>>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )  (อ่าน 1623155 ครั้ง)

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :ling1: เบียร์-สิบ  อะไรกันคะ

เกเร

  • บุคคลทั่วไป
เว้ยๆแล้วมันจะยังไงต่อไปเนี้ยะ :z3:
ถ้ารอดไปได้ไหนจะเรื่องคดีอีก
ทั้ง เฮีย หนู
ทั้ง สิบ เบียร์ -*- :ling1: :ling1:
มาเร็วๆนะครับคนแต่ง รออ่านใจจะขาดแล้ว :katai1:
 :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
สิบกะเบียร์เอ๊ะยังไง??

ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
คุณพ่อจะฮาไปไหน.....

SuMoDevil

  • บุคคลทั่วไป
พ.ต.อ.นี่มันใหญ่กว่าสารวัตรอีกนะจ๊ะคนเขียนที่รัก
ถ้าบอกว่าสิบยังหนุ่มและเป็นรุ่นน้องสารวัตรคชา งั้นสิบก็ต้องเป็น ร.ต.อ. มากกว่านะจ๊ะ o13

โอ้ยยย อยากอ่านคู่ผู้กองสิบ VS ผู้ร้ายเบียร์ ต่ออีกจังเลยคร้าบบบบ อิอิอิ
:impress2:

ออฟไลน์ CheeTah

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ชอบหนูตอนเด็กมากๆเรยย ทั้งน่รัก ทั้งกวน แอบฉลาดเล็กๆ 5555

มีอีกคู่แล้ว เย่ๆ สิบกับเบียร์ ใช่มั้ยย เค้านึกว่ารันจะคู่กับสิบซะอีก ><  แล้วพวกเฮียเขาโดนข้อหาอะไรกัน อยากรู้ๆๆ


ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
 :mew6:คู่ใหม่ได้กำเนิดขึ้น  :hao

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เบียร์หนีสิบมา ?

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
มีอีกคู่ใช่มั๊ยเนี่ย  :z2:
ยังคงฮาและเกรียน :laugh:

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
พืชมงคล  คิดได้ไงอ่ะหนู  555

สิบทิศกับเบียร์นี่ยังไงอ่ะ  อยากรู้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
สงสารพ่อนก
คิดถึงน้องฝิ่น(อันนี้ไม่เกี่ยวละ)

buff89

  • บุคคลทั่วไป
เบียร์กับคุณร้อยเอกเหรอเนี่ย อิอิ

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
 :hao7: อยากอ่านต่อแล้วครับ  :katai5:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ฮามากกกกกกกกก เหมือนนั่งดูพี่มากขาาาาาาาาาาาา น้องเบียร์ ใช่คนที่หน้าตาลูกครึ่งชิมิ มีกิ๊กเป็นคุณสิบล่ะ โอ้แล้วตี๋รันจะมีคู่มั๊ยนะ

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
อยากรู้ รอตอนต่อไป :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
โอะๆๆ ร.ต.อ. สิบ กับเบียร์  ลุงนกยังสกิลตลกไม่ตก






รอไอ้หนูกลับบ้าน

ออฟไลน์ whitefang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ สนุกมากกก ลุ้นๆด้วย
การค่อยๆเเย้มอะไรออกมาทีละนิดเเบบนี้มันชวนให้ติดตามจริงๆ o13

ออฟไลน์ Netimefii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ร.ต.อ. สิบ กับ เบียร์ คู่นี้จะรักดรามามั้ย??
เห้อออ คิดถึงอาจารย์สิปปะ กับน้องมันตา ♥ #คนละเรื่องอ่อ 5555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พระ-นายเขาพักกองให้พ่อนกมาแทน แบบขำมากอ่ะโดยเฉพาะพูดสำนวนลิเกใส่กันอ่ะ แต่คุณตำรวจสิบทิศกับเบียร์นี่ต้องมีซัมติงกันแน่ๆ

Ayla

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
เรื่องมันซับซ้อนนะเนี่ย

พวกตำรวจกับคุณเฮียไปทำไรไว้กันน้า

ออฟไลน์ phakajira

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0

ออฟไลน์ greensoda

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
แลดูเป็นเรื่องรักต้องห้ามม
นักโทษกับตัวประกันน  :z1:
ลุ้นทั้งเรื่องจริงง   :z2:

พี่สิบกับน้องเบียร์นี่ยังไง
ต้องมีซัมติงแน่ๆ  :hao6:

ออฟไลน์ MaEwA

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 o13ฮาาาาาาาาาาาามากกก และสนุกมากกกกกหนุมันเกรียนนนนนจิงๆ อ่านแล้วต้องแอบหัวเรา
เะร่ะอยุ่ในที่สาธารณ ไม่ได้อ่านเฮียหนุ คิดถึงแล้วแหะ คนเขียนกลับเข้าป่าได้แล้วค่ะ
คิดถึงคุ่นั้น

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
เบื้องหลังของคุณสิบกะเบียร์ ท่าทีจะเจ็บพอควร :mew6:
 

น้องหนูเกรียนมาแต่น้อยเลยนะ



 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
“ฮ่าๆๆ ฮึก ไอ้หนู พ่อคิดถึงเอ็งจังเลย รีบกลับมาหาพ่อนะ พ่อจะรอ”ผมหัวเราะพร้อมน้ำตาที่ไหลเพราะความคิดถึงลูก เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีตที่ลูกทำวีรกรรมแสบสันต์พอนึกย้อนไปทีไรก็ขำทุกที

อ่านถึงตรงนี้แล้วน้ำตาไหล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2013 17:38:16 โดย QueenPedGabGab »

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
ฮะ ๆ  ขำพ่อนกตอนคิดอดีตของน้องหนูมาก ฮากันทั้งบ้านจริง ๆ ตอนแรกคิดว่าหนูเจ้าเล่ห์จะหลอกเอาของขวัญพ่อนกซะอีกที่ไหนได้น้องหนูคิดว่าเลขตัวเดียวกับลำดับเค้านับกันแบบนั้นจริง ๆ เหรอเนี่ย ฮะ ๆ  :laugh: พ่อนกใจดีมาก ๆ เลยที่ช่วยชีวิตพวกเจ้ามงคลเอาไว้ ผลบุญต้องส่งผลให้น้องหนูปลอดภัยแน่ ๆ จ้ะ   ว่าแต่พ่อนกนี่ถอดจิตตามน้องหนูได้รึเปล่าเนี่ย ทำไมฝันเหมือนไปอยู่กับน้องหนูจริง ๆ เลยอ่ะ

เปิดตัวละครใหม่หนุ่มหล่อสิบทิศ โอ้ แฟนน้องเบียร์เหรอเนี่ย  จะบอกว่าเราคิดว่าเบียร์เป็นเมะมาตลอดเลยนะเนี่ย คิดกระทั่งว่าจะมาเป็นพระรองแอบชอบน้องหนูซะอีกอ่ะ ผิดคาดมั่ก ๆ ค่ะ  แต่น่าสนใจมากตำรวจกับผู้ร้ายจะลงเอยกันได้ยังไงน้อ  :hao4: ทีนี้ก็เหลือน้องรันสิน้าจะมีคู่กับใครเค้ามั้ยละเนี่ย รอลุ้น ๆ นะจ้ะ  :hao3:
ตอนหน้าอาเฮียกับน้องหนูพักเหนื่อยเสร็จแล้วรีบมาเข้าฉากน้า คิดถึงจะแย่อยู่แล้วอ่ะ   :mew2:
ให้คุณคนแต่งจ้า   :3123: :L2:



ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
คุณสิบกับเบียร์เป็นอะไรกัน
คนหนึ่งคิดว่าเป็นคนที่เกรียจกับอีกคนคิดว่าเป็นคนรักหรือเปล่า

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
>>ป.9<<

“มึงแน่ใจเหรอว่าจะเดินทางต่อ”ผมถามไอ้เฮียที่คราวนี้มันเป็นคนเจ็บบ้าง

“อืม”ตอบสั้นๆ ทั้งที่กูถามมึงอย่างเป็นห่วง เอ้ย อย่างยาว ตอบรับความปรารถนาดีกูแค่เนี้ยะ ตอนกูเจ็บป่วยมึงยังรอให้กูหายดีก่อนเลย ไม่ได้ห่วงมึงนะกูไม่แค่ไม่อยากเอาเปรียบ จะได้หายกันไม่ติดค้าง

“พักอีกหน่อยก็ได้ กูไม่รีบ”ผมบอกมันก่อนจะผูกผ้าพันแผลเสร็จพอดี

“เรื่องของมึง แต่กูรีบ”มันไม่สนใจผมสนแต่ตัวมัน
 
“ถ้ามึงรีบ แล้วแวะบ้านกูทำไม”ผมย้อนถามมันอย่างหาเรื่อง กูตันคำพูดเลยขุดเรื่องเก่ามาคุยซะ

“มึงอย่าหาเรื่องกูว่ะ เถียงไม่ได้ก็หุบปากซะมั่ง”นั่น รู้ทันกูอีก พูดอย่างกับมึงเป็นผัวที่หนีเที่ยวและกูเป็นเมียจับได้ก็แถไปเรื่องอื่น เฮ้ย ทำไมกูต้องเอาเหตุการณ์นี้ไปเปรียบเทียบปัญหาผัวเมียตีกันด้วยวะ

“งั้นมึงกับกูก็แยกทางกันตรงนี้ เดินตรงไปอีกประมาณห้ากิโลก็ถึงถนนใหญ่แล้ว”ผมลุกปัดก้นหลังบอกมันเสร็จ

“มึงต้องไปด้วย”มันดึงแขนผมให้หันกลับมา

“อะไรอีกวะ ไหนมึงบอกว่าจะปล่อยกูไง”ผมบิดมือมันแต่ไม่หลุด มือแม่งยังกับกาวตราตะกวดผสมปลิง

“กูบอกว่าจะปล่อย ก็ต่อเมื่อถึงที่หมาย และมันถึงหรือยัง”มันพูดใส่ผมหน้านิ่งๆ แต่มีสีเลือดต่างจากเมื่อวานที่ซีดเหมือนตีนเปียกน้ำ ฮ่าๆๆๆๆ ผิดคาดล่ะสินึกว่าผมจะเปรียบเป็นไก่ต้ม มันธรรมดาไปครับสำหรับหน้ามัน

“อีกนิดเดียวมึงก็ไปสิ หายแล้วไม่ใช่เหรอ แข็งแรงแล้วนี่ จะเอากูไปด้วยทำไมล่ะ”ผมพูดใส่หน้ามันที่ยังนิ่ง ก่อนจะยกยิ้มมุมปากทำให้หน้ามันดูดีขึ้น

“ยิ้มทำหอกอะไร กูพูดอะไรผิด”ผมเลิกคิ้วใส่มันที่ยังไม่เลิกอมยิ้ม

“เปล่า”มันยักไหล่แต่ยังไม่ปล่อยแขนผม

“มึงจะเปล่าได้ไง กูเห็นมึงอมยิ้ม หรือมึงอมตีน อุ๊บ”ผมหลุดปากเถียงมันก่อนจะอุดปากไม่ทันเมื่อรู้ว่าบริจาคหมาออกจากปากอีกแล้ว เกิดมันโมโหฆ่ากูขึ้นมาทีนี้ตายอยู่ตรงนี้ไม่ต้องไปไหนกว่าพ่อจะเจอและนิมนต์พระมาเรียกกูกลับคงอีกนาน

“เดี๋ยวจะให้มึงอมแทนถ้ายังสงสัยไม่เลิกว่ากูยิ้มทำไม”มันกระตุกยิ้มพูดใส่ผม

“มึงตอบกูก็จบแล้ว ความผิดมึงนั่นแหละ หาเรื่องให้กูปากเสีย”เรื่องอะไรกูจะยอม ถึงกูเรียนไม่เก่งแต่โต้วาทีไม่เป็นทางการกูชนะขาด

“มึงอยากรู้ไปทำไม”มันย้อนถามผมเอามือเสยผมที่ไม่ค่อยจะมี แต่ไปขึ้นรอบๆปากแทน ส่งให้หน้ามันดูดำขึ้นไปอีก ฝันไปเถอะว่ากูจะชมว่าหล่อเข้ม ไม่มีทางได้ยินจากปากและความคิดกูหรอกโว้ย หึหึ

“กูไม่อยากรู้แล้ว ปากมึง จะยิ้ม จะอม จะดูด อะไรก็เรื่องของมึง และปล่อยแขนกูสักที กูเมื่อยแล้ว”ผมเหน็บมันเพื่อให้ปล่อยแขนผมสักที มึงไม่เมื่อยหรือไงบีบอยู่ได้ มันขมวดคิ้ว งงสิมึง สมน้ำหน้า

“กูไม่เมื่อย”มันบอกหน้าตาเฉย และพูดต่อเมื่อเห็นผมอ้าปาก มันกลัวไม่มีโอกาส

“ที่กูยิ้มเพราะไม่คิดว่ามึงจะงอนที่กูไม่พักเลยขอแยกทางกับกูซะ”ทำเอาผมอ้าปากหวอกว่าเดิม กว่าจะตั้งสติได้ไอ้เฮียก็อมยิ้มมากกว่าเดิมในความคิดผม ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาหลายวันยังไม่เคยเห็นมันยิ้มมาก่อน ไม่รู้ตลกอะไร

“ตะ ตีนเหอะ งอนบ้านมึงสิ ห่วงมึงเรื่องอะไร กู คะ คิดว่าในเมื่อมึงหายดีแล้วก็ไปซะ ละ แล้วปล่อยกูเพราะยังไงก็หมดประโยชน์แล้ว มึงก็ไปนั่งรอไอ้สองตัวนั้นเองแล้วกัน กูไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย มึงอย่ามั่ว คิดเองเออเอง จวยยยยย”ผมเถียงมันติดๆขัดๆ เมื่อได้ฟังเหตุผลการยิ้มของมัน ถ้ารู้ว่ามึงจะตอบรู้ทันที่กูพูดประชดมึง กูไม่เซ้าซี้ถามหรอก สันดาน

“ไม่ใช่เหรอ”มันยื่นหน้ามาถามใกล้ๆ

“เออ มึงเป็นเมียกูหรือไง กูถึงจะต้องงอนและประชดประชันมึง”ปัญญาอ่อนมากที่พูดแบบนี้กับมัน

“กูไม่เคยคิดจะเป็นเมียมึง หรือว่าเมียใคร แต่ถ้า อุก”มันหรี่ตาพูดใส่แต่ก่อนจะจบ ผมเอามือปิดปากมัน และกระทืบหลังตีนมันทีเผลอ

“มึงไม่ต้องแต่ กูเลิกสงสัยแล้ว จบเรื่องนี้ สรุปกูไปต่อ โอเค จบ”ผมรีบพูดรีบพยักหน้าให้มันตกลง

“นั่นไง มึงกระพริบตาสองครั้งเป็นอันจบเรื่อง”ผมสรุปกับตาที่กระพริบสองทีของมันและปล่อย เดินไปเก็บของที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากกระเป๋าผ้าสะพาย ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แต่ก็ยังมีเสียงทุ้มแฝงกับความเงียบให้ได้ยิน

“กูแค่ดีใจ ที่ยังมีคนรู้สึกห่วง ทั้งที่สถานะตัวเองในตอนนี้ไม่น่าจะได้รับจากใคร โดยเฉพาะมึง ที่กูพามาลำบากและเกือบตาย”เหมือนจะตัดพ้อก็ไม่เชิง ว่าแต่มันผมก็คิดเองเออเองเหมือนกัน

“ขอโทษ”ไม่รู้เรื่องอะไรบ้าง

“ช่างเถอะ”ผมตอบรวบยอดทุกเรื่อง

“ขอบใจ”สั้นๆเหมือนตอนที่ผมพูดกับมัน

“อืม”และผมก็คัดลอกคำตอบมัน

“ใส่ซะ จะได้ไม่เจ็บตีน”มันหยิบรองเท้ามาวางให้ผมที่ยังยืนหันหลังอยู่ รองเท้าที่แทบจะไม่เหลือสภาพแต่ก็ยังพอใส่ได้ ผมเหลือบตามองและชำเลืองไปที่ตีนแตกระแหง มีรอยแผลเล็กๆเต็มไปหมด คงจะสากไม่ใช่น้อยถ้ามันยกมาสัมผัสที่หน้าหรือปากผมเข้าให้โทษฐานหน้าตาดีแต่ปากเสียในบางครั้ง ดูๆไปไอ้ที่เรียกว่าสากที่ใช้กับครกบ้านกูยังผิวเรียบลื่นกว่านี้อีก ผมก้มไปหยิบและเหวี่ยงไปตรงพุ่มไม้

“กูไม่ใส่”ผมบอกมัน ก่อนมันจะหลุบตาคม และหันหลังแต่ประโยคที่ผมพูดต่อทำเอามันชะงัก

“หนังตีนคนเหมือนกัน มึงเจ็บกูก็เจ็บ มึงไม่เจ็บกูก็ต้องไม่เจ็บ”มันคงคิดว่าผมปฏิเสธความหวังดีของมัน ถ้าผมมองไม่ผิดแววตามันดูสลดหน้ามันเจื่อนนิดๆตอนผมเหวี่ยงไป แต่ผมไม่พูดหรอกเดี๋ยวมันพูดรู้ทันให้ได้อายออกมาอีก ได้ยินเสียงมันหัวเราะในลำคอพร้อมส่ายหัวก่อนที่เราจะเดินทางกันต่อ เพื่อที่จะให้ถึงจุดหมายและแยกย้ายกันสักทีถ้าไม่มีอุปสรรคอะไรมาขัดขวาง ผมจะไม่บนอีกแล้วกลัวมีมันเอี่ยวมาด้วยต้องเสียเวลาอยู่แก้บนกับมันอีกถ้ารอดไปได้ ปล่อยให้เป็นไปตามลิขิตของเบื้องบนแล้วกัน

/
/
/

“พักก่อนได้ไหม”ผมบอกมันไม่รอให้อนุญาต ลงไปกองทันที อากาศก็ดี ทางก็เรียบง่าย เดินสะดวกกว่าทุกวันแต่ทำไมเหมือนมันลำบากและห่างไกลชอบกลทั้งที่เหลืออีกไม่กี่กิโล สงสัยเราเดินเรื่อยเปื่อยชมนกชมไม้อยู่มั้งเลยดูนาน ถ้ามารถยนต์หรือรถประจำทางใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงก็บรรลุอีกจังหวัดแล้วแต่นี่เดินป่าก็เลยไกล เงยหน้าไปเห็นมันขมวดคิ้วมองแต่ไม่พูดอะไร คงแปลกใจที่ผมหยุดพักเกือบตลอดทาง ที่ผ่านมาเดินนานกว่านี้ผมไม่เคยปริปากมีแต่มันที่สั่งให้พัก

“เหนื่อยเหรอ”มันมานั่งไม่ไกลนัก ตามองไปรอบๆก่อนจะหันมามองผมส่งน้ำให้ ผมรับไปดื่มส่งกลับ ไม่ว่าจะอะไรที่กินได้มันจะให้ผมกินก่อนทุกครั้งไม่รู้ว่าเสียสละหรือให้กูเป็นหนูลองยาก่อนก็ไม่รู้ ผมมองมันแง่ร้ายไปงั้นเองถ้ากินแล้วตายมันก็ต้องตายด้วยอยู่ดีเพราะมันกินต่อจากผมไม่ถึงเสี้ยวนาที

“อืม”ผมตอบมันก่อนจะก้มหน้ากอดเข่า ก่อนจะสะดุ้งนิดๆเมื่อมีสัมผัสอุ่นปนสากลูบที่เท้า

“เจ็บตีนหรือเปล่า”มันถามเอาน้ำราดช้าๆ

“อูย”ผมร้องออกมาแต่ไม่ดัง แสบนิดๆ ยังไงตีนผมก็ไม่เก่งเท่าตีนมันทั้งที่คราวก่อนหนีไอ้พวกนั้นช้ำยิ่งกว่านี้อีก

“กูบอกให้ใส่ร้องเท้า ก็ไม่เชื่อ”มันพึมพำ เอามือปัดเศษออกให้ ก่อนจะยกทั้งขาไปพาดหน้าขามันบีบเบาๆพอผ่อนคลาย ผมจะชักกลับก็กลัวมันจะเสียน้ำใจ เลยพาดไปอีกข้างไม่ให้น้อยหน้ากัน มันเหร่มองบีบต่อ

“จะถึงแล้ว”ผมพูดลอยๆ

“มีรถวิ่งผ่านไหม”มันถามมือก็บีบไปด้วย เพลินดีโว้ย

“มีถนนก็ต้องมีรถสิวะ ถามแปลกๆ”ผมตอบตรงๆไม่ได้คิดจะกวนมันแต่อย่างใด ไม่สาบานแต่เชื่อผมเถอะ

“กูรู้ หมายถึงมีรถวิ่งพลุกพล่านหรือเปล่า หรือนานๆครั้ง”มันไม่ได้ว่าแต่ขยายความให้ฟัง

“ถ้ารถส่วนตัวก็เยอะอยู่ ตามติดด้วยสิบล้อ รถบัสแบบ ประถม 1 ประถม 2 ก็ตกสองชั่วโมงคันแล้วแต่บางวันนะ”ผมก็ขยายการวิ่งรถให้มันฟังบ้าง ต่างจังหวัดก็อย่างนี้แหละ นานๆรถจะมาที

“ไอ้ประถม รถนักเรียนเหรอวะ”มันสงสัยไอ้รถคันหลังที่ผมเอ่ย

“ฮ่าๆๆๆ บ้าเหรอ มึงคิดได้ไงวะว่ารถนักเรียน ครึครึ”ผมหัวเราะกับสิ่งที่มันถาม หน้าเคร่งขรึมแต่ถามติงต๊องฉิบหาย หรือกู
พูดให้มันเข้าใจอย่างนั้นวะ

“ก็มึงเรียกประถม”มันยกขาผมลงไปวางกับพื้นตามเดิม

“ทำงอนไม่บีบต่อ โธ่เอ้ย กูเฉลยให้ฟังก็ได้“ผมพูดกลั้วขำใส่มัน

“มึงเป็นเมียกูหรือไง กูถึงจะต้องงอนให้มึงง้อ”หุบขำเลยกู เจอย้อนศร อีกแล้ว มึงยกยิ้มอีกแล้ว

“สัด กูไม่ได้ง้อ อย่าเสือกถามกูอีกล่ะ”ผมด่ามันก่อนจะหันหนีหน้าไปอีกทาง แค่หันเฉยๆนะครับไม่ต้องนึกภาพว่าผมสะบัดหน้าแบบเมียงอนผัว

“งอนไม่เข้าเรื่อง”ได้ยินเสียงมันพูดต่อ

“กูไม่ได้งอน เฮ้ย กูว่าเราเลิกใช้คำว่า งอน เถอะว่ะ สงวนให้ผู้หญิงประเภทหนึ่งสองสามเขาใช้กันไปเถอะ”ผมหันไปพูดใส่มันสีหน้าเอาเรื่องแต่ไม่น่ากลัวเท่าหน้ามันที่มองเฉยๆก็ขนลุกได้

“เออๆ แล้วมันรถอะไรวะ”มันพยักหน้ายอมๆ ผมยกยิ้ม ในที่สุดมึงก็ง้อจะเอาคำตอบกูจนได้ หึหึ

“มึงเคยเห็นรถประจำทางที่เขาเขียนข้างรถว่า ป.1 และ ป.2 ป่ะ”ผมยังไม่ตอบแต่ย้อนถามมัน

“เคย เขาเรียกรถปรับอากาศไม่ใช่เหรอ”มันยอมรับและเฉลยซะเอง ผมได้โอกาสอยากจะเล่าต่ออยู่แล้ว เข้าทางกูเลย

“นั่นแหละ แต่ก่อนกูไม่รู้ไง พ่อเขาพากูไปขึ้น จำไม่ได้ว่าไปไหน กูก็ไม่ยอมขึ้น จนพ่อกูถามว่าเป็นอะไรไม่ขึ้น กูก็บอกเขาไปว่า หนูขึ้นไม่ได้ หนูอยู่ ป.สี่ จะขึ้นได้ยังไง มันให้ขึ้นแค่ ป.1 กับ ป.2 กูก็ชี้ให้พ่อดูไปด้วยไม่ว่าคันไหนๆทั้ง บขส. มันเขียนอยู่สองชั้น คนที่ได้ยินหัวเราะกันใหญ่ แต่ยังไม่เท่าพ่อกูที่ขำหน้าดำหน้าแดงกับความซื่อของลูกตัวเอง”ผมเล่าให้มันฟังตอนสมัยเด็กๆที่พ่อไป บขส. แล้วเห็นอย่างที่เล่าก็เข้าใจอักษรย่อผิด หลังหัวเราะลูกจนพอใจพ่อก็อธิบายให้ฟัง ผมก็โวยอีกทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกหลงปล่อยหนูไปหลายตัว พูดแล้วก็คิดถึงพ่อเหลือเกินป่านนี้คงหงอยเหงาเพราะไม่มีใครต่อปากต่อคำตามประสาพ่อลูกกัน รอหนูนะพ่ออีกนิดเดียวจะได้กลับไปหาพ่อแล้ว

“กูไม่ได้โง่นะโว้ย ครูสอนมาแบบนั้นนี่หว่า มึงเคยเรียนใช่ไหม อักษรย่อน่ะ”ผมแย้งทันทีที่เห็นมันเหมือนจะขำ ตาคมก็มองราวกับว่า ไอ้นี่โง่ฉิบหาย เรียนที่ไหนกูจะไม่ส่งลูกส่งหลานไปเรียนที่เดียวกับมันเป็นเด็ดขาด

“มึงเรียนจบ ป.6 ไหม”มันไม่ได้ว่าอะไรถามผมต่อ

“ม.3 ล่ะ”มันถามอีก

“จบสิ”ผมตอบหงุดหงิดเล็กๆ

“ต่อ ม.6 หรือเปล่า”ชักเริ่มรำคาญมันแหละ มีปัญหาอะไรกับการศึกษากูมากไปหรือเปล่า

“มึงไม่ถามเลยทีเดียววะ ว่ากูจบขั้นเทพชั้นไหน แม่ง ขยักขย่อนเป็นขี้ติดริดสีดวงอยู่นั่นแหละ สูงสุดกูจบระดับมหาวิทยาลัยโว้ย”ตอบมันซะทีเดียวจะได้ไม่ถามอีก มันกลั้นหัวเราะกระตุกยิ้มเฉยๆ

“ไม่น่าเชื่อ เด็กที่ฉลาดน้อยโตขึ้นมาจะฉลาดมากจนเรียนจบมหาวิทยาลัย”มันพูดกำกวมชอบกล เหมือนจะชมแต่ก็แฝงเหน็บแนมเล็กๆ เพียงแต่มันใช้คำที่ฟังดูดีกว่า ผมไม่พูดหรอกว่าแทนคำไหนเพราะผมไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย

“มันก็เหมือนที่เขาบอกว่า เด็กที่ขี้เหร่โตขึ้นจะหน้าตาดี กูก็พัฒนามาตามนั้นเป๊ะ หึหึหึ”ผมยักไหล่ตอบมันที่ส่ายหน้าทำหน้าเนือยๆเอือมๆ อะไร พ่อกูยังไม่เคยทำหน้าแบบนี้เลย มึงอยู่กับกูไม่กี่วันทำได้ไง

“สรุปมึงแยกแยะอักษรย่อได้ตอนไหน”มันยังมีปัญหากับความฉลาดของผมอยู่

“น่าจะตอนที่อ่านหนังสือบันเทิง คอลัมน์ซุบซิบอักษรย่อ ดารา นี่แหละมั้ง ครึครึ”ผมพูดขำๆ ทั้งที่ไม่ค่อยชอบอ่านหรอกซื้อยังไม่ซื้อเลยแต่เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มสมัยเรียนมันชอบ ก่อนจะพูดต่อเมื่อมันพยักหน้าเฉยๆ

“ไม่รู้ว่ะ กูไม่เคยแยกแยะการใช้สักที พอผิดก็มีคนบอกให้รู้ตลอด กูก็จำนำไปใช้  ถามว่าอายไหม ก็มีบ้างเป็นธรรมดา แต่กูไม่รู้จริงๆนี่หว่า ก็ยังดีกว่าโง่อวดฉลาดให้เขาหัวเราะเยาะนะมึง”ผมพูดกลั้วหัวเราะตอนท้ายๆกับความคิดแบบปลอบใจตัวเอง

“ก็ดีที่คิดแบบนี้ มึงเป็นคนมองโลกในแง่ดี ดีมาก บางครั้งดีจนน่าเป็นห่วง”มันไม่ได้พูดอะไรที่ส่อว่าเหน็บผมอีก สีหน้ามันดูจริงจังในตอนประโยคท้ายที่พูดเรียบแต่เบา ผมหันไปมองหน้ามันหลุบตาลง

“ก็คิดแบบนั้นมันสบายใจนี่หว่า”ผมตอบมันด้วยเสียงเดียวกัน

“หายเหนื่อยยัง”หลังจากเงียบกันไปอีกมันก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากออกมา

“อืม”ผมลุกขึ้นเตรียมจะเดิน มันจับข้อมือไว้

“ขี่หลังกูดีกว่า มึงจะได้ไม่เจ็บตีน”มันบอกผม

“แล้วมึงเจ็บไหม”ผมย้อนถามมัน ไม่จบสักทีเรื่องส้นตีนๆ

“เจ็บ แต่กูทนได้”มันยอมรับและมีแต่ต่อท้ายตลอด

“กูก็ทนได้ ลูกผู้ชายเหมือนกัน หนังตีนคนเหมือนกัน”ผมบอกมันก่อนจะบิดข้อมือออกและเดินนำ ยังไม่ถึงไหน

“ว๊าคคคคคคคคคคคคคคค”เสียงผมเองร้องออกมาเมื่อสะดุดหินหน้าถลาอย่างแรงแถมเป็นทางลาดชันถ้าไม่สังเกตจะไม่รู้เลยว่าเป็นเนิน ประกอบกับฝนตกด้วยเลยทำให้หญ้าชื้นและลื่นได้ โธ่ กูก่อนกลิ้งยังเท่ห์อยู่เลย แล้วกูจะลงท่าไหนดีวะให้สมกับความเป็นชายที่ประกาศเอาไว้

“หนู”เสียงมันเรียกและพุ่งเข้ามารวบตัวผมและกลิ้งอย่างสวยงามเป็นตุ๊กตามหาเสน่ห์ผูกติดกัน ปึก เสียงกระทบสุดท้ายของการกลิ้งผมไม่รู้สึกเจ็บแต่รู้สึกนิ่มที่ปาก ค่อยๆหรี่ตาขึ้นมองก่อนจะเบิกเมื่อปากผมประกบปากมันอยู่ ตัวก็ทับร่างสูงใหญ่ ที่หลังถูกโอบด้วยแขนแกร่ง ช่างเหมือนกับฉากพระนางละครคลองชลประทานสันเขื่อน มิน่ากูถึงไม่เจ็บเพราะได้เบาะรองพร้อมเข็มขัดนิรภัยรองรับอย่างดีแถมชนปุ๊บถุงลมก็พองประคองปากกันกระแทกทันทีทุกอย่างลงตัวราวกับจัดฉาก ห้วงเวลานับจากนี้พระเอกนางเอกมองตากันอย่างซาบซึ้งในความเสียสละที่พระเอกมีให้โดยการเอาตัวรับความเจ็บไว้ซะเองทั้งที่มันเป็นความซุ่มซ่ามหรืออ่อยของนางเอกก็ไม่ทราบได้ รู้แต่เสียงหัวใจเต้นตึกตักและลมหายใจที่เป่ารดกัน ปากก็ยังไม่ได้เอาออก ใช่มันคือบทบรรยายในนิยายชายหญิง แต่ฉากล่อแหลมที่ผมกับไอ้เฮียกำลังสวมบทบาทมันคงมีในนิยายหรือหนังเกย์เท่านั้นที่ตัวเอกเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่กูไม่ใช่ ก่อนที่สำนึกเรียกร้องให้เอาท้องแยกจากมัน เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง นั่นไงระฆังจากฟากฟ้าผ่าลงมาแล้ว

“อ๊าคคคคคคคคค อย่าเพิ่งผ่า ลูกหนูยังไม่ได้ทำอะไรกันเลย”กลัวซะจนบอกชื่อตัวเองแทนลูกช้างเลยกู ตัวจากที่ทาบแนวราบตอนนี้อยู่ในท่าคุดคู้บนตัวมันแล้ว ผมร้องและกอดรัดเบาะนิรภัยส่วนตัวอย่างแรง แม่งก็กอดกูแน่นจริงๆ กลัวเหมือนกันล่ะสิ

“มึงได้ยินไหม ฟ้าดินจะลงโทษกูกับมึงอยู่แล้ว ไอ้เฮีย ไอ้เชี่ย ปล่อยกูสักที”ผมเตือนสติมันทั้งที่หน้าซุกอกมันไม่ยอมปล่อย ทำไงได้ล่ะก็มันกอดผมแน่นซะหลุดไม่ได้

“กูได้ยิน แต่กูจุกอยู่ จะลุกมึงเสือกกระแทกซ้ำลงมาอีก มึงแหกตาดูด้วยว่าใครสมควรจะโดนปล่อย อูย”มันตอบผมด้วยเสียงกระซิบปนซี๊ดซ๊าดไม่ใช่เสียวซ่านแต่มันจุกจริงๆเพราะเข่าผมคงกระแทก เอ้อ ผมไม่แน่ใจว่าโดนพุงหรือโดนเป้ามันแน่ แต่จากสีหน้าดำปนแดงน่าจะแทงน้องมันเข้า
 
“อ้าว แล้วไม่บอกวะ ให้กูทับอยู่ได้”ผมเงยหน้าขึ้นมาบอกและลุกออกจากเบาะ ส่งมือฉุดมันลุกขึ้นมา

“กูทันได้พูดไหมล่ะ”มันบอกหันหลัง แต่ผมเห็นว่ามันคลำสำรวจตรวจเป้าอยู่

“คอหักหรือเปล่าวะ โทษที กูไม่ได้ตั้งใจ แหะแหะ”ผมชะโงกหน้าไปถามอาการ ยิ้มแหยๆ กลัวมันเอาคืน

“มึงลองให้กูกระแทกมั่งไหมล่ะ”มันพูดตาเหร่มอง เฮ้ย มึงพูดสี่แพร่งเกินไปไหม จะมากระท่งกระแทกอะไรกู

“เรื่องอะไร กูก็จุกเหมือนมึงน่ะสิ”ผมรีบปฏิเสธความหวังดีประสงค์ข้างหลัง(คิดเอง)ของมันทันที แต่ยังไม่ทันพูดอะไรกันต่อฝนเม็ดเล็กๆก็ตกลงมา มันฉุดมือผมให้เดินแกมวิ่งทันที ไม่รู้มึงจะรีบทำไมยังไงก็เปียกอยู่ดี ทำอย่างกับเลี้ยวโค้งหน้าในป่าจะมีโรงแรมให้กูกับมึงเข้าไปพัก ถ้ากระท่อมร้างแบบในหนังลูกทุ่งที่ฝนตกและตัวเอกไปติดฝนจนผสมพันธ์กันล่ะก็ไม่แน่ อาจจะมี แต่ต้องไม่ใช่คู่กูกับมึงนะ แค่ไม่ตั้งใจทับกันยังคำรามขนาดนี้ สงสัยจะพิโรธที่โจ่งแจ้งไปหน่อย วิ่งไปคิดไปฝนเริ่มหนาเม็ดขึ้น ผมยกมือลูบน้ำฝนที่สาดใส่หน้า ถ้ามีแป้งโปะด้วย ชัดเลย เทศกาลโคโยตี้ที่เดี๋ยวนี้ตีเสมอเจ้าของเทศกาลตัวจริงคือสงกรานต์ สาดน้ำปะแป้งให้เปียกให้เปรอะไม่พอ มีถอดเสื้อผ้ากันปอดบวมขึ้นไปเต้นอย่างเมามันส์ ที่พูดไม่ใช่ผมไม่ดูนะ มีที่ไหนตามไปส่องที่นั่นเผื่อเป็นญาติพี่น้องพ้องเพื่อนที่รู้จักจะได้บอกว่าอย่าทำมันไม่ดี แต่ลึกๆ ไปดูให้แน่ใจว่าถอดจริงหรือเปล่า 55555555

“เข้าไปหลบที่นั่นก่อน”เสียงไอ้เฮียพูดและฉุดเข้าไปทันที กูอยากจะหัวเราะให้ดังกว่าความคิดเมื่อกี้ แม่ง ใครมาทำโลเกชั่นถ่ายหนังไว้หรือเปล่าวะ กูเข้าป่าไม่รู้กี่รอบไม่เคยเห็นกระท่อมหลังนี้มาก่อน อย่าบอกว่าสร้างรอกูกับไอ้เฮียมาติดโดยเฉพาะเพื่อถ่ายทำฉากมหัศจรรย์(ใจ)รักในป่า(เดียวกัน) ภาคต่อมนต์รักในป่าใหญ่

“น่าจะเพิ่งสร้าง สงสัยไอ้พวกลักลอบทำไว้พักแรม”ไอ้เฮียสันนิษฐานความน่าจะเป็นได้ดีกว่าผมที่พุ่งทะยานนอกกรอบไปเรียบร้อย ถ้ามันรู้ต้องกระตุกยิ้มและถามกลับว่ามึงเอาเนื้อเยื่อสมองส่วนเขาหรือเปล่าที่คิด

“น่าจะใช่”ผมพึมพำเห็นด้วย หันไปอีกทีไอ้เฮียถอดเสื้อที่เปียกออกสลัดผึ่งตรงไม้ยาว 

“มึงชอบดูฟุตบอลเหรอ”ผมถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวอะไรกับฝนตกหรือป่าสักนิด

“ทั้งดูทั้งเล่น ถามทำไม”มันตอบผม แต่ไม่ได้หันมามอง สายตามันเพ่งฝ่าสายฝนไปด้านนอก

“เห็นมึงสักหงส์คิดว่าเป็นแฟนลิเวอร์พลู”ผมตอบและชี้รอยสัก พูดต่อไปอีก”กูว่ามึงไม่เล่นอย่างเดียวหรอก ต้องรับแทงด้วยแน่ๆ ใช่ไหม”ผมบิดเสื้อที่เปียกพอหมาด ไม่อยากถอดโชว์กล้ามสวยงามแข่งกับมัน ถึงแผงที่ท้องจะไม่เท่าแต่ก็เร้าใจพอๆกับพระรองเกาหลีเชียวนะครับ

“เดี๋ยวจะแทงมึงนี่แหละ ไอ้เด็กผี แปลความหมายกูแต่ล่ะอย่างผิดกฎหมายทั้งนั้น เล่นของกูคือเตะเพื่อออกกำลังกาย ไม่ใช่โต๊ะบอลอย่างที่มึงคิด”อ้าว รู้อีกกูเด็กแมนยูฯ แถมพูดกำกวมหรือกูคิดลึกกันแน่วะ น่าจะตรงตัวนะแทงของมันที่จะใช้กับผมคงหมายถึงมีดที่เอามาจิ้มพุงแน่ๆ

“กูเดาเฉยๆ คิดว่ามึงติดคุกเพราะรับแทงบอลหรือเปล่า แค่นั้นเองไม่ได้คิดอะไรเลยนะ”ผมบอกมันพร้อมพยักหน้าให้เชื่อไปด้วยว่าจริง

“มึงเรียนจบสายอะไร”มันถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันกับสิ่งที่ผมบอกบ้าง

“บัญชี มึงจะหางานให้กูทำเหรอ”ผมตอบจริงแต่เล่นนิดๆตอนท้าย

“กูไม่กล้าเอามึงไปฝากกับใครหรอกกลัวเจ๊ง ดีแล้วที่มึงไม่จบกฎหมาย”มันทำเสียงขึ้นจมูกนิดๆ

“ทำไม หน้าอย่างกูเรียนไม่ได้เหรอ”ผมพยักหน้าใส่มัน หนอยดูถูกกูซะไม่มี ถึงกูจะดูโง่ แต่เล่นไพ่กูไม่เคยโง่นะมึงน็อกตลอด

“แค่มึงคิดก็ไม่ต้องเรียนแล้ว ถ้ากูติดคดีเล็กๆจะหาเรื่องแหกคุกให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไมวะ เสียค่าปรับนอนโรงพักสักคืนและออกไปทำใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ”มันหันมาย้อนใส่เต็มๆ

“มึงจะจริงจังทำไม กูก็บอกว่าเดาๆๆๆ และมึงล่ะจบอะไร ไหนบอกกูสิ”เถียงมันไม่ออกแถไปมีปัญหาเรื่องการศึกษามันมั่ง

“บอกไปมึงก็ไม่เชื่อหรอกว่าหน้าอย่างกูจะมีการศึกษาที่ดี”โห ไอ้เฮียขนาดไม่บอกยังพูดเหมือนข่มกูซะ

“มึงก็บอกมาก่อนสิ เชื่อไม่เชื่อกูพิจารณาเอง”ผมก็เสือกอยากจะรู้อยู่ดีว่ามันจบอะไร มันหันมามองก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ

“ถอดเสื้อก่อน”มันไม่ตอบแต่สั่ง

“แค่กูอยากรู้เรื่องการศึกษามึง ถึงกับให้กูถอดเสื้อเลยเหรอ”ผมเลิกคิ้วใส่ มือจับเสื้อแน่น

“เดี๋ยวเป็นหวัด มึงไม่เหนื่อยมั่งเหรอคิดลึกซะทุกเรื่อง”มันเตือนด้วยความหวังดีแต่มีเห็บ เอ้ย เหน็บ

“ไม่เหนื่อยกูชอบใช้สมอง”กูก็ย้อนมันตลอด มือก็ถอดเสื้อและสลัดตากมั่ง

“กูถอดแล้ว จะบอกได้ยัง”ผมท้วงเมื่อมันฉวยโอกาสเงียบทำลืม

“กูจบxxxxxxxxxxxxxx”คำตอบที่ได้รับทำเอาอึ้งกับการศึกษาที่ไม่ธรรมดาเลยของนักโทษกิตติมศักดิ์ระดับดอกเตอร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของต่างประเทศที่ติดอันดับต้นๆของโลก

“แล้วทำไม”ผมพึมพำเสียงเบาว่าอะไรเป็นสาเหตุให้คนมีการศึกษาขนาดนี้เข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำ มันมองหน้าผมด้วยสีหน้าสงสัยแทนผมว่าทำไมไม่แย้งหรือขัดคอมันในเรื่องที่บอก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเชื่อในสิ่งที่มันบอก

“มึงสงสัยว่า การศึกษากูดี แต่ทำไมถึงติดคุกใช่ไหม”มันถามแทนผมที่พยักหน้า มันแค่นยิ้ม

“คุกไม่ได้จำกัดวุฒิการศึกษาที่จะเข้าไป มันเปิดรับความชั่วไม่มีขีดจำกัดให้เข้าไปอยู่ต่างหากล่ะ เข้าใจไหม”มันไขข้อข้องใจผมด้วยประโยคที่ส่อให้รู้ว่ามันไม่ได้โกหกแน่นอน คำพูดที่สื่อให้รู้ว่า คนจะดีจะชั่วไม่ได้อยู่ที่การศึกษาที่ได้รับมันอยู่ที่สันดานในการกระทำเหมือนสุภาษิตที่เขาบอกว่า ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว มีจริง ไม่ใช่ ทำดีได้ดีมีที่ไหนทำชั่วได้ดีมีถมไป เหมือนที่ผมและเพื่อนเคยพูดกันเล่นๆ

“และกูก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่การศึกษาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยกับสิ่งที่ทำลงไป กูทำตัวเองก็ต้องได้รับผลตอบแทนแบบนี้”มันย้ำให้ผมเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น

“อยากรู้ใช่ไหมว่ากูติดคุกเพราะอะไร”มันถามผมต่อเหมือนจะรู้ว่านี่แหละคือคำถามที่แท้จริงที่ผมอยากได้คำตอบ แต่ผมกลัวคำตอบที่จะได้รับจังเลย ผมส่ายหน้า

“ทำไมล่ะ มันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่มึงจะรู้ก็ได้นะ”มันไม่พูดเปล่าหยิบมีดขึ้นมาด้วย มันคงไม่ตัดผมเหมือนคราวที่แล้วแน่ ผมหายใจติดขัดเริ่มขยับหนี

“อย่าขยับ”มันสั่งด้วยเสียงจริงจัง ผมหยุดหนีทันทีเพราะยังไงก็ไม่รอดแน่ บอกไม่ถูกว่าทำไมในอกถึงสั่นไหวรุนแรงเหลือเกิน ไม่ได้เสียใจที่จะตายแต่เสียความรู้สึกกับสิ่งที่มีให้กัน ผมกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาทั้งที่มันพร่าเต็มสองตาเห็นมันเงื้อมือที่ถือมีดและพุ่งมาอย่างเร็ว


ห้อยต่อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด