【Office Worker】เผลอรักหนุ่ม OT พิเศษ - เชน & ภูมิจิต 4 (จบ) - p.117 (8/4/57)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【Office Worker】เผลอรักหนุ่ม OT พิเศษ - เชน & ภูมิจิต 4 (จบ) - p.117 (8/4/57)  (อ่าน 775660 ครั้ง)

ออฟไลน์ ontheotherhand

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
งืออ เพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน นี่เพิ่งเริ่มแต่งตอนที่สัญญาไว้ แต่คงจะดึกอีกตามเคย ใครรอไม่ไหวนอนก่อนเลยนะคะ ขออภัยเป็นอย่างสูง  :hao5:


เค้าจะรออออ น๊าาาาาาาาาาาา สู้ๆๆๆๆๆๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ MunashiiSora

  • ♥ ฮุนฮาน ft.520
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
โอ๊ะโอ่ !?
ได้ข่าวว่าจะมาต่อวันนี้ ตอนไหนจ๊ะ

รออยู่จ้าาาาา  :L2:

 :กอด1:

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6

ออฟไลน์ yingza2010

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
หาว. รอฉันรอเธออยู่ แง่ม

คือเรื่องครั้งนี้เข้าข้างผักกาดอย่างเดียวเลย
ออกแนวสมน้ำหน้าคุณนิด เเิิอบเคืองหมอเชนเข้าข้างคุณนิดอยู่ได้ โด่วววว

ออฟไลน์ phenomintna

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
พี่รู้มั้ยชั้นออกมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ

ออฟไลน์ MunashiiSora

  • ♥ ฮุนฮาน ft.520
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
พี่รู้มั้ยชั้นออกมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ

5555555 อย่างฮา  :laugh:
รอเมือนกันจ้าาาา  :L2:

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
แอบกดบวกรอเบาๆ คลิก!  :mew1:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
นั่งรอนอนรอ

แล้วก็จะรอจนว่าเธอจะมาอิอิ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
รอสักวันน~ ให้เธอมาาาา~ :monkeysad:

ออฟไลน์ ontheotherhand

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
แอบเข้ามาดู ยังไม่มาอีกหรอ  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Fujoshi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
เพิ่งอ่านเรื่องนี้
หน่วงมากเลย
รีบมาต่อเร็วๆนะคะ
จะรอค่ะ

ออฟไลน์ kogomon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

มิอาจบรรยายเปนคำพูดได้....... :เฮ้อ:

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ดันไว้ๆ ฮึ้บๆ  :katai5:
รออ่านเรื่องนี้อยู่นะ

ออฟไลน์ hobazaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
มารอหนูนิด ฮืออออออออออออออออออออออ

ออฟไลน์ phenomintna

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 281
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
พี่รู้มั้ยชั้นมารอพี่ที่เล้าทุกวันเลยนะ

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
มาเข้าแถวรอด้วยคน  :mew2:

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
ยอมๆ เรื่องนี้เค้าเหนียวจริงๆ

ไม่รีบมาลงก้ได้นะ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5

ออฟไลน์ ontheotherhand

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เง้อออออออออออ ยังไม่มาหรอ :เฮ้อ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ที่ท่าน้ำเนี่ย มีชาวแก็งค์มารอเต็มไปหมดเลยนะ  :mew6:

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
ชอบหมอเชนจริงจังอ่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 403

  • 4 0 3 Forbidden
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-2
ตอนที่ 23 # ก้าว

 
          “นิดเกร็งขาทำไม” สายตาเฉียบคมของคนพูดจ้องมองมาทำให้ผมรู้สึกหวาดๆ ช่วงนี้พี่เชนชอบจับผิดผมครับ ชอบมาป้วนเปี้ยนรอบตัวบ้าง แอบมองบ้าง แถมยังมีพฤติกรรมแปลกๆ เช่น ชอบเอาโทรศัพท์แนบหูนานๆ แล้วตะโกนถามผมว่า ‘นิดกินข้าวรึยัง เหนื่อยไหม นอนหลับสบายดีไหม’ แบบนี้ทุกวัน นี่ถ้าไม่บ้าทำไม่ได้นะครับ แหม

          “พี่ว่าขาเรามันกระตุก”

          แน่ะ...อย่านะ       

          “เปล่าสักหน่อย” ผมตอบ เรื่องที่ผมเดินได้ยังคงเป็นประเด็นครับ ผมเดินได้ก็จริง แต่ก็แค่สองสามก้าว เพราะฉะนั้น ผมไม่นับแล้วกันนะ

          “แล้ว...ตอนนี้ที่ขารู้สึกยังไงบ้าง” พี่เชนถาม ความไม่ไว้วางใจถูกส่งผ่านมาทางสีหน้าและแววตา ตอนแรกผมกะจะตลกกลบเกลื่อนสักหน่อย แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนโดนคุกคามจนตลกไม่ออก

          “เหมือนเดิมครับ”     

          “เหมือนเดิมนี่คือยังไง เหมือนตอนที่ยังเดินได้นะเหรอ” เสียงเนิบช้าที่ถามมาทำให้ผมเริ่มกระอักกระอ่วน

          “มันก็ยังชาเหมือนเดิมไงครับ” ผมบอกพร้อมกับหลุบสายตาลง แต่เสียงที่สวนกลับมาทำให้ผมนิ่งค้าง

          “อย่าโกหก มีคนเห็นกับตาว่านิดเดินได้ วันที่นิดทำแจกันตกแตกวันนั้นไง” เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของผมทันทีที่พี่เชนพูดจบ ใบหูของผมเริ่มร้อน ขัดกับตัวที่เริ่มชาจนเย็นเยือก หลักฐานคาตาขนาดนี้ คงยากที่จะปฏิเสธ สมองของผมกำลังตีรวนกับความคิดที่ว่า ใครเห็น เห็นเมื่อไหร่ และเห็นได้ยังไง

          “พี่เห็นกับตาว่านิดเดินได้ ทำไมไม่บอกพี่ เรื่องที่คุณหมอนัดอีก ถ้าพี่ไม่โทรไปถามที่โรงพยาบาล พี่คงไม่รู้เลยสินะว่านิดโกหก ไม่อยากหายรึไง” พี่เชนที่นิ่งไปสักครู่ตอบกลับมาเหมือนรู้ความคิดของผม สีหน้าของเขาดูจริงจังต่างจากปกติ สถานการณ์เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นอึดอัด

          “ผมไม่อยากเป็นภาระยุ่งยากของใครนี่” เพราะถ้าวันนี้ผมไปตามนัดของคุณหมอ พี่เชนก็ต้องลางานช่วงเช้าเพื่อพาผมไปหาหมออีก และคุณหมอก็คงจะเกลี้ยกล่อมให้ผมเข้ารับการรักษากับหุ่นยนต์ฝึกเดินอีกเป็นแน่

          “ไม่มีใครคิดว่านิดเป็นภาระหรอกนะ” พี่เชนว่า ผมไม่ได้ตอบรับอะไร เพราะไม่อยากพูดเรื่องนี้ไปมากกว่านี้

          “เอาเป็นว่า พี่ตกลงให้นิดเข้ารับการรักษากับหุ่นยนต์ฝึกเดิน แล้ว...”

          “ผมไม่ต้องการ!” ผมสวนกลับแทบจะทันที รีบตัดบทก่อนที่พี่เชนจะร่ายอะไรอีกยาวเหยียด...พี่เชนนิ่งเงียบเหมือนรอเหตุผล ผมเลยต้องจำใจบอก ทั้งที่อุตส่าห์ลืมใครคนนั้นไปได้บ้างแล้วแท้ๆ

          “แค่นี้ผมก็หาเงินมาคืนเขาไม่ไหวแล้ว พี่อย่าเพิ่มความลำบากให้ผมเลยนะครับ” ผมหวังว่าพี่เชนคงจะเข้าใจ แต่คงไม่...เขาไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าระบายลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

          “ถ้าพี่แก้ปัญหานี้ได้ นิดจะยอมรักษาไหม” ผมนิ่งคิดอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้าตอบไปส่งๆเพียงแค่ไม่อยากทำให้พี่เชนลำบากใจก็เท่านั้น จะรักษาผมด้วยวิธีไหนก็ช่าง แต่อย่ายืมมือคุณฉกาจ เพราะผมไม่อยากรบกวนเขาอีกต่อไปแล้ว...

          พี่เชนบอกว่าถ้าผมไม่รักษาที่โรงพยาบาล เขาจะลองทำเรื่องขอทางศูนย์กายภาพให้นำเข้าหุ่นยนต์ฝึกเดินให้ และคงต้องรอไปอีกนานหลายเดือน เพราะมันมีราคาค่อนข้างสูง แต่เนื่องด้วยอะไรก็ไม่ทราบ สองอาทิตย์ถัดมา หุ่นยนต์ฝึกเดินก็มาถึงที่ศูนย์ทันที

          “ไหนพี่บอกต้องรอเป็นเดือนไงครับ” ผมเคลื่อนตัวเข้าไปหาคนที่ยืนเช็คอุปกรณ์อยู่

          “มีคนทุ่มเงินซื้อแล้วมอบเครื่องนี้ให้กับทางศูนย์นะสิ” พี่เชนบอกพร้อมกับยิ้มรื่น

          ดีเหมือนกันที่ผมไม่ตกลงรับการรักษาที่โรงพยาบาล เพราะถ้าหากมีหุ่นยนต์ฝึกเดินอยู่ที่นี่ ไม่เพียงแต่ผมคนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับการรักษา ผู้ป่วยคนอื่นๆก็จะได้มีโอกาสได้รับการรักษาเหมือนกันกับผมด้วย

          “คนที่บริจาคเขาเป็นใครเหรอครับ” ผมถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ถ้าขาหายเมื่อไหร่ ผมอยากพบเขาเพื่อขอบคุณสักครั้ง

          “เพื่อนพี่ คนที่นิดก็รู้จัก” พี่เชนพูดยิ้มๆ เพื่อนพี่เชน...คนที่ผมก็รู้จักอย่างนั้นเหรอ

          คุณฉกาจ!

          ผมหมุนล้อรถเข็นแล้วหันหลังกลับแทบจะทันทีเมื่อชื่อของคนที่ว่าผุดขึ้นมาในความคิด 

          “เขาบริจาคให้ทางศูนย์ ไม่ได้ให้นิดสักหน่อย สำคัญตัวเองผิดไปรึเปล่า” เสียงเยาะของพี่เชนที่ดังขึ้นตามหลังทำให้ผมชะงัก น้ำตาร่วงเผาะกับคำพูด

          สำคัญตัวเองผิด...นั่นสินะ ที่ผ่านมาผมสำคัญตังเองผิดมาตลอด มันผ่านมานานขนาดนี้แล้วผมควรรู้ตัวเองได้แล้วว่าเป็นคนไม่สำคัญ

          “เฮ้ย นิดพี่ขอโทษ พี่แค่แกล้งแหย่เล่น” 

          “มันจริงอย่างที่พี่เชนว่าละครับ เขารู้ใช่ไหมว่าผมอยู่กับพี่ และถ้าผมเป็นคนสำคัญจริง เขาคงมารับผมกลับบ้านไปนานแล้วล่ะ” ผมปาดน้ำตาลวกๆ นึกอดสูกับความคิดของตัวเอง พี่เชนถอนหายใจแผ่ว แล้วย่อตัวนั่งลงตรงหน้าเพื่อพูดกับผม

          “ฟังนะ มันเป็นห่วงนิดยิ่งกว่าใคร และก็เป็นห่วงมาก โดยเฉพาะไอ้เรื่องที่นิดไม่รู้จักรักตัวเองสักที แล้วนี่มันก็ยิ่งเครียดที่นิดไม่ยอมรับการรักษากับทางโรงพยาบาล มันอุตส่าห์เหนื่อยวิ่งเต้นยื่นเรื่องกว่าจะได้ไอ้เครื่องนี้มา แล้วยังไง นิดจะปล่อยทิ้งไว้ ปล่อยให้ขาของตัวเองเป็นแบบนี้ต่อไปนะเหรอ”

          ผมนิ่งเงียบ ไม่ได้เฉยชากับสิ่งที่พี่เชนบอกเสียทีเดียว เพียงแต่กำลังใช้ความคิด

          “ถ้าคำพูดของพี่มันไม่ชัดเจนพอ นิดรอดูคืนนี้ก็แล้วกัน”

          .

          .

          .

          ผมนอนกระสับกระส่ายท่ามกลางความมืด ให้รอย่างนั้นเหรอ…

          ‘มันมาหานิดเกือบทุกคืน นิดหลับเลยไม่รู้สึกตัว ตื่นมาก็คงไม่เห็น เพราะมันรีบลุกออกไปแต่เช้า’

          มันจะจริงเหรอ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง วันที่ผมเห็นใครเดินออกจากห้องไปวันนั้น ผมคงไม่ได้ตาฟาดสินะ

          แอ๊ด...

          เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำลายความคิดของผม ผมรีบหลับตา แสร้งทำเป็นนอนนิ่ง

          “หลับแน่แล้วใช่ไหม” เสียงกระซิบที่ไม่ได้ยินมานานทำให้ใจของผมเต้นตึกตัก มันมาอย่างที่พี่เชนว่าไว้จริงๆด้วย

          “เออ...อย่าให้ตื่นนะมึง ใกล้เช้าแล้วก็รีบกลับเลย อย่ามัวโอเอ้พิรี้พิไร” ผมได้ยินพี่เชนพูดตอบก่อนจะตามมาด้วยเสียงประตูที่ถูกปิดลง

          ทั่วทั้งห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบ ผมไม่กล้าลืมตา กลัวมันจะนั่งจ้องหน้าผมอยู่ กำลังจะแกล้งพลิกตัว แต่เตียงที่ยวบลงหยุดการกระทำของผมเอาไว้ก่อน

          ผมแทบหยุดหายใจเมื่อมือของมันทาบอยู่บนหัวของผมแล้วลูบไล้ไปมาแผ่วเบา ก่อนจะมีสัมผัสอะไรบางอย่างแนบลงมาตามใบหน้า ริมฝีปากอุ่นกดจูบไปทั่ว ใจผมเต้นรัวอย่างกับเสียงกลอง มันคงไม่ได้ยินหรอกนะ

          “เปิดแอร์เย็นขนาดนี้แล้วยังใส่เสื้อบางๆนอนอีก” มันบ่นเบาๆแล้วดึงผ้าห่มที่เกาะอยู่ตรงเอวของผมให้สูงขึ้นจนปิดถึงคอ ผมรู้สึกถึงน้ำหนักเตียงที่ยวบลงช้าๆ มันคงระวังและระแวง กลัวว่าผมจะตื่น

          ผมแทบสะดุ้งเมื่อขาถูกบีบนวดโดยไม่ทันได้ตั้งตัว พอปรือตาขึ้นมองเพียงนิดก็เห็นใครบางคนนั่งอยู่ตรงปลายเท้า กำลังตั้งหน้าตั้งตานวดขาให้ผมแบบที่เคยทำ ใบหน้าดูโทรม ร่างกายดูผ่ายผอมลงไปมาก ผิดกับตัวผมลิบลับ

          “ฮึก...” ผมตกใจหลับตาปี๋ เมื่อกลืนก้อนสะอื้นลงในลำคอไม่ทัน มันผละจากขาของผมทันที หวังว่ามันคงไม่รู้หรอกนะว่าผมยังไม่หลับ

          “ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ” มันกระซิบ กดจูบลงบนกกหูของผม แล้วนอนลงเคียงข้าง อ้อมแขนแข็งแรงค่อยๆตวัดรัดตัวของผมเข้าไปกอด น้ำตาที่ไหลรินถูกนิ้วใหญ่เกลี่ยออกให้อย่างเบามือ

          “ไม่ร้องนะคนดี ผมอยู่นี่แล้ว”

          ผมอยากจะลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่องใจแทบขาด ถ้าไม่ติดว่าพี่เชนห้ามไว้

          ‘เป็นความต้องการของมันเองที่อยากให้เป็นแบบนี้ นิดก็เฉยๆไว้แล้วกัน’

          ผมเลยปล่อยเลยตามเลย แกล้งทำเป็นละเมอซุกตัวลงกับคนตัวตัวโตกว่า ยิ้มทั้งที่หลับตาเมื่อรู้ว่าความสุขยังคงอยู่ตรงหน้าผมนี่เอง

          .

          .

          .

          ก่อนที่ผมจะเริ่มใช้หุ่นยนต์ฝึกเดิน พี่เชนให้ผมฝึกยืนทรงตัวนิ่งๆทุกวัน ห้านาทีบ้าง สิบนาทีบ้าง สลับกันไปในแต่ละช่วง บางวันก็ให้ผมเดินโดยใช้ walker หรือไม่ก็ให้เดินเองโดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆเลย ฝึกอยู่แบบนี้ประมาณหนึ่งเดือน ผมเริ่มเดินเองได้ แต่ไม่เหมือนคนปกติ...ขาข้างซ้ายของผมยังไม่สามารถงอได้เต็มที่นักเพราะกระดูกหัวเข่ายังไม่ติดดี เวลาเดินจะรู้สึกว่าเข่ากระตุก ถ้าขยับหรือฝืนงอมากเกินไปจะเจ็บ ภาระการทรงตัวทั้งหมดเลยตกไปอยู่ที่ขาขวา และนั่นทำให้ผมติดเดินกะเผลก

          “สายรัดมันแน่นไปรึเปล่า คลายออกหน่อยไหม” พี่เชนถามพร้อมกับเดินมาขยับสายรัดที่ช่วยพยุงน้ำหนักร่างกายของผมเอาไว้ ก่อนจะเช็คตัวล็อกขาของผมอีกที

          “พร้อมนะ มองจอด้วย” ผมมองไปยังจอที่เชื่อมต่ออยู่ตรงหน้าตามที่พี่เชนบอก สิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอคือภาพโมเดลสามมิติจำลองหุ่นคน และพอเครื่องเริ่มทำงาน ขาของผมเริ่มก้าวเดิน โมเดลคนที่อยู่บนจอก็ก้าวตามผมด้วย ผมก้มลงมองขาของตัวเองที่อยู่บนสายพานด้วยความทึ่ง ลักษณะการเดินของผมเหมือนคนปกติทุกประการต่างจากตอนที่ผมฝึกเดินด้วยตัวเองอย่างสิ้นเชิง

          “สุดยอดเลยพี่เชน” ผมหันไปบอกคนที่ยืนข้างๆ สีหน้าของผมคงจะดีใจมากจนทำให้พี่เชนยิ้มตาม

          “ถ้าฝึกบ่อยๆขาก็จะเข้าที่เองละนะ อย่ากังวล” ผมยิ้มรับ แล้วหันไปสนใจขาของตัวเองต่อ

          “ไหนขอถ่ายรูปส่งไปให้ไอ้หน้าโหดนั่นดูหน่อยสิ ยิ้มเร็ว” พี่เชนยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดแชะทันที

          “วันนี้เขาจะมาไหมครับ” ผมถามในขณะที่ขาก็ขยับไปเรื่อย มันไม่ได้เข้ามาหลายวันแล้ว สงสัยงานยุ่ง และวันนี้ก็คงไม่ได้เข้ามาอีกเช่นเคย เพราะพี่เชนส่ายหัวเป็นคำตอบ...อ้อ คุณฉกาจเขาไม่รู้หรอกนะว่าผมรู้เรื่องที่เขาแอบมานอนด้วย

          “ถ้าพี่เจอเขาอย่าลืมถ่ายรูปมาให้ผมดูด้วยนะ” ผมยิ้มแก้มปริแล้วบอกออกไป ไม่เป็นไร...ไม่ได้เข้ามาก็ไม่เป็นไร แค่รู้ว่ามันยังรัก ก็เพียงพอสำหรับผมแล้ว

          .

          .

          .

          “หมอยินดีด้วย คราวนี้คงไม่ต้องนั่งรถเข็นมาโรงพยาบาลแล้วนะครับ” ชายสูงวัยเอ่ยทักแล้วยิ้มให้อย่างใจดีเมื่อผมเดินเข้าไปในห้องตรวจ

          “แต่ขอติงเรื่องเข่าซ้ายหน่อย ต้องระวังให้มาก พยายามอย่าเดินเยอะจนเจ็บ แล้วก็อย่าวิ่ง หมอดูจากลักษณะการเดินแล้วยังมีปัญหาอยู่ เพราะอาการบาดเจ็บของขาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน คงต้องให้เวลาเข่าซ้ายเขาหน่อยนะ อีกอย่าง การลงน้ำหนักบนฝ่าเท้าควรปรึกษาหมอกายภาพ เพราะถ้าผิดวิธี ผลเสียในระยะยาวคือนอกจากจะเดินได้ไม่ปกติเหมือนคนทั่วไปแล้ว อาจทำให้มีปัญหากับระบบข้อเข่าในอนาคตได้” ผมกะพริบตาปริบ นั่งฟังคุณหมออธิบาย สรุปว่ารอให้เข่าซ้ายหาย ร่างกายของผมก็จะกลับมาสมบูรณ์เต็มร้อยเหมือนเดิมสินะ

          “แล้วผมสามารถกลับไปทำงานตามปกติได้แล้วใช่ไหมครับ”

          “ได้ครับ ใช้ชีวิตประจำวันหรือทำงานได้ตามปกติเลย เพียงแต่อย่าวิ่ง แล้วอย่าเดินเยอะเท่านั้น”

          หลังจากคุยกับคุณหมอเสร็จ ระหว่างเดินทางกลับผมเลยตัดสินใจบอกพี่เชน เรื่องนี้ผมคิดมานานแล้ว...ทันทีที่ขาของผมหายเป็นปกติ ผมจะเริ่มกลับไปทำงานเสียที

          “ไหวเหรอ” พี่เชนถามกลับเมื่อรู้จุดประสงค์ของผม

          “ไหวสิครับ” ผมพักงานมานานแล้ว อยากออกไปหาอะไรทำบ้าง ไม่อยากให้ความสามารถของตัวเองถดถอย

          “แล้วจะทำยังไง อยู่กับพี่ต่อก็ได้นะ เวลาทำงานเราก็ไปกลับเอาสิ แล้วไอ้ฉกาจละ จะทิ้งมันได้ลงคอเชียวเหรอ”

          “ใครบอกว่าจะทิ้งเล่า” ผมดึงตัวพี่เชนเข้ามาหา พร้อมกับพูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคน พี่เชนยิ้มกริ่ม สายตาท่าทางดูพึงใจกับสิ่งที่ผมบอก

          “อยากได้งานนี้ไม่อยาก ทำตามแผนของพี่ รับรองเลยว่าสัมภาษณ์ผ่านฉลุย...”

          .

          .

          .

          ผมถือแฟ้มสมัครงานเดินเข้าไปในตึก นั่งรอผู้ที่จะมาสัมภาษณ์ผมอยู่ที่ฝ่ายบุคคล พร้อมกับทำแบบทดสอบบุคลิกภาพไปด้วย

          “เดี๋ยวพี่พาไปที่ห้องท่านประธานนะคะ ต้องสัมภาษณ์กับท่านอีกทีหนึ่ง” พี่ผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลพูด เมื่อสักครู่ผมสัมภาษณ์คร่าวๆกับพี่คนนี้ไปแล้ว เหลือคนสุดท้ายนี่แหล่ะที่ผมกังวล

          “ห้องนี้เลยค่ะ” พี่เขาบอก ผายมือให้ผม ก่อนผละไปทำงานต่อ ทิ้งให้ผมยืนกังวลจนแทบเป็นบ้าอยู่หน้าห้องเพียงคนเดียว ทำยังไงดี ใจมันกล้าๆกลัวๆ ผมยืนละล้าละลังถอนหายใจก็แล้ว ปาดเหงื่อก็แล้ว ทำใจได้ยังไงก็ไม่กล้าเปิดประตูเข้าไปสักที

          “น้องนิด!” ผมหันขวับตามเสียงเรียก เห็นพี่ปัดยืนค้างเป็นหิน หวีดร้องเสียงเบาก่อนจะรุดหน้าเข้ามาสวมกอดอย่างรวดเร็ว

          “น้องนิดจริงด้วย เดินได้แล้วเหรอ แล้วมาทำอะไร มาหาฉกาจเหรอคะ หายหน้าหายตาไปไหนมา” พี่ปัดพูด กอดรัดฟัดเหวี่ยงจนหน้าผมเริ่มแดงด้วยความเขิน ผมไม่รู้จะตอบยังไงเลยยกแฟ้มที่ถือเอาไว้ให้ดู

          “ฮั่นแน่” พี่ปัดยักคิ้วหลิ่วตาล้อเลียน ก่อนจะเดินนำผมเข้าไป ผมเดินตามหลัง รู้สึกก้าวเท้าไม่ออก พื้นพรมที่เห็นตอนนี้มันเป็นพื้นโคลนหนืดๆดีๆนี่เอง 

          “ท่านประธาน เลขาคนใหม่มาสัมภาษณ์งานย่ะ” พี่ปัดพูดกับคนที่นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านแฟ้มอยู่ มันตอบรับในลำคอแล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองผม

          “อืม นั่งรอสัก...ครู่” น้ำเสียงของมันแปร่งไปในช่วงท้าย ผมยิ้มให้แกนๆ เดินกะเผลกเข้าไปหาแล้วนั่งลงตรงหน้า

          “สัมภาษณ์กันไปนะยะ อ้อ ฉันบอกไว้ก่อน ถ้าแกไม่รับน้องเข้าทำงาน ไม่ว่าใครหน้าไหนเข้ามา ฉันก็จะไม่เทรนงานให้ ฉันจะเทรนให้น้องนิดคนเดียวเท่านั้น รู้เรื่องนะ” พี่ปัดแผดเสียงขู่ ก่อนจะเดินสะบัดออกไปนอกห้อง ทิ้งผมกับมันไว้เพียงลำพังสองคน ความเงียบปกคลุมไปทั่ว ก่อนที่มันจะทนไม่ไหว ปิดแฟ้มเสียงดังจนผมสะดุ้ง

          “ทำไมถึงมาที่นี่” เสียงเหนื่อยหน่ายถามขึ้น แต่ไม่เป็นไร ผมเตรียมตัวมาดี มีสคริปต์ 

          “ผะ...ผมมาสมัครงานครับ” ผมบอกพร้อมกับยื่นแฟ้มออกไปกลางอากาศ

          “ที่นี่ไม่มีงานให้คุณทำหรอกนะ” มือที่ถือแฟ้มของผมลดลงน้อยๆ ตัดโอกาสกันตั้งแต่ต้นแบบนี้ใจร้ายเกินไปไหม

          “ไม่มีงานให้ผมทำ หรือไม่มีงานให้คนอย่างผมทำกันแน่ครับ” ผมเงยหน้ามองตรงๆ อดประชดไม่ได้ ทำไมต่อหน้าและลับหลังผมมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ทำไมต้องแกล้งเกลียดกันด้วย

          “รู้ตัวดีนี่ เพราะฉะนั้นรีบกลับไปได้แล้ว” หึ เป็นอย่างที่พี่เชนบอกไว้ไม่มีผิด ผมรู้อยู่แล้วว่าถ้ามาคงจะเจอคำพูดประเภทนี้ ผมเตรียมใจไว้แล้ว...ทั้งๆที่เตรียมใจไว้แล้วแท้ๆ แต่น้ำตาก็อดซึมออกมาไม่ได้ เมื่อกี้บอกว่าให้รีบใช่ไหม ได้...ผมจัดให้

          “ลานะครับ” ผมยกมือไหว้ลวกๆแล้วรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที ช่วงขาที่ก้าวยาวๆบวกกับการเดินเร็วๆทำให้ผมเจ็บ

          “โอ้ย!”

          “นิด!”

          ผมทรุดฮวบลงตรงหน้าประตูทางออก น้ำตาไหลพราก เจ็บตรงหัวเข่าสุดหัวใจ

          “รู้ว่าขาไม่แข็งแรงดีแล้วจะรีบเดินทำไม!” มันบ่นแล้วเดินมาหิ้วปีกผม พอทรงตัวได้ ผมเลยปัดมือมันทิ้งด้วยความน้อยใจก่อนจะหมุนตัวกลับ

          “จะไปไหน!” มันคว้าแขนผมไว้แน่น ดาหน้ามายืนขวางประตูเอาไว้

          “คุณไล่ผมไม่ใช่หรือไง ถ้าไม่รับผมเข้าทำงานก็พูดกันดีๆก็ได้ ไม่ใช่ไล่เหมือนหมูเหมือนหมา” ผมบอกพร้อมกับปาดน้ำตา ไม่ได้เสียใจเท่ากับเจ็บหัวเข่าหรอกนะ

          “หลีกทางด้วยครับ ผมจะไปสมัครที่อื่นต่อ” ผมสูดน้ำมูกเสียงฟึดฟัด พร้อมกับแกะมือของมันออก คนอะไรมือเหนียวอย่างกับกาว

          “สภาพแบบนี้ใครเขาจะรับเข้าทำงาน” ผมเงียบไปชั่วอึดใจ ในหัวพลางนึกคำพูดที่จะพูดออกมา 

          “นั่นสินะครับ ขนาดงานเลขายังทำไม่ได้ ผมคงต้องออกไปหางานที่ง่ายกว่านี้ งานที่ไม่ต้องใช้ขาเดินน่าจะเหมาะกับผม งานที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเดียวแล้วได้เงิน อะไรเถือกนั้น” ผมพูด ว่าแต่ไอ้งานที่มันนอนอยู่บนเตียงอย่างเดียวแล้วได้ตังมันมีด้วยเหรอวะ ไม่รู้ครับ ผมมีหน้าที่มาท่องตามบทของพี่เชนอย่างเดียว

          “หึ งานที่นอนอยู่บนเตียงเหรอ” มันว่าเสียงเหี้ยม สีหน้าโกรธจัด ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือก ลืมบทที่ท่องมาดิบดีไปเสียสนิท

          “ใครสั่งใครสอนให้พูดแบบนี้หา!” ผมสะดุ้งโหยงเพราะเสียงตะคอกน่ากลัวของคนตรงหน้า   

          “พะ...พี่เชนครับ”

          ได้ยินเสียงมันสบถด่าพี่เชนเบาๆ ผมหลับตาปี๋ ก้มหน้ารอแรงปะทะที่อาจเกิดขึ้น แต่ตัวของผมกลับลอยหวือแทน มันพาผมไปที่เก้าอี้ แล้วค่อยๆบรรจงวางผมลงอย่างเบามือ 

          “อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ” มันบอก จับมือผมไปบีบแน่น หัวใจของผมพองโต เมื่อมือของเราสัมผัสกัน

          “แล้วเข่าเป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” มันบอกพร้อมกับสำรวจไปทั่ว ผมส่ายหัวแทนคำตอบ เมื่อกี้เจ็บ แต่ตอนนี้...ไม่เจ็บแล้ว

          มันพยักหน้าเข้าใจ แล้วผละออกจากตัวผมไปยังประตูห้อง ผมมองตามอย่างงุนงงว่ามันจะไปไหน ก่อนจะยิ้มเผล่ออกมาด้วยความดีใจเมื่อได้ยินเสียงทุ้มส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ด้านนอก

          “ปัดเข้ามาสอนงานน้องด้วย”

          ผมลุกเดินไปสวมกอดมันแล้วเอนศีรษะพิงซบกับแผ่นหลัง ยิ้มกับตัวเองแล้วกระซิบออกไปแผ่วเบา

          “ขอบคุณครับ”

       

......................................................

ก่อนอื่น ขอสวัสดี วันพฤหัสที่ 5 พฤษภาคมแบบเนียนๆ ฮ่า ฮ่า (/โดนเตะ) วันนั้นตั้งใจว่าจะลง แล้วดันหลับคาคอมเฉย แล้วก็คิดหนักว่าจะเอายังไงดี ที่จริงตอนนี้ตั้งใจว่าจะต่อยาวๆ จนเป็นตอนจบด้วยซ้ำ แต่ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวทำร้ายจิตใจคนอ่าน อยู่ดีๆเหมือนโดนตัดฉับ ส่วนตอนนี้มันออกมาแบบเนือยๆมาก ไม่สนุกไม่มีไรตื่นเต้นเลย  ขอไปแก้มือให้เขาหวานกันตอนหน้านะคะ ขอโทษที่มาต่อช้าด้วยนะคะ ขอบคุณที่คอยติดตามค่า

 :pig4:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2013 03:55:52 โดย 403 »

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai4: จิ้มๆๆๆๆ  :katai1: อิผักกาดเนี่ยน่าไปบำบัดปากเปนที่สุด พูดไรแต่ละทีไม่เคยตรงเลย แบบนี้ต้องตรบสั่งสอน :beat:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
อ๊ายยยยยมาแย้วตอนที่รอคอย

ยังมิทันได้อ่านแต่เมื่อเห็นขอเมนท์ก่อนอิอิ

รักคนแต่งที่อุตสามาอัพT^T

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
จะเข้าโหมดหวานแล้วใช่มั้ยย  :hao6: 

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
ความจริงอะ ไอที่น่าบำบัดคือ ความชั่วของพี่เชน กับ ปากสุนัขๆ ของผักกาดต่างหาก 5555

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
เกร้ดดดดด อิฉกาจปากหมาจนวินาทีสุดท้าย
เดี๋ยวปั๊ดให้นิดก้านคอซะเลย

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
กรีดร้องง
แอบสั้นนะเทอออ


ต้องให้ใช้ไม้นี้ตลอดนะคุณผัก

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ปลื้มอิพี่เชนมากก นางล้ำตลอดด หนูนิดก็เชื่อฟังจริงๆ เล่นซะอินายผัดกาดกุมขมับ

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
อิผักกาดซึนใช่ไหม ทำไมต้องพูดจากทำร้ายจิตใจคุณนิดด้วย  :ling1:
เดี๋ยวพ่อสั่งพี่เชนไปยิงหัวแตกเลย !!! รักเขาชอบเค้าเจือกพูดจาทำร้ายจิตใจอย่างเดียว
อยากให้นิดกลับไปทำงานที่เก่าจัง จะได้ไม่ต้องมาเจอ
รอให้เค้ามาง้อบ้างนะคุณนิด เดินดุ่ม ๆ เข้าไปสมัครงานทำงาน
กับอีตาผักกาดเนี่ย ประกาศให้รู้เลยว่าแคร์มากกกกกกกก
ทำเอาอีตาผักกาดได้ใจเกินไปนะ
  :ruready

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
แหม่ หมั่นไส้ตาผักกาดสุด

ไงล่ะ 

ตอนหน้าเตรียมฟินนนน กี๊ด

 :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด