>>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )  (อ่าน 1623252 ครั้ง)

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
>> ป. 38 <<  ความสัมพันธ์ที่น่าหลงใหล # 2


‘ไอ้’

‘อะไร’

ผลั่วะ

‘โอ๊ะ’

เพล้ง

‘เฮ้ย’

ตุบ

ผลั่วะ

‘เทียน’

แค่ชื่อที่ออกจากปากไอ้คนตรงหน้าไม่ว่าจะน้ำเสียงแบบไหน ผมก็จะหยุดแต่หลังจากของชิ้นสุดท้ายหลุดจากมือไปแล้ว ถ้าถูกส่วนไหนถึงเลือดตกยางออก ผมก็จะนิ่งไปพักจนแน่ใจว่าไม่เป็นอะไร

‘เทียน’

ซ้ำอีกครั้งเสียงอ่อนลง ก่อนจะถึงตัวหลังจากนั้นทุกอย่างก็เหมือนเดิม เหมือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็จะมาจบที่ตรงนี้ทุกครั้ง

ที่ ที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น

ที่ ที่ไม่อยากยอมรับ

ที่ ที่มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้

แต่

มันย้อนกลับไปไม่ได้

และ

ถ้าย้อนกลับไปได้

ผมจะทำยังไง

ในเมื่อ

ผมไม่รู้เลยว่า

จุดที่จะแก้ไขมันเริ่ม

จากตรงไหน

ผมมองหน้าไอ้คนที่มันกอดผมจนแทบจะจมหายไปในร่าง ไม่เคยปล่อยให้หลุดรอดจากอกสักครั้ง ผมเคยคิดจะหนี แค่เคยคิด แต่ไม่เคยทำ ไม่รู้เพราะอะไร ติดที่ป๊า นั่นคือเหตุผลแรกที่ผมยกขึ้นมาอันดับแรกในหัว  ป๊าผู้มีพระคุณ ป๊าที่รักและหวังดีกับผมมาตลอด รวมถึงแม่ใหญ่ ที่ไม่เคยมองว่าผมเป็นลูกเมียที่สาม เลี้ยงและให้ทุกอย่างเท่าลูกชายที่เป็นคุณชายผู้สืบทอดของตระกูลตัวจริง

‘เทียน จำไว้นะ ถึงลูกจะเป็นลูกชายคนโตของป๊า แต่อย่าถือตัวเองเท่าคุณชาย’

เสียงอ่อนโยนขัดกับสีหน้าเรียบนิ่ง บอกผม

‘ครับ’

คำเดียวที่ตอบรับ ตั้งแต่จำความได้

‘อะไรที่ทำให้ป๊ากับคุณนายใหญ่สบายใจ ลูกก็ทำนะ ไม่ว่าจะต่อหน้าลับหลัง แม่จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ตาม’

‘ครับ’

รับคำเหมือนทุกครั้ง พลางคิดว่าแม่จะไปไหน แต่ก็ไม่ถามตามเคย

‘เทียน ให้คุณชายก่อน’

เสียงคุ้นเคยที่เตือนสติประจำ

‘ครับ’

เสียงตอบรับอย่างไม่เคยลังเล พร้อมยื่นของที่กำลังเล่นส่งให้เด็กผู้ชายวัยสามขวบหน้าตาน่าเกลียดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ตาหยี
ยิ้มกว้าง ที่ใครบอกว่าสดใส มองยังไงก็ยิ้มเหมือนหมาจิ้งจอกเวลาเห็นเหยื่อ

‘ให้คุณชายนะเทียน ลูกพอแล้ว’

‘ครับ’

ยื่นขนมชิ้นสุดท้ายที่แม่ทำ ให้ไอ้เด็กน่าเกลียดแถมตะกละ มันยิ้มพร้อมแบมือขอ ทั้งที่ในปากก็ยังไม่เคี้ยวไม่หมด ไหนจะในกางเกงมันอีกที่ซ่อนเอาไว้อย่างไม่กลัวเละ ถ้าผมแช่งให้ติดคอ จะเป็นยังไงนะ ก่อนจะเบิกตานิดๆ

‘แค่ก แค่ก’

‘คุณชาย! ดื่มน้ำก่อน’

เสียงตกใจกว่าทุกครั้ง ลูบหลังพร้อมอุ้มขึ้นนั่งตักดื่มน้ำ มือทุบหลังเบาเบา

‘เทียน ทำไมไม่ดูคุณชาย ปล่อยให้ติดคอได้ยังไง แล้วยังยืนมองไม่หยิบน้ำ แม่จะทำโทษ ไปยืนขาเดียวบนเก้าอี้’
เมื่อไอ้เด็กปีศาจหายดี แม่หันมาพูดเสียงแข็งกับผมที่ยังตกใจแต่ไม่แสดงออก ได้แต่ทำหน้านิ่งตอบรับ

‘ครับ’

เดินหันหลังไปขึ้นเก้าอี้ แต่มีมือนุ่มมาฉุดเอาไว้

‘อย่าทำ ไม่เอา เดี๋ยวเทียนตก’

ส่ายหัวไปมาจับมือผมไว้แน่น หันไปทำหน้าล่ะห้อยกับแม่ มันทำอะไรของมัน คิดจะบอกให้แม่ทำโทษผมมากกว่าเดิม หรือไอ้เด็กปีศาจมันรู้ว่าผมแอบแช่งเลยแกล้งไอ

‘ก็ได้ คุณชาย’แม่ยกยิ้มกับไอ้เด็กปีศาจที่แยกเขี้ยวก้มหัวให้ ก่อนจะหันมาพูดเสียงเรียบใส่ผมคุณชาย’ เทียน คราวหน้าอย่าให้มีอีก’คิดแล้วว่ามันต้องรู้ แกล้งทำเป็นอ้อนขอแม่ให้ยกโทษให้ผม ปีศาจชัดๆ

‘ครับ’คำที่พูดออกจากปากบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องอะไร บางครั้งผมก็อยากเติมคำว่า ไม่  พอกับคำว่า ทำไม เข้าไปบ้างเวลาที่แม่พูดกับผมในแต่ล่ะครั้ง แล้วผลตอบรับล่ะ ผมจะโดนทำโทษหรือเปล่า จนกระทั่งวันหนึ่งที่ผมรู้แล้วว่าแม่ไปไหน และผมก็ยังไม่รู้เลยว่าถามออกไปแล้วจะเป็นยังไง ผมนั่งมองรูปแม่ในห้องนอน

“หลายปีแล้ว แม่สบายดีนะ ผมปฏิบัติตามแม่มาตลอด ไม่ต้องห่วง”ผมยกยิ้มพูดกับแม่ เอาดอกไม้ปักใส่แจกันให้ ก่อนจะค่อยหุบลงเมื่อได้ยินเสียงขัดขึ้น

ก๊อก

ก๊อก

“ใคร”

“คุณเทียน นายท่านเชิญที่ตึกค่ะ”

“เดี๋ยวตามไป”

“ค่ะ”
.
.
.
.
“เทียน นั่งก่อน” ป๊าเรียกเสียงอ่อนโยนพอกับยิ้มบนสีหน้า

“ครับ”ผมยกยิ้มก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับป๊า

 “เดี๋ยวรอเฟยก่อนนะ กลับมาเกือบเช้าเลย”ป๊าพูดเชิงบ่นแต่ไม่จริงจังนัก

‘ครับ’ผมก้มหัวให้ป๊า นึกไปถึงตอนเด็กป๊าจะเข้มงวดกว่านี้ พอโตมาก็ปล่อยให้คิดและตัดสินใจเอง แต่พร้อมจะให้คำปรึกษาและ
ช่วยเหลือเสมอ

‘โตแล้ว ป๊าไม่อยากบังคับเราสองคนมากนัก เทียนป๊าไม่ค่อยห่วง แต่เฟยเนี่ยสิไม่ไหว ยังไงป๊าฝากเตือนน้องบ้างนะ’นั่นเป็นคำพูดของป๊าที่มักจะพูดกับผมเสมอ และคงไม่ต้องบอกมั้งครับว่าผมจะตอบป๊าว่ายังไงในตอนนั้นและทุกครั้ง ทั้งที่ผมไม่เคยเตือนมันสักครั้ง 

‘ไอ้ไป่ ใครจัดการเคลียร์เรื่องเมื่อคืน’เสียงงัวเงียถามลูกน้องสนิท

‘คุณเทียน ครับ คุณชาย’ลูกน้องตอบ

‘จัดการยังไง ให้เงินไปคนล่ะก้อนเหรอ’ถามไม่จริงจังออกจะขำๆ กระดกขวดน้ำ

‘เอาน้ำสาดครับ’ลูกน้องตอบเสียงเรียบ

‘แค่ก แค่ก มึงว่าอะไรนะ’สำลักก่อนจะถามเสียงดังอีกนิด

‘คุณเทียนเอาน้ำสาด คุณลีน่า กับ คุณเหมยลี่ ครับ’ตอบเสียงเดิม ทำเอาคุณชายขมวดคิ้ว ก่อนจะหัวเราะ

‘ฮ่าๆๆ อยากเห็นจังเลย ว่าคุณเทียนทำหน้ายังไง’คุณชายหัวเราะทำหน้ายียวน

‘เอ้อ ทำหน้าแบบทุกครั้งแหละครับ ผมขอตัว’พูดก่อนจะเดินออกไป ตาเหลือบมองด้านหลัง

‘อะไรของมันวะ เฮ้ย แค่ก แค่ก’ส่ายหัวก่อนจะหันไป เต็มๆหน้ากับน้ำเย็นในเหยือก เสียดายไม่มีน้ำแข็ง

‘อย่าให้มีอีก’ผมพูดหลังจากสาดน้ำใส่หน้าคุณชาย เมื่อวานพาผู้หญิงไปกกที่เซฟเฮ้าส์ด้านบนของบริษัท ถ้าเป็นที่ทำงานมันเองผมคงไม่ทำแบบนั้น แต่เป็นบริษัทที่ผมรับผิดชอบอยู่  แถมยังตบตีกันหลังไอ้ปีศาจตื่นแล้วชิ่งหนีไปก่อน ให้เลขาไปเคลียร์ไม่ยอมเลิก จะใช้วิธีรุนแรงก็ไม่เหมาะกับผู้หญิง เลยใช้วิธีเบาที่สุด เอาสีราดหัวคนล่ะที ถึงได้ยอมไป

‘อะไร มีแล้วไม่ใช้ ยืมไม่ได้หรือไง ฮ่าๆๆๆๆ’เสียงหัวเราะชั่วร้ายตามหลัง อย่างไม่มีสำนึก คราวหน้าจะเจอน้ำที่เป็นสีสาดเหมือนคู่ขาตัวเอง

“เฟยทำอะไรให้หนักใจหรือเปล่า”ป๊าถามผมหลังจิบน้ำชา ทำให้ต้องดึงสติกลับมาตรงหน้า

“ไม่ครับ”มันไม่ถึงกับหนักหนา ผมก็ไม่อยากให้ป๊าไม่สบายใจ โดยเฉพาะแม่ใหญ่กำชับมากเรื่องผู้หญิง ผมไม่อยากยุ่งแต่เลี่ยง
ไม่ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับตามติด จะฝากไป่ก็คงจะไม่ได้เรื่อง ไอ้ปีศาจเวลามันเอาเรื่องใครก็เอาไม่อยู่ นอกจากป๊ากับแม่ใหญ่เท่านั้นที่
ประเลาะได้

“ฮึฮึ ป๊าคงถามผิดคนไปหน่อย”ป๊าพูดอย่างรู้นิสัยผม แม้แต่เรื่องของตัวเองผมก็ไม่ปริปาก แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องไอ้คุณชายปีศาจผมจะพูดออกมาเชียวเหรอ

“นินทาผมเหรอ ป๊า”เสียงทุ้มออกร่าเริงของไอ้ปีศาจจิ้งจอกขัด ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างผมที่กำลังจะเขยิบแต่มันชิงเอาขาหน้าโอบไหล่ผมเอาไว้ ทำให้ผมได้แต่นั่งนิ่งตามเดิม ปรายตามองก็เจอมันมองยกยิ้มมุมปากอยู่แล้ว

“จะมีใครให้นินทาล่ะ จริงไหมเทียน”ป๊าพูดใส่คุณชายของบ้านและหันมาถามผม

“ครับ ไม่ได้นินทา แต่พูดเรื่องจริง”ผมตอบพร้อมแก้ตัวให้ป๊า

“ฮ่าๆๆๆ อืม นั่นสิ”ป๊าหัวเราะพยักหน้าไปมาช้าๆ

“พี่ใหญ่ก็พูดเกินไป”ก้มมาพูดใกล้ๆ เสียงยียวน นานทีคำว่า ‘พี่ใหญ่’ จะออกจากปาก

“เอาล่ะๆ พอแล้วเฟย เลิกแกล้งเทียน”ป๊าคงเห็นผมเฉยไม่โต้ตอบเหมือนพี่น้องทั่วไป ก็เลยห้าม

“ที่เรียกมา ป๊ามีเรื่องจะบอก”ป๊าพูดเกริ่นเพื่อจะเข้าเรื่อง ผมตั้งใจฟังทั้งที่รำคาญไอ้ขาหน้ามันเขี่ยไหล่ไปมา เลยปัดออกหลังป๊า
หันไปหยิบซองเอกสาร มันยักคิ้วใส่ผมก่อนจะเปลี่ยนไปโอบเอวแทน จะเบี่ยงออกป๊าหันมาพอดี ผมเลยต้องหยุดเป็นเหตุให้มันหอนในลำคออย่างพอใจที่แหย่ผมได้

“บริษัทที่เทียนรับผิดชอบอยู่ ป๊าจะให้อาสองกับอาสามเข้าไปทำแทนนะ”ป๊าพูดออกมา ผมอึ้งไปนิดแต่ในใจคิดว่าผมทำอะไรผิดพลาดหรือเปล่า กำลังจะตอบรับอย่างทุกครั้ง แต่มีเสียงเห่าแทรกแทน

“ทำไมล่ะป๊า”ขมวดคิ้วอย่างสงสัยตามนิสัยคนพูด ถ้าสงสัยอะไรจะต้องรู้ให้ได้

“ฮึฮึ  ป๊ากำลังจะบอกเพราะรู้ว่าเทียนไม่ถามแน่”ป๊าพูดอย่างรู้ทัน ก่อนจะพูดต่อ

”เทียนทำงานดีมาก ป๊าภูมิใจที่ลูกชายป๊าเก่ง แต่ตอนนี้งานที่อาสอง กับ อาสาม ทำมันอยู่ในภาวะเสี่ยงป๊าอยากจะหยุดไปก่อน ทางการเพ่งเล็งเราอยู่”ป๊าชมที่ไม่ยอเพื่อเอาใจ บอกเหตุผลที่ป๊ากำลังกังวล และเมื่อนี่ผมกับไอ้ปีศาจเพิ่งจะถูกคนตามประกบยิง หลังกลับจากงานวันเกิดฟง เพื่อนสนิทที่สุด ดีว่ารอดมาได้

“ป๊าจะให้เทียนเข้าไปทำงานกับเฟย จะได้เป็นที่ปรึกษาให้น้องได้”ป๊าพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

“ปรึกษาหรือป๊าจะให้ไปคุมก็พูดตรงๆก็ได้ ผมยินดีอยู่แล้ว มากด้วย ฮึฮึ”เสียงหอนในลำคอต่อท้ายที่ผมไม่ชอบเอาซะเลย

“จะคิดอย่างนั้นก็ได้ นี่ทำเรื่องเอาไว้ให้เทียนแก้อีกแล้วนะ ม้ารู้เข้าคงไม่ดี โตแล้วนะเฟยไม่ใช่เด็ก ทำอะไรมีหัวคิดได้แล้ว ป๊ายอมรับเรื่องงาน แต่เรื่องส่วนตัวเพลาหน่อย”ป๊าพูดเสียงเรียบเริ่มจะจริงจัง ทำเอามันหน้าสลดได้ ผมคิดว่าตัวเองกระตุกยิ้มชอบใจอยู่แต่ไม่แสดงออก

“ขอโทษครับป๊า”ไอ้ปีศาจมันก้มหัว น้ำเสียงไม่มีล้อเล่นแล้ว แต่ให้ดีมันควรเอาขาหน้ามันออกจากเอวผมสักที ผมไม่ได้อึดอัดแต่รำคาญมากกว่า รู้สึกอย่างนี้ทุกครั้งเวลาที่ใกล้ชิด

“อย่าขอโทษแล้วไม่ทำ มันไม่มีความหมาย ป๊าเป็นห่วง อีกหน่อยเกิดป๊ากับม้าจากไปก่อน จะทำยังไง”ป๊าพูดต่อเสียงเสียงทุ้ม แต่ฟังแล้วรู้สึกใจหาย

“ป๊าอย่าพูดอย่างนี้สิ”เสียงมันอ่อนลง หน้านิ่งเหมือนเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ยกเว้นระริกระรี้เวลาอยู่กับผู้หญิง ผมไม่ได้อยากจะสนใจนักหรอกแต่มันชอบพามาอยู่ในสายตา คงจะเอามาอวดผมกระมังที่เปลี่ยนไม่ซ้ำหน้า แต่ฟังป๊าพูดแบบนี้มันคงคิดได้บ้าง

“มันเป็นสัจธรรม ป๊าถึงบอกเสมออย่าประมาท อีกหน่อยแต่งงานแต่งการเป็นหัวหน้าครอบครัว ยังประพฤติตัวแบบนี้จะดูแลได้ยังไง เข้าใจที่ป๊าพูดไหม เฟย เทียน”ป๊าพูดอย่างเป็นเรื่องธรรมดาในตอนแรก พร้อมสั่งสอนในตอนท้าย

“ครับ/ครับ”ตอบรับพร้อมกัน

“ดี สองคนพี่น้องรักกันไว้ อย่าทิ้งกัน ไม่ว่าจะทุกข์สุขขอให้อยู่ร่วมช่วยกันแก้ไขนะ”ป๊ายิ้มสีหน้าดีขึ้น ผมก็คงจะตอบรับด้วยคำเดิมที่ตอบประจำ มีอะไรที่ผมจะแย้งได้บ้าง แต่ยังไม่ทันตอบ

“ฮึฮึ ถ้าไม่มีคำว่าพี่น้อง ป๊าพูดเหมือนอวยพรบ่าวสาวตอนเข้าหอเลยนะ จริงไหมเทียน ”มันพูดจบผมแทบอยากจะลุกจากตรงนั้น ไม่รู้สมองมันตีความไปได้ยังไงกับคำพูดป๊า แสดงว่ามันคิดอะไรไม่ได้จริงๆ

“เหรอ แล้วเมื่อไหร่จะให้ป๊าได้อวยพรสักทีล่ะ ป๊ากับแม่ใหญ่อยากอุ้มหลานแล้ว ว่าไง”ป๊ายกยิ้มพูดกลับ ทำเอาเงียบกริบทั้งคู่ ไม่รู้ทำไมถึงได้หันมามองหน้ากัน ก่อนผมจะเบือนกลับมาก่อน

“ทำไมล่ะ ตัดสินใจไม่ถูกเหรอว่าใครจะแต่งก่อน นี่ม้าเขาก็ดูลูกเพื่อนไว้ อาเพ่ยไง”ป๊าเลิกคิ้วพูดแหย่อีก อาเพ่ยเป็นลูกเพื่อนแม่ใหญ่ เป็นคุณหนูที่เพียบพร้อม ถึงจะเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่แต่กิริยาท่าทางนอบน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นที่น่าเอ็นดูต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่ควง และน่าจะเป็นเพื่อนผู้หญิงที่สนิทที่สุดของไอ้ปีศาจ

“โธ่ ป๊าจะรีบให้แต่งไปไหน เราเพิ่งเรียนจบทำงาน สนุกกับชีวิตโสดได้ไม่นานเอง”ไอ้ปีศาจพูดเบี่ยงเอาตัวรอด แต่มันใช้คำว่า เรา คือเหมาผมรวมไปด้วยใช่ไหม ผมควรขอบใจมันหรือเปล่าที่เสนอหน้าให้ทุกเรื่องทั้งที่ไม่ได้ขอ

“จะได้มีคนสืบสกุลต่อไง มีตอนยังหนุ่มยังแน่นดีกว่าตอนไม่มีน้ำยานะ อาเฟย อาเทียน”ป๊าพูดเชิงแหย่ต่อ

“ก็มีตั้งเยอะตั้งแยะแล้ว วิ่งให้ยั้วเยี้ยไปหมด เห็นแล้วน่าปวดหัว”ไอ้ปีศาจทำหน้าเบื่อๆเมื่อนึกถึงเด็กที่มาเวลารวมญาติ

“เห่ย มันไม่เหมือนกันนั่นลูกพี่ลูกน้องถึงจะแซ่เดียวกัน แต่ป๊าหมายถึงหลานแท้ๆที่สืบสายเลือดจากเราสองคน อย่ามาแกล้งโง่ อาเฟย”ป๊าโบกมือและอธิบายทิ้งท้ายอย่างรู้ทันตามเคย อีกฝ่ายหัวเราะที่ถูกจับได้

“เทียนมีคนที่พอใจบ้างไหม ป๊าไม่เห็นควงใครเลย”ป๊าหันมาถามผมที่ได้แต่นั่งฟังอย่างเดียว

“จะมีได้ยังไงล่ะป๊า ก็”พูดยิ้มเหมือนแยกเขี้ยวใส่ ผมหันไปมองหน้า ป๊าเลิกคิ้วเชิงถามว่าทำไม ก่อนจะพูดต่อ“ไม่ควงแสดงว่าไม่มีไง”พูดเสียงทะเล้น หรี่ตามองผม

“อาเฟย”ป๊าเรียกเสียงหนัก ก่อนจะส่ายหน้า “แต่ยังไงป๊าก็ยังอยากให้พวกเราแต่งงานเร็วๆนะ แล้ว เทียนถ้าไม่ติดขัดอะไรก็เริ่มงานได้เลยนะ ป๊าให้อำนาจเราเต็มที่ ถ้าเกินจะรับก็จัดการได้เลย”ป๊าพูดรวบรัดตัดบท เพราะมีธุระต้องไปจัดการต่อ พอลับหลังป๊า
หันมามองหน้าพร้อมกัน

“ปล่อย”ผมแกะขาหน้ามันที่ตะปบอย่างแน่น

“ขอบใจก่อนสิ จะปล่อย”ยื่นหน้ามาพูดใกล้

“เรื่องอะไร”ถามเสียงเรียบ

“ทุกเรื่องที่ถามให้”ยักคิ้วใส่

“ไม่ได้ขอ”ว่ากลับ

“ก็รู้”ผมกวนใส่ ดึงเข้าไปใกล้ อย่างไม่ตั้งตัว เผลอเอามือยันทำให้มันกอดได้แนบชิดกว่าเดิม

“ขอประทานโทษค่ะ คุณชาย”เสียงสาวใช้ขัดขึ้น ยืนก้มหน้า

“มีอะไร”ถามด้วยน้ำเสียงเหมือนจะหงุดหงิด ทำเอาสาวใช้ก้มหน้า

“คะ คือ คุณชายฟงมาพบคุณเทียน รออยู่ที่สวนค่ะ”สาวใช้รายงานพร้อมรอรับคำสั่ง

“ปล่อยให้รออย่างนั้นแหละ ฉันคุยธุระกันอยู่ ถ้ารอไม่ไหวก็ให้มันกลับไป”พูดเสียงดัง สาวใช้คอหด

“บอกว่า เดี๋ยวฉันไป หาอะไรรับรองหรือยัง”ผมตัดบทพูดพร้อมถาม

“ค่ะ เรียบร้อย จะไปเรียนตามนี้ค่ะ”รับคำและรีบไปทันที

“ยังคุยไม่เสร็จ”มันดึงเข้าไปใกล้ ภาวนาอย่าให้มันเอาขาหลังมารัดอีกชั้นเลย ไม่อยากอับอายไปมากกว่านี้

“คุณชาย มีเหตุผลหน่อย ป๊าเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ให้มีหัวคิดได้แล้ว”พูดเตือนสติเผื่อจะคิดได้บ้าง

“มี แต่นั่นสำหรับเรื่องงาน ส่วนเรื่องไอ้ฟง ไม่จำเป็น คุณชายเทียน”เลิกคิ้วพูดใส่อย่างกวนๆ

“ถ้าพูดแล้วจบไหม”ผมคิดว่าควรตัดปัญหา มัวแต่ถือดีเถียงมีแต่เสียเวลา

“ไม่อยากฟังแล้ว”หรี่ตาใส่ ผมเลยเงียบปล่อยไอ้ปีศาจมันกอดไป คิดว่าเดี๋ยวมันก็ปล่อยเอง เพราะใกล้แล้ว

.
.
.
.

“แล้วคุณชาย”ไป่ถามหลังจากผมให้สาวใช้ไปเรียก หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง มันหมดฤทธิ์คงหมดพลังงานนอกบ้านมาเยอะ

“จะแบกขึ้นไปนอนหรือปล่อยไว้อย่างนี้ก็ตามใจ”ผมพูดเรียบๆก่อนจะวางหัวไอ้คนกอดที่มันหลับคาตักกับหมอนอย่างเบามือไม่ใช่กลัวมันเจ็บแต่กลัวมันตื่นขึ้นมาอีก ไม่น่าเถียงกับมันให้เปลืองพลังงานเสียงเลย มันหน้าบึ้งเสียงดัง แต่ตามันปรือแทบจะหลับ ขาหน้ามันก็กอดรัด ผมต้องตบหลังมันเบาๆให้มันหลับเร็วขึ้น เห็นแม่ทำให้มันตอนเด็กได้ผลดี

“เอ้อ ครับ”ไป่รับคำ ผมมองอีกครั้งกำลังจะเดินออกไป

“หาผ้ามาคลุมด้วย ถ้าแบกไม่ไหวก็”ผมหยุดบอกไป่แต่ไม่ได้หันไปมอง

“เทียน เทียน”เสียงพึมพำทำให้เท้าที่จะก้าวออกหยุดเดิน จนแน่ใจว่าไม่มีหลุดมาอีก ผมก็ก้าวออกไปทันที
.
.
.
“รอนานไหม”ผมถามฟงที่นั่งจิบน้ำชา ตาก็ชมสวนดอกไม้ไปด้วย

“นิดหน่อย เห็นบอกเทียนติดธุระอยู่”ยกยิ้มตอบตามนิสัยเจ้าตัว ผมพยักหน้า

“อืม มีธุระอะไรเหรอ”ผมถามทันที เพราะอยากไปเคลียร์งานต่อก่อนจะส่งให้อาสองกับอาสาม

“อะไรกันเทียน เพื่อนมาหาต้องมีธุระด้วยเหรอ”พูดตัดพ้อทั้งสีหน้าและแววตา

“แล้วมีอะไรล่ะ”ผมถามเสียงปกติ หน้านิ่งตามเคย ฟงเป็นเพื่อนคนเดียวที่คบนานที่สุด ไม่เคยบ่นว่ารำคาญ น่าเบื่อ คนแบบผมที่เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน

“คิดถึง”พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนตามนิสัย

“อืม”ผมตอบหน้านิ่งอย่างทุกครั้ง

“โห เทียน บอกกลับบ้างสิ”กุมมือส่ายหน้าไปมา

“นายไปบอกสาวๆหรือแฟนดีกว่าไหม บอกฉันก็เท่านั้นแหละ เจอกันก็บ่อยจะคิดถึงทำไม”ผมตอบเพื่อนที่ทำเป็นคอตกกับความหมายที่พยายามจะสื่อ ฟงเป็นผู้ชายมีเสน่ห์ มีผู้หญิงมาติดเยอะ ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เป็นคนที่โดดเด่น เหมือนไอ้ปีศาจนั่น ทำไมผมต้องเอามาเปรียบกันด้วยนะ

“เทียน นายไม่รู้จริงๆเหรอว่าฉันรู้สึกยังไง ฉันยังยืนยันตามเดิมนะ”ผมเกือบจะถอนหายใจออกมา หนีไอ้ปีศาจมาเจอเรื่องชวนอึดอัด ถ้าไม่ใช่ฟงผมคงพูดอะไรได้มากกว่านี้ ที่ผ่านมาฟงก็ดีกับผมมาตลอดไม่เคยกดดัน แต่ครั้งนี้ดูเร่งรัดจะเอาคำตอบให้ได้ ผมรู้ตัวเองว่าเป็นอะไร ผมเป็นอย่างที่เพื่อนล้อ แต่ผมก็ไม่เคยพิศวาสผู้ชายคนไหนสักที ความสัมพันธ์แบบนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับไม่
เหมือนโลกตะวันตกเท่าที่รู้

“ฟง ฉันตอบรับนายไม่ได้หรอก ถ้าเราทำแบบนั้น ผู้ใหญ่จะรู้สึกอย่างไร ท่านจะผิดหวังแค่ไหนที่เราทำแบบนี้ ฉันรู้ตัวเองแต่ไม่สามารถทำตามความรู้สึกได้ ฉันทำให้ท่านผิดหวังไม่ได้ มันอกตัญญู นายก็เหมือนกันเลิกคิดแบบนี้ซะ”ผมบอกถึงเหตุผลที่คิดว่ามันถูกต้องและดีสำหรับทุกฝ่าย

“เทียน”ฟงเรียกผมดึงมือไปกุม ผมเหลือบตามอง ฟงพูดต่ออย่างดื้อรั้นเชิงขอร้องให้ทบทวน “ถ้าไม่ยอมรับเราไปใช้ชีวิตที่อื่นก็ได้ บ้านนายก็มีคุณชายเฟย บ้านฉันก็มีพี่น้องผู้ชายอีกหลายคน ขาดเราสองคนไม่เป็นไรหรอก เชื่อสิ สักวันเขายอมรับค่อยกลับมาก็ได้ ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนรังเกียจและตัดขาดลูกเพราะเหตุนี้หรอกเทียน”

“พอเถอะ ถ้าจะเป็นเพื่อนกันต่อก็อย่าพูดเรื่องนี้อีก”ผมตัดบทพร้อมดึงมือออก ถ้าใครมาเห็นเข้าจะดูไม่ดี แล้วที่สาวใช้เห็นที่ห้องรับแขกล่ะ คงไม่หรอกมั้ง พี่น้องคงไม่แปลกอะไร

“เฮ้อ ก็ได้ แต่ฉันไม่เลิกความคิดหรอกนะ ฉันรักนาย รักมานานแล้ว และจะรักตลอดไป”ฟงยอมแต่ไม่ตัดใจเลิกคิด เอาเถอะอีก
หน่อยมีครอบครัวก็คงลืมไปเอง และผมล่ะจะมีครอบครัวได้ไหม ผมเคยนอนกับผู้หญิงนับครั้งได้ แต่ไม่รู้สึกดีสักนิด กับฟงจับมือก็ไม่เคยหวั่นไหว คนอื่นไม่ต้องพูดถึงแทบจะไม่มีเลย โดยเฉพาะเวลาไอ้ปีศาจมันอยู่ด้วย กับฟงก็เหมือนกันถ้ามันเห็นจะแทรกเข้ามาตลอดด้วยนิสัยชอบแกล้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เห็นคนอื่นหงุดหงิดแล้วมันจะรู้สึกดี

“เอ้อ แล้วสรุปใช่พวกไอ้กวงหรือเปล่า”ฟงเปลี่ยนเรื่องมาถามถึงเหตุการณ์ที่โดนลอบทำร้าย

“น่าจะใช่ แต่ป๊าไปเคลียร์ให้แล้ว”ผมตอบฟง ก่อนจะยกน้ำชาขึ้นจิบบ้าง

“รู้อย่างนี้เราตามไปส่งซะก็ดี โชคดีที่ไม่เป็นอะไร”ฟงพูดเหมือนรู้สึกผิดที่ไม่ตามมาส่ง

“ขอบใจ เรื่องแล้วไปแล้วช่างมันเถอะ ตอนนี้เห็นว่าโดนเจ้าหน้าที่บีบอยู่ทำให้หยุดกร่างไปแล้ว”ผมตอบฟงพร้อมเล่าสิ่งที่รู้มาให้ฟัง ป๊าไปหาผู้ใหญ่ระดับสูงคนหนึ่งให้ช่วยไกล่เกลี่ยให้ ท่านบอกลองใช้ไม้อ่อนก่อน ถ้าอีกฝ่ายไม่เลิกค่อยใช้ไม้แข็ง

“ฮึ คนอย่างมันจะหยุดเหรอ นี่ได้ข่าวว่า ตอนนี้น้องชายคนรองมันเลื่อนยศเท่าพ่อแล้ว อีกหน่อยมันต้องวิ่งเต้นเข้าหาท่านผู้นำแน่ พ่อเกรงว่ารัฐบาลชุดหน้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง อาจจะส่งผลมาถึงท่านด้วย”ฟงพูดอย่างไม่ไว้ใจอีกฝ่าย และเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้

“อย่าเพิ่งตีตนไปก่อน อาจจะไม่มีอะไรก็ได้”ผมได้แต่พูดปลอบ ถ้าเป็นอย่างที่ฟงพูด คงลำบากหลายฝ่าย โดยเฉพาะบริษัทผลิตอาวุธของป๊า ที่ตอนนี้ปิดชั่วคราว ตอนแรกทางรัฐบาลจะยึดเป็นทรัพย์สินส่วนรวม แต่ยังไม่มีความผิดร้ายแรงทำให้กระทำไม่ได้ ป๊ากลัวว่าไอ้กวงจะใช้จุดนี้มาเล่นงาน

“ขอให้เป็นอย่างนั้น แต่ถ้ามันเกิดขึ้น ฉันนี่แหละจะปฏิวัติคืนให้ได้ คอยดูสิ”ฟงพยักหน้าก่อนจะพูดจริงจังน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ฟงเป็นทหารตามผู้เป็นพ่อ ตำแหน่งก้าวหน้าไวมาก แต่ก็มาจากความสามารถของเจ้าตัวล้วนๆ จบในประเทศและยังมีดีกรีนักเรียนนอกที่พกความรู้มาพัฒนาประเทศอีกมาก ถ้าพ่อของฟงปลดเกษียณ ฟงได้ตำแหน่งต่อจากพ่อไม่ยากเลย

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
“เทียน”เสียงเรียกพร้อมถึงตัวทันที

“คุณชาย”ผมกัดฟันเรียกเบาๆเมื่อมันเอาขาหน้ารัดอีกแล้ว ต่อหน้าฟงที่มองด้วยสายตาไม่ชอบใจ

“ยังไม่กลับอีกเหรอ คุยอะไรนักหนา จะปรึกษาเรื่องงานที่ป๊าให้ไปทำด้วยกันหน่อย”หันไปพูดยั่วอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงกวนพอกับสีหน้า

“เสียมารยาท”ผมพูดกับไอ้ปีศาจที่เอาคางเกยไหล่อย่างถือสิทธิ์อะไรของมันไม่รู้ ถ้าได้อยู่ใกล้มันเป็นอย่างนี้ตลอด

“ใช่ เสียมารยาท มาตั้งนานน่าจะกลับได้แล้ว พูดถูกใช่ไหม”สาระบบการสื่อสารมันทำด้วยอะไรถึงได้เป็นอย่างนี้

“แต่ฉันมาหาเทียน ไม่ได้มาหานาย ถ้าฉันจะกลับคงต้องให้เทียนเป็นฝ่ายเอ่ยปากมากกว่า ที่จะให้คุณชายแต่มีศักดิ์เป็นน้องชาย พูดแทน”ฟงยกยิ้มพูดกลับอย่างใจเย็นแต่เน้นตรงคำว่า น้องชาย ใส่ จนผมเกือบสะดุ้งเมื่อโดนรัดแน่นขึ้น

“นี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ เป็นเพื่อนเทียนมาได้ยังไงกันวะ ที่เทียนไม่พูดก็เพราะเห็นแก่ความเป็น เพื่อน หรอกโว้ย”อีกฝ่ายก็ตอกกลับเน้นคำว่า เพื่อน ใส่ ทำเอาฟงชักสีหน้าบ้าง

“คุณชาย”ผมเรียกเตือนอีกครั้ง ไอ้คุณชายหอนในลำคออย่างไม่พอใจ ฟงยกยิ้มชอบใจก่อนจะหุบลง

“ฟงกลับไปก่อนแล้วกัน ฉันมีงานต้องเคลียร์จริงๆ เอาไว้คราวหน้าคุยกันใหม่”ผมบอกฟงทำเอาเสียงหอนดีขึ้น

“ฮึฮึ บอกแล้วไม่เชื่อ ไปสิ พี่ใหญ่ฉันออกปากแล้วไง ฮึฮึๆๆๆ”พูดใส่พร้อมหัวเราะจิตๆ

“ได้ อ้อ ยังไงอย่าลืมเรื่องที่เราคุยกันนะ ลองคิดอีกที ฉันรออยู่”ฟงยอมอย่างเสียไม่ได้แต่พูดทิ้งท้ายยิ้มๆ ผมพยักหน้าไม่ใช่จะเอาไปคิดแต่รู้ว่าฟงพูดแหย่อีกฝ่าย และถ้าผมพูดกลับไปก็จะเป็นการหักหน้าเพื่อน แต่พยักหน้าก็ใช่ว่าจะดีกับตัวเอง

“ไอ้ฟงมันรออะไร”ถามเสียงแข็งหลังจากฟงเดินลับไปแล้ว

“มันเรื่องส่วนตัว คุณชาย หัดมีมารยาทบ้าง”ผมบอกเสียงเรียบหน้านิ่ง

“มีแล้วไง ถามตอนมันไม่อยู่ ดีไม่ถามต่อหน้า หรืออยากจะให้ไปถามมันเองก็ได้นะ”ไม่ได้มีสำนึกกลับยอกย้อน

“ตามใจ อยากให้เขาว่าถึงป๊ากับแม่ใหญ่ ว่าไม่ได้อบรมสั่งสอนคุณชายก็เชิญ ปล่อยได้แล้ว จะคุยงานก็คุย ไม่คุยจะกลับไปจัดการงานต่อ”คนแบบนี้ยิ่งห้ามยิ่งยุ แต่ก็อดหวั่นไม่ได้กลัวหมาจิ้งจอกมันบ้าไปถามจริงๆ แต่เอาป๊ากับแม่ใหญ่มาอ้างมันคงจะฟังบ้าง มันฮึดฮัดก่อนจะลุกและดึงผมตามไปด้วย
.
.
.
.
หลังจากนั้นชีวิตผมก็ดูจะวุ่นวายยิ่งกว่างานในบริษัทซะอีก งานยุ่งยังมีจบ แต่ไอ้ชีวิตส่วนตัวถูกคุกคามไม่มีจบ

‘กาแฟใคร’

 ‘คุณเฟยค่ะ’

‘ไปเอามาใหม่ เป็นกาแฟดำ’

‘ข้าวต้มใคร’

‘คุณเฟยค่ะ’

‘เอามาใหม่ อย่าใส่ต้นหอมผักชี’

‘เอาไปรีดใหม่ อย่าให้เป็นรอย’

‘จำด้วยสิ ว่าคุณชาย คุณท่าน ชอบหรือไม่ชอบอะไร ป้าหลิวไม่บอกหรือไง’

ทำไมผมต้องมาคอยกำกับสาวใช้พวกนี้ด้วย ไม่รู้นิสัยคุณชายหรือไง หรือบอกแล้วไม่จำ ผมไม่ได้อยากจะใส่ใจหรอก แต่เห็นใจที่ต้องไปเอามาใหม่ ปกติผมไม่เข้ามายุ่งแต่หลังจากต้องไปทำงานด้วยกัน ผมก็ต้องมารอคุณชายที่นี่ทุกวัน รวมถึงบางครั้งที่ต้องขึ้นไปปลุกด้วยตัวเอง

‘คุณชาย’

‘อืม’

‘ตื่นได้แล้ว’

‘อีกหน่อย สายไม่เป็นหรอก วันนี้ไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ เทียน’

‘จะมีหรือไม่มีก็ต้องไปแต่เช้า เป็นตัวอย่างให้พนักงาน ถ้าสายก็ขอให้สายแค่ รปภ.’

‘ปวดหัว เทียน’

‘เมื่อวานยังดีๆอยู่’

‘ก็นั่นเมื่อวาน วันนี้เพิ่งเป็น’

ผมเดินเข้าไปใกล้ มองไอ้ปีศาจคิ้วขมวด หน้าแดงนิดๆ เกือบจะเชื่อแล้วว่าเป็นไข้ ถ้าไม่ได้กลิ่นเหล้า คงเพราะงานเลี้ยงเมื่อคืนกับลูกค้า เกือบจะมีเรื่อง ลูกค้าเมามากและเกาะติดอยู่แต่กับผมที่ต้องต้อนรับตามมารยาท ถ้าไอ้ปีศาจมันไม่อาละวาดก่อน ผมก็คงจะกรีดหน้าไอ้ลูกค้าหน้ามืดแน่นอน

‘เทียน’

‘งั้นก็พัก’

ผมตัดบทดีกว่า พูดกับคนเมาก็เท่านั้น หันหลังเดินออกแต่ต้องหงายหลัง พร้อมตวัดรัดอย่างแน่น เอาผ้าคลุมทับอีกที กลิ่นเหล้าคลุ้งไปหมด

‘ปล่อย ฮึ่ม’

‘ไม่ต้องไปหรอก วันนี้ให้อาหลงดูก็ได้ นะ’

‘ไม่ไปก็นอน ปล่อย’

‘ไม่เอา’

‘ปล่อย’

‘ไม่’

ผลั่วะ

แล้วผมก็หลุดมาได้หลังศอกกระแทกบางอย่าง ผมลุกขึ้นเอามือจัดสูทให้เข้าที่ เดินออกแต่ต้องหยุดเท้า หันไปมอง เบิกตาเมื่อเห็นเลือดออกจากจมูกโด่ง

‘คุณชาย’

‘คุณชาย’

ผมเรียกแต่ไม่มีการตอบรับ คิดว่าหลอกหรือเปล่า สาวเท้าเข้าไปใกล้อย่างระวัง

‘คุณชาย’

เรียกอีกครั้ง เอื้อมมือจะไปจับแต่ต้องชะงักไว้ก่อน หันไปหยิบไม้เกาหลัง สะกิดๆ แต่ไม่ตื่น ผมเอื้อมมือไปจับ หยิบทิชชู่ซับเลือดให้ ก็ยังไม่ได้สติ เอามือตบเบาๆ กำลังจะเรียกชื่ออีกฝ่ายที่ไม่เคยเรียกสักครั้ง

‘อูย เทียน ใจร้าย’

เสียงพึมพำแต่หลับตา ผมเด้งตัวลุกหนีทันที กลัวจะต้องโดนตัวอีก เห็นหน้าตัวเองในกระจก ยกมือลูบช้าๆ ผมหน้าแดงทั้งที่ไม่ได้ร้อน ไม่ได้เป็นไข้ ไม่ได้เมา

แต่

เพราะไอ้ปีศาจมันเปลือยกายต่างหาก และบางอย่างในร่างกายก็ตื่นตัวด้วย

ไอ้ทุเรศ

ผมสะบัดหัวจากความคิด เอามือลูบหน้าที่แดงอย่างแรง จนแดงยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะพาตัวเองออกจากห้องมันอย่างเร็ว ถ้าช้าอีกนิดคงได้ยินเสียง

‘ฮึ ฮึ เทียนของฉัน นายเป็นของฉันเท่านั้น’
.
.
.
.

วันนี้เป็นวันแห่งความสุข วันรวมญาติ และวันไหว้บรรพบุรุษ เสียงประทัดจุดนับร้อยนับพัน หลังเสร็จพิธีไหว้ ก็เป็นการกินข้าวร่วมกันก่อนจะแยกย้ายหลังพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินกลับบ้านหลังเล็ก หยิบกู่เจิ้งมาบรรเลง แต่ใจไม่ปกติสักนิด จนรู้สึกเล่นเพี้ยน รวมไปถึงท่าทางฉุนเฉียว หงุดหงิด ที่แสดงออกมากกว่าปกติ ไม่ใช่เพราะใคร เพราะไอ้คุณชายของบ้านที่ก่อกวน เย้าแหย่ จนผมระงับสติแทบจะไม่ได้ พูดออกไปก็ได้แต่เสียงหัวเราะพร้อมสีหน้าระรื่นกลับมา

‘พักนี้นายดูหงุดหงิดนะครับ’

‘มีอะไรให้ขุ่นใจหรือครับ’

เสียงทวนลูกน้องคนสนิทถามผม ที่ปรายตามอง ทำเอามันก้มหน้าลงไปตามเดิม

‘ทำไม’

‘ก็ดูนายไม่เหมือนทุกครั้ง สองสามวันมานี่ดูนายจะหงุดหงิดง่าย ทำอะไรเหมือนจะไม่ถูกใจ ขอโทษนะครับที่เรียนตามตรง’
ก้มหัวหลังพูดเสร็จ ผมขมวดคิ้วทบทวนสิ่งที่ลูกน้องพูด ปกติงานผิดนิดเดียวผมจะให้แก้ไขโดยไม่ว่ากล่าว ถ้าผิดมากก็จะตำหนิไม่เกรี้ยวกราด แต่เมื่อวานทำเอาเลขาพร้อมหุ้นส่วนหัวหดกันเป็นแถว แค่สาเหตุมาจากเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานน้อยเกินไป

‘ชงมาใหม่’

‘ไม่กิน เอาออกไป’

กาแฟรสชาติที่ชอบ อาหารที่ตัวเองสั่ง ชวนหงุดหงิดทั้งนั้น หงุดหงิดยิ่งกว่าได้ยินเสียงกวนประสาทซะอีก

เสียงกวนประสาท

เสียงทำให้หงุดหงิด

เสียงที่คุ้นหู

หน้าที่กวนประสาท

หน้าที่ทำให้หงุดหงิด

หน้าที่คุ้นตา

มันหายไป

ก่อนจะตกใจกับความคิดตัวเองที่อาการเหล่านี้เป็นหลังจาก ไอ้ปีศาจมันบินไปดูงานที่อเมริกาหนึ่งสัปดาห์ ตอนแรกมันจะเอาผมไปด้วย แต่ป๊าไม่อนุญาตบอกให้ผมดูงานที่นี่ มันหัวเสียอาละวาดไปลงกับคนที่ดวงซวย

“รีบเลิกทำไมล่ะ”เสียงคุ้นหูทำเอาเกือบตกใจ พลางคิดว่ามันไปไหนหรือไง
 
“รำคาญ”ผมตอบเตรียมจะลุกหนี แต่ถูกฉุดมือให้นั่งลงมาที่เดิม

“จะรีบไปไหน คุยกับน้องไม่ได้หรือไง”มันกระตุกยิ้มพูดใส่ ดูท่าทางคุกคามชอบกล ไม่น่าวางใจ สองสามวันมานี่มันดูหงุดหงิดมาก มากซะจนใครก็เข้าหน้าแทบไม่ติด

“มีธุระอะไร”ผมถามพร้อมหาทางเลี่ยง

“ไม่มีธุระอยากคุยเฉยๆ”ไม่พูดเปล่าลูบมือผมไปมา

“ขอตัว ไม่อยากคุย อยากพักผ่อน”ดึงมือกลับและเดินหนีเข้าบ้าน มันตามไปขวางได้ทัน ก่อนจะฉุดเข้าไปในบ้าน คนที่ป๊า บอกเหมือนไฟ ตอนนี้ตาลุกวาวเหมือนไฟที่พร้อมจะพุ่งเข้ามาใส่

“ออกไปเดี๋ยวนี้ อย่าเข้ามายุ่งในบ้านฉัน”ผลักอย่างแรงพร้อมออกปากไล่ ถ้าพักนี้มันหงุดหงิด ผมก็เป็นเช่นกัน

“บ้านนายก็บ้านฉัน”ยกยิ้มลอยหน้าพูดใส่

“ไม่ นี่เป็นบ้านฉันกับแม่ นายไม่เกี่ยว กลับไปบ้านนาย”ผมพูดใส่หน้า พร้อมกับผลักมันที่ไม่ขยับสักนิด

“นายพูดแบบนี้ แสดงว่านายกำลังดูถูกป๊ากับแม่ฉันอยู่นะ แท้จริงนายไม่ชอบท่านใช่ไหม”มันพูดอะไรของมัน

“ไม่จริง”ผมเน้นเสียงในสิ่งที่ไม่เคยคิด

“จริง ไม่งั้นนายจะไล่ฉันทำไม เพราะนายอิจฉาที่ป๊ารักฉัน นายกลัวไม่ได้สมบัติของป๊าล่ะสิ”ผมหายแรงขึ้นอย่างพยายามระงับอารมณ์ที่ถูกกวน

ตุบ

“อุบ”ผมกระทืบตีนมันอย่างแรง มันกลั้นเสียงก่อนจะพุ่งเข้าใส่กอดเอว ยกผมขึ้นบ่าเขย่าไปมาจนหัวสั่นหัวคลอน

“ปล่อย ปล่อย ไอ้บ้าเฟย”ครั้งแรกที่ชื่อมันออกจากปาก

“ปล่อยก็ได้”มันแบกผมเดินไปห้องใหญ่ที่เปิดประตูเหมือนรออยู่แล้ว ก่อนจะทิ้งและโถมตัวลงมาทับ

 “ต้องการอะไร”ผมพยายามตั้งสติพูดกับมัน ไม่แสดงท่าทีให้มันยั่วยุได้ แต่ใจผมกลับเต้นจนกลัวมันจะจับได้

“มีเรื่องจะถาม”มันกวาดตามองก่อนจะถามเสียงเรียบพอกับสีหน้า ผมไม่พูดเชิงให้พูดต่อได้เลย

“วันก่อน ให้ไอ้ฟงกอดทำไม”มันถามออกมา

“วันไหน”พูดเสียงเรียบ พยายามทำหน้าไม่แปลกใจ แต่คิดว่ามันจะถามทำไม แทนที่จะตอบมันกับกอดผมแน่นขึ้น

“แสดงว่ากอดบ่อย”มันพูดใส่เสียงเริ่มดัง ผมรู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีกับความหมายที่มันคิดเอง

 “มันเรื่องของฉัน”พูดกลับอย่างไม่คิดจะแก้อะไร รู้สึกสะใจที่มันหุบยิ้มซะบ้าง

“นายนอนกับมันหรือยัง”คราวนี้หน้าผมเริ่มไม่ปกติแล้ว รู้ได้เลยว่าบึ้งตึงขนาดไหน ก่อนจะได้ยินเสียงมันเห่าต่อ “ไม่ตอบแสดงว่า นายนอนกับมันใช่ไหม ห๊ะ”มันตวาดเสียงดังทำเอาสติผมขาดผึง กับคำพูดดูถูก แต่คนแบบนี้ยิ่งตอบโต้ก็ยิ่งได้ใจ และผมไม่คิดจะแก้ตัว ในเมื่อมันอยากคิดก็ให้คิดไป อาจจะดีซะอีก จะได้เลิกตอแยกับผมสักที
 
“นายจะไปบอกป๊าหรือไง”เลิกคิ้วพูดใส่อย่างท้าทาย ทำเอามันอึ้งไปนิดก่อนจะยกยิ้ม

“และถ้าบอกล่ะ ว่าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ป๊าจะว่ายังไงนะ”มันขู่ผมกลับที่เกือบจะสำเร็จแล้วกับการเอาชื่อป๊ามาอ้าง แต่ผมวัดใจกับตัวเองและกับมันว่าจะทำจริงไหมถ้าผมตอบมันแบบนี้ ทั้งที่ในใจหวั่นไม่ใช่น้อย ถ้าเกิดมันไปพูด ป๊าต้องเชื่อและมองว่าผมเป็นลูกอกตัญญูแน่ แต่เวลานี้ไม่รู้ทำไมผมถึงอยากให้มันรู้สึกเสียหน้าซะบ้างที่ทำให้ผมหงุดหงิดไม่ได้

“ถ้าฉันบอกว่า ป๊ารู้แล้วล่ะ จะว่าไง”ผมยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดต่อ”ฉันไม่คิดจะปิดหรอก ฉันกับฟงคุยกันแล้วถ้าไม่มีใครยอมรับ เราจะไปอยู่เมืองนอกด้วยกัน อุก”ทันทีที่พูดจบ ปากถูกปิดอย่างแรงเรียกว่ากระแทกจนได้กลิ่นคาวที่ปากคงจะแตกผมขัดขืนทุบต่อย มือมันเลื้อยเข้าไปในเสื้ออย่างย่ามใจ ผมคว้าหีบไม้บนหัวเตียงฟาดเข้าให้ เพื่อให้หยุดกระทำ

“เฮ้ย เจ็บนะโว้ย”มันผละออก เอามือกุม เลือดไหลเข้าตา ผมตกใจ แต่ตอนนี้ต้องหนีก่อนดูเหมือนมันไม่ปกติแล้ว แต่ถูกคว้าขาจนเสียหลักหน้าทิ่มลากมาบนเตียง จับหันหลังมือไขว้กระชากม่านบางตรงเสาเตียงผูกข้อมือ ดึงเสื้อขาดจนเห็นหลัง

“จะทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้”ผมหันไปถาม สีหน้าเริ่มตระหนกแต่ยังพยายามเก็บเอาไว้

“ทำในสิ่งที่ไอ้ฟงมันทำไง”มันแสยะยิ้ม ก่อนจะกระชากกางเกงออกจนเหลือชิ้นสุดท้าย ผมเบิกตากับสิ่งที่ได้ยิน ไม่ ทำไมมันเป็นแบบนี้

“นายทำไม่ได้”ผมพูดใส่พร้อมดิ้นขัดขืน

“ทำไมจะไม่ได้ ฉันก็มีทุกอย่างเหมือนไอ้ฟง อาจจะดีกว่าก็ได้”พูดเน้นเสียงใส่ เอามือลูบแผ่นหลังและขยำบั้นท้ายเบาๆ ก่อนจะบีบแรงขึ้นจนผมหลุดเสียง ครั้งแรกที่ถูกผู้ชายด้วยกันสัมผัสมากขนาดนี้ และยังเป็นผู้ชายสายเลือดเดียวกันครึ่งหนึ่งด้วย

“อุก ไม่ใช่เรื่องนั้น นายก็รู้ว่าเพราะอะไร เราเป็นอะไรกัน”ผมส่ายหน้าพูดออกมา กำลังจะพูดเรื่องที่มันเข้าใจผิด นี่ผมคิดผิดใช่ไหม ผมลืมไปว่ามันมักจะตีความการสื่อสารไปอีกอย่าง

“คิดด้วยเหรอ ว่าเป็นพี่น้องกัน ทุกทีไม่เคยคิดนี่นา คุณเทียน หืม”มันแสยะยิ้มใส่พูดล้อเลียน แต่ไม่เหมือนทุกที
 
“ทุกทีเห็นเรียกแต่คุณชาย คุณชาย ฮึฮึ”มันหัวเราะในลำคอ ก่อนจะโน้มลงไปทาบ ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นไล้เลียใบหู ก่อนมันจะผละออกถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างเร็ว ผมเบือนหน้ากลับพยายามดิ้นให้หลุดจากการมัด แต่ดูไม่เป็นผลเอาซะเลย ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกทาบทับแนบชิดทั้งตัว ปากร้อนไล่ตั้งแต่ใบหู กัดและเม้มซอกคอ

“อย่า อย่าทำแบบนี้”ผมขอร้องอย่างที่คิดไม่เคยจะขอ“ถ้าป๊ากับแม่ใหญ่รู้เข้า”เอาชื่อขึ้นมาอ้าง มันชะงักการฟอนเฟ้น        ผมลอบถอนหายใจได้นิดเดียว ก็ต้องหันมาอย่างเร็วกับคำที่ตอบกลับ

“ก็ช่างสิ  ถ้าขวางฉันจะพานายไปเมืองนอก ไปให้ห่างจากทุกคน ไปอยู่ที่ที่มีแต่เรา”ผมเบิกตากับสิ่งที่ได้ยิน เหมือนที่ฟงพูดกับผมแสดงว่ามันคงได้ยิน  รอยยิ้มที่ผมพูดเสมอว่ามันเหมือนปีศาจ และมันก็เป็นปีศาจจริงๆ ยิ้มโน้มเข้ามาชิดให้เห็นชัดๆ

“ไม่ อย่า”
.
.
.
.
หลังจากวันนั้น ผมไม่เคยปริปากอะไรอีก ไม่ว่ามันจะพูดอะไรผมก็ได้แต่ให้มันผ่านหูไป ยกเว้นเรื่องงานที่เลี่ยงไม่ได้ แต่อย่าคิดว่ามันจะสำนึก เคยเป็นยังไงก็อย่างนั้น ใครเข้าใกล้ผมแม้แต่นิดเดียวมันจะออกอาการทันที แม้แต่ฟงที่ฟาดปากกันเพราะจับมือผม มันเกือบจะพูดอะไรออกไปผมต้องรั้งเอาไว้ก่อน ไม่อยากให้เรื่องรู้ถึงป๊ากับแม่ใหญ่

ผลั่วะ

ผลั่วะ

‘เทียน’

นับวันมันก็ยิ่งทำให้ผมนิสัยเสียขึ้นไปทุกที และทุกอย่างก็จะไปจบที่เตียง มันย้ายตัวเองมานอนกับผมทุกวัน กอดอย่างแนบแน่น

‘รัก’

‘รัก’

พร้อมคำนี้หลุดจากปาก ทุกครั้ง คงเคยชินเวลาที่นอนกับคู่ขามัน

“นายไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้อีก ฉันจัดการเอง”มันพูดกับผมหลังจากทำเรื่องอย่างว่า ผมหันหลังเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะต้องหันกลับไปตามแรงกระชาก เมื่อวันก่อนป๊าพูดเรื่องแต่งงานของมัน แม่ใหญ่ก็ขอร้องให้ช่วยพูดอีกแรง ทำไมครั้งนี้มันดื้อกับป๊าและแม่ใหญ่เหลือเกิน ปกติมันจะเชื่อฟัง

“ฉันไม่แต่ง และถ้านายยังเจ้ากี้เจ้าการ ฉันจะบอกป๊าและพานายไปจากที่นี่ อุก”ทันทีที่มันพูดจบผมต่อยปากมันอย่างแรง จนเลือดออก แต่ไม่อาการตกใจแล้ว

“ฮึ หึงล่ะสิ ถ้าหึงก็อย่ายุ่งเรื่องนี้อีก ฮึฮึ”มันหัวเราะก่อนจะ ตาเขียว ปากเจ่อ จมูกเลือดออก มันก็หัวเราะและฟัดผมกลับเหมือนทุกที เป็นอย่างนี้มาตลอด บางครั้งผมไม่กล้าจะมองหน้าแม่ในกรอบรูป รวมถึงมองหน้าป๊ากับแม่ใหญ่ เหมือนคนระแวงตลอดเวลา ผมเป็นคนอกตัญญูไปแล้ว ผมทำในสิ่งที่เลวร้ายมาก แค่คิดว่าผู้ชายนอนด้วยกันก็ผิดธรรมชาติแล้ว แต่นี่พี่น้อง ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนตัวเองเหลือเกิน

“แม่ เทียนผิดไปแล้ว แม่คงไม่ยกโทษให้ เทียนยินดีจะรับผิดที่ทำไว้กับป๊าและแม่ใหญ่”ผมก้มหัวกับพื้นเป็นครั้งที่สองที่ผมร้องไห้อย่างหนัก

และพูดอีกครั้ง เมื่อแม่ใหญ่จากไปในอีกสองปีต่อมา

“แม่ใหญ่ ขอโทษ ที่ทำผิด ไม่สามารถทำตามที่แม่ใหญ่ฝากไว้ได้ ผมจะรับไว้แต่ผู้เดียวถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเฟย ผมจะชดใช้ให้ด้วยชีวิต”ผมก้มหัวคำนับกับพื้นและสัญญา
.
.
.

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33
มาแล้ววววววววววววว

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
“นี่เป็นเอกสารสำคัญ เก็บไว้ให้ดีนะ”ป๊ายื่นซองเอกสารให้ผมกับมันที่นั่งข้างๆ เป็นเอกสารขั้นตอนการผลิตอาวุธของตระกูลเราในแต่ละรุ่นจนถึงปัจจุบัน เป็นสมบัติเก่าแก่

“ป๊าเป็นอะไรหรือเปล่าพักนี้ดูเครียดๆ”มันเอ่ยปากถามป๊า ผมสังเกตเหมือนกันว่าพักนี้ดูป๊าเครียดมาก

“ไม่มีอะไร แต่ยังไงระวังตัวกันหน่อยนะ ตอนนี้ไอ้กวงมันเริ่มเล่นงานเราหนักขึ้น”สิ่งที่ฟงพูดเกิดขึ้นแล้ว รัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงและเตรียมยื่นเรื่องฟ้องบริษัทผลิตอาวุธของป๊าว่าด้อยคุณภาพ เพื่อที่จะเอาบริษัทตัวเองขึ้นแทน ของมันนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ของป๊าตั้งแต่รุ่นทวดรุ่นปู่จนถึงรุ่นป๊าได้คิดและหาวัตถุดิบในประเทศมาผลิตจนสำเร็จเทียบขั้นต่างประเทศจนถึงตอนนี้ก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว ราคาถูกกว่าเป็นที่ถูกใจของรัฐบาลชุดเก่า มันเจ็บใจที่ถูกตัดหน้าตัดราคาตั้งแต่รุ่นพ่อมันแล้ว เพราะเสียผลประโยชน์มหาศาล หาทางกลั่นแกล้งมาตลอด จนต้องหยุดพักไป และตอนนี้มันทำสำเร็จ

“ป๊านั่นแหละต้องระวังตัว พักนี้อย่าไปไหนจะดีกว่า”มันพูดกับป๊าอย่างเป็นห่วง

“ใช่ ผมคิดว่ามันจ้องจะเล่นงานป๊าแน่นอน”ผมเห็นด้วยกับมัน ในเวลานี้จะเอาเรื่องความเป็นความตายของป๊ามาปนกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้ ป๊ายิ้ม

“คนถึงที่มันก็ถึง ตอนนี้ป๊าห่วงแค่เราสองคน ป๊าคิดว่าเราจะไปอยู่ต่างประเทศเหมือนอาสองอาสามดีไหม”ป๊าที่รักแผ่นดินเกิดยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง วันนี้พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงลูกสองคน เมื่อปีที่แล้วอาสองถูกลอบยิงอาการสาหัสปางตาย อาสามโดนอุบัติเหตุทางรถยนต์ พร้อมครอบครัว แต่รอดมาได้ ป๊าเลยให้ลี้ภัยออกนอกประเทศ โดยมีนายพลเผิงช่วย

“ถ้าป๊าว่าดีเราก็กว่าดี ยังไงตอนนี้เรามีทุนมากพอไปตั้งต้นที่ต่างประเทศได้  มันอยากได้ก็ให้มันได้ไป รอเวลาเปลี่ยนแปลงเราค่อยกลับมาก็ได้ ป๊า”มันเห็นด้วยกับป๊าไม่ใช่รักตัวกลัวตาย แต่ห่วงป๊ามากกว่า คนรับใช้เก่าแก่ป๊าให้เงินไปตั้งตัวเหมือนจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ป๊ายกยิ้ม จับมือพวกเราเอาไว้ ยิ้มที่ผมรู้สึกไม่ดีเลย เหมือนลางสังหรณ์จะบอกว่า มันเป็นรอยยิ้มครั้งสุดท้าย

และ

มันก็เป็นเช่นนั้น เมื่อป๊าถูกลอบยิงหลังกลับจากไปไหว้สุสานเพื่อลา พร้อมสัญญาว่าจะกลับมา แต่ไม่ทันได้ไป

และ

เป็นครั้งที่สองที่ เฟย ร้องไห้หลังจากเสียแม่ใหญ่ และเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง อ่านจดหมายที่ป๊าสั่งว่า ถ้าป๊าเป็นอะไรให้ออกนอกประเทศไปหาเพื่อนป๊าที่ประเทศไทย ประเทศที่เคยไปเที่ยว ไปทำการค้า แต่ไม่คิดว่าจะได้ไปอยู่ และเหมือนเคราะห์กรรมจะยังไม่หมด อาสองอาสามพร้อมครอบครัว ถูกตามเก็บจนไม่เหลือสักคนและคงจะมาถึงเราเร็วๆนี้ ผมที่ดูจะมีสติมากกว่าแต่ไม่รู้จะพูดอะไร นอกจากลูบหัวคนตัวโตที่นอนหนุนตักจนหลับไป

“เทียน  เทียน อย่าทิ้งฉันนะ เรามีกันแค่สองคน สองคนเท่านั้น ฉันรักนาย รัก อย่าทิ้งฉัน”เสียงละเมอพูดซ้ำไปซ้ำมาเหมือนเด็กหัดพูด เหมือนกลับไปเป็นเด็กเวลาเป็นไข้ ผมไม่คิดว่ามันจะละเมอชื่อผมออกมาด้วย
.
.
.
.
“ตกลงเราจะไปหาเพื่อนป๊า ท่านจะมารับเราที่ชายแดน เดี๋ยวฟงจะส่งคนมารับ”ผมบอกเฟยที่โทรเช็คธนาคารหลังโอนเงินเรียบร้อยหมดแล้ว 

“ทำไมต้องให้มันมารับ”วางสายหันมาถามเสียงแข็ง

“มันไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยเรื่องนี้ อย่าช้า”ผมสั่งก่อนจะเหน็บปืนในแจ็คเก็ท มีดพก อีกหนึ่ง เฟยก็ทำเหมือนกัน ตาขวาง

“รถมาแล้วครับนาย”เสียงทวนบอก เราตกลงกันว่า จะเอาทวนไปคนเดียว ส่วนไป่ ย้ง ให้อยู่กับลุงเผิงไปก่อนคอยดูลาดเลาทางนี้ พร้อมคนเก่าที่จงรักภักดีกับป๊าอยู่ พวกเขาไม่เชื่อว่าป๊ากบฏ นี่คือสาเหตุที่ทำให้พวกเราต้องหนีในตอนนี้ ทหารกำลังจะพาเราไปสอบสวนตามหลัก แต่เบื้องหลังพวกมันกำลังจะเก็บเราให้หมดตระกูล สิ่งที่พวกมันอยากได้คือเอกสารการสร้างและประกอบอาวุธของป๊าต่างหาก พวกเรามองบ้านเกิดอีกครั้งก่อนจะขึ้นรถ ฟงบอกว่าจะรักษาบ้านเอาไว้ให้ รถแล่นมาตามทางข้างทางเงียบสงัด เงียบจนผิดปกติ

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด

“ทุกคนอย่าขยับ ลงมาจากรถ”เสียงคนพูดพร้อมเปิดประตู คนขับหันมาส่องปืนใส่เรา

“ลงไป ฮึฮึ ดีที่นายรู้ว่าพวกแกจะหนี เลยชิงตัดหน้า”มันพูดออกมา ผมกับเทียนสบตากัน ทวนจะชักปืนแต่ผมส่ายหน้าว่าอย่า ก่อนจะพากันลงจากรถ ยกมือขึ้นตามที่มันบอก พวกมันมีหกคน จับมัดก่อนจะกระชากผมไปกดกระแทกหน้ารถ

“อย่าแตะเทียน”เฟยหันไปพูดใส่ ขณะที่พวกมันล้วงเข้าไปภายใน ผมขยะแขยงกับสัมผัสพวกมัน

“ฮึ ทำไม หวงพี่เหรอวะ แต่หน้าตา ผิวพรรณอย่างนี้ก็น่าหวง จะฆ่าเลยก็เสียดาย ขอชิมหน่อยเถอะวะ”ไอ้คนลูบคลำพูดจากจาบจ้วง

“กูเตือนอีกครั้ง ปล่อยเทียน”เฟยกัดฟันพูดอีก พวกมันหัวเราะ

“ฮ่าๆๆๆๆ ทำไม มึงจะทำอะไรได้”มันเดินไปพูดใกล้ ก่อนจะตบด้วยด้ามปืน จนเฟยหน้าหัน และซ้ำอีกหลายๆครั้ง แต่เฟยก็ยังสบตาไม่หวั่น ถ่มน้ำลายผสมเลือด

“เฮ้ย พวกมึง หยุดก่อน นายมาแล้ว”อีกเสียงห้ามก่อนจะมีรถขับมาจอด

“ไงคุณชาย ตายยากเหลือเกินนะ”เสียงไอ้กวงพูดยียวนใส่ เอามือมาเชยคางผมที่จ้องมันไม่หลบสายตา เฟยกัดฟันมือขยับไปมาโดยไม่ให้พวกมันสงสัย

“ก็อยู่ฆ่ามึงก่อนไง”ผมพูดใส่มัน ที่ทำหน้าล้อ

“ฆ่าเหรอ ฮ่าๆๆๆๆ ขนาดนี้ยังผิดพลาดเลย คนของฉันมีทุกที่จะหนีไปไหนได้ ไอ้ฟง ไอ้เผิง ยังพลาด”มันหัวเราะพูดจาเยาะเย้ย ก่อนจะบีบคางผม

“แต่ก่อนตาย คงต้องทำอะไรที่ขอให้คุณชายจดจำสักหน่อย ได้ข่าวว่าเป็นคนรักไอ้ฟงไม่ใช่เหรอ”มันกระซิบข้างหู

“ไม่ใช่”เสียงแทรกตอบออกมา “เทียนเป็นของฉัน ของฉันคนเดียว เอามือแกออกไป”

“อะไรกันคุณชายเฟย นี่หวงพี่ขนาดนี้เลยเหรอ มันผิดวิสัยพี่น้องเกินไปมั้ง”มันหัวเราะในลำคอ หันมามองหน้าผม

“ยังไงล่ะคุณชาย”มันแสยะยิ้ม

“ไม่ยังไง”ผมบอกมัน ที่ยังแสยะยิ้มตามเดิม ก่อนจะพยักหน้าให้ลูกน้องมัน

“พวกมึงอยากสนุกก็รีบเข้า จัดการให้เรียบร้อย ลาก่อนนะคุณชาย ฮ่าๆๆๆๆๆ”มันหัวเราะก่อนจะหน้าหงายเมื่อโดนผมถีบเข้ากลางลำตัว ทวนพุ่งเข้าใส่พร้อมมือที่ปลดเชือกออกแล้ว จับคนของมันเอาปืนยิงมาทางพวกเดียวกัน วิ่งกระเจิง พอกับเฟยที่จับไอ้คนจ่อปืนหักคอ

“ฆ่าพวกมัน อย่าให้หนีไปได้”เสียงไอ้กวงคำรามสั่งอย่างเจ็บใจ มันชักปืนออกมายิง

ปัง

ปัง

พวกเรากลิ้งหลบ ก่อนจะยิงสวนไปบ้างโดนพวกมันอีก ยิงกันไปมา ทวนลอบเข้าไปด้านหลัง ยิงการด์มัน ไอ้กวงเริ่มเห็นท่าไม่ดีเตรียมจะหนี ผมคว้ามีดปาเข้าใส่จนถูกขาพับมัน

“อ๊าคคคคค”มันร้องผมตามเข้าไปเหยียบก่อนดึงมีดออกช้าๆ ไอ้ลูกน้องมันที่เหลือถูกจับมารวมกัน

“กูบอกใช่ไหมว่าอย่าแตะเทียน”เฟยพูดพร้อมหักมือมันทีล่ะข้าง

“อ๊าคคคค”

“อ๊าคคคคคค”

มันร้องเสียงดึงขึ้นเมื่อโดนตัดทีล่ะนิ้ว ไอ้กวงมองตาเหลือก ผมยื่นมีดไปกรีดหน้ามันช้าๆ

“ฮึ ยังน้อยไปสำหรับที่มึงทำกับป๊ากู ไอ้กวง”เฟยพูดใส่เคียดแค้น กระชากปืนออกมาตบมันจนหน้าหันหลายที

“มึงตายซะ และกูจะตามฆ่าล้างโคตรมึงให้หมด”เฟยพูดใส่เตรียมกดไกปืน

ปัง

ปัง

“หลบ”ผมดึงเฟยกลิ้งไปตามพื้น ไอ้กวงถอยหนีไปด้านหลัง ไอ้ทวนยิงสกัด

“จับพวกมัน”เสียงทหารคงเป็นฝ่ายมันตามมาช่วย ตอนนี้พวกเราต้องหนีก่อน ค่อยกลับมาชำระทีหลัง

ปัง

ปัง

เสียงปืนไล่ตามหลังมาติดๆ วิ่งมาจนถึงถนนใหญ่มีรถมาจอดขวางหน้าเอาไว้ ชักปืนเตรียมยิงถ้าไม่เห็นคนพูดซะก่อน

“ขึ้นมาเร็ว”เสียงฟงพร้อมลูกน้องยิงสกัดพวกมันที่ตามมาติดๆ พวกเราขึ้นรถขับออกหนีการไล่ล่า ฟงบอกว่าพวกมันมีสายข้างใน ดีที่คนขับรถไม่ตายส่งข่าวเลยตามมาทัน

“ขอโทษที่ทำให้พวกนายเกือบตาย”ฟงพูดอย่างรู้สึกผิด

“ไม่ใช่ความผิดของนาย แค่นี้ก็มากแล้ว”ผมพูดปลอบใจ ก่อนจะถึงจุดนัดหมาย

“อดทนนะ เรื่องสงบเมื่อไหร่ จะได้กลับมาบ้าน”ฟงบอกผม ตอนนี้ผมเจอเพื่อนป๊าแล้ว เป็นนายทหาร ผมพยักหน้า

“ฝากทุกคนไว้ด้วย”ผมพูดฝากลูกน้องที่เหลือ ทุกคนยังจงรักภักดี

“ไปเถอะ เดี๋ยวพวกมันจะตามมา”เพื่อนป๊าบอกก่อนจะจากกัน ผมกับเฟยมองแผ่นดินเกิดอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นรถข้ามชายแดนไปเริ่มต้นใหม่เพื่อกลับมาที่เดิมให้ได้
.
.
.
“อืม ดี ขอบใจฟงที่ส่งข่าว”ผมคุยกับคนในสายที่เป็นเพื่อนไม่เคยทิ้งกัน ฟงขึ้นเป็นใหญ่เทียบนายพลที่เป็นน้องไอ้กวง และจะปฏิรูปการทหารใหม่โดยมีเสียงสนับสนุนอยู่พอสมควร รัฐบาลชุดก่อนเริ่มโดนเปลี่ยนเพราะมีการทุจริต แต่ไอ้กวงยังอยู่ดีขยายการค้าเร็วมากก็เพราะมีแบคดี มันส่งอาวุธให้กับลูกค้าทุกคนที่มีเงิน โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาเหมือนสมัยที่ป๊าผมทำทุกอย่างต้องเป็นขั้นตอนถูกกฎหมาย

“มันจะส่งเมื่อไหร่บอกด้วยแล้วกัน ขอบใจนะ”ผมวางสายหลังได้รับรายงานว่า มันกำลังจะส่งสินค้าเข้าชายแดนให้คนใหญ่โตคนหนึ่งของที่นี่ ไม่ใช่แค่อาวุธ แต่รวมถึง ยาเสพติด และของเถื่อนอีกหลายอย่าง หลังจากอยู่สงบมาได้เจ็ดปี ไอ้กวงก็รู้พวกเราอยู่ที่นี่ แต่ยังหาทางเล่นงานไม่ได้ เรารอดได้ทุกครั้ง คนใหญ่ที่ว่านี่เป็นเพื่อนมัน โลกกลมหรือเพราะกรรมของเรายังไม่หมดกันแน่ แต่ก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป

“คนพวกนี้ถ้าไม่มีหลักฐานเล่นงานยาก ยังไงพวกเราก็ระวังตัวหน่อยนะ”เพื่อนป๊าเตือนพวกผม ท่านเกษียณหลายปีแล้วได้แต่เตือน ท่านมีบุญคุณกับพวกผมมาก เป็นธุระจัดการให้ทุกเรื่อง ท่านไม่มีลูกภรรยาก็ตายหลายปี ใช้ชีวิตสงบกับคนเก่าที่ยังรับใช้อยู่ ผมส่งคนไปคุ้มกันท่านอีกแรง ก่อนเกษียณท่านได้ข้อมูลการทุจริตมาพอสมควรจากวงใน 

“ครับ อยู่ที่ไหนมีคนประเภทนี้ทุกที่ คนที่ทำได้กระทั่งแผ่นดินเกิด”เฟยพูดหลังจากเก็บข้อมูล ยุคเปลี่ยนเทคโนโลยีเข้ามาก็ต้องตามให้ทันและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ หลักฐานที่เรากับเพื่อนป๊าหายังน้อยนิด ยังเอาผิดไม่ได้ แต่ถ้าจับได้คาหนังคาเขาคราวนี้น่าจะช่วยขจัดคนชั่วได้อีกหนึ่ง

“นี่แหละอันตรายที่สุด คือการทำลายแผ่นดินตัวเอง เห็นแก่ตัว คนพวกนี้กว่าเวรกรรมจะตามทัน ประเทศก็ไม่รู้จะเป็นยังไงแล้ว แต่คนดีก็ไม่หมดง่ายๆหรอก อาเชื่ออย่างนั้น อย่าให้ตกไปอยู่กับพวกมันเชียว”ท่านยังพูดแบบคนมองโลกในแง่ดีพร้อมกำชับถึงสิ่งที่รู้เช่นกัน 

“อย่างพวกเรานี่ไง คอยเป็นหูเป็นตาให้ ป๊าสอนมาดีจริงๆ”ท่านพูดชมไปถึงป๊า ที่พวกเรายังจดจำได้เสมอ และเราก็ตอบแทนแผ่นดินที่ให้เราได้พึ่งใบบุญ ได้ให้ชีวิตใหม่เพื่อที่มีโอกาสกลับไปบ้านเกิดเร็วๆนี้

“อะไรที่เราตอบแทนได้เราก็จะทำ”ผมตอบอาอย่างนี้ทุกครั้ง ท่านคุยอีกนิดหน่อยก็กลับ ผมให้คนตามท่านไปตลอด ห่วงความปลอดภัย  ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน เฟยเดินนำไปห้องที่ทำลึกลงไป

“มันพูดหรือยัง”เฟยถาม เป้า ลูกน้องที่มีอยู่ด้วยเมื่อห้าปีก่อน ด้วยความบังเอิญที่ช่วยเฟยเอาไว้จากการถูกลอบยิง

“มันไม่พูดครับนาย”เป้าบอกก่อนจะจับหน้ามันขึ้นมา ก่อนจะตบไปสองครั้ง หยิบครีมล็อค พยักหน้าให้เปิดปาก มันดิ้นไปมาอย่างรู้ว่าต้องโดนอะไร

“อ๊าคคคคคคค”มันร้องเมื่อโดนถอนฟันออกทีละซี่  มันไม่พูด ถอนอีกจนเลือดกบปากกลิ่นคละคลุ้งไปหมด ผมต้องจุดซิการ์กลบกลิ่นซะ ก่อนจะนั่งดูต่อไปได้

“มึงเข้ามาที่นี่ทำไม”เฟยถามมันที่แฝงเข้ามาอยู่ในบ้าน ทวนผิดสังเกต ผมให้จับตาดูไปก่อน ก็รู้ว่ามันส่งข่าวให้เพื่อนไอ้กวงที่เป็นนายตำรวจยศใหญ่คนนั้น

“กูให้โอกาสอีกครั้ง”เฟยหรี่ตาใส่ ก่อนจะหยิบกรรไกรคมกริม พยักหน้าให้ดึงลิ้นมัน

“ยะ ยอม แล้ว อึก นายต้องการของ”มันตอบกระท่อนกระแท่น พวกมันส่งคนเข้ามาบ่อยเพื่อจะเอาสิ่งที่ป๊าฝากไว้ไปทำการผลิตเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แทนที่จะนำไปช่วยชาติกลับแสวงหาผลประโยชน์ เฟยพยักหน้า ก่อนมันจะตาเหลือก

“ไหนบอกว่าให้โอกาส อึก”ก่อนจะคอหักคามือไอ้ทวน

“ให้โอกาสมึงตายไง”เฟยพูดใส่มันก่อนจะเดินมานั่งข้างผมดึงซิการ์จากปากไปสูบต่อ ผมได้แต่ปรายตามอง คนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ความสัมพันธ์ของเรายังเป็นแบบนั้นไม่เคยเปลี่ยนมีแต่มากขึ้น ผมปฏิเสธ เฟยยิ่งเข้าหาและตอกย้ำเสมอว่ามันคืออะไร เราไม่เคยทิ้งกันสักครั้งให้ทะเลาะยังไงก็จบลงที่เดิม หลายปีมานี่เฟยดูแลผมมาตลอด หลายต่อหลายครั้งที่เกิดเรื่องเฟยเอาตัวเองกันผมอยู่เสมอ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด กับแม่ใหญ่ที่เคยสัญญาไว้ เรื่องแต่งงานไม่เคยถูกขุดขึ้นมาพูดอีก และคิดว่าคงยังมีไม่ได้เพราะศัตรูยังไม่ปล่อยเรา จะพาลให้ได้รับอันตรายไปด้วย ถ้าจบเรื่องเมื่อไรคงต้องคุยกันอีกครั้ง แต่ปัญหาคือมันจะรับฟังและปฏิบัติตามไหม
.
.
.

“ไง มาแล้วเหรอ”เสียงทักทายที่คุ้นเคย “ฮึ กว่าจะออกมาได้นะ ตาแก่นี่ก็กว่าจะเอาตัวมาได้ แต่ก็ไม่ยาก”

“ไอ้กวง”เฟยพูดเสียงลอดไรฟัน  ความเจ้าเล่ห์มันไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิด มีแต่เพิ่มขึ้น ข้างมันก็ท่านรองฯ

“ถ้าไม่อยากให้ตาแก่นี่ตาย ก็ส่งมาซะ ฮึ ทำงานฉันพังหลายงาน ถือว่าเป็นการชดใช้ซะ”ไอ้ท่านรองฯพูดอย่างแค้นใจที่เมื่อวันก่อนการส่งของถูกจับกุมได้ทำให้สูญเสียหลายร้อยล้าน แต่มันพร้อมคนร่วมขบวนการรอดได้ตามเคยมีแต่ลูกน้องที่ถูกจับและรับแทน มันจ้องก่อนจะพยักหน้าให้รัดคอท่านแน่นขึ้น

“ยะ อย่าให้มัน ไม่ต้องห่วงอา หนีไป”ท่านพูดเสียงขัด แต่แววตาเด็ดเดี่ยว

“แกได้ตายแน่ ถ้าพวกมันไม่ให้ แต่พวกมันจะอกตัญญูได้เหรอ ฮึฮึ”ไอ้กวงพูดอย่างรู้ดี

“ว่ายังไง ฉันไม่ได้ล้อเล่น”ไอ้ท่านรองพูดอีก ก่อนจะพยักหน้า

“อึกก ยะ อย่าให้”ท่านพยายามกลั้นเสียงร้องเมื่อโดนมีดกรีดหน้า

“ปล่อยท่านก่อน แล้วจะให้”ผมต่อรองเพื่อถ่วงเวลา พยักหน้าให้เป้าเปิดของในกระเป๋าและกางออก พวกมันมองตาม

“ฉันจะรู้ได้ไงว่าเป็นของจริง”มันพูดอย่างไม่ไว้ใจ

“ถามไอ้กวงสิ มันแสนรู้จะตาย”เฟยพูดใส่ ทำเอาไอ้กวงชักสีหน้า แต่มันก็พยักหน้าจนได้

“ของจริง นั่นลายมือและตราประจำตระกูลมัน”ไอ้กวงพูดกับท่านรองที่พยักหน้า

“เดินมาตรงกลาง แลกกัน”มันสั่งเฟยเดินเข้าไป

“ระวังตัวด้วย”ผมพูดกับเฟย รู้สึกผิดสังเกตบางอย่าง มันเงียบผิดปกติ ก่อนจะได้ถึงตัว ท่านดึงมือไอ้คนที่เอาปืนจ่อออก

“หนีไป”ท่านร้องบอก ก่อนจะล้มลงเลือดแดงฉาน

“อา”เฟยเรียก พร้อมเสียงปืนดังขึ้น ผมกลิ้งหลบเข้าหาที่กำบัง ทวน เป้า และลูกน้อง ยิงสกัด

“ไอ้กวง”เฟยพูดก่อนจะหันมาหาผม “รออยู่นี่ ฉันต้องฆ่ามันให้ได้วันนี้”พูดจบก็วิ่งตามไปทันที

“อย่าไป”ผมเรียกก่อนจะก้มหลบกระสุน”เป้า ตามเฟยไป อย่าให้เขาเป็นอะไรเด็ดขาด”ผมสั่งไอ้เป้าที่พยักหน้า ก่อนจะยิงสกัดไว้ให้ ไอ้ลูกครึ่งโผล่มาซัดปืนในมือร่วง ผมพลิกตัวหลบหมัดก่อนจะหยิบมีดออกจากรองเท้า พุ่งเข้าใส่โดนมือ เตะขามันเสียหลักจะแทงซ้ำ มันกลิ้งหลบและวิ่งออกไป ผมตามไปติดๆ จนเห็นเฟยกำลังสู้กับลูกน้องไอ้กวง โดยมีเป้าช่วย ทวนกับลูกน้องอีกสิบคนก็ชุลมุนไปมา

“เฟยระวัง”ผมเรียกเสียงดังที่สุดในชีวิต เมื่อไอ้กวงมันจ่อปืนไปทางเฟย พร้อมหลบก่อนจะยิงสวน ก่อนมันจะล้มตึงลงไปเมื่อเฟยยิงเข้าทะลุหน้าอก และตามติดอีกหลายนัด

“สำหรับป๊าและครอบครัวกู”เฟยยิงจนหมดแม็กเหมือนจะไม่สาแก่ใจ บทจะตายมันก็มาหาและตายง่ายๆ 

“เฟย พอแล้ว เราต้องหนีก่อน”ผมเข้าไปจับเฟยเมื่อได้ยินเสียงรถตำรวจ ลูกน้องเหลือทวนกับเป้า

“นายไปเถอะ”ทวนบอก แต่ยังไม่ทันขยับ เจ้าหน้าที่เกือบยี่สิบนายก็ล้อมพร้อมเอาปืนจ่อมาทางเรา

“ทุกคนวางอาวุธ”เจ้าหน้าที่บอกก่อนจะ เดินเข้ามาถึงตัวและจับใส่กุญแจมือ

“เพราะท่านเชียวครับที่วางแผน เราเลยจับกุมผู้ก่อการร้ายได้”เจ้าหน้าที่ระดับผู้กำกับเอ่ยกับไอ้ท่านรองที่ยิ้ม

“ไม่เป็นไร นี่ผมก็ต้องเสียลูกน้องไปหลายคนเหมือนกัน กว่าจะล่อให้พวกนี้เผยตัวออกมา ต้องลงทุนตีสนิทกับนายกวง แต่ก็เพราะความร่วมมือของทุกคนมากกว่า ที่ทำให้ประเทศเรารอดได้ โชคดีที่หลายครั้งพวกมันล้มเหลว”มันยกยิ้มพูดในสิ่งที่กระจ่างแล้วว่าทั้งหมดคือแผนของมัน ไอ้กวงมันไม่น่ารีบตายเลย น่าจะอยู่ดูเพื่อนมันหักหลังก่อน ผมคิดในใจอย่างสมเพช

“นี่คงตกลงกันไม่ได้ ถึงได้หักหลังกันเองด้วย ผมเกือบไป ดีนะพวกคุณมาทัน ขอบใจ”ตบไหล่คนยศน้อยกว่า

“หลักฐานการสร้างอาวุธ และ ของเถื่อนอีกหลายรายการ ที่บ้านพบเอกสารปลอมแปลงลักลอบเข้าประเทศด้วยครับ”เจ้าหน้าที่อีกนายรายงาน

“ควบคุมตัวเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยสอบสวน”ผู้กำกับสั่งการ ก่อนจะคุมตัวพวกเราไปขึ้นรถ

“เดี๋ยวฉันจะสานต่อให้นะ”มันพูดพร้อมโชว์รูปที่ถ่ายไว้ในโทรศัพท์

“ขอให้สำเร็จ นะ ฮึฮึ”นั่นเป็นคำอวยพรจากเฟยที่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีทางจะทำสำเร็จ ถ้าไม่มีผมสองคน ทำไมมันถึงอยากได้ทั้งที่ไปจ้างประเทศที่เก่งเรื่องพวกนี้ทำให้ก็ได้โดยไม่ต้องพึ่งผม ก็เพราะมันยุ่งยากทางกฎหมายสำหรับความคิดคนชั่วที่ไม่ชอบทำอะไรที่มันถูกต้อง คิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างเดียว

 และในอีกหลายวันต่อมา พวกผมถูกตั้งข้อหา กระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต แต่ดวงชะตาพวกผมคงยังไม่ถึงคาด มีบางอย่างมาฉุดรั้งเอาไว้ และอีกไม่นานมันก็จะกระจ่างขึ้น เพียงแต่ตอนนี้

 เป็นการสิ้นอิสรภาพ

แต่

ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น
.
.
.
ผมมองคนที่นอนกอดหลังจากมันฟัดผมไปอีกหลายรอบ เกือบยี่สิบปีที่อยู่ในอ้อมแขน แม้แต่ในคุก หรือแม้แต่มีการตกลงกันมันก็ตีมึนทุกครั้งพอกับผมที่ห้ามมันไม่ได้สักครั้ง

ถ้าไม่มีเฟย ผมจะอยู่ได้ไหม เป็นคำถามที่ผมรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่แค่ไม่อยากจะตอบไอ้คนชอบถามตอนผมนอน ในเมื่อมันอยากถามแต่ไม่กล้า ผมก็จะเก็บไว้ในใจต่อไป เอาไว้มันกล้าถามเมื่อไหร่ผมก็จะตอบมัน

“เทียน  เทียน อย่าทิ้งฉันนะ เรามีกันแค่สองคน สองคนเท่านั้น ฉันรักนาย รัก อย่าทิ้งฉัน”ประโยคที่ออกจากปากทุกครั้งที่นอนด้วยกัน และมือผมก็จะตบหลังให้มันเงียบด้วยความรำคาญ เพราะฟังแล้วหวั่นไหวพาลให้ลืมทุกอย่าง

“เทียน เจ็บ”มันร้องออกมาอีก ผมขมวดคิ้ว ตบทุกทีไม่เคยเจ็บ ก่อนจะหลุดออกมาอีก “เจ็บแผล”

ผมมองร่องรอยที่เกิดขึ้น เอาปากจรดลงไปตรงหน้าผาก จมูก ปากที่ชอบพูดอะไรรำคาญหูแต่ใจกับฟูอย่างน่าประหลาด

“ถ้าไม่อยากเจ็บก็เลิกทำแบบนี้สิ”ผมพูดแต่ก็แค่ตอนมันหลับเท่านั้น เป็นคำพูดที่ยากกว่าการสั่งฆ่าคนซะอีก

“เจ็บแผล”เสียงพึมพำ ออกมาอีก ผมเปิดผ้าห่มออก ตามตัวก็มีแค่รอยฟกช้ำ แล้วมันเจ็บตรงไหน ก่อนจะเห็นเลือดตรงปลายเท้า ผมจับมือมันออกหยิบเสื้อคลุมมาสวม เดินไปดู สงสัยจะถูกกระเบื้องบาดตอนมันลุกไป ผมเห็นแต่ทำเป็นหลับต่อฟังมันคุยกับลูกน้องผม ที่รายงานความเรียบร้อยอย่างโล่งใจ

เลือด

ผมมองก่อนจะ

V
V
V
V
V

“โอ้ยยยยยยยยยยย เทียนนนนนนนนนนนนนนน”ไอ้ปีศาจลุกขึ้นมาแหกปากลั่น เมื่อผมเอาซิก้าร์ที่สูบใกล้หมด จี้แผลมัน พร้อมราดด้วยวิสกี้อย่างดีเพื่อฆ่าเชื้อโรค ผมเดินเข้าห้องน้ำทันที ยกยิ้มมุมปาก อยากทำเตียงเลอะดีนัก

***************************************************************************************************
 ปล. โอ้ยยยยยยยย ตาลายยยยยยยย ลงทีเดียวให้เพลียกันไปเลย ไม่อยากจะแก้ตัวอะไรมาก แต่งานเยอะค่ะ :katai4: กลับไปบางทีเพลีย เหนื่อย :ling3: ขอบคุณที่เป็นกำลังใจติดตามนะคะ ใกล้จะถึงฝั่งแล้วค่ะ ไปเคลียร์งานก่อนนะ ตรงไหนผิดพลาดช่วยบอกด้วยนะคะ  :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2013 08:43:55 โดย goonglovenut »

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33
อีกรอบ

ออฟไลน์ narongyut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
 o18 ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
คู่นี้ก็โหดมันฮา ดีนะ  :laugh: นายเทียนไปไหนไม่รอดหรอก

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
:z13:
เด๋วกลับมาาาาาา
----------------------------------------------------------
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด เกือบไปแล้ว เกือบเข้าใจเทียนผิดไปแล้ว
ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง เฉลยข้อสงสัยเค้าหมดเลยยยยย  :man1:
จะเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก หรืออะไรก็แล้วเเต่
รู้แต่ว่าพวกเค้าอยู่ด้วยกันมานานเกินกว่าจะขาดใครอีกคนได้
แม้ว่าเทียนจะยังไม่ยอมเเสดงอะไรมากไปกว่าที่เห็น แต่ตอนนี้ก็เชื่ออย่างสนิทใจเเล้วว่า
พวกเค้ารักกัน //ดีดดิ้นนนนนนน   :o8:

สรุปคนเหล่านี้ถูกใส่ร้ายเป็นเเพะกันหมดเลยสินะ โอยยยยยยยยยยย
ขอให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้เร็วๆเถอะ สงสารทุกคนจริงๆ อยากให้ได้ใช้ชีวิตอย่างไม่ต้องมาคอยระเเวงอะไรอีกแล้วจริงๆ
ตอนหน้าเฮียจะมาเเล้วใช่มั๊ยยยยยยย เป็นห่วงเฮียจับจิต  :sad4: :o12:

ติดตามตอนต่อไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยเเรงใจให้คนเเต่งจ้าาาาาาา  :กอด1: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2013 15:54:08 โดย narunarutoboyz »

ออฟไลน์ wi_OoO_wi

  • payaaa payaaa padazz taa
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
ร้อนแรง แรว๊งงงงงงงงง แรง!!!!!!!

สุดๆเลยคู่นี้

 :m4: :m4: :m4:

ออฟไลน์ FahFon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฮาแตก 2 บรรทัดสุดท้ายเลย อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Amheihei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :z13:  คู่เนี้ยะ แบบว่าอยู่ข้างๆกัน ขาดกันไม่ได้  แทงกั๊กไม่กล้าบอกต่อหน้า แต่อยู่ด้วยกันนานเนอะ และxyz ตั้ง 20 กว่าปีแล้วมันอัลไลล :haun4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2013 19:15:48 โดย Amheihei »

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
คุณชายเทียนโหดอีกแล้วค่า
แต่ยังไงก็คงไม่หนีไปไหนเนอะ
อยู่ทะเลาะกับคุณชายเฟยไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เทียนนี่ก็โหดไปนะบางที ฮ่าๆ
แต่เป็นนายเขาก็ต้องอย่างนี้แหละเนาะ อิอิ

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ทั้งสองคนน่าสงสารมากเลยยยยย แต่นายเทียนแอบซาดิสม์ 5555
ป.ล. Back up = 'แบค' อัพ นะคะ ไม่ใช่ 'แบลค' อันนี้มัน Black สีดำแล้วค่ะ ติดอยู่เท่านี้แหละ ^_^

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
กรี๊ด ปลื้มนายเทียน หลงรักนายเฟย
ตอนแรกนึกว่าจะมาเป็นศัตรูหัวใจของเฮียกับหนู
ที่ไหนได้ เค้าคู่กันนนนนน อ๊ายยย เขินอะ
รักกันแบบ SM เบาๆ  :haun4:

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
รักแบบโหดโหด
เทียนแอบแสบเอาคืนแบบคันคัน

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ senty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ความจริงเทียนก็รักเฟยแต่ไม่พูดสินะ น่ารักกกกกกก

ออฟไลน์ nutjisub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
กระหน่ำ+ เป็ด สนุกมาก ๆๆๆ   o13เบื้องหลังเป็นอย่างนี้นี่เอง สรุปนาย 2 คนมีแผนกระชากตัวผู้อยู่เบื้องหลังซึ่งเป็นคนในเครื่องแบบใหญ่โตนี่เอง แล้วก็หาแนวร่วมได้เป็นเฮียกับผองเพื่อน มันเป็นสัจธรรม ถ้าให้คนเลวมีอำนาจมันก็ปราบยากอย่างนี้นี่เอง ให้กำลังใจทุกคนจะได้พ้นผิด กำจัดศัตรูคนเลว และได้ใช้ชีวิตแบบธรรมดาไม่ต้องหลบ ๆๆ ซ่อนเสียที  ตอนต่อไปเฮียคงหายแล้วเน้อ อยากให้เฮียเจอกับน้องมินนี่ไว ๆๆ คิดถึงแล้วค่ะ
เบียร์กับสิบก็อยากอ่านคนเขียนสู้ ๆๆ นะค่ะ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
เหนื่อยหน่อยนะ!!  :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ชอบเรื่องราวของคู่นี้มาก มากเสียจนไม่อยากอ่านให้จบ พยายามอ่านช้าๆจะได้อ่านนานๆๆๆ

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
ปลื้มนายเทียน นายเฟยมากๆๆๆๆ :L1: :กอด1:


 :กอด1: :L2: :pig4:



ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
นายเฟย น่ารักเนอะ
 :-[

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ว่าแล้วคู่นี้มีอะไรแน่เลย อ่านแล้วฟินเลย เทียนกับเฟยนี่เรียกว่ารักสายโหดได้มั๊ยนะ
 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
คู่นี้เค้าดุเดือดกันจริงๆ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
โครตชอบบบบบบบบบบบบบบบบ นายเทียน เคะราชินีของจริง แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ greensoda

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
เทียนโหดโคตรร แต่น่ารักกก  :mew1:
เฟยเต็มอิ่มเลยยย แลกกะโดนซิการ์ไปหนึ่งดอก  :hao6:

ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
นี่สิของตอบแทนที่หายไปนาน อ๊ากจุใจ ชอบคู่นี้ 555

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
รักกันดีจังสองนายนี่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด