‘สุกแล้วครับแม่’
เทียนบอกพร้อมวางลงตรงหน้า ในตอนนั้นผมคิดในใจว่าจริงหรือเปล่า กับที่แม่เล็กบอก
‘ทำไมหยิบมาแต่ไส้เค็มล่ะ เทียน’
แม่เล็กถามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มๆ ไม่ได้แปลกใจ ในวัยนั้นผมคิดว่าใช่นะ ว่ามันคืออาการของแม่เล็ก
‘ก็’
‘ก็อะไรล่ะ หืม แล้วไส้หวานของแม่ล่ะ’
เทียนเงยหน้าดูจะตกใจนิดๆ
‘ขอโทษครับ เดี๋ยวเทียนไปเอามาให้’
‘ไม่เป็นไร แม่ยังไม่หิวหรอก เทียนกลัวคุณชายจะหิวล่ะสินะ ถึงได้เอามาให้ก่อน’
แม่เล็กพูดด้วยรอยยิ้ม ผมมองหน้าเทียนที่สบตาก่อนจะเบือนหนี แต่มือเลื่อนจานเข้ามาให้
‘อันนี้ไม่สวยแต่อร่อยจัง’
ผมหยิบลูกที่ดูเบี้ยวๆ มาเป่าและกัดลงไปบนแป้งเนื้อนุ่ม
‘เทียนปั้นเองเลยนะ คุณชาย ไส้ก็ปรุงเอง’
แม่เล็กพูดกลั้วหัวเราะ ผมตาโต เทียนเม้มปาก แก้มแดงเหมือนไข่เค็มเลย และวันนั้นผมก็ยัดซาลาเปาไส้เค็มเข้าไปหมดทุกลูกไม่ยอมให้ใครกินแม้แต่ลูกเดียว ยกเว้น เทียน ที่ผมให้กินจากลูกเดียวกันทุกลูกจนหมด ผมยิ้มกับวัยเด็กที่อยากจะให้มันเกิดอีกครั้ง
อืม
มือนุ่ม พร้อมเสียงเพลงกล่อม ดังข้างหู นี่แม่เล็กกำลังผมอยู่เหรอ แต่จากสัมผัสและกลิ่นกายที่คุ้นเคยมันไม่ใช่ ทำไมมันถึงได้นุ่มนวลอ่อนโยนเหลือเกิน
“เกเร”
“ไอ้ปีศาจ”
“ทำไม ไม่เข้าใจอะไรเลย”
เสียงพูดแผ่วเบา มือนุ่มลูบใบหน้า ผมคว้ามากอดแนบหน้ากับความอบอุ่นที่โอบกอด
“เทียน”
“หืม”
“เทียน”
“รักเทียน”
“อย่าทิ้งฉัน”
“อย่าไปกับมัน”
“เรามีกันแค่สองคน เทียน”
“ฉันรักเทียน รักเทียน”
เสียงหัวเราะในลำคอ มือลูบหัวเบาๆ พร้อมลมหายใจรดหน้าผาก ทำเอาเป็นฝันกลางวันที่ดีเหลือเกิน
.
.
.
.
ผมนั่งคิดถึงเมื่อวาน ทบทวนตั้งแต่กลับมา ลับฝีปากกับไอ้ฟง เดินไปบ้านเล็ก และ นอนลงฝันถึงวัยเด็ก ต่อจากนั้นก็เคลิ้มหลับไป แต่ทำไมสัมผัสมันเหมือนจริงมาก ตื่นมาเห็นเทียนนั่งอยู่ตรงข้าม แต่สายตามองแต่รูปถ่ายแม่เล็ก สีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหันมาสบตากัน และเดินออกไปเงียบๆ ผมเดินตามกลับไปตึกใหญ่ คิดว่าจะขอโทษไอ้ฟงมันที่พูดไม่ดี แต่มันกลับไม่อยู่แล้ว เหลือแต่เทียนกับผมที่โต๊ะกินข้าว เราไม่ได้พูดอะไรกันแต่รู้สึกบรรยากาศดี เทียนไม่ได้หน้าบึ้งหรือพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั้งแยกย้ายกันพักผ่อน ผมดึงแขนเทียนให้เข้าห้องตัวเอง เทียนไม่ขัดขืนเดินตาม และทุกอย่างก็เป็นเหมือนทุกครั้ง ถ้าสังเกตจะเห็นปากผมเจ่อเพราะถูกตบ เมื่อเผลอไปบอกว่าช่วยมอบความอบอุ่นให้เฟยไม่น้อยด้วยปากให้หน่อย
“กิจการตอนนี้ ได้กลับมาหมดแล้วครับคุณชาย”เสียงทนายประจำตระกูลรายงาน ทุกอย่างให้ทราบ
“หุ้นส่วนที่เหลืออยู่ ก็ยังภักดีไม่คิดจะถอนออกไปครับ”ยังรายงานต่อ แต่เหมือนไม่เข้าหูผมสักนิด หลุบตามองมือเรียวที่เปิดเอกสารตรวจอยู่ เทียนอยู่ในชุดลำลองเสื้อคอจีนแขนยาวสีขาว กางเกงเข้ารูปสีดำรับขาเรียวยาว
“เพิ่มหุ้นพวกเขาให้สมกับที่เขาเชื่อใจเรา ดีไหม”เทียนออกปากถาม เหลือบตามองผม
“ตามใจ จัดการอะไรก็ทำเถอะ”ผมพยักหน้า แทนที่วันนี้จะได้มีเวลาพัก เทียนกลับเรียกทนายและหุ้นส่วนมาคุยเรื่องงาน บอกว่าจะได้เรียบร้อยไปเป็นอย่างๆ และอีกไม่กี่วันจะจัดงานจะได้ราบรื่นไม่ค้างคา
“เอ้อ แล้วเรื่องแต่งงานล่ะครับ คุณชาย”ทนายพูดถึงเรื่องที่ไม่ควรจะพูดขึ้นมาอีก
“ไม่แต่ง หมดธุระแล้วใช่ไหม ฉันอยากพัก”ผมตอบพร้อมเอ่ยปากไล่ เทียนพยักหน้าให้ออกไปก่อน
“คุณหลี่ เขาก็พูดถูก ตอนนี้เหลือเราแค่สองคน ถ้าหมดเราก็ไม่มีทายาทแล้ว”เทียนพูดออกมาหลังจากประตูห้องทำงานปิดลงแล้ว ผมเอนตัวพิงพนัง
“โอ้ย แก่จะตายห่าแล้ว ยังจะมาแต่งงานอะไรกันอีก”ผมโพล่งออกไปอย่างรำคาญกับเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ให้เป็นเรื่องขึ้นมา ก่อนจะอึ้งเมื่อคุณชายน้ำแข็งโพล่งออกมาบ้าง
“ในเมื่อแก่จะตายห่า ก็ควรจะเลิกเรื่องบนเตียงไปซะด้วยสิ”“เฮ้ย ไม่เกี่ยว เรื่องนั้นมันช่วยให้อายุยืนยาว แต่สำหรับฉันต้องกับนายเท่านั้น”ผมแย้งออกไปทันทีพร้อมดักคออีกฝ่าย ที่เงียบไปอีกครั้งเอนหลังเอามือกอดอกบ้าง
“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ มันไม่ได้สำคัญอะไรหรอก อีกหน่อยเราก็จากไป เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้ คนที่อยู่ต่อดีๆก็มี เอาไว้เราก็เล็งไว้หาคนสืบต่อก็ได้”ผมเดินไปกอดไหล่คนหน้านิ่ง
“ฉันรู้ ไม่ได้งกสมบัติ แต่ป๊ากับบรรพบุรุษร่วมกันสร้างมา ก็อยากจะให้ทายาทได้สืบต่อ ทำไมไม่คิดถึงพวกท่านบ้าง ถ้านายไม่แต่ง ฉันแต่งเองก็ได้”เทียนพูดเสียงเรียบแต่ทำให้ผมเสียงดังได้
“ไม่ให้แต่งโว้ย นายลองแต่งสิ ฉันจะอาละวาดให้ดู ผู้หญิงฉันก็ทำได้”ผมรวบตัวมากอดหลังจากพูดเสร็จ
“หัดมีเหตุผลบ้าง”พูดพร้อมหลังมือ แต่คนอย่างผมมันทานทนแล้ว
“ไม่จำเป็น อีกอย่าง”ผมตอบก่อนจะหรี่ตาใส่ อีกฝ่ายมองว่าจะพูดอะไร
“นายทำเป็นเหรอ ถ้าแต่งไปน่ะ”เพี้ยะ
ผลั่วะ
“เทียน เบา เบา”
ผมจับมือเทียนที่ตบ อีกข้างก็สันแฟ้ม ก่อนจะมีเสียงขัดความสุขสมทางการเจ็บตัวของผมอยู่ อีกนิดจะได้หาเรื่องปล้ำคนในห้องทำงานอยู่แล้ว คิดมานานแล้วแต่ไม่เคยได้สักที
ก๊อก
ก๊อก
“เชิญ”
เสียงเทียนพูดอนุญาต ประตูเปิดออกเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ไม่คุ้นหน้าถือแฟ้มเอกสารเดินเข้ามา
“นายเป็นใคร”ผมถามทันที เมื่ออีกฝ่ายก้มหัวให้
“ผมเป็นผู้ช่วยคุณเกาครับ นี่ครับประวัติ”เขาวางเอกสารบนโต๊ะ ผมเปิดดู
“เกาไปไหน”ผมถามรู้สึกไม่ชอบมาพากลแปลกๆ หันไปสบตากับเทียน
“คุณเกาป่วยครับ เลยให้ผมเอางานมาส่งแทน”เขารายงานด้วยน้ำเสียงปกติไม่มีติดขัด เทียนกดมือถือหาใครสักคน คงเป็น ไป่ให้ตรวจสอบ สักพักก่อนจะพยักหน้าว่า เกาป่วยจริง ให้คนชื่อหยวนอี้มาส่งเอกสารให้แทน และขณะที่เทียนก้มดูมือถือที่ดังอีกครั้ง
“อึก”ผมร้องออกมาเมื่อถูกแทงด้วยของแหลมอย่างเร็ว แต่ดีว่าระวังตัวเลยโดนใต้ราวนม ผมจับก่อนจะผลักออก
“เฟย”เทียนเรียกเสียงดัง ขว้างที่เขี่ยบุหรี่โดนหัวไอ้คนแทง แต่มันแค่หัวแตก หันกลับไปปะทะกับเทียนที่เตะกลางลำตัว พร้อมเอี้ยวตัวหลบปากกาปลายแหลมไปด้วย
“เทียน หลบไป”ผมบอกเทียนก่อนจะกระโจนเข้าถีบกลางหลัง หันไปเห็นแสงวูบวาบจากตึกอีกฟาก พุ่งเข้าไปรวบตัวเทียนให้หมอบลง
ปรุ
ปรุ
ปรุ
เพล้ง
เพล้ง
เสียงปืนพร้อมกระจกแตกกระจาย ไอ้นั่นสไลด์ตัวเข้ามาอย่างเร็ว ผมผลักเทียนออกรับเข้าไปอีกดอกที่มือ แต่กัดฟันดันกลับ ยิ่งทำให้แผลลึกลงไปอีก
“หึ ตายซะ ให้สมกับที่แกฆ่าพ่อฉัน”มันแสยะยิ้มพร้อมกดย้ำทำให้เลือดออก
“มึงเป็นใคร”ผมถามพร้อมต่อยมัน มองเทียนที่พยายามจะเข้ามา แต่ลูกปืนก็เล็งมาอีก
“ลูกคนที่มึงฆ่าตายไง ไอ้เฟย มึงฆ่าพ่อกู ทำให้ครอบครัวต้องถูกจับ เพราะพวกมึง”มันพูดอย่างอาฆาต แววตาและสีหน้าทำให้ผมนึกออก
“ลูกไอ้กวง ไอ้คนขายชาติ”ผมแสยะยิ้มว่ามัน ก่อนจะหักข้อมือ ทำให้ปากกาปลายแหลมหลุดมือ มันถีบผมออก พอดีกับที่ประตูเปิด
“หลบ”ผมร้องบอก ให้หลบลูกปืนที่ยังสาดเข้ามา เทียนสั่งการให้ไปหาทิศทางปืนพร้อมแจ้งตำรวจ ไอ้หยวนอี้เห็นท่าไม่ดี ขว้างมีดมาแต่ผมหลบทัน พุ่งเข้ามาใส่อีก มันเกือบทำสำเร็จแล้วที่จะฆ่าผม แต่ต้องหงายหลังเมื่อเทียนหยิบมีดมาขว้างกลับโดนหน้าขามันพอดี เสียงปืนเงียบไปพร้อมโทรรายงาน
“ไม่เป็นไร รีบขึ้นมา”เทียนบอกก่อนจะกดวาง เดินเข้าไปไอ้คนที่ยังกัดฟันลุก เทียนกดมีดซ้ำลงไป ทำเอามันร้องออกมา
“แกทำเขา”เสียงเทียนพูดรอดไรฟัน ก่อนจะดึงมือมันออกมาวาง
“อ๊าคคคคคคคคค”มันร้องครวญครางเมื่อเทียนหยิบปากกาปลายแหลมเสียบลงไปกลางฝ่ามือจนทะลุ
“นาย เป็นอะไรหรือเปล่า”ไอ้ไป่โผล่เข้ามาพร้อมถาม ตามด้วยไอ้ย้ง ไอ้ทวน
“เอามันไปส่งตำรวจ”เทียนสั่ง พวกมันมองหน้า ที่ไม่สั่งให้เก็บไอ้คนอวดดีที่กล้ามาเหยียบถึงจมูก
”ฉันไม่ต้องการสร้างความแค้นอีก แต่ถ้าแกไม่จบ คราวหน้าฉันจะจบให้เอง จะฆ่าไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว”เทียนพูดกับมันเสียงเยียบเย็น สีหน้าแววตาบอกว่าเอาจริง ไอ้ไป่พยักหน้าให้การด์เอาตัวออกไป เทียนตรงมาหาผมหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเลือดที่แผลตรงใต้ราวนมที่เลือดยังออกอยู่ ฉีกเสื้อตัวเองมัดแผลที่ฝ่ามือ
“เจ็บไหม หมอกำลังมา”เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเทียนมีสีหน้าร้อนรนเหมือนจะร้องไห้ แม้จะแค่น้อยนิดแต่ผมก็สัมผัสได้
“ไม่ นายไม่เป็นไรฉันก็ดีใจ”ผมยิ้มให้เทียนเอามือข้างที่ไม่เปรอะลูบแก้ม
“หมอมาหรือยัง ทำอะไรอยู่ อยากโดนไล่ออกกันใช่ไหม”เทียนหันไปถามเสียงดัง
“กำลังมา”ไอ้ทวนเอ่ยปาก
“มาเดี๋ยวนี้ ฉันให้อีกครึ่งนาที”เทียนตวาดแทรกกลาง พอกับที่ประตูเปิดออก ไอ้ย้งนำหมอกับพยาบาลเข้ามา พวกเขาประจำอยู่ที่นี่
“เร็วๆ”เทียนเร่งอีก หมอกับพยาบาลอีกสองคนรีบทันที
“เทียน ฉันไม่เป็นไร”ผมบอกเทียนให้ใจเย็น ปกติแค่เทียนไม่พูดก็ลนลาน ยิ่งเพิ่มเสียงดังยิ่งสั่นกันไปหมด
“นายต้องไม่เป็นอะไร ฉันไม่ยอม”เทียนพูดออกมา บีบมือผมจับตัวให้เอนพิงอก
“ทำถนัดใช่ไหม”เทียนถามหมอเสียงเรียบ
“ครับ”หมอพยักหน้า
“เขาจะเจ็บถ้าฉันไม่อยู่ด้วย”เทียนพูดออกไป มือลูบหัวผม จูบขมับ บีบมือข้างไม่เจ็บ เหมือนตอนเด็กที่ผมถูกเย็บแผลแบบสด เทียนก็อยู่ข้างๆ
‘เทียน อย่าปล่อยนะ ฉันเจ็บ ถ้านายอยู่ด้วยฉันจะไม่เจ็บ’ผมเคยบอกเทียน ไม่คิดว่าจะจำได้ ผมยิ้ม และมันก็ไม่เจ็บจริงๆ แค่มีเทียนกอดผมอยู่
.
.
.
.
“คิดดีแล้วเหรอ”เสียงคุ้นเคยแต่ไม่ชอบขี้หน้า
“อืม”เสียงคุ้นเคยชอบทั้งเสียงทั้งหน้า และทั้งหมด
ผมปรือตาขึ้นหาต้นตอเสียง เห็นคนทั้งคู่คุยอยู่ในระยะไม่ไกลนัก
“เทียน มันผิดนะ”เสียงเรียกอย่างอ่อนอกอ่อนใจ คัดค้านเอามือจับไหล่
“มันผิดมานานแล้ว”เสียงพูดเนิบนาบ สายตาเบือนไปอีกทาง
“นายก็รู้นี่ เลิกซะเถอะ ฉันรักนายนะ รักมานานแล้วด้วย”ผมยิ้มมุมปาก อยากจะลุกไปตั้นหน้าที่บังอาจมาสั่งและบอกรักคนของผม แต่บางอย่างในความคิดบอกให้ผมนอนฟัง ลองดูสิว่าคนของผมจะพูดและจัดการยังไง
“ฉันเคยบอกนายไปแล้วนี่ เราไปอยู่เมืองนอกก็ได้ ที่นั่นเสรีภาพ ไม่มีใครรู้จักและยุ่งกับเรา”พยายามโน้มน้าวด้วยเหตุผลและอ้อนวอนทางสีหน้า แต่อีกฝ่ายหน้านิ่งตายเดิม
“นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก ฟง”เทียนเอ่ยก่อนจะจับมือออกจากไหล่ เดินไปนั่งที่เก้าอี้
“แล้วอะไรล่ะคือปัญหาของนาย บอกฉันได้ไหม”ยังไม่เลิกที่จะหาเหตุผล
“ฉันทิ้งเฟยไม่ได้”ตอบอีกสิเทียน ตอบออกมาให้หมด มันไม่ใช่แค่นี้
“ไม่ได้บอกให้ทิ้ง ยังไงเฟยก็เป็นน้อง แต่นายต้องยุติความสัมพันธ์ที่เกินเลย พูดกับเขา ถ้าเขาไม่ฟังนายก็ห่างจากเขาสักพักก็ได้ หรือถ้าเขารักนายจริง ก็ต้องปล่อยนายจากความสัมพันธ์แบบนี้ มันบาป และผิดต่อพ่อแม่นายมากนะ”กุมมือพูดแนะนำเอาป๊ากับม๊ามาอ้าง
“เรามีกันแค่สองคนในตอนนี้ ฉันกับเฟย และก็จะมีตลอดไป”เทียนหันไปบอกอีกฝ่าย
“นายหมายความว่ายังไง”ขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ
“ถ้ามันจะผิดและบาป ฉันก็จะรับเอาไว้ ในเมื่อฉันไม่เคยคิดจะหยุดมันอย่างจริงจังสักครั้ง”เทียนยกยิ้มในขณะที่พูด ทำเอาทั้งผมและไอ้คนที่ฟังอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยิน
“ฉันหนีความจริงมาตลอด ความจริงที่ฉันคงบอกนายไม่ได้ นอกจากเขาเท่านั้น”เทียนล่ะสายตามองมาทางผมที่จะหลับคงไม่ทันแล้ว แต่เทียนไม่ได้ตกใจ กลับลุกเดินตรงมาที่เตียง นั่งลงข้างๆ
“ถามฉันสิ ถามในสิ่งที่นายอยากรู้”เทียนโน้มตัวมาพูดใกล้ๆ ผมลืมตาขึ้น มองหน้าเทียน ขยับปากถาม
“ถ้าไม่มีฉัน นายจะอยู่ได้ไหม”ผมถามออกไป ตาก็สบกันโดยไม่สนใจบุคคลที่สาม เทียนยิ้ม โน้มตัวมาจูบหน้าผาก
“ฟังนะ ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว และอย่าถามอีก”เทียนเอามือลูบหัว ไล่มาประคองใบหน้าผม
“ฉันอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีนาย ฉันรักเฟย”มันเกินความคาดหมายมากกับคำตอบ ผมจ้องตาเทียนไม่กระพริบจนจบประโยค ผมกลัวมันแค่ความฝัน จนกระทั่งเทียนจูบปากผม ทำเอากระพริบตา แต่ยังได้ยินเสียงประตูปิดลง พอผละออก ผมก็ยังคิดว่ามันฝันใช่ไหม จนกระทั่งมือเรียวง้างขึ้น ผมดึงเข้ามากอดทันที
“รู้แล้ว รู้แล้ว”ผมบอกกับอกที่มีเสียงหัวใจเต้นอยู่ กอดอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งมือที่ง้างลูบแผ่นหลังผมไปมา อยากฟังอีกแต่เทียนพูดว่าจะพูดแค่ครั้งเดียว ถ้างั้น อีกยี่สิบปี ผมจะถามใหม่ เผื่อเทียนจะลืมไปแล้วว่าเคยพูดไปแล้ว
.
.
.
.
เสียงประทัด กลิ่นธูป เทียน ดอกไม้ อาหารและผลไม้มงคล ถูกตั้งวางเรียงรายเป็นแถวยาว ถูกแบ่งจ่ายให้กับคนในบ้าน รวมถึงชาวบ้านที่อยู่ใกล้ หลังเสร็จพิธีไหว้บรรพบุรุษ ผมจูงมือเทียนเข้ามาในบ้าน ตรงขึ้นไปห้องใหญ่ ปิดประตู คุกเข่าลงตรงหน้าภาพถ่ายบุคคลสำคัญสามคน
“ป๊า ม๊า แม่เล็ก ผมขอโทษกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมเป็นลูกอกตัญญู แต่ผมรักเทียน รักอย่างที่คนรักมีให้ ผมสัญญาจะดูแลเทียนจนกว่าจะหมดลมหายใจ และถ้าจะลงโทษขอให้ลงที่ผมคนเดียว”ผมพูดจบยังไม่ทันคำนับ เทียนจับมือ
“ป๊า ม๊า ขอโทษที่อกตัญญู ถ้าจะลงโทษเฟย ผมขอรับไว้ด้วย ผมจะอยู่กับเฟย เราจะดูแลกันและกัน จนกว่าจะหมดลมหายใจ”พูดจบเราก็คำนับ
“ป๊า ม๊า แม่เล็ก ต้องยอมรับเราแน่นอน พวกท่านรักเรา”ผมจับมือเทียน หลังออกจากห้องนั้นแล้ว เทียนพยักหน้าบีบมือกลับ เรากินอาหารร่วมกันเป็นครั้งแรกด้วยรอยยิ้ม ยิ้มอย่างเป็นสุขกับความจริงที่เกิดขึ้นสักที
.
.
.
“พามาทำไม”เทียนขืนมือผมที่พาเดินเข้ามาในห้องตอนยังไม่มืดมากนัก
“เออน่า ไม่ปล้ำตอนนี้หรอก”ผมยิ้มกริ่ม เทียนมองอย่างไม่ไว้ใจ ผมพาเทียนไปนั่งบนตั่งที่แกะเป็นลายมังกรกับหงส์ เทียนขมวดคิ้ว ผมเอาผ้าสีแดงคลี่ออกคลุมหัวเทียนที่นั่งนิ่ง ผมคุกเข่าลงตรงหน้า
“ทำอะไร”เทียนถามแต่ไม่ได้ขัดการกระทำ ผมจูบเทียนผ่านผ้า กุมมือจูบแผ่วเบา ทรุดตัวลง
“เฟย”เทียนเรียกเสียงเบา เมื่อผมจูบเท้าทั้งสองข้าง
“รับฉันเป็นคู่ชีวิตไหม”ผมถามเทียน ที่ดูยังอึ้งอยู่ ก่อนจะคลี่ยิ้ม
“รับ”
เที่ยนเอ่ยออกมา พร้อมดึงผมขึ้นไปนั่งคู่
“ฉันจะเป็นคู่ชีวิตของนาย”
“ฉันจะรักนายไปจนตาย”
จบคำพูด เทียนเป็นฝ่ายปิดปากผมก่อน จูบเคล้าคลึงด้วยความหอมหวาน เบียดตัวเข้าหา คืนนี้เราสองคนคงไม่ได้จบบทรักแค่การจูบ แต่มันคือการเริ่มต้นบทรักบทต่อไป ที่ไม่ว่าจะกี่ครั้ง กี่ปี ผมก็จดจำได้แค่เทียนคนเดียว
.
.
.
.
แสงแดดอ่อนยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านสีแดงผ่านใหญ่ ผมลืมตามองคนในอ้อมแขนที่ตื่นอยู่แล้ว
“อรุณสวัสดิ์ เฟย”
เสียงเนิบนาบ เรียบ แต่สีหน้าอ่อนโยน สัมผัสอ่อนหวานที่ริมฝีปาก
“อรุณสวัสดิ์ เทียน”
ซุกเข้าหาอ้อมแขนอย่างออดอ้อน ไม่ใช่กิริยาที่ไม่รู้ตัวอีกแล้ว ผมกอดกระชับพลางคิดว่า
อืม
เทียนเริ่มเป็นขี้ผึ้งบ้างแล้ว ค่อยประเลาะอีกนิด เทียนก็จะชอบในสิ่งที่ผมชอบ
‘แม่เล็ก เทียนชอบกินอะไร’
‘เหมือนคุณชาย’
ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อรู้ว่าเทียนชอบเหมือนผม
ผมชอบกินเทียน
อีกไม่นาน
เทียนก็จะชอบกินเฟย
หึหึ
กินเทียน กินเฟย ในความคิดของผมช่างหอมหวานซะเหลือเกิน
ปึก
“อุ๊บ อะไร เทียน”
ผมถามเสียงเบา เนื่องจากจุกเสียดหลังโดนเข่าเทียนเสยเฟยไม่น้อย
“นายยิ้มแปลกๆ ดูชั่วมาก”
เทียนพูดก่อนจะลากผ้าคลุมตัวเดินเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้ผมนอนตัวงอกุมของตัวเอง
“ไม่รอแม่งแล้ว คืนนี้จะยัดปากให้ดู เทียน”
*******************************************************************************************************
ปล. เคลียร์จบไปอีกคู่ นานๆเขาจะกินกันดีๆ ปล่อยให้นายเฟยเขาฟุ้งซ่านเรื่องกินและคิดแผนยัดปากนายเทียนต่อไป ฮ่าๆๆๆๆ ส่วนตอนหน้า คู่สุดท้าย จะคู่กัน มั้ง หุหุ o18และจะปิดท้ายด้วยคู่หลัก เป็นการจบการปล้นกันแล้ว และมีตอนพิเศษให้แน่นอน ไม่รู้ยังจะอ่านกันอยู่ไหม ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจที่ยังคอยติดตามกันเสมอ ขอบคุณค่ะ

และก็

ต่อไป สุมหัวเข้าไปกองงาน