[Tragedy Series] Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ - Ch.20 จบ (25/4/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Tragedy Series] Tell me the Legend ตำนานรัก..โรงเรียนแพทย์ - Ch.20 จบ (25/4/15)  (อ่าน 223111 ครั้ง)

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
หวานมากๆ แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งกลัว หวานขนาดนี้หากดราม่าขึ้นมาเกรงว่าจะหนักหน่วงไม่น้อย ไม่อยากร้องไห้อีก :monkeysad:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
หวานอ้ะะะ อ่านไปยิ้มไป ซันนี้ขี้อ้อนจริงๆนะอิอิ
แต่เรื่องที่หมอพูดถึงนี่อยากรู้จัง ทำไมทั้งคู่ถึงยังอยู่ไม่ไปไหนนะ

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
ขอให้จบแบบแฮปปี้เถอะชาตินี้  สงสารทั้งสองคนเลยย

ออฟไลน์ babimild1985

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
มาอ่านแค่คอมเม้นท์ค่ะ รอให้มาลงเยอะ ๆ ก่อน
กลัวอ่านแล้วดราม่า ทนไม่ได้ น้ำตาท่วมอีก

ออฟไลน์ zizits

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
สารภาพาเข้ามาอ่านเรื่องนี้แรกๆถึงกับหลอนนอนไม่หลับทั้งคืนเลย นึกถึงแต่น้องซันโดนรุมโทรมกับฉากที่ซันพาหมอเข้าไปนอนในโลงด้วย บอกตรงๆว่าอารมณ์ค้างมากและไม่คิดว่าจะหักมุมได้สุดยอดแบบนี้ เรานับถือจริงๆ สุดยอดมากเลย พออ่านมาได้เรื่อยๆยิ่งรู้สึกรักตัวละคร ความละมุนอบอุ่นในตอนหลังๆกลบกลิ่นความสยองอึมครึมของตอนแรกๆไปได้หน่อย แล้วก็มามีปมตรงวิญญาณของทั้งสองคนที่มีช่วยน้องซันกับอาจารย์อีก  เราคิดว่าหลังจากนี้คงจะมีหักมุมอีกระลอกแน่ๆ กำลังทำใจอยู่ ว่าๆก็นั่งคิดไปว่าคนเขียนจะหักมุมยังไงกับวิญญาณของทั้งสองคน คิดออกมาเป็นเรื่องเป็นราวเลย ท่าจะแอบบ้า 555 คือเราคิดว่าวิญญาณสองคนที่ยังไม่เกิดอาจเป็นเสี้ยววิญญาณของทั้งสองคนงี้ปะ แล้วยังไปเกิดไม่ได้ เลยรอให้มีคนตายมาแทนที่ ก็เลยวางแผนให้หมอกับน้องมารักกัน พอตายแล้วจะได้มาแทนที่ตัวเองรึเปล่า? หรือเราคิดมากไปเองอะ อย่างลุ้น 5555 อัพเถอะค่ะ หลายวันมานี้คิดไม่ตกกับเรื่องนี้ทีเดียว อยากให้จบแฮปปี้แบบทั้งสองคนไม่ตายแบตอนแรก เราร้องไห้เลยอะสงสารมาก ตอนที่่โดนทรมาณด้วย อยากให้พวกมันโดนเอาคืนบ้าง  แต่คิดๆไป เราก็รับไม่ได้ถ้าโดนทรมาณด้วยวิธีแปลกๆอีก สยองมากค่ะตอนน้องซันโดนทำร้าย ทั้งๆที่คิดว่าจะอ่านข้ามๆละนะ เพราะเราบอบบางกับเรื่องแบบนี้พอสมควร แต่ไปมาๆก็อ่านมันซะทุกบรรทัด ตาค้างเลย T^T ยังไงก็ตาม เราเข้ามาทวงคนเขียนว่าอย่าลืมเรื่องนี้นะคะ อัพบ่อยๆได้ยิ่งดี เราตามอ่านทุกเรื่องของคนแต่งเลยน้า ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านจ้า  :katai2-1:

buble_b

  • บุคคลทั่วไป

อารมณ์แรกเมื่ออ่านพาร์ท40ปีที่แล้วจบ :a5:
อารมณ์หลังเมื่ออ่านพาร์ทสอง :impress2:
อารมณ์ขณะนี้ที่รออ่าน :m16:
มาต่อไวๆนะติดมากรอเสพอยู่
+เป็ดให้ตัวนึงพร้อมคอมเม้นท์ครั้งแรกชาบูนักเขียนในดวงใจ
เข้าใจเลยคำว่าแพ้ทางมันเป็นแบบเนี้ย :laugh:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ติดเรื่องนี้เลย เพิ่งได้อ่านแบบจริงจังแท้ๆ
กลัวซ้ำรอยเดิมจัง แต่คนแต่งคงไม่ใจร้ายแบบนั้นหรอจริงมั้ยยยย

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
สนุกมาเลย แต่ว่าตอนแรก 40 ปีก่อนที่ซันโดนข่มขืนต้องอ่านผ่านๆ
ยิ่งนึกถึงคดีสาวชาวญีปุ่นด้วยแล้วยิ่งเครียดหนัก
เกลียดจริงๆ ไอ้พวกข่มขืนเนี้ย แค่ความตายคงไม่สาสมกับความผิด

รอตอนต่อไป ที่น่าลุ้นว่าทำไมวิญญาณทับซ้อนกัน
หรือที่เหลือทิ้งไว้แค่ความทรงจำย้ำคิด อืม เรื่องนี้ยากแท้ยั่งถึง

ออฟไลน์ care_me

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
อยากอ่านเรื่องนี้แล้ว คิดถึงซันกับอาจารย์หมอ พี่โกะมาต่อเร็วๆนะ นี่ตามไปทวงทุกที่อ่ะ บอกเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
อ่านได้ครึ่งเดียวขอมาเม้นท์ก่อน

เรื่องมันเศร้ามาก :mew6: :ling1:  อ่านแล้วสงสารทั้งคู่มากเลย ฮึกๆๆๆๆ ขอไปทำใจก่อนแล้วจะมาอ่านต่อนะ

ขอไว้อาลัยให้เหล่าเหยื่อของอาชญากรทั้งหลายด้วยนะคะ

ฮือ เข้าพรรษาแล้ว  เค้าจะไปทำบุญให้นะ :heaven

e_new

  • บุคคลทั่วไป
จะตายอีกมั้ยเนี่ย = =
อ่านแล้วน้ำตาไหลเองอ่ะ ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
  :sad3:   :ling3:

นิยายเรื่องนี้... หลอนนนนนนนนน

แล้วจะอ่านก็ใช้วิจารณญาณในการอีกเหมือนกัน

แต่ยอมรับจริงๆว่าเขียนดีเข้าถึงอารมณ์ตัวละครมากค่ะ

อ่ะนะ เขียนดีเกินจนหลอนนนนนนนนนนเลยอ่ะ

อืมมม ไอก็งงๆกับวิญาณทั้งสองที่ยังคงคงอยู่มากเลยอ่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ ถ้าไงช่วยแง้มทีสิคะ

แต่ขอเถอะนะ อย่าลงเอ่ยแบบเมื่อสี่สิบปีก่อนนะ ถ้าจะดราม่าขนาดนั้นคงทนไม่ไหว

แต่..ถ้าใช่ช่วยกระซิบบอกไอหน่อยเถอะค่ะ ทนอ่านไม่ไหวจริงๆนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2013 16:59:30 โดย เกริด้า(๐-*-๐)v »

ออฟไลน์ บี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เมื่อไรจะมาอัฟเรื่องต่อนร้าาาาาาอยากอ่าน หมอซัน กับอาจารย์หมอแร้วอ่าาาาาาาา  :impress2: :-[ :o8: :impress3: :serius2: :serius2: :mew2: :mew4: :mew3: :mew6: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
Chapter 6

ตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นคลินิกมา วันนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นวันแรกที่ศราวินรู้สึกดีใจที่เสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้ เหตุผลก็เพราะว่าหกโมงเย็นวันนี้เขามีนัดที่จะออกไปทานมื้อเย็นกับอนิรุทธ์ อาจารย์แพทย์ที่กลายมาเป็นคนรักกัน

ศราวินเดินมาตามระเบียงมุ่งหน้าไปยังห้องพักของอนิรุทธ์ที่ตอนนี้ติดคิวผ่าตัดอยู่ หลังจากทักทายกับพิมพ์อรแล้ว ศราวินก็เดินเข้าไปในห้องพักของอาจารย์หนุ่ม

แม้โรงพยาบาลจะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ คือกลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อและกลิ่นยาต่างๆ แต่ในห้องพักของอนิรุทธ์นั้นกลับมีแต่กลิ่นประจำตัวของเขา กลิ่นโคโลญจน์หอมอ่อนๆที่เข้ากับบุคลิกเคร่งขรึมและจริงจังแต่แฝงไว้ด้วยความใจดีและอบอุ่น ศราวินยิ้ม เพียงแค่หลับตาลงแล้วสูดลมหายใจลึกๆก็รู้สึกเหมือนความอบอุ่นของคนรักกำลังโอบกอดเขาไว้ ร่างบางลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วยิ้ม

ทว่ารอยยิ้มก็เลื่อนไหลจากใบหน้าของเขาเมื่อสายตาทอดมองเห็นสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ นักศึกษาแพทย์หน้าหวานเอียงคอมองกล่องสีเทาบนโต๊ะทำงานของคนรักอย่างสงสัย สองเท้าก้าวย่างไปที่โต๊ะทำงาน กล่องที่มีโน้ตแปะว่าจากแผนกนิติเวชนั้นกระตุ้นต่อมความอยากรู้ให้ทำงาน ศราวินลังเลใจเล็กน้อยก่อนจะเปิดฝากล่องขึ้นมา

สิ่งที่นอนอยู่ในกล่องนั้น หากจะบอกว่าไม่ได้คาดคิดไว้ก็คงเป็นไปไม่ได้ ศราวินสูดลมหายใจลึกๆและหยิบเอาแฟ้มสีเขียวหัวเป็ดที่มันทั้งเก่าและซีดซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้เห็นออกมา มือและขามันสั่นเทาจนเขาต้องรีบดึงเก้าอี้มานั่งและวางแฟ้มนั้นลง สายตาเหลือบมองดูแฟ้มที่คล้ายกันอีกสองสามอันในกล่องแล้วเลื่อนสายตากลับมามองดูแฟ้มในมืออีกครั้ง

ริมฝีปากได้รูปเม้มจนเป็นเส้นบาง ศราวินสูดลมหายใจลึกๆก่อนตัดสินใจเปิดมันออก วินาทีที่สายตาได้เห็นภาพศพของเอ็กซ์เทิร์นผู้มีใบหน้าและชื่อเดียวกับตัวเอง หัวใจมันก็สะท้อนความเศร้าที่แอบซ่อนอยู่ในมุมมืด ความรู้สึกวูบโหวงภายในกำลังตีรวนให้เกิดอาการมวนในท้อง แต่เขากำลังคงเปิดมันต่อไป ปลายนิ้วสัมผัสกับรูปถ่ายแต่ละใบ สายตามองทุกรายละเอียดของภาพถ่ายใบเก่าที่เลือนสี มองอ่านทุกตัวอักษรข้อความในแฟ้มคดีนั้น..

ทว่ายิ่งรับรู้ข้อมูลพวกนั้น น้ำตาที่คิดว่ามันอาจจะไหลออกมาก็เป็นได้นั้นกลับถูกย้ำด้วยความหม่นหมองจนมันไม่อาจไหลออกมา...

ริมฝีปากบางสั่นเทา ดวงตาคู่งามของศราวินเริ่มว่างเปล่าทุกทีที่เห็นข้อมูลหลักฐานและรายละเอียดต่างๆที่จดบันทึกไว้ เขาปิดแฟ้มอันแรกลงและหยิบแฟ้มอันอื่นออกมาเปิดอย่างบ้าคลั่ง

จนกระทั่งหยุดอยู่ที่เนื้อหาข่าวหน้าสุดท้ายที่ถูกตัดเก็บไว้เมื่อสามสิบเก้าปีก่อน..หรือหนึ่งปีให้หลังจากที่เอ็กซ์เทิร์นศราวินกับนายแพทย์อนิรุทธ์ตายเมื่อสี่สิบปีก่อน

ศราวินมองข่าวนั้นแล้วเม้มริมฝีปาก น้ำตาที่หายไปมันไหลลงมาเพียงหนึ่งหยด และมันไม่ใช่มาจากความเสียใจ

ทว่า...มันคือน้ำตาของความผิดหวัง

“ซัน?” อนิรุทธ์ที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในห้องเอ่ยเรียกเมื่อเห็นร่างเล็กนั่งอยู่ที่เก้าอี้ หันหลังไม่ยอมหันมาหาเขา ศัลยแพทย์หนุ่มสาวเท้าเดินเข้าไปหาแล้วก็ต้องใจหาย ใบหน้าของคนรักนั้นซีดเผือด

“ซัน..” เขาย่อตัวลงและแตะลงกับแขนของคนรัก ศราวินหันมาช้าๆ สายตาว่างเปล่าแลดูไม่เหมือนคนรักของเขา

“โลกนี้..ไม่ยุติธรรมเลยนะฮะ” ศราวินเอ่ยเสียงขมขื่น เขายืดตัวเล็กน้อยสอดสองแขนโอบกอดคนรักเอาไว้ ศราวินแนบแก้มลงกับไหล่เขาแล้วหลับตาลง สายน้ำไหลจากดวงตาราวกับเหลือกลั้น หากแต่เป็นเพียงการร่ำไห้ที่ไร้เสียง

“คนเลวพวกนั้น...ทำไมถึง...” ศราวินกัดริมฝีปากที่สั่นเทาซึ่งคล้ายจะสะอื้นของตนเอาไว้ เนื้อหาในข่าวที่บอกว่าพวกอันธพาลที่ข่มขืนเอ็กซ์เทิร์นบางคนถูกจับ แต่คนที่ลงมือฆ่าและเป็นหัวโจกซึ่งลงมือทารุนศราวินและลงมือฆ่าคนนั้นหนีรอดลอยนวลไปได้หลังจากถูกจับกุม มันทำให้เขารู้สึกว่าโลกนี้มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน

คนบริสุทธิ์คนหนึ่งถูกทำร้ายหนักหนาขนาดนั้น แต่คนเลวที่ทำกลับลอยนวล

อนิรุทธ์ลูบหลังคนรักโดยไม่พูดอะไรออกมา ดวงตาคมอ่อนแสงลง เข้าใจในจิตใจที่กำลังบอบช้ำของศราวินเป็นอย่างดี...

"ทำไมแฟ้มคดีพวกนี้ถึงมาอยู่กับอาจารย์ได้ล่ะฮะ?" ดวงตาที่พราวด้วยหยาดน้ำใสเอ่ยมองเขา ความแคลงใจถูกส่งมา อนิรุทธ์เม้มริมฝีปากสีหน้าดูครุ่นคิด แววตาอ่อนแสงลงเมื่อขยับลุกขึ้นยืน เขามองไปยังแฟ้มพวกนั้น

"ผมแค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรกับพวกเขาบ้าง.."

อนิรุทธ์สารภาพเสียงอ่อน เขายื่นมือไปจับแฟ้มที่คนรักอ่านค้างเลื่อนหมุนมาทางตัวเอง ดวงตาคมหลังแว่นกรอบเงินกวาดตาอ่านข้อความในเนื้อข่าวก่อนหลับตาลงอย่างเจ็บปวด เขาใช้เวลาทำใจเพียงครู่หนึ่งท่ามกลางเสียงสะอื้นเบาๆที่พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมาก่อนลืมตาขึ้นอีกครั้งและจัดการปิดแฟ้มลง เขานำมันจัดเก็บลงลังก่อนนั่งลงตรงที่วางแขนเก้าอี้และรั้งร่างบางให้เอนลงกับอก

"ซัน..ผมไม่ได้ตั้งใจให้คุณได้อ่านมันเลย" เขาพลาดเองที่ไม่ได้ย้ำให้พิมพ์อรที่นำเอกสารเหล่านี้จากรเมศไปเก็บไว้ในตู้ให้เรียบร้อย หญิงสาวจึงนำมันมาวางทิ้งไว้บนโต๊ะจนสะดุดตาเด็กน้อยของเขาเข้า

"ผม...ก็แค่อยากรู้.." ศราวินบอกเสียงเบาและสั่นเครือ พยายามสูดลมหายใจลึกๆแล้วมองหน้าอนิรุทธ์

"ถึงพวกเราจะไม่ใช่เขาสองเขา แต่..."

เด็กหนุ่มไม่สามารถเอ่ยต่อได้ น้ำตาหยดใสไหลลงเผลาะๆอีกครั้ง ศราวินพยายามปาดมันออกไปแล้วสบตากับคนรัก

"อาจารย์เข้าใจใช่ไหมครับ?"

อนิรุทธ์มองหน้าเด็กหนุ่มก่อนจะพยักหน้ายอมรับ เขาเข้าใจดีว่าศราวินกำลังคิดยังไง เพราะมันก็คงไม่ต่างจากความรู้สึกของเขาสักเท่าใดนัก

“ผมเข้าใจ..” อนิรุทธ์บอกด้วยเสียงแผ่วเบา เขาได้แต่ลูบหลังและกอดปลอบร่างเล็กไว้เพราะรู้สึกว่ามันยากเหลือเกินที่จะพูดออกไป

“ซัน..ผมพูดไม่ได้หรอกนะว่าอยากให้คุณไม่ร้องไห้ แต่เด็กดี...สัญญากับผมได้ไหมว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะร้องไห้เพราะเรื่องนี้” คนที่ถูกร้องขอเงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นความเป็นห่วงสะท้อนอยู่ในแววตาคู่คมหลังกรอบแว่นนั้น มือบางยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนจะพยักหน้าแล้วฝืนยิ้มให้

“กลับกันเถอะ..” อนิรุทธ์บอกแล้วก้มลงกดจูบกลางกระหม่อมของคนรัก เขาลุกขึ้นยืนเอาแฟ้มคดีเก็บลงใส่กล่อง ออกจะลังเลอยู่บ้าง แต่อนิรุทธ์ก็ตัดสินใจเลื่อนกล่องไปวางเก็บไว้ที่ตู้เก็บเอกสาร

“ไม่เอากลับด้วยล่ะฮะ? อาจารย์อยากรู้รายละเอียดไม่ใช่หรอฮะ” ศราวินเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นแบบนั้น อนิรุทธ์ที่แม้อยากรู้รายละเอียดในคดีนั้นแต่ก็ไม่อยากให้มันกลายเป็นสิ่งกวนใจให้ศราวินรู้สึกเศร้าอีกก็ชะงักก่อนหันมา

“อาจารย์จะไม่เอากลับเพราะกลัวซันรู้สึกแย่เวลาเห็นเอกสารพวกนี้ใช่ไหมฮะ? วางใจเถอะฮะ ซันไม่เป็นไรแล้ว แล้วก็จะไม่แอบอ่านแล้วล่ะฮะ” เด็กหนุ่มบอกเสียงเบาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ แต่อนิรุทธ์ก็ยังลังเลอยู่ ศราวินที่สัมผัสความรู้สึกนั้นก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับแตะมือเขาไว้

“เอากลับไปเถอะฮะ..ซันรู้ว่าอาจารย์อยากอ่านมัน” เพราะถ้าไม่อยากแล้ว เอกสารกล่องนี้ก็คงไม่มาวางอยู่บนโต๊ะทำงานของอนิรุทธ์เป็นแน่ อาจารย์หนุ่มหันมองหน้าคนรักก่อนยิ้มจางๆให้

“ผมต้องอ่านเอกสารพวกนี้แน่ แต่ยังไม่ใช่วันนี้” เสียงทุ้มของอาจารย์ที่เอ่ยบอกทำให้ศราวินต้องเงยหน้าขึ้นมอง อนิรุทธ์ยังคงส่งยิ้มมาให้ แววตาอ่อนโยนพาให้ใจอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

“ผมไม่อยากเสียเวลาช่วยคุณเก็บของย้ายห้องหรอกนะ” คำตอบนั้นทำให้รอยยิ้มสดใสมันมาปรากฏบนใบหน้าเยาว์วัยของเด็กหนุ่มได้ ศราวินพยักหน้ารับก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาสะพายระหว่างรอให้คนรักเก็บของ พอเสร็จแล้วจึงเดินคู่กันออกจากห้องพักของอนิรุทธ์ และแม้ว่าอยากจะจับมือเดินด้วยกันมากแค่ไหน แต่ก็ต้องเว้นระยะเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ที่มีให้กันและกัน

“เย็นนี้ทานอะไรกันดี คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม?” อนิรุทธ์เอ่ยถามอย่างเอาใจหลังจากที่ทั้งสองขึ้นรถกันเรียบร้อยแล้ว ศราวินที่เพิ่งดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดก็ยกมือขึ้นมาจิ้มปากทำท่านึกราวกับเด็กๆ มองแล้วอนิรุทธ์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาจับใจ

“อืม...ทานอะไรก็ได้ฮะ ซันเป็นเด็กเลี้ยงง่ายอยู่แล้ว อาจารย์จะพาไปร้านไหนก็ได้ฮะ ซันทานได้หมดล่ะ” มองเด็กดีหันมาฉีกยิ้มให้เต็มแก้มพร้อมกับพูดน่ารักแบบนี้แล้ว อนิรุทธ์ก็นึกอยากจะกอดเข้ามาหอมแก้มแรงๆสักที พอรู้สึกตัวว่าความคิดแบบนั้นมันแวบเข้ามาในความรู้สึก อนิรุทธ์ก็แอบนึกขำตัวเองในใจ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นกับใครมาก่อน ศราวินเป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้

“อาจารย์? ยิ้มอะไรน่ะฮะ?” ศราวินที่กำลังใช้ความคิดอยู่ว่ามื้อค่ำวันนี้จะทานอะไรดีก็หันมาเห็นรอยยิ้มของอาจารย์ที่คลี่อยู่บนใบหน้า พาให้นึกอยากรู้จนเอ่ยถามไม่ได้

“ก็...” อนิรุทธ์ยกยิ้มมุมปากมากกว่าเก่า เขาเบี่ยงรถเข้าเลนที่จะต้องเลี้ยงขวาก่อนเอ่ยสิ่งที่คิดออกมา

“ผมก็แค่คิดว่าคุณทำท่าคิดน่ารักจนอยากกอดคุณเข้ามาหอมแก้มแรงๆน่ะ”

ถึงมันจะพลบค่ำจนแสงที่ให้ความสว่างคือแสงจากโคมไฟบนท้องถนน แต่พออนิรุทธ์ก็แน่ใจว่าบนแก้มใสของคนที่นั่งอยู่ข้างกันมีรอยปื้นเข้มเพราะความเขินอายปรากฏตัวอยู่

“อยากหอมก็หอมสิฮะ” ศราวินอุบอิบบอกเสียงเบาแล้วทำท่าเอียงแก้มให้และก็อดขำกับการกระทำของตัวเองไม่ได้ เห็นเด็กน้อยของตัวเองเชื้อชวนแบบนี้แล้วอนิรุทธ์ก็อดไม่ได้ที่จะทำมันจริงๆ เขาชะโงกหน้ามาหอมแก้มเด็กหนุ่มแรงๆก่อนจะเอนหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว

“อ๊ะ?” ศราวินยกมือขึ้นแตะแก้มตัวเองที่ถูกขโมยหอมไปพร้อมกับหันมองหน้าอาจารย์หนุ่มที่อมยิ้มอยู่

“ก็คุณบอกว่าอยากหอมก็หอมได้นี่นา” อนิรุทธ์บอกแล้วหัวเราะเบาๆกับท่าทางเขินอย่างน่ารักของเด็กหนุ่ม

“ว่าแต่ เราจะไปทานที่ไหนกันดีล่ะฮะ?”

คนที่ยังคงเขินจนแก้มร้อนผ่าวก็เปลี่ยนประเด็นไปถามอย่างอยากรู้ อนิรุทธ์เลิกคิ้วก่อนจะเหยียบคันเร่งเมื่อเห็นสัญญาณไฟเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว เขาเลี้ยวไปตามทางที่ศราวินแน่ใจว่าไม่ใช่ทางกลับหอพักของตนเอง

“ถึงแล้วก็รู้ ผมคิดว่าคุณน่าจะชอบนะ”

อนิรุทธ์บอกพร้อมกับรอยยิ้ม เขาขับรถพาคนรักมาที่ร้านอาหารสไตล์บูทีคซึ่งเขาเคยมาทานอยู่บ่อยครั้งกับอธิชาผู้เป็นน้องสาว พอมาถึงแล้วก็เห็นศราวินอมยิ้มอย่างชอบใจตามที่คาดเอาไว้

“มาบ่อยหรอครับ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่สั่งอาหารกันเรียบร้อยดีแล้ว ศราวินเป็นเด็กช่างสังเกตมากพอที่จะรับรู้ได้ว่าอาจารย์ของตนนั้นคุ้นชินกับร้านนี้

“ยัยธิชาเขาชอบร้านนี้น่ะ”

“อ่อ” เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเริ่มชวนคุยในเรื่องต่างๆ ซึ่งส่วนมากก็เป็นเรื่องประสบการณ์ทางการแพทย์ของอนิรุทธ์ที่ผ่านมา ทั้งตอนที่เป็นศัลยแพทย์และเป็นนักศึกษาแพทย์ อนิรุทธ์เล่าไปพลางมองคนรักที่ตั้งอกตั้งใจฟังแล้วก็ต้องยิ้มให้อย่างเอ็นดู

“ว่าแต่ถัดจากศัลย์แล้ว วอร์ดต่อไปที่จะลงคือวอร์ดไหนหรือ?” อนิรุทธ์ถามพลางเลื่อนถ้วยซุปเข้าไปให้เด็กหนุ่ม

“ลงวอร์ดสูติน่ะฮะ ถัดจากนั้นก็วอร์ดเมด”

“พอลงวอร์ดเมดก็ระวังอาจารย์ตุลธรหน่อยก็แล้วกันนะ” คนที่ฟังได้ยินก็ถึงกับต้องอมยิ้มก่อนลดมือที่ตักซุปซึ่งอาจารย์สั่งมาลง รอยยิ้มดีใจที่ได้ยินสำเนียงหึงหวงจากคนรักกันปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“คงไม่เป็นไรหรอกมั้งฮะ อาจารย์แกก็ดูไม่ค่อยดุเท่าไหร่”

“ผมไม่ได้หมายความถึงเรื่องนั้น คุณก็น่าจะรู้นี่ว่าผมหมายถึงเรื่องอะไร” เสียงทุ้มของอนิรุทธ์เอ่ยด้วยสำเนียงคล้ายผู้ใหญ่ดุเด็ก แต่ศราวินก็รับรู้ได้ว่านั่นคือความหึงหวงที่เรียกได้ว่าเป็นความหึงหวงในแบบของอนิรุทธ์นั่นเอง

“อ๋อ เรื่องก้นของผมน่ะหรอครับ? อย่าห่วงเลยฮะ” เด็กหนุ่มแกล้งทำเป็นนึกขึ้นได้แล้วยิ้มให้คนเป็นห่วงก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปพูดเสียงเบาลง

“ผมยอมให้อาจารย์จับได้คนเดียวน่ะแหละ” ฟังเด็กหนุ่มพูดอย่างแก่นเซี้ยวแล้ว อนิรุทธ์ก็อยากจะจับอีกฝ่ายมาตีก้นแรงๆสั่งสอนนักว่าอย่าพูดจาแบบนั้นตอนที่ทำหน้าตาน่ารักใส่กันแบบนี้


หลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้ว อนิรุทธ์ก็ขับรถมายังหอพักของเด็กหนุ่มอีกครั้ง เพราะตกลงกันแล้วว่าจะให้ศราวินย้ายเข้าไปอยู่กับเขา จึงต้องเริ่มเก็บข้าวของในห้องพักของเด็กหนุ่มเอาไว้ เพื่อที่จะย้ายออกตอนสิ้นเดือนซึ่งอีกไม่กี่วันก็จะถึงแล้ว

“ของส่วนมากก็เป็นตำราเรียนน่ะฮะ” ศราวินบอกพลางมองดูหนังสือที่ซ้อนกันอยู่ในลังเก็บที่วางซ้อนเป็นชั้นๆอย่างเป็นระเบียบ

“งั้นก็เอาไปด้วยทั้งหมดนั่นแหละ เดี๋ยวจะซื้อตู้หนังสือมาเพิ่มไว้ให้คุณเก็บหนังสือ เวลาจะเอาออกมาอ่านจะได้สะดวกกว่าใส่ไว้ในลังแบบนี้” อนิรุทธ์บอกพลางเปิดลังพลาสติกดูหนังสือที่เด็กหนุ่มเก็บเอาไว้ออกดู พอเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อยดีก็ต้องยิ้มอย่างนึกชอบใจ เขาปิดฝากล่องลงแล้วหันมามองเด็กหนุ่มที่หันไปดึงเอาหนังสือและสมุดที่วางจัดอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือของตัวเองมาเก็บลงลังกระดาษที่เพิ่งเอามาขึ้นกล่อง

“เดี๋ยวค่อยมาจัดต่อเถอะ ไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่า” อนิรุทธ์ออกปากเอ่ยชวนพร้อมกับแตะแขนของศราวินไว้ ดึงเอากองชีทเรียนไปวางลงในลัง

“อาบอย่างเดียว...หรอฮะ?” เด็กหนุ่มถามแล้วเลิกคิ้วด้วยท่าทางล้อเลียน อนิรุทธ์ส่ายหน้าไปมาพลางยิ้มมุมปาก เขารวบเด็กหนุ่มเข้ามากอดแล้วกดจมูกลงแนบกับแก้มใสอย่างมันเขี้ยว

“รู้ตัวบ้างไหม ว่าคุณกำลังทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นไอ้หนุ่มคลั่งรักอยู่นะ” อนิรุทธ์กระซิบบอกอยู่ข้างแก้ม คนในอ้อมแขนฟังแล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาที่ไม่คาดคิดสักเท่าไหร่ว่าจะได้ยินคำพูดนี้ก่อนจะยิ้มหวานออกมา

“ดีใจจังฮะที่ได้ยินแบบนั้น” ศราวินบอกอย่างมีความสุข มือเรียวยกขึ้นมาลูบแก้มของคนรักเบาๆก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ จุดหมายคือริมฝีปากอุ่นที่ให้ความรู้สึกดีเสมอ อนิรุทธ์เองก็เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ จูบแสนหวานที่ทั้งคู่ต่างก็ปรารถนาถูกส่งมอบให้กันและกันก่อนเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงเพราะความต้องการมันโหมพัดขึ้นมา อนิรุทธ์ผลักให้ศราวินนอนลงกับเตียงก่อนจะเริ่มต้นบทรักที่มันแสนหอมหวานและร้อนแรงไม่แพ้จูบ เขาจะการถอดเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มออกก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นมานั่ง มองดูร่างขาวผ่องที่นอนระทวยหอบหายใจอยู่บนเตียงด้วยความปรารถนา

“ซัน..” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกแผ่บเบาก่อนที่ใบหน้าคมจะเลื่อนเข้าไปใกล้หว่างขา อนิรุทธ์ยกขาเรียวให้งอขึ้นจนตั้งชันก่อนฝังจูบเบาๆที่โคนขาก่อนเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ตรงส่วนกลาง ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดทำให้ศราวินรู้สึกว่าจิตใจตัวเองมันกำลังกระเจิดกระเจิงไปหมด เขาเอื้อมมือมาจับบ่าของร่างสูงเอาไว้

“อะ..อาจารย์..” เสียงเล็กสั่นเครือจากอารมณ์ดำฤษณา ดวงตาหรี่ปรือมองดูใบหน้าคมของอาจารย์ที่ตอนนี้กำลังพรมจูบแผ่วเบาไปกับแกนกายของเขา คลื่นความร้อนมันแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า ศราวินยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ ความปรารถนาทำให้เขาขยับสะโพกหยัดเข้าหาริมฝีปากของอาจารย์โดยไม่รู้ตัว ยิ่งก้านนิ้วเรียวยาวที่ใช้จับมีดผ่าตัดเสมอๆสอดแทรกเข้ามาทางช่องทางเบื้องหลังก็ยิ่งให้หวามไหวมากขึ้นไปอีก

แต่แล้วความสุขที่ถาโถมเข้ามาก็ชะงักลง อนิรุทธ์ถอนริมฝีปากจากท่อนเนื้อสีสวยกลางคันรวมทั้งถอนนิ้วจากช่องทางคับแคบนั่นด้วย ศราวินที่เข้าใจดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ก็ไม่นึกขุ่นเคือง เด็กหนุ่มแยกขาออกกว้างกว่าเก่าเพื่อให้คนรักเข้ามาแนบชิดได้ อนิรุทธ์ก็ไม่รั้งรอที่จะเข้าไปในกายของเด็กหนุ่มทันที แต่ก็ขยับกายสอดเข้าไปอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลเพราะเกรงว่าเด็กหนุ่มจะเจ็บ

“ไม่เจ็บนะ?”

อนิรุทธ์เอ่ยถามอย่างห่วงใย คนที่นอนอยู่ใต้ร่างส่ายหน้าให้พร้อมกับรอยยิ้ม ศราวินยกมือขึ้นมาโอบกอดเขาไว้

“ไม่เจ็บฮะ...อาจารย์ขยับเถอะ” ได้ยินแบบนั้น อนิรุทธ์ก็เริ่มขยับเพื่อชักพาความสุขให้กับคนรักและตนเอง

บทรักดำเนินต่อไปอย่างอ่อนหวานและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสม

จนกระทั่งถึงปลายทาง ร่างกายของศราวินก็จิกเกร็ง เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากกลั้นเสียงกรีดร้องอย่างสุขสมของตัวเองไว้พลางกอดกายอุ่นของอนิรุทธ์ไว้แน่น อนิรุทธ์พรมจูบไปทั่ววงหน้างามแล้วกระแทกกายแรงๆอีกสองสามครั้งพร้อมกับรูดแกนกายในมือ ทั้งสองปลดปล่อยออกมาในเวลาพร้อมๆกัน

“มีความสุขจังเลยฮะ” ศราวินบอกเสียงอ่อนแรง มองหน้าคนรักด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มันล้นอยู่ในใจ อนิรุทธ์จูบทับเปลือกตาเขาอย่างทะนุถนอม

“ไปอาบน้ำกันนะ”

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับคำชวนก่อนจะลุกขึ้นมานั่ง อนิรุทธ์เดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าหยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาสองผืนแล้วจึงเดินกลับมาโอบประคองเด็กหนุ่มให้เข้าไปอาบน้ำด้วยกัน

“อื้อ น้ำเย็นจัง เปิดน้ำอุ่นดีกว่า” ศราวินที่ไม่ถูกโรคกับน้ำเย็นสักเท่าไหร่เอ่ยพูดขึ้นมาทันทีเมื่อเจอน้ำเย็น เด็กหนุ่มหันไปกดเปิดน้ำอุ่นก่อนจะหันมาหาคนรักที่ยืนซ้อนหลังอยู่ อนิรุทธ์กำลังขมวดคิ้วแล้วหันไปทางประตู

“มีอะไรหรอฮะอาจารย์?”

“อืม...ผมเหมือนได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาน่ะ” ศัลยแพทย์หนุ่มบอกไปตามตรง ศราวินเอียงคอไปมาก่อนยิ้มอย่างไม่ติดใจสงสัยอะไร

“คงเป็นเสียงห้องข้างๆน่ะครับ หอพักก็งี้ กำแพงมันบางกว่าคอนโดน่ะฮะ” อนิรุทธ์ฟังแล้วก็ยอมทิ้งความสงสัยของตัวเอง ขยับมาสอดแขนดึงเอาฝักบัวจากมือของเด็กหนุ่มไปล้างตัวให้แทน ศราวินคลี่ยิ้มชอบใจกับการดูแลและเอาใจจากคนรัก จนอดไม่ได้ที่จะหันไปจูบที่ข้างแก้มของอนิรุทธ์แทนคำขอบคุณ อนิรุทธ์ยิ้มตอบกลับก่อนกดจูบอ้อยอิ่งลงกับกลีบปากนุ่ม

“รู้ไหมฮะ ว่าผมมีความสุขแค่ไหนที่ได้รักกับอาจารย์?”

ศราวินเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากที่ผละจูบจากกัน อนิรุทธ์ยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะแนบริมฝีปากลงจูบที่กลางหน้าผากของเขาแล้วตอบเสียงเบา

“รู้สิ...” อนิรุทธ์ตอบกลับไปเสียงอ่อนโยน ความสุขของศราวินมันกระจ่างแจ้งไม่ต่างอะไรกับความสุขที่เกิดขึ้นในใจของเขา

ทั้งคู่อาบน้ำกันไปก็หยอกล้อกันไปอยู่พักใหญ่ก่อนจะอาบน้ำเสร็จ พอพากันออกมานอกห้องน้ำแล้ว ศราวินก็ต้องตกใจไม่ต่างอะไรกับอนิรุทธ์

“พะ...พี่พัท!”

อนิรุทธ์มองหน้าคนอุทานก่อนเลื่อนสายตาไปมองผู้ชายแปลกหน้าที่เพิ่งลุกขึ้นจากปลายเตียง นายตำรวจหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ซัน นี่มันอะไรกัน?” สำเนียงของผู้ชายคนนั้นเอ่ยถามคล้ายกับยามที่ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ใช้ถามเด็กที่กำลังกระทำผิดอยู่ แววตาคู่คมก็ไม่ต่างกัน อนิรุทธ์เห็นอีกฝ่ายกดสายตามองดูเด็กหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า ขณะที่คนถูกมองยังคงยืนนิ่ง ศราวินขยับริมฝีปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ผู้ชายคนนั้นก็ยกมือขึ้นห้ามเสียก่อน

“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเถอะ เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวแน่” ท้ายประโยคคนพูดหันมามองเขา อนิรุทธ์มองตอบไปอย่างไม่นึกกลัว แต่กลับนึกสงสัยว่าผู้ชายคนนี้คือใครกันเสียมากกว่า พอพูดเสร็จผู้ชายคนนั้นก็เดินเลี่ยงออกไปนอกระเบียงห้อง อนิรุทธ์หันมองเด็กหนุ่มทันที ศราวินมองตามแผ่นหลังผู้ชายคนนั้นไปก่อนหันมามองหน้าเขา

“เขาเป็นใครกันหรอ?” ชายหนุ่มถามอย่างพยายามไม่ให้น้ำเสียงของตัวเองคาดคั้นให้เด็กน้อยของตัวเองต้องลำบากใจ

(ต่อ)

ออฟไลน์ zynestras

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • Zynestras.com
“พี่พัท เป็นผู้ปกครองของผมน่ะครับ” ศราวินตอบแบบนั้นก่อนเดินไปหยิบเอาเสื้อผ้ามาสวม อนิรุทธ์ที่เดินตามไปหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมก็เห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนใจของเด็กหนุ่ม

“อาจารย์ฮะ..” พอสวมเสื้อผ้าเสร็จ ศราวินก็หันมาหา สีหน้าดูลำบากใจและลังเล อนิรุทธ์เอื้อมมือไปลูบแก้มเด็กหนุ่มและรอฟัง

“ถ้าผม..จะบอกพี่พัทเรื่องของเราได้ไหม?”

“ได้สิ” อนิรุทธ์ตอบกลับไปทันทีอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด ศราวินส่งยิ้มบางแทนคำขอบคุณก่อนจะเดินออกไปหาคนที่อยู่นอกระเบียง

 

อติพัทธ์ไม่เคยคิดมากก่อนว่าวันหนึ่งจะเข้ามาในห้องของคนที่ตัวเองรักเหมือนน้องชายแล้วจะพบกับสถานการณ์เช่นนี้ แต่เพราะความเป็นคนอารมณ์เย็นและใช้ความคิดมากกว่าอารมณ์จึงทำให้เขาควบคุมสติเอาไว้อยู่

พอเสียงประตูเลื่อนเปิดออก เขาจึงหันกลับมา สายตาคมมองดูร่างเล็กที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาใกล้ เขาถอนหายใจช้าๆเลื่อนสายตามองผ่านประตูกระจกเข้าไปด้านในและเห็นว่าผู้ชายแปลกหน้ากำลังมองมาทางนี้ด้วยสายตาห่วงใย

“พี่พัท...จะกลับมาทำไมไม่โทรมาบอกกันก่อนล่ะฮะ?” ศราวินเอ่ยถามเสียงเบา ริมฝีปากพยายามยกยิ้มให้สดใสแต่ก็ดูฝืดฝืน

“ทำไมล่ะ? ปกติพี่ก็ไม่ต้องโทรบอกก่อนไม่ใช่หรอ? หรือเดี๋ยวนี้ไม่อยากให้พี่มาหาแล้ว?”

สำเนียงเสียงไม่ได้มีความน้อยใจอะไรปะปนมา นายตำรวจหนุ่มเอ่ยถามมันเหมือนกับต้องการคำตอบที่ชัดเจนเสียมากกว่า ศราวินระบายลมหายใจช้าๆ

“ซันไม่ได้หมายความแบบนั้นเสียหน่อย ก็แค่กลัวว่าพี่จะมาไม่เจอซันแค่นั้นเอง”

“กลัวพี่มาไม่เจอซัน หรือมาแล้วเจอกับเหตุการณ์แบบนี้กันล่ะ?”

ถูกอีกฝ่ายพูดกลับมาแบบนี้แล้ว เด็กหนุ่มก็อดรู้สึกหน้าชาไม่ได้ เขาก้มหลบสายตาของคนเป็นผู้ปกครองเหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วถูกจับได้

“ซันไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย ก็แค่..” ศราวินเกือบจะหลุดเรื่องที่กำลังจะย้ายไปอยู่กับอนิรุทธ์ให้อีกฝ่ายรู้ แต่ก็ยังยั้งปากเอาไว้เพราะเกรงว่าอติพัทธ์จะไม่พอใจ ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายจะสมกับเป็นนายตำรวจ

“ก็แค่ซันจะย้ายออกไปอยู่กับเขา? พี่พูดถูกไหม?”

ศราวินค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามอง อติพัทธ์ส่ายหน้าช้าๆแล้วถอนหายใจ สายตามองดูอย่างตำหนิ

“พี่ไม่โง่นะซัน เห็นอยู่ชัดๆว่าซันกำลังแพ็คของอยู่”

ศราวินได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรอีก เห็นแบบนั้นแล้วอติพัทธ์จึงได้แต่ถอนหายใจอย่างหนักอก

“ผู้ชายคนนั้น เขาเป็นใครกัน?”

คำถามที่คิดไว้แล้วว่าต้องเจออย่างแน่นอนหลุดออกจากปากของอีกฝ่าย ศราวินพยายามสูดลมหายใจลึกๆ ทั้งที่ตอนแรกคิดไว้ว่าจะต้องพูดออกไปให้อติพัทธ์รู้อย่างภาคภูมิใจ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกกลัว เพราะรู้ว่าอติพัทธ์มีนิสัยแบบนายตำรวจอย่างแท้จริง คือรักความถูกต้อง

หากรู้ว่าอนิรุทธ์คืออาจารย์ของเขาแล้ว ศราวินก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าอติพัทธ์จะมีปฏิกิริยาอย่างไร

แต่ถ้าให้โกหกออกไป ศราวินก็ไม่คิดจะทำมันเช่นกัน

“อาจารย์อนิรุทธ์ เป็นคนรักของซันฮะ”

“อาจารย์!? ซัน!” อติพัทธ์ได้แต่อุทานออกมา นายตำรวจหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก สีหน้าตึงเครียดขึ้นมาทันที ขณะที่ศราวินได้แต่ส่งสายตามองขอความเห็นใจจากเขา

“ซัน..ไม่ต้องมามองหน้าพี่แบบนั้นเลย ซันรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่ เรื่องจะรักกับผู้ชายด้วยกันพี่ไม่ว่า แต่นี่เขาเป็นอาจารย์นะซัน? แล้วซันรู้จักกับเขามานานแล้วอย่างนั้นหรอ?”

พอถึงคำถามประโยคหลังที่หลุดปากพูดออกไป อติพัทธ์ก็จับพิรุธคนเป็นน้องได้ในทันที เขาเลิกคิ้วแล้วเอื้อมมือไปจับคอของศราวินเอาไว้ ใช้อุ้งมือดันให้เด็กหนุ่มเงยขึ้นมามองหน้าตัวเอง สายตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตา ศราวินรู้ทันทีว่าอติพัทธ์กำลังจะจับเท็จกับตัวเองด้วยวิธีการแบบเดียวกับในหนังที่เขาเคยนั่งดูด้วยกันเมื่อหลายปีก่อน

“ซันเพิ่งรู้จักกับเขาใช่ไหม?” อติพัทธ์ถามออกไปก่อน คนถูกถามไม่ตอบแต่มองจ้องตากลับคืนไป เพียงเท่านี้อติพัทธ์ก็รู้แล้ว

“ซัน เขาเป็นอาจารย์ แถมยังเพิ่งรู้จักกัน ทำไมถึง...” อติพัทธ์รู้สึกว่าตัวเองพูดไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้าไปมาราวกับจะปฏิเสธเรื่องราวพวกนี้ เด็กหนุ่มยกมือขึ้นมาจับมือเขาออกจากคอของตัวเอง

“พี่พัทจะบอกว่าทำไมซันถึงปล่อยตัวปล่อยใจให้อาจารย์อย่างนั้นสินะฮะ” ศราวินเอ่ยขึ้นแทน รู้ดีว่านายตำรวจหนุ่มคงไม่มีทางพลาดที่จะสังเกตเห็นร่องรอยความเป็นเจ้าของที่อนิรุทธ์ฝากไว้บนร่างกายของตนแน่ ขนาดตัวเขาเองไม่ได้ก้มลงมองร่างกายตัวเอง ยังรู้สึกถึงรอยจูบที่ประดับอยู่บนลำคอกับแผ่นอกเลย นับประสาอะไรกับคนที่ได้เห็น

“นั่นสิซัน..ทำไมล่ะ?” อติพัทธ์ถามออกไปด้วยน้ำเสียงคลางแคลง

ศราวินถอนหายใจยาว มือที่ยังจับมือของอติพัทธ์บีบเบาๆขณะที่พยายามส่งยิ้มจริงใจให้อีกฝ่ายที่เป็นเสมือนพี่ชายของตน

“พี่พัท...ความรักมันไม่มีเหตุผลของมันหรอกนะฮะ ผมบอกไม่ได้หรอกว่าทำไม แต่ผมบอกได้ว่าผมรักเขา ผมรักอาจารย์ และอาจารย์ก็รักผม เรามีความสุขที่รักกัน พี่ไม่ดีใจหรอฮะที่ผมมีความสุข?”

ศราวินถามประโยคสุดท้ายด้วยเสียงแผ่วเบา อติพัทธ์ฟังแล้วก็ต้องชะงัก แววตาคู่คมอ่อนแสงลงขณะมองคนอ่อนวัยกว่า

“ทำไมพี่จะไม่ดีใจล่ะที่ซันมีความสุข”

ริมฝีปากของศราวินยกยิ้มมากกว่าเก่า ดวงตาคู่งามทอประกายความสุขออกมาให้เห็น

แต่อติพัทธ์ก็ยังแคลงใจในความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหนุ่มกับอนิรุทธ์อยู่ดี

“แล้วเขา จริงใจอย่างนั้นหรอ?”

ไม่แปลกที่อติพัทธ์จะตั้งข้อกังขาในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ศราวินไม่คิดจะโกรธเคืองอะไรในข้อกังขานั้นเพราะรู้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่อติพัทธ์ไม่ได้รับรู้มาก่อน มันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

“ซันอยากให้พี่พัทเชื่อใจอาจารย์เหมือนกับที่ซันเชื่อใจอาจารย์นะฮะ แล้วก็พี่พัทมั่นใจได้เลยว่าอาจารย์จริงใจกับซันแน่นอน”

ถึงศราวินจะเอ่ยมันออกมาอย่างมั่นใจ แต่อติพัทธ์ก็ยังไม่คลายความเป็นห่วง นายตำรวจหนุ่มรู้ดีว่าอีกฝ่ายเด็กและไร้เดียงสามากแค่ไหน

“พี่จะมั่นใจก็ต่อเมื่อเขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วเท่านั้น” อติพัทธ์ลงเสียงหนักให้รู้ว่าศราวินห้ามปฏิเสธในข้อนี้ และมันก็คงเป็นทางเดียวที่จะสร้างความเชื่อใจให้แก่กันได้ ร่างบางจึงยอมตกลงด้วยการพยักหน้ารับ

“ดี อย่างแรก พี่ต้องคุยกับเขาก่อน ซันคอยอยู่ตรงนี้จนกว่าพี่จะคุยกับเขาเสร็จ โอเคไหม?”

“ตกลงฮะ” ศราวินตอบเสียงอ่อนอย่างยอมแพ้แล้วยกยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนหลีกทางให้ อติพัทธ์ยกมือขึ้นมาลูบหัวเด็กหนุ่มก่อนเปิดประตูเลื่อนเข้าไปข้างในเพื่อคุยกับคนที่เอาแต่เฝ้ามองออกมา

เรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน แต่ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเองก่อนก็แล้วกัน ผมร้อยตำรวจตรีอติพัทธ์ เป็นผู้ปกครองของซัน ส่วนคุณผมรู้จักแล้ว" อนิรุทธ์พยักหน้าเพียงเล็กน้อย เขามองสบตานายตำรวจหนุ่มอย่างไม่นึกกลัว และเตรียมพร้อมรับมือหากอติพัทธ์จะขัดขวางไม่ให้เขารักกับศราวินอย่างเยือกเย็น

"ขอพูดกันอย่างตรงไปตรงมาเลยนะครับว่าผมไม่ไว้ใจคุณ" ประโยคแรกที่อติพัทธ์พูดออกมา เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่มั่นคง แววตาจริงจัง เขาจ้องมองอนิรุทธ์อย่างประเมินก่อนเอ่ยต่อ

"คุณคงไม่ว่าอะไรที่ผมพูดแบบนี้สินะครับ คุณเป็นอาจารย์แต่กลับมีอะไรกับลูกศิษย์ตัวเอง แถมดูท่าคุณกับซันก็เพิ่งรู้จักกันด้วยซ้ำ" อติพัทธ์พูดพลางส่ายหน้าช้าๆก่อนกดเสียงต่ำเอ่ยคาดคั้นอย่างที่ใช้เวลาสอบสวนผู้ต้องหา

"จากภาพที่ผมเห็น คุณบอกผมหน่อยเถอะ ว่ามีเหตุผลอะไรที่ผมจะยอมปล่อยให้คุณกับซันได้รักกัน และยอมให้เขาย้ายไปอยู่กับคุณ ผมให้โอกาสคุณแค่ครั้งเดียวเท่านั้นสำหรับการสร้างความไว้วางใจขั้นต้น ถ้าคุณพลาด..ผมไม่มีโอกาสให้คุณใหม่"

ดวงตาคมของอติพัทธ์บ่งบอกถึงความจริงจัง เขาจ้องมองหน้าศัลยแพทย์หนุ่มอย่างต้องการคำตอบ และจะต้องเป็นคำตอบที่เขาพึงพอใจเท่านั้น อนิรุทธ์ถอนหายใจช้าๆก่อนจะคลี่รอยยิ้มขึ้นมาบนริมฝีปาก

“เพราะผมจะทำให้เขามีความสุข มันอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก แต่มันเป็นเพียงคำตอบเดียวที่อยู่ในใจของผมตอนนี้ ผมทำให้ซันมีความสุขได้ คุณอาจไม่พอใจกับคำตอบที่ผมให้คุณ แต่มันเพียงพอสำหรับความรักของผมกับซัน”

อติพัทธ์นิ่งไปกับคำตอบที่ได้รับ เขาหรี่ตาลงมองอนิรุทธ์ ขณะที่ศัลยแพทย์หนุ่มยังคงเอ่ยปากต่อ

“ผมรู้ว่าคุณไม่เชื่อใจผม เพราะถ้าผมเป็นคุณ ผมก็คงไม่เชื่อใจผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของคนที่เป็นเหมือนน้องคุณในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้เหมือนกัน แต่ขอให้เชื่อเถอะครับ ว่าความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเลยสักนิด ผมรักซัน และจะดูแลเขาให้ดีที่สุด ทั้งในฐานะของคนรักและอาจารย์”

อนิรุทธ์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงใจไม่แพ้ดวงตา อติพัทธ์มองเขาอย่างประเมินก่อนจะพยักหน้า

“อย่าทำให้ผมผิดหวังก็แล้วกัน ซันบอบบางกว่าที่คุณคิดไว้”

“ผมทราบครับ” อนิรุทธ์คลี่ยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร เช่นเดียวกันกับที่อติพัทธ์ก็มีท่าทีอ่อนลง นายตำรวจหนุ่มหันหลังกลับเดินไปเปิดประตูกระจกแล้วเรียกคนที่มองเข้ามาอย่างนึกเป็นห่วง ก่อนหันกลับมาพูดด้วยเสียงหนักแน่น

“ผมจะไม่ขัดขวางความรักของคุณกับซัน แต่ผมจะไม่อนุญาตให้ซันย้ายไปอยู่กับคุณ”

“พี่พัท!” ศราวินอุทานออกมาก่อนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

“พี่ย้ายกลับมากรุงเทพแล้ว ซันต้องย้ายไปอยู่กับพี่”

“ไม่เอา ซันไม่ไปอยู่กับพี่พัทหรอก ซันจะไปอยู่กับอาจารย์” เป็นครั้งแรกที่อนิรุทธ์เห็นเด็กหนุ่มแสดงอาการเอาแต่ใจออกมา ศราวินทำหน้าบึ้งใส่นายตำรวจหนุ่ม

“ซัน อย่าดื้อสิ”

“พี่พัทก็อย่าเอาแต่ใจสิ! พี่พัทไม่มีสิทธิ์บังคับซันนะ!”

ศราวินตอบกลับไปเสียงดัง ใบหน้าอ่อนเยาว์ดูไม่พอใจเสียยิ่งกว่าเดิมจนอนิรุทธ์ต้องเข้าไปปรามไว้

“ซัน...ใจเย็นก่อน” ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาบีบไหล่เล็กเบาๆ ศราวินสูดลมหายใจยาวระงับอารมณ์ให้เย็นลง

“ขอโทษฮะ แต่ยังไงซันก็ไม่ย้ายไปอยู่กับพี่พัทหรอกนะฮะ”

"ซันจะอยู่กับอาจารย์ อาจารย์เป็นครอบครัวของซันนี่ฮะ" ศราวินบอกเสียงเบา ดวงตากลมโตมองไปที่อนิรุทธ์มันสั่นระริกราวกับจะร้องไห้ออกมา

"ซันไม่ใช่เด็กที่พี่พัทต้องเป็นห่วงเหมือนเมื่อหลายปีก่อนแล้วนะฮะ ซันโตแล้ว รู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว และก็.." เด็กหนุ่มขยับเข้าไปจับมือคนรักไว้ ซันมองหน้าอาจารย์ของตนก่อนหันไปหาอติพัทธ์

"แล้วตอนนี้ ซันก็รักเป็นแล้วด้วย พี่พัทเลิกเป็นห่วงซันได้แล้วนะฮะ" เด็กหนุ่มพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วแต่แววตาจริงจัง อติพัทธ์ที่นิ่งฟังมองแล้วก็พูดอะไรไม่ออก

"ให้ซันไปอยู่กับอาจารย์เถอะนะฮะ" ศราวินเอ่ยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน นายตำรวจหนุ่มสูดลมหายใจลึก แววตาดูว่างเปล่าขณะที่เอ่ย

"เขาเป็นครอบครัวของซัน แต่พี่..ไม่ใช่ครอบครัวของซันแล้วสินะ"

อติพัทธ์พูดได้เพียงเท่านั้น สำเนียงเสียงเศร้าหมองมันบาดลงไปในใจของคนฟัง ศราวินนิ่งอึ้งกับคำตัดพ้อนั้น นายตำรวจหนุ่มมองอีกฝ่ายอย่างน้อยใจก่อนหันไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นพาดไหล่แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองอีก

ศราวินกับอนิรุทธ์ยังคงยืนอยู่ในห้อง ท่ามกลางความเงียบ อนิรุทธ์หันมองเด็กหนุ่มอย่างเป็นห่วง เขาขยับไปบีบไหล่ของศราวินไว้ เด็กหนุ่มยืนอึ้งอยู่ที่เดิม น้ำตาใสไหลลงจากดวงตาอย่างช้าๆ

"ซันไม่ได้ตั้งใจจะหมายความแบบนั้น ซันพูดแรงไปใช่ไหมฮะ?" ศราวินถามออกมาเสียงเบาทั้งที่น้ำตายังไหลอยู่ เด็กหนุ่มไม่ได้หันมองมาที่อนิรุทธ์ แต่ยังคงมองไปที่บานประตูที่อติพัทธ์เพิ่งเดินจากไป

อนิรุทธ์ได้แต่เงียบ

"ซันแค่ไม่อยากให้พี่พัทเป็นห่วงซันแล้ว แค่อยากให้พี่พัทรู้..ว่าซันยังสามารถหายใจอยู่บนโลกใบนี้ได้โดยที่พี่เขาไม่ต้องคอยดูแลซันแล้วก็เท่านั้น" น้ำตาของเด็กหนุ่มไหลรินออกมามากขึ้นจนร่างเล็กๆนั้นสั่นเทา อนิรุทธ์ขยับเข้าไปกอดเด็กหนุ่มเอาไว้ ศราวินเอียงหน้าซบไหล่เขา สองแขนกอดอนิรุทธ์ไว้แน่น

"ซันไม่ได้ตั้งใจ ซันขอโทษ ซันเสียใจที่พูดแบบนั้นออกไป" เด็กหนุ่มสะอื้นไปพร้อมกับพูดประโยคพวกนี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในอ้อมแขนของอนิรุทธ์

“ซัน..ผมว่าคุณควรจะลงไปหาเขานะ” อนิรุทธ์เอ่ยออกมาแล้วดันตัวศราวินให้ห่างเพื่อมองหน้า มือใหญ่ยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้แล้วเอ่ยย้ำ

“คุณควรจะขอโทษเขานะ”

ดวงตาคู่กลมใสมันสั่นระริกน้อยๆก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ ศราวินหันไปทางประตูและก้าวเดินออกไปทันที อนิรุทธ์ฉวยกุญแจห้องที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินตามออกไป

พอลงมาถึงชั้นล่างแล้ว เด็กหนุ่มก็หันไปจะไปยังทิศทางของลานจอดรถ แต่อนิรุทธ์ก็ฉวยข้อมือเล็กไว้แล้วดึงไปอีกทาง

“ไปดักที่ทางออกดีกว่านะ”

อย่างที่อนิรุทธ์คาดเอาไว้ พอใกล้จะถึงทางออก ศราวินก็ได้ยินเสียงรถกำลังแล่นออกมา สายตาคู่เล็กหันไปมองก็เห็นรถของอติพัทธ์กำลังแล่นออกมาพอดี

“พี่พัท!” เด็กหนุ่มร้องเรียกแล้ววิ่งไปหารถคันนั้น แต่ความเร็วของรถไม่ชะลอลงแม้แต่น้อย เห็นอย่างนั้นแล้ว ศราวินก็วิ่งอ้อมไปดักตรงหน้าปากทางที่จะเลี้ยวเข้าถนน และขวางทางออกไว้

แสงไฟของรถสาดส่องมาที่ร่างของเด็กหนุ่ม พอรถหยุดนิ่งศราวินก็ถลาไปที่ประตูด้านคนขับและทุบกระจกรถ

“พี่พัท...ซันขอโทษ ซันขอโทษ” เสียงเล็กพร่ำขอโทษไปพลางก็พยายามเปิดประตูรถไปด้วย แต่อติพัทธ์กลับไม่ยอมใจอ่อน นายตำรวจหนุ่มทำเพียงหันมามองก่อนจะเหยียบคันเร่งเลี้ยวรถออกไปโดยไม่แม้แต่จะเปิดโอกาสให้ศราวินพูดอะไรมากไปกว่านั้น

“พี่พัท...” เด็กหนุ่มมองตามไฟท้ายรถที่แล่นออกไปไกลแล้วก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้อย่างอัดอั้นใจ อนิรุทธ์ที่ยืนมองอยู่ก็เดินเข้ามาหา

“ซัน..กลับขึ้นห้องกันเถอะ”

ศราวินสูดลมหายใจลึกๆแล้วยกมือป้ายน้ำตาออก มองไปยังท้องถนนยามค่ำคืนที่ไร้ซึ่งเงาของรถที่อติพัทธ์ขับออกไปก่อนจะหันมองหน้าคนรัก อนิรุทธ์เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาของเด็กหนุ่มแล้วจูงมือให้เดินกลับเข้ามาข้างใน

ทั้งสองคนกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง บรรยากาศเศร้าหมองยังคงลอยวนอยู่ในห้อง ศราวินเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง เด็กหนุ่มยกขาขึ้นมากอดเอาไว้แล้วกดหน้าผากลงแนบกับเข่า

อนิรุทธ์ที่สงสารก็เดินเข้ามานั่งลงและยื่นมือไปลูบศีรษะเล็กแผ่วเบา ศราวินสูดลมหายใจลึกแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตากลมโตยังคลอด้วยน้ำตา

“ซันเป็นเด็กไม่ดีเลยสินะฮะวันนี้ พี่พัทคงโกรธซันมาก..พี่พัทจะยกโทษให้ซันหรือเปล่าฮะอาจารย์?”

“ตอนนี้เขาคงจะโกรธแล้วก็น้อยใจคุณ รอให้เขาอารมณ์เย็นหน่อย แล้วคุณไปขอโทษเขาอีกครั้ง ผมเชื่อว่าเขาจะต้องยกโทษให้คุณ” อนิรุทธ์ตอบเสียงอ่อน คนฟังพยักหน้าและยอมให้เขาเช็ดน้ำตาให้ ก่อนจะขยับเข้ามากอดเขาไว้ อนิรุทธ์ลูบหลังคนรักอย่างปลอบประโลมแล้วเอนกายลงนอนกับเตียง ศราวินยังคงกอดเขาไว้แน่น กอดเริ่มพูดถึงผู้ชายคนนั้น

“พ่อแม่ของผมกับพี่พัทสนิทกันน่ะฮะ เราสองคนต่างก็เป็นลูกคนเดียวกันทั้งคู่ พี่พัทกับผมเลยถูกเลี้ยงมาให้เหมือนเป็นพี่น้องกัน..พอพ่อแม่ของพวกเราเสียพร้อมกันเพราะอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน พี่พัทเลยเป็นทั้งคนที่คอยดูแลผมแล้วก็ผู้ปกครองของผมไปพร้อมๆกัน..” อนิรุทธ์นิ่งฟังอย่างเข้าใจ มองความห่วงใยของอติพัทธ์ก็รู้แล้วว่าศราวินคงจะเป็นคนสำคัญของนายตำรวจหนุ่ม

“คุณเคยบอกผมว่าคุณอยู่คนเดียว แล้วคุณกับคุณพัทธ์ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือ?”

คนถูกถามส่ายหน้าอยู่กับอกของเขาก่อนตอบเสียงอู้อี้

“ก็อยู่ด้วยกันประมาณครึ่งปีได้ฮะ หลังจากนั้นพี่พัทก็ต้องไปประจำที่ต่างจังหวัดน่ะฮะ นานทีถึงจะได้เจอกัน”

“อ่อ..” อนิรุทธ์ครางแผ่วเบาอย่างรับรู้ แต่สิ่งหนึ่งที่ติดอยู่ในใจของเขา คือคำพูดของศราวินพูดกับเขาหลังจากที่นายตำรวจหนุ่มเดินจากไปแล้วเสียมากกว่า

‘ซันแค่ไม่อยากให้พี่พัทเป็นห่วงซันแล้ว แค่อยากให้พี่พัทรู้..ว่าซันยังสามารถหายใจอยู่บนโลกใบนี้ได้โดยที่พี่เขาไม่ต้องคอยดูแลซันแล้วก็เท่านั้น’

“ซัน..หลังจากพ่อแม่ของคุณเสียไป มันเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?” อนิรุทธ์ตัดสินใจเอ่ยถามออกไป เพราะไม่อยากให้มันติดค้างคาใจ และเขาก็อยากรู้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเด็กน้อยของเขา หากมีรอยแผลบอบช้ำใดๆในใจของศราวิน เขาก็อยากจะรักษามันให้หาย แม้ว่ามันจะเป็นแผลเก่าแล้วก็ตามที แต่การที่ศราวินหลุดปากพูดมันออกมาเช่นนี้แล้ว แสดงว่าแผลเก่าแผลนั้นมันยังคงทิ้งพิษแอบซ่อนเอาไว้เพื่อรอคอยที่จะย้อนกลับมาทำร้ายเด็กน้อยอีกครั้ง

ศราวินนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะถอนหายใจช้าๆ

“มันลำบากมากนะฮะ กับการต้องยอมรับว่าเราต้องสูญเสียคนที่เรารัก ซันเองก็ไม่ใช่คนเข้มแข็งเท่าไหร่ แล้วซันก็ต้องมาเสียพ่อเสียแม่ เสียคุณลุงคุณป้าที่รักซันเหมือนลูกตัวเองไปพร้อมๆกันแบบนั้น...ถ้าไม่มีพี่พัทอยู่ด้วย ซันก็คงทำอะไรสิ้นคิดไปแล้ว..” เสียงตอบแผ่วเบามันอ่อนระโหยราวกับคนที่กำลังจะหมดแรง อนิรุทธ์ขยับกอดแน่นขึ้นไปอีก เขาจูบเบาๆที่กลางกระหม่อมเล็กแทนคำปลอบประโลม และนั่นก็ทำให้ศราวินรู้สึกดีขึ้น เด็กหนุ่มสูดลมหายใจลึกก่อนเอ่ยต่อ

“เดือนแรกหลังจากที่ทั้งสี่คนเสียไป ซันรู้สึกเหมือนลมหายใจของตัวเองมันแทบจะหยุดลงไปพร้อมกัน มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานฮะอาจารย์..ซันกินข้าวไม่ได้ กินออกไปเท่าไหร่ก็อาเจียนออกมาหมด เวลานอนก็มีแต่ฝันร้าย ภาพสุดท้ายที่ซันได้เห็นพวกเขา...มันติดตา มันตามมาหลอนในความฝันทุกคืนเลยฮะ..พี่พัทต้องคอยดูแลซันอยู่ตลอด..ซันทำให้พี่เขาลำบากมามาก เพราะซันไม่เข้มแข็งพอ จนถึงบัดนี้ ซันก็รู้ฮะว่าพี่พัทไม่เคยคลายความเป็นห่วงที่มีให้ซัน แต่ซันไม่อยากให้พี่เขาต้องเป็นห่วงซันอีกแล้ว อาจารย์เข้าใจใช่ไหมฮะ...ซันไม่อยากให้พี่พัทต้องเป็นห่วงซันอีกแล้ว ซันเข้มแข็งแล้ว...ซันเข้มแข็งแล้วจริงๆนะฮะ”

ศราวินพูดไปพลางร้องไห้ไปพลาง เด็กหนุ่มสะอื้นอยู่กับอกของอนิรุทธ์อยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาหาแล้วเอ่ยสิ่งที่ตัวเองเก็บงำเอาไว้ไม่เคยเอ่ยให้อติพัทธ์รู้ แต่วางใจที่จะเอ่ยกับอนิรุทธ์

“ความเป็นห่วงที่พี่พัทมีให้ซัน มันทำให้ซันอ่อนแอฮะอาจารย์..”

อนิรุทธ์นิ่งไป เขามองเด็กดีของตัวเองที่ร้องไห้จนตาแดงไปหมดก่อนจะถามออกมาเสียงเบา

“แล้วเวลาที่ผมเป็นห่วงคุณ...มันทำให้คุณอ่อนแอหรือเปล่าซัน?”

“ไม่ฮะ ไม่เลย..” ศราวินตอบมาทันที และไม่ใช่การตอบแบบเอาใจ มันเป็นคำตอบจากความจริง เขารู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นอนิรุทธ์เป็นห่วงตัวเอง มันต่างจากความรู้สึกเวลาเห็นอติพัทธ์เป็นห่วงตัวเอง

“เพราะพี่พัทชอบทำเหมือนซันเป็นตุ๊กตาแก้วล่ะมั้งฮะ...”

“ตุ๊กตาแก้ว?”

“พร้อมที่จะแตกสลายได้ทุกเมื่อไงฮะ...ซันเคยเป็นแบบนั้นก็จริง แต่ตอนนี้ซันโตแล้ว ซันทำใจกับการจากไปของพวกเขาได้แล้ว ซันก็อยากให้พี่พัทเข้าใจนะฮะว่าไม่ต้องเป็นห่วงซันมากขนาดนั้นแล้วก็ได้ ซันไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ”

เด็กหนุ่มซุกหน้าลงกับอกของคนรักแล้วพูดออกมาเสียงเบา

“เขาคือคนที่อยู่กับคุณตอนเช้าวันที่เราได้เจอกัน..ที่โรงพยาบาลใช่ไหม?” อยู่ดีๆภาพของศราวินในเช้าวันแรกที่เจอกันมันก็ย้อนกลับเข้ามาในความคิดของอนิรุทธ์ เขาจำได้ว่าเห็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่กับเด็กหนุ่ม ท่าทางกำลังโต้เถียงกันอยู่ พอนึกดูดีๆแล้วก็ถึงจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นก็คืออติพัทธ์

“เอ๋?”

“วันที่คุณมาวอร์ดศัลย์วันแรกไง ผมนั่งดื่มกาแฟอยู่กับรองผ.อ.เปมทัตที่คอฟฟี่ช็อปข้างล่างตึก ผมเห็นคุณเดินเถียงอยู่กับคุณพัทธ์”

“อ่อ..ใช่ฮะ พี่พัทแวะมาหาผมก่อนจะกลับไปกาญจน์ เขาอยากให้ผมย้ายไปอยู่ที่คอนโดเขาแทนที่มาอยู่ที่หอน่ะฮะ”

“อ่อ..” อนิรุทธ์ครางรับรู้อีกครั้งก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบแก้มใส เขาผละกายออกมาเล็กน้อยแล้วช้อนแก้มให้เด็กหนุ่มหันมาสบตากัน

“ผมเชื่อว่าคุณพัทธ์จะต้องยกโทษให้คุณนะ เพราะงั้นคืนนี้เข้านอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้พอทำงานเสร็จ เราจะไปหาคุณพัทธ์กัน ขอโทษเขาดีๆอีกครั้ง แล้วก็บอกสิ่งที่คุณบอกผมเมื่อครู่ให้เขาได้ยิน แล้วเขาจะต้องยกโทษให้คุณแน่ๆ”

“แบบนั้นพี่พัทจะไม่โกรธกว่าเดิมหรอฮะ?” ศราวินถามเสียงเบา สีหน้าดูไม่มั่นใจ

“ไม่หรอก ผมว่าคุณพัทเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะรับฟังนะ โดยเฉพาะความรู้สึกของคุณ”

อนิรุทธ์ยิ้มแล้วบอกเช่นนั้นเพื่อสร้างกำลังใจให้เด็กหนุ่ม

และได้แต่นึกภาวนาในใจ ว่าตนเองจะไม่ประเมินอติพัทธ์ผิดไป

-TBC-

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะคะ ยังไงฝากผลงานเรื่องอื่นด้วยนะคะ ^^
ขอฝากผลงานด้วยคนนะคะ  :L2:

 Shade of Season;The Series - When Its Rain เพียงเพราะรัก (กวินท์&รัญชน์) (จบแล้ว)
15ปีแล้วที่รัญชน์จากกรุงเทพมาอยู่ต่างแดนอย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางความเหงาความเดียวดายจากการเป็นเด็กที่ครอบครัวแตกแยก จิตรกรหนุ่มสร้างตัวเองขึ้นมาจากความโดดเดี่ยวจนมีทุกอย่างพร้อมสรรพ ยกเว้นเพียงครอบครัวและความรัก
กับครอบครัวที่แตกแยก..รัญชน์รู้ดีว่าไม่มีทางใดที่จะกลับมาหวนคืนได้อีก เมื่อแม่ของเขาแต่งงานและมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ส่วนพ่อนั้นปิดกั้นตัวเองจนเขารู้ดีว่าไม่มีทางกลับมาเป็นลูกรักของพ่อได้เหมือนเดิมอีก
แต่กับความรัก
รัญชน์เลือกที่จะไม่ผูกพันกับใคร เพราะในใจของเขา มีเด็กผู้ชายที่แสนอบอุ่นคนหนึ่งอิงแอบหัวใจมานาน เด็กผู้ชายใจดีที่ให้ความอบอุ่นกับเขาในวันแสนเศร้าที่ฝนกำลังตก คนที่สอนให้รัญชน์ได้รู้จักกับรสจูบแสนหวานเป็นครั้งแรก
น่าแปลกที่ได้พบกันแค่ครั้งเดียวและเป็นช่วงเวลาที่แสนสั้น กลับตราตรึงหัวใจยาวนานจนกลายเป็นสิ่งที่ทำให้จิตรกรหนุ่มมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้นึกถึง ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับเขาได้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
รัก...
สิบห้าปีแล้วที่รัญชน์ผูกพันหัวใจและความรักอยู่กับเด็กผู้ชายตัวสูงคนนั้น..
รักโดยที่ไม่ได้พบหน้ากัน ไม่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน แต่ต้นรักมันก็เติบโตตามกาลเวลาและจะผลิดอกในวันที่พวกเขาได้มาพบกันอีกครั้ง
นั่นแหละคือความรักของเขา..

 Make Love วุ่นรัก ป่วนใจ (เร็น&ซัทสึกิ)  (จบแล้ว)
มันเป็นความรักหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ แต่ที่รู้ๆ ตั้งแต่ริวซากิ เร็นก้าวเข้ามาในชีวิตของผม ทุกวันของผมมันก็มีเรื่องมากมายเข้ามาให้รำคาญใจ ทว่าทำไม...หัวใจของมันถึงได้เต้นดังขึ้นเรื่อยๆแบบนี้เมื่อนึกถึงผู้ชายคนนั้นกันนะ!?!

 Demon Madden เสน่หา อสูรร้าย(มาร์คัส&ไอเดน) (ยังไม่จบ)
เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น องค์ชายไอเดนผู้งดงามแห่งแคว้นแอเบอร์ดีนกลับตกเป็นเชลยของมาร์คัส กษัตริย์แห่งแคว้นเคียงข้าง สิ่งที่รอคอยไอเดนอยู่นั้นหาใช่กรงขังเพียงอย่างเดียวไม่ แต่กลับเป็นความทุกข์ทรมานเหลือคณาที่มาร์คัสตั้งใจหมายจะมอบให้
"จนกว่าเจ้าจะให้กำเนิดทายาทแห่งเดอวูลฟ์ ข้าถึงจะปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระ"
หนึ่งทายาทแลกกับอิสรภาพ กับการถูกสมสู่จากอสูรร้ายดั่งสัตว์เดรัจฉานคือสิ่งที่ไอเดนต้องทำ!

-----------------------------------------
เพิ่มเติมแก้ไขจุดผิด

เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากฟิคหรือเปล่าค่ะ พี่ยุนโฮมาจากไหนเหรอ??


 “พร้อมที่จะแตกสลายได้ทุกเมื่อไงฮะ...ซันเคยเป็นแบบนั้นก็จริง แต่ตอนนี้ซันโตแล้ว ซันทำใจกับการจากไปของพวกเขาได้แล้ว ซันก็อยากให้พี่ยุนโฮเข้าใจนะฮะว่าไม่ต้องเป็นห่วงซันมากขนาดนั้นแล้วก็ได้ ซันไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ”

เรื่องนี้เราทำสองเวอร์ชั่นค่ะ คือ นิยายไทย กับฟิคเกาหลี (ฟิคเกาหลีใช้ชื่อ Forgive me รัก..ถึงรักนิรันดร์) ค่ะ
ตอนนี้ที่เขียน จริงๆเขียนเป็นเวอร์ชั่นอาจารย์อนิรุทธ์กับน้องซันไปค่ะ แต่พลาดนิดนึงตอนแปลง เราดันแปลงเป็นฟิคเกาหลีผิดไฟล์ดันมาแปลงทับในไฟล์น้องซัน พอแก้ไขแล้วเลยเหลือจุดผิดพลาดน่ะคะ่ ขอบคุณที่แจ้งนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2013 21:58:24 โดย zynestras »

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
มาดันกระทู้  :hao7: และเป็นกำลังใจให้นักเขียนค่ะ  :3123:

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
อ่านแล้วแอบกลังใจคนแต่งหวังว่าคงไม่มีอะไรมาทำร้ายใจคนอ่านอีกนะ

ไหนจะพี่พัทธ์อีก  ไหนจะโจรที่หนีไปอีก(แต่สี่สิบปีแล้วคงตายไปแล้วแหละ)  โจรคงไม่กลับมาเกิดใหม่ด้วยหรอกเนอะ

พี่หมอต้องปกป้องน้องให้ได้จริงๆนะ  อย่าให้น้องเสียใจอีกเพราะอดีตของน้องน่าสงสารมาก  ถึงน้องจะไม่ใช่ตุ๊กตาแก้วแต่แผลในใจมันน่าจะฝังใจ

ห้ามพี่หมอทำร้ายใจน้องเด็ดขาด!(อินจัดเลยฉัน)

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
น้องมีแต่พี่หมอคอยดูแลแล้วนะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
น้องหมอซันมีอาจารย์หมอคอยดูแลแล้ว
หวังว่าพี่พัทคงเข้าใจน้องหมอซัน
และขออย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับทั้งสองคน

อ่านไปลุ้นไปตลอด อ่านแล้วเกร็งจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
นั่นสิ ทำไมโลกนี้ไม่ยุติธรรมปล่อยให้คนชั่วลอยนวล :ling1:
สาธุๆถ้าเจ้าคนชั่วนั้นหนีรอดจากกฎหมายได้ก็ขอให้เจ้าคนชั่วคนนั้นที่ทำร้ายซันในอดีต
ได้รับผลกรรมที่ทรมานเหมือนกับที่ทำกับซันไว้ด้วยเถอะ  :m16:

ซันน่าสงสารมากเลย แต่ความห่วงใยของพี่พัทธที่มากเกินไปมันก็ทำให้ซันรูสึกอึดอัดแล้วก็
ไม่เข้มแข็งซะที รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระให้พี่พัทธต้องคอยกังวล :mew2:

อาจารย์ต้องดูแลซันให้ดีอย่างที่บอกกับพี่พัทธไว้นะคะ อย่าให้เรื่องในอดีตเกิดซ้ำรอยอีกเลย  :monkeysad:

รอตอนต่อไป เป็นกำลังใจให้คุณคนเขียนค่ะ  :กอด1: :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ zizits

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากฟิคหรือเปล่าค่ะ พี่ยุนโฮมาจากไหนเหรอ??


 “พร้อมที่จะแตกสลายได้ทุกเมื่อไงฮะ...ซันเคยเป็นแบบนั้นก็จริง แต่ตอนนี้ซันโตแล้ว ซันทำใจกับการจากไปของพวกเขาได้แล้ว ซันก็อยากให้พี่ยุนโฮเข้าใจนะฮะว่าไม่ต้องเป็นห่วงซันมากขนาดนั้นแล้วก็ได้ ซันไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ”

ระฆัง

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยยยย #ฟินคะ
ได้อ่านน้องซันแล้ว
พาร์ทนี้เหมือนจะดราม่า สงสารน้องซัน
สู้สู้นะคะน้องซัน เอาเหตุผลคุย ยังไงพี่พัทธ์ต้องเข้าใจ  :katai2-1:

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
 อยากให้พี่พัทธ์ เข้าใจ ซันกับอาจารย์หมอ 


ดีใจที่มาต่อคะ


ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
สู้ต่อไปนะซัน!! ยังไงคุณหมอเขาก็อยู่ด้วยอยู่เเล้ว
เดี๋ยวพี่พัทธ์เขาก็เข้าใจเองแหละค่ะ

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
โอยยย ไม่รู้ทำไมแค่อ่านตอนนี้เราเสียวมากอ่ะ
ตอนนี้จิตตกแทนน้องซันไปหมด กลัวซันจะไปเจออะไรไม่ดี
อาจารย์อย่าปล่อยซันไว้คนเดียวเด็ดขาดนะ ไม่เข้าใจทำไมแต่เราเสียวมากจริงๆ
พรุ่งนี้ทั้งคู่รีบไปคืนดีกับพี่ำเค้าล่ะ สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เห็นแววเศร้าโศรกยิ่งกว่าเดิมยังไงไม่รู้แฮะ
น้องดูบอบบางน่ากลัวเกิ้น
ยังไงก็หวานๆ ไปซักพักก่อนนะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หายใจไม่ทัั่วท้องยังไงก็ไม่รู้
สงสารซัน แต่ว่าถ้าเป็นพี่พัทก็เศร้าเหมือนกันนะ
เจอประโยคนั้นเข้าไป

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
กรุ่นกลิ่นดราม่าดีจริงๆเลยนะคะ

:pig4:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
สงสารซัน อาจารย์หมอดูแลซันดีๆนะ

อย่าให้ซ้ำรอยคู่ก่อนเมื่อ 40 ปี


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด