ผ่านมาสองวันแล้ว ไอ้รันยังไม่กลับมาเลย ทำเอาผมกระวนกระวายนั่งไม่ติด หงุดหงิดฉิบหาย แทบไม่มีใครเข้ามาคุยกับผมเลย คงพอจะรู้ว่าเรื่องอะไร มีแต่ไอ้โจ๊ก ไอ้ปาน ที่วนเวียน ไอ้เฮียก็นิ่งเงียบตามเคย จะถามมันก็ไม่กล้า กลัวจะได้คำตอบที่ไม่พึงประสงค์ หรือจะถามมันดีวะ ผมมานั่งชะเง้อตรงปากทางเรือนนอน หวังว่ามันจะเดินกลับมา แต่ก็ไม่มีวี่แวว
“มานั่งมองเครื่องบินเหรอวะ ไอ้เข้ม”เสียงทักทายเชิงกวนตีน ทำผมหันขวับไปมองหน้าไอ้คนเห่าใส่
“กูแค่มอง ส่วนมึงน่ะเห่า มีอะไร”ผมตอบมันกลับไป ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไอ้ไนท์ ขาใหญ่แดนสิบ ยืนกอดอกส่งยิ้มกวนๆให้ ผมกับมันเคยติดต่อทำการค้าในนี้กัน มีเด็กก็แลกเด็กกันประจำ มันมีนายใหญ่พอตัว เหมือนกับผมที่มีนายคุ้มหัว แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว
“จุ๊ จุ๊ อะไรวะ แค่มาทัก ทำหงุดหงิดไปได้ น้ำไม่ออกหรือไงมึง”มันทำเสียงจิ้งจกสายพันธุ์เหี้ยใส่ พูดแซวเรื่องอย่างว่า
“เดี๋ยวอย่างอื่นมึงจะออกแทนน้ำ มีอะไรก็ว่ามา”ผมเสียงเข้มใส่มัน ไม่อยากคุยกับมันเท่าไหร่ ดูแล้วมันไม่มาดีแน่ คนชั่วด้วยกันย่อมดูกันออก
“ก็ไม่มีอะไร แค่มาทักทายคนเคยค้าขายกันเท่านั้นเอง”มันยักไหล่ เบะปากพูดใส่ ข้างหลังมีลูกน้องอีกสองคน หน้าตาดีทีเดียว ส่งสายตาให้ คงไม่ใช่ตามติดตูดธรรมดา คงติดกันยันข้างในแน่ ผมดูก็รู้ว่ามันสื่อถึงอะไร ไอ้เรื่องน้ำออกผมไม่ได้ซีเรียสมันมีทางอยู่แล้ว จะว่าไปตั้งแต่ผมกลับเข้ามาในคุกอีกครั้งและได้ใกล้ชิดกับรัน ผมไม่เคยเอาน้ำไปเข้าใครอีกเลยนะ ถึงจะมีมานำเสนอไม่เคยขาด สงสัยคงเพราะผมจะรอเก็บน้ำไว้ที่ตู้เย็นอย่างดีก็เป็นได้ นานเท่าไหร่ ผมก็จะรอ หรือไม่มีโอกาสผมก็ไม่เสียดาย เพราะที่ผมได้รับมันมากกว่าเรื่องแบบนี้ นั่นคือมิตรภาพ ความไว้ใจ และ ญาติซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมันแล้ว ผมจะไม่เอาความอยากแค่ชั่วครั้งชั่วคราวมาทำลายมันแน่
“คนอย่างมึงคงไม่ทักกูด้วยเรื่องแค่นี้หรอกมั้ง มึงพูดมาตามตรงเลยดีกว่า”ผมนั่งลงบนโขดหิน พยักหน้าใส่มัน
“หึหึ รู้ดีจริงๆ สมแล้วที่เป็นมึง”มันหัวเราะในลำคอ เอ่ยชมที่ไม่จริงใจ ก่อนจะพูดต่อ
“กูมีข้อเสนอให้มึง ตอนนี้นายมึงก็ไม่อยู่แล้ว อีกไม่นาน ไอ้เฮียก็ออก เหลือแต่มึง และพวกไม่กี่คน มึงสนใจจะ”มันพูดเกริ่นถึงเรื่องที่ผมคิดไว้แล้ว
“กูไม่สน ไม่ต้องมายุ่งกับกู และ เพื่อนกูด้วย”ผมพูดขัดมันออกไปทันที
“เฮ้ย ฟังก่อนสิวะ”มันก็ท้วงเอาไว้อีก ก่อนจะมานั่งตรงกันข้าม อีรักยมสองตัวก็ยืนประกบข้างหลังตามเดิม
“มึงไม่สนเหรอ อย่างเคยๆไง มึงเอาไปทดลองก่อนก็ได้ กูไม่ว่า สนใจแล้วค่อยมาคุยกับกู หลังฟังกูพูดจบ”มันหรี่ตาพูดนำเสนอสินค้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ไม่ ผมสนแค่คนเดียว ตั้งแต่มีมันสายตาผมก็ไม่เคยมองใคร ไม่นับรวมเตที่จากไปแล้ว
“กูแค่อยากให้มึงร่วมงานด้วย นายกูเขาสนใจ ถ้ามึงยอมอยู่กับเขา มึงจะสบายมากกว่านี้ และจะได้คุมแดนนี้ด้วย”มันหยิบยื่นความสะดวกสบายและอำนาจที่แต่ก่อนผมเคยได้รับมาแล้ว
“หึ แลกกับทำชั่วน่ะเหรอ”ผมแสยะยิ้มเพราะรู้ของฟรีไม่มีในโลกหรอก ผมเคยผ่านมาแล้ว ทุกอย่างต้องแลกมา
“มันก็ปกติของมึงอยู่แล้วนี่ ไอ้เข้ม อย่าบอกนะว่ามึงจะเป็นคนดี กูไม่อยากจะเชื่อ คนอย่างมึงจะดีได้ กูถามจริงๆเถอะ กว่ามึงจะได้ออกไปอีกกี่ปี สิบปีก็ไม่ใช่น้อยนะมึง และถ้าออกไปมึงจะทำงานอะไรได้ คนขี้คุกใครจะรับ หรือมึงคิดจะกลับไปหานายมึงที่ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นเขายังจะรับมึงหรือมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”มันพูดถึงสันดานผมที่ไม่ต่างจากมัน
ปึก
“อย่าลามปามนายกู เขาต่างจากนายมึงและก็มึงมาก”ผมกระชากมันอย่างแรงกระแทกกับต้นไม้ มันมองหน้าเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม อย่างระงับอารมณ์
“ก็ได้ ก็ได้ กูขอโทษแล้วกัน”มันยกมือแบบยอมแพ้ แต่ในใจคิดเอาคืนแน่ ที่ทำอย่างนี้ต่อหน้าลูกน้องมัน
“อ๋อ หรือว่าที่มึงไม่อยากทำ และก็ไม่สน เป็นเพราะไอ้หน้าขาวที่มึงตามติดอยู่วะ”มันพูดพร้อมปรายตาไปยังไอ้สองคน ก่อนจะพูดถึงคนสำคัญ ผมตาลุกวาว ปรี่เข้าไปหา มันดึงของที่เหน็บตรงหลังออกมา
“เอาสิ กูเสียบมึงแน่”มันกัดฟันพูดใส่ ควงมีดในมือไปมา เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า มันใหญ่พอที่จะพกอาวุธติดตัวได้ นั่นต้องมีคนรู้เห็นเป็นใจด้วย จะใครไม่ได้นอกจากคนในที่ถูกซื้อด้วยคนมีเส้นมีสายในนี้
“นึกว่ากูกลัวมึงเหรอกับไอ้ของแค่นี้ หึ ฆ่ามึงอีกสักคนจะเป็นไรไป”ผมแสยะยิ้มเดินไปใกล้พูดใส่มัน ที่ถือมีดแต่ไม่กล้าลงมือ เพราะมันยังไม่ได้รับคำสั่ง
“จำไว้ อย่ายุ่งกับคนของกู”ผมชี้หน้ามัน ถ้าคิดจะแตะล่ะก็ มันไม่ได้ตายดีแน่ ผมยอมติดคุกเพิ่ม ถ้ามันทำอะไรคนสำคัญของผม แม้แต่ปลายเล็บหรือเส้นผม ก็สมควรตาย ผมพูดจบก็หันหลังอย่างไม่กลัวว่ามันจะแทงข้างหลัง
“ถึงกูไม่ยุ่ง ก็คงมีคนอื่นคิดจะยุ่งอยู่ดี มึงอย่าลืมสิ ว่าที่นี่เป็นยังไง”มันพูดตามหลัง ผมแค่หยุดตีน แล้วก็เดินต่อ
“เปลี่ยนใจ ก็มาหากู”มันยังตะโกนตามหลังมาอีก แต่ผมไม่คิดจะหยุดฟัง และไม่คิดจะทำด้วย ผมรับปากกับคนสำคัญแล้วว่าผมจะเปลี่ยนตัวเอง ผมจะไม่มีวันหันหลังกลับไปทำเรื่องเดิมๆอีกแล้ว
.
.
.
.
“จริงเหรอวะ กูไปได้แล้วหรอ”ผมพูดเสียงดัง ยิ้มปากบานอย่างลืมตัว เมื่อได้ยินสิ่งที่ไอ้เฮียบอก ผมแทบจะลืมตัวกระโดดกอดมันด้วยซ้ำ ดีนะว่าระงับไว้ได้ ไม่งั้นคงเป็นภาพก๊อตซิล่าปะทะตึกแน่
“อืม แต่แค่ตามเวลานี้เท่านั้นนะ อย่าเกิน กูช่วยได้แค่นี้ ฝากดูมันด้วย”ไอ้เฮียพยักหน้าพร้อมบอกข้อตกลง
“ได้ ได้ แค่นี้ก็พอแล้ว ขอบใจ ขอบใจมึงมาก”ผมรีบพยักหน้ารับพร้อมพูดรัวเร็วๆ แต่ก็เผลอเขย่ามือมันจนได้ มันได้แต่มองไม่ได้ดึงออกแต่อย่างใด กลายเป็นผมที่ผละออกอย่างเก้อๆ นี่ผมหลุดไปเยอะเลยนะ ใครจะเชื่อว่าคนชั่วแบบผมจะมีมุมนี้กับเขาบ้าง ไอ้เฮียหันหลัง
“เอ้อ ไอ้เฮีย กูขออีกอย่างสิ”ผมรีบเรียกมันไว้ เดินเร็วๆไปดักหน้า มันขมวดคิ้ว
“อะไร”มันพูดเสียงนิ่งตามแบบของมัน
“คือ ถ้ามึงให้ได้ก็ให้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”ผมออกตัวไว้ก่อน เดี๋ยวมันจะหาว่าเรื่องมาก กูช่วยเรื่องนี้ก็เอาเรื่องอื่นมายัด มันพยักหน้าว่าให้พูดมา ผมตัดสินใจบอกมัน ที่เงียบไปพัก
“พรุ่งนี้เหรอ”มันเลิกคิ้ว
“อืม ได้ไหม”ผมพยักหน้าถามอย่างมีความหวัง
“ดูก่อน”มันไม่รับปากในทันที
“กูขอบใจล่วงหน้านะ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆก็ไม่เป็นไร มึงช่วยกูแค่นี้ก็เยอะแล้ว”ผมขอบใจมันอีกครั้ง มันก็พยักหน้าก่อนจะแยกกัน ไปทำงานของตัวเอง ผมยิ้มอย่างมีความสุข
“พรุ่งนี้จะได้เจอกันแล้ว กูคิดถึงมึงจัง รัน”ผมเพ้อกับลมฟ้าอากาศ แต่ไม่ถึงกับเอามือประกบกันเป็นสาวน้อยนัยน์ตาเพ้อฝันรอเจ้าชายมาหา ผมแค่เดินยิ้ม มือตีใบไม้ ตีนเขี่ยใบหญ้า เท่านั้นเอง
.
.
.
.
ผมรีบทำอะไรให้เสร็จเร็วกว่าทุกวัน อาบน้ำช้ากว่าทุกที ดูจนแน่ใจว่าสะอาดปราศจากเชื้อโรค ที่อาจจะนำไปติดต่อคนป่วยให้เป็นหนักกว่าเดิมได้ สำรวจตัวเองอีกครั้ง ทั้งที่ไม่มีกระจกให้ส่องหรอก อาศัยดูเงาในบ่อน้ำที่พอจะใสเห็นรูปร่างอยู่
“ทำอย่างกับได้อภัยโทษออกจากคุกเลยกู หึหึ”ผมพูดขำๆกับตัวเอง ที่ตื่นเต้นกับการจะได้ไปเจอหน้าคนป่วย ถึงจะแค่สองชั่วโมงต่อวันก็ยังดี ดีกว่าไม่เจอเลย ผมมองตัวเองอีกครั้ง ยกเล็บมือ เล็บตีน ผ่าน อ้าปากพ่นลมหายใจ ฮา ฮา โอเค สดชื่น ยกรักแร้ที่ไปขอสารส้มโรงครัวมาขัดมาถู แทนการใช้ลูกกลิ้ง ก่อนจะพาตีนที่ไปยืมรองเท้าไอ้เฮียมาใส่ไปก่อน เสือกขาดไม่ไว้หน้ากูเลย ไอ้รองเท้าส้นตีน ดีนะตีนเท่ากัน แต่ไม่สำคัญว่ามันให้ยืมนี่สิ รบกวนมันจังเลย ปกติก็ไม่ค่อยได้ใส่กันหรอก แต่วันนี้มันผิดปกติ ตรงที่ผมต้องไปสถานที่ราชการ เลยต้องใส่ให้ดูสุภาพ จะหาว่าไม่ให้เกรียติสถานที่ สุดท้ายผมขอขอบคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่ถึงแม้ไม่เอ่ยนาม ก็ซาบซึ้งใจ ไอ้เข้มจะจำไว้รอวันตอบแทนไม่ต่างจากความแค้นที่รอวันชำระ ฮ่าๆๆๆๆ
“เข้าที่ รัน รัน รัน”ผมบอกตัวเองและออกเดินกึ่งวิ่งไปจุดมุ่งหมายทันที ก่อนจะชะงักนิดหนึ่งเป็นให้ผู้คุมตรวจเป็นพิธี พอดูเอกสารและตรวจของในมือ ก็ให้เซ็นชื่อและให้ผู้คุมอีกคนพาไป จนถึงสถานที่ขาวสะอาดที่เรียกว่า ‘ทัณฑสถานโรงพยาบาล’ เพราะตั้งอยู่ในเรือนจำ
“รอตรงนี้ก่อน”ผู้คุมบอกผมที่พยักหน้ารับ ตอนนี้ให้ไอ้เข้มทำอะไรก็ยอมหมด ขอให้ได้เข้าไปเจอมันก็พอแล้ว ช่างเหมือนเกม คุ้กกี้รัน จังเลยที่ต้องฝ่าฟันไปจุดหมาย หึหึ
“เข้าไปได้ และก็รักษาเวลาด้วย อย่าช้านะมึง ไม่งั้นจะไม่มีคราวหน้า เข้าใจไหม”ผู้คุมอนุญาตก่อนจะย้ำเตือนเชิงขู่เรื่องเวลาอีกครั้ง
“ครับ นาย”ผมรับคำ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาพาผมเข้าไป ผมประคองถุงอย่างระมัดระวัง
มันคือ
ของฝากคนป่วยที่คนในคุกอย่างผมไม่สามารถจะหามาให้เองได้ ต้องวานให้เขาช่วย นั่นคือ ไอ้เฮีย ที่ผมขอร้องมันเมื่อวาน และมันก็จัดให้เกินความต้องการด้วยซ้ำ มันบอกว่า
‘หนูฝากมาเยี่ยมไอ้รันด้วย ขอให้หายเร็วๆ’
ผมยิ้มรับกับความมีน้ำใจของเมียไอ้เฮีย หวังว่าสักวันคงได้ขอบใจและขอโทษที่ทำไม่ดีกับมันด้วยตัวเองสักครั้ง
“ห้องนี้แหละครับ กรุณาอย่าเสียงดังหรือทำอะไรที่เป็นการรบกวนผู้ป่วยนะครับ”เจ้าหน้าที่ส่งผมที่ห้องพักเดี่ยว หมอบอกว่ากลัวมันจะแพร่เชื้อหรือได้รับเชื้อเพิ่ม มันเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่ใช่สายพันธุ์ร้ายแรงมากนัก ผมจำหมอมาบอกครับ ตอนนี้อาการมันดีขึ้นแล้ว คงเพราะมันเป็นคนแข็งแรงอยู่แล้วด้วยก็เลยฟื้นตัวไว
“ขอบคุณครับ”ผมขอบคุณ ก่อนจะค่อยๆเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นคนป่วยหลับตาพริ้มนอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงสีขาว ผมเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นหน้ามีเลือดฝาด บอกให้รู้ว่า มันดีขึ้นแล้ว ผมวางของเยี่ยมบนโต๊ะ หันไปยกเก้าอี้มานั่งใกล้ ผมมองมือตัวเองอีกครั้งหยิบทิชชู่มาเช็ด ค่อยๆเอื้อมไปจับมือขาวเบาๆ
“กูมาแล้ว ขอโทษนะไม่ได้ไปรับ”ผมพูดแผ่วเบา คนป่วยยังนอนหายใจสม่ำเสมอ ก่อนจะยกมือขึ้นมาจูบแล้วแนบแก้ม
“ขอเลยเถิดมือหน่อยนะ”ผมขออนุญาตทั้งที่ทำไปแล้ว หันไปมองเวลาที่ค่อยๆดำเนินไป อยากให้มันตื่นมาจัง แต่ก็ไม่อยากรบกวนการพักผ่อน ผมเลยนั่งมองนั่งดมอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วโมง เปลือกตาขาวกระพริบบอกให้รู้ว่า
‘จะตื่นแล้วนะ เลิกขืนใจมือกูได้แล้ว’
“อืม”เสียงครางในลำคอ ก่อนจะปรือตาขึ้นมาและหลับลงไปอีก ทำอย่างนี้สองสามครั้ง ก่อนจะหันมาเจอผม
“เข้ม”เรียกชื่อกู เพรียว อีกแล้ว กูจะตอบว่า ครับ ดีไหมวะ จะได้เข้ากัน
“เออ กูเอง”
สุดท้าย กูอาย ง่ะ ไม่กล้าพูด
“มานานยัง”มันถามผม หรี่ตาลงมองมือผมที่จับอยู่ แต่ไม่มีใครดึงออก ปล่อยไว้ตามเดิม
“สักพัก หิวน้ำไหม”ผมบอกก่อนจะถาม มันพยักหน้า ผมเลยต้องปล่อยมือออกชั่วคราว รินน้ำใส่แก้ว หยิบหลอดเสียบและจ่อที่ปากคนป่วย ที่ค่อยๆดูด อืม ดูดได้อารมณ์เหลือเกิน ทำอะไรก็ดีไปหมดในสายตากู แค่กูก็พอ
“มึงดีขึ้นแล้วใช่ไหม”ผมถามและจับมือมันต่อ
“อืม ดีกว่าวันแรกหน่อย ปวดหัวฉิบ เฮ้ย แล้วมึงไม่กลัวติดกูเหรอ”มันตอบก่อนจะนึกได้ถามกลับ มันเป็นห่วงผมเหมือนที่ผมห่วงมันเหมือนกัน
“ไม่กลัว กูอยากจะรับไว้เอง และให้มึงหายเร็วๆ”ผมบอกมันอย่างที่คิด แต่ไม่รู้ว่ามันคิดอะไร หน้าถึงได้ขึ้นสี ผมว่าผมก็พูดธรรมดานะ ไม่ได้หวานหรือหน้าตาหื่นใส่แต่อย่างใด
“แล้ว ถุงอะไรวะ”เฉไฉไปถามเรื่องถุง
“ของฝาก กินไหม กูปลอกให้ แต่มีแค่ส้ม กับ สตอ สตอ อะไรนี่แหละ”ผมหยิบส้มออกจากถุงออกมา น่าจะเป็นส้มราคาแพง มันมีกลิ่นหอมขนาดยังไม่ได้ปลอกยังส่งกลิ่นขนาดนี้ รันพยักหน้า
“ไปเอามาจากไหน”มันถาม ผมก็บอกตามตรง
“กูขอให้ไอ้เฮียมันเอามาให้ ลำพังตัวเองคงไม่มีปัญหาไปหามาได้หรอก ถ้าอยู่ที่นี่”ผมบอกมือก็ปลอกส้มให้อย่างเบามือ น่าจะเบาที่สุดแล้ว ถ้าเทียบกับการชำแหละเนื้อที่ผมเคยผ่านมา
“ถามนิดเดียว ตอบซะยาวเลย”มันส่ายหน้าเนือย คงคิดว่าผมน้อยใจหรือพูดประชด กำลังจะอ้าปาก
“แค่นี้ ก็ถือว่ามึงทำให้กูมากแล้ว ขอบใจนะ เข้ม”มันพูดหยุดคำพูดผมซะก่อน
“แต่ถ้าให้ดี กูอยากหาให้มึงด้วยตัวเองมากกว่าว่ะ แต่คงนานจนมึงแก่ หรือ กูตายห่าก่อนก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ ”ผมหัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเองที่เริ่มคิดอีกแล้ว แต่ยังไม่เข้าบทดราม่า
เพี้ยะ
“โอ้ย ตบปากกูทำไม”ผมร้องออกมา เมื่อโดนมือขาวตบปากเข้าให้ ไม่ได้แรงแต่แค่แปลกใจเฉยๆ
“ชอบพูดอะไรเป็นลาง กูบอกไม่ให้คิด ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต จะตายโหงตายห่าก็ไม่มีใครรู้หรอก พูดอีกจะต่อยแม่งเลย ห่านิ”ขนาดไม่มีแรง มันยังสวดผมยาวขนาดนี้ นี่ถ้าดีๆ กูได้โดนหนักกว่านี้แน่
“คร๊าบ ขอโทษ ไม่พูดแล้ว อย่าโกรธนะ นะ”ผมทำเสียงทะเล้นใส่มันที่อึ้งไป
“สาดดดดด ไม่ได้เข้ากับหนังหน้าเลย อุ๊บ ครึครึ”มันด่าก่อนจะหันไปกลั้นหัวเราะ ผมค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยที่มันยิ้มได้ ก่อนจะส่งส้มใส่มือให้ จะป้อนก็กลัวเชื้อโรคเข้าปากมัน ทั้งที่ตอนปลอกก็มือผมเช่นกัน ไม่ทันแล้วล่ะ
“มีเม็ดเปล่า เอาออกด้วย”มันบอกสีหน้ายุ่งเหยิง
“มันจะเละน่ะสิ”ผมบอกมัน กลัวส้มจะช้ำ ไม่มีมีดด้วย เพราะไม่ใช่โรงพยาบาลทั่วไปที่จะเอาเข้ามาได้ เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับโรงพยาบาลในนี้
“ไม่เป็นไร แกะให้หน่อย”มันส่ายหน้าพร้อมพยักหน้าอนุญาตให้ทำด้วย ผมค่อยปลิ้นเม็ดออกอย่างไม่ให้ช้ำ โชคดีที่ส้มมันค่อนข้างกลีบใหญ่เลยง่ายหน่อย ผมยื่นไปใกล้มันก็อ้าปากรับ ทำอย่างนี้จนหมดส้มไปสามลูก โดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันเลย ผมหยิบทิชชู่เช็ดมืออีกครั้ง
“สตรอเบอรี่ ลูกใหญ่ดีว่ะ”มันมองไอ้ลูกแดงๆมีจุด ตาวาว
“กินไหม เดี๋ยวไปล้างก่อน”ผมถามเตรียมหยิบ
“ไว้ก่อน”มันสายหน้า
“ไอ้หนูมันฝากมา ขอให้หายเร็วๆ”ผมบอกชื่อเจ้าของสตรอเบอรี่ อย่างเป็นทางการ ส่วนผมมีหุ้นแค่ส้มนิดหน่อย
“ไอ้นี่ แม่งจำได้ว่ากูชอบกิน ต้องไปขอบใจมันสักหน่อย อ้อ ส้มด้วย กูก็ชอบเหมือนกัน แต่ที่ชมไอ้หนู ไม่คิดว่ามันจะจำได้”มันพูดชมเจ้าของสตรออย่างชอบใจ และเผื่อแผ่มาถึงหุ้นส่วนส้มอย่างผมด้วย ส่งยิ้มอย่างจริงใจไม่ใช่พูดเอาใจ
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เห็นมึงกิน กูก็ดีใจจะตายห่าแล้ว”ผมพูดแก้เก้อ นี่กูแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ จะว่าหัวล้านก็ไม่น่าใช่ เพราะก็ไว้ทรงนี้กันทั้งเรือนจำ
“อย่าเพิ่งตายห่าเลย มึงสัญญากับกูไม่ใช่เหรอว่าจะดูแลกูจนกว่าจะออก จะรีบตายไปไหนวะ”มันพูดทวงสัญญาที่ผมให้ไว้
“กูพูดเปรียบ ไม่ลืมหรอกน่า”ผมเผลอเถียงมันกลับไป มันทำหน้ากลั้นหัวเราะ และมันก็ให้ผมเล่าว่าทำอะไร มีอะไรเกิดขึ้นบ้างตอนมันไม่อยู่ ผมก็เล่าให้มันฟัง ตลอดเวลาที่เล่ามือจับกันอยู่อย่างนั้น
“อีกเรื่องล่ะ ไม่เห็นเล่าให้กูฟังเลย”มันท้วง ผมขมวดคิ้ว
“ก็ไม่มีแล้วนะ เรื่องขี้เรื่องเยี่ยวกู มึงอยากฟังเหรอ โอ๊ะ”ผมเลิกคิ้วพูดกวนตีนมัน ก่อนจะเซหน้าแทบทิ่มเตียง เจอลูกเตะรันมหากาฬเข้าให้ เตะข้ามฟากเลยนะมึง ไม่ถีบหน้ากูเลยล่ะ จะจับมาดมให้ หึหึ
“เดี๋ยวมึงจะโดน กูไม่อยู่หัดปิดบัง พูดมา”มันข่มขู่ผมอีกแล้ว ทำเอาเกือบหลุดหัวเราะออกมา แต่ต้องกลั้นไว้ ก่อนจะนึกว่าเรื่องอะไรวะ ก็มีเรื่องเดียว แต่มันไม่น่าจะรู้ได้ ทำไมมันพูดเหมือนรู้ ผมเลยเล่าให้มันฟัง
“ก็มีเท่านี้แหละ มันชวนแต่กูไม่คิดจะทำหรอก ถ้าทำคงโดนไม่ต่างจากมัน หรือบางทีมันคงอยากหาแพะไว้รองรับอยู่แล้ว”ผมพูดถึงเรื่องไอ้ไนท์ ที่มาตื๊อผมอีก แต่ผมก็ไม่ตกลง จนกระทั่งเมื่อเช้าได้ข่าวว่ามันถูกเพิ่มโทษ มียาเสพติดในครอบครอง โทษหนักมาก อาจถึงขั้นประหารชีวิตได้ แต่ผมว่ามันต้องอยู่ไม่ถึงประหารชีวิตแน่ นายมังต้องสั่งเก็บอยู่แล้ว ใครจะให้สาวมาถึงตัวเองได้ล่ะ มือผมถูกบีบกระชับมากขึ้น
“ดีแล้ว มึงทำดีแล้ว”เสียงอ่อนโยนพอกับสีหน้า รอยยิ้มชื่นชม ที่ทำให้ผมรู้สึกใจฟูพองอก ก่อนจะทำใจกล้าถามออกไป
“แล้ว ทำดีมีรางวัลไหม” หึ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ฟิ้ววววววววววววววววววววววว
ไม่มีเสียงตอบรับจากกระทรวงที่จะมอบโล่ให้ นอกจากเสียงพัดลม และ เสียงลม ที่พัดลอดหน้าต่างเข้ามา เหลือบตามองใกล้หมดเวลาแล้ว
“ไม่มีอะไรหรอก ถามไปงั้นแหละ กูแหย่เล่น ก็เห็นเวลาเขาทำความดี เขาจะมีรางวัลให้ไง”ผมพูดขำๆ ไม่ให้เสียบรรยากาศ
“เฮ้อ เวลาทำไมเดินเร็วจังวะ กูต้องกลับแล้วล่ะ ไม่งั้นจะไม่ได้มาอีก”ผมถอนหายใจต่อว่าเวลา ยิ้มเซียวๆ เมื่อต้องกลับไปที่ตัวเอง มันพยักหน้า
“อืม ไปเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ อีกสองสามวันกูก็ได้กลับแล้ว”มันบอกกำหนดการที่จะได้ออกจากที่นี่ เราไม่ได้พูดนอกจากสบตา มือสัมผัสเพียงอย่างเดียว ผมยกขึ้นแนบแก้มและดมอย่างลืมขอ แต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร
“นอนหลับดีไหม ฝันร้ายหรือเปล่า”ถามด้วยเสียงที่ผมอยากจะได้ยินทุกวัน
“นอนไม่หลับ แต่ฝันดี”ผมบอกมันที่ทำหน้างงกับคำพูดผม
“นอนยังไงวะ ไม่หลับแต่ฝันดี กวนตีนนะมึง”มันขมวดคิ้วว่าเข้าให้แต่ไม่จริงจัง
“ก็แบบ นอนไม่ได้หลับตา แต่ก็ฝันได้ไง โอ้ย กูไม่รู้จะบอกยังไงดีว่ะ คือ มันดี ง่ะ อุบ”ผมบอกมันไม่ถูกเหมือนกัน ก่อนจะนึกได้ว่าพูดอะไรออกไป
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สาดดดดดด มี ง่ะ ด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ แอ๊บแบ๊วนะมึง ไอ้เข้ม”แล้วมันก็หัวเราะชอบอกชอบใจ ไม่จบแค่นี้แน่กู ออกไปได้ มันต้องประจานความ ง่ะ ของผมเหมือนเรื่องคุ้กกี้รัน แน่ เอาเถอะถ้ามันทำให้มีความสุขก็ปล่อยมัน
“เดี๋ยวเอาไอ้นี่ไปล้างให้”ผมหยิบสตรอเบอรี่ เดินไปล้างในห้องน้ำ ล้างอย่างทะนุถนอมไม่ให้ช้ำ ล้างอย่างไม่ให้ขี้มือติดให้เสียรสชาติ เรียบร้อยก็เอาออกมานั่งซับด้วยทิชชู่จนแห้งดี วางใส่กล่องตามเดิม
“กูไปก่อนนะ พรุ่งนี้จะมาใหม่”ผมบอกเมื่อถึงเวลา และไม่ได้ถามว่ามันจะเอาอะไรไหม คงหาให้ไม่ได้ มันพยักหน้า ผมจับมือมาหอมและซบอีกครั้ง เหมือนเมื่อคืนแรกที่ต้องห่างกัน พยายามปล่อยให้ช้าที่สุด จนเกือบจะหลุดออก
“เข้ม”และก็เรียกชื่อเพรียวของผม วินาทีกำลังย้อนกลับ ผมหันมามอง
“มึงยังไม่ได้รางวัลเลย”ผมตาโต และ หูไม่ได้ฝาด มันพยักหน้าให้เข้าไปใกล้ ดึงมือผมให้โน้มตัวลงไปใกล้ ใกล้ จนได้เห็นแก้มขาว ปากแดง
ฟอดดดดดดดดดดดดดดดดดดเสียงเหมือนที่ผมทำ แต่ไม่มีเสียง ซี๊ดดดดดดดดดดดดด ตามมา ผมตกใจหันไปหาเจ้าของเสียงฟอด จนริมฝีปากบรรจบกัน ผมไม่รู้ไฟฟ้าช็อตเป็นยังไง แต่ถ้ามันรู้สึกแบบนี้ ผมก็อยากจะโดนช็อตทุกวัน แต่ต้องช็อตด้วยปากนี้เท่านั้น จากแค่บรรจบ กลายเป็นเริ่มนวด คลึง บดเบียด สอดรับ ไอ้คนฟอดผมมันไม่เคยแน่ ถึงได้พยายามหลีกเลี่ยงปากผมที่ไล่ตามจนมันยอมให้คลึงเคล้ารสหวานซ่านไปถึงทรวง มือก็จับกันไม่ปล่อย
“อืม”
“เข้ม”
“รัน”
“อืม”
เสียงงึมงำหลุดจากปาก ทั้งที่ยังไม่ได้ผละออก ปล่อยตัวปล่อยใจ จนกระทั่ง
“เอ้อ ทำอย่างนี้ไม่ดีนะครับ จะติดไข้ และ หายช้าได้”เสียงเตือนจากบุคคลที่สามที่ไม่ได้รับเชิญ ไม่รู้เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำให้เราผละออกจากกัน ทั้งที่ไอ้คนป่วยยังหอบนิดๆ หน้าแดงแปร๊ดไม่รู้อายผม หรือ โกรธหมอ ที่เข้ามาขัดจังหวะ
“สัด กูแค่หอม มึงจูบกูเลยนะ”เสียงด่าอุบอิบ
“กูตกใจนี่หว่า ขอโทษนะ”ผมบอกอุบอิบกลับไปเช่นกัน จนคุณหมอกระแอมอีกครั้ง ผมเลยต้องไปสักที ห้านาทีเท่านั้นป่านนี้ผู้คุมมารอแล้ว ผมยกมือขึ้นมาดม และ หอมแก้มมันอีกฟอด มันตาโต อ้าปากพะงาบๆ จะด่าแต่ด่าไม่ออก
“ไปนะ พรุ่งนี้ค่อยเอาคืนกูแล้วกัน”ผมบอกมันอย่างให้สัญญา ว่าจะกลับมาให้มันเอาคืนผมบ้าง ก่อนจะออกไปจากห้องนั้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หัวใจพองกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
‘สิ่งที่มันกำลังจะเกิดกับเราทั้งสองคน เธอเรียกมันว่าความรักหรือเปล่ามันชอบกล’ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกของผมกับมันในตอนนี้ จะเป็นแบบเนื้อเพลงนี้หรือเปล่า แต่ภาวนาขอให้ใช่ทีเถอะ มันบอกผมเองว่าอย่าไปคิดถึงเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต คิดแค่เรื่องปัจจุบันและวันต่อๆไปก็พอ ผมก็จะคิดตามที่มันบอกมันจะได้สบายใจ แต่ตอนนี้ผมต้องรีบไปให้เร็วที่สุด เรื่องผู้คุมนะจิ๊บ ไอ้ที่ไม่จิ๊บเนี่ยสิ มันแสดงออกอย่างตระหง่านเหลือเกิน
ห้องน้ำโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย รอกูด้วยยยยยยยยยยยยยยยย****************************************************************************************************************************
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ โดนหลอก

ไม่มีอะไรให้ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ กันเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ

โอ้ยยยย ใจเย็นๆ มันเพิ่งจะเกิดเอง ค่อยเป็นค่อยไปจิ นะ นะ อีกสิบปีมีเวลาเหลือเฟือ เปิดโอกาสให้คู่นี้เขาอีกตอนเน๊าะ

ส่วนเรื่องสถานพยาบาล ที่จริงมันมีนะคะ แต่ขั้นตอนจะยุ่งยากมากกว่านี้ และบางทีไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกค่ะ แต่ในนิยายเราทำให้เป็นได้ เพื่อประหยัดเวลา ประหยัดค่ารถ ให้พี่เข้มเขา

ขอบคุณนะคะที่ยังติดตามและถามหากันอยู่

ใกล้จะครบคู่แล้วนะ ตอนต่อไปตอนต่อไป เดี๋ยวไปจับฉลากก่อนเอาใครดีน้า
มาช้าแต่มาค่ะ รอหน่อยนะ
