ตอนพิเศษ 4 ผมชื่อโซ่ ตอนผมเป็นเด็กแม่มักจะสอนผมเสมอว่า เวลาเดินบนถนนให้ระวังกลุ่มคนเสื้อฟิตสวมหมวกให้ดี ถ้าเจอนี่รีบวิ่งให้ไวเลย ยิ่งถ้ามีกระสอบอยู่ในมือด้วยแล้วยิ่งอันตราย ผมเองฟังแล้วพยายามจินตนาการตาม ว่าเป็นคนประเภทไหนกันนะ แล้วกระสอบนั่นอีก มันหน้าตาเป็นยังไงผมไม่รู้จักหรอก เพราะแม่นะ...แม้จะบอกแบบนั้น แต่แม่ไม่เคยให้ผมออกไปเดินตามถนนด้วยเลย แม่บอกว่า ยังไม่ถึงวัยที่ผมจะต้องออกหาอาหาร ผมมีหน้าที่แค่นอนรอแม่กลับมาแล้วคอยกินนมเท่านั้น
“เฮ้ย มึงจะเอาจริงเหรอวะฉกาจ เผื่อแม่มันอยู่แถวนี้นะเว้ย” ผมนั่งมองเด็กผู้ชายสองคนที่นั่งยองๆอยู่ตรงหน้าตาแป๋ว คนหนึ่งเพิ่งจะเคยเห็นวันนี้ แต่อีกคนผมเห็นมานานแล้ว เขาเดินผ่านซอยแคบๆที่ผมอาศัยอยู่ทุกวัน หากถามว่าเขาเข้ามาเจอผมได้ยังไงนะเหรอ...วันนั้นผมหิวมากจนเดินออกไปตรงถนนนะซี่ คนคนนี้เลยเห็นเข้า ผมนี่วิ่งเลย เพราะไม่รู้ว่าเป็นคนที่แม่บอกรึเปล่า แต่เขาไม่ได้ใส่เสื้อฟิต ไม่ได้สวมหมวก แถมยังใจดีอีกต่างหาก...ผมเลยคิดว่าเขาคงไม่ใช่คนที่แม่บอกหรอก
“กูนั่งมองมันมาสามวันแล้ว ไม่เคยเห็นแม่มันเลยสักครั้ง กูว่าโดนเทศกิจจับไปแล้วแน่ๆ ไม่ว่ายังไงวันนี้กูตัดสินใจแล้วว่าจะพามันกลับบ้าน ขืนปล่อยเอาไว้พวกหมาตัวโตมารุมกัดจะทำยังไง” เขาพูดแล้วแกะอะไรบางอย่างที่เรียกกว่า ‘กล่อง’ ออก จัดการเทของเหลวสีเหมือนน้ำนมของแม่ผมใส่ชามที่เขาถือติดมา ตอนแรกผมกล้าๆกลัวๆที่จะเดินเข้าไปกิน แต่ตอนนี้ชินแล้ว...ผมรี่เข้าไป ลูกหมาอย่างผมพูดคำว่าขอบคุณไม่ได้ เลยเอาแต่กระดิกหางให้
“แค่สามวันเอง มึงรออีกหน่อย แม่มันอาจกลับมาก็ได้” เพื่อนของเด็กผู้ชายใจดีพูด แต่ผมอยากจะบอกว่า
...ไม่ใช่สามวันหรอกนะ แม่ผมหายไปเป็นอาทิตย์แล้ว ผมรอจนเลิกหวังว่าแม่จะกลับมาแล้ว...
“ถ้าอย่างนั้นกูจะรออยู่ตรงนี้ จนกว่าแม่มันจะกลับมา”
“ไอ้โง่ มึงไม่กลัวลุงทัชด่ารึไง” เพื่อนของเขาพูดอีก
“กูไม่สน”
ปี๊น! ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้น ผมรู้สึกกลัวจนต้องถอยกรูไปแอบอยู่ข้างหลัง
“มึงไม่สนเขา แต่เขาสนมึงนะ ไอ้เด็กมีปัญหา” เพื่อนของเขาหัวเราะแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินหายเข้าไปในวัตถุที่ใครต่อใครพากันเรียกว่ารถยนต์
คนที่ยังนั่งอยู่หันมามองผมนิ่ง ผมเลียปากแผลบ นมนี่อร่อยดีนะ...
“นายรีบกลับบ้านเถอะครับ ก่อนที่นายใหญ่จะโกรธ” คนมาใหม่บอก น้ำเสียงเหมือนตอนที่ผมครางหงิงเลย แต่ว่านะ...กลับบ้าน บ้านมีนมให้กินอีกไหม อยากไปด้วยจัง
ผมเอาขาหน้าตะกายรองเท้าของเขา...พาผมไปด้วยสิ...ในใจผมร้องตะโกนอยู่แบบนี้ ผมเห็นเขายิ้มก่อนจะยกตัวผมขึ้น
“กลับบ้านกันนะไอ้หนู...”
นั่นล่ะครั้งแรกที่ผมได้รู้จัก ‘เจ้านาย’ ของผม
.
.
.
“คะ...คุณโซ่ครับ” เสียงเรียกชื่อเบาๆทำให้ผมยืนนิ่ง ตอนแรกผมว่าจะยืนดูอยู่เฉยๆ เพราะดูเหมือนว่าเขากลัว แต่ทำไงได้ นิสัยขี้สงสัยของผมมันแก้ไม่หาย ผมเลยเดินเข้าไปหาแล้วเอาจมูกดุนๆพลางคิดในใจว่า หากมีกลิ่นแปลกปลอม หรือดูท่าว่าจะเป็นอันตราย ผมจะงับทันที แต่นี่...ตัวของเขามีแต่กลิ่นของเจ้านายติดเต็มไปหมด
แปลก...คนคนนี้แปลกตรงที่ไม่เดินเหมือนคนทั่วไป เขานั่งอยู่บนอะไรสักอย่างที่มันมีล้อ...ผมยืนมอง สักพักล้อก็ขยับ...ดูเหมือนว่าเขากำลังหนี ผมเลยรีบตามไปยืนดักหน้า
...อยากลองนั่งบนของเล่นอันนี้บ้างจัง...
“ทำอะไรครับ” เขาดูตกใจแล้วบอกออกมาตอนที่ผมกระโดดขึ้นไปนั่งตัก ผมเอาจมูกดุนมือของเขา
...เข็นแบบเมื่อกี้ให้ทีสิ...
และเหมือนเขาจะเข้าใจความต้องการของผม ผมเหลือบตามองคนที่ออกแรงเข็นแล้วมีความรู้สึกว่า...น่ารักจัง
ผมกระโดดลงจากตักเมื่อเห็นว่าให้เขาเข็นนานเกินไปแล้ว กลัวว่าจะเมื่อย...ผมเดินตรงไปยังโคนต้นไม้ ขุดเอาอาหารของผมขึ้นมาคาบไว้ ก่อนจะตรงรี่เข้าไปหา
…ผมเลือกชิ้นใหญ่สุดมาให้เลยนะ...
“ให้ผมทำอะไร” เขาถามตอนที่ผมยัดกระดูกใส่มือของเขา
“โฮ่ง” ผมตอบออกไปตามภาษาหมา แต่ถ้าภาษาคนนี่หมายความว่า...ให้กิน...แต่เหมือนเขาไม่รู้ เขาพยายามเอากระดูกมาป้อนผม ผมเลยแย่งกระดูกมาเสียงเอง
“
เฮ้ย ไม่กินโว้ย เป็นคน จะกินกระดูกหมาได้ยังไง” เขาบอกแบบนั้นแล้วดันตัวผมออกตอนที่ผมพยายามจะป้อนกระดูกให้ ก่อนที่ผมจะชะงักเพราะเสียงตะวาดของป้าใจร้ายที่ชอบดุผม
“ไอ้โซ่!” ผมนี่รีบวิ่งหางจุกตูดเลย...อะไร ผมอยากจะตอบแทนหน่อยไม่ได้รึไง ทีตอนผมทำความดี เจ้านายยังให้กระดูกเลย แล้วเขาคนนี้ก็ทำความดีกับผม ผมให้กระดูกตอบแทนบ้าง ผมผิดตรงไหนเล่า
“คุณนิดเป็นอะไรรึเปล่าลูก โดนมันกัดรึเปล่า” ผมเงี่ยหูฟังตอนที่ป้าใจร้ายถาม อ้อ...ชื่อคุณนิดหรอกเหรอ
และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จัก ‘แฟนเจ้านาย’ ของผม
.
.
.
ผมยืนจังก้าอยู่หน้าประตู ตอนแรกตั้งใจว่าจะมาเล่นกับคุณนิด แต่กลับเจอสิ่งมีชีวิตที่เดินสี่ขาเหมือนผม ผมจ้องมองเขา เขาก็จ้องมองผม ผมตกตะลึงแทบหยุดหายใจเมื่อเจ้าตัวเดินเข้ามาหา
“เดี๋ยวๆ หนูเล็กคลานมั่วแล้วลูก จะออกไปไหน” เจ้านายเดินตรงมาคว้าร่างก่อนจะอุ้มเขาขึ้นไป ผมมองตามด้วยความเสียดาย จะเข้าไปใกล้ก็ไม่กล้า ตัวผมเพิ่งคลุกโคลนมา ถ้าเหยียบเข้าไปในบ้านโดนเจ้านายดุแน่
“ยำ...อะ ยำๆ” เขาพูดแล้วยื่นมือมาทางผม
“พี่โซ่ไงลูก” เจ้านายพูดแล้วหอมแก้มของเขาฟอดใหญ่ เฮ้ย เดี๋ยวๆ ผมขอหอมบ้างได้ไหม
“โย่...โย่” ผมกระดิกหากยิกๆตามเสียงเล็กๆที่เรียกชื่อผิดๆเพี้ยนๆนั่น เจ้านายวางเขาลงกับพื้นแต่กักตัวไว้ไม่ให้คลานมาถึงตัวผม
“จะเล่นกับน้องต้องทำยังไงรู้ใช่ไหมโซ่” เจ้านายบอก...แต่เมื่อกี้ว่ายังไงนะ
...น้องเหรอ นี่น้องของผมเหรอ...
“ไปอาบน้ำ ห้ามเล่นดิน ห้ามคลุกโคลน ทำตัวให้สะอาด ทำได้ไหม”
...ได้! โซ่ทำได้ โซ่จะทำ โซ่อยากเล่นกับน้อง!...
ผมทำตาแวววาว แกว่งหางให้แล้วรีบวิ่งปรูดไปหาป้าดุๆ แกชอบจับผมอาบน้ำ ผมเองก็ชอบหนีตลอด
แต่นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมยอมทำตัวสะอาดๆเพื่อที่จะได้เล่นกับ ‘น้อง’ ของผม
.
.
.
“พี่โซ่ วิ่งๆเร็ว” น้องบอก แต่เดี๋ยวก่อนนะ...น้องวิ่งเร็วจัง พี่เหนื่อย วิ่งตามไม่ทันแล้ว
“ทำไมล่ะ เมื่อก่อนวิ่งเร็วกว่าหนูเล็กอีก ตอนนี้พี่โซ่เป็นอะไร ไม่สบายอีกแล้วเหรอ” น้องเดินย้อนมานั่งยองๆตรงหน้าผม
...พี่ไม่เป็นไร พี่แค่เหนื่อย แล้วก็ตาลายนิดๆแค่นั้นเอง...
“ถ้าพี่โซ่วิ่งไม่ไหว หนูเล็กอุ้มๆนะ” พูดเสร็จน้องก็อุ้มผม ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่อุ้มไม่ไหวหรอกนะ น้องนี่โตเร็วจริงๆ
“พ่อนิด ดูพี่โซ่ให้หน่อย ไม่สบายแน่เลย” น้องอุ้มผมไปหาคุณนิดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น พอเขาเห็นก็รีบวางหนังสือแล้วตรงมาทางผมทันที คุณนิดบอกให้น้องวางผมลงบนเบาะนุ่มๆก่อน
“เหนื่อยเหรอคุณโซ่” ฝ่ามืออุ่นๆของคุณนิดลูบลงเบาๆไปตามตัวของผม น้องกับคุณนิดมองผมเงียบๆ...ทำสีหน้าเศร้าๆเหมือนรู้...ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผม
“ถ้า...ถ้าคุณยามกลับมาจากทำงาน พาพี่โซ่ไปหาหมออีกนะพ่อนิด” น้องน้ำตาคลอแล้วก้มลงเอาหัวแนบกับตัวของผมเหมือนที่น้องชอบทำตอนที่ยังเป็นเด็ก ต่างกันตรงที่น้องผ่อนแรง ไม่ทิ้งน้ำหนักลงบนตัวผมเหมือนทุกที
“รอคุณยามก่อนนะคุณโซ่” คุณนิดพูดเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้
...ผมจะรอ เท่าที่จะรอไหวแล้วกัน...
สามพ่อลูกช่วยกันปูที่นอน เจ้านายอุ้มผมวางลงตรงกลางที่มีเบาะรองนั่งวางไว้ ผมนอนมองนิ่ง ถึงตาจะพร่าเลือน แต่ยังจำกลิ่นเจ้านายได้นะ แล้วท่านั่งนี่เหมือนกับตอนที่เจอกันครั้งแรกไม่มีผิด
...เห็นกันมาตั้งแต่เจ้านายยังสะพายเป้ไปเรียน จนตอนนี้น้องโตแล้ว เจ้านายยังใจดีกับผมไม่เปลี่ยน...
นอนไปได้สักพัก ผมรู้สึกได้ว่าช่วงล่างของตัวเองเปียก คงจะฉี่โดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว...มันคงใกล้ถึงเวลาแล้ว
“พี่โซ่...” หยดน้ำตกลงบนตัวของผม ผมเหลือบตามองภาพที่เลือนราง น้องคงร้องไห้…ผมว่าเจ้านายกับคุณนิดคงบอกน้องแล้วนะว่าทำไมผมถึงเป็นแบบนี้...ผมแก่แล้ว ร่างกายก็ย่อมที่จะโรยราเป็นธรรมดา...อยากอายุยืนเหมือนคนจัง
“ถ้าไม่ไหว ก็ไปเถอะโซ่” เจ้านายลูบหัวผมช้าๆ ผมพยายามฝืนบอกตัวเองว่าผมยังไหว ผมไม่เจ็บปวดใดๆ แค่รู้สึกว่าลมหายใจอ่อนแรงลงเท่านั้นเอง
“รักพี่โซ่นะ”
...เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากกว่าครั้งไหนๆ...
และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้อยู่กับ ‘ครอบครัว’ ของผม
......................................จบตอนพิเศษ......................................
เรื่องนี้จบจริงๆแล้วนะคะ ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากๆที่คอยติดตามและให้กำลังใจมาโดยตลอด นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่ง อาจจะมีอะไรผิดพลาดไปบ้างอย่างไรก็ขออภัยด้วยนะคะ ถ้ามีเรื่องต่อๆไปจะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีกว่านี้ ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่ช่วยดูคำผิด, ให้กำลังใจ, สงสัย, รวมไปถึงระบายอารมณ์กับไอ้ผัก ฮ่าๆ บอกเลยว่าอ่านของทุกคนตลอดและกด +1 +เป็ดให้ทุกครั้งเลย ขอบคุณค่ะ
แจ้งข่าวสำหรับคนอ่านที่ถามเรื่องหนังสือมานะคะ นิยายเรื่องนี้จะตีพิมพ์กับ Hermit Book ค่ะ แต่ยังไม่แน่นอนว่าหนังสือจะออกมาอะไรยังไงเมื่อไหร่ ยังไงก็ฝากติดตามข่าวสารได้ที่
https://www.facebook.com/HermitBooks?fref=ts นะคะ
ภายในหนังสือก็จะมี
1 การ rewrite ให้แต่ละตอนอ่านแล้วดูไม่ติดขัด เช่น ตอนพิเศษ 4 นี่ อ่านแล้วห้วนไปเนอะ ไว้สมองโล่งๆแล้วจะกลับมาแก้อีกที
2 เรื่องแถมพิเศษในหนังสือคือเรื่องของ
เชน x ภูมิ เป็นเรื่องสั้นราวๆ 8-10 ตอนจบได้
และเผื่อใครไม่รู้ว่าไอ้ ‘ภูมิ’ มันเป็นใคร...มันก็คือ ‘ภูมิจิต’ นั่นแล จริงๆเขาชื่อภูมิ แต่คุณนิดเรียกเพื่อนตัวเองว่า ‘จิต’ ประมาณว่าไอ้โรคจิตอะไรแบบนี้ ถ้าย้อนไปอ่านตอนแรกๆจะเห็นว่าภูมิด่าคุณนิดที่เรียกตัวเองว่าจิตอยู่นะ ฮ่าฮ่า
ถ้า artwork หน้าปกหนังสืออะไรเรียบร้อยแล้ว จะนำมาแจ้งอีกทีนะคะ ตอนนี้รอไปก่อนน้า อาจจะช้าหน่อย เพราะอยากให้หนังสือออกมาดีและคุ้มค่าแก่การซื้อให้มากที่สุด ขอบคุณค่า