“อืม”
“อา”
“หึหึ”
“อื๊อออ”
“หนู”
“อืม”
“เฮียกลับมาแล้ว”
“เฮีย”
“ครับ เฮียกลับมาแล้ว ขอโทษนะ เฮียมาช้า”
เสียงเรียกพร้อมสัมผัสอ่อนโยน กลิ่นกายที่คุ้นเคย ผมคว้าหมับทันทีทั้งที่ไม่ลืมตา เจ้าของวงแขนก็กระชับไปแนบชิด มือลูบผม ปากสัมผัสหน้าผาก
“เฮีย”ผมเรียกอีก ค่อยลืมตาขึ้นมอง ก็เห็นใบหน้าคมเข้มแต่อ่อนโยน เอานิ้วเกลี่ยจมูก ผมซุกเข้าไปอีก ไม่รู้ทำไมไม่ได้อยากดัดจริตอ้อนออเซาะ แต่อยากกอดเอาไว้ ได้ยินเสียงหัวใจเฮียเต้นปกติ
“เดี๋ยวหายใจไม่ออกหรอก หืม”เฮียพูดพร้อมหัวเราะในลำคอ เอามือดันผมออกเบาๆ
“ทำไมไปนานจัง”ผมถามเฮียไม่ได้ต่อว่า แต่เป็นห่วงมากกว่า
“มีงานด่วนเข้ามาน่ะ เฮียเลยต้องรีบไปเคลียร์”เฮียยกยิ้มพูดเหมือนเป็นงานปกติทั่วไป ทั้งที่ผมคิดว่ามันต้องไม่ใช่ แต่ก็พยักหน้าไม่ถามต่อ กอดอย่างเดียว
“ระหว่างที่เฮียไม่อยู่ มีอะไรเกิดขึ้นไหม”เฮียเป็นฝ่ายถามออกมา ทำเอาผมชะงัก
“เอ้อ ไม่มีนะ”ผมตอบแบบทำท่าคิดนิดหน่อย
“ดีแล้ว เฮียนึกว่ามีใครมาทำร้ายหนูอีก หรือมีแล้วปิดเฮีย ไหนดูหน้าสิ”เฮียจับหน้าผมออกมามอง
“ถ้ามี หน้าตาจะดีอย่างนี้เหรอ”ผมหยอกเฮียกลับไปให้รู้ว่าไม่มีอะไรจริงๆ
“ตรงอื่นล่ะ”เฮียไม่พูดเปล่าเอามือเข้าไปสำรวจข้างในอีก
“ทะลึ่งแล้วเฮีย”ผมรีบดึงมือเฮียออกจากเสื้อ
“เฮียแค่สำรวจความเสียหายที่อาจจะหลบซ่อนก็ได้”เฮียยิ้มมุมปาก
“มันก็มีที่เดียวแหละเฮียที่เสียหาย”ผมพูดใส่เสียงดังขึ้นก่อนจะนึกได้ว่าพูดอะไรออกไป เฮียอมยิ้มอย่างหมั่นไส้ อยากบอกว่า ฝากเฮียช่วยถีบหน้ามันหน่อย เกรงใจ
“ถ้างั้นเฮียมีวิธีซ่อมแซม”เฮียเลิกคิ้วใส่
“พอเลย ถ้าไอ้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง ไม่ต้องเอามาใช้เลย”ผมพูดดักคอเฮียที่หัวเราะชอบใจ ผมเลยซุกหน้าลงไปอีก
“คิดถึงเฮียหรือเปล่า”อ้าว เปลี่ยนเรื่องอีก มีไหมไอ้เรื่องไม่ทำให้เขิน ขนาดยังไม่ได้ตอบนะเนี่ย
“คิดถง คิดถึงอะไรเฮีย ไม่ได้ไปเป็นปีสักหน่อย”ผมเลี่ยงไม่ตอบ แต่เชื่อเถอะผมแถได้ไม่นานหรอก
“คิดถึงของเฮียไม่มีกำหนด”อื้อหือ ตอบซะกูอึ้งไปเลย
“เฮียคิดถึงหนูนะ เป็นห่วง ไม่อยากอยู่ห่างสักนิดเดียว”พูดต่อพร้อมกอดกระชับ ถ้าเป็นแต่ก่อนมีผู้ชายมาพูดแบบนี้กับผมคงได้อ้วกแตกแน่ แต่กับเฮียผมฟังด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจทุกประโยค
“ก็เฮียไปทำงาน หนูดูแลตัวเองได้ และหนูก็”ผมพูดอย่างเข้าใจความจำเป็นของเฮียที่ต้องห่าง
“เฮียรู้ แต่ตรงท้ายเฮียไม่ได้ยินเลย”เหมือนจะเข้าใจแต่ย้ำอีกแล้ว
“นะ”จะอ้อนไปไหน หน้าตาไม่น่าอ้อนเป็นเล๊ย
“คิดถึง”ผมเลยพูดอีกครั้งให้ฟังชัดๆ เฮียยิ้มก่อนจะหุบเมื่อได้ฟังต่อ
.
.
.
”เฮียหยุดกินคอลลาเจนก็ได้นะ ถ้ามันจะทำให้หูเฮียตึงตามผิวไปด้วยน่ะ ครึครึ”
“หนู อีกแล้วนะ”เฮียพูดลอดไรฟัน ก่อนจะ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ก๊ากกกกกกกกก เฮียพอแล้วววววววววว อื๊ออออออออออออ”ไอ้จักจี๊ไม่เท่าไหร่ จูบปากหนูทำไม ผมก็จูบรับซึมซับความคิดถึงของกันและกัน พอผละออกได้ก็นอนกอดฟังเสียงหัวใจ นี่กูจะโรแมนติคไปไหนวะ
“ง่วงเหรอเปล่า กินข้าวก่อนดีกว่ามั้ง เดี๋ยวค่อยนอนต่อ ไม่สบายหรือเปล่าเนี่ย”เฮียถามเองตอบเองเอาหน้าผากแนบวัดอุณหภูมิ
“เปล่า ตื่นเช้ามืดไปหน่อย”ผมส่ายหน้าตาหลับ มือลูบผมแถวท้ายทอยเฮีย เพลินดี
“ตื่นเช้ามืดหรือไม่ได้หลับเลย ตาถึงได้คล้ำและปูดขนาดนี้”เฮียพูดขำๆเอามือลูบเปลือกตา
“ก็หลับๆตื่นๆ”ผมพูดงึมงำ
“เจ็บตาหรือเปล่า มันช้ำมากเลยนะ หนู ไหนลืมตาให้เฮียดูสิ”เฮียถามอย่างเป็นห่วง ผมลืมตาขึ้น ใช่ ผมปวดตาคงจะเพราะร้องไห้อย่างหนัก
“นิดหน่อย ไม่รู้แมลงอะไรมันบินมาชน หนูเลยไปลืมตาในน้ำ เผลอเอามือขยี้ไปด้วย”ผมโกหกเฮียคำโต รู้สึกปวดตุบตุบ แหม นอกหน้านะมึงไอ้ลูกตาพอเฮียถามปวดขึ้นมาทันทีเลย
“ยาหยอดตาไม่มีซะด้วย เดี๋ยวเฮียไปเอามาให้ดีกว่า”เฮียพูดออกมา หาหมอเหรอ ลุกจากเตียงตรงไปที่ประตู
“เฮียยยยยยย”ผมเรียกเสียงยาวรีบลุกมาคว้าแขนเฮีย
“เดี๋ยวเฮียมา หนูกินข้าวไปก่อน”เฮียก็ยังยืนยันจะไปให้ได้
“ก็กินและไปพร้อมกันนั่นแหละ จะได้ไม่เสียเที่ยว”ผมฉุดมือเฮียให้มานั่ง
“ปวดหรือเปล่า”เฮียถามต่ออีก
“นิดหน่อย กินข้าวกันเถอะ”ผมส่ายหน้าก่อนจะเปิดโถกับข้าว อึ้งไปนิด
“เป็นอะไร ไม่ชอบเหรอ”เฮียถามผมที่มือยังค้างอยู่
“ปะ เปล่า ชอบสิ”ผมตั้งสติได้รีบบอก ยิ้มให้เฮีย แต่ก็แปลกใจอยู่ดี ที่กับข้าววันนี้เหมือนที่พ่อใส่บาตรกรวดน้ำให้เลย ใจผมเต้นแรงพลางคิดไปว่าความลับแตกแล้วเหรอ
“เฮียคิดว่าหนูน่าจะชอบ ตอนที่”เฮียพูดจับมือผมที่พยักหน้าให้เฮียพูดต่อ”แวะบ้านหนูและกินข้าว อร่อยดี แต่ถ้ามันทำให้หนูคิดถึงบ้าน เฮียขอโทษนะ”
“ไม่ หนูไม่ได้คิดแบบนั้น แค่ไม่คิดว่าจะได้กิน”ผมบีบมือเฮีย มองหน้าที่ไม่เห็นความผิดปกติอะไร“หนูพูดจริงๆ ต้องขอบคุณเฮียมากกว่า ที่แสนรู้ เอ้ย รู้ใจ แหะ แหะ”ผมพูดติดตลกยิ้มแป้น เฮียบีบจมูก ก่อนจะลงมือกินข้าวกัน อืม อร่อยสูสีอยู่
.
.
.
“...........”
“...........”
“เฮีย”
“หืม”
“เฮียไปรอข้างนอกก่อนไหม”ผมเอ่ยปากกับเฮียที่นั่งกอดอกอยู่ข้างผม ตาจ้องคุณผู้ช่วย
“ทำไม”รู้สึกจะห้วน ตายังไม่ล่ะจากอีกฝ่าย
“หมอเขาจะตรวจหนู”ผมบอกเหตุผลให้เฮียฟัง
“ก็ตรวจไปสิ เฮียไม่ได้ยืนบังตาหนูสักหน่อย”อ้าว พูดอย่างนี้เข้าข่ายกวนตีนมากกว่าพาลแล้ว
“รู้แล้ว แต่เฮีย เอ้อ”ผมจะพูดยังไงให้ดีทั้งสองฝ่ายวะ เฮีย ก็จ้องเขาเกินไปแล้ว
“ผมแค่ดูตาคุณหนูครับ ไม่ได้ตรวจภายใน”ผมหันไปมองคุณเจ้าหน้าที่ ที่พูดใส่เฮียยิ้มๆ
“ถ้าตรวจอย่างนั้นผมยิ่งต้องอยู่ดูให้เห็นกับตา เชิญตรวจ ผมให้เวลาแค่ห้านาทีพอไหม จับเวลา”เฮียกระตุกยิ้มได้ดูโกงสุดๆ แถมพูดเองเออเองเสร็จสรรพ แล้วจะถามเขาทำไมวะ คุณผู้ช่วยยักไหล่ เอาไฟส่องตาผม
“เหลือกตาขึ้นบน”
“ลงล่าง”
“ซ้าย”
“ขวา”
“เคืองตาไหมครับ”หลังส่องเสร็จก็ถามผม คุณหมอใหญ่ไม่อยู่ด้วยวันนี้ เป็นใจมาก ถ้าไม่มีเฮียนั่งสิงข้างๆ
“นิดหน่อยครับ”ผมตอบก่อนจะมองหน้าคุณผู้ช่วย ที่มองผมเหมือนกัน
“อืม อักเสบนิดหน่อย เดี๋ยวผมล้างตาและหยอดยาให้ก่อนแล้วกัน”คุณผู้ช่วยพูดเตรียมจะไปหยิบอุปกรณ์
“ไม่ต้อง จัดยามาเดี๋ยวไปทำเอง”เฮียพูดขัดออกมา ทำเอาผมหันไปมอง เฮียกุมมือผมบีบเบาๆ เหมือนให้กำลังใจ เรื่องอะไรวะ กูตรวจตาไม่ใช่ตรวจตั้งครรภ์
“เฮีย ไปขัดหมอเขาทำไม”ผมห้ามเฮียที่ชักเริ่มเลอะเทอะแล้ว
“เฮียทำเป็น”จบรายงาน กูไปต่อไม่ได้ หันไปคุณผู้ช่วยยกยิ้มไม่ได้ขัดอะไร จัดยาให้
“นี่ครับ”ส่งให้ผมที่เอื้อมมือไปรับ แต่คงไม่ต้องบอกมั้งครับว่ามีมือที่สามมาแทรกแซง
“ขอบคุณ”เฮียรับมาถือเอง ไม่ถึงกับกระชาก
“ไม่เป็นไรครับ หน้าที่ผมอยู่แล้ว”คุณผู้ช่วยพูดตอบตามปกติ
“หน้าที่เสริมเหรอครับ”เฮียไปว่าเขาเสือกทำไม
“ครับ เวลาหมอใหญ่ไม่อยู่ อะไรที่ผมพอรักษาได้ก็รักษาไป”คุณผู้ช่วยกอดอกในท่าสบายๆ
“ก็ดี”เฮียพูดแค่นั้น ก่อนจะพยักหน้าให้ผมลุกขึ้น
“ขอบคุณนะหมอ ขอบคุณ”ผมพูดและยิ้มให้คุณผู้ช่วยที่ผมเรียกสั้นๆว่าหมอ ผมมั่นใจว่าต้องเป็นเขาแน่นอน
“ครับ ผมบอกแล้วมันเป็นหน้าที่”หมอตอบรับ ก่อนผมจะเดินไปตามแรงดึงของเฮีย พ้นจากห้องนั้นเดินจนจะถึงห้องอาหารรวม เราไม่ได้พูดอะไรกันเลย ผมรู้สึกกลัวเฮีย ทั้งที่เฮียไม่ได้แสดงความรุนแรงใส่ผม แต่แค่เฮียเงียบก็ดูอึมครึมแล้ว
“เฮีย”ผมลองเรียกเฮียที่ตายังมองข้างหน้า จับมือผมอย่างอบอุ่นเหมือนทุกที
“หืม”เฮียรับคำ หยุดหันมามองหน้า
“เฮียเป็นอะไร โกรธหนูเหรอ”ผมถามเฮียออกไปเหมือนตัวเองทำความผิด ปกปิด
“เปล่า”เฮียตอบเสียงธรรมดาไม่ได้สูง ผมพยักหน้าจะเดินต่อ แต่เฮียดึงเข้าไปตรงซอกผนังลับตา ก้มมาปิดปากผมที่ยังตะลึงว่าเฮียมาจูบอะไรตอนนี้ เข้าห้องก่อนไม่ได้เหรอ อายเขาเกิดใครเห็นเข้า ความคิดกูไม่ทันปากเฮียกับลิ้นที่ไล่สอดให้จูบตอบเลย
“อืม เฮีย”ผมหลุดเสียงออกมา
“อย่ายิ้มแบบนี้ให้ใครอีก”เฮียพูดชิดปากจูบย้ำอีกครั้ง
“อ้าว ปกติหนูก็ยิ้มให้ไอ้เบียร์ ไอ้รัน พี่ปาน พี่โจ๊ก ออกจะบ่อย”ผมประท้วงอย่าง งงๆ
“ไม่เหมือนกัน”เฮียส่ายหน้า แล้วมันต่างตรงไหนวะ กูก็เอาปากยิ้มมาตลอด ผมขมวดคิ้วก่อนจะเบิ่งตาเมื่อเฮยพูดต่อ
“โดยเฉพาะยิ้มให้ไอ้ผู้ช่วยนั่น”พูดจบจูบอีก ไม่คิดจะให้แก้ตัวมั่งหรือไงวะ จะจิกหนังหัวก็จิกไม่ติด ได้แต่อืออาตอบรับ ไหนเฮียมึงบอกว่าไม่โกรธไง ขนาดไม่โกรธปากยังรับการชำระขนาดนี้ ถ้าโกรธล่ะผมไม่อยากจะคิดเลยว่าจะโดนตีก้นหรือเปล่า
“เฮียโว้ย พอก่อน มีคนเดินมา”ผมดันเฮียออกเมื่อได้ยินเหมือนเสียงคนเดินมา ทุบไหล่เฮียดังปึกปึก เรื่องอย่างนี้เฮียทำไมมึนจังวะ
“อุ้ย ขอโทษครับพี่เฮีย”ไอ้คนโผล่มารีบพูดตะกุกตะกัก เมื่อมันเห็นเฮียกอดผมอยู่ อีกสองคนทำหน้าไม่ต่างกัน พวกมึงจะขอโทษทำไม เฮียสิผิดทำอนาจารกูอยู่
“แล้วพวกมึงจะจ้องอีกนานไหม”เฮียปรายตาถามกลับเสียงเรียบ
“คะ ครับ ครับ”รีบรับปากและเดินไปทันที
“ไปว่าเขาอีก”ผมผลักเฮียออกเดินหนี คงพ้นหรอกครับคว้ามือหมับเข้าให้ จะดึงออกพอเห็นสายตาคมดุปนอ่อนพร้อมหื่น เลยไม่ดึงหันหน้ากลับ ยังจะมาหัวเราะอีก
“รอตรงนี้แป๊บนะ เดี๋ยวเฮียมา”เฮียให้ผมรอหน้าห้องอาหารรวมที่ครั้งหนึ่งผมเคยมาปล่อยหนูหมดรูมาแล้ว จำได้ใช่ไหมครับว่าเรื่องอะไร ลืมไปบ้างก็ได้นะผมไม่ว่าหรอก ผมพยักหน้าก่อนเฮียจะมองไปรอบๆ ไม่มีใครสบตาเฮียสักคนหันกลับหมดเลย เฮียยกยิ้มอย่างพอใจในเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ก่อนจะเดินไป
“ฝันไปเถอะว่ากูจะเดินไปหยิบมึง ไม่ได้แอ้มกูหรอก กูแยกออกแล้วโว้ย ไอ้แปะ”ผมพูดกับรีโมทสี่เอส ที่วางโชว์อยู่ตรงหน้าไม่ไกลเกินเอื้อม ผมจะไม่มีวันหน้าแตกกับมันอีกแล้ว
“กูว่าแล้วต้องลืม หายไปลูกพี่ด่ากูแน่”มีคนเดินมาหยิบมันครับ ถ้าจำไม่ผิด หนึ่งในลูกน้องไอ้ทวน
“ครับ ครับ จะรีบไปเดี๋ยวนี้”มันยกและกดออก
“O_O”หน้าผมเอง
“เมียพี่เฮีย หวัดดีครับ”มันหันมาเห็นผมเรียกอย่างตกใจยกมือไหว้ จนผมรับแทบไม่ทัน ไหว้กูทำไม แล้วมันก็จากไปพร้อมสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง
“แม่งงงง กูโดนอีกแล้ว เมื่อไหร่กูจะแยกได้สักทีวะ”ผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับตัวเองเมื่อเสียรู้ตัวเองอีกรอบ ถ้าไม่บอกว่านี่เป็นที่อยู่โจร ก็เหมือนโรงเรียนประจำหรือค่ายทหารเหมือนที่ผมบอกไว้ตอนแรก เท่าที่ทราบนักโทษที่ออกมามีไม่กี่คน นอกนั้นเป็นคนเก่าที่เคยอยู่ที่นี่ทั้งนั้น
“มีอะไรกินบ้างวะวันนี้”ผมเห็นว่าไม่มีอันตรายอะไรก็เลยเดินไปตรงห้องครัว เห็นกับข้าวและขนมน่ากินหลายอย่าง ผมมองว่าจะขออนุญาตใครได้บ้าง
“นี่ ของฉัน ของฉัน ของฉัน”ยังไม่ทันจะถาม คำตอบก็โพล่งออกมาแล้ว พร้อมนิ้วชี้ๆๆๆๆๆๆ ร่างทรงบัวขาวนี่เอง
“นี่ก็ของฉัน มีอะไรไหม”ลอยหน้าใส่ ปากเปลืองลิปสติกมากเลย ฉ่ำเยิ้มเข้าขั้นแฉะ เชิดหน้าใส่
“ไม่มีครับ ถ้าเป็นของพระ ผมไม่กล้าหรอก”ผมยิ้มแหยพูดกลับ ทำเอาสวิงหน้าเชิดตกลง คิ้วขมวด
“อะไรของพระ”ถามกลับทำหน้างง
“ก็พี่หวิงบอก ของฉัน ก็หมายถึงอาหารสำหรับถวายพระไม่ใช่เหรอ แต่นี่มันเลยเพลแล้ว พระจะฉันได้เหรอพี่”ผมตอบแกแถมบอกอย่างคนเคยบวชเรียนมาแล้ว ทำเอาร่างทรงบัวขาว เบิ่งตา จมูกบาน ปากกระตุกยิกๆๆ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ อีหวิง มึง มึง”
“ก๊ากกกกก ของฉัน”
เสียงหัวเราะดังลั่นห้องครัว จากบรรดาพ่อครัวและลูกมือ
“ฮึม ของฉัน ของพระ”สวิงหายใจเข้าออกทางจมูกที่ติดลูกสูบอย่างระงับ แล้วผมพูดอะไรผิดวะ
“แล้วมีอะไรที่ผมกินได้บ้างไหมล่ะ”ผมเลิกสนใจของฉันสำรับพระ หันมาหาของกินสำหรับคนธรรมดาบ้าง
“หยิบเลยพ่อหนุ่ม ไม่มีหรอกของพระน่ะ ครึครึ อีหวิงมันหวงก้างไปงั้นเอง อีนี่ เดี๋ยวโดนตีนเฮียหรอก”พ่อครัววัยสี่สิบกว่าบอกผมเสียงกลั้วหัวเราะ คนอื่นยังคิกคักไม่เลิก
“งั้นผมหยิบนะ”ผมมองหน้าพี่บัวขาว
“หยิบไปสิ ใครจะกล้าว่าล่ะ ถ้าไม่ใช่เมียพี่เฮียตอบอย่างนี้นะ ฮึ่มมมมมมมม”ยังคำรามไม่เลิก
“มีอะไร”เสียงเพชรฆาตของใครหลายคนดังขึ้น
“มะ ไม่มีพี่เฮีย หยอกน้องหนูเล่นเฉยๆ อิ่มเหรอแค่นั้น เอาไปอีกสิจ๊ะ เดี๋ยวหวิงใส่ถุงให้นะ”สวิงเปลี่ยนหน้าตีนเป็นหลังมือทันที รีบหยิบของกินใส่ถุงส่งให้
“ขอบคุณครับ พี่สวิงคนสวย ใจดีจัง”ผมรับพร้อมชมแก ที่ยิ้มปากกว้างบิดไปมา เกิดมาเพิ่งเคยเห็น คนอะไรอายอย่างกับถูกผีสิง บรึยยยย
.
.
.
.
“อูย แสบ”ผมร้องบอกพลายถอยหนี
“อีกนิดเดียว”เฮียไม่ยอมขยับตาม
“มันแสบ ซี๊ดด”ผมสูดปากเมื่อใกล้จะสิ้นสุด
“ทนหน่อย ใกล้แล้ว นั่นแหละ”เฮียปลอบและขยับมือต่อ
“เฮียเสร็จยัง ไม่ไหวแล้ว”
“เสร็จแล้ว”
ผมถอยห่างจากมือเฮียที่ถ่างขา เอ้ย ตาผมอยู่ มือเฮียน่ะเบา แต่ยาที่หยอดกระทบเยื่อตามันแสบแปร๊บๆๆ เงยหน้าไม่ให้น้ำไหลออกจากตา มีผ้านุ่มซับให้
“ค่อยยังชั่วหน่อย”ผมกระพริบตาเมื่อความแสบจางลง
“คราวหน้าอย่าเอาตาไปให้มันชนอีกล่ะ บวมหมดเลย”เฮียพูดทำเอาหันขวับ
“ไม่ได้โง่เอาตาไปให้มันชนนะเฮีย ใครจะไปรู้ว่ามันจะพุ่งเข้ามาล่ะ พูดมาได้”ผมโวยใส่เฮียที่ยกยิ้ม “อะไรน่ะเฮีย”ผมชี้ไปที่กล่องไม่ใหญ่มาก เฮียมองก่อนจะเปิดและเอ่ยออกมา
“ฮาโมนิก้า”อ๋อ เพื่อนชาวต่างชาติเฮียนี่เอง ผมล้อเล่น อีกชื่อ เม้าท์ออแกน หรือ หีบเพลง
“สวยดี ของเฮียเหรอ”ผมชมก่อนจะถาม เฮียคงไม่ว่าผมโง่หรอกนะ ถ้าไม่ใช่ของเฮียจะมาอยู่นี่ได้ไงล่ะ แต่สวยเป็นสีเงิน
“อืม พ่อเฮียซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด”เฮียยิ้มแต่ดูเศร้า ผมคงไม่ถามต่อหรอกครับว่าครบรอบปีที่เท่าไหร่ มันไม่ถูกสถานการณ์
“แสดงว่าเฮียเป่าเป็นอ่ะดิ”ผมเลยเปลี่ยนคำถาม เฮียพยักหน้า“เป่าให้หนูฟังบ้างสิ หนูอยากฟัง”ผมเขย่าแขนเฮียเหมือนเด็กขอของเล่นพ่อ
“เฮียไม่ได้เป่ามานานแล้ว”เฮียพูดยิ้มๆมือลูบสิ่งนั้นไปมา
“เฮียก็นึกสิ ค่อยๆนึกก็ได้ เพลงอะไรหนูฟังได้หมดแหละ ไม่รีบ แต่อยากฟังตอนนี้ นะเฮียนะ”ผมเกรงใจเฮียจังเลย เฮียส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะพยักหน้าแล้วหลับตาทำสมาธิ เชื่อผมล่ะสิว่าเฮียทำ ก่อนเฮียจะเริ่มลองเสียงก่อน และเริ่มเข้าเนื้อเพลงที่ท่วงทำนองไพเราะมาก ผมพยายามนึกว่าเป็นเพลงอะไรในใจเงียบๆ ก่อนจะอ้าปากเมื่อจบเสียงสุดท้ายแล้วเฮียทำมากกว่าเป่า คือ เปล่งเสียงร้องออกมา ในเพลงที่มีความหมายเหลือเกิน
ถ้าจะฝากความรัก เอาไว้ที่บนฟากฟ้า
ก็กลัวเหล่าเทวดา จะมาแย่งไป
ถ้าจะฝากความรัก ในสายน้ำที่เย็นใส
ก็กลัวความรักหนาวตาย ก่อนได้เคียงข้าง
*โอ้.....ความรักเอย มันช่างมากมาย เกินจะเก็บไว้ในใจนี้
ช่วยเปิดประตูหัวใจ รับฝากความรักฉันไว้ ได้โปรดเถิดนะคนดี
ดั้นด้นเดินมาแสนไกล ขอพักแนบตักอุ่นนี้ หวังว่าคงยังไม่มี
พอถึงท่อนนี้เฮียล้มลงนอนหนุนตักประกอบเพลงด้วย ผมรู้เลยว่าหน้าแดงไปหมดแล้ว
ใครต่อใครในหัวใจเธอ
ถ้าจะฝากความรัก เอาไว้ในผืนแผ่นดิน
ก็กลัวแมลงกัดกิน จนรักสิ้นใจ
ฝากฟ้า ฝากดิน ฝากน้ำ ก็ไม่ปลอดภัย
ขอฝากความรักเอาไว้ ในใจของเธอ
ฝากฟ้า ฝากดิน ฝากน้ำ ก็ไม่ปลอดภัย
ขอฝากความรักเอาไว้ ในหัวใจเธอ
ถึงเสียงไม่เหมือนเจ้าของเพลง แต่กลับนุ่มและเว้าวอน ก่อนจะเอามือมากุมตรงอกผมที่มีหัวใจเต้นอยู่ เมื่อย้อนมาถึงท่อนนี้อีกครั้ง
ช่วยเปิดประตูหัวใจ รับฝากความรักฉันไว้ ได้โปรดเถิดนะคนดี
ดั้นด้นเดินมาแสนไกล ขอพักแนบตักอุ่นนี้ หวังว่าคงยังไม่มี
ใครต่อใครในหัวใจเธอ
ถ้าจะฝากความรัก เอาไว้ในผืนแผ่นดิน
ก็กลัวแมลงกัดกิน จนรักสิ้นใจ
ฝากฟ้า ฝากดิน ฝากน้ำ ก็ไม่ปลอดภัย
ขอฝากความรักเอาไว้ ในใจของเธอ
ฝากฟ้า ฝากดิน ฝากน้ำ ก็ไม่ปลอดภัย
ขอฝากความรักเอาไว้ ในหัวใจเธอ
เพลงจบแล้ว ปากผมยังไม่หุบเลย ยิ้มกับสิ่งที่ไม่คิดว่า คนหน้าเข้ม ตาคม จะทำแบบนี้ มาร้องเพลงจีบผู้ชายด้วยกันได้ยังไง ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นผมถีบออกแล้ว
“ตอนนี้อย่าเพิ่งมีใครนอกจากเฮียเลยนะ”
“เฮียฝากหนูไว้ได้ไหม”เฮียถามผมดึงมือจากอกไปจูบ เขยิบตัวเองขึ้นมาจนปากชนกัน
“ได้ไหม”กระซิบถามผม
“ให้แล้วห้ามเอาคืนนะ”ผมกระซิบกลับบ้าง เฮียลุกมาดึงผมเขาไปกอดและจูบกับคำตอบที่ฟังแล้วคงพอใจ
“เฮียรักหนู”ผมได้ยินเฮียกระซิบคำนี้ก่อนเราจะปิดไฟและล้มตัวลงนอนกอดกันในความสลัว มีแสงจันทร์สาดส่องเข้ามา ไม่เข้าใจเลยจากหยอดตากลายมาหยอด(ใจ)กันได้ยังไง แต่รู้สึกเฮียจะข้ามขั้นตอนมาแล้วนะ จะมาขออะไรตอนนี้ ก่อนหน้านั้นก็ฝากไปหลายครั้งแล้วนะเฮีย นั่น นั่น คิดไม่ขาดคำเริ่มทำการฝากรักผมอีกแล้ว แต่คืนนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง ตรงที่
ตรงที่
.
.
.
.
.
งดถ่ายทอดสดคร๊าบบบบบบบบบบบบบบ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อืมมมมมมมม เฮียยยยยยยยยยยย
*********************************************************************************************
ปล. ขอบคุณเจ้าของบทเพลงนี้ คุณพจน์ สุวรรณพันธ์ ที่แต่งเนื้อร้อง มีความหมาย พร้อมทำนองที่ไพเราะให้ได้ฟิน ใครไม่ฟินคนเขียนฟินคนเดียวก็ได้ ฮี่ฮี่ ไม่คุยอะไรกันมาก นอกจากขอบคุณทุกกำลังใจเช่นเคย ยังรับคำติเพื่อก่อเหมือนเดิมนะคะ ตอนนี้ชิวๆหวานๆขำๆ ฝืดๆ ฮ่าๆๆๆๆ และมีหมกเม็ดตอนท้าย น้องหนูเขาอาย

(หรือแกขี้เกียจบรรยายกันแน่) ไปทำงานต่อแล้วจ้า มาช้าแต่ก็มาแน่นอน ไม่ดองกลัวยุ่ย หุหุ
อีกนิดดด เอี๊ยดดดดดด เบรคแทบไม่ทัน เม้าท์เรื่อง IMG ตอนแรกนึกถึง พี่เวียร์ สกลวัฒน์ นะกับบทเฮีย น้องเก้า จิรายุ กับบทน้องหนู โดยรวมก็คือๆอยู่ ส่วนน้องหนู IMG นี้ ชอบหน้าเขา รูปร่างขนาดไม่เห็น แต่จิ้นเอาว่าสูงโปร่งแต่น้อยกว่าเฮีย ไม่บอบบางแต่ถึกน้อยกว่าเฮียครึ่งหนึ่ง แค่นี้เอง 5555