“แล้วมึงจะทำเพื่อเขา และกูที่เป็นเพื่อนได้ไหม ไอ้บอย”ผมถามมันหลังจากเสียงร้องไห้เงียบไปแล้ว
“มึงก็เอาไปสิ หลักฐานก็ที่มึงเห็นนั่นไง”มันพยักหน้าไปทางเครื่องเล่นที่ถูกปิดไปแล้ว
“ไม่ใช่แค่นี้ กูอยากให้มึงเป็นพยานในคดีนี้ และบอกมาว่าใครอยู่เบื้องหลัง ใช่พวกท่านรองฯหรือเปล่า”ผมถือโอกาสเกลี้ยกล่อมมันไปด้วย
“มึงรู้แล้วจะทำอะไรได้ ท่านรองฯถูกจับ ก็มีคนมาแทน”มันกระตุกยิ้มมุมปาก
“กูไม่สน ตราบใดที่กฎหมายยังมีอยู่ มีคนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน กูก็จะปราบมันไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ และกูเชื่อว่ายังไงความดีก็ต้องชนะความชั่วอยู่วันยังค่ำ”ผมพูดอย่างแน่วแน่ในจุดหมายของตัวเองที่มีต่ออาชีพนี้
“มันเป็นเครือข่ายท่านรองฯ นายพวกมันเป็นนักการเมือง”มันเงียบไปอึดใจก่อนจะเดินไปเปิดตู้เซฟหยิบเอกสารส่งให้ผม
“มึงตกลงที่จะมอบตัวใช่ไหม”ผมถามมันเสียงเรียบ
“มอบหรือไม่มอบ มึงก็ต้องจับกูอยู่ดี อีกอย่างมาถึงตอนนี้กูก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว เกรียติยศ ศักดิ์ศรี มันหมดไปตั้งแต่กูก้าวไปในเส้นทางนี้แล้ว เป็นโชคดีที่พ่อแม่กูสิ้นบุญไปซะก่อนไม่ต้องมารับรู้ว่ากูชั่ว”มันแค่นยิ้มสมเพชตัวเองอีกครั้ง ไอ้บอยเป็นลูกคนโตของบ้าน มีน้องชายสองคน ตอนนี้ทำงานคนหนึ่ง อีกคนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว
“กูฝากน้องด้วยนะ พวกมันไม่รู้ว่าพี่มันชั่ว คิดแต่ว่ากูเป็นพี่ที่ดีมาตลอด กูทำพินัยกรรมให้พวกมันแล้ว จะได้ไม่ลำบากเวลากูไม่อยู่”มันพูดฝากเหมือนจะลาจาก ฟังเป็นลาง หรือมันคงคิดว่าถ้ามันติดคุกก็คงอีกนานกว่าจะได้ออก
“กูรับปาก กูก็เห็นพวกมันมาตั้งแต่เด็ก แต่มึงมอบตัวเถอะ หนักจะได้เป็นเบา อย่างน้อยมึงก็ยังมีโอกาสนะ”ผมรับปากมันและพูดให้มันยอมอีกครั้ง
“โอกาสกูมันหมดไปแล้ว มึงก็คงไม่มีเหลือความรู้สึกดีๆให้กู ถึงกูติดคุกหรือตายไปก็ไม่สาสมกับที่ทำไว้หรอก”มันยกยิ้มมุมปากพูดอย่างปลงตกในชีวิต ก่อนหน้านั้นมันน่าจะคิดได้
“มันก็ดีกว่ามึงไม่ทำอะไรเลย เชื่อกูเถอะบอยมอบตัวซะ กูจะกันมึงเป็นพยาน ไม่ให้พวกมันทำร้ายมึงได้ กูจะช่วยมึงเอง”ผมจับไหล่ที่ลู่ลงทั้งสองข้างของมัน ผมยอมรับว่าผมโกรธแค้นในสิ่งที่มันทำกับคนที่ผมรัก แต่ยังไงก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายเป็นคนตัดสิน
“ไอ้บอย”ผมเรียกเมื่อมันเอาแต่เงียบ แต่ก่อนที่จะอ้าปาก ไอ้บอยดึงผมก้มลงกับพื้นทันที
ปรุ
ปรุ
ปรุ
เสียงกระสุนไม่มีเสียงยิงเข้ามาในบ้านผ่านทางระเบียง ผมกับไอ้บอยหมอบหลบกระสุนที่สาดเข้ามาอีก บ้านไอ้บอยอยู่เกือบท้ายซอย เป็นบ้านห่างกันพอสมควร คงไม่มีใครเห็นแน่ ไหนมึงบอกยามหมู่บ้านมึงเคร่งครัดไง ให้พกอาวุธผ่านมาได้ไงวะ ไอ้บอยหน้าซีดแต่มันก็กระชับปืนยิงสวนออกไป ก่อนจะหยิบของผมส่งให้ ผมยิงสวนไปบ้าง พวกมันแน่มากเข้ามาถึงในบ้าน ผมกะไว้อยู่แล้วว่ามันต้องตามไอ้บอยมาแน่ๆ ผมส่งสัญญาณให้ออกทางประตู
“เร็ว”ผมเรียกมันให้วิ่งตาม กระสุนเฉียดหลังไปนิด พอออกจากห้องก็กลิ้งหลบยิงไอ้โม่งที่บุกขึ้นมาตรงบันได กลางหน้าผากพอดี ไอ้บอยหันไปยิงข้างหลังที่ตามมาติดๆ
“มาทางนี้”ไอ้บอยพาผมเข้าไปอีกห้องกดล็อค ก่อนจะเปิดผ้าม่าน มองว่าปลอดภัยไหม ดึงบันไดหย่อนลงไป
“มึงลงไปก่อน กูจะสกัดไว้ให้”มันบอกผมอย่างเร็ว ผมมองหน้ามัน
“ไปสิ ไม่เชื่อใจกูใช่ไหม”มันไล่พร้อมถาม ผมส่ายหน้า
“ไม่ใช่ กูคิดว่าพวกมันอยู่ข้างล่างหรือเปล่า ถ้าลงไป”ผมบอกมันพร้อมกวาดตามองไปด้วย ก่อนจะยัดเอกสารใส่ในเป้ที่หยิบติดมือมาก่อนออกจากห้อง
“มันก็ต้องเสี่ยง มึงต้องไปที่รถให้ได้และหนีไปซะ ถึงไม่มีกูเป็นพยานหลักฐานแค่นั้นก็ช่วยเมียมึงกับจับพวกมันได้แล้ว กูสัญญาถ้ารอดไปได้กูจะไปมอบตัว เชื่อในตัวกูอีกครั้ง ครั้งสุดท้าย”มันบอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไอ้เหี้ยบอย มึงทำไมชอบพูดเป็นลางวะ กูไม่ให้มึงตายง่ายๆหรอก มันไม่สาสมกับที่มึงทำกับเมียกูโว้ย อย่างน้อยมึงต้องไปลิ้มรสชาติในคุกก่อน”ผมด่ามันกลบเกลื่อนความรู้สึกที่บอกว่า ไอ้บอยมันสั่งลาผม
“ไอ้เหี้ยสิบ มึงนี่รักเมียเน๊าะ กูก็บอกแล้วไงว่ารอดไปได้ กูจะไปมอบตัว ตอนนี้มึงไปพาตำรวจมาก่อนดีกว่ามั้ง ไปสิ เดี๋ยวไม่ได้ไปช่วยเมียมึงหรอก”มันด่ากลับทำให้นึกถึงมิตรภาพที่เคยมีให้กัน ก่อนจะมีเสียงปืนดังหนึ่งนัด
“เร็วพวกมันเข้ามาแล้ว”ไอ้บอยบอกผมก่อนจะยิงสวนเข้าไปในห้อง ผมปีนบันไดลงไปอย่างเร็ว
“ลงมา กูยิงสกัดมันเอง”ผมบอกมัน ก่อนจะส่องไอ้ข้างล่างที่โผล่หัวมา
ปัง
ปัง
ไอ้บอยปีนลงมาเกือบจะถึงพื้น
“โอ้ย”มันร้องก่อนร่างจะร่วงกระแทกพื้น
“ไอ้บอย”ผมวิ่งเข้าไปดูมัน
“ไม่เป็นไร ไปสิวะ”มันบอกผมเอามือกุมสีข้างที่มีเลือดไหล ผมดึงมันลุกกึ่งลากไปทางหลังต้นไม้ พวกมันมาไม่ต่ำกว่าสิบแน่ ยังไม่ทันขาดคำมันลอบเข้ามาข้างหลัง ไอ้บอยเตะสกัดมันไว้ ผมยันอีกทาง เตะปืนในมือมันหลุด เข้าเหยียบซ้ำ มันหลบหนีเตะขาพับผม ดีขาไม่อ่อนทรงได้
“อ๊าคคคคคคคค”มันร้องเมื่อผมกระทืบเป้ามัน จนตัวงอ ก่อนจะหักข้อมือมันเป็นการตัดกำลัง หันไปไอ้บอยต่อยไอ้นั่นจนหน้าหงายถีบท้องจนหงายหลัง หยิบปืนขึ้นยิงสองนัดซ้อน จนมันแน่นิ่ง มันตรงมาทางผมส่องไปทางไอ้คนนั้น และยิงทันที
“พวกมันไม่ปล่อยเราหรอก ฆ่าได้ก็ฆ่า กูรู้ว่ามึงอยากจับเป็น ไอ้พวกนี้มันแค่ลูกน้อง”ไอ้บอยพูดเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไร ก่อนมันจะทรุดลงมาทับตัวผม
“ไอ้บอย”ผมเรียกมันที่ยังฝืนตัวเองเอาไว้ เอาปืนหันไปจ่อไอ้คนที่ยิง ไอ้คนที่ผมเห็นในวันนั้น กับลูกน้องอีกสองคน
“หึ คิดจะหักหลังกูเหรอ”มันพูดใส่ เล็งปืนมาทางพวกผม
“ไม่ได้คิด กูทำเลยต่างหาก”มันยังปากดีพูดใส่ ไอ้คนนี้คือหนึ่งในนั้นที่กระทำมัน
“จะตายยังปากดีนะมึง แต่มึงก็ปากดีจริงๆ ทั้งอม ดูด เลีย ฮ่าๆๆๆ”มันพูดเยาะพร้อมเสียงหัวเราะกับลูกน้องมันที่เห็นด้วย ไอ้บอยตัวสั่นด้วยความโกรธ
“กูก็แค่สงเคราะห์ทำบุญให้พวกมึง เผื่อบาปจะได้ลดลงบ้าง แต่ยังไงพวกมึงก็ไม่รอดอยู่ดี กูส่งหลักฐานให้ตำรวจไปแล้ว ป่านนี้คงกำลังไปจับลูกพี่มึงและก็มาทีนี่ หึหึ”ไอ้บอยพูดกลับไปบ้างแข่งกับเสียงหัวเราะที่เงียบลง
“มึงคิดว่าแผนหลอกเด็กจะใช้ได้เหรอ หลักฐานขี้ประติ๋วจะทำอะไรได้ แค่คลิปภาพมึงเนี่ยะนะ”มันกดยิ้มมุมปากเย้ยหยัน ผมมองลู่ทางในการหนี ไอ้บอยกระซิบกับผมว่าให้เตรียมวิ่งไปที่รถให้ได้ มันส่งลูกกุญแจรถให้ผม
“แล้วใครว่ามีแค่นั้นล่ะ คิดว่ากูเอาตูดให้แค่พวกมึงหรือไง นายมึงก็ติดใจกูไม่ใช่เล่น กูคิดมานานแล้วว่าต้องโดนเก็บ ไหนๆก็จะโดนก็สั่งลาสักหน่อย ภาพ เสียง คมชัด ยิ่งกว่าพวกมึงอีก”มันกระตุกยิ้มเยาะใส่พวกมันบ้าง ก่อนจะส่งสัญญาณก้มตัวลงยิงออกไปทันที มันก็เหมือนจะระวังอยู่แล้ว หลบไปข้างหลังโดนลูกน้องมันแทน
ปัง
ปัง
“อ๊าค”
ผมกำลังจะดึงมือไอ้บอยให้วิ่ง แต่ไอ้นั่นกระโดดเข้าล็อคไอ้บอยไว้
“หนีไป ไม่ต้องห่วงกู”ไอ้บอยตะโกนบอก ก่อนจะกระทุ้งไอ้นั่นจนหลุดหันไปต่อยซ้ำ ไอ้ลูกน้องมันอีกคนก็ใส่ผมทีเผลอ ทำเอาปืนหลุดจากมือ ผมเตะปลายคางมัน สับข้อมือให้ปืนร่วง ต่อยซ้ำที่ใบหน้า เหลือบตามองไอ้บอยโดนต่อย ทั้งคู่ไม่มีปืนแล้ว ด้านกำลังไอ้บอยเสียเปรียบแน่ ผมจะเข้าไปช่วยแต่ต้องจัดการไอ้นี่ก่อน
ผลัวะ
“ไอ้ควาย เล่นกูทีเผลอ”ผมจับปากที่โดนต่อยแบบฉิวเฉียด ก่อนจะประเคนทั้งมือ ทั้งตีน ให้มันไม่ยั้ง มันรับได้บ้างไม่ได้บ้างสวนกลับเล่นเอาผมเสียเหงื่อไม่ใช่น้อย ตลอดไอ้ที่เหลือสุดท้ายแม่งต้องอึดทุกที ผมเช็ดเลือดตรงมุมปาก มันยันตัวเองที่เลือดโชกหน้าลุกขึ้น หยิบมีดออกมากวัดแก่วงใส่ โดนแขนผมเป็นรอยถากแต่ด้วยความคมเลือดซิบเช่นกัน ผมถอยหลังหนีจนเกือบติดต้นไม้ ก่อนจะคิดได้เมื่อมันพุ่งตัวเข้ามาอย่างเร็ว ผมโน้มกิ่งไม้ที่อ่อนก่อนจะปล่อยออกไปอย่างแรง
“อ๊าคคคคคคคคคค”มันร้องเสียงดัง เอามือกุมลูกตาทั้งสองข้าง ผมอาศัยจังหวะนี้เข้าไปเตะผ่าหมากจนมันทรุด ก่อนจะก้านคอไปอีกทีจนมันสลบ หันไปไอ้บอยกำลังเสียท่า แต่มันก็ต่อยกกหูจนไอ้นั่นหลุดจากตัว มันผละออกวิ่งมาทางผม พยักหน้าให้ ก่อนจะเบิ่งตา
ปัง
ปัง
ปัง
“ไอ้บอยยยยยยยยยย”ผมเรียกสุดเสียงเมื่อร่างมันโดนกระสุนเจาะตามลำตัวสามนัดซ้อน ล้มพับ
“คิดจะหนีต้องตายสถานเดียว ตาแกแล้วไอ้ตำรวจ เสือกไม่เข้าเรื่อง”มันแสยะยิ้ม เล็งปืนมาทางผม ก่อนจะลั่นไกมันชะงักมือเมื่อโดนดึงขาเอาไว้อย่างแรง ไอ้บอยรวบรวมตัวเองรั้งมัน
“ตายยากนักนะมึง ตายซะ”มันกำลังจะซ้ำ ไอ้บอยรั้งมือมันไปมา ผมอาศัยจังหวะนั้นหยิบมีดขว้างออกไปอย่างเร็วและแรงจนมันปักมิดด้ามกลางหลัง มันหันมาตาเหลือก ก่อนจะกระตุก
ปัง
ปัง
ปัง
ปัง
ไอ้บอยหันกระบอกปืนและออกแรงกดใส่มันไม่ยั้ง คาดว่าน่าจะหมดแม็ก มันล้มตึงหงายหลัง ผมวิ่งเข้าไปทันที
“ไอ้บอย มึงอย่าเป็นอะไรนะ ทำใจดีดีไว้”ผมประคองร่างมันขึ้นมา มันหายใจรวยริน แต่ยังยกยิ้ม
“กู ขะ ขอโทษ ขอโทษ ยกโทษ หะ ให้ กะ กูด้วย”มันพูดออกมาพร้อมเลือดที่ไหลไม่หยุด
“กูรู้แล้ว กูยกโทษให้มึง มึงตายไม่ได้ มึงต้องไปชดใช้ให้เมียกูก่อน”ผมพูดพร้อมบีบมือมัน ไม่ได้จะซ้ำเติมหรือตอกย้ำ
“ฮะ ฮะ ไอ้คนรักเมีย ไอ้เชี่ยะ”มันหัวเราะ หายใจหอบแรงขึ้น
“มึงรอกูตรงนี้”ผมบอกมันกำลังจะวาง แต่มันจับมือเอาไว้
“อย่า อย่าทิ้งกู ครั้งสุดท้าย อยู่กับกู มึงเป็นเพื่อนคนเดียวที่ดีที่สุด กูอยากเจอมึงอีก กูจะดีกับมึงให้มาก”มันพูดทั้งน้ำตา ผมก็กลั้นไม่อยู่ ถึงมันจะเลวจะชั่วยังไง มันก็ยังเป็นเพื่อนผม ผมบีบมือมัน
“ฝากขอโทษเมียมึงด้วยนะ”มันพูดอีกเสียงแผ่วลง
“เบียร์บอกกูวันก่อน ว่าไม่ให้เอาเรื่องมึงแล้ว”ผมพยักหน้าพูดกับมันที่ยิ้ม
“ขอบใจ”ตามันเริ่มหรี่ลง
“กูจะไปขอโทษเสก ถ้ากูได้เจอเขา อึก อึก”มันบอกก่อนจะกระตุก
“ไอ้บอย ไอ้บอย”ผมเรียกมันที่หายใจแรง ก่อนจะยิ้มให้ผมและหลับตาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะนิ่งไปจริงๆ
“กูอโหสิให้มึงทุกอย่าง”ผมบอกก่อนจะกอดมัน
.
.
.
.
ผมและเพื่อนๆที่สถานี รวมถึงลุง ได้เป็นเจ้าภาพร่วมกัน สวดแค่สามวันแล้วเผาเลย น้องๆมันร้องไห้ไม่มีใครพูดถึงสิ่งไม่ดี ผมรู้ว่ามันอาจไม่ยุติธรรมที่คนชั่วทำไมไม่ถูกประณาม มันได้ชดใช้กรรมแล้ว สำหรับผมก็คงพอแล้ว ไม่คิดจะเหยียบย่ำให้จมดิน ผมมองปล่องเมรุที่มีควันออกมา
“กูจะดูแลน้องมึงให้นะ ไม่ต้องเป็นห่วง”ผมให้สัญญากับมันอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากที่นั่น พรุ่งนี้ผมจะมาอีกวันเพื่อทำบุญและเอากระดูกไปลอยอังคาร
“ยังดีที่บอยมันยังคิดได้ในตอนท้ายนะ”ลุงตบไหล่ผมหลังจากกลับมาที่สถานีอีกครั้ง ออกหมายจับนักการเมืองคนนั้นทันที ได้ปลาใหญ่อีกหลายตัว เครือเดียวกับท่านรองฯทั้งนั้น ถึงไม่หมดแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
“ผมว่ามันคิดมานานแล้วล่ะลุง แต่มันคงไม่แน่ใจ คงกลัวอะไรหลายๆอย่าง”ผมพูดถึงคนที่จากไปแล้ว
“อืม ก็คงใช่ ไม่น่าปล่อยให้ความโลภ อิจฉาริษยา ครอบงำเลย น่าเสียดาย ที่ผ่านมือผลงานก็ดีนะ อนาคตที่ดียังรออยู่ เสียดายจริงๆ”ลุงพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะพูดต่ออย่างเสียดายอนาคตแทนมัน ผมได้แต่พยักหน้า ไม่ออกความเห็น
“แล้วยื่นเรื่องให้เมียมึงแล้วเหรอ”ลุงหันมาสนใจเมียผมแทน
“ครับ กำลังสรุปหลักฐานและจะนำขึ้นชั้นศาลในอีก สองสามวัน”ผมตอบลุงหลังไปยื่นเรื่องด้วยตัวเอง ผมทำมาตลอด
“ก็ดี จะได้หมดเคราะห์หมดโศก ไม่ปวดกะโหลก อีกต่อไป ถ้าให้ดี มึงก็พาเมียไปทำบุญหรือบวชล้างซวยสักปีสองปีดีไหม กูว่าถ้าพรรษาจะล้างไม่หมด”ตอนแรกก็ดูจะพูดดีแล้วนะ แต่ไอ้ตอนหลังนี่ไม่ไหวมั้ง
“โห่ ลุง ที่ผ่านมายังพลัดพรากจากอกผมไม่พออีกเหรอ หยุดเลย ออกจากคุกได้ผมไม่ให้เมียผมไปไหนแล้ว อยู่เป็นแม่บ้านอย่างเดียวพอ”ผมทำหน้าทำเสียงใส่ลุงพร้อมวางอนาคตให้เบียร์เรียบร้อย
“เหรอ กูหวังว่าเมียมึงคงจะเชื่อนะ ไอ้สิบ ยิ่งเมียผู้ชายด้วยมึง กูว่าได้มีกระทืบแน่”ลุงทำเสียงทำหน้าใส่บ้าง ใครเห็นได้หมดความนับถือแน่
“กระทืบก็เจอกระแทกสิ เงียบกริบ หึหึ”ผมบอกลุงพลางนึกถึงหน้าคนที่จะกระทืบตอนโดนกระแทก
“กูจะรอดูนะ ไอ้สิบ ไอ้ที่เงียบกริบ น่ะใคร หึหึ”ลุงแสยะยิ้มบอกผมที่กำลังฟิน หุบยิ้มทันที ลุงมองหน้าก่อนจะพูดต่อ
“ไอ้สิบ มึงก็รู้ว่ากรรมพันธุ์ตระกูลเรา นอกจาก ใหญ่ ยาว กูหมายถึงตำแหน่งและการรับราชการที่ยาวนาน มึงอย่าคิดลึก ถึงมันจะจริงแต่กูไม่กล้าพูดออกมาหรอก อีกอย่างที่มึงต้องรู้”ลุงมองหน้าผมที่ขมวดคิ้ว
.
.
.
.
“เมียคือพระเจ้า ที่เราสาบานตนแล้วว่าต้องซื่อสัตย์และเคารพเชื่อฟัง ซึ่งจะทำให้ไม่มีปัญหาในครอบครัว”“ไม่ใช่ ไม่ใช่ มึงอย่าทำหน้าเหมือนว่า ไอ้ที่กูพูดคือการกลัวเมีย มันดูไม่ให้เกรียติเขา เหมือนเขาชอบข่มเหง แต่มันมีพลังงานบางอย่างที่เรารู้ได้ว่าต้องทำตัวยังไงเวลาเขาพูดหรือให้ทำอะไร”ลุงพยักหน้าให้ผมหลังพูดจบ
“ตัวอย่างคือ ทำตัวแบบ ลุง ใช่ไหม”ผมพูดพร้อมชี้มือไปที่ลุง
“แน่นอน ตัวอย่างที่ดี เห็นไหม ไม่มีปัญหา”ลุงพูดอย่างภูมิใจ ผมก็เห็นด้วย ป้าเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่จะแสดงออกทางการกระทำ ยิ่งตอนลุงหนุ่มๆ เจ้าชู้ใช่ย่อย
“มันหมดปัญหาตั้งแต่ป้าชักใส่ลุงน่ะเหรอ ครึครึ”ผมพูดกลั้วหัวเราะ
“เออสิวะ ป้ามึงชักธรรมดาที่ไหน เล่นชักปืนมายิง ดีนะโดนแค่ถากๆ สอนวันเดียวความจำและท่วงท่าเป็นเลิศ”ลุงพูดพร้อมทำท่าแหยงไปด้วย ทำให้ผมหัวเราะออกมาได้ แต่ใจคิด กูคงชะตาไม่ต่างจากลุงสักเท่าไหร่ล่ะมั้ง แต่ยังไงผมก็รัก คิดถึงวันที่จะไปรับเบียร์ออกจากที่นั่นแล้วหัวใจมันก็พองโต เรื่องร้ายๆผ่านไปแล้ว นับจากนี้ผมจะพาแต่สิ่งดีๆมาสู่ชีวิตเบียร์
.
.
.
.
“โชคดีนะมึง กูดีใจด้วย”รันตบไหล่เบียร์ ที่กำลังจะออกจากเรือนจำ หลังผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ทุกอย่างก็คลี่คลายไปในทางที่ดี ผมมารับเบียร์ ตอนแรกเตี่ยกับพี่ชายเบียร์จะมาด้วย แต่เตี่ยไปผ่าตัดหัวเข่าเมื่อปีก่อนทำให้เดินไปค่อยสะดวกนัก ผมเลยให้รอที่บ้าน
“ออกไปแล้วก็กลับมาอีกนะ”คนชื่อโจ๊กเอ่ยปาก ทำให้ทุกคนมองหน้า
“สัดโจ๊ก มันไปแล้วมึงจะให้มันกลับมาทำไมว่ะ เยะเป็ด เขามีแต่อวยพรดีๆ”เพื่อนปานตบหัวพร้อมด่าเข้าให้
“ควาย กูหมายถึงให้มาเยี่ยมบ้าง พวกมึงนั่นแหละคิดอกุศล”ด่ากลับพร้อมตบคืน
“เออ กูจะมาเยี่ยมพวกมึงทุกครั้งที่มีโอกาสนะ มีอะไรก็ส่งข่าวหากูบ้าง ยังไงพวกมึงก็เป็นเพื่อนกู”เบียร์พูดพร้อมเดินเข้าไปกอดไหล่ พวกเพื่อน ก่อนจะเดินไปที่บุคคลที่ผมหมั่นไส้ทุกระยะ หึ ทีนี้ กูจะเอาภาพมาโชว์บ้าง
“ขอบใจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างทั้งในนี้และข้างนอก กูจะไม่ลืมมึงเลย เฮีย”เบียร์บอกคนตรงหน้าที่พยักหน้า
“อืม โชคดี”ตบไหล่ มองผมแว่บหนึ่งก็หันกลับ นอกสายตาตลอดกู เอาไว้กูเจอหนูและถ่ายรูปคู่มาอวดดีกว่า หึหึ
“ไอ้เข้ม มึงอย่ารังแกเพื่อนกูนะโว้ย กูบอกไว้ก่อน”หันไปพูดใส่อีกคนที่ยืนข้างหลัง ก่อนจะพูดต่อ”ถ้าดูแล ก็ดูแลดีๆ มึงมีเวลาแค่สามปีที่จะอยู่กับมันนะมึง”
“ไอ้สัด ถามกูสักคำไหมอยากอยู่หรือเปล่า ไม่ต้องเสือกมาดูกูหรอก”รันพูดเชิงด่าเสียงดังเหมือนกลบเกลื่อนบางอย่าง เหล่ไปทางไอ้คนพูดถึง
“กูรู้หรอกน่า ว่าได้แค่ไหน สามปีก็พอแล้ว”ไม่น่าเชื่อ มือปืนระดับพระกาฬจะพูดอ่อนโยนกับเขาก็เป็น ดูแววตาสิไม่มีแววนักฆ่าเลยสักนิด ตามประวัติแท้จริง เข้มเป็นมือปืนรับจ้างฆ่าตามใบสั่ง แต่ไม่เคยมีประวัติข่มขืน ฆ่าผู้หญิง คนแก่ เด็ก น่าจะเป็นคำบอกเล่าให้ดูน่ากลัวมากกว่า
“มันอายโว้ย”
“มันเอาจริงว่ะ”
เสียงแซวเป็นทีเฮฮา ก่อนจะลาจากกันจริงๆสักที เจ้าหน้าที่บอกหมดเวลาก็พากลับเรือนจำ แต่ยังไม่วาย
“นี่ ไม่ต้องส่งรูปหรือกิจกรรมอะไรมาอวดผมหรอกนะ นับจากนี้ผมงดเทคโนโลยีทุกอย่าง หึหึ”ยกยิ้มพูดใส่ ก่อนจะเดินกอดอกจากไปด้วยท่าทีสบายอารมณ์
“มีญาณทิพย์ไงวะ รู้ตลอดกูคิดอะไร ไอ้ เชี่ยะ”ผมด่าออกไปเบาๆ ถ้าไม่เกรงใจกูจะตะโกนให้โลกรู้ ว่า ดร. กวนตีนแค่ไหน
“อะไรกันเหรอ”เบียร์ถามด้วยสีหน้างงๆ
“ไม่มีอะไรหรอก คนมันกวนตีน”ผมบอกกับเบียร์ก่อนจะจับมือให้เดินจากตรงนั้น
“เดินเองก็ได้ อายเขา”เบียร์พูดเบาๆบิดมือออก
“พี่ไม่อาย นับจากนี้พี่จะไม่ปล่อยมือเบียร์อีกแล้ว”ผมบอกพร้อมกระชับยิ่งกว่าเดิม เบียร์หน้าขึ้นสี พูดซะผมหุบยิ้ม
“แม้แต่ตอนขี้น่ะเหรอ ครึครึ”กลั้นหัวเราะ แต่หน้ายังแดง
“ทุกอย่างที่ต้องใช้มือเลยก็ได้ พี่เต็มใจ”ผมยักคิ้วใส่ ก่อนจะฉุดให้เดินเร็วๆ เสียงด่าเบาตามหลังหงุงหงิง ผมอมยิ้ม พอพ้นได้ผมกอดไหล่เบียร์
“อย่าหันกลับไปมองนะ”กระซิบบอกคนข้างๆที่พยักหน้า
“พี่สิบ”เรียกผมแผ่วเบา
“ครับ”ผมขานรับ
“ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกอย่าง”พูดเสียงเครือ ผมลูบหัวก่อนจะกอดปล่อยให้เด็กตัวโตร้องไห้กับบ่า
“พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ ทำให้เบียร์ลำบาก ยกโทษให้พี่นะ”ผมพูดกลับข้างหู
“ยกให้ตั้งนานแล้ว”ผละออกยิ้มบางๆให้ ในที่สุดผมก็นำรอยยิ้มสดใสกลับมาได้อีกครั้ง และจะทำให้มีตลอดไป เรากอดกันอีกครั้งก่อนจะพากันขึ้นรถ เพื่อไปหาคนที่รักที่สุดในชีวิต คนที่รอคอยด้วยความหวังมาตลอด
.
.
.
.
“เตี่ยยยยยย เบียร์กลับมาแล้ว ฮืออออออออ”เสียงเรียกพร้อมเสียงร้องไห้
“ตี๋น้อย ตี๋น้อยของเตี่ย”เตี่ยเรียกลูกชายที่เดินกึ่งวิ่งเข้าไปกอดเอวที่นั่งบนเก้าอี้ โดยมีพี่ชายยืนอยู่ข้างๆ
“เตี่ย เบียร์คิดถึงเตี่ยที่สุดเลย”ตี๋น้อยของเตี่ยร่ำไห้พูดแต่คำว่าคิดถึงไปมา ก่อนจะก้มลงกราบเท้าจูบทั้งสองข้าง เอาหน้าแนบไปมา ผมมองภาพนั้นน้ำตาคลอ เตี่ยดึงตี๋น้อยที่ไม่ว่ากี่ปีก็ยังเป็นตี๋น้อยของเตี่ยเสมอ มากอดลูบหัว จูบแก้ม
“หมดเคราะห์หมดโศก บุญรักษานะตี๋น้อย ต่อไปนี้อย่าให้มีอะไรมาทำร้ายตี๋น้อยของเตี่ยอีกนะ”เตี่ยยิ้มทั้งน้ำตา
“ขอบคุณครับเตี่ย ฮึก เบียร์จะดูแลเตี่ย ไม่ไปไหนอีกแล้ว”เบียร์พูดกับเตี่ยกอดอีกครั้ง ก่อนจะผละไปไหว้เฮีย
“ตี๋น้อย เฮียคิดถึงนะ อย่าไปไหนอีกนะ”เฮียกอดน้องชายด้วยความรัก ก่อนทั้งสามคนจะกอดกันอีกครั้ง ผมกับแฟนพี่ชายเบียร์มองอย่างมีความสุข ก่อนจะพากันไปโต๊ะกินข้าวที่ได้ถูกจัดเตรียมไว้ เตี่ยกับเฮียบอกว่าพรุ่งนี้จะทำบุญรับขวัญเบียร์ขับไล่สิ่งไม่ดี
“ขอบใจนะ สิบ ที่ช่วยน้อง ขอบใจ ลื้อเป็นลูกเขยที่ดีจริงๆว่ะ เตี่ยยกให้ไม่คิดสินสอด ฮ่าๆๆ”เตี่ยอารมณ์ดียกน้ำชาจิบ
“เตี่ย พูดงี้ได้ไง เอาสักนิดเถอะ เป็นพิธี”เสียงลูกชายท้วงให้เรียกบ้าง ทำเอาขำ
“นึกว่าจะท้วงเพราะอาย ที่ไหนได้ งก”พี่ชายแซวบ้าง เป็นที่สนุกสนาน
“ผมคิดไว้อยู่แล้วครับ ถึงผมกับเบียร์จะเป็นผู้ชาย แต่ก็อยากทำให้มันถูกต้อง”ผมออกตัวไม่ใช่เอาหน้า เบียร์เบะปาก ผมเลยจับมือมากุมไว้หยุกหยิกกันไปมา
“เหรอ ทั้งที่ก่อนหน้า ลื้อฟันมันไปแล้วเนี่ยะนะ”เตี่ยพูดออกมาทำเอาเบิ่งตา
“เตี่ยยยย”ตี๋น้อยเรียกเสียงดังด้วยความอาย พี่ชายกับแฟนก็ขำไม่ต่างกัน คู่นี้เขาล่วงหน้าไปหลายปีแล้ว สรุปบ้านเตี่ยไม่ได้ลูกสะใภ้ มีแต่เขย
“อายทำด๋อยอะไร แหมๆๆ”เตี่ยแซวทำเอาหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม ผมก็ยิ้มรับหน้าบาน แซวกันไปมาจนเวลาล่วงเลยเข้าเที่ยงคืน เบียร์พาเตี่ยเข้านอน ผมออกมายืนที่ระเบียงห้องเบียร์ ห้องที่ทำให้เราได้แนบชิด นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาในชีวิตเรา ถ้ามันยังไม่จบมันคงเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน
“คิดอะไรอยู่”เสียงพูดพร้อมแขนที่โอบรอบเอว ทำเอาผมชะงักก่อนจะยิ้มและกระชับมือ
“คิดถึงเบียร์ คิดถึงมากที่สุด คิดถึงพี่บ้างไหม”ผมตอบคนที่เอาหน้าซุกหลัง
“คิดถึงสิ คิดถึงมาก ขนาดโกรธก็ยังคิดถึงทุกวัน”เสียงตอบกลับมาเบาๆ แต่ผมได้ยินเต็มๆ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปจับคนซุกให้เงยหน้า โน้มเข้าไปหาริมฝีปากที่ยิ้ม
“พี่รักเบียร์ รัก รัก”ผมปิดปากที่เผยอจะพูดเอาไว้ก่อนอย่างแสนรัก ปากนุ่มที่ผมไม่ได้สัมผัสมานานอย่างโหยหา คนในอ้อมแขนก็ตอบรับด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน
“รักพี่สิบ รัก พี่สิบ พี่สิบ”เสียงพึมพำเรียกชื่อผมตลอดที่เราแนบชิดกัน ก่อนจะกอดกันไว้นิ่งๆ
“ติดไว้ก่อน เอาไว้หลังจากนี้ พี่จะเอาคืนนะ”ผมกระซิบข้างหูหอมแก้มอีกหลายที ไม่มีเสียงตอบรับมีแต่อ้อมแขนที่รัดแน่นเป็นคำตอบ ผมยิ้มไม่ได้เร่งรัดอะไร อยากให้เบียร์ได้ใช้เวลาอยู่กับเตี่ยอีกสักพัก หลังจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของเรา ผมรอได้ ไม่ว่านานแค่ไหนผมก็จะรอ เพราะผมจะไม่มีวันปล่อยอีกแล้ว
“ครับ รักพี่สิบนะ”เสียงกระซิบและหอมกลับ ก็เพียงพอแล้วสำหรับค่ำคืนนี้ เรากอดและถ่ายทอดความรักให้อีกครั้ง ก่อนผมจะเดินไปส่งเบียร์ที่ห้องเตี่ย จูบหน้าผากอีกที
“ฝันดีนะ”ผมบอกเอามือเปิดประตูให้
“เบียร์ไม่ฝันถึงพี่หรอกนะ”เบียร์บอกผม
“ทำไมล่ะ”ผมถามก่อนจะดึงเอาไว้ เบียร์ยิ้ม
“ก็ พี่เป็นความจริงของเบียร์ ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป”พูดพร้อมจุ๊บปากผมเร็วๆและเข้าห้องทันที ปล่อยให้ผมยืนตะลึงกับการกระทำที่น่ารักที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“ต้องให้ทำบ่อยๆซะแล้ว”ผมหมายมั่นเอาไว้ ก่อนจะเดินกลับห้องเบียร์อย่างสบายอารมณ์ ล้มตัวนอนกับหมอนที่มีกลิ่นของเจ้าของ ผมมานอนกี่ครั้งก็ไม่เคยจาง เป็นครั้งแรกที่ผมนอนหลับอย่างมีความสุข และอีกไม่นานผมจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้ามีเจ้าของห้องที่ผมรักนอนข้างตัวตลอดไป
**********************************************************************************************************************
ปล. จบตอนของคู่นี้แล้วจ้า ส่วนเรื่องเรือนหอและฉากส่งตัว

มีแน่นอนค่ะ เป็นตอนพิเศษ ลงในนี้แน่นอน บอกไว้เลยเดี๋ยวจะหาว่าลำเอียงกับพี่สิบและน้องเบียร์ ไม่น้อยหน้าหรอกค่ะ เดี๋ยวเจอเฮียข่มอีก ฮ่าๆๆๆๆ