“ไม่ได้ หนูเพิ่งฟื้นยังไม่หายดี เดี๋ยวเฮียมา แป๊บเดียว”เฮียส่ายหน้าเอามือจับผมให้นอนตามเดิม มองหน้าผม
“ไม่ต้องกลัว มันไม่ใช่ความฝัน เชื่อเฮีย”เฮียพูดออกมาอย่างรู้ว่าผมคิดอะไร ทำเอาผมยิ้มและพยักหน้า ใช่เฮียจริงๆด้วย เฮียแค่มองตาก็รู้ว่าผมคิดอะไร ผมพยักหน้าปล่อยมือเฮีย ที่เดินไปเปิดผ้าม่านออก ผมหรี่ตาลงก่อนจะเบิกกว้างเมื่อเห็นทัศนียภาพข้างนอก ต้นลีลาเธอดี เอ้ย ลีลาวดีออกดอกสะพรั่งเต็มต้น เคลิ้มซะเรียกผิดกู กลิ่นดอกไม้หอมโชยมาตามลม และต้นไม้อื่นอีกเต็มไปหมด คล้ายบ้านนาย แม่น้ำสายเล็ก เหมือนบ้านพี่สิบ อากาศเย็นสบายกำลังดี ผมสูดอากาศ
“สวยจัง เฮียะ อ้าว”ผมหันจะไปพูดกับเฮียที่ไม่อยู่แล้ว คงเอาบรรยากาศมาหลอกล่อให้ผมเคลิบเคลิ้ม ผมเลยหันไปมองอีกอย่างเพลินตา สรุปบ้านใครวะ ได้ยินแว่วๆว่า กลับบ้านแล้วนะ หรือจะต่อเติมใหม่ ไม่น่าใช่ถ้าบ้านผมต้องมีต้นมะขามตรงหน้าบ้าน หรือผมอยู่หลังบ้านเลยไม่เห็นวะ แต่มันก็ต้องเห็นต้นมะม่วง ต้นกระท้อน สิ จำได้ว่ามันปลูกติดห้องนอน
“พ่อ พ่อ”ผมลองส่งเสียงเรียกพ่อ เผื่อจะอยู่แถวนี้ ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ที่เว้าด้วย
“จะเรียกไอ้ตะบัน มันก็คงไม่มาแล้ว”ผมนึกถึงไอ้ตะบัน หมาที่ซื่อสัตย์ ช่วยผมอย่างไม่กลัวตาย รู้จักคุณคนซะยิ่งกว่าคนบางจำพวกซะอีก คนที่คิดว่าตัวเองดีกว่าหมา แต่กลับทำตัวเสียหมา เสียชาติเกิด แทนที่เกิดเป็นคนแถมบนแผ่นดินไทย กลับตอบแทนแผ่นดินเกิดด้วยการทำลาย ชิงหมาเกิดแท้ๆ ผมคิดอย่างแค้นใจแทนไอ้ตะบันที่ต้องมาตายไปเพราะพวกมัน
“กูจะเลี้ยงเมียและลูก รวมถึงบรรดากิ๊กมึงให้นะ ไอ้ตะบัน ไปดีเถอะ ชาติหน้าเจอกันนะ”ผมหลับตานึกถึงไอ้ตะบัน ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดและปิดประตู
“หนูเป็นอะไร เจ็บแผลเหรอ”เฮียถามอย่างห่วงใยเดินมานั่งใกล้ๆ คงเห็นผมหลับตาเลยคิดว่าเจ็บแผล
“เปล่า หนูนึกถึงไอ้ตะบัน สงสารมันที่ต้องมาตาย”ผมลืมตาที่มีน้ำตาคลอ พูดถึงหมาสุดที่รัก หมาที่เห็นกันมาแต่เด็ก
“ตะบันมันคงไม่อยากเห็นหนูร้องไห้ มันอยากเห็นหนูหายเร็วๆมากกว่า”เฮียเช็ดน้ำตาให้พูดปลอบ ก่อนจะลุกช้อนตัวผมที่ไม่ได้ตั้งตัวเดินไปวางบนเก้าอี้หวายบุนวมที่ระเบียงอย่างเบามือ
“หนูผอมมากเลย เฮียนึกว่าอุ้มนุ่นซะอีก”เฮียนั่งลงพร้อมเป่าซุปในช้อนไปด้วย
“นุ่นมันก็หนักนะเฮีย ถ้าเปียกน้ำน่ะ”ผมตอบเฮียตาก็มองซุปในถ้วย สีมันข้น กลิ่นหอม
“แต่หนูต่อให้เปียกน้ำ ก็เบาอยู่ดี ก่อนหน้าเคยอุ้มเคยแบก ก็ไม่เคยหนักนะ กินคำหนึ่งก่อน อร่อยนะ เฮียทำเอง”เฮียยิ้มก่อนจะยื่นมาจ่อปากพร้อมพยักหน้าให้กินซุปที่คุยอวด
“จะบอกว่าตัวเองไขข้อดีล่ะสิ ถึงแบกหนูไหว ครึครึ แต่อร่อยจริงๆด้วย ซุปอะไรน่ะเฮีย”ผมเหน็บเฮียพร้อมชมไปทีเดียว
“เข้าใจพูดนะ เขาเรียกซุปข้นเห็ดหอม หนูเป็นคนแรกเลยนะที่เฮียทำให้กิน”เฮียหยิกแก้มหยอกๆบอกและส่งสายตา
“เห็นเป็นหนูทดลองหรือไง ดีนะที่อร่อย เอ๊ะ หรือว่าหนูไม่เคยกินมาก่อนเลยไม่รู้รสชาติที่แท้จริงมันเป็นยังไงวะ ฮ่าๆๆๆ”ผมหัวเราะแก้เขิน อยู่ๆมาส่งสายตาให้ ทำเอาใจเต้นไปหมด ไม่ใช่ไม่เคยแต่ไม่ได้เห็นมาสักพักแล้ว ปรับตัวไม่ทัน
“ดีแล้ว อย่าให้ใครนอกจากเฮียทำเลย เฮียอยากทำแค่คนเดียว”ตายคาช้อนแน่กู น้ำตาลในกระแสเลือดพุ่งปรี๊ดเกือบสำลอก
เอ้ย สำลัก กับคารมคมหอกของเฮีย แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า กูฝัน แต่เป็นฝันดีจริงๆ
“ให้จริงเถอะ”ผมพูดงึมงำ รับมาอีกคำ ไม่เงยมองหน้าเฮียกลัวใจเต้นทะลุไปทิ่มเบ้าตาเฮียเข้าให้
“คำพูดเฮียเชื่อไม่ได้แล้วเหรอ หืม”เฮียยื่นหน้ามาพูดใกล้ ดันคางให้ขึ้นมาสบตา
“ไม่รักเฮียแล้วเหรอ ถึงไม่เชื่อกัน”น้ำเสียงตัดพ้อนิดๆจนผมเกือบจะเชื่อถ้าไม่ได้เห็นสายตาแพรวพราว
“ระ รัก ไม่รักจะนอนรอเหรอ”ผมพูดตะกุกตะกักอย่างเขินๆ พอทวนอีกทีเหมือนกูให้ท่าเฮียเลยแหะ
“ก็หนูของเฮียก็ต้อง นอน รอเฮียสิ ถ้ารอคนอื่นล่ะก็”เฮียพูดเหมือนคาดโทษ ผมส่ายหน้าทันทีทำไมก็ไม่รู้ รู้แต่เฮียหอมแก้มสองข้างพร้อมหัวเราะในลำคออย่างถูกใจ ก่อนจะเป่าและป้อน ทำอย่างนี้จนหมดถ้วย ตามด้วยนมอีกแก้ว ยาอีกชุด เป็นอันจบพิธีกรรม เฮียเอาของไปเก็บปล่อยให้ผมนั่งชมวิวตามเดิม มีบัวขึ้นตามริมฝั่งและตรงกลางด้วย เห็นแล้วอยากเก็บมาต้มกะทิสายบัวจัง เฮียเคยกินหรือเปล่านะ อ้าว เลยไม่ได้คำตอบเลยว่าบ้านใคร สักพักเฮียเดินกลับมาอุ้มผมไปนั่งตรงที่นอนเล่นตัวยาว
“ชอบไหม”ถามพร้อมเอนตัวลงนอนข้างกัน ผมหนุนแขนเฮียหน้าอยู่ตรงอกพอดี มืออีกข้างรั้งผมเข้าไปกอด
“อืม”ผมตอบในลำคอ ไม่รู้ว่าเฮียหมายถึงอะไร
“รู้เหรอว่าเฮียหมายถึงอะไร”นั่นไง เอาความคิดผมไปออกเสียง
“ไม่รู้ รู้แต่ถ้าเป็นเฮีย ชอบหมด”ไม่รู้ทำไมอยากน้ำเน่าแข่งกับเฮียบ้าง แต่เป็นความรู้สึกที่ออกจากใจจริงๆ คาดว่าเฮียจะชอบกระชับผมเข้าไปดมหัวที่ยังไม่ได้สระแน่นอน ฟันก็ยังไม่ได้แปรง นี่เฮียชอบของเหม็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ชื่นใจจัง”พูดแล้วสูดอีกหลายฟอด ท่าจะชอบจริงๆ
“ไม่เหม็นเหรอ หัวก็ยังไม่ได้สระ ฟันก็ยังไม่ได้แปรง”ผมท้วงเฮียแต่ขยับเข้าไปให้เฮียซึมซับอีก
“ทุกอย่างที่เป็นหนู เฮียดมได้หมด หึหึ”เฮียหัวเราะในลำคอขำๆ พาให้ผมขำไปด้วย ดมได้หมด แม้แต่หำที่ยังไม่ได้ล้างด้วยเหรอเฮียยังจะดมไหม ไม่น่ารอด มากกว่าดมเฮียก็ทำมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ คิดไปได้ทะลึ่งจริงกูอายว่ะ ก่อนเสียงหัวเราะในความคิดจะชะงัก
“แต่นอกจากสองที่นั้น ส่วนอื่นเฮียเช็ดให้หมดเลยนะ”ผมหน้าแดงทันทีรู้ได้เลย เมื่อเฮียกระซิบเบาๆ ตรงหน้าผากที่ไม่มีหูแต่กูได้ยินเต็มๆเลย เพิ่งสังเกตว่าตัวเองไม่ได้ใส่ชุดคนไข้ เป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ ระหว่างหลับนอกจากเช็ด เฮียคงไม่ได้ สระเอ็ด อย่างอื่นด้วยใช่ไหม ไม่หรอกมั้ง เพราะของเฮียอยู่ระหว่างสึกหรอรอฟื้นฟูอยู่ แต่ถ้า สระชัก ล่ะ โอ้ยยย กูจะคิดทำไมวะ
“คิดอะไรหน้าแดงเชียว อายเฮียเหรอ”เฮียถามเอามือลูบแก้มที่ร้อนผ่าวๆ ถ้าบอกว่าเปล่าเฮียคงไม่เชื่อแน่ ก่อนจะพูดต่อให้เบิกตาอ้าปาก“เฮียแค่เช็ดและใส่อย่างเดียว”
“ห๊ะ ใส่อย่างเดียว ทำไมไม่รู้สึกเลยล่ะ”ผมถามเฮียเสียงดังอย่างลืมตัว อย่าบอกนะว่าของเฮียใช้ได้แล้วแต่ขนาดเล็กลง หรือเพราะของผมกว้างขึ้น เฮียหย่อนเข้าไปทั้งลำผมเลยไม่รู้สึกสักนิด ไม่น่าเป็นไปได้ล่าสุดผมยังจำความรู้สึกได้เลยว่าลืมอักษรทุกตัวที่เคยเรียน ยกเว้น อ.อ่าง ที่ออกจากปากเป็นระยะๆ อ๊ะ อ๊ะ พร้อมบอดี้ที่สแลมดึ๋งดั๋งๆ แล้วยิ่งตอนนี้นอนแทบจะขี่กันผมสัมผัสได้ว่ามันไม่ได้หดลงสักนิด ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนหน้า มันใช่เวลาจะมาคิดไหม
“ก็หนูหลับไม่รู้สึกตัว จะรู้ได้ยังไงล่ะ”เฮียจับหน้าผมขึ้นไปสบตาด้วย “ระหว่างนี้ เฮียจะทำอย่างนี้ทุกวัน จนกว่า หนูจะหาย”ทุกวันเลยเหรอ ผมเบิกตาพร้อมเปล่งเสียงในความคิด แต่ทำไมตอนคำว่า จนกว่า เสียงเฮียเบาจังเลย
“ลำบากเฮียเปล่าๆ หนูทำเองดีกว่า เดี๋ยวเป็นง่อย”ผมบอกเฮียอย่างเกรงใจ แต่เฮียไม่เกรงใจผมเอาซะเลย ขนาดหลับแถมบาดเจ็บก็ยังจะทำไปได้ถึงจะทำเบาก็เถอะ ไม่ใช่ไม่อยากให้ทำ ก็แค่อยากช่วยกันตอนตื่นมากกว่า
“ลำบากที่ไหน แค่เช็ดตัวใส่เสื้อผ้าให้ ถึงเป็นง่อยเฮียก็ดูแลได้ ขอแค่ให้ได้อยู่ดูแลเถอะ”เฮียหอมหัวอีกแล้ว ถ้าจะติดใจกลิ่น
“เช็ดตัวกับใส่เสื้อผ้า”ผมมองหน้าเฮีย ที่พยักหน้า อ้าว นี่กูคิดว่าเฮียทำอะไรวะเนี่ย
“ใช่ เห็นไหมเฮียไม่ได้ลำบากสักนิด ถ้าเทียบกับที่ทำให้หนูลำบากและต้องมาบาดเจ็บ”เฮียพูดยิ้มๆในตอนแรกก่อนจะเสียงเบาเหมือนรู้สึกผิดในตอนท้าย ผมเห็นแววตาเฮียที่ดูหม่นลง เลยจูบปากเฮีย
“แต่เฮียก็ปกป้องหนูด้วยชีวิตแล้วไง”ผมกระซิบชิดปากที่ประกบลงมาอีกครั้ง และอีกหลายครั้งก่อนจะถอนออก
“หนูชอบบ้านหลังนี้ไหม”เฮียถามผมถึงบ้านที่ผมอยากรู้แต่ไม่ได้รู้สักทีว่าบ้านใคร
“ชอบ สวยดี”ผมตอบตามตรง
“ให้มาอยู่เอาไหม”เฮียถามอีก
“อยู่คนเดียวไม่เอาอ่ะ ถ้ามีพ่อกับเฮียอยู่ก็จะอยู่ด้วย”ผมตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
“ถ้ามีแค่เฮียล่ะ หนูจะอยู่ไหม”เฮียถามอีกแต่ลดจำนวนลง
“แล้วพ่อหนูล่ะ จะอยู่กับใคร”ยังไงผมก็ห่วงพ่ออยู่ดี
“หนูก็บอกพ่อมาอยู่ด้วยสิ”เฮียกอดผมเข้าไปอีก
“ไม่มีทางหรอก พ่อรักบ้านหลังนั้นมาก หนูก็รัก ถึงจะไม่สวยเท่าหลังนี้ก็เถอะ”ผมส่ายหน้าตอบแทนพ่อได้เลย
“งั้นเฮียก็ต้องอยู่คนเดียวสิ”เฮียพูดเหมือนน้อยใจ
“ก็ไปไปมามาได้ไหมล่ะ”ผมต่อรองเฮีย
“คิดถึงตายเลย”เฮียลูบแขนผมไปมา
“หนูก็คิดถึงเฮีย แต่ให้ทิ้งพ่อมาอยู่คงไม่ได้ หนูขอโทษนะ”ผมลูบมั่งเป็นการขอโทษ ได้ยินเสียงเฮียหัวเราะในลำคอ
“เฮียล้อเล่น เฮียไม่ให้หนูลำบากใจหรอก หนูไม่มา เฮียไปอยู่กับหนูเองก็ได้ ให้อยู่ไหม”เฮียพูดทำเอาผมเงยหน้าไปมอง
“จริงเหรอ เฮียไปจริงนะ”ผมถามเฮียอย่างดีใจ ลืมสิ้นซึ่งกลิ่นปากที่เป่าเต็มหน้าเฮีย สงสัยจะเริ่มเหม็นเฮียกดมาปิดไม่ให้กลิ่นออก
“จริงสิ หนูอยู่ไหนเฮียก็อยู่นั่น เราจะอยู่ด้วยกัน”เฮียกระซิบและปิดกลิ่นไม่ให้ออกอีกรอบ ผมยิ้มอย่างพอใจแต่จะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า
“แล้วบ้านหลังนี้ล่ะ เฮียจะขายเหรอ”ผมถามเฮียอย่างนึกเสียดายถ้าขายจริงๆ ขนาดยังไม่ได้เห็นรอบบ้านนะ
“มันเป็นบ้านของเรา จะขายได้ยังไงล่ะ เฮียสร้างไว้นานแล้ว คิดเอาไว้ว่าจะใช้สร้างครอบครัวขึ้นมาอีกครั้งกับคนที่เฮียรัก นั่นก็คือ หนู”เฮียพูดอย่างอ่อนโยนทำเอาผมเคลิ้มจนหน้าบาน
“เอาไว้เราพาครอบครัวเรามาพักผ่อน เอาไว้หนูหายเฮียจะพาดูรอบๆนะ”เฮียพูดต่ออย่างรู้ใจจริงๆ
“อืม”ผมตอบแค่นั้น
“นับจากวันนี้เราจะมีความสุขด้วยกันนะ อย่าเพิ่งถาม”เฮียพูดชอบกล ผมขมวดคิ้วอ้าปากแต่เฮียปิดปากซะก่อน“ไม่นานเราจะได้อยู่ด้วยกัน ขอเฮียจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนที่จะไปขอหนูกับพ่อมาดูแล โดยไม่มีอะไรติดค้าง”
“หนูจะรอ นานแค่ไหนก็จะรอ”ผมบอกเฮียที่หน้าแนบกัน เฮียคงมีเหตุผล ผมต้องอดทนในเมื่อเฮียสัญญาแล้ว
“เฮียหนูอยากคุยกับพ่อ ติดต่อได้ไหม ไม่รู้ป่านนี้พ่อจะรู้หรือยังว่าหนูตื่นแล้ว”ผมร้องหาพ่อ กลัวพ่อเป็นห่วง
“พ่อรู้แล้วล่ะ รอแป๊บนะเดี๋ยวเฮียจัดให้”เฮียบอกก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบไอแพด ก่อนจะกดเชื่อมต่อสักพัก เฮียนี่คล่องจริงๆ ทั้งกดทั้งกอดผมไปด้วยไม่มีสะดุด สักพัก
“พ่อ พ่อเป็นไงบ้าง สบายดีไหม แล้วนี่พ่ออยู่ที่ไหน ทำไมไม่อยู่กับหนู”ผมเรียกคนที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอที่หน้าตาสดใส
“กูสบายดี อยู่บ้าน ทำไมไม่อยู่กับมึงน่ะเหรอ ถามผัวมึงสิ มาถึงมันก็ฉกมึงไปเจ็ททันที”พ่อตอบทุกคำถามยกเว้นคำถามสุดท้ายที่กำกวมมากๆ
“พ่อ มาจ๊ง มาเจ็ท อะไรเล่า”ผมค้านพ่อเสียงดังอย่างอับอาย
“กูพูดเรื่องจริง มันเอามึงขึ้นเครื่องบินเจ็ทไปจริงๆ แล้วมึงหน้าแดงทำไม”พ่อยังพูดต่อหน้าตาเฉย
“โธ่ แล้วก็ไม่พูดเต็มๆว่า เครื่องบินเจ็ท ฟู่ว”ผมเป่าปากอย่างโล่งใจ ทำไมคนรอบข้างพูดให้ผมเข้าใจผิดอยู่เรื่อย ส่วนลึกผมไม่ได้คิดเลยนะ จริงจริ๊งงงงง
“บ่นไร แล้วนี่มึงเพิ่งคิดได้ใช่ไหมว่ามีพ่ออยู่ ห๊ะ ไอ้หนู”เสียงพ่อพูดกลับมา
“โอ๋ โอ๋ พ่อ ไม่ใช่เพิ่งคิดได้ เพิ่งคิดเมื่อกี้เอง”ผมปลอบพ่อพร้อมแหย่กลับ
“ไอ้ลูกอกตัญญู ยังไม่ทันไรเห็นผัวดีกว่าพ่อนะมึง แล้วที่กว้างๆมึงไม่นั่งกันวะ ไปทับกันทำไม”พ่อบ่นใส่ผมไม่พอพาลไปคนข้างๆด้วย เออ ผมก็เพิ่งนึกออกว่าอยู่ท่าไหน แต่ก็ไม่ได้คิดอีกแหละ เข้าใจว่าตัวเองเห็นพ่ออยู่ฝ่ายเดียว ลืม จะขยับก็ไม่ทันแล้วล่ะ แถมเฮียโอบซะขนาดนี้
“หนูยังเจ็บอยู่ ผมเลยไม่อยากให้อยู่ห่างสายตา”เฮียออกตัวแทน
“เหรออออ มึงไม่เอามันเข้าไปในเบ้าตาเลยล่ะ”พ่อทำหน้าทำเสียงใส่อย่างหมั่นไส้
“ไม่เอาน่า หนูคิดถึงพ่อนะ หนูถามหาพ่อตั้งแต่ตื่นแล้วล่ะ แต่เฮียให้กินข้าว กินยา และปรับตัวสักพักก่อน คิดถึงและรักพ่อที่สุด ที่สุด จุ๊บๆ”ผมอธิบายพร้อมบอกรักตบด้วยจุ๊บๆ
“เออ กูจะพยายามเชื่อ”พ่อกระแทกเสียงใส่ สักพักผมได้ยินเสียงหมาเห่า และวิ่งเข้ามาหาพ่อ ผมใจเต้นแรง
.
.
.
.
“ไอ้ตะบันนนนนนนนน มึงยังไม่ตาย”ผมเรียกมันเสียงดัง มันทำหน้าแบบอยู่ไหนวะ ก่อนจะส่งเสียงเห่าตอบอย่างจำเสียงผมได้
“โฮ่งงๆๆๆๆ บรู๊ววว หงิงๆๆ”มันคงบอกว่า เออ กูยังไม่ตาย มึงนั่นแหละตายแล้วหรือเปล่าทำไมกูมองไม่เห็น เก่งจริงกูรู้ภาษาหมา น่าจะเป็นผลพวงจากตอนเด็กที่เห่าพร้อมมากัน
“เฮีย ไอ้ตะบัน ไอ้ตะบัน”ผมชี้ให้เฮียดูไอ้ตะบันที่กระดิกหาง ส่งเสียงหงืดๆหงิงๆ
“ครับ ตะบันยังไม่ตาย สิบเอาส่งโรงพยาบาลทัน”เฮียเล่าให้ฟังคร่าวๆ ผมยิ้มพร้อมน้ำตาไหล เฮียเช็ดให้
“ไอ้ตะบัน ฮึก กูดีใจนะที่มึงไม่เป็นอะไร เอาไว้ กูจะกลับไปกอดมึงนะ”ผมบอกมันเอามือลูบหน้าจอ พ่อลูบหัวไอ้ตะบัน
“โฮ่งๆ โฮ่งๆ”มันรับคำผม ก่อนจะวิ่งออกไปแล้ว
“มันไปดูลูกมัน นังกระถินตกลูกแล้ว สองตัวเองว่ะ ชื่ออะไรดีวะ ไอ้หนู”พ่อบอกให้ฟังพร้อมถาม
“ตัวผู้ตัวเมียพ่อ”ผมถามพ่ออย่างตื่นเต้น เหมือนตัวเองเป็นอา เพราะไอ้ตะบันมันเกิดก่อนผม นับตามศักดิ์ผมต้องเป็นอา
“ตัวผู้ทั้งคู่เลยว่ะ หน้าตาเหมือนไอ้ตะบันแบบมันไม่ติดใจว่านังกระถินมีชู้เลยนะมึง มันเห็นปุ๊บเข้าไปเลียปั๊บ”พ่อเล่าให้ฟังขำๆถึงท่าทางไอ้ตะบัน ทำเอาผมกับเฮียขำไปด้วย
“ชื่ออะไรดีนะ เฮียว่าไง”ผมนึกก่อนจะหันไปขอความเห็นเฮีย
“ซุปเปอร์ กับ ฮีโร่ ไหม เพราะตะบันเก่ง”เฮียคิดไม่นานบอกออกมา
“ฝรั่งจ๋า เรียกยาก ไทยๆหน่อย บ้านกูไม่มีเชื้อฝรั่ง”พ่อค่อนขอดทันที ยากตรงไหน ผมคิดก่อนจะเบิ่งตา
“นึกออกแล้ว ชื่อนี่เลย พ่อมันไอ้ตะบัน ลูกชื่อ ไอ้ทะลุ ไอ้ทะลวง ดีไหมพ่อ ไทยๆดี”ผมบอกพ่อที่เบิ่งตาตบเข่าฉาดใหญ่
“เออ สมเป็นลูกกู ทั้งเก่งทั้งหล่อได้เชื้อพ่อไปเต็มๆ ฮ่าๆๆๆๆ”พ่อพอใจมาก ออกปากชมตัวเองไม่หยุด ทั้งเก่งทั้งหล่อแต่เจอผู้ชายล่อ(ลวง)ซะแล้ว ยังเก่งอีกไหม พูดไปได้โดนด่าแน่ หลังจากนั้นก็คุยกันอีกนิด
“ไอ้เฮีย”พ่อเรียกเฮียที่นั่งฟังอย่างเดียว
“ครับ”เฮียก็ขานรับ
“ดูแลให้ดีนะ มีอะไรโทรหากูด่วน ถึงจะอนุญาตให้พามันไป แต่ยังไงกูห่วงอยู่ดี เข้าใจไหม”พ่อพูดกับเฮียเสียงขึงขัง
“ครับ ผมจะดูแลและพากลับอย่างดีที่สุด พ่อวางใจได้ ขอบคุณอีกครั้งที่ไว้ใจผม”เฮียรับปากและขอบคุณพ่อ คงจะตกลงกันตอนที่ผมสลบอยู่นั่นแหละ ลึกๆพ่อต้องเชื่อใจเฮียไม่งั้นไม่ยอมให้พาผมมาแน่
“ตอนแรกกูก็วางใจ แต่ตอนนี้ดูสภาพมึงแทบจะขี่กันกูอยากเปลี่ยนใจเอาคืนว่ะ”พ่อหรี่ตาพูดใส่
“ผมไม่ทำหรอกครับ หนูยังเจ็บอยู่”เฮียบอกพ่อ แต่มีกระซิบทำเอาผมกระทุ้ง ‘ถ้าลูกพ่อยอมก็ไม่แน่’ จะถามว่าใช้การได้แล้วเหรอก็จะหักหน้าให้ริ้วรอยขึ้นซะเปล่าๆ ครึครึ
“อะไร มึงกระซิบอะไรกัน แล้วไงไอ้เฮีย ถ้ามันหายเจ็บมึงจะทำใช่ไหม”พ่อเสียงดังกลับมาทำเอาสะดุ้งเหมือนพ่อมาอยู่ตรงหน้า
“ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น ผมรับรอง”เฮียปฏิเสธพร้อมรับประกัน ใช่เฮียไม่ทำถ้าผมไม่ยอม แต่เปอร์เซ็นการยอมผมสูงมาก จากประสบกามที่ผ่านมาบอกผมว่ายอมแน่ แค่เฮียบลิ๊ว
“ให้จริงนะมึง”พ่อย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ครับ”เฮียยืนยันตามเดิม
“กูหมายถึงไอ้หนู ไม่ใช่มึง หน้าตาเหมือนมันสมยอม”พ่อหันมาใส่ผมแทน อะจ๊าค นี่พ่อดูกูออกด้วยเหรอนี่
“พ่อจะมาวัดอะไรกับหน้าตาหนู เฮียเขารับรองแล้ว ไม่มี๊ เชื่อสิ”ผมรีบรับรองให้พ่อสบายใจ
“กูว่ามึงเชื่อยากกว่าไอ้เฮียอีก ชักเริ่มไม่ไว้ใจมึงแทนซะแล้ว”แทนที่จะเชื่อลูกตัวเอง กลับมั่นใจซะงั้น เฮียแอบขำ
“จริงจริ๊งงงงงง”ยืนยันคำเดิม
“เหรออออออ”เสียงพ่อไม่ต่างกัน ก่อนจะพากันหัวเราะ
“ไม่มีอะไรแล้ว เอ็งก็พักผ่อนเถอะ รีบหายนะ ฝากด้วยนะ”พ่อพูดกับผมก่อนจะตบท้ายด้วยเฮีย
“ครับ/ครับ”เราพูดพร้อมกัน พ่อเบะปากอย่างหมั่นไส้
“แค่นี้แหละ”พ่อส่ายหน้า
“แค่ไหนล่ะพ่อ”ผมหยอกพ่อต่อ
“แค่ยาวกว่าของมึงมั้ง กวนติงอีกแล้วลูกกู”พ่อย้อนกลับมาทำเอาฮา แต่ไม่เต็มเสียงเพราะรู้สึกเจ็บแผลแปล๊บๆ
“เออ กูถามอะไรหน่อยสิ ไอ้เฮีย”พ่อเหมือนนึกอะไรได้
“ครับ”เฮียตอบพร้อมตั้งใจฟังคำถามคุณนก ผมก็นอนลุ้นไปด้วย
“ไม่มีอะไร แค่อยากถามว่า”พ่อพูดชิวๆแต่มีทิ้งท้ายให้เกร็ง
“............”
“ก็ไอ้หนูมันตกถังข้าวสาร แต่ เอ็งทำไมมาตกถังขี้มันวะ”“O_O”หน้าผม
ก่อนจะ
“พ่ออออออออออออออออ”ผมเรียกเสียงดัง เฮียชะงักไปนิดกับคำถามก่อนจะยกยิ้มกอดผมเข้าไปใกล้ หอมแก้มผมต่อหน้าพ่อในจอ
“เปลี่ยนเป็นผมตกหลุมรักดีกว่าครับ”นั่นคือคำตอบของเฮีย
นี่คือ
“^_^”
หน้าผม
“หน้าตาระริกระรี้เชียวมึง กูจะอ้วก”พ่อพูดเหน็บก่อนจะ Shutdown ผมกับเฮียได้แต่หัวเราะและหยอกล้อด้วยริมฝีปากและอ้อมกอดที่อบอุ่น
“ได้เวลาพักแล้ว หนูนอนนะ”เฮียพูดมือลูบหลังผมไปมา ตบตูดเลยก็ได้เฮียจะได้หลับเร็วๆ
“ไม่อยากนอน”เสียงผมเหมือนจะอ้อนเฮีย ผมกลัวตื่นมาไม่เจอเฮีย
“นอนเถอะ เฮียจะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน”เฮียพูดพร้อมกดจูบที่หน้าผาก อย่างรู้ว่าผมคิดอะไร ผมมองหน้าเฮียที่ยิ้มก่อนจะขยับปากออกเสียงเป็นทำนองเพลงกล่อมที่ผมฟังไม่รู้ รู้แต่เพราะและอุ่นใจ ตาผมค่อยๆหลับลง
“เฮียรักหนู”
อืม ผมขานรับก่อนจะหลับไปในอ้อมแขนเฮีย สัมผัส เสียง ทุกอย่างของเฮีย บอกให้รู้ว่าเฮียอยู่ตรงนี้จริงๆ
*****************************************************************************************************************
ปล. เข็นสังขารมาลงแล้ว สบายๆชิวๆรับลมหนาว แต่คนเขียนไม่ชิวเลยงานจุกไปหมด ถ้าผิดพลาดหรือไม่เข้าถึงอารมณ์ยังไงขอโทษด้วยนะคะ ความสงสัยเก็บไว้เฉลยตอนหน้าเน๊าะ ว่ามาฮันนีมูนกันได้ยังไง หุหุ

อากาศเปลี่ยนแปลงรักษาสุขภาพด้วยนะคะ โดนหวัดเล่นงานเหมือนกัน ซี๊ดดดด สูดน้ำมูกค่ะไม่ใช่อย่างนั้นนะ

ส่วนตอนหน้าจะแจ้งอีกทีนะคะไม่กล้าบอกเลย :katai1:ไปเคลียร์งานต่อดีกว่า
