ปัง
“ว่าไงไอ้กร ท่านให้เวลามึงพอแล้ว จะคืนของและมาช่วยท่านได้หรือยัง”ไอ้อัลเปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะ หนูกระถดตัวถอยไปด้านหลัง ผมจับมือที่สั่นและเย็นเอาไว้
“เฮีย มันมาแล้ว”หนูกระซิบเสียงสั่นผิดกับในความฝันที่เข้มแข็ง คงจะขวัญเสียเรื่องพ่อเลยกลัวไปหมด
“ไม่เป็นไร”ผมบอกหนูอย่างใจเย็น
“ใจเย็นได้ไงล่ะเฮีย มันจะฆ่าเราแล้ว เฮียยอมดีกว่าไหม รักษาชีวิตไว้ก่อน ค่อยเอาคืนมันทีหลัง”หนูพูดใส่ผมบอกแผนการแต่เสียงไม่ดัง ทำผมขมวดคิ้วคิดว่าจะทำดีไหม ฟังดูง่ายแต่ยาก มันไม่มีทางให้จบแค่นี้แน่
“กระซิบสั่งลาเหรอวะ ฮึฮึ ไปเอาตัวออกมา”ไอ้อัลกระตุกยิ้มใส่ พยักหน้าให้ลูกน้องมาดึงตัวหนูไป
“ไม่ กูไม่ไป เฮีย เฮีย”หนูดิ้นโวยใส่ พร้อมมือตีนถีบ ขัดขืนเต็มกำลัง ผมดึงคอเสื้อไอ้คนทางขวาอย่างแรงพร้อมต่อยจนหน้าหงาย ก่อนจะดึงอีกคนที่ลากคอหนูอยู่ ซัดเข้าที่กกหูจนมันมึน ช่วงล่างผมขยับแทบไม่ได้ ทำได้เท่านี้
“ฤทธิ์เยอะนักนะมึง ขนาดท่อนล่างใช้การไม่ได้”ไอ้อัลเหมือนจะรู้ทันความคิดผม มันพยักหน้าให้ลูกน้องอีกสองคนโจมตีช่วงล่าง ผมใช้มือให้เป็นประโยชน์มากที่สุด หนูก็เข้ามาช่วยอย่างเก้ๆกังๆ ทำหน้าหลบไปมาอย่างกลัวโดนลูกหลง ผมเลยต้องกันเอาไว้อีกแรง จนสุดท้ายก็ถูกจับจนได้ เหตุการณ์ที่เหมือนในฝันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
“เฮีย ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย อึก อุ๊ก”หนูร้องให้ผมช่วยก่อนจะตัวงอเมื่อโดนต่อยท้อง
“หนู”ผมเรียกคนตรงหน้า ก่อนจะพูดต่อรองกับมัน“ปล่อยหนูไป เขาไม่เกี่ยวอะไรด้วย ถ้าปล่อย กูจะเคลียร์ทุกอย่างให้”
“มึงโทรไป ไอ้กร บอกนายมึงให้ล้มเลิกทุกอย่างซะ”มันส่งโทรศัพท์ให้ผม พร้อมตีนก็เหยียบกลางหลัง โดยมีลูกน้องมันกดไหล่อยู่ แล้วกูจะโทรไงวะ ไอ้ด้อยกว่าควาย
“บอกเบอร์มา”เหมือนมันรู้ว่าผมด่า มันบอกให้ผมบอกเบอร์”และอย่าตุกติกนะมึง ถ้าบอกเบอร์มั่ว กูจะให้ไอ้พวกนี้ข่มขืนเมียมึงซะ”
“กูจะเชื่อได้ยังไง ถ้าทำแล้วเมียกูจะปลอดภัย”ผมยังไม่ยอมง่ายๆยื้อมันอีกนิด
“มึงอย่าลีลาไอ้กร แค่บอกนายมึงให้ยกเลิกเท่านั้น นายกูก็พร้อมจะส่งเมียมึงคืน”มันย้ำตรงกลางหลัง
“ฮึ แต่มึงฆ่าพ่อตากู จะเอาอะไรมาชดใช้”ผมพูดถึงสิ่งที่มันทำ ไอ้อัลทำหน้านิดหนึ่งก่อนจะแสยะยิ้ม
“เรื่องนี้เอง พ่อตามึงอยากขัดขืนนี่หว่า ถ้ามึงต่อรองอีกคำ กูจะสั่งทันที”มันพูดเยาะใส่ก่อนจะข่มขู่ด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม
“หนู”ผมเรียกหนูที่ถูกจับในลักษณะขึงพรืด
“เฮีย ยอมมันเถอะ รักษาชีวิตไว้ก่อน อื้อ ปล่อย ไอ้สัด”หนูพูดกับผมก่อนจะด่าไอ้คนที่เริ่มลวนลาม พวกมันหัวเราะชอบใจกับการกระทำ
“เฮียขอโทษ”ผมยกยิ้มพูดกับคนตรงหน้า ที่ยังหลบเลี่ยงดิ้นไปมา
“ยังจะซึ้งอยู่นะมึง เฮ้ย แก้ผ้ามัน มึงนี่ต้องให้ลอกคราบให้ดูก่อน”มันเยาะผมก่อนจะสั่ง เหมือนในฝันหนูในร่างเปลือย
“ปล่อยกู อย่านะ อย่า เฮียยยยย”หนูร้องเสียงดังเรียกชื่อผมที่ตัดสินใจแล้วว่า
“เฮียขอโทษอีกครั้งที่ทำตามไม่ได้”ผมพูดแค่นั้นมองหน้าไอ้อัลที่อึ้งไปแม้แต่หนูเองก็เช่นกัน
“มึงหมายความว่าไง ไอ้เฮีย”มันเหยียบซ้ำโดยเฉพาะส่วนกลางบั้นเอว
“อย่างที่มึงเข้าใจนั่นแหละ”ผมกัดฟันพูดใส่มัน
“มึงนึกว่ากูไม่กล้าทำใช่ไหม ได้ ไอ้กร จัดการ”มันกัดฟันพูดใส่ ก่อนจะสั่งเสียงดัง
“เฮียยยยยยยยยยยย ไม่มมมมมมมมมมมม”แล้วทุกอย่างก็เหมือนในฝันผมหลับตาฟังเสียงที่ได้ยินตรงหน้า พยายามทำใจให้ด้านชา ไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น
“เฮีย มึงใจร้าย เห็นหน้าที่ดีกว่ากู ไหนบอกรักกูไง”เสียงหนูพร่ำด่า แววตาแข็งกร้าว พูดใส่ผมหลังทุกอย่างจบลง พวกมันหัวเราะก่อนจะเงียบเสียงลง เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาไม่ทุกข์ร้อนของผม ไม่มีวี่แววของความเสียใจ ไม่มีการปลอบประโลม ไม่มีการกระอักเลือดอย่างที่พวกมันต้องการเห็น
“ไอ้กร มึงนี่มันสุดยอด ขนาดเมียมึงยังปล่อยให้โดนเอา เลือกหน้าที่ก่อน กูล่ะนับถือจริงๆ”ไอ้อัลพูดใส่ผมด้วยน้ำเสียงและสีหน้าแทบจะกระอักเอง สังเกตจากที่มันกำมือแน่น ลูกน้องมันยืนเงียบรอคำสั่ง
“เห็นหรือยัง ที่มันบอกว่ารัก จะเอายังไง หืม น้องหนู”มันปล่อยตีนจากหลังผมเดินไปหาหนูที่สงบลง หน้าเชิดขึ้น
“กูอยากจะฆ่ามัน”พูดเน้นเสียงใส่
“จุ๊จุ๊ เอาแค่เจ็บพอ ยังฆ่าไม่ได้”มันพูดพร้อมส่งมีดให้หนู ที่เดินเข้ามาใกล้ผม ก่อนจะกรีดตรงหัวไหล่
“อึบ”ผมกัดฟันกลั้นเสียง เมื่อไหล่อีกข้างโดนไม่ต่างกัน หนูในตอนนี้เลียริมฝีปาก ผมมองด้วยสายตาว่างเปล่า เกือบไปแล้ว เกือบพลาดท่าครั้งใหญ่ แต่ในใจโล่งเหลือเกิน
“พอได้แล้ว เดี๋ยวมันจะตายซะก่อน”ไอ้อัลดึงมือ พร้อมพยักหน้าให้บรรดาลูกน้องออกไปจนหมด
“ไอ้กร”มันพูดเน้นเสียง
ผลั่วะ
ก่อนจะตบด้วยด้ามปืน จนผมสลบไปอีก ไม่เป็นไร แค่หนูของเฮียและพ่อยังอยู่ดีก็พอแล้ว เฮียรักหนู
.
.
.
.
โครม
โครม
ตึง
“ไอ้กร”
“ไอ้กร ทำไม ไม่เป็นอย่างคิดวะ เป็นไปไม่ได้ ที่มันจะรู้ แทบไม่มีความต่าง”เสียงทำลายข้าวของพร้อมเสียงกัดฟันที่ทุกอย่างไม่เป็นตามที่คิด อีกคนที่นอนมองบนเตียงอย่างสบายใจได้แต่ปล่อยให้ระบายเต็มที่ ก่อนจะหยุดเมื่อมีเสียงโทรศัพท์เข้ามา
“ครับ ท่าน”
“เป็นไง สำเร็จไหม”
เงียบไปอึดใจก่อนจะตอบตามจริง
“ไม่ครับ”
“อะไรนะ อัล”
“ผิดพลาดครับนาย
“มันรู้เหรอ ว่าไม่ใช่เมียมัน”
“ไม่แน่ใจครับ ตอนแรกดูมันปกติทุกอย่าง ตอนเห็นหน้าก็รู้เลยว่ามันดีใจจริงๆที่เห็นหน้าเมีย”
“แล้วทำไมมันไม่ทำตาม”
“ผมยังหาคำตอบไม่ได้ เท่าที่เห็นดูไม่มีความต่างสักนิด”
“มันต้องมีสิ ไม่งั้นมันจะปล่อยให้เมียมันโดนรุมโทรมเหรอ”
“ผมไม่ทราบจริงๆ ไอ้ปืนเองยังบอกเหมือนมาก แต่ผมไม่รู้ว่าไอ้กรมันเอะใจตรงไหน”
“ระหว่างนี้ก็หาตัวจริงให้เจอ ส่วนงานใหญ่อย่าให้พลาดอีก ฉันไม่อยากมีเสี้ยนหนามทิ่มแทง”
“ครับท่าน”
กดวางสายหลังรับคำ ก่อนจะระบายอารมณ์ต่อ
“นี่ มันจะพังหมดแล้ว ค่าจ้างฉันล่ะ”คนร่างโปร่งท้วงพร้อมแบมือ ทำเอาอีกฝ่ายหันไปมองหน้า ก่อนจะถลาเข้ามาจับใบหน้าพิศมอง
“เจ็บนะพี่ แม่ง”คนถูกจับโวยพร้อมแกะมือ ก่อนจะลอกหน้ากากที่กลมกลืนกับสีผิวออก
”โอ้ยยยยย อึดอัด หน้าใครก็ไม่รู้ เห่ยที่สุด แถมไอ้พวกนั้นก็ไม่ได้เรื่อง อาศัยหน้าตาดีอย่างเดียว หมัดหนักฉิบ เซ็งสุดๆ”บ่นกระปอดกระแปด สลัดผมสีน้ำตาลเข้มไปมา และไอ้พวกที่ถูกกล่าวถึงก็แขนหักพร้อมบางอย่างที่หักไปแล้วเช่นกัน
“เอ็ดดี้ มันพูดอะไรบ้างไหมตอนที่อยู่สองคน”เขาถามคนที่ยังทำหน้าเซ็งไม่หาย ไม่ได้มีทีท่าเหน็ดเหนื่อยสักนิดกับการถูกกระทำเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
“พูดแต่เรื่องชวนจะอ้วก บอกรักอยู่นั่นแหละ คิดว่าจะฟลุ้คได้อยู่แล้วเชียว รูปร่างน่ากินชะมัด”ยักไหล่เบะปากแต่แอบมีเสียดายหน้าเคลิ้มฝัน
“แกอย่าเพิ่งนอกเรื่อง มันพูดอะไรอีก”เขาเริ่มหงุดหงิดกระชากไหล่จนอีกฝ่ายหลุดจากอาการเคลิ้ม
“อะไรอีกล่ะ บอกว่าไม่ได้พูด มันไม่เอะใจด้วยซ้ำว่าตัวปลอม จ้องมอง ยกยิ้ม จนฉันอยากจะขึ้นค่อมมันซะเอง”อีกฝ่ายก็กระชากเสียงตอบอย่างหงุดหงิดเช่นกัน
“มันต้องรู้แน่ ว่าไม่ใช่เมียมัน แต่มันรู้ได้ยังไงกัน ฮึ่ยยย”ปัง กัดฟันพร้อมกับตบโต๊ะอย่างดัง จนอีกคนตกใจปิดปากเงียบ เพราะบทลูกพี่ลูกน้องเขาคนนี้เอาจริงก็น่ากลัวอยู่ นี่ถ้าเป็นคนอื่นสวมรอยคงโดนเชือดต่อหน้าไปแล้ว
“ค่าจ้าง ไม่น่าให้จริงๆ”โยนเงินปึกใหญ่ให้แถมบ่น
“ทำงานเกินค่าจ้างอีก ชิ๊”รับแทบไม่ทัน เบะปากใส่ ก่อนจะหรี่ตายักไหล่ “อีกอย่างฉันไม่ผิด”
“อยู่ช่วยงานฉันก่อน อย่าเพิ่งกลับหรือไปไหนโดยไม่บอกฉัน”สั่งพร้อมกำชับก่อนจะเดินออกไป
“เฮ้ อะไรวะ โอ้ยยยยยยยยย เซ็งงงงงงงงงงง ไอ้อัลลลลลลลลลลล ไอ้บ้บบบบบบบบบบบบบบา”ตะโกนด่าตามหลัง เตะโน่นเตะนี่ปึงปังดังลั่นพอกับอีกฝ่าย
.
.
.
.
.
คฤหาสน์หลังใหญ่ประดับประดาไปด้วยดวงไฟน้อยใหญ่ สมฐานะเจ้าของ ลานกล้างบริเวณน้ำพุมีเวทีที่มีวงดนตรีชั้นนำบรรเลงเพลงอันไพเราะกล่อมแขกผู้มีเกียรติในงานเลี้ยง อาหารชั้นเลิศจากโรงแรมชื่อดัง พร้อมเครื่องดื่มราคาแพงถูกเสริฟ์อย่างต่อเนื่อง
“สุขสันต์วันเกิด ขอให้อายุยืน หน้าที่การงานก้าวไกลนะ”เสียงอวยพรจากผู้ใหญ่ระดับสูง ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาของเจ้าของวันเกิดด้วย
“ขอบคุณท่านมากครับ เป็นเกียรติที่มางานผม”เขายิ้มรับกระชับมือ และรับของขวัญซึ่งคงราคาแพงสมฐานะทั้งคนให้และคนรับ
“ไม่มาได้ยังไง วันเกิดเพื่อนคนสำคัญทั้งที”อีกฝ่ายพูดอย่างให้เกียรติ ไม่เคยคิดว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ต่างจากคนยิ้มรับที่จะใช้คืนนี้คร่าชีวิตคนที่ไม่เคยมองว่าเป็นมิตร คิดแต่ว่าเป็นขวากหนาม
“ขอบคุณท่านมากครับ เชิญตามสบายท่านต้องการอะไร บัญชาได้เลย”เขาผายมือพร้อมนำอีกฝ่ายไปที่โต๊ะรับรอง จากนั้นก็มีผู้ใหญ่หลายวงการเดินทางเข้ามาในงานไม่ขาดสาย มีการตรวจตราและคุ้มครองอย่างหนาแน่น
“เป็นไงอัล พวกมันมาไหม”เขาถามลูกน้องคนสนิท
“ยังไม่มีวี่แววครับท่าน ผมว่ามันไม่น่าลงมือวันนี้”คนสนิทตอบพร้อมคาดคะเน
“อย่าประมาท ขนาดไอ้ ดร. ยังพลาด”ผู้เป็นนายเน้นย้ำเรื่องที่ล้มเหลว
“ครับ ผมให้ลูกน้องซุ่มทุกจุดที่มันจะเล็ดลอดเข้ามาแล้ว”เขารับคำ ก่อนจะคุยถึงแผนการที่ได้เตรียมไว้
.
.
.
.
“สิบ เป็นไงเรียบร้อยดีนะ”ผมยิ้มรับลุงที่มางานนี้ด้วย เพราะเป็น ผู้บัญชาการ ท่านคนหนึ่ง
“ครับลุง ระวังหน่อยนะ ผมได้ยินว่ามีการขู่วางระเบิด”ผมบอกลุงที่ทำหน้าแบบไม่อยากเชื่อ
“จริงเหรอวะ ใครมันกล้าวางระเบิดท่านรองฯ กัน”ลุงพูดพร้อมสอดสายตามอง แต่แบบไม่จริงจัง จนผมนึกขำ
“มันก็คงมี ท่านเป็นคนมีชื่อเสียงและทำงานเถรตรงมาตลอด คงมีศัตรูเป็นธรรมดา”ผมบอกลุงอย่างเป็นเรื่องปกติ แต่ลึกอยากรู้ว่ามีอะไรมากกว่านี้อีกไหม
“เถรตรงเหรอ ฮึฮึ คงใช่มั้ง”ลุงพูดอย่างมีเลศนัย เหมือนท่านจะรู้อะไรมาบ้าง
“ทำไมเหรอลุง”ผมตีหน้าเซ่อ ล้วงต่อ ลุงทำหน้าเอือมใส่
“มึงบ้าเปล่าไอ้สิบ นินทาเจ้าของงานในระยะประชั้นชิด เดี๋ยวโดนระยะเผาขนหรอกมึง เอาไว้ค่อยคุยกัน ทำหน้าที่ให้ดีแล้วกัน อย่าให้เขามาด่าโคตรเราได้ เข้าใจนะ”ลุงพูดขำๆก่อนจะตบไหล่และเดินไป ผมบันทึกทุกอย่างเอาไว้ แม้แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน ก่อนจะเดินตรวจบริเวณรอบๆ นอกจากตำรวจคุ้มกัน มีบอดี้การ์ดเฉพาะตัวด้วย ขอให้สำเร็จทีเถอะ
งานดำเนินไปอย่างราบรื่น เจ้าของงาน ตลอดจนแขกผู้มีเกรียติขึ้นเวทีปราศรัย รวมนักการเมืองที่หาเสียงไปด้วย
บึ้ม
ตูม
“เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น”
“ว๊ายยยยยยยยยย”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”
“ทุกคนหมอบไว้ครับ อย่าเพิ่งขยับ”
“ค่อยๆมาทางนี้”
“ทางนี้ครับ”
เสียงพูดเสียงตะโกนโหวกเหวก ดังลั่นไปหมดหลังเสียงระเบิดควันที่ไม่รุนแรงแต่ทำเอาตกใจ โดยเฉพาะบรรดาคุณหญิงคุณนาย และแขกผู้ใหญ่ที่แตกตื่น บอดี้การ์ดเข้าชาร์ตนายตัวเองพร้อมนำไปที่รถทันที
“หลีกด้วยครับ อย่าขวางทาง”ผมตะโกนขอทางพร้อมส่งหน่วยคอมมานโดที่เตรียมไว้เฉพาะกิจนี้เข้ากระชับพื้นที่
“ขอทางครับ”
“ขอทาง”
“ท่านครับ ไปกับบอดี้การ์ดก่อนดีกว่า”ผมท้วงท่านรองที่สีหน้าไม่ดี กับลูกน้องคนสนิทที่ขวางทางเข้าไปข้างในบ้าน
“พวกคุณจะเข้าไปทำอะไร”ลูกน้องถามเสียงแข็ง สายตามองอย่างระแวดระวัง กระชับปืนในมือเตรียมส่องทันที
“ผมต้องทำตามหน้าที่ครับ เกิดคนร้ายวางระเบิดในบ้าน หรือบริเวณรอบ ท่านจะได้รับอันตรายได้”ผมรายงาน
บึ้ม
บึ้ม
บอดี้การ์ดจับท่านรองหมอบลงทันที พูดไม่ขาดคำ
“ท่านอนุญาตเถอะครับ ก่อนจะสายเกินไป”ผมพูดขอท่านด้วยสีหน้าจริงจัง
“ผมรับรองจะให้ของท่านเสียหายน้อยที่สุด มีใครอยู่อีกไหมครับ บอกให้ออกก่อนดีกว่า”ผมบอกท่านก่อนจะควักปืนออกมาป้องกันตัวเช่นกัน ลูกน้องท่านเหมือนจะทำการบางอย่าง แต่ท่านรองแตะข้อมือไว้ ดูจะหัวเสียไม่น้อยแต่เก็บอาการได้ดีกว่า
“ผู้กองครับ ตรงโน้นมีระเบิดฝังอยู่ กู้เลยไหมครับ”นายตำรวจวิ่งมารายงาน ท่านรองกับลูกน้องมองหน้ากันเหมือนสงสัย
“กู้เลย ระวังตัวด้วย”ผมอนุมัติ ก่อนจะมองหน้าท่าน
“ฝากด้วยแล้วกัน”สุดท้ายเขาต้องยอม และพยักหน้ากับลูกน้อง
“เชิญท่านรอที่ปลอดภัยเลยครับ ผมจะพยายามจับผู้ร้ายและคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้ ครับผม”ผมยกมือทำความเคารพตามที่สมควรจะทำ ก่อนจะปฏิบัติการ แต่ยังเห็นเหมือนเขาสั่งการลูกน้อง คิดว่าต้องให้ติดตามแน่นอน
“เข้าไปได้หรือยัง”ผมพูดไร้สายกับคนในเครื่องแบบปลอม คือ ไป่ ทวน เป้า ที่มุ่งหน้าเข้าไปก่อนแล้ว
“อืม ยังหาไม่เจอ ถ่วงเวลาอีกหน่อย”อีกฝ่ายตอบกลับ
“โอเค”ผมรับคำ ก่อนจะสั่งและกำชับ”ปล่อยระเบิดอีก สักห้าหกลูก แต่อย่าให้ใครเป็นอะไรนะ”
“เออน่า ไม่แรงเท่าไรหรอก อย่างมากถ้าทนไม่ไหวก็สลบเพราะกลิ่น ไม่อันตรายอะไร”คนปล่อยระเบิด คือ ย้ง เข้ม ปาน โจ๊ก ที่รออยู่ข้างนอก หลังจากพวกมันหักคอไอ้พวกซุ่มตามจุด โดยที่ผมต้องหลับหูหลับตาไปซะ ผมเดินตามเข้าไปติดๆ มือก็กระชับปืนไปด้วย ในบ้านมีหลายห้องมาก เดินมาจนเกือบสุดทางจะกลับแต่ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน เลยเดินไปตามเสียง มีชั้นหนังสือ บาร์เหล้า เหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ มีกล้องวงจรสองตัวที่ถูกตัดสัญญาณภาพไปแล้วจากฝีมือพวกนั้น มืออาชีพจริงๆ ผมเดินต่อไปเรื่อยๆ ก่อนจะหลบมุมเมื่อเห็นมีคนคุมบริเวณนั้น ห้าคน
“ไป่ อยู่ไหน”ผมถามผู้ร่วมขบวนการ
“อยู่ข้างบน ยังไม่เจอ”อีกฝ่ายตอบ
“ลงมาชั้นล่าง และเลี้ยวขวาตรงบันได เดินมาเรื่อยๆ เลี้ยวขวาอีกที ผมรออยู่”ผมบอกอีกฝ่ายที่ดูจะไม่สงสัย
“โอเค เฮ้ย ข้างล่าง”รับคำและหันไปบอกพรรคพวก ไม่ถึงห้านาทีก็ปะหน้ากัน
“มีอะไร”ไป่ถาม หน้าสวมโม่งดำและหน้ากากกันแก๊ส อีกสองคนเช่นกัน รวมผมด้วย อาวุธครบมือ ผมพยักหน้าให้ดูตรงนั้น
“เข้าไปทั้งอย่างนี้แหละ พวกมันไม่สงสัยหรอก”ไป่บอก ก่อนจะปิดหน้าและเดินถือปืนเข้าไป
“นี่พวกคุณ ทำไมยังไม่ออกจากบ้านกัน ไม่รู้เหรอว่ามีอันตราย”ผมถามตามหน้าที่ของตำรวจที่ดี
“ท่านให้อยู่เฝ้าข้างในครับ”มันตอบเสียงเรียบ ดูไม่เกรงกลัวสักนิด
“แต่ท่านบอกให้ออกไป นี่ก็ให้ผมเข้ามาดูว่าหมดหรือยัง”ผมยังถือซื่อพูดต่ออย่างหวังดี
“ไม่เห็นท่านบอก”มันยังสงสัย อะไรวะ ระเบิด ตูม ตูม มันไม่กลัว ซื่อสัตย์ซะจริง ทำไมไม่รับราชการว่ะ
“เสียเวลา จัดการ”เสียงสั่ง ก่อนที่พวกมันรู้ตัวควักปืนออกมา แต่ก็ถึงตัวพวกนั้นหักข้อมือทันที
“อึก”
“อัก”
ผมเตะไอ้คนที่พุ่งใส่หงายท้อง มันลุกขึ้นต่อยสวนเฉียดไปนิด ก่อนจะเจอตีเข่าและสันศอก สลบเหมือด
“ยะ”ผมหันไปจะบอก ไม่ทัน ไอ้ย้งหักคอไอ้ยักษ์ที่ดิ้นในแขนจนตาเหลือก ก่อนจะคอตกกองลงพื้น
“บอกช้า ความผิดคุณ”ไม่มีสำนึก โทษกูอีก ไอ้ไป่ยิงระยะเผาขนอัดเต็มท้อง พอกับไอ้เป้าที่ก้านคอและเสยปลายคางจนหักดังกร๊อบ โอย รุนแรงฉิบหาย ตามด้วยไอ้ทวนปิดฉากศอกอัดเข้าลูกกระเดือก จนตาเหลือกลิ้นห้อย ทรุดลงรูดกับกำแพง ไอ้คนที่สลบเสือกฟื้นขึ้นมา
“ยะ อย่า อึก”ตื่นมาตายแท้ๆ อย่างนี้ใช่ไหมเรียกถึงฆาต ก่อนจะค้นตามตัวไม่พบกุญแจ ปืนยิงแต่ไม่ทะลุ จนสุดท้ายใช้เลเซอร์ตัดขอบประตู
“เร่งมือหน่อย ไอ้พวกนั้นบอก ไม่ค่อยมีคนแล้ว”ไอ้ย้งบอกเมื่อได้รับรายงาน ก่อนประตูจะเปิดออกมา ไม่พบใคร พวกเราเดินเข้าไป
“เฮ้ย”เสียงร้อง พร้อมกระชากปืนจ่อหัว
“ไอ้เฮีย กูเอง ไป่”ไอ้คนถูกจ่อร้องบอก ก่อนจะดึงผ้าคลุมออก พร้อมพวกที่เหลือ
“มึงนี่แม่ง อึด จริงๆว่ะ ยังมีแรงอีก”ไอ้เป้าพูดใส่ ก่อนจะควักชุดออกจากเป้
“รีบใส่ก่อน เราต้องไปแล้ว”ไอ้ทวนบอก ก่อนจะดูลาดเลา
“เป็นไงบ้างวะ”ไอ้ย้งถาม ตาก็มองรอบห้อง
“ยังไหว”ดร.ตอบพร้อมสวมชุดอย่างเร็ว ขาเขาดูเหมือนจะเดินไม่ถนัด ผมกับไอ้เป้าเข้าประคอง
“ทำเป็นบาดเจ็บ จะได้ไม่สงสัย”ผมบอกเขาที่มองหน้า คงคิดว่ากูเจ็บจริงไม่ต้องแกล้งทำ
“ขอบคุณ คุณตำรวจ”ยังมีหน้ามายกยิ้ม ก่อนจะพาออกจากตรงนั้น
“ขอทางครับ ขอทาง เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ”เสียงไอ้ไป่พูดขอทาง ก่อนจะกดเรียกรถที่รออยู่แล้ว ผมเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมอพยาบาล เต็มไปหมด ผู้ใหญ่หลายคนกลับไปแล้ว ลุงผมยืนอยู่ตรงนั้น ผมทำมือแบบค่อยเจอกัน ท่านพยักหน้า ก่อนจะอยู่ดูเหตุการณ์ต่อ นึกขอบคุณที่ลุงช่วยให้ผมมาลงหน่วยนี้
“อดทนหน่อย ถึงรถแล้ว”ไอ้เป้าบอกก่อนจะถึงรถที่มีหวอและตราหน่วยมาจอดรับ ประตูเปิดออกพร้อมรับร่างขึ้นไป
“เร็วๆๆ”เสียงเร่งรีบ พอขึ้นจนครบประตูก็ปิดและพาพวกเราไปจากตรงนั้น
.
.
.
.
“ไอ้เฮีย ไอ้เฮีย”เสียงเรียกพร้อมมือตบที่หน้าไปมาไม่แรง
“อืม กูไม่เป็นไร”ผมตอบมันเรียบๆ รู้สึกเพลียนิดหน่อย กวาดตามอง
“กูส่งสัญญาณรบกวนไว้แล้ว ตามไม่เจอหรอก ไปเซฟเฮ้าส์เลย หมอรออยู่”ไอ้ไป่พูดพร้อมสั่งคนขับรถ ที่ผมเห็นว่ามันคือไอ้โจ๊ก และไอ้ปานนั่งข้าง ๆ รวมถึงไอ้เข้มที่นั่งปิดท้ายตามองนอกรถ อย่างระวังอีกชั้นกันคนติดตาม
“โทษที พวกกูมาช้า มันทรมานมึงมากเลยสิ”ไอ้เป้าพูดอย่างเป็นห่วงเอามือจับแขนผมที่ส่ายหน้า
“หนู หนูยังปลอดภัยใช่ไหม”ผมถามหาหนูทันทีเพื่อความแน่ใจ
“ปลอดภัยดี”เสียงคุณตำรวจตอบผม ก่อนจะกดโทรศัพท์ยื่นกล้องให้ดู ในภาพขึ้นโชว์บ้านสงบเงียบ มีคนอยู่รอบบ้านสามสี่คน เป็นคนของเพื่อนผมที่ส่งไปให้ตามที่ขอ
“ดีแล้ว ดี อย่าให้หนูเป็นอะไร”ผมบอก ก่อนเขาจะเลื่อนกดไปในบ้านห้องที่หนูอยู่ เห็นหนูของเฮียนั่งชันเข่าบนเก้าอี้มองท้องฟ้า พ่อยืนข้างๆ เอามือลูบหัวก่อนจะโน้มมากอด เหมือนปลอบใจ ผมยิ้มกับภาพที่เห็นก่อนจะบอกให้ปิดและลบออกทั้งหมด โชคดีเหลือเกินที่พวกมันไม่ได้จับหนูไปจริงๆ ผมผิดสังเกตหลายอย่างแต่เล่นต่อไป ยอมรับว่าเหมือนมาก ตอนที่ถอดเสื้อผ้าออกสิ่งแรกที่ผมสังเกตคือรอยแผลเป็น ไม่มี รวมถึงแววตากร้านโลก ถึงจะหน้าตาตื่นร้องไห้ตัวสั่นที่ไม่รู้ทำได้ยังไง อันนี้ทึ่ง แต่ที่สำคัญใจเราไม่ตรงกันทั้งเสียงเต้นและการสื่อสารทางความรู้สึกเหมือนอย่างทุกครั้ง และถ้าเป็นหนูจริงๆมีอยู่สองทางเลือก หนึ่ง คือยอมทุกอย่าง และทางเลือกสุดท้ายหักคอหนูด้วยมือตัวเองก่อนที่พวกมันจะทำอย่างนั้น และตายตามไปทันที ผมหลับตาลงไปอีกทีอยากจะฝันถึงหนูโดยมีตุลย์อยู่ด้วย
.
.
.
.
เพี้ยะ
เพี้ยะ
ผลั่วะ
ผลั่วะ
“พวกมึง ทำงานกูพังหมด”
“ขอโทษครับนาย”
เพี้ยะ
ผลั่วะ
หลังมืออีกครั้งจนหน้าหัน ก่อนจะซัดเรียงตัว กัดฟันพูดใส่ด้วยโมโหสุดขีดที่ทุกอย่างไม่เป็นตามที่หวัง ปลาหลุดลงแม่น้ำไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียวหวังจะให้ตายทั้งข้อง
“พลาดทุกอย่าง เป็นไง ไม่พลาด มันหลุดไปได้ยังไง ไอ้ที่ซุ่มตายห่าหมด ฮึ่ม”
“ผมขอแก้ตัว ครั้งสุดท้าย”
“แน่นอน ครั้งสุดท้ายของมึงและพวกมัน”
เสียงเกรี้ยวกราดและเสียงลงโทษยังต่อเนื่อง สำหรับที่ทำผิดพลาด แต่ยังมีโอกาสแก้ตัวในงานครั้งสุดท้าย
.
.
.
.
**อีกนิดนุง**
“ทุกอย่างปกติดี รวมถึงเป้าผมที่ยังใช้การได้อยู่ครับ คุณวิทย์”เสียงหนุ่มลูกครึ่งรายงานแกมเหน็บ
“เหรอ นึกว่าหลุดไปแล้วทั้งยวง ครึครึ”คนปลายสายอีกซีกโลกพูดขำๆ
“เกือบเหมือนกัน แฟนคุณกรนี่น่ารัก หวงตัว แต่ตีนหนักฉิบ คงดูออกว่าผมจีบเลยประเคนให้”พูดชมเสียงเคลิบเคลิ้ม
“เฮ้ย เตือนไว้ก่อน อย่าได้คิดเชียว ทำหน้าที่ต่อไป”พูดเตือนด้วยความหวังดี ถึงแม้จะไม่เคยเจอตัวจริง แต่รู้ว่าเพื่อนหวงไม่งั้นไม่กำชับหลายรอบ ทำไมไม่เอามาอยู่รวมกันก็ไม่รู้จะได้สนิทกันไว้ในฐานะ ’พี่สะใภ้’ และ ‘แม่ใหม่’ ซะเลย แต่ยังไง ขอให้เรื่องจบด้วยดีเถอะ เพื่อนคนนี้โชคร้ายมาเยอะแล้ว ขอให้มีสิ่งดีตอบแทนความดีมันบ้างเถอะ สาธุ
************************************************************************************************************************
ปล. มาแล้วจ้า โอย กว่าจะลงได้หืดขึ้นคอ

เน็ทจูออนค่อยคืบคลานลง ฝุดฝุด

ตอนนี้เคลียร์ทั้งเฮียทั้งหนู ไม่มีอะไรให้กังวลเลย เหรอ หุหุ มาช้าบ้างไรบ้างค่ะเคลียร์งาน แต่ดีใจที่มีคนถามหา ขอบคุณนะคะ :pig4:ส่วนนายกับนาย อืม มันควรจะถึงเวลาชี้แจงความสัมพันธ์แล้วเน๊าะ อิอิ บ้านใครที่ยังน้ำท่วมอยู่ขอให้น้ำลงเร็วๆนะคะ รักษาสุขภาพด้วย และขออนุโมทนาบุญกับคุณ DeJavu ด้วยค่ะ เอาบุญมาฝาก สาธุ ขอให้บุญรักษาเช่นค่ะ รวมถึงทุกคนด้วยนะคะ