Tiger&Bunny : พี่เสือร้ายกับน้องกระต่ายน้อย เปิดจองแล้วค่ะ P.136 15/11/15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Tiger&Bunny : พี่เสือร้ายกับน้องกระต่ายน้อย เปิดจองแล้วค่ะ P.136 15/11/15  (อ่าน 1178261 ครั้ง)

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ่านแล้วซาบซึ้งมาก

ชอบคนแต่งอ่ะ คิดได้ไงว่าต้องดราม่าแบบนี้ ความรักต้องเป็นแบบนี้ เราก็มีฝาแฝดนะ
ถึงเรากับฝาแฝดไม่ได้รักกันแบบคนรักอย่างพี่เสือกับต่าย แต่เรามีความรักให้กันมากจริงๆ อ่านแล้วนึกถึงตัวเองกับฝาแฝดง
ดีใจที่เห็นกระต่ายพบกับความฝันของตัวเอง เป็นคนมีฝัน ได้ทำตามฝัน รู้มั้ย? มันน่าอิจฉามากเลยนะ

##ติดตามพี่เสือ ต่ายน้อย ต่อไปเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะครับ

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
พี่เสือกระต่ายน้อย

ออฟไลน์ inuyacha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ maminmeaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
อัยย่ะ ใกล้จบแล้ว.  เป็นอีกเรื่องที่สนุก เนื้อหาที่น่าอ่าน ลุ้นความรักของแฝด
ความใส่ใจ ดูแลกันและกัน เนื้อเรื่องสอนให้มองดูความรักที่มันเกินจนล้น
จนกลายเป็นความเห็นแก่ตัวของแฝดพี่ แต่ก็ได้สติจากการอาละวาดของแฝดน้อง 5555
ตอนหน้าก็ขอให้ความอดทน อดกลั้น รอคนรักกลับมาอย่างภาคภูมิใจอีกครั้ง

ออฟไลน์ fernfabled

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กระต่ายเด็ดเดี่ยวมากกกกกกกก

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
เห็นอยู่นานแล้วแต่พึงจะเข้ามาอ่าน   

โอ้โม่ะ!!!!      พี่เสือนายอายุเท่าไร 5555555   สุดยอดจริงๆ
" น้องกระต่ายจะไม่มีวันเป็นสามีใครได้ อยู่เคียงข้างมนุษย์คนใดได้ รักใครอื่นได้ จะต้องรัก ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ ครวญคราง และเป็นเมียพี่เสือคนเดียว! "


ค่ะ....ถ้าถึงตอนนั้นจริงๆเรานึกหน้าเเม่พี่เสือเงิบลอยมาแล้วค่ะ 5555555  จะรีบตามอ่านให้ทันนะคะ  น่ารักดี <3

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
เข้าใจทั้งสองคนนะ แต่จะเข้าข้างใครก็ไม่ได้เพราะต่างคนก็ต่างมีเหตุผลของตัวเองที่ไม่ได้ผิดเลย ขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจและผ่านอุปสรรคต่างๆไปให้ได้นะ

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พี่เสือกับน้องกระต่ายหายไปไหน

ออฟไลน์ Final_love

  • @-@
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • www.Final_love95.com
นี้หนูอายุเท่าไหร่แล้ว ลูก

หื่นเกินไปม๊ายยยยยยย :jul1:

ออฟไลน์ Final_love

  • @-@
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • www.Final_love95.com
เจอตอนนี้ไป แทบช๊อคอ่ะ

ร้อนแรงมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก :haun4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Final_love

  • @-@
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • www.Final_love95.com
ทำไมรู้สึกว่าคุณสอางกับจัมโบ้เคมีเข้ากัน??? :katai5:

ออฟไลน์ Final_love

  • @-@
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • www.Final_love95.com
แบบว่า... พาร์ทนี้เฮียโรคจิตมากอ่ะ :hao3:

ออฟไลน์ Minnie~Moo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
มารอลุ้นความรักของพี่เสือกับน้องต่าย  :mew2:

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
ครบเดีอนนึงแล้วน้ะ  พี่เสีอกับต่ายน้อยเป็นไงบ้าง น้องไปถึงฝรั่งเศสยังน้อ   :m24: :m24:

มาต่อทีเท้อ  :call: :call: :call:

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
โอมมมมมมมมมมมมมม จงมา จงมา จงมา
รอออออออออๆ พี่เสือ&ต่ายน้อย

ออฟไลน์ inuyacha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
Part 3 End: พี่เสือและกระต่ายน้อย


ช่วงหลายปีที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายให้กระต่ายจดจำ ทั้งเรื่องร้ายและเรื่องดี แต่ที่แน่นอนคือประสบการณ์อันล้ำค่าและความรู้ ทักษะที่ร่ำเรียนมา คนตัวเล็กที่ไม่สูงขึ้นจากเมื่อสี่ปีก่อนสักน้อยถอนหายใจบางๆ แม้ใบหน้าจะอ่อนเยาว์เหมือนเด็กมัธยม แต่สีหน้า ท่าทางสุขุมขึ้น แม้กระต่ายเองก็รู้สึกได้ว่าตัวเองพูดน้อยลง ลงมือทำและคิดมากขึ้น อาจจะเป็นยีนส์เด่นในตัวเขาที่คล้ายกับพี่ชายที่เพิ่งมาทำงานเอาตอนนี้ก็ได้


เสียงโทรศัพท์ดังก้องในห้องแคบๆ


"พี่เสือ... อืม... แพ๊คของเสร็จแล้ว อีกสิบสามชั่วโมงเจอกัน"


พี่เสือชวนคุยเรื่องเรียนที่หนักขึ้นทุกปีๆ จนไม่มีเวลาบินมาหา กระต่ายมือก็พับเสื้อผ้าไป ปากก็ร้องเออออตามน้ำ จนกระทั่งถึงประโยคสุดท้ายที่จุดรอยยิ้มให้คนตัวเล็ก


"...คิดถึงจัง"


กระต่ายอมยิ้ม ไม่ตอบ แต่พูดเรื่องอื่นแทน "เดี๋ยวเจอกัน เนี่ยมีของฝากให้ทุกคนเลย..."


"ของพี่ขอตัวกระต่ายก็พอ"


ถึงจะผ่านเรื่องราวมามากมาย แต่กระต่ายไม่ได้ใจกล้าขนาดพี่เสือหรอกนะ แก้มแดงขึ้นสีเบาๆ "ฮื้อ... พูดบ้าๆ พอแล้ว วางแล้วนะ จะถึงนัดแล้ว เดมีอุตส่าห์มาจากลอนดอนเพื่อเลี้ยงส่งน่ะ"


"ครับ... ครับ"


"เจอกัน"


"เจอกัน... ครับ"


คนตัวเล็กวางสาย วางเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายลงกระเป๋า วันพรุ่งนี้เขามีไฟลต์บินตั้งแต่ตีสาม... เช้าเหมือนวันที่เขาออกจากอ้อมอกครอบครัว


กระต่ายไม่มีเวลาเหม่อมากนัก เสียงเคาะประตูห้องพักก็ดังขึ้น เมื่อลุกไปเปิดก็พบกับสาวเอเชียหน้าตาสวยเก๋ ตัวสูงโย่งยืนกอดอกอยู่


"เฮ้ นานจัง แรบบี้ นี่จะได้เวลาแล้ว" เดมี เพื่อนสนิทเขาทักเป็นภาษาอังกฤษด้วยรอยยิ้ม พลางยื่นหน้าเข้าไปดูในห้อง "หวา... โล่งจัง"


"ฮื่อ ก็ส่วนนึงส่งทางเรือไปแล้วน่ะ แพงชะมัด... นี่ขนาดว่าไม่ค่อยซื้ออะไรแล้วนะ... พอขนทีก็เยอะเหมือนกัน"


เพื่อนชาวออสเตรเลีย-เอเชียหัวเราะเบาๆ "นี่ขนาดแรบบี้ที่สุดงกแล้วน้า ถ้าฉันกลับบ้านบ้างจะเป็นยังไงนะ เรือทั้งลำยังไม่พอเลยมั้ง"


กระต่ายหัวเราะตอบ "เตรียมเหมาเรือได้เลย แป๊บนะ ขอหยิบโค้ทกับกระเป๋าก่อน"


"โอเค..."









เช้าวันต่อมา กระต่ายเดินลงจากแท๊กซีสีดำ คุณลุงช่วยขนกระเป๋าลากที่ดูเหมือนจะใบใหญ่กว่าคนลากเสียอีก


"เก่งจังเลยนะ เดินทางคนเดียว" สำเนียงบริติชของคนขับทักอย่างอารมณ์ดี


กระต่ายหัวเราะ ชินกับคำถามเสียแล้ว อยู่เมืองไทยก็ว่าตัวเล็กแล้ว ยิ่งมาอยู่ยุโรปยิ่งกลายเป็นเด็กน้อย "ผมยี่สิบสองแล้วครับ"


"โอ้... ขอโทษด้วย"


"ไม่เป็นไรครับ" รอยยิ้มหวานยิ่งทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ กระต่ายจ่ายเงินแล้วลากกระเป๋าเข้าสนามบินฮีธโรว์...


...กระต่ายจะกลับบ้านแล้ว






ในช่วงเดือนแรกในปารีสเป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุด กระต่ายต้องเจอกับภาษาฝรั่งเศสที่ถึงแม้จะเรียนจากไทยไปบ้างแล้ว แต่ก็เหมือนไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย เขาแทบเริ่มต้นใหม่ที่ศูนย์สอนภาษา ครูที่นี่มีสองคน สอนด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งเศสที่ฟังยากสุดๆ กระต่ายต้องกลั้นน้ำตาทุกครั้งที่ย่างก้าวออกจากห้องพัก


เพราะยังไม่เปิดคอร์ส หอพักของสถาบันจึงไม่เปิดให้เข้าพัก กระต่ายจึงอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ราคาถูกแถบชานเมือง ต้องต่อเมโทรหรือรถไฟใต้ดินเกือบสองชั่วโมง ที่ปารีสช่างแปลกประหลาด แค่ขึ้นรถไฟมาจากชานเมือง ชาวปารีสเซียงบางคนที่ศูนย์ก็เหยียดปากดูถูกแล้ว ยิ่งเห็นหัวดำแบบกระต่าย ยิ่งไม่ค่อยมีใครคุยด้วยเท่าไหร่ แค่ซื้อข้าวของก็ยากลำบาก ภาษาฝรั่งเศสของกระต่ายปนกับภาษาอังกฤษบ้าง ผันกริยาไม่ค่อยจะถูก ศัพท์บางตัวก็นึกไม่ค่อยออก ออกเสียงผิดๆ ถูกๆ ชีวิตช่วงนั้นกระต่ายไม่มีวันไหนไม่ร้องไห้


โชคดีที่ทำการบ้านมาดี ในวันหยุดของเดือนต่อมา กระต่ายก็รวบรวมความกล้าถือแผนที่ออกไปเที่ยว ซื้อซิมใส่โทรศัพท์ ดูบ้านเมืองที่มาอาศัยอยู่เสียที ที่ผ่านมากระต่ายอาศัยอินเตอร์เนตอพาร์ตเมนต์คุยกับที่บ้านตลอด


ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถ หลังจากหาร้านขายซิมโทรศัพท์ได้แล้ว กระต่ายงกๆ เงิ่นๆ ยืนอยู่หน้าพนักงานขายหน้าบูด คำนวนราคาและสื่อสารผิดๆ ถูกๆ แต่ในที่สุดก็ได้ติดต่อกับทางบ้านเสียที


ประโยคแรกของพี่เสือที่รับโทรศัพท์คือ "ฮัลโหล ใครครับ ?"


แต่ประโยคแรกของกระต่ายที่เดินออกจากร้านขายซิมด้วยน้ำตาคือ "ฮืออ พี่เสือออ"


ถึงจะลำบาก แต่กระต่ายก็ปรับตัวสุดความสามารถ เรื่องยากลำบากค่อยๆ ผ่านไปทีละเรื่องๆ เขาเริ่มชินกับหน้าบูดๆ หรือหน้าเชิดๆ ของชาวปารีส วิธีหลบหลีกพ่อค้าของที่ระลึกหรือแก๊งค์ต้มตุ๋นของชาวผิวดำตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือกระทั่งเรื่องล้วงกระเป๋า


กระต่ายเคยโดนล้วงกระเป๋าอยู่สองครั้ง โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองที่ไม่ระวังเอง ครั้งแรกกระต่ายทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนร้องไห้อยู่ในสถานี ไม่มีใครให้พึ่ง ไม่มีเงินติดตัว ไม่รู้ทาง จนมีชายวัยกลางคนชาวรัสเซียที่มาทำงานในปารีสช่วยออกเงินค่าเมโทรจนได้กลับบ้าน เขาช่วยปลอบกระต่ายด้วยภาษาอังกฤษปนรัสเซียผิดๆ ถูกๆ กระต่าย "แมคซี" (ขอบคุณ) ไม่ขาดปาก ครั้งนั้นโชคดีที่ไม่ได้พกพาสปอร์ตติดตัว


ครั้งต่อมา จากความกลัวเป็นความโกรธแทน เขาเรียนรู้ที่จะแบ่งเงินไว้หลายๆ ที่แล้ว แต่ตั๋วเมโทรราคาหลายยูโรก็หายอยู่ดี กระต่ายกล้าไปแจ้งความและด้วยความหน้าเด็กนี่เอง ที่ทำประโยชน์เหลือหลายในยุโรป ตามกฏหมายที่นี่ ผู้เยาว์จะได้รับความคุ้มครองเป็นพิเศษ ตำรวจเองก็คงคิดว่ากระต่ายเป็นเด็กประถมกระมัง จึงได้เปิดกล้องวงจรปิดและตามจนได้คืน


นอกจากนั้น พอกลับเข้าอพาร์ตเมนต์ก็พอจะได้พักบ้าง แต่กระต่ายก็ไม่เข้าใจเอาเสียเลยทำไมที่นี่ไม่เปิดฮีตเตอร์ เสื้อผ้าที่ขนไปแทบไม่ได้ใช้ กระต่ายต้องยอมควักกระเป๋าซื้อเสื้อโค้ตหนาๆ เอาไว้ใส่ในอพาร์ตเมนต์ พอรวบรวมความกล้าถามเพื่อนข้างห้อง จึงได้คำตอบว่าที่นี่จะเปิดฮีตเตอร์เมื่อเจ้าของที่พักเห็นควรว่าหนาวพอแล้ว


กระต่ายอ้าปากค้าง ทนนอนหนาวเป็นเดือนๆ ในที่สุดเจ้าของก็เปิดฮีตเตอร์


...แต่ก็ได้เวลาที่กระต่ายต้องย้ายออกไปหอพักของศูนย์


หอพักของศูนย์เป็นห้องเดี่ยวเล็กกว่าที่อพาร์ตเมนต์อยู่ใกล้เมือง ห้องน้ำรวม แต่มีครัวของส่วนรวมให้ใช้ ไม่ได้แย่อะไรนัก เมื่อกระต่ายย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน ลูกโป่งก็แจ้งข่าวดี


"น้าธีจะแต่งงาน!"


กระต่ายตื่นเต้นไปด้วย "จริงเหรอ!?" สอางค์ช่วยพยักหน้ายืนยันผ่านโปรแกรมสไกป์ ทั้งคู่แย่งกันเล่าว่า เจ้าบ่าวเป็นใครไม่ได้นอกจากอานัท แฟนหนุ่มของน้าที่คบกันมานานแล้ว ส่วนยูย้ายไปอยู่กับแฟน เล่นเอาบ้านแทบแตก กระต่ายได้แต่ฟังทั้งคู่นินทาน้าสาวจนเพลิน เมื่อลูกโป่งขอตัวไปเข้าห้องน้ำ สอางค์จึงยึดคอมกระซิบกระซาบบอกกระต่ายว่า


"โป่งตอนนี้แอบรักเค้าข้างเดียวล่ะต่าย"


"หา!?" อย่างลูกโป่งน่ะหรือ... เห็นกะล่อนเสียขนาดนั้น แต่สอางค์ก็เล่าต่อว่า เป็นคนมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่อยู่คนละคณะ เจอกันตอนงานกีฬามหาวิทยาลัย ที่สำคัญ... เป็นผู้ชายตัวเบอเริ่มด้วย!


"หล่อนะ... แนวๆ หมีควายอะไรแบบนั้น คืออางค์ว่าเสือตัวใหญ่แล้วนะ แต่อันนี้เหมือนจะใหญ่กว่า อ้วนกว่า ลงพุง แม่งไว้หนวดไว้เคราเหมือนโจรอ่ะ ไม่รู้โป่งมันหลงเข้าไปได้ไง" สอางค์ถอนหายใจ


"แต่ก็พอเข้าใจมัน... ไอ้รามถึงหน้าจะเหี้ย หุ่นเหี้ย" เสียงเน้น 'เหี้ย' จนกระต่ายชักสงสารคนชื่อราม "แต่มันนิสัยดี เป็นหัวหน้าชั้นปี คอยช่วยอีโป่งเรื่องสแตนด์บ่อยๆ อีโป่งมันคงไม่ค่อยเจอคนใจดีด้วย... ละมั้ง"


หลังจากนินทาเพื่อนแล้ว อีกสองสามวันถัดมา ก็มีข่าวใหญ่ประกาศอีกครั้ง คราวนี้มาจากพี่เสือโดยตรง


กระต่ายจำได้ว่าหน้าตาพี่เสือดูพิกลๆ เหมือนจะหลบกล้องตลอดเวลาที่คุยกัน "ต่าย... ไอ้โบ้ไปแล้วนะ"


"ไป ?" กระต่ายทวนคำงงๆ "ไปไหน ?"


"ไปเมืองนอก"


"หา!?" กระต่ายจำไม่ผิดว่า ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินเรื่องของจัมโบ้คือเพื่อนตัวโตไปๆ มาๆ ง้อแฟนระหว่างเมืองกรุงกับจังหวัดทางอีสานที่กระเจี๊ยบเรียนอยู่


"อือ... เลิกกับเจี๊ยบแล้ว คงหมดหวังจริงๆ มันอยู่ทางนี้ยิ่งแย่ใหญ่ กินเหล้าทุกวัน พ่อแม่เลยส่งมันไปออสเตรเลียแล้ว"


กระต่ายถอนหายใจ "แล้วรันต์ล่ะ ? ไม่กลับมาคืนดีกันแล้วเหรอ ?"


"โบ้มันเพิ่งเล่าให้ฟัง... มันเองก็ทำเจี๊ยบเจ็บหลายเรื่อง... ตอนนี้ก็มีแฟนใหม่ไปแล้ว"


กระต่ายนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพยายามทำความเข้าใจ...


...ไม่ว่าใครก็ต้องก้าวไปข้างหน้ากันทั้งนั้น


ถ้าอย่างนั้น ที่กระเจี๊ยบกลับมาคืนดีกับจัมโบ้ตอนปีก่อน ก็คงเป็นฟางเส้นสุดท้ายแล้วจริงๆ กระเจี๊ยบถึงกับให้โอกาสจัมโบ้ตามไปเรียนด้วย ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นรักทางไกลกันอยู่ แต่คงเลิกกันระหว่างนั้น...


...กระเจี๊ยบมีคนใหม่ จัมโบ้เองก็ไม่สามารถบังคับให้คนหมดรักกลับมารักได้อีก


ไม่รู้ทำไม พอฟังเรื่องนี้แล้วกระต่ายใจหายไม่รู้ตัว เสียงเบาสั่นไหวยามถามกลับ "แล้ว... แล้วพี่เสือล่ะ ?"


"หืม ?"


"รัก... รักทางไกลแบบนี้... พี่เสือ... ล่ะ ? จะมีใครใหม่ไหม ?"


ใบหน้าบนจอคอมพิวเตอร์ราวกับพร่าเลือนไปสักพัก พี่เสือไม่ได้หยอดคำหวาน นัยน์ตาไม่หวานฉ่ำ แต่แน่วแน่ ตรงไปตรงมา "อย่าถามแบบนี้อีก... เชื่อในตัวพี่ เหมือนพี่เชื่อในตัวกระต่าย"


ถึงจะไม่ใช่คำหวานหู แต่กระต่ายกลับยิ้มออก... นี่แหละ พี่เสือ


ไม่ใช่เขาคนเดียวที่กลัว แต่พี่เสือก็กลัวเหมือนกัน...









กระต่ายเริ่มไปเรียนหลังจากนั้น ชีวิตในปารีสเริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่ปัญหาใหญ่ที่ตามมาอีกระลอกคือเรื่องวีซา


เขาเริ่มเข้าหาคนอื่น พยายามหาคนช่วยเหลือ หลังจากศึกษามาแล้วก็ยื่นเรื่อง จำคำศัพท์ที่ใช้ในการยื่นต่อวีซา เอกสารทุกอย่าง จนทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้เวลาฉายเดี่ยวไปยังสำนักงาน


กระต่ายกลัวไหม... กลัวที่สุด!


คนตัวเล็กพูดภาษาฝรั่งเศสได้นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น แต่เมื่อต้องลาเรียนหนึ่งวันเพื่อไปยื่นขอวีซา แต่ก็พบกับป้ายที่แปลได้ว่าน่าจะปิด หลังจากนั้น กระต่ายก็ลาอีกสองครั้ง จนในที่สุดก็ได้ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่หน้าบูดที่รัวภาษาฝรั่งเศสใส่กระต่ายจนเหมือนร้องเพลงแรพ


เด็กน้อยแทบร้องไห้ กระต่ายมาที่นี่คนเดียว ไม่มีใครให้พึ่ง มีแต่ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตที่เชื่อถือมาตลอด มาเจอสถานการณ์แบบนี้ บวกกับความผิดหวัง กดดันที่มาแล้วปิดหรือมาไม่ทันเจ้าหน้าที่ และความกดดันจากสถาบันที่เขาต้องลามาบ่อยๆ แล้ว ใบหน้าหวานจึงเหยเก ริมฝีปากเบะเหมือนเด็กน้อย มือสั่นระริกขณะยื่นเอกสารที่เหลือให้ทั้งหมดโดยไม่เข้าใจคำถามของพนักงานแม้แต่คำเดียว


และดูเหมือนน้ำตาเม็ดโตๆ ก็ร่วงเผลาะอยู่หน้าเคาเตอร์จนได้ ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตกใจ กระต่ายฟังไม่รู้เรื่อง แต่เจ้าหน้าที่ก็ตรวจเช็คเอกสารอย่างละเอียด พยายามสื่อสารกับกระต่ายด้วยเสียงที่อ่อนลง


และในที่สุดกระต่ายก็ได้วีซานักเรียนจนได้... เหมือนเจ้าหน้าที่จะเน้นเรื่องวัน เวลาอะไรสักอย่าง แต่กระต่ายฟังไม่ออก ได้แต่พยักหน้า


"Oui... oui... merci" (ใช่ครับ ใช่ ขอบคุณครับ)


พอเดินออกจากสำนักงานแล้ว รู้สึกตัวเองโล่งไปหมด... มีวีซาอยู่ในมือทำให้อุ่นใจยิ่งกว่าอ้อมกอดพี่เสือเสียอีก


มือเล็กขยี้ตา ปาดน้ำตาออก ถอนหายใจเฮือกๆ พอหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาจึงตัดสินใจกลับบ้าน


ระหว่างทางเดินกลับบ้าน กระต่ายไม่ลืมฉลองด้วยมาการองแสนอร่อยจากร้านเบเกอรีใกล้ที่พัก



...ถามว่าฟังเจ้าหน้าที่คนนั้นรู้เรื่องไหม


...ไม่สักนิด!


แล้วที่ร้านเบเกอรีน่ะ... กระต่ายก็... ชี้ๆ เอา! ทั้งๆ ที่อยู่ฝรั่งเศสมาสี่เดือนแล้ว ภาษาฝรั่งเศสของกระต่ายยังผลุบๆ โผล่ๆ ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างอยู่เลย









การเรียนที่สถาบันนั้นหนักหนาทั้งกายและใจ พี่เสือบ่นเสมอว่าเรียนหนัก แต่พอฟังที่น้องชายตัวน้อยเล่าให้ฟังแล้วก็พูดไม่ออกเอาเสียเลย

กระต่ายต้องยกกระสอบแป้ง น้ำตาล ถังสีผสมอาหาร แป้งโด เค้กหนักหลายกิโลกรัม แขนขาที่อ่อนล้าต้องพาตัวเองเบียดเสียดเป็นปลากระป๋องในเมโทรกลับห้อง ทั้งยังต้องระวังตัวไม่ให้ถูกล้วงกระเป๋าหรือถูกทับแบน กลิ่นเสื้อโค้ตของชาวปารีสก็ฉุนจนต้องกลั้นหายใจ ไม่มีใครยิ้มหรือสบตากัน ในแสงของรถไฟภายนอกคืออุโมงค์ดำมืด กระต่ายรู้สึกราวกับว่าอุโมงค์นั้นยาวไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ต่างจากชีวิตกระต่าย...


ชีวิตต่างประเทศไม่ใช่ฝันแสนหวาน บรรดาคนที่จบมาแล้วมักจะพูดถึงสิ่งที่ได้มาแล้ว แต่ระหว่างทางที่ลำบากลำบนนั้นมักไม่ค่อยมีใครสนใจฟัง


โชคดีที่กระต่ายมีเพื่อนในคลาสแล้ว เป็นสาวลูกครึ่งจีน-ออสเตรเลียชื่อว่าเดมี เธอเป็นผู้หญิงร่างสูงโย่ง แขนขายาวหน้าตาสวยเก๋ ตาชั้นเดียวยาวรีพร้อมโหนกแก้มชัด เดมีอายุมากกว่ากระต่ายหลายปี ตอนที่พบกันครั้งแรก กระต่ายอายุได้สิบแปด เดมีอายุยี่สิบเก้าปี


อาจเพราะเดมีเลยทีเดียวที่ทำให้กระต่ายอดทนและยิ้มรับกับเรื่องราวต่างๆ ได้


และเพราะเดมีเช่นกันที่ช่วยประคับประคองกระต่ายไม่ให้ถอดใจกลางทาง หล่อนกลายเป็นพี่สาวของกระต่าย ไม่แปลกเลยที่คนไกลบ้านอย่างกระต่ายจะติดเพื่อนแจ


ไม่นาน กระต่ายก็เข้าร่วมก๊วนกับวลาดิเมียร์ แฟนหนุ่มชาวรัสเซียของเดมีที่เป็นนักศึกษาของสถาบันเดียวกัน คลาสเดียวกัน


เดมีและแฟนหนุ่มเช่าอพารตเมนต์อยู่ด้วยกัน ทั้งคู่มักจะรบเร้าให้กระต่ายทำอาหารไทยให้กินเสมอ ในวันหยุด กระต่ายก็ไม่เคยถูกทิ้งเพราะเพื่อนไปมีแฟน ทั้งคู่หนีบกระต่ายไปด้วยทุกที่เหมือนมีลูกเล็กๆ อีกคนหนึ่ง


เพราะทั้งสองคนนี่เองที่ช่วยให้กระต่ายประหยัดค่าอาหารไปเยอะ คนไกลบ้านทั้งสามช่วยกันหารค่าวัตถุดิบจากไชน่าทาวน์ แล้วเอามาทำกินกันเองที่อพาร์ตเมนต์ของเดมี พอวันหยุด สาวขาช็อปก็พากระต่ายและแฟนไปตามตลาดนัดต่างๆ  เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่กระต่ายใส่ก็ได้มาจากของมือสองตามตลาดนัดนี่เอง









เสียงหวานๆ ของแอร์โฮสเตสดังขึ้น กระต่ายยิ้มน้อยๆ พลางคาดเข็มขัด


ชีวิตของกระต่ายนับจากนี้จะไม่มีเดมีอยู่ข้างๆ พูดคุยด้วยสำเนียงออสซี่แล้ว...


...แต่กระต่ายจะกลับไปหาสุดที่รักเสียที










เรียนได้พักหนึ่ง กระต่ายมีความสุขเลยทีเดียว จนแทบลืมความคิดถึงได้พักใหญ่ พี่เสือก็ระเบิดข่าวใหญ่อีกรอบ

ถึงช่วงนั้นกระต่ายจะสังเกตได้ว่าพี่ชายผอมลง แต่เพราะคิดว่า พี่ชายเรียนหนักเกินไปจึงผอมลง แต่เมื่อเค้นถามเมื่อคนตัวเล็กสังเกตเห็นข้อมือที่ปูดโปน ร่างกายที่แข็งแรงยิ่งเห็นข้อต่างๆ ชัดเจน


ในที่สุดคนตัวโตก็สารภาพหมดเปลือก

"พี่บอกพ่อกับแม่แล้ว"


"บอก ?" กระต่ายทวนคำไร้เดียงสา หน้าตาเป๋อเหลอ พี่ชายถอนหายใจ ฉีกยิ้มฝืดเฝือให้


"บอกเรื่องของเรา"


"เดี๋ยวนะ..." หัวใจชักแกว่งๆ แล้ว ได้แต่คิดว่าไม่นะ... ไม่จริง...


"ฮื่อ พี่บอกว่าอยากได้น้องชายมาเป็นเมีย" รอยยิ้มดูอิดโรยก็จริง แต่นัยน์ตาเป็นประกาย


"พี่เสือ!" กระต่ายหวีดร้อง ไม่สนใจแล้วว่าเพื่อนข้างห้องที่เป็นสาวสเปนจะตกใจหรือไม่ มือบางแทบเขย่าหน้าจอแลปทอป "ทำแบบนั้นทำไม! แล้ว แล้ว... พ่อกับแม่..."


พี่ชายยื่นมือมาตรงหน้าจอ คล้ายจะสัมผัสคนที่อยู่คนละซีกโลก "ต่ายน้อย..." เสียงทุ้มกดลงต่ำ "นี่เป็นการตัดสินใจของพี่..."


"อา..." ร่างเล็กฟุบลงกับโต๊ะอย่างไร้เรี่ยวแรง ในหัวมีแต่ความคิดวิ่งวน...


...พี่เสือ...


"แต่ไม่ต้องห่วงนะ" เสียงพี่ชายมีชีวิตชีวาขึ้น "พ่อไล่พี่ออกจากบ้านแล้ว"


คำพูดนั้นเล่นเอากระต่ายดีดผึงขึ้นมาอีกครั้ง อ้าปากค้าง แต่พี่เสือไม่ได้บอกทั้งหมด...


...คุณพ่อไม่ได้แค่ไล่ลูกชายออกจากบ้าน แต่ไล่เหมือนหมูเหมือนหมา ไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้น เงินค่าเล่าเรียนที่เคยส่งให้ก็หายไป ไม่นับพ่อนับลูกอีกต่อไป


แต่เสือก็ยิ้มรับ


เพราะนี่คือการตัดสินใจของเขา... ชีวิตของเขา


แม้จะเห็นแก่ตัวที่ลากคนรักเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ทุกคำที่เสือสารภาพกับบุพการีคือความรัก ความต้องการที่จะปกป้องอย่างสุดกำลัง


'ต่ายน้อยไม่ผิด... เสือข่มขืนน้อง! เสือข่มขืนน้อง!'

'เสือผิดเอง! พ่อไล่เสือออกมาได้ แต่อย่างยุ่งกับน้อง! เสือบังคับน้องเอง!'



ไม่รู้ว่าบุพการีฟังหรือไม่... แต่นับว่าโชคดีที่คอนโดที่ซื้อให้ยังไม่โดนยึด


พี่เสือเล่าช้าๆ ถึงวันที่เกิดเรื่อง ไม่ได้ใส่อารมณ์ให้โกรธเคือง แม้ใบหน้าจะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ยังมีคำปลอบประโลมคนรักไม่ได้ขาด


"ต่ายน้อย... ความสัมพันธ์ของเรา ต่ายน้อยไม่ผิดอะไรเลย... พี่จะทำทุกอย่างให้เราได้อยู่ด้วยกัน"

"...ต่ายน้อย... ที่พ่อทำกับพี่ถือว่าสมควรแล้ว... อย่าโกรธพ่อเลยนะ"

"ไม่เป็นไร... พี่ไม่เป็นไร... พี่จะหาเงินเรียนให้จบเอง..."


กระต่ายไม่ตอบ


จนกระทั่งสัญญานขาดหายไป...


อาจเพราะริมฝีปากถูกเย็บ... หัวใจถูกกระชาก...



...พี่เสือเลวที่สุด... คิดเองเออเอง...


...ความสัมพันธ์ที่ผิดเพี้ยน พี่เสือเป็นผู้เริ่มต้น แต่กระต่ายเป็นผู้สานต่อ...




...และจะต้องเป็นคนดำเนินต่อไป!



นิสัยน้องเล็กกลับเข้ามาอีกครั้ง กระต่ายเอาใจมากๆ ถ้าต้องการอะไรก็ต้องได้



และตอนนี้... กระต่ายต้องการพี่เสือ!





ค่าโทรศัพท์ข้ามประเทศแพงจนขนหัวลุก จึงเป็นกระต่ายเองที่โทรกลับบ้านเสมอ แต่ที่ผ่านมา... ไม่มีใครบอกกระต่ายเลยว่าพี่เสือเป็นอย่างไร


เมื่อโพล่งออกมาอย่างโกรธจัด คุณแม่ที่รับสายอยู่ก็ร้องไห้... เสียงในสายสั่นเครือ จับใจความไม่ได้ คุณพ่อถามแทรกเป็นระยะว่ากระต่ายถูกข่มขืนจริงหรือไม่...


...ที่ทั้งสองเก็บเรื่องนี้ไว้นานขนาดนี้ เพียงเพราะไม่ต้องการให้ลูกชายคนเล็กต้องมีเรื่องเครียดในช่วงระหว่างปรับตัวที่ต่างประเทศ


กระต่ายน้ำตาพร่ามัว ก้อนสะอื้นจุกในคอ


พ่อกับแม่แบกรับบาปที่ลูกทั้งสองก่อ

พี่เสือแบกรับความรัก ความโกรธแค้นไว้เต็มสองบ่า

คนทั้งครอบครัว... กำลังปกป้องกระต่ายด้วยวิธีของตัวเอง...









หลังจากวางสาย กระต่ายจึงยิ่งแน่วแน่กับการตัดสินใจของตัวเอง



จะเป็นกระต่ายเองที่ปกป้องพี่เสือและครอบครัว!



ยิ่งใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ยิ่งได้เรียนรู้คุณค่าของครอบครัว จนรู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กระต่ายจะรักพี่เสือ ไม่ว่าจะผิดบาปอย่างไร กระต่ายจะเป็นคนนำครอบครัวกลับคืนมาเอง!






ทางบ้านไม่ติดต่อพี่เสือเลย กระต่ายวานทุกคนที่รู้จักให้เล่าเรื่องพี่เสือให้มากที่สุด เพราะกระต่ายรู้แล้ว... ตั้งแต่ช่วงแรกที่มาอยู่ปารีส พี่เสือหลบกล้อง...


ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นรอยช้ำเหมือนโดนทำร้ายมา


...สองไหล่จะแบกความรู้สึกและภาระไว้มากขนาดไหนกัน... กระต่ายจินตนาการไม่ออก หรือกระทั่ง ความรักที่พี่เสือมีให้ตนเองนั้น จะมหาศาลเพียงใดจนคนคนหนึ่งยอมสูญเสียครอบครัว เสียความสะดวกสบาย เสียทุกอย่างเพื่อแลกกับความรัก...

เรื่องราวค่อยๆ ถูกบอกเล่าทีละนิดๆ เหมือนจิ๊กซอว์ที่ต่อเติมภาพร่างของคนรักที่อยู่ห่างไกลให้เต็ม


...พี่เสือขอทุนคณะ...  ตราบใดที่เกรดของพี่เสือยังไม่หล่นอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเรียนจบเป็นทันตแพทย์แน่นอน

...พี่เสือแทบไม่สุงสิงกับใคร ค่าใช้จ่ายประจำวันกระเบียดกระเสียด ได้มาจากเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาบ้าง ทำงานเป็นติวเตอร์บ้าง หรือกระทั่งเป็นบริกรในร้านอาหารกึ่งผับของเพื่อนพี่ฟง



กระต่ายน้ำตาคลอ อยากออกปากว่า... พอเถอะพี่เสือ กลับบ้านไปขอโทษพ่อแม่... บอกไปความรู้สึกที่พี่ชายมีให้ตนเองนั้นโกหก


สำหรับกระต่ายแล้วพี่ชายที่แข็งแรงองอาจ สง่างาม เฉลียดฉลาดไม่ควรเหน็ดเหนื่อยเพื่อกระต่ายเลย


แต่ทุกครั้งที่คุยกัน... รอยยิ้มอิดโรยบนใบหน้าแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจนั้นทำให้กระต่ายเป็นใบ้...


...และความรักมากมายที่เป็นมากกว่าพี่น้อง มากกว่าครอบครัวนั้น... ไม่อาจโกหกได้เลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2015 00:31:30 โดย aimer »

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
หากการมาเรียนต่อที่ปารีสคือความภาคภูมิใจของกระต่าย

การแบกรับทุกเรื่องไว้เพื่อกระต่ายก็คือความภาคภูมิใจของพี่เสือ

...กระต่ายเป็นใครกัน จึงสมควรได้รับความรักมากมายเพียงนี้ ?







วันเวลาผันผ่าน ในที่สุดก็จบคอร์ส กระต่ายเลือกโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในปารีสเพื่อฝึกงาน เดมีและวลาดิเมียร์เลือกอีกแห่งหนึ่งใน Cote d'azur หรือริเวียร์ราที่ขึ้นชื่อ


เพราะฝึกงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง กระต่ายจึงเลือกทำงานในร้านขนมอีกแห่งหนึ่งด้วย จวบจนกระทั่งถึงเดือนเมษายน

.

..


.


ครั้งแรกที่ได้ยินข่าวกระต่ายแทบกระโดด


พี่เสือมาหา!


ตลอดเวลาที่พี่เสือทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนนั้น ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างเสียที น้าธี น้าสาวของลูกโป่งจ้างพี่เสือที่ขึ้นปีสองคณะทันตแพทย์ในฐานะผู้ช่วยเลขา


น้าธีในตอนนั้นเพิ่งแต่งงานและลาออกจากบริษัทเดิม เพื่อมารับตำแหน่งที่สูงกว่าในบริษัทสามี และเมื่อย้ายบริษัท หน้าที่ความรับผิดชอบก็เปลี่ยนไป เธอจำเป็นต้องมาดูแลควบคุมสาขาใหญ่ที่ปารีสและลอนดอนทุกปี จริงๆ แล้วน้าธีจะจ้างใครก็ได้ที่เรียนจบแล้ว มีประสบการณ์ด้านนี้มาทำหน้าที่นี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ทันทีที่เธอเห็นเสือในวัยสิบแปดปี เธอก็ตกปากจ้างทันที


พี่เสือเล่าให้กระต่ายฟังทีหลังว่า น้าธีใช้งานได้คุ้มทุกบาททุกสตางค์จริงๆ เธอต้องการผู้ช่วยเลขาที่คล่องงาน ไม่เกี่ยงงานหนัก พร้อมทำโอที พูดภาษาอังกฤษคล่อง เฉลียวดฉลาด... ดูเหมือนจะเป็นความต้องการทั่วไป แต่ที่พี่เสือชนะใจน้าธีก็เพราะ...


กล้ามล่ำๆ ร่างกายแข็งแรงนั่นเอง


นอกจากทำงานเอกสารแล้ว พี่เสือยังต้องเดินตามเจ้านายเข้าห้างโน้นออกห้างนี้ หิ้วถุงชอปปิ้งเต็มสองแขนจนล้น ร่างกายเด็กหนุ่มที่แข็งแรงกว่าพนักงานออฟฟิศนั่นเองที่ทำให้น้าธีตัดสินใจจ้าง


พี่โอ เลขาสาวประเภทสองของน้าธีถึงกับน้ำตาไหลพราก ขอบคุณพี่เสือที่มาช่วยแบ่งเบาภาระหิ้วถุงชอปปิ้งเลยทีเดียว


นอกจากได้เงินแล้ว ค่าตั๋วและที่พักยังฟรีด้วย เมื่อเสือแจ้งว่าจะไปพักกับน้องชาย น้าธีก็มอบเงินส่วนที่พักให้ เป็นเงินไม่น้อยทีเดียว


เหมือนฝันไปเลย...


กระต่ายมีพี่เสือข้างกาย... พอทั้งคู่ทำงานเสร็จก็กลับมาพบกันที่ห้องพักเล็กแคบ กระต่ายจำไม่ได้ว่าในคืนๆ หนึ่งร่วมรักกับพี่เสือไปกี่ครั้ง


แต่จำได้ว่า ร่างกายตัวเองถูกเสกร่ายมนตร์ให้เต็มไปด้วยความสเน่หา ยามเมื่อร่างกายถูกบดเบียด ความใหญ่โตแทรกเข้ามา กระต่ายกลับรู้สึกว่า นี่แหละ... คือที่ของเขา


ทุกความทุกข์ ความกังวลหายไปหมด แค่อยู่ในอ้อมกอดพี่เสือ...


นิ้ว มือ ปลายเล็บ ข้อมือใหญ่ ริมฝีปาก ไรหนวด... ทั้งหมดเป็นของกระต่าย


ยิ่งต้นแขนแน่น ถึงจะผอมผ่ายลง แต่ก็ยังมีมัดกล้าม... ไม่ใช่เพียงโอบกอด แต่ต้นแขนด้านซ้ายมีรอยหมึกใหม่ๆ สลักเป็นตัวอักษรแปลกตา


"ภาษากรีกน่ะ" ผู้เสือบอก จับมือน้อยที่ลูบไล้ต้นแขนขึ้นมาจูบ "A man who's watching the moon"


แก้มนวลขึ้นสีน้อยๆ ซบหน้ากับรอยสักนั้น "...หนูเหรอ ?"


"มีแค่คนเดียวเท่านั้น" เสียงตอบสั่นพร่า จนร่างกายกระต่ายสั่นสะท้าน...


...คนนี้ของกระต่าย... ของกระต่ายคนเดียว...








ร่างกายเล็กๆ กลืนกินพี่ชาย ริมฝีปากตะกรุมตะกรามดูดกลืนเรียวลิ้น

ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือความใคร่... ก็ช่างปะไร

ไม่ว่าในห้องจะคาวกลิ่นน้ำกามฟุ้ง... หรือความยากลำบากในการแอบไปเข้าห้องน้ำรวมตอนดึกๆ... ก็ช่างปะไร



กระต่ายหลงรักคนคนนี้ คนบ้าที่ยอมทำทุกอย่าง เสียสละทุกอย่างโดยไม่จำเป็นเพื่อเขา...


ช่องทางเขาแสบร้อนทุกวันที่ไปทำงาน แม้จะต้องยืนอยู่หน้าเตาถึงหกชั่วโมงต่อวัน และราวกับว่าความใหญ่โตปักคาอยู่ในร่างเขาอยู่... กระต่ายกลับยินดี...


...เพราะนี่เป็นหลักฐานยืนยันความรักและตัวตน


ร่างกายบอบบางที่ถูกเคล้าคลึง ถูกทำให้เหมือนผู้หญิง ถูกกระซิบหยาบคายว่าถูกทำให้เป็นเจ้าสาวบ้าง... เป็นเมียบ้าง...


...กระต่ายรักทั้งหมด


รักร่างกายนี้ จิตใจนี้ วิญญาณนี้ เซ็กส์ที่ไม่ว่าจะดุเดือดร้อนแรง วิปริตหรืออ่อนโยน


ริมฝีปากเขาตวัดเลียความโอฬารเข้าปาก คับแน่น ให้เข้ามาลึกยิ่งขึ้น หรือกระทั่งเข้ามาในร่างกายให้ลึกที่สุดแล้วกระแทกกระทั้นปลดปล่อยจนฉ่ำแฉะ...


...จะบนใบหน้า ในปาก บนหน้าท้องหรือภายใน


กระต่ายก็ยินดี!







เวลาสามสัปดาห์ผ่านไปรวดเร็ว กระต่ายแทบไม่ออกจากห้องไปไหน ดีที่ว่าเดมีเลือกไปฝึกงานอีกแคว้นหนึ่งจึงไม่เจอความกระอั่กกระอ่วนตอนแนะนำพี่ชายหรือเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ยอมออกไปไหน ส่วนน้าธีก็ปฏิบัติกับพี่เสือเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ทำงานเป็นลูกน้อง ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว ทั้งสองลิ้มรสชาติหวานล้ำและรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้โตเป็นผู้ใหญ่หนักหนา


สามสัปดาห์ที่ร่างกายพูดมากกว่าริมฝีปาก... 


ในที่สุดก็จบลง... พี่เสือต้องไปทำงานต่อที่ลอนดอนอีกสองสัปดาห์


แม้จะใจหาย แต่ร่างกายที่ได้อิงแอบกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็เป็นแรงผลักดันให้ทั้งสองสู้ต่อไป




"Fish, meat, pork, sir?" เสียงหวานปลุกให้กระต่ายตื่นจากความรื่นรมย์ในห้วงฝันอีกครั้ง เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้น งึมงำตอบกลับ


"Fish, please"


แอร์โฮสเตสหน้าตาดุดันแต่เสียงหวานช่วยกระต่ายดึงแผ่นพลาสติกสำหรับรองอาหารลงจากพนักที่นั่ง พร้อมเสิร์ฟน้ำเปล่าให้หนึ่งแก้ว


อาหารบนเครื่องรสชาติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่กระต่ายก็ไม่บ่นอะไรมาก กัดครัวซองค์ที่บอกตัวเองว่าทำได้อร่อยกว่านี้มากแล้วจัดการอาหารจนหมด


ดื่มน้ำตบท้าย แล้วความง่วงงุนก็กลับมาจนได้


กระต่ายมองภาพพนักพิงของเก้าอี้โดยสารข้างหน้าอย่างพร่าเลือน แล้วจึงกลับเข้าสู่นิทรา









เมื่อฝึกงานครบ... พี่เสือดีอกดีใจที่คนรักจะกลับเสียที แต่กระต่ายตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว!


เดมีและวลาดิเมียร์กลับมาเอารับใบรับรองที่ปารีส หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป เดมีตัดสินใจทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งในลอนดอน ส่วนชายหนุ่มกลับรัสเซียบ้านเกิด ส่วนกระต่ายนั้น...


ทำงานต่อ!


หลังจากชั่งน้ำหนักแล้ว กระต่ายก็สมัครที่โรงแรมเดียวกับเดมี และทั้งคู่ก็แชร์อพาร์ตเมนต์ด้วยกัน


แม้จะมีปากเสียงกับทั้งพี่เสือและทางบ้าน แต่ในที่สุดทั้งบุพการีและคนรักก็ต้องยอมในที่สุด เพราะตอนที่รับโทรศัพท์และทะเลาะกัน กระต่ายก็หิ้วกระดาษทิชชู่เข้าอพาร์ตเมนต์ในลอนดอนแล้ว


ทั้งเงินมัดจำอพาร์ตเมนต์และเอกสารทำงานก็เซ็นต์หมดแล้ว พี่เสือและคุณพ่อคุณแม่ได้แต่ทำตาปริบๆ


กระต่ายทำแบบนี้เสมอ มัดมือชกด้วยการตัดสินใจสายฟ้าแลบตลอด!



ทำเอาพี่เสือรีบจับลูกโป่งกรอกเหล้าเพื่อเอาตัวเองไปทำงานกับน้าธีอีกครั้งไม่ทันเลย







งานในลอนดอนนั้นถึงเงินเดือนจะเยอะกว่าเมืองไทย แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงมาก โชคดีที่กระต่ายหารกับเดมีจึงประหยัดไปได้มาก แต่เมื่อพี่เสือมาเยี่ยมอีกครั้งและกลับไปแล้ว ผู้จัดการก็ตัดสินใจให้กระต่ายหรือไม่ก็เดมีย้ายสาขาไปอยู่โรงแรมในเครืออีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในชนบทของอังกฤษ


เดมีเป็นฝ่ายยืนกรานหนักแน่นว่า "ไม่เป็นไรนะแรบบี้... ฉันไปเองก็ได้" ถึงจะเป็นคนเอเชีย แต่เดมีก็ถูกเลี้ยงดูมาแบบฝรั่ง พอพูดแบบนั้นแล้ว ตาเธอก็ปริ่มๆ ด้วยน้ำตาก่อนโผเข้ากอดกระต่าย

"ฉันไม่อยากไป... ฉันไม่อยากให้เธอไปด้วย"


"อืม นั่นสิ เดมีต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่มีที่ชอปปิ้ง" กระต่ายตอบยิ้มๆ "ฉันไปเอง ถึงเงินเดือนทางนั้นจะน้อยกว่า แต่ค่าครองชีพถูกกว่านะ"


เดมีกระพริบตาที่เขียนด้วยอายไลเนอร์คมจัด "....ฉันขอโทษนะ"


"ไม่หรอก เดมีก็รู้นี่ว่าฉันต้องการเก็บเงินน่ะ ?"


คนฟังส่ายหน้าแล้วก็พยักหน้าอีกครั้ง กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนหน้ากระต่ายติดกับหน้าอกแบนๆ ของเพื่อน "โฮฮฮ... แรบบี้ที่น่าสงสาร ที่แสนน่ารักของฉัน... มาลอนดอนบ่อยๆ นะ ฉันจะช่วยเธอออกค่าทูปว์เอง"


กระต่ายแอบถอนหายใจเบาๆ เดมีเป็นลูกคนรวย ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของชาวต่างด้าวที่ต้องเก็บเงินกลับบ้านเกิดเท่าไหร่หรอก







และเป็นอย่างที่กระต่ายคาด ไม่มีศูนย์การค้าจริงๆ เมืองนี้เน้นที่วิวทิวทัศน์ของชนบทอันสวยงาม โรงแรมที่กระต่ายย้ายมาอยู่นั้นถึงจะเป็นโรงแรมห้าดาว แต่ก็เล็กกว่าสาขาลอนดอน เงินเดือนย่อมน้อยกว่า แต่ค่าครองชีพถูกกว่าที่ลอนดอนมาก และยังมีที่พักพนักงานให้ด้วย


กระต่ายรู้สึกสบายใจมากกว่าเมื่ออยู่ที่นี่ ถึงจะเหงาบ้างที่ไม่มีเดมี แต่เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เขาไม่กลัวคนแล้ว และอีกอย่าง ถึงอย่างไรที่นี่ก็พูดภาษาอังกฤษ ถึงจะฟังยากเพราะเคยชินกับสำเนียงออสซี่ของเดมีก็ตาม แต่ก็ยังเป็นภาษาอังกฤษ!


ตอนแรกที่มาลอนดอนกับเดมี ทั้งสองคนกอดกันกลมด้วยความยินดีที่ได้ยินภาษาอังกฤษอีกครั้ง



และเหตุผลที่กระต่ายต้องการเก็บเงินมากขนาดนี้ก็อาจเป็นเพราะ...

"ต่าย ถ้าเสือเกรดตกกว่านี้ คณะจะงดทุนนะ" พี่น้ำแกงเดือดร้อนแทนเจ้าตัว อดรนทนไม่ไหวจนต้องมาฟ้องรุ่นน้อง มีพี่ฟงส่งเสียงจุ๊ๆ สุดจะห้ามเป็นฉากหลัง


ถึงจะพูดว่าเกรดตก ก็ตกไม่เยอะ แต่ถ้าดูตามระเบียบการให้ทุนแล้วเกรดพี่เสือก็ร่อแร่จริงๆ


กว่ากระต่ายจะเกลี้ยกล่อมให้พี่เสืองดทำงานพิเศษไปบ้างก็เหนื่อยจนเสียงแหบ ถึงจะกรอกหูไปขนาดนั้นแล้วยังทำได้แค่เพียงเสียงตอบอือออของพี่เสือเท่านั้นเอง





กระต่ายจึงกินอยู่อย่างอดออม ไม่ยอมใช้เงินกระทั่งค่ารถบัสหรือกินนอกบ้าน เสื้อผ้าข้าวของก็ใช้ซ้ำๆ กันไม่มีเปลี่ยน เงินก้อนแรกของกระต่ายจึงส่งให้พี่เสือเรียน


เงินเดือนก้อนถัดๆ ไป กระต่ายแทบไม่แตะ ใช้น้อยจนตัวเองผอมกะหร่องส่งให้พี่ชายที่อยู่เมืองไทยเล่าเรียน





ครั้งหนึ่งความภาคภูมิใจของกระต่ายคือการได้ทำตามความฝัน

แต่ตอนนี้ กระต่ายกลับภาคภูมิใจยิ่งกว่าเมื่อวิชาชีพของตัวเองส่งเสียให้พี่ชายเรียนได้


เงินทุกก้อนจากหยาดเหงื่อกระต่าย กลับยิ่งทำให้คนตัวโตยิ่งทำงานหนัก ไปเป็นคนไข้ให้รุ่นพี่บ้าง ไปเป็นติวเตอร์บ้างหรือกระทั่งขยันเรียนและจดสรุปชีทอย่างสวยงามแล้วก๊อปปี้ขาย


เกรดพี่เสือก็ดีขึ้น แต่ยิ่งเรียนก็ยิ่งหนัก ยิ่งไม่มีเวลาทำงาน ในที่สุด พี่เสือก็ต้องเอาเงินจากการขายรถที่พ่อให้มาและเอาไปขายตั้งแต่ตอนแรกๆ มาใช้

ทั้งคู่ต่างกัดฟันสู้ในแบบของตัวเอง เพื่อปกป้องหน่อต้นกล้าเล็กๆ ที่เติบโตเชื่องช้าที่ชื่อว่า


'ความรัก'


ต้นไม้ต้นน้อยจะถูกรินรดด้วยหยาดเหงื่อและความอดทน...


...เพื่อรอวัน...



สามปีต่อมา กระต่ายก็ทำเรื่องขอย้ายไปเมืองไทยสำเร็จ กลับมาครั้งนี้ถึงเงินเดือนจะน้อยลง แต่ระยะห่างระหว่างเขาและคนรักจะย่นลง



พี่เสือก็เรียนใกล้จบแล้วด้วย...







ร่างเล็กบางหอบลากกระเป๋าสีแดงใบโตออกจากประตูผู้โดยสารขาเข้า เงยหน้ามองสนามบินที่แทบไม่เปลี่ยนตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ


คนตัวโตในเสื้อยืดตัวเก่า กางเกงยีนส์เก่าๆ รองเท้าผ้าใบเขรอะๆ


ใบหน้ามีหนวดหรอมแหรม ผมยาวปรกต้นคอแล้ว...


รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้า


ดวงตาคู่คมกริบที่แม้จะมีร่องรอยความเหนื่อยล้าเบือนมาสบ ใบหน้าดุดันเหมือนโจรพลันสว่างไสวด้วยรอยยิ้ม



ใครจะมอง... ช่างปะไร


.

.



สุดที่รักของกระต่าย อยู่ตรงนี้แล้ว!




ต้นกล้าเล็กๆ ได้เติบโตพรวดพราดไปพร้อมกับดอกไม้ที่ชื่อว่าความฝัน





หลังจากนี้ยังมีเรื่องของทั้งสองคนที่ต้องจัดการอีกเยอะ...



...ทั้งเรื่องพ่อแม่


...เรื่องการงาน


...เรื่องเรียน



แต่ไม่เป็นไร...


เพราะตอนนี้กระต่ายอยู่ในอ้อมแขนนี้ ซุกตัวลงบนอ้อมกอดนี้





...และหลังจากนี้ ก็จะมีเพียง 'พี่เสือและกระต่ายน้อย' เท่านั้น


....

Tiger and Bunny พี่เสือร้ายกับกระต่ายน้อย อวสาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2015 16:04:34 โดย aimer »

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
From me/

เฮ้ยยย จบแล้ววววววววววววววววววว  :hao5: ขอกราบคนอ่านงามๆ อีกครั้ง กว่าจะจบได้ปีกว่าเลยค่าาา เรื่องราวหลังจากนี้ของกระต่ายน้อยและพี่เสือนั้นนนน จะมีต่อในตอนพิเศษค่ะ ซึ่งจะขอลงในเล้าอีก 2 ตอนเนอะ ตอนนี้ยังปั่นไม่เสร็จเลยค่ะ ส่วนตอนพิเศษอื่นๆ ที่จะลงในหนังสือวางไว้ มีตอนพิเศษที่ยังไม่ลงที่ไหนอีก 2-3 ตอนค่ะ ตอนพิเศษที่ลงในเล้าก็จะรวบรวมในเล่มด้วย ทั้งภาค Warm Body: X'mas Ver. และ Summer Wine รวมไปถึงภาคพิเศษที่ลงในเพจ Red Ridding Hood และตอนพิเศษสั้นๆ ที่ลงในเพจด้วยค่ะ

ส่วนเรื่องการจองนั้น เราได้แจ้งให้ทางสนพ. ไปแล้วค่ะ ทางนั้นก็ตอบกลับแล้ว แต่ว่าอาจจะนานนิดนึง ความผิดเราเองอ่ะ ดองไว้นานเกิน 555 หนังสือในคิวของทางนั้นเลยยังเต็มอยู่เลยค่า เรื่องการซื้อหา การจองอะไรนี่ ขอยกให้เป็นหน้าที่ของทาง สนพ. ก็แล้วกันนะคะ แล้วเราจะนำมาแชร์ในเล้าและเพจอีกครั้งค่ะ

แจ้งข่าวต่อไปนะคะ

1. พี่เสือต่ายน้อยยังเหลือตอนพิเศษอีกค่า อย่าเพิ่งไปไหนกันน้าาาา ยังไม่ปิดเรื่องเด้อค่า
2. เรื่องถัดไปของเราจะเริ่มเขียนแล้วค่ะ ชื่อว่า Stay Gold เป็นเรื่องราวของคู่สุดฮอตที่ผลุบๆ โผล่ในเรื่องนี้ กันซีนต่ายน้อยตลอด พี่น้ำแกงกับพี่ฟงนั่นเองค่ะ เริ่มลงเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบในเพจนะคะ


ปล เราจะเอาเรื่องนี้ไปลงที่ธัญวลัยด้วยค่ะ เนื่องเพราะคิดๆ ดูแล้ว ถ้าคนจองเยอะขึ้น สนพ ก็อาจจะมีโอกาสทำของที่ระลึกรอบจองเก๋ๆ สวยๆ หรืออาจจะได้โดสั้นๆ เลยก็ได้ เลยคิดว่า ถ้าฐานคนซื้อ(?)เยอะขึ้น อาจจะดีกับทั้งคนอ่าน สนพ(ที่ไม่ขาดทุนเพราะนิยายเรา) และตัวเราด้วยค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ  :mew1:

///

เอาล่ะ เรื่องเป็นการเป็นงานจบไป เรื่องถัดมา

โอ๊ยยยยยยยยย อิชั้นดีใจจจจจจจจจจจ  :z3: แต่ก็ใจหายนะ ที่เรื่องนี้จะจบแล้ว ยังไงพี่เสือน้องต่ายก็อยู่กับเรามาปีกว่าแล้วนะ รู้สึกเหมือนเด็กสองคนนี้เป็นลูกตัวเองเลย คนเป็นแม่เห็นลูกได้ดีก็อดจะดีใจไม่ได้  :hao5: แต่พอมาถึงจุดที่ทั้งสองคนยืนด้วยตัวเองได้ เข้มแข็งมากพอแล้ว เราก็ต้องรามือ ให้พวกเค้ามีชีวิตของเค้าต่อไปน่ะค่ะ

ตอนที่เขียนเรื่องนี้  เอาจริงๆ คือแทบไม่วางแผนอะไรเลย เพราะอยากเขียนก็เขียน มีอยู่ในหัวคร่าวๆ เป็นเหตุการณ์ๆ เหมือนกับว่าทั้งสองคนมีชีวิตจริงๆ เวลาเขียนก็เหมือนผีเข้า เขียนทีเดียวจบ ค่อยมานั่งแก้ภาษาทีหลัง แต่เนื้อหาแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากครั้งแรก เรื่องราวต่างๆ มันโผล่ออกมาเองน่ะค่ะ บางทีในโลกกลมๆ นี่อาจจะมีคนอย่างพี่เสือ น้องต่ายอยู่ที่ไหนซักที่ก็ได้เนอะ

ไว้เจอกันตอนอัพตอนพิเศษครั้งหน้านะคะ อย่าเพิ่งไปไหนกันน้าาา รอตอนพิเศษกันก่อน  :mc4:




ขอบคุณคนอ่านมากนะคะที่อยู่ด้วยกัน ต่อสู้มาด้วยกัน ประคับประคองเรามาตลอด ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

 :bye2:

ออฟไลน์ supermyrainbow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ดีใจมากที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้จนจบ

ติดตามมานานมาก

ขอบคุณนักเขียนที่ทำให้คนอ่านมีความสุขมาก

ไม่ผิดหวังจริงๆ จะติดตามตอนพิเศษต่อไป

รักพี่เสือกับน้องกระต่ายมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ santra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :sad4:
ร้องไห้เลย ติดตามมานานมาก
แต่ไม่ได้คอมเม้น ขอโทษด้วยนะคะ
ครั้งนี้เป็นอะไรที่กินใจมากเลย อินมากกกกกก
เหมือนผ่านความลำบาก ทุกข์ยากมาด้วยกัย
ทั้งพี่เสือ น้องต่าย แต่สุดท้าย
ฟ้าหลังฝนก็งดงามเสมอเนอะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ

ออฟไลน์ @rnon

  • ร่มเย็นเป็นสุข
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :m15:

น้ำตาไหลพรากกกกกกกกกกกกกก  กับความรักของทั้งคู่

ขอบคุณคนเขียนสุดๆๆๆๆๆ

แต่จบแล้วก้อใจหายอ่ะนะ ... คงคิดถึงกระต่ายน้อยมากแน่ๆ

 o13

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
พลังชีวิตตอนนี้ถูกสูบจนหร่อยหรอแล้วเนื่องจากการลุ้นทุกคำพูดตัวอักษรจนเกรงไปหมด ไม่มีแรงพิมพ์แล้ว

ออฟไลน์ Vanillaเปรี้ยว

  • รักเด็กอายุยืนยาว กินเด็กชีวิตเป็นอมตะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮือออน้ำตาจิไหล

ออฟไลน์ jessiblossom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ติดตามตั้งแต่ตอนม.4จนตอนนี้จะเข้ามหาลัยแล้ว เหมือนโตมากับพี่เสือและกระต่ายเลย
บอกได่แค่ว่า รักเรื่องนี้และนักเขียนมากค่ะ (ถึงแม้จะมาต่อช้าไปบ้าง ฮ่าๆ)
ขอบคุณนะค่ะสำหรับนิยายดีๆค่ะ

ออฟไลน์ silver

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
พออ่านจบแล้วก็ใจหายเลยละค่ะ ในใจคิดว่าอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่เพราะว่านิยายเรื่องนี้สนุก แต่เพราะนักเขียนได้สอนอะไรมากมายหลายสิ่งหลายอย่างให้แก่นักอ่านผ่านนิยายเรื่องนี้ ทั้งความสุข ความรัก ความรู้ ความเศร้า ความทุกข์ ความพยายาม ความอดทน ความภาคภูมิใจ และอีกมากมายที่ได้จากนิยายเรื่องนี้ ต้องขอขอบคุณจริงๆนะคะ สุดท้ายนี้ก็ขอบอกว่า จะรอตอนพิเศษนะค่า  :hao5:  :hao5:  :hao7:  o13  :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2015 00:23:48 โดย silver »

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
จบแล้วรอตอนพิเศษ

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
ขึ้นหิ้งในใจเราไปอีกเรื่องเลยค่ะ ไม่รู้จะชื่นชมยังไง
อ่านจบละน้ำตาไหลอ่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ

ปล.เห็นแก้ชื่อแล้ว เราลบคอมเม้นนะคะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2015 08:39:09 โดย nn~~NN »

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
อ่านตอนจบแล้วน้ำตาปริ่มเลยค่ะ T ___________ T .. แบบ เฮ้ยยยย มันจบแล้วอ่ะ T T .. นิยายเรื่องนี้ T T
เป็นเรื่องแรกที่เราทำสารบัญให้เลยค่ะ ไปนั่งเสิร์ชกระทู้หาวิธีทำแล้วเอามาทำให้เลย เพราะชอบมากกกกกก
อ่านๆไปก็เหมือนได้เติบโตขึ้นไปพร้อมๆกับพี่เสือน้องต่ายเลยจริงๆ .. มุมมองของเราค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

เรื่องนี้เป็น "จุดเริ่มต้น" อะไรหลายๆอย่างในชีวิตเราจริงๆค่ะ อย่างแรกก็(ขอเวิ่นหน่อยนะคะ 555555) คุโรโกะค่ะ ..
ก็คือคาแรคเตอร์ที่ไรเตอร์นำมาเป็นอิมเมจของพี่เสือน้องต่ายน่ะแหละ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรค่ะ
มีคืนนึงเซ็งๆว่างๆ เสิร์ชนู่นนี่นั่น ดันไปเจออนิเมะเรื่องนึงหน้าปกมีเด็กหัวฟ้าหน้าคุ้น(อิมเมจน้องต่าย)เลยกดไปดู
เท่านั้นล่ะค่ะ เปิดโลกไปเลย 5555555555555 ตอนนี้ยังหาทางกลับจากวงการอนิเมะไม่ได้เลยค่ะ อยู่แล้วอยู่ยาว

ส่วนอีกเรื่องก็ยังเป็นป้าลามั้งคะ ฮาาา ได้ติ่งป้าก็เพราะเรื่องนี้เลย จริงๆพอรู้จักมาแล้วจาก Born to die แต่ตอนนั้นฟังครั้งแรกก็ถอยเลยค่ะ
พอรู้ว่าเป็นนักร้องคนนี้ถึงได้กลับมาหาฟังใหม่อีกรอบ พอฟังไปฟังมา เอ้ย มันเพราะอ่ะ ; ___ ; ..
แล้วก็ยาวอีกเช่นกันค่ะ (เหมาครบหมด 3 อัลบั้มแบบไม่ดูราคา) เรียกว่าเป็นนักร้องหญิงคนแรกที่ติ่งขนาดนี้เลยค่ะ ~

ที่เวิ่นๆมาเหมือนจะไม่เกี่ยวกับพี่เสือน้องต่ายเท่าไหร่ แต่จริงๆมันก็เกี่ยวนะคะ 5555555555555555
เหมือนเป็นส่วนนึงของชีวิตเราไปเลย -O- ..


ก็ .. จบแล้ว ; ___ ; .. ตอนสุดท้ายออกมาได้สวยงามดีค่ะ ประทับใจนะคะ
แอบอยากอ่านตอนที่พี่เสือสารภาพกับพ่อแม่เหมือนกัน ถึงจะพอจินตนาการออกแล้วแต่คิดว่าถ้าไรเตอร์เขียนก็คงเข้าใจลึกลงไปได้มากกว่าน่ะค่ะ
ด้านน้องต่าย ก็เข้มแข็งกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว .. (แถมเนื้อเรื่องรวบรัดจนเกินคาดเลยค่ะ นึกว่าจะโผล่มาแบบว่าน้องต่าย in Paris the series)
แต่แบบนี้ก็ถือว่าโอเคมากๆแล้วค่ะ ชอบที่ทุกอย่างมันยังดูเรียล ไม่ละครเกิน
อารมณ์แบบฝ่าฝันไปด้วยกันแล้วก็มุ้งมิ้ง(โดนเน้นตอนมุ้งมิ้ง) ความจริงคือมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ ..
อ่านแล้วอินมากเลยค่ะ สงสารพี่เสือ สงสารน้องต่าย ชอบที่สุดคือประโยคที่น้องต่ายบอกว่าตัวเองเป็นใครกัน ทำไมถึงได้รับความรักมากมายขนาดนี้
แบบซึ้งเลย .. รักเรื่องนี้จริงๆนะ เอาใจช่วยทั้งสองคนประหนึ่งมีชีวิตมีตัวตนจริงๆเลย

หวังว่าซักวันคงได้สู้เพื่อต้นกล้าที่ชื่อความรักได้อย่างเข้มแข็งและสวยงามเช่นสองคนนี้นะคะ <3



ขอบคุณคุณ Aimer ที่แต่งนิยายเรื่องนี้มาให้ได้อ่าน ขอบคุณจริงๆค่ะ ~ (_ _)/
จะรอตอนพิเศษนะคะ ^ ^

ออฟไลน์ วิบวับ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
อ่านตอนนี้แล้วร้องไห้อ่ะ
ฉากกระต่ายส่งพี่เสือเรียนนี่เราว่ามันยิ่งใหญ่มากเลยนะ
จากคนตัวเล็กๆที่ต้องพึ่งทุกคนตอนนี้สามารถเป็นที่พึงให้คนอื่นได้ มันน่าอัศจรรย์นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด