“หนูจะรอ”ผมพูดจบก็ถูกเก็บเสียงด้วยปากเฮียและอ้อมแขนที่อบอุ่น หมดเวลาแล้วเสียงสัญญาณเตือนบอก ผมเม้มปากหยิบบางอย่างออกมาสวม ผมไม่อยากให้เฮียเห็นว่าผมอ่อนแอ ทั้งที่ผมบอกตัวเองแล้วว่าจะเข้มแข็ง จะไม่ร้องไห้ เมื่อได้เจอเฮีย เฮียมองผมที่ถูกบดบังด้วยแว่นสีดำเอาไว้ครึ่งหน้า
“แดดมันแรง เฮียระวังจะเป็นไข้นะ นี่หนูต้องใส่ไว้ มันแสบตา”ผมบอกเฮียด้วยรอยยิ้ม
“ครับ เฮียจะระวัง หนูก็อย่าไปตากแดดมากนะ”เฮียยิ้มรับ ผมพยักหน้า
“เฮียกินข้าวด้วยนะ”ผมลูบหน้าเฮีย
“ครับ หนูก็กินด้วยนะ”เฮียลูบหน้าผมบ้าง
“อืม แล้ว แล้ว อย่าไปมองใครนะ หนูรู้นะว่าต้องมีบ้างแหละ”ผมกำชับเฮียในเรื่องที่ไม่รู้คิดได้ยังไง
“เฮียมีหนูคนเดียว สัญญา”เฮียจูบมือผม
“ฮึก ฮึก คิดถึงหนูคนเดียวนะ คิดถึงมากๆด้วย”ผมกำชับเฮียอีกเรื่อง หน้าผากเราแนบกัน
“แน่นอน และรักคนเดียวด้วย เฮียรักหนู”เฮียประคองหน้าจูบซับน้ำตาที่ไหลลอดแว่นออกมา รู้งี้กูใส่หน้ากากซะก็ดี เฮียจะได้ไม่รู้ ผมกอดเฮียอีกครั้ง
“หนู หนูรักเฮีย ฮืออออออออ หนูอดไม่ได้ ฮืออออออออออออ”ในที่สุดผมก็ปล่อยโฮอย่างไม่อาย เฮียลูบหลังโยกไปมา
“ครับ ครับ เฮียรู้ ไม่เป็นไร”เฮียพูดอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ผมร้องจนหายสะอึกสะอื้น ผมผละออก เฮียจูบอีกครั้ง หอมแก้ม จนได้ยินเสียงคนเดินมา ผมหันไปมอง
“ไอ้รัน พี่ปาน พี่โจ๊ก”ผมเรียกทั้งสามคนที่ยิ้มให้ ไอ้รันมานั่งใกล้ๆ
“สบายดีไหมวะ หืม ไอ้หนู”มันโยกหัวผม ผมพยักหน้าก่อนเฮียจะปล่อย ผมกอดมัน
“มึงล่ะ เป็นไงบ้าง”ผมถามมัน ผละออก
“สบายดี ขอบใจนะที่ยังไม่ลืมกู”มันยิ้มให้ผม
“จะลืมได้ยังไง เพื่อนทั้งคน”ผมบอกมันที่ยิ้มกว้าง กอดกันอีกครั้ง พี่สองคนก็จับหัวจับไหล่
“ขี้แงนะมึง เดี๋ยวไอ้เฮียมันก็แหกคุกไปหาหรอก”พี่ปานพูดแซว
“อดทนหน่อยโว้ย ทีมือกับตีน ยังทนได้เลย”พี่โจ๊กพูดขำๆ ผมหันไปหยิบถุงส่งให้ไอ้รัน
“กูเอามาฝากมึง แล้วก็พี่สองคนด้วย”ผมบอกทั้งสามคน ที่พยักหน้ารับ ขอบอกขอบใจ
“ดูแลตัวเองกันดีๆนะ เอาไว้เจอกันข้างนอก”ผมบอกทั้งสามคนที่จะเดินไปก่อน
“โอ้ย มึงไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้รันเขาได้คนดูแลดีแล้ว ครึครึ”พี่ปานปิดปากหัวเราะ
“ไอ้สัด มึงหยุดเลย”ไอ้รันหันไปด่า
“ทำอาย ทำอาย สอนหนังสือ นอนใกล้กันทุกวัน ต้องมีบ้างล่ะวะ ให้โอกาสมันเถอะ มึงอ่อยมันซะขนาดนั้น สงสารไอ้เข้มมัน อุตส่าห์มีความหวัง ฮ่าๆๆๆๆ”พี่โจ๊กพูดก่อนจะวิ่งหนีพร้อมพี่ปาน
“ไอ้เหี้ยยยย มึงอย่าไปฟังมัน แม่ง กูไปนะ”ไอ้รันด่าก่อนจะลาและวิ่งตามสองคนนั้นไป ผมยังงงๆอยู่ว่าอะไร จับใจความได้แค่ ไอ้เข้มนอนกับไอ้รัน ห๊ะ
“ไอ้รันกับไอ้เข้ม จริงเหรอเฮีย”ผมหันไปถามเฮียถึงเรื่องที่คาดไม่ถึง
“ไม่รู้สิ อย่าไปสนใจเรื่องมันเลย อีกหน่อยก็รู้เอง”เฮียบอกก่อนจะดึงผมไปกอดให้เลิกสนใจเรื่องคนอื่น สนแต่เรื่องเราก็พอ จนได้เวลาจริงๆสักที เรากลับมายืนที่เดิม เคนกลับมาแล้ว
“ดูแลให้ดี รู้ใช่ไหมถ้าเขาเป็นอะไร ผมเอาเรื่องคุณแน่”เฮียกำชับพี่เคนอีกครั้ง
“ผมทราบครับ คุณจะได้เจอเขาแน่นอนวันที่ออกมา”พี่เคนยืนยันกับเฮีย
“เฮียไปนะ รอเฮียที่บ้าน”เฮียบอกอีกครั้ง นับจากวันนี้ ผมจะไม่ได้มาหาเฮียอีกแล้ว ต้องรออย่างเดียว
“หนูจะรอ เฮียสัญญาแล้วนะ”ผมบอกและทวงสัญญา
“เฮียสัญญา”เฮียยิ้มก่อนจะหันหลังเดินกลับไป ไม่หันมามองอีก ผมมองเฮียจนประตูปิดลง พี่เคนแตะแขนให้กลับกันได้แล้ว ผมจะกลับไปรอเฮียที่บ้าน ผมเชื่อว่าเฮียต้องมาหาผมแน่นอน
.
.
.
.
“นัดวันนี้เหรอวะไอ้หนู”พ่อส่งเสียงถามผมที่กำลังคุมคนงานลำเลียงผลไม้จากสวน เตรียมส่งรถที่จะมารับ ปีนี้ผลผลิตดี ผลไม้ได้ตามที่ต้องการ
“ใช่พ่อ เอาไว้ตรงนี้เลยพี่ เข่งใหญ่ไว้หน้าๆ หน่อยจะได้ขนขึ้นก่อน”ผมตอบพ่อก่อนจะหันไปบอกคนงาน มือก็จดรายการไปด้วย จนเรียบร้อยรอคนมารับ ผมถอดหมวกปีกกว้างออกมาโบกไล่เหงื่อ
“เอ้า กินน้ำก่อน”พ่อส่งขันน้ำเย็น ใส่หยดอุทัยทิพย์ด้วย ผมรับมาดื่มก่อนจะวางลง
“ชื่นใจหน่อย แล้ววันนี้ลุงฉัตรไม่มารับไปไหนเหรอ”ผมทำท่า ก่อนจะถามพ่อ
“ทำไมมันต้องมาทุกวัน งานการมันก็มีทำ”พ่อหันมาพูดใส่ พักนี้ถ้าว่างลุงฉัตรจะมารับพ่อไปโน่นไปนี่ตลอด แรกๆพ่อก็รำคาญ พอสักพักเหมือนจะติดใจ ไม่รู้พาไปทำอะไรกัน ผมก็ไม่อยากคิดลึกมันบาป หุหุ แต่ผมรู้ว่าไม่ใช่เรื่องอย่างว่าหรอก ลุงฉัตรบอกว่า ในบั้นปลายได้มีเพื่อนไว้คุยไว้ช่วยคิดก็พอแล้ว พูดเหมือนพ่อเลย แต่ลุงบุญกับลุงเริงก็เพื่อนนะ ไม่เห็นมาหาพ่อบ่อยเหมือนลุงฉัตรเลย แวะมาคุยแป๊บๆก็กลับ
“แนะ ถามดีๆพาลซะงั้น ครึครึ”ผมหยอกพ่อ ก่อนจะหลบมะเหงก
“กูพาลตรงไหน กูตอบตามที่มึงถาม อย่ามากวนตีนกูนะมึง ไอ้หนู”พ่อทำเสียงใส่
“จ้า จ้า ไม่กวนและ เฮ้อ วัยทองริเริ่มจิ้น ก็อย่างนี้แหละ ฮ่าๆๆๆๆ”พูดเสร็จก็วิ่งหนีรองเท้าแตะที่ลอยมา
“จิ้นจวยมึงสิ มึงกลับมานี่เลย ไอ้หนู ไอ้ลูกไม่รักดี ขอ ขอให้มึงโดนผัวทิ้ง”พ่อยังวิ่งตามมาสาปแซ่งผมอีก และดูวาจาคุณนก ไอ้เราก็ยิ่งหวาดระแวงอยู่ พักหลังนี่จดหมายไม่มี โทรก็ไม่โทร เฮ้อ นี่ก็สองปีกว่าแล้ว ทำไมมันนานจังวะ
“เฮ้ย ไอ้หนู กูพูดเล่น มึงอย่าทำหน้าเหมือนผัวทิ้งไปจริงๆสิวะ”พ่อเอามือสะกิดไหล่
“นี่ปลอบใจหรือซ้ำเติม คุณนก เอาสักอย่าง”ผมหันไปกอดพ่อ หอมแก้มแก้เหนื่อยไปสองฟอด ถ้าไม่มีพ่อผมคงไม่มีกำลังใจ
“ปลอบใจสิ มึงลูกกูนะ น่า ไอ้เฮียมันไม่ทิ้งมึงหรอก ถ้ามันทิ้ง มันเจอกูแน่ ฟันลูกกูแล้วไม่รับผิดชอบได้ไง”พ่อกอดพูดสีหน้าเอาเรื่องจริงจังมาก จนผมหลุดขำ ก่อนจะได้ยินเสียงรถ
“สงสัยมากันแล้ว”ผมบอกพ่อก่อนจะเดินไปดู มีรถหกล้อกับรถฟอร์จูนเนอร์ขับมาจอดในบ้าน ชายหนุ่มสูงโปร่ง หน้าตาดี ลงมาจากรถเดินตรงมาทางผมกับพ่อ
“สวัสดีครับ ลุงนก น้องหนู”คนจากรถทักทายอย่างคุ้นเคย แต่กูจะเกลียดตรงเรียกน้องนำหน้านี่แหละ
“เออๆ ไหว้พระเถอะ พ่อเกริก มาคุมเองเลยนะ”พ่อผมรับไหว้และทักทาย ผมยกมือไหว้
“ครับ ผมจะขอชมสวนด้วย คงไม่ว่านะครับ อ้อ ของฝากครับ”รับคำยื่นของฝากส่งให้ พ่อพยักหน้าให้รับเมื่อเห็นผมยืนเฉย
“ไม่ว่าหรอก ตามสบาย อ้อ ขอบใจนะสำหรับของฝาก มึงขอบคุณพี่เขามั่งสิ”พ่อยิ้มหันมาบอกผม
“เออ ครับ คราวหน้าไม่ต้องก็ได้ เกรงใจ”ผมยกยิ้มบอกเขา
“ไม่เป็นไร พี่เห็นแล้วก็อยากซื้อมาฝาก น้องหนู”เขาบอกด้วยรอยยิ้ม ผมหันไปมองพ่อที่เอามือปิดปากกลั้นหัวเราะ อย่างรู้ว่าผมถูกผู้ชายคนนี้จีบอยู่ ไม่ใช่ผมไม่รู้ เขาเป็นเจ้าของโรงงานผลิตอาหารแปรรูป ส่งออกทั้งในและนอกประเทศ เขารับซื้อผลไม้ในหมู่บ้านผม ให้ราคาดี ยุติธรรม
ตุบ
“เฮ้ย”เขาร้องอย่างตกใจ เมื่อเข่งหล่นห่างปลายเท้าไม่เท่าไหร่
“ขอโทษครับ มันหลุดมือ”คนงานตอบก่อนจะยกขึ้น
“ไม่เป็นไร”เขาบอกอย่างไม่ถือสา
“พี่ ระวังหน่อย เดี๋ยวผลไม้จะช้ำ”ผมบอกพี่คนงาน นึกห่วงผลไม้กลัวจะเสียราคา ไม่ได้ห่วงตีนมันหรอก
“ครับ จะระวัง”พูดกลับเสียงเรียบ ก่อนจะยกออกไป
“ขอโทษอีกทีนะครับ”ผมหันไปขอโทษอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร อุบัติเหตุน่ะ เออ พาพี่ไปดูสวนหน่อยสิ อยากเห็นว่าดูแลยังไงถึงได้ออกมาดี”เขายืนยันด้วยรอยยิ้มตามเดิมก่อนจะขอให้ผมพาไปดูสวน พ่อก็พยักหน้า วันนี้พี่เคนไปทำธุระ หลังจากเห็นว่าไม่มีอะไรน่าห่วง ไปตั้งแต่เช้ามืด
“อ๋อ ก็ไม่มีอะไรมาก เราไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ อย่าง ขี้ อะไรพวกนี้แหละ”ผมอธิบายคร่าวๆแบบรวบรัด
“หึหึ ขี้ เลยเหรอ”เขาหัวเราะ
“เออ ไม่ใช่ซะทั้งหมดหรอก มีอย่างอื่นด้วย”ผมบอกไปอีก กลัวเขาจะนึกภาพตามและไม่มาซื้ออีก เขาเดินใกล้มากขึ้น
“โอะ”เขาร้องออกมาเอามือคลำหัว
“เป็นอะไรครับ”ผมถามเขา ที่มองไปรอบๆ
“ไม่มีอะไร สงสัยลูกไม้มันจะหล่น ไปกันต่อเถอะ”เขาส่ายหน้าบอก แตะข้อศอกให้เดินต่อ
โป๊ก
“อุ๊บ”เขาร้องออกมาอีก
โป๊ก
“อูย”
โป๊ก
“โอย พี่ว่า วันนี้เจ้าที่สวนหนู แรงกว่าทุกวันนะ สงสัยจะหวงเจ้าของบ้าน”เขาบอกขำๆ แต่มือคลำหัวมาตลอดทาง บางทีก็หลัง บางทีก็ขา แต่ตลอดทางเขาก็ถามโน่นถามนี่ไม่มีหยุด ผมก็ปากเปียกปากแฉะตอบโน่นตอบนี่เหมือนกัน เขาก็ไม่ได้ซอกแซก ออกจะแนะนำด้วยในบางครั้ง
“เชื่อเรื่องนี้ด้วยเหรอ”ผมถามเขากลับ รู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน จะว่าลูกไม้อ่อนมันหล่นก็ไม่น่าใช่ มันเหมือนถูกขว้างมาซะมากกว่า เวลาที่เขาจับตัวผมมันก็จะมาทันที
“ฮะๆๆ มันก็มีบ้าง เดินต่อเถอะ หวังว่าคราวนี้คงไม่หล่นมาทั้งกิ่งนะ พี่คอหักตายแน่”เขาหัวเราะพูดติดตลก มึงยังจะไปต่ออีกเหรอโดนขนาดนี้ ผมพยักหน้าจังหวะหันกลับ ผมที่เกล้าไว้หลวมไปเกี่ยวกิ่งไม้ข้างหน้าเข้า
“โอ้ย”ผมร้องนิดหน่อยเมื่อมันรั้ง เอามือดึงๆ ให้หลุด
“เดี๋ยวพี่แกะให้ อย่าดึง ผมสวยๆจะขาด”เขาบอกก่อนจะเอื้อมมือ แต่ยังไม่ทันจะได้ช่วย
“โอ้ยยยยยย”เขาร้องออกมาอย่างดัง ทำให้มือผละออกจากผมลงไปนั่งกุมหัว ผมมองเบิกตาก็เห็นกิ่งไม้ไม่ใหญ่แต่หลายกิ่งมีใบไม้ติดอยู่ด้วย ไม่อยากจะเชื่อ ว่าไอ้พี่เกริกมันจะโดนกิ่งไม้ตามที่ปากพูด เจ้าที่เจ้าทางแรงจริงๆ หรือ เจ้าที่จะรู้ว่าไอ้นี่มันจีบกูวะเลยแกล้ง แหม ตอนโจรปล้นบ้านไม่เห็นแรงอย่างนี้เลยนะท่าน รู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
“ขอโทษที ผมกำลังตัดกิ่งไม้อยู่ ไม่ทันเห็นว่ามีคน”เสียงเดิมอีกแล้ว เสียงเหมือนจะคุ้นๆ ผู้ชายตัวสูงมาก นี่ผมมีคนงานสูงขนาดนี้ด้วยเหรอ เขาเอื้อมมือเฉียดแก้มอย่างจงใจมาแกะผมออกให้อย่างเบามือ แปลกที่ผมไม่ขยับหนี กลับมองมือใหญ่ ไล่ขึ้นไปมองหน้าที่ถูกคลุม ใส่หมวกปีกกว้าง เขาเขยิบเข้ามาใกล้ รู้สึกใจเต้นแปลกๆ มองตาที่หลุบลง พอได้สบตา ผมสะดุ้งผละออกเกือบหงายหลัง ถ้าไม่ถูกตะหวัดเข้าไปในอ้อมแขนแกร่ง ใจเต้นแรงขึ้น เมื่อดวงตาคมก้มมาใกล้มากขึ้น
“สั่งไว้ว่ายังไง”น้ำเสียงคุกคาม มือกระชับแน่น จ้องหน้าผมที่ยังอึ้งอยู่ว่า มึงสั่งกูตอนไหนวะ
“อย่าให้ใครมาจีบ ถ้ารู้จะโดน”ผมส่ายหน้าช้าๆ ถึงไม่เคยเห็นและได้ยินเสียงมาก่อน แต่ก็รู้ว่า เสียงแบบนี้ ตาแบบนี้ ไม่ใช่เจ้าที่บ้านกูแน่นอน ผมเอื้อมมือดึงผ้าคลุมออก กระพริบตาปริบๆ ชัดเลย ตัวจริง เสียงจริง ไม่อิงเจ้าที่ ไอ้ที่เข่งเฉียดตีน โป๊ก โอ้ย โป๊ก โอ้ย มาตลอดทาง จนกิ่งไม้หล่นใส่กระบาล คือเจ้าที่ประจำตัวกูนี่เอง
“เฮีย”แค่นั้น ก็ถูกปิดปากไม่ให้พูดไม่ให้ถาม ว่ามาได้ยังไง มีแต่เสียงหัวใจเต้น ลมหายใจ เสียง อือ อา ในลำคอที่แทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วกับจูบของเจ้าที่ ที่เหมือนจะเตือนความจำและลงโทษไปในตัว ก่อนจะเบาลงเปิดโอกาสให้ผมได้หายใจ
“จำได้หรือยัง”พูดชิดปาก ตาคมกริบ ผมหอบแต่ก็พยักหน้าทันที กลัวเจ้าที่จะโกรธและประทับร่างผมเข้าให้
“เฮีย”ผมเรียกก่อนจะโผเข้าหาอ้อมแขนแกร่งอีกครั้ง สัมผัสให้มากที่สุด ให้รู้ว่ามันคือความจริง เสียงเฮียหัวเราะก่อนจะก้มจูบหัวหลายฟอด ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเอามือจับหน้าเฮียลูบไปมา
“เฮีย เฮีย มาได้ยังไง นี่มันยังไม่ครบกำหนดเลย เฮียแหกคุกมาเหรอ”ผมถามเฮียเสียงตื่นเต้นไปหมด เฮียยกยิ้มก่อนจะหันไปแสยะพูดเน้นใส่คนที่มองตาค้าง อย่างจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น
“เฮียมาจัดการไอ้คนที่มันคิดจะจีบ
เมีย เฮียน่ะสิ”เฮียเน้นคำนั้นช้า ๆ ชัด ๆ
"ใช่ที่ไหนล่ะเฮีย เขามาซื้อผลไม้ เดี๋ยวก็กลับแล้ว”ถึงเฮียจะเข้าใจถูก แต่ผมก็ต้องแก้ไว้ก่อน ไม่ใช่มีใจให้ แต่ไม่อยากให้เฮียพลั้งมือมากกว่านี้ แค่นี้อีกฝ่ายก็น่วมแล้ว
“พี่ยังไม่กลับ น้องหนู ไอ้นี่เป็นใคร ทำไมมันทำอย่างนั้นกับน้องหนู”มึงจะตายอยู่นี่หรือไงพูดแบบนั้น วอนแล้วมึง กูอุตส่าห์ช่วยผ่อนให้
“ทำไม กูจะทำไม่ได้”เฮียเสียงเข้มพอกับหน้า ดึงผมเข้าไปกอด เดินไปใกล้ๆ
“นี่ เมียกู”เฮียพูดชัดถ้อยชัดคำ
“ห๊ะ”ไอ้พี่เกริกอุทาน มองหน้าผมสลับหน้าเฮีย
“ไม่เข้าใจ งั้น มึงฟังใหม่”เฮียเลิกคิ้ว ก่อนจะเรียบเรียงให้ฟังใหม่ ชี้นิ้วหาตัวเอง พูดออกไป
“กูเป็นผัวหนู”“มันต่างกันตรงไหนวะ เฮีย ฟังยังไง สถานะกูก็เป็น เคะ อยู่ดี”ผมเงยหน้าไปถามเฮียที่ยังจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ
“ก็มันทำหน้าไม่เข้าใจ “เฮียพูดเสียงเรียบ ยืนยันหนังหน้าอีกฝ่าย
“เขาทำหน้าตกใจ แบบจริงเหรอวะ ไม่ใช่ ไม่เข้าใจ”ผมแก้กิริยาหนังหน้าของอีกฝ่ายให้เฮียเข้าใจซะใหม่
“แก้ตัวให้มัน”หันมาเลิกคิ้วใส่ ผมถลึงตาใส่ เฮียเลยหันกลับ เดี๊ยะๆ พาล
“จริงเหรอ น้องหนู”ไอ้พี่เกริกหันมาผมให้ช่วยยืนยันตอกย้ำสถานะตัวผมเองอีกที บอกแล้วว่ามันงง
“อืม”ผมส่งเสียงพร้อมพยักหน้ารับความจริง เฮียยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
“เฮ้ย พวกมึง ชมสวนเสร็จกันหรือยัง หลานกูหิวข้าวแล้วโว้ย อ้าว อย่าวิ่งเร็วลูกเดี๋ยวหกล้ม พวกมึงดูลูกสิ ยืนได้เสียกันอยู่นั่นแหละ”ผมหันตามเสียงพ่อตะโกนโหวกเหวกดังลั่นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หลานที่พ่อเอ่ยถึง มันใช่ เด็กผู้ชายที่วิ่งหน้าตั้งยิ้มกว้าง หน้าตาหล่อเหลาเหมือนใครบางคน นี่หรือเปล่า
“ว๊าคคคคคคคคคคค”เสียงไอ้พี่เกริกร้องอีกหน เมื่อถูกชนอย่างแรง จากเด็กผู้ชายที่เบรกหันไปมอง
“ขอโทษคร๊าบบบบบบบ ตุลย์ไม่ได้ตั้งใจ”บอกขอโทษด้วยรอยยิ้มกว้าง ตาระยิบระยับ ก่อนจะถลามากอดผม
“ตุลย์หิวข้าวแล้ว ปู่บอกให้มาตามไปหาข้าวให้ตุลย์กินหน่อย”พูดเสียงดังฟังชัดแววตาสีหน้าออดอ้อน
“ตุลย์ เสียมารยาทนะลูก แนะนำตัวก่อน”เสียงคนข้างตัวที่เพิ่งสำนึกถึงมารยาทอันควรกระทำเอ่ยเตือน
“สวัสดีครับ ตุลย์ลูกพ่อกร เราเคยเจอกันในสไกป เมื่อสองปีก่อน ตอนนั้น พี่หนูป่วยแล้วพ่อนอนกอดอยู่บนเตียงสองต่อสองแนบแน่น จำได้อ่ะเปล่าครับ”ยกมือไหว้ ร่ายความทรงจำให้ผม แต่หันไปพูดใส่คนที่เพิ่งลุกขึ้นปัดเศษดินเศษฝุ่น
“บอกลูกไปสิ หนู”เฮียกอดไหล่พูดยิ้มๆ ลูกก็เขย่ามือผมไปมา ผมหรี่ตามองเฮียที่ยกยิ้มพอกับลูกที่หรี่ตาใส่ผม ก่อนจะหันไปหรี่ตา ยักคิ้ว ใส่อีกฝ่าย ประกาศออกสื่อกันเข้าไป แค่นั้นมันก็เข้าใจแล้ว ผมส่ายหัวก่อนจะโน้มตัวลงไปหา
“จำได้สิครับ หล่อไม่เหมือนพ่อ พี่หนูจำได้อยู่แล้ว”ผมบิดจมูกเด็กเจ้าเล่ห์ที่ขำคิก ตุลย์หน้าไม่เหมือนเฮียซะทีเดียว คงจะเหมือนแม่ส่วนหนึ่ง ตาคมแต่หวานกว่า ขนตางอนยาว ตุลย์หอมแก้มผมสองข้าง ก่อนจะจูบหน้าผาก และ ปากเร็วๆ ผมอ้าปากค้าง แม้แต่เฮียยังอึ้ง
“พี่หนูตัวจริงน่ารักมั่กมาก ตุลย์เอา ให้ตุลย์นะ”ชมผมก่อนจะหันไปหาเฮีย
“พ่อให้เอาเป็น
แม่ ได้อย่างเดียว นอกนั้นของพ่อ อย่างอแงสิ เราตกลงกันแล้วไง”นี่พ่อลูกเขาตกลงอะไรกัน
“อะเคร แค่ล้อเล่นน่า พ่อ หวงไปได้ งั้น ไปหาข้าวให้ตุลย์กินหน่อยน้า แม่หนู”เมื่อตกลงกันได้ ก็อ้อนซะผมหน้าแดงกับคำนำหน้า ยิ่งกว่าใช้ นาง ซะอีก
“ไป ลูกหิวข้าวแล้ว”เฮียบอกผมที่ออกเดินตามแรงจูงของลูกชายหมาดๆ
“อ้อ ผมขอตัวให้เมียไปหาข้าวให้ลูกกินก่อนนะ มีอะไรก็ถามเคนแล้วกัน เคน จัดการด้วย”เฮียหันไปพูดกับอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท พร้อมสั่งเสร็จสรรพ เคนพยักหน้ารับหันไปรับแขกที่อ้าปากก่อนจะหุบลง
“เฮียยังไม่บอกหนูเลย ว่ามาได้ยังไง และ อื้อ”ผมยังสงสัยกระซิบถามเฮีย แต่เฮียจุ๊บปากซะได้
“ถ้าอยากรู้ ต้องให้เฮียนอนด้วย แล้วจะบอก”เฮียกระซิบกลับเสียงเจ้าเล่ห์ ยิ้มกริ่ม
“ไม่อยากก็ได้”ผมบอกกลับไปเร็วๆ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเฮียทำให้อยากเอง หึหึ”เฮียกระซิบกลับ ทำเอาสยิว
“อยากอะไรกันอ่ะ ตุลย์อยากด้วยสิ ไม่รู้ล่ะ คืนนี้ ตุลย์จะนอนด้วย”ตุลย์พูดแทรกขึ้นมา แถมมาคั่นกลางจับมือผมกับเฮียคนล่ะข้าง ทำเอาผมหัวเราะอย่างถูกใจ ตุลย์ก็หัวเราะมั่ง มีเฮียคนเดียวหัวเราะไม่ออก แต่ผมจะรอดไปได้สักกี่วันกัน คนอย่างเฮียมีหรือจะยอม ยิ่งผมสมยอมด้วยแล้ว อุ้ย นี่ผมคิดอะไรออกไป ก่อนจะถูกกระตุกมือ
“ตกลงให้ตุลย์อยู่แล้วนะ และก็ รักตุลย์ด้วยนะครับ แม่หนู”รอยยิ้มและคำพูดใสซื่อที่สื่อออกมา ทำเอาผมยกยิ้ม คำนี้ไม่เหมาะกับผม แต่ในเมื่อเขาต้องการให้ผมเป็น ผมจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดให้สมกับที่เขาเรียก
“ได้สิครับ เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนี่”ผมตอบรับเอามือขยี้หัวเจ้าตัวเล็กที่ยิ้มแฉ่ง หน้าซบพุง แต่ผมกลับอบอุ่นที่ขมับและหน้าผาก เฮียถอนปากออก
“ขอบคุณครับ ที่ให้เฮียมีครอบครัวอีกครั้ง เฮียสัญญาจะดูแลครอบครัวของเราตลอดไป”เฮียพูดพร้อมกอดผมที่กอดตอบ โดยมีตุลย์อยู่ตรงกลาง
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านเรา”ผมต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวที่จะมาเติมความสุขให้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าวันนี้ วันไหน เราจะช่วยกันประคับประคองครอบครัวของเราให้อยู่ร่วมกันตลอดไป ผมเชื่อว่าเราทำได้
“เฮ้ย มากินข้าวกันก่อน เดี๋ยวค่อยกอด แหม่ ไม่รอกูกันเลยนะมึง”เสียงพ่อเรียกอีกครั้ง น้ำเสียงติดงอน ตุลย์ผละวิ่งไปกอดปู่คนใหม่
“โอ๋ ๆๆ ปู่ ไม่น้อยใจนะ ตุลย์กอดแล้ว ใครไม่กอดปู่ตุลย์กอดเอง ถ้าอยากให้ตุลย์กอดไปจนปู่อายุเกินร้อย ปู่ต้องให้ตุลย์อยู่ด้วยนะ นะ”ไอ้ตัวเล็กพูดประจบเสียงอ่อนเสียงหวาน ทำเอาพ่อผมยิ้มกว้างอย่างถูกใจ
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้นี่มันปากดีว่ะ เอ้า อยากอยู่ก็อยู่ ไป ไปกินข้าวกัน”แล้วสองปู่หลานก็พากันไปกินข้าว ไม่สนใจพ่องงงมันกับอดีตลูกคนโปรดที่ยืนเป็นหมาหัวเน่ากันสองคน ผมกับเฮียมองหน้ากัน ก่อนจะพากันหัวเราะ ในที่สุดวันที่รอคอยก็สิ้นสุดลง สักที มีแต่วันข้างหน้าที่ต้องก้าวไปด้วยกัน ผมมองหน้าเฮียที่ยิ้มมีความสุขคงคิดไม่ต่างจากผม
“เฮียว่า เฮียมีวิธีที่จะทำให้หนู อยาก รู้เรื่องที่เฮียกลับมาก่อนโดยไม่มีใครนอนขวางแล้วล่ะ หึหึ”เฮียยิ้มอย่างคนมีแผน
“อะไรนะ ที่ยิ้มนี่ เฮียคิดเรื่อง อยาก อยู่เหรอ”ผมถามเฮียที่พยักหน้ายอมรับ แม่ง กูนึกว่าคิดถึงอนาคตข้างหน้าอันสวยงามเหมือนที่กูคิด ดันคิดเรื่องกำจัดลูก ผมว่าไม่พ้นต้องไปเป่าหูตุลย์ให้ไปนอนกับพ่อผมแน่ ไม่ได้การผมต้องไปขัดเอาไว้ก่อน นี่กะไม่ให้เตรียมตัวเตรียมใจเลยหรือไง สองปีมานี่ นอกจากขี้ที่ไหลผ่าน ก็ไม่เคยมีอย่างอื่นกล้ำกาย ถ้าเฮียจะรื้อฟื้นมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนกูซิงอีกครั้งเลยนะโว้ย
“อย่าคิดว่าจะขัดเฮียได้นะ หึหึ”สองหึในลำคอ พูดอย่างรู้ทัน มือลูบคลำไปมา
“เอ้อ เฮียเอาไว้วันอื่นก็ได้”
“ไม่ได้ เดี๋ยวเฮียลืม”
“หนูไม่อยากรู้”
“เฮียอยากบอก”
เฮียไม่ใช่แค่อยากบอกหรอก ดูจากหน้าแล้ว เฮียอยากอย่างอื่นมากกว่า
“เฮียรักหนู”
หมดคำโต้แย้ง แค่เสียงกับสายตา ผมได้แต่พยักหน้า เดินตามเฮียไปกินข้าวแต่โดยดี เฮ้อ เอาไว้มีโอกาสผมจะกลับมาเล่าให้ฟังนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างในค่ำคืนที่ใกล้จะมาเยือน บรื๊ออออออออ
**********************************************************************************************************************
ปล. ก่อนอื่นขอโทษค่ะที่มาช้ามากกกก งานรัดตัวจริงๆ

แต่ในที่สุดก็ปิดการปล้นสักที เย้ เย้ :mc4:หลังจากปล่อยให้ยืดยื้อและรอคอยกันมานาน แอนดิ้ง ค่ะ แอนดิ้ง ไม่มีมาม่า หุหุ ขอบคุณนะคะที่ติดตามกันมาร่วมปี ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ค่ะ

มีอะไรบอกกล่าว ติเตียนกันได้ค่ะ รับฟังเสมอ

หลังจากนี้ก็จะมีตอนพิเศษมาคลี่คลายในจุดที่สงสัย ไม่ต้องกลัวค่ะเรามีเฉลย มีทุกคู่ ขอแค่มีคนติดตาม แต่รอกันหน่อยนะคะ งานเยอะมากกกก