั้งมือต่อยหน้ามันเอาไว้ไม่อยู่
 
          แปดชั่วโมงเข้าไปแล้ว... วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์ต่อว่าจากคณะผู้บริหารหลายท่าน เรื่องการเลื่อนประชุมออกไปแบบไม่มีกำหนด แต่ถ้าให้ผมกลับไปประชุมตอนนี้หรือตอนไหน ก็คงจะไม่ได้เรื่อง หากคนที่ไม่ได้สติยังไม่พ้นขีดอันตราย
 
          ผมมองตามพยาบาลที่เร่งรีบเข็ญรถบรรจุถุงเลือดเข้าไปแล้วใจไม่ดี เดินไปถามพยาบาลประจำเคาน์เตอร์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการผ่าตัด เธอบอกผู้ป่วยเสียเลือดมาก แต่ทางโรงพยาบาลยังพอมีเลือดสำรองเก็บไว้ ผมถอนหายใจด้วยความโล่ง แต่ก็ยังไม่ได้เบาใจ คราบเลือดบนตัวผมส่งกลิ่นคาวจนน่าเวียนหัว จึงถือโอกาสขอชุดจากทางโรงพยาบาลไปผลัดเปลี่ยนระหว่างรอ

          เกือบๆสิบชั่วโมง ประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออก ผมเผลอลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นคณะแพทย์เดินออกมา แล้วบอกกับผมว่า คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด...
 
          “คนไข้กระดูกแขนส่วนต้นหักทั้งสองข้าง ข้อมือข้างซ้ายหัก ขาข้างซ้ายและข้างขวาหัก รวมถึงกระดูกหัวเข่ายังแตกอีกด้วย แต่หมอผ่าตัดใส่เหล็กดามเอาไว้แล้ว...”

          ผมนั่งฟังคุณหมอถือแผ่นฟิล์มเอกซเรย์แล้วใช้ปากกาชี้ตรงจุดที่ว่า ด้วยสีหน้าที่บรรยายไม่ถูก
 
          “นอกจากนี้ กระดูกหน้าอกและกระดูกชายโครงด้านขวาหักหลายแห่ง มีเลือดคั่งในปอด หมอก็เจาะท่อระบายเลือดออกมาแล้ว ส่วนกระดูกก็รอให้สมานกันเอง ไม่ต้องผ่าตัด เพราะจะยิ่งทำให้คนไข้เสียเลือดมาก ยังไงก็แล้วแต่ หมอว่าทั้งหมดยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าตรงนี้...”

          ผมมองตามจุดที่คุณหมอเอาปากกาเคมีสีแดงวงให้เห็นชัดๆตรงหน้า

          “กระดูกสันหลังหัก...อยู่ในระดับ T12 อาการบาดเจ็บต่อไขสันหลังจะทำให้คนไข้ขยับขาทั้งสองข้างไม่ได้ หรือเรียกได้ว่าเป็นอัมพาตครึ่งท่อนล่าง…หมอยังระบุไม่ได้ว่าคนไข้เป็นหนักขนาดไหน หนักจนควบคุมระบบขับถ่ายไม่ได้เลยรึเปล่า คงต้องรอเจ้าตัวฟื้นก่อน...”

          อัมพาต... คำนี้ก้องอยู่ในหัวผมเหมือนกรอเทปซ้ำไปซ้ำมา...
 
          “แต่โชคดีนะครับที่คนไข้ไม่มีเลือดคั่งในสมองเลย ไม่อย่างนั้นคงได้ผ่าตัดทั้งตัวไปแล้ว”

          แม้คุณหมอจะพูดปลอบใจ แต่สติของผมเหมือนไม่รับฟังอะไรอีกแล้ว...
 
          .

          .

          .

          ผมมองร่างที่นอนไม่ไหวติงผ่านกระจกบานใหญ่ ตอนนี้ยังเข้าเยี่ยมไม่ได้เพราะต้องการให้คนไข้ปลอดเชื้อที่สุด เครื่องช่วยหายใจกับสายระโยงระยางนั่นทำให้ผมสะเทือนใจ... แม้ผมจะทำอะไรร้ายกาจหลายอย่าง ตั้งแต่ค้นหาเอกสารตอนกลางคืน แอบติดเครื่องดักฟัง ไปจนถึงเข้าหาเขาแบบมีแผนการ หลอกใช้ พูดจาทำร้ายจิตใจ... แต่ผมไม่ได้อยากให้คนตรงหน้าเจ็บหนักเจียนตายขนาดนี้ รู้สึกเสียใจ แต่หากพูดตามเหตุผลแล้ว เขาก็ทำตัวเองไม่ใช่รึไง...พอคิดแบบนั้นผมก็เริ่มโมโหอีกแล้ว โมโหไอ้คนขับที่ชนแล้วหนี โมโหตำรวจที่ยังจับคนทำผิดไม่ได้ แต่ที่โมโหที่สุดคือคนตรงหน้า...ที่ไม่รู้จักระวังตัว

          ในช่วงสามสี่วันแรกที่ย้ายคนเจ็บออกจากห้องไอซียู ผมแทบจะยกโต๊ะทำงานมาตั้งไว้ที่นี่ ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นการรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ และรบกวนคนที่นอนหลับอยู่ ช่วงกลางวันผมเลยให้ป้าเรืองมาดูแล ส่วนเวลาหลังสองสามทุ่มเป็นต้นไปก็เป็นช่วงเวลาของผม ผมมานอนค้างที่นี่ทุกคืน ลอบมองคนหลับทีไรก็หงุดหงิดในหัวใจว่าเมื่อไหร่จะรู้สึกตัวสักที
 
          ผ่านไปสักระยะคุณหมอก็ถอดอุปกรณ์ให้ออกซิเจนทางจมูกออก เมื่อคนที่นอนนิ่งอยู่เริ่มหายใจเองได้ การเต้นของหัวใจปกติ ความดันปกติ อายุที่ยังน้อยทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วและเริ่มมีการตอบสนอง...ยกเว้นแค่ส่วนขา...

          ผมยังคงไปทำงานปกติเหมือนทุกวัน จนเมื่อป้าเรืองโทรมาบอกผมในตอนบ่ายนั่นแหล่ะว่า นิดฟื้นแล้ว ผมแทบจะทิ้งงานทุกอย่างเพื่อไปโรงพยาบาลในทันที

          “เป็นยังไงบ้างครับป้า” ผมหายใจหอบ เพราะรีบวิ่งมา สายตาจ้องคนบนเตียง ไหนบอกฟื้นแล้วไง ทำไมผมมาถึงแล้วยังหลับอยู่

          “เพิ่งจะหลับไปอีกนะค่ะคุณหนู คุณหมอมาตรวจสมองกับสภาพร่างกายทั่วไป ตรวจเสร็จเธอก็หลับไปเลย อ้อ...คุณหมอเรียนเชิญคุณหนูที่ห้องด้วยนะคะ”
 
          คราวนี้อะไรอีก ผมคิด เจ็บหนักขนาดนี้น่าจะพอได้แล้วมั้ง...

          “โชคดีที่อาการบาดเจ็บต่อไขสันหลังของคนไข้เป็นไปแบบไม่สมบูรณ์นะครับ คนไข้อาจขยับขาได้บ้าง ควบคุมการขับถ่ายได้ โอกาสฟื้นตัวในการกลับมาเดินได้อีกครั้งเป็นไปได้สูง แต่คุณต้องคอยเอาใจใส่คนไข้ หมั่นทำกายภาพบำบัดหลังจากออกจากโรงพยาบาลนะครับ”

          “ครับ” ผมรับคำ คิดในใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

          “อย่าลืมหาวิธีบอกคนไข้ด้วยนะครับ อย่าให้กระทบกระเทือนจิตใจของเขา”

          นั่นแหล่ะปัญหา…

          .

          .

          .

          คุยกับคุณหมอเสร็จ ผมก็กลับเข้ามาที่ห้อง ป้าเรืองอาสากลับไปเอาข้าวของเครื่องใช้มาให้ผม เมื่อเห็นว่าวันนี้ผมมาก่อนเวลา...

          แอ๊ดด...

          ผมหันไปมองบุคคลที่มาใหม่ กำลังเปิดประตูเข้ามาให้เสียงค่อยที่สุด แล้วย่างเท้าเข้ามา

          “ไงวะ ไอ้ฉกาจ คนนี้เหรอที่จะให้กูช่วยดูแล” มันถามเสียงกระซิบ กลัวคนที่นอนหลับอยู่จะตื่น คนที่พูดคือ ไอ้ เชน  เป็นเพื่อนสนิทของผม และเป็นหมอกายภาพ ที่ผมกำลังจะจ้างมาดูแลนิด

          “เคสนี้หนักไหมวะ กว่าจะกลับมาเดินได้ปกติ” ผมเอ่ยปากถามเสียงเบา มันทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า

          “กูบอกไม่ได้นะ...อาจจะเป็นปี”
 
          “มันนานไปรึเปล่า” ผมถามเสียงเครียด

          “กูว่าเร็วไปด้วยซ้ำ หนักขนาดนี้ไม่ตายก็บุญแล้ว”
 
          นั่นสินะ...ผมคิดตามมันแล้วนึกถึงวันที่ผมบอกให้สุทินขับรถช้าลง ถ้าหากวันนั้นผมรีบ ถ้าหากวันนั้นไม่ใช่รถของผม ถ้าหากสุทินเบรกไม่ทัน...คนตรงหน้าจะได้มานอนหายใจอยู่แบบนี้รึเปล่า คิดแล้วมันรู้สึกหน่วงในอก
 
          ไอ้เชนออกไปแล้ว บอกว่าเดี๋ยวเจอกันหลังจากที่คนป่วยออกจากโรงพยาบาล ผมยังคงยืนมองคนหลับ เอื้อมมือไปแตะมือเรียวนั่น ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก...ก็แค่อยากจับเท่านั้น

          “อะ...” ผมรีบชักมือหนีทันควัน เมื่อจู่ๆคนที่นอนอยู่ค่อยๆลืมตาแล้วครางออกมา คงจะเจ็บแผลน่าดู...เห็นเจ้าตัวกะพริบตาถี่ๆ กวาดสายตามองไปรอบๆห้อง แล้วมาหยุดอยู่ที่ผม...

          ผมตีหน้าขรึม เมื่อคนตรงหน้าไม่ยอมพูดอะไร ทั้งยังเบี่ยงหน้าหลบสายตาของผมไปทางอื่น เหมือนกับไม่อยากเห็นหน้ากันนั่นแหล่ะ ต่างคนต่างไม่พูดอะไร ปล่อยให้ความเงียบปกคลุม สุทินที่ยืนอยู่มุมห้องก็อึกๆอักๆ คงจะทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์แบบนี้ จนในที่สุด เป็นผมเอง ที่เป็นฝ่ายทนไม่ไหวต้องปริปากพูดออกมา

          “ไง... แค่โดนรถชน ไม่น่าจะทำให้คนเป็นใบ้ได้นะ” ผมถาม ย่างสามขุมเข้าไปหาคนที่นอนบนเตียง เจ้าตัวพยายามขยับหนีผมไปชิดราวเหล็กข้างเตียงอย่างรังเกียจ ผมมองท่าทีกระเสือกกระสนนั่น ก่อนที่คำพูดของคนตรงหน้าจะทำให้ผมชะงักเท้า

          “กะ...เกิดอะไรขึ้นกับขาของผม”

          ผมยืนนิ่งกับคำพูดที่ว่า มองใบหน้าเรียวที่มีน้ำตาเอ่อออกมา มือของเจ้าตัวพยายามจะจับขาตัวเองไปพลาง...ทุกอย่างมันเร็วเกินไป ผมตั้งใจว่าจะค่อยๆบอก ไม่ได้อยากให้ลงเอยแบบนี้
 
          “หึ...นี่คงเป็นแผนการของคุณด้วยสินะ ทำไมไม่ชนผมให้ตายไปเลย มาทรมานกันแบบนี้ทำไม...อึก” คนตรงหน้ายกมือข้างที่ถอดเฝือกออกแล้ว ปาดน้ำตาที่ร่วงพรู ก่อนจะพูดออกมาอย่างตัดพ้อ
 
          “คุณครับ! นายไม่ได้เป็นคนขับ...”

          “พอ! สุทิน ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ใครจะเข้าใจว่ายังไงก็เชิญ” ใช่...จะเข้าใจว่ายังไงก็เชิญ ในเมื่อคนตรงหน้าไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับผมสักนิด เพราะฉะนั้น จะเข้าใจว่าผมเป็นคนชน...มันก็เรื่องของเขา ผมคิดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินออกจากห้องเพราะทนไม่ได้

          .

          .

          .

          อาหารในแต่ละมื้อของคนตรงหน้าแทบไม่พร่องลงจากเดิม ร่างกายที่ผอมอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งผอมเข้าไปใหญ่ ผมแทบอยากจะให้หมอฉีดยาสลบแล้วให้อาหารทางสายยางแก่คนตรงหน้า จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาบังคับให้กินนู่นกินนี่

          “คุณหนูออกไปก่อนนะคะ...” ป้าเรืองหันมาบอกผมที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าลำบากใจ

          “ทำไมครับป้า” ผมถาม พลางตวัดสายตามองคนป่วย

          “อะ...เอ่อ คุณนิดเธอจะไม่กินข้าวหากคุณหนูยังอยู่ในห้องนะค่ะ”

          ผมได้แต่หงุดหงิด ปรายตาไปยังคนที่เบี่ยงหน้าหลบผมตลอดเวลาอย่างคาดโทษ เกลียดขี้หน้ากันมากจนถึงขั้นกินข้าวไม่ลงเลยรึไง...
         
          .

          .

          .

          ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว... เดือนกว่าที่คนเจ็บนอนอยู่ในโรงพยาบาล เดือนกว่าที่ผมต้องมานอนค้างที่นี่ และเป็นช่วงระยะเวลาเดือนกว่า ที่ใครบางคนไม่แม้แต่จะมองหน้าผม แม้แต่เวลาจะเข้าห้องน้ำ ก็ยังกดปุ่มเรียกบุรุษพยาบาลให้มาช่วยอุ้ม ทั้งที่ผมยืนอยู่ในห้องทั้งคน...

          ผมเอามือไล้คราบน้ำตาของคนที่นอนหลับ มีแต่ช่วงเวลานี้ที่ผมสามารถเข้าใกล้เขาได้...แอบร้องไห้อีกแล้วเหรอ...ผมคิด คนตรงหน้าผมแอบร้องไห้ทุกวันในช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่ในห้อง...ผมรู้ เพราะผมแอบมองดูอยู่ตลอดเวลา ผมรู้สึกว่าไม่ชอบน้ำตานั่น เมื่อไหร่จะเลิกร้องไห้สักที ผมหงุดหงิด รำคาญ และไม่ชอบใจ เวลาที่ได้เห็น...

          นั่งมองใบหน้าของคนที่หลับพริ้มอยู่นาน ก่อนจะนึกถึงใครคนหนึ่งที่อาจจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ ผมจึงกดเบอร์โทรหาคนๆนั้นทันที...

          “สวัสดีครับคุณภูมิจิต... ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณหน่อย...”



...........................................................

อ่านแต่ละคอมเม้นต์ฮามาก ฮ่าๆ ให้อภัยไอ้ผักกาดมันหน่อยเถอะ มันซึน  :laugh3:  เจอกันอีกทีวันศุกร์น้า ขอบคุณจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2013 02:37:46 โดย 403 »

love2you

  • บุคคลทั่วไป
สงสารคุณนิด TT..TT

อ่านตอนคุณหมอบอกอาการแล้วใจหาย ถ้าคุณนิดจะอาการสาหัสขนาดนั้น อยากรู้ว่าไอ้รถคันที่ชนมันกะเอาให้ตายกันเลยหรือไง มิหนำซ้ำยังจะชนแล้วหนีอีกต่างหาก ไอ้ห่า..น เอ้ย!!!

ไอ้ผักกาด ไอ้คนนิสัยไม่ดี ทำให้คุณนิดถูกรถชน (เกี่ยวมั้ย?) ถ้าคุณนิดเดินไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ จะเผาพริกแช่งเลย คอยดู!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2013 20:04:40 โดย love2you »

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
ไอ้คุณผักกาดแกมันคนซึนเดเระ :ling1: :ling1: :katai1: :katai1:
บอกคุณนิดเร็วๆหน่อยก็ไม่ได้

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ไม่น่าให้อภัยหรอก คุณผักกาดร้ายมาก
ทำไมไม่พูดจาดีดีกะนิดบ้าง เค้าต้องการกำลังใจนะ

ออฟไลน์ mind223

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
สมน้ำหน้า!!
ใครวะ


 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jamelovelove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-5
อ่า นแล้ว สง สาร คุณ นิดดดดด

จน ร้องไหเล ยยยย
555555+

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
เซ็งเลยเกือบจะเดินไม่ได้ละ

เฝ้สขนาดนี้ยังง่าไมาคิดไรอีกเหรอ



รออ่านตอนต่อไปค้าบ

ออฟไลน์ dragonassist

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :a5: คุณนิดเป็นหนักเกิ๊นนนนนน
ไอกาดแกก็เก๊กเหลือเกิน ชอบกินเก๊กฮวยเหรอ ฮ้าาาา :angry2:




ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
คุณฉกาจ ชั้นไม่รู้จะพูดยังไงกับนายดี

นายหาว่านิดโง่ให้โดนหลอก โง่ให้โดนรถชน นายไม่ใช่หรอที่เป็นไอ้คนเลวที่หลอกเขาอ่ะ
ไม่ได้รักใช่ะม่ะ แค่รู้สึกดี หรอ?????
มาดูแลทำไม ทำไมไม่ไปบริษัทล่ะ กำไรเยอะแล้วนิ

"นายมันบ้าวะ"   :angry2:

hongyia

  • บุคคลทั่วไป
จิตเพื่อนคุณนิดน่ะเหรอ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เมื่อไหร่คุณผักกาดจะรู้ความจริงงงงง

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
งี่เง่าได้อีกค่ะ เพิ่มอีกนิดก็มีเขาแล้วล่ะฉกาจ

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
ไอ้ผักกาดเอ๊ย ซึนนักเรอะ :beat: :beat: :beat: :beat: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
รักเขาบ้างมั้ยว่ะเนี่ย ??!!

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
 :hao5: สงสารคุณนิดที่สุดเลย
คุณหายเร็วๆนะ
ไอคุณผักกาด อย่านึกว่าทำดีแค่นี้แล้วจะลบล้างความผิดได้นะ
คุณนิดใจแข็งไว้นะ อย่าเพิ่งรีบให้อภัย ให้คุณผัดกาดได้รับบทเรียนก่อน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ได้อ่านมุมคุณฉกาจบ้างก็รู้เลยว่าแกตั้งใจหลอกคุณนิดจริง  หึ ๆๆ งั้นถือว่าแกก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเรื่องนี้นะ
แต่ยังดีที่คนที่เจอเป็นฉกาจเลยช่วยเหลืออย่างดี คุณนิดเป็นเยอะมากเยอะจริง ๆ เศร้าอ่ะ เรื่องพลิกเลย
กลายเป็นต้องมาอยู่ใกล้ชิดกันอีกรอบ พอเค้าไม่สนใจก็หงุดหงิดนะ ก็ทำเค้าไว้ขนาดนั้นนี่ คุณนิดอ่ะรักเค้าแล้วด้วย
ต้องมาเจอทุกวันมันช้ำเนอะ เรื่องขาตัวเองอีก เหมือนคุณนิดไม่มีใครเลยอ่ะชีวิตโคตรเศร้า
ปิ๊งรักกับเพื่อนนายฉกาจที่เป็นนักกายภาพไปเลยก็ได้ วะฮ่าฮ่า พยายามจับคู่
พระเอกเริ่มมีอาการนิด ๆ ละ ถ้าไม่มีใจบ้างคงไม่ช่วยเหลือขนาดนี้หรอก ฮรือ สงสารชะตากรรมคุณนิด  :m15:

ขอบคุณค่ะ วันศุกร์เลยเหรอคะ เร็วกว่านั้นได้ป่าวๆๆ จะรอนะค้า  :mew1:

เกเร

  • บุคคลทั่วไป
มึงจะซืนไปไหนไอผักกาดด :katai1:

โถ่นิด เจ็บตัวฟรีอีกแล้ว สงสาร :hao5:

ออฟไลน์ mom_mam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รู้ว่าผิดที่โกงแต่ต้องทำอย่างจำใจและยอมรับผิดต่อสิ่งที่ตัวเองทำ ก็ยังดีกว่าคนที่หลอกใช้ความรู้สึกคนอื่นเป็นเครื่องมือ ทั้งยังซ้ำเติมอีก คนแบบนี้แม่ง...เลว :เฮ้อ:

ออฟไลน์ PapermintReal

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-13
แกมันผักกาดของแท้!!!!!!! เป็นได้แค่ผักที่มีประโยชน์เวลากิน
โอ๊ยยยยยยย คุณนิดเดี๊ยนนนนนนนนนนน :katai1:

ออฟไลน์ สมทรง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อย่าให้อภัยกับคนที่ตั้งใจทำร้ายกัน  ฉกาจไม่จริงใจแต่แรกอยู่แล้ว
สงสารคุณนิดสุด ๆ  :mew2:

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
อืม อยากบอกว่าตอนอ่านอาการคุณนิดแล้วใจหายมาก แบบ มันหนักมากอ่า รอดมาได้นี่ ปาฎิหารย์เลยนะเราว่า
ขอให้คุณนิดหายเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ bloodั

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สงสารอะ  :o12: แต่ไม่ต้องรีบหายก็ได้นะ ใครบางคนจะได้ อกแตกตายชะก็ดีฮึฮึ   :angry2: ที่บังอาจ ทำหนุ่มนิดของฉันต้องเจ็บช้ำน้ำใจ จนเดี้ยนชะขนาดนี้  :m16:

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
เป็นนิยายอีกเรื่องที่ตามอ่านอย่างใจจดจ่อ

อาการที่ตามมาหลังจากจบบทนี้ :katai1:

อยาก...1.ญาติโยมมารับคุณนิดกลับบ้านทีเถอะ  ไปหัดเดินบนกะลาจับราวไม้ไผ่พยุงตัว
            กลับไปคิดบัญชีร้านชำอาจุมม่าข้างบ้านก้ได้
          2. ถ้าคุณนิดชะตาอาภัพ กำพร้าพ่อ แม่ พี่น้องเพื่อนพ้องและ ปั๋ว
             ก็สะบัดบ้อบเลยค่ะ ขาพิการแต่มือไม่นี่นาไปถักกระเป๋าไหมญี่ปุ่นขายจตุจักรกัน
          3.ขอความกรุณา  คนเขียนอย่าใจร้ายกะนายเอกของเราเลย หันไปใจร้ายกะพระเอกแทน :z6:

ทั้งหมดทั้งมวล คืออ่านแล้วอินมากค่ะ o13

ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
คุณนิดจะโชคร้ายเกินไปแล้วน้า

ฉกาจนายไม่รักคุณนิดของชั้นเลยหรอ เปลี่ยนพระเอกทันไหมเนี่ย  :fire:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด