Tiger&Bunny : พี่เสือร้ายกับน้องกระต่ายน้อย เปิดจองแล้วค่ะ P.136 15/11/15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Tiger&Bunny : พี่เสือร้ายกับน้องกระต่ายน้อย เปิดจองแล้วค่ะ P.136 15/11/15  (อ่าน 1179780 ครั้ง)

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
หวานอมขมกลืนจริงๆ สงสัยชาติที่แล้วสาบานว่าขอเกิดมาคู่กันทุกชาติ ชาตินี้เลยกลายเป็นแฝด(แถมยังมารักกันอีก) อิอิ

ออฟไลน์ pulovely

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
น่าสงสารอ่ะ แงงๆ โอยจะทำไงดี

พาร์ทนี้สงสารพี่เสือมากกว่าน้องต่ายอ่ะ ไม่รู้ทำไม

ขอให้อุปสรรค(เพราะความเป็นพี่น้อง) ผ่านพ้นไปเร็วๆนะ เอาใจช่วย

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
พี่เสือบอกความในใจให้ต่ายน้อยรับรู้อย่างนี้ก็ดีค่ะ
ต่ายน้อยจะได้รู้ว่า ทำไมพี่เสือถึงมีอะไรกับผู้หญิงพวกนั้น
>.<

ขอบคุณมากค่ะ +1 ^^

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
หน่วงจริงๆ :mew5:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
สงสารต่ายยน้อยจัง

ออฟไลน์ Wereena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
ตามอ่านรวดเดียวจนทัน อิอิ ตกหลุมรักน้องต่ายเข้าเต็มเปา(โดนอีพี่เสือโดดขาคู่) ชอบมาก ขอติดตามเรื่องนี้ด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ asmar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ chaWice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0
ร้องไห้
แถมมาอ่านท้ายตอน ยังบอกว่ามีมาม่ารอชามโต
หัวใจน้อยของเราและน้องต่ายใครจะรับผิดชอบ
เศร้า แต่ก็อยากอ่าน
#ชั้นจะเป็นพวกซาดิทไหม TT

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะออกไปในแนวทางไหน
เครียดแทนพี่เสือ เครียดแทนต่ายน้อย
เชื่อว่าก่อนบทสรุปเรื่องราวอาจจะต้องมีเสียน้ำตาแน่ รักต้องห้ามแบบนี้   :z3:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
น้ำตาหยดพรากๆ

โฮร โกรธพี่เสือนะคะที่จัดการไม่ได้จนน้องเดือดร้อน แต่พี่เสือก็แค่เด็กม.ต้น..ก็เข้าใจว่าต้องผิดพลาดกันได้

ส่วนต่าายน้อยพยายามเข้านะลูก ค่อยๆคิด โอ๊ยน่าสงสาร มาให้ป้ากอดซักที  :man1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
บอกรักไปแล้วววว อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ
รอติดตามตอนต่อไปนะค้าาาาาาา อิอิ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

Ayla

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ diduek

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
    • http://diduek-san.exteen.com/
อ่านแล้วอินมากกกกก สงสารทุกคนเลย คนเขียนแต่งดีมากๆแบบ เข้าถึงซีนอารมณ์สุดๆ โอยยย ฟินนนน

สงสารเสือมาก ฮือ ลุ้นนว่าต่ายน้อยจะเลือกแบบไหน

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
ชอบแบบนี้
เริ่มต้นใหม่ ด้วยความชัดเจน
ไม่ว่าจะจบแบบไหน เมื่อได้บอกความรู้สึกในใจไปแล้ว ก็พร้อมยอมรับผลที่ตามมา

Phongthan

  • บุคคลทั่วไป
จะเป็นไงต่อไปนะ เข้มแข็งไว้นะทั้งสองคน
 :เฮ้อ: เครียดแทน

ออฟไลน์ inspyme.glamour

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
โอ้โห อ่านแล้วคือแบบ..บาดใจ
ไม่ได้เข้ามานานมากกกกกกกกเพราะติดอ่านหนังสือเตรียมสอบ แต่พอแวะเข้ามาก็อ่านยาวจนกลับไปอ่านหนังสือต่อไม่ติดทีเดียวค่าาา ร้าวราน ร้าวรานสุดๆ :impress3:
สงสารทั้งคุณพ่อคุณแม่ พี่เสือ แล้วก็ต่ายน้อยนะคะ(จริงๆคือใจลำเอียง ไม่ได้สงสารพี่เสือจริงซักนี้ดดดดดดเดียว) บอบช้ำกันไปหมด แต่เรื่องนี้ก็เป็นปัญหาที่พี่เสือนั่นละทำมองไม่เห็นตลอด คิดว่าจะปิดตาน้องได้ตลอดไป พอความมาแตกดังโพล๊ะ เอาละสิ เป็นเรื่องเป็นราว เกิดจุดเปลี่ยนที่ทำให้กระทั่งต่ายน้อยต้องกลับมาคิดเลยนะ จุดนี้ต้องขอชมคุณคนเขียนจริงๆ เพราะอ่านแล้วรู้สึกได้ถึงพัฒนาการชัดเจน ทั้งในแง่ความรู้สึกของตัวละคร การเติบโตทางความคิด และการถ่ายทอดของคนเขียน อินมากก ไม่ผิดหวังที่ติดตามแน่นเหนียวมาตั้งแต่ตอนแรก ตอนนี้ก็กลับไปร้าวรานใจอ่านหนังสือเพราะยังไม่มาต่อเสียที :sad11:
ยังเป็นกำลังใจให้นะคะ ปล่อยใจเขียนให้ลื่นๆออกมาสักสามสี่ตอนรวดแค่นี้อ่านอ่านก็ฟินแล้วค่าาา

ออฟไลน์ Opoln Miyabi

  • Y คือ ชีวิต !!!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
 :hao6:  อยากให้พี่เสือจับน้องต่ายปล้ำแล้วไปสารภาพกับพ่อแม่ พร้อมขอน้องต่ายมาเป็นเมียเลย  o13 โอ้ยยยยยยยยย ฟินนนนนนนนนน

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร

ติดตาม และรอคอยตอนใหม่อยู่นะ

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
- Special Warm Body: X'mas Ver. -

ร่างเล็ก แบบบาง ผิวขาวราวกับศพ ดวงตาสีเทาขุ่นมองตรงไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย... ร่างนั้นยังเป็นเพียงเด็กน้อย แต่ทว่าท่าทางการเดินกลับงองุ้ม ราวกับซากศพ...


เด็กน้อยไม่รู้ทิศทาง ไม่รู้ชื่อแซ่ รู้เพียงตนเองเดินไปเดินมาเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็จำไม่ได้ว่านานเพียงใดแล้ว เขาเดินผ่านเหล่าซากศพเดินได้ทั้งหลาย บ้างก็ยึดติดกับกิจวัตรเดิมเช่นเขา เดินไปมา ล่องลอย บางพวกก็กำลังกัดกินสมองมนุษย์ที่บุกเข้ามารวบรวมของใช้


เขาไม่ชอบเนื้อมนุษย์ รู้เพียงแต่ว่า ต่อให้ไม่กินอะไร เขาก็ไม่ตาย... ไม่มีทางตาย... เพราะเขาตายไปแล้ว


พื้นสนามบินฝุ่นเกาะเขรอะ ซากศพจำนวนมากเดินผ่านเขาไป บางคนเขาก็จำหน้าได้ แต่ไร้คำทักทาย มีเพียงดวงตาสีเทาที่จ้องกลับมาเท่านั้น


เขาพูดไม่ได้ มีเพียงเสียงคำรามต่ำในลำคอ


เด็กน้อยคิดว่าตัวเองต่างจากคนอื่นๆ ที่บางคนรอกัดกินชิ้นเนื้อจากพวกโบนนี... พวกอสูรกายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพวกเขามาก่อน ตัวของมันสูงเพียงเอวของมนุษย์ผู้ใหญ่ แต่ดวงตามันโปดโปนเกือบครึ่งศีรษะ ร่างกายผอมผ่าย แห้งเกร็งเหลือเพียงกระดูกเป็นซี่ๆ เนื้อหนังคล้ายยางสีดำส่งกลิ่นเหม็น พวกโบนนีดุร้ายที่สุด... มันอยู่ร่วมกับพวกเขาได้เพราะมันกินเพียงสิ่งมีชีวิต ซึ่งก็คือมนุษย์ที่หลงเข้ามาหรือมารวบรวมยา เสบียง ของใช้นั่นแหละ แต่บางครั้งมันก็กินสัตว์ตัวเล็กๆ ด้วย เช่นเดียวกับพวกเขา แต่เด็กน้อยกลับไม่กินอะไรทั้งสิ้น เพราะไม่หิว ไม่เจ็บปวด ไม่มีความรู้สึกใดๆ เขาจึงปฏิเสธที่จะกินเนื้อนั้น บางครั้งบางคราว ความรู้สึกเบื้องต่ำก็กระตุ้นความกระหายบ้าง.... แต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่าคนอื่นคงเป็นเช่นกัน แต่บางพวกที่มีความกระหายมากเกิน จึงกัดกินเนื้อมนุษย์ และเมื่อมากเข้า ก็กลายเป็นโบนนี


อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาคิดว่าตัวเองแตกต่างคือ พวกซากศพนั้นอยู่ไม่มีที่อยู่อาศัย เพราะไม่เหนื่อย ไม่หิว จึงไม่ต้องการที่พัก พวกมันเพียงเดินย้อนไปย้อนมา ไร้จุดจบอยู่เช่นนั้น แต่เด็กน้อยมีที่อยู่ เขาจัด 'บ้าน' ของตัวเองจากเศษซากเครื่องบินลำโต มีที่นอนไพรเวท ข้าวของหรูหราถูกนำมาตั้งวาง


วันนี้ก็เช่นเคย เด็กชายลุกจากเตียงที่เขาไม่ได้นอนเลยแล้วเดินไปตามงวงช้าง ผ่านซากศพและโบนนีมากมาย บางพวกเริ่มกระหาย จึงเริ่มรวมกลุ่มกันและออกล่าหาเหยื่อ


ร่างเล็กถูกกระแทก ไม่เจ็บไม่ปวด แต่ก็กระเด็นกระดอน วันนี้กลุ่มล่าเหยื่อใหญ่กว่าทุกวัน พวกมันเคลื่อนตัวขวางทางเดินประจำของเขา เด็กน้อยไม่มีทางผ่านซากศพผู้ใหญ่ได้ จึงได้แต่เดินตาม คิดเพียงแต่ว่า ก็คงดีไม่น้อยที่วันนี้จะเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางบ้าง


แสงแดดร้อนแรง เจิดจ้า แผดเผาอาคารบ้านเรือนที่ทรุดโทรม หนูสีดำวิ่งเร็วรี่ตามข้างทาง พวกเขาบางคนกระโจนตะครุบกัดกิน กลุ่มใหญ่เคลื่อนตัวอืดอาด เชื่องช้า เพียงแค่เดินไปเรื่อยๆ หากพบเหยื่อจึงกิน หากไม่พบก็กลับไปที่เดิม พวกซากศพไม่ได้ว่องไวเช่นโบนนี จึงไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จในการล่าเหยื่อนัก


ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าใด แดดแรงจึงถอยหลับเข้าหลังเมฆบ้าง พวกเขาบางตนขยับจมูก ก่อนจะหันหน้าเข้าอาคารร้างแห่งหนึ่ง เด็กน้อยเดินตาม ไม่รู้หรอกว่านั่นคือกลิ่นเนื้อมนุษย์ พวกซากศพเดินเชื่องช้า ตามกลิ่นเนื้อสดใหม่เข้าไปเรื่อยๆ อาคารนั้นเคยเป็นสถานที่สำคัญมาก่อน ทางเดินจึงกว้างขวาง บางตนเริ่มวิ่งเข้าไปห้องหนึ่ง และเปิดประตูพลั๊วะ ไม่นานนัก เสียงปืนก็ดังสนั่น เด็กน้อยเดินตามพวกอย่างไม่รู้เรื่องราวนัก เพียงแค่เหยียบธรณีเท่านั้น เขาก็เห็นลูกกระสุนลอยเต็มห้อง ซากศพต่างกระโจนเข้าขย้ำมนุษย์ บางคนก็กลายเป็นเศษซากเละๆ มีซากศพหลายตัวรุมทึ้ง กลางห้อง มีเพียงมนุษย์คนเดียวที่ถือปืนกระบอกโต เนื้อตัวพาดด้วยลูกซอง ร่างสูงใหญ่ปักหลักเข่นฆ่าพวกซากศพทิ้งเหมือนใบไม้ร่วง


พระอาทิตย์ราวกับจะรับรู้ ค่อยลอยออกจากเมฆ ส่องแสงสาดทั่วบริเวณห้องมืดทึม ภายในเสี้ยววินาทีนั้น มนุษย์กลางห้องเบิกตากว้าง มองมาที่ซากศพตัวน้อยก่อนตะโกนลั่น


"กระต่ายน้อย!"


เสียงนั้นนำพาบางอย่างเข้ามา ปืนกระบอกโตที่ประทับบ่าเล็งยิงศีรษะพวกซากศพลดลง เด็กน้อยเบิกตากว้าง หัวใจที่หยุดทำงานไปแล้วกลับอุ่นวาบ เป็นวินาทีเดียวที่เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง ร่างเล็กเดินเร็วๆ เข้าหามนุษย์ กระชากข้อมือใหญ่ให้หลบหลังเคาเตอร์ เด็กน้อยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้ว่า ใกล้ๆ กันนี้ มีพวกซากศพออกมาล่าเหยื่อ พวกมันได้ยินเสียงปืนแน่นอน อีกไม่นานก็จะแห่กันมา... มนุษย์เพียงคนเดียว ต่อให้มีอาวุธอีกมากมายก็ต้านทานไม่อยู่


...แต่ไม่รู้ทำไม เมื่อเห็นมนุษย์คนอื่นถูกกัดกินกลับเพียงแต่เดินผ่าน แต่เป็นมนุษย์คนนี้กลับไม่ต้องการเห็นจุดจบเช่นนั้น


ร่างสูงใหญ่ถูกร่างเล็กกระแทกติดใต้เคาเตอร์ เสียงต่ำๆ ในลำคอครางว่า "เงียบ..."


ซากศพไม่พูด.... ไม่เคยพูด พูดไม่ได้.... ร่างใหญ่ฉงน แต่ก็พยักหน้า ทันใดนั้นมีเสียงดังขึ้นเหนือศีรษะ เหล่าซากศพจำนวนมากเดินตามกลิ่นและเสียงเข้ามา มันตรงเข้ากัดกินซากมนุษย์ที่เหลือ บางพวกที่ได้กลิ่นมนุษย์ตัวสูงใหญ่จึงออกเดินตามหา เด็กน้อยหันกลับมาหามนุษย์ตรงหน้า แม้จะไม่เข้าใจนัก... เขาก็ถอดเสื้อคลุมตัวเองคลุมร่างสูงไว้ หากมีกลิ่นเขา ที่เป็นซากศพปกคลุม ซากศพอื่นๆ อาจจะไม่ได้กลิ่นมนุษย์


ร่างน้อยจูงมือเขาลุกขึ้น พาเดินออกไปอย่างง่ายดาย


เดินกันมาจวนค่ำ ยังไม่มีบทสนทนาใดๆ ระหว่างทั้งคู่ เด็กชายพามนุษย์ไปยัง 'บ้าน' โดยไม่รู้เหตุผล... รู้เพียงแค่ชอบความรู้สึกอบอุ่นที่หน้าอกทุกครั้งที่อยู่ใกล้


ชายหนุ่มเดินตามซากศพตัวน้อยขึ้นเครื่องบิน ร่างตรงหน้าหันหน้ามาช้าๆ บอกเสียงแผ่วว่า "บ้าน... ปลอดภัย"


ภายในเครื่องบินถูกตกแต่งไว้เหมือนบ้านอยู่อาศัย เพียงแต่มีเศษฝุ่นเกรอะกรัง ชายหนุ่มถอนหายใจ นั่งลงที่นั่งหนึ่ง โดยดึงร่างเล็กมาด้วย


ซากศพที่หน้าตาจิ้มลิ้มนี้ไม่ทำร้ายเขา... เขาแน่ใจ ชายหนุ่มปลดปืนออกจากไหล่ ก่อนส่งยิ้ม


ร่างเล็กพยายามยิ้มตอบ แต่ได้เพียงแค่มุมปาก


"คิดถึงที่สุด" ชายตรงหน้าบอก กอบกุมมือน้อยขึ้นจุมพิต เพียงริมฝีปากแตะมือเล็ก กระไอร้อนก็แผ่นซ่านจากจุดจุมพิต มายังหน้าอก


ร่างสูงใหญ่นั้นยังเห็นเจ้าตัวน้อยเงียบงัน เขาจึงถือวิสาสะอุ้มซากศพผอมบางนั่งตัก มือเกลี่ยผมออกจากใบหน้า "จำพี่ได้ไหม ? ไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่จะเจอต่ายน้อยจนได้" เสียงเขาสั่นระริก ดวงตาคู่คมนั้นมีหยาดน้ำคลอ ร่างเล็กยกมือขึ้นอย่างเงอะงะ สัมผัสความเปียกชื้นบนใบหน้าคมคร้าม


"ต่ายน้อย... ต่ายน้อย... รู้ไหมว่าตั้งแต่เราจากกันตอนนั้น พี่ก็ออกตามหาต่ายน้อยทุกวัน..."


หยดน้ำนั้นอุ่นและเปียก มือเล็กจ้องมองอย่างอัศจรรย์ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองมนุษย์ที่พร่ำพูดไม่หยุด และยังกอดเขาแน่น...


...มนุษย์ควรจะยิงเขาที่หัวไม่ใช่หรือ ?


เสียงจากลำคอเค้นอย่างยากลำบาก "ชื่อ..."


ชายหนุ่มชะงัก หัวเราะเบาๆ แต่กลับฟังดูเศร้าสร้อย "พี่ชื่อเสือ... ส่วนคุณ...คือต่ายน้อย กระต่ายตัวน้อย เคยเป็นน้อ.... ไม่สิ เป็นเมียพี่มาก่อน"


ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ริมฝีปากอ้าค้าง ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าเขาจะมีสามี! แล้วไหนจะยังมีชีวิตอยู่ตรงหน้า ในขณะที่เขาเป็นซากศพ!


"เรียกชื่อพี่หน่อยคนดี" มนุษย์ก้มตัวลงจุมพิตที่หน้าผาก เจ้าตัวน้อยไม่เพียงแต่รู้สึกอุ่นวาบแล้ว แต่ร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า


"...." ยังไม่มีคำตอบใดจากซากศพ มนุษย์จึงล้วงเข้าไปในกระเป๋า หยิบภาพหนึ่งออกมา


ร่างน้อยเบิกตามอง... นั่นตัวเขาเอง... สวมเสว๊ตเตอร์สีเข้มตัวหลวม ไม่สวมกางเกงนั่งอยู่บนตักผู้ชายคนนี้... ในรูปนั้น เขาทั้งสองยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อเงยหน้าขึ้นจากรูป ก็พบคนเดียวกัน ที่ยังสูงใหญ่ มั่นคง มีเพียงรอยยับย่นของกาลเวลาบนใบหน้าและดวงตาแสนเศร้าเท่านั้นที่เปลี่ยน


"พี่ได้งานที่แอลเอ" ชายหนุ่มเล่าต่อไป ลูบศีรษะน้อยไปด้วย หากน้ำตายังไม่หยุดไหล "พี่พาต่ายน้อยไปด้วย... ต่ายน้อยเรียนศิลปะ พี่พยายามส่งเสียมาตลอด... เราเช่าคอนโดอยู่กันสองคน... แล้วเมื่อตอนจะกลับไทย..." เสียงนั้นแผ่วเบาลง สั่นระริก "ช่วงปีใหม่... ผู้โดยสารคนหนึ่งกลายเป็นซอมบี้ มันกระจายเชื้อเร็วมาก... พี่พยายามพาต่ายน้อยหนี แต่คนของรัฐเข้ามาจัดการ มันผลักต่ายน้อยออก.... ให้ติดเชื้อ แล้วกันพวกที่เหลือออกไป.... พี่ทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่มองต่ายน้อยถูก...." เสียงขาดห้วงไป น้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าหยดลงบนหลังมือเล็ก


"หลังจากนั้น... พี่ก็ถูกกักกัน รัฐบาลเร่งสร้างกำแพงใหญ่คั่น หวังแต่ว่าจะล้างซอมบี้ให้หมดไป พี่เลยเข้ากองทัพ.... พยายามตามหาต่ายน้อยมาตลอด"


เด็กน้อยไม่มีความทรงจำใดๆ มันอาจเจ็บปวดจนเขาไม่อยากจำก็ได้ เขาจึงยื่นแขนออกไปโอบกอดร่างยักษ์ "นาน.... เท่า...."


"สิบเอ็ดปี..." อ้อมกอดแน่นขึ้นอีก "พี่ตามหาต่ายน้อยมาตลอดสิบเอ็ดปี... เราสองคนใช้ชีวิตผัวเมียได้ปีเดียวเท่านั้น... ต่ายน้อยก็จากพี่ไป"


ซากศพตัวน้อยนึกภาพไม่ออกว่าสิบเอ็ดปีมันยาวนานเพียงใด... แต่ดวงตาของคนตรงหน้าบ่งบอกทุกสิ่ง... ถึงความทรมาน โหยหา เจ็บปวดเพียงไหน


เพียงแค่สบตา ภายในอกผอมผ่ายก็กระตุกวูบ ทั้งๆ ที่หัวใจหยุดทำงานไปตั้งนานแล้ว...


มนุษย์โน้มใบหน้ามาคลอเคลีย ลมหายใจที่บ่งบอกถึงการมีชีวิตรินรด เขาจับมือเล็กให้แนบหน้าอก ฟังเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะ "ดีเหลือเกิน... ฟ้าส่งกระต่ายกลับมาให้พี่แล้ว..."


ลมหายใจของเขามีกลิ่นบุหรี่เข้มข้น... อกด้านซ้ายเต้นตุบๆ


เจ้าตัวน้อยผู้ไม่ได้รับอภิสิทธิ์เหล่านั้นจึงทันคิดว่า คนตรงหน้า เป็นมนุษย์... เป็นอาหารของซากศพ... เป็นศัตรูคู่อาฆาต...


ร่างเล็กๆ พยายามดันคนตรงหน้าออก "กลับ...ไป...."


"ไม่!" คำตอบก้าวร้าว มนุษย์ตัวยักษ์คว้าเอวบางมาแนบกาย ซุกใบหน้ากับซอกคอขาว "พี่เพิ่งเจอต่ายน้อย พี่จะไม่มีวันทิ้งต่ายน้อยเด็ดขาด!"


"อัน...ตราย..." คำตอบแสนแผ่วเบาทำให้มนุษย์น้ำตาคลอ ริมฝีปากดำคล้ำมีรอยยิ้ม


"ไม่เป็นไร... ไม่เป็นไร... พี่ยอมเป็นซอมบี้... ขอแค่ได้อยู่ข้างๆ ต่ายน้อย"


ซากศพได้แต่จ้องมนุษย์ที่ไม่กลัวตาย ไม่กลัวถูกกินสมอง กลับต้องการกลายเป็นเหมือนเขา... แต่เพียงแค่คิดว่า คนตรงหน้าต้องกลายเป็นซากศพ... หรืออาจถูกเปลี่ยนเป็นโบนนี ก็รู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมา ริมฝีปากอิ่มที่แห้งผากจึงเอ่ย "สอง...สาม...วัน..."


สีหน้ามนุษย์ดูดื้อรั้น ร่างเล็กพยายามพูดต่อไป "ต้อง... กลับ..."


เห็นคนรักที่ไม่ยินยอม เสือจึงยอมอ่อนข้อลง ยอมรับปากแต่โดยดี "สามวันนะครับ แล้วพี่จะกลับไป..."









ภายในสามวันนั้นเสือควรทำอะไร? เขากระตือรือร้นที่จะอยู่ใกล้ซากศพน้อยตลอดเวลา แม้ในยามหิว เขาก็ปีนลงเครื่องบิน มีปืนอาก้าสะพายไหล่ไปรื้อค้นน้ำดื่มและอาหารกระป๋องที่ใต้ท้องเครื่องมากิน ในวันแรก เขาแทบไม่ยอมปล่อยให้ร่างเล็กลุกจากตัก ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหากับซากศพนัก เพราะร่างกายที่เย็นชืดพอเมื่อได้ชิดใกล้กับมนุษย์ กลับรู้สึกอบอุ่นในใจ ราวกับว่าภายในอกมีหัวใจเต้นอยู่


...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ว่าชอบความรู้สึกนั้น... ในความไม่เข้าใจ มีความคุ้นเคยที่แสนสบายอยู่


อ้อมกอดนี้... วงแขนนี้... เมื่อวางเขาไว้บนตัก ทุกอย่างก็เข้าที่ เมื่อริมฝีปากร้อนๆ ประทับบนหน้าผาก ลำคอ แก้มเขากลับรู้สึกว่าทุกอย่างช่างถูกต้อง ถูกที่ถูกทาง ราวกับเด็กน้อยพบที่ที่เป็นของตัวเองแล้ว


ส่วนใหญ่เสือจะเป็นคนพูด แปลกดีทั้งๆ ที่เขาดูเหมือนไม่ใช่คนช่างพูด แต่เพราะซากศพนั้นไม่มีความทรงจำ ถึงจะเริ่มมีความรู้สึกบ้าง แต่ก็ไม่รู้จัก ยากที่จะถ่ายทอด เด็กน้อยจึงนั่งเงียบตลอด


เสือบอกว่า เขาชื่อ 'กระต่าย' และให้เขาแทนตัวเองว่า 'หนู'


เขาและเสือเป็นคนรักกัน ทั้งคู่เคยใช้ชีวิตร่วมกันที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในแอลเอ พวกเขาชอบไปดูหนังตอนวันศุกร์ ไปเดินเล่นด้วยกันตอนวันเสาร์และซักเสื้อผ้า ทำความสะอาดห้องในวันอาทิตย์


กระต่ายได้แต่รับฟัง ทุกสิ่งที่เสือถ่ายทอดมา เขารู้สึกคุ้นชิน เหมือนกับว่าบางสิ่งบางอย่างที่หล่นหายเริ่มค่อยๆ กลับเข้าที่


เสือเล่าเรื่องจนถึงเย็น พอดาวเริ่มปรากฏ เสือจึงอุ้มกระต่ายไปนอนแนบอกข้างหน้าต่าง เขาลูบหลังพลาง ถามพลาง "เราน่าจะออกไปดูดาวกันนะ"


ที่ที่กระต่ายอาศัยอยู่คือเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับมนุษย์แล้ว หากออกไปข้างนอก เสือคงไม่แคล้วโดนซากศพอื่นๆ กินแน่ กระต่ายจึงส่ายหน้า "อัน...ตราย..."


เสือหัวเราะ "ครับๆ อันตราย"








ในวันที่สอง เสือยังคงตัวติดกับกระต่าย วันนี้เสือบอกรักทั้งวัน บางครั้งจะแนบริมฝีปากตัวเองกับริมฝีปากน้อย บางครั้งก็สอดลิ้นเข้ามาด้วย

หัวใจกระต่ายราวกับว่ากลับมามีชีวิต... ราวกับว่ามันสูบฉีดเลือดให้ไปหล่อเลี้ยงร่างกาย... ให้ใบหน้าร้อนผ่าว...


และคืนนั้นเอง... ที่เสือนอนเบียดร่างเล็ก มือใหญ่ควานสะเปะสะปะทั่วร่าง ริมฝีปากจูบคลอเคลียใบหน้าหวานไม่เว้น กระต่ายมองเห็นความรัก ความคิดถึงเต็มเปี่ยมภายในดวงตา... แต่ก็มีบางอย่างแสนเศร้า


กระต่ายไม่ชอบเช่นนั้นเลย... มือเล็กที่เคยตกอยู่ข้างกายมาตลอดทั้งสองวัน กลับค่อยๆ ยกขึ้นโอบกอดร่างสูง เสือหลับตาลง เกยคางกับไหล่บาง "พี่รักกระต่ายเหลือเกิน... ได้โปรด... ได้โปรด... อย่าจากพี่ไปเลยนะ..."


นิ้วมือแข็งกระด้างอย่างศพจิกลงที่ไหล่หนา ในอกแน่นจุก เจ็บปวดจนเสียดแทงบาดลึก


ริมฝีปากร้อนจูบข้างแก้มเบาบาง "ถ้าหากนี่เป็นความปรารถนา... ก็ไม่ใช่เรื่องตัณหา... นี่คือความรัก... รักทั้งหมดจากพี่" มือใหญ่ค่อยๆ ปลดเสื้อผ้าเจ้าตัวน้อยออก ผิวกายขางซีดของซากศพไม่ได้อยู่สายตาเขา... ร่างกายแข็งทื่อไม่อาจทำให้เปลี่ยนใจ




มันไม่ใช่  'เซ็กส์' กับ 'ศพ'
แต่เป็น 'ร่วมรัก' กับ 'ภรรยา'



ไม่ว่ากระต่ายจะกลายเป็นซากศพหรือโบนนี เขาก็พร้อมที่จะให้คนรักกัดกินเลือดเนื้อ ดูดกลืนสมอง... เพื่อจะได้อยู่ด้วยกันไปตลอดกาล



อ้อมกอดแข็งแรงค่อยคลายตัว ชายหนุ่มละเลงริมฝีปากบนแผ่นอกขาวไปทั่ว ดูดดุนยอดอก แม้ร่างข้างใต้จะนิ่งเฉย ดวงตาไร้แววนั้นจ้องมองกลับอย่างว่างเปล่าก็ตาม เขาก็เต็มใจจะปรนเปรอให้ไม่ต่างกับตอนที่ยังมีชีวิต


กางเกงตัวน้อยหลุดออก เสือค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปเตรียมพร้อมยังช่องทางแคบ ร่างกายเย็นชืดนั้นจึงมีปฏิกิริยาบ้าง ชายหนุ่มนวดเฟ้น.... ไม่หวังให้มันคลายตัวนัก ภายในคับแน่น เขาจึงเพิ่มนิ้วให้เป็นสอง ก่อนค่อยๆ ถอดถอนออก และสอดใส่บางอย่างที่ร้อนรุ่ม ใหญ่โตเข้าไปแทน


ความอ่อนโยน ดวงตาที่เปี่ยมรักไม่ปิดบังนั้นทำให้ร่างของซากศพค่อยคลายตัว เมื่อแท่งร้อนสอดใส่เข้ามา ร่างเล็กค่อยขยับตัว



...อึดอัด.... เขาอึดอัด...


เหนือสิ่งอื่นใด.... เจ็บ!



"เจ็บ!" เสียงนั้นร้องแผ่วเบา แต่ก็พอที่จะให้เสือหยุดการเคลื่อนไหว ดวงตาดุนั้นเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหู


"อะไรนะครับ ?"


"เจ็บ..." กระต่ายตอบ เป่าลมหายใจออก


เสือแทบถอดถอนออก ตะลึงพรึงเพริดกับร่างตรงหน้า "ต่ายน้อยเจ็บ... ?"


ร่างเล็กพยักหน้า


ซากศพไม่รู้สึกเจ็บ... ขนาดเสือเคยยิงหน้าอกพวกมัน มันยังเดินต่อได้ สำหรับพวกนี้ ต้องระเบิดสมองเท่านั้น


...ต่ายน้อย ?


ริมฝีปากร้อนประกบที่ปากอิ่มอย่างยินดี พลางเสือกไสตนเองเข้าให้ลึกขึ้น เจ้าตัวน้อยถึงกับเกร็งสะโพก เสือค่อยๆ ละริมฝีปากออก ก่อนจะขยับตัวให้เข้าจนสุด ใบหน้าเฉยเมยของซากศพตรงหน้าค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน


เจ็บ... อึดอัด... แต่ความร้อนระอุนี่มันคืออะไรกัน...


แท่งร้อนนั้นกระแทกภายในจนสุด ร่างเล็กทั้งร่างสั่นสะท้าน ดวงตาเบิกกว้าง บางอย่างทะลักทะลายเข้ามาในหัว...



...ริมฝีปากร้อนที่กดจูบทั่วใบหน้า

...ความรื่นเริงของร่างกาย มันปลื้มปริ่มยินดีเมื่อชิ้นส่วนนั้นเข้ามา ร่างกายบิดตัว ขยับไปด้วยตัวเอง ภายในช่องท้องที่ถูกกระแทก... ความรู้สึกหวามไหว... จนเหมือนมีผีเสื้อนับล้านกระพือปีก

...สัมผัสร้อนผ่าวที่ปากทาง กดทับแนบแน่นจนรู้สึกถึงขนหยาบถูไถ

...แก้มตนเองที่ร้อนผ่าว ความรู้สึกอับอายที่ไม่อาจอธิบายได้ให้หลบตามนุษย์ตรงหน้า

และอีกนับล้านความรู้สึกที่ประดังประเดเข้ามา พร้อมๆ กับชายตรงหน้าที่ช้อนใต้เข่าให้พาดบ่าหนา ดึงแท่นลำหนาของตัวเองออก แล้วกระแทกเข้าใส่ใหม่



...จังหวะจึงเริ่มเร็วขึ้น... รุนแรงขึ้น จนช่องท้องที่ถูกรุกรานตันตื้อ เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดพรายบนใบหน้าสวย ทั้งรู้สึก ได้กลิ่น สัมผัสชัดเจน รู้สึกกระทั่งสองขาที่พาดบ่าคนตัวโต ผิวกายที่เสียดสี ความรู้สึกเฉอะแฉะเบื้องล่าง และท้องน้อยที่เสียววาบจนเหมือนตกจากที่สูง กระต่ายเผลอกรีดร้อง ภายในบีบรัดท่อนลำหนา


เขาได้ยินเสียงหัวใจเต้นระรัว ความเปียกชื้นของเม็ดเหงื่อที่ไหลโทรมกาย เนินเนื้อภายในของตนเองที่เต้นตุบๆ ตอดรัดแท่งร้อน


ร่างบอบบางบิดงออย่างสุขสม ภายในศีรษะว่างเปล่า ขาวโพลน บางอย่างในร่างกายระเบิดออก


















ชิ้นส่วนชิ้นสุดท้ายได้กลับเข้าที่...





...บางอย่างถูกปลดปล่อยจากข้างล่าง เจ้าตัวน้อยนอนหอบฮักหลังผ่านความรักรุนแรงมาแล้ว ริมฝีปากนุ่มเผยอขึ้นกอบโกยเอาอากาศเข้าสู่ปอด ได้ยินเสียงคนรักกัดฟันกรอดๆ และความรู้สึกถูกกระแทกกระทั้นจนร่างสะเทือน ไม่นานนัก ความร้อนรุ่มก็ถึงขีดสุด ท่อนร้อนกระตุกภายในและเจ้าตัวก็สอดใส่ลึกจนสุด ก่อนจะฉีดพ่นน้ำกามแรงเสียจนร่างเล็กรู้สึกได้ถึงความรุนแรงและร้อนรุ่ม หากภายในใจกลับเต็มตื้น... เปี่ยมล้นด้วยความรัก ความหวัง ความคุ้นเคย.... ภาพมืดมัวในใจกลับสว่างไสว เต็มรูปร่างครบถ้วน วาดสีสันสดใส...



มือใหญ่ค่อยๆ ลูบศีรษะน้อย แม้ตนเองจะยังหายใจหอบ ความรักมากมายเอ่อล้นจากร่างกาย ดวงตาคู่นั้นบอกถึงความในใจ ใบหน้าหล่อเหลาซบลงที่แผ่นอกบาง


กระต่ายไม่แน่ใจนักว่าอะไรเป็นอะไร บทรักที่ผ่านพ้นทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ลืมกระทั่งว่าซากศพไม่มีวันอ่อนเพลีย...








...ลืมกระทั่งว่า เสียงหัวใจเต้นนั้นมาจากสองแห่ง......



ดวงตาคู่กลมค่อยๆ ปิดลง
 








เสียงเพลง Last Christmas ของนักร้องสาวดังก้องกังวาล กระต่ายรู้สึกตัวในอ้อมแขนแสนอบอุ่น เขาลืมตาขึ้นมองรอบข้าง


อพาร์ตเมนต์เล็กแบบสตูดิโอ มีเพียงห้องนอนและห้องน้ำที่แยกตัวออกไปถูกตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น เหมาะกับวันคืนอันหนาวเหน็บ สเว็ตเตอร์ไหมพรมสีน้ำตาลเข้มตัวโตที่เขานอนทับอยู่ถูไถใบหน้าจนรู้สึกจั๊กจี้


"ตื่นแล้วเหรอ ต่ายน้อย ?" เสียงทุ้มๆ ดังขึ้นเหนือหัว พร้อมเสียงกลั้วหัวเราะเบาๆ กระต่ายเลิกคิ้วฉงน เมื่อหันไปมองนอกหน้าต่าง ก็พบกับปุยน้ำแข็งสีขาวสะอาดล่องลอยเต็มไปหมด


"หิมะตกแล้ว... หิมะแรกของเราไงคนดี" เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้า ดันกายคนที่นอนทับตลอดทั้งบ่ายให้มาสบตา "ตื่นแล้วเราก็ออกไปชอปปิ้งหน่อยไหม... ฝรั่งเค้าทำอะไรกันวันคริสมาสต์นะ... Turkey? เค้กกับไวน์ด้วย"


"หนูอยากกินไวน์" ได้ยินเสียงตัวเองตอบกลับไป รู้สึกถึงกล้ามเนื้อริมฝีปากที่ขยับเขยื้อน มันช่างมหัศจรรย์เหลือเกิน...


เด็กน้อยเห็นหัวคิ้วของคนตัวโตที่ดูอ่อนเยาว์ขมวดมุ่น ก่อนเผยรอยยิ้มอบอุ่น "ไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลาเลย" นิ้วมือใหญ่โตแตะริมฝีปากอิ่ม ก่อนทาบทับริมฝีปากตัวเองลงไป


"ทีตอนนี้ทำเหมือนหนูเป็นเด็ก..."


"แล้วทีตอนไหนทำแบบเป็นผู้ใหญ่ ?" เสียงทุ้มหยอกล้อ พร้อมกับริมฝีปากร้อนที่แวะเวียนจุมพิตรอบลำคอขาว กระต่ายหน้าร้อนจัด พยายามผลักคนตัวโตออก


"ฮื้อ... ก็แบบ... ตอนที่.... ฮื้อ! ไม่เอาแล้ว!"


ชายหนุ่มตรงหน้าผงกศีรษะขึ้น ใบหน้าคมคร้ามพร้อมหนวดเคราที่เริ่มขึ้นช่างดูมีสเน่ห์ กระไอแห่งความเป็นชายชาตรีเข้มข้น กระต่ายน้อยก้มหน้างุดๆ หลบสายตาร้อนแรงจากดวงตาคู่คม


"อย่าเพิ่งเลยนะ... ต่ายน้อยยังเด็กอยู่.... ให้พี่ค่อยๆ ดูแลเราค่อยๆ เติบโตเถอะนะ" มือร้อนใหญ่โตลูบไล้ใบหน้าเล็กของเด็กน้อย รอยยิ้มยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเจ้าตัวเล็กเบือนหน้าหนี อวดแต่แก้มกลมๆ แดงปลั่งอย่างเด็กขี้อาย
"โถ... ไม่เอาครับ... อย่างอนพี่สิ..."


ริมฝีปากจิ้มลิ้มแบะคว่ำอย่างเอาแต่ใจเป็นคำตอบ ชายหนุ่มจึงถือโอกาสรวบตัวเจ้าเด็กน้อยเอาแต่ใจไว้ในอ้อมกอด เด็กคนนี้นี่... จะผอมไปไหนนะ แค่รวบมือข้างเดียวก็คว้าเอาเอวมาได้แล้ว


"เอาอย่างนี้... งั้นเราไปชอปปิ้งกัน ซื้อต้นคริสมาสต์เล็กๆ กับไฟสวยๆ มาประดับนะ"


เด็กก็คือเด็กวันยังค่ำ หน้างอง้ำค่อยมีรอยยิ้ม "เค้กด้วย!"


"ครับๆ เค้กก็เค้ก"






เสียงหวานของนักร้องสาวค่อยๆ ดังขึ้น...



Last Christmas... I gave you my heart...









ดวงตากลมเบิกโพลง ร่างน้อยลุกพรวดขึ้นมานั่ง


ฝัน....?


ผีดิบไม่ฝัน... ไม่ควรจะฝัน...







ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
คนในฝันเบื้องหน้า ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำดื่มเช็ดตัวให้เขาจนสะอาดเอี่ยม ร่างเล็กที่เปลือยเปล่าขาวโพลนนั้นสั่นน้อยๆ ด้วยความหนาว ทำให้เด็กน้อยหลุดปากออกไป


"หนาว..."


ชายตัวโตไม่เปลี่ยนจากในฝันเลย รอยยิ้มอบอุ่น ดวงตาที่ส่องประกายด้วยรัก... ดูราวกับว่าเขาคุ้นชินกับการปรนนิบัติ มือใหญ่หยิบจับเสื้อผ้าตัวใหม่คล่องแคล่ว ไม่นานนักร่างน้อยก็สวมชุดอุ่นสบาย


"วันนี้... สุดท้า..."


วันนี้เป็นวันที่สามที่เขาจะอยู่กับกระต่ายน้อยแล้ว พรุ่งนี้เขาต้องจากไป แม้ในอกจะรู้สึกวูบโหวงเพียงใด แต่ต้องไม่ลืมว่าคนคนนี้เป็นมนุษย์ เขาเป็นผีดิบ ไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้... ไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นดั่งในความฝัน...


มือหนาแตะริมฝีปากอิ่มแผ่วเบา ส่งเสียงร้องเบาๆ ให้เขาเงียบ ก่อนจะรวบตัวขึ้นอุ้มเดินไปทางหน้าต่างเครื่องบิน คลอเคลียทั้งริมฝีปากและเสียงอยู่ข้างใบหู
"วันนี้... เป็นวันสุดท้ายแล้วล่ะ..."


กระต่ายลืมตาโพลง ภายนอกเครื่องบินมีแต่โบนนีและพวกผีดิบอีกนับพันห้อมล้อม ดูท่าอีกไม่นานพวกมันจะขึ้นมาได้แล้ว เขาแปลกใจเหลือเกินที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินเสียงอาฆาตเหล่านี้


ชายหนุ่มยิ้ม รอยยิ้มนั้นไม่มีความเศร้าแม้แต่น้อย "พี่ดีใจเหลือเกิน... อีกไม่นานพี่จะได้อยู่กับต่ายน้อยแล้ว..."


แต่กระต่ายน้อยไม่ดีใจสักนิด หน้าอกสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัว มือน้อยจิกไหล่เขาแน่น กระซิบตอบ "แต่หนู... เริ่มเป็นคนแล้วนะ...."


คนตรงหน้าเพียงยิ้มละไมตอบ "พี่รู้..." เขาจุมพิตมือน้อยอย่างรักใคร่ "กระต่ายหลับสนิทเลยเมื่อคืน... ทั้งๆ ที่ซอมบี้ไม่เคยนอนหลับแท้ๆ แต่ไม่เป็นไร... กลิ่นอาจจะยังไม่ชัดเท่า..."


"หนูฝัน" กระต่ายน้อยขัด


ครานี้เสือยิ้มไม่ออก ดวงตาเบิกโพลง อ้อมกอดรัดแน่นเข้า ไม่มีคำตอบใดๆ จากคนตัวโต กระต่ายน้อยจึงโอบกอดรอบคอไว้ เอนกายอย่างมีความสุขแม้ความตายจะอยู่ตรงหน้า


"หนูฝัน... เราอยู่ด้วยกันวันคริสมาสต์... หิมะตก... เราเปิดเพลง Last Christmas..." เสียงหวานหยุดลงเมื่อก้มลงจูบใบหน้าคร้าม "หนูไม่กลัวความตาย... เพราะหนูตายมาแล้ว.... หนูกลัวเพียงแค่... วิญญาณของมนุษย์กับผีดิบจะไปกันคนละทาง"


ชายหนุ่มคราง


"ขอบคุณนะ... ที่ตามหาหนู... หนูรักพี่เสือ..." สิ้นเสียงหวาน ประตูเครื่องบินที่ทำจากเหล็กกล้าก็ยันไว้ไม่อยู่ เสียงอึกทึกนั้นดังมาถึงข้างใน พวกผีดิบใบหน้าซีดขาวเดินตรงมาหาทั้งสอง ดวงตามุ่งร้าย มีเพียงความตายที่ส่งเสียงชัดเจน

ชายหนุ่มวางเจ้าตัวน้อยลง โน้มกายลงจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่ม ไร้ซึ่งความหวาดกลัว "ต่อให้กระต่ายไปอยู่ที่ไหน พี่ก็จะหาให้เจอ..."


กระต่ายเขย่งตัว หลับตาพริ้ม จุมพิตหวานฉ่ำช่างชวนเคลิบเคลิ้ม ทั้งคู่ไม่สังเกตสักนิดว่าเสียงคำรามเหล่านั้นหยุดลง


เมื่อเสือถอนริมฝีปาก กลับพบว่ากองทัพผีดิบเบื้องหน้าหยุดชะงัก ชะโงกกายไปดูนอกหน้าต่าง พวกโบนนีกลับวิ่งเตลิดไปทางอื่น


ผีดิบเบื้องหน้าเป็นชายวัยกลางคน ศีรษะล้านเลี่ยน เสือไม่หยิบอาวุธ เพราะรู้ดีว่าเพียงปืนกระบอกเดียวไม่อาจคุ้มกันตนและคนรักได้ แต่ที่แปลกประหลาดนักคือพวกมันพยายามจะยิ้ม... ซึ่งทำได้เพียงยกมุมปากขึ้นแสยะ และยิ่งประหลาดนักที่มันส่งเสียงครางแผ่วๆ เป็นคำพูด


"หนี...ไป"


เสือไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาถูกฝึกมาอย่างทหาร เขาจึงไม่พลาดโอกาสนี้ ชายหนุ่มคว้าเจ้าตัวบางขึ้นอุ้มแล้วรีบวิ่งผ่านกองทัพผีดิบที่ยืนนิ่ง ไม่เข้ามารุมทึ้งพวกเขา


"พวกเขารู้สึก!" เสียงหวานกระซิบข้างหูอย่างตื่นเต้น "พี่เสือ... พวกเขากำลังจะเป็นคน!"


ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าเพียงความรัก ดวงตาที่สบกับหวานซึ้งนั้นจุดประกายบางสิ่งที่เล็กน้อยต่อผีดิบที่พบเห็น หัวใจที่หยุดทำงาน มีฝุ่นเกาะเกรอะกรังเริ่มเต้นช้าๆ แม้จะอ่อนแรงแต่ก็มั่นคง


ความหวังเริ่มเปล่งแสงริบหรี่


แม้จะน่ายินดี แต่พวกโบนนีที่เหลืออยู่วิ่งตรงเข้ามา ร่างกายผอมเกร็งสีดำเคลื่อนไหวอย่างน่าสยดสยอง พวกมันมุ่งทำร้ายผีดิบที่เริ่มมีชีวิต และพุ่งเป้ามาที่เสือและกระต่าย


ชายหนุ่มวางคนรักลง คว้าปืนขึ้นยิง พวกมันถอยไปเล็กน้อย ก่อนจะกระโจนเข้าหา เสือคำรามกรอด สายตาเหลือบแลไปยังกระต่ายน้อย ชายหนุ่มเตะโบนนีสุดแรงเกิดเมื่อเห็นภาพเด็กน้อยของเขาโดนผีดิบตัวหนึ่งอุ้มขึ้นเอว ชายหนุ่มหันหลังไม่สนใจโบนนีที่กระโดดเกาะ เขาจ่อปืนไปด้านหลัง ยิงส่งๆ ให้โบนนีหลุดออก แต่ภาพตรงหน้ายิ่งทำให้เขาฉงน


ผีดิบที่เป็นเคยเป็นคนสตรีผิวสีนั้นเอาหัวโหม่งโบนนีสุดแรง พยายามปกป้องกระต่ายน้อยอยู่ ทันใดนั้น เสียงรถก็วิ่งใกล้เข้ามา ผีดิบวัยกลางคนที่เขาเห็นบนเครื่องบินนั้นขับรถสปอร์ตสีแดงมาเทียบ ตะโกนเรียกทั้งสอง


"ขึ้นมา!"


เสือวิ่งสุดแรงเกิดไปหาผีดิบตนนั้น เขาคว้าร่างเล็กมาและตะโกนร้องบอก "ขอบคุณมาก!"


ผีดิบสตรีนั้นยิ้มตอบกลับ ชายหนุ่มจึงกระโจนขึ้นที่นั่งข้างคนขับของรถสปอร์ต






"ผม... ชื่อ... กะ... กิลเบิร์ต" ชายที่ขับรถให้เขาบอก เสียงแหบแม้จะยังฟังยาก แต่ก็สามารถสื่อสารได้


"ขอบคุณมากครับ มิสเตอร์กิลเบิร์ต" เสือผงกศีรษะตอบ


"มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ?" กระต่ายถามแผ่วๆ ซุกกายอยู่ในแผ่นอกกว้าง ใบหน้าเริ่มเป็นสีชมพูจากการโต้ลมหนาว


"พวก... พวก... เรา... รู้สึก... พวกโบนนี.... ไม่ชอบ" กิลเบิร์ตกำพวงมาลัยแน่น "ต้อง... สู้"


"พวกมนุษย์จะร่วมสู้แน่นอน" เสือบอก กระชับอ้อมแขนและกระบอกปืน "พวกคุณไม่ต้องกลัว"


"ดี... มาก... พวกเรา... กำลัง... เป็นมนุษย์...."


พวกเขามุ่งหน้าไปยังประตูของกำแพงมนุษย์ ขบวนรถของผีดิบเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับความหวังของมนุษยชาติ...


พวกโบนนีไม่อาจไล่ตามรถทัน พวกเขาจึงปลอดภัยสักระยะ












จวนค่ำ เสือจึงร้องบอกกิลเบิร์ตให้หยุดที่เมืองหนึ่งเพื่อเติมน้ำมัน เสือพากระต่ายไปบุกร้านมินิมาร์ที่ล็อกกุญแจไว้ เขาทุบกระจกแล้วหยิบน้ำดื่มและของกินออกมาหน้าตาเฉย ก่อนส่งให้กระต่ายและกิลเบิร์ต


ผีดิบไม่เคยหิว... แต่กระต่ายไม่แน่ใจนักว่าความรู้สึกแสบท้องนี่คืออะไร แล้วยังลำคอแห้งผากนี่อีก


ด้วยสัญชาติญาณ สองมือใหม่ในการเป็นมนุษย์กินถั่วกระป๋องจนเกลี้ยง พร้อมดื่มน้ำไปหลายขวด พวกเขารู้สึกดีขึ้นมาก ไม่นานนัก ความง่วงงุนก็เริ่มเข้าครอบงำ


"เราหยุดพักหน่อยดีกว่า" เสือบอก ถือวิสาสะเดินนำหน้าไปยังบ้านที่ล็อกกุญแจไว้ "นี่เป็นเมืองสุดท้ายที่สั่งอพยพ คงยังพอมีที่พักอยู่"


เมื่อขบวนของพวกเขาหยุดพัก ทั้งขบวนผีดิบก็หยุดพักด้วย พวกเขาเห็นเสือและพวกกินอาหาร จึงเริ่มค่อยๆ หยิบมากินบ้าง... ไม่นานนัก ด้วยการเลียนแบบ ผีดิบทั้งขบวนจึงเดินเข้าเดินออกหลายมินิมาร์ทเพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม น่าแปลกนัก ที่พวกผีดิบไม่ได้พังร้านค้าและบ้านเรือนเพื่อหาอาหารเหมือนที่เสือทำ พวกเขาค่อยๆ ปลดล็อกและขนของภายในออกมาแจกจ่ายอย่างเป็นระเบียบ


เสือจุดตะเกียง พากระต่ายขึ้นไปนอนชั้นบนของบ้าน กิลเบิร์ตรับอาสาเฝ้ายามให้


ในคืนที่สาม กระต่ายไม่ฝันอะไรทั้งนั้น เขาเพียงหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนภายในอ้อมแขนแสนอบอุ่น









เช้าถัดมา เสือแบ่งปันเสบียงที่เหลือให้ทั้งสอง กินเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงออกเดินทางต่อ กิลเบิร์ตเล่าให้เขาฟังระหว่างขับรถว่า


"เมื่อคืน... ผมนอน.... นิดหน่อย... แปลก.... การนอนเหมือน... การพัก... หยุด... สบาย..."


เสือหัวเราะ ตบไหล่เขา "คุณเป็นมนุษย์แล้ว เพื่อน"








ทั้งขบวนเดินทางจนเกือบเที่ยง เสือหยีตามองถนนตรงหน้าแล้วบอกกิลเบิร์ตให้หยุดรถ


"นั่น..." เขาร้องลั่น ชี้ไปยังกองคาราวานรถฮัมวี่ "พวกมนุษย์! พวกเค้าออกมาตามหาผม!"



ในวันที่โดนผีดิบโจมตีและพบกับกระต่ายครั้งแรกนั้น เสือปกป้องลูกโป่งไว้ได้ เขาเดาเอาว่าลูกโป่งคงจะหนีไปได้และขอร้องให้มารดา - มิสธีออกมาค้นหาเขา



เหล่ามนุษย์ที่เห็นขบวนรถก็ชะงัก พวกเขาเริ่มติดตั้งอาวุธ ทหารในชุดลายพรางหลายร้อยนายประทับปืนบนบ่าเตรียมพร้อม


"เสือ!" เสียงร้องนั้นเป็นของลูกโป่งตะโกนมา เด็กหนุ่มในชุดลายพรางปีนขึ้นรถฮัมวี่ เขาหยีตามองขบวนผีดิบอย่างตระหนกแล้วจึงปีนลงไปรายงาน


เสือเลือกที่จะเดินออกไป พร้อมกับเจ้าตัวนุ่ม ชายหนุ่มเห็นเหล่าทหารมองอย่างประหลาดใจ

"มิสธี! ผมเอง! เสือ!"


มิสธีในชุดเกราะกันกระสุนเต็มรูปแบบเดินออกมาเบื้องหน้า เธอมองมนุษย์ที่เป็นลูกน้องอย่างไม่ไว้วางใจ

"นั่น ?"


"พวกเขากลายเป็นคนแล้ว พวกผีดิบกลายเป็นคน!"


"เป็นไปไม่ได้!" มิสธีตอบ ดวงตาเหี้ยมโหด ด้วยความเร็วสูงสุด เธอชักปืนออกมา เสือตาไวทันเห็นและรู้ถึงความแม่นยำของหล่อนดี เขารีบผลักเจ้าตัวน้อยออกจากวิถีกระสุน


ปัง!


เสียงปืนดังลั่น คนตัวเล็กหายใจหอบ ความเจ็บปวดรวดร้าวจากไหล่แผ่ร้าวไปทั่วร่าง



ในหูกระต่ายอื้ออึง ภาพตรงหน้าลอยละล่อง ได้ยินเพียงเสียงเสือตะโกนลั่นๆ "เลือด! เขามีเลือด! หยุดยิง!"


และเสียงถัดๆ มา "พวกโบนนีโจมตี! ขอคำสั่งด้วยครับ!"


"มาดาม! ซอมบี้ช่วยเราสู้พวกโบนนี!"


"อัลฟ่าขอคำสั่ง! ซอมบี้ช่วยพวกเราไว้!"


"โบนนีโจมตี! โบนนีโจมตี! มาดาม!"








ร่างทั้งร่างถูกใครบางคนอุ้มขึ้น เสียงอึกทึกเหล่านั้นยังไม่หยุด


"ยิงแต่โบนนี พวกซอมบี้กลับมา!"


"โจมตีโบนนี!"


"ไอ้เสือ! นี่มันเลือด... ซอมบี้มีเลือด!"


"เขาเป็นมนุษย์!"


"ลูกโป่งพาซอมบี้เข้ากำแพงไป"


"แต่แม่!"


"มาดาม... ขอคำสั่ง"


"ไป!"












ร่างเล็กเตะเท้าอย่างหงอยๆ คนตรงหน้าพยายามเล่นกลให้ดูก็แล้ว อ่านหนังสือให้ฟังก็แล้ว แต่หน้าสะสวยที่บูดบึ้งนั้นไม่ดีขึ้นเลย


เด็กหนุ่มที่เป็นเพื่อนพี่เสือคนนี้ชื่อลูกโป่ง ได้รับภารกิจให้มาอยู่เป็นเพื่อนยอดรักยอดดวงใจของพี่เสือ แต่ไม่นานนักเขาก็เลิกพยายาม และกระโดดขึ้นเตียงนุ่ม นั่งขัดสมาธิเป็นเพื่อนกระต่ายน้อย

"ต่าย เดี๋ยวพี่เสือก็มาน่า"


กระต่ายน้อยเบือนหน้าอย่างแง่งอน "ฮึ! ทำไมต้องประชุมวันนี้ด้วยล่ะ! แล้วทำไมลูกโป่งไม่ไปประชุมด้วย!"


ลูกโป่งเกาศีรษะแกรกๆ "ก็เสือมันยศใหญ่กว่าโป่งนะ... โป่งเป็นแค่หมอทหารเอง อีกอย่างยังไงเรื่องวันนี้ก็สำคัญมากด้วย"


"ฮึ!" ร่างน้อยเชิดริมฝีปาก ก่อนล้มตัวลงนอน พึมพำ "ไม่เห็นเข้าใจเลย... พี่เสือบ้าที่สุด..."


หลังจากที่กลับเข้ากำแพงมาแล้ว พี่เสือก็ดูแลจนกระต่ายน้อยหายดี แต่หลังจากนั้นพี่เสือก็ยุ่งจนตัวเป็นเกลียว กระต่ายเพิ่งรู้ว่าคนรักมียศใหญ่โต ไม่ว่าไปที่ใด ทุกคนก็จะเรียกพี่เสือว่าผู้พัน แต่อย่างไรก็ดี มาดามธีก็ใหญ่ที่สุดอยู่ดี เธอควบคุมอำนาจทุกอย่างในกำแพง หลังจากสงครามกับพวกโบนนีแล้ว มาดามก็จัดอพยพให้เหล่าผีดิบที่เริ่มเป็นมนุษย์เข้ากำแพง บางคนพบเจอกับคนรัก เพื่อน ครอบครัว บางคนก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับมนุษย์ให้ได้ ซึ่งมนุษย์เองก็ยินดี เป็นมิตร และช่วยสอนสิ่งต่างๆ ให้


บางคนพบรัก...

บางคนพบความฝัน...

บางคนพบมิตรภาพ...




ความหวังของยุคใหม่เรืองรอง มีสิ่งต่างๆ ต้องให้จัดการมากมาย พี่เสือเลยยิ่งยุ่งหนัก กระต่ายก็เข้าใจดี แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้อยู่ดี




กระต่ายน้อยเผลอหลับไปเมื่อใดไม่ทราบ ไออุ่นจากเตาผิงอุ่นสบาย เขาตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนอบอุ่น แข็งแรง


เด็กน้อยงัวเงีย ขยี้ตาถาม "พี่เสือ... โป่งล่ะ ?"


"กลับไปแล้วครับ" ชายหนุ่มจุมพิตแก้มนุ่มตอบ วงแขนนั้นอุ้มร่างเล็กขึ้น ตรงไปยังหน้าต่าง "หิมะตกแล้ว"


"อื้อ" กระต่ายจ้องปุยหิมะขาวอย่างสนใจ... มันช่างดีกว่าในฝันเสียอีก เกล็ดเล็กสีขาวสะอาดใสทั้งบอบบางและงดงาม


"วันนี้ที่ประชุม... มิสธีพูดถึงเรื่องของขวัญคริสมาสต์ให้ทุกคน" กระต่ายเอียงคอฟังอย่างสนใจ เสือไม่ใคร่เล่าเรื่องงานให้คนรักฟังเท่าใดนัก จนผ่านมาถึงปลายปีแล้ว กระต่ายรู้เพียงแค่เสือยุ่งมากๆ กับการจัดการโลกใหม่ให้ทุกคน และรู้ว่า กระต่ายได้พบปะคนมากมาย เสือให้ลูกโป่งพากระต่ายออกไปข้างนอก ได้เจอกับมิสเตอร์กิลเบิร์ตที่แต่งงานกับมนุษย์ ได้เจอกับมิสซาช่า สตรีผิวสีที่ช่วยปกป้องกระต่ายไว้ เธอกลายเป็นคุณครูชั้นประถม และได้เจอกับลูกชาย กระต่ายไปเยี่ยมและได้รับเชิญทานอาหารอยู่เนืองๆ


"ไปกันเถอะ"


"ไปไหน ?" เจ้าตัวน้อยเอ่ยอย่างฉงน เมื่อคนรักประโคมเสื้อกันหนาว หมวก ผ้าพันคอให้ตนจนปุกปุย เสือเพียงยิ้มบางตอบ







เสือเดินจูงมือน้อยมาจึงสะพานที่สูงที่สุดในเมือง ผู้คนมากมายยืนเบียดเสียดราวกับรออะไรบางอย่าง บางคนถึงกับหอบของกินมาด้วย ราวกับจะปิคนิคท่ามกลางหิมะ


หลายคนที่รู้จักทั้งคู่ส่งเสียงทักอย่างยินดี เสือเพียงผงกศีรษะตอบ ไม่นานนัก เขาก็ฝ่าฝูงชนมาถึงจุดชมวิวที่เห็นทัศนียภาพชัดเจน


"จะเริ่มแล้วล่ะ ต่ายน้อยเห็นไหม ? เมื่อยไหม ?"


เจ้าตัวน้อยส่ายศีรษะตอบ ไม่นานนัก เสียงอื้ออึงก็ดังขึ้น "เริ่มแล้วๆ!"


เสือยิ้มกว้าง กระต่ายน้อยเบิกตากลม "อ๊ะ... กำแพง..."


กำแพงยักษ์ที่เคยปกป้องมนุษย์จากซอมบี้และโบนนีได้ค่อยๆ พังทลายลง หลายคนโห่ร้องอย่างยินดี การพังทลายนั้นค่อยเป็นค่อยไป เศษอิฐปูนกระจายฟุ้ง


"จบแล้ว... ยุคของซอมบี้และความหวาดกลัว" คนยืนข้างๆ พวกเขาตะโกน "ที่รัก! จบแล้ว!"


บรรยากาศรอบข้างมีแต่ความยินดี และการเฉลิมฉลอง พวกเขากระโดดกอดคนที่ไม่รู้จัก อวยพรให้คนแปลกหน้า ส่งยิ้มให้รอบข้าง กระต่ายเองยังโดนอุ้มไปหอมแก้มเลย


"จบแล้ว! ยุคใหม่มาแล้วเจ้าตัวเล็ก!" คนฟัดแก้มนวลจนแดงจัดเป็นสตรีท้องโต เธอมากับสามีที่ดูคล้ายซอมบี้


เจ้าตัวน้อยตะกุกตะกักตอบ "ยะ... ยินดีด้วยครับ"


"อ้าว... เด็กผู้ชายเหรอ..." เธอหัวเราะ









ผู้คนเริ่มบางเบาลงแล้ว หลายคนเริ่มกลับบ้าน หลายครอบครัวแจกจ่ายของกินเล่นบ้าง ไวน์อุ่นๆ บ้าง มีเพียงความรัก ความร่าเริงยินดีเต็มไปทั่ว แม้หิมะจะโปรยปราย แต่กลับอบอุ่นเหลือเกิน พวกเขาช่วยกันจุดกองไฟในถังเหล็กให้ความอบอุ่น บางคนแจกมาร์ชแมโลว์ เบคอน ใส้กรอก ขนมปังให้ปิ้งกิน เสือลุกไปรับไวน์อุ่นๆ มาสองแก้ว แล้วยื่นให้เจ้าตัวน้อย


"เอ๊ะ" กระต่ายอุทาน


"อยากกินไวน์ไม่ใช่เหรอเจ้าตัวเล็ก" เสือยิ้มทั้งปากและนัยน์ตา "ค่อยๆ จิบนะ เดี๋ยวเมา"


กระต่ายจิบไวน์ตามที่เสือบอก ความขมและหวานหอมไหลลงลำคอ นำมาความร้อนผ่าวและความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่ เสือหัวเราะเมื่อแก้มกลมแดงจัด อีกไม่นานคงเมาแน่แท้ นี่ขนาดเป็นไวน์อ่อนที่เด็กๆ ดื่มแท้ๆ


ชายหนุ่มโอบเอวคอดบาง จูบริมฝีปากอิ่ม กระซิบเสียงหวาน "พี่เสือรักต่ายน้อย..."


ริมฝีปากนุ่มขยับเชื่องช้า ดวงตาปรือปรอยแวววาว "หนูก็รักพี่เสือ..."


ราวกับมีแรงดึงดูด ริมฝีปากทั้งคู่เข้าประกบหากันอีกครั้ง เกี่ยวพันหาความหวานนุ่มละไมและไออุ่นจากอีกฝ่าย...






ฟ้าเริ่มมืด ไฟประดับจึงส่องแสงสว่าง วงดนตรีที่มาร่วมเฉลิมฉลองเริ่มบรรเลงดนตรีรับคริสมาสต์แสนอบอุ่น


Last... Christmas...
I gave you my heart...
But the very next day, you gave it away




พวกเขาไม่รู้เลยว่า... ในปีต่อๆ มา... การมารวมตัวกันตรงสะพานแห่งนี้ พร้อมขนมของแจก กองไฟ ไวน์อุ่นๆ และวงดนตรีจะกลายเป็นธรรมเนียมของเมือง... และผู้คนจะมาร่วมกันเฉลิมฉลอง แจกรอยยิ้ม คำอวยพร ความรักให้คนที่ไม่รู้จัก แบ่งปันอาหาร ของหวานให้คนแปลกหน้า...







...สุขสันต์วันคริสมาสต์!

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
จิ้ม จึกๆก่อน แล้วค่อยอ่าน

สุขสันต์วันคริสมาสต์ครับคนแต่ง  :L2:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
บวกเป็ดต๊ะไว้ก่อนนะค้า ยังไมไ่ด้อ่าน

><

มวฟฟฟฟฟคุณ aimer ค้า :L2:

ออฟไลน์ Tun_Bow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
เมอร์รี่คริสต์มาสครับ เป็นตอนพิเศษที่น่ารักมว๊ากเลย คิดถึงน้องต่ายกะพี่เสือที่สุดอ่าาา

ออฟไลน์ corn_rain

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
happy Chris&NY
ในหนังเค้ายังกินสมองนะ แหม่ต่ายน้อยแม้จะเปนซอมบี้
ก้อยังไม่ยอมกินเลยแหะ

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
ถ้าต่ายน้อยเป็นซอมบี้คงเป็นซอมบี้ที่น่าเอ็นดูที่สุด :m13:

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
อารมณ์ Warm bodies น่ารักกรุบกริบอีกแบบนะ โดยเฉพาะฉากอัศจรรย์ กริบกริ้วมาก ฮ๋าๆๆ  :mew3: :hao3:

ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด