>>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )  (อ่าน 1623863 ครั้ง)

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ชอบช้อบชอบรูปนายเข้ม พร้อมจะปกป้องดูแลน้องรันที่สู้ด นายๆทั้งสองนี่ แอบมีกุ๊กกิ๊กกันรึเปล่าน๊อ. อยากบอกว่าแอบบ่อน้ำตาตื้นด้วย. ฉากรัก รัก รัก เต็มหัวใจจนล้นปรี่ มีความสุขมากกก แล้วจากกันด้วยหัวใจทั้งสองที่ต้องฝากไว้ให้กันคนละครึ่งดวง คงจะมีสักวันที่จะรวมหัวใจไว้เป็นดวงเดียวกัน อดทน. สู้ๆ เฮียกร ลูกหนู คนอ่านเชียร์สุดใจ ขอบใจจร้า

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
เชียร์สุดใจขาดดิ้น อยากจะโหวตให้เฮียหนู แต่หมดสิทธิ์เราเพิ่งรู้จักล้าได้ไม่นาน เสียดายจัง คนแต่งสู้ๆนะคะ :L1: :pig4:

fillgoto

  • บุคคลทั่วไป

 :hao5: :hao6: :hao7:

ขอคอมเม้นรวดเดียวเลยนะคะ เราอ่านตั้งแต่ตอน 1 ถึง 31 เลย
คิดไม่ผิดเลยจริงๆที่อ่านเรื่องนี้ อ่านไปดิ้นไป ทั้งฮาทั้งเขิน
เฮียกับหนูน่ารักมากๆ แต่พ่อนกนี้ฮามากในตอนแรกๆ ตอนแรกๆเราแอบอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่รู้เพราะเริ่มอ่านตอนกลางคืนเลยง่วงหรือเปล่า
แต่โดยส่วนตัวชอบนิยายแนวแบบนี้อยู่แล้ว เลยเอาวะอ่านต่อ พออ่านต่อเป็นเรื่องเลย
ติดซะแล้ว หัวเราะลั่นห้อง จนแม่อาจคิดว่าลูกสาวเป็นบ้าได้
เรื่องนี้มีทุกอารมณ์เลยคะ ตลก ดรามา และ อื่นๆครบเลยสำหรับเรา แต่ที่ชอบคือ ไม่ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปเครียดแค่ไหน มันก็ฮาไปหมด ดีมากๆสำหรับเรา เพราะเราเป็นคนอ่านอะไรแล้วจะอินมากๆ ไม่งั้นคงเครียดตาย ฮ่าๆ (อาการหนัก)
สำหรับเราเราคิดว่าตัวละครทุกตัวดูน่าสนใจหมดเลยคะ คุณเขียนได้ดีมากเลย มีการปูเรื่อง และ กล่าวถึงตัวละครได้ดี โดยที่ไม่ลืมบางตัว แบบเราเคยอ่านบางเรื่อง เปิดตัวละครมาแล้วจู่ๆก็หายไปเลย หรือทำให้ตัวละครนั้นๆมีปม แต่ดันไม่เฉลย คนอ่านก็เลยค้างคา
แต่สำหรับเรื่องนี่้มันไม่ใช่ นักเขียนเขามีคำตอบให้กับทุกคนเลย ฮิๆ

เข้าเรื่องเลยดีกว่า (อ้าวนี้ยังไม่เข้าหรอ)
เราชอบเฮียมากเลยคะ ปกติไม่ชอบผู้ชาย(พระเอง) หัวเกรียนๆ มันดูแบบ ฮ่วยไม่หล่ออะ (ก็คนเพิ่งออกจากคุกจะเอาผมที่ไหนละวะ ?)
แต่พออ่านไปอ่านไป อ้าวตรูหลงเฮียเข้าเสียแล้ว  :-[ ผู้ชายไรฟร่ะ โคตรน่ารักเลย อ่อนโยนซะเหลือเกิน พี่เข้าไปอยู่ในคุกได้ไงค๊าาา !!!

แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือน้องหนู ผู้ชายอาร๊ายยยยยยยยยยยยย แบ๊วเหลือร้าย
แถมปากน่าตบ(ด้วยปาก)เป็นที่สุด ♥ เป็นยังไงงี้เฮียถึงหลงหัวปักหัวปำ  :o8:

ทุกคู่ในเรื่องนี้ก็ไม่น้อยหน้า ดูน่ารัก ? หมดเลย
แต่เราชอบความกวนของนายเฟย กวนแบบ เอิ่มมมมม ยิ่งเห็นอิมเมจนายทั้งสองแล้วแบบว่า
นายเทียนช่างเป็นเคะที่น่ากดมาก (เอ่นายเทียนๆ เคะหรือเปล่าหว่า ?) หน้าตาเย็นชาๆ นั้นมันแบบบ ><

แล้วก็คู่เบียร์กับสิบ คู่นี้ก็หวานมากๆ เบียร์เชื่อแต่อี?เสก มันน่านัก  :katai1:
ทำไมไม่ฟังพี่สิบบ้างหืมมม Y_Y

แล้วก็เข้ม ไอ้คนแอบเกลียดมากตอนแรก วุ่นวายกับเฮียกับหนูจริง
แต่พออ่าน Part ของรันแล้ว ดูเหมือนตานี้จะชอบรันจริงๆนะเนี่ย หรือเราคิดไปเอง
ไป่ก็โอเคสำหรับรัน แต่เราแอบเชียร์เข้มมากกว่า มันดูน่าตื้นเต้นกว่า อิอิ (ตื่นเต้นไรฟร่ะ ?)  :hao6:

 ขอบคุณสำหรับนิยายที่แก้เครียด และสนุกมากๆ เรื่องนี้ด้วยคะ ♥ :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2013 08:46:07 โดย fillgoto »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ดูนายเฟยกับนายเทียนแล้วน่าจิ้นดีนะ

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
เสียน้ำตาไปกับหนูมิใช่น้อย :monkeysad: ต้องจากคนที่รัก
แต่ก็กำลังจะกลับไปหาคนที่รักไม่น้อยไปกว่ากันเช่นกัน
ขอให้พี่สิบทำงานสำเร็จส่งตัวมินนี่กลับบ้านอย่างปลอดภัย
จะได้กลับมาอยู่กับเบียร์อย่างที่ได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนแรก
หวังว่าการส่งหนูกลับบ้านครั้งนี้จะไม่ทำให้เฮียเดือดร้อนนะ
คนเคยอยู่ด้วยกันแล้วอยู่ๆมาหายไปต้องผิดสังเกตุกันบ้างล่ะ
ถ้าเฮียคิดถึงหนูก็มองเจ้าชวดให้คลายคิดถึงไปก่อนแล้วกัน :hao3:
ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
อืมมมมมมมมมม เห็นนายเฟยกับนายเทียนแล้ว.......
จากเมื่อก่อนคิดว่านายเฟยเป็นเคะ พอมาเห็นอิมเมจของทั้งสองเเบบนี้
ทำไมความรู้สึกเคะมันเอนเอียงไปทางนายเทียนนะ หึหึ...........ก็ไม่รู้สินะ  o16 o3 :o9:

หรือคิดว่าไง?.....  o8


ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
>> ป.32 <<  Past’s Here

‘กร’

‘กร’

‘มาสิ ขึ้นมา’

‘กร อย่าไป’

 ‘พ่อ เสียงพ่อจริงด้วย แต่พ่อตายแล้วนี่’
 
‘ใช่ พ่อกรตายแล้ว ตายเพราะใครล่ะ นึกสิ ฮ่าๆๆๆๆ’
 
‘หยุด ฉันบอกให้หยุด ความผิดเธอ ไม่ใช่ลูกฉัน’

‘พวกแกทั้งหมดนั่นแหละ ต้องชดใช้ ฮ่าๆๆๆๆ’

‘ฮ่าๆๆๆๆๆ’

‘พ่อ’

‘พ่อครับ’

‘ตุลย์’

‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด’

เสียงเรียกที่อ่อนโยน เสียงหัวเราะพร้อมเสียงกรีดก้องอยู่ในหัว ไม่ว่าจะหลับกี่ครั้งตื่นกี่หน เสียงเหล่านี้ก็ไม่เคยจางหาย ถ้ามันมีแค่เสียงอ่อนโยนก็คงจะดี

 ผมลืมตาลุกพรวดนั่งหายใจ เหงื่อออกเต็มหน้า รอบข้างเป็นลูกกรงเหล็ก รอบตัวคนนอนเบียดเสียดเป็นเรื่องชินซะแล้วสำหรับสามปีที่ผ่านมา เมื่อผมก้าวเข้ามาเหยียบที่นี่

‘ไอ้ฆาตรกร’

‘ไอ้สารเลว’

‘ไอ้ทรพี’

‘แม่งจบสูง แต่สันดานต่ำ’

‘คนเหี้ยๆอย่างมึง การศึกษาไม่ช่วยเลยโว้ย’

‘ถุย สุดท้ายก็ไอ้ขี้คุก’

‘ฮ่าๆๆๆๆๆ’

เสียงด่าเสียงสาปแช่งตะโกนดังก้องใส่หูผมที่ถูกใส่ตรวนเดินผ่านเหล่านักโทษแต่ละแดน ที่ผมไม่คิดจะสนใจ แม้แต่ ขว้างปาสิ่งของที่ทั้งนุ่มสลับแข็งก็ไม่ได้อยู่ในโสตประสาทการรับรู้ มีแต่กลิ่นคาวเลือดที่ทำให้รู้สึกว่าผมยังรู้สึกเจ็บแต่ไม่มากเท่ากับใจที่มันด้านชาไปหมด จนถึงแดนที่ผมควรจะต้องใช้ชีวิตในแบบ

 ‘นักโทษ’

อยู่แบบไม่อิสระภาพ อยู่แบบที่รอว่าวันหนึ่งในอีกหลายปีข้างหน้า ผมอาจจะได้ออกไปถ้าไม่ตายเสียก่อน

ทำไมคนที่มีพร้อมอย่างผมต้องมาอยู่ที่นี่

หลายคนสงสัย

อยากรู้

แต่

ไม่มีใครรู้

นอกจาก

ผม

ที่จะให้

มันตายไปกับตัว
.
.
.
.
ผม กรกฎ มีพ่อแม่เป็นศาตราจารย์ด้านเศรษศาสตร์ จบการศึกษาจาก สหรัฐอเมริกาทั้งคู่ ท่านมีผมตอนที่กำลังศึกษาอยู่ แต่ท่านไม่เคยคิดจะหาทางออกโดยการกำจัดผม กลับยินดีและยินยอมที่จะดร็อปไปก่อน ท่านเป็นคนหัวสมัยใหม่ในยุคนั้นที่คนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับใช้ชีวิตอยู่ก่อนแต่ง แม้แต่ปู่ย่าตายาย ก็ไม่ยินดีแต่เมื่อเรื่องเกิดมาแล้วก็ต้องยอมรับ ยังไงพวกท่านก็คือสายเลือดที่ตัดไม่ขาด และยังมีหลานชายคนแรกให้กับทั้งสองตระกูล ตระกูลทางปู่ย่าผมเป็นตระกูลนักธุรกิจ มีกิจการโรงแรม รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ มูลค่านับไม่ถ้วน ทั้งในและต่างประเทศ ตากับยายผมเป็นเจ้าของกิจการเกี่ยวกับพวกอัญมณี มีบ่อพลอย เหมืองแร่ อยู่หลายแห่ง พ่อแม่ผมไม่อยากสืบทอดกิจการทางบ้าน พวกท่านปล่อยให้น้องๆเป็นคนสืบทอด แต่หุ้นส่วนใหญ่คือพ่อผมที่สร้างจนเป็นปึกแผ่นกับปู่  หลังพวกท่านเสียชีวิต มรดก ก็ถูกแบ่งตามสัดส่วนที่ควรได้ โชคดีที่พ่อแม่มีพี่น้องที่รักใคร่กันดี ไม่โลภ เป็นอะไรก็ห่วงใยให้ความช่วยเหลือ ไม่เคยทอดทิ้ง จึงไม่มีปัญหาตรงนี้มากนัก ท่านจึงเลือกงานด้านความรู้โดยการเป็นอาจารย์สอนที่สถาบันแห่งหนึ่งหรือรับเชิญไปบรรยายไม่เคยคิดถึงค่าจ้าง ท่านมีแต่ให้

‘เรามีแล้วก็ต้องรู้จักแบ่งปัน แม้แต่ความรู้ก็ควรให้ อย่าทะนงตน เหมือนที่เขาว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด จำไว้นะกร’ผมไม่เคยคิดว่ามันคือคำสั่ง ผมฟังว่าคือคำสอนและทำปฏิบัติเสมอ จนระยะหลังแม่สุขภาพไม่ค่อยดีนักท่านเป็นโรคหัวใจ เลยต้องหยุดพักแต่ถ้าใครมีปัญหาหรือต้องการคำปรึกษาท่านก็ยินดี

ผมโตขึ้นมาท่ามกลางความรักความเอาใจใส่และความเข้าใจของท่าน ในวัยเด็กผมก็เหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่ผมชอบอ่านหนังสือและดูพวกสื่อที่มีความรู้ทุกชนิดโดยเฉพาะเกี่ยวกับเทคโนโลยีจะชอบเป็นพิเศษ ผมเข้าระบบโปรแกรมคอมฯง่ายๆได้ตั้งแต่สามขวบครึ่ง  พูด เขียน อ่าน และคิดเลขของเด็กประถมหกได้ตอนสี่ขวบ พูดภาษาต่างประเทศได้หกภาษาในเวลาไม่ถึงครึ่งปี เมื่อตอนหกขวบ โดยการจดจำและเลียนแบบ  คนรอบข้างบอกผมไอคิวสูง แต่พ่อแม่ผมปกติไม่ได้ตื่นเต้นคิดว่าผมเป็นเด็กพิเศษแต่อย่างใด เด็กพิเศษกว่าผมมีอีกเยอะ แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถเป็นอัจฉริยะได้

‘คนฉลาดแต่ขาดเฉลียว ก็ทำให้มีโอกาสพลั้งพลาดได้ เหมือน สีเท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง’และผมก็รู้ถึงข้อนี้ได้ในอีกหลายปีต่อมา ไม่ใช่เพราะความทะนงตรง แต่เป็นเพราะผมไม่ได้คิดว่ามันจะเกิด มันคาดไม่ถึงจริงๆ

 ผลการเรียนอยู่ในขั้นดีมากมาตลอดตั้งแต่เด็กจนจบสถาบัน MIT จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของสหรัฐอเมริกา และทำงานที่สถาบันวิจัยด้านเทคโนโลยีแห่งหนึ่งสองปีที่นี่ พ่อแม่ก็ไม่ได้ท้วงแต่ผมรู้สึกเบื่อกับระบบงานที่คนต่างชาติมักไม่ค่อยยอมรับคนเอเชีย แต่ผมกับเพื่อนคนไทยและคนเอเชียอีกสองคนได้ทำผลงานให้เขายอมรับแต่ก็ยังถูกกีดกัน ผมเลยลาออก แต่เพื่อนเอเชียอีกสองคนอยากอยู่ต่อ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร พวกผมก็ยินดีและสนับสนุน ระหว่างนี้ผมก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยแต่ไม่เปื่อย หาความรู้และประสบการณ์พร้อมรับงานอิสระไปด้วย รายได้ก็มากอยู่  ถ้าไม่ไปไหนก็จดจ่อแต่หน้าคอมกับสมุดบันทึก เปลี่ยนไม่รู้กี่รุ่น ไม่ใช่ผมไม่รักษาของ แต่บางอย่างมันมีการพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้นโดยคนประเภทเดียวกับผมคิดวิจัยออกมาและเป็นประโยชน์ก็ต้องมีการผลิตนำมาใช้จริง

“เฮ้ย กร วันนี้ไปไหนหรือเปล่า”วิทย์ ลูกเจ้าสัวส่งออกชื่อดังระดับแนวหน้าของเมืองไทย เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่รู้จักกันตั้งแต่เด็กจนโต ต้องบอกว่ามันเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ไม่ต้องพูดกันมาก รู้นิสัยใจคอ เป็นคนสนุกสนาน เข้ากับคนง่าย ต่างจากผมที่มักจะเงียบแต่ไม่ได้เก็บตัวเรียนคร่ำครึเหมือนคนแก่เรียนทั่วไป แต่มันจะแซวผมเสมอ

‘ไอ้ที่แสดงออกไม่ค่อยได้ ไอ้ที่ไม่พูดได้ตลอด สะกดจิตเหรอวะ’ ฟังดูเหมือนผมมักง่าย เจ้าชู้ มีผู้หญิงเข้าหาไม่เคยซ้ำหน้า และจัดว่าเป็นผู้หญิงมีระดับทั้งนั้น ผมไม่ได้เป็นคนวัดระดับของพวกเธอ แต่พวกเธอและคนอื่นตีค่ากันไปเอง ทั้งที่ไม่ว่าระดับไหน เรื่องความต้องการก็เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับรสนิยมว่าชอบแบบไหน ผมไม่เคยถามแต่ก็ใส่ใจคู่นอนที่มีอะไรด้วย ว่าต้องการอะไรโดยการสังเกตหรือไม่พวกเธอก็ออกปากเอง ถ้าถึงขั้นมาโซและซาดิส คงต้องปฏิเสธ ผมไม่ชอบแนวนี้เท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้นุ่มนวลจนจืดชืด ความสัมพันธ์คงไม่ต้องนิยามว่าคบกันแบบไหน ผมยังไม่พร้อมจะมีครอบครัว และไม่เคยมีอยู่ในหัวด้วยซ้ำ

“เปล่า”ผมตอบสั้นๆ มือก็ทำงานไปด้วยอย่างไม่คิดจะละให้เสียเวลา

“กันไม่น่าถามเลยว่ะ ถ้าจะหานายก็ที่ห้องนี่แหละ ลืมไป”วิทย์พูดยิ้ม ๆ ก่อนจะนั่งที่โซฟา ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ New York มหานครที่ไม่เคยหลับไหล ผมมีกำหนดจะกลับเมืองไทยในอาทิตย์หน้า แต่วิทย์อยู่ต่อเห็นว่าจะหาประสบการณ์อีกสักหน่อย พ่อแม่กับน้องก็บินมาหาผมเดือนล่ะสองครั้ง ตั้งแต่แม่ไม่ค่อยสบายเลยต้องเพลาลง คุยกันทางโทรศัพย์อย่างเดียว ผมเป็นห่วงแม่มากเหมือนท่านมีอะไรในใจแต่ไม่พูดผมจับความรู้สึกนี้ได้ทางน้ำเสียง ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงท่านจะสั่นเครือ

‘คิดถึง แม่รักลูกนะ’

‘ผมก็รักแม่ ดูแลตัวเองนะครับ’

“นายมีอะไร”ผมถามวิทย์ ละจากจอหันไปมองแว่บหนึ่ง

“อ๋อ มีปาร์ตี้ที่บ้าน อีลิน  เธอสนใจนายอยู่นี่หว่า”วิทย์บอกจุดประสงค์พร้อมยักคิ้ว อีลิน คือ เอลิน่า ไม่ได้เรียกจิกหัวแต่อย่างใด เป็นลูกเศรษฐีของเมืองนี้ เป็นนางแบบ เจอกันตอนผมไปแนะนำระบบโปรแกรมกับพ่อเธอและหลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสเจอกันอีกนอกรอบ อีลินเป็นผู้หญิงครบสูตร สวย รวย ฉลาด จากการที่คุยเธอไม่ใช่ผู้หญิงน่าเบื่อที่คุยแต่เรื่องตัวเองผสมเรื่องคนอื่นจนเกินไป หรือแม้แต่ช้อปปิ้ง ผิดกับทัศนะคติที่ไม่รู้ใครระบุว่า สาวผมบลอน์ ตาสีฟ้า หน้าอกใหญ่ มักจะไม่ฉลาด แต่อีลินตรงข้ามทั้งหมด
 
“แล้วไง”ผมคงใส่ใจในคำตอบมันมากเกินไป เราสองคนจะคุยกันแบบนี้ มีบ้างที่หลุดมึงกู ผมไม่ได้ว่าอะไรหรอก บางครั้งก็ตอบกลับด้วยภาษาตามกัน

“อะไรวะ ไอ้คำว่าแล้วไง ก็ อีริน สนใจนายเลยให้กันมาชวน”วิทย์เน้นเสียงพูดเนิบนาบ พยักหน้าหงึกๆ

“ไม่ทำไม นายจะให้ไปใช่ไหม”ผมเก็บงานก่อนจะเดินไปเปิดระเบียงหยิบบุหรี่มาสูบ

“อืม แต่กันก็ไม่อยากบังคับ เพียงแต่รับหน้าที่มาอัญเชิญเฉยๆ”วิทย์ยักไหล่ ถ้าลงด้วยผมไม่อยากไปก็จะไม่มีการเซ้าซี้อีก แต่มันพูดยิ้มแกมแหย่ ถ้ามีหางคงสั่นดิกๆ

“ไปก็ไป”ผมตอบรับ มันหูตั้งทันที

“อย่างนี้สิวะ เอาน่าถือว่าเป็นการฉลองส่งท้ายก่อนกลับเมืองไทย กันคงคิดถึงนายมากแน่ ๆ ตั้งแต่เด็กก็มีนายช่วยเคี่ยวเข็ญจนจบและได้ดี”มันเดินมาตบไหล่ พูดขอบอกขอบใจแต่หน้ามันดูจริงใจมาก

“เกินไป ให้เข็ญยังไง ถ้าในหัวนายมีแต่ขี้เลื่อยก็ไม่จบหรอก”ผมผลักมันออก ก่อนจะเดินไปหยิบเบียร์มาเปิดและส่งให้

“สรุปชมหรือด่าวะ”มันทำเป็นหน้าฉงนแต่มือรับ

“แล้วแต่สมองจะเลือก”ผมยกยิ้มก่อนจะนั่งตรงข้าม มันเบะปาก คุยกันสักพักก็นัดแนะเวลาและแยกย้าย
.
.
.
ตอนนี้เรามาถึงหน้าคฤหาสน์ตระกูล วิลสัน แล้ว ไอ้คำว่าบ้านที่วิทย์พูดใช้สำหรับที่นี่ไม่ได้หรอกครับ การ์ดตรวจบัตรและรถก่อนเข้าทุกคัน ผมขับแอสตัลมาตินเข้าไปจอดแล้วก้าวลงจากรถ ก็เจอวิทย์ยืนรอรับอยู่ ตอนแรกจะมาพร้อมกันแต่ผมคิดว่ามาเองสะดวกกว่าเผื่อกลับก่อน วิทย์อาจจะไปต่อ

“เฮ้ ทางนี้”เสียงอีลินโบกมือเรียก เธออยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีแดงเพลิง รอบคอประดับด้วยมรกตส่องแสงระยับ  พอเดินไปถึงเธอก็ทักทายทันที โดยการแนบแก้มซ้ายขวา

“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว เกวน”เอลิน่าเกาะแขนผมอย่างสนิทสนม ผมยกยิ้ม จะแกะมือเธอออกก็จะดูหักหน้าเธอเกินไป ชื่อผมเรียกยาก เพื่อนก็เลยขอเรียกชื่อนี้แทน ผมก็ตกลงแต่เคยคิดว่า ไม่พยายามหรือเปล่า ชื่อบางคนออกเสียงยากผมยังเรียกเลย ถ้าจำเป็นจะต้องสื่อสารด้วยนะ

“ขอบคุณฉันหน่อยสิ อีลิน”วิทย์กระเซ้าทั้งน้ำเสียงและแขนที่กระทุ้งเบาๆ ทั้งคู่สนิทกันมาก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีเซ็กส์มาเกี่ยวข้อง ผมไม่ถามหรอก มันบอกผมเอง

“โอเค ดร. วิลล์”อีลินขยิบตาพูดล้อเลียนวิทย์ในชื่อกลาง ก่อนจะแนะนำเพื่อนสาวสวยรวมถึงหนุ่มให้รู้จัก คุยกันออกรส ผมตอบตามมารยาท กะเวลาให้ไม่น่าเกลียดเกินไปค่อยขอตัวจะดีกว่า

“เกวน สนุกไหม”อีลินเดินมากอดผมข้างหลัง หลังจากผมขอตัวมาสูบบุหรี่ตรงสวนและพักสายตา

“ก็ดี”ผมบอกก่อนจะค่อยๆแกะมือเธอออก พอหันไปด้วยส่วนสูงแบบผู้หญิงตะวันตก เธอโน้มผมลงมาจูบเบียดกายเข้าหา ผมตอบกลับแต่ไม่ใช่ตามอารมณ์ ก่อนจะดันเธอออก

“คงไม่ดี เดี๋ยวพ่อคุณมาเห็นเข้า”ผมท้วงไม่ใช่เพราะกลัว แต่เป็นการรักษาหน้าเจ้าของบ้านมากกว่า

“ไม่ใช่ปัญหา ฉันชอบคุณ”เธอยักไหล่ไม่สนใจ ตามประสาคนตะวันตกที่ส่วนมากพ่อแม่จะไม่ค่อยเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวนัก แต่ผมไม่ได้หมายถึงทุกคนนะครับ

“ฉันต้องการคุณ”เธอกระซิบเผยอปากและจูบอีก ผมตอบโต้เธอจนครางออกมา ก่อนจะหยุดและดันออกจนอกนุ่มหยุ่นที่เสียดสีห่างอกผมไป

“ไม่ใช่ตอนนี้”ผมบอกเธอ ทำเอายิ้ม ที่ตอบรับก็แค่ความต้องการตามอารมณ์ ไม่มีเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยว

“งั้นหลังงานเลิก”เธอลูบไล้ปลายคางก่อนจะไล้ลงมาอกช้อนตาขึ้นมอง ผมสบตาด้วยใบหน้านิ่งเฉย ก่อนจะพากันมาในงาน ถ้าผมรู้ว่าการมางานครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผมในวันข้างหน้า ผมคงไม่มาแน่นอน

“ทิลด้า เฮ้”อีลินเรียกหญิงสาวในชุดเดรสคล้องคอสีน้ำทะเล ผมเกล้ามวยหลวม ปล่อยรุ่ยร่ายล้อมใบหน้าหวาน ปากเคลือบลิปสติกสีชมพูเผยอยิ้ม

“โทษที ฉันมาช้า”เธอสวมกอดพร้อมขอโทษ ก่อนจะเหลือบมองผมแว่บหนึ่ง

“ไม่เป็นไร เออ นี่ ดร. เกวน เป็นคนไทยเหมือนเธอแหละ ชื่อเขาเรียกยากพอกับเธอเลย นี่  ทิลด้า ชื่อไทยก็ไปถามกันเอาเองแล้วกันนะ คิกคิก”อีลินเอ่ยแนะนำเสียงกลั้วหัวเราะ ตำแหน่งที่ผมคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร แค่ผมจบในระดับนี้และเขามอบให้ก็เท่านั้น ที่จริงเธอไม่ต้องแนะนำผมขนาดนี้ก็ได้ ผมก้มหัวเล็กน้อยเชิงทักทาย ดูแล้วน่าจะอ่อนกว่าผมปีสองปี น่าแปลกใบหน้าสวยหวาน แต่ตามองราวกับทะลุเข้าไปในความคิดของอีกฝ่าย

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันธีรดา เรียก ดา ก็ได้”เธอก้มหัวเอียงคอเล็กน้อย ยิ้มหวานใครเห็นคงหลงใหล แต่ผมกลับรู้สึกแปลก มันเหมือนแฝงอะไรที่ผมคาดเดาไม่ได้

“เช่นกันครับ ผม กรกฎ”ผมตอบรับยิ้มเล็กน้อย

“ชื่อเล่นมีไหมค่ะ ดร.กรกฎ”เธอยกยิ้มเชิงล้อ

“กร ส่วน ดร. ไม่ต้องสนใจดีกว่า”ผมบอกเธอที่ยิ้มรับหัวเราะน้อย

“ค่ะ รู้ว่าไม่ชอบ”เธออมยิ้มพูดอย่างรู้ทันความคิดผม ก่อนจะคุยกันเล็กน้อยเพื่อนอีลินเข้ามาสมทบ ผู้หญิงพอได้จับกลุ่มก็คุยเรื่องที่บางครั้งผู้ชายไม่ควรมีส่วนร่วม ผมเลยขอตัวไปหาวิทย์ที่กำลังเริงร่ากับสาวๆ แต่เหมือนต้องหันกลับไปมองและก็จริงดังคาด เธอมองผมอยู่อย่างไม่ละสายตา ไม่ใช่ยั่วยวน แต่ดูเชิญชวนให้เข้าหา ผมมั่นใจว่าไม่ได้ตกหลุมเสน่ห์เธอแน่นอน เธออมยิ้มก่อนจะหันกลับไปคุยตามเดิม
.
.
.
.
“โอ้ว”

“อ๊ะ อื๊อออออ”

“อา อู้ว”

“เกวน  เกวน”

“อ๊ะ อื๊อออออออออ”

เสียงครางสุดเสียงก่อนจะขยับแรงๆเป็นการส่งท้าย ผมผละออกจัดการปลดเกราะลงถัง หลังออกจากงาน เราตรงมาห้องส่วนตัวของเธออีกที่หนึ่ง อีลินร้อนแรงมาก ถ้าไม่นับในรถ นี่ก็เป็นรอบที่สามบนเตียง

“อืม คุณเก่งจังเลย ฉันคิดไว้แล้วผู้ชายแบบนี้ต้องร้อนแรง”เธอเกยตัวบนอกผมที่นั่งพิงหัวเตียงสูบบุหรี่ ทำไมภาพผู้หญิงคนนั้นถึงได้ติดตาขนาดนี้ ไม่ใช่รู้สึกตกหลุมรักแน่นอน

“ผมกลับก่อน”ผมดันเธอออกหลังขยี้บุหรี่ที่ยังไม่ถึงครึ่งมวนบนที่เขี่ยคลิสตัล

“อะไรกัน อยู่ต่อไม่ได้เหรอ”เธอพาร่างเปลือยอวบอัด มากอดร่างเปลือยเปล่าของผมที่หยิบเสื้อผ้าจะสวม ดึงผมกลับไปจูบอย่างร้อนแรง ผมไม่ได้เคลิ้มแต่อยากลืมหน้าผู้หญิงที่เห็นกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง เลยต้องกลับไปที่เตียงเตรียมพร้อมตอบสนองเธอกลับรุนแรงกว่าเท่าตัว แต่ดูเธอจะถูกใจร้องครางไม่หยุด เหมือนผมจะเอาทุกอย่างไปปลดปล่อยกับเธอ จนสุดท้ายเธอพ่นลมหายใจก่อนจะหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน ผมแต่งตัวเสร็จก็ออกจากที่นั่นทันที
.
.
.
.
“กร จะเข้าไปทำงานที่สถาบันเดียวกับพ่อไหมล่ะ ชิมลางก่อน”เกือบสองเดือนที่ผมกลับมาแล้วไม่ได้คิดเรื่องที่นั่นอีก พ่อชวนผมให้ไปทำงานที่เดียวกัน เป็นสถานศึกษามีชื่อแห่งหนึ่ง

“ครับพ่อ”ผมตอบรับพ่อคิดว่าดีเหมือนกัน ก่อนจะท่านจะรับโทรศัพท์ พักนี้ดูพ่อเหมือนจะเครียด แม่ก็ดูเงียบแต่ถ้าผมอยู่ด้วยท่านก็จะยิ้ม สุขภาพท่านทรุดลง น้องๆก็มาปรึกษาว่าจะทำไงดี ผมก็ได้แต่ปลอบให้ใจเย็นอย่าเพิ่งตีโพยตีพาย อาจทำให้แม่คิดหนักกว่าเดิม

“กร เย็นนี้ไปงานบ้านลุงศิลากับพ่อหน่อยสิ”พ่อชวนผมหลังจากคุยโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว

“ครับ”ผมบอกท่านอย่างไม่ถาม ตั้งแต่ผมกลับมาพ่อมักจะชวนไปออกงานบ่อย ไม่ใช่เพื่อหน้าตาทางสังคมหรือโปรโมทลูกชายที่กลับจากนอกหมาดๆ ส่วนหนึ่งผมรู้พ่ออยากให้ผมมีครอบครัวสักที ท่านเปรยๆอยู่เหมือนกัน น้องผมมีแฟนกันแล้วแต่พ่ออยากให้ผมที่ลูกชายคนโตของบ้านแต่งงานก่อน ผมบอกตามตรงยังไม่ถูกใจใครเลย ไม่ใช่เลือกมาก แต่ไม่อยากเลือกมากกว่า ผมชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนแต่ในเวลาเดียวกันก็ต้องเข้มแข็งตัดสินใจอะไรได้เอง ช่วยเหลือตัวเองได้ ฐานะไม่ได้ซีเรียสอะไร คุยกันรู้เรื่อง น่าจะประมาณนี้ แต่มักจะเป็นเพื่อนซะมากกว่าหลังจากได้คุยกัน วิทย์ก็ยังติดต่อกับผมเกือบตลอด และแว่วว่าจะมีข่าวดีเร็วนี้ ผมล่ะไม่อยากเชื่อมันจะหยุดที่ทนายความสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น

“หนูวิ ก็น่ารักนะ ไม่พิจารณาหน่อยเหรอ”พ่อยกยิ้มพูดกับผม ลูกสาวเพื่อนท่านที่จะไปพบ

“อย่าใช้คำนี้เลยครับพ่อ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้เขาไม่รอผู้ชายไปเลือกหรอกครับ ผมขอดูๆไปก่อนแล้วกัน ผู้ชายเริ่มต้นที่สี่สิบก็ไม่สายหรอกครับ”ผมตอบพ่อกลั้วหัวเราะ ท่านส่ายหน้าตบไหล่

“กรก็เป็นซะอย่างนี้ แล้วเมื่อไหร่พ่อจะได้อุ้มหลานสักทีล่ะ แม่เขาก็อยากอุ้มนะ”ท่านพูดถึงแม่อย่างอ่อนโยนแต่แววตาสลดไปนิดถ้าผมดูไม่ผิด ผมไม่ได้อยากจับผิดท่าน อยากรู้ว่าท่านมีเรื่องอะไรให้คิดหรือเปล่า แต่ก็ยังไม่สบโอกาสพอจะถามท่านก็คุยเรื่องอื่นทุกที

“ผมเข้าใจครับ เอาเป็นว่าผมจะพยายามหาลูกสะใภ้ให้ได้เร็วๆก็แล้วกัน”ผมแบ่งรับแบ่งสู้ตอบพ่อที่สีหน้าดีขึ้นมานิด และหลังจากนั้นเหมือนทุกอย่างจะเป็นใจกับคำพูดนี้ของผม ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อผมไม่คิดว่าจะเจอคนที่ผมลืมหน้าไปแล้วหลังกลับจากอเมริกา
.
.
.
“คุณกร เจอกันอีกแล้วนะคะ”เสียงเธอทักพร้อมรอยยิ้มหวานเคลือบแฝงบางสิ่งที่เจออีกครั้งผมก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร

“ครับ คุณดากลับมาเมื่อไหร่”ผมเลยต้องทักทายเธออย่างเสียไม่ได้

“เมื่อเดือนก่อนนี่เองค่ะ แล้วนี่จะไปไหนเหรอคะ”เธอตอบพร้อมถามกลับ

“จะกลับบ้านน่ะครับ”ผมบอกแต่ไม่ได้ถามเธออย่างที่ควรจะทำ ดูเธอหน้าเจื่อนไปนิดก่อนจะยิ้ม

“รีบไหมค่ะ ถ้าไม่ ตรงนี้มีร้านอาหารอร่อย”เธอถามพร้อมชวนออกจะเกรงใจนิดหน่อย

“ได้ครับ”ผมตอบตกลงจะได้ไม่เป็นการเสียมารยาทกับเธอ ก่อนจะพากันไปร้านอาหาร สักพักรู้สึกได้ว่าเราคุยกันได้หลายเรื่อง ทำเอาผมทึ่งนิดๆ น้อยมากที่ผู้หญิงจะคุยเรื่องที่ผู้ชายคุยกัน อย่างกีฬา งาน จนถึงเรื่องหนังสือที่ชอบ จนผมลืมรอยยิ้มเคลือบแฝงไปเสียสนิท

หลังจากนั้นความสัมพันธ์เราคืบหน้าไปเร็วมาก ผมไปรับไปส่งเธอตลอดถ้ามีเวลา เที่ยวตามประสาคนที่ควรจะเรียก แฟน แต่ในใจผมรู้ได้เลยว่าผมแค่รู้สึกถูกใจแต่ไม่ได้รัก ธีรดาก็ดูจะเป็นอย่างนั้น แต่เราก็พอใจความสัมพันธ์แบบนี้

“กร พ่อไม่อยากให้ลูกคบผู้หญิงคนนี้”พ่อพูดกับผมในวันหนึ่ง สีหน้าท่านดูเคร่งเครียดมาก

“ทำไมครับ”ผมถามพ่อ มีแม่นั่งอยู่ข้างๆ จะว่าเรื่องฐานะไม่ใช่ พ่อไม่ใช่คนที่ดูถูกใคร และยังสอนมาถึงพวกผมด้วย

“เลิกซะ พ่อขอสั่ง”เป็นครั้งแรกที่พ่อไม่มีเหตุผล

“คุณค่ะ มีเหตุผลหน่อย ฉันดูหนูดา แกก็น่ารัก มีสัมมาคารวะดีออก”แม่จับแขนพูดถึงธีรดาอย่างอ่อนโยน

“ครั้งนี้ขอไม่มีเหตุผล”พ่อพูดเสียงอ่อนแต่เครียด ก่อนจะพูดต่อเป็นการตัดบทไปในตัว“เลิกซะ ผู้หญิงคนนี้จะสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวเรา อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้”

ผมสบตากับแม่แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา หลังจากนั้น ดูพ่อจะตั้งป้อมรังเกียจธีรดาอย่างมาก จนเธอไม่กล้าไปบ้านผมอีก ตั้งแต่คบกันมาเธอไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผมสักอย่าง แต่ผมก็ให้ตามสมควร  เธอไม่จุกจิก ไม่ถามเรื่องส่วนตัว และอีกหลายไม่ที่ผมรู้สึกดี จนผมรู้สึกสงสารทำไม่ลง แต่ก็ยังไม่ใช่ความรัก

 จนกระทั่ง

“กร ดามีอะไรจะบอกค่ะ”ธีรดาพูดกับผมหลังจากที่เราเสร็จกิจ ผมมองหน้าธีรดาเชิงว่าให้พูดมาเลย จะใช่กับที่ผมคิดหรือเปล่า จะบาปไหมถ้าผมภาวนาว่าขออย่าให้ใช่

“ดา ท้องค่ะ”เธอพูดพร้อมเดินมาใกล้ ก่อนจะกอดเอวผมที่ยืนนิ่ง

“ดาขอโทษ ที่ไม่ได้ป้องกัน ดาเครียดเรื่องงานจนล่ะเลย”เธอพูดหน้าเศร้าปนเครียด พักหลังตั้งแต่คบกันมาธีรดาป้องกันในแบบที่ผู้หญิงทำกัน แต่ผมก็ไม่เคยล่ะเลยตัวเอง ผมจำได้ว่า มีอะไรกับธีรดาครั้งล่าสุดตอนไปเที่ยวและดื่มที่ไม่ถึงกับเมามาย ถึงจะดื่มมากผมก็ไม่ใช่คนคออ่อนซะทีเดียว แต่คืนนั้นผมรู้สึกมึนและมีความต้องการมากกว่าปกติ มากซะจนตามตัวธีรดามีแต่รอยเต็มไปหมดรวมถึงร่องรอยบนที่นอนที่รู้ได้ว่าหนักเอาการ ผมยังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะทำอย่างนั้น แต่ธีรดาได้แต่ยิ้มบอกไม่เป็นไร เธอเองก็มีความสุขเช่นกัน

“กร คุณจะไม่พูดอะไรเหรอค่ะ ดาจะทำตามที่คิดไว้ทันที แค่พูดว่า คุณไม่ต้องการ”เธอพูดต่อเมื่อเห็นผมยังเงียบ แต่มาสะดุดตรงคำว่า ‘ไม่ต้องการ’ ใช่ว่าผมจะไม่รู้ความหมาย รู้จนแอบตกใจกับสิ่งที่เธอเสนอ ถึงผมจะดูไม่สนใจต่อสิ่งรอบข้าง แต่สิ่งมีชีวิตที่กำลังก่อตัวไม่รู้อะไรด้วย ผมทำไม่ได้ที่จะละเลย

“ดาเองก็ไม่พร้อมเหมือนกัน อีกอย่างถ้าพ่อแม่ดากับคุณรู้เข้า คงได้โดนตำหนิแน่”ธีรดาทำสีหน้ากังวล  สิ่งหนึ่งที่ผมรู้คือ ผมไม่ใช่คนแรกของธีรดา และไม่ได้สนใจว่าเป็นคนที่เท่าไหร่ ผมไม่คิดจะกล่าวหาว่าเธอท้องกับคนอื่นแล้วโยนให้ผม เดี๋ยวนี้มีวิธีพิสูจน์กันเยอะ เท่าที่คบกันธีรดาไม่ได้เป็นผู้หญิงลักษณะนั้น

“ดาจะเอาออกค่ะ จะทำเป็นว่าไปดูงานเมืองนอกและพักผ่อนสักระยะค่อยกลับ คุณจะไปกับดาไหมค่ะ หรือไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร”ผมมองธีรดาที่พูดและหาทางออกเหมือนเป็นเรื่องง่าย มันก็คงจะง่าย ถ้าผมเป็นคนมักง่ายไม่มีความรับผิดชอบ

“ดา”ผมเรียกหลังจากฟังเธออยู่ฝ่ายเดียว เธอช้อนตาขึ้นมอง

“อย่าทำ เอาเขาไว้”ผมบอกธีรดาที่อึ้งไป ก่อนจะยกยิ้ม

“คุณพูดจริงเหรอคะ”เธอถามเหมือนจะให้แน่ใจ

“ผมจะรับผิดชอบ”ผมพูดแค่นั้น เธอกอดแน่นสีหน้าดูดีใจ

“ขอบคุณค่ะกร ดาเครียดมากก็เลยคิดว่านี่เป็นทางออกที่ดีสำหรับเรา ดาก็ไม่ได้อยากเอาออกหรอกนะคะ”เธอพูดเสียงเหมือนจะร้องไห้ สับสน ผมเลยโอบเธอ

“ไม่ต้องเครียดนะ จะส่งผลต่อเด็ก กี่เดือนแล้ว”ผมปลอบและถามเธอ ถึงจะรู้สึกว่ายังไม่รัก แต่เธอกำลังตั้งท้องลูกผม ลูกที่ผมไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะมาไวขนาดนี้ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจแต่ผมก็ถือว่าเขาเป็นลูกที่ผมเต็มใจรับเขาเอาไว้แล้วทั้งที่ยังไม่เห็นหน้า

“เดือนกว่าแล้วค่ะ”เธอมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้น ผมพยักหน้าก่อนจะตัดสินใจแล้วว่า

“พรุ่งนี้ไปบ้านผม”ผมบอกเธอที่ยิ้มโผเข้ากอด

“ค่ะ”
.
.
.
.

“อะไรนะ กร”พ่อถามเสียงดัง

“ผมจะแต่งงานครับ”ผมบอกพ่อพร้อมธีรดาที่นั่งหน้านิ่งอยู่ข้างๆ

“พ่อบอกแล้วไง ใครก็ได้ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้”พ่อพูดเสียงเข้ม ชี้ธีรดาที่ก้มหน้า

“คุณค่ะ ค่อยๆพูดกัน”แม่จับแขนพ่อให้นั่งลง

“กร ทำไมพ่อขอแค่เรื่องเดียว ทำไม่ได้”พ่อพูดพร้อมสีหน้าที่ผิดหวัง

“ผมไม่รู้ว่าพ่อมีเหตุผลอะไร แต่เหตุผลของผมคือ ดากำลังท้อง”ผมบอกพ่อที่อึ้งไป แม่เอามือทาบอกอย่างนึกไม่ถึง ไม่ใช่ท่านไม่รู้ว่าผมเป็นยังไง มีความสัมพันธ์แบบไหนบ้าง ผมไม่ใช่ผู้ชายประเภทกินที่ลับไขที่แจ้ง และเมื่อเกิดขึ้นผมก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ

“กรว่าอะไรนะ”พ่อถามย้ำอย่างให้แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน

“ดาท้อง”ผมบอกก่อนจะมองธีรดาที่เอื้อมมือมาจับแขน แว่บหนึ่งผมเหมือนเห็นเธอยิ้มมุมปากใส่พ่อก่อนจะเปลี่ยนเป็นนิ่งตามเดิม พ่อเงียบไปอีกอึดใจ พูดไม่ออก

“เอาล่ะ ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับเถอะคุณ อีกอย่างเราก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว”แม่พูดปลอบพ่อที่เหมือนจะยังอึ้งกับเหตุการณ์ตรงหน้า สีหน้าเครียดยิ่งกว่าเดิม

“แล้วพ่อแม่หนูล่ะว่ายังไงบ้าง”แม่เป็นฝ่ายถามธีรดาเอง

“ก็ตำหนินิดหน่อยที่ดาไม่ระวังตัวเอง”เธอบอกเหมือนเป็นความผิดฝ่ายเดียว ตอนผมไปบ้านดา พ่อเธอแทบจะถลามาตบแต่ผมกันไว้ก่อนพร้อมออกตัวยอมรับทั้งหมด ไม่รู้ทำไมตอนนั้นผมเหมือนมีอคติ มันดูแปลกๆ พ่อแม่เธอเปลี่ยนคำพูดไวมาก แค่ผมออกโรงปกป้องธีรดา

“ลูกแม่ก็ผิดด้วย เอาอย่างนี้ พรุ่งนี้เราจะไปเจรจาเรื่องสินสอดและกำหนดงานกันนะ”แม่พูดและยิ้มอย่างอ่อนโยน

“ขอบคุณคุณแม่ค่ะที่เมตตา คุณพ่อด้วยนะคะ”ธีรดาลุกไปกราบตักท่าน พ่อเบี่ยงนิดๆไม่ยอมสบตา
.
.
.
.
หลังแต่งงานแบบเงียบๆมีแค่คนในครอบครัวสองฝ่ายเท่านั้น แต่มีคอลัมภ์ซุบซิบบ้าง บ้านเราไม่ได้ใส่ใจ ใช้ชีวิตตามปกติ ผมมาอยู่ที่คอนโดกันดูเหมือนพ่อจะยังรู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก จนกระทั่งใกล้คลอด พ่อขอให้กลับไปอยู่บ้าน และพูดบางอย่างกับธีรดา ที่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า ดีใจที่พ่อยอมรับธีรดาในระดับหนึ่ง
 
“หวังว่าเธอจะรักกรอย่างจริงใจ ฉันจะให้โอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยังไงก็ขอให้เห็นแก่ลูกที่จะเกิดมา”

ถ้าผมคิดสักนิดก็คงจะหาทางแก้ปัญหาที่จะตามมาข้างหน้าได้ แต่ทุกอย่างมันคงถูกลิขิตไว้แล้ว จนกระทั่งถึงวันที่ผมและคนในครอบครัวรอคอย

“ดีใจด้วยครับ คุณได้ลูกชาย สมบรูณ์ แข็งแรง”คุณหมอบอกผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ขอบคุณครับ หมอ”ผมยิ้มรับ

ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้า

สบตาที่ยังไม่ลืมดี

มือเท้าเล็กๆขยับ

ผมตกหลุมรัก

เทวดาตัวน้อยทันที

ความคิดที่จะตรวจดีเอ็นอี ไม่มีเหลือในสมอง สัญชาติญาณความผูกพันทางสายเลือดมันบอกว่า นี่คือ ลูกชายของผมแน่นอน ผมเกี่ยวนิ้วมือเล็กอย่างแผ่วเบา กลัวเขาเจ็บ จูบฝ่าเท้าน้อยๆที่ยกเหมือนรอสัมผัส

“ตุลย์ ตุลย์กร เทวดาของพ่อ”ผมเรียกลูกชายที่ตั้งชื่อให้เอง ขนาดแทนตัวว่า ‘พ่อ’ ผมรู้สึกอบอุ่น ตื้นตันในใจอย่างแรง และถ้าเขาเรียกผมได้ล่ะ แค่คิดก็ใจฟูฟ่อง ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด


ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
หลังตุลย์เกิดทุกอย่างดูจะไปด้วยดี ครอบครัวอยู่สงบสุข แต่วันหนึ่งเราพบกับความสูญเสีย อย่างเรียกกลับมาไม่ได้

แม่

แม่ที่เป็นภรรยาที่รักของพ่อ เป็นแม่ที่รักของลูก ย่าที่ใจดีของหลาน จากไปอย่างสงบ เมื่อตอนตุลย์อายุได้แปดเดือน พ่อโศกเศร้ามากเก็บตัวในห้อง ผมและน้องคอยดูแลท่านอย่างใกล้ชิดกลัวท่านจะคิดสั้น

ก่อนเสียแม่พูดบางอย่างกับผม

‘กร ดูแลพ่อ น้อง และ ตุลย์ ให้ดีนะลูก แม่รักทุกคนนะ’แม่พูดหายใจเริ่มรวยริน

‘ครับ แม่ไม่ต้องห่วง’ผมจับมือแม่ ยิ้มอย่างที่จะทำให้แม่สบายใจ ไม่มีกังวล ทั้งที่ในใจผมมันร้าวไปหมดแล้ว ถ้าไม่นึกถึงคนรอบข้างที่เป็นคนในครอบครัว ผมคงจะเผยความอ่อนแอมากกว่านี้

‘ที่จริง แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับกรนานแล้ว นานมาก มันเหมือนเรื่องตลก กรรู้ไหมแม่เคยคิดว่า พ่อนอกใจแม่ด้วยนะ มีอยู่พักหนึ่งพ่อคุยโทรศัพท์หน้าเครียด และแม่เคยรับสายอย่างไม่ตั้งใจ เป็นผู้หญิงด้วยนะ’แม่พูดหัวเราะเฝื่อนๆเหมือนจะตลกแต่ผมรู้ว่าไม่ใช่ นี่คือสิ่งที่แม่พยายามไม่เก็บมาใส่ใจ แต่ส่วนลึกความอ่อนไหวตามประสาผู้หญิงที่ระแวงสามีมันมีอยู่

‘แต่ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่คิดเฉยๆ ทั้งที่รู้ว่าพ่อไม่ทำแน่นอน กรอย่าทำนะลูก นึกถึงลูกไว้’แม่พูดกับผม สังเกตได้ว่าไม่เอ่ยถึงธีรดาสักนิด นี่เป็นอีกข้อที่แปลกไป จากที่เคยเข้ากันได้ดี พักหลังธีรดาไม่เคยเข้าหาแม่อีก แม่ก็คงจะรู้ได้แต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะรักหลานแค่เห็นหลานแม่ก็ยิ้มแล้ว ตุลย์เป็นที่รักของทุกคนในบ้าน แม้แต่พ่อผมขนาดไม่ชอบธีรดา ยังหลงหลานมาก ท่านรักด้วยใจจริง ผมจับมือแม่จนวินาทีสุดท้าย ก่อนจะทุกคนจะพร้อมหน้า แม่กอดและหอมตุลย์ที่เหมือนจะรู้กอดและหอมย่ากลับ ทำเอาแม่ยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะส่งคืนเมื่อวาระสุดท้ายมาถึง

หลังผ่านงานศพแม่ได้เดือนกว่า

“พี่กร กันย์ขอคุยอะไรด้วยหน่อย”กันย์น้องสาวก็เรียกผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“มีอะไรกันย์ ทำหน้าเครียดเดี๋ยวแก่เร็วหรอก”ผมเอื้อมมือไปคลายหัวคิ้วน้องสาว พูดขำๆ

“กันย์อยากจะขำนะ แต่กันย์เครียดจริงๆ”กันย์ถอนหายใจก่อนจะกอดแขนผม

“มีอะไร ไหนบอกพี่สิ”ผมเห็นว่าน้องสาวไม่เล่นแล้ว ก็เลยถามออกไป กันย์มองหน้าผมพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยปากพูด

“กันย์ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า เวลาพี่ไปข้างนอก พี่ดาดูไม่สนใจตุลย์เลย พอร้องก็เสียงดังใส่ จนแกตกใจ กันย์เลยไปเอาตุลย์มาเลี้ยงเอง หรือพี่ดาจะเครียดก็ได้”กันย์พูดอย่างไม่แน่ใจนักกับพฤติกรรมของธีรดา

“คงจะอย่างนั้นมั้ง”ผมบอกน้องสาวที่พยักหน้า

“แต่ยังไงพี่ก็ดูๆหน่อยก็ดี เผื่อมีปัญหาจริงๆจะได้ช่วยกันแก้ไข”กันย์พูดอย่างเป็นห่วงก่อนจะขอตัว พอน้องลับตา

 ผมคิดตามคำพูดน้อง ผมสังเกตมาได้สักพักเหมือนกัน ธีรดาเปลี่ยนไป ลูกร้อง ไม่ค่อยสนใจ ติดจะหงุดหงิด กลายเป็นผมที่ต้องดูเอง ผมออกจากงานประจำและรับงานอิสระ บางครั้งมีงานด่วน แต่ผมก็เต็มใจจะทิ้งทุกอย่างถ้าตุลย์ร้องหรือแกอยากเล่นด้วย ผมเลี้ยงลูกเอง  เปลี่ยนผ้าอ้อมเวลาถ่ายทั้งหนักทั้งเบา อาบน้ำ ป้อนนม ผมอยากให้ลูกกินนมแม่ แต่ดาบ่นว่าเจ็บทนไม่ไหว ผมต้องขอร้องให้ปั๊มน้ำนมใส่ขวดไว้ก็ได้ เธอก็ทำตามดูจะไม่เต็มใจถ้าผมไม่ขอดาก็ไม่ทำ ผมตัดสินใจถามว่ามีปัญหาอะไร ถามก็บอกไม่มี เครียด และออดอ้อน ตั้งแต่คลอดตุลย์จนถึงตอนนี้ เราไม่เคยมีอะไรกันอีก ผมเอาลูกนอนด้วยตลอด บางคืนตุลย์งอแงมาก จนเธอเหมือนจะรำคาญสีหน้าเคร่งเครียด ผมเลยย้ายลูกมานอนอีกห้อง น่าแปลกตุลย์ไม่งอแงสักนิด อารมณ์ดี กินอิ่มก็นอนหลับ มีบ้างที่ผมร้องเพลงกล่อมจนแกหลับในอ้อมแขนที่ผมโยกไปมา

Close your eyes, sleep is more than it seems
Soon you'll discover a garden of dreams
A blossoming tapestry lights up the dark
Dreams are the flowers that bloom in your heart

ระหว่างร้องตุลย์มองหน้าส่งยิ้ม ตาเริ่มเคลิ้ม ผมโอบลูกและโยกเบาๆ เดินรอบห้อง จนกระทั่งท่อนสุดท้าย ตุลย์ก็หลับคาอกพอดี

Believing in dreams isn't really so hard
Dreams are the flowers that bloom in your heart
Dreams are the flowers that bloom in your heart

ผมวางลูกลงบนที่นอนแผ่วเบา แต่ไม่คลายอ้อมแขนแกจะได้ไม่ตกใจ จนหลับสนิทผมหยิบผ้าคลุมให้

“ฝันดีนะครับ เทวดาของพ่อ”

.
.
.
“ฮึ คุณนั่นแหละผิด ไม่รับผิดชอบ”

“ฉันผิดก็ยอมรับ แต่เธอไม่น่าทำแบบนี้”

“ไม่มีวัน ฉันจะให้รู้กันไปข้าง”

“ลองดู”

ผมลืมตาขึ้นมาตอนดึกของคืนหนึ่ง ก่อนจะกอดตุลย์ที่ผวา ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันไม่ห่างนัก

“โอ๋ ไม่มีอะไรครับ พ่ออยู่นี้”ผมกระซิบโอบลูกไว้ คืนนี้อากาศค่อนข้างเย็นผมเลยไม่ได้เปิดแอร์ เปิดหน้าต่างที่มีมุ้งลวดกั้นไว้เท่านั้น ก่อนจะเงี่ยหูฟังแต่เงียบไปแล้ว ใครกันมาทะเลาะดึกๆดื่นๆ ผู้ชายในบ้านนี้นอกจากผมและพ่อก็ไม่มีใคร น้องชายเพิ่งกลับไปเรียนต่อ คนรับใช้ผู้ชายในตึกหรือยามยิ่งเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าเป็นพ่อล่ะ เสียงผู้หญิงอีกคน คงไม่ใช่หรอกมั้ง
.
.
.
“อ้อ”

“ป้อ”

“พ่อออออ”

ผมหัวเราะกับเสียงเล็กๆที่พยายามเรียกผม อบอุ่นเหลือเกิน คำที่อยากฟังมานาน ในที่สุดผมก็ได้ฟัง อะไรที่เป็นตุลย์ผมบันทึกไว้ทั้งหมดไม่ว่าจะด้วยกล้องหรือแม้แต่ความทรงจำในสมองที่ย้ำให้รู้ว่า เขาคือเทวดาตัวน้อยของผม

“เก่งมากครับ เทวดาของพ่อ”

“อู่”

“ปู่”

“หลานปู่ ไหนปู่กอดมั่ง”พ่อดึงตลุย์เข้าไปกอด หลังจากพูดได้หลายคำ ตอนแรกผมเครียดนะที่ลูกเกือบสองขวบไม่ยอมพูด แต่ฟังรู้เรื่องทุกอย่างแถมฟังได้สองภาษาด้วย ผมพยายามอยู่หลายครั้งก็ไม่พูด ไปปรึกษาหมอก็ไม่ผิดปกติอะไร ตอนนี้โล่งใจแล้วที่ตุลย์ไม่เป็นอะไร แถมพัฒนาการดีขึ้นมาก ผิดกับผู้เป็นแม่แย่ลง ธีรดาแทบไม่จับตุลย์เลย และตุลย์ก็ไม่เข้าหา นอกจากมีของเล่นถูกใจมาให้หรือวันไหนพูดดีๆตุลย์ก็จะอยู่ด้วย เป็นอย่างนี้จนกระทั่งตุลย์สามขวบกว่า

“พ่อคร๊าบบบบบบ”ตุลย์เรียกผมหลังตื่นนอน

“ครับ”ผมอ้าแขนรับร่างป้อมที่กระโดดเข้าใส่

“โอ้ย”แกร้องออกมา

“เป็นอะไรลูก เจ็บตรงไหน”ผมรีบวางสำรวจลูกทันที

“แขน ตุลย์เจ็บ”ตุลยยื่นแขนให้ดู ผมค่อยๆจับแขนลูก คิดว่าหักหรือเปล่า แต่ไม่น่าใช่เพราะแกกระโดดไม่แรงเลย ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยช้ำที่ผิวอ่อน

“ตุลย์ไปซนอะไรมาใช่ไหมครับ”ผมถามแบบนี้ดีกว่าถามว่าตุลย์ไปโดนอะไรมา เพราะตุลย์จะส่ายหัวตลอด

“ฮึ ตุลย์ไม่ได้ซน แต่วันนั้น ฮึก แม่หยิกและก็ ฮึก ตีตุลย์ ฮึก ฮืออออออ”ตุลย์พูดอย่างตกใจก่อนจะสะอื้นและร้องไห้ ผมกัดฟันเมื่อได้ฟังคำตอบของลูก ก่อนจะกอดร่างป้อมแต่ดูจ้อยลงไปถนัดตาเมื่อร้องไห้จนตัวโยน

“ไม่ร้องครับ เดี๋ยวพ่อทายาให้นะ คนเก่ง”ผมจูบหัวทุยเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ ผมไม่เคยตีลูกสักครั้ง ถึงทำผิดก็มีวิธีบอก ทำไมธีรดาต้องทำกับลูกขนาดนี้ 

“พ่อรักตุลย์ไหม”ตุลย์เงยหน้าถามผมที่มองอย่างแปลกใจกับเด็กวัยสามขวบที่ถามเรื่องแบบนี้ ตาแกเศร้ามาก

“รักสิครับ รักที่สุดในโลกด้วย”ผมยกตุลย์นั่งตัก พูดพร้อมหอมแก้มยุ้ย

“ฮึก จริงนะ”ตุลย์สะอึกสะอื้นถามต่อ กอดผมแน่น

“พ่อน้อยใจนะ ถ้าตุลย์ไม่เชื่อน่ะ”ผมแกล้งพูดและทำสีหน้าใส่ลูก ถึงหน้าผมจะดูดุ แต่ทำแบบนี้ทีไรตุลย์จะโอ๋ผมทันที

“ตุลย์เชื่อ  ตา ยาย แม่โกหก”ตุลย์พยักหน้าก่อนจะเผยออกมา

“ไม่เอานะครับ เด็กดีต้องไม่พูดแบบนี้ เดี๋ยวคุณแม่ได้ยินจะน้อยใจนะครับ”ผมบอกลูกเชิงสอน แต่น้ำเสียงไม่ดุ

“ฮึก ฮึก แม่ไม่รักตุลย์ พ่อรักตุลย์ก็พอ ปู่ ย่า  ฮึก อาด้วย ไปโน่นไม่มีใครรักตุลย์สักคน ฮืออออออ”ตุลย์พูดยาวเหยียดเสียงสะอื้นเกือบตลอด แต่ผมก็จับใจความได้ ผมยังไม่พูดอะไรกอดลูกแนบอกรอจนเงียบเสียง

“ใครพูดว่าครับ บอกพ่อได้ไหม”ผมจับหน้าลูกที่มีแต่คราบน้ำตา ดูน่าสงสารมาก ใครกันใจร้ายทำเทวดาของผมได้

“ยายพูดว่า ฮึก พ่อไม่อยากมีตุลย์ พ่อไม่รักตุลย์ ตา ลุง ก็พูด ฮืออออออออออออ”ตุลย์พูดออกมาพร้อมน้ำตา ผมเจ็บปวดในใจเหลือเกิน คิดดูว่าลูกผมที่เขาอายุแค่นี้จะเจ็บปวดขนาดไหน คิดว่าเขาไม่รู้เรื่อง ไม่มีหัวใจเจ็บไม่เป็นหรือยังไง

“แม่ก็พูดไม่ชอบตุลย์ จะไปไหนก็ไป ฮือออออ”ร่างเล็กโผเข้ากอดผมอย่างขวัญเสีย ผมกระชับแขน ซึมซับความเจ็บของลูกเอามาทั้งหมดแต่ไม่รู้ว่าจะบรรเทาได้ไหม เทวดาของผมจะได้ไม่เจ็บขนาดนี้ ผมได้แต่กอดลูกด้วยอ้อมแขนที่ไม่มีวันจะทำร้ายเขา

“พ่อรักตุลย์ รักที่สุด คนเก่งของพ่อ เงียบนะครับ”ผมพูดและหอมลูกด้วยความรัก ตั้งแต่มีตุลย์ คนรอบข้างบอกว่าผมดูอ่อนโยน มีชีวิตชีวา แต่ครั้งนี้ผมอยากจะสลัดสิ่งนี้ออกไปเพื่อจัดการคนที่ทำร้ายเทวดาตัวน้อยของผมก่อน ถึงเวลาที่ต้องคุยกันเสียที

ธีรดา
.
.
.
.
“แกฟ้องกรเหรอค่ะ”ธีรดาถามผมเสียงเรียบ สีหน้าไม่ตกใจแต่อย่างใด

“ลูกบอก ทำไมคุณถึงเรียกว่าฟ้อง”ผมพูดเรียบยิ่งกว่า เธอวางหวีในมือ

“คุณเชื่อเด็กสามขวบ”เธอเลิกคิ้วพูดใส่

“ผมเชื่อลูก ไม่ว่าเขาจะอายุเท่าไหร่”ผมจ้องเธอที่ดูจะเริ่มชักสีหน้าหงุดหงิดก่อนจะปรับให้อ่อนลง เมื่อสบแววตาผม

“ก็แค่หยอกเล่น บ้านโน้นไม่ได้ตั้งใจ ไม่คิดว่าแกจะจำและมาบอกคุณ เดี๋ยวดาบอกให้แล้วกัน ว่าอย่าทำอีก”เธอเดินมาเกาะแขนพูดเสียงสำนึกผิด ผมแกะออกมองหน้าเธอ

“ผมหวังให้เป็นเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะไปบอกด้วยตัวเอง”ผมพูดเสียงเรียบแต่เน้น เตรียมจะพูดเรื่องเธอต่อแต่ถูกชิงพูดก่อน เหมือนรู้ว่าผมไม่ได้ใจเย็นกับเธออีกแล้ว

“เดี๋ยวสิคะ กร ดาขอโทษแล้วไง ตุลย์ก็ลูกดาเหมือนกัน ดาก็เสียใจ”เธอเกาะแขนเอาหน้าซบ

“ถ้าคุณเสียใจ คุณคงไม่ทำร้ายลูกด้วยคำพูดและการกระทำ”เธอเงยหน้าขึ้นทันที

“ผมไม่เคยทำร้ายผู้หญิง แต่ถ้าทำร้ายลูกผมอีก ผมก็พร้อมที่ละความเป็นลูกผู้ชายไว้ก่อน”ผมพูดใส่ เธอกัดริมฝีปากอย่างรู้สึกเจ็บเมื่อโดนบีบแขน

“โดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นแม่แบบคุณ”ผมผลักเธอออกจนเซล้มไปบนเตียง นี่ผมเบามือที่สุดแล้ว เธอสะบัดหน้ากลับมามอง แววตากร้าว ผมก็มองเธออย่างไม่ลดละ เดินไปใกล้ เธอถอยห่าง ผมบีบคางเธออย่างแรง

“อื๊อ กะ กร จะ เจ็บ”เธอร้องเอามือแกะ

“เจ็บเหรอ แล้วลูกล่ะ คุณทำเขาได้ยังไง เขาตัวแค่นั้น รวมถึงบ้านคุณทำร้ายเขาได้ยังไง บอกผมสิ ธีรดา”ผมเน้นเสียงลอดไรฟัน เธอเริ่มกลัวน้ำตาไหล ตัวสั่น ผมว่าจะแค่สั่งสอนแต่พอนึกถึงตุลย์ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา ผมระงับอารมณ์แทบไม่อยู่อยากจะบีบคอเธอด้วยซ้ำ แต่จิตสำนึกมันก็คอยเตือนว่าอย่า

“ดาไม่ได้ ตะ ตั้งใจ ขะ ขอโทษ”เธอละล่ำละลัก ผมปล่อยจนเธอหน้าหัน

“อย่าทำร้ายลูกผมอีก”ผมพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินออกจากห้อง

ถ้าหันไปมองสักนิด จะเห็นได้ถึงสีหน้า น้ำเสียง และแววตาเจ็บแค้น ต่างจากที่ร้องขอลิบลับ

“ฮึ ไอ้กร พวกแก”
.
.
.
หลังจากนั้นดูทุกอย่างสงบ ธีรดาปรับตัวเองใหม่ เอาใจใส่ตุลย์อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนจนตุลย์เริ่มติดแม่มากขึ้น ดูแลครอบครัว จนผมเกือบคิดว่า ทุกอย่างมันเริ่มดีขึ้น

“กรค่ะ เราไปเที่ยวกันดีไหมค่ะ ไปทั้งครอบครัวเลย”เธอพูดกับผมสีหน้ายิ้มแย้ม

“ก็ดีนะ”ผมตอบก่อนจะสนใจหนังสือต่อ

“งั้น ดาไปบอกลูกและคุณพ่อก่อนนะคะ”เธอพูดก่อนจะเดินออกไป ผมมองตามจนประตูห้องทำงานปิดลง เธอพยายามชวนผมมีความสัมพันธ์ฉันท์ผัวเมียทั่วไป แต่ผมไม่รู้สึกกับเธอแบบนั้นแล้ว คิดว่าเธอจะไม่พอใจแต่เธอกลับไม่เซ้าซี้

วันก่อนผมไม่รู้ว่าใครบอกพ่อเรื่องตุลย์ พ่อโกรธมากที่เธอทำแบบนั้นกับตุลย์จะเอาเรื่องให้ได้รวมถึงบ้านโน้นด้วย แต่ผมห้ามเอาไว้ บอกว่าจัดการแล้ว แต่ไม่วายเธอโดนพ่อเกรี้ยวกราดใส่ เธอร้องไห้ขอโทษ และถ้ามองไม่ผิดผมเห็นเธอพยายามจะเข้าไปกอด ปากก็พูดจะไม่ทำอีก แต่พ่อปัดและเดินหนี ผมไม่อยากคิดอะไรที่มันอกตัญญูกับพ่อและธีรดาเกินไป แต่หลายอย่างที่เห็นมันพาให้คิด พ่อในสายตาผมและคนทั่วไป ยังดูสมาร์ทไม่เหมือนคนวัยใกล้จะหกสิบสักนิด เรียกว่าเดินด้วยกันคนทักว่าพี่น้องได้เลย

‘คุณกริช อย่าทำแบบนี้  ดาขอโทษ ดาขอโทษ’เสียงเธอคร่ำครวญตรงบริเวณหน้าห้องนอนตัวเอง

‘คุณทำอย่างนี้ไม่ได้ หึ ดาไม่ยอม’เสียงและท่าทางเธอเปลี่ยนไปจนน่ากลัว เหมือนมีอาการทางจิต
.
.
.
.
หลังกลับจากเที่ยว มองก็เหมือนเป็นครอบครัวสุขสันต์ แต่ใครจะคิดว่ามันเป็นการเที่ยวด้วยกันครั้งสุดท้าย ครั้งที่ผมไม่สามารถป้องกันและแก้ไขได้ มันเกิดขึ้นเร็วมากเรียกว่าไม่ตั้งตัว

ในคืนหนึ่งที่บ้านสงบเงียบราวกับว่ารอต้อนรับเหตุการณ์ที่กำลังจะมาเยือน น้องผมไปงานวันเกิดเพื่อน ตุลย์ร้องจะไปด้วย สิงหาที่กลับมาแล้วหลังเรียนจบ ก็พาหลานไปด้วยอย่างเคย กันย์ตามไปดูด้วยอีกคน คนในบ้านก็ไปเที่ยวงานตรงหน้าหมู่บ้าน พ่อเป็นคนอนุญาตเอง ลงตัว ทุกอย่างลงตัวจริงๆ หลังอาหารมื้อเย็นและแยกย้ายกันเข้าห้อง 

“อืม”เสียงใครบางคนพึมพำ หลังจากสลบไสลอย่างไม่รู้ตัว รู้แต่ไร้เรี่ยวแรง มือถูกมัดด้วยเชือกเส้นใหญ่อย่างแน่นหนา พยายามจะเพ่งมองว่าใครอีกสองคนที่ยืนอยู่ แต่ก็ยังเลือนลาง ได้ยินแต่เสียงเกรี้ยวกราด

“เธอทำแบบนี้ทำไม ทั้งที่ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่”เสียงทุ้มใหญ่ กระชากร่างที่อยู่ในชุดสีขาวโปร่งบางเห็นสัดส่วน

“ก็เพราะคุณไง อยากทิ้งฉัน อยู่กับเมียแก่ๆที่รอวันตาย”เสียงผู้หญิงแหลมเล็กพูดเยาะเย้ย

“อย่าพูดถึงเมียฉันแบบนี้ เธอไม่มีค่าอะไรที่จะเปรียบได้”ร่างใหญ่พูดพร้อมเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน แต่หาสะทกสะท้านไม่

“ฮ่าๆๆๆๆ แล้วไง เปรียบไมได้ แต่คุณก็เอาฉัน”เธอลอยหน้าใส่ ผมเริ่มรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร และอีกคนล่ะ

“มันเป็นความผิดพลาด เธอทำมันขึ้นมา”เสียงผู้ชายพูดใส่หน้าไม่ลดละ ราวกับไม่ตั้งใจ

“ไม่จริง คุณรักฉัน ฉันรักคุณ เรามีความสุขกัน”อีกฝ่ายไม่ยอมเกรี้ยวกราดใส่บ้าง อย่างไม่ยอมรับความจริง

“ฉันไม่ได้รักเธอ ฉันสงสารและช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่าเธอจะทำแบบนี้”ผู้ชายก็เสียงแข็ง พูดอย่างผิดหวัง

“ฮึ สงสารเหรอ ตอนนอนกับฉัน ศาตราจารย์ไม่พูดอย่างนี้ล่ะ”เสียงเยาะแกมโกรธที่ถูกต่อว่า ศาตราจารย์ เหรอ พ่อ หมายความว่ายังไง

พ่อรู้จักธีรดามาก่อน และ นอนด้วยกัน ไม่จริง พ่อไม่เคยนอกใจแม่ ผมต้องหูฝาด ฝัน แต่เสียงและภาพมันชัดเจนขึ้น แต่ผมยังขยับไม่ได้มากทั้งที่พยายามแต่ก็ยังอยู่ที่เดิม

“หยุด ฉันไม่เคยอยากนอนกับเธอ แต่เธอกับบ้านเธอต่างหาก หลอกฉัน และยังมาหลอกลูกฉันอีก”เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ

“ช่วยไม่ได้ ลูกแกอยากโง่เอง เหมือนแกไง เรียนสูงซะเปล่า แต่แพ้มารยาผู้หญิง เป็นไงล่ะ สะใจไหม พ่อลูกใช้บริการผู้หญิงคนเดียวกัน ฮ่าๆๆๆๆๆ”เธอหัวเราะอย่างสะใจกับความโง่เขลา คงจะจริงอย่างเธอว่า ผมโง่จริงๆ ผ่านอะไรมาก็มากแม้แต่ผู้หญิงแต่กลับดูไม่ออกสักนิดทั้งที่เฉลียวแต่ก็ไม่ฉุกใจ หรือผมไม่เคยคิด คิดแค่ว่าในเมื่อเต็มใจทั้งสองฝ่ายก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น   

“ไม่เลย ไม่มีใครโง่ แต่เธอเอาความดีของคนอื่นมาทำลาย คนที่โง่คือเธอต่างหาก จมอยู่แต่ความคิดชั่วๆ ถ้าเธอฉลาดสักนิดกลับตัวและเริ่มชีวิตใหม่ เธอก็จะมีความสุขแล้ว”พ่อส่ายหน้าพูดกลับอย่างสมเพชผู้หญิงตรงหน้า

“ฉันไม่ได้รักมัน ฉันรักคุณ ฉันต้องการแค่คุณ รู้ไหมวันที่คุณปฏิเสธฉัน ฉันเจ็บใจ เจ็บกระทั่งจะฆ่าตัวตาย แต่คิดได้ว่า จะตายทำไม สู้แก้แค้นคนที่คุณรักดีกว่า เริ่มจากเมียโง่ๆคุณก่อนไม่ได้รู้เอาซะเลย ว่าฉันนี่แหละที่โทรหาผัวเธอแทบจะทุกวัน หยอดทีล่ะนิด ทำตัวเป็นผู้หวังดี”เธอพูดไปสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสะใจ ผมอยากจะเข้าไปกระชากเธอ แต่ไม่มีแรงสักนิดคงไม่ใช่ยานอนหลับธรรมดาแน่ เธอเดินไปใกล้พ่อเอามือลูบอกอย่างยั่วเย้า ก่อนจะหน้าหัน

เพี้ยะ

“เลว เธอมันเลวจริง ๆ”พ่อตบธีรดาอย่างแรง แต่เธอหันมายิ้มเยาะ

“ตบอีกสิ ชอบไม่ใช่เหรอ แสดงสันดานส่วนลึกออกมาสิ ว่าที่จริงคุณชอบความรุนแรง และฉันสนองคุณได้”เธอพูดกลับเดินไปใกล้อีก และพ่อก็ลงมืออีก

“เธอมันบ้า ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะเธอ”พ่อเหมือนจะเริ่มคุมสติไม่อยู่

“พะ พ่อ พอ”เสียงผมเริ่มออกมาได้  ธีรดาหันมามอง

“ฟื้นแล้วสิ ฟื้นมาดูพ่อแกซะ ไม่ใช่แค่นี้นะ”เธอพูดเยาะ ก่อนจะผลักพ่อจนหงายกับพื้นพรหม

“เธอ เธอ ทำอะไรฉัน”พ่อพูดเสียงสั่น ร่างกายสั่นสะท้านเหมือนโดนบางอย่าง ก่อนจะถูกธีรดาปลดเสื้อและกางเกง พ่อปัดป้อง แต่ดูฝืนมาก เธอปลดนอนบางเบาออกจับมือพ่อไปลูบคลำตัวเธอและหน้าอก ก้มไปจูบพ่อที่หันหน้าหนี แต่ไม่นานก็หันมาโต้ตอบ ผมพูดไม่ออกกับภาพตรงหน้า เมื่อเห็นพ่อดูเหมือนจะมีอารมณ์ แต่ก็ดูฝืนในคราเดียวกัน

“ไม่ ออกไป”พ่อพูดเสียงหอบหายใจ แต่กลับขยับเข้าหา อย่างต้องการ เป็นภาพที่ผมไม่คิดจะได้เห็นมาก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเหมือนผมได้ยินเสียงครวญครางมาจากห้องใดห้องหนึ่งในบ้านแต่ไม่ได้สนใจ เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน

“ออกเหรอ ได้ฉันจะทำให้ออกเอง ฮิฮิๆๆๆ”ธีรดาเอ่ยเสียงยั่วเย้า หันมามองผมเลียริมฝีปาก ก่อนจะจูบพ่อทั่วทั้งตัว ส่วนกลางถูกปรนเปรอด้วยปากอย่างที่แม้แต่กับผมเธอก็ไม่เคยทำขนาดนี้ พ่อบิดไปมาทนไม่ได้ ก่อนความอดทนจะสิ้นสุด ผมเบือนหน้าหนีเมื่อพ่อตอบสนองเธออย่างรุนแรง

“อา อา”

“อื๊อ ดี ดี อีก แรงอีก”

“ฮ่าๆๆ ดูสิ ดูพ่อแก ฮ่าๆๆๆๆๆ”

เสียงครางสลับเสียงเยาะ ถึงหลับตาหันหน้าหนี แต่หูผมไม่สามารถปิดกั้นเสียงที่ลอดมาจากปากคนทั้งคู่ได้ ผมได้ยินเสียงพ่อครางปนร้องไห้อย่างรุนแรง ก่อนจะได้ยินเสียงร้องอย่างโหยหวน ผมหันกลับไป

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”

ธีรดาร้องและดิ้นพล่านเมื่อถูกมีดบาดแถวหน้าอก พ่อกำมีดในมือ สภาพร่างกายเปล่าเปลือย เดินโซเซมาหาผม

“กร กร”

“พ่อ”

พ่อเดินมาถึงเอามีดตัดเชือก

“อึก”

เสียงผมร้องเมื่อพ่อกรีดตรงแขนนิดเดียว เพื่อให้มีสติมากขึ้น

“พ่อขอโทษ หนีไปลูก หนีไป”พ่อบอกสีหน้าเหนื่อยอ่อน ผมเริ่มมีสติเข้าไปประคองพ่อ แต่ยังไม่ทันไปไหน ผมถูกดึงอย่างแรงจนหัวกระแทกขอบโต๊ะ

“โอ๊ะ”ผมร้องออกมาเอามือกุม ก่อนจะเห็นธีรดาผลักพ่อและคว้ามีดที่ตกอยู่บนพื้นเงื้อขึ้น

“อย่ยยยยยยยยยยยยา”ผมร้องห้ามรีบคลานเข้าไปแต่ไม่ทัน เธอแทงตรงอกพ่อที่ยกมือปัดไว้แต่ยังได้แผลยาว เธอจะซ้ำอีกแต่ผมรีบเอามือเข้าไปรับคมมีดและกำไว้

“แก แกต้องตาย”ธีรดาเอามีดแทงตรงมือผม แต่เหมือนเธอจะอ่อนแรง ทำให้เป็นแค่รอยกรีด

“อย่าทำลูกฉัน”พ่อผลักธีรดาขึ้นคร่อมบีบคอ เธอไขว่คว้ามือกลางอากาศ ดิ้นรนไปมา

“อ่อก อ่อก”

“พ่อ พอแล้ว”

ผมฝืนใจเข้าไปดึงออก ไม่อยากให้พ่อพลั้งมือ แต่ช่วงหันกลับพ่อพลิกตัวผมหนีอย่างเร็ว เอาตัวรับคมมีด

ฉึก เข้าตรงท้อง

“กะ กร”

“พ่อ”

“ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ ฮ่าๆๆๆ กรี๊ดดดดดด”

ผมกระชากธีรดา ตบจนล้มคว่ำ กะให้แค่สลบ เข้าไปหยิบผ้ามาคลุมร่างพ่อและห้ามเลือด

“อดทนนะพ่อ”ผมบอกก่อนจะเดินไปโทรศัพท์ แต่ถูกตัดสาย มองหามือถือ ถูกทำลายเป็นชิ้นส่วน จะออกไปข้างนอกตามคนมาช่วย แต่ธีรดากลับลุกขึ้นมากระโดดขี่หลังผม

“แกจะไปไหนไม่ได้ เราต้องตายด้วยกัน”เธอบีบคอผมอย่างแรง

“อึก”ผมร้องได้แค่นั้น ยายังไม่หมดฤทธิ์ซะทีเดียว ถ้าผมปกติเธอไม่มีวันทำอย่างนี้ได้แน่ พวกเราพลาดเอง ที่คิดว่าเธอจะกลับตัว ไม่นึกว่าความรักจะทำให้เธอเป็นได้ขนาดนี้ ผมสมเพชเธอเหลือเกินที่ทำร้ายตัวเองไม่พอแต่ยังทำร้ายสิ่งมีชีวิตเล็กๆโดยการให้กำเนิดปราศจากความรัก เพียงเพราะต้องการแก้แค้น ธีรดาเลือกวิธีนี้ วิธีที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวได้อย่างสนิทใจ 

ตุลย์

ผมนึกถึงลูกที่คิดว่าดีแล้ว ที่ปล่อยให้ไปกับน้อง ไม่งั้นจะเกิดอะไรกับแกบ้าง ตอนนี้ธีรดาเสียสติไปแล้ว

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”เสียงสุดท้ายโหยหวนกว่าตอนแรก

“แค่ก แค่ก”ผมไอออกมาคลำรอบคอ ก่อนจะหันไปมอง เบิกตา เมื่อเห็นพ่อปาดคอธีรดาจนเลือดพุ่ง และซ้ำแล้วซ้ำอีก จนแน่นิ่ง ก่อนจะหันมาหาผม

“กร พ่อลาก่อน พ่อขอโทษ”

“พ่อ อย่ยยยยยยยยยยยยา”

อึก

ผมร้องสุดเสียงพุ่งตัวไปอย่างเร็วแต่ไม่ทัน เมื่อพ่อปาดคอตัวเองล้มตึงทับร่างธีรดาที่แน่นิ่งไปแล้ว ผมพลิกพ่อขึ้นมากอด

“พ่อ พ่อ ฟื้นสิ อย่าเป็นอะไร”ผมละล่ำละลัก น้ำตาไหลเป็นสาย

“ฮึก ฮึก กะ กร พ่อ”พ่อกระซิบบางอย่างเสียงแผ่ว ผมจับมือพ่อไว้

“ไม่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม”สุดท้ายผมตะโกนอย่างดัง เมื่อพ่อยิ้มและขาดใจตายคาแขนผม

“โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ พ่ออออออออออ”

“ใครก็ได้ ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยย”

ผมร้องไห้จนแทบขาดใจ คิดว่า ไม่จริง ไม่จริง มันแค่ความฝัน  ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่มีใครได้ยินเลยสักคน จนกระทั่งทุกอย่างเงียบสงบลงพร้อมผมที่หมดสติไปข้างร่างพ่อ
.
.
.
.
ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางความมืด และกลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปหมด ผมมองร่างในอ้อมแขน น้ำตาที่คิดว่าหมดแล้วไหลมาอีก ผมไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน หลับตาลง ก่อนจะคิดได้ว่า ผมจะไม่โยนความผิดให้พ่อถึงพ่อจะบอกอย่างกับผมก่อนสิ้นใจ ผมหันไปมองผู้หญิงใจร้ายที่ลุ่มหลงในความรักจนเกิดเรื่องขึ้นมา โทษเธอฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ผมผิดเองที่พาเธอเข้ามาในครอบครัว ผิดที่ให้โอกาสเพราะคิดว่าเธอเป็นคนมอบของขวัญที่วิเศษที่สุดกับผม ในที่สุดผมก็คือคนโง่เหมือนที่เธอบอก ผมแค่นยิ้มก่อนจะลุกไปห้องตัวเองหยิบมือถือที่วางอยู่กดโทรออก

“มาที่บ้านxxxxxxx ผมฆ่าคนตาย”

“อย่าเพิ่งพาตุลย์กลับมา ไปอยู่คอนโดพี่ก่อน”

“พี่กร พี่เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”

“พ่อ ตาย แล้ว”

ผมพูดจบกดวางสาย ก่อนจะเดินกลับไปด้านบนที่เงียบวังเวง หยิบผ้าไปคลุมร่างธีรดา เดินไปและทรุดนั่งกอดศพพ่อ รอจนมีเสียงไซเรนดังทั่วไปหมด เสียงขึ้นบันไดพร้อมเปิดประตู ก็ไม่ได้ทำให้ผมละจากพ่อสักนิด แม้น้องจะร้องไห้อยู่ข้างๆก็ตาม

ตอนเช้าข่าวกระจายทั่ว ดร.กรกฎ กินยากล่อมประสาท จนเกิดอาการหลอน คิดว่าพ่อเป็นชู้กับภรรยา เลยลงมือฆาตรกรรมอย่างเหี้ยมโหด ผมถูกจิตแพทย์ตรวจสอบ พบว่ามีสติดีตอนที่กระทำ ผมให้การรับสารภาพทุกอย่าง น้องผมรวมทั้งญาติพี่น้องไม่มีใครเชื่อจะฟ้องสื่อที่ประโคมข่าว วิทย์ ที่รู้ข่าวมันบินกลับมาทันทีพร้อมช่วยเหลือ แต่ผมปฏิเสธบอกทุกคนว่าไม่ต้องทำอะไร ขอร้อง ผมไม่อยากให้ใครพูดถึงพ่อผมในทางไม่ดี พอแล้ว ท่านจากไปแล้ว ผมจะรับทุกอย่างไว้เอง 

ครอบครัวธีรดาเอาเรื่องมาขุดคุ้ย ก่อนจะเงียบเมื่อผมบอกให้น้องชดเชยมากพอสมควร ไม่ต้องพูดหรือทำอะไร และอย่ามายุ่งกับตุลย์อีกเป็นอันขาด นั่นเป็นเรื่องที่ผมสั่งก่อนจะรับฟังคำตัดสิน 

ผมไม่อยากให้ใครรับรู้อะไรอีกแล้ว

ผมจะให้มันตายไปกับตัว

“ผมรักพ่อ”

“พ่อรักตุลย์”
.
.
.
ผมลืมตาจากความฝัน ความทรงจำ ที่ไม่เคยจางหาย แต่ที่หายไปคือไม่มีการผวา ร้องอย่างเจ็บปวดเหมือนทุกครั้ง คงเป็นเพราะสิ่งที่อยู่ในอ้อมแขน ที่เจ้าของมันทิ้งไว้ให้คลายคิดถึง ผมกระชับตัวแทนของหัวใจอีกคนที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตผมอีกครั้ง

“เฮียรักหนู”ผมกอดและหอมมันแทนเจ้าของอย่างแสนรักและคิดถึงเหลือเกิน

*************************************************************************************************************

ปล. ไม่มีเกลื้อนไม่มีกาก มีแต่รอยบากในใจ ไม่เป็นไรนะคะเฮีย เดี๋ยวจะส่งน้องหนูไปปลอบแต่รอก่อน อาจจะยังไม่ค่อยเคลียร์มันจะมีอีกช่วงใกล้จบถ้าใส่ตอนนี้ทั้งหมดมันจะเยอะ มีถามหานายกับนาย มีเหมือนกันแต่เขาจะคู่กันแบบไหนดูต่อไป ฮ่าๆๆๆ แว่บมาลง อิมเมจบ้าง ให้ดูเพื่อความจิ้น ขอบคุณสำหรับกำลังใจและการติดตามนะคะ มีอะไรผิดไม่สมเหตุสมผลช่วยบอกกันด้วยนะ บางครั้งก็หลุดๆเหมือนกัน บายค่ะ ช่วงนี้น้ำท่วมบางจังหวัดบางพื้นที่ ระวังกันด้วยนะคะ รักษาสุขภาพนะจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2013 16:32:02 โดย goonglovenut »

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
 :z13:

ในที่สุดก็ได้จิ้ม
///////////////////////////////////////

เราเชื่อว่าเฮียทำถูกแล้ว แต่มันก็ไม่ถูกทั้งหมด หากการยอมรับผิดแทนพ่อเพื่อไม่ให้ใครได้ดูหมิ่น

แล้วต้องทำให้แยกจากลูกมามันก็น่าเศร้า  ทั้งๆที่เราเองก็แอบคิดว่าเมียเฮียเป็นชู้กับพ่อเฮียรึเปล่าในตอนก่อนโน้น

ที่เฮียฝันแต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องจริงมันจะเลวร้ายขนาดนี้ วางอดีตลงไว้เท่านั้นเถอะเฮียสู้มาคิดถึงปัจจุบันและอนาคตดีกว่า

เพราะคนที่เฮียรักและรักเฮียยังรอเฮียกลับไปอยู่


ปล.เราดีใจที่นายไม่ทำอะไรเฮียนะ

ปล.1 อิมเมจนายเรามาจิ้นให้นายเทียนเป็นรุกหน้าหวานไปเรียบร้อย อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2013 09:27:26 โดย aoihimeko »

ออฟไลน์ wiwari

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-1
กะแล้วว่าเฮียต้องเป็นคนดี สามีของหนูลูกพ่อนกนี่พระเอกจริงๆ  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เหตุที่ทำให้เฮียต้องเข้ามาในห้องขัง มันอดสู หดหู่ใจ
แต่เฮียมีหนูแล้ว  กอดหนูชวดไปก่อน
หนูกลับบ้านแล้ว เป็นไงบ้างนะ

ออฟไลน์ nanazaa002

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
เรื่องเฮียเป็นเเบบนี้เอง ทุกคนมีเหตุผลที่ต้องมาติดคุก :เฮ้อ:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
เป็นอย่างนี้นี่เอง ความหลังของเฮีย

เฮียอดทนนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ nutjisub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
เศร้า ไม่อยากอ่านรอให้คลี่คลายค่อยมาย้อนหลังอ่าน รักเฮียที่สุด ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mayohouang

  • Nothing dangerous as memory.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สรุปคือพ่อตัวก่อปัญหา และลูกเป็นคนสานต่อ เฮ้ออออ :mew6:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
ไม่มีฮา อ่านแค่ผ่านๆเรื่องมันเศร้า เดี๋ยวมันก็ผ่านนะเฮีย หนูรออยู่

ออฟไลน์ FahFon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ฮื่อออออออออออออออ กอดเฮีย!!!!!

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เกิดเป็นชวดก้อมีประโยชน์นะ

เฮียสู้ๆ หนูรอเฮียอยู่

ออฟไลน์ kataiyai

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
 :ling1:น่าสงสารทุกคนเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
น่าสงสารเฮีย
+1  :กอด1:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ้ววว
ธีรดา
เอช่างร้ายกาจจริงๆ
ทำแบบนี้แย่ชะมัดด

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ดีใจจังที่เฮียไม่ได้ทำอะไรผิดจริง ขอให้คดีคลี่คลายเฮียพ้นโทษด้วยเหอะ อยากให้เฮียกับหนูอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องหลบหนีอีร

ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2

ออฟไลน์ FlOriN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อดีตของเฮีย ~~~
เศร้าง่ะ

ออฟไลน์ pilar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-14
 :o12: :o12:
สงสารเฮีย
มาต่อไวๆ นะคะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ไม่มีคำบรรยาย :mew5:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
หวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย  ให้เฮียได้กลับมาอยู่กับหนูไวๆๆ  :m15:



 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ senty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อดีตของเบียร์ รัน เฮียนี่เจ็บพอกัน  เป็นคนที่เสียสละเพื่อคนอื่นทั้งนั้นเลย
สงสารทั้งสามคน  แต่เกลียดธีรดามาก  ตายไปสมควรละ
รอตอนต่อไปนะคะ  อยากรู้ว่าเรื่องนี้จะลงเอยยังไง  รอคู่นายด้วย. ลุ้นๆ

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เรื่องมันเศร้าา~  :katai1: :hao5: :sad4: :o12: :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด