อายุ วันโน สุขัง พลัง เสียงเจริญพรหลังใส่บาตรเรียบร้อยแล้ว ผมสาธุแต่ยังพนมมืออยู่ เงยหน้าสบตากับหลวงพ่อ
“เป็นไงบ้างล่ะ โยมนก”หลวงพ่อถาม
“ถ้าตัวผมก็ยังกังวลเรื่องไอ้หนูอยู่ ถ้าไอ้หนูตอนนี้ทางการเขาก็ติดตามให้อยู่ครับ”ผมตอบท่านตามตรงไม่ได้มีเจตนาจะกวนแต่อย่างใด ท่านพยักหน้าช้าๆ
“ทำใจให้สบาย คิดซะว่ามันเป็นช่วงกรรมของเขา อาตมาตรวจดูชะตาให้แล้วโยมหนูยังไม่ถึงฆาต บอกได้เท่านี้แหละที่เหลือก็ต้องเป็นไปตามกรรมของเขานะ”หลวงพ่อบอกผมทำให้ยิ้มออกมาได้บ้างถึงจะน้อยนิดแต่ก็ทำให้ผมสบายใจ
“ขอบพระคุณครับ หลวงพ่อ”ผมก้มกราบท่านสามครั้ง ท่านยกยิ้มและเดินบิณฑบาตต่อ ผมเก็บของเข้าบ้านเอาน้ำที่กรวดอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับและเจ้ากรรมนายเวรไอ้หนูไปเทรดโคนต้นมะม่วง ไอ้รงค์กับไอ้เล็กไปทำธุระในจังหวัดแต่เช้ามืดเลยไม่ได้อยู่ใส่เป็นเพื่อน หยกก็แวะมาถามข่าวคราวตลอด ผมซึ้งในน้ำใจของเด็กพวกนี้จริงๆ ถ้าไม่เกิดเรื่องป่านนี้ไอ้หนูคงเข้าพิธีวิวาห์ทำลูกทำหลานให้ผมไปแล้ว เฮ้อ
“โฮ่ง โฮ่ง”เสียงทักตัดความคิดฟุ้งซ่านที่กำลังจะแตกตัว
“ไอ้ตะบัน ไงล่ะมึง ไปส่งเด็กแล้วเหรอวะ”ผมลูบหัวไอ้ตะบัน
“หงิง หงิง”มันส่งเสียงเหมือนจะบอกว่า เรียบร้อย
“ดีแล้ว ฟันเขาก็ต้องรับผิดชอบ”ผมเกาคางมันที่เอามาเกยตรงหน้าขา
“คิดถึงไอ้หนูไหม”ผมถามมัน ถ้ามันพูดออกมาผมคงจะวิ่งเป็นแน่แท้
“โฮ่ง โฮ่ง”
“ไม่ต้องเห่าเลยมึง วันที่มีเรื่องเสือกเงียบกริบ โดนขู่เหมือนกูล่ะสิ ฮืม”ผมพูดหยอกมันที่ทำหน้าหงอยปนฉงน ก่อนจะลุกไปขุนข้าวให้มันและพวก ผมเดินไปหลังบ้าน
“มาแล้ว โทษทีนะมาช้า หิวล่ะสิ คุณมงคล”ผมทักเพื่อนใหม่ที่รับมาอยู่บ้านได้สองวันแล้ว เป็นกระบือหนุ่มรูปงามกำยำ ผิวคล้ำ เขาโง้ง ไม่รู้วิ่งมาจากไหน ในตอนแรกชาวบ้านช่วยกันจับไว้ได้ จะสอบถามก็ดูตื่นกลัวและคงฟังภาษาคนไม่ออกแต่รับรู้ได้นะ จนมีคนวิ่งกระหืดกระหอบมาแจ้งความประสงค์ว่าควายของเขาเอง ท่าทางไม่ได้โกหกแต่อย่างใด เกือบจะคืนให้แล้วถ้าไม่ได้ยินว่าจะนำไปโรงฆ่าสัตว์ คุณมงคลในตอนนั้นขืนตัวสุดฤทธิ์ไม่ยอมไป น้ำตาไหล ร้องเสียงดัง ผมเลยเจรจาขอซื้อเอาไว้ เขาไม่ยอมให้ ผมต่อรองตั้งนานให้มากกว่าที่เขาซื้อมาจนสุดท้ายก็ยอมให้ ไม่ใช่คุณมงคลตัวเดียว มีอีกสามตัวผมขอซื้อทั้งหมดเรียบร้อยก็นำไปให้ที่ศูนย์อนุรักษ์ แต่คุณมงคลไม่ยอมอยู่ เดินตามผมมาที่รถ มองหน้ากันไปมาผมเลยเอากลับมาด้วย แววตาซื่อๆเหมือนไอ้หนูไม่มีผิด อีกอย่างผมคิดว่าบุญที่ทำครั้งนี้จะช่วยให้ไอ้หนูปลอดภัย ใครจะว่าผมทำบุญหวังผลก็ได้ ขอแค่ให้ลูกกลับมาหาผมก็พอ
“กินซะ หญ้าออแกนิก ปลอดสารพิษ ช่วยบำรุงสมองและเขาให้เงางาม”ผมส่งหญ้าให้กินและใส่รางไว้ด้วย เติมน้ำใส่ถังให้ ดูจะชอบส่งเสียงตอบรับหายใจฝืดฝาดส่ายเขาไปมา คุยกันสักพักผมก็เดินเข้าสวนเหมือนอย่างทุกวันยกเว้นจิตใจที่ห่อเหี่ยวไม่เต่งตึงเหมือนผลไม้ที่กำลังออกผล คนงานสามสี่คนกำลังเก็บและใส่ปุ๋ย ทักและให้กำลังใจกันเหมือนเคย
“นก ไอ้นก อยู่หรือเปล่าวะ”เสียงโหวกเหวกเรียกที่รั้วหน้าบ้าน
“อยู่โว้ย เข้ามาเลยไอ้บุญ”ผมตะโกนบอกมันหลังออกจากสวนนั่งได้สักพัก เดินไปรับมันที่หน้าบ้านก็เห็นมันมาพร้อมสารวัตร และ หนุ่มหน้าคมอีกหนึ่งคน
“สวัสดีครับสารวัตรคชา”ผมยกมือไหว้
“ครับ ลุงนก ไม่ต้องไหว้ผมนักหนาหรอก เจอออกจะบ่อย”สารวัตรรับไหว้พูดอย่างเป็นกันเอง นี่เป็นนิสัยแกอีกอย่างที่ไม่ถือเนื้อถือตัวใช้ชีวิตง่ายๆแต่ดูแลทั่วถึง ผมยิ้มรับ
“ขึ้นบ้านก่อนครับ”ผมเชิญทุกคนขึ้นบ้าน ก่อนจะเรียกมะยมที่ให้นำน้ำกับผลไม้มารับรองแขก
“ผลไม้สวนลุงนกยังหวานกรอบเหมือนเคย”สารวัตรชมผลไม้ที่ได้ชิม ผมเคยเอาไปฝากแกบ่อยไม่ได้ประจบแต่ให้ด้วยน้ำใจ ตลอดจนเพื่อนบ้าน คนที่มารับจากสวนผมไปขายก็ต่อรองกันได้
“เดี๋ยวขากลับเอาไปกินกันนะครับ”ผมบอกกับทุกคนอย่างนี้เป็นประจำ จนคำว่าเกรงใจไม่ต้องบอกแล้ว เล็กๆน้อยๆ
“วันนี้ผมไม่ได้มากินผลไม้ลุงนกอย่างเดียวหรอก มีเรื่องจะแจ้งเกี่ยวกับลูกชายด้วย”สารวัตรพูดออกมาทำเอาผมยิ้มอย่างดีใจกับสิ่งที่ได้ยิน ไอ้บุญพยักหน้าด้วย
“จริงเหรอครับ ไอ้หนูลูกผมเป็นยังไงบ้าง ช่วยมาได้แล้วใช่ไหม มันอยู่ไหน ผมจะไปรับ”ผมละล่ำละลักถามเสียงตื่นเต้น จับมือสารวัตรเขย่าไปมาอย่างลืมตัว
“เฮ้ย ไอ้นก ใจเย็นๆ เดี๋ยวหัวใจวายตายก่อนเจอไอ้หนูหรอกมึง”ไอ้บุญรีบดึงและบอกให้ผมระงับสติอารมณ์
“กูดีใจนี่หว่า ลูกทั้งคนนะมึง”ผมโวยมันนิดๆตามนิสัย ไอ้บุญส่ายหน้ายิ้มๆ
“เออ จริงสิ สารวัตร เมื่อวานไอ้เนกน้องผมมันบอกว่ามีพวกลักลอบถูกฆ่าตายในป่า จริงเหรอครับ”ผมนึกขึ้นได้เลยถามสารวัตร ตอนไอ้เนกโทรมาบอกผมตกใจมากนึกถึงไอ้หนูขึ้นมาทันที ถึงมันจะบอกว่าไม่พบไอ้หนูปนเปื้อนอยู่ในนั้น มึงก็พูดอย่างกับหลานเป็นสารเคมีหรือฉี่หนู
“นี่แหละที่ผมจะแจ้งลุงนก คือเจ้าหน้าที่แกะรอยและติดตาม พบศพผู้ชายถูกฆ่าตายด้วยอาวุธทั้งมีดและปืนในป่า จากการตรวจสอบประวัติลายนิ้วมือมีคดีติดตัวกันทั้งนั้น เป็นพวกลักลอบเสียดายที่ไม่รู้ว่าใครบงการ ได้แต่เรียกผู้ต้องสงสัยไปสอบอย่างเดียว คนที่ลงมือมีฝีมือดีทีเดียว ยังไม่แน่ใจว่าฆ่ากันเองเพราะขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ หรือว่า ไปเจอผู้ต้องหาที่หลบหนีและต่อสู้กัน แต่ก็ไม่พบ เอ้อ ศพของพวกนั้น บริเวณโดยรอบมีร่องรอยการหนีไปได้ แสดงว่าลูกลุงยังมีชีวิตอยู่แน่นอน เราได้สกัดทางเข้าออกป่าไว้ทุกจุดแล้ว ผมบอกให้ลุงคลายความกังวล ไม่รู้ได้มากแค่ไหน”สารวัตรเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในป่าให้ผมฟังพร้อม ถามตอนท้ายด้วยรอยยิ้มแสดงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ
“ครับ ได้ฟังแค่นี้ผมก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่จะไม่ให้คิดเลยก็คงไม่ได้ ยังไงผมฝากสารวัตรด้วยนะครับ ช่วยเอาลูกผมกลับมาที”ผมรับคำและฝากฝังกับสารวัตร
“มันเป็นหน้าที่ของตำรวจเราอยู่แล้ว ลุงนกไม่ต้องกังวล “สารวัตรยิ้มรับ ก่อนจะนึกขึ้นได้”คุยกันตั้งนานลืมแนะนำให้รู้จักกันเลย ผมขอแนะนำผู้ที่จะมาช่วยเราทำคดีนี้”
“นี่ ร.ต.อ สิบทิศ จากกองปราบปรามในกรุงเทพฯ จะมาช่วยติดตามคดีนี้”สารวัตรแนะนำหนุ่มหน้าคมที่นั่งฟังเงียบๆ มาได้สักพักอายุน่าจะไม่เท่าไรแต่ยศไม่ธรรมดาเลย
“สวัสดีครับ”เขายกมือไหว้ผมที่พิจารณาเขาอยู่
“คะ ครับ สวัสดีครับท่าน ร.ต.อ.สิบทิศ”ผมรับไหว้แทบไม่ทันเส้นตื้นพูดชื่อเขาซะยาว ทำเอาเขายกยิ้ม
“ไอ้นก อีกแล้วนะมึง ตลกไม่หาย”ไอ้บุญคิดว่าผมเล่นมุก
“ห่า กูตกใจจริงๆไม่ได้เล่น”ผมกระทุ้งและกระซิบกับมัน
“อย่าเติมท่านเลยครับ เรียกผม สิบ เฉยๆ ก็ได้ อ้อ ไม่ต้องต่อคำว่าเฉยนะลุง”เขาแนะนำอย่างเป็นกันเองและติดตลกทำให้ผมหายเกร็งหน่อย ดูหน้านิ่งแต่อารมณ์ขันไม่เลวเหมือนกัน
“สิบ มีอะไรจะเพิ่มเติมก็ถามลุงนกแล้วกัน”สารวัตรคชาหันไปบอกเขา
“ผมขอดูรูปลูกลุงอีกครั้งได้ไหม”พ่อหนุ่มหน้าคมหันมาพูดกับผม
“ได้ ได้สิ รอแป๊บนะ ไอ้บุญไปหยิบมาสิ”ผมรีบบอกก่อนจะสั่งไอ้บุญให้ลุกไปหยิบอัลบั้มรูปหรือกรอบรูปก็ได้
“เวร พูดอย่างกับจะไปหยิบเอง”ไอ้บุญบ่นแต่ลุกไปหยิบอย่างรู้ดีว่าอยู่ตรงไหน
“นี่ครับ ไอ้หนูลูกผม”พอรับจากมันผมก็ส่งให้คุณสิบทันที เขารับไปดูและเปรียบเทียบก็ตรงกัน ใช่สิลูกผมหน้าตาแบบนี้มีคนเดียวในโลก ก่อนจะถามเพิ่มเติมผมก็ตอบเต็มที่
“เรากำลังเร่งสืบแหล่งกบดานของหัวหน้ามันอยู่ น่าจะได้ข่าวเร็วๆนี้ ยังไงถ้าออกจากป่ามันต้องไปสมทบกันแน่นอน แล้วลุงได้ยินพวกมันคุยอะไรกันบ้างไหม”คุณสิบบอกข้อมูลเล็กๆน้อยๆให้ทราบและถามกลับ ผมทำท่านึก
“ไม่นะครับ ส่วนใหญ่พวกมันคุยนอกเรื่องกันซะมากกว่า ผมกับลูกถูกจับแยกห้องกันด้วย”ผมตอบตามความจริงแต่ไม่ทั้งหมดใครจะบอกว่าคืนนั้นเมื่อยปากแทบตายต้องเล่าเรื่องขำขันให้มันฟัง อายตายห่า ส่วนไอ้หนูผมไม่รู้มันเมื่อยปากเหมือนผมไหม รู้แค่ตอนเจอหน้ากันดูมันก็ปกติดีไม่ได้ปากเจ่อหรือบั้นท้ายสูญเสียแต่อย่างใด
“ครับ แต่ที่จริงพวกมันคงไม่หลุดปากอยู่แล้ว”คุณสิบรับคำและพูดถึงพวกนั้น ใช่มันไม่หลุดปาก
“นายใหญ่พวกมันจากประวัติ อิทธิพลกว้างมาก กว่าจะจับได้เล่นเอากรมตำรวจปั่นป่วนไปหมด เส้นสายในนอกมีหมด นี่ก็คงวางแผนไว้แล้ว”คุณสิบพูดต่อกับสารวัตรคชา ผมกับไอ้บุญได้แต่นั่งฟังเงียบๆ
“นั่นสิ ผมคิดว่าคนในต้องมีส่วนอยู่แล้ว ไม่งั้นจะรู้ทางหนีทีไล่ได้ยังไง”สารวัตรคชาพูดอย่างเห็นด้วย
“พวกนั้นไม่ได้ทำร้ายอะไรลุงกับลูกมากกว่านี้ใช่ไหม”คุณสิบถามย้ำผมอีกครั้ง
“ครับ เหมือนเพื่อนมาเที่ยวบ้าน แต่ถ้าย้อนได้อย่ามาดีกว่า แหะ แหะ”ผมหัวเราะเจื่อนๆ ทำให้ทุกคนยิ้มตาม
“เดี๋ยวผมขอตรวจบ้านหน่อยนะ เผื่อจะเจอหลักฐานเพิ่มเติม”คุณสิบขออนุญาต
“ตามสบายครับ”ผมตอบรับด้วยความยินดี ก่อนจะคุณสิบจะบอกให้ผมเป็นไกด์ทัวร์บ้านตัวเอง คุณสิบดูเป็นคนหูตาไวมาก ละเอียด ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็หยุดสำรวจ เราอยู่กันใต้ถุนบ้านแล้ว
“แถบไม่ทิ้งอะไรไว้เลย”คุณสิบพูดกับสารวัตรคชา ก่อนจะถอดถุงมือเก็บในกระเป๋าเสื้อ ถ้าไม่บอกว่าเป็นตำรวจผมนึกว่าเป็นคนทั่วไป เพราะเขามาในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ เป้หนึ่งใบ แต่ตรงนั้นตุงๆ ผมหมายถึงบั้นเอวครับ น่าจะเป็นปืน
“ขนาดหนีเข้าป่ายังหลอกลูกน้องผมซะหัวหมุนตามไม่ทันเลย คิดดูเถอะ”สารวัตรพูดสมทบความฉลาดไอ้พวกนั้น พวกเราคุยกันอีกสักพักสารวัตรและคุณสิบก็ขอตัวกลับ
"ไม่ต้องห่วงนะลุงนก ยังไงพวกเราต้องช่วยลูกลุงกลับมาให้ได้”สารวัตรให้ความมั่นใจกับผมอีกครั้ง
“ขอบคุณครับ แค่นี้ผมก็ซึ้งน้ำใจสารวัตรและตำรวจทุกๆนายแล้ว ผมฝากด้วยนะครับ”ผมพูดกับสารวัตรแต่ตามองคุณสิบไปด้วย
“ถ้ามีอะไรคืบหน้า ผมจะแจ้งลุงนกทันทีนะ”สารวัตรบอกก่อนจะเดินไปขึ้นรถ ไอ้บุญเดินไปส่ง เหลือคุณสิบที่ยังยืนอยู่
“ลุงมีอะไรจะถามผมหรือเปล่า”คุณสิบพูดขึ้นมาราวกับรู้ถึงในใจผม ผมอึ้งไปนิดกับคำถามตรงๆ
“เอ้อ มี แต่ไม่รู้ว่าคุณสิบจะบอกได้ไหม”ผมลังเลกลัวถามแล้วไม่ได้คำตอบ
“ผมจะบอกเท่าที่บอกได้ ถามมาเถอะ”คุณสิบพูดเรียบๆแต่น้ำเสียงแฝงความใจดี
“ผมฟังข่าวในทีวี ว่าพวกนั้นเป็นนักโทษคดีอาญา แต่เท่าที่ดูพวกเขาก็ไม่ได้โหดร้ายหรือทำร้ายอะไรผมกับลูก แต่ไม่ได้หมายความผมวางใจหรอกนะ แต่”ผมเกริ่นออกไปก่อน
“ลุงพูดมาตรงๆเถอะ”คุณสิบพยักหน้าให้ผมพูด
“คุณสิบรู้จักพวกที่มาบ้านผมใช่ไหม”ผมตัดสินใจพูดกับคุณสิบตรงๆ
“ผมเป็นตำรวจก่อนทำคดีก็ต้องรู้ประวัติผู้ต้องหาเป็นธรรมดา”คุณสิบยกยิ้มตอบผม
“แต่รู้จักมากกว่าผู้ต้องหาทั่วไป”ผมพูดต่ออีก
“อะไรทำให้ลุงคิดแบบนั้น”คุณสิบถามผมต่อด้วยรอยยิ้ม
“คุณเก็บบางอย่างไป ไม่บอกสารวัตรคชา”ผมชี้ไปในกระเป๋าเสื้อคุณสิบที่อึ้งไปนิด ก่อนจะยิ้มต่อ
“ลุงน่าเป็นตำรวจนะ สันนิษฐานได้เก่งจริงๆ”เขาชมผมไม่ได้ประชด ผมดูออก เขาไม่ใช่คนที่พูดจาไม่มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่หรืออวดเบ่งแต่อย่างใด ผมว่าผมดูคนไม่ผิดถึงจะคุยแค่ชั่วครู่
“ขอโทษนะครับถ้าผมละลาบละล้วงเกินไป”ผมพูดขอโทษเขา
“ไม่หรอกลุง ผมต้องขอบคุณลุงมากกว่าที่ไม่พูดออกมา สารวัตรคชาเขารู้แต่ไม่พูด เขาเป็นรุ่นพี่ผม”คุณสิบอธิบายขยายความต่อในข้อที่ผมสงสัย ไม่น่าจะเป็นการแก้ตัว สรุป ไอ้บุญไม่รู้คนเดียว
“ลูกลุงจะปลอดภัยมีชีวิตรอดกลับมาแน่นอน ผมรับประกัน”เขาพูดให้ผมเชื่อมั่นเหมือนไอ้หนุ่มนั่นไม่มีผิด แต่ก็ยังมีให้กังวลนิดๆในตอนท้ายก่อนเดินไป
“ถ้ายังอยู่กับพวกนี้นะ”
ผมมองคุณสิบที่ขึ้นรถไปแล้วจนลับตา ก่อนจะเดินเข้าบ้าน ที่ผมถามเขาแบบนั้นเพราะก่อนจะไปจากบ้าน ไอ้หนุ่มคนที่อยู่ห้องเดียวกับผมมันลืมเอาไว้ เป็นตะกรุดสวมรอบเอวที่ผู้ชายส่วนใหญ่นิยมห้อยกัน ผมแขวนไว้ตรงข้างที่นอนไม่ได้ส่งให้ตำรวจหรือพูดอะไร คิดว่าคงเป็นของสำคัญของมัน ถ้ามีโอกาสก็จะเอาไปให้ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ตอนนี้คงไม่ต้องแล้วเพราะมีคนเอาไปคืนแทนผมแล้วล่ะ ถ้ายังไงผมฝากเอาลูกกลับมาให้ด้วยนะ
/
/
/
ผมมองของที่เอามาจากบ้านที่พวกนั้นไปหลบซ่อนและจับลูกเจ้าของบ้านไปเป็นตัวประกัน ผมรู้ว่าพวกนั้นพร้อมเด็กหนุ่มนั่นยังไม่ตายแน่นอน อีกแล้วที่ผมปล่อยให้เขาจากไป อีกแล้วที่ผมปกป้องเขาไม่ได้ เมื่อไรผมกับเขาถึงจะได้กลับมาเหมือนเดิม
“พี่สิบ กินข้าวเถอะ”เสียงเรียกปลุกให้ผมออกจากภวังค์ เก็บของในกระเป๋าเสื้อ
“อืม ขอบใจนะ”ผมรับคำและขอบใจนายตำรวจรุ่นน้องที่มาด้วยกัน
“ได้เรื่องไหมพี่”ภูมิถามผมปากก็กินไปด้วย
“นิดหน่อย”ผมตอบสั้นๆ ภูมิไม่ถามได้แต่พยักหน้า มันเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย ไม่เซ้าซี้ ผมถึงเลือกมันมาด้วย ถึงไม่เลือกมันก็เสือกอยากมาด้วยอยู่แล้ว
“ฉันนอนก่อนนะ เหนื่อย หาววววววว”ไอ้ภูมิหลังเก็บล้างเดินมาบอกผมหาวปากกว้าง
“เออ ถอยหน่อยเดี๋ยวจะเขมือบหัวกูเข้าให้”ผมแซวมันที่ยักคิ้วใส่ เดินเข้าห้องนอนที่เป็นบ้านพักตำรวจ ผมส่ายหน้ากับความทะเล้นของมันก่อนจะหยิบบุหรี่มาจุดสูบ
“หนีพี่ไปอีกแล้วนะ ไม่รอกันเลย”ผมรำพึงออกมา ปล่อยใจและควันให้ลอยไปกับอากาศ จนหมดมวนถึงเดินเข้าห้อง ก่อนนอนกราบพระ กราบพ่อแม่ ก่อนจะภาวนาถึงคนที่หนีกันไปก่อนจะล้มตัวลงนอน หยิบของดูต่างหน้ามาวางข้างหมอนหนุน
“ขอให้ปลอดภัย รอพี่ก่อนนะ”
***อีกฟาก***
“เป็นอะไร นอนไม่หลับเหรอมึง”เสียงถามผมที่พลิกตัวไปมาก่อนจะลุกนั่ง
“อืม”ตอบสั้นๆ
“เป็นห่วงไอ้เฮียเหรอ”มันถามอีก
“หรือมึงไม่ห่วง”ย้อนถาม
“ห่วงสิ ไม่รู้มันเป็นไงบ้าง แถมพ่วงไอ้หนูตัวยุ่งไปด้วย หึหึ”มันพยักหน้าก่อนจะพูดต่อขำๆ มือเขี่ยไฟไปมา
“แต่มันก็เอาตัวรอดได้นะโว้ย กูเชื่อว่าพวกมันไม่เป็นอะไรหรอก”บอกมันก่อนจะพิงต้นไม้ แหงนหน้ามองฟ้า มือคลำรอบเอวไปมา ไม่มีก็เหมือนขาดอะไร ก่อนเข้าเรือนจำอุตส่าห์ขอพัศดีเข้าไปด้วย แม่ง ไม่ยอมอีก ดีว่ามีคนขอให้เลยเอาติดตัวไปได้ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ลืมไว้บ้านไอ้หนูซะได้ ป่านนี้ลุงไม่มอบให้ตำรวจไปแล้วเหรอ
“ยังเสียดายอยู่เหรอวะ”มันถามผมเมื่อเห็นเอามือลูบเอวไปมา
“ก็มันติดตัวกูมาตลอด”ผมตอบแต่ไม่ได้มองหน้า กลับมองฟ้าที่คืนนี้มีดาวประปราย
“พ่อแม่มึงให้มาล่ะสิ ถึงได้เสียดาย”มันยังพูดต่อ ล้มตัวนอนแทนผม
“เปล่า”ผมปฏิเสธ
“แฟน”มันทายอีก
“ฮึ”ผมแค่นเสียง หันไปมองหน้ามันที่เลิกคิ้ว
“คนที่กูเกลียดมากที่สุดต่างหากล่ะ”ผมบอกมันก่อนจะแหงนมองฟ้าตามเดิม
“ขอโทษนะที่กูถามมากไปหน่อย”มันขอโทษ
“คิดมาก กูไม่ได้โกรธมึงสักหน่อย นอนเถอะ กูเฝ้าเอง”ผมบอกไอ้คนนอนที่พยักหน้าหงึกหงึก
“ไอ้เบียร์”มันเรียกผมหลังเงียบไปพัก
“หืม”ผมส่งเสียง
“มึงว่าเราจะออกจากป่าได้ไหม”มันถามเหมือนเด็กที่ถูกทิ้งและหลงทาง
“ได้สิ ไอ้หนูมันก็บอกแล้วให้พุ่งไปทิศเหนืออย่างเดียว”ผมบอกมันขำๆ
“เออว่ะ งั้นกูนอนก่อนนะ เหนื่อย”ไอ้รันบอกก่อนจะขยับหัวขึ้นมาหนุนตักผม
“อืม”ผมบอกและเอามือลูบหัวมัน ก่อนจะมองฟ้าตามเดิม ปล่อยใจให้คิดไปเรื่อย ๆ อดีตมันไม่น่าจดจำถ้ามันไม่ใช่ความทรงจำที่ดี แต่สำหรับผมไม่เคยลืมได้สักครั้ง ยิ่งลืมยิ่งจำตอกย้ำทุกอย่างเด่นชัดไม่เคยจางหาย
“ป่านนี้คงจะออกตามแล้วล่ะสิ ต้องเห็นกูตายต่อหน้าต่อตาก่อนใช่ไหมถึงจะสาใจ”
****************************************************************************************************
ปล. ตอนนี้ให้เฮียกับหนูเขาพักกองถ่ายไปก่อน ให้นักแสดงคนอื่นออกโรงบ้าง เริ่มคลี่ออกมาทีละนิด ละนิด ปริบมาหน่อยๆ จะทยอยไหลมาเรื่อยๆ ใจเย็นนะคะ เดี๋ยวก็จะออกจากป่ากันแล้วเพื่อไปสู่ป่าที่ใหญ่กว่านี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณ คุณ SuMoDevil ค่ะที่ช่วยแก้เรื่องยศให้ ลำดับผิด
