>>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )  (อ่าน 1623480 ครั้ง)

ออฟไลน์ GnA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :haun4: หน้าเทียน  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ reborn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
นายเอกเปรี้ยวอ่ะ ชอบๆ :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
โอยไม่ไหวจะฮากับความคิดของหนู หนูนี่มันน่ารักอ่ะ :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
หนูน่าร๊ากกกกกก :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
โอยอิหนู ข้ารักเอ็งเลยว่ะเฮ้ย :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
กูไม่อยากนอกใจเมีย เอิ่ม เฮียจัดการรวบรัดตัดตอนให้เมียเป็นเมียซะ :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
อร๊ายยย อิเฮียกับอิหนูทำเอายิ้มเป็นแถบๆ o18 o18 o18

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
โอยขำกับncที่อิหนูมาพากษ์ จะเอาฮาไปถึงไหนลูก :laugh: :laugh: :m20: :m20: :pigha2:

ออฟไลน์ risanana

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Sapphire moon~Dark BluE..

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ รักนิยายเรื่องนี้จริงๆ ทุกคนเลย  :hao5:
เสียดายมากกก พออ่านถึงบรรทัดได้แต่แบ่บ อ้าวจบแล้วเหรอ ยังอยากให้มีต่อเรื่อยๆเลยค่ะ
ส่วนตัวอยากลุ้นคู่หมอฉัดกับพ่อนก แอร๊ยยยยย สองคนนี้น่ารักมากกกกก ขำแต่พ่อนกอยู่คนเดียว ฮา
น้องหนูของเฮียอีกคน อิอิ :hao3:

ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้มากเลยนะคะ

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
ไม่ได้แวะมาเยี่ยมนาน คิดถึงทุกตัวละครและคนเขียนมาก :กอด1:

 +1 ขอบคุณสำหรับทุกๆตอนพิเศษนะครับ  :pig4:

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
คู่หนูเฮีย ก้อแจ๋ว คู่สองนายก้อแจ่ม ว้าว

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
รุนแรงเฟ่อร์  :hao6:

RedChaba

  • บุคคลทั่วไป
สนุกม๊ากกกค่ะ โดยเฉพาะคู่นาย  :-[

อยากให้เขียนคู่นายอีก แยกออกมาอีกเรื่องก้อได้ รวมเล่มก้อจะซื้อ
จิ้นคู่นี้ตั้งแต่แรก แล้วสุดท้ายก้อมีซัมธิงกันจิงๆ กิ๊สสสสส
รักเทียนเฟย :mew1:


ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
>>พิเศษ  เฮ้อ! เสร็จสักที <<

“เอาไว้เฮียกลับไปกอดที่บ้านนะ จะกอดทุกวันเลย”

“หนูจะรอ”

“เฮียไปนะ รอเฮียที่บ้าน”

“หนูจะรอ เฮียสัญญาแล้วนะ”

“เฮียสัญญา”


ผมเดินกลับเข้าเรือนจำ หลังจากได้พบหน้าคนที่ผมอยากเจอมากที่สุด รักที่สุด ไม่ใช่แค่ได้เจอ ได้คุย ยังได้สัมผัสกอดรัดโอบร่างและกลิ่นกายที่คุ้นเคยจนไม่อยากจะปล่อยออกจากอ้อมแขน ใบหน้าที่มีรอยยิ้มสดใส เหมือนแสงสว่างส่องให้ใจผมมีกำลังในทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ ระหว่างที่ยื่นของให้เจ้าหน้าที่ตรวจอีกครั้ง ผมรู้สึกได้ว่าหนูยังไม่ได้ไปจากตรงนั้น ผมต้องบังคับคอกับใจไม่ให้หันกลับไปมอง กลัวจะอดใจไม่ไหวหาคดีมาเพิ่มให้หนู เพื่อจะได้เข้ามาอยู่ด้วยกัน ผมเลยต้องตัดใจเดินกลับเข้าข้างในอย่างเร็ว

“ดร. ไม่ทราบว่าวันนี้ว่างหรือยังครับ”เสียงเจ้าหน้าที่ถามผมขณะกำลังจะกลับเรือนนอน เอาของไปเก็บและเผื่อไอ้พวกนั้นด้วย ก็เจอเจ้าหน้าที่ดักไว้ก่อน ผมรู้ว่าเขามาเรื่องอะไร

“วันนี้คงจะยัง ผมขอเป็นพรุ่งนี้แล้วกัน ช่วยบอกท่านด้วย”ผมบอกและเดินไปทันทีไม่รอคำตอบ

“แต่ท่านต้องการพบ ดร. วันนี้”เสียงเจ้าหน้าที่เดินกึ่งวิ่งมาบอกผม

“ผมให้ได้พรุ่งนี้ ไปแน่นอน”ผมบอกแค่นั้นโดยไม่หันไปมองและเดินต่อ พอถึงมุมผมลอบถอนหายใจ เสร็จสิ้นการปิดคดีก็น่าจะจบเรื่อง ยังต้องมาข้องเกี่ยวกับบุคคลมีอิทธิพลในนี้อีก เวลาข้างนอกใหญ่โตก็ไม่รู้จักจะทำความดี พอถูกจับได้ก็มาใหญ่ในนี้แทนที่จะทำความดีลบล้างกลับใช้อำนาจที่มีอยู่ในทางที่ผิดขึ้นไปอีก แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในนี้หลายคนยังต้องยอมสยบให้ ถึงจะมีการปรับเปลี่ยนหลายรุ่นแล้วก็ตาม ใครไม่เอนเอียงอาจถูกเก็บได้ บางคนก็ไม่ได้อยากจะทำแต่บางครั้งก็เอาหูไปทำนาเอาตาไปทำไร่ซะ เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวที่ถูกดึงมาเกี่ยวด้วย

“มายืนทำใจอะไรล่ะ คุณ ดร.”เสียงทักทายเชิงเหน็บ น่าเบื่อไอ้เห็บหมัดพวกนี้ซะจริง ลูกพี่ยังไงลูกน้องอย่างนั้น ถือว่ามีคนยกหางให้ ทำให้เผยอลิ้นสองแฉกได้สะดวก ตัวที่เอามาเปรียบยังมีประโยชน์ทำดีมากกว่าคนพวกนี้ซะอีกกินเป็นที่เป็นทางกินเสร็จก็เก็บไม่เหลือซาก ไอ้พวกนี้กินไม่พอยังทิ้งขว้างซากไม่เก็บ ต้องรอคนมาตามกวาดล้างให้

“ไม่คิดว่าเล่นตัวไปหน่อยเหรอ ตอนนี้ก็ไม่มีนายแล้วนี่”ยังกอดอกยกยิ้มพูดใส่ ไอ้ปราชญ์ คนฉลาดและเก่งของท่าน นิสัยมันคล้ายไอ้ทวน ซื่อสัตย์ต่อนาย ตายแทนนาย และก็หวาดระแวงว่านายจะหาใครมาเทียบกับมัน ลูกน้องมันยืนไม่ห่างนักหันหน้าไปคนล่ะทาง ผมกำลังเลี่ยง แต่มันตามมาขวางหน้าไว้ก่อน

“ไม่คิด มีอะไรอีกไหม”ผมตอบเรียบๆจ้องหน้ามันที่ยังยิ้มท้าท้ายเหมือนเดิม ก่อนมันจะหลุบตาลงมองของในมือ

“คนมาเยี่ยมมึงนี่ น่ารักดีนะ ไม่ยักรู้ว่ามีน้องชายน่ารักอีกคน นึกว่ามีแค่คนเดียว น้องสาวคนสวย รวมถึงลูกชายสุดที่รัก แค่นั้นซะอีก หึหึ”มันเอ่ยขึ้นมาอย่างรู้ประวัติผมเป็นอย่างดี มันคงจะให้ผมตกใจ

“แสดงว่าสายสืบมึงคงตกข่าวลืมรายงานเรื่องหมาที่อยู่บ้านด้วยว่ามีกี่ตัว”ผมบอกมันกลับด้วยท่าทีตามเดิม มันชักสีหน้านิดหน่อย คงจะผิดหวังที่ไม่เต้นตามมันและยังกวนตีนมันด้วย ก็ผมพูดเรื่องจริง บ้านหนูมีหมาที่ซื่อสัตย์ชื่อ ตะบัน อีกตัวพร้อมลูกเมียมันด้วย

“หึ อย่าทนงไปนักเลยว่า จะพ้นมือท่านได้ ถึงครอบครัวมึงจะอยู่ที่ปลอดภัย แต่น้องมึงคนนี้ก็ไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่เลยนี่ อยู่บ้านกับพ่อ และ บอดี้การ์ดอีกคน”มันยังพูดต่อเพื่อยั่วยุให้ผมตอบสนองความต้องการของมัน นับว่าท่านกับมันทำการบ้านมาดีมาก แต่ไม่เข้าใจจะยุ่งกับผมทำไม ในเมื่อไอ้ปราชญ์มันก็เข้าขั้นเหมือนกัน มันเป็นนักโทษที่เรียกได้ว่า ขาใหญ่ทุกแดนต้องยอมสยบ รวมถึงเจ้าหน้าที่บางคนด้วย มันก็คนมีอำนาจไม่น้อย ฐานะบ้านมันจัดว่าดี พ่อมันเป็นลูกน้องท่านมาก่อน เรียกว่า สืบสันดานรุ่นต่อรุ่น  นายตำรวจที่จับท่านเข้าคุกได้เป็นคนมีฝีมือและซื่อสัตย์ต่อหน้าที่มาก ท่านจากไปแล้วหลังท่านติดคุกได้สองปี ก็ถูกสั่งเก็บจนได้ หลังจากรอดมาได้หลายครั้ง ที่จริงไอ้ปราชญ์มันไม่ได้ต้องติดคุกหรอก มันเหมือนผมตรงที่มาติดแทน พ่อ มันที่เป็นฝ่ายลงมือและถือว่าเข้ามาคุ้มครองท่านด้วย เพราะสร้างศัตรูมากกว่ามิตรก็เลยถูกสั่งเก็บเหมือนกัน

“แล้วมึงคิดว่า พ่อที่อยู่บ้านกับแม่ เมีย และ ลูกอีกสองคนของมึง จะอยู่ดีหรือเปล่า บอดี้การ์ดอยู่ตามจุดสำคัญแค่สี่จุด นับจากหลังบ้านสามคน หน้าบ้านอีกห้า ด้านข้างอีกสองแต่เสือกโง่ถูกไฟดูดตายไปซะหนึ่ง ร็อตไวเลอร์สามตัวที่เลี้ยงไว้ระวังจะขย้ำคนสำคัญของมึงเข้าล่ะ  ได้ข่าววันนี้วันเกิดลูกชายคนเล็กไม่ใช่เหรอ น่าเสียดายนะที่มึงไม่ได้ไป ได้แต่โทรไปอวยพรและส่งของขวัญไปให้ บอกลูกว่า พ่อยุ่งกับงานอยู่ต่างประเทศ ก็นับว่าเป็นพ่อที่ดีอยู่”ผมบอกมันกลับไปบ้าง คาดว่าน่าจะตื่นเต้นยิ่งกว่าของผม มันได้เงียบกริบ หน้าถ้าไม่รองพื้นก็เปลี่ยนสีได้ในระดับหนึ่ง ไหนๆก็พูดแล้ว

“นี่กูยังไม่รวมถึงญาติมึงที่กระจัดกระจายอยู่ ต่างประเทศโดยใช้กรีนการ์ดปลอมอีกนะ ลบประวัติแต่ไม่ล้างนิสัยชอบคุยโวโอ้อวดถึงตระกูลอันใหญ่โตรู้จักคนมีชื่อในด้านเสีย สันดานมันก็เผยให้รู้เองว่าเป็นใครมาก่อน แต่กูจะไม่ยุ่งหรอกนะถ้าไม่มีเรื่องกูกับคนสำคัญกูเข้าไปเกี่ยว”ผมสาธยายถึงญาติพี่น้องมันที่ต้องบอกว่า สันดานรุ่นต่อรุ่นจริงๆ

“ไอ้ ดร.”มันเรียกตำแหน่งที่ผมสละมานานแล้ว ลอดไรฟัน มือกำแน่นกลัวจะอดยกนิ้วโป้งชมกูไม่ได้ล่ะสิ ที่สืบได้ละเอียดมากกว่ามึง ผมเริ่มสืบเพื่อป้องกันตั้งแต่ท่านของมันอยากจะเกี่ยวข้องกับผมแล้ว

“อย่าคิดว่าแค่นี้มึงจะเป็นต่อได้ ใครจังหวะดีกว่าก็ลงมือได้ก่อน ใครจะรู้ว่าน้องคนสำคัญของมึง รถอาจจะแหกโค้งแล้วก็ได้ หลังจากออกที่นี่ไป หึหึ”มันยังไม่ยอมแพ้พูดขู่ต่อไปอีก

“กูเพิ่งจะชมว่ามึงเป็นพ่อที่ดี คงต้องเอาคืนซะแล้วสิ”ผมยังไม่แสดงความกลัวออกมาให้มันเห็น ไม่ใช่ผมทะนงตัว ทุกอย่างเกิดขึ้นได้แค่พริบตา แต่ผมมั่นใจว่า หนูของเฮีย จะไม่เป็นอะไรแน่นอน พวกมันยังไม่กล้าลงมือถ้ายังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ

“มึงต่างจากกูตรงไหน มึงก็หลอกลูกมึงเหมือนกัน”มันแสยะยิ้มพูดใส่ผม เดินมาใกล้

“ต่างตรงที่ กูไม่เอาชีวิตลูกหรือคนในครอบครัวต้องมาเสี่ยงตายเพราะคนอื่นยังไงล่ะ”ผมพูดเรียบแต่เน้นให้มันฟัง มันหรี่ตาใส่ ผมพูดต่ออย่างรู้ว่ามันคิดจะพูดอะไรมันน่าจะเอาความซื่อสัตย์และรู้จักตอบแทนบุญคุณไปใช้ในทางที่ถูกนะ

“กูเข้าใจว่าคนเราต้องตอบแทนบุญคุณ แต่มันเลือกตอบแทนได้ นายของมึงก็เลือกได้ แต่เขาเลือกอำนาจมากกว่าครอบครัวยังไงล่ะ ถึงต้องเป็นแบบนี้ มีความสุขกันไหมล่ะกับอำนาจที่สร้างขึ้นมา แต่ที่สำคัญ กูไม่อยากทำผิดเป็นครั้งที่สอง กูอยากกลับไปหาครอบครัวและใช้ชีวิตอิสระข้างนอกมากกว่าจะได้แค่คิดถึงในนี้ถึงจะรู้ว่ามีกองเงินกองทองให้พวกเขาใช้อย่างสุขสบายไปทั้งชาติ หรือมึงคิดว่า อีกไม่นานจะออกไปจากที่นี่ก่อนกำหนด มึงมั่นใจได้ยังไงว่าจะได้ออกไป”ไม่รู้สิ่งที่ผมพูดออกไปมันจะเข้าใจและคิดได้บ้างไหม เพราะชั่ววูบเหมือนจะเห็นสีหน้าหมองของมันเมื่อพูดถึงลูกและครอบครัวที่มันรักไม่ต่างจากผม

“หึ คิดจะเปลี่ยนความคิดกูเหรอ คงยาก ท่านไม่มีวันทิ้งครอบครัวกูหรอก ยังไงก็ต้องได้ออกไป และกูเชื่อว่าท่านต้องพูดกับมึงได้แน่นอน ถ้ามึงไม่ตกลง มึงกับครอบครัวรวมถึงเพื่อนพ้องมึงด้วยไม่รอดแน่ ต่อให้นายมึงยื่นมือมาช่วยก็เถอะ”ผมคิดว่ามันต้องเขวบ้าง แต่มันยังยึดติดกับคนที่มีพระคุณกับครอบครัวมันอยู่ หรือไม่ก็มันกลัวครอบครัวมันจะได้รับอันตรายจากนายเหนือหัวของมันก็เป็นได้ เพราะนั่นเท่ากับว่ามัน ทรยศ แต่มันก็ยังเลือกที่ข่มขู่ผมเพื่อกลบความลังเลของมัน

“มึงคิดเองไม่เป็นเหรอ ถึงต้องให้ใครต่อใครมาเปลี่ยน เอาเป็นว่ากูจะไปพบนายมึงพรุ่งนี้ ถ้าไม่ตกลงกูก็ไม่เหมือนกัน เพราะกูเป็นคนมีความคิดเป็นของตัวเองมากพอที่จะไม่ต้องใช้สายจูง”ผมบอกมันที่มองหน้า แต่ทำอะไรไม่ได้ คงจะอึดอัดสิ้นดี มันจะลงมือก็ต่อเมื่อท่านของมันสั่ง ตอนนี้คงต้องเก็บผมไว้ก่อน

“ปากดีไปเถอะมึง กูจะดูสิว่าพรุ่งนี้มึงจะยังปากดีเหมือนเดิมไหม”มันยื่นหน้ามาพูดใกล้พร้อมแสยะยิ้ม ก่อนจะมองของในมือผมอีกครั้ง ไม่รู้มันอยากกินหรือว่ายังไง ถ้าอยากกินขอดีๆก็จะให้ แต่ถ้ากระชากจากมือ มันต้องเจ็บปากก่อนผมแน่นอน

“มึงก็อยู่ดีสิ ถ้าไม่รีบไปไหนก่อน”ผมยกยิ้มมุมปากให้มันที่จ้องหน้าผม ก่อนจะหมุนตัวกลับไป ผมมองมันจนลับตา

“เสียมารยาทนะพวกมึง”ผมพูดขึ้นมา ไอ้พวกที่รู้ตัวโผล่ออกมาทีล่ะคนจนครบ

“ได้กลิ่นพวกกูด้วย”ไอ้โจ๊กพูดติดตลกพอกับไอ้ปาน ถัดไปก็ว่าที่คู่กันในเวลาอันใกล้ เข้ม รัน และ ไอ้พัฒน์ กับ ลูกน้อง

“ก็กลิ่นโคลนพวกมึงมันแรง”ผมหยอกมันกลับไปบ้าง ตั้งแต่ผมรู้จักกับหนู ผมรู้สึกว่าตัวเองมีสีสันมากขึ้น จากแต่ก่อนมีแค่ ดำ เทา

“มึงก็ไปว่า ไอ้รัน ไอ้เข้ม มันจมปลักในหลุมโคลนแห่งความรัก”ไอ้โจ๊กหันไปพูดแหย่ไอ้คู่นั้น

“หลุมขี้มึงสิ ไอ้โจ๊ก”ไอ้รันพูดพร้อมถีบมัน ไอ้เข้มกลับแอบอมยิ้ม

“กูเห็นมันมายืนอยู่สักพัก กะแล้วต้องดักมึงแน่”ไอ้พัฒน์เอ่ยขึ้น ก่อนจะพากันไปนั่งอีกทาง ไอ้พัฒน์ให้ลูกน้องไปดูต้นทางไว้ด้วยเผื่อผู้คุมผ่านมา ยิ่งห้ามชุมนุมเกินสองคนอยู่ด้วย

“ทำไมมันต้องมายุ่งกับพวกเราด้วยวะ คนอื่นๆ ยังเข้าใจ ไอ้ปราชญ์กับนายมันทำไมดื้อด้านจังวะ”ไอ้ปานกลับมาโหมดเข้ม

“จะอะไร ก็มันอยากให้ไอ้เฮียทำเหมือนที่ทำให้นายน่ะสิ แต่อุดมการณ์มันต่างกับนาย”ไอ้เข้มพูดอย่างรู้ดีเหมือนที่ผมรู้ เพราะมันก็โดนเรียกไม่ต่างจากผม แต่นับว่ามันกลับตัวกลับใจจริงๆ ปฏิเสธไปหมด คงเพราะไอ้คนข้างตัวมันส่วนหนึ่ง กลับอีกอย่างมันรับปากนายแล้วว่าจะกลับตัว ทั้งที่นายไม่ได้บังคับมัน แต่มันทำเพราะรักและเคารพในตัวนายมาก

“แล้วมึงจะเอายังไง จะไปหาเขาเหรอ”ไอ้รันถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเป็นห่วง พวกมันพยักหน้ากับคำพูดไอ้รัน

“กูต้องไป ถึงไม่ไปเขาก็ไม่เลิกหรอก”ผมบอกพวกมัน ตามที่ได้พูดกับลูกน้องท่านไปแล้ว ไม่ใช่กลัวแต่อยากยุติเรื่องที่ไม่อยากไปเกี่ยวข้องอีก มันไม่ใช่เพื่อชาติ เพื่อส่วนรวม มันคือส่วนตัวของเขา โดยให้ค่าจ้างผมตามที่ต้องการ ถ้าพาเขาออกจากที่นี่ได้ที่จริงถ้าผมไม่กลับมาก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ก็ได้ แต่ที่ผมต้องอยู่ต่อก็เพราะไอ้พวกนี้ส่วนหนึ่ง พอรู้ว่าไม่มีนายก็จะดึงไปอยู่ด้วย และให้พวกมันทำเหมือนที่เคยทำซึ่งพวกมันก็ไม่ทำ เลยเหมือนจะอยู่ยาก ถูกแกล้ง ถูกใส่ร้าย เหมือนอย่างที่ไอ้เข้มเคยเจอมาแล้วพวกมันอย่างอยู่อย่างสงบ ทำความดีเพื่อที่จะได้ออกไปจากที่นี่ ผมไม่ได้เก่งหรือเป็นเจ้าชีวิตพวกมัน แต่พวกมันคือเพื่อนที่ร่วมชะตากรรมด้วยกันมา ผมต้องมั่นใจว่าเพื่อนพ้องผมจะไม่มีใครเป็นอะไรก่อนได้ออกไป และรวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่บางคนเป็นคนของท่านรอง จ้องจะเล่นงานผมและพวกมันอยู่เป็นการแก้แค้นชนิดเรียกว่าถึงตาย ผมถึงต้องตามเก็บให้เรียบร้อย ไม่ใช่ฆ่า แต่เป็นการโยกย้ายไม่ให้ผิดสังเกต ถ้าเป็นนักโทษด้วยกันถ้าจำเป็นต้องฆ่าก็ฆ่าได้เลย เป็นคำสั่งท่านอธิบดีฯ ที่บอกกับผมโดยตรง ไม่ต้องกลัวความผิด ท่านบอกว่าเพราะเป็นผมถึงได้ให้สิทธิ์ตรงนี้ แต่ไม่ใช่ท่านแค่คนเดียวมีบุคคลตำแหน่งอื่นที่เห็นด้วย แต่ท่านไม่เอ่ยนาม

‘คนชั่วบางครั้งก็ต้องใช้วิธีชั่วจัดการ ทั้งที่กฎหมายก็ให้โอกาส แต่ก็ยังทำตัวเหนือกฎหมายกัน’


ท่านกล่าวกับผมตอนที่ได้คุยกันส่วนตัว ท่านรู้มาตลอดว่าท่านรองฯ คิดไม่ซื่อกับท่าน ท่านก็ให้โอกาสกลับตัวกลับใจเพราะเห็นเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องเรียนด้วยกันมา แต่พอรู้ว่าคิดไม่ซื่อกับประเทศชาติ ท่านยอมไม่ได้

“มึงไม่ให้นายจัดการวะ นายน่าจะช่วยได้”ไอ้พัฒน์เสนอความเห็น ที่พวกมันเห็นด้วย

“นายควรจะได้มีชีวิตสงบสุขบ้าง เขาทำให้พวกเราและประเทศมากกว่าคนในประเทศบางคนซะอีก และกูคิดว่านายก็ต้องระวังตัวไม่ต่างจากพวกเราเหมือนกัน อย่าเอาภาระไปให้นายอีกเลย เอาไว้ให้มันหมดหนทาง นายจะเป็นคนสุดท้ายที่กูนึกถึง”ผมบอกพวกมันอย่างสำนึกในบุญคุณของนายที่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา นายมีทั้งสองด้าน แต่ทั้งสองด้าน นายมีความยุติธรรมให้ทุกคนเสมอ

“ใช่ กูก็คิดเหมือนไอ้เฮีย นายควรจะได้พักบ้าง กูไม่มีปัญหาอะไรหรอก ตายก็ไม่มีอะไรให้ห่วง แต่กูจะต้องอยู่ส่งคนที่ห่วงกลับบ้านให้ได้ก่อน”ไอ้เข้มคิดเหมือนผม แต่ประโยคท้ายๆ มันหันไปพูดกับคนข้างตัวมัน ที่มองไปทางอื่น ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก ถึงจะน้ำเน่าแต่ก็แฝงไปด้วยความจริงใจ ไม่น่าอาย ผมก็ทำมาแล้ว จะเป็นอะไรทำเพื่อคนที่เรารัก

“กูจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”ผมตัดบทบอกพวกมัน และลุกขึ้น

“และถ้าไม่จบล่ะวะ”ไอ้โจ๊กถามเสียงกังวล

“มันต้องจบ”ผมบอกแค่นั้นก่อนจะเดินกลับเรือนนอนสักที ยังมีอะไรต้องไปทำต่ออีก

.
.
.
.

“กูไปเป็นเพื่อนดีกว่า เผื่อพวกมันตุกติก มันคงไม่ว่าหรอก เผลอๆจะคิดว่าได้พวกเพิทม”ไอ้เข้มเอ่ยกับผม หลังกินข้าวเสร็จแล้ว มันเดินเลี่ยงมาหา

“ไม่เป็นไร มึงดูทางนี้ดีกว่า”ผมบอกมันที่ดูก็ยังเป็นห่วง ก่อนจะพยักหน้า

“กูไม่ไว้ใจพวกมันเลย มึงกะเวลาไว้เท่าไหร่”มันถามกำหนดเวลา ผมเลิกคิ้ว มันพูดต่อเสียงจริงจังพอกับหน้า “หมายถึง ถ้ามึงยังไม่กลับออกมา กูจะต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง”

“น่าจะไม่เกินชั่วโมง”ผมกะเวลาไว้ประมาณนั้น ถ้าฝ่ายนั้นเข้าใจตรงกัน ก็น่าจะเสร็จเรื่องเร็ว ผมจะให้ทุกอย่างจบอย่างเรียบง่ายที่สุด มากกว่าจะมีการสูญเสีย หรือสร้างความเจ็บแค้นต่อกัน

“กูขอแล้วกัน ถ้าภายในหนึ่งชั่วโมง มึงยังไม่กลับออกมา กูขอจัดการต่อ”มันพูดมัดมือชก ไม่ให้ผมปฏิเสธ ไอ้สามตัวแอบดูเช่นเคย มันคงให้ไอ้เข้มเป็นทัพหน้ามาหาผม แต่ถึงไม่ผมว่าไอ้เข้มก็ต้องมาอยู่ดี

“อืม แต่อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่นะมึง เอาอย่างนี้ ถ้ากูยังไม่ออกมา”ผมพยักหน้าก่อนพูดกันไว้ก่อนดีกว่า มันยอมรับฟัง ผมค่อยเบาใจที่มันไม่ดื้อรั้น

“แต่ถ้าพวกนั้นช้า กูจัดเองเลยนะ”อืม มันยังดื้ออีกนิดหน่อย ผมก็พยักหน้า เอาเถอะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ต่างคนต่างพนักหน้าให้กัน และหันหลังไปตามทิศทางของตัวเอง เดินมาสักพักก็ถึงประตูที่จะไปอีกฝั่ง มีเจ้าหน้าควบคุมเป็นพิเศษ และไม่ใช่พิเศษแค่การควบคุม รวมไปถึงความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเขตที่นักโทษทั่วไปถูกจองจำ

“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว”เสียงเดิมดังขึ้น มันทิ้งบุหรี่ลงถัง นี่ก็สิทธิอีกอย่างที่นักโทษทั่วไปทำไม่ได้

“ไม่ได้ความจำสั้น พูดอะไรไปแล้วจำไม่ได้”ผมบอกมัน เดินนำก่อนจะรู้สึกถึงแรงดึงอย่างแรง เลยปัดด้วยแรงไม่แพ้กัน จนทำให้มันเซได้

“ถ้ามึงไม่ตกลงวันนี้มึงไม่ได้ออกไปแน่”มันพูดพร้อมชี้หน้าผม

“บอกตัวเองจะดีกว่า ถ้าไม่คิดจะกลับตัว ลูกอาจจะจำหน้ามึงไม่ได้แล้ว หรือจำได้ก็คงผิดหวังที่มีพ่อไม่สำนึก ถ้าได้รับการอบรมที่ดีนะ”ครั้งสุดท้ายที่ผมจะพูดกับมันเรื่องนี้ ผมไม่รอฟังว่ามันจะพูดอะไรต่อ ไปทำธุระให้เสร็จดีกว่า ไม่มีส่วนไหนของที่นี่จะทำให้หายใจสะดวกเท่ากับข้างนอก ยิ่งมีครอบครัวที่รักรอเราอยู่ ยิ่งอยากออกไปหายใจด้วย ผมปล่อยความคิดจนมาถึงที่ต้องเข้าไป ซึ่งเคยเป็นที่ผมเข้าออกนับไม่ถ้วนสมัยนายยังอยู่ เลยไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก ก่อนหน้าเข้ามาสามครั้งก็เรื่องเดียวกันแต่ผมปฏิเสธไปหมด นี่ดูหนังหรือซีรีย์กันมากไปหรือเปล่า ถ้าแหกกันได้ง่ายไม่ต้องมีเรือนจำแล้ว และสาเหตุที่จะออกไปมันต่างกัน ผมช่วยนายเพราะเป็นเรื่องส่วนรวมของประเทศชาติ และนายก็ไม่ได้ทำผิด กว่าผมจะช่วยนายก็ใช้เวลาเกือบปีที่จะให้เพื่อนช่วยสืบข้อมูลเท็จจริงให้ หลังจากนั้นก็เกือบหกเดือนถึงออกไปได้ แต่นี่เขายื่นข้อเสนอให้เวลาผมแค่สองอาทิตย์ ถึงให้นานกว่านี้ผมก็ไม่ทำ

“กว่าจะมาได้นะ ดร. กรกฎ”คนตรงหน้าเป็นอดีตรัฐมนตรีชื่อดัง ย่างเข้าวัยห้าสิบ แต่รูปร่างหน้าตาและบุคลิกทำให้ดูหนุ่มกว่าอายุจริงมาก เขาโบกมือให้นักโทษรูปร่างโปร่ง หน้าตาจัดว่าดี ออกไปก่อน ก็เป็นเรื่องปกติของที่นี่ล่ะนะ อีกฝ่ายยิ้มให้อย่างมีความหมาย ผมไม่ได้ตอบรับไมตรีนั้น ผู้ชายคนเดียวที่ผมรักมีแค่ หนูของเฮีย เท่านั้น ป่านนี้ทำอะไรอยู่นะ

“ผมต้องทำงานของนักโทษตามหน้าที่”ผมตอบเขาตามจริง ก่อนจะปรายตามอง ไอ้ปราชญ์ที่ยืนกอดอกไม่ห่างนัก

“ทำงานกับ ผอ. น่ะเหรอ อะไรบ้างล่ะ ขุดคุ้ยข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ซื่อสัตย์ รวมไปถึงหลักฐานของคนอื่นๆด้วยใช่ไหม มิน่าล่ะ ได้ยินนักโทษบางคนพูดว่า ถ้าเก่งและมีความรู้ถึงจะติดคุกก็ได้ทำงานสบายๆ”เขาพูดกลับด้วยรอยยิ้มมุมปาก ลูกน้องคนสนิทเหยียดยิ้มกับคำพูดดักทางเชิงเหน็บของผู้เป็นนาย

“ครับ ผมก็ช่วยเท่าที่ทำได้ในส่วนตรงนั้น แต่ไม่ใช่แค่ขุดคุ้ย งานขุดท่อ ลอกคลอง ถางหญ้า ผมก็ทำเหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้รู้สึกแบ่งแยกแต่อย่างใด ยังไงก็นักโทษเหมือนกัน ไอ้ที่ได้ยินมาคงเป็นคนที่มันไม่ทำอะไรวันๆได้แต่จับผิดคนอื่นมากกว่า”ผมตอบกลับอย่างไม่รู้สึกอะไรกับการที่เขารู้ เพราะเจ้าหน้าที่บางคนเป็นสายให้เขาแต่รู้สึกคำพูดผมคงไปกระทบโสตประสาทไอ้คนยืนกอดอก

“พูดอะไรระวังปากหน่อย มึงว่าใคร”มันเดินเข้าพูดใส่ นายมันมองหน้าก่อนจะพยักหน้าให้กลับไปที่เดิม คนฉลาดไม่ว่าจะในทางไหน มักจะควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า เพื่อจะรอเวลาเอาคืนให้กระอัก

“ก็ดีนะ ช่วยให้ลดโทษไปได้เยอะเลยนี่”เขายังพูดต่อ ก่อนจะหยิบบุหรี่นอกมาสูบ ยื่นมาพร้อมพยักหน้าให้ผมหยิบไปสูบได้ แต่ผมทำแค่ก้มหัวนิดๆ เป็นการขอบคุณตามมารยาท

“ถึงไม่ทำ ผมก็ได้ออกไปอยู่แล้ว”ผมยังบอกเขาด้วยน้ำเสียงเดิม กลิ่นควันบุหรี่ลอยอบอวลไปทั่วห้อง กลิ่นมันหอมนุ่มสมยี่ห้อและราคา แต่ให้คุณค่าทางมะเร็งเท่ากัน  ถ้าหนูของเฮียอยู่ด้วยคงจามไม่หยุดแน่ นึกถึงหนูทีไรผมมีความสุขทุกที รวมถึงลูกที่รักด้วย อยากให้เราเป็นครอบครัวสักที

“น่าอิจฉานะ ผมก็มีครอบครัวรออยู่เหมือนกัน คุณคงเข้าใจความรู้สึกใช่ไหม”เขาพยักหน้าช้าพูดเสียงทุ้มเนิบตามเดิม

“ครับ ผมถึงต้องทำสิ่งดีๆเพื่อที่จะได้กลับไปหาครอบครัวผมสักที ก็คงไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่คิด คนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน”เขาเริ่มพูดถึงครอบครัวเพื่อจะเป็นการเข้าเรื่องที่ต้องการสักที ผมอยากจะพูดออกไปก่อนด้วยซ้ำ แต่คิดว่าใจเย็นรอดูทีท่าเขาต่อไปจะดีกว่า

“นอกจากทำประโยชน์ ทำความดีชดเชย ซึ่งมันก็นานพอดูนะ ถึงจะมีการลดหย่อนให้ แต่ก็ต้องดูพฤติกรรมและคดีที่ก่อด้วยว่าสมควรได้รับหรือเปล่า ซึ่งบางครั้งก็ไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่”ใกล้เวลาที่เขาจะเข้าเรื่อง แต่ยังค่อยๆชักน้ำ เอ้อ แม่น้ำให้มารวมกัน

“ผมว่าถ้าเราทำความดีจริงๆ ยังไงความยุติธรรมก็ต้องมองเห็น นอกจากว่าเราคิดไปเองว่ามันไม่มี เพราะคิดว่ามันนานเกินไปกว่าจะปรากฏก็เลยท้อถอย หันไปใช้วิธีลัดแทน ซึ่งสำหรับผมไม่เห็นด้วย ผมยินดีจะก้มหน้ารับความผิดที่ตัวเองก่อเอาไว้มากกว่า”ผมพูดเพื่อให้เขาชักเข้าเรื่องให้เร็วขึ้น นี่แค่พูดดูเชิงไปมาก็ปาเข้าไปยี่สิบนาทีแล้ว

“ผมให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย เท่าไหร่ที่คุณต้องการ ผมจะให้คนของผมโอนเข้าทันทีไม่ถึงสิบนาที”เขายื่นหน้าข้ามโต๊ะมาพูดใกล้ๆ ทางหางตาผมเห็นคนสนิทเขาสอดมือเข้าไปใต้เสื้อซึ่งเหน็บมีดอยู่ ผมรู้ตั้งแต่ปัดมือไปโดนแถวเอวมันแล้ว

“ผมก็ไม่ขอรับโอกาสนี้เป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน”ผมพูดกลับด้วยความมั่นใจและตัดสินใจเหมือนตอนแรกที่ได้เคยบอกไปแล้วว่า ‘ไม่’เขาจ้องหน้าหรี่ตาใส่

“คุณไม่รักครอบครัวคุณบ้างเลยหรือไง ผมอยู่ในนี้ก็จริง แต่ก่อนที่ผมจะคุยกับคุณไม่คิดว่าผมวางแผนอะไรบ้างเหรอ น้องสาว น้องชาย และ ลูกชายสุดที่รัก คุณอยู่ที่อังกฤษ ไหนจะตัวประกันที่พลิกผันเป็นคนสำคัญของคุณกับพ่อที่บ้านอีกล่ะ จะปล่อยให้เขาไม่มีชีวิตรอรับคุณในวันที่ออกไปจากที่นี่หรือไง”เขาแสยะยิ้ม เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา

“ก็เพราะผมรักพวกเขา ผมถึงคิดได้ว่า ไม่ควรหันกลับไปทำสิ่งชั่วร้ายให้พวกเขาผิดหวังในตัวผมอีก ครั้งแรกมันคือความไม่ตั้งใจ พวกเขาให้อภัยได้ ครั้งต่อไปคือความตั้งใจ พวกเขาก็ยังให้อภัย แต่ความรู้สึกที่เขารักเรามันคงไม่เหมือนเดิม คุณก็มีครอบครัวน่าจะรู้ดีนะ ถ้าคุณคิดว่าจะทำร้ายพวกเขาได้ ผมก็ปกป้องพวกเขาได้เช่นกัน”ผมยังไม่ได้ขยับตัวไปไหน ทั้งที่ไอ้ปราชญ์ยืนประชิดข้างหลัง

“คุณคิดว่าผมไม่กล้าสั่งคนเก็บครอบคุณ และตัวคุณเหรอ คุณคิดว่าถ้าคุณไม่ออกไปภายในเวลาที่บอกกับทางโน้นไว้ ผมจะเดือดร้อนใช่ไหม หืม”เขาลอยหน้าพูดใส่ด้วยรอยยิ้มเยาะหยัน ไอ้ปราชญ์หัวเราะในลำคอหยิบสิ่งนั้นออกมา

“ผมไม่ทราบว่าคุณจะเดือดร้อนไหม แต่ไอ้ที่ถือมืดจ่อข้างหลังผมอยู่มันอาจจะเดือดร้อนจนถึงขั้นทุกข์ร้อนก็ได้”ผมพูดก่อนจะสะดุ้งเมื่อมันออกแรงกดตรงท้ายทอย ผมกลั้นเสียงไม่ให้เล็ดลอดออกไป

“มึงหมายความว่ายังไง มึงทำอะไรครอบครัวกู หา!”มันตะคอกเสียงดัง จนนายมันมองหน้าให้สงบสติอารมณ์ไว้หน่อย

“มึงทำ ไม่ใช่กูทำ ถ้ามึงอยากรู้ก็โทรไปถามสิ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาจะว่างรับสายมึงหรือเปล่า เพราะกำลังเสียเงินปิดข่าวและหาที่ปลอดภัยกันใหม่”ผมเอียงหน้าไปพูดกับมันเล็กน้อย มันมองหน้านายอย่างช่างใจว่าจะเชื่อดีไหม สุดท้าย นายมันเป็นฝ่ายหยิบมือถือจากลิ้นชักออกมายื่นให้มันดูมันกระวนกระวายแต่ยังพยายามระงับอยู่เมื่อไม่มีคนรับสายสักที

“ฮัลโหล นี่ฉันเอง เกิดอะไรขึ้น”มันกรอกเสียงลงไปเมื่อมีคนรับสาย ก่อนมันจะหายใจถี่ หน้าแดง

“เมื่อไหร่ มันเกิดขึ้นได้ยังไง”มันถามเบาลงแต่ยังเน้นเสียง “โอเค ที่รัก เดี๋ยวฉันจะติดต่อไปใหม่ ดูแลตัวเองกับลูกด้วย ยังไงคืนนี้ออกนอกประเทศไปเลย พ่อดำเนินเรื่องอยู่ใช่ไหม อืม แค่นี้ก่อน บอกพ่อเอาไว้คุยกันทีหลัง”

“เกิดอะไรขึ้น”นายมันถามเมื่อเห็นสีหน้ามันไม่ดี ขณะยื่นมือถือคืนให้

“เมื่อวานตอนจัดงานวันเกิดลูกผม มีคนแฝงตัวเข้ามาพร้อมวางระเบิด โชคดีที่การ์ดกันได้หวุดหวิด แต่ก็ได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า ฝีมือศัตรูเก่าเราครับนาย พ่อบอก”มันรายงานให้นายฟัง ผมรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว สายที่จับตาดูอยู่บอกเห็นคนท่าทางมีพิรุธ เลยทำให้มันเกิดซะก่อนตรงที่แรงระเบิดไม่ถึง แต่ผมไม่บอกมันหรอก ผมทำเพราะเห็นว่าคนพวกนั้นไม่สมควรจะต้องรับเคราะห์แทน แต่นี่แหละมันคือผลกรรมที่ทำไว้ แก้แค้น ชิงความเป็นใหญ่กันไปมาไม่มีที่สิ้นสุด

“แน่ใจ”นายมันถามย้ำ มองผมอย่างไม่ไว้ใจ หึ คงระแวงขึ้นมาล่ะสิ

“ครับ พ่อบอกจับคนของมันได้ มันรับสารภาพก่อนจะเก็บเรียบร้อยแล้ว พ่อว่าจะติดต่อมาหลังจากได้ที่ปลอดภัยแล้ว กลัวมันติดตามสัญญาณ พ่อแปลกใจเหมือนกันที่ผมรู้เรื่องนี้”มันพูดกับนายมันต่อแต่ปรายตามองผมที่ยังนั่งนิ่งตามเดิมสีหน้ามันเปลี่ยนไปเหมือนมันจะรู้ว่าผมรู้ทุกการเคลื่อนไหวครอบครัวมันหมด ส่วนนายมันเดินกลับมานั่งตรงหน้าผมตามเดิม

“คุณทำให้ผมทึ่งมากนะ ดร. แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมพึ่งคุณได้ยังไงกัน”ไอ้ปราชญ์มองหน้านายมันที่ยังพูดเรื่องนี้ต่อ

“ผมบอกตามตรง ผมไม่ได้เก่งกาจอะไรเลย ผมไม่ได้ทำคนเดียวหรือแม้แต่เพื่อนผมที่อยู่ในนี้ก็เช่นกัน นายเป็นใบเบิกทางให้ทุกอย่าง มีคนให้ความช่วยเหลือแต่ผมก็ไม่ทราบว่าใคร และผมยืนยันถ้าไม่มีเรื่องประเทศชาติมาเกี่ยวข้อง ผมไม่มีวันทำแน่นอน”ผมพูดความจริง ยกเว้นเรื่องแผน ตอนแรกที่นายเตรียมไว้มันพลาดเพราะมีเกลือเป็นหนอน ผมซ้อนแผนให้นายใหม่ทั้งหมดจนเราออกไปได้ อย่างหวุดหวิดเฉียดตาย แต่ผมถือว่ามันเป็นพรหมลิขิตให้ผมไปเจอ หนู

“สรุปคุณจะไม่ช่วย”เขาถามย้ำอีกครั้ง

“ครับ”ผมก็ตอบด้วยความมั่นใจเช่นกัน เขาหันไปมองลูกน้องคนสนิท ก่อนจะหันมาจ้องผมเขม็ง ผมขยับตัวลุกขึ้น ไอ้ปราชญ์ชักมีดออกมาทันที เพราะมันรู้ว่าผมต้องรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป

“ถ้าผมช่วย คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าผมจะไม่หักหลัง พาคุณกับพรรคพวกไปติดกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจจะทำให้ไม่มีโอกาสออกไปก็ได้ ถ้าเกิดเขาคิดจะถือโอกาสกำจัดคุณพร้อมยัดข้อหาให้โดยพวกเขาไม่มีความผิด คุณไม่คิดว่ามีใครส่งคนมาเก็บคุณในนี้บ้างเหรอ เพียงแต่รอเวลาและโอกาสที่เหมาะจะลงมือเท่านั้น ใช่ว่ามีแค่คุณขอให้ผมทำเรื่องนี้ ศัตรูของคุณก็ขอให้ผมหาโอกาสให้พวกเขาเช่นกัน เพียงแค่ผมบอกอีกฝ่ายที่ให้ข้อเสนอไม่ต่างกับคุณ ว่าพาคุณไปที่ไหน”ผมพูดในสิ่งที่ถึงเวลาแล้วต้องพูด คนเราให้ใหญ่แค่ไหนหูตากว้างไกลแค่ไหน ก็ต้องมีความระแวงแคลงใจบ้าง เขาหรี่ตาประเมินคำพูดผม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-06-2014 18:50:03 โดย goonglovenut »

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
“กำลังขู่ผมเหรอ ดร. แค่เรื่องเล็กน้อยที่คุณคาบมาบอกลูกน้องผม คิดว่าจะทำให้ผมกลัวอย่างนั้นเหรอ”เขายกยิ้มพูดใส่ผม แต่ถ้าเขาหันไปมองหน้าลูกน้องคนสนิทที่ซื่อสัตย์สักนิด จะเห็นสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด กับคำว่า เล็กน้อย ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวอันเป็นที่รักของมัน อืม กลายเป็นผลพลอยได้

“ผมไม่เคยขู่ใคร ผมแค่หวังดีบอกให้รู้เท่านั้น ในเมื่อมันน่าจะรู้ตั้งแต่เมื่อวาน จาก”ผมยกยิ้มพูดพร้อมกับเดินไปอีกมุม หยุดตรงประโยคท้ายมองหน้าเขาเป็นความนัย เท่านั้นมันหันไปมองหน้านายมันที่นิ่งไปทันที มันคงรู้ความหมายที่แฝงอยู่ในประโยคแต่มันเลือกที่จะรักษาหน้านายมันไว้ก่อน

“ผมไม่ชอบสร้างศัตรูกับใคร ผมอยากอยู่อย่างสงบกับครอบครัว เหมือนคนทั่วไป ถ้าผมรับปากช่วยคุณ ผมก็ไม่มีวันจบสิ้น คุณต้องไม่ปล่อยผมแน่นอนตราบใดที่ผมยังมีประโยชน์อยู่โดยเฉพาะคุณมีจุดประสงค์เดียวกันกับท่านรองฯ”ผมพูดต่อเมื่อเขาไม่พูดอะไร และก็ดูจะแทงใจเขามากกับจุดประสงค์ที่แท้จริงลึกๆ

“แต่ถ้าคุณคิดจะทำร้ายครอบครัวของผม แค่คุณกดโทรสั่งหรือจะใช้วิธีไหนก็แล้วแต่”ผมจ้องหน้าเขาอย่างไม่ลดละหรือแม้แต่จะหลบตา ผมอยากให้จดจำทุกคำพูดที่ผมจะพูดต่อ

“ผมสาบานว่า คุณรวมถึงครอบครัวที่อยู่บนเกาะนอกเขตน่านน้ำจะสิ้นซากไม่ต่างกัน แค่มีน้ำล้อมรอบเดินทางโดยใช้เครื่องบินเจ็ทมี สัญญาณตรวจจับแค่ถูกรบกวนก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ไหนจะระบบการเงินที่ซักฟอกจนสะอาดหมดจดจนมันหมุนเวียนในธนาคารโลกตามปกติก็อาจจะเปลี่ยนเป็นเงินเข้ากองกลางเมื่อไหร่ก็ได้นะคุณคิดว่ามันเป็นชีวิตที่มีความสุขจริงๆ เหรอ ไอ้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ ไปไหนถึงมีคนคุ้มกันแต่ก็ยังมีแต่ความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาแต่ถ้าคุณคิดมีความสุขก็ตามใจ”ผมไม่ได้พูดขู่เหมือนที่เขากล่าวหา ผมพูดความจริง ถึงตอนนั้นสติใฝ่ดีผมคงไม่เหลือแล้วถ้าคนที่ผมรักเป็นอะไรไป

“คุณรู้เรื่องผมขนาดนี้ ยังคิดว่าจะได้ออกไปอีกเหรอ ดร. ผมควรจะฆ่าคุณเพื่อปิดปากหรือเป็นการแก้แค้นอย่างสาสมที่สู่รู้มากเกินไปดีล่ะ ยังไงคุณก็ไม่ช่วยผมอยู่แล้วนี่”เขาพูดถูกเหมือนที่ผมคิดเอาไว้ว่าจะต้องเป็นแบบนี้

“ก็แล้วแต่คุณ เพราะยังไงเรื่องคุณทางการก็รู้ดีอยู่แล้ว คุณอย่าคิดว่าทางการพึ่งพาผมเพราะจะเป็นการดูถูกการทำงานของพวกเขามาก เขาทำได้มากกว่าผมด้วยซ้ำ ผมไม่ได้ฉลาดจนไม่มีใครเทียบได้ ก่อนหน้าที่ผมกับคุณจะได้มาเจอกัน คุณคิดว่าพวกเขาติดตามเรื่องคุณมากี่ปี ถึงจับคุณเข้าคุกได้โดยไม่มีผมเกี่ยวข้องด้วย”ผมไม่ได้พูดเอาตัวรอด ทางการมีคนเก่งและเข้าถึงหน่วยกรองได้มากกว่าผมที่เป็นแค่บุคคลธรรมดา เขาดูจะอึ้งไปนิดกับสิ่งที่ผมพูด เรื่องพวกนี้ผมให้เพื่อนสนิทอย่างวิทย์ที่กว้างขวางในวงการสื่อและนักสืบระดับสากลติดตามให้ และผมไม่ได้บอกพวกเจ้าหน้าที่เพราะอย่างที่บอกพวกเขาไม่ได้ทำความผิดโดยตรง คนที่ทำผิดคือผู้นำครอบครัวเขาต่างหาก  และสถานการณ์ในตอนนี้คือ จ้องหน้ากัน ผมเหลือบตามองข้างนอก มีเจ้าหน้าที่เดินมา มองก่อนจะส่งเอกสารให้ไอ้ปราชญ์ มันยื่นมาส่งให้นายมันที่รับมาและเปิดดู ไล่อ่านไม่ถึงนาที หันหลังไปหายใจเข้าออกอย่างพยายามระงับสติอารมณ์ คงเกี่ยวกับเอกสารที่ผมไม่รู้ว่ามันมีข้อความอะไรเขาถึงมีอาการแบบนี้

“เชิญ”เขาพูดเชิงไล่โดยไม่หันมามอง ผมเดินออกไปทันที โดยไม่ถามอะไรทั้งสิ้น คิดแต่ว่าขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะมาที่นี่อีก ผมเดินจนถึงจุดที่เจ้าหน้าที่คุมอยู่ มีการตรวจก่อนออกเช่นเคย

“นึกว่า ดร. จะไม่ออกมาซะแล้ว”เจ้าหน้าที่พูดด้วยรอยยิ้มเป็นคำถามทั่วไปมากกว่าจะเย้ยหยัน ผมยกยิ้ม

“ผมไม่ชอบการออกแบบอาคารของที่นี่  ก็เลยไม่คิดที่จะอยู่ บอกตามตรง ฮวงจุ้ยไม่ดีสักเท่าไหร่”ผมยกยิ้มตอบกลับเจ้าหน้าที่ ที่หัวเราะชอบใจ ก่อนจะปล่อยตัวผม

“โชคดีนะครับ ขอให้ ดร.เจอฮวงจุ้ยที่ดีแล้วกัน”เจ้าหน้าที่พูดตามหลังอย่างอารมณ์ดี

“ขอบคุณ ผมมีอยู่แล้วครับ”ผมหันไปบอกพร้อมก้มหัวเล็กน้อย ถือโอกาสบอกลาซะเลย เพราะอีกไม่นานผมจะกลับไปอยู่
ฮวงจุ้ยที่ถูกโฉลกกับผมสักที ผมได้ยินเสียงพูดหยอกเชิงแช่งแว่วๆ ว่า


‘กลับไปฮวงซุ้ยหรือเปล่า?’



ผมก็ตอบด้วยความมั่นใจฝากไปกับสายลมว่า


‘ไม่’


เพราะ


ตามประเพณี


ผมคนไทยพุทธ ตายก็เผาอย่างเดียว!


อืม


‘เข้าใจตรงกันนะ’

.
.
.
.

“อ๋ออออ เฮียก็เลยต้องอยู่จัดการเรื่องทั้งหมดก่อน อืม เป็นอย่างนี้นี่เอง”คนในอ้อมแขนพยักหน้าอย่างเข้าใจหลังฟังเรื่องทั้งหมดจากปากผม ว่าทำไม? ผมถึงต้องกลับไปที่นั่นอีก ใช่แล้ว  หลังจบเรื่องนาย ผม และ พรรคพวกก็ไม่ได้อยู่เป็นสุขนัก ทั้งที่ในนั้นมันก็ไม่ได้มีความสุขหรอก เพียงแต่ก็อยากชดใช้ความผิดอย่างสงบ รอวันที่จะกลับออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ยังกลุ่มคนบางคนที่ไม่สำนึก คิดจะให้พวกเราช่วยในทางที่ผิด ลำพังผมคนเดียวใช่ว่าจะจัดการได้ โชคดีที่ ท่านอธิบดีฯ และเจ้าหน้าระดับสูงให้ความช่วยเหลือทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี อ้อ คุณตำรวจและก็ไอ้บียร์ด้วยที่คอยช่วยเหลืออยู่ข้างนอกอีกแรง ผมก็ตอบแทนทางการตามที่จะช่วยได้ และที่สำคัญ คือ พวกมันที่เป็น เพื่อน ไม่เคยทิ้งกันให้ความร่วมมือทุกอย่าง ไม่เอนเอียงเห็นแก่ได้ เพราะจุดประสงค์เดียวกัน คือ ครอบครัวที่รัก ที่รอเราอยู่ ถ้าจะกลับไปต้องกลับไปอย่างถูกต้อง

“หนูไม่โกรธเฮียนะที่ไม่ได้บอก ทั้งที่เฮียไม่อยากทิ้งหนูสักนิดเดียว”ผมพูดกับคนในอ้อมแขนพร้อมกระชับเข้าหาตัวอย่างแนบแน่น อย่างที่ไม่มีวันจะไปไหนแล้ว นอกจาก ความตาย ที่จะมาพรากเรา

“เฮียทำถูกแล้ว หนูจะโกรธได้ยังไง ถ้าเฮียไม่ทำสิ น่าโกรธกว่าถ้าหนูรู้ มันเหมือนทิ้งเพื่อนให้เผชิญชะตะกรรม โดยที่ตัวเองกลับมามีความสุขคนเดียว ถ้าเป็นหนูนะ ถึงจะไม่เก่งเท่าเฮีย หนูจะก็ทำเหมือนกัน”หนูหันมาพูดกับผมด้วยรอยยิ้มจริงใจ ตาสุกใส ไม่เคยเปลี่ยน จนผมจูบหน้าผากอย่างแสนรัก ในน้ำใจและความห่วงใยที่หนูมีให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเคยทำไม่ดีด้วย หรือ พวกเราเป็นใครในตอนนั้น หนูไม่เคยเอากลับมาพูดถึง ได้คุยกันทีไรก็ถามถึงไอ้พวกนั้นตลอด ไม่เคยละเลย

“ขอบคุณครับที่เข้าใจเฮีย และใครบอกหนูไม่เก่ง หืม?”ผมถามคนน่ารักที่หน้าแนบแก้มผมอยู่ มือโอบรอบคอก่อนจะพูดต่อให้คนน่ารักที่เลิกคิ้วเชิงว่า ‘หนูเก่งตรงไหน’

“หนูเก่งมาก เก่งกว่าใครที่เฮียเคยรู้จัก หนูเก่งตรงนี้”ผมชมพร้อมชี้อกด้านขวาที่มันมีเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะ

“ใจที่อ่อนโยน”

“ใจที่เข้มแข็ง”

“ใจสู้อย่างไม่กลัว”

“ใจที่มีน้ำใจให้กับทุกคน”

“และ”

“ใจ ที่เสียสละ มอบความรักให้ เฮีย”

ผมพูดจบก็จูบหนูของเฮีย อย่างที่คิดว่า ชาตินี้จะไม่ได้กลับมาทำแบบนี้อีกแล้ว ใช่ว่าผมไม่กลัว จิตใจด้านอ่อนแอในบางครั้งมันคิดถึงหนู ลูก น้อง เสมอ ว่า ผมจะได้กลับมาหาพวกเขาไหม ผมจะเป็นอะไรไปก่อนหรือเปล่า ผมภาวนาอยู่ทุกวัน ถ้าบุญผมยังมีบ้างขอให้ได้กลับมาหาความรักของผมอีกครั้ง กลับมาไม่ใช่แค่ความสุขอย่างเดียว ผมจะอยู่ข้างพวกเขาทุกสถานการณ์ จะปกป้องดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด ก่อนจะจากโลกนี้ไป

“เฮียรักหนู รัก”

“หนูรักเฮีย ไม่ว่าจะนานแค่ไหน หนูจะรอเสมอ”

แล้วผมจะไปไหนได้ มีคนน่ารักขนาดนี้ ผมปิดปากที่มีรอยยิ้มสว่างไสวอย่างกลัวจะหัวใจวายไปซะก่อนกับคำแสนหวานที่ผมไม่อยากจะฟังจากใครอีกแล้ว แค่หนูเท่านั้น

“อืม หนู”เสียงครางของผมเรียกหนูชิดปากที่กำลังพัวพันกันอยู่ หนูตอบรับผมทุกอย่าง มือนุ่มลูบท้ายทอย แผ่นหลัง ก่อนจะกลับมาโอบรอบคอผมเข้าไปชิดและไล่ต้อนบดเบียดริมฝีปากผมอย่างโหยหา ทำเอาผมอดเป็นฝ่ายตื่นเต้นกับการกอด จูบอันมีชั้นเชิงของหนูที่มันก้าวไปไกลไม่ได้ ผมไม่ได้คิดว่า ระหว่างที่ผมไม่อยู่


‘ใครมาสอนเมียกูวะ’


มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เคนรายงานชีวิตประจำวันของหนูเหมือนเรียลลิตี้ที่ถ่ายทอดออกสื่อ ให้ผมทราบทุกวัน และถึงเคนไม่รายงาน ผมก็เชื่อใจหนูอยู่แล้ว ว่าจะไม่มีวันนอกกายนอกใจผมแน่นอน ผมสัมผัสความรักที่หนูมอบให้ได้ สัมผัสได้ตั้งแต่วันที่เรารู้ตัวว่า รักและเป็นคนคนเดียวกัน รักและตายพร้อมกันได้ผมลูบใบหน้าแสนรักที่หอบนิดๆกับการผายปอด ดวงตาที่มีผมอยู่ในนั้น ริมฝีปากที่เรียกแต่ชื่อผมไม่ว่าจะเวลาไหน อารมณ์ไหน ผมก็ฟังว่าเพราะที่สุด แม้จะมียศข้างหน้าบ้างในบางครั้งก็ยังเพราะ ผมจรดจมูกลงไปช้าๆ ที่ริมฝีปาก ไล่มาซอกคอ จบที่อกด้านขวา

“เฮียจะรักษาดวงใจดวงนี้เอาไว้ ไม่ไปไหนอีกแล้ว พร้อมจะคืนให้เฮียดูแลหรือยัง”ผมพูดโดยไม่สบตาคนที่ฟังอยู่ รู้แค่แขนที่โอบเข้าไปหา และริมฝีปากนิ่มจรดลงบนหัว

“พร้อมตั้งนานแล้ว หนูไม่เคยเอามันคืน ไม่ว่าเฮียจะอยู่ที่นี่หรือที่ไหนก็ตาม”เสียงแผ่วเบาแต่มั่นคงในคำพูดและความรู้สึก ทำให้ผมยิ้มกับอกที่หัวใจมันเต้นเป็นการยืนยันว่า

‘ให้เฮียคนเดียว’


“อย่าทิ้งเฮีย อยู่กับเฮีย นะครับ”ผมเงยหน้าสบตา อ้อนวอนคนที่ยกใจให้แล้วทั้งดวง หนูยิ้มก่อนจะ


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”


อ้าว กำลังซึ้ง หนูของเฮียหัวเราะเหมือนกับฟังเรื่องตลก

“เฮียแม่งแป๊บนะเฮีย ครึครึ”หนูขอเวลาขำอีกหน่อย จนพอใจก่อนจะพูดต่อ“ไม่ใช่หนูไม่ซึ้งนะเฮีย แต่ มันอดขำไมได้ว่ะ”

“ขำอะไร หน้าเฮียตลกเหรอ”ผมถามหนูอย่างสงสัย

“หน้าเฮียไม่ตลกหรอก แต่คำพูดเฮียมันดันตลกไปเข้ากับสโลแกน ครึครึ”หนูตอบทันที หน้ายังขำไม่เลิก

“สโลแกนอะไร ประกันชีวิตหรือไง”ผมงับปากหนูอย่างหมั่นเขี้ยว

“สโลแกนเสื้อน่ะสิเฮียหนูไปเจอมา ถ้าเฮียใส่นะมันเข้ากับคำพูดเฮียมากเลย มันเขียนว่า คิกคิก”หนูพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะบอกให้ผมหายสงสัย


“อย่าทิ้งกู กูแก่มากแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”


ทำเอาผมต้องแสดงสีหน้าให้รู้ว่า

‘เงิบ’


แทนการหงายท้องแบบตัวการ์ตูนไลน์


“ครึครึ มันขำอ่ะ ดู ดู พูดปุ๊บ ย่นปั๊บเลย ยัง ยังไม่คลายออกอีก  ครึครึ”หนูหัวเราะเอานิ้วคลายคิ้วผมที่ขมวดคลึงนวดไปมา

“แล้วจะทิ้งไหมล่ะ?”ผมถามพร้อมดึงหนูเข้ากอดหน้าแนบอก หนูประคองหน้าไม่ตอบแต่แสดงสัญลักษณ์ว่า


‘OK’


“อะไร โอเคนี่ ทิ้งแน่นอนหรือไม่ทิ้ง?”ผมถามสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ  มือบีบสะโพก

“นี่แค่กลางคน ก็เรื่องมากแล้ว”หนูบิดแก้มผม ก่อนจะตะปบมือให้ขึ้นมาวางที่เอวตามเดิม นึกว่าเคลิ้มซะอีก

“อ้าว ก็มันแปลได้สองทางนี่ เฮียต้องการความมั่นใจมากกว่านี้”ผมดันหนูให้มาชิดมากขึ้น จนหน้าห่างกันแค่คืบ

“โอเคของหนูก็คือโอเค และเป็น โอเค ผอ.สอ.วอ. ด้วยจะบอกให้”หนูบอกชัดถ้อยชัด ผมเกือบจะดีใจแล้วที่หนูตกลง แต่ก็ยังสงสัย


“โอเค ผอ.สอ.วอ. “ผมทวนคำอย่างสงสัย หนูยิ้มก่อนจะบอกว่า


“ก็ OK ผัวสูงวัยไงเฮีย เลี้ยงดูจนสิ้นสุดอายุขัยไม่ขว้างทิ้งก่อนวัยอันควรแน่นอน เข้าใจยัง คร๊าบบบบบ เฮียยยยยยยย”

หนูพูดพร้อมบิดหนังหน้าผมที่ส่ายตามมืออย่างสนุกสนาน มันก็ไม่ได้กระพือออกมากหรอกครับ ไม่ต้องคิดตาม

“สรูปเฮียจะเอาไหม ไม่เอา ก็”หนูเลิกคิ้ว

“เอา เฮียเอา” ผมพยักหน้าพูดรับทันที ไม่งั้นอาจจะถูกตอกย้ำและถูกทอดทิ้งก่อนวัยอันควรได้ถ้ายังไม่ OK กับประกันสุดพิเศษชั้นนี้  หนูยิ้มและพูดต่อ


“หนูไม่สัญญา”


ผมพยายามไม่ขมวดคิ้ว แต่เมื่อกี้รับปากแล้วแล้วนี่ ว่า OK อาวุโส แล้ว


“แต่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”


คิ้วเลิกขึ้นมานิดใจเริ่มสั่น


“หนูจะอยู่ข้างเฮียตลอดไป หนูรักเฮีย”


ผมยิ้มกว้างสุดชีวิต ริ้วรอยจะขึ้นกี่แฉกบนหน้าก็ช่างมันเถอะตอนนี้  แค่ได้ยินหนูพูดแบบนี้ผมก็ไม่มีอะไรต้องให้คิดมากอีกแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว


“เฮียรักหนู จะดูแลไปชั่วชีวิต หนูของเฮีย”

เราจ้องหน้ากันและมอบสัมผัสให้กันและกันอย่างเรียกร้อง ก่อนผมจะผละออกและบอกว่า

“เฮียมีอะไรจะสารภาพ”ผมกระซิบบอกหนู ขณะที่สอดมือเข้าไปในเสื้อหนูเป็นการเปิดทางก่อน หนูตะครุบเอาไว้ทันทีเมื่อได้ยินคำว่า สารภาพ มันเหมือนสามีไปทำผิดมาและหลอกล่อภรรยาด้วยการเล้าโลมเพื่อจะได้เคลิ้มตามเรา แต่ไม่สำเร็จเจอดักไว้ก่อน

“ถ้าเฮียจะบอกว่า ระหว่างอยู่ในนั้นเฮียใช้มือ หนูไม่ว่าหรอก แต่ถ้าใช้คนช่วย ก็ ไม่เป็นหร๊ายยยยยยย หนูเข้าใจ  หึ”หนูพูดดักคอเสียงสูงพร้อมเสียงหึผ่านลำคอในตอนท้าย ยักไหล่แต่ตาอีกข้างหรี่อย่างจับผิดว่า คิดถูกใช่ไหม ผมจุ๊บปากช่างคิดออกมาเป็นคำพูด

“หึหึ ไม่มีใครน่ารักเท่าหนูสักคน ถึงน่ารักก็ไม่เอา บอกแล้วไงแค่หนูเท่านั้น”ผมเป็นฝ่ายดักคอหนูไว้บ้าง ทำเอาเจ้าตัวอมยิ้มแต่เก็กหน้าไว้ไม่ให้รู้ว่ารู้สึกยังไง แต่ผมรู้สึกดีที่หนูก็หวงผมเหมือนที่ผมหวงหนู ก่อนจะเข้าเรื่องสารภาพ

“หนูจำตอนที่เราหนีไอ้พวกในป่ารอดได้ไหม”ผมย้อนไปตอนเมื่อประสบเหตุด้วยกันในป่า และน่าจะเริ่มเป็นชนวนให้ความสัมพันธ์เราดีขึ้นตามลำดับ

“แล้วหนูก็บนเอาไว้”ผมพูดต่อ หนูพยักหน้าก่อนจะหน้าแดงเมื่อนึกได้ว่าบนอะไร ผมยิ้ม

 “คือ ตอนนั้น เฮียแก้ผ้าแต่ไม่ได้วิ่ง”ผมยิ้มเมื่อเห็นหนูหน้าแดงแปร๊ดขึ้นอีก ก่อนจะนึกได้ว่า

“อ๋อ จะบอกว่าเฮียได้แต่ยืนดูหนูแก้ผ้าวิ่นเป็นบนเป็นคนบ้าอยู่คนเดียวใช่ไหม”หนูโวยทุบหลังผมดังอักๆ ผมหัวเราะ ก่อนจะจับมือหนูมาจูบ

“ก็ตอนนั้นเฮียไม่ได้บนด้วยนี่ อุตส่าห์แก้เป็นเพื่อน แล้วเฮียก็ไม่ได้ห้ามหนูดูของเฮียซะที่ไหนล่ะ อยากไม่ดูเอง”ผมล้อคนบนเองอายเอง ทีตอนนั้นไม่แก้โทงๆไม่อาย คงเพราะตอนนั้นหนูไม่ได้คิดอะไรมาก กลัวว่าพูดแล้วไม่ทำจะโดนลงโทษจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ แต่ผมมองด้วยความใจสั่นเหมือนกันนะ เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้าแต่ไม่เคยเกิดความรู้สึกเหมือนที่เห็นหนูแก้ ตอนนั้นน้องๆเฮียผมชะเง้อไปที่เป้าหมายจนผมตกใจ รีบปรามมันเอาไว้ พลางคิดกลบเกลื่อนเรื่องอื่นไปซะ ไม่งั้นมีได้เสียกันก่อนเกิดเรื่องที่บ้านนายแน่ และถ้าผมห้ามตัวเองไม่ได้และทำลงไปด้วยการฝืนใจ หนูจะให้อภัยและรักผมหรือเปล่านะ

“แล้วเฮียจะรื้อฟื้นทำไมวะ”หนูพูดเสียงหาเรื่อง เอามือตีปากผมทีเผลอ

“เฮียอยากแก้ตัว”ผมยื่นหน้าไปพูดใกล้หนู มือกระดื๊บเข้าไปอีก

“อยากแก้ตัวหรืออยากแก้ผ้ากันแน่ เฮีย”หนูพูดอย่างรู้ทัน ผมยิ้มรับ

“ยังไงก็ได้ขอให้ได้ถอด แต่”ผมโน้มตัวค่อยๆผ่อนหนูลงกับที่นอน แต่ตัวเรายังไม่แยกออกจากกัน


“เปลี่ยนเป็นนอนขยับแทนแล้วกันนะ”


หนูหลุบตาลงเป็นการตอบตกลงแทนคำพูด ผมยิ้มก้มหน้าไปจูบปากที่รอรับ มือดึงเสื้อยืดขึ้น คลึงเฟ้นจนคิดว่าจะเริ่มแก้บนก่อนจะตามไปแก้ล่าง

ปัง!

ปัง!

ปัง!

ช่างเหมือนเสียงแห่งความยินดีกับความรักของเรา ที่ได้กลับมาบรรจบกันสักที หลังจากรอคอยมาแสนนาน


แต่


“เฮ้ย ! กูยังไม่อนุญาตให้พวกมึงผสมพันธุ์กันเลย มึงออกมาจากห้องลูกกูเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เฮีย”


มันคือความจริง ที่ความรักถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะสมัยไหน


หรือแม้แต่สมัยนี้


สมัยที่ยอมให้


‘ลูกชายออกเรือนกับสามี’


ก็ยังเป็นอุปสรรคชนิดหนึ่ง ที่ลูกเขยต้องสำรวม ประนีประนอม รอมชอม ระงับสติอารมณ์ไม่ลงไม้ลงมือ กับสิ่งที่เรียกว่า


‘พ่อตา’


แต่ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า


‘แม่ยาย’


ที่สร้างมาคู่กับ พ่อตา ที่มักจะช่วยเหลือให้ลูกตัวเองและลูกเขยได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งผมมั่นใจว่า ถ้า ‘แม่ยาย’ ผมยังอยู่ต้องช่วยแน่นอน ถึงที่ผ่านมาจากประสบการณ์ที่เคยมี พ่อตาแม่ยาย โดยไม่ตั้งใจและพวกเขาไม่เคยช่วยลูกเขยอย่างผมเลย มีแต่ซ้ำเติมและเรียกร้อง ผมก็มั่นใจว่า แม่ยาย ผมที่จากไปแล้วคนนี้ ช่วยเหลือผมแน่นอนเพราะฉะนั้น สาธุ คุณแม่ยาย

“เฮีย! พ่อมา”หนูพูดกับหน้าตาตื่นกระเด้งตัวลุกขึ้นพยายามจะลงจากตักผม ใช่แล้วครับ ตั้งแต่เล่าเรื่องจนจบจนจับนอนและเด้งขึ้นมาอีกรอบเพราะเสียงพ่อ หนูนั่งตักหันหน้าเอาขาเกี่ยวเอวผมไว้ตลอด เพื่อจะได้ถนัดในการฟัง ถ้านั่งตักแต่หันหลังให้กันจะฟังรู้เรื่องได้ยังไง

“เฮียรู้แล้วว่าพ่อ หนูจะตื่นเต้นทำไม ทำอย่างกับว่าเราแอบได้เสียกันแล้วถูกจับได้อย่างนั้นแหละ”ผมบีบจมูกพูดล้อเลียนหนูไปด้วย

“เออ นั่นสิ เฮ้ย! แหม่เคลิ้มตามเลยกู ออกไปหาพ่อกันก่อน”หนูเกือบจะคล้อยตามผมแล้ว แต่ยังมีสตินึกได้รีบดันตัวเองหรอก แต่ผมยังไม่ปล่อย อยากจะแกล้งทั้งเมียและพ่อตาที่ยังเคาะไม่เลิก ว่าแต่ ตุลย์ของพ่อไปไหน ไม่มากันปู่เอาไว้

“ไอ้เฮีย มึงจะออกไม่ออก ห๊ะ”เสียงพ่อตายังโหวกเหวก ข่มขู่ ผมอยากจะสวนออกไปจังว่า ‘ยังไม่เข้าจะออกได้ไง’ แต่คาดว่าหนูคงเป็นหม้ายแน่ แต่ลูกชายสุดหวงกลัวพ่อเป็นห่วงจนพังห้องเข้ามา พูดออกไปว่า

“กำลังจะออกแล้วพ่อ แป๊บหนึ่ง เฮียปล่อยก่อน เร็วๆ”เสียงหนูตะโกนบอกพ่อออกไป มือผลักผมไปด้วย ผมนึกขำประโยคที่หนูตอบพ่อกลับไปยิ่งกว่าที่ผมคิดอีกทำเอาพ่อเคาะรัวกว่าเดิมปัง ปัง ปัง

“ฮึ่มมมมมมม ไอ้หนู อีลูกไม่รักนวลสงวนตัว  ยังมีหน้าเร่งให้มันปล่อยออกเร็วๆอีก”เสียงพ่อตาตะโกนกลับเข้ามา ทำเอาผมอยากจะปล่อยเสียงหัวเราะกับการโต้ตอบของพ่อตากับเมียจริงๆ

“อ้าว ไม่ปล่อยแล้วจะออกไปได้ยังไงล่ะพ่อ เร็วๆสิเฮีย อย่าลีลา”หนูบอกพ่อก่อนจะหันมาว่าผมพร้อมแงะแขนผมออก

“หนูก็อย่ารัดแน่นสิ ปล่อยเอวเฮียก่อน”ผมเป็นฝ่ายบอกหนูกลับไปบ้าง มือแงะแต่ขารัดแน่นปึก หนูก้มไปมองก็เห็นจริง ผมยิ้มกริ่ม ประจวบเหมาะกับที่



ปัง


“นี่มึงใช้ลีลาท่าไหนกันอยู่ ถึงได้ออกยากออกเย็นนัก ห๊ะ!”


“ท่านี่แหละพ่อ ว๊าคคคคคคคคคค พ่อเข้ามาแล้วเฮีย”หนูตกใจตอบพร้อมกระเด้งตัวเข้ารัดผมแน่นกว่าเดิม พ่อตายืนหายใจเข้าออก มองลีลาที่ผมกับหนูแสดงออกกันอยู่

“ปู่ ปู่ ตุลย์ยกมาทั้งพวงเลย อ้าว พ่อกับแม่หนู ทำไรอ่ะ”เสียงพูดพร้อมวิ่งมาถึงตัว ชูพวงให้ปู่ดู ก่อนจะหันมาสนใจผม

“มันไม่ทันแล้วลูก ปู่ทำเสร็จแล้ว”พ่อตาผมพูดกับหลานชายหมาดๆ เสียงอ่อน ก่อนจะกัดฟัน”มึงจะออกกันหรือยัง”ทำให้หนูสะดุ้งปล่อยขาและลดระดับความสัมพันธ์จากตักผมลงไปนั่งบนที่นอน

“อ้าว เสร็จไวจังปู่ ตุลย์อุตส่าห์ไปหาตั้งนาน หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ดีนะมีคนบอก ไม่งั้นไม่ได้เข้ามานอนกับพ่อและก็แม่หนูแน่เลยปู่”ตุลย์เลิกคิ้วก่อนจะพูดเสียงสดใส มองหน้าผมด้วยรอยยิ้มกว้าง ผมหรี่ตามอง เชิงว่า ก่อนจะมาเราตกลงกันแล้ว ว่าจะห่างกันสักพักก่อนจะมาเราก็ใกล้ชิดกันพอสมควรแล้ว พ่อมีเรื่องต้องเคลียร์กับแม่หนู ดูลูกก็เข้าใจ แล้วตอนนี้หมายความว่ายังไง ลูกทำหน้าเหรอหรากับสายตาของผมพร้อมพยักหน้าช้าๆเดินเข้ามาหาผมแต่หันไปกอดเมียผม อืม

“ปู่บอกตุลย์ว่า เราควรนอนด้วยกัน เป็นการต้อนรับตุลย์กับพ่อที่แสนอบอุ่น ใช่ไหมฮะ ปู่”ตุลย์พูดเสียงอ้อน เอาหน้าซุกอกเมียผมไปมา โดยที่หนูกลั้นหัวเราะเอามือลูบหัวตุลย์อย่างเอ็นดู แต่ผมสิอดดู ฮึ่ม เติมเอาเองแล้วกัน

“ใช่แล้วลูก เป็นการสร้างความคุ้นเคยกันเอาไว้ เอ็งคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม”พ่อตาผมแสยะยิ้มให้ก่อนจะเดินมานั่งข้างลูกชาย

“ไม่ว่าหรอกพ่อ ดีซะอีก จริงไหมเฮีย”ลูกพ่อเมียผมแม่หนูของตุลย์ รีบรับคำพ่อทันที สีหน้าดี๊ด๊าต่างจากตอนคลุกวงในลิบลับ มีการยิ้มแป้นถามผม

“เห็นด้วยไหมพ่อ”ลูกที่แปรพักต์ไปฝั่งปู่กับแม่ใหม่เรียบร้อยแล้ว

“ครับ”ผมจะตอบอะไรได้นอกจากคำนี้  ก่อนจะได้เวลานอนพักผ่อนกันเสียที ไม่เป็นไร เวลาที่จะอยู่ด้วยกันอีกยาวไกล วันนี้ปล่อยไปก่อน  อย่างน้อยได้นอนกอดกันโดยมีตุลย์นอนกลางก็ยังดี


นั่นคือ


ความคิดผมตอนแรก


แต่ความจริงที่บิดเบือนไปนิดเดียวคือ


ผม ตุลย์ พ่อตา และ หนู ซึ่งมันน่าจะเป็น ผม ตุลย์ หนู และพ่อตา มากกว่า


“เฮ้ย!”เสียงร้องของพ่อ ทำเอาพวกเราตกใจ หันไปมองพ่อเป็นศูนย์รวม

“อะไรพ่อ ร้องตกอกตกใจ คิดถึงลุงฉัตรหรือไง โอ้ย”ลูกชายถามเสียงทะเล้น ก่อนจะร้องเมื่อโดนโบก อยากจะเข้าไปปลอบแต่ติดพ่อตาขวางไว้

“กูจะคิดถึงมันทำไม มาทุกวัน ไอ้ที่กูเฮ้ย น่ะ ว่าจะถามตุลย์สักหน่อย”พ่อตาพูดเหมือนไม่ชอบที่ลุงฉัตรมาทุกวันแต่ทำเป็นเรื่องปกติ

“ถามอะไรเหรอปู่”ตุลย์เงยหน้าถามปู่ มือกอดเอวตามเดิม

“ก็ตุลย์บอกว่า มีคนหยิบกุญแจให้ ทั้งที่ไอ้ฉัตรมันขึ้นเวร แล้วใครหยิบให้ล่ะลูก”พ่อตาผมหันไปถามหลานอย่างสงสัย

“นั่นสิ เพราะนอกจากเราก็ไม่มีใครแล้วนะ จะว่าไอ้ตะบันก็ไม่น่าใช่ เพราะตุลย์บอกว่าคน”หนูสงสัยและออกความเห็นที่ไม่น่าจะทำให้หายสงสัย จนพ่อตาอยากจะโบกอีกสักดอก แต่ลูกรู้ทันหมุดหลบซะก่อน

“เดี๋ยวกูถีบไปนอนข้างล่าง”พ่อตาทำท่าแต่ไม่ถนัด ถีบมาฝั่งผมก็ได้ครับ รอรับอยู่ ตุลย์ขำคิกคักก่อนจะบอกว่า

“สวยด้วยปู่”ตุลย์พูดถึงคนที่น่าจะหยิบกุญแจให้

“สวย”

“สวยด้วยเหรอ ใครวะ จะว่าไอ้อ้อมก็ไม่น่าใช่”พ่อเอ่ยถึงเด็กที่จ้างมาทำงานบ้านคนใหม่ ออกจะทอมๆ แต่ทำงานบ้านงานเรือนเก่ง หนูบอกผม

“ใส่ชุดเหมือนเจ้าหญิง มีมงกุฎระยิบระยับ”ตุลย์ยังพูดต่อหน้ายิ้มแย้ม

“ระยิบระยับ!”พ่อกับหนูพูดแทบจะพร้อมกัน ตาโตทำไมต้องตกใจด้วย

“ใช่ ปู่ กระโปรงนี่ฟูฟ่องบานเป็นชั้นๆเลย”ตุลย์พยักหน้าทำมือประกอบ

“ชัดเลย!”พูดพร้อมกันอีกครั้ง เริ่มแน่ใจ


“ชัดมากเลยปู่ แม่หนู ตุลย์เห็นชัดมากเลย”ลูกชายผมสนับสนุน ก่อนจะเบิ่งตา


“นั่นไง คนสวย”ตุลย์ชี้ไปที่กรอบรูปติดผนังห้อง


“ไก่จ๋า! /แม่จ๋า!”


ชัดยิ่งกว่าเดิมเมื่อเอ่ยชื่อคนในภาพเป็นอันสรุปว่า สาวสวยคนนั้นคือ ใคร !หญิงสาวที่สวยหยาดเยิ้ม ยิ้มหวาน จ้องมองเหมือนจะพยักหน้าบอกว่า


‘ใช่แล้วจ๊ะ ฉันเอง’


=______=


ผม พ่อตา หนู มองหน้ากันเงียบกริบ มีแต่ตุลย์ที่


^_________^


“นอน!”

คำเดียวสั้นๆของพ่อตาที่สั่ง ก่อนจะกอดตุลย์ที่หน้าเหรอหรา แต่ไม่ถามต่อกอดและเอาขาขี่ปู่ ผมกับหนูสบตากัน ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปจับกันเอาไว้ ก่อนจะหลับตาเพื่อนอนให้หลับแต่ใจยังกระสับกระส่าย เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะหวานหวิวพร้อมคำพูดแสนหวานลอยมาตามลมที่พัดผ่านเข้ามา


‘ยินดีต้อนรับนะ พ่อลูกเขยรูปหล่อ ฮิฮิๆๆๆ’



ผมไม่รู้ว่าจริงไม่จริง หรือ มโนไปเองแต่ก็ต้องตอบรับไม่ให้เสียน้ำใจในคำชมและความเมตตาที่ท่านยอมรับผมเป็นลูกเขย


‘ขอบคุณครับ คุณแม่ยาย’


แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอก หวังว่าคุณแม่ยายคงจะไม่โกรธผมนะครับ ถ้าย้อนขึ้นไปตอนที่ผมพูดถึง แม่ยาย ว่าถ้ายังอยู่คงจะช่วยผมแน่นอน และก็ที่ผมสาธุให้ช่วย คือ ให้ช่วยขัดขวางสามีของแม่ให้ผมหน่อย ไม่ใช่ไปช่วยสามีของแม่ ถีบประตูเข้ามาได้ง่ายดายอย่างนั้น เอาเป็นว่าคืนต่อไปและต่อๆไป ผมหวังว่าแม่จะเมตตาลูกเขยอย่างผมบ้าง

ผมสาบานว่าจะดูแลลูกชายสุดที่รักของแม่ซึ่งเป็นเมียรักที่สุดของผม คำสาบานนี้คลอบคุมถึงสามีของแม่ที่เป็นพ่อตาผมด้วย มีผลบังคับใช้โดยไม่มีกำหนด ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ คุณแม่ยาย


ด้วยรักและเคารพ


ประกาศมาเพื่อแม่ยายทราบ โดย ลูกเขย (รูปหล่อ)  ของแม่ยาย


******************************************************************************************************************

ปล. ช่วงแรกมาอย่างซีเรียส เครียดนิดๆ แต่ตอนท้าย จบแบบหวิวๆ แต่ไม่ใช่หวิวอย่างที่คิดกันไว้นะ ฮ่าๆๆๆ :laugh: เป็นหวิวเล็กๆของแม่ไก่ที่ขอออกมาแจมบ้างไรบ้าง คือ นางเหงา และเป็นห่วงลูกผัว ก็เลยมาหยอกหลานกับลูกเขยนิดหน่อย :hao3: เอาน่า เฮีย อดไปก่อน ไปเตรียมฟิตร่างกายให้พร้อมเอาไว้ หนูมันไม่เอาก้นหนีไปไหนหรอก อยู่ที่เดิมนั่นแหละ :hao6: และก็อย่าโกรธหรือมากระโดดถีบตบตีเขานะว่า สรุป มันเสร็จกันตรงไหนวะ  :ling1: เขาหมายถึง เสร็จเรื่องร้ายๆและได้กลับมาสักทีต่างหากล่ะ ไป ไปดีฝ่า ฟิ้วววววววววววววววววววววว :katai3:

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ดีใจอย่างแรงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  ที่ได้เห็นว่าเฮียกับหนูมาลงให้อ่านแว้วววววววววววววว :ling1:
ขอบคุณมากนะคะะะะะะะะ รักคนเขียนที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดด :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
คิดถึงเฮียกะหนู  :กอด1:

น่าสงสารเฮียโดนพ่อตาขัดขวาง  :m20:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
แม่ยาย มาหยอกลูกๆ ให้ได้หวิวกันเล่นๆ

กว่าจะจบเรื่องในคุกได้ ลุ้นมากๆเลย

พวกท่านๆนี่สืบทอดทายาทกันทางน้ำลาย รึเปล่านะ หมดรุ่นสู่รุ่น น่ารังเกียจจริงๆ

 :pig4: นักเขียน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 ชอบคำพูดของหนูอ่ะ ผัวสูงวัยเลี้ยงดูจนสิ้นสุดอายุขัยไม่ขว้างทิ้งก่อนวัยอันควร 

ออฟไลน์ Silver-Ray

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
แม่ไก่จ๋านี่ฮาตลอดเลยอ่ะ 5555  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
แม่ไก่จ๋าออกโรงเองเลย ทำเอา พ่อนก หนู เฮีย ถึงกับเงิบ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
อ่านตั้งแต่ที่เห็นคุณ goonglovenut โพส
ก็ตั้งแต่หกโมงครึ่ง แต่เพิ่งมาอ่านจบตอนนี้ สามทุ่มเข้าไปแล้ว
ไม่ใช่ว่ามัวสะกดทีละคำอยู่หรอกนะคะ แต่อ่านที่ออฟฟิส
อ่านได้บรรทัดสองบรรทัดก็มีคนมาชวนคุย
จะกลับมาอ่านต่อก็ลืมว่าอ่านถึงไหน กลับไปหาอีกว่าถึงไหนแล้ว
จะครึ่งวรรคละ มีคนมาถามนั่นโน่นนี่อีก เฮ้อ
นี่ที่อ่านจบตอนได้ เพราะกลับมาอ่านที่ห้องคนเดียวนะเนี่ย

ตอนแรกเรื่องเครียดจริงๆนึกว่าจะมีภาคสองต่อซะแล้ว
แต่แม่ไก่มาปิดจ็อบให้ซะกลายเป็นนิยายผีไปเลย ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
เย้ๆๆๆ ได้อ่านตอนใหม่แล้ว คิดถึงหนูกับเฮียคอตๆๆ
ครอบครัวสุขสันต์หรรษาจริงๆเลย มีความสุขไปกับทุกคน
แล้วเมื่อไรจะมี NC คู่ลุงฉัตรกับพ่อนก แล้วก็เข้มกับรัน น้า
ในหนังสือขอให้มีนะคะ คงจะฟินน่าดู  :hao6:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ฮาตลอดเลยยยยยยย   ฉากที่ไม่น่าพาฮาก็ฮา  อ่านแล้วสุข    :กอด1:

ออฟไลน์ tomybsl

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
  :laugh: ความผิดเฮียนั้นแหละไม่ขอแม่ยายให้ซัดเจนเองว่าให้ช่วยอะไร  :jul3:
อ่านตอนไหนก็ขำ หนูจร้าอย่าเอาเรื่องอายุมาล้อเฮียมากเลยนะ สงสารคนแก่บ้าง :m20:

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ภาษาน่ารักจนหยดสุดท้าย   มุกโคตรเกรียนแต่โคตรขำ  ฮ่าๆๆๆๆ

น่ารักที่สุดเลย  ฮ่าๆๆๆๆ o13 o13 o13 o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด